หลังจากที่ได้รับหนังสือเรื่องนี้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอย่างที่บอกไว้ว่า เบบี้จะมาต่อตอนพิเศษเรื่องนี้ให้ถ้ามีวันสำคัญๆ 
พอมีเคอฟิวมา กูก็คิดว่ามันสำคัญอ่ะนะ นานๆจะเจอที
เหอะๆ..และจากที่เคยบอกว่าจะต่อทุกเรื่องให้เรื่อยๆ
เรื่องสุดท้ายกรูก็รักมึงจนได้..ไอ้โรคจิตนี้ตอนพิเศษที่เบบี้ได้เขียนต่อให้นี้ ขอให้ทราบกันทุกคนว่า ไม่มีตอนใดๆที่ลงในหนังสือ..ตอนที่ลงในหนังสือที่บางคนได้ซื้อไปนั้นก็ขอสงวนสิทธิ์ไม่เอาลงไว้ ณ ที่นี้นะคะ ขอให้ทราบกันโดยทั่วกัน 
ป.ล ส่วนตอนที่แต่งขึ้นมานี้ ขอให้ใช้วิจารณญาณ เบบี้ไม่ได้ต้องการสื่อถึงอะไรทั้งนั้น แต่งมาให้เป็นกลางมากที่สุด ได้โปรดอย่าเอาไปโยงกันเป็นเรื่องเป็นราวแต่อย่างใด ขอบคุณมากค่ะ
ป.ล 2 ..ต่อไปเป็นตอนพิเศษ แสบปาน ---------->> ต่อไปคือ เป้เข็ม ไปตามลำดับ แล้วแต่ว่ากูจะมาต่อเมื่อไหร่ กร๊าก____________________________
พิเศษนอกรอบ1
ตาร์กะข้าว
(เมื่อครั้งที่เสื้อเหลือง)
“เหี้ยละตาร์”ผมบอกไอ้ตาร์เมื่อเห็นข่าวเสื้อเหลืองปิดสนามบิน
“ไรอ่ะ”ไอ้ตาร์รีบเดินมาดูที่หน้าจอโน้ตบุ๊กผม
“มันปิดสนามบินกัน”ผมบอก พร้อมกับกดมือถือโทรออก ตอนนี้ผมกับไอ้ตาร์อยู่ที่ฟิลิปปินส์ครับ พอดีว่าผมกับมันมีวันหยุดพร้อมกันอาทิตย์นึง ผมก็เบื่อด้วยอยู่ไทยมีแต่อะไรก็ไม่รู้ แล้วรุ่นพี่ผมที่ทำงานอยู่ที่นี่เค้าก็ชวนมาเที่ยวเปิดหูเปิดตา ผมก็เลยว่าไปมันที่นี่ดีกว่าอย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเงินเยอะ มีรุ่นพี่คอยพึ่งพาได้ด้วย อีกอย่างค่าตัวเครื่องบินช่วยนี้ถึงค่าเงินบาทมันจะต่ำ ถึงตั๋วไปไฟล์นี้มันจะแพงไปนิดหน่อย แต่ผมกับไอ้ตาร์ไม่ได้เที่ยวกันสองคนนานแล้ว ส่วนมากก็หยุดไม่ตรงกัน ผมก็เลยเลือกมาเที่ยวที่นี่ และมันก็นานแล้วด้วยอ่ะครับที่อยู่ที่นี่ ก็เลยเบื่อนิดหน่อย
ผมพาไอ้ตาร์เข้าบ่อนคาสิโนที่นี่ ดวงผมก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้วกับเรื่องพนัน ผมก็เลยไม่ได้เล่น ปล่อยให้ไอ้ตาร์กับรุ่นพี่ผมเล่นกันสามสี่คน
ตู๊ดด.ๆ..ๆ...ๆ
“พี่เอก สนามบินปิดหรอวะ”ผมรีบถามทันที
“เออ พวกกูก็พึ่งรู้นี่”พี่เอกพูดด้วยความตกใจนิดหน่อย
“ห่าละ แล้วจะกลับยังไงวะเนี้ย”ผมบ่นทันที เพราะว่าวันจันทร์หน้าต้องพาไอ้เพลงไปเข้าค่ายด้วย ห่าเอ้ย ไรวะเนี้ย
“แล้วมันจะเลิกเมื่อไหร่”ผมถามด้วยความร้อนรน
“กูจะรู้ไหม ห่า..กูก็อยู่นี่กับมึงเนี้ย”พี่เอกตอบเซ็งๆ
“พี่ผมต้องพาลูกไปเข้าค่ายเนี้ย”ผมบอกทันที
“แล้วมึงจะทำไง เค้าก็ติดอยู่นั่นกันหมด”พี่เอกบอก
“แล้วพวกพี่ๆน้องๆที่จะกลับพร้อมผมวันพรุ่งนี้อ่ะ”ผมถามเพราะว่านัดกับพวกน้องๆนักเรียนกับพี่ๆที่ทำงานกลับพร้อมกัน
“ต้องเลื่อนตั๋วกันหมดแหละว่ะ พวกเด็กมันโทรไปเลื่อนแล้วนะ มึงจะเอาไง”พี่เอกถาม
“ห่าเอ้ย”ผมบ่นอย่างหัวเสีย
“กูอยากกลับบ้านอ่ะ”ผมบอกมัน
“หึหึ เหี้ย ก็มันกลับไม่ได้ มึงจะให้มันบินลงทับหัวเค้ารึไง”พี่เอกพูด
“เออๆ แค่นี้นะ งั้นเดี๋ยวเย็นนี้กูไปเลื่อนตั๋วเองก็ได้”ผมบอกมัน เพราะว่าผมจำร้านที่มันพาไปเลื่อนตั๋วรอบที่แล้วได้แล้ว
“รอเวลาหรอ”ไอ้ตาร์หันมาถาม
“อืม คงงั้นว่ะ”ผมพยักหน้าตอบ
“แล้วยังไงวะเนี้ย”ไอ้ตาร์พูดลอยๆ พร้อมกับตาก็อ่านข่าวไป
“ไอ้เพลงเอากูตาย”ผมบ่นพร้อมกับทิ้งตัวเองลงบนเตียง
“มึงโทรสิตาร์”ผมบอกแล้วยื่นมือถือให้มัน ไอ้ตาร์หันมามองหน่อยๆ
“ข้าวโทรดิ”มันโยนขี้กลับมาเหมือนเดิม
“หึหึ..มึงกล้าขัดกูหรอ”ผมหัวเราะแล้วแสยะยิ้มให้อีกฝ่ายที่นั่งเล่นอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ก
“หึหึ.....”มันหัวเราะแล้วเลียนแบบท่าหัวเราะผมกลับ
“ไม่กล้า”มันตอบพร้อมกับหยิบมือถือไปจากมือผม
“เชื่องมาก”ผมบอกขำๆ ไอ้ตาร์กดโทรออกสักพักโดยการที่ต้องต่อสายหลายต่อ
“ฮัลโหลครับ”ไอ้ตาร์พูดเสียงใส เวลามันพูดปากมันก็ยิ้มไปด้วย
“น้องเพลง พรุ่งนี้อาตาร์ยังไม่กลับนะครับ”ไอ้เหี้ยนี่ใส่เลยหรอวะ
“อ่อ..พอดีว่า เครื่องบินน้ำมันหมด”มันพูด
“ห๊ะ..หมดได้สิ”ไอ้ตาร์พูด กูว่าไอ้เพลงมันตามทันแหง
“อ่อ เออ..มีม๊อบเสื้อเหลือง รู้ได้ไงอ่ะ”ไอ้ตาร์พูดขำๆ กูว่าละ เหี้ยเพลงแม่งฉลาด
“ครับ กลับไม่ได้..ไม่รู้ว่าจะกลับไปทันไหมด้วย”ไอ้ตาร์บอกอีก
“พ่อหรอ..พ่อเข้าห้องน้ำครับ”ไอ้ตาร์เหลือบมามองหน้าผมหน่อยๆก่อนที่จะโกหกไป
“ไม่ได้นั่งอยู่แถวนี้”สัตว์หมาเอ้ย เหี้ยนี่แม่งมีตาทิพย์รึไงวะ ผมได้แต่ชักดิ้นชักงอหัวเราะอยู่บนเตียง
“ห๊ะ..จะคุยกับพ่อหรอ”ไอ้ตาร์พูดพร้อมกับยื่นมือถือมาทางผม ผมรับไป แล้วทำหน้าปรับเสียงนิดหน่อย
“ฮัลโหล”ผมทำเสียงเอื่อยๆนิดหน่อย
“คราบ พ่อท้องเสียน่ะ”ผมบอกเสียงเหนื่อยทันที
“พ่อท้องเสียหรอ”มันทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ
“ครับ”ผมตอบ
“แล้วนี่พ่ออยู่ตรงไหนทำไมรับโทรศัพท์เร็วจัง”มันพูดเหมือนจับผิด
“พึ่งออกมาจากห้องน้ำนี่ไง”ผมบอก กูก็เริ่มจะหมดความอดทนละ
“จริงอ่ะ”มันย้ำเสียง
“เออดิวะ !!”ผมกระแทกเสียงอย่างลืมตัวไปละ
“พ่อ!!”ไอ้เพลงกระแทกเสียงกลับแบบจับผิด
“ห่าไรเล่า”ผมย้อน
“พ่อโกหกอ่ะ”มันพูดเสียงแข็ง
“ก็มึงอะไรนักหนาเล่า จับผิดกูอยู่นั่นแหละ กูจะขี้จะเยี่ยวบ้างไม่ได้ไง”ผมพูดยาวเป็นชุด
“ขี้เยี่ยวได้แต่ห้ามโกหกเพลงเด้”มันพูดเสียงดังใส่โทรศัพท์มา
“โว้ย ไม่กลับแม่งละบ้านเบิ้นอ่ะ”ผมย้อน
“กลับ”ไอ้เพลงกระแทกเสียงให้
“กลับไม่ได้โว้ย มึงเห็นไหมเล่าเสื้อเหลืองมันปิดอยู่อ้า!!”ผมพูดกระแทกเสียงดังเพราะกำลังอยากจะฆ่าลูกตัวเอง ห่า
“ไม่สน ไม่สน ไม่สนนนนนนนนนนนนนนน”ไอ้เพลงพูดเสียงดัง
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก”ผมตะโกนเสียงกลับเพราะเถียงมันไม่ทัน เสียงมันแหลมนี่หว่า ทำเอาไอ้ตาร์ที่นั่งอยู่ขำไปแล้วเรียบร้อย
“แล้วนี่ปู่ไปไหน”ผมถามเพราะว่าผมให้พ่อกับแม่มาอยู่กับไอ้เพลงที่บ้านผมน่ะครับ เป็นห่วงมัน แล้วอีกอย่างจะได้เจอพี่เจ้าด้วย
“ปู่ให้อาหารปลา”มันบอก
“ไม่ใช่ดื้อล่ะ”ผมย้อน
“ไม่ใช่โกหกล่ะ”มันย้อนกลับแทบจะทันที
“เออเว้ย”ผมกระแทกเสียงแล้วยื่นมือถือให้ไอ้ตาร์เลยทันที
“ครับน้องเพลง”ไอ้ตาร์รับพูดยิ้มๆ
“ครับ อาสบายดี..ซื้อให้แล้วครับ”ไอ้ตาร์พูด มันคงถามถึงของฝากมันน่ะ
“ทิ้งไปแล้วโว้ย”ผมตะโกนใส่
“อ่อ พ่อลืมกินยาน่ะครับ”ไอ้ตาร์ก็เอากับเค้าด้วย ผมเลยงัดคอมันลงกับที่นอนแม่งเลย
“ครับๆ เดี๋ยวอาโทรหาใหม่ มีไรก็โทรมานะครับ”มันบอก
“ครับ หวัดดีครับ”ไอ้ตาร์พูดก่อนที่จะวางไป
“เด็กเชี้ยใช่ไหม”ผมพูดพร้อมกับทิ้งตัวลงนอน
“หึ..”ไอ้ตาร์นอนยิ้มๆ
“เหี้ยไรมากมายอีกเนี้ย”ผมบ่นพอนึกถึงภาพที่เห็นบนเวป
“วงจรอุบาท ลงๆขึ้นๆ คอยดูดิ”ไอ้ตาร์พูดอย่างเซ็งๆ
“มึงรู้ได้ไง”ผมถาม
“อ่าว ไม่เคยเรียนหรอ พี่เคยเรียนประวัติศาสตร์พวกอารายธรรมไทยอ่ะนะ อาจารย์บอกว่า..แบบนี้เรียกว่าวงจรอุบาททางการเมือง ประมาณว่ามันจะวนเป็นวงกลมอ่ะ”ไอ้ตาร์อธิบายทันที ส่วนผมก็ได้แต่นอนมองมันที่กำลังทำมือเหมือนวาดรูป
“พอตรงนี้กินตรงนี้ ตรงนี้เอาชนะ ตรงนี้มาหักล้าง พอพวกที่โดนหักล้างก็มาเอาลง มันก็จะแก้แค้นกันไปมา แบบเป็นวงกลม ประมาณว่าไม่มีที่สิ้นสุด ทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่สมัยที่เรายังไม่เกิดแล้ว เค้าเลยเรียกกันว่าวงจรอุบาททางการเมือง”ไอ้ตาร์บอก
“เหอะๆ ไม่เคยได้ยิน แต่แม่งชื่อเหี้ยดีเนอะ กูชอบว่ะ”ผมบอกขำๆ
“ชื่อแม่งเท่อ่ะ ตั้งหัวเอ็มก่อน”ผมบอกพร้อมกับแย่งโน้ตบุ๊กมาแล้วเปลี่ยนสถานะทันที
“ข้าวเหลืองหรอ”ไอ้ตาร์ถาม
“สีเขียวขี้ม้า”ผมบอกขำๆ
“ตลก”ไอ้ตาร์ตบหัวให้หนึ่งที
“อย่าไปยุ่งเลย การมงการเมือง..เอาที่แน่ๆคือ จะต้องเลื่อนตัวอีกกี่รอบ”ผมหันไปบอกมัน
“ไม่รู้ดิ เอาเลื่อนยาวๆก่อนแล้วกัน พอได้วันกลับเมื่อไหร่ค่อยล่นมาดีเปล่า”ไอ้ตาร์บอก
“อืม ก็ได้”ผมบอกมัน พร้อมกับเล่นเนตต่อ ไม่นานผมกับมันก็หลับไปในที่สุด ตื่นมาอีกทีก็พากันไปอาบน้ำ เล่นกิจกรรมในห้องน้ำ ก่อนที่จะออกไปเลื่อนตั๋ว แล้วก็พากันไปกินเหล้าบ้านรุ่นพี่ ก่อนที่จะกลับมาโรงแรมอีกครั้ง
.............
.............
“ห๊ะ..อะไรนะพ่อ”ผมพูดเสียงดังเพราะว่าตกใจมากๆ
“อะไรของพ่อเนี้ยยยยยยยยยย”ผมพูดด้วยอาการที่เริ่มปวดหัวละ
“เหอะๆ”พ่อหัวเราะ เหมือนสำนึกผิด
“ผมให้มาดูไอ้เพลงให้ผม แล้วพ่อไปม๊อบทำไมเล่า”ผมพูดว่าหน่อย ผมก็รู้ว่าพ่อผมค่อนข้างเหลือง แต่พ่อก็ไม่น่าไปม๊อบนี่หว่า เพราะว่าไอ้เพลงมันต้องไปโรงเรียน แล้วนี่หิ้วแม่ไปด้วย สงสัยพี่เจ้าคงห้ามไม่อยู่ พ่อก็เลยไปกับเค้าด้วย แล้วนี่เอาไอ้เพลงไปด้วยๆนะ โอ้ยยยยยยยย..ประสาทจะกิน
“พ่อกลับบ้านเลยนะ เพลงมันต้องไปเรียน”ผมบอกพ่ออย่างดุๆ
“พ่อมาแป๊บเดียว”พ่อพูด
“พ่อ ไม่เข้าเรื่องเลยอ่ะ ผมไม่ได้ว่าพ่อเลยนะเรื่องอะไรแบบนี้แต่นี่มันมากเกินไป เพลงมันต้องไปเรียนอ่ะพ่อ แล้วพ่อก็แก่แล้วนะ เฮ้อ..ผมเป็นห่วงรู้ไหมเนี้ย พ่อนะพ่อ”ผมบ่นออกไปยาวเลยทีนี้ เพราะว่าผมเป็นห่วงพ่อมากจริงๆ พ่อกับแม่ก็อายุเยอะแล้ว ให้ไปนั่งอากาศร้อนๆคนเยอะๆแบบนั้นได้ไง ผมไม่ได้ว่าเลยเรื่องพวกนี้ แต่คือให้พอดีหน่อย นี่สงสัยฮึกเหิมมาก ผมไม่อยู่เลยแอบหนีไปเนี้ย แล้วตอนนี้ลูกผมจะเป็นยังไงเนี้ย พรุ่งนี้มันต้องไปเรียนเช้าด้วย อีกอย่างก่อนเข้าค่ายอาจารย์ให้มันซ้อมเกือบหกโมงเย็นทุกวันเลยด้วย
“พ่อให้ข้าวคุยกับเพลงหน่อย”ผมบอกอย่างหงุดหงิด
“โหลลลลล พ่ออออออ”ไอ้ห่าเพลงนี่ก็รื่นเริงได้ตลอดเวลา
“มึงตามปู่มาทำไมเนี้ย”ผมพูดเสียงแบบไม่อยากจะเชื่อกับไอ้ลูกตัวดีและพ่อตัวดีของผม
“คนเยอะแยะเลย”มันพูดด้วยเสียงตื่นเต้น
“มึงกลับบ้านเลยนะไอ้เพลง มึงต้องไปโรงเรียน กูไม่ต้องการให้ครูมึงโทรมาถามเรื่องมึงอีกกกกกกกกก..เข้าใจไหม”ผมพูดเสียงยานอย่างที่สุด เพราะว่าผมเบื่อกับการที่ครูต้องโทรมาฟ้องพฤติกรรมหลายๆอย่างของมัน
“แต่ว่าปู่ยังสนุกอยู่เลยนะพ่อ”มันพูดเสียงใส ปนกวนตีนสำหรับผม
“ไอ้เหี้ย สนุกพ่อมึงสิ”ผมด่าให้
“ก็พ่อแหละ”มันย้อน
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย..เกิดซ้อมหนักๆแล้วนอนไม่พออย่างนี้ น็อกขึ้นมาจะว่ายังไง”ผมพูด
“ใกล้แข่งแล้วนะทำไมทำตัวแบบนี้วะเพลง”ผมพูดเสียงเซ็งๆ
“พ่ออ่ะ เพลงไม่ผิด”มันทำเสียงหงอยทันที
“เอาปู่มาคุยสิ”ผมพูดสั่ง
“..................”ส่วนไอ้เพลงก็เงียบ เหมือนกำลังกระซิบกระซาบอะไรกับปู่มันอยู่ไม่รู้ แต่คนรอบข้างนี่ดังกระหึ่มได้อีก
“เออว่าไง”พ่อรับ
“พ่อ..ข้าวจะพูดครั้งสุดท้ายนะ..พ่อ ต้อง กลับ บ้าน เดี๋ยวนี้”ผมสั่งชัดถ้อยชัดคำมากๆ
“รู้แล้วน่า”พ่อทำเสียงแบบเหมือนจะไม่กลับอ่ะครับ
“พ่อ ถ้าพ่อไม่กลับตอนนี้ ไอ้เหล้าทุกอย่างที่พ่ออยากได้ ข้าวจะเอามันให้ยามแถวนี้แหละ”ผมขู่ทันที
“โห พ่อจะกลับอยู่แล้วแหละ ไอ้นี่นิ”พ่อรีบโวยวายทันที
“กลับเลยนะพ่อ..แล้วให้เพลงมันเข้านอนเร็วๆด้วย พรุ่งนี้มันคงไปซ้อมอีก อย่าให้ข้าวรู้นะพ่อว่าวันนี้พ่อกลับดึก..เดี๋ยวนี้ พ่อเข้าใจคำว่าเดี๋ยวนี้ใช่ไหม”ผมย้ำ
“เออๆ มึงนี่ย้ำกูจริง แค่นี้นะ”พ่อกระแทกเสียงใส่
“ครับ”ผมตอบ
“เฮ้ออออออออออออ”ผมถอนหายใจพร้อมกับเอาหัวซุกกับหมอนอย่างช่วยไม่ได้
“พ่อบ้าเหมือนกันแฮะ”ไอ้ตาร์พูดขำๆ
“ถ้ากูอยู่ไทยกูจะไม่ว่าเลยถ้าเค้าจะไป แต่นี่ใครจะดูแลวะ”ผมบ่นเพราะว่าผมเป็นห่วงจริงๆ เกิดมีอะไรขึ้นมาใครจะช่วยได้ล่ะครับ
“เอาน่า พ่อบึกขนาดนั้น”ไอ้ตาร์พูดเอาใจ
“ตาร์”ผมเรียกอีกฝ่ายพร้อมกับเอามือไปลูบๆหน้ามัน ไอ้ตาร์หันมามองงงๆ
“ตีนกาขึ้นอ่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก”ผมหัวเราะชักดิ้นชักงอกันเลยทีเดียว
“ข้าวอ่ะ มีที่ไหน”ไอ้ตาร์พูดพร้อมกับลุกขึ้นไปส่องกระจกทันที
“หึหึ คึคึ...สาด มีดิ”ผมพูดไปหัวเราะไป น้ำตาแม่งก็จะไหล ไอ้ตาร์ทำหน้าทำตาอยู่ตรงหน้ากระจกสังเกตตีนกาตัวเอง
“ยิ้มดิ”ผมบอก
“ไม่เอาอ่ะ”มันบอก
“ข้าวก็มีเหมือนกันแหละ”มันหันมาย้อน
“มีที่ไหน”ผมย้อนกลับพร้อมกับเด้งตัวเองลุกขึ้นยืนเดินไปที่กระจกยืนข้างๆมัน แล้วยิ้มใส่กระจกแม่งเลย
“เสียใจ ไม่มีว่ะ”ผมบอกแล้วยักคิ้วกวนตีนใส่มัน
“ชิร์..ไปบูทเลย”ไอ้ตาร์พูดพร้อมกับลากแขนผมทันที
“อะไรของเมิงงงงงงงงงง”ผมพูดอย่างขำๆ
“ไปห้างอ่า”มันพูดอย่างร้อนรน หน้าตาแม่งเครียดเลย
“ไปทำไมเล่า”ผมย้อนอย่างขำๆเพราะรู้ดีว่ามันไปทำไม
“ไปซื้ออะไรก็ได้ อะไรก็ได้ที่ทำให้มันหายไป”ไอ้ตาร์พูดสีหน้าจริงจัง
“ไม่ทันแล้วล่ะมึง ฮ่าๆๆๆ”ผมหัวเราะเยาะมัน
“ไปคนเดียวก็ได้วะ”มันพูดจริงจัง พร้อมกับเดินไปใส่ถุงเท้าทันที
“ตาร์ มึงไปจริงอ่ะ”ผมถามทันที เพราะไม่คิดว่ามันจะไปจริงๆ ไอ้ตาร์ใส่รองเท้าไม่สนใจ
“ไปด้วยก็ได้”ผมบอก เพราะไม่คิดว่ามันจะจริงจังขนาดนี้ ผมรีบเดินไปใส่ถุงเท้ากับรองเท้า ไอ้ตาร์พอมันใส่เสร็จมันก็เดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์กับของทุกอย่างใส่เป้
“เครียดไปได้ โอ๋ๆ”ผมรีบเข้าไปแกล้งหยอกมันทันที ไอ้ตาร์หน้านิ่งไม่ยอมตอบอะไร
“ตาร์ โกรธกูจริงอ่ะ”ผมถามพร้อมกับล็อกห้องเดินตามมันไปขึ้นลิฟต์ ระหว่างที่ขึ้นผมก็พยายามแกล้งแซวมันแต่ดูเหมือนมันจะโกรธจริงแฮะ อะไรวะจะคิดมากขนาดนั้นอ่ะ ผมก็แกล้งแซวเล่นเฉยๆนะ ที่จริงมันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรอ่ะ
ระหว่างที่ไปบูทที่เป็นเครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย ไอ้ตาร์มันก็อธิบายผู้ชายที่บูทเป็นการเข้าใจก่อนที่จะยกเซตครับเครื่องกับครีมบำรุงผิวที่สามารถใช้ได้เกินสามเดือนถ้าใช้เป็นและประหยัดนิดหน่อย
“ห่า สองหมื่น”ผมบ่นทันทีเมื่อเห็นราคารวมแล้ว
“ตาร์ๆอย่าเอาเลยนะ”ผมรีบท้วงทันทีพร้อมกับดึงแขนมัน
“ไม่”ไอ้ตาร์ตอบชัดถ้อยชัดคำทันทีหน้าตาแม่งจริงจังได้อีก
“มันแพง”ผมกระแทกเสียงพร้อมกับมองไปที่ของทั้งหมด
“พี่จ่ายเอง”มันพูดแล้วหันไปพยักหน้าให้พนักงานพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตให้
“เฮ้ยๆ”ผมรีบร้องพร้อมกับจะไปดึงบัตรออกจากมือไอ้ตาร์ที่ยื่นให้พนักงาน ไอ้ตาร์รีบดึงแขนผมไว้แล้วไอ้พนักงานมันก็หยิบไป ไอ้สาดดดดดดด..มึงกลัวไม่ได้เงินใช่ม้ายยยยยยยยยยยยยยย
“ไอ้ตาร์ ห่าเอ้ย”ผมกระแทกเสียงอย่างโมโห เสียดายเงินอ่า
“จิ้..โอ้ยยย เสียดายเงิน”ผมกระทืบเท้าเพราะกูหาทางออกไม่เจอ ไอ้พนักงานคนอื่นก็มองกันยิ้มๆ
“ก็ข้าวพูดเองทำไมล่ะ”มันหันมาย้อนใส่
“กูพูดเล่นอ่ะ”ผมย้อนกลับ
“ไม่จริงอ่ะ”ไอ้ตาร์ทำหน้าหงอยไปอีก
“จริง”ผมบอก ถึงมันจะมีจริงก็เหอะนะ เหอะๆ
“มันมีนิ พี่เห็น”มันพูดเสียงหงอยๆ
“ไม่เห็นมีไรเลย มันไม่ได้น่าเกลียดสักหน่อย..มึงหล่ออยู่แล้ว ไม่น่าเกลียดเลย นะๆกูไปเอาบัตรคืนก่อน”ผมรีบพูดแล้วจะเดินไปหาไอ้พนักงานนั่นที่แม่งกำลังเอาบัตรรูดเลย
“ข้าว ช่างมันเหอะ พี่จะเอา”มันพูดห้ามทันที
“ตาร์”ผมหันไปพูดแล้วมองหน้ามัน
“เฮ้อ มึงบ้ารึเปล่า กูแซวเฉยๆอ่ะ”ผมบอก
“ก็มันมีจริงอ่ะ”มันพูดบอก
“เฮ้อ มันไม่เป็นไรเลยตาร์..เดี๋ยวสักวันกูก็ต้องมี มึงรังเกียจกูไหมล่ะ”ผมย้อนถาม
“.............”ไอ้ตาร์ส่ายหัว
“กูก็เหมือนกันแหละ”ผมพูดกลับ
“แต่ว่ากันไว้ดีกว่าแก้ก็ดีเหมือนกันนะ งั้นเอาให้ข้าวอีกชุด”ไอ้ตาร์พูดพร้อมกับจะเดินไปสั่งอีก
“ห่าตาร์ ถ้ามึงสั่งอีกกูฆ่ามึงหมกบูทแน่ เอาดิ”ผมรีบเข้าไปล็อกคอมันทันที พนักงานมันก็ยืนงงกันเป็นไก่ตาแตกเลยทีนี้
“จริงๆนะ..ข้าวจะได้ดูไม่แก่ไง”ไอ้ตาร์หันมาพูดหน้าตาจริงจัง
“เออๆ ใช้กับมึงก็ได้ ห่าเอ้ย”ผมบ่นอย่างเสียไม่ได้
“หึหึ”ไอ้ตาร์หัวเราะออกมา แล้วอยูดีๆมันก็หุบยิ้มจนผมสังเกตได้
“เป็นไรอ่ะ”ผมถามพร้อมกับยิ้มออกมา
“เปล่า”ไอ้ตาร์ตอบทันทีหน้าตาเหรอหราได้อีก
“หึหึ..นี่อย่าบอกนะว่ามึงไม่กล้ายิ้มอ่ะ”ผมพูดไปขำไปจนแทบยืนไม่อยู่
“ข้าวอ่ะ..อย่าขำเด้”ไอ้ตาร์รีบเข้ามาผลักผมอย่างเขินๆ คิ้วมันก็ขมวดติดกัน
“ฮ่าๆๆ..เชี้ย ไหนๆ ยิ้มดิ้”ผมเอามือไปจับแก้มมันสองข้าง
“ไม่ต้องเลย”ไอ้ตาร์ปัดมือออก หน้ายังคงงออยู่
“อะๆ ไม่แกล้งละ..กูล้อเล่นเฉยๆ ถ้าขืนมึงไม่ยิ้มเพราะว่ากลัวตีนกามึงเห็นชัดอ่ะนะ กูคงบ้าตายแน่อ่ะ มึงจะไม่ยิ้มให้กูดูจริงๆหรอ”ผมพูด
“แต่มันจะเห็นอ่ะ”มันพูดบอก
“ประสาท ใครจะมาสังเกต”ผมว่าให้
“โอ๋ๆ..หึหึ เหี้ยเอ้ย ฮาว่ะ”ผมพูดอย่างอดไม่อยู่ ตอนแรกว่าจะไม่ขำแล้วนะ ผมนั่งยองๆลงกับพื้นเพราะว่ามันขำแบบยั้งไม่อยู่ สักพักไอ้พนักงานมันก็เอาบิลมาให้ไอ้ตาร์เซน ไอ้ตาร์มันก็เซนแล้วรับของมา
“จะทาหมดไหมเนี้ย”มันบ่น
“ยิ้มหน่อยดิ”ผมบอก
“...............”ไอ้ตาร์หันมายิ้มแล้วแสยะหน้าใส่ผมอีก
“ไหนดูดิ..ห่าไรนักหนาวะ ทามันทั้งคืนเลยมั้งมึง”ผมพูดบ่นๆมองดูของในถุง
“กูว่า”ไอ้ตาร์พูดขำๆ
...............
...............
“พ่อมาแล้ว อาตาร์มาแล้ว”ไอ้เพลงตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล ผมยกกระเป๋าลงจากรถแท็กซี่ ไอ้เพลงมันก็รีบวิ่งมาหาทันที
“หวัดดีพ่อ”ดูมันทัก ไอ้ห่า..มันยกมือไหว้พร้อมกับก้มหัวอย่างกวนๆ
“หวัดดีครับอาตาร์”มันเข้าไปกอดไอ้ตาร์หลังจากไหว้เสร็จ
“ทำไมมึงไม่กอดกู”ผมยืนมองหน้ามัน
“เพราะ..พ่อเป็น อสูรร้ายยยยยยยยยยยย บรึ้ยยยยยยยย~~~~~~~”ไอ้เชี้ยนี่ไม่พูดเปล่า มันทำท่าเลียนแบบชินจังตอนกวนตีนแม่มันอ่ะ ไอ้สาด ผมง้างเท้าจะไปถีบมัน แต่มันดันหลบทันไปอยู่หลังไอ้ตาร์นู่น
“มึงลากกระเป๋าเข้าบ้านไปเลยนะ”ผมบอกพร้อมกับยกกระเป๋าที่หนักแต่ให้ไอ้เพลงจูงกระเป๋าแบบเลื่อนเข้าบ้าน พอเข้าบ้านมาพ่อกับแม่นี่เหลืองอ๋อยมาเชียว
“หวัดดีครับพ่อ หวัดดีครับแม่”ผมยกมือไหว้ไปพร้อมๆกับไอ้ตาร์ที่พูดพร้อมกับยกมือไหว้นั่นแหละ
“ไหนเหล้าพ่ออะ”พ่อถามทันที ผมเลยต้องรื้อกระเป๋ามันที่ชั้นล่างนั่นแหละ แยกของฝากกับของที่ใช้แล้วให้หมด พ่อกับแม่ก็รื่นเริงกับของๆตัวเอง พอๆกับไอ้เพลงที่มันเล่นหุ่นยนต์ตัวใหม่ไปแล้วเรียบร้อย
“พ่อจะกลับวันไหน”ผมถาม
“วันมะรืน”พ่อบอก
“เดี๋ยวผมกับตาร์ไปส่งแล้วกัน ไหนๆก็ลาเพิ่มแล้ว”ผมบอก พ่อก็ได้แต่พยักหน้ารับ ผมเดินไปกดโทรศัพท์โทรหาสหายทั้งหมด พร้อมกับบอกให้มันมาเอาของฝากด้วย ใครไม่มาก็ไม่ต้องเอา เพราะว่ากูซื้อมาให้นี่ก็ดีนักหนา ให้กูเอาไปให้ด้วยอีกนี่มันก็จะมากเกินไปแล้ว
กลายเป็นว่าหลังจากที่นัดพวกมันให้มาเอาของ พวกมันกลับมาจัดปาร์ตี้ที่บ้านผมแทน พ่อผมตอนนี้เมาแป๊ดไปแล้วเรียบร้อย หน้าแดงพร้อมกับขวดเหล้า อีกมือก็กอดคอไอ้แมนอยู่
“เฮ้ออออออ~~..ให้ตายเถอะ”ผมหันไปเพราะว่าผมไม่ได้เป็นคนพูดอ่ะดิ ไอ้เพลงยืนกอดตุ๊กตาโดราเอม่อน พร้อมกับอีกมือที่แบแล้วส่ายหัวอย่างกวนส้นตีนหลังจากที่มันมองสภาพอาๆของมันทั้งหลายที่เมาแบบไม่ได้สติกันอยู่บนโต๊ะ
“พ่อไม่ต้องห่วง เพลงโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วล่ะ”ไอ้เพลงมันเดินมาจับแขนผมพร้อมกับทำหน้าทำตาจริงจัง และผมรู้ดีว่ามันกำลังประชดและกวนตีนผมอยู่
“ถ้ามึงยังไม่ไปภายในสามวินาที กระดูกมึงได้ไปอัด!อยู่ในตัวโดเรม่อนแน่ๆ”ผมขู่กระแทกเสียงใส่มันไปเพราะว่าผมไม่มีแรงไปต่อล้อต่อเถียงกันมันหรอกตอนนี้ กูเมาจนจะอ้วกอยู่แล้วเนี้ย หลังจากคำขู่ของผมที่ได้ผลอย่างทันท่วงที ไอ้เพลงมันก็รีบวิ่งขึ้นห้องมันไปเลย ส่วนผมและผองเพื่อนน่ะหรอ คือเน้..ยังอีกยาววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว กร๊ากกกกกกก
.....................................................
หลังจากนี้จะต่อ "ฟิกกับขวัญ" เรื่องเพราะว่ารัก..แน่รึเปล่า ให้ก่อน..ทราบความคืบหน้าว่าจะต่อเรื่องไหนต่อไปได้ที่เรื่อง "เพราะว่ารัก..แน่รึเปล่า" นะคะ
บอกให้ทราบกันโดยทั่วกัน
ขอบคุณค่ะ 