ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]  (อ่าน 205998 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
 :m25: เปิดตัวได้แซบเวอร์และสะใจเวอร์55

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
555 ได้เงินใช้ด้วยนะ ..

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] R. Rabid หัวใจคลั่งรัก


Part 1# Pie หนุ่มเนิร์ดจืดจางกับอัณฑะพาลตัวร้าย NC-?


ทำไปแล้ว...


มีเซ็กส์ครั้งแรกไปซะแล้ว...


ผมมองไปยังเพลิงที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ เสียงกรนเบาๆ ที่ได้ยินบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเพลิงกำลังหลับลึกแค่ไหน ผมเลยใช้โอกาสนั้นค่อยๆ ย่องลงจากเตียงแล้วเก็บข้าวของออกไปจากห้อง ก่อนจะลงไปรอแท็กซี่แล้วโบกกลับหอที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร


ระหว่างทางผมเอาแต่นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ผมมายืนอยู่ตรงจุดนี้...


‘เรามีแฟนแล้วนะพาย’ กวี เพื่อนข้างห้องที่ผมแอบชอบมาตั้งแต่ปี 2 บอกกับผมพลางยิ้มแก้มแทบปริ จากนั้นก็โอบไหล่เดือนแฟนสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ
ทั้งสองคนหันไปมองสบตากันอย่างเขินอาย แต่ผมนี่สิกลับรู้สึกว่าฟ้ากำลังจะถล่ม โลกกำลังจะทลาย เพราะหัวใจของผมได้แตกสลายไปเรียบร้อยแล้ว


ที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดไปเองสินะที่คิดว่าเราสองคนมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน...


ผมมันบ้าไปเองคนเดียว...


‘ยินดีด้วยนะ ขอให้รักกันนานๆ’ ผมฝืนยิ้มทั้งที่น้ำตากำลังจะไหล จึงได้อ้างว่ามีธุระแล้วก็ออกไปให้ไกลจากตรงนั้น ผมนั่งร้องไห้พลางปรับทุกข์กับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่รู้ทุกอย่างกับอินน์ด้วยความเสียใจ


‘เราว่าพายลองปรับลุคดูดีมั้ย เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น’ ถึงจะดูเป็นเหมือนคำถาม แต่อินน์กลับไม่รอคำตอบ แล้วลากผมขึ้นแท็กซี่ไปร้านตัดผมเจ้าประจำที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร พอไปถึงก็ช่างกับอินน์ก็คุยนู่นนั่นนี่กันสักพัก จากนั้นก็จัดการปรับลุคให้ผมจนแทบจะจำตัวเองไม่ได้


เด็กเนิร์ดแว่นหนาที่ผมปรกหน้าปรกตาจนจืดจางแทบไม่มีใครสนใจ แต่พอตัดผมและเซ็ตเป็นทรง รวมทั้งเปลี่ยนไปใส่คอนแทคเลนส์ก็ดูเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคนกันเลย ผมมองตัวเองที่หน้ากระจกอย่างอึ้งๆ ซึ่งคนในร้านก็เช่นกัน


‘หูยยย พายสวยสุดๆ เลยอะ’ ดวงตากลมโตของอินน์มองผมอย่างชื่นชม ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งแรกเลยผมถูกชมแบบนี้ ปกติแค่มีคนจำผมได้ผมก็รู้สึกดีใจแทบตายแล้ว


‘เราไม่ได้ดูแปลกใช่มั้ย’ ผมพูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจ


จังหวะนั้นอินน์เลยจัดแจงเสื้อผ้าให้ผมใหม่ โดยถอดเข็มขัดนักศึกษา รวมทั้งไทด์กับสร้อยคอที่ผมห้อยเกียร์เอาไว้ แล้วก็ปลดกระดุมเสื้อผมเพิ่มอีก 1 เม็ดที่ไม่ใช่ตรงคอ พอโดนลอกคราบแบบนี้ผมก็ดูเหมือนคนแต่งตัวมาเที่ยวไม่ใช่คนแต่งตัวไปเรียนด้วยชุดนักศึกษา


‘เชื่อเราสิตอนนี้พายดูดีมากๆ พายคนเก่าน่ะลบทิ้งไปพร้อมกับไอ้กวีไปเลย’ คำพูดของอินน์ทำให้ผมอมยิ้มออกมา ผมเลยตั้งปณิธานว่าจากนี้จะเป็นคนใหม่ พายคนเดิมที่จืดชืดและจืดจางจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว!


เมื่อตัดสินใจได้แบบนั้น หลังจากแยกกับอินน์ผมก็ทำใจกล้าเดินเข้าบาร์ ‘Arena’ ที่ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรมชื่อเดียวกันที่อยู่ไม่ไกล ผมพึ่งเคยเข้าสถานที่แบบนี้เลยต้องเลือกที่ที่มันดูดีหน่อย เพราะอย่างน้อยก็น่าจะคัดกรองคนได้ในระดับหนึ่ง


ทันทีที่ผมเข้าไปแทบทุกสายตาต่างก็พากันมองมาจนผมรู้สึกประหม่า แต่ผมก็พยายามเก็บความรู้สึกนั้นไว้ แล้วเดินเข้าไปพร้อมกับยิ้มด้วยความมั่นใจ ผู้ชายที่มาคนเดียวส่วนใหญ่เลยเดินเข้ามาจีบผม แต่ผมก็ไม่คิดว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นคนใกล้ตัว


‘ขอนั่งด้วยคนได้รึเปล่า?’


‘อ๊ะ! เพลิง!’ พอหันไปเห็นว่าคนที่มาทักผมเป็นใครก็ทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง ถึงจะเรียนคณะเดียวกันแต่ร้อยวันพันปีเพลิงเคยมาทักผมที่ไหน แต่ก็ดูเหมือนว่าเพลิงจะจำผมไม่ได้นะ


‘รู้จักผมด้วยหรอ หรือว่าเราเคยเจอกันมาก่อน แต่เอ...ถ้าเป็นแบบนั้นคนสวยสะดุดตาแบบคุณผมก็ต้องจำได้สิ’ สวยสะดุดตางั้นหรอ? ปกติผมจืดจางจนนายและใครต่อใครแทบจะจำไม่ได้ต่างหาก


‘ก็นายเป็นคนดัง ไม่มีใครไม่รู้จักนายหรอก’ ที่ผมพูดไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด เพราะเพลิง หรือ เพลิงกัลป์ เป็นจอมอัณฑะพาล ที่มีชื่อเสีย (ง) ขึ้นชื่อลือชาไปทั่วทั้งมหา’ลัยเรื่องฟันไม่เลือก อ้อไม่สิ จริงๆ เพลิงเลือกอยู่ เลือกฟันแต่ผู้ชายส่วนผู้หญิงไม่สนใจ ทำเอาผู้หญิงเกือบครึ่งมหา’ลัยพากันเสียดายไปตามๆ กัน


ถึงผมกับเพลิงจะเรียนคณะวิศวกรรมเหมือนกันแต่ก็เรียนคนละสาขา เพราะผมเรียนไฟฟ้าส่วนเพลิงเรียนคอมพิวเตอร์ แม้จะมีบางวิชาที่ต้องเรียนรวมกันมาตั้งแต่ปี 1 แต่ผมกับเพลิงก็ไม่เคยคุยกัน อย่าว่าแต่คุยเลย อันที่จริงเพลิงคงจะจำหน้าผมไม่ได้ด้วยซ้ำ เด็กเนิร์ดกับคนดังโลกมันต่างกัน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าเราสองคนจะได้มาเจอกัน พูดคุยกัน และมีอะไรกันแบบนี้


‘จะเข้าไปแล้วนะ’ เพลิงพูดด้วยเสียงแหบพร่า แก่นกายอันใหญ่โตและร้อนระอุกำลังจ่ออยู่ที่ช่องทางด้านหลังของผม ถึงแม้จะยังไม่เคยมีใครล่วงล้ำเข้ามา แต่ผมก็เคยใช้นิ้วช่วยตัวเองทางนี้โดยจินตนาการว่ากำลังทำกับคนที่ชอบ เพราะงั้นช่องทางมันเลยสั่นระริกจนแทบจะดูดกลืนท่อนเนื้อของเพลิงเข้าไป


‘ขะ...เข้ามาเลย’ ผมพูดด้วยเสียงขาดห้วงตามแรงอารมณ์ แล้วยกสองมือขึ้นไปโอบรอบลำคอของเพลิงเอาไว้ เพลิงที่ได้ยินอย่างนั้นเลยรีบแทรกแก่นกายเข้ามารวดเดียวจนมิดลำ


‘อาาาาาาส์’ เพลิงครางออกมาอย่างสุดกลั้น ข้างในของผมคงทำให้เพลิงเสียวแทบบ้า ส่วนผมที่ถึงแม้จะเจ็บอยู่บ้างเพราะเป็นครั้งแรก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่อนเนื้อของผู้ชายจริงๆ มันให้ความรู้สึกดีกว่านิ้วของตัวเองไม่รู้กี่เท่า


คืนนั้นผมปล่อยตัวปล่อยใจไม่คิดอะไรทั้งนั้น แล้วมีความสุขกับเซ็กส์ของเพลิงอย่างเต็มที่ หลังจากจบรอบแรกเพลิงก็ต่อรอบสองในท่าออนท็อปทันที ผมที่ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ในส่วนลึกกลับรู้สึกว่ายังไม่พอ


‘อา...’ ผมครางเสียงกระเส่า ส่วนร่างกายก็บิดเร่าและสั่นระริกด้วยความต้องการ เพลิงเลยยกสะโพกของผมขึ้นแล้วกดลงมากลืนกินท่อนเนื้อของตัวเองช้าๆ ความเสียวซ่านที่ก่อตัวขึ้นมาทำให้เราสองคนถึงกับหลุดเสียงครางอย่างห้ามไม่อยู่


‘ซี้ดดด...อา...’ เสียงไหนเป็นของใครผมไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้ผมสนใจแต่ความเสียวที่ช่องทางด้านหลังเสียดสีกับท่อนเนื้อของเพลิงเท่านั้น ผมเลยยกสะโพกขึ้นลงทั้งยังบีบและตอดรัดอย่างถี่ยิบ เล่นเอาเพลิงเสียวจนแทบขาดใจจึงได้กระแทกแก่นกายขึ้นสวนพร้อมทั้งบีบขยำแผ่นอกของผมไปมา


‘อาา...สุดยอดเลยพาย ขย่มลงมาแรงๆ...ซี้ดด...อย่างนั้น...อา...สุดยอด...’ ด้วยความที่รู้สึกดีและเสียวซ่านไม่ต่างกัน ผมเลยขย่มสะโพกขึ้นลงอย่างเมามัน ส่วนเพลิงก็กระแทกแก่นกายสวนขึ้นอย่างไม่ยั้ง เราสองคนครางออกมาดังลั่นก่อนที่สักพักความเสียวจะล้นทะลักจนถึงจุดสุดยอด


หลังจากเสร็จรอบสองผมก็ไปต่อกับเพลิงรอบสามในห้องน้ำ เพลิงเป็นคนที่มีความต้องการสูงมาก แต่น่าแปลกที่ผมก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ผมกอดคอและเกี่ยวขารัดเพลิงไว้แน่นด้วยความสุขสม ส่วนเพลิงก็กระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างสุดแรง กว่าจะเสร็จก็เล่นเอาผมไร้เรี่ยวแรงจนแทบยืนไม่ไหว ไม่อย่างนั้นอาจได้มีต่อรอบสี่กันบนเตียงส่งท้ายก่อนนอนก็เป็นได้...


กลับมาที่ปัจจุบัน ขณะนี้ผมกำลังทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่หอ ก็ไม่รู้ว่าผมทำถูกต้องรึเปล่าที่ประชดชีวิตเพราะอกหักแบบนี้


อันที่จริงครั้งแรกผมก็ตั้งใจจะเก็บไว้ให้คนที่ชอบนั่นแหละ แต่พอคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีทางสมหวังในความรักเลยพอแล้วดีกว่า ใครจะมาชอบคนเนิร์ดๆ ที่จืดจางแถมยังจืดชืดแบบผม บางทีการมีวันไนท์สแตนด์อาจจะเหมาะกับคนอย่างผมมากกว่าล่ะมั้ง


โชคดีที่เพลิงจำผมไม่ได้ ไม่งั้นผมคงทำตัวไม่ถูกเวลาเดินสวนหรือเรียนในห้องเดียวกัน ดังนั้นเมื่อตื่นมาผมเลยรีบเก็บข้าวของออกไปจากห้อง เพราะยังไงตอนเช้าก็ต้องแยกย้ายต่างคนต่างไป เพลิงเป็นคนที่ไม่ค่อยนอนกับใครซ้ำๆ เพราะงั้นก็คงไม่ได้สนใจอะไรผมอยู่แล้ว


แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น...


วันจันทร์ที่ห้องเรียนรวมผมกลับได้ยินเสียงของเพลิงที่เกรี้ยวกราดดังเล็ดลอดออกมาก่อนที่ผมจะเปิดประตูเข้าไปข้างใน


“ใครลากตัวผู้ชายชื่อพายมาให้กูได้กูให้เลยหมื่นนึง! กูจะสั่งสอนให้แม่งรู้ซึ้งว่ากูไม่ใช่ผู้ชายขายน้ำ! และถึงกูจะขายจริงๆ แต่ค่าตัวกูก็ไม่ใช่แค่พันห้าโว้ยยยยยย!”


ซะ...ซวยแล้ว...


ผมไม่ได้คิดว่าเพลิงเป็นผู้ชายขายน้ำสักหน่อย เงินพันห้าที่วางเอาไว้ผมตั้งใจจะหารค่าห้องกับจ่ายค่าเครื่องดื่มที่เพลิงออกให้ก็เท่านั้น แต่ถึงจะอธิบายไปเพลิงก็คงไม่ฟัง คน (อัณฑะ) พาลแบบนั้นการอยู่ให้ไกลน่าจะปลอดภัยกับชีวิตมากกว่า


ผมเอาผมลงมาปิดหน้าปิดตา จากนั้นก็ดันแว่นสายตาขึ้นพร้อมกับก้มหน้าลง หวังว่าความจืดจางคงจะทำให้เพลิงจำผมไม่ได้ หรือถ้ามองไม่เห็นเลยก็ยิ่งดี!


“ยืนทำอะไรอยู่น่ะ ไม่เข้าห้องเรียนหรอพาย”


“อ๊ะ!” ซึ่งขณะที่ผมกำลังวิตกกังวลจนแทบจะเป็นบ้า อินน์ก็ทักขึ้นจากทางด้านหลังแถมยังวางมือลงที่บ่าของผมอีกต่างหาก เล่นเอาผมตกใจจนมือไม้อ่อน สมุดหนังสือที่ถือเอาไว้จึงหล่นกระจัดกระจายลงที่พื้น


“เป็นอะไรไปพาย หรือว่าเฮิร์ทหนักจนไม่สบาย” อินน์ถามอย่างห่วงใยแล้วก้มลงช่วยผมเก็บสมุดหนังสือ


“ปะ...เปล่าหรอก เราสบายดี ตอนนี้ในหัวของเราไม่ได้คิดเรื่องของกวีแล้ว” แน่ล่ะสิ เพราะตอนนี้ในหัวของผมเอาแต่คิดเรื่องเพลิงที่กำลังตามล่าตัวผมไปสั่งสอน!


“ดีแล้วล่ะ คนโลเลแทงกั๊กแบบนั้นพายอย่าไปสนใจเลย เจอหน้าก็ไม่ต้องยิ้มไม่ต้องทักทายด้วย ทำให้เหมือนกับมันเป็นแค่ธาตุอากาศ” ผมไม่ตอบอะไรได้แต่หัวเราะแห้งๆ กับคำพูดนั้น เพราะเมื่อเช้าผมยังยิ้มแล้วก็ทักทายกวีที่เดินออกมาจากห้อง แถมยังเดินเข้ามหา’ลัยทางประตูด้านหลังด้วยกันอีกต่างหาก


จะให้เมินคนที่ชอบที่ส่งยิ้มมาให้ได้ยังไง ถึงแม้ผมจะนึกเสียใจที่ตลอดทางกวีเอาแต่พูดถึงเรื่องของแฟนก็เถอะ...


“แล้วนี่ทำไมพายถึงยังใส่แว่นเหมือนเดิมล่ะ หรือว่าใส่คอนแทคเลนส์แล้วไม่สบายตา ไหนจะผมที่เอาลงมาปิดหน้านั่นอีก ไม่คิดจะหวีหรือเซ็ตให้มันเข้าทรงหน่อยหรอ” ไม่พูดเปล่าอินน์ยังทำท่าจะหยิบหวีที่อยู่ในกระเป๋าออกมาหวีให้ผมอีกต่างหาก


“ไม่ต้องหรอกอินน์ คือ...เราชินกับการเอาผมลงมาปิดหน้า แล้วก็ชินกับการใส่แว่นด้วย” ผมแถข้างๆ คูๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าอินน์จะเข้าใจอะไรง่ายกว่าที่คิด


“พายนี่น้า แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะมีใครมาสนใจสักที”


“เราก็ไม่ได้อยากให้มีใครมาสนใจสักหน่อย” โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ผมอยากให้ตัวเองจืดจางจนแทบจะกลืนไปกับอากาศ “จริงสิ ช่วงนี้อินน์อย่าเรียกเราว่าพายได้มั้ย”


   “หืม? ทำไมล่ะ?”


   “คือ...เรารู้สึกเบื่อชื่อตัวเอง ชื่อนี้มันอาจจะไม่เป็นมงคล บางทีถ้าเปลี่ยนชื่อใหม่เราอาจจะสมหวังเรื่องความรักก็ได้นะ”


ว่าไปนั่น ความจริงแล้วผมกลัวเพลิงจะรู้ว่าพายที่ตัวเองกำลังตามหาคือผมต่างหาก ท่าทางเพลิงจะแค้นเอามากๆ ขืนจับได้มีหวังผมต้องถูกเพลิงซ้อมจนน่วมแน่ๆ


   “อ๋อ เราเข้าใจแล้ว ลองแก้เคล็ดแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน” ขอบคุณจริงๆ ที่อินน์เป็นคนแทบไม่เคยสงสัยอะไรเลย “แล้วพายอยากให้เราเรียกพายว่าอะไรล่ะ”


   “อะไรก็ได้ เอ่อ...อย่างแว่นเป็นไง ง่ายดี”


“โหย มันง่ายไป แถมยังโหลด้วย คนใส่แว่นทั้งคณะมีไม่รู้กี่สิบคน เกิดเราเรียกพายว่าแว่นแล้วหันมากันทั้งหมดจะไม่ยุ่งเอาหรอ” นั่นสินะ ผมก็ลืมคิดไป


“งั้นอินน์อยากเรียกเราว่าอะไรก็ตามใจเลยแล้วกัน ขอแค่อย่าเรียกเราว่าพายก็พอ”


“อืม...พาย...พราย...พฤกษ์...เอาเป็นชื่อพฤกษ์ดีมั้ย”


“ก็ดีเหมือนกันนะ เอาชื่อนี้แหละ” ชื่อที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับชื่อพายเลยแม้แต่น้อย ถึงอินน์จะเรียกชื่อนี้ใกล้ๆ หรือจะตะโกนอยู่ข้างหู แต่เพลิงก็ต้องไม่สนใจแน่นอน


“โอเค แล้วจะให้เราเรียกพายว่าพฤกษ์ไปจนถึงเมื่อไหร่”


“ไม่นานหรอก แค่วันสองวันก็พอ” ผมว่าไม่เกินพรุ่งนี้เพลิงคงจะเบื่อจนเลิกตามล่าผมแล้วล่ะมั้ง เบาะแสก็ไม่มี รูปก็ไม่ได้ถ่าย แถมลักษณะทุกอย่างยังห่างจากผมลิบลับรับรองไม่มีทางเจอ


เมื่อโล่งใจไม่ต้องมีอะไรกังวลแล้วผมก็ชวนอินน์เดินเข้าไปในห้อง เราสองคนตรงไปนั่งด้านหน้าสุดมุมขวาเหมือนเดิม โดยที่ผมพยายามทำตัวลีบๆ และจืดจางเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตา ซึ่งก็ดูเหมือนว่าผมจะทำสำเร็จ


ตลอดช่วงเช้าผมเรียนได้อย่างราบรื่น ถึงแม้บางช่วงผมจะระแวงแอบหันมองไปยังเพลิงที่นั่งอยู่มุมซ้ายด้านหลังสุดของห้องก็เถอะ แต่เพลิงก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์ไม่ก็นอนหลับไม่ได้สนใจมองมายังผมสักนิด ผมล่ะแปลกใจจริงๆ ว่าทำไมทั้งที่ทำตัวแบบนี้แต่เกรดของเพลิงกลับออกมาดีอย่างน่าเหลือเชื่อ


“ไปกินข้าวเที่ยงที่ไหนดีพาย...เอ๊ย! พฤกษ์” อินน์ยังคงเรียกชื่อผมอย่างผิดๆ ถูกๆ แต่ก็นะ ถ้าเรียกถูกต้องทันทีทั้งที่เรียกพายมาตลอด 4 ปีก็แปลกแล้วล่ะ


“กินที่โรงอาหารคณะดีมั้ย ไปกินข้างนอกมันแพง” ถึงที่ผมพูดมันจะจริง แต่ถ้าออกไปกินข้างนอกก็อาจจะเสี่ยงเจอเพลิงก็ได้ คนอย่างเพลิงไม่เคยเฉียดมากินข้าวที่โรงอาหารคณะอยู่แล้ว เพราะงั้นมั่นใจได้เลยว่าถ้าผมไปกินที่นั่นต้องปลอดภัยหายห่วงชัวร์แน่นอน


“เอางั้นก็ได้ งั้นเราไปกันเถอะ” อินน์พูดจบก็จะเดินนำผมออกไปจากห้องเรียนรวม แต่ก็มีเสียงๆ หนึ่งดังขัดขึ้นมาจากทางด้านหลังซะก่อน


“เดี๋ยว อย่าพึ่งไป” เสียงเรียกนั้นทำเอาผมใจหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ผมตัวแข็งทื่อราวกับวิญญาณได้หลุดลอยออกไปจากร่าง


ยะ...อย่าบอกนะว่าเพลิงเป็นคนเรียกผมเอาไว้!


“มีธุระอะไรกับพวกเราหรอป๋อง” แต่พอได้ยินอินน์พูดแบบนี้ ผมก็โล่งอกจนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ที่แท้ก็เป็นเพื่อนในสาขาของผมนี่เอง


“กูไม่ได้มีธุระกับมึง แต่กูมีธุระกับไอ้แว่น” ป๋องพูดจบก็เดินมาตรงหน้าผม จากนั้นก็ก้มหน้าลงมามองผมที่สูงห่างกันเกือบคืบ


“มะ...มีอะไรหรอ”


“ถ้าจำไม่ผิดมึงชื่อพายสินะ”


“อะ...อ๋อ...นั่นชื่อเก่า ตอนนี้เราเปลี่ยนเป็นพฤกษ์แล้ว” ผมยิ้มบางๆ ไม่แสดงอาการลนลาน ทั้งที่ขาสั่นพั่บๆ เพราะกลัวจะตายอยู่แล้ว


“เออ ช่างเถอะ ถึงไม่เปลี่ยนชื่อแต่มึงก็คงไม่ใช่คนที่ไอ้เพลิงตามหาอยู่ดีนั่นแหละ” ป๋องพูดอย่างเซ็งๆ และติดรำคาญ จากนั้นก็เดินกลับไปด้วยท่าทีหัวเสียหน่อยๆ


อะไรของเค้าก็ไม่รู้ จู่ๆ มาทักผมเองแต่กลับอารมณ์เสียซะเอง บ้ารึเปล่า


“ที่ป๋องพูดหมายความว่าไงงั้นหรอ” อินน์ถามผมพลางทำหน้าขมวดคิ้วอย่างงุนงง แต่ผมก็ยิ้มตาใสทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น


“ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงไม่เกี่ยวกับพวกเราหรอก ไปกินข้าวกันดีกว่า” ผมพูดจบก็จูงมืออินน์ออกมาแล้วตรงไปยังโรงอาหาร โดยย้ำว่าจากนี้ต้องเรียกผมว่าพฤกษ์ห้ามเรียกว่าพายเด็ดขาด ซึ่งอินน์ก็รับปากว่าจะพยายามเป็นอย่างดี


ช่วงบ่ายผมมีเรียนวิชาเฉพาะของสาขาจึงไม่ได้เรียนรวมกับเพลิง เพราะงั้นผมจึงค่อนข้างคลายความกังวลและกินข้าวกับอินน์อย่างสบายใจ แต่ไหงในขณะที่ผมยังกินข้าวไปได้แค่ครึ่งจาน ผมกลับเห็นเพลิงพร้อมกับกลุ่มเพื่อนจำนวนหนึ่งเดินมาที่โรงอาหารก็ไม่รู้!


“ไอ้เพลิงบอกว่าคนชื่อพายอาจจะเรียนที่นี่ เด็กม.อื่นมันคงไม่ถ่อมาแต่ไกลเพื่อเข้าบาร์เล็กๆ ตรงนั้น เพราะงั้นพวกมึงสองคนลองไปแยกย้ายกันหา” เสียงของเพื่อนเพลิงคนหนึ่งที่ดังอยู่ในระยะประชิด ทำให้ผมตกใจและตื่นตระหนกจนถึงกับสำลักอาหาร


“อุปส์! แค่กๆๆๆ” ดูท่าทางผมอาจจะตายเพราะลนลานก่อนถูกเพลิงจับได้ซะแล้วมั้ง!


“เป็นอะไรมั้ยพฤกษ์ อะนี่น้ำ” อินน์พูดอย่างห่วงใยแล้วส่งขวดน้ำเปล่ามาให้ ผมเลยคิดข้ออ้างที่จะหนีไปจากตรงนี้ได้ เลยดูดน้ำให้หมดแล้วรีบลุกพรวดขึ้นมา


“เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำขวดใหม่ก่อนนะ” ผมพูดจบก็รีบเดินออกมา อินน์ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นห่วงผมมากเลยตะโกนขึ้นเพื่อเรียกผมให้หยุด


“พฤกษ์! เดี๋ยวเราไปซื้อให้เอง!” แต่ก็ดูเหมือนว่าความเป็นห่วงนั้นจะทำให้ผมงานเข้า เพราะเสียงเรียกนั้นทำให้เพลิงหันขวับมาทางนี้ แถมยังย่างสามขุมตรงเข้ามาหาผมอีกต่างหาก!


มะ...ไม่จริงน่า ผมอุตส่าห์เปลี่ยนชื่อหนีแล้วนะ พายกับพฤกษ์ชื่อมันต่างกันขนาดนั้น ทำไมเพลิงต้องตรงมาทางผมด้วยเนี่ย!


2BC


 :m18: สวัสดีค่ะทุกคน Rabid หัวใจคลั่งรักตอนแรกก็ได้จบลงไปแล้วน้า ซึ่งก็ดูเหมือนว่าพายจะงานเข้าซะด้วย แล้วอย่างนี้พายจะรอดรึเปล่า หรือว่าจะโดนอีตาเพลิงจับได้ตั้งแต่วันแรก  :katai1: (ก็เล่นไปเปลี่ยนชื่อเหมือนพี่ชายของมันนี่นา) ยังไงก็มาลุ้นและเอาใจช่วยพายในตอนหน้าด้วยนะคะที่ร้าก
ว่าแต่...มีใครเป็นทีมเพลิงมั้งมั้ยน้อ (ทีมด่าเพลิงไม่นับนะ 55555  o17 ) ตั้งแต่บทนำยันตอนนี้เหมือนเราจะยังไม่เห็นใครอยู่ทีมอีตาพระเอกเลย แต่ละคนอยู่ทีมพายน้อยๆผู้จืดจางกันหมด รู้สึกวงวารรรรรร นี่หรือคือพระเอก 55555  :laugh:
ส่วนตอนหน้าเจอกันในอีก 3 วันนะคะ สำหรับวันนี้คงจะรู้สึกแปลกใจกันล่ะสิที่เค้ามาเร็ว คืองี้ค่ะ เราพยายามจะปรับวันลงนิยายให้เร็วขึ้นเป็นทุก 3 กับ 2 วัน (ครึ่งแรก 3 วัน ส่วนครึ่งหลัง 2 วัน) แต่เวลาที่คงจะปรับยาก น่าจะลงดึกๆเหมือนเดิม แต่ถ้าวันไหนเรากลับบ้านเร็วจะรีบลงให้อ่านกันแน่นอนค่ะ  :give2:
รักทุกคนนะคะ ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังใจและคอมเมนท์เมาท์มอยนิยาย เราอ่านไปหัวเราะไปมีความสุขมากๆเลยค่ะ
ปล.อย่าเกลียดชื่อตอนเลยน้า เพราะคำว่า ‘อัณฑะ’ พาล มันจะมาเรื่อยๆ เพราะเหมาะสมกับอีตาเพลิงมาก 55555 :z1:
(24 เม.ย. 61)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2018 07:44:54 โดย Sameejaejung »

ออฟไลน์ A_bookworm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
หวายยยๆๆๆๆ นังเพลิงเกรี้ยวกราด  :laugh: :laugh:
น้องพายหลบดีๆนะลูก อย่าให้จับได้เชียว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แหม... เพราะเงิน 1,500 ทำให้เพลิงของขึ้น น่าจะเขียนโน็ตแนบด้วยว่าช่วยค่าห้อง นี่แสดงว่าทุก ๆ รายเพลิงไปก่อนซินะ มีแต่ครั้งนี้ที่พายไปก่อนเพลิง  :katai3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ทำไมไม่บอก ช่วยค่าห้อง

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
เกรี้ยวกราดเวอร์555สงสารนุ้งพาย

ออฟไลน์ JanLec

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ถึงตั้งใจก็เถอะ เห็นคำว่า อัณฑะพาล ละขัดใจ ฮาาาาาาา

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เปลี่ยนชื่อจากพายเป็นพฤกษ์
คิดถูกหรือคิดผิดคะเนี่ย เรียกทีสะดุดหูเพลิงเลย
รอดูว่าน้องพายจะรอดไม่รอด แต่อยากให้รอดนะ
อยากเห็นเพลิงมันบ้าต่อไป  :laugh:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ชื่อไหนไม่ชื่อ งั้นไปเอาชื่อคู่แฝดเขามาใช้ซะงั้น บอกได้คำเดียว "ซวย" แบบเต็ม ๆ  :z3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จะรอดมั้ยจ๊ะน้องพาย

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ทำไมเอาชื่อนี้555 พายน่าเอ็นดู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ที่เพลิงโมโหคือให้ค่าตัวน้อยหรือโกรธที่พายไม่รอเจอหน้าอีก ติดใจพายอ่ะดิ :hao6: จะรอดมั๊ยลูกพายอุตส่าห์เปลี่ยนชื่อ

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] R. Rabid หัวใจคลั่งรัก


Part 2# Pie วิธีเอาตัวรอดของคนจืดจาง


   “มึงใช่มั้ยที่ชื่อพฤกษ์?” ร่างสูงใหญ่ของเพลิงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาทำให้ผมที่กำลังก้มหน้าอยู่ถึงกับกลัวจนตัวสั่น


   “ชะ...ชะ...ใช่”


   “กูจำไม่เห็นได้เลยว่าในคณะมีคนชื่อพฤกษ์ตั้งแต่เมื่อไหร่”


‘ก็แล้วมีหรือไม่มีมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วยเล่า!’ ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเพลิงต้องมาสนใจอะไรชื่อนี้ด้วย แต่ก็นะ ถึงจะสงสัยผมก็ไม่กล้าถามออกไปหรอก เพราะถ้าโดนต่อยสวนมาไม่ก็สั่งให้เพื่อนรุมกระทืบผมก็จมกองเลือดกันพอดี


“คือ...ระ...เราพึ่งเปลี่ยนชื่อแก้เคล็ดได้ไม่นาน” ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเปลี่ยนได้ไม่ถึง 4 ชั่วโมงเลยล่ะมั้ง


“เออ เรื่องนั้นช่างมัน แต่มึงจะก้มหน้าอยู่อย่างนั้นอีกนานมั้ย” ก็ถ้าเงยหน้าขึ้นไปก็ถูกนายจับได้พอดีน่ะสิ!


“เรา...เอ่อ...ไม่ค่อยชินกับการพูดกับใคร”


“ชินไม่ชินแล้วยังไง คือกูต้องสนใจมั้ย มึงรีบเงยหน้าขึ้นมาเดี๋ยวนี้” แต่ถึงจะถูกเพลิงสั่งเสียงเข้มแบบนั้น ผมก็ยังคงก้มหน้ามองพื้นอยู่ดี


“นี่มึงกวนตีนกูใช่มั้ยไอ้แว่น!” เพลิงที่เห็นอย่างนั้นเลยพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็เข้ามาประชิดตัวแล้วจับคางผมให้เงยขึ้นไป ผมที่กลัวว่าเพลิงจะจับได้เลยใช้ไม้ตายสุดท้ายที่พึ่งคิดขึ้นมา นั่นก็คือการทำตาเหลือก จมูกบาน ปากเบี้ยว และหดคอให้สั้นจนมีเหนียง!


“เชี่ย!” เพลิงผงะแล้วรีบผลักผมออกไปด้วยความตกใจ ส่วนผมที่ถึงแม้จะเซไปด้านหลังเพราะเสียหลัก แต่ก็ยังสามารถทรงตัวเอาไว้ได้


“มึงจะไปไหนก็ไปเลยไป!” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เพลิงนั่นแหละที่เป็นคนเดินออกไปก่อน ท่าทางจะหัวร้อนและไม่สบอารมณ์มากๆ แต่ผมกลับรู้สึกตรงกันข้าม ตอนนี้ผมดีใจและโล่งอกสุดๆ ไปเลย


เฮ้ออออออออ รอดตายแล้วผม!


“พาย...เอ๊ย! พฤกษ์มีเรื่องอะไรกับเพลิงงั้นหรอ” อินน์เดินเข้ามาหาหลังจากที่เพลิงกับกลุ่มเพื่อนเดินออกไป


“เหมือนเพลิงจะกำลังตามหาใครสักคนอยู่น่ะ แต่ไม่เกี่ยวกับพวกเราหรอก”


“งั้นหรอ” อินน์ไม่พูดอะไรต่อแต่ก็มองตามแผ่นหลังของเพลิงไปจนสุดทาง


“อินน์จะกินข้าวต่อรึเปล่า เราไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว อยากไปนั่งอ่านหนังสือที่เงียบๆ สักที่” สำหรับผมแล้วการเยียวยาจิตใจที่ดีที่สุดก็คือการอ่านหนังสือนี่แหละ


“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ เรากินอิ่มพอดี” พอได้ยินแบบนี้ผมก็เดินไปหยิบจานที่โต๊ะไปวางตรงที่เก็บ โดยมีอินน์เดินตามมาข้างๆ จากนั้นเราทั้งคู่ก็หาที่สงบๆ เพื่ออ่านหนังสือด้วยกัน


ผมกับอินน์เราสองคนเป็นนักเรียนทุนของมหา’ลัย ดังนั้นเลยต้องตั้งใจเรียนมากกว่านักศึกษาทั่วไปอย่างน้อยเท่าตัว เพราะถ้าความประพฤติไม่ดี เกรดแต่ละวิชาต่ำกว่า 2 และเกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 3 พวกเราก็จะถูกถอดไม่ได้รับทุน ค่าเทอมที่แพงหูฉี่กับค่าใช้จ่ายรายเดือนอีกนิดหน่อยก็จะไม่ได้
จริงอยู่ที่บ้านผมก็ไม่ได้ยากจนขัดสนอะไรมากมาย แต่พ่อกับแม่ของผมก็แค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดา ผมเลยอยากแบ่งเบาภาระเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยได้เรียนฟรีและมีเงินไว้จ่ายค่าหอเองทุกเดือนจะได้ไม่ลำบากพวกท่านมาก


จะว่าไปเงินที่เหลือใช้เดือนนี้ก็เหลืออีกไม่กี่ร้อยนี่นะ แต่เอาเถอะอีกไม่กี่วันก็สิ้นเดือนแล้ว คงต้องพึ่งเพื่อนแท้ในยามยากนั่นก็คือมาม่าซอง 6 บาทแล้วล่ะนะ


เมื่อใกล้เวลาเรียนในคาบบ่ายผมกับอินน์ก็พากันเดินขึ้นห้อง เราสองคนเดินไปนั่งตรงที่ประจำนั่นก็คือด้านหน้าสุดมุมขวา วิชานี้เป็นวิชาเฉพาะของสาขา ดังนั้นผมเลยเรียนอย่างสบายใจไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเพลิงจับได้ พอหมดคาบผมกับอินน์ก็แยกย้ายต่างคนต่างไป โดนอินน์จะนั่งรถเมล์ที่หน้ามหา’ลัยกลับบ้าน ส่วนผมจะเดินกลับหอที่อยู่ด้านหลัง


ผมก้มหน้าก้มตาเดินสักพัก จนกระทั่งกำลังจะถึงประตูอยู่แล้วก็มีเสียงๆ หนึ่งเรียกผมเอาไว้ซะก่อน


“พาย!!” เสียงอันคุ้นเคยทำให้เท้าของผมหยุดชะงักแล้วรีบหันกลับไปหา จึงพบว่าเป็นกวีที่กำลังลงจากตึกคณะศึกษาศาสตร์แล้วรีบวิ่งมาหาผม


“ไง กวี” ผมยิ้มทักทาย หัวใจที่ห่อเหี่ยวมาทั้งวันรู้สึกพองโตขึ้นมาทันที อย่างน้อยการที่ได้เจอกวีทั้งเช้าและเย็นก็เป็นหนึ่งในเรื่องดีๆ ที่พอจะหักล้างเรื่องเลวร้ายที่เกิดในวันนี้ได้ล่ะนะ


“นี่พายจะกลับหอใช่ปะ”


“อืม ทำไมหรอ”


“เราก็จะกลับด้วยไง เดี๋ยวไปกินตามสั่งร้านเจ๊หมวยกัน” ร้านที่ว่าก็อยู่ในซอยหอพักที่ผมเช่าอยู่นั่นแหละ


“โอเค” ผมแทบจะยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นี่ถ้าอินน์รู้ว่าผมดีใจจนออกนอกหน้าขนาดนี้ มีหวังโดนบ่นเป็นชุดจนหูชาแน่ๆ


แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ก็ผมยังตัดใจจากกวีไม่ได้นี่นา อีกอย่างผมก็ไม่มีสิทธิ์โกรธกวีเรื่องที่มีแฟนด้วย ถ้าเราสองคนคบกันเป็นแฟนก็ว่าไปอย่าง แต่ผมมันบ้าที่คิดเข้าข้างตัวเองว่ากวีก็มีใจให้ผมเหมือนกัน ทั้งที่กวีคิดกับผมแค่เพื่อนคนนึงแท้ๆ


ก็แค่ไปเรียนพร้อมกันเกือบทุกเช้า กินข้าวเย็นด้วยกันสัก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นห่วงเป็นใยเวลาที่ผมมีเรื่องทุกข์ใจ เวลาไม่สบายก็คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ จะไปไหนมาไหนข้างนอกส่วนใหญ่ก็ไปกับผมตลอด ถึงจะไม่ได้นอนด้วยกันแต่ก็บอกฝันดีที่ระเบียงก่อนนอนเกือบทุกวัน เรื่องพวกนั้นเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนเขาทำกัน ผมมันไม่ค่อยมีเพื่อนเลยมโนไปเองทั้งนั้น น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วว่าใครจะมาชอบเด็กเนิร์ดที่จืดจางแบบผม


คนคนนั้นถ้ายังไม่เกิดก็คงจะตายไม่ก็เป็นบ้าแน่ๆ!


“เป็นอะไรไปน่ะพาย จู่ๆ ก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมา”


“หา?” เสียงของกวีที่ดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังใจลอยอยู่ในภวังค์หลุดออกมาสู่โลกความจริง


“พายมีเรื่องไม่สบายใจรึเปล่า เราให้คำปรึกษาได้นะ” เนี่ย กวีก็ชอบทำใจดีกับผมแบบนี้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมหลงคิดเข้าข้างตัวเองได้ยังไง


“ไม่มีอะไรหรอก” ก็แค่ยังตัดใจจากนายไม่ได้ก็เท่านั้นเอง


“ดีแล้วล่ะที่ไม่มีเรื่องอะไร แต่ถ้าอยากระบายหรืออยากปรึกษาพายต้องคิดถึงเราเป็นคนแรกเลยนะ” คำพูดนั้นยิ่งทำให้ผมตัดใจยากขึ้นไปใหญ่ แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นผมก็คิดว่าตัวเองต้องตัดใจให้ได้อย่างเด็ดขาด เพราะแฟนของกวีได้โทรเข้ามา ซึ่งนั่นก็เหมือนเป็นการย้ำสถานะว่าผมเป็นแค่เพื่อนคนนึงของกวีก็เท่านั้นเอง


“ว่าไงเดือน?...อ้าว โดนเพื่อนเทงั้นหรอ แล้วงี้จะเอาไงต่อ?...หา จะให้เราไปหาตอนนี้เนี่ยนะ แต่เรานัดกับเพื่อนว่าจะไปกินข้าวด้วยกันแล้วอ่า...โธ่ อย่าพูดแบบนั้นสิ ทำไมเดือนจะไม่สำคัญ...ฮัลโหล...ฮัลโหล...เดือน...เฮ้ออออออ” แล้วกวีก็ถอนหายใจออกมา ท่าทางเดือนจะงอนจนกดตัดสายไปซะแล้ว


“เราว่ากวีไปหาแฟนเถอะ ปล่อยไว้แบบนี้เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่าๆ” ถึงแม้ผมจะชอบกวี แต่ผมก็ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้กวีกับเดือนต้องผิดใจกันหรอกนะ


“แต่ว่าเรื่องกินข้าว...”


“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก เอาไว้วันหลังก็ได้” พอได้ยินแบบนี้กวีที่กำลังทำหน้าลำบากใจจึงค่อยยิ้มออกมาได้


“ถ้างั้นวันนี้เราขอไปหาเดือนก่อนแล้วกัน ส่วนวันหลังเดี๋ยวเราจะเลี้ยงข้าวไถ่โทษพายเอง” กวีโบกมือลาด้วยท่าทางสำนึกผิด ก่อนจะหมุนตัวกลับแล้ววิ่งเข้าไปในม. ผมที่ยังอาลัยอาวรณ์เลยหมุนตัวกลับตามไปมอง แต่ก็ต้องชะงักไปซะก่อนเพราะเจอเพลิงยืนกอดอกอยู่ที่ด้านหลังห่างออกไปไม่ไกล


นี่เพลิงมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่! แล้วมายืนทำอะไรตรงนี้!


“พะ...พะ...เพลิง” ผมเกิดอาการติดอ่าง ร่างกายสั่นเป็นเจ้าเข้า ส่วนขาสองข้างก็แข็งทื่อจนขยับไปไหนไม่ได้ แม้ว่าเพลิงจะเดินเข้ามาใกล้จนหยุดอยู่ตรงหน้าของผมก็ตาม


“ขอดูหน้ามึงให้ชัดๆ หน่อย” โดยไม่รอให้ผมอนุญาต เพลิงก็กระชากแว่นสายตาหนาเตอะที่ผมสวมอยู่ออกไปทันที ตามด้วยการเชยคางผมขึ้นแล้วเสยผมที่ปรกหน้าปรกตาไปยังด้านหลัง


“เป็นมึงอย่างกูคิดเอาไว้จริงๆ ด้วย” เพลิงแสยะยิ้มออกมา วินาทีที่เห็นรอยยิ้มนั้นผมรู้ทันทีเลยว่าตัวเองกำลังจะชะตาขาด


จอม ‘อัณฑะ’ พาลจับตัวผมได้แล้ว!




Plerng




ไอ้แว่นจืดจางเนี่ยนะคือคนที่ผมตามหา?


ผมถามตัวเองในใจตั้งแต่ที่เห็นไอ้แว่นนี่ที่โรงอาหาร พายที่ผมต้องการตัวต้องเป็นคนสวยแบบนางพญา คาริสม่าแรงจัด แล้วก็เสน่ห์เหลือล้น ไม่ใช่คนจืดจาง มืดมน ไม่เป็นที่จดจำ แถมยังใส่แว่นหนาเตอะเนิร์ดแตกแบบนี้!


ใครก็ได้บอกผมทีว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริง!


รุกแท้ๆ แถมยังหล่อและรวยมากจนขึ้นเป็นตัวท็อปของวงการ (เกย์) อย่างผม แต่ดันหลงไปมีอะไรกับไอ้แว่นจืดจางจนต้องพลิกแผ่นดินตามหา ถ้าหากเรื่องนี้หลุดรอดออกไปผมต้องอับอายขายขี้หน้าเป็นอย่างมาก ชื่อเสีย (ง) ที่สั่งสมมาได้เละไม่เป็นชิ้นดีแน่นอน!


“บอกกูมาว่าชื่อจริงของมึงคืออะไรกันแน่” ผมถามไอ้เนิร์ดแตกที่กำลังตัวสั่นเป็นลูกนก


“พะ...พาย...เราชื่อพาย”


“แล้วทำไมตอนกลางวันมึงถึงบอกว่าตัวเองชื่อพฤกษ์”


“คือ...ระ...เรากลัวนายจะหาเราเจอ”


“แล้วรู้มั้ยว่าทำไมกูต้องตามล่าหาตัวมึง”


“ระ...รู้ นายคิดว่าเราดูถูก...”


“ใช่! มึงดูถูกกู!” ผมพูดขัดขึ้นเพราะรำคาญที่ไอ้แว่นมันพูดตะกุกตะกัก เนิร์ดแตกอย่างเดียวไม่พอยังติดอ่างอีกด้วยรึไง “ถ้าเข้าใจผิดคิดว่ากูเป็นผู้ชายขายน้ำ มึงก็จงทำความเข้าใจซะใหม่ว่ากูไม่ได้ขายเข้าใจมั้ยห้ะ!”


“ขะ...เข้าใจ”


“แล้วถึงกูจะขาย แต่ตัวท็อปอย่างกูมึงคิดได้ยังไงว่าค่าตัวแค่พันห้า เอาจริงๆ ถึงมึงวางเอาไว้ห้าพันกูยังโกรธ!”


“ขะ...ขอโทษ...ละ...แล้วนายอยากได้เท่าไหร่ แต่ตอนนี้เรายังไม่มีให้หรอกนะ คงต้องรอสิ้นเดือนเราถึงจะ...”


“โว้ยยยยยย! หน้ากูเหมือนคนร้อนเงินรึไงวะ!” ให้ตายสิ! ผมขับรถคันละเกือบสามล้าน ตั้งแต่หัวจรดเท้ามีแต่ของแบรนด์เนมทั้งนั้น ไอ้แว่นยังกล้าคิดว่าผมร้อนเงินจนต้องมาไถตังคนอย่างมัน นี่มันมีสมองเอาไว้คั่นหูอย่างเดียวรึไง!


“ละ...แล้วถ้าไม่อยากได้เงินแล้วนายอยากได้อะไร” ตอนแรกที่คิดเอาไว้ พอจับตัวพายได้เมื่อไหร่ผมจะจับมัดแล้วโยนขึ้นเตียงลงโทษให้สาสม แต่พอเจอจริงๆ ผมก็นึกไม่ออกว่าตัวเองจะมีอารมณ์ได้ยังไง ไอ้เนิร์ดแตกนี่คงจะทำให้ผมหดซะมากกว่า


แต่เคยได้ยินมั้ยล่ะว่าความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน เพราะงั้นลองดูสักตั้งก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย


“กูอยากได้มึง”


“นายหมายถึง?”


“ก็เอามึงยังไงเล่า!” ไอ้แว่นนี่มันเด็กเนิร์ดหรือปัญญาอ่อนกันแน่วะ!


“หา! ถ้าเป็นเรื่องนั้นเราไม่ยอมหรอกนะ!” พายเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แถมยังผลักที่แผ่นอกของผมออกไปอีกต่างหาก


“อย่ามาเล่นตัวเลยน่า ตัวท็อปอย่างกูลดตัวลงไปคั่วเด็กเนิร์ดอย่างมึงก็ดีแค่ไหนแล้ว” ทำเป็นทำหน้ารังเกียจกูนะไอ้แว่น หนอย...คิดว่ากูรู้ไม่ทันรึไงว่านั่นมันก็แค่มารยา!


“เราไม่ได้เล่นตัวสักหน่อย แล้วเราก็ไม่เคยขอให้ตัวท็อปอย่างนายลดตัวลงมาหาเราด้วย เราอยู่ของเราเฉยๆ แต่นายนั่นแหละที่เป็นคนมาหาเราเอง” ประโยคที่พูดด้วยเสียงธรรมดา แต่ทำไมมันถึงได้เจ็บเหมือนโดนไม้หน้าสามตีแสกหน้าเลยวะเนี่ย!


“เออ! กูมาหามึงเอง! แต่นั่นมันก็เป็นแผนของมึงไม่ใช่รึไง!”


“แผน?”


“ก็ที่เปลี่ยนลุคไปอ่อยกูที่บาร์ วางเงินไว้พันห้าจนกูต้องเกณฑ์เพื่อนออกตามหา แถมยังจงใจเปลี่ยนชื่อเป็นพฤกษ์ให้เหมือนพี่ชายกูอีก สืบประวัติกูมาอย่างดีเลยนี่ ท่าทางจะชอบกูมากเลยสินะ” คำพูดของผมทำให้พายถึงกับตัวแข็งทื่อ


หึ! ถึงกับอึ้งไปเลยน่ะสิ!


ก็นะ...คนหล่อแถมยังรวยแบบผมใครไม่ชอบก็บ้าแล้ว แต่ผมก็ไม่คิดเลยว่าพายจะชอบผมมากขนาดตามสืบจนรู้เรื่องของไอ้พฤกษ์ เพราะถึงเราจะเป็นแฝดกันแต่ก็เรียนคนละที่ คนรอบตัวที่ม.แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้เพราะผมไม่คิดจะป่าวประกาศ ผมเบื่อพวกที่ชอบถามคำถามประมาณว่าเป็นแฝดแต่ทำไมถึงไม่เหมือนกันเลย


“เอ่อ...เราไม่รู้จะพูดยังไงให้นายไม่โกรธ แต่คือ...เราไม่ได้ชอบนายหรอกนะ” พายพูดขึ้นหลังจากเงียบไปหลายวินาที


“มึงไม่ต้องทำเป็นกลบเกลื่อนแก้เขินที่ถูกจับได้หรอกน่า” ผมส่ายหน้าไปมา คนที่เข้าหาผมมีไม่น้อยเหมือนกันที่ทำตัวเรียกร้องความสนใจแบบนี้ คือกะจะให้ตัวเองแตกต่างเป็นที่จดจำไง แต่เสียใจด้วยนะที่ผมฉลาดก็เลยรู้ทัน


“คือ...เราพูดจริงๆ นะ เราไม่ได้ชอบนายเลยสักนิด ถ้านายไม่เชื่อจะพาเราไปสาบานที่ไหนก็ได้” พายพูดอย่างแน่วแน่แถมยังจ้องเข้ามาในตาของผมอย่างหนักแน่น สายตาแบบนี้ผมสัมผัสได้ถึงความจริงใจไม่มีโกหกถึง 99.99%


แต่เดี๋ยวก่อน ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีอีก 0.01% ที่ไอ้แว่นมันอาจจะโกหกผม!


“ถ้ามึงบอกว่าไม่ได้ชอบกู แล้วเรื่องที่มึงเปลี่ยนลุคเข้าบาร์ ทิ้งเงินไว้พันห้า กับเปลี่ยนชื่อเป็นพฤกษ์ให้เหมือนพี่ชายกู มึงจะอธิบายเรื่องนี้ว่ายังไง”


“ที่เราเปลี่ยนลุคก็เพราะอกหัก วางเงินไว้พันห้าก็ตั้งใจจะช่วยจ่ายค่าห้อง ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อเราก็บอกไปแล้วว่ากลัวนายจะหาเราเจอ ถ้ารู้มาก่อนว่าพี่ชายนายชื่อพฤกษ์เราคงไม่ใช้ชื่อนี้หรอก” พายตอบผมได้ทันทีโดยไม่มีเสียเวลาหยุดคิด


Oh shit! ถ้าอย่างนี้ก็หมายความว่า เรื่องทั้งหมดผมมั่นหน้ามโนไปเองอย่างนั้นเรอะ!


ฟ้าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!


“เท่านี้นายก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วสินะ ถ้างั้นเราขอตัวกลับหอก่อนแล้วกัน” พายพูดจบก็เบี่ยงตัวเดินออกไปไม่สนใจผมใดๆ ทั้งนั้น ขนาดแค่หางตายังไม่มีเหลือบมองมาเลย


พอเจออย่างนี้แล้วใครจะไปยอมวะ! กูน่ะตัวท็อปนะเว่ยไอ้แว่นจืดจาง!


“หยุดเลยไอ้แว่น! มึงยังไปไหนไม่ได้!” ผมเดินไปดักหน้าของพายซึ่งพายก็ทำหน้างงๆ


“มีอะไรงั้นหรอ? อ๋อ นายจะคืนแว่นเราสินะ ขอบใจมาก” พายพูดเองเออเอง แล้วยื่นมือมาหยิบแว่นสายตาที่อยู่ในมือของผมคืนไป จากนั้นก็สวมเข้าที่ใบหน้า “เราไปแล้วนะ”


‘เออ โชคดี’ ถุ้ย! ใครมันจะไปพูดแบบนี้กันวะ!


“กูไม่ได้จะคืนแว่นมึงเว่ยไอ้หน้าจืด! ก็บอกแล้วไงว่ากูจะเอามึง! มึงต้องเป็นเมียกูเข้าใจมั้ย!” ผมคว้าที่ข้อมือของพายเอาไว้ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น


“ปล่อยเรานะ ก็บอกแล้วไงว่าเราไม่ยอม” พายพยายามแกะมือของผมออก แต่แรงเท่ามดป่วยแบบนั้นคงจะทำได้หรอก


“มึงไม่มีสิทธิ์เลือกหรอกนะไอ้แว่น ที่กูพูดมันคือคำสั่ง”


“อัณฑะพาลชัดๆ”


“มึงว่าไงนะ?” พายพูดด้วยเสียงที่เบามากจนผมแทบไม่ได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็พอจะเดาได้ว่าพายต้องด่าผมแน่ๆ


“เราไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย” แถหน้าด้านๆ จนสีข้างถลอกเลยนะไอ้แว่น แต่ก็ช่างเถอะ จะด่าจะสาปแช่งอะไรก็แล้วแต่ผมสนใจที่ไหน


“หอของมึงอยู่แถวนี้ใช่มั้ย พากูไปเดี๋ยวนี้” ผมพูดจบก็ออกแรงลากพายให้เดินตรงไปข้างหน้า แต่ว่าพายก็พยายามขืนตัวเอาไว้อย่างสุดชีวิต


“ใครจะยอมพานายไปกันเล่า” พอได้ยินแบบนี้ผมก็ชักรำคาญเลยหยุดลาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะถอดใจยอมปล่อยพายไปแค่นี้หรอกนะ
“ไม่ยอมกูก็ไม่ว่าอะไร กูไม่เดือดร้อนอยู่แล้วถ้าต้องแสดงหนังสดให้คนอื่นเห็นกลางซอยแบบนี้”


เรื่องที่พูดไปเมื่อกี้แน่นอนว่าผมโกหก ใครมันจะไปใจกล้าบ้าบิ่นเอาท์ดอร์กลางซอยขนาดนั้น ถ้าเป็นที่ระเบียง ในรถ ห้องน้ำสาธารณะ หรือสระว่ายน้ำก็ว่าไปอย่าง แต่ก็รู้สึกว่าพายจะเชื่อจริงจังจนเบิกตากว้าง แถมยังเหงื่อแตกพลั่กและหน้าซีดจนแทบจะเป็นกระดาษ


อะไรวะ นี่ผมดูเป็นพวกบ้ากามเอาได้ทุกที่ทุกเวลาขนาดนั้นเลยรึไง?


“สรุปมึงจะไม่พากูไปใช่มั้ย ได้...งั้นมึงก็มาเป็นเมียกูตรงนี้เลยแล้วกัน!” พูดจบผมก็ก้มหน้าลงไปทำท่าจะจูบพาย ไหนๆ ไอ้แว่นนี่ก็คิดว่าผมเป็นคนแบบนั้นก็แสดงให้สมบทบาทเลยแล้วกัน แต่ก็ดูเหมือนว่าการแสดงที่พึ่งเริ่มจะต้องจบลงแค่นี้


“ยะ...อย่านะ! เรายอมแล้ว...เราจะพานายไปห้องของเราก็ได้!” ไอ้แว่นนี่แม่งขู่ง่ายจริงๆ เว่ย


“หึ! ก็แค่นั้น แล้วก็อย่าตุกติกนะมึง” ผมชี้หน้าคาดโทษ “เออใช่ แต่ก่อนจะไปกูมีเรื่องที่ต้องทำก่อน อยู่นิ่งๆ ล่ะมึง”


พายดูงงๆ แต่ก็ยอมอยู่นิ่งๆ ตามที่ผมบอก ผมเลยจัดการปรับลุคให้พายใหม่ โดยเลื่อนแว่นสายตาอันหนาเตอะขึ้นไปคาดด้านบน พอไม่มีผมที่ปิดหน้าปิดตาค่อยดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้บ้าง ไม่ล่ะ...อันที่จริงต้องบอกว่าสวยมากเลยต่างหาก


ส่วนเสื้อผ้าของพายที่ใส่อย่างถูกระเบียบเป๊ะๆ ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ กระดุม 2 เม็ดบนถูกผมปลดออก แน่นอนว่าชายเสื้อที่สอดอยู่ในกางเกงก็ถูกผมดึงออกมาเช่นกัน


ใครจะยอมให้คนเอาไปเมาท์กันล่ะว่าผมกำลังคั่วอยู่กับไอ้แว่นเนิร์ดแตก!


“เอาล่ะเรียบร้อย” ผมมองฝีมือการแปลงโฉมของตัวเองอย่างชื่นชม พายที่เห็นตรงหน้ากลายเป็นหนุ่มหน้าสวยเสน่ห์เหลือร้ายไปซะแล้ว


แหม่...พอเห็นอย่างนี้ภาพคืนนั้นที่ผมฟัดกับพายอย่างสนุกสุดเหวี่ยงก็ย้อนคืนมา ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากกินพายตรงหน้าจนแทบทนไม่ไหว


ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหาย ถึงห้องเมื่อไหร่จะเลียให้ล้มตั้งแต่หน้าประตูเลยคอยดูสิ!


2bc


 o15 เฮลโหลววววว Rabid หัวใจคลั่งรัก ตอนที่ 2 ก็จบลงไปแล้วค่า เชื่อว่าพออ่านจบ 99.99% ต้องหมั่นไส้อีตาเพลิงผู้มั่นหน้าเป็นอย่างมาก กินอะไรเข้าไปทำไมมันถึงได้มั่นหน้ามั่นโหนกขนาดนี้ 55555  :laugh:
ส่วนน้องพายคนดียังไม่พ้นวันก็ถูกไอ้ ‘อัณฑะพาล’ จับได้ซะแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ ยังถูกมันบังคับให้พาขึ้นห้องอีกต่างหาก  :katai1: แล้วอย่างนี้พายจะมีโอกาสรอดมั้ยนะ? หรือจะถูกอีตาเพลิงจับกินเรียบร้อยโรงเรียนอัณฑะพาล? ยังไงก็มาลุ้นกันตอนหน้านะคะ อีก 3 วันหรือก็คือวันพฤหัสค่ำๆหรือดึกๆเจอกันแน่นอนค่า รักทุกคนนะคะ กอดดดดด  :กอด1:
ปล.เนื่องจากยังมีนักอ่านไม่เกทอีกมาก ทั้งจากคอมเมนท์ และอินบ็อกซ์ในเพจที่ทักท้วงเข้ามา คือเราขออธิบายคำนี้อีกครั้งนะคะว่าเราตั้งใจจ้า เป็นการเอาคำว่า ‘อัณฑะ’ กับ ‘อันธพาล’ มารวมกัน ซึ่งก็ตรงกับคาเรคเตอร์อีตาเพลิงคนหื่น คนพาล คนเกรี้ยวกราดมากๆจ้า  :teach:
(30 เม.ย. 61)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-05-2018 12:33:24 โดย Sameejaejung »

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เพลิงจะทำอะไรพายหรือเปล่า
อย่ารุนแรงกับพายนะ

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตอนทำตาเหลือก จมูกบาน ปากเบี้ยวถึงกับหลุดขำ ทำไงเนี่ย รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เอาแล้ว เพลิงจับได้แล้ว จะเป็นยังไงต่อไปล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โชคดีนะพาย ชีวิตต่อไปวุ่นวายแน่ๆ555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด