ตอนที่129 ตัดดังฉับ เร็วมาก
การเดินทางที่แสนวิเศษ รึเปล่าหว่า ของพวกผมกับเพื่อนๆ ก็จวนเจียนจบลงแล้ว หลังจากพักที่โรงแรมก็ไปตั้งแคมป์กันที่รีสอร์ท อยู่สามสี่วัน ก็เดินทางกลับ ผมกลับมาที่คอนโดไอ้ตาร์ เก็บข้าวของบ้างบางอย่าง
อีกไม่ถึงเดือนก็ต้องเดินทางแล้ว คงไม่ได้อยู่ห้องนี้อีกแล้ว ใจหายไปหวิวๆ ผมกับไอ้ตาร์ใช้ชีวิตปกติไปวันๆ พากันเที่ยวบ้าง บางวันไปทำบุญบ้าง หรือไม่ก็นัดเจอเพื่อนๆบ้าง อาทิตย์หน้าผมคงต้องกลับบ้านพร้อมไอ้ตาร์นั้นแหละครับ ไปพักผ่อนที่บ้าน จัดเตรียมข้าวของที่จะต้องเอาไป ไปเจอหน้าพ่อหน้าแม่ก่อนไปสักหน่อย ไอ้เป้ กับไอ้เข็ม กลับไปตั้งแต่กลับมาจากเชียงใหม่แล้ว ไอ้แสบก็ด้วย เหลือก็แต่ไอ้ป๊อดกับไอ้แมนเท่านั้น
.................................ตัดดังฉับ................................
ผมกับไอ้ตาร์ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านไปมาหาสู่กันตลอด ผลัดกันย้ายบ้านนอน จนพ่อกับแม่บอกว่าเดี๋ยวย้ายบ้านมาอยู่ติดกันซะเลยดีกว่ามั้ย
ตอนนี้ผมรีบกินอะไรที่ผมอยากจะกิน ทำอะไรที่อยากจะทำที่นี่ วันก่อนที่โรงเรียนเก่า จัดแนะแนวรุ่นน้องภาคพิเศษ ให้รุ่นพี่ศิษย์เก่าของโรงเรียนไปแนะนำการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย ผมก็ไปกับเค้าแหละครับ แนะๆ นำๆ จนรุ่นน้องงง มีเพื่อนคนหนึ่ง ติดคณะมนุษย์อังกฤษ ของมหาวิทยาลัยมีชื่อ อาจารย์ถามว่าทำอย่างไรถึงติด มันตอบไงรู้ป่ะครับ
“เหอะๆ..ไม่รู้อะครับ มันติดเอง”ดูแล้ว ไอ้กฤษมันคงไม่ได้ตั้งใจให้ติดจริงๆอะครับ มันคงติดเองจริงๆ
แล้วก็หนีไม่พ้นนักเรียนอย่างผมที่ทำชื่อเสียงทั้งด้านดี และไม่ดีให้กับโรงเรียนแห่งนี้ ก็ต้องออกไปอภิปรายความเลวให้ฟัง น้องบางคนอยู่ม.สี่มาก่อน มันก็ต้องเจอและรู้จักพวกผมกันแล้ว ก็เป็นที่เฮฮา สังสรรค์กันดีไปครับ
“พี่ครับ ผมเรียนสายสังคม จะสอบวิศวะได้เปล่าครับ”ไอ้เด็กเหี้ยคนหนึ่งลุกขึ้นถามกลางห้องประชุม ที่มีนักเรียนอยู่เกือบเก้าร้อยคน
“พี่ว่า .งั้นมึงก็ไปตายแล้วเกิดใหม่ดีกว่า.”ผมพูดใส่ไมค์แบบไม่กลัวโดนอาจารย์ด่า
“โฮฮฮฮ”กันทั้งฮอร์
“อ่าว..ที่พี่เหี้ยจะตายยังติดเลย.”อ่าว ไอ้เด็กปากดีคนไหนมันพูดวะ
“ใครพูดวะ.”ผมพูดใส่ไมค์ถาม พวกมันเฮกันใหญ่ครับ เพราะว่าพวกห้องตัวเหี้ยทั้งนั้น เป็นที่คุ้นเคยกันดี
“ไอ้เข่งพี่ข้าวไอ้เข่ง”เพื่อนคนหนึ่งมันตะโกน
“เหี้ยกรูก็เรียนเว้ย.ไอ้นี่นิ.”ผมด่ามัน เหมือนเป็นการพบรุ่นพี่รุ่นน้องมากกว่าการมาแนะแนวอีกอะครับ ผมเก็บรายละเอียดเล็กน้อย ทั้งตอนพวกเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอกันนาน แล้วมาเจอกันในวันนี้ บางคนเรียนนู้บ้าง นี่บ้าง เฮฮากันดี ไม่เจอกันก็เหมือนจะรักกันมากกว่าเดิมอีกครับ ไอ้ตาร์มันก็เจอเพื่อนมันบ้าง แต่ก็ไม่เยอะเท่าของพวกผม เพราะว่าพวกผมจบไม่นาน แต่ไอ้ตาร์มันก็ถือว่านานแล้ว
หลังจากแนะแนวรุ่นน้อง โปรแกรมของผมก็อยู่บ้าน กับแม่ กับพี่ตัง แล้วก็พ่อ กินข้าวนอกบ้านบ้าง ทำเองบ้าง ยกครัวกันไปบ้านไอ้ตาร์บ้าง ไอ้ตาร์มาบ้านผมบ้าง ก็ดีครับ อบอุ่นดี รู้สึกดีจนใจหาย ไม่อยากไปแล้วกรู
“มึงนั่งมองรักแร้กรูทำเหี้ยไรเนี่ย”ผมถามไอ้ตาร์ ผมนอนสูบบุหรี่แล้วไม่ได้ใส่เสื้อนะครับ เอาแขนเท้าหัวไว้ ไอ้ตาร์นั่งเล่นคอมอยู่ปลายเตียง หันตัวเองมานั่งจ้องผมตั้งนานแล้ว แต่ผมขี้เกียจทัก
ไอ้ตาร์ยิ้ม ผมยิ่งอายดิ มองเหี้ยไรเนี้ย
“อะไรมึง..เอาให้เคลียร์นะมึง.เดี๋ยวจะโดน”ผมพูดบอก
“เปล่า..ขาวดี..ทำไมไม่มีขนรักแร้เลยอะ.”ไอ้ตาร์แม่งถามอีกครับ
“กรูจะรู้มั้ย..”ผมบอกมัน ตอนอยู่โรงเรียนตอนมัธยมนะครับ พวกเพื่อนผู้หญิงอะ ชอบขอดูรักแร้ผม แล้วก็ประจานความน่าเกลียดของพวกตัวผู้ตัวอื่น ว่าทำไมขนเยอะน่าเกลียด แต่ของผมไม่มี ขนหน้าแข่งก็บางมากเลยครับ
“ไหนดูของมึงดิ..”ผมบอกมัน ไอ้ตาร์มันยกแขนตัวเองอย่างกับเด็ก
“แอ้ๆๆๆๆๆ.ขี้จ๊ะ.”ผมแกล้งมัน หลังจากกลับจากเชียงใหม่อะครับ พวกผมได้ยินคำว่าขี้จ๊ะนี่เอามาใช้กันจวบจนปัจจุบันเลยครับ
“บ้า..มีน้อยจะตาย”ไอ้ตาร์บอก แล้วหัวเราะอายๆ มันก็มีน้อยจริงๆแหละครับ น้อยกว่าผู้หญิงอีก
“หึหึ.”ผมหัวเราะเบาๆ วันนี้พี่เจ้ากลับมาบ้านด้วยนะครับ ลางานมาเป็นอาทิตย์ จะมาอยู่กับผม แล้วก็รอส่งผมด้วยเลย
ไอ้ตาร์นั่งเล่นเอมไป ผมก็นอนกลิ้งนอนเกือกไปไม่มีอะไรทำอะครับ
“ตาร์คราบบบ...”ผมเรียกมัน
“ครับ.”ไอ้ตาร์ตอบ
“ข้าวอยากกินปลาหมึก..”ผมเอาหน้าซุกที่นอน อยากกินจริงๆอะ
“เดี๋ยวไปซื้อกัน..”ไอ้ตาร์บอก
“แต่ว่าข้าวขี้เกียจไป.”ผมอ้อนมันอีก
“งั้นก็ไม่ต้องกินครับ.”ไอ้ตาร์ตอบแบบแกล้งๆ
“......................” เงียบ ไม่ตอบ มีงอน
ผมนอนเอาหน้าซุกที่นอนอยู่สักพัก ก็รู้สึกได้ว่าเตียงยุบลงไป แต่ผมยังนิ่งอยู่ครับ
“กินปลาหมึกนี่ก่อนได้ป่ะ.”ไอ้ตาร์คล่อมตัวผมที่นอนคว่ำอยู่
“กินจนเบื่อแล้ววะ.”ผมบอกมัน
“เบื่อก็ต้องกิน.”ไอ้ตาร์บอก
ผมผลิกตัวกลับไปหามัน ไอ้ตาร์ยิ้มเจ้าเล่ห์รอเลยครับ
“หึหึ..”ผมหัวเราะแบบรู้แกว
“ออกไป.ห้องไม่ได้ล๊อก.”ผมผลักตัวมัน
“เดี๋ยวดิ..”ไอ้ตาร์มันยังรั้งแขนไว้ แล้วเอาหน้าซุกคอผมอีก
“ฮ่าๆ..จักกะจี้..”.ผมดิ้นอยู่ในอ้อมกอดมัน ผลักก็ไม่ออกครับ ไม่มีแรง มันคัน
“อย่า....”ผมรีบปัดมือมันออก ลูบๆ ไล้ๆอยู่นั่นแหละครับ
“อยู่เฉยๆสิครับ..”ไอ้ตาร์กระซิบ เสียงเริ่มไปแล้ว เสียงเริ่มไป
“อืม....บอกว่าอย่าไงเล่า..แม่ง ห้องไม่ได้ล๊อก..”สิ้นเสียงผมแค่นั้นแหละครับ
แกร๊ก
แอ๊ดดด
ตุบ
“โอ้ย....”ไอ้ตาร์ร้องออกมา
“มีไรหรอพี่เจ้า..”ผมรีบถาม พี่เจ้าหน้าเหวอนิดๆ
“เออ..คือ..แม่ให้มาถามนะครับว่าจะไปตลาดด้วยกันมั้ย.”พี่เจ้าทำหน้าแบบว่า เออ บอกไม่ถูก ไอ้ตาร์นั่งอยู่ตรงพื้นด้านล่าง จากผลที่ถูกผมถีบเมื่อตะกี้
“เออ..ไปมั้ย...”ผมหันไปค้อนไอ้ตาร์ที่เมื่อกี้เล่นไม่ดูสถานการณ์ทำให้พี่สุดที่รักของกรูเข้ามาเห็น
“ครับ...”ไอ้ตาร์มันลุกขึ้น แล้วไปหยิบกางเกง
“เดี๋ยวข้าวตามลงไปนะ.”ผมหันไปยิ้มให้พี่เจ้า พี่เจ้ายิ้มให้ผมแล้วปิดประตูให้ ได้ยินเสียง ล๊อกให้ด้วยอะ
เวรกรรมกรู
“มึงนะมึง..กรูบอกว่าอย่าบอกว่าอย่า”ผมบ่น
“ก็ใครจะไปรู้อะ.”ไอ้ตาร์ตอบ แล้วทำหน้านอย์ๆ
ผมกับไอ้ตาร์แต่งตัว ลงมาหาแม่ข้างล่าง พร้อมกับพี่เจ้า แล้วออกเดินทางกันไปตลาดสด ซื้อกับข้าวทำกินเย็นนี้ แม่ผมกับไอ้ตาร์นี่เข้ากันได้ดีเหลือเกินครับ ผมกับพี่เจ้าเป็นส่วนเกินไปแล้ว
ผมเดินๆไป ไปเจอคู่ขาเก่าเข้า เค้าก็มากับแม่เหมือนกันครับ ทักทายกันไป ไอ้เหี้ยตาร์หึงอีก มันก็แม่ง หึงได้ตลอดเวลาอะ แล้วเอาไปฟ้องแม่ แม่ผมก็เชื่ออีก ว่าผมไปจีบสาว เข้าข้างกันเข้าไป
เวลาแห่งความสุขเริ่มหมดลงเรื่อยๆ
“ตาร์..ทำไมมึงอาบน้ำนานจังวะ.”ผิดปกติครับ วันนี้ต้องไปส่งผมที่สนามบินแล้ว
ก๊อกๆๆ
“ไอ้ตาร์..”ผมเรียกมันซ้ำอีกครั้ง
“............................” ตายไปยังแฟนกรู
“ตาร์....ตาร์..”ผมเคาะไปเรียกมันไปครับ
แกร๊ก
“ทำอะไร..”ผมรีบถามมันด้วยความเป็นห่วง เพราะว่านานมาก ไม่ยอมขานรับด้วย
“เปล่า.”ไอ้ตาร์ตอบ
“ช้า เดี๋ยวกรูก็ตกเครื่องพอดี”ผมบ่น แล้วก็เดินมาดูของว่าเก็บเรียบร้อยหมดแล้วรึยัง เอาให้เคลียร์อีกที
“ตกก็ดีดิ..”ไอ้ตาร์มันพูดลอยๆ ผมหันไปหามัน ที่กำลังนั่งเช็ดหัวอยู่หน้ากระจก จะเรียกว่าเช็ดหัวก็ไม่น่าใจ มันเอาผ้าเช็ดหัวพาดไว้บนหัวแบบนั้น
ผมเดินเข้าไปหามันที่นั่งหันหลังอยู่ แล้วหยิบผ้าเช็ดหัวออก ไอ้ตาร์รีบก้มหน้า
“ไม่เอานะมึง..อย่าทำแบบนี้”ผมกระซิบบอก ไอ้ตาร์ไม่ยอมเงยหน้า ผมเลยเดินไปพิงโต๊ะเครื่องแป้งไว้ แล้วจับหน้าไอ้ตาร์ให้เงยขึ้นเบาๆ
“นี่กรูเพิ่งรู้นะว่ามึงขี้แย”ผมพูดยิ้มๆ ไอ้ตาร์หน้างอ
“จูบกรูหน่อย.”ผมบอกมัน
“จูบกรูหน่อย.”ย้ำอีกครั้ง
“ไม่จูบกรูงอ.....”พูดไม่ทันจบ ไอ้ตาร์ประกบปากจูบทันที แต่ทันใดนั้นเอง แปลกไปแล้ว แปลกขึ้นอีก พอเหอะ ดูดดื่มมากไปแล้วครับพี่น้อง มากไปแล้ว
“ฮา......”เมื่อมันเผยปากออก ทำให้ผมต้องครางออกมาเบาๆ
“อะ...อย่า พะ..”กรูจะบอกว่าอย่าเพิ่ง แต่คงจะไม่ทันการแล้ว โอ้ แม่เจ้า ผมพยายากผลักไอ้ตาร์ออก แต่ยิ่งผลัก ไอ้ตาร์ยิ่งออกแรงมากขึ้น จนผมเริ่มเจ็บแขนแล้ว เอาก็ได้วะ มึงจะเอาแบบนี้ใช่มั้ย ผมผลักมันไปนอนบนเตียง แล้วเดินลิ่วๆไปล๊อกประตูห้องทันที ไอ้ตาร์มองผมไม่หยุด ผมถอดเสื้อผ้าออกโดยเร็ว กรูใจง่ายมาก ทั้งกางเกง และเสื้อ ออกหมด แล้วตามลงไปที่เตียงติดๆ
ผมดึงผ้าขนหนูที่พันตัวไอ้ตาร์ออกเบาๆ แล้วบรรเลงเพลงกามอารมณ์กันอย่างเร่าร้อนทันที ไอ้ตาร์ทำเหมือนอดอยากมาจากไหน ทั้งๆที่เมื่อคืนก็ทำไปเองเนี้ย
เสียงครวญครางของผมกับมัน อย่างกับคนไม่เคยเอากันอย่างนั้นแหละครับ ไอ้ตาร์มันกระแทกกระทั้น อย่างกับผมเป็นนวมที่ไม่รู้สึกอะไร
“ตาร์...เบาๆ กรูเจ็บ...”ผมรีบท้วงก่อน ไอ้ตาร์ไม่ฟังเสียงอะไรเลย จากสีหน้าที่ผมเห็น ไม่รู้แม่ง หื่น หรือว่าอยาก หรือว่าโมโหกันแน่ แต่ก็ช่างมันเหอะ ตามใจมัน อยากทำอะไรก็ทำไป มึงมีแรงเท่าไหร่มึงใส่มาเลยแล้วกัน เดี๋ยวกรูรับไว้เอง ฮืออออ
“อึก...อะ อะ อืออ”ไอ้ตาร์ครางอยู่ข้างหูผม ทั้งเลีย ทั้งขบ ทำหน้าที่ดีมาก ไอ้เวร
ก๊อกๆๆ
“เฮ้ย..ไอ้ข้าวเสร็จยัง.”เสียงพี่ตังนี่หว่า ผมตกใจ จะผลักไอ้ตาร์ออก แต่รู้สึกเหมือนมันยังกระแทกไม่หยุด แถมเร็วกว่าเดิมอีกซ้ำ
“อึก..เชี้ย.”ผมด่ามันเบาๆ
“เดี๋ยวๆ..ยังไม่ได้อาบน้ำเลย..แป๊บนึง.”ผมรีบแก้ตัวทำเสียงให้เนียนที่สุด
“เออเร็วๆนะ.”พี่ตังบอก แล้วก็เงียบหายไป ไอ้ตาร์มันหยุดกระแทก แล้วจับหน้าผมไปจูบ เอวมันก็เคลื่อนไหวเบาๆ ต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ
“อึก...เร็วๆสิตาร์..”ผมบอกมัน ไอ้ตาร์มันเริ่มเคลื่องไหวเอวเร็วขึ้น ลึกขึ้น จนผมจุกไปหมด ต่างคนต่างหอบครางกันไม่ฟังเสียงใคร ไอ้ตาร์ไม่ยอมพูดอะไรเลยระหว่างทำ มันเล่นครางลูกเดียว จนน่ากลัวละ ไอ้เชี้ย
และแล้วภารกิจระดับชาติก็จบลง ผมเดินไปอาบน้ำใหม่อีกครั้งด้วยความทุลักทุเล อาบห้านาทีเสร็จเลย เพราะเดี๋ยวแม่ด่าว่าช้า รีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ไอ้ตาร์แต่งเสร็จแล้ว มันนั่งรอผมอยู่
“ไปกัน..”ผมบอกมัน พร้อมกับยกกระเป๋า แล้วไปเปิดประตู ไอ้ตาร์ยกกระเป๋าผมอีกใบตามมาหน้าตาแบบ งอมาก กระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบ กระเป๋าลากขึ้นเครื่องอีกหนึ่งใบ พร้อมกับกระเป๋าเป้สะพายอีกใบ รู้สึกจะรุงรังพิลึก แต่กรูทิ้งไม่ได้นิ
ผมขนของลงมาข้างล่างเสร็จ นี่เป็นเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา เครื่องออก สองทุ่มครึ่ง ก็คงทัน วันนี้เอารถตู้ไปส่งผม พ่อกับแม่ไอ้ตาร์ แล้วก็พี่เลขก็มา พี่เจ้า พี่ตัง แล้วก็ผมกับไอ้ตาร์ แล้วก็พ่อกับแม่ผม ออกเดินทาง หาอะไรกินระหว่างทาง เพราะว่าหิวมาก
ไอ้พวกเพื่อนเวรกลับกรุงเทพกันไปแล้ว เพราะมันไปรอ เกือบได้เวลาเปิดเรียน มันบอกจะไปเจอผมที่สนามบิน ผมก็โอเคตามนั้น
ไอ้ตาร์นั่งเงียบตลอดทาง และตลอดทางเช่นกันที่ผมจับมือมันไว้ตลอด พอพ่อแม่เผลอๆคุยกันมากๆ ก็เอามาหอมเล่นซะเลย ไอ้ตาร์มันหันมามองหน้าผมเป็นระยะ ผมเห็นหน้ามันแล้วก็สงสาร แต่ทำไงได้ละครับ ยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง
พอมาถึงสนามบิน ใจยิ่งแป้ว ไม่อยากไปแระ เซ็งเป็ด ผมกับพี่ตังเดินไปโหลดกระเป๋า พร้อมกับบุ๊คที่นั่ง เรียบร้อย ก็เดินไปหาพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ที่เค้าให้บริการ
“มาแว้ววววว...”เสียงเรียกร้องมาแต่ไกล พวกเวรแม่ง วิ่งกันมาอย่างกับก่อม๊อบ
“ช้าชิบ.”ผมบ่นใส่
“รถติดสาดๆอะ.”ไอ้แมนบอก
แล้วพวกมันก็จัดการไหว้พ่อไหว้แม่ผมกับไอ้ตาร์
“โอโห ครบองค์ประชุม”ผมพูด พร้อมกับมองไปรอบๆ พี่ป่าน พี่ฝ้าย พี่จอย พี่ไม้ พี่ปอง พี่กอบ พี่ซัน พี่ป๊อด ไอ้ทศ ไอ้นิล ไอ้เอ็ม แล้วไอ้เปรตอีกห้าตัว ยืนอยู่ สุสานคนตัวตะกั่ว
ผมกับพวกมันนั่งคุยกันเฮฮาอยู่ตรงนั้น แต่กลับหันมามองคนข้างๆกลับเหี่ยวเฉาซะจริงๆครับ
“เฮ้ย.เดี๋ยวกรูมานะ.”ผมลุกขึ้นแล้วจับมือไอ้ตาร์ติดมือตัวเองมาด้วย
“เออ..”ไอ้พวกนั้นเหมือนรู้ เออ พ่อแม่กรูอยู่ด้านหลังด้วยนี่หว่า ลืม
“ไปเป็นเพื่อนกรูหน่อย..”ผมหันไปบอกไอ้ตาร์ ไอ้ตาร์ลุกตามาอย่างว่าง่าย ผมพามันเดินมาชั้นล่าง ชั้นอาหาร อะไรหลายๆอย่าง กรูก็ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร แล้วพามันเดินไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย
“เป็นอะไรครับ.”กรูต้องเอาลูกสุภาพเข้าชน
“ตาร์เป็นแบบนี้แล้วข้าวจะไปสบายใจได้ยังไง”ผมพูดอีก พร้อมกับหยุดเดิน แล้วลากมันมาใกล้ๆกับเก้าอี้ม้านั่งริมทางเดิน ผมลากมันนั่งลง
“ใจหาย.”มันพูดเบาๆ
“กรู เอ้ย ข้าวก็เหมือนกัน.”ผมพูดบอก
“สัญญาได้มั้ยว่าไปอยู่ที่นั้นจะไม่มีใคร.”มันหันมาพูด แล้วจ้องตาผมเขม่ง ผมไม่ชอบการสัญญานะครับ ไม่เคยสัญญากับใครถ้ารู้ว่าเรื่องนั้นจะทำได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่ เพราะคำว่าสัญญาถ้าทำไม่ได้ผมจะรู้สึกผิด รู้สึกไม่ดีไปตลอดเลย เลยไม่เคยที่จะรับปากใครส่งๆ
“อืม..กรูสัญญา”ผมบอกอย่างมั่นอกมั่นใจ ถ้าผมบอกว่าผมไม่สัญญา ผมว่ามันคงไม่สบายใจแน่ แต่ให้ทำไงได้ ในเมื่อสัญญาไปแล้ว ก็คือสัญญา แต่คำว่าสัญญาสำหรับผมมีความหมายมาก บางคนอาจคิดว่าเล่นๆ แต่สำหรับผม มันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การที่เราจะพูดคำว่าสัญญาออกไปมันช่างลำบาก ซึ่งผมไม่ชอบคำๆนี้เลย
“สบายใจแล้วใช่มั้ย”ผมถามมัน พร้อมกับบีบมือมันกระชับ มันรู้แหละครับว่าคำนี้มีความหมายสำหรับผมมาก ตั้งแต่ผมคบกับมันมา ผมไม่เคยพูดสัญญาเลยสักครั้ง บางครั้งไอ้ตาร์จะพูด ผมจะเบรกไว้ตลอดว่า อย่าสัญญา เพราะถ้าผิดสัญญา มันก็เหมือนทำผิดต่อสิ่งๆนั้น มันบาปรู้มั้ย ผมบอก ไอ้ตาร์ก็เลยไม่เคยที่จะพูดสัญญาเลยสักครั้ง รวมทั้งคำว่าอุตส่าห์ด้วย ผมเกลียดมากเลยคำนี้ มันจะพูดว่าตั้งใจตลอด ไม่เคยพูดว่าอุตส่าห์สักที
“อืม.”มันยิ้มตอบ
“โทรหาทุกวันด้วยนะ”ไอ้ตาร์บอก
“skypeก็ติดให้แล้วนิ”ผมบอกมัน
“ไม่เอา.ว่างๆอะโทรหาด้วยไม่ใช่แค่skype”ไอ้ตาร์ทำหน้างออีก
“ครับพี่ครับ..ได้ครับ..อยากได้ไรบอกเลยครับ เดี๋ยวผมจัดให้”ผมพูดประชด
“หึหึ..”ไอ้ตาร์หัวเราะแล้วจับหัวผมไปพิงไหล่มัน
“อายบ้างเหอะ”ผมพูดเพราะว่าคนเดินผ่านไปผ่านมาแถมยังมองอีก เค้าคงว่าไอ้สองตัวนี้เป็นเกย์ไม่มีที่จีบไงวะ
“อย่าลืมคิดถึงนะ”ไอ้ตาร์พูด
“อืม.”
“รักพี่คนเดียวด้วยนะ”พูดอีก
“พันรอบแล้ว”ผมย้ำเตือน
“อืม.เพื่อความแน่ใจ”มันตอบ
“มึงก็ด้วย..”ผมบอกมัน
“ได้อยู่แล้ว.”มันตอบผม
“ไปเถอะ.ได้เวลาแล้ว”ผมยืนขึ้นบอกมัน ไอ้ตาร์พยักหน้า
มันจับมือผมแล้วก็เดินกลับไปที่พวกแม่ๆนั่งอยู่ ได้เวลาแล้ว ผมล่ำลาพ่อกับแม่ผม พี่เจ้าด้วย กอดกันแล้วกอดกันอีก พ่อกับแม่ไอ้ตาร์ก็อวยพรอย่างดี จบแล้วจะให้แต่งงาน แซวได้อีกครับแม่ครับ
“ถึงแล้วโทรหาด้วยนะไอ้เสือ”ไอ้แมนบอก
“เออ..ไอ้ตะกั่ว..หาเมียเป็นหลักเป็นแหล่งสักทีเหอะ”ผมบอกมัน
“กอดที.”ไอ้แมนพูด มันเดินเข้ามากอดผม แน่นมาก แน่นเกินไปแล้วมึง เกินไปแล้ว
“อย่าเพิ่ง..”ไอ้แมนร้องทักก่อน เพราะว่าผมจะดันมันออกแล้ว
“นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึง.ร้องไห้”ผมกำลังจะขำครับ
“ไอ้เชี้ย.”ไอ้แมนด่าออกมา ทำเอาคนรอบข้างหัวเราะกันไปตามๆกัน
“มึงรีบกลับนะเว้ย.ไม่งั้นเดี๋ยวกรูบอกป๋ากรูให้ซื้อตั๋วตามไปกระทืบมึง”ไอ้แมนบอก มันเรียกพ่อตัวเองว่าป๋านะครับ
“เออ..ไอ้เชี้ย.ใส่ถุงยางทุกเมื่อด้วยละ กรูไม่อยากมีเพื่อนเป็นเอดส์”ผมบอกมันครั้งที่ล้านได้
“เออรู้แล้วน่า.”มันตอบ ผมไล่กอดไปทีละคน แต่ไอ้เป้กับไอ้เข็มนี่กอดพร้อมกันเลยครับ
“โชคดีนะจ๊ะ”พี่ป่านบอกผม ผมกอดพี่ป่านเบาๆ พร้อมกับจูจุ๊บที่แก้มอีกสองฟอด พี่ป่านยิ้มน่ารักไปไหนครับพี่ครับ
“ว้าย..พี่เอาบ้าง”พี่ฝ้ายบอก กลายเป็นว่าผมก็ต้องสนองไปครับ
“โชคดีนะมึง”ไอ้ทศบอก พร้อมกับตบบ่าผมเบาๆ
“อย่าลืมกรูละ.”ไอ้ทศบอก
“ไอ้เหี้ยกรูไปแค่สามปีเอง ทำอย่างกับกรูไปไม่กลับ ไม่แน่กรูเบื่อๆ ปิดคริสมาสต์เดี๋ยวกรูก็ล่องหนกลับมาเองแหละ”ผมบอกมัน
“เดี๋ยวกรูดูเฮียให้”ไอ้ป๊อดบอกผม ผมกอดคอมันไว้
“ฝากด้วยแล้วกัน”ผมบอกมันแล้วมองหน้าไอ้ตาร์
“อะ...พวกมันบอกให้กรูเป็นคนให้มึง”ไอ้แสบเดินถือการ์ดใบใหญ่ยื่นให้ผม ใหญ่มากครับ ใหญ่กว่ากระดาษเอสี่อีก ผมรับด้วยอาการงงๆ แล้วมองหน้าไอ้ตาร์ ไอ้ตาร์ยิ้มรับ
“ขอบใจ.”ผมบอกพวกมัน น้ำตาแทบไหล
“กรูว่ามึงแม่งไม่ต้องไปเหอะวะ เดี๋ยวพวกกรูคิดถึง”ไอ้แสบเดินเข้ามากอดผม
“ไอ้เชี้ย.มึงยิ่งทำอย่างนี้กรูยิ่งไม่อยากไป”ผมบอกมัน แล้วตบหลังมันเบาๆ
“รีบกลับมานะมึง.”ไอ้แสบบอก
“อืม..ตั้งใจเรียนละ”ผมบอกมัน
“ไปเถอะ.”พี่ตังเรียก ผมหันไปหาไอ้ตาร์ จะเอาไงกับมันดี พวกแม่ๆก็ยืนอยู่ เกรงใจนะเนี้ย ไอ้ตาร์ยิ้มให้น้อยๆ
“โชคดีนะครับ.”มันบอกน้ำตาคลอ ผมเดินเข้าไปกอด กรูไม่อายละ ไม่เกรงใจด้วย
“กรูจะรักมึงคนเดียว”
“รอกรูด้วยนะ.”ผมบอก พร้อมกับกระชับกอดแน่น ไอ้ตาร์เอาหน้าซบที่ไหล่ มันคงร้องไห้เป็นแน่
“ไปเถอะครับ.พี่รอได้.”ประโยคนี้ซ้ำที่ไม่ว่ากี่ครั้งที่พูดถึงเรื่องจะไปเรียนต่อ มันจะพูดแบบนี้ ผมคลายกอดมันออก แล้วเช็ดน้ำตาให้มัน ก่อนที่จะมองทุกคน เข้าไปกอดพ่อกับแม่ แล้วก็พี่เจ้าอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินเข้าไปสู่การเริ่มต้นใหม่ ในดินแดนใหม่
...
มาต่อให้แล้ว ภาคเย็น หนังสือไม่ได้อ่าน
แต่เบบี้อ่านทั้งวันเลยนะ ดีใจป่ะ
แต่ว่าจำไม่ได้เลย
เอิ้กๆ
พี่มิ้น ถ้าคุณยังไม่หยุดม๊อบ เบบี้จะทำลายม๊อบเอง
ด้วยการ
เออ
^
^
^
จิ้ม มมมม .... ตูด พี่มิ้น กร๊ากกก ล้อเล่น แก่แล้ว ไม่เอาหรอก
<พึ่งเข้าเล้า
เหอะ เหอะ เบบี๋อยากขายหมู่ปิ้งเหรอจ๊ะ
ว่าจะไปขอให้มาเป็นเถ้าแก่เนี้ย นั่งนับเงินเฉยๆนะเนี้ย
โธไม่รู้ว่าเบบี๋อยากขายหมู่ปิ้ง
เด่ยวเก็บไปพิจารณาคืนนี้จะจ๊ะ อิอิ >
เอาพี่ไต๋ดีกว่า ไม่ขายก็ได้หมูปิ้งอะ ไปนับเงินเล่นสบายๆดีกว่า

เอานับเงินเล่นจริงๆนะ

หิหิ
ไปแระค่ะ รักคนอ่านทุกคนนะค่ะ (โดยเฉพาะพี่ไต๋) กร๊ากก อย่าอิจฉา หิหิ ฝานดีจ๊ะ บับบาย