[เรื่องสั้น] I'm come back9 พิเศษ [Omegaverse,เกิดใหม่] UP! 11/8/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] I'm come back9 พิเศษ [Omegaverse,เกิดใหม่] UP! 11/8/60  (อ่าน 30952 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เดวิดคิดอะไรอยู่???  :m28:  +1  :5775:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
สนุกมากเลย ลงชื่อติดตาม :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
8

   โรงพยาบาลสีขาว พื้นเงาลื่นจนแทบใช้แทนกระจกได้ ผู้คนมากมาย เจ้าหน้าที่พยาบาลเดินขวักไขว่ แสงไฟนีออนส่องสว่างและกลิ่นยาฆ่าเชื้อดูจะเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

   ชายคนหนึ่งสวมเสื้อผ้ามีราคา ก้าวเดินอย่างเชื่องช้าทั้งที่ปกติเป็นคนรวดเร็วคล่องแคล่ว ใบหน้าหล่อปนสวยเปี่ยมเสน่ห์แย้มยิ้มบางปฏิเสธนางพยาบาลที่เข้ามาช่วยเหลือ และเดินไปยังห้องเป้าหมายด้วยตัวเอง ประตูติดกระจกแง้มเล็กน้อยพอให้เห็นด้านใน

   ก๊อก ก๊อก

   มือหนึ่งดันหลัง อีกมือเคาะตามมารยาท แต่ดันเปิดเข้าไปโดยไม่ฟังเสียงขานรับ

   “ไงคุณหมอ ว่างพอจะคุยกับผมรึเปล่า” น้ำเสียงหยอกเย้ากับแววตากรุ่มกริ่มที่ทำให้คนฟังถอนหายใจอย่างระอา

   “ฉันไม่พิศวาสโอเมก้าท้องป่องหรอกนะ นั่งก่อนสิ ทำไมเดินมาเองล่ะ ท้องโตขนาดนี้น่าจะนั่งรถเข็นมานะ แล้วเดวิดไปไหน ไม่มีใครมาด้วยเหรอ อเล็กซ์ด้วย ปกติไม่ยอมอยู่ห่างจากนายไม่ใช่รึไง” พอเห็นว่าใครมา แพทย์ประจำห้องรีบลุกขึ้นมาประคองให้นั่งลงบนเก้าอี้นุ่ม พลางหยิบหมอนอิงของตัวเองมาใช้รองหลังให้ ปากถาม ดวงตาสอดส่องหาคนที่กล่าวถึง

   “โว้ว! ฉันควรจะตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะแมท” คนโดนซักหัวเราะรื่นเริง “ดูจากสีหน้านายแล้วตอบทุกคำถามเลยแล้วกัน อืมมม ฉันไม่อยากนั่งรถเข็นเพราะทุกวันก็นั่งๆ นอนๆ เบื่อจะแย่อยู่แล้ว ส่วนท้องป่องมันช่วยไม่ได้ นี่ท้องห้าเดือนนะไม่ใช่ไขมัน”

   มีพักหายใจเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “เดวิดไปทำงาน ความจริงหมอนั่นดื้อจะมาด้วย แต่มีประชุมด่วนฉันเลยบังคับให้ไป คนที่มาส่งฉันคือโอเว่น แต่เขาวนไปหาที่จอดรถฉันเลยลงมาก่อน สุดท้าย นายคงไม่ลืมนะว่าวันนี้อเล็กซ์ต้องไปโรงเรียนเขาใกล้จะสอบเข้ามหา’ลัยแล้ว ทำตัวเอาแต่ใจไม่ได้หรอก” พูดจบก็ออกอาการหอบนิดๆ ราวกับคนเพิ่งออกกำลังกาย เพื่อนควบตำแหน่งแพทย์ประจำตัวแสดงสีหน้ากังวล

   “หายใจเข้าลึกๆ อย่าพูดรัวแบบนี้สิ ท้องนี้นายอาการแย่มากเลยรู้มั้ย” ช่วยลูบหลังแล้วรินน้ำส่งให้

   “ขอบใจ ฉันไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกน่า” เจ้าตัวตอบแบบไม่ใส่ใจแต่ดูอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยจึงกล่าวเสียงเข้ม

   “อลัน หรือจะให้ฉันบอกเดวิดเรื่องอาการของนาย”

   เจ้าของชื่อจ้องเขม็ง “ห้ามเด็ดขาด! จนกว่าเด็กคนนี้จะออกมาอย่างปลอดภัย ฉันจะไม่ยอมให้อะไรมาทำร้ายแกแน่นอน อีกอย่างนายเป็นคนอัลตราซาวด์ให้ฉันนี่ น่าจะรู้ว่าเป็นเด็กผู้หญิงนะ เดวิดถึงจะไม่ค่อยพูด แต่ฉันรู้ว่าเขาอยากได้ลูกสาวมากแค่ไหน” รอยยิ้มอบอุ่นพร้อมลูบท้องผ่านผิวผ้า พอถูกเตะ ทั้งที่เจ็บแต่ก็ยังหัวเราะชอบใจ เพราะนั่นหมายถึงทารกแข็งแรงดี

   “เฮ้อ...ฉันเข้าใจเรื่องที่นายไม่อยากบอกเดวิด หากเขารู้คงไม่ปล่อยให้นายตั้งท้องจนถึงตอนนี้ แต่ฉันว่ายังไงก็ควรต้องบอกเขานะ เพราะโอกาสคลอดสำเร็จมัน...” แมทธิว แพทย์ประจำตัวควบตำแหน่งเพื่อนเอ่ยอย่างหนักใจ

   อลันยกมือห้าม ขัดไม่ให้เขาพูดต่อ “ฉันรู้ดีแมทว่าโอกาสรอดของฉันมีไม่มาก แต่มันก็ยังมีไม่ใช่เหรอ นายควรจะมองโลกในแง่ดีไว้นะ เลิกคุยเรื่องซีเรียสกันดีกว่า ฉันมาให้นายตรวจร่างกายไม่ใช่มานั่งฟังนายเทศน์”

   แมทธิวได้แต่ถอนหายใจกับนิสัยดื้อรั้นของอีกฝ่าย ถึงงั้นก็ต้องลงมือตรวจอยู่ดี โดยปกติอลันเป็นคนร่างกายแข็งแรง มีปัญหาแค่เรื่องฮอร์โมนของโอเมก้าเท่านั้น ซึ่งไม่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่สภาพร่างกายเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ท้องลูกคนที่สอง ราวกับว่าร่างกายไม่ฟื้นฟูอย่างที่ควรเป็น เด็กแข็งแรงขึ้นทุกวันแต่แม่ดันอ่อนแอลงเรื่อยๆ แมทธิวเองก็หาสาเหตุไม่ได้ ได้แต่ประคองอาการต่อไปและหวังว่าจะหาทางรักษาได้โดยเร็ว

   เมื่อทั้งสองตกอยู่ในห้วงความคิด ภายในห้องจึงถูกความเงียบเข้าปกคลุม กระทั่งอลันเปิดปากพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจังอย่างคนตัดสินใจแล้ว

   “แมทธิว ไม่ว่ายังไงต้องรักษาชีวิตเด็กไว้ให้ได้ ถือว่าฉันขอร้อง ส่วนเรื่องอาการของฉันช่วยเก็บไว้เป็นความลับต่อไปที และบอกเดวิดในวันที่นายคิดว่าสมควร”

   คนฟังนิ่งอึ้งเพราะเหมือนอีกฝ่ายเดาใจได้ว่าเขาคิดจะทำอะไร สุดท้ายก็ไม่อาจขัดใจเพื่อนคนนี้ได้อยู่ดี “นายมันเอาแต่ใจอลัน แถมยังเห็นแก่ตัว นายไม่คิดถึงความรู้สึกเดวิดบ้างเหรอ แล้วยังอเล็กซ์อีก นายคงไม่อยากให้ข่าวร้ายเป็นรางวัลที่เขาสอบเข้ามหา’ลัยได้ใช่ไหม”

   “อย่าห่วงเลย ฉันคำนวณไว้แล้วว่าอเล็กซ์ต้องสอบเข้าได้ก่อนฉันครบกำหนดคลอดแน่นอน ส่วนเดวิด...ฉันแคร์ความรู้สึกเขานะ แต่ฉันขอเห็นแก่ตัวในฐานะแม่ดีกว่า เดวิดเด็ดขาดเกินไป ถ้าเขารู้เรื่องเมื่อไหร่ต้องบังคับฉันทำแท้งแน่ เด็กคนนี้มีชีวิตแล้ว กำลังสร้างร่างกายอยู่ในท้องของฉัน ฉันทำใจไม่ได้ถ้าต้องเสียเธอไป”

   แมทธิวถอดแว่นคลึงขมับด้วยความเครียด “พวกเรารู้ตัวช้าเกินไป ถ้ารู้ตอนนายท้องได้ไม่กี่เดือน คงไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบตอนนี้”

   “โชคชะตามันก็เล่นตลกกับมนุษย์แบบนี้แหละ...”

   เห็นใบหน้าด้านข้างของเพื่อนที่ไม่เคยเชื่อในโชคชะตาและเลือกทางเดินด้วยตัวเองมาโดยตลอด ในยามนี้กลับทอดถอนใจคล้ายกับยอมรับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต แมทธิวได้แต่กำหมัดแน่น สาบานในใจเงียบๆ ว่าจะต้องหาทางรักษาให้ได้

   แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป...

   เมื่อวันนั้นมาถึง มีเพียงรอยยิ้มกับคราบน้ำตาและเสียงโรยแรงที่เขาได้ยิน
 
   อลิส...ลูกสาวของฉัน ขอบคุณที่รักษาสัญญา

   ประตูห้องคลอดถูกผลักเข้ามาพร้อมเสียงเอะอะของชายที่ดวงใจสลาย เขาใช้แรงทั้งหมดมีที่สลัดหมอและพยาบาลที่พยายามห้ามปราม

   อย่าขวาง! ปล่อยให้ฉันเข้าไป อลัน อลัน!!

   ได้โปรดที่รัก ลืมตาขึ้นมาสิ คุยกับผม ฮึก อลัน อย่าทิ้งผมไป

   เดวิด ฉัน...


   เสียงแผ่วเบาผ่านเครื่องช่วยหายใจ รอยยิ้มสุดท้ายและมือที่อ่อนแรงยกเรียกหา สองมือใหญ่คว้าจับ บีบแน่นอย่างไม่ยินยอม ท่ามกลางเสียงแผดร้องของทารกแรกเกิด และเสียงเครื่องวัดชีพจรที่หวีดร้องบาดหู ราวกับมีดกรีดแทงให้หัวใจแหลกเหลว

   ไม่ ไม่ ไม่! อลัน อลัน! พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดอย่าพรากเขาไปจากผมเลย…

   ได้โปรด...



   “อลัน...”

   เสียงเรียกทำให้ร่างบนเตียงขยับตัว ก่อนตามมาด้วยเสียงฝีเท้าของใครอีกหลายคน สุดท้ายคนนอนเริ่มทนไม่ไหวค่อยๆ ลืมตาพบกับใบหน้าคุ้นเคยที่ฉายความเป็นห่วงชัดเจน

   “อลัน ปวดหัวรึเปล่า หิวน้ำมั้ยหรือว่าเหนียวตัว ผมจะได้เช็ดตัวให้” มือใหญ่ลูบไล้อย่างทะนุถนอม พลางแนบหน้าผากเพื่อวัดไข้ ก่อนจะโดนคนป่วยคว้าคอมากอดจนล้มทับอยู่บนเตียง

   อาการป่วยไม่อาจสลัดภาพที่ค้างคาในหัวได้ สองแขนจึงกอดแน่นจนคนเกร็งตัวเริ่มทนไม่ไหว เกรงว่าจะร่วงลงไปทับคนป่วย

   “อะแฮ่ม รู้ว่าพวกนายรักกันแต่ไม่ต้องแสดงให้เห็นก็ได้” ชายหนุ่มสวมแว่นในชุดสบายๆ แต่ทรงผมยุ่งเหยิงแถมใต้ตายังดำคล้ำอย่างเห็นได้ชัด

   “แมทธิว?” ผมถามทั้งที่ยังไม่ปล่อยแขนจากเดวิด

   “ใช่ นายช่วยปล่อยเดวิดที ฉันจะได้ตรวจอาการสะดวกๆ หน่อย” ว่าพลางอ้าปากหาวอย่างคนอดนอน ผมยังไม่อยากปล่อยเดวิดจึงพลิกกายนอนบนตัวเดวิดแทน ท่วงท่าอันแสนชำนาญทำเอาแมทธิวปั้นหน้าไม่ถูก ส่วนเดวิดแม้จะไม่ขัดขืนแต่ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีเล็กน้อย

   “นายมาทำไม แล้วรู้เรื่องฉันได้ไง” ผมถามขณะมือจับแขนเดวิดมากอดตัวผมไว้ราวกับเข็มขัดนิรภัย ภาพในอดีตที่อยู่ในห้วงความฝันมันชัดเจนเกินไป มากซะจนใจผมปวดร้าว รู้สึกสั่นไหวไม่มั่นคงอย่างเคย เดวิดสังเกตเห็นท่าทางแปลกๆ ของผม เขาเลยกระชับอ้อมแขนแน่นแล้วเป็นฝ่ายตอบคำถามให้แทน

   “เมื่อเช้าจู่ๆ คุณก็ไข้ขึ้น ผมเลยสั่งให้โอเว่นไปพาตัวแมทธิวมารักษา ตอนนี้แมทธิวรู้เรื่องและเข้าใจทุกอย่างแล้ว คุณไม่ต้องกังวลไป”

   แมทธิวรับช่วงต่อ “ใช่ ถ้าจะถามว่าทำไมฉันถึงยอมรับได้ง่ายๆ แค่ท่าทางของเดวิดกับอเล็กซ์ก็มากพอที่ทำให้ฉันมั่นใจแล้วว่าสิ่งที่เดวิดเล่าเป็นความจริง นายเคยพูดบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ ว่าให้มองโลกในแง่ดีเข้าไว้” อธิบายเสร็จก็เข้าสู่โหมดคุณหมอสั่งคนไข้หัวดื้อ ”อ้าปากซะ ฉันจะวัดไข้”

    โดนดวงตาสองคู่จ้องเขม็งแบบนี้ผมก็ดื้อไม่ออก ยอมอ้าปากให้วัดไข้แต่โดยดี หูฟังเสียงแมทธิวกับเดวิดคุยเรื่องอาการของผม ในมือของแพทย์ส่วนตัวมีเอกสารชุดหนึ่ง ต่อให้ไม่เห็น ผมก็มั่นใจว่านั่นเป็นผลตรวจสุขภาพของตัวเองแน่นอน และยิ่งชัดเจนเมื่ออีกฝ่ายเริ่มบ่นตามนิสัย

   “ฮอร์โมนบกพร่อง? เฮ้อ...เอาเถอะ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แม้นายจะมีโรคประจำตัวเหมือนกับในอดีต แต่ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ฉันสามารถหาทางรักษาได้แล้ว”

   ต่อให้แมทธิวไม่บอกรายละเอียด แต่ผมก็พอเดาได้ว่าอีกฝ่ายคงโหมวิจัยหาทางรักษาตั้งแต่วันที่ผมจากไป เขาถึงได้ดูมั่นใจว่าสามารถรับมือได้แน่นอน แมทธิวก็เป็นแบบนี้ เป็นหมอที่ขี้บ่น แต่เป็นคนละเอียดอ่อนและใจดีมากจริงๆ มันชวนให้ผมรู้สึกผิด ในอดีต ผมทำร้ายจิตใจคนอื่นไว้มากเหลือเกิน

   คนตายกลับสู่ความว่างเปล่า คนมีชีวิตอยู่ต่างหากที่ทุกข์ที่สุด

   นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมกลับมาอยู่ในจุดนี้ เพื่อแก้ไขการกระทำของตัวเองในอดีต และทำให้เวลาของทุกคนเดินหน้าอีกครั้ง

   เมื่อครบเวลา แมทธิวหยิบปรอทวัดไข้ออกจากปากผม “37.8 ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ ช่วงนี้คงต้องให้นายงดการอาบน้ำให้อลิสกับเล่นกลางแดดไปสักพัก เดี๋ยวฉันจะจ่ายยาให้ นายคอยดูให้อลันกินด้วยล่ะเดวิด”

   ผมมองแมทธิวที่วุ่นวายกับกระเป๋าแพทย์ของตัวเอง ถึงปากจะบอกว่ายอมรับ แต่คงทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน คนที่คิดว่าตายไปแล้วดันกลับมาในสถานะแปลกๆ ผมเลยลองเรียกเขาดู

   “แมทธิว”

   อีกฝ่ายกลับสะดุ้งเล็กๆ ยกมือดันขาแว่นแบบที่ชอบทำเวลาประหม่า ผมยิ้มกับนิสัยติดตัวที่ไม่เปลี่ยนแปลงของอีกฝ่าย ถือเป็นมุมเล็กๆ ที่น่ารักของแมทธิวจอมบ่นเชียวนะ

   “ฉันขอโทษ และขอบคุณที่นายยอมตามใจฉัน แม้ฉันจะรับปากไม่ได้ว่าหลังจากนี้จะเลิกเอาแต่ใจรึเปล่า แต่จะพยายามคิดถึงความรู้สึกคนอื่นให้มากขึ้น” ผมก้มหัวให้แมทธิวน้อยๆ พลางหันมองสามีตัวเอง “เดวิดด้วยนะ ขอโทษที่ปล่อยให้นายเลี้ยงลูกคนเดียว ทั้งที่สัญญากันว่าจะช่วยกันเลี้ยงแท้ๆ แถมยังเอาแต่ใจไม่ยอมบอกนายเรื่องอาการป่วย นับจากนี้ฉันจะบอกนายทุกเรื่อง”

   เมื่อตัดสินใจว่าจะยอมรับความจริงและก้าวไปข้างหน้า อันดับแรกผมต้องขอโทษพวกเขาสองคนเสียก่อน แมทธิวนิ่งค้างปล่อยปรอทวัดไข้หล่นจากมือ ส่วนเดวิดขมวดคิ้วสีหน้าเจ็บปวดขึ้นมาวูบหนึ่ง ขอบตาผมเริ่มร้อนผ่าวด้วยความเสียใจปนกับความรู้สึกผิด หรือผมไม่ควรพูดเรื่องนี้ ไม่ควรทำให้พวกเขานึกถึงประสบการณ์อันเลวร้าย

   ผมทำพลาดอีกแล้วเหรอ ผมแค่ไม่อยากหนีปัญหาและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยากจะเคลียร์มันให้ออกไปจากใจพวกเรา ไม่ต้องมีตะกอนติดค้างที่อาจส่งผลเสียได้ในอนาคต

   เดวิดเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ เขากอดผมแล้วจูบขมับเหมือนจะปลอบโยนทั้งตัวผมและตัวเดวิดเอง

   “ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้คุณพูดเรื่องนี้ออกมา แต่ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ผมไม่อยากกลับไปจมปลักกับมันอีก ในเมื่อตอนนี้ผมได้คุณกลับคืนมา ในหัวผมคิดแต่เรื่องที่จะทำยังไงให้ครอบครัวเรามีความสุข และคุณอยู่กับผมไปจนแก่เฒ่า”

   “เดวิด...” เสียงของผมกำลังสั่น

   “เฮ้อ...ไม่รู้สิ ขอโทษงั้นเหรอ...ฉันว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่ออนาคตนายอาจจะทำแบบเดิมซ้ำอีก แต่เอาเถอะ นายก็เป็นซะแบบนี้ ฉันคงยกโทษให้นายไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และจะไม่ยอมรับคำขอโทษจนกว่านายจะพิสูจน์ได้ว่า จะปรับปรุงตัวเองอย่างที่บอก”

   “พวกนาย...ฮึก บ้าเอ๊ย” น้ำตาของผมกำลังไหลออกมา ความรู้สึกมันผสมปนเปไปหมดจนแยกไม่ถูก แต่เหนือสิ่งอื่นใด ณ เวลานี้ผมมีความสุขมากที่ได้กลับมาจุดนี้อีกครั้ง ไม่ว่ามันจะเป็นโชคชะตา คำอวยพรจากพระเจ้า หรือคำสาปจากซาตาน ผมขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ

   “ก่อนที่เราจะเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง ผมขอถามคุณแค่หนึ่งเรื่อง” เดวิดเอ่ยปากระหว่างดึงให้ผมซบอกและโยกกายเบาๆ เหมือนกล่อมเด็ก

   “ว่า...ฮึก ว่ามาสิ” ผมพยายามกลั้นเสียงสะอื้น แมทธิวส่ายหัวส่งทิชชู่ให้ผมซับน้ำตา

   “สิ่งสุดท้ายที่คุณจะพูดตอนนั้นคืออะไร มันคาใจผมมาตลอดตั้งแต่วันที่เสียคุณไป” ภาพเหตุการณ์ในอดีตยังแจ่มชัดในความทรงจำ

   ผมเงยหน้าขึ้นมองเดวิดด้วยแววตาลึกซึ้งแล้วกระซิบข้างหูให้ได้ยินพียงสองคน ดวงตาของเดวิดเบิกกว้าง ก่อนจะหัวเราะทั้งที่น้ำใสไหลอาบแก้ม หัวใจเหมือนได้รับการเยียวยา พาออกจากความโศกเศร้าของการโทษตัวเอง

   แมทธิวยืนเงียบๆ มองภาพแห่งความสุขเบื้องหน้า

   รอจนกระทั่งอารมณ์ของทุกคนกลับสู่สภาวะปกติ ถึงเวลาที่จะกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง

   ผมเป็นฝ่ายเปิดปากถาม “คิดว่าฉันจะหายในกี่วัน” น้ำตาได้เช็ดออกไปแล้ว แม้จะยังแดงๆ แต่ก็มีเพื่อนอีกสองคนละนะ

   “ถ้านายพักแบบไม่ดื้อ ไม่กี่วันก็น่าจะหายแล้ว ภูมิต้านทานนายยังดีอยู่ มีปัญหาแค่ฮอร์โมนเท่านั้นเอง”

   “เลิกย้ำเรื่องฮอร์โมนสักทีเถอะ จบเรื่องวุ่นที่บ้าน ฉันจะเป็นเด็กดีว่าง่ายปล่อยให้นายรักษาเต็มที่เลย” ผมกรอกตาใส่แมทธิวแล้วหันไปหาเดวิดที่ยังทำตัวเป็นเตียงกอดผมไม่ปล่อย

   “อีกสี่วัน นายช่วยเรียกพวกตาเฒ่ามาที ฉันเองก็จะเรียกตัวแทนจากตระกูลฉันเหมือนกัน แมทนายมาด้วยนะ มาเป็นพยานเคลียร์ปัญหาให้มันจบๆ”

   แมทธิวแม้จะยังไม่รู้รายละเอียดแต่ก็ยอมพยักหน้ารับแบบงงๆ ส่วนเดวิด คลี่ยิ้มร้ายแบบที่ผมยังกลัว

   “ได้ ตามที่คุณต้องการ ผมเองก็ลงมือไปบ้างแล้วเหมือนกัน”

   “เห็นพวกนายสองคนตอนนี้แล้ว ฉันสงสารคนที่มีเรื่องกับพวกนายชะมัด”

   เราสองคนหัวเราะ ไม่ใส่ใจกับคำเหน็บแนมของแมทธิว บรรยากาศเพิ่งผ่อนคลายได้ไม่เท่าไหร่ สองตัวป่วนก็โผล่มา โดยเฉพาะคนโตที่วิ่งแซงน้องสาวมาถึงเตียง

   “แม่! ผมได้ข่าวว่าแม่ไม่สบาย เป็นอะไรมากรึเปล่า ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ไม่สบายตัว มีน้ำมูกมั้ย แล้วๆ”

   “พอ!” ผมยกมือเบรก อลิสที่กำลังจะอ้าปากพลอยเงียบไปด้วย โถ่ ลูกสาวผม ระหว่างลูบหัวปลอบใจคนเล็ก ก็ตอบคำถามคนโต “ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก แมทก็อยู่นี่ไม่ต้องห่วง” เห็นแบบนี้อเล็กซ์ก็ได้แมทธิวช่วยทำคลอดให้นะ สมัยก่อนเองก็ไปมาหาสู่กันบ่อย อเล็กซ์เลยสนิทด้วยในระดับหนึ่ง

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
   “อ้าว หมอแมทอยู่ด้วยเหรอ แม่ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม หมอให้ยารึยัง”

   “อเล็กซ์ อย่าเสียงดัง มันรบกวน” เดวิดปรามลูกชายที่รุกใส่หมอแมทจนหวิดๆ จะโดนกระเป๋าพยาบาลทุ่มหัวด้วยความหมั่นไส้ ผมรู้นะพวกคุณคิดอะไรกัน อเล็กซ์กับแมทธิวมันเป็นไปไม่ได้หรอก ถึงแมทจะเป็นโอเมก้า แต่มีสามีแล้ว ไม่เชื่อไปดูรอยกัดที่หลังคอได้ ถ้าอีกฝ่ายยอมให้ดูล่ะก็นะ

   “แม่คะ อลิสขอขึ้นไปนอนด้วยได้มั้ย” ลูกสาวมองตาใส เพิ่งจะมีโอกาสได้พูดเพราะโดนพี่ชายแย่งหมด ดวงตาสีเดียวกับเดวิดมองพวกเราสลับกัน แกคงอยากเข้ามามีส่วนร่วมกับการนอนแนบชิดระหว่างพ่อแม่ล่ะมั้ง เหอะๆ ผมจะขยับลงก็ไม่ได้ เดวิดไม่ยอมปล่อยเลย

   “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวอลิสจะติดหวัดนะ มาอยู่กับหมอแมทดีกว่า วันนี้หมอเอาวิตามินซีมาด้วย” หมอแมทเริ่มหลอกล่อเด็ก อลิสเกิดการลังเลระหว่างผมกับวิตามินซี และผมก็ได้รู้วันนี้แหละว่า ผมแพ้ไอ้เม็ดส้มนั่น

   “ค่ะ หมอแมทให้แม่ด้วยสิคะ แม่กินจะได้ร่างกายแข็งแรงหายป่วยเร็วๆ”

   “ได้เลย อลิสเป็นเด็กดีหมอให้หนึ่งซองเลย แต่ห้ามกินเยอะนะสัญญากับหมอแมทก่อน” คุณหมอยกนิ้วก้อย อลิสพยักหน้ารับหงึกหงัก ใช้นิ้วเล็กๆ ของตัวเองเกี่ยวก้อยสัญญา อเล็กซ์มองผ่านน้องสาวยิ้มๆ แล้วหันมาสนใจผมต่อ ก็ยังดี ในสายตาอเล็กซ์นอกจากผมยังมีอลิสอยู่ด้วย ผมดีใจนะที่อเล็กซ์แยกแยะได้ไม่รังเกียจน้อง หรือหาว่าน้องเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมตาย

   “พ่อปล่อยแม่ได้แล้ว แม่จะได้พักผ่อน”

   แน่นอนว่าเดวิดปฎิเสธ “พ่อจะเฝ้าไข้แม่ อเล็กซ์พาน้องออกไปเปลี่ยนชุดกินข้าวเย็นเลยไม่ต้องรอ สั่งให้คนทำข้าวต้มขึ้นมาด้วยสองถ้วย แมทธิวยาล่ะ” ปากบอกไม่ไปแต่อย่างน้อยๆ ก็ยอมปล่อยผมนอนบนเตียงดีๆ แล้วลุกขึ้นมาพับแขนเสื้อเตรียมเป็นบุรุษพยาบาลจำเป็น

   คนพ่อเล่นประกาศแบบนี้ อเล็กซ์ก็เลยยอมถอย ให้น้องลาแม่แล้วจูงมือออกไปเพราะเกรงจะติดหวัด ส่วนแมทธิวจัดยาให้แล้วกำชับเรื่องการดูแลอีกเล็กน้อยก่อนกลับไปพักผ่อนต่อที่บ้าน เพราะวันนี้เป็นวันหยุด ดันโดนลากตัวมากะทันหัน

    หลังจากนั้นเดวิดเอาแต่ดูแลผม งานการไม่ไปทำ ต่อให้ทำก็เอาเอกสารมานั่งเซ็นในห้องนอนเฝ้าคนป่วย ผมทั้งด่าทั้งไล่ก็ยังดื้อดึงไม่ไปจนต้องยอมแพ้ซะเอง แล้วนอนพักฟื้นเยอะๆ จะได้หายไวๆ

   อเล็กซ์กับอลิสก็แวะมาเยี่ยมบ้าง แต่แป๊บๆ ต้องออกไป จนอลิสเริ่มงอแง แอบหอบตุ๊กตาเน่า มรดกตกทอดจากพี่ชาย ย่องมาตอนกลางคืน ก่อนโดนอเล็กซ์อุ้มกลับไปเล่านิทานกล่อมนอนทั้งที่หน้าบูดแก้มป่อง

   ผ่านไปสี่วัน ในที่สุดผมก็หายดี ถึงจะต้องกินยาต่ออีกหน่อยแต่ไม่มีไข้ อาการปวดหัวก็หายเป็นปลิดทิ้ง ได้เวลาเชือดคน เอ๊ย เคลียร์ปัญหาในตระกูล

   เบื้องหน้าของผมตอนนี้ฝั่งซ้ายคือตัวแทนจากตระกูลเซอร์คอน ฝั่งขวาเป็นตาเฒ่าตระกูลโฮราทิโอ้ ดูท่าจะว่างจัดเลยมากันยกทีม มีหก มาห้า ขาดแค่พ่อของเดวิด ปู่อเล็กซ์อลิสที่โบกมือลาไม่ขอยุ่งเกี่ยวเรื่องพวกนี้ ตั้งแต่ยกตำแหน่งผู้นำตระกูลให้เดวิดเกือบสิบปีก่อน

   ตรงกลางเป็นผม เดวิดและแมทธิว ส่วนเมสัน...ผมว่าผมไม่เห็นเขาเลยนะตั้งแต่ครั้งนั้น หรือจะสาบสูญสลายหายไปในอากาศแล้วหนอ

   “มาครบแล้วก็รีบเข้าเรื่องสักที พวกฉันไม่มีเวลาว่างนักหรอกนะ” ตาเฒ่าหมายเลขหนึ่งพูด ผมลอบเบ้ปาก ไม่มีเวลาแต่ยุ่งเรื่องลูกหลานได้ตลอดนี่มันยังไงกัน

   “ถ้าเช่นนั้นผมขอเข้าเรื่องเลย คนที่อยู่ข้างกายผมคืออลัน เป็นภรรยาคนใหม่ของผมเอง ดังนั้นพวกคุณเลิกส่งตัวโอเมก้ามาวุ่นวายกับผมได้แล้ว” พวกเราตกลงกันว่าจะไม่บอกเรื่องผมกลับมาเกิดใหม่ เพราะตาแก่หัวแข็งพวกนี้ต้องไม่เชื่อแน่ๆ อาจจะทำให้เรื่องบานปลายกันใหญ่ ดังนั้นเอาแบบง่ายๆ เมียใหม่ ชื่อเก่า หน้าเดิม สันดานไม่เปลี่ยน จบ!

   “หึ! แค่เด็กกำพร้าไร้หัวนอนปลายเท้า ถึงจะมีใบหน้าเหมือนภรรยาคนเก่า แต่ไม่ควรน่ามืดตามัวนะเดวิด เป็นถึงผู้นำตระกูลทำตัวให้สมกับตำแหน่งหน่อย ไม่ใช่ไปคว้าใครไม่รู้มาเป็นภรรยา มันจะเสียชื่อเสียงเอาได้” ตาเฒ่าหมายเลขสองเริ่มจู่โจม ดีแล้วที่ให้อเล็กซ์หลบไป ไม่งั้นพุ่งไปถอนหงอกคนแก่แหง รายนั้นไม่ค่อยเคารพคนที่ไม่น่าเคารพสักเท่าไหร่

   ผมกระแอมดึงความสนใจ ไม่สนแววตาดูถูกจากฝ่ายนั้น “อะแฮ่ม ขอโทษด้วยนะครับที่ผมโตมากับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ผมมีหัวนอนปลายเท้า นี่ครับหลักฐาน” ผมพยักหน้าให้คนของตระกูลผมส่งใบรับรองทางการแพทย์ให้พวกตาแก่ เขาหรือก็คือสามีแมทธิวชื่อ 'อีธาน' ในชุดสูทเรียบกริบเป็นฝ่ายอธิบาย

   “ตามที่ท่านอลันได้กล่าวไป ผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่าท่านอลันเป็นทายานคนสุดท้ายของตระกูลเซอร์คอน และจะมีการประกาศในเร็วๆ นี้ ดังนั้นเรื่องฐานะผมเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของท่านเดวิดครับ”

   พวกตาแก่เริ่มสงสายตาให้กัน ไม่มีใครกล้ากล่าวหาว่าผลตรวจเป็นของปลอม ในเมื่อเซอร์คอนที่กฎภายในที่เคร่งครัดซะยิ่งกว่าตระกูลพ่อค้าอย่างโฮราทิโอ้เสียอีก ยิ่งเกี่ยวกับเรื่องทายาทยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะเข้มงวดขนาดไหน ไม่มีทางรับสินบนหรือร่วมมือกันหลอกลวงแน่นอน ถึงงั้นเจ้าพวกหัวโบราณ ไม้ผุปลวกแทะใกล้เน่าก็ยังไม่ยอมง่ายๆ

   “เขายังเด็กเกินไป ที่สำคัญโตมากับสถานที่แบบนั้นเรื่องความรู้ความสามารถ กิริยามารยาทในสังคมล่ะ จะมาทำให้ผู้นำตระกูลเราขายหน้าไม่ได้”

   ได้ยินแบบนี้ผมนี่คิ้วกระตุกเลยครับ แต่คนจริงเขาไม่พูดมาก นั่งนิ่งอย่างสง่า ใบหน้าประดับรอยยิ้มน้อยๆ แต่ดวงตาคมกริบดุจจ้องเหยื่อคือสิ่งที่ผมถนัดนักแหละ ปล่อยให้อีธานทำหน้าที่แทนปาก

   “ทราบแล้วครับ ถ้าเช่นนั้นรบกวนทุกท่านพลิกอ่านแผ่นต่อไป นั่นเป็นผลการสอบของท่านอลันเมื่อเร็วๆ นี้ ท่านอลันได้สอบผ่านการได้วุฒิการบริการ งานบัญชี ความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศสและมารยาทการเข้าสังคมชั้นสูงจากมหา’ลัยมีชื่อ ซึ่งผมรับประกันว่าไม่ใช่ของปลอบแปลงแน่นอน”

   อาจจะแปลกๆ ที่มีวุฒิมารยาทด้วย แต่มันมีจริงๆ ในโลกที่ถูกแบ่งแยกชนชั้นชัดเจนเช่นนี้มารยาทการเข้าสังคมถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องเรียน ส่วนวุฒิอื่นๆ นั่นความสามารถล้วนๆ ผมได้บอกรึเปล่าว่าผมทั้งในชาตินี้และชาติก่อนเป็นอัจฉริยะน่ะ ความจริงประสบการสามสิบห้าปีของผม รู้ไม่ต่ำกว่าห้าภาษา แต่เลือกที่จะสอบแค่สองเพราะผมมั่นใจสองภาษานี้ที่สุด นอกนั้นมันเสียเวลารื้อฟื้น บางภาษาเองก็ไม่ได้กระจ่างแบบถ่องแท้ซะด้วย มีลูกแล้วมันไม่ค่อยมีเวลาไปเรียนน่ะ

   พวกผู้เฒ่าเริ่มใบ้กิน ผมแสยะยิ้มในใจ เหอะ! คิดว่าฉันปะทะกับพวกนายมากี่ปีหา กว่าจะได้ตัวเดวิดนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ย่อมต้องรู้ว่าแต่ละคนนิสัยยังไง ดังนั้นจึงเตรียมดักทางเอาไว้หมด ยกเว้นเพศกับอายุนี่แหละ ผมเปลี่ยนไม่ได้จริงๆ

   “ถึงงั้นก็เถอะ เดวิดมีคู่หมั้นแล้ว ดังนั้นหากจะแต่งต้องเป็นน้อยเท่านั้น”

   XXX เถอะครับ! ให้แบ่งเดวิดกับคนอื่นว่าฉุนแล้วบอกให้ผมเป็นน้อยอีก เดี๋ยวปั๊ดหยิบปืนมาเป่าหัวดับคาบ้านให้หมด เดวิดสัมผัสถึงอารมณ์ระอุของผมได้ เขาบีบมือผมแน่นและเป็นฝ่ายออกหน้าเอง

   “ผมจำไม่ได้ว่าเคยหมั้นกับใครนะ เรื่องของโอเมก้าคนนั้น พวกคุณเป็นคนตัดสินใจกันเองโดยพละการ อีกอย่าง เขาคงไม่อยู่แล้วล่ะ” เดวิดตอบหน้าตาเฉย ตาเฒ่าคนหนึ่งถึงกับหนวดกระดิก

   “หมายความว่ายังไง เธอทำอะไรกับหนูเมสัน เขาเป็นถึงทายาทของตระกูลใหญ่เชียวนะ!”

   “ไม่ทำอะไร แค่ชี้ทางให้เขาไปกับคู่โชคชะตาของตัวเองเท่านั้น”

   “เดวิด!!” โต๊ะถูกทุบเสียงดังลั่น ผมหรี่ตามอง นั่นแพงนะ เดี๋ยวให้ขายบ้านมาจ่ายซะเลยนี่

   “ไม่ว่าจะส่งใครมาสักกี่คน ผมก็จะกำจัดออกไปให้หมด ทุกสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อครอบครัวผมแม้เพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ผมจะทำให้มันกลายเป็นศูนย์ แบบที่มั่นใจว่ามันจะไม่กลับมาตลอดกาล”

   “เธอเป็นผู้นำตระกูล จะเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้!”

   “คำก็ผู้นำ สองคำก็ผู้นำ ผู้นำที่ไม่มีสิทธิ์อะไร แถมยังต้องทำตามคำสั่งคนในตระกูลผมไม่ต้องการ จริงสิ คุณอีธานพอจะมีตำแหน่งในตระกูลเซอร์คอนเหลือมั้ยครับ ผมอาจจะได้เปลี่ยนนามสกุลเร็วๆ นี้”

   “ด้วยความยินดีครับ ตำแหน่งสำหรับคุณเดวิดย่อมมีอยู่แล้ว รวมถึงตำแหน่งทายาทคนถัดไปของคุณอเล็กซ์ด้วย” อีธานรับเป็นลูกคู่ ไม่รู้ไปนัดกันตอนไหน พวกตาแก่ถึงกับหน้าซีด บอกแล้วว่าอเล็กซ์เป็นอัลฟ่าเพียงคนเดียวที่มีสายเลือดของผู้นำตระกูลคนก่อน แถมยังมีอเล็กซ์ที่เป็นอัลฟ่าอีก หากเสียสองคนนี้ไปพวกตาเฒ่าได้อกแตกตายแน่

   เดวิดดูจะไม่ปล่อยง่ายๆ เขาหันไปคุยกับแมทธิวต่อ

   “คุณหมอแมทธิว ผมเองก็อายุเยอะแล้ว คิดว่าควรทำหมันมั้ยครับ”

   แมทธิวที่จู่ๆ ก็ถูกดึงเข้าบทสนทนาแบบงงๆ ถึงกับสำลักชา ก่อนจะรีบกลบเกลื่อนดันแว่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   “ถ้าเพื่อสุขภาพก็ดีครับ ช่วงนี้ทางโรงพยาบาลรณรงค์เรื่องนี้เช่นกัน เพราะการทำหมันอัลฟ่าหรือฝ่ายชายสามารถทำได้อย่างง่ายดายและไม่มีผลข้างเคียงอะไร ต่างจากฝ่ายหญิงหรือโอเมก้าที่แผลผ้าตัดเยอะกว่า หากคุณเดวิดสนใจ ผมจะติดต่อแพทย์เฉพาะทางให้”

   อัลฟ่าคือเป็นจุดสูงสุดของพีระมิด และความต้องการโอเมก้าก็เพื่อการสืบทอดทายาท ดังนั้นการที่เดวิดบอกจะทำหมันถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ขนาดผมเองยังแอบหยิกเอวเจ้าตัวจนคุณสามีคิ้วขมวดข่มความเจ็บ ใบหน้าที่ปกติก็ดุอยู่แล้วเพิ่มดีกรีความดุเข้าไปอีกจนพวกตาเฒ่าเข้าใจว่าเดวิดจะเอาจริงไม่ใช่เพียงขู่

   สุดท้าย ผู้นำตาเฒ่าเลือกที่จะถอยก่อนหนึ่งก้าว “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จะเอามาพูดเล่นไม่ได้ วันนี้คงจะคุยไม่ได้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้างั้นพวกฉันกลับล่ะ ไว้ค่อยมาคุยกันวันหลัง”

   คิดจะหนีกลับไปตั้งหลักวางแผนอะไรอีกล่ะสิ ผมกับเดวิดไม่ยอมปล่อยหรอก น่าเสียดายตอนนี้ผมตอบโต้อย่างสมัยก่อนไม่ได้ เลยเหยียบเท้าสามีให้จัดการซะ แมทธิวที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างได้แต่มองด้วยสายตาเห็นใจ

   “จะไม่มีการคุยวันหลังอีก วันนี้ผมขอสรุปเลยแล้วกัน ว่าอลันคือภรรยาคนใหม่ของผมและจะมีการจัดงานแต่งในเร็วๆ นี้ สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยหรือคัดค้าน ผมไม่รับฟัง และพร้อมจะออกจากตระกูลทุกเมื่อ หากมันเป็นปัญหาให้ผมนัก” พวกตาเฒ่าได้แต่ทำหน้าเครียด ด้วยรู้ดีว่า เดวิดไม่แคร์กับการต้องหันหลังให้ตระกูล เขาเลือกครอบครัวของตัวเองมากกว่า คนภายนอกอาจจะบอกว่าการกระทำของเดวิดมันผิด แต่ชีวิตคนเรานั้นสั้น ควรจะจับความสุขของตัวเองให้มั่น และปล่อยวางเรื่องที่ไม่อาจทำอะไรได้ไปซะ

   เดวิดเคยพบกับการสูญเสียแล้ว เขาจึงไม่ลังเลอีกต่อไป ครั้งนี้เจ้าตัวยื่นคำขาดจริง และผมเชื่อว่าเขาบอกพ่อเรียบร้อยแล้วด้วย พ่อเดวิดเองเคารพการตัดสินใจของลูกชาย ย่อมไม่คัดค้านแน่ พวกตาเฒ่าเลยได้แต่จากไปด้วยอารมณ์โกรธระคนเจ็บใจแบบที่ทำอะไรไม่ได้

   ผมมั่นใจว่าหลังจากนั้นพวกเขาคงหาเรื่องป่วนตามประสาคนแก่กินอิ่มว่างจัด แต่คิดว่าไม่ยัดเยียดโอเมก้าหรือวุ่นวายกับตัวผมแล้วล่ะ มีทั้งเดวิด มีทั้งเซอร์คอนหนุนหลัง ยังต้องกลัวอะไรอีก

   “จบเรื่องได้สักที ถ้าเป็นฉันเมื่อก่อนจะจับถอนหงอกเรียงหัวเลย” ผมถอนหายใจยกแขนกอดอก ยกขาไขว่ห้างกระดิกเท้าแบบไม่สนมาด บ้านตัวเองกับคนในครอบครัวยังจะรักษาหน้าอยู่ทำไม แค่เกร็งเมื่อกี้ก็เมื่อยแย่ ไม่ได้ทำนาน สงสัยต้องไปฝึกหน้ากระจกสักหน่อย

   “นายเหมือนเดิมจริงๆ ฉันไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเดวิดกับพวกเด็กๆ ถึงยอมรับง่ายๆ” อีธานยีผมที่เรียบแปร๋ทิ้งกลายเป็นทรงสุดเซอร์ แถมยังปลดไท แกะกระดุมช่วงบนเผยแผงอกเห็นรอยสักรำไร สูทนอกไม่ต้องพูดถึง โดนโยนทิ้งไปเรียบร้อย

   “นายก็ไม่มีน้ำยาเหมือนเดิม จนป่านนี้ทำไมยังไม่มีลูกเลยล่ะ ฉันมีไปสอง อนาคตอาจจะมีอีกสามเชียวนะ” พอบอกจะมีคนที่สาม เดวิดหันขวับทำสีหน้าก่ำกึ่งเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย เจ้าตัวชอบเด็ก ยิ่งเป็นลูกตัวเองยิ่งชอบ คงอยากมีแหละ แต่อดีตมันฝังใจ ต้องใช้เวลาเยียวยากันอีกนาน

   “ฉันกับแมทมีเวลาที่ไหน วันๆ เอาแต่ทำงาน นายรีบกลับมาบริหารมรดกของเซอร์คอนสักทีสิ ฉันจะได้มีเวลาไปปั้มลูกบ้าง จะเอาแฝดมาแข่งนายเลย” เจ้าตัวหัวเราะคว้าเอวคนรักมาหอมแก้มฟอดอย่างเปิดเผย ผมนึกหมั่นไส้โยนสลิปเปอร์ใส่

   “ไม่ ฉันจะลาพักร้อนเลี้ยงอลิส นายก้มหน้าก้มตาทำต่อไปซะ ไว้ขยันเมื่อไหร่ค่อยกลับไปละกัน”

   “เลิกพูดเรื่องแบบนี้สักทีเถอะ เด็กๆ จะกลับมาจากโรงเรียนแล้วนะ” แมทเอ่ยปากอย่างเอือมระอา แต่ใบหน้าขึ้นสีนิดๆ พอน่ารัก ไม่ไหวเลย ต้องอย่างผมนี่ คว้าคอเดวิดมาจูบแบบดิฟคิส ยักคิ้วให้อย่างท้าทาย กลายเป็นเดวิดซะเองที่พยายามฝืนตัวออก ไม่ใช่อะไร เจ้าตัวกลัวคุมสัญชาตญาณไม่อยู่ เพราะวันนี้ผมยังไม่ได้กินยาฮอร์โมนเลย
 
   พวกเรามองหน้ากันชวนให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ จนหลุดหัวเราะออกมา เดวิดก้มลงมาหอมแก้มผมพลางกระซิบข้างหู

   “ขอบคุณที่รักผม คุณเองก็เป็นของขวัญที่พิเศษสุดสำหรับผมเช่นกัน”

   ผมยิ้มพลางเข้าสู่อ้อมกอดอบอุ่นของเดวิด นึกไปถึงสิ่งที่ผมพูดกับเขาในห้องนอน


ฉันรักนาย ขอบคุณสำหรับของขวัญตัวน้อย ที่รักของฉัน...


Fin.

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบแล้วสำหรับเรื่องสั้นที่ดูเหมือนไม่ค่อยสั้นยังไงชอบกล
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2017 15:45:03 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักมาก .. ขอตอนพิเศษต่อ 555  :katai2-1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ครอบครัวตัวอย่าง
รักใคร่กันดี แฟมิลี่แมน

พ่อ พี่ชาย ตามจ้องแม่น้องสาวไม่วางตา
เดวิด นี่ราวกับตกเหว แล้วขึ้นสวรรค์ มีความสุขสุดๆ

อเล็กซ์ ตามแม่อลันอย่างกับลูกไก่ตามแม่ไก่
อลิสน้อย ก็สุข สดชื่น แม่ที่รักกลับมา

ขอบคุณไรท์ ให้ความสุขคนอ่าน
ขอตอนพิเศษนะ นะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2017 13:51:12 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Joe_joeyphuwa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอบคุณที่มีเรื่องสนุกๆๆให้อ่านนะครับ o13
      รอพิเศษนะครับ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อยากให้มีตอนพิเศษด้วยจังเลยค่ะ ขอบคุณไรท์มากๆเลยนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกตาแก่จะยอมกันง่ายๆ :hao5:

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อยากให้มีตอนพิเศษง่าาาาา  :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เป็นเรื่องที่ดีมากๆค่ะ

 :pig4:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
8

   โรงเรียนมัธยมมีระดับภายในห้องประชุมขนาดใหญ่กำลังครึกครื้นไปด้วยผู้ปกครองมากหน้าหลายตาที่มารวมตัวกันเพื่อลูกหลานของตัวเอง กลุ่มนักเรียนอายุ 15 เข้าไปตรวจร่างกายในห้องกั้นทีละคน หนึ่งในนั้นมีเด็กสาวใบหน้าน่ารักที่กำลังมองซ้ายมองขวาอย่างเป็นกังวล สลับจ้องมือถือในมือที่มีข้อความสั้นๆ ว่า

   ‘ใกล้ถึงแล้ว’

   เพราะยังไม่ถึงคิวเลยมีเวลายืนจับกลุ่มคุย เพื่อนร่วมชั้นใบหน้ามีเค้าความสวยคมส่งเสียงทักคนดังประจำโรงเรียน

   “อ้าวอลิส ผู้ปกครองเธอยังไม่มาอีกเหรอ” น้ำเสียงเหมือนเป็นห่วง แต่แววตาเยาะเย้ยนั่นไม่ปิดบังเลยสักนิด อลิสเพียงแค่ปรายตามองแล้วเมินเสีย คนแบบนี้พูดไปก็เปลืองน้ำลาย แม่สอนไว้ว่าหมาเห่าอย่าไปตอบโต้เพราะเราไม่ใช่น้องหมา

   “น่าสงสารเนาะ ครอบครัวมีฐานะ แต่ไม่มีเวลา มิน่าถึงเป็นเด็กขาดความอบอุ่น ต้องการให้ใครๆ สนใจ” พูดจบก็หัวเราะคิกคักกับเพื่อนตัวเองเหมือนนางร้ายเกรดต่ำ อลิสลอบเบ้ปากมองบน

   “เข้าไปตรวจมาแล้ว?” สาวน้อยถามห้วนๆ ที่พักหลังชักติดนิสัยส่วนนี้มาจากพ่อจอมพูดน้อย ผิดกับแม่และพี่ชายที่ฝอยจนน้ำเกือบท่วมบ้าน

   “ยัง แต่ฉันมั่นใจว่ายังไงคนระดับฉันต้องเป็นอัลฟ่า ส่วนเธอ!” ยกนิ้วชี้หน้ามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “เป็นได้แค่โอเมก้า เหอะ!” สะบัดหน้าเชิดให้อลิสนับหนึ่งถึงร้อยในใจ นึกขอบคุณตัวเองที่ได้นิสัยพ่อมาจึงใจเย็น หากเป็นแม่กับพี่ชาย...ไม่อยากนึกถึงเลย

   “จะเพศไหนก็ไม่สำคัญ ขอแค่ทำตัวให้มีคุณค่าก็พอไม่คิดแบบนั้นเหรอเบล” ยิ้มถามโดยไม่หันมองเพราะกำลังส่งข้อความในมือถือ

   ‘ไม่ต้องมาหรอกค่ะ เดี๋ยวได้รับผลอลิสจะเอาไปให้ที่บ้านเอง ที่นี่คนเยอะจะตาย’

   อีกฝ่ายส่งกลับมาทันที

   ‘ได้ยังไงกัน วันสำคัญก็ต้องไปสิ’ อ่านแล้วถอนหายใจแววตาฉายความเป็นห่วง แต่เหมือนเพื่อนร่วมโลกจะเข้าใจผิดไปอีกอย่าง

   “สมน้ำหน้า ไม่มีใครมาสินะ ถ้าเธอเสียใจจะให้ยืมคนใช้ที่บ้านฉันก็ได้นะ พอดีมากันเยอะ” ผายมือไปทางคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนโดดเด่นจนถึงเมื่อครู่ เพราะตอนนี้สายตาทุกคนกำลังมุ่งไปยังจุดเดียวกัน

   ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อปนสวยกับเสื้อผ้าเนื้อดีที่ดูสบายๆ แต่ดูแล้วอบอุ่นด้วยสเวตเตอร์สีเทาอ่อน ดวงตาสีม่วงเปี่ยมเสน่ห์สะกดสายตาใครต่อใคร ผิวกายผุดผ่องดูอิ่มเอมไม่อวบและไม่ผอมจนเกินไป ท่วงท่าการเดินดูมั่นใจและสง่างามในที โดยรวมแล้วดูดีจนไร้ที่ติ ยิ่งพอเดินผ่านกลุ่มผู้ปกครอง เหล่าอัลฟ่าหรือแม้แต่โอเมก้ายังเหลียวมอง กลิ่นหอมโรยรินที่พัดผ่านช่างดึงดูดและชวนผ่อนคลายน่าเข้าหา

   “อลิสรอนานรึเปล่า โทษทีนะเจ้าหนูที่บ้านงอแง กว่าจะกล่อมนอนได้เสียเวลาน่าดู” พอดวงตาคู่นั้นเห็นลูกสาวก็โผเข้ามาหา กอดลูบหัวแสดงความรักใคร่จนเด็กหลายคนพากันอิจฉาไม่เว้นกระทั่งเบล

   “รอนานไม่นานไม่สำคัญหรอกค่ะ แต่แม่ไม่น่ามาเลย อลิสเป็นห่วง” เด็กสาวเปลี่ยนร่างเป็นแมวน้อยกอดอ้อนแม่ที่ตัวสูงกว่า แม้อีกฝ่ายจะเป็นโอเมก้า ถึงงั้นก็ยังสูงสง่าไม่แพ้ใคร ควงออกงานที่ไหนพ่อยืดแล้วยืดอีกจนพี่ชายหมั่นไส้

   “จะไม่ให้มาได้ยังไง วันสำคัญลูกทั้งที แล้วนี่ใกล้ถึงคิวรึยัง” ถามพลางกวาดตามองสำรวจรอบกาย นึกหัวเราะเยาะในใจ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่ามองลูกสาวสุดที่รักของฉันยังไง เลยจงใจเปิดตัวซะโดดเด่นขนาดนี้ ไม่ติดว่าจวนตัวจะเตรียมขบวนพาเหรดมาให้รู้แล้วรู้รอด

   อลิสผู้ไม่รู้ว่าแม่ร้าย หรือความรักทำให้คนตาบอดมองแม่เป็นโอเมก้าผู้แสนดีเสมอเอ่ยตอบเสียงใส

   “อีกพักใหญ่เลยค่ะ พอดีเลขที่หนูได้อยู่ท้ายๆ” สองแม่ลูกคุยกันเบิกบาน คนอื่นเป็นได้เพียงเศษธุลี กระทั่งเบลยังไม่มีจังหวะแทรกเพราะถูกรุ่นใหญ่ดักเสียทุกทาง จะโผล่งใส่ก็ไม่กล้า แม่ของอลิสคนนี้ช่างเป็นโอเมก้าที่ชวนให้รู้สึกเกรงใจและสูงส่งจริงๆ

   จนเริ่มเกิดเสียงซุบซิบเป็นจุดๆ

   “นั่นใช่คุณอลัน เซอร์คอนรึเปล่า”

   “ที่ว่าเป็นภรรยาของคุณเดวิด โฮราทิโอ้น่ะเหรอ”

   “ฉันว่าต้องใช่แน่ๆ ดูๆ ไปลูกสาวมีเค้าโอเมก้าคนนี้ซะเยอะ มิน่าถึงสวยน่ารักขนาดนี้”

   “พ่อแม่หน้าตาดีมีฐานะทั้งคู่ ลูกจะเป็นที่จับตามองก็ไม่แปลก”

   บทสนาด้านบวกของบรรดาแม่ๆ ในงานอลันยอมรับฟัง ส่วนด้านลบปล่อยเบลอไม่สนใจให้รกสมอง

   “เมื่อกี้ได้กลิ่นรึเปล่า เป็นโอเมก้าที่มีกลิ่นเฉพาะ หอมมากเลย”

   “ได้กลิ่นสิ ฉันยังไม่ได้จมูกบอด ขนาดแต่งงานมีลูกแล้วยังดูอ่อนเยาว์ น่าอิจฉาไอ้โฮราทิโอ้ชะมัด”

   “ใช่ น่าเสียดาย ถ้าฉันเจอก่อนนะ...หึ!”

   “โดนกัดคอไปแล้วนิ ช่วยไม่ได้ ไม่งั้นคงน่าลองสักตั้ง”

   บทสนทนาฝ่ายอัลฟ่าเรียกสายตาคมกริบจากสาวน้อย อลิสจดจำใบหน้าผู้ชายเหล่านี้ให้ขึ้นใจ งานนี้กลับไปต้องรายงานพ่อกับพี่ชายสักหน่อย แต่พอแม่ชวนคุยก็เปลี่ยนมาเป็นนางฟ้าตัวน้อยตามเดิม อลันย่อมมองออก หัวเราะในคอแต่ไม่คิดห้าม เพราะอลันเกลียดพวกที่ดูถูกโอเมก้าหรือเห็นโอเมก้าเป็นเพียงเบี้ยล่างมากที่สุด

   “แม่จะกลับไปก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวอลิสเอาผลไปให้ที่บ้าน” สาวน้อยเว้าวอนแต่ผมส่ายหัว

   “ไม่ต้องห่วงหรอก ระดับนี้สบายมาก รับประกันด้วยกระสอบทรายที่ชื่อเดวิดเลย” ผมหัวเราะลูบหัวลูกสาวให้เธอวางใจ

   “แต่ว่า...”

   “ไม่ต้องคิดมาก ฉันแข็งแรงดี” ผมตัดบท อลิสรู้ดีว่าผมใจแข็งแค่ไหนสุดท้ายเลยเลิกกล่อมเปลี่ยนเป็นนั่งคุยกันจนกระทั่งถึงเวลา เหมือนจะเป็นคิวใกล้ๆ กับเด็กที่ยืนคุยกับอลิสก่อนผมจะมาซะด้วย อีกฝ่ายออกมาหน้าซีดเซียวเหมือนจะเป็นลม ส่วนอลิสดูไม่สนใจผลในมือสักนิด ยิ้มกว้างเข้ามาหาผม พากันจูงมือไปคุยกับครูประจำชั้น

   นี่เป็นมาตรการของโรงเรียนนี้ พอเด็กอายุครบสิบห้าปี จะมีคนของโรงพยาบาลที่เชื่อถือได้มาตรวจร่างกายเบื้องต้นว่าเป็นเพศไหน พอผลออกก็จะต้องเข้าไปพบกับครูประจำชั้นเพื่อพูดคุยกันเรื่องวิธีดูแลเด็กต่อไป ในกรณีของเบต้าก็สบายหน่อย อัลฟ่าเองก็ไม่มีอะไรมาก ที่จะเยอะมีแต่โอเมก้านี่แหละ

   อย่างว่า การดูแลเด็กที่ดีที่สุดคือ การร่วมมือกันระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครองและตัวเด็กเอง ส่วนผลของอลิสนั้น...

   “ดูจากผลตรวจแล้วยินดีด้วยนะคะ อลิสเป็นอัลฟ่า เท่านี้คุณแม่ก็สบายใจได้ แต่อาจจะต้องระวังนิดหน่อยเรื่องการควบคุมตัวเองกับเพื่อนในห้องที่เป็นโอเมก้า” คุณครูยิ้มบาง ดูตาพราวระยับแปลกๆ เมื่อเห็นผม ถ้านับเรื่องการควบคุมยังถือว่าอ่อนหัด แต่เอาเถอะ เรื่องการสอนอาจจะไม่มีปัญหาก็ได้

   “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ ขอบคุณคุณครูที่ช่วยดูแลลูกสาวผม ยังไงหลังจากนี้ก็ฝากด้วยนะครับ” รอยยิ้มการค้าถูกดึงมาใช้ ครูเบต้าใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อย พยักหน้ารับคำอย่างเต็มใจ ก่อนพวกเราจะกลับบ้าน วันนี้มีตรวจร่างกายแค่ครึ่งวันเช้าและปล่อยกลับเลยเพื่อไปปรับตัวทำความเข้าใจกับเพศของตัวเอง

   จังหวะที่เดินสวนเด็กที่ชื่อเบล ผมได้ยินคำว่าโอเมก้า พอเหล่มองลูกสาวก็ไม่เห็นมีท่าทีอะไร รอจนกระทั่งขึ้นรถนั่นแหละผมถึงได้ถาม

   “ลูกไม่ดีใจเหรอที่เป็นอัลฟ่า” ถึงผมจะคิดว่าเพศไหนก็ไม่สำคัญ โอเมก้าก็สตรองได้ แต่กลไกทางธรรมชาติ ยังไงอัลฟ่าก็อยู่จุดบนสุดของพีระมิดตรงข้ามกับโอเมก้าอยู่ดี

   อลิสทิ้งตัวนอนหนุนตักผม “ดีใจรึเปล่าอลิสเองก็ไม่รู้ สำหรับอลิสจะเพศไหนก็ไม่สำคัญ ในเมื่ออลิสยังมีแม่ มีพี่อเล็กซ์กับคุณพ่ออยู่ อลิสมั่นใจว่าต่อให้เป็นโอเมก้าก็ไม่เป็นอะไรแน่นอน”

   ผมยิ้มให้กับความคิดของลูกสาว ก้มลงไปจุ๊บหน้าผากแทนรางวัลหนึ่งที พอถึงบ้านก็จูงมือกันเข้าไปเป็นบรรยากาศแสนสุขระหว่างแม่ลูกที่ไม่มีตัวป่วนอย่างเจ้าลูกชายคนโต แต่มีตัวป่วนคนใหม่แทน...

   “นายท่านอลันค่ะ คุณหนูดาวิลตื่นแล้วค่ะ” อดีตพี่เลี้ยงของอลิส ปัจจุบันเป็นพี่เลี้ยงสมาชิกใหม่ของบ้าน เจ้าหนูดาวิเอล ชื่อสุดแสนไฮโซนี้แน่นอนว่าเดวิดเป็นคนตั้ง เพราะผมใช้เป็นหนึ่งในข้อเสนอให้เดวิดยอมมีลูกอีกครั้ง

   “ลอร่าดูแลก่อนนะ ฉันขอไปอาบน้ำก่อน” ออกไปข้างนอกมา ถึงจะไม่นานแต่ก็เจอมลพิษต้องอาบน้ำให้สะอาดก่อนเข้าไปเป็นแม่ลูกอ่อนต่อ อีกฝ่ายโค้งรับกลับไปดูแลทายาทคนใหม่ ส่วนผมกับอลิสพากันไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วเข้าไปหาเจ้าหนูดาวิลในห้องเด็กอ่อนที่อากาศปลอดโปร่ง

   เจ้าตัวเล็กจะอยู่ที่นี่แค่ช่วงกลางวันเท่านั้น พอกลางคืนผมจะพาไปนอนที่เปลเล็กในห้องใหญ่ จะได้ดูแลง่ายๆ ยังไม่ทันเปิดประตูเข้าไป เสียงร้องไห้ก็ดังออกมาซะแล้ว ผมตรงเข้าไปรับเด็กทารกอายุหนึ่งเดือนเข้าสู่อ้อมแขน

   “โอ๋ๆ หิวนมแล้วเหรอ” ผมเปลี่ยนเสื้อมาเป็นแบบติดกระดุมเพื่อง่ายต่อการให้นม สาเหตุที่ใส่สเวตเตอร์ไปหาอลิสก็เพราะสาเหตุนี้ด้วย พอท้องคลอดลูกแมวหน้าอกก็นูนหน่อยๆ เลยต้องพลางไม่งั้นจะดูเด่นเกินไป พอเจ้าตัวเล็กหาตำแหน่งได้ก็เริ่มดูดด้วยความหิวโดยมีพี่สาวนั่งอมยิ้มมอง

   “ดาวิลน่ารักจัง พี่อเล็กซ์ตอนเด็กเป็นแบบนี้รึเปล่าคะ” นึกเทียบระหว่างพี่ชายตัวสูงใหญ่แผ่กลิ่นอายอัลฟ่าไม่แพ้คนเป็นพ่อกลายเป็นเด็กน้อยน่าชัง

   ผมหัวเราะ “ไม่เหมือนหรอก เพราะอเล็กซ์ร้ายกาจกว่านี้เยอะ พอน้ำนมออกมาไม่พอก็ใช้เหงือกขบจนแม่เจ็บ เดวิดเกือบจะจับมาตีก้น” ผมนึกย้อนกลับไปในสมัยนั้น ด้วยความที่ผมมีลูกเร็วเกินไป พวกเราอายุแค่สิบห้าเวลาเลี้ยงอเล็กซ์ค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควร ถึงจะมีแม่ของเดวิดกับแม่นมคอยให้คำแนะนำก็เถอะ

   ส่วนเจ้าหนูดาวิล พอไม่อิ่มก็เริ่มร้องโยเย ผมเลยเปลี่ยนให้ดูดอีกข้าง โอเมก้าผู้ชายนั้นไม่มีน้ำนมมากเหมือนโอเมก้าเพศหญิง เป็นเพียงสารอาหารสำคัญสำหรับเด็กน้อยเท่านั้นจึงไม่พออิ่ม หลังดูดสองข้างเสร็จ อลิสรู้ความรับขวดนมจากพี่เลี้ยงลอร่ามาป้อนน้องในขณะที่ผมติดกระดุมเสื้อ

   มีลูกสาวก็ดีแบบนี้แหละ ช่วยเลี้ยงน้องได้ ส่วนอเล็กซ์...ผมไม่คิดว่าเจ้าตัวจะมีความอดทนพออยู่นิ่งๆ ประคองขวดนมนานๆ ได้ แล้วยังต้องคอยสังเกตตลอดว่าสำลักรึเปล่า งานละเอียดอ่อนแบบนี้คงยากเกินไปสำหรับคนที่อยู่นิ่งๆ ไม่เป็นอย่างลูกชายคนโต

   หลังเจ้าตัวเล็กอิ่ม ผมก็จัดการอุ้มให้เรอเพื่อไล่ลมที่เผลอกินเข้าไปตอนดูดนม แต่ดันไม่เรอออกมาอย่างเดียวน่ะสิ แหวะนมด้วยตามธรรมชาติของเด็ก ผมยิ้มๆ จับผ้าอ้อมเช็ดปากเบาๆ แล้วพานอนบนเบาะที่มีหมอนกั้นรอบทิศเพื่อไม่ให้กลิ้งหลุดไปทางไหน

   สาเหตุที่ผมเลือกเป็นเบาะแทนที่จะให้นอนเปลเพราะแบบนี้จะได้คอยดูแลใกล้ๆ อย่างมอบไออุ่นให้จะได้หลับสบาย อลิสเองก็มานอนด้วย สาวน้อยคนนี้ติดน้องมาก แทบจะใช้เวลาทั้งหมดขลุกอยู่กับน้อง คอยขอให้ผมสอนวิธีเลี้ยงเด็ก เห็นว่าเผื่อได้เลี้ยงหลาน ลูกของพี่อเล็กซ์ในอนาคต ผมนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เลย ให้ผมมีลูกอีกคนยังง่ายกว่าอเล็กซ์มีหลานให้อุ้ม

   ไม่ใช่อเล็กซ์ไร้น้ำยาหรือคิดจะครองคานนะ เจ้าตัวก็มีแฟนบ้างเพราะความฝันของเจ้าตัวคือการได้สร้างครอบครัวแบบเดียวกับพ่อแม่ แต่ส่วนใหญ่คบไปไม่เท่าไหร่ก็เกิดปัญหา เดี๋ยวคบเดี๋ยวเลิกเป็นวงจรอุบาท
   
   ผมกำลังจะเคลิ้มๆ หลับตามลูก เพราะเมื่อคืนเจ้าตัวน้อยโยเยจนผมกับเดวิดแทบไม่ได้นอน ส่วนอลิสเองก็น่าจะตื่นเต้นเรื่องการตรวจร่างกายจนนอนไม่หลับ ตอนนี้เลยหลับแข่งน้องไปแล้ว

   จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ แบบที่ต้องพยายามฟังถึงจะได้ยิน ผมพยักหน้าให้ลอร่าไปเปิด พบเมดอีกคนมารายงาน

   “ขอโทษที่มารบกวนนะคะนายท่านอลัน ตอนนี้มีแขกมาขอพบ จะให้ดิฉันเชิญเข้ามามั้ยคะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาหวิว คงกลัวเด็กๆ ตื่น

   “พอจะรู้มั้ยว่ามาด้วยเรื่องอะไร” ผมถาม ถ้ามาด้วยเรื่องไร้สาระจะได้บอกให้ไล่กลับไปซะ แต่ถ้าเป็นธุระด่วนก็อีกเรื่อง

   “แขกคนนั้นบอกว่า อยากพบนายท่านอลันด้วยเรื่องลูกในท้องค่ะ”

   ผมหรี่ตาครุ่นคิด หรือหลานผมลูกของอเล็กซ์จะมาเสิร์ฟถึงที่? เหลือบมองหนูน้อยดาวิลกับสาวน้อยอลิส ทั้งคู่หลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ ผมจึงค่อยๆ ขยับตัวออก หยิบหมอนมากั้นตำแหน่งตัวเองแล้วหันไปสั่งเหล่าเมด

   “ลอร่าฝากดูคุณหนูด้วยนะ...ลินดา พาแขกมารอที่ห้องรับรองอีกสักพักฉันจะลงไป” ทั้งสองรับคำทำตามที่สั่ง ผมเดินออกมาส่งข้อความหาเจ้าลูกชายว่าแกไปทำใครท้องรีบกลับมาจัดการซะ ก่อนจะเปลี่ยนไปส่งข้อความสั่งให้เดวิดแวะซื้อนมผงกับผ้าอ้อมมาด้วย เพราะที่มีจวนจะหมดแล้ว

   ถามว่าทำไมผมถึงไม่ให้เมดออกไปซื้อให้? ก็ผมพอใจอะ อยากเห็นภาพเดวิดถือของพวกนั้นกลับบ้าน อีกอย่างเป็นการประกาศไปในตัวว่าคุณอัลฟ่าสุดหล่อบ้านรวยกำลังมีลูกอ่อน คนคงไม่แปลกใจกันหรอกที่อัลฟ่าอายุขนาดนั้นยังมีลูกเล็กได้ เพราะช่วงอายุของอัลฟ่ายาวกว่าโอเมก้า ดังนั้นตอนนี้เดวิดยังหล่อเฟี้ยวเหมือนเดิม เดวิดเองก็คิดว่าแบบนี้ดีเหมือนกัน ผมจะได้อยู่กับเขาไปนานๆ

   ระหว่างที่ให้แขกรอเพื่อทดสอบความอดทน ผมจะเล่าเรื่องของครอบครัวเราให้ฟังแล้วกัน คนที่รู้ว่าผมเป็นภรรยาคนใหม่มีแค่วงในแบบโคตรจะในเท่านั้น เพราะตอนผมตายเดวิดทำใจไม่ได้ จึงทำพิธีเงียบๆ คนทั่วไปจึงยังไม่รู้เรื่อง พอเห็นผมเลยบอกว่าหน้าอ่อนกว่าวัยจนอิจฉา ส่วนพวกแวดวงธุรกิจด้วยกันย่อมได้ยินข่าวคราวกันบ้าง ซึ่งพวกนั้นก็ไม่มีท่าทีอะไร อัลฟ่าไม่จำเป็นต้องแต่งงานมีภรรยาคนเดียว

   พอมันไม่ใช่ข่าวด้านลบ จึงไม่มีคนสนใจเนื่องจากมันเอามาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ แถมพวกลูกๆ เองก็ปฏิบัติตัวกับผมอย่างเป็นธรรมชาติ ชีวิตเราเลยสงบสุขเรื่อยมา

   ตอนนี้อเล็กซ์เรียนจบแล้วช่วยเดวิดบริหารบริษัทอยู่ ส่วนกิจการทางฝั่งเซอร์คอนต้องให้คนรักของหมอแมทธิวดูแลต่อไปจนกว่าดาวิลจะโตพอให้ผมกลับไปจัดการดูแลอีกครั้ง เห็นแบบนี้ทางนั้นมีลูกแล้วนะ แถมเป็นแฝดอย่างที่เคยลั่นวาจาไว้ แต่เสียใจด้วย ยังไงก็แพ้ผมอยู่ดี ทางนี้สามคนแล้วฮ่าๆ

   เอาล่ะ เหมือนจะได้เวลาแล้ว ผมในชุดเดิมมีกลิ่นนมนี่แหละ เดินลงไปชั้นล่างเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งมองซ้ายมองขวาสำรวจข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงในบ้านด้วยตาเป็นประกาย เจอแบบนี้ไล่กลับไปเลยดีมั้ยนะ...

   “คุณอลัน!” สังเกตเห็นผมปุ๊บก็ร้องเรียกทันที ดูท่าจะทำการบ้านมาดี ไม่เข้าใจผิดว่าผมเป็นลูกอีกคนของเดวิดหรือคนใช้ในบ้าน หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะภาพครอบครัวขนาดใหญ่ที่แขวนโชว์เด่นเป็นสง่า เป็นภาพที่เดวิดจ้างนักวาดมีชื่อมาวาดให้ใหม่เมื่อสิบสองปีก่อน เดี๋ยวรออีกปีสองปีคงได้วาดใหม่อีกรอบ เพราะตอนนี้เรามีสมาชิกเพิ่ม

   “เข้าประเด็นเลยแล้วกัน เธอมาเพราะเด็กในท้องเป็นลูกของอเล็กซ์ใช่มั้ย” ยืนกอดอกพูด ไม่คิดจะนั่งเพราะผมมั่นใจว่ารอบนี้ใช้เวลาไม่นาน

   สีหน้าอีกฝ่ายดูโล่งอก แววตาฉายความยินดี คงกำลังคิดว่าผมคุยง่ายสินะ เดี๋ยวรู้กันสาวน้อย

   “ใช่ค่ะ ฉันชื่อ...”

   “ไม่จำเป็นต้องบอกชื่อ” ผมไม่คิดจำให้รกสมอง แค่คนผ่านมาแล้วผ่านไป “ถ้าเธอมั่นใจว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของอเล็กซ์จริง ฉันจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ รวมถึงค่าทำคลอดด้วย”

   “ขอบคุณค่ะที่เข้าใจ!” หญิงสาวบีบน้ำตาแสดงความตื้นตัน ผมกลอกตาแบบให้เห็นจะๆ ไม่คิดหลบ

   “อย่าเพิ่งดีใจไป เมื่อเด็กคลอดออกมาต้องตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลของเราว่าเป็นลูกของอเล็กซ์จริงรึเปล่า ถ้าจริงค่อยคุยเรื่องการเลี้ยงดูหลังจากนั้น แต่ถ้าไม่...” ผมเว้นช่วงแย้มรอยยิ้มเย็นเยียบ “เธอต้องจ่ายเงินทั้งหมดคืนมารวมถึงค่าปรับที่ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลโฮราทิโอ้เสียหาย ว่ายังไงละ จะรับข้อเสนอมั้ย ถ้ารับฉันจะได้โทรเรียกทนายร่างสัญญา” โบกโทรศัพท์ในมือไปมา มองอีกฝ่ายที่หน้าซีดเป็นกระดาษ แหงล่ะ เด็กนั่นต้องไม่ใช่ลูกของอเล็กซ์แน่นอน

   ผมไม่ได้เข้าข้างลูกชายตัวเองนะ แต่ผมมีหูมีตาอยู่ทุกที อเล็กซ์ทำอะไรผมรู้หมดเพียงแค่ไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง

   “ฉันให้เวลาเธอกลับไปคิด ลินดาส่งแขก” สั่งเมดโดยไม่คิดจะเหลียวแล เจ้าเบต้าคนนี้คิดจะเป็นหนูตกถังข้าวสารเรอะ ฝันไปเถอะ ฉันนี่แหละจะทำให้กลายเป็นหนูตกถังน้ำมันเอาให้สำลักตายไปเลย จะแถมจุดไฟเผาให้พร้อมจะได้ไม่เป็นมลพิษกับโลก

   ลินดาจัดการได้อย่างรวดเร็ว เข้าไปผายมือเชิญเธอออก พอเธอคนนั้นคิดจะเสียงดัง เมดคนเก่งก็จัดการปิดปากและลากตัวออกไปได้อย่างง่ายดายด้วยรอยยิ้มสุภาพสวนการกระทำ

   “กรุณางดใช้เสียงนะคะ เพาะเดี๋ยวคุณหนูจะตื่น” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนทั้งคู่จะหายออกจากบ้านไป ผมว่าจะกลับไปดูเด็กๆ สักหน่อย เจ้าตัวต้นเหตุก็โผล่มา

   “แม่!”

   เห็นหน้าลูกชายผมนั่งเลยครับ ไม่ใช่อะไร ดูท่าจะคุยกันยาวไม่ได้ขึ้นแล้ว ขอนั่งแล้วกันเมื่อยขา

   “โดดงานกลับมาเรอะ เดี๋ยวก็โดนเดวิดหักเงินเดือน” เลิกคิ้วมองลูกชายที่ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มหล่ออายุขึ้นเลขสาม ก็นะ ร่างนี้ของผมอายุพอๆ กับลูกชายนี่นา

   “ผมเปล่าโดด แค่แบ่งงานให้พ่อทำเท่านั้นเอง ผมขอโทษนะแม่ที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นหลุดมา เธอทำอะไรแม่รึเปล่า น้องๆ ล่ะเป็นยังไงบ้าง ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอจริงๆ ถึงจะเคยนอนด้วยกันแต่ก็แค่ครั้งเดียว และผมใส่ถุงยาง และจัดฉีดยาคุมยังไงก็ไม่ท้องกับผมแน่นอน” มาถึงรัวเป็นชุดจนผมหัวหมุน ยกมือเบรกลูกชาย พูดมากเหมือนใครกันเนี่ย

   “น้องๆ หลับอยู่ข้างบนอย่าเสียงดัง ส่วนเรื่องลูกไม่ได้ทำน่ะฉันรู้แล้ว แม่แกไม่ได้โง่นะเฟ้ย แต่ทีหลังหัดจัดการให้เรียบร้อยด้วย ไม่งั้นฉันจะตอนมันทิ้ง!” ถลึงตาใส่อย่างดุดัน ลูกชายคอหดรีบยกมือปิดเป้า คนนอกเห็นคงอยากควักลูกตาทิ้งที่อัลฟ่าระดับสูงหมดมาดแบบนี้

   “เข้าใจแล้วครับ” ลูกชายตัวหดเหลือสองนิ้ว ขยับเข้ามาบีบนวดประจบจนน่าถีบ ก่อนเจ้าตัวจะเปลี่ยนมาดมฟุดฟิด

   “กลิ่นนม? แม่เพิ่งให้นมน้องมาเหรอ แย่จริง! ผมน่าจะมาให้เร็วกว่านี้จะได้ดูด้วย”

   “ตอนนั้นทำงานไม่ใช่รึไง อย่ามาหาเรื่องอู้” บิดหูไปหนึ่งที เจ้าตัวร้องโอ๊ยลูบหูตัวเองป้อยๆ รีบเปลี่ยนเรื่องทันใด

   “แล้ววันนี้ผลการตรวจร่างกายของอลิสเป็นยังไงบ้างครับ”

   “เป็นอัลฟ่าอย่างที่พวกเราคิดไว้นั่นแหละ” ความจริงเรื่องเพศไหนนี่พอจะมองกันออกตั้งแต่อายุสิบสองแล้ว อัลฟ่ามีสัญชาตญาณดี ตัวโอเมก้าเองก็มองได้ว่าเหมือนตัวเองรึเปล่า ส่วนเบต้าไม่มีทางเกิดในครอบครัวเราแน่นอน แต่ก็นะ...สำหรับคนอื่น บางกรณีเหนือความคาดหมาย พวกที่คล้ายกับผมคือมีความบกพร่องทางพันธุกรรม หรือไม่ก็มีความเหลื่อมล้ำของเพศจนต้องใช้วิทยาการทางการแพทย์เพื่อช่วยยืนยัน

   ผมคุยกับอเล็กซ์ไม่ทันครบห้านาที ก็มีอีกคนโดดงานถือถุงผ้าอ้อมกับนมผงเข้ามาจ้องเขม็งใส่ลูกชาย

   “อเล็กซ์กลับไปทำงานซะ อย่าทำตัวเป็นคนไม่รับผิดชอบแบบนี้”

   มีหรือลูกชายจะยอม ถึงจะลุกไปรับถุงมาวางบนโต๊ะให้ผมเช็คก็เถอะ

   “ทีพ่อล่ะยังหนีงานกลับมาเลย”

   “ฉันเคลียร์งานส่วนของตัวเองเสร็จไปหมดแล้ว” ตอบเสียงเรียบขณะลูกชายอ้าปากค้าง เดวิดหัวเราะหึหึในคอ ยกยิ้มมุมปาก “ยังต้องฝึกอีกเยอะเด็กน้อย”

   อเล็กซ์ได้แต่มองพ่ออย่างเจ็บใจ สุดท้ายก็ออกรถกลับบริษัทอีกรอบอย่างไม่ยอมแพ้ ผมหยิกแขนเดวิด

   “โดดงานมาเหมือนกันยังทำเนียนอีก”

   เจ้าตัวดึงผมให้ลุกขึ้นยืนแล้วโอบเอวพาขึ้นชั้นบนพร้อมถุงผ้าอ้อมในมืออีกข้าง

   “ผมไม่ได้โดด แค่เอางานกลับมาทำที่บ้านเท่านั้นเอง ขอดูลูกก่อนนะ อลิสเองก็เป็นอัลฟ่าใช่มั้ย”

   “ใช่ ไม่รู้ว่าดาวิลจะเป็นโอเมก้ารึเปล่า ทำไมมีลางสังหรณ์ว่าจะเป็นอัลฟ่านะ” เด็กน้อยขนาดนี้เพศยังไม่ชัดเจนหรอก แต่มันเป็นสัญชาตญาณของแม่ที่ผ่านประสบการณ์มีลูกมาแล้วสองคน

   “จะเป็นเพศไหนก็ไม่สำคัญ ยังไงซะก็เป็นลูกเรา ผมไปอาบน้ำก่อนนะ คุณกลับไปดูลูกเถอะ” เดวิดก้มลงมาจูบปากผมตามด้วยแก้มก่อนจะผละออกไปเพื่ออาบน้ำ ส่วนผมก็กลับไปดูลูกต่อ ห้องเจ้าตัวเล็กก็ติดกับห้องนอนใหญ่นั่นแหละ

   ยังไม่ทันจะก้าวเข้าห้อง เดวิดกลับชะโงกหน้าถามตรงประตูห้องนอน

   “คุณเพิ่งให้นมลูก?”

   “ใช่ แต่เหมือนมันไม่ค่อยออก ดาวิลเลยงอแง” ผมถอนหายใจ เดวิดยิ้มโผล่มาทั้งตัวคว้าเอวผมเข้าห้องนอน

   “มาสิ เดี๋ยวช่วย” เจ้าตัวยิ้มแบบที่ได้เห็นเฉพาะคนในครอบครัว ทีแรกผมก็ลังเล แต่ทำไงได้ น้ำนมไม่ค่อยออกก็ต้องให้สามีช่วยดูด อย่าเพิ่งคิดลึกสิ ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้นหรอก...มั้ง

   “ก็ได้ เด็กๆ เพิ่งหลับกว่าจะตื่นก็ตอนมื้อเย็น” และแล้วผมก็เดินตามเดวิดเข้าห้องไป

   อะไร? อยากเข้ามาเหรอ?? ไม่อนุญาต ขอปิดประตูล่ะนะ

   
Fin.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   ต้องบอกก่อนว่าเป็นตอนพิเศษจากกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในเพจที่ให้คนมาคอมเม้นบอกความรู้สึกกับบรรดาเรื่องสั้นที่ปลาเงินแต่ง เพราะชอบเหตุผลที่เขียนถึงเรื่องนี้ จึงเลือก I'm come back มาแต่ง ถึงอย่างนั้นก็ชอบคอมเม้นของทุกคนนะ ส่วนเรื่องอื่นๆ ไว้ว่างๆ นึกอยากบิ้วตัวเองจะมาปั่นลงด้วย

เรื่องเกี่ยวกับ Omegaverse
   หลายคนอ่านอาจจะสงสัยว่าโอเมก้ามีน้ำนมด้วยเหรอ รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ อันนี้ต้องขออธิบายว่า ธีม Omegaverse นั้น

   ธีมหลักคือลักษณะเด่นของเพศทั้งสาม อัลฟ่า โอเมก้าและเบต้า ส่วนรายละเอียดในเรื่องเหล่านักเขียนจะเป็นคนเสริมเองเพื่อให้เรื่องสมเหตุสมผลหรือลงตัวกับกับพล็อตตัวเองมากขึ้น ดังนั้นถ้าอ่านแล้วมันไม่ตรงกับเรื่องนี้เรื่องนั้น ไม่ต้องแปลกใจไป ถือว่าเป็นศิลปะการดำเดินเรื่องของนักเขียนท่านนั้นๆ นะ

   ยกตัวอย่างที่ปลาเงินเสริมเข้าไป
   - ช่วงฮีทไม่มีผลกับสายเลือดเดียวกัน
   - โอเมก้ามีน้ำนมเพื่อสารอาหารที่ครบถ้วนสำหรับเด็กทารก แต่ไม่มากพอให้อิ่มต้องใช้นมผงเสริม
   - ความบกพร่องของฮอโมนอลัน ที่เกิดใหม่แล้วเข้าช่วงฮีทตอนอายุ18เพราะโดนกระตุ้นด้วยกลิ่นเดวิดที่เป็นคู่แห่งโชคชะตา
   - เรื่องช่วงวัยของอัลฟ่าที่เยอะกว่าโอเมก้า เพราะเป็นจ่าฝูงที่แข็งแกร่งแถมไม่ได้ลดทอนสุขภาพร่างกายด้วยการคลอดลูกอย่างโอเมก้า (เหตุผลจริงๆ คือเดี๋ยวเดวิดมันแก่ไป)
   - มีอะไรอีก นึกไม่ออกแล้ว ฮ่าๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-08-2017 02:39:05 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ขอบคุณที่เอามาลงนะคะ

ยังน่ารักเหมือนเดิม

ปล.อยากให้เอา ฟิส-ดาแรน มานี่ด้วยจัง
อ่านที่ DD แล้วมันไม่ค่อยฟิน. หรือเราคิดไปเอง???
555 ขอบคุณค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อยากเข้าห้องด้วย :ling1: :ling1: :ling2:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ขอบคุณที่เอามาลงนะคะ

ยังน่ารักเหมือนเดิม

ปล.อยากให้เอา ฟิส-ดาแรน มานี่ด้วยจัง
อ่านที่ DD แล้วมันไม่ค่อยฟิน. หรือเราคิดไปเอง???
555 ขอบคุณค่ะ  :mew1:
ฟฟฟฟฟฟ คงไม่เอามาลงจ้า เพราะมันยาวมากกกกกกกกกก ลงคงกระอักเลือด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Mayniemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กรี๊ดดดดดดด โดนใจมากค่า
ชอบธีมโอเมก้าอยู่แล้ว มาเจอนายเอกแนวนี้
โดนใจมาก ฟินมากกกกกก หวังว่าจะมีเรื่องยาวนะคะ
ภาคลูกก็ได้ อยากิ่านแนวโอเมก้าอีก ชอบบบบบบบ
งงว่าตัวเองพลาดเรื่องนี้ไปได้ไง สนุกมากกกกกก
ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ คนเดี๋ยว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
น่ารักอะ
 :hao6:

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เปิดประตูเดี๋ยวเน้!

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดีใจ ได้อ่านตอนพิเศษ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

อลัน สุดยอดดดด งดงาม มีเสน่ห์  :impress2:
แถมมีลูกน้อยคนที่สาม ดาวิเอล  เพิ่มมาอีก
ชอบครอบครัวรักใคร่กันดีมาก อบอุ่น
เดวิด อเล็กซ์ อลิส หลงแม่ ติดแม่งอมแงม  :ling1: :ling1: :ling1:
ี่ถ้าลูกโต ก็คงไม่ต่างจากพี่ๆที่หลงแม่ซ้า.... :mew1: :mew1: :mew1:

อยากอ่านต่ออีก น่าเป็นเรื่องยาว
ชอบสำนวน ลีลาการเขียนของไรท์มากกกกกก  :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
น่ารัก
โอเมก้ามันต้องอย่างงี้
แบบอลันนี่
ให้ไปเลย 10/10

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เป็นโอเมก้าที่แซ่บมากเด้อ 555555

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ราชินีมาก เด็ดสุดๆๆๆ

ออฟไลน์ Ilovemalong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตามมาจากที่มีคนแนะนำในทวิตค่ะ ปกติเราจะไม่ค่อยอ่านโอเมก้าเวิร์ส มันตะขิดตะขวงใจ เลือกอ่านเป็นบางเรื่อง
แต่เรื่องนี้ชอบมากๆที่โอเมก้าเก่ง สู้คน แถมคู่ก็ยังรักเดียวใจเดียว เลิฟมาก ณ จุดนี้ ขอติดตามผลงานนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด