ตอนที่2.
ระหว่างนี้ก็ยังมีคนมารุมดูเบอร์สวยๆกันประปราย และสามารถขายซิมเบอร์สวยของค่ายเบอร์หนึ่งไปได้อีกจำนวนหนึ่ง พอดีกับที่ลูกค้ารายใหญ่เขตนวนครโทรเข้ามา ผมจึงตัดสินใจที่จะปล่อยซิมค่ายเบอร์สามให้ไปโดยไม่ลืมที่จะเอาเบอร์สวยที่คัดแล้วออก และเติมบางส่วนที่ขาดให้ครบ ซึ่งผมขายให้พี่เขาไปในราคาซิมละ20บาท เท่ากับที่ผมขายที่นี่ แต่เนื่องจากพอจะรู้มาว่าแถวๆนวนครขายกันราคา39บาท ถ้าเบอร์สวยหน่อยก็99บาท ยังไงพี่เขาก็ได้กำไรอยู่ดี
อยู่รอจนกระทั่งพี่เขามารับเอาซิมไปแล้วผมกะว่าจะเลิกการขาย แต่บังเอิญติดลูกค้าชายหญิงอีกสองสามคน ที่ยังคงถามวนเวียนเกี่ยวกับโปรโมชั่น หนึ่งในนั้นก็ถามแบบกวนตีนเสียเหลือเกิน เลยบอกไปว่า
“คุณพี่ลองขึ้นไปเลือกดูบนห้างเลยครับ ที่ศูนย์นะครับ แต่ผมยืนยันว่าที่ศูนย์เขาไม่มีโปรนี้ให้นะครับ”
เบื่อไอ้พวกที่กลัวจนหัวหด ซิมราคาไม่กี่บาท ทดลองก็ทดลองให้ดูแล้ว เช็คให้ดูแล้ว อย่างนี้ไม่เรียกว่ามากวนตีนแล้วจะเรียกว่าอะไร จนพี่คนนั้นจากไป พี่อีกสองสามคนที่เลือกซิมอยู่ก็ถอนหายใจ มีบางคนถึงกับพูดว่า ไปซะที แต่ผมก็ทำได้เพียงยิ้มๆ
สักพัก มีผู้ชายวัยกลางคนเข้ามาสองคน คนตัวล่ำดูท่าทางกระดี๊กระด๊าอย่างเห็นได้ชัด อีกคนตำเล็กกว่า แต่ผิวเข้มดำทั้งคู่ เข้ามาดูมาส่องซิม ผมเห็นว่าใกล้เวลาเลิกขายแล้วขี้เกียจอธิบายยาว เลยอธิบายทีเดียวพร้อมกันไปเลยทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ดูท่าทางพี่คนตัวล่ำนั่นแสดงออกถึงการสนใจในตัวผมเสียเหลือเกิน แค่ดูกิริยาท่าทางผมก็รู้แล้วล่ะ ว่าพี่สองคนนี้ ต้องเป็นคู่เกย์กันแน่นอน คนตัวเล็กกว่ามีท่าทางเหนื่อยหน่ายรำคาญอยู่ในที แต่ก็สงบเสงี่ยม
สุดท้ายก็ซื้อซิมไปหนึ่งเบอร์ ตอง9ไปหนึ่งซิม มีการถามชื่อผมด้วย ก็แค่ชื่อจะเป็นไรไป
อย่าเลยพี่.. ก้อง – เก่งว่างเว้นไปสองสัปดาห์ ที่ผมไม่ได้ไปว่ายน้ำบนห้าง วันนี้จึงได้โอกาสไปออกกำลังกายบ้าง แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม มีแต่เด็กๆและคนแก่ๆลงพุง รุ่นราวคราวเดียวกันก็มีแต่พวกแตกแสว มองเราทีแทบจะอยากจะเข้ามากินเราเลย ผมไม่ชอบแบบนี้ ผมชอบแบบแมนๆ วันนี้รู้สึกเซ็งๆ จึงเลิกเร็วกว่าปกติ
วันนี้เป็นอีกวันที่ผมเดินกลับโดยเลาะตามทางเดินฝั่งเดอะมอลล์ไปทางห้างพันทิพ เป็นเวลาบ่ายสี่โมงกว่าๆ เมื่อถึงหน้าร้านเสนาเทรดดิ้ง ผมแปลกใจระคนกับความดีใจ รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีที่เห็นน้องคนขายซิมคนเดิมกำลังอธิบายลูกค้าอยู่ แปลกจัง มาขายวันอาทิตย์ด้วยเหรอเนี่ย
“หวัดดี นี่เรามาขายวันอาทิตย์ด้วยเหรอ” ผมทักทายเขา แต่เขาทำหน้างงๆนิดหน่อย
“พี่ที่ซื้อซิมเราไปเมื่อคราวก่อนไง ตอง9ไง” น้องเขาร้องอ๋อและพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ ผมยืนดูเขาอธิบายไปเรื่อยๆ ไอ้การขายซิมนี่มันจะได้กำไรจากตรงไหนบ้างวะเนี่ย กว่าจะขายได้สักซิมสองซิม ต้องอธิบายเยอะยาวเหยียด อดที่จะสงสารเขาไม่ได้ เหนื่อยแย่เลย ผมนึกอะไรได้สักอย่างจึงเดินย้อนกลับไปที่ร้านเซเว่น ซื้อน้ำดื่นเย็นมาให้เขา พอดีกับที่ลูกค่าไม่มี
“อ่ะ พี่ให้”
“ขอบคุณครับพี่”
“เรามาขายวันอาทิตย์ด้วยเหรอ” ผมถาม จำได้ว่าปกติมาขายแค่วันเสาร์ หรือผมจำผิดหว่า
“วันนี้อยู่ว่างๆก็เลยมาครับ แต่เดี๋ยวก็ต้องเลิกครับ เพราะเจ้าของที่จะมาประมาณห้าโมง” น้องอธิบาย
“อ้าวเรามาเช่าเขาเหรอ”
“เปล่าครับ ผมไม่เสียค่าเช่า พี่ที่เขาอยู่ก่อนก็ไม่เสียค่าเช่าครับ”
“อ้อ อย่างนั้นเหรอ แล้ววันนี้เป็นไงบ้าง ขายดีไหม”
“ก็ พอได้ครับ แต่ไม่มาก”
“หมายความว่าวันเสาร์ขายดีกว่าสินะ” ผมถาม และน้องก็พยักหน้า พลางเก็บกล่องซิม ผมพยายามชวนคุย เขาตัวเตี้ยกว่าผม น่าจะประมาณ167 หรือไม่เกิน170อ่ะ ผิวขาวจริง ผมช่วยเขาเก็บกล่อง พับและปิดกล่องให้
“ขอบคุณครับ”
“เออ น้อง...อะไรนะ นึกไม่ออก” ผมนึกไม่ออกจริงๆ แต่ไหนๆก็เจอแล้ว ไม่อยากปล่อยให้เสียโอกาส
“เก่งครับ ชื่อ เก่งครับ” เขาตอบพลางเก็บกล่องซิมลงกระเป๋าเป้
“อ้อ แล้วนี่ไปไหนต่อเหรอ กลับบ้านหรือว่า”
“กลับบ้านครับ แล้ว เอ่อ.. เพื่อนพี่คนนั้นไม่มาด้วยหรือครับ” เขาหยุดชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะพูดต่อ
“ วันนี้มาคนเดียวครับ พี่ปออยู่ที่พันทิพ แล้วนี่เราพักแถวไหน”
“หลังพันทิพนั่นแหละครับ”
“หือ จริงเหรอครับ งั้นเดินไปพร้อมกัน พี่ก็อยู่หลังพันทิพ” ดีใจที่เขาอยู่ใกล้ๆกัน อย่างนี้ก็พอมีเวลาได้หาทางมาเจอบ่อยๆได้
“อ้าว ผมก็อยู่ซอย9นี่เอง พี่อยู่หออะไรครับ” ไม่ใช่แค่เขานะครับที่ตกใจ ผมเองก็ช็อคไปเหมือนกัน อยู่ซอย9เองเหรอ ไม่เคยเห็น
“บังเอิญจัง ที่ได้มารู้จักคนน่ารักแถมอยู่ใกล้กันอีก”
“หา พี่ว่าอะไรนะครับ”
“เอ้อ ปะ เปล่า”
“อ้อ แล้วพี่ชื่ออะไรครับ ลืมถามเลย”
“พี่ชื่อก้องครับ”
“เหรอครับ ร้องเพลงให้ฟังได้ไหมครับ” จบประโยคของน้องเขาผมชะงักไปเล็กน้อยแต่สมองก็ไวพอ โห รู้จักตบมุกเป็นด้วยนะเนี่ย ทำเอาผมหัวเราะออกมาได้
“ตลกนะเรา ไม่ใช่ ก้อง สหรัฐ โว้ย” ผมพูดแก้เขิน หันหน้าไปทางอื่นกลัวเขาเห็นว่าอมยิ้มและหน้าแดงอยู่
“ฮ่าๆ ล้อเล่นครับ”
ผมเดินกับน้องมาจนถึงก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาว จึงชวนน้องเข้าไป โซ้ยสักชามสองชาม ตอนแรกน้องมันก็ปฏิเสธ แต่จนแล้วจนรอด ผมก็สามารถชวนน้องเข้าไปในร้านได้
“เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
“จะดีหรือพี่ วัยทำงานเหมือนกันมีรายได้เหมือนกัน” เขาพูดมาแบบนี้ทำผมชะงักเล็กน้อย แต่ก็ยืนยันที่จะเลี้ยงเอง
“ไม่เป็นไร คราวหน้าค่อยหารกัน”
“หืม...” เหมือนน้องเขาจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ไม่พูดอะไร
..
“เอ่อ เก่งจะว่าอะไรไหม ถ้าพี่จะขอเบอร์เราไว้”
“เอ่อ...”
“เออ ใช่ๆ เผื่อเพื่อนๆพี่เขาอยากได้เบอร์สวยอะไรแบบนี้จะได้ช่วยขายด้วยไง” มุขแบบนี้เขาคงจะเชื่อหรอกนะ เขาไม่ใช่เด็กนี่นา
“ คือว่า พี่ขายแอร์การ์ดด้วยนะ ที่ตลาดคลองถม ถ้ามีซิมหรือมีโปรอะไรดีๆเผื่อแนะนำลูกค้าได้” ผมอธิบายเพิ่มเติมให้ดูมีน้ำหนักมากกว่าที่จะเนียนขอเบอร์
“อืม ได้ครับ 081-xxx-xyyx” โอ้ เบอร์สวยสมกับเป็นพ่อค้าขายซิม
“ดีมากเลย อืม งั้น ตอนนี้ พี่ขอใบโบรชัวร์ที่น้องทำเองด้วยสักใบสองใบได้ไหม จะถ่ายไปให้เพื่อนดู”
ผมบอกเขา อย่างน้อยเขาจะได้เชื่อใจว่าเราอยากช่วยเขาขายซิมจริงๆ แต่ลึกๆคืออยากจีบเขานั่นแหละครับ
เก่งหยิบใบโบรชัวร์ที่เขาพิมพ์ขึ้นนมาเองส่งให้ผมสามใบ
“เดี๋ยวพี่ช่วยขายนะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
เห็นน้องเดินเข้าไปในห้างพันทิพ สงสัยเอาซิมไปส่งขายแถวนั้นด้วยแน่ๆ กะว่าคืนนี้จะลองโทรไปคุยด้วยหน่อย
..
สองทุ่ม..
ผมลองโทรไปหาเก่ง เขาก็รับนะตั้งแต่สายแรกเลย
“สวัสดีครับ” เสียงเขาพูดมาตามสาย เสียงหล่อกว่าตอนคุยกันปกติเสียอีก
“หวัดดี พี่เอง ก้อง”
“อ้อ ดีครับพี่ ว่าไงครับ” เขาตองมาสั้นๆถามสั้นๆ ผมควรจะคุยอะไรกับเขาดี
“จะนอนยังล่ะเรา”
“ยังครับ กำลังนั่งคัดเบอร์สวยซิม(ค่ายเบอร์หนึ่ง)ครับ”
“ขายดิบขายดีเนาะ”
“พอได้ครับพี่”
“แล้วทำไมถึงมานั่งขายซิมล่ะ ปกติทำงานที่ไหนหรือเปล่า” ผมพยายามหาเรื่องชวนคุย
“จันทร์ถึงศุกร์ทำงานครับ ที่นวนคร เสาร์ก็ขายของ บางทีก็อาทิตย์ด้วย”
“อ่อ แล้วขายซิมนี่ มันจะได้กำไรเหรอ รับมากี่บาท” ถามออกไปแล้วเพิ่งนึกได้ว่าเป็นการเสียมารยาทที่ไปถามราคาซื้อของเขา
“เอ้อ โทษที พี่ไม่ควรถามแบบนั้น” ขอโทษจากใจจริงๆนะ
“ไม่มากหรอกครับ ก็พอได้คุ้มกับการเสียเวลานั่งขายครับ”
“อืม เวลาว่างทำอะไรล่ะ” ผมพยายามหาทางออกเรื่องซิม
“ก็อยู่ห้องครับ อ่านหนังสือ แต่งกลอน”
“แต่งกลอนด้วยเหรอ ดีจัง ขอสักท่อนสิ”
“โหพี่ มันไม่ได้มาง่ายๆนะครับ มันต้องบิ้วท์อารมณ์”
“อารมณ์เดี๋ยวพี่บิ้วท์ให้” ผ่าง..พูดอะไรออกไป
“เอ่อ หมายถึง เอาแบบเศร้าสุดๆ หรือ ฮาสุดๆดี อะไรแบบนี้” ผมรีบแก้ไขประโยคของตัวเองกันความเข้าใจผิดของเก่ง
“อืม ก็แล้วแต่อารมณ์ในแต่ละช่วงครับ”
“แล้วชอบดูหนังไหม”
“ก็ชอบนะครับ สัปดาห์ไหนที่มีหนังที่ชอบเข้าหลายเรื่อง ผมดูแม่งทุกเรื่องเลย เลือกเวลาเหลื่อมๆกัน ดูทีเดียวสามเรื่องก็มีครับ” ท่าทางน้องจะคุยเก่งสมชื่อ สมกับเป็นคนขายของ
“แล้วเอ่อ หล่อๆน่ารักแบบนี้ มีแฟนยังเนี่ย” ผมอดใจไม่ได้ที่จะถามออกไป อายุก็ปูนนี้แล้ว ถือเสียว่า ด้านได้อายอด
“เอ่อ มีแล้วครับ แหะๆ” ซะงั้น นี่ตอบเพราะประชดหรือเปล่าเนี่ย
“จริงเหรอครับ ขอโทษนะถ้าพี่จะถามตรงๆ”
“ได้ครับ ผมตรงๆ ไม่ซีเรียส” อย่างนี้ก็สบายไม่ต้องอ้อมค้อม
“หล่อๆแบบนี้ แฟนคงสวยๆน่ารักแน่เลย อิจฉาจัง” ผมแกล้งพูดออกไปเพื่อหยั่งเชิง
“เอ่อ พี่ครับ แฟนผมเป็นผู้ชายครับ” โอ้ นั่นไง ตรงดีแท้ ก็กะอยู่แล้ว ผมมองใครไม่ค่อยพลาด
“อ่า ขอโทษนะที่เสียมารยาทถาม”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็เดาว่าพี่กับพี่คนนั้นเป็นแฟนกัน”
“ฮ่าๆๆ เก่งสมชื่อนะเรา” อืม...ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถามให้หมดเลยดีกว่า
“แล้วคิดว่าใครเป็นแบบไหนยังไงล่ะ พี่เองก็อยากรู้ว่าคนที่ดูออกเขาจะคิดยังไงกันบ้าง” ผมแกล้งหยั่งเชิงดูเพื่อจะได้เข้าสู่เป้าหมายว่าน้องเขาเป็นแบบไหน
“จะดีหรือครับพี่ ผมเป็นน้องนะครับ มันจะเสียมารยาทไปไหมครับ” เขาพูดประชดผมหรือเปล่าเนี่ย แต่ไม่เป็นไร ผมคิด
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ถือ” ผมพูดกลั้วเสียงเหัวเราะ
“อืม ผมเดาว่า พี่คนตัวเล็กเป็นรุก”
“จริงดิ”
“ผมเดาผิดเหรอครับ”
“ก็ไม่ผิดหรอก แต่พี่ก็เป็นได้ทั้งสองแบบน่ะ”
“คือยังไงหรือครับ” น้องเขาถามแบบนี้หมายความว่าไง ไม่รู้เหรอ จริงอ่ะ
“ก็เปลี่ยนกันทำไง”
“มีแบบนี้ด้วยหรือครับ ทำไมไม่หาแฟนแบบที่เป็นตรงข้ามกับเราไปเลยล่ะครับ”
“แล้วเก่งล่ะ” ผมถามเข้าประเด็นทันที
“แฟนผมรับให้ผมครับ” อืม ผมเดาผิด แต่ก็ไม่อยากเชื่อ ผิวขาว หล่อน่ารักท่าทางเฟรนด์ลี่พูดเก่งแบบนี้จะเป็นรุก
“ไม่เคยรับเลยเหรอ” ผมย้ำเพื่อความแน่ใจ เปล่าหรอก ถามเผื่อตัวเองจะมีโอกาส
“ไม่ครับ คนละสไตล์” น้องตอบหนักแน่นมาก
“อืม พอดีว่าพี่เห็นน้องน่ารักดี เลยอยากจะจีบ” ผมพูดจบก็หัวเราะ
“อย่าเลย” น้องตอบทันควันเลยทีเดียว
“พี่เอ่อ แฟนผมมาพอดี แค่นี้ก่อนนะครับ”
“อ่อ ครับ ได้ครับ” ผมยังพูดๆไม่ทันจบประโยคดี น้องเขาวางสายไปก่อน
ผมมานั่งคิดทบทวนว่าเราทำอะไรพลาดไปหรือไม่ คนเพิ่งคุยกันครั้งแรกอาจจะดูรุกหนักมากเกินไป แต่ผมไม่แคร์นะ ได้ก็ดีไม่ได้ก็เฉยๆ บอกแล้วไง ผม แบบ ด้านได้อายอด
เก่ง..
ผมนั่งคัดเบอร์เรียงเลขที่เข้าคู่กัน อยู่ๆก็มีสายเข้า ไม่มีชื่อด้วย สงสัยว่าตัวเองเอาเบอร์ไปให้ลูกค้าคนไหนหรือเปล่า รีบรับไว้ก่อนเดี๋ยวเป็นลูกค้แล้วจะเสียลูกค้าไป
สวัสดีครับ”
“หวัดดี พี่เอง ก้อง”
“อ้อ ดีครับพี่ ว่าไงครับ” ผมแปลกใจนะ ที่พี่เขาโทรมาหาดึกๆดื่นๆ คงไม่มีอะไร ก็แค่คนมาหลงสเหน์เราแหละมั๊ง
“นอนยังล่ะเรา”
“ยังครับ กำลังนั่งคัดเบอร์สวยซิม(ค่ายเบอร์หนึ่ง)ครับ” ผมบอกไปตามตรง
“ขายดิบขายดีเนาะ”
“พอได้ครับพี่” ตอบพลางจัดเลขที่เรียงท้ายเอาไว้เป็นเบอร์คู่รัก
“แล้วทำไมถึงมานั่งขายซิมล่ะ ปกติทำงานที่ไหนหรือเปล่า”
“จันทร์ถึงศุกร์ทำงานครับ ที่นวนคร เสาร์ก็ขายของ บางทีก็อาทิตย์ด้วย”
“อ่อ แล้วขายซิมนี่ มันจะได้กำไรเหรอ รับมากี่บาท” เอ่อ..ทำไมพี่เขาถามแบบนี้วะเนี่ย..
“เอ้อ โทษที พี่ไม่ควรถามแบบนั้น” ... อ้อ รู้ตัวด้วยแฮะ..
“ไม่มากหรอกครับ ก็พอได้คุ้มกับการเสียเวลานั่งขายครับ”
“อืม เวลาว่างทำอะไรล่ะ”
“ก็อยู่ห้องครับ อ่านหนังสือ แต่งกลอน” ..ตอบแบบขอไปที..
“แต่งกลอนด้วยเหรอ ดีจัง ขอสักท่อนสิ”
“โหพี่ มันไม่ได้มาง่ายๆนะครับ มันต้องบิ้วท์อารมณ์”
“อารมณ์เดี๋ยวพี่บิ้วท์ให้” ..หืม..
“เอ่อ หมายถึง เอาแบบเศร้าสุดๆ หรือ ฮาสุดๆดีล่ะ” คงรู้ตัวว่าพูดอะไรสองแง่สามง่ามออกมา แต่ยังดีที่แก้ตัวได้ทัน ถ้าเป็นคนปกติถามผมจะไม่คิดอะไรมากมาย แต่นี่ คนมันเป็นเกย์ไง ถามแบบนี้ เอาตีนมาเหยียบหน้าได้เลยถ้าไม่ใช่ถามเพราะมีอะไรแอบแฝง
“อืม ก็แล้วแต่อารมณ์ในแต่ละช่วงครับ”
“แล้วชอบดูหนังไหม” จะชวนดูหนังสินะ
“ก็ชอบนะครับ สัปดาห์ไหนที่มีหนังที่ชอบเข้าหลายเรื่อง ผมดูแม่งหมดเลย เลือกเวลาเหลื่อมๆกัน ดูทีเดียวสามเรื่องก็มีครับ”
“แล้วเอ่อ หล่อๆน่ารักแบบนี้ มีแฟนยังเนี่ย” ..หึๆ.. นี่สินะ วัตถุประสงค์ที่แท้จริง
“เอ่อ มีแล้วครับ แหะๆ” พูดออกแนวติดตลกไม่ให้ฟังดูใจร้ายใจดำจนเกินไป
“จริงเหรอครับ ขอโทษนะถ้าพี่จะถามตรงๆ” ...สมควรครับ..ผมคิด
“ได้ครับ ผมตรงๆ ไม่ซีเรียส”
“หล่อๆแบบนี้ แฟนคงสวยๆน่ารักแน่เลย อิจฉาจัง” ..หยอดผมสินะ มาไม้แบบนี้ผมรู้ครับพี่
“เอ่อ พี่ครับ แฟนผมเป็นผู้ชายครับ” เอาให้อึ้งไปเลยเป็นไง
“อ่า ขอโทษนะที่เสียมารยาทถาม”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็เดาว่าพี่กับพี่คนนั้นเป็นแฟนกัน” ..เอาคืนบ้าง..
“ฮ่าๆๆ เก่งสมชื่อนะเรา” ..ตกลงว่าใช่สินะ..
“แล้วคิดว่าใครเป็นแบบไหนยังไงล่ะ พี่เองก็อยากรู้ว่าคนที่ดูออกเขาจะคิดยังไงกันบ้าง” ..อืม แค่รู้จักผมวันเดียวพี่กล้าขนาดนี้เลยหรือ
“จะดีหรือครับพี่ ผมเป็นน้องนะครับ มันจะเสียมารยาทไปไหมครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ถือ” .. ไม่ถือหรือว่าหน้าด้านกันแน่ครับพี่..
“อืม ผมเดาว่า พี่คนตัวเล็กเป็นรุก” ผมคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะดูท่าทางพี่ก้องนี่ กระดี๊กระด๊าจนออกนอกหน้า
“จริงดิ” ..ผมมั่นใจนะ..
“ผมเดาผิดเหรอครับ” ผมแกล้งถามย้อน
“ก็ไม่ผิดหรอก แต่ก็เป็นได้ทั้งสองแบบน่ะ”
“คือยังไงหรือครับ” ไม่รู้จริงๆ ผมเข้าใจว่ามีแค่คนที่เป็นรุกก็รุกอย่างเดียวเลย แบบผม
“ก็เปลี่ยนกันทำไง”
“มีแบบนี้ด้วยหรือครับ ทำไมไม่หาแฟนแบบที่เป็นตรงข้ามกับเราไปเลยล่ะครับ”
“แล้วเก่งล่ะ” ...กะแล้วว่าต้องถามแบบนี้
“แฟนผมรับให้ผมครับ” ..โอเคนะ ชัดนะถ้าคิดจะมาจีบเพราะอยากได้อยากเอาผมล่ะก็ มึงผิดละครับพี่ก้อง...
“ไม่เคยรับเลยเหรอ”
“ไม่ครับ คนละสไตล์” ...ผมว่าผมพูดชัดเจนแล้วนะ..
“อืม พอดีว่าพี่เห็นน้องน่ารักดี เลยอยากจะจีบ”
“อย่าเลยพี่” ผมรีบตอบแทบจะที
“เอ่อ พี่ แฟนผมมาพอดี แค่นี้ก่อนนะครับ แหะๆ” ผมไม่รอฟังคำตอบ รีบตัดสายทันที
อะไรของมึงวะพี่ก้อง เพิ่งรู้จักผมเพียงวันเดียวเองนะ กล้าขนาดนี้เลยเชียว ไม่มีมารยาท มาถามความลับทางธุรกิจของเราได้ไง
ตัวเองก็เป็นคนขายของ จะยอมบอกราคาซื้อคนอื่นเหรอ อายุไม่ใช่น้อยๆ ทำไมคิดไม่ได้ จริงๆผมยังไม่มีแฟนหรอกนะ แต่รำคาญ เลยพูดตัดบทไปอย่างนั้น สเป็คผมน่ะ ผมชอบคนตัวเล็กกว่า ไม่ชอบคนล่ำกว่า อย่างพี่ถ้าจะมาจีบผม ต้องเป็นเมียผมเท่านั้นนะ แต่นิสัยแบบนี้ คงต้องคุยแบบพ่อค้าลูกค้าก็พอ ถ้ามาเกินกว่านี้ผมก็จะไม่เกรงใจพี่เช่นกัน .. ผมคิด..
พี่อีกคนคบกับคนแบบนี้ได้ไง ผมก็ยัง งง ว่า เป็นรุกด้วยกันเองแล้วจะไปมีความสุขได้ไงวะนั่น ผมนึกไปถึงเพื่อนผม ไอ้เอกก็เป็นรุก แฟนมันก็น่าจะเป็นรับ แต่ผมก็ไม่เคยไปถามเซ้าซี้พวกมันหรอก ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัว ผมเองก็ไม่ชอบคนที่มากะลิ้มกะเหลี่ยกับผมอยู่แล้ว มาดีก็ดีตอบ มาแนวนี้ ผมก็ไม่เล่นด้วย
.
.
ชอบเหรอ ลองใส่ดูไหม พี่มีพื้นที่ให้ลอง..
มาถึงคลองถมตั้งแต่บ่ายสี่ กว่าจะได้ตั้งร้านก็ปาไปจะห้าโมงครึ่ง พ่อค้าแม่ค้าเยอะแยะเต็มไปหมด เสียงตั้งร้านกันดังแข่งกับเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของแต่ละเจ้า ด่าลูกน้องบ้างสาระพัด
“ก้อง เอาเสื้อกล้ามไว้ฝั่งขวาดีกว่ามั๊ง ดูดิ เดี๋ยวร้านนี้ตั้งสูงขึ้นมาจะบังหมดนะ” ผมบอกไอ้ก้อง เพราะสังเกตจากโครงร้านแล้วน่าจะสูงแน่ๆ เจ้าของมาตั้งเอาไว้แล้วไปไหนไม่รู้
“เอางั้นเหรอ กะว่าจะเอา กางเกงในห้อยฝั่งนี้นะ”
“เอาไว้ฝั่งนี้ดีกว่า กางเกงในแฟชั่น ห้อยใกล้ฝั่งนั้น ของเราดูหมองหมด” ผมอธิบาย
“ได้ๆ เอาตามนี้นะ”
ส่วนผมก็เอากางเกงทรงรัดรูป จีสตริง ห้อยไว้ที่ฝาตะแกรงด้านใน เมื่อโดนแสงไฟแล้วดูโดดเด่น
“ก้อง อุปกรณ์แอร์การ์ดวางข้างซ้ายก็ได้นะ แล้วแต่สะดวกเลย” ผมบอก ไอ้ก้องก็จัดแจงวางอุปกรณ์แอร์การ์ดของมันต่อ
.
.
พอมืดมาตึกรามที่พอจะมองเห็นอยู่บ้างกลับมืดไปถนัดตาเห็นแต่แสงสีและร้านรวงเรียงรายเต็มไปหมด ลูกค้าเริ่มเข้ามาซื้อของกันมากขึ้น เดินจนแทบจะตะแคงเดินกันเลยทีเดียว ลูกค้าเข้ามาที่ร้านผมประปราย หน้าตาหล่อเหลาก็มี ส่วนมากก็เดินจับมือมากับแฟนสาว อิจฉาแฟนสาว คู่เกย์ก็มีเข้ามาประปราย ฝั่งไอ้ก้องเองก็มีลูกค้าที่สนใจแอร์การ์ดอยู่ไม่น้อย
“พี่ครับ เสื้อแบบนี้พี่ขายเท่าไหร่ครับ” น้องคนหนึ่งผิวเข้มมาก หน้าตารูปเหลี่ยม ดูดียิ้มมีสเน่ห์ เข้ามาหยิบๆเลือกดูเสื้อกล้ามสกรีนลาย Tokyo NY
“น้องเอาไซส์ไหนครับ มีหลายไซส์ หลายราคา” ผมถามและอธิบายด้วยรอยยิ้ม
“ผมเอาไซส์แอลครับ”
“สักครู่นะครับ เดี๋ยวพี่ดูให้” ผมขยับเดินเข้าไปด้านในเลือกไซส์ที่น้องต้องการส่งให้
“ผมเอาตัวนี้ครับ เท่าไหร่ครับ”
“199 พี่คิดน้องไป 170ละกันครับ”
“150ได้ไหมครับพี่” น้องทำหน้าอ้อนวอน น่ารักไปอีก
“งั้น เอางี้ น้องต้องลองใส่ให้พี่ดูก่อน ถ้าใส่พอดี พี่จะลดให้” ผมพูดไปตามประโยคที่พูดกันทุกครั้งจนเคยชิน น้องเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“ได้ครับ ลองตรงนี้เลยหรือครับ”
“เข้ามาด้านในร้านได้เลยครับ ถอดแค่เสื้อคงไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ” ผมลุ้น
“ได้ครับ” เยส น้องเดินเข้ามาด้านในร้านวางของไว้ตรงสต็อคสินค้า ผมยื่นเสื้อกล้ามให้
“พี่ช่วยดึงเสื้อกล้ามตัวในให้ผมด้วยได้ไหมครับ” อ้าวไหงงั้น เราต้องการให้น้องถอดเสื้อทุกชิ้นเพื่อลองเสื้อ เพราะน้องก็ไม่ใช่รูปร่างบางนัก หนาพอสมควร
“ถอดหมดดีกว่าครับ จะได้รู้ว่าพอดีตัวไหม”
“เอางั้นก็ได้ครับ” ในที่สุดน้องก็ถอดเสื้อออกหมด หุ่นพอใช้ได้ แม้ไม่มีกล้ามอะไรใดใดแต่ก็ไม่ได้มีพุง น้องสวมเสื้อแล้ว ผมทำเป็นขยับตรงเอวเสื้อ มือสัมผัสกับส่วนเอวน้อง น้องก็สะดุ้ง
“พี่ไม่ทำอะไรน้องหรอกครับ แค่อยากดูว่ามันรัดเกินไปไหม”
“มันจั๊กจี้อ่ะครับ แต่ผมไม่อ้วนขนาดนั้นหรอกครับพี่”
“ไหนพี่ลองดูสิ” ว่าแล้วก็โอบรอบเอวน้องเอาเสื้อรวบขมวดไปด้านหลัง อืมยังมีเหลือ ใส่ได้ จริงๆแล้วน้องใส่ได้อยู่แล้ว แต่ผมอยากสัมผัสตัวเขาแค่นั้นเอง
“ใส่ได้ เหลืออีกเยอะอยู่”
“ผมบอกแล้ว สรุป 150นะพี่”
“ได้ครับ ตามสัญญา น้องอยากได้อย่างอื่นอีกไหมครับ พี่ลดให้พิเศษไปเลย”
น้องสำรวจมองไปรอบๆ
“ผมขอดูกางเกงตัวนั้นครับ” น้องชี้ไปที่กางเกงในแฟชั่นที่มีเนื้อผ้าปิดเป้าด้านหน้า ด้านหลังเปิดโล่งมีสายยืดสองเส้นไขว้เย็บติดกับส่วนหน้า
“โห ตาถึงจริงๆนะครับ ตัวนี้เพิ่งมาใหม่เลย” ผมยิ้มนึกในใจ จะงัดแผนอะไรมาหลอกล่อต่อดี
“ไซส์เอ็มมีไหมครับ ตัวนี้ไซส์ เอส”
“มีครับ ว่าแต่” ผมยังพูดไม่ทันจบน้องก็โพล่งขึ้นมาก่อน
“ผมจะต้องลองใส่ให้ดูอีกใช่ไหมครับ” น้องพูดแซว ผมถึงกับระเบิดหัวเราะออกมา
“น้องๆ ชอบเหรอ ลองใส่ดูไหม พี่มีพื้นที่ให้ลอง” เสียงไอ้ก้องร้องทักขึ้นมา ผมมองหน้ามันแว่บเดียวแต่ไม่ได้สนใจอะไร
“ผมต้องใส่ให้ดูจริงๆหรือครับ” น้องเขาถามย้ำอีกที ดูท่าทางกล้าๆกลัวๆ
“ลองก็ได้ครับ” ผมรีบตอบทันที
“เข้ามาด้านในเลยครับ พี่มีผ้าขาวม้าให้ ใส่เสื้อกล้ามตัวนั้นด้วยจะยิ่งดีมากเลยครับ”
สุดท้ายน้องก็ทำตามอย่างว่าง่าย เออ ดีแฮะเด็กคนนี้ ว่านอนสอนง่ายดี พูดจาอ่อนน้อมถ่อมตนมีสัมมาคาราวะด้วย นิสัยน่ารัก น้องหยิบเอาผ้าขาวม้าที่ผมยื่นให้เข้าไปด้านในร้าน ผมช่วยดึงผ้ากั้นให้อีกชั้น
“เสร็จยังครับ”
“เสร็จแล้วครับพี่” ผมเดินเข้าไปสมทบ น้องในชุดเสื้อกล้าม และกางเกงในรัดรูป เป้าไม่ใหญ่มาก ตูดงอน ผมจับเอวเขาพลิกหันไปมาหน้าหลัง
“อื้ม ดูดีนะเนี่ย จะใส่ไปโชว์ใครหรือเปล่า”
“ก็ไม่หรอกครับ แต่ถ้าพี่อยากดูผมก็จะใส่ให้ดู”
น้องพูดแบบนี้ ผมเดินเข้าไปใกล้ ประคองใบหน้าเขาเข้ามาแล้วประกบปากจูบทันที น้องก็มีปฏิกิริยาตอบเช่นกัน แต่แค่อึดใจเดียว ผมก็เดินออกมา ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ไม่ใช่ครัง้นี้ครั้งแรกหรอกครับ ผมมาขายตลาดนัดคลองถามแห่งนี้ ก็ทำแบบนี้ประจำ จนมีลูกค้าประจำที่คุ้นหน้าค่าตาแล้วมาซื้อมาลองชุดในร้านหลายคน จนผมเคยชิน ได้เด็กๆติดมือกลับบ้านไปด้วยก็หลายคน
“ลูกค้านอกร้านยังมีนะไอ้ปอ” ไอ้ก้องมันก็รู้ครับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่ด้านในร้านหลังผ้ากั้น แต่ด้วยคาวมที่เคยชินแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาครับ
“เชิญเลือกได้เลยครับ น้องคนหล่อมากับแฟนก็เลือกซื้อได้ครับ ของผู้ชาย ใส่ได้หมดครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ใส่แล้วเดี๋ยวแฟนผมไปหาแฟนใหม่ผมซวยพอดี” เด็กหนุ่มหล่อแบดบอยที่เดินมากับแฟนสาวตอบยิ้มๆ
“พี่ ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ”
“อ้อ โทษที เออ น้องชื่ออะไรครับ”
“ดินครับพี่”
“อืม ดิน พี่ให้กางเกงตัวนี้ฟรีนะ แต่พี่อยากขออะไรน้องสักอย่าง”
“อะไรหรือครับ”
“คือ พี่อยากขอให้น้องมาเป็นแบบกางเกงในให้พี่ ได้ไหมครับ”
“อืม ผมหุ่นไม่ค่อยดี มันจะโอเคกับเสื้อผ้าพี่เหรอครับ” น้องบอกด้วยความเขินอาย ไม่เลยนะ น้องหุ่นดีจริงๆ แม้ไม่มีกล้ามเป็นมัดๆ แต่ผิวเข้มๆแบบนี้ ผมอยากได้ ถ้าใส่ชุดแล้วมันขึ้นมากเลยทีเดียว
“น้องหุ่นดีแล้วครับ ไม่ต้องกลัว พี่ไม่ถ่ายหน้าครับ ถ่ายแค่ ชุดชั้นใน และพี่ก็มีน้องๆนายแบบหลายคนอยู่ ลองดูนี่ครับ” ผมเปิดสมุดภาพนายแบบจากหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชาวสีม่วงที่ใส่กางเกงในของร้านผมให้น้องดู
“ถ้าพี่ชอบ ก็ได้ครับ” ระหว่างนี้ ผมทันได้เห็นไอ้ก้องมันเหล่มามองทางผมแล้วยิ้มมุมปาก
“พี่ชอบน้องจริงๆ พี่ขอเบอร์ ขอไลน์เลยนะครับ และที่สำคัญพี่มีค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆด้วยนะ”
“ยังไงหรือครับ”
“ก็ น้องบางคน ก็ขอเสื้อผ้า บ้าง ขอชุดชั้นในบ้าง หรือบางคนอยากได้เป็นเงิน ก็ให้ครับ แต่คงไม่มากมาย”
“อืม ถ้าถ่ายแบบชุดชั้นใน ก็พอได้ครับ แต่เรื่องเงินผมคงไม่เอาหรอกพี่”
“ยังไง ไว้ค่อยคุยรายละเอียดกันนะครับ”
“ได้ครับพี่ ขอบคุณมากครับสำหรับกางเกงตัวนี้”
“ไม่เป็นไรครับ หวังว่าพี่คงมีโอกาสได้เห็นน้องใส่อีกนะครับ”
น้องไม่ตอบแต่พยักหน้า ยิ้มๆ
“น้อง ไม่สนใจแอร์การ์ดบ้างเหรอครับ ของพี่ มีเสาสัญญาณสองอันนะครับ จะแรงกว่าตัวอื่นๆครับ” ไอ้ก้องร้องทัก
“ผมมีแล้วครับ เดี๋ยวเอาไว้คราวหน้านะครับพี่”
.
.
“เป็นไงมึง ทำอะไรไปบ้าง” ไอ้ก้องทัก เมื่อน้องเดินออกจากร้านจนลับตาไปแล้ว
“ก็เหมือนเดิมแหละ ลองชุด ดูหุ่นไม่มีอะไร”
“เหรอ กูคงเชื่ออ่ะ”
“ไม่มีจริงๆ คนนี้เขาไม่เล่นด้วยขนาดนั้น”
“ถึงกับยอมมาถ่ายแบบชุดชั้นในให้นี่ ยังไม่เล่นด้วยอีกเหรอ”
“ค่อยๆดูไปเถอะ”
“เมื่อกี้มีคนหนึ่งหุ่นดีมากล่ำบึ้ก กล้ามฟิต มาซื้อแอร์การ์ดไป ยิ้มน่ารักมากเลย เสียดายไม่ได้ขอเบอร์ไว้ เห็นเขามองมาทางมึงอยู่นะ”
“เหรอ สงสัยคงชอบกูมากกว่ามึงมั๊ง”
“เออ มึงมันไอ้คนหล่อ ถุย หล่อมากกก” ไอ้ก้องประชด
“ว่าแต่เป็นไงมั่ง คนเยอะมากเลยวันนี้ ไม่ค่อยมีเวลาได้คุยกันเท่าไหร่”
“พอได้อยู่นะ ออกไป สิบกว่าตัวแล้ว”
“เยี่ยมๆ”
.
.
ตีหนึ่งครึ่งถึงได้เก็บของ กว่าจะกลับมาถึงบ้านได้ ก็ตีสามครับ เหนื่อยไปตามๆกัน คืนนี้ไอ้ก้องมันคึกอะไรไม่รู้ แต่ผมไม่มีอารมณ์ด้วย ได้แต่ปล่อยให้มันเล่นชักว่าวไปจนเสร็จ แต่ในหัวผมกลับนึกถึงภาพไอ้น้องที่มาขอเป็นนายแบบกางเกงในซะงั้น
หวังว่าสักวันพี่จะได้เห็นจริงๆนะน้อง..
.
คุยนอกเรื่อง..
เหมือนมันฝืดๆ ขออภัยด้วยครับ ตอนนี้จะเห็นว่ามีตัวละครเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตัวละคร บอกใบ้แค่ว่าตัวละครที่เพิ่มขึ้นมานี้เป้นตัวหลักๆของเรื่องนี้เลยทีเดียวเชียว
อยากอ่านแบบไหน โปรดแนะนำด้วยครับ จะได้นำเอาไปปรับปรุงสำหรับเรื่องต่อๆไป
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เผลอแวะเข้ามานะครับ ทั้งท่านที่เขียนคอมเม้นท์ให้และท่านที่เข้ามาอ่านเฉยๆ แค่แวะเข้ามาก็ดีใจแล้วครับ
ขอบคุณครับ