8
โรงเรียนมัธยมมีระดับภายในห้องประชุมขนาดใหญ่กำลังครึกครื้นไปด้วยผู้ปกครองมากหน้าหลายตาที่มารวมตัวกันเพื่อลูกหลานของตัวเอง กลุ่มนักเรียนอายุ 15 เข้าไปตรวจร่างกายในห้องกั้นทีละคน หนึ่งในนั้นมีเด็กสาวใบหน้าน่ารักที่กำลังมองซ้ายมองขวาอย่างเป็นกังวล สลับจ้องมือถือในมือที่มีข้อความสั้นๆ ว่า
‘ใกล้ถึงแล้ว’ เพราะยังไม่ถึงคิวเลยมีเวลายืนจับกลุ่มคุย เพื่อนร่วมชั้นใบหน้ามีเค้าความสวยคมส่งเสียงทักคนดังประจำโรงเรียน
“อ้าวอลิส ผู้ปกครองเธอยังไม่มาอีกเหรอ” น้ำเสียงเหมือนเป็นห่วง แต่แววตาเยาะเย้ยนั่นไม่ปิดบังเลยสักนิด อลิสเพียงแค่ปรายตามองแล้วเมินเสีย คนแบบนี้พูดไปก็เปลืองน้ำลาย แม่สอนไว้ว่าหมาเห่าอย่าไปตอบโต้เพราะเราไม่ใช่น้องหมา
“น่าสงสารเนาะ ครอบครัวมีฐานะ แต่ไม่มีเวลา มิน่าถึงเป็นเด็กขาดความอบอุ่น ต้องการให้ใครๆ สนใจ” พูดจบก็หัวเราะคิกคักกับเพื่อนตัวเองเหมือนนางร้ายเกรดต่ำ อลิสลอบเบ้ปากมองบน
“เข้าไปตรวจมาแล้ว?” สาวน้อยถามห้วนๆ ที่พักหลังชักติดนิสัยส่วนนี้มาจากพ่อจอมพูดน้อย ผิดกับแม่และพี่ชายที่ฝอยจนน้ำเกือบท่วมบ้าน
“ยัง แต่ฉันมั่นใจว่ายังไงคนระดับฉันต้องเป็นอัลฟ่า ส่วนเธอ!” ยกนิ้วชี้หน้ามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “เป็นได้แค่โอเมก้า เหอะ!” สะบัดหน้าเชิดให้อลิสนับหนึ่งถึงร้อยในใจ นึกขอบคุณตัวเองที่ได้นิสัยพ่อมาจึงใจเย็น หากเป็นแม่กับพี่ชาย...ไม่อยากนึกถึงเลย
“จะเพศไหนก็ไม่สำคัญ ขอแค่ทำตัวให้มีคุณค่าก็พอไม่คิดแบบนั้นเหรอเบล” ยิ้มถามโดยไม่หันมองเพราะกำลังส่งข้อความในมือถือ
‘ไม่ต้องมาหรอกค่ะ เดี๋ยวได้รับผลอลิสจะเอาไปให้ที่บ้านเอง ที่นี่คนเยอะจะตาย’ อีกฝ่ายส่งกลับมาทันที
‘ได้ยังไงกัน วันสำคัญก็ต้องไปสิ’ อ่านแล้วถอนหายใจแววตาฉายความเป็นห่วง แต่เหมือนเพื่อนร่วมโลกจะเข้าใจผิดไปอีกอย่าง
“สมน้ำหน้า ไม่มีใครมาสินะ ถ้าเธอเสียใจจะให้ยืมคนใช้ที่บ้านฉันก็ได้นะ พอดีมากันเยอะ” ผายมือไปทางคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนโดดเด่นจนถึงเมื่อครู่ เพราะตอนนี้สายตาทุกคนกำลังมุ่งไปยังจุดเดียวกัน
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อปนสวยกับเสื้อผ้าเนื้อดีที่ดูสบายๆ แต่ดูแล้วอบอุ่นด้วยสเวตเตอร์สีเทาอ่อน ดวงตาสีม่วงเปี่ยมเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใคร ผิวกายผุดผ่องดูอิ่มเอมไม่อวบและไม่ผอมจนเกินไป ท่วงท่าการเดินดูมั่นใจและสง่างามในที โดยรวมแล้วดูดีจนไร้ที่ติ ยิ่งพอเดินผ่านกลุ่มผู้ปกครอง เหล่าอัลฟ่าหรือแม้แต่โอเมก้ายังเหลียวมอง กลิ่นหอมโรยรินที่พัดผ่านช่างดึงดูดและชวนผ่อนคลายน่าเข้าหา
“อลิสรอนานรึเปล่า โทษทีนะเจ้าหนูที่บ้านงอแง กว่าจะกล่อมนอนได้เสียเวลาน่าดู” พอดวงตาคู่นั้นเห็นลูกสาวก็โผเข้ามาหา กอดลูบหัวแสดงความรักใคร่จนเด็กหลายคนพากันอิจฉาไม่เว้นกระทั่งเบล
“รอนานไม่นานไม่สำคัญหรอกค่ะ แต่แม่ไม่น่ามาเลย อลิสเป็นห่วง” เด็กสาวเปลี่ยนร่างเป็นแมวน้อยกอดอ้อนแม่ที่ตัวสูงกว่า แม้อีกฝ่ายจะเป็นโอเมก้า ถึงงั้นก็ยังสูงสง่าไม่แพ้ใคร ควงออกงานที่ไหนพ่อยืดแล้วยืดอีกจนพี่ชายหมั่นไส้
“จะไม่ให้มาได้ยังไง วันสำคัญลูกทั้งที แล้วนี่ใกล้ถึงคิวรึยัง” ถามพลางกวาดตามองสำรวจรอบกาย นึกหัวเราะเยาะในใจ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่ามองลูกสาวสุดที่รักของฉันยังไง เลยจงใจเปิดตัวซะโดดเด่นขนาดนี้ ไม่ติดว่าจวนตัวจะเตรียมขบวนพาเหรดมาให้รู้แล้วรู้รอด
อลิสผู้ไม่รู้ว่าแม่ร้าย หรือความรักทำให้คนตาบอดมองแม่เป็นโอเมก้าผู้แสนดีเสมอเอ่ยตอบเสียงใส
“อีกพักใหญ่เลยค่ะ พอดีเลขที่หนูได้อยู่ท้ายๆ” สองแม่ลูกคุยกันเบิกบาน คนอื่นเป็นได้เพียงเศษธุลี กระทั่งเบลยังไม่มีจังหวะแทรกเพราะถูกรุ่นใหญ่ดักเสียทุกทาง จะโผล่งใส่ก็ไม่กล้า แม่ของอลิสคนนี้ช่างเป็นโอเมก้าที่ชวนให้รู้สึกเกรงใจและสูงส่งจริงๆ
จนเริ่มเกิดเสียงซุบซิบเป็นจุดๆ
“นั่นใช่คุณอลัน เซอร์คอนรึเปล่า”
“ที่ว่าเป็นภรรยาของคุณเดวิด โฮราทิโอ้น่ะเหรอ”
“ฉันว่าต้องใช่แน่ๆ ดูๆ ไปลูกสาวมีเค้าโอเมก้าคนนี้ซะเยอะ มิน่าถึงสวยน่ารักขนาดนี้”
“พ่อแม่หน้าตาดีมีฐานะทั้งคู่ ลูกจะเป็นที่จับตามองก็ไม่แปลก”
บทสนาด้านบวกของบรรดาแม่ๆ ในงานอลันยอมรับฟัง ส่วนด้านลบปล่อยเบลอไม่สนใจให้รกสมอง
“เมื่อกี้ได้กลิ่นรึเปล่า เป็นโอเมก้าที่มีกลิ่นเฉพาะ หอมมากเลย”
“ได้กลิ่นสิ ฉันยังไม่ได้จมูกบอด ขนาดแต่งงานมีลูกแล้วยังดูอ่อนเยาว์ น่าอิจฉาไอ้โฮราทิโอ้ชะมัด”
“ใช่ น่าเสียดาย ถ้าฉันเจอก่อนนะ...หึ!”
“โดนกัดคอไปแล้วนิ ช่วยไม่ได้ ไม่งั้นคงน่าลองสักตั้ง”
บทสนทนาฝ่ายอัลฟ่าเรียกสายตาคมกริบจากสาวน้อย อลิสจดจำใบหน้าผู้ชายเหล่านี้ให้ขึ้นใจ งานนี้กลับไปต้องรายงานพ่อกับพี่ชายสักหน่อย แต่พอแม่ชวนคุยก็เปลี่ยนมาเป็นนางฟ้าตัวน้อยตามเดิม อลันย่อมมองออก หัวเราะในคอแต่ไม่คิดห้าม เพราะอลันเกลียดพวกที่ดูถูกโอเมก้าหรือเห็นโอเมก้าเป็นเพียงเบี้ยล่างมากที่สุด
“แม่จะกลับไปก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวอลิสเอาผลไปให้ที่บ้าน” สาวน้อยเว้าวอนแต่ผมส่ายหัว
“ไม่ต้องห่วงหรอก ระดับนี้สบายมาก รับประกันด้วยกระสอบทรายที่ชื่อเดวิดเลย” ผมหัวเราะลูบหัวลูกสาวให้เธอวางใจ
“แต่ว่า...”
“ไม่ต้องคิดมาก ฉันแข็งแรงดี” ผมตัดบท อลิสรู้ดีว่าผมใจแข็งแค่ไหนสุดท้ายเลยเลิกกล่อมเปลี่ยนเป็นนั่งคุยกันจนกระทั่งถึงเวลา เหมือนจะเป็นคิวใกล้ๆ กับเด็กที่ยืนคุยกับอลิสก่อนผมจะมาซะด้วย อีกฝ่ายออกมาหน้าซีดเซียวเหมือนจะเป็นลม ส่วนอลิสดูไม่สนใจผลในมือสักนิด ยิ้มกว้างเข้ามาหาผม พากันจูงมือไปคุยกับครูประจำชั้น
นี่เป็นมาตรการของโรงเรียนนี้ พอเด็กอายุครบสิบห้าปี จะมีคนของโรงพยาบาลที่เชื่อถือได้มาตรวจร่างกายเบื้องต้นว่าเป็นเพศไหน พอผลออกก็จะต้องเข้าไปพบกับครูประจำชั้นเพื่อพูดคุยกันเรื่องวิธีดูแลเด็กต่อไป ในกรณีของเบต้าก็สบายหน่อย อัลฟ่าเองก็ไม่มีอะไรมาก ที่จะเยอะมีแต่โอเมก้านี่แหละ
อย่างว่า การดูแลเด็กที่ดีที่สุดคือ การร่วมมือกันระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครองและตัวเด็กเอง ส่วนผลของอลิสนั้น...
“ดูจากผลตรวจแล้วยินดีด้วยนะคะ อลิสเป็นอัลฟ่า เท่านี้คุณแม่ก็สบายใจได้ แต่อาจจะต้องระวังนิดหน่อยเรื่องการควบคุมตัวเองกับเพื่อนในห้องที่เป็นโอเมก้า” คุณครูยิ้มบาง ดูตาพราวระยับแปลกๆ เมื่อเห็นผม ถ้านับเรื่องการควบคุมยังถือว่าอ่อนหัด แต่เอาเถอะ เรื่องการสอนอาจจะไม่มีปัญหาก็ได้
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ ขอบคุณคุณครูที่ช่วยดูแลลูกสาวผม ยังไงหลังจากนี้ก็ฝากด้วยนะครับ” รอยยิ้มการค้าถูกดึงมาใช้ ครูเบต้าใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อย พยักหน้ารับคำอย่างเต็มใจ ก่อนพวกเราจะกลับบ้าน วันนี้มีตรวจร่างกายแค่ครึ่งวันเช้าและปล่อยกลับเลยเพื่อไปปรับตัวทำความเข้าใจกับเพศของตัวเอง
จังหวะที่เดินสวนเด็กที่ชื่อเบล ผมได้ยินคำว่าโอเมก้า พอเหล่มองลูกสาวก็ไม่เห็นมีท่าทีอะไร รอจนกระทั่งขึ้นรถนั่นแหละผมถึงได้ถาม
“ลูกไม่ดีใจเหรอที่เป็นอัลฟ่า” ถึงผมจะคิดว่าเพศไหนก็ไม่สำคัญ โอเมก้าก็สตรองได้ แต่กลไกทางธรรมชาติ ยังไงอัลฟ่าก็อยู่จุดบนสุดของพีระมิดตรงข้ามกับโอเมก้าอยู่ดี
อลิสทิ้งตัวนอนหนุนตักผม “ดีใจรึเปล่าอลิสเองก็ไม่รู้ สำหรับอลิสจะเพศไหนก็ไม่สำคัญ ในเมื่ออลิสยังมีแม่ มีพี่อเล็กซ์กับคุณพ่ออยู่ อลิสมั่นใจว่าต่อให้เป็นโอเมก้าก็ไม่เป็นอะไรแน่นอน”
ผมยิ้มให้กับความคิดของลูกสาว ก้มลงไปจุ๊บหน้าผากแทนรางวัลหนึ่งที พอถึงบ้านก็จูงมือกันเข้าไปเป็นบรรยากาศแสนสุขระหว่างแม่ลูกที่ไม่มีตัวป่วนอย่างเจ้าลูกชายคนโต แต่มีตัวป่วนคนใหม่แทน...
“นายท่านอลันค่ะ คุณหนูดาวิลตื่นแล้วค่ะ” อดีตพี่เลี้ยงของอลิส ปัจจุบันเป็นพี่เลี้ยงสมาชิกใหม่ของบ้าน เจ้าหนูดาวิเอล ชื่อสุดแสนไฮโซนี้แน่นอนว่าเดวิดเป็นคนตั้ง เพราะผมใช้เป็นหนึ่งในข้อเสนอให้เดวิดยอมมีลูกอีกครั้ง
“ลอร่าดูแลก่อนนะ ฉันขอไปอาบน้ำก่อน” ออกไปข้างนอกมา ถึงจะไม่นานแต่ก็เจอมลพิษต้องอาบน้ำให้สะอาดก่อนเข้าไปเป็นแม่ลูกอ่อนต่อ อีกฝ่ายโค้งรับกลับไปดูแลทายาทคนใหม่ ส่วนผมกับอลิสพากันไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วเข้าไปหาเจ้าหนูดาวิลในห้องเด็กอ่อนที่อากาศปลอดโปร่ง
เจ้าตัวเล็กจะอยู่ที่นี่แค่ช่วงกลางวันเท่านั้น พอกลางคืนผมจะพาไปนอนที่เปลเล็กในห้องใหญ่ จะได้ดูแลง่ายๆ ยังไม่ทันเปิดประตูเข้าไป เสียงร้องไห้ก็ดังออกมาซะแล้ว ผมตรงเข้าไปรับเด็กทารกอายุหนึ่งเดือนเข้าสู่อ้อมแขน
“โอ๋ๆ หิวนมแล้วเหรอ” ผมเปลี่ยนเสื้อมาเป็นแบบติดกระดุมเพื่อง่ายต่อการให้นม สาเหตุที่ใส่สเวตเตอร์ไปหาอลิสก็เพราะสาเหตุนี้ด้วย พอท้องคลอดลูกแมวหน้าอกก็นูนหน่อยๆ เลยต้องพลางไม่งั้นจะดูเด่นเกินไป พอเจ้าตัวเล็กหาตำแหน่งได้ก็เริ่มดูดด้วยความหิวโดยมีพี่สาวนั่งอมยิ้มมอง
“ดาวิลน่ารักจัง พี่อเล็กซ์ตอนเด็กเป็นแบบนี้รึเปล่าคะ” นึกเทียบระหว่างพี่ชายตัวสูงใหญ่แผ่กลิ่นอายอัลฟ่าไม่แพ้คนเป็นพ่อกลายเป็นเด็กน้อยน่าชัง
ผมหัวเราะ “ไม่เหมือนหรอก เพราะอเล็กซ์ร้ายกาจกว่านี้เยอะ พอน้ำนมออกมาไม่พอก็ใช้เหงือกขบจนแม่เจ็บ เดวิดเกือบจะจับมาตีก้น” ผมนึกย้อนกลับไปในสมัยนั้น ด้วยความที่ผมมีลูกเร็วเกินไป พวกเราอายุแค่สิบห้าเวลาเลี้ยงอเล็กซ์ค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควร ถึงจะมีแม่ของเดวิดกับแม่นมคอยให้คำแนะนำก็เถอะ
ส่วนเจ้าหนูดาวิล พอไม่อิ่มก็เริ่มร้องโยเย ผมเลยเปลี่ยนให้ดูดอีกข้าง โอเมก้าผู้ชายนั้นไม่มีน้ำนมมากเหมือนโอเมก้าเพศหญิง เป็นเพียงสารอาหารสำคัญสำหรับเด็กน้อยเท่านั้นจึงไม่พออิ่ม หลังดูดสองข้างเสร็จ อลิสรู้ความรับขวดนมจากพี่เลี้ยงลอร่ามาป้อนน้องในขณะที่ผมติดกระดุมเสื้อ
มีลูกสาวก็ดีแบบนี้แหละ ช่วยเลี้ยงน้องได้ ส่วนอเล็กซ์...ผมไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมีความอดทนพออยู่นิ่งๆ ประคองขวดนมนานๆ ได้ แล้วยังต้องคอยสังเกตตลอดว่าสำลักรึเปล่า งานละเอียดอ่อนแบบนี้คงยากเกินไปสำหรับคนที่อยู่นิ่งๆ ไม่เป็นอย่างลูกชายคนโต
หลังเจ้าตัวเล็กอิ่ม ผมก็จัดการอุ้มให้เรอเพื่อไล่ลมที่เผลอกินเข้าไปตอนดูดนม แต่ดันไม่เรอออกมาอย่างเดียวน่ะสิ แหวะนมด้วยตามธรรมชาติของเด็ก ผมยิ้มๆ จับผ้าอ้อมเช็ดปากเบาๆ แล้วพานอนบนเบาะที่มีหมอนกั้นรอบทิศเพื่อไม่ให้กลิ้งหลุดไปทางไหน
สาเหตุที่ผมเลือกเป็นเบาะแทนที่จะให้นอนเปลเพราะแบบนี้จะได้คอยดูแลใกล้ๆ อย่างมอบไออุ่นให้จะได้หลับสบาย อลิสเองก็มานอนด้วย สาวน้อยคนนี้ติดน้องมาก แทบจะใช้เวลาทั้งหมดขลุกอยู่กับน้อง คอยขอให้ผมสอนวิธีเลี้ยงเด็ก เห็นว่าเผื่อได้เลี้ยงหลาน ลูกของพี่อเล็กซ์ในอนาคต ผมนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เลย ให้ผมมีลูกอีกคนยังง่ายกว่าอเล็กซ์มีหลานให้อุ้ม
ไม่ใช่อเล็กซ์ไร้น้ำยาหรือคิดจะครองคานนะ เจ้าตัวก็มีแฟนบ้างเพราะความฝันของเจ้าตัวคือการได้สร้างครอบครัวแบบเดียวกับพ่อแม่ แต่ส่วนใหญ่คบไปไม่เท่าไหร่ก็เกิดปัญหา เดี๋ยวคบเดี๋ยวเลิกเป็นวงจรอุบาท
ผมกำลังจะเคลิ้มๆ หลับตามลูก เพราะเมื่อคืนเจ้าตัวน้อยโยเยจนผมกับเดวิดแทบไม่ได้นอน ส่วนอลิสเองก็น่าจะตื่นเต้นเรื่องการตรวจร่างกายจนนอนไม่หลับ ตอนนี้เลยหลับแข่งน้องไปแล้ว
จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ แบบที่ต้องพยายามฟังถึงจะได้ยิน ผมพยักหน้าให้ลอร่าไปเปิด พบเมดอีกคนมารายงาน
“ขอโทษที่มารบกวนนะคะนายท่านอลัน ตอนนี้มีแขกมาขอพบ จะให้ดิฉันเชิญเข้ามามั้ยคะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาหวิว คงกลัวเด็กๆ ตื่น
“พอจะรู้มั้ยว่ามาด้วยเรื่องอะไร” ผมถาม ถ้ามาด้วยเรื่องไร้สาระจะได้บอกให้ไล่กลับไปซะ แต่ถ้าเป็นธุระด่วนก็อีกเรื่อง
“แขกคนนั้นบอกว่า อยากพบนายท่านอลันด้วยเรื่องลูกในท้องค่ะ”
ผมหรี่ตาครุ่นคิด หรือหลานผมลูกของอเล็กซ์จะมาเสิร์ฟถึงที่? เหลือบมองหนูน้อยดาวิลกับสาวน้อยอลิส ทั้งคู่หลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ ผมจึงค่อยๆ ขยับตัวออก หยิบหมอนมากั้นตำแหน่งตัวเองแล้วหันไปสั่งเหล่าเมด
“ลอร่าฝากดูคุณหนูด้วยนะ...ลินดา พาแขกมารอที่ห้องรับรองอีกสักพักฉันจะลงไป” ทั้งสองรับคำทำตามที่สั่ง ผมเดินออกมาส่งข้อความหาเจ้าลูกชายว่าแกไปทำใครท้องรีบกลับมาจัดการซะ ก่อนจะเปลี่ยนไปส่งข้อความสั่งให้เดวิดแวะซื้อนมผงกับผ้าอ้อมมาด้วย เพราะที่มีจวนจะหมดแล้ว
ถามว่าทำไมผมถึงไม่ให้เมดออกไปซื้อให้? ก็ผมพอใจอะ อยากเห็นภาพเดวิดถือของพวกนั้นกลับบ้าน อีกอย่างเป็นการประกาศไปในตัวว่าคุณอัลฟ่าสุดหล่อบ้านรวยกำลังมีลูกอ่อน คนคงไม่แปลกใจกันหรอกที่อัลฟ่าอายุขนาดนั้นยังมีลูกเล็กได้ เพราะช่วงอายุของอัลฟ่ายาวกว่าโอเมก้า ดังนั้นตอนนี้เดวิดยังหล่อเฟี้ยวเหมือนเดิม เดวิดเองก็คิดว่าแบบนี้ดีเหมือนกัน ผมจะได้อยู่กับเขาไปนานๆ
ระหว่างที่ให้แขกรอเพื่อทดสอบความอดทน ผมจะเล่าเรื่องของครอบครัวเราให้ฟังแล้วกัน คนที่รู้ว่าผมเป็นภรรยาคนใหม่มีแค่วงในแบบโคตรจะในเท่านั้น เพราะตอนผมตายเดวิดทำใจไม่ได้ จึงทำพิธีเงียบๆ คนทั่วไปจึงยังไม่รู้เรื่อง พอเห็นผมเลยบอกว่าหน้าอ่อนกว่าวัยจนอิจฉา ส่วนพวกแวดวงธุรกิจด้วยกันย่อมได้ยินข่าวคราวกันบ้าง ซึ่งพวกนั้นก็ไม่มีท่าทีอะไร อัลฟ่าไม่จำเป็นต้องแต่งงานมีภรรยาคนเดียว
พอมันไม่ใช่ข่าวด้านลบ จึงไม่มีคนสนใจเนื่องจากมันเอามาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ แถมพวกลูกๆ เองก็ปฏิบัติตัวกับผมอย่างเป็นธรรมชาติ ชีวิตเราเลยสงบสุขเรื่อยมา
ตอนนี้อเล็กซ์เรียนจบแล้วช่วยเดวิดบริหารบริษัทอยู่ ส่วนกิจการทางฝั่งเซอร์คอนต้องให้คนรักของหมอแมทธิวดูแลต่อไปจนกว่าดาวิลจะโตพอให้ผมกลับไปจัดการดูแลอีกครั้ง เห็นแบบนี้ทางนั้นมีลูกแล้วนะ แถมเป็นแฝดอย่างที่เคยลั่นวาจาไว้ แต่เสียใจด้วย ยังไงก็แพ้ผมอยู่ดี ทางนี้สามคนแล้วฮ่าๆ
เอาล่ะ เหมือนจะได้เวลาแล้ว ผมในชุดเดิมมีกลิ่นนมนี่แหละ เดินลงไปชั้นล่างเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งมองซ้ายมองขวาสำรวจข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงในบ้านด้วยตาเป็นประกาย เจอแบบนี้ไล่กลับไปเลยดีมั้ยนะ...
“คุณอลัน!” สังเกตเห็นผมปุ๊บก็ร้องเรียกทันที ดูท่าจะทำการบ้านมาดี ไม่เข้าใจผิดว่าผมเป็นลูกอีกคนของเดวิดหรือคนใช้ในบ้าน หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะภาพครอบครัวขนาดใหญ่ที่แขวนโชว์เด่นเป็นสง่า เป็นภาพที่เดวิดจ้างนักวาดมีชื่อมาวาดให้ใหม่เมื่อสิบสองปีก่อน เดี๋ยวรออีกปีสองปีคงได้วาดใหม่อีกรอบ เพราะตอนนี้เรามีสมาชิกเพิ่ม
“เข้าประเด็นเลยแล้วกัน เธอมาเพราะเด็กในท้องเป็นลูกของอเล็กซ์ใช่มั้ย” ยืนกอดอกพูด ไม่คิดจะนั่งเพราะผมมั่นใจว่ารอบนี้ใช้เวลาไม่นาน
สีหน้าอีกฝ่ายดูโล่งอก แววตาฉายความยินดี คงกำลังคิดว่าผมคุยง่ายสินะ เดี๋ยวรู้กันสาวน้อย
“ใช่ค่ะ ฉันชื่อ...”
“ไม่จำเป็นต้องบอกชื่อ” ผมไม่คิดจำให้รกสมอง แค่คนผ่านมาแล้วผ่านไป “ถ้าเธอมั่นใจว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของอเล็กซ์จริง ฉันจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ รวมถึงค่าทำคลอดด้วย”
“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจ!” หญิงสาวบีบน้ำตาแสดงความตื้นตัน ผมกลอกตาแบบให้เห็นจะๆ ไม่คิดหลบ
“อย่าเพิ่งดีใจไป เมื่อเด็กคลอดออกมาต้องตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลของเราว่าเป็นลูกของอเล็กซ์จริงรึเปล่า ถ้าจริงค่อยคุยเรื่องการเลี้ยงดูหลังจากนั้น แต่ถ้าไม่...” ผมเว้นช่วงแย้มรอยยิ้มเย็นเยียบ “เธอต้องจ่ายเงินทั้งหมดคืนมารวมถึงค่าปรับที่ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลโฮราทิโอ้เสียหาย ว่ายังไงละ จะรับข้อเสนอมั้ย ถ้ารับฉันจะได้โทรเรียกทนายร่างสัญญา” โบกโทรศัพท์ในมือไปมา มองอีกฝ่ายที่หน้าซีดเป็นกระดาษ แหงล่ะ เด็กนั่นต้องไม่ใช่ลูกของอเล็กซ์แน่นอน
ผมไม่ได้เข้าข้างลูกชายตัวเองนะ แต่ผมมีหูมีตาอยู่ทุกที อเล็กซ์ทำอะไรผมรู้หมดเพียงแค่ไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง
“ฉันให้เวลาเธอกลับไปคิด ลินดาส่งแขก” สั่งเมดโดยไม่คิดจะเหลียวแล เจ้าเบต้าคนนี้คิดจะเป็นหนูตกถังข้าวสารเรอะ ฝันไปเถอะ ฉันนี่แหละจะทำให้กลายเป็นหนูตกถังน้ำมันเอาให้สำลักตายไปเลย จะแถมจุดไฟเผาให้พร้อมจะได้ไม่เป็นมลพิษกับโลก
ลินดาจัดการได้อย่างรวดเร็ว เข้าไปผายมือเชิญเธอออก พอเธอคนนั้นคิดจะเสียงดัง เมดคนเก่งก็จัดการปิดปากและลากตัวออกไปได้อย่างง่ายดายด้วยรอยยิ้มสุภาพสวนการกระทำ
“กรุณางดใช้เสียงนะคะ เพาะเดี๋ยวคุณหนูจะตื่น” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนทั้งคู่จะหายออกจากบ้านไป ผมว่าจะกลับไปดูเด็กๆ สักหน่อย เจ้าตัวต้นเหตุก็โผล่มา
“แม่!”
เห็นหน้าลูกชายผมนั่งเลยครับ ไม่ใช่อะไร ดูท่าจะคุยกันยาวไม่ได้ขึ้นแล้ว ขอนั่งแล้วกันเมื่อยขา
“โดดงานกลับมาเรอะ เดี๋ยวก็โดนเดวิดหักเงินเดือน” เลิกคิ้วมองลูกชายที่ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มหล่ออายุขึ้นเลขสาม ก็นะ ร่างนี้ของผมอายุพอๆ กับลูกชายนี่นา
“ผมเปล่าโดด แค่แบ่งงานให้พ่อทำเท่านั้นเอง ผมขอโทษนะแม่ที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นหลุดมา เธอทำอะไรแม่รึเปล่า น้องๆ ล่ะเป็นยังไงบ้าง ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอจริงๆ ถึงจะเคยนอนด้วยกันแต่ก็แค่ครั้งเดียว และผมใส่ถุงยาง และจัดฉีดยาคุมยังไงก็ไม่ท้องกับผมแน่นอน” มาถึงรัวเป็นชุดจนผมหัวหมุน ยกมือเบรกลูกชาย พูดมากเหมือนใครกันเนี่ย
“น้องๆ หลับอยู่ข้างบนอย่าเสียงดัง ส่วนเรื่องลูกไม่ได้ทำน่ะฉันรู้แล้ว แม่แกไม่ได้โง่นะเฟ้ย แต่ทีหลังหัดจัดการให้เรียบร้อยด้วย ไม่งั้นฉันจะตอนมันทิ้ง!” ถลึงตาใส่อย่างดุดัน ลูกชายคอหดรีบยกมือปิดเป้า คนนอกเห็นคงอยากควักลูกตาทิ้งที่อัลฟ่าระดับสูงหมดมาดแบบนี้
“เข้าใจแล้วครับ” ลูกชายตัวหดเหลือสองนิ้ว ขยับเข้ามาบีบนวดประจบจนน่าถีบ ก่อนเจ้าตัวจะเปลี่ยนมาดมฟุดฟิด
“กลิ่นนม? แม่เพิ่งให้นมน้องมาเหรอ แย่จริง! ผมน่าจะมาให้เร็วกว่านี้จะได้ดูด้วย”
“ตอนนั้นทำงานไม่ใช่รึไง อย่ามาหาเรื่องอู้” บิดหูไปหนึ่งที เจ้าตัวร้องโอ๊ยลูบหูตัวเองป้อยๆ รีบเปลี่ยนเรื่องทันใด
“แล้ววันนี้ผลการตรวจร่างกายของอลิสเป็นยังไงบ้างครับ”
“เป็นอัลฟ่าอย่างที่พวกเราคิดไว้นั่นแหละ” ความจริงเรื่องเพศไหนนี่พอจะมองกันออกตั้งแต่อายุสิบสองแล้ว อัลฟ่ามีสัญชาตญาณดี ตัวโอเมก้าเองก็มองได้ว่าเหมือนตัวเองรึเปล่า ส่วนเบต้าไม่มีทางเกิดในครอบครัวเราแน่นอน แต่ก็นะ...สำหรับคนอื่น บางกรณีเหนือความคาดหมาย พวกที่คล้ายกับผมคือมีความบกพร่องทางพันธุกรรม หรือไม่ก็มีความเหลื่อมล้ำของเพศจนต้องใช้วิทยาการทางการแพทย์เพื่อช่วยยืนยัน
ผมคุยกับอเล็กซ์ไม่ทันครบห้านาที ก็มีอีกคนโดดงานถือถุงผ้าอ้อมกับนมผงเข้ามาจ้องเขม็งใส่ลูกชาย
“อเล็กซ์กลับไปทำงานซะ อย่าทำตัวเป็นคนไม่รับผิดชอบแบบนี้”
มีหรือลูกชายจะยอม ถึงจะลุกไปรับถุงมาวางบนโต๊ะให้ผมเช็คก็เถอะ
“ทีพ่อล่ะยังหนีงานกลับมาเลย”
“ฉันเคลียร์งานส่วนของตัวเองเสร็จไปหมดแล้ว” ตอบเสียงเรียบขณะลูกชายอ้าปากค้าง เดวิดหัวเราะหึหึในคอ ยกยิ้มมุมปาก “ยังต้องฝึกอีกเยอะเด็กน้อย”
อเล็กซ์ได้แต่มองพ่ออย่างเจ็บใจ สุดท้ายก็ออกรถกลับบริษัทอีกรอบอย่างไม่ยอมแพ้ ผมหยิกแขนเดวิด
“โดดงานมาเหมือนกันยังทำเนียนอีก”
เจ้าตัวดึงผมให้ลุกขึ้นยืนแล้วโอบเอวพาขึ้นชั้นบนพร้อมถุงผ้าอ้อมในมืออีกข้าง
“ผมไม่ได้โดด แค่เอางานกลับมาทำที่บ้านเท่านั้นเอง ขอดูลูกก่อนนะ อลิสเองก็เป็นอัลฟ่าใช่มั้ย”
“ใช่ ไม่รู้ว่าดาวิลจะเป็นโอเมก้ารึเปล่า ทำไมมีลางสังหรณ์ว่าจะเป็นอัลฟ่านะ” เด็กน้อยขนาดนี้เพศยังไม่ชัดเจนหรอก แต่มันเป็นสัญชาตญาณของแม่ที่ผ่านประสบการณ์มีลูกมาแล้วสองคน
“จะเป็นเพศไหนก็ไม่สำคัญ ยังไงซะก็เป็นลูกเรา ผมไปอาบน้ำก่อนนะ คุณกลับไปดูลูกเถอะ” เดวิดก้มลงมาจูบปากผมตามด้วยแก้มก่อนจะผละออกไปเพื่ออาบน้ำ ส่วนผมก็กลับไปดูลูกต่อ ห้องเจ้าตัวเล็กก็ติดกับห้องนอนใหญ่นั่นแหละ
ยังไม่ทันจะก้าวเข้าห้อง เดวิดกลับชะโงกหน้าถามตรงประตูห้องนอน
“คุณเพิ่งให้นมลูก?”
“ใช่ แต่เหมือนมันไม่ค่อยออก ดาวิลเลยงอแง” ผมถอนหายใจ เดวิดยิ้มโผล่มาทั้งตัวคว้าเอวผมเข้าห้องนอน
“มาสิ เดี๋ยวช่วย” เจ้าตัวยิ้มแบบที่ได้เห็นเฉพาะคนในครอบครัว ทีแรกผมก็ลังเล แต่ทำไงได้ น้ำนมไม่ค่อยออกก็ต้องให้สามีช่วยดูด อย่าเพิ่งคิดลึกสิ ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้นหรอก...มั้ง
“ก็ได้ เด็กๆ เพิ่งหลับกว่าจะตื่นก็ตอนมื้อเย็น” และแล้วผมก็เดินตามเดวิดเข้าห้องไป
อะไร? อยากเข้ามาเหรอ?? ไม่อนุญาต ขอปิดประตูล่ะนะ
Fin.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต้องบอกก่อนว่าเป็นตอนพิเศษจากกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในเพจที่ให้คนมาคอมเม้นบอกความรู้สึกกับบรรดาเรื่องสั้นที่ปลาเงินแต่ง เพราะชอบเหตุผลที่เขียนถึงเรื่องนี้ จึงเลือก I'm come back มาแต่ง ถึงอย่างนั้นก็ชอบคอมเม้นของทุกคนนะ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไว้ว่างๆ นึกอยากบิ้วตัวเองจะมาปั่นลงด้วย
เรื่องเกี่ยวกับ Omegaverse หลายคนอ่านอาจจะสงสัยว่าโอเมก้ามีน้ำนมด้วยเหรอ รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ อันนี้ต้องขออธิบายว่า ธีม Omegaverse นั้น
ธีมหลักคือลักษณะเด่นของเพศทั้งสาม อัลฟ่า โอเมก้าและเบต้า ส่วนรายละเอียดในเรื่องเหล่านักเขียนจะเป็นคนเสริมเองเพื่อให้เรื่องสมเหตุสมผลหรือลงตัวกับกับพล็อตตัวเองมากขึ้น ดังนั้นถ้าอ่านแล้วมันไม่ตรงกับเรื่องนี้เรื่องนั้น ไม่ต้องแปลกใจไป ถือว่าเป็นศิลปะการดำเดินเรื่องของนักเขียนท่านนั้นๆ นะ
ยกตัวอย่างที่ปลาเงินเสริมเข้าไป
- ช่วงฮีทไม่มีผลกับสายเลือดเดียวกัน
- โอเมก้ามีน้ำนมเพื่อสารอาหารที่ครบถ้วนสำหรับเด็กทารก แต่ไม่มากพอให้อิ่มต้องใช้นมผงเสริม
- ความบกพร่องของฮอโมนอลัน ที่เกิดใหม่แล้วเข้าช่วงฮีทตอนอายุ18เพราะโดนกระตุ้นด้วยกลิ่นเดวิดที่เป็นคู่แห่งโชคชะตา
- เรื่องช่วงวัยของอัลฟ่าที่เยอะกว่าโอเมก้า เพราะเป็นจ่าฝูงที่แข็งแกร่งแถมไม่ได้ลดทอนสุขภาพร่างกายด้วยการคลอดลูกอย่างโอเมก้า (เหตุผลจริงๆ คือเดี๋ยวเดวิดมันแก่ไป)
- มีอะไรอีก นึกไม่ออกแล้ว ฮ่าๆ