ˢᵐᵃˡˡ ˡᵒᵛᵉ​ "รักใหญ่ไล่รักเล็ก" l Chapter 29 : จอง : หน้า 5 (06/01/18) HNY!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ˢᵐᵃˡˡ ˡᵒᵛᵉ​ "รักใหญ่ไล่รักเล็ก" l Chapter 29 : จอง : หน้า 5 (06/01/18) HNY!!  (อ่าน 24788 ครั้ง)

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด    :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กี้ ความรู้สึกไวไปมั้ย
แป๊บเดียว อ่านใจอาร์มได้และ

อาร์ม ก็ถามกี้ เอ๊.....หรือขออนุญาตนะ
“ถ้าผมจะจีบเพื่อนกี้ล่ะ กี้จะว่าไง?” ให้จีบสิ เน้าะกี้
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แหล่วๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ keywordz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
    • แฟนเพจ
Chapter 08 : จม
 
 
 
 
 
 
“กูพูดอะไรไม่ได้หรอก มันอยู่ที่เจ้าตัวมันเปล่า เรื่องจีบอะ”
 
เสียงกี้เริ่มจริงจังขึ้นมาหลังจากเราหยุดเกมมาคุยเรื่องที่ผมจะจีบไอ้เตี้ย
 
“แล้วกี้จะขวางผมไหมล่ะ”
 
 
“ขวางแน่ ถ้ามันทำให้เพื่อนกูไม่มีความสุข”
 
ผมนี่นิ่งเงียบเลย ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากรู้ ทำไมกี้ถึงรู้ว่า ผมชอบไอ้เตี้ย
 
 
“อืม… กี้รู้ได้ไงว่าผมรู้สึกกับจิมมากกว่าเพื่อน”
 
 
“ไอ้สัด มันจะมีสักกี่คนวะ ที่จู่ๆ จะมาอยากรู้จักเพื่อนต่างคณะ อยู่ๆ มึงก็เข้ามา มันไม่แปลกหรอ”
 
นั้นสินะ…
 
“กูก็แค่ถาม แต่กูก็แอบคิดว่า มันคงไม่เป็นอย่างนั้นหรอก มึงคงแค่อยากรู้จักกับจิมแค่เพื่อน”
 
“...”
 
 
“แต่ไอ้การพูดเพราะๆกับไอ้จิม แม่งคนละความรู้สึกเวลาพูดกับคนพูดกับเพื่อนทั่วๆไปอะ กูสงสัยแค่นั้นแหละ แต่ไหนๆ มึงก็รับมาแบบแมนๆแบบนี้ กูก็ไม่ขัดหรอก ถ้ามึงจะจีบมัน”
 
เชี้ย ผมโคตรโล่งใจ… ที่กี้มันจะไม่ขัดขวางทางผม ไอ้เตี้ยมันจะได้ยินทั้งหมดนี้ไหมนะ หวังว่าเพลงที่มันเปิดในห้องน้ำคงไม่ทำให้เสียงผมกับกี้เล็ดลอดจนจิมได้ยินหรอกนะ ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่ๆ
 
 
“แต่มึงอย่าลืมนะ เพื่อนกูเป็นผู้ชาย… แล้วมันก็ไม่เคยมีแฟน”
 
 
“....”
 
เรามองดูไอ้กี้ ที่ท่าทีห่วงเพื่อนเอามากๆ บอกผมว่าควรระมัดระวังอะไร
 
 
“เกิดวันนึง ถ้ามึงเป็นแฟนมันขึ้นมา กูพูดเลย ถ้าแม่งเจ็บเพราะมึงเมื่อไหร่ กูไม่ปล่อยมึงให้เดินมหาลัยสบายใจแน่”
 
จะบ้าไง ถ้าเป็นแฟนกันจริงๆ ผมไม่มีทางปล่อยไอ้เตี้ยนี้ไปง่ายๆหรอก คนอะไรวะ… คนอะ..ไร..
 
 
เชี้ยยยยย
 
คนอะไรวะ
 
 
เซ็กซี่สัด
 
 
เดินออกมาห้องน้ำนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เชี้ยเอ๊ยยยยย ใจผมนี่เต้นระรัวชิบหาย เกิดมาไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนถอดเสื้อแล้วผมจะรู้สึกเวลาแม่งหยุดนิ่งมาก่อน แล้วดูผมที่เปียก ผิวที่หมาดๆน้ำอยู่เลย โว๊ะ.. แค่ไม่กี่วินนาที ที่มันเดินออกมา ผมจินตนาการไปไกลไหนถึงไหนแล้ว
 
 
“มองไรวะ”
 
ชิบหายละ ผมละสายตาจากไอ้เตี้ยไม่ได้ ความแตกแน่
 
 
“เชี้ยอาร์ม เก่งจังวะ เอาแม่งไม่ลงสักที”
 
ขอบคุณมากกี้ ที่ส่งบทมาแบบนี้
 
 
“อยู่แล้ว นี่ใครดูด้วยกี้ ผมเนี่ยสายเกมเมอร์นะครับ เห็นอย่างนี้”
 
เนียนไหมวะ ไม่รู้เว้ย ยัง...ยัง..
 
 
 
ยังจะเดินเข้ามาใกล้ๆอีก
 
ทุกอย่างแม่งชัดไปหมดเลยยยยยยยยยยยย
 
ทั้งผิวที่โคตรเนียนสีน้ำผึ้ง
 
ทั้งหุ่นที่โคตรจะ… เออ แต่ก็ไม่ผอมเท่าไหร่แหะ กล้ามก็พอจะมี แอบมีไขมันอยู่หน่อย แสดงว่าไม่ใช่คนเล่นกล้าม
 
 
ช่างแม่งงงงง ดูยังไงก็เซ็กซี่ อย่ามาใกล้อีกได้ไหมจิมมมม ผมขอร้องงงง
 
สุดท้ายก็หยุดมาตรงหน้าทีวีหน่อยนึง มาดูว่าผมเล่นกันไปถึงไหน
 
 
“ควายกี้ มึงเอามันไม่ลงหรอก กูเล่นกับมันตั้งหลายรอบ ยังไม่ชนะเลย”
 
 
“ชนะไป 2 รอบ”
 
เชื่อไหมครับ ผมไม่ได้มองจอทีวีเลยให้ตาย แผ่นหลังไอ้เตี้ยที่กำลังยืนมองดูผมกับกี้เล่นเกมแม่งหน้าโดดเข้าใส่จากข้างหลังเนียนๆของมันจริงๆ
 
 
“อันนั้นกูโกงมึงเหอะ”
 
แล้วก็เดินเข้าห้องไป… แม่งเอ๊ยยย กว่าใจจะสลบ ผมนี้ทรุดจนเผลอพิงโซฟาไปด้วยความล้า เกร็งไปทั้งตัว
 
 
“ไง มึงเห็นแค่นั้นถึงขั้นหมดแรงเลย อาการหนักนะมึงเนี่ย”
 
 
“เกิดมาเคยเจอแบบนี้แต่กับผู้หญิง พอมาเจอกับจิม แม่งไปไม่ถูกเลยว่ะ”
 
 
“หนักละ ชอบผู้ชายครั้งแรกรึไง?”
 
ดีที่จิมยังคงเปิดเพลงในโทรศัพท์อยู่ในห้องนอน (เป็นคนติดเพลงติดหนังน่าดู)
 
 
“เออดิ กี้เคยชอบรึไง”
 
 
“ไม่อะ แล้วก็ไม่อยากด้วย ฮ่าๆๆ แต่กูก็ไม่ได้ปิดกั้นนะ ถ้าเป็นไอ้จิม ก็ไม่แน่”
 
 
“เห่ย กี้ ของผม”
 
ชิบหายละ นี่ผมเริ่มมีแสดงความเป็นเจ้าของละ
 
 
“แหมมม ไอ้สัด ของมึงที่ไหน จีบมันให้ได้ก่อนเหอะ”
 
โห มันไม่ง่ายเลยนะ จีบผู้ชายนะเว้ย
 
 
“นั้นดิ จีบไงวะเนี่ย จีบผู้ชาย… แม่งเอ๊ย”
 
ยิ่งคิดยิ่งหาไม่เจอ ผู้ชายจีบผู้ชาย เขาทำไงกันนะ
 
 
“ทำแบบที่มึงเป็นมึงนั้นแหละ ไม่ต้องคิดเยอะ ถ้ามึงจะรักจะชอบก็ต้องรักในแบบมึงดิ”
 
เช้ดดดด เห็นกี้หน้าตากวนๆแบบนี้ ไม่คิดว่าความคิดจะดีขนาดนี้
 
 
“ง่อววว หล่อเลยกี้”
 
 
“แน่นอน มึงเตรียมแข่งเป็นเดือนมหาลัยกับกูได้เลย”
 
 
“อ้าวกี้ ได้เป็นเดือนคณะแล้วหรอ?”
 
 
“ยัง แต่กูมั่นใจว่ากูหล่อพอที่จะได้”
 
โคตรจะหลงตัวเอง ผมหล่อกว่าเยอะ (...)
 
 
“แต่ไม่แน่หรอกนะ ผมอาจจะไม่ได้เป็นหรอก คณะผมคนหล่อเยอะ”
 
ผมพูดปลอบใจตัวเองไม่ดูหลงตัวเองเหมือนมัน
 
 
“อย่างน้อย มึงก็ตัวเต็งใช่ไหมล่ะ เอางี้ดิ ทำตัวหล่อๆ เป็นเดือนคณะ เป็นเดือนมหาลัยให้ได้ เผื่อไอ้จิมจะหันมาสนใจมากขึ้น”
 
 
“จริงหรอ?”
 
เอาดิ ผมไม่รู้ไม่สนใจอะ ขอทำแม่งทุกวิถีทาง ก็ไม่รู้วิธีจีบผู้ชายนี่หว่า
 
“เออ ลองดู”
 
 
“คุยไรกันวะ”
 
ชิบหายละ ออกมาถูกจังหวะทุกที (มึงคุยกันนานเกินไปต่างหาก)
 
 
“คุยเรื่องดาวเดือนคณะไอ้เติ้ลมัน ผู้หญิงแจ่มๆแม่งเยอะ ใช่ไหมเติ้ล?”
 
เชี้ยกี้แม่งเก่งจังวะ ผมนี้เกือบจะทำตัวไม่ถูก นี่เกือบแอคทำตัวปกติไม่ออก เชี้ย เหลือบไปดูนาฬิกาเหนือทีวีบนผนัง...
 
 
“เออ ใช่ จิมครับเดี๋ยวอาร์มต้องไปก่อนนะ อาร์มต้องแวะซื้อของขวัญด้วย”
 
ใจอะ มันอยู่ห้องนี้แล้ว แต่มันก็ต้องไป ถ้าจะดื้ออยู่ก็ดูจะต้องการเกินไป
 
 
“อ้าว ไปละหรอ… เคๆ”
 
เสียงไอ้เตี้ยดูไม่ค่อยพอใจ หรือผมเข้าข้างตัวเองไม่รู้ว่าเสียงไอ้เตี้ยเหมือนยังไม่อยากให้ผมไป…
 
 
“ครับ แล้วเจอกันนะ”
 
เชี้ยยยยย ไม่กล้าขอเบอร์
 
 
“เออ เจอกันมึง…”
 
 
“กี้ ผมไปละ เจอกันครับ”
 
“โชคดีมึง”
 
 
...พอผมเดินออกจากประตูห้อง 427 ของจิม ทุกอย่างในร่างกายผมเริ่มกลับมาเป็นปกติ 427 นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“สวัสดีครับ พี่แตม”
 
พี่แตมเนี่ยล่ะครับ ที่เป็นพี่รหัสผมในคณะบริหาร
 
 
“ไงเติ้ล นี่พี่บาส เจ้าของวันเกิด”
 
ชื่อเหมือนพี่รหัสของจิมเลยแหะ เกิดวันเดียวกันด้วย (ผมนี่ลุ้นอยู่ในใจของให้เป็นคนเดียวกัน ผมจะได้เจอจิมอีก)
 
“สวัสดิ์ดีครับพี่ นี่ของขวัญครับ สุขสันวันเกิดนะครับ”
 
ยกมือไหว้ ผมยื่นของขวัญให้พี่บาส
 
 
“โห ไม่ต้องซื้อก็ได้เว้ย ซื้อมาทำไมวะไอ้น้อง”
 
 
“ได้ไงพี่ วันเกิดนะครับ ก็ต้องมีของขวัญสิครับ”
 
 
“น้องมึงนี้ก็หล่อดีเนาะ แตม”
 
โหพี่ชมกันตรงๆ งี้ผมก็ทำตัวไม่ถูกเป็นนะ
 
 
“แน่นอน อนาคตเดือนคณะกู”
 
 
“เห่ย จริงดิวะ เดี๋ยวมึงเจอเด็กคณะกู”
 
ผมเดินไปข้างๆพี่แตมที่กำลังเตรียมของกิน
 
 
“พี่แตมครับ พี่บาสอยู่คณะไหนหรอพี่”
 
 
“คณะศิลปกรรม ทำไมหรอ”
 
 
“อ่อๆ เปล่าพี่อยากรู้เฉยๆ”
 
 
“แล้วมึงยิ้มอะไร”
 
 
“ไม่มีอะไรพี่”
 
จะไม่ยิ้มได้ไงล่ะ… ก็จะได้เจอไอ้เตี้ยอีกอะดิ
 
 
“พี่บาส มีไรให้ผมช่วยไหมครับ”
 
 
“ดีเลยมึง ช่วยกูยกรังเบียร์เอาไปไว้ข้างตู้เย็นหน่อย จะได้แช่เย็นไว้”
 
 
“ได้เลยครับพี่”
 
 
“แล้วนี่แตมได้บอกให้มึงเตรียมกางเกงว่ายน้ำมารึเปล่า?”
 
 
“เตรียมมาครับพี่ อยู่ในรถ”
 
ผมตอนแรกพี่แตมให้ผมเตรียมชุดที่เปียกได้มา ผมนี่คิดว่าสงสัยต้องมีให้เล่นอะไรเปียกๆแน่เลย แต่พอเข้าห้องพี่บาสมา ถึงจะเข้าใจ ก็ประตูหลังห้องออกไปก็เจอสระน้ำรวมแล้ว คงจะปาร์ตี้กันริมสระแน่ๆ
 
 
“เอ้า แนนไม่ได้บอกให้เอามาเลยหรอ”
 
 
“ไม่ได้บอกนะพี่  เห็นพี่แนนรีบมาเข้าห้องน้ำด้วยนี่พี่ สงสัยลืม”
 
พี่แนนคืออีกบุคคลนึงที่เป็นรุ่นพี่ผมในคณะซึ่งก็แก๊งๆเดียวกับพี่บาสพี่แตม
 
“ไม่เป็นไรพี่ ผมดูทรงก่อน ถ้าจะเล่นค่อยไปเอาก็ได้ครับ”
 
 
“เออๆ ตามนั้น”
 
พอผมกับพี่เอาเบียร์ส่วนนึงแช่ในตู้เย็นจนเต็ม พี่บาสก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
 
 
“เห้ย แตม ไปรับน้องกูหน่อยดิ มันอยู่ข้างล่างกันแล้ว”
 
….เชี้ยยย ห่างกันไม่กี่ชั่วโมง ทำไมผมตื่นเต้นจะเจอมันวะ
 
 
“ทำไมต้องกู มึงก็รู้กูลำไยน้องมึง”
 
 
“ไปเถอะ กูไม่ว่างมึงเห็นไหมเนี่ย จัดของอยู่”
 
 
“กูก็ทำของแดกให้พวกมึงอยู่เนี่ย”
 
งั้นให้ผมไปเองงงง ผมอยากเจอเตี้ย
 
 
“งั้นเดี๋ยวผมไปให้ก็ได้พี่”
 
 
“เอางั้นหรอ เออๆดี จะได้รู้จักกันก่อน อะ คีย์การ์ด”
 
ผมทำหน้านิ่งๆรับคีย์การ์ดพี่บาสก่อนเดินออกประตู แล้วรีบวิ่งเพื่อที่ไอ้เตี้ยจะได้ไม่ต้องรอนาน ตื่นเต้นเว้ยยยย
 
 
 
 
 
 
“อ้าวไอ้เติ้ล สรุปมึงก็มางานวันเกิดพี่บาสหรอ”
 
โหย ถ้าจิมทักผมก่อนผมคงดีใจมากกว่านี้
 
 
“ใช่ๆ โลกกลมดีว่ะ”
 
ผมพยายาม ไม่มองไอ้เตี้ยที่แต่งตัวกึ่งสบายกึ่งเต็มยศ รองเท้าผ้าใบ กางเกงยีนสั้นเสื้อยืด
 
 
“ไม่คิดจะทักกูเลยไง”
 
เห้ยยยย ไอ้เตี้ยเรียกร้องความสนใจจากผม ให้มันได้อย่างนี้ดิ น่ารักสัด
 
 
“อ้าว จิมมาตอนไหนนี่ นึกว่ากี้มาคนเดียว”
 
 
“กูไม่ได้เตี้ยขนาดนั้นนะ”
 
ทำปากงึมงำ บ่นๆอยู่กับตัวเองแล้วเดินงอนไปทางเข้าคอนโดละ จะอนุภาพทำลายล้างเยอะไปไหนไม่ทราบ
 
 
“มีงอนด้วยว่ะ กูว่าไม่ธรรมดาละ เพิ่มแต้มไปไอ้เติ้ล”
 
กี้ก็ชงผมยกใหญ่ ยิ่งไม่อยากเข้าข้างตัวเองคิดไปเองอยู่
 
 
“จิม จะเข้าได้ไง คีย์การ์ดอยู่กับผม”
 
 
“ก็มาเปิดดิวะ”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“พี่บาสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส”
 
โอ้โห เตี้ยเวอชั่นนี้ โคตรดูเด็กน้อยเลย เปิดประตูเข้าไปกอดพี่บาสอย่างไม่ลังเลเลย (อิจฉานะเว้ยยยย ทำไมผมอยากเป็นพี่บาสขึ้นมาทันที)
 
 
 
“ของขวัญนะพี่ อย่าเพิ่งแกะของผมนะขอชิ้นสุดท้าย”
 
 
“แหม ไอ้สัด ทำเสียงอ้อน กลัวโดนกูแกล้งอะดิ กูไม่หลงกลมึงหรอก”
 
พี่บาสโวย
 
 
“โห พี่อะเลิกแกล้งผมได้แล้ว ผมน้องรหัสพี่นะ พี่ต้องเทคแคร์ผมดิ”
 
มันเป็นวันของพี่บาสอะสินะ ผมคงไม่ได้ความสนใจจากไอ้เตี้ยแล้วล่ะ
 
 
“ก๊อกๆๆๆ”
 
 
“เติ้ล มึงเปิดประตูดิ คงเป็นเพื่อนพี่”
 
 
“ครับพี่”
 
แล้วผมก็เดินไปเปิดประตูแบบเซ็งๆ
 
 
“เชิญครับ”
 
 
“เห้ย ไอ้ดิว ไมมากับพี่ตั้วอะ พี่ตั้วหวัดดีครับ”
 
ใครนี่ สองคนนี้ผมไม่รู้จัก แต่จิมนี่รู้จักไปหมดเลย ดูท่าจะเฟรนลี่มากสินะ
 
 
“แหมไอ้สัด ทักเพื่อนก่อนกู ทั้งๆที่กูเดินเข้ามาก่อนเนี่ยนะ ไอ้บาส ถ้ากูจะซ่อมน้องรหัสมึงจะได้ไหมวะ”
 
 
“ตามสบาย แต่อย่าทำแม่งมาก ตัวเล็กนิดเดียว”
 
 
“โห พี่ตั้วอะ แกล้งจิมตลอดเลย”
 
ไอ้เตี้ยหน้าบูดเบี้ยว ทำงอนพี่ๆเขามาได้ พี่ตั้วถึงกับส่ายหัว (แหม พี่ อย่าเอ็นดูไอ้เตี้ยไปอีกคน แค่นี้ผมก็ไม่รู้จะทำไงแล้ว)
 
 
“เออๆ ไม่แกล้งๆ ไอ้อ่อนเอ้ย”
 
 
“อะพวกมึงมาช่วยกูถือของแดกไปวางตรงนั้นหน่อย”
 
พี่แตม เรียกความสนใจทุกคนให้ไปช่วยพี่เขายกของมาวางไว้ กลางห้องที่มีโต๊ะญี่ปุ่นใหญ่ๆวางอยู่
 
 
“แล้วพวกมึงสองคนได้เอาเกงขาสั้นมากันเปล่า จะเล่นน้ำก็โดดลงได้เลยนะ”
 
แว๊บนึงที่ผมเห็นเตี้ยมันมองไปที่สระแล้วเหมือนจะตื่นเต้นที่จะได้เล่น แต่ไม่ทันไรมันก็เปลี่ยนเป็นหน้าง่อยๆ (สงสัยไม่ได้เอากางเกงมาแน่เลย)
 
 
“ผมเอามาครับพี่”
 
ไอ้กี้ตอบ แต่จิมก็ยังนั่งเงียบอยู่ตรงโต๊ะญี่ปุ่น
 
 
“อ้าว จิมไม่ได้เอากางเกงมาสำรองหรอครับ”
 
ผมเดินเข้าไปถามจิม พร้อมกับมองกี้มีแม่งยิ้มมีเล่ห์อะไรบางอย่างแล้วก็ลุกออกไป
 
 
“ไม่อ่ะ ลืมเอามา ว่าแต่อาร์มรู้จักพี่บาสด้วยหรอ”
 
 
“ไม่รู้จักหรอก แต่ว่าพี่แตมเป็นพี่รหัสผมอะ ส่วนพี่แนนก็เป็นรุ่นพี่ในคณะเฉยๆ”
 
 
“อ้อ อยากเล่นน้ำเปล่า ผมมีกางเกงสองตัว”
 
จริงๆ ผมมีบ็อกเซอร์มาเผื่อใส่กับกางเกงชายหาดมาตัวนึง แต่คงเอาให้จิมใส่ได้
 
 
“ไม่เป็นไร กูไม่เล่น”
 
 
“เล่นได้นะ เดี๋ยวผมไปเอามาให้”
 
ผมไม่ฟังคำไอ้เตี้ยเลย วิ่งลงไปเอากางเกงในรถแล้วก็กลับขึ้นมาสภาพห้องคือคนหายไปกระจุกอยู่ในสระกันเกือบหมด เหลือจิมกับพี่แตม พี่แนนแล้วก็พี่บาส ที่นั่งกินๆกันอยู่ที่โต๊ะ
 
 
“อะ เอามาให้ละ ใหญ่หน่อยนะ แต่ว่ามีเชือกรัด ไม่หลุดหรอก”
 
 
“ก็บอกว่าไม่ต้องไงกูไม่เล่นน้ำ”
 
“เหอะนา คนอื่นก็เล่นหนุก”
 
ผมขยับเข้าไปกระซิบข้างหูไอ้เตี้ย
 
 
“ไปเล่นเป็นเพื่อนอาร์มหน่อย อาร์มไม่ค่อยสนิทกับใครเลย”
 
 
“เออๆ แปบ”
 
แล้วจิมก็ไปเปลี่ยนกางเกง แล้วออกมาในสภาพที่… เชี้ยยย อีกแล้วท่อนบนทำไมมันโล่งแบบนั้น เห้อ ใจคอจะทำร้ายกันทางนี้เลยใช่ไหม
 
 
“ป่ะ แต่กูขอนั่งแค่ขอบสระนะ”
 
 
“เคๆๆ รอผมแปบ เปลี่ยนเกงก่อน”
 
แล้วผมก็เข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนกางเกงถอดเสื้อ ดูกระจกตัวเอง… (ถ้าเตี้ยมันจะชอบผู้ชาย ไอ้เตี้ยแม่งจะชอบหรอวะ ผู้ชายตัวสูงหุ่นกล้ามลีนๆแบบผม) เหอะ ช่างมัน… มันไม่ชอบ แต่ผมชอบ
 
 
“ปะ”
 
แล้วผมก็เปิดประตูให้จิมออกไปก่อน จิมก็นั่งเล่นริมสระเกรี้ยวเท้าลงน้ำปกติ แผ่นหลังแม่งน่าเข้าไปสวมกอดดีพิลึก
 
 
“ไม่ลงจริงๆหรอ เปลี่ยนชุดมาแล้วนะ”
 
ผมถามให้แน่ใจอีกครั้ง อุตส่าเปลี่ยนกางเกงมา ลงเล่นน้ำไปเลยก็น่าจะได้
 
 
“ไม่เป็นไร มึงเล่นไปเหอะ กูนั่งนี้แหละ”
 
 
“โอเคคค งั้นเดี๋ยวผมมานะ ขอลงไปวอมร่างกายแปบ”
 
มันโดนปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่าเวลาลงน้ำจะต้องวอมร่างกายเพื่อปรับกล้ามเนื้อก่อน เดี๋ยวจะเป็นตะคิวเอา
 
 
“เค”
 
 
ผมเดินในสระน้ำวนรอบๆจนเกือบมาถึงห้องพี่บาสอีกรอบ มองเห็นพี่ตั้วกับดิวเล่นน้ำกัน จังหวะมันพอดีกับที่ผมหันไปเห็นไอ้กี้ที่คุยอยู่กับจิมชี้มาทางผม (ทำไมจิมยังไม่ลงมาเล่นน้ำนะ) สงสัยคงมองหาผมอยู่แน่เลย (หลอกตัวเองเข้าไปดิไอ้อาร์ม)
 
 
“พี่ตั้วๆ ผมถามอะไรหน่อยดิพี่”
 
เสียงจิมเรียกถามพี่ตั้วที่กำลังสาดน้ำใส่กันกับคนที่ชื่อดิว
 
 
“เออว่าไง แปบครับน้องดิว”
 
 
“พี่กับดิว เป็นแฟนกันหรอ”
 
ห่ะ! สองคนเป็นแฟนกันหรอ ไม่ทันสังเกตุ
 
 
“เออ ทำไมวะ”
 
 
“เหี้ยดิว ไม่เห็นบอกกู”
 
ไอ้กี้โวย
 
 
“เอ้า ทำไมต้องบอก มันไม่ใช่เรื่องต้องบอกปะ”
 
 
“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องปิดบังพวกกูป่ะวะ พวกกูเพื่อนมึงนะเว้ย”
 
 
“ห่า กูก็ไม่ได้ปิดบังเปล่าวะ แค่พวกมึงไม่ถาม”
 
 
“เออ พวกกูผิดเองอะ พี่ตั้ว ไอ้ดิวมันแซ่บไหมพี่”
 
กี้มันถามอะไรของมันวะ
 
 
“โคตรแซ่บ”
 
สีหน้าหื่นของพี่ตั้วที่มองดิวที่กำลังเขินๆ แต่ตึงๆนิดๆ ทำเอา ผมกับจิมแล้วก็กี้ ขำกันลั่นออกมา
 
 
ไอ้กี้สะกิดเท้าผมใต้น้ำ ผมหันไปมอง แล้วมันก็ส่งซิกไปทางจิมที่นั่งบนริมสระระหว่างผมกับกี้… (กี้แม่งร้าย จะแกล้งเพื่อนทั้งทีต้องให้ผมร่วมด้วยอีก) มีหรือผมจะไม่ร่วมด้วย หมั่นเคี้ยวไอ้เตี้ยอยู่แล้ว
 
 
ผมเลยผยักหน้าแล้วทำทีเดินขึ้นไปข้างบนเหมือนจะเข้าห้อง แล้วผมก็เข้าด้านหลังไอ้คนตัวเบาหวิว โยนลงมาได้โคตรสบาย และไกลจากกลุ่มเรามาก มากพอที่ผม...
 
 
กำลังจะขำอยู่แล้วเชียว… ถ้ากี้ไม่พูดขึ้นมาก่อน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“เชี้ยเติ้ล จิมมันว่ายน้ำไม่เป็น”
 
 
 
 
……………………………………
 
 
 
 
“จิตใจคนก็เหมือนน้ำ ยิ่งลงไปลึกเท่าไหร่ยิ่งยากที่จะลงไปถึง”

 
 
 
 
Talk : เดี๋ยวนี้อาร์มชอบใช้สรรพนามเรียกจิม ว่าเตี้ยละ ถ้าจิมรู้คงมีหวังอาร์มโดนจิมเตะขาพับหักแน่ๆ //// คนเขียนลุยฟ้าลุยฝนจนนอนโทรมไปหนึ่งวัน เฮือกกก ยาเป็นกำมือเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-06-2017 16:45:58 โดย keywordz »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอ้าาาาา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อ้าววว. งานเข้าแล้วอีอาร์ม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
คะแนนคงตกแล้วอาร์ม

ออฟไลน์ keywordz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
    • แฟนเพจ
Chapter 09 : ความกลัว






“จิม… จิม ฟื้นดิ อย่าเป็นไรนะ”

ด้วยที่ผมยังคงไม่รู้สึกตัวเท่าไหร่ แสบในหัวสมองมาก เหมือนสำลักน้ำสระเข้าไปเยอะมาก

“บาส แนนว่าต้อง CPR น้อง”

….ผมยังคงรู้สึกเหมือนอยู่ในฝันที่มืดมากๆได้ยินแต่เสียง


"ทำไงวะกูทำไม่เป็น”


“ผมเอง พี่”


และยังคงแยกแยะไม่ออกมาเสียงใครคือเสียงใคร แต่เมื่อผมพอจะได้สติกลับคืนมาภาพที่ผมเห็น โคตรจะตกใจ…


หน้าเชี้ยอาร์มใกล้มาก และปากก็ประกบปากผมไปเรียบร้อยแล้ว


“เห้ย!!”

ผมผลักมันออกด้วยความตกใจ


“เป็นไงบ้างๆ จิม ผมขอโทษนะ ผมขอโทษ”

ไอ้อาร์มที่โดนผมผลักออกไป จู่ๆก็เข้ามาสวมกอดผมด้วยความรู้สึกผิด แม่งหนาวมาก เหมือนร่างกายเพิ่งช็อคน้ำมาจนแยกแยะไม่ออกว่าหนาวเพราะลมหรือหนาวเพราะตัวเอง และมันเริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆเมื่ออาร์มมันกอดผมแน่นจนเกือบหายใจไม่ออกๆ


“โอ๊ยยยย เชี้ยกูหายใจไม่ออก จะตายเพราะมึงกอดเนี่ยล่ะ”

ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวมาก คงเข้าใจกันเวลาใครสูดเอาน้ำเข้าไปเต็มๆ มันจะรู้สึกแสบที่สมองพอๆกับกินวาซาบิแต่หนักกว่าหลายเท่า


“ขอโทษ... ขอโทษจริงๆว่ะ ผมไม่รู้อะกะจะแกล้งเล่น แต่ผมไม่รู้อะ…ผมขอโทษจริงๆนะครับจิม”


“เชี้ยจิม มึงทำพวกกูหัวใจจะวายตาย 2 รอบแล้วนะ รับน้องก็รอบนึงละ”

เสียงพี่บาสพูดทำให้ผมนึกถึงตอนรับน้อง ครั้งนั้นเป็นครั้งที่เกือบจะเลวร้ายที่สุด ทุกคนแม่งคิดว่าผมแกล้งทำเป็นว่ายน้ำไม่เป็น… ผมรู้สึกว่าตัวเองตายไปแล้วเลยด้วยซ้ำ โผล่มาอีกทีก็เข้าโรงพยาบาลแล้ว แต่มันก็มีความทรงจำที่ดีมาก ที่เพื่อนในคณะและพี่ๆที่อยู่ในกิจกรรม เป็นห่วงผมทุกคนเลย


“เออ เชี้ย ไอ้เติ้ลก็เล่นห่าอะไรไม่รู้เรื่อง”

เจ้าตัวเงียบมาก แม่งโคตรรู้สึกผิดเอาแต่มองผมไม่ละด้วยใบ้หน้าของคนรู้สึกผิด


“พี่อย่าไปว่ามันเลย มันผิดที่ผมเองล่ะพี่ที่ไม่ยอมบอกมันว่าว่ายน้ำไม่เป็น จิมกลัวว่ามันจะล้อ”


“ผมเนี่ยนะ… จะล้อ จิมรู้ไหม ผมรู้สึกผิดมากเลยนะ คิดดูว่าถ้าจิมเป็นอะไรไปจริงๆ ผมจะรู้สึกเสียใจแค่ไหน มันเป็นความผิดติดตัวไปตลอดชีวิตผมเลยนะ”

...ไอ้อาร์ม มันพูดแบบนี้ ผมยิ่งไม่รู้จะพูดอะไรเลย ทำให้ผมรู้สึกผิดกว่าอีกนะ ที่ไม่ยอมบอกมัน และเอาแต่คิดว่ามันจะล้อผมว่า ว่ายน้ำไม่เป็น ช่วยไม่ได้ผมมันเป็นพวกชอบคิดไปเองก่อน

ผมเหลือบไปมองสระน้ำ… มันทำให้ผมใจผวามาก หนาวก็หนาว บางทีผมว่าที่ผมหนาวอาจไม่ใช่เพราะตัวเปียกหรือลมพัดมา แต่อาจเป็นเพราะความกลัว ผมกลัวน้ำลึกมาก มากจนเพียงแค่จุมเท้าลงน้ำ ยังแอบสั่นๆเลย


แต่ไอ้อาร์ม… นั้นล่ะครับ ผมไม่รู้เหตุผลอะไรผมถึงยอมตามใจมันเพื่อให้มันได้สนุกแต่มากสุดก็ได้แค่จุมเท้าลงน้ำขอบสระเท่านั้นล่ะ ก็เล่นบอกว่า ไม่รู้จักใครสักคน กลัวเล่นไม่สนุก แค่อยากให้มันสนุก… แค่นั้นก็ทำให้เกิดเรื่องจนได้



(แล้สรุปมันความผิดใครล่ะ)

ความผิดผมอะถูกแล้ว ถ้าผมไม่เอาแต่กังวลและรอบคอบ บอกอาร์มกก่อนว่าผมลงน้ำไม่ได้เพราะอะไร อาร์มความไม่แกล้ง





“เอาเหอะ เอาจิมไปพักข้างในห้องนอนกูก่อนไป”


“ครับพี่ จิมลุกไหวไหม”

ไหวดิ ไงผมก็ต้องทำให้ทุกคนเลิกเป็นห่วงผม ไอ้อาร์มก็นะโทนเสียงโคตรจะห่วงกว่าคนอื่นเลย มีแต่ไอ้ห่ากี้อะยืนมองยิ้มๆไม่พูดอะไร

พอผมทำทีจะลุกขึ้น หน้าก็มืดมาหน่อยๆ ขาก็เหมือนไม่มีแรง ด้วยความที่สมองแทบจะสั่งการใดๆเลย จังหวะนั้น… อาร์มก็สวมตัวเข้ามาพยุงผม


“มาผมช่วย”

แล้วอาร์มก็เริ่มผยุงผมลุกขึ้น


“แปบมึง กูมึนๆ”

แค่นั้นล่ะ มันก็อุ้มผมขึ้นแขนมันเป็นที่เรียบร้อยและง่ายดาย


“เห้ย ทำไรวะ กูเดินเองได้”

(ทำเก่งจริงๆ) อันที่จริงผมอายที่ต้องให้ผู้ชายมาอุ้มตัวเองแบบนี้


“ให้มันอุ้มมึงอะดีแล้ว ร่างไม่ไหวเสือกอวดเก่ง”

ไอ้กี้โวยขึ้นมา จนผมต้องยอมใจ


“ไม่เป็นไรแล้วนะ อาร์มขอโทษนะ…”


“เออ ไม่เป็นไรอยู่แล้ว ไม่ต้องขอโทษหรอก อย่าคิดมากดิวะ”


“คราวหลัง มีอะไรแบบนี้บอกอาร์มเลยดิ อาร์มรู้สึกแย่มากนะ จิมเป็นไรไปอาร์มจะทำไง”

แล้วมันก็อุ้มผมมาถึงห้องนอนพี่บาส


“สัส พูดอย่างกับกูเป็นเมียมึงงั้นแหละ รีบวางกูลงได้ละ จะอุ้มอีกนานไหม”


“อ้าว.. โทษที”

แม่งยิ้มเขินๆเชี้ยไรของมัน ยังจะดึงผ้าเช็ดตัวที่ห่มตัวผมขึ้นมาเช็ดหัวผมให้อีก


“ไม่เป็นไรกูเช็ดเอง มึงไปกินกับพวกพี่บาสต่อเหอะ”

แล้วผมก็ดึงผ้าเช็ดตัวมา เช็ดผมเอง อันที่จริงผมจะเช็ดเองเพราะว่ามันรู้สึกเจ็บหัวอยู่หน่อยๆตอนอาร์มมันเช็ดหัวให้ผม


สักพักพี่ๆก็เริ่มเข้ามาดูอาการผมกันร่วมทั้งไอ้กี้และไอ้ดิว


“เป็นไงบ้างมึง ไปโรงพยาบาลไหม”

ไอ้กี้ถาม

“เออ เดี๋ยวกูขับรถไปให้”

เสียงพี่ตั้วอาสาขึ้นมา


“ไม่เป็นไรครับพี่ ขอบคุณครับ ยังๆหนาวๆ อยู่ เดี๋ยวสักพักก็หายแล้ว”


“แน่ใจนะ อาร์มพาไปให้ไหม”

ยังไม่เลิกห่วงกันอีก


“ไม่ต้องห่วงงงงง เดี๋ยวสักพักก็แรดต่อได้”

ประโยคนี้ทำให้ทุกคนพอจะยิ้มออกมาได้หน่อย


“เออ มีไรก็เรียกพวกกูนะ ปะพวกมึง ให้ไอ้เติ้ลมันดูจิมไป”

เสียงพี่บาสเจ้าของวันเกิดที่ผมโคตรจะรู้สึกผิด ทำให้งานพี่เขาก่อยไปเลย แต่เชี้ยกี้ดิ ยิ้มห่าไรก็ไม่รู้แล้วยังจะมองแปลกๆมาทางไอ้อาร์มเหมือนมีไรสักอย่าง แต่อาร์มมันไม่สนอะไรเลย มองแต่ผมอย่างเดียว จนทุกคนออกไปหมดเหลือไว้คือผมกับอาร์ม


“มองกูทำไมนักหนาวะ”


“เอ้า โทษที อึดอัดหรอ”


“เปล่า กูไม่ได้อึดอัด แต่ทำตัวไม่ถูก

แม่งยิ้มมุมปาก


“งั้นผมก็จะมองเฝ้าจิมงี้แหละ จนกว่าจิมจะออกไป…”

แล้วมันก็เดินเอาหน้ามาใกล้ๆผม

“แรด ข้างนอกได้”

หัวเราะในลำคออีกแล้ว แต่ไอ้ใบหน้านี้แม่งทำให้ภาพชัวขณะหยุดและเปลี่ยนเป็นฉากไอ้อาร์มทำการCPR ปากผมลอยขึ้นมาเลย


“จิม… จิมครับ เป็นไรรึเปล่า”

สติกลับมาหน้าแม่งใกล้กว่าเดิมอีก


“เห้ย เปล่าๆ ไม่เป็นไร”


“แต่จิมหน้าแดงนะ ไปหาหมอไหม เดี๋ยวพาไป”

เชี้ยยยย (นี่กูเขินอยู่รึเนี่ย)


“เออๆ ไม่เป็นไร”


“จิม…”

เสียงทุ้มต่ำของอาร์มเริ่มโผล่มา


“เป็นอะไรให้รีบบอกเข้าใจไหมครับ อาร์มเป็นห่วง”


“ห่ะ!! เมื่อกี้มึงพูดอะไรนะ”

ผมฟังไม่ผิดแน่ๆ คำว่าเป็นห่วงจากมัน ทำผมเริ่มทำตัวไม่ถูกละ ไอ้อาร์มเองก็ดูรนๆยังไงไม่รู้


“อ้ออ ก็ห่วงว่าจะเป็นไรอีก อาร์มยิ่งรู้สึกผิดอยู่”

…อ่อ แค่รู้สึกผิดที่ทำให้ผมเกือบตายเท่านั้นเองรึ… (ในใจผมมีแต่ความไม่พอใจเต็มไปหมดคืออะไรวะ)


“เนี่ย ดูดิหน้ายังไม่หายแดงเลย”


“ก็มึงอะ เลิกเอาหน้ามาใกล้กูได้แล้ว เป็นใครก็ต้องเขินเปล่าวะ เล่นจ้องหน้าตลอดแบบนี้”

ผมโวยวายใส่มัน


“ดีว่ะ…”

ไอ้อาร์มมันพรึมพรำออกมา จนผมเกือบไม่ได้ยินคำนั้น


“อะไรดี”


“พอจิมเริ่มโวยวายอาร์มค่อยสบายใจหน่อย ว่าจิมอาการดีขึ้นแล้ว”


“แน่นอนคนอย่างกูไม่ตายง่ายๆหรอก อยู่เป็นเตี้ยขวางโลกมึงไปอีกนาน”


“ตลอดไปเลยดิ”

ไอ้อาร์มพูดเชี้ยอะไรเนี้ยยยย โว๊ยยยยย ความรู้สึกนี้มันคืออะไรวะเนี่ยยย พูดเชี้ยไรแบบนี้ร่างกายมันดูเบาหวิวเว้ยยย อะไรกันนนน


“โอเคยังครับ”


“เออ ดีขึ้นละ”


“หายกลัวแล้วใช่ไหม”


“หื้ม.. กลัวอะไร”


“ก็กลัวน้ำลึกไม่ใช่หรอ กี้บอกผม ว่าจิมกลัวน้ำลึก ตอนจิมสลบไปอะ ผมเลยโคตรรู้สึกแย่เลย ว่ายน้ำไม่เป็นอีก กลัวมากเลยหรอครับ”

ไอ้กี้ เที่ยวบอกคนอื่นจังนะว่าผมกลัวน้ำ ผมนี้โดนล้อเป็นแมวบ่อยมาก (แต่เออ แมวก็น่ารักดีนะ

“ไม่ขนาดนั้นหรอก ไม่งั้นก็ไม่กล้านั่งเล่นขอบสระดิ”


“หึหึ”


“ขำไร”


“เปล่าๆ อาร์มว่า จิมเหมือนแมวดี ตัวก็เล็กแถมกลัวน้ำอีก ฮ่าๆ”


“ปากหรอ เดี๋ยวก็โดนหรอก”


“อ่ะๆ เอาดิ จะทำไร ทำดิ อาร์มปล่อยให้ทำเลย”

มาไม้ไหนวะ

“ให้เอาคืนที่อาร์มทำจิมเกือบเป็นอะไร เผื่ออาร์มจะได้รู้สึกผิดน้อยลง”


“บ้า…”

ผมขมวดคิ้วด้วยความงง ไอ้นี้คิดอะไรของมัน


“เวลาจิมทำหน้างงๆ นี่ก็น่ารักดีเนอะ”

พูดเชี้ยไรอีกละ จะจีบกูรึไงเนี่ยยยยย อย่านะเว้ย กูกลัวนะไอ้อาร์ม ผมยิ่งคิ้วขมวดมากขึ้น


“จริงๆนะ ทำมาเลยอาร์มรู้สึกแย่มาก โคตรแย่อะ”


“...”


“เกิดมาเพิ่งเคยรู้สึกแบบ บอกไม่ถูกว่ะ มันไม่เคยรู้สึกอะ ตอนเห็นจิมสภาพจมน้ำแล้วอาร์มเกือบตั้งสติเอาจิมขึ้นมาเกือบไม่ทัน พอขึ้นมาก็สลบไปแล้ว แม่งโคตรแย่ กลัวว่าจิมจะกลัวผมไปด้วย กลัวว่าจิมจะไม่อยาก...”


“อาร์ม กูไม่เป็นไรแล้ว เนี่ย มึงดูกู”

ผมตัดบทมันเอาดื้อๆ แม่งระบายความรู้สึกออกมาจนผมต้องปรับความคิดมันใหม่ ไม่นึกว่ามันจะรู้สึกแย่ขนาดนั้น


“อย่าเอาแต่คิดแบบนั้น กูไม่ได้โกรธหรือเชี้ยอะไรไม่ดีกับมึงเลยสักนิด มึงไม่รู้เว้ย มึงเข้าใจป่ะ”


“...”


“จู่ๆจะให้มึงทำถูกกับกูทุกอย่างมันก็ไม่ใช่เปล่าวะ คนไม่รู้อะ ทำอะไรไม่ผิดหรอก ดีซะอีก มึงกับกูจะได้รู้จักกันมากขึ้น”


“...”


“คนเรามันจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของจุดนึงเพื่อไปแก้ไขอีกจุดนึงได้เว้ย อย่าเก็บเอามาคิดในด้านลบอย่างนั้นดิ”


“...”


“ดีซะอีก อย่างน้อยครั้งนี้ก็ทำให้กูรู้จักมึงมากขึ้น ว่ามึงอะดีกับกูขนาดไหน ถึงได้รู้สึกผิดขนาดนี้กับกู”


“ขอบใจนะครับ”

เสียงทุ้มต่ำและใบหน้ารู้สึกนิ่งมองตรงมาที่ผมอีกแล้ว ร่างกายเริ่มร้อนๆ คงเพราะร่างกายเริ่มปรับสภาพคืนปกติ คงไม่เกี่ยวกับพฤติกรรมมันหรอก สักนิดก็ไม่มีหรอก ไม่มีจริงๆนะ


“ไงมึง ไอ้เติ้ล จิมเป็นไงวะ”

พี่ตั้วเดินเปิดประตูเข้า แต่ถามผมไม่ง่ายกว่าหรอวะพี่


“พี่ไม่ถามผมอะ”


“เชี้ยบาสบอกให้กูถามเติ้ล กูก็ทำตามทุกข้อคำสั่งของบอสใหญ่ แล้วเป็นไงดีขึ้นยัง”


“ดีขึ้นแล้วครับพี่ ขอบคุณนะครับพี่ๆที่เป็นห่วงผม”


“อยู่แล้วไอ้น้อง น้องน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้พวกพี่ก็เป็นห่วงธรรมดา ฮ่าๆๆๆ”

แล้วพี่ตั้วก็มาขยี้หัวผมเล่น ไอ้อาร์มมองไม่ละสายตาเลย


“เชี้ยพี่ตั้ว ขนลุก”


“เอ้า เชี้ยนี้กูพูดจริง เสือกกวนตีน”


“ครับบบ ขอโทษครับที่ทำให้เป็นห่วง ขอบคุณครับบบ”

สายตาคู่นั้นไม่คิดจะพักเหนื่อยมองไปทางอื่นเลยใช่ไหม ผมล่ะกลัวพี่ตั้วจะเอาไปแซว


“เชี้ยเติ้ล มึงนี้ตลกเนาะ รู้สึกผิดขนาดนั้นเลยไง ไม่ละสายตาขนาดนั้น ดูแลเป็นการไถ่โทษไง ห่ะมึง”

(นั้นไง...เซ็นดีจริงๆกู)


“ใช่ดิพี่ เมื่อกี้โคตรรู้สึกแย่”


“เอานา… ไอ้จิมก็ดูทรงดีขึ้แล้ว ไม่ต้องห่วงมันหรอก ห่วงมากเดี๋ยวมึงจะหลงมันเอานะเว้ย แม่งยิ่งไซต์มินิพกพาง่ายเหมาะจะมีผัวเป็นผู้ชายอยู่”


“โห...ไอ้พี่ตั้ว”

ผมทำท่าจะลุกไปเอาคืนพี่ตั้ว แต่พี่แกเล่นวิ่งหนีออกห้องไปก่อน (แล้วผมจะออกอาการเยอะทำไมวะ เขินหรอ?)





นี่ผมเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ใส่เสื้อมีแต่กางเกงที่เปียกๆน้ำ ชิบหายละ เตียงพี่บาส เปียกหมด โดนด่าแน่เลย ออกไปขอโทษแกก่อนดีกว่า เฮียแกคงไม่ว่าผมขนาดนั้นหรอก เพิ่งจะเกิดเรื่องกับผมมาเอง







“ป่ะ กูว่าออกไปข้างนอกดีกว่า เดี๋ยวเบียร์หมด”

พอผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ผมก็ชักชวนไอ้คนที่อยู่ในห้องกับผมและไม่ละสายตาจากผมไปไหนเลยอย่างไอ้อาร์มไปข้างนอกไปนั่งกับพี่เขากัน


“ไม่ต้องกินแล้ว เพิ่งจะจมน้ำมา จะมากินบงกินเบียร์ ห้าม อาร์มไม่ให้กิน นอนพัก”


“อะไรของมึงเนี่ยยย นี้งานวันเกิดพี่บาสทั้งทีนะ”


“เป็นพี่บาสก็ต้องพูดแบบนี้ เขาไม่อยากให้น้องที่เพิ่งฟื้นมานั่งเมาหรอก เป็นไรขึ้นมาใครจะดูแล”


“มึงไง”

เชี้ยละ… คิดดังอีกแล้ว แล้วนี่…


(ผมคิดอะไรของผมเนี่ยยยยยยย)




…………………….


“ความกลัวเปรียบเหมือนเงาอีกด้านของชีวิต ถ้าเราไม่รู้จักกล้าที่จะฉายไฟอีกด้านก็คงไม่รู้ว่ามีอะไรดีๆซ้อนอยู่”




Talk : จิมจ้าจิม จิมผู้ถูกทุกคนยัดเยียดตำแหน่งตัวเมียให้ น่าสงสารจริงๆ /// อาร์มนี้ดูถ้าจะมองจิมนานตอนนอนต้องเก็บไปฝันแน่ๆ มองนานขนาดนี้

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
หนูจิม   :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
อาร์มพูดจาเพราะ ชอบบบบบบบ  o18

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: รัก 158 ซม. l Chapter 10 : แน่ใจ : หน้า 2 (05/05/17)
«ตอบ #47 เมื่อ05-06-2017 04:04:35 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: รัก 158 ซม. l Chapter 10 : แน่ใจ : หน้า 2 (05/05/17)
«ตอบ #48 เมื่อ05-06-2017 07:34:19 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ littlep_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: รัก 158 ซม. l Chapter 10 : แน่ใจ : หน้า 2 (05/05/17)
«ตอบ #49 เมื่อ05-06-2017 08:24:20 »

 :pig4: :pig4: :pig4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รัก 158 ซม. l Chapter 10 : แน่ใจ : หน้า 2 (05/05/17)
« ตอบ #49 เมื่อ: 05-06-2017 08:24:20 »





ออฟไลน์ keywordz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
    • แฟนเพจ
Re: รัก 158 ซม. l Chapter 10 : แน่ใจ : หน้า 2 (05/05/17)
«ตอบ #50 เมื่อ05-06-2017 10:54:06 »

Chapter 10 : ชั่ววู้บ









“แฮปปี้เบิร์ดเดย์… ทู… ยู”


แล้วพี่บาสก็เป่าเค้ก


“ขอบใจมากพวกมึง แค่นี้กูก็มีความสุขมากพอและ”

พี่บาสพูดขอบคุณทุกคนที่มาปาร์ตี้วันเกิด


“มา แดกๆใครไม่เมาห้าทกลับ”


พี่บาสชักชวนทุกคนกินเบียร์โดยไม่สนใจว่าวันพรุ่งนี้จะมีเรียนรึเปล่า แต่ไอ้คนอย่างผมที่กินเบียร์ไม่เป็นก็คงต้องขอกินแค่โค้กกับพี่แนนไปสองคน


“ไอ้จิม เอาเปรียบหรอวะ แดกเบียร์ดิ แดกโค้กทำไม”

ไอ้พี่ตั้วสายปั่นหาเรื่องให้ผม เริ่มโวยวาย


“เห้ย น้องมันเพิ่งฟื้นให้ มันเมาเลยหรอวะไอ้ตั้ว”

พี่บาสทักท่วง


“พี่ตั้งผมกินเบียร์ไม่เป็นพี่”


“งั้นยิ่งต้องลอง หัดๆไว้ต่อไปนะได้เข้าสังคมได้”

ไอ้พี่ตั้วก็จะให้ผมกินให้ได้ สักหน่อยละกัน เสียน้ำใจพี่เขาแย่


“จัดมาพี่ เบาๆพอนะครับผมไม่อยากเมามาก”


แต่สุดท้ายสภาพผมก็….






“อุ้มกูทำเชี้ยอะไร เชี้ยอาร์ม”

ผมโวยวายบนแขนไอ้อาร์มที่อาการแอลกอฮอลเข้าเส้นมันโผล่มาหนักมาก เพราะผมดื่มไปเยอะมาก ด้วยความที่ไม่เคยกินเบียร์มาก่อน


จะไม่เมาได้ไงล่ะ ไอ้พี่ตั้วให้ลองกินแก้วสองแก้ว แค่นั้นผมก็ไปแล้ว แถมแย่งไอ้อาร์มกินอีก ห่วงแม่งจะขับรถไม่ได้เลยแย่งมันมากินหมด สุดท้ายไอ้คนกินเบียร์ครั้งแรกแบบผมก็เมาเละเทะหมดสภาพให้ไอ้อาร์มมันอุ้มส่งกลับคอนโด


“ไม่ต้องพูดเยอะเดี๋ยวอ้วก ไม่เคยกินยังจะอวดเก่ง อาร์มบอกว่าอาร์มขับได้”


“ก็กูเป็นห่วงมึง จะเมาขับรถกลับบ้าน”

ผมจับหน้ามาดูใกล้ๆเพื่อโฟกัสใบหน้าให้ชัดเจน

“เป็นเชี้ยไรมา หน้าหล่อๆของมึงจะเสียหมด”

ผมตบหน้ามันซ้ำๆด้วยความเมา


“เจ็บครับบบ อะขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวอาร์มไปส่งที่ห้อง”


“รับทราบ ไอ้เปรต คนห่าอะไรวะสูงชิบหาย”

แม่งนี่แอลกอฮอลมันดึงความหยาบคายของผมออกมาหมดเลยใช่ไหมเนี่ย


“เออ ไอ้เตี้ย”


“เตี้ยแล้วไงวะ ก็น่ารักแล้วกัน หรือไม่ใช่ ห่ะ! ตอบมาดิ”


“ครับๆ น่ารัก หึ”

ขำหล่ออีกแล้วไอ้ห่านี้


“มึงเลิกขำแบบนี้ได้แล้ว กูไม่ติดเบ็ดรอยยิ้มเท่ๆของมึงหรอก อ่อยชิบหาย”


“จิม… พูดจาไม่รู้เรื่องแล้วนะ”


“ทำไม ขับรถไปอย่าบ่น”


“คราวหลังกินเหล้าอีก บอกผมนะ..”

อาร์มเริ่มออกรถจากที่จอดรถซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจเส้นทางอะไรเลย


“มึงจะมอมกูหรอ สาดดด”


“เห้อออ ไอ้เตี้ยเลอะเทอะใหญ่แล้ว”


“มึงนี้มันกวนใจกูจริงๆ”


“อยู่ๆ ก็เข้ามาในชีวิตกู เรียนคณะเดียวกันก็ไม่ใช่ เสือกจะอยากรู้จักกูอีก นี่ถ้ามึงไม่ขอกูเป็นเพื่อนนะกูคิดว่ามึงจีบกูแล้ว”


“แล้วจีบได้ไหมล่ะ”

อย่างน้อยๆผมก็มีสติพอที่ได้ยินคำนี้


“มึงคิดว่ากูจะยอมมึงง่ายๆหรอ ไอ้เชี้ยอาร์ม”


“ถึงมึงจะหน้าตาดี รวย ก็ใช่ว่ากูจะเอามึงนะเว้ย ไอ้สาดแล้วยังทำกูเกือบตาย”

พูดอะไรออกไป…


“...”


“แล้วมึงอย่าลืมนะ ว่ากูผู้ชาย มึงก็ผู้ชาย”


“เชี้ยยย แถมกูยังติดสัญญากับปอยจะช่วยคุยกับมึงให้อีก อย่าว่าแต่จีบเลย โอกาสจะคบกันกูยังไม่เห็นแวว”


“จิม… จิมเมาแล้วนะ พูดอะไรรู้ตัวไหม”

เสียงแผ่วๆของมันทำให้ผมอย่ากจะหยุดตัวเองแต่มันหยุดไม่ได้


“รู้ดิ ทำไมกูจะไม่รู้ กูรู้ตัวเองดี ว่ามึงแม่งทำให้กูรู้สึกไม่เหมือนเพื่อนคนอื่น ตอนมึงอุ้มกู ตอนมึงกอดกู ตอนมึงพูดดีๆกับกู ยิ่งไอ้ตอนที่ปากมึงโดนปากกู ทำไมกูจะไม่รู้สึก แม่งขโมยจูบแรกกูเฉย”


“..... นี่แน่ใจจริงๆใช่ไหมเนี่ยว่ารู้ตัว”


“เออดิวะ”


“อาร์ม…”


“ครับ”


“กูว่ามึงกับกูเป็น….”

เชี้ยผมพูดอะไรของผมไป หยุดนะ หยุดพูดอะไรมากกว่านี้ หายเมาสัดทีสิเว้ยยย สติกลับมาเดี๋ยวนี้นะ คำสุดท้ายผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพูดอะไรไป










“เห้อ…..”

ปวดหัวชิบเลยครับ เรียนเช้านี้ ทั้งเหมือนจะเพลียๆ มึนๆ ปวดหัวไปหมด

“เป็นไรของมึง ถอนหายใจแต่เช้า”

ไอ้กี้ผู้สงสัยจะรักเพื่อนมากแค่ผมถอนหายใจ มันก็อ้าปากถามขึ้นมาระหว่างที่เรากำลังเรียนคลาสคอม ดีไซต์


“เปล่า ปวดหัวนิดหน่อย มึนชิบหายเลย”


“ก็เสือกแดกเบียร์ซะเยอะขนาดนั้น ควาย”


“นี่หิวตีนแต่เช้า?”

ผมถามเพื่อให้มันหยุดปากหมาสักที… จะว่าไปสิ่งที่ทำให้ผมถอนหายใจคือ ผมนึกไม่ออกสักทีว่าหลังจากเมื่อคืนที่ผมเมาจากห้องพี่บาสแต่ไหงผมตื่นมานอนห้องตัวเองเฉยเลย


“...เออมึง เมื่อวานใครมาส่งกูที่คอนโดวะ”

ผมถามไอ้กี้ เพราะไอ้กี้อยู่กับพี่บาสทั้งคืน แม่งเมาแล้วสลบที่ห้องพี่บาส


“ไอ้เติ้ลดิ นี้มึงไม่รู้เรื่องเลยไง ขี้เมาสัด”


“อ้อออ”

ภาพรางๆ เริ่มลอยมา

“เออ ไอ้เติ้ลฝากมาขอโทษ”


“เรื่องไรวะ”


“จะไปรู้มันหรอ เรื่องทำมึงจมน้ำมั้ง มันรู้สึกผิดจะตายห่า”


“นี่ยังไม่เลิกคิดอีกหรอวะ กูคิดว่าเคลียร์แล้วเมื่อวาน”


“แล้วกูจะรู้ไหม ไปถามมันเองดิ”


“ถามไงวะ เบอร์ก็ไม่มี”

แม่งรู้จักกันตั้งนาน เบอร์ก็ไม่มีไลน์ก็ไม่ได้ขอ


“ก็ไปดูที่คณะมันดิ เห็นเมื่อวานก่อนเอามึงไปส่งมันบอกว่ามันมีเรียนเช้า”



“ไปทำเชี้ยไร”


“ไปเหอะ อย่างน้อยๆ ตอนนี้มึงก็โอเคแล้วไปให้มันเห็นหน่อย มันจะได้เลิกรู้สึกผิด”


“แล้วทำไมต้องกูอะ”

มันก็ต้องเป็นมึงอยู่แล้วไหม ไอ้จิม


“อ้าว ก็มันเรื่องของมึงเปล่าวะ ไอ้นี้”


“เออออ”


“เอออะไร พูด! เมือวานมึงทำทุกคนเป็นห่วงเรื่องจมน้ำไม่พอ เสือกเมาหนักให้คนอื่นห่วงกว่าเดิมอีก”


“ชู่ๆๆ!! พวกมึงอะ คุยกันเสียงดังไปแล้วนะ อาจารย์มองใหญ่แล้ว”

ดิวมันดุพวกผมที่นั่งคุยกันระหว่างเรียน


“โทษๆ”

ผมขอโทษไอ้ดิว อันที่จริงผมควรขอโทษอาจารย์ ผมเลยยกมือไหว้ขอโทษอาจารย์ที่กำลังมองผมคุยกันอยู่


“ว่าไง มึงจะไปไหม”

ไอ้กี้เข้ามากระซิบผม


“ไอ้เชี้ย ไปไหน อะไรของมึง”


“ไอ้สัส ไปหาไอ้เติ้ลผัวมึงไง”


ผั๊วะ! หนึ่งทีที่หัวขอหาปากดี


“เออ ไปก็ได้”


“เออ ดี”


“ยิ้มเชี้ยไร”


แม่งยิ้มกวนตีนชิบหาย


“เปล่า กูทำงานและเดี๋ยวจารย์ด่า”






พอผมเลิกเรียนผมขอแยกตัวจากพวกกี้ดิวไปซื้อยามากินแล้วจะกลับไปนอนพักเลย เพราะคิดว่าตัวเองต้องเริ่มป่วยแน่ๆ ทั้งคัดจมูกทั้งเจ็บคอ แถมปวดหัว ร่างกายร้อนๆหนาวๆหน่อยๆ ด้วยความที่จากตึก art ทางไปร้านยาจะต้องผ่านตึก business ผมเลยแวะๆมองหาไอ้อาร์มดูหน่อย




อืม… หาไม่ยากเลยมันนั่งอยู่ในร้านกาแฟใต้ตึกมันแต่ไม่ได้นั่งคนเดียว… หน้าตาท่าทางซีเรียสคุยอยู่กับปอย… ผมไม่ควรเข้าไปยุ่ง ผมเลยเดินเลยไป






และเมื่อผมมาถึงห้องตัวเองก็พร้อมที่จะล้มตัวนอนเต็มที หลังจากกินยาเสร็จอาการง่วงก็แทรกเข้ามาได้ไม่นานนัก


“ตึ๊ดดดดด ตึ๊ดดดดด”


เสียงโทรศัพท์สั่นดังขึ้น  ผมเอื้อมไปหยิบดู



เอ้า ไม่มีนี่ แล้วเสียงอะไรสั่น ผมเดินหาทั่วห้องถึงได้รู้


มีโทรศัพท์ใครไม่รู้วางคู่กับกระเป๋า


ความสงสัยจึงบังเกิด หยิบขึ้นมาดูไลน์เด้งเยอะมาก


“Nutto : กูถามไม่ตอบ คนตัวเล็กๆน่ารักคนนั้นเป็นใคร”


“Por(ple) : หาโทรศัพท์เจอยัง…”


“Ple(por) : ถ้าใครเอาโทรศัพท์เพื่อนผมไปขอคืนด้วย”


“POI : อยู่ไหน ปอยรออยู่ที่ตึกคณะเติ้ลนะ”


“POI : เติ้ล ปอยขอคุยด้วยหน่อย”


“Gif : น้องเติ้ลมีแฟนยังคะ”


“Kyko : เพื่อนกูป่วย”




โห คนทักมันมาเยอะมาก มิสคอลจากปอยก็เยอะด้วย ที่สำคัญ มันมีไลน์ไอ้กี้ได้ไงวะ แม่งแอบคุยกันหรอ แล้ว “เพื่อนกูป่วย” หมายถึงยังไงทำไมมันต้องบอก หรือว่าไอ้กี้จะโทษอาร์มเรื่องผมป่วย ชักอยากสอดรู้สอดเห็นและ



แม่งดันล็อกรหัสอีก


“เซ็ง”


คำบ่นคิดดังของผมโผล่ พร้อมๆกับสายตาที่มองไปทางกระเป๋า ดีล่ะ ไหนๆก็ยุ่งมือถือมันไม่ได้ ยุ่งกับกระเป๋าตังมันแทนและกัน แหม ใช่ของหลุยด้วยนะ แอบถ่ายบัตรประชาชนมันเอาไว้ล้อดีกว่า


นาย สุทธิรัตน์ ผ่องอนงค์
เกิด 25 ธันวา

วันเกิดจำง่ายดีแหะ เห็นรูปมันก็แหม ขนาดบัตรประชาชนยังหล่อเลยเนาะ


“เชี้ย!”


ตกใจดิครับเจอถุงยางในกระเป๋ามัน นี่มันสายนี้หรือเนี่ย


ว่าแต่ทำไมมันมาลืมไว้ในห้องผมวะ


“ก๊อกๆๆๆ”


สะดุ้งทีทำอะไรแทบไม่ถูกเหมือนโดนจับได้ว่าขโมยของกับอีแค่มีคนมาเคาะประตู ตกใจอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้


“เชี้ย… อาร์ม”

ผมมองผ่านช่องตาแมวที่ประตูเห็นไอ้อาร์มยืนรออยู่ที่ประตู แน่นอนว่ามันต้องมาเอาของของมันอยู่แล้ว


“ไงมึง มาได้ไง”


“เออ จิม กระเป๋าตังกับโทรศัพท์ผมอยู่ห้องจิมป่ะ เหมือนผมลืมไว้ห้องจิมไม่แน่ใจว่าลืมไหม”


“อ้าวหรอ เข้ามาหาดิ”

เรื่องไรจะบอกว่ารู้ล่ะ เดี๋ยวมันก็รู้ว่าผมแอบค้นของมันอะดิ

“ขอบคุณครับ”


“เป็นไงบ้าง แฮงเบียร์บ้างเปล่า”

มันถามไถ่อาการผมหลังจากเมามาเมื่อคืน


“ไม่เป็นไรๆ กูบายดี”


“แน่นะ”


“โอเค อาร์มเจอและ”


“อ้าว แล้วทำไมมาอยู่ห้องกูได้นี่”

มันเงียบไปพักนึงพร้อมสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก


“เมื่อคืนผมมาส่งจิมที่ห้องไง”


“อาร์มไปก่อนนะพอดีมีธุระ แล้วเจอกันนะครับจิม”

อะ อ้าว มาแค่นี้เองหรอ…


“เอ่ออ เออ เจอกันมึง”

แล้วอาร์มก็ปิดประตูออกไป


ผมมั่นใจมากว่ามันต้องเป็นอะไร ผมไปทำอะไรให้มันรึเปล่านะ หรือเมื่อคืนผมเมาแล้วทำห่าอะไรแย่ๆกับมัน… ผมคิดสักพักนึกย้อนไปดีๆ… เท่านั้นล่ะ ผมจำฉากในรถได้ลางๆ


ชิบหาย!!



ผมเล่นหยาบคายกับมันไว้เยอะ แถมด่าทอมันเรื่องพฤติกรรมมันอีก ถึงว่าดิแม่งโกรธผมแน่ๆ ผมพูดอะไรไปบ้างวะเนี่ย


คิดได้งั้น ผมรีบเขียนโพสอิทแล้วพับ วิ่งตามมันไป แต่ก็เหมือนจะไม่ทันแต่สุดท้ายก็ทันจนได้ แต่ผมก็ต้องหยุดชะงัก เพราะไอ้คนที่ผมวิ่งตามอยู่กำลังเปิดประตูรถให้ปอยที่ยืนพิงรออยู่ที่รถมัน



“อ่อ… คงดีกันแล้ว”

ความคิดดังของผม ไม่ได้ช่วยให้มันหันมาห้องเพราะผมแอบอยู่ในมุมของล็อบบี้คอนโด


ผมกำโพสอิทในมือแน่นก่อนจะคลี่มันออกมา



“ขอโทษ ให้กูทำกระเพราเนื้อของโปรดมึงไถ่โทษนะ…. จิม”



คงไม่ทันหรอก คงขอโทษไม่ทันแล้ว มันคงไม่อยากมาเจอแล้วแหละ ดูจากท่าทางที่มันไม่คุยกับผมเท่าไหร่ มันคงไม่มาห้องผมแล้ว


ยิ่งวันนี้มันอยู่กับปอยยิ่งแน่ใจ


ยิ้มของปอยดูสุขใจเหมือนได้ของของตัวเองกลับมา...




เพื่อนต่างคณะอย่างผม…



คงไม่มีความหมายอีกแล้ว




……………………..



“บางทีอารมณ์ชั่ววู้บก็ทำให้เราเสียคำพูดดีๆที่ควรรักษาไว้ไปได้”




Talk : กรุณาอย่าให้จิมกินเบียร์กินเหล้าอีกเลยดีกว่า รู้สึกจะเมาแล้วหาเรื่องใส่ตัวมาก 5555/// อาร์ม อดทนจิมหน่อยได้ไหม อย่าเพิ่งหันไปหาปอยสิ (จริงๆ ก็แค่หน่วงๆหน่อยๆ)//// เมื่อคืนจะอัพแล้วดันเผลอหลับเฉยเลยยย


ออฟไลน์ keywordz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
    • แฟนเพจ
ตอนต่อไป อัพช้าหน่อยนะครับ พอดีกลับมาบ้าน ไม่ได้เอาคอมจากคอนโดมาด้วย แต่ว่าเขียนในมือถือนะครับ ขออภัยทุกคนที่เข้ามารออ่านด้วยนะครับ

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
จะสมน้ำหน้าก็สงสารอยู่เบาๆ 55555
ทำตัวเองนะจิม แต่คงยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่หรอกใช่มั้ย ไม่ได้ชอบเค้านี่

ออฟไลน์ keywordz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
    • แฟนเพจ
Chapter 11 : พูดในใจ
 
 
 
 
 
ไอ้เตี้ย... สุดท้ายมันก็แค่เมาแล้วพูดจาพล่อยๆ ออกมา ขนาดผมไปเอากระเป๋ากับโทรศัพท์ที่ผมลืมเอาไว้ (ซึ่งอันที่จริงมันก็เป็นแผนเพื่อให้ผมได้กลับมาหามันนั้นแหละครับ)
 
 
 
ในคืนที่มันเมาเมื่อคืนเป็นคืนที่ผมมีความสุขมาก ได้ใกล้ไอ้เตี้ยมาก ใกล้ถึงขนาดที่ผมได้สัมผัสปากที่มีรสหวานกลายๆผสมกับครอลีนของมันตอนจมน้ำ ใกล้ขนาดที่คิดว่าหัวใจของผมใกล้มันแค่ไหน ใกล้ขนาดที่มันเมาแล้วพูดคำพูดบางคำที่ผมโคตรจะอยากได้ยิน…
 
 
 
แต่ก็นั้นล่ะครับ มันเมา เมาได้กวนตีนและฮามากจนผมต้องอัดเก็บเสียงไว้แกล้งเล่น อันที่จริงจะเรียกว่าอัดเสียงได้ไหม เพราะผมก็กดอัดวีดีโอนั้นแหละ เพียงแต่ไม่ได้ถ่ายภาพอะไรทำเพื่อแค่บันทึกเสียงเมาๆของไอ้เตี้ยที่กำลังพ่นอะไรต่อมิอะไรออกมา
 
 
 
“เรียนคณะเดียวกันก็ไม่ใช่ เสือกจะอยากรู้จักกูอีก นี่ถ้ามึงไม่ขอกูเป็นเพื่อนนะกูคิดว่ามึงจีบกูแล้ว”
 
 
“แล้วจีบได้ไหมล่ะ”
 
 
“มึงคิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ”
 
 
“ถึงมึงจะหน้าตาดี รวย ก็ใช่ว่ากูจะเอามึง แถมมึงยังทำกูเกือบตายอยู่แล้ว แต่แม่งกูก็โกรธมึงไม่ลง”

 
ถึงตรงนี้ผมไม่รู้จะดีใจที่จิมไม่โกรธผมหรือรู้สึกผิดที่ทำจิมเกือบตายดี
 
 
“มึงอย่าลืมนะ มึงก็ผู้ชาย กูก็ผู้ชาย”
 
 
“ไหนจะเรื่องปอยที่เขาขอให้กูช่วยอีก อย่าว่าแต่จีบเลย โอกาสคบยังไม่มี”
 
 
“จิม… จิมเมาแล้วนะ พูดอะไรรู้ตัวไหม”

 
ตอนนั้นที่ผมถามเพราะอยากแน่ใจว่าคำพูดที่ออกมา มันมาจากใจหรือมาจากแอลกอฮอล
 
 
“รู้ดิ ทำไมกูจะไม่รู้ กูรู้ตัวเองดี ว่ามึงแม่งทำให้กูรู้สึกไม่เหมือนเพื่อนคนอื่น ตอนมึงอุ้มกู ตอนมึงกอดกู ตอนมึงพูดดีๆกับกู ยิ่งไอ้ตอนที่ปากมึงโดนปากกู ทำไมกูจะไม่รู้สึก แม่งขโมยจูบแรกกูเฉย”
 
เอาจริงๆมาถึงตรงนี้ผมดีใจมากนะครับที่จิมพูดออกมาแบบนี้ แต่ผมไม่อยากหวังมาก ถ้าหากการพูดครั้งนี้ของมันเพียงแค่ขาดสติจากพิษแอลกอฮอล ผมคงเสียใจ...
 
 
“..... นี่แน่ใจจริงๆใช่ไหมเนี่ยว่ารู้ตัว”
 
 
“เออดิวะ”
 
 
“อาร์ม”

 
 
“กูว่ามึงกับกูเป็นแค่เพื่อนกันเหอะ”
 
…….ขนาดกลับมานั่งฟังอีกรอบผมยังตัวชาอยู่เลย
 
 
“กูไม่อยากผิดสัญญากับปอย”
 
ปอยไม่เกี่ยวแล้วจิม ผมโคตรอยากจะพูดคำนี้
 
 
“อีกอย่าง… ถ้าทุกอย่างลงตัว”
 
 
“ไว้ถึงตอนนั้นถ้ามึงยังรู้สึกชอบกู”

 
 
“มึงค่อยมาจีบกูละกัน ไม่แน่เผื่อกูจะเปลี่ยนใจก็ได้”
 
 
แล้วนั้นก็เป็นคำพูดสุดท้ายในคลิปเสียงที่ผมแอบอัดไว้ เพราะจิมก็หลับไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่รู้ตัวจนผมต้องอุ้มขึ้นห้อง
 
 
 
คำพูดของจิมวนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดตั้งแต่เช้า… มันเหมือนกับว่าเราเจอคนที่ใช่ในเวลาที่ แม่งก็ใช่นั้นแหละ เหมือนจิมจะให้โอกาสผมยังไงยังงั้นเลย เพียงแต่ผมคงต้องจัดการกับปัญหาทั้งหมดออกไปก่อน  แล้วเริ่มจีบจิมอย่างจริงจังสักที (ถ้าจิมในตอนนั้นพูดจากใจจริงๆอะนะ) แต่แม่ง ไอ้เตี้ยไม่เห็นจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนเลย
 
 
 
 
“เติ้ล”
 
 
“เติ้ล!!!”
 
 
“คะครับ ว่าไงครับปอย”
 
ปอยดึงสติผมกลับมาจากความคิด
 
 
“ฟังอะไรอยู่ ปอยฟังด้วยได้เปล่า”
 
ผมดึงหูฟังเก็บใส่กระเป๋ากางเกง
 
 
“อ่อ เปล่า ลืมถอดอะ ไม่ได้เปิดฟังอะไร”
 
 
“นี่ ปอยน่าเบื่อขนาดต้องเอาหูฟังมาฟังเลยหรอ”
 
 
“เปล่านะ ว่าแต่จะกินอะไรสั่งเลย”
 
ผมกับปอยมากินข้าวด้วยกันที่ข้างมหาลัย
 
 
“ปอยต้องถามเติ้ลมากกว่า ปอยสั่งแล้ว เติ้ลอะจะสั่งอะไร”
 
ผมหันไปมองพี่พนักงานที่รอรับออเดอร์จากผม เวรกำจริงๆ
 
 
“อืมมม กระเพาเนื้อ กับต้มจืดมะละครับ”
 
แล้วพี่เขาก็รับออเดอร์ผมไป
 
 
“เหม่อลอยอะไรหรอเติ้ล”
 
 
“เปล่าๆ แค่คิดอะไรนิดหน่อย”
 
อันที่จริงตอนนี้ผมกำลังคิดหาทางที่จะเข้าหาจิมได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้นผม
 
 
“ดีจัง ในที่สุดเติ้ลก็ยอมคุยกับปอย”
 
 
“ยอมคุย?”
 
 
“ก็เหมือนเติ้ลไม่ค่อยอยากคุยกับปอยเลย หลายวันไลน์ไปก็ไม่ค่อยตอบ โทรไปก็ไม่ค่อยรับ”
 
 
“เติ้ล ง้วนอยู่กับการอ่านหนังสือเตรียมสอบอะครับ แล้วเมื่อวานก็วันเกิดรุ่นพี่”
 
 
“อ่อ ทำไมไม่เห็นชวนปอยเลย”
 
 
“โหยย ขอโทษทีนะ กลัวปอยจะอึดอัด มีแต่รุ่นพี่ผู้ชาย”
 
จริงๆก็มีพี่แตมพี่แนน ที่เป็นผู้หญิงนะ
 
 
“อ้อออ แล้วเป็นไง สนุกไหม”
 
 
“สนุกครับ”
 
 
“เติ้ล ปอยมีคนคุยแล้วนะ…”
 
จู่ๆ จะพูดอะไรขึ้นมา
 
 
“ใครหรอ”
 
 
“ถามทำไม หึงหรอ?”
 
 
“เปล่า อยากรู้”
 
 
“ก็นะ ไม่บอกหรอก แต่เจอกันตอนเติ้ลไปส่งปอยขึ้นรถแท็กซี่น่ะ”
 
ทำให้ผมรู้สึกผิดมากที่ไม่ไปส่งปอยถึงห้อง โดยปกติผมต้องไปส่ง แต่วันนั้นไอ้เตี้ยทำให้ผมเปลี่ยนไปได้ง่ายๆ
 
 
“ขอโทษทีนะที่ไม่ได้ไปส่ง”
 
 
“ไม่เป็นไร ก็ดีนะปอยถึงได้เจอเขาไง พอดีเจอที่หน้าซอยเข้าคอนโด”
 
 
“อ่อครับ”
 
 
ระหว่างฟังผมไม่ได้สนใจอะไรเธอมากเท่าไหร่ เปิดดูไลน์ในโทรศัพท์ไล่ตอบทุกๆคน จนมาถึงไลน์ของพ่อสืบของผม (ไอ้กี้) พิมพ์มาตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว
 
 
“Kyko : เพื่อนกูป่วย”
 
 
“T.A. : เป็นไรมากไหม ทำไมป่วย”

 
ยังไม่อ่าน…
 
 
อ่านละ
 
 
 
 
“Kyko : เพราะมึงนั้นล่ะ สาเหตุ”
 
 
“Kyko : ไปดูแลเพื่อนกูซะ”
 
 
“T.A. : แต่จิมไม่ค่อยอยากเจอผมอะดิ”
 
 
“Kyko : มึงเอาห่าไรมาพูด”
 
 
“T.A. : เมื่อกี้เพิ่งไปเจอมาที่ห้อง ไม่เห็นจะพูดอะไรเลย”
 
 
“Kyko : อ้าว ไรของมันวะ เออ ไม่รู้เวย กูแค่มาบอกว่าเพื่อนกูป่วย”
 
 
“T.A. : ขอบคุณมากกี้”

 
 
ว่าแต่จิมป่วยเป็นไรนะ ถ้าให้เดาเมื่อวานจมน้ำ ก็คงเป็นไข้หวัด
 
 
“นี่ เติ้ล”
 
 
“ครับ”
 
ทำไงดี ผมอยากไปดูแลเตี้ยเดี๋ยวนี้จัง แต่ก็ยังติดกินข้าวกับปอย
 
 
“เติ้ลดูกังวลๆนะ มีไรรึเปล่า”
 
 
“เปล่าครับๆ”
 
 
“นี่ ไหนว่าตกลงกันแล้วไง เป็นเพื่อนก็มีไรก็บอกได้นี่”
 
 
“หรือเรื่องของเติ้ลบอกปอยไม่ได้”
 
 
“เรื่องผู้หญิงหรอ เติ้ลมีใหม่แล้วหรอ”
 
ไปกันใหญ่แล้วปอย
 
 
“บ้า ไม่ใช่ เพื่อนป่วยอะครับ”
 
 
“แค่เนี่ยอะนะ”
 
ปอยทำหน้างงๆกับคำตอบของผม
 
 
“ใช่ มันไม่มีคนไปดู ไปซื้อยาให้”
 
 
“ทำไมไม่รีบบอก งั้นเติ้ลก็รีบไปดิ”
 
 
“แต่...ปอย”
 
 
“ยังจะห่วงปอยอีก เดี๋ยวปอยกลับเองได้ รีบไปเหอะเดี๋ยวเพื่อนเป็นหนัก”
 
 
“ครับ…”
 
แล้วผมก็รีบลุกออกไปจากร้าน… ถ้าผมไม่ได้หลอกตัวเอง ผมเห็นปอยน้ำตาไหลก่อนที่ผมจะออกจากร้าน…
 
 
นี่ผมแย่อะไรขนาดนี้ ทำให้ปอยเสียใจ ผมทำถูกไหมนะ ที่ขอเธอเป็นแค่เพื่อนเหมือนเมื่อก่อน แถมผมยังทำให้จิมเกือบตาย แล้วยังจะมาป่วยอีก นี่ผมคู่ควรที่จะดูแลใครได้หรอ
 
 
ไม่ดิวะ… อดีตที่ผ่านไปแล้วก็คืออดีต ผมจะตัดสินใจแล้วว่า ผมจะจีบไอ้เตี้ย เรื่องปอยผมก็เคลียร์กันแล้วเมื่อตอนผมลงมาจากชั้นเรียน ก็เจอปอยนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟใต้ตึกคณะผม ทำให้เรามีโอกาสได้เคลียร์กันทั้งเรื่องของปอยและเรื่องที่ปอยขอให้คนอื่นช่วยเรื่องผม
 
 
 
 
 
หน้าห้อง 427 กับมือที่หิ้วเอาถุงยาและโจ๊กใต้คอนโดมา
 
 
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
 
 
“จิมครับ อยู่รึเปล่า เปิดประตูหน่อย”
 
 
เงียบมาก เงียบจนผมเริ่มใจไม่ดี
 
 
 
สักพักผมถึงได้ยินเสียงเดินเท้าจากในห้องมา
 
 
“อะแฮ็กๆ”
 
เสียงจิมไอก่อนเปิดประตูออกมาสภาพคนเมาขี้ตามากๆ สงสัยนอนมาแน่ๆ
 
 
“อ้าว มึงมาทำไมอีกอะ ลืมอะไรอีกหรอ”
 
…. จุกเลย นี่มีเยื้อใยหรือดีใจที่ผมมาไม่ได้เลยไง
 
 
“เห็นท่าทางเหมือนป่วย เลยแวะเอายากับโจ๊กมาให้กิน”
 
ผมพูดด้วยเสียงที่จิมน่าจะฟังออกว่าผมน้อยใจ
 
 
“เห้ย ไม่เป็นไรกูซื้อมาแล้ว ไม่เห็นต้องลำบากเลย เข้ามาๆ”
 
ถึงจะน้อยใจที่ซื้อยาให้ไม่ทันเจ้าตัวเขาแต่ก็ดีใจที่เจ้าตัวเชิญผมเข้าห้อง
 
 
“แล้วจิมเป็นอะไรหรอครับ ดูหน่อย”
 
ผมเอามือไปแตะหน้าผาก ที่รู้สึกจะร้อนหน่อยๆ ไข้ขึ้นแน่ๆ
 
“กูไม่เป็นไรมากหรอก แค่มึนๆ”
 
 
“แล้วไหนยาอะ กินยัง”
 
 
“กินไปแล้ว แต่เป็นยาก่อนอาหารนะ ว่าจะทำกินแต่ดันหลับก่อน”
 
 
“งั้นดีเลย กินโจ๊กที่ผมซื้อมาจะได้ไม่เสียเวลาทำกับข้าว”
 
 
“โอเค รบกวนหน่อยนะ ใส่ชามให้ที”
 
ภาพไอ้เตี้ยเดินเหมือนคนไม่มีแรงทำผมยิ้ม...
 
 
ไอ้เตี้ยสภาพน่าดูแลแบบนี้ มาขอรบกวนผม ทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่คำอ้อนวอนอะไร แต่เป็นคำพูดห้าวๆสไตล์ของไอ้เตี้ยที่มันโคตรน่าฟัง
 
 
“เป็นไรก็บอกดิ คราวหลัง”
 
 
“บอกไปมึงก็เป็นห่วง ไม่เอาอะ เกรงใจ”
 
 
“จะเกรงใจทำไม”
 
ระหว่างผมเทโจ๊กแล้วหันไปหาถังขยะ… ผมเห็นโพสอิทสีส้มที่ถูกขย่ำตกอยู่ข้างถังขยะ ด้วยความที่คิดจะทิ้งให้จิม แต่ก็ต้องรอบคอบก่อนเผื่อเจ้าตัวไม่ได้จะทิ้ง ก็เลยเปิดอ่าน
 
 
“ขอโทษ… ให้กูทำกระเพาเนื้อของโปรดมึงไถ่โทษนะ ….จิม”
 
 
เตี้ย… มันรู้เรื่องเมื่อคืนรึเปล่า… ถามเลยดีกว่าไหม หรือว่าควรเก็บเงียบไว้ ผมหันไปดูเตี้ยท่าทางจะล้มหลับเอาอีกรอบ
 
 
“เมื่อคืนจมน้ำแล้วยังจะกินเบียร์หนักอีกนะ”
 
ผมทำทีเป็นบ่น
 
 
“เป็นไงล่ะ วันนี้ป่วยเลยเห็นไหม”
 
 
“บ่นทำไม กูเป็นไปแล้วให้ทำไงอะ”
 
 
“กินเบียร์ไม่เป็นยังจะอวดเก่ง”
 
ผมยิ้มๆให้สภาพไอ้เตี้ยที่เงยคอเกยเบาะโซฟาและหลับตาด้วยความเพลีย
 
 
“เลิกบ่นเถอะคราวหน้าจะไม่มีอีกแล้ว พอใจไหม”
 
 
“เออพอใจ แล้วเมื่อคืนหลับสบายไหม”
 
ผมพยายามถามอ้อมๆว่าจิมจำเรื่องเมื่อคืนได้รึเปล่า
 
 
“อืมม หลับไม่รู้เรื่องเลย ตื่นมาก็โคตรจะมึนหัว จำห่าไรไม่ได้เลย”
 
… ผมก็คิดไว้บ้างแหละ ว่าจิมต้องพูดอะไรแนวนี้ คนเมาจะไปจำรายละเอียดทุกอย่างได้ไงล่ะ ผมก็พอจะเริ่มมั่นใจว่า บางทีจิมอาจจะพูดไปเพราะพิษของแอลกอฮอล
 
 
“อะ รีบกินนะ จะได้กินยา อาร์มแกะเอายาออกมาให้แล้วนะ นี้”
 
แล้วผมก็วางยาใส่แก้วคู่กับแก้วน้ำอุ่นๆให้ข้างๆชาม
 
 
“จะกลับแล้วหรอ”
 
 
“อื้ม จิมจะได้นอนพักไง ทำไม ไม่อยากให้กลับหรอครับ”
 
ขอฟังหน่อยเหอะ
 
 
“ถ้าไม่ลำบากใจก็อยู่พักที่นี้ก่อนดิ เอายามาให้ เอาข้าวมาให้ จะให้กูปล่อยแขกไปทั้งๆที่ไม่ได้เทคได้ไง ยังไงก็นั่งพักกินน้ำก่อน”
 
โห โคตรเลย โคตรเป็นคำที่อยากได้ยินเลย ถึงจะดูเป็นแค่การรักษามารยาทก็เหอะ อย่างน้อยๆเขาก็เอ่ยปากให้ผมอยู่ก่อน เรื่องอะไรจะปฏิเสธ
 
 
“เรียนเป็นไง”
 
จิมถามผมที่ตอนนี้ผมนั่งข้างๆจิมที่โซฟา มองดูจิมตักโจ๊กกินก็ชักจะหิวละ ตอนออกมาจากร้านก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย
 
 
“ก็ดีครับ วุ่นๆอยู่กับตัวเลข”
 
 
“กูโคตรเกียดคณิตศาสตร์”
 
อยู่ๆ จิมก็พูดจาอะไรตลกๆ มันจะไม่ตลกได้ไงล่ะ หน้าอย่างจิม ก็ไม่ได้เหมาะกับตัวเลขอยู่แล้ว (ผมไม่ได้ว่าจิมไม่ฉลาดนะครับ) เพียงแต่สไตล์จิมมันไปทางเด็กศิลป์ นักออกแบบอย่างที่เขาถนัดอยู่แล้ว ห้องคอนโดก็สไตล์นั้น
 
 
“ก็ดูออกอยู่นะ”
 
 
“คร๊อกกกก”
 
เสียงท้องร้องผมนี้ช่างถูกเวลาจริงๆ
 
 
“โห ท้องร้องดังไปเปล่า”
 
 
“ก็ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยงนะ”
 
ผมบอกเหตุผลที่ฟังดูเหมือนจะเป็นข้ออ้างสำหรับจิมเพราะมันมองผมแล้วยิ้มหน่อยๆในแบบคนที่อยากจะขำแต่ไม่มีแรงขำ
 
 
“อะ กินด้วยกันดิ”
 
จิมเลื่อนชามโจ๊กมาทางหน้าผม…
 
 
“บ้า ไม่เอาไม่แย่งคนป่วยกินหรอก”
 
 
“อะไรนักนา เอาๆ”
 
แล้วจิมก็ตักโจ๊กมาจะยื่นเข้าปากผมอยู่แล้ว เชี้ยเตี้ยในโหมดบังคับนี้ก็ยอมเลยแหะ ไม่อยากเถียงให้หมดแรง
 
 
แล้วผมก็อ้าปากรับโจ๊กที่โคตรจะอร่อยที่สุดของโลกเลย (เว่อมาก ถ้าจิมไม่ป้อนคงไม่อร่อยแบบนี้ใช่ไหม)
 
 
“กินเข้าไปเยอะๆ กูป่วยกูกินไม่ได้เยอะหรอก”
 
มาแปลกแหะ ป้อนเอาๆ
 
 
“พอแล้วๆ จิมกินบ้างก็ได้ เดี๋ยวอาร์มกลับไปกินบ้านก็ได้”
 
 
“ไม่เป็นไร กินกับกูเนี่ยล่ะ มันเยอะไปกูกินไม่หมดหรอก”
 
 
จากนั้นผมกับจิมก็กินหมด เป็นอาหารมื้อแรกที่ผมได้กินชามเดียวกัน ช้อนเดียวกัน เอาสิวะ ถึงจะติดไข้ก็คุม
 
 
“นี่…”
 
จิมเอ่ยปากหลังดื่มน้ำกินยาไปเรียบร้อย
 
“ขอบใจนะ”
 
อยู่ๆก็มาขอบใจผมผมก็สงสัยสิ
 
 
“หื้ม?”
 
 
“แค่อยากขอบใจที่คอยดูแล คอยห่วง ไม่มีไรหรอก”
 
…. คนมันรู้สึกพิเศษก็ต้องทำให้เป็นพิเศษอยู่แล้วนี้
 
 
“ไว้มีโอกาสจะตอบแทนนะ”
 
 
“ตอบแทน? ทำไมต้องคิดว่าเป็นบุญคุณ ทำไมจิมไม่คิดว่าผมทำให้เพราะอยากทำ ทำให้เพราะเต็มใจ”
 
 
“...”
 
 
“อยู่ๆมาพูดว่าตอบแทน ฟังแล้วโคตรห่างเหิน”
 
 
“น้อยใจว่ะ อุตส่าคิดว่าจะพอทำอะไรดีๆให้ได้มั้ง…”
 
ยังไม่ทันพูดจบเลยจิมก็พิงไหล่ผมเป็นที่เรียบร้อย… ผมหันไปถึงได้รู้ว่าจิมหลับไปแล้ว
 
 
“เอ้า หลับง่ายจริง”
 
ผมพรึมพรำอยู่คนเดียว คงเป็นเพราะไอ้เตี้ยมันเพลียมาก ตอนเปิดประตูให้ผมก็เพิ่งจะนอนไป แล้วไหนจะยาคงทำให้มีอาการง่วง แม่งอยู่ท่านี้ผมโคตรหวั่นไหวเลย
 
 
ผมอยู่ในท่านี้สักพักจนผมพอใจพอสมควรแล้ว ไม่รู้จะน่าเกียดไหม แต่ผมก็แอบถ่ายรูปนี้ไว้แล้ว ช่วยไม่ได้นี่ครับ ผมอยากเก็บความทรงจำนี้ไว้ดูของผมคนเดียว ไม่รู้จะมีโอกาสได้เกิดขึ้นอีกไหม ที่จิมจะมาพิงไหล่กว้างๆของผม…
 
 
แล้วผมก็อุ้มจิมไปนอนในห้องจัดท่าห่มผ้าให้เรียบร้อย
 
 
 
“จิมรู้ไหม ที่อาร์มทำแบบนี้เพราะอาร์มชอบจิม”
 
 
 
 
โคตรอยากจะพูดแบบนี้เลย ถ้าไม่ติดว่ากลัวเขาจะได้ยินผมพูด...เลยทำได้แค่
 
 
 
 
พูดในใจ….
 
 
 
 
………………………………
 
 
 
“ความในใจไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา เมื่อความรู้สึกมากเกินกว่าจะเก็บไว้ในใจ”
 
 
 
 
 
 
 
Talk : อัพช้าไปหน่อยยยยยยย คนเขียนพิมพ์ในมือถือ โคตรจะไม่ถนัด ขออภัยครับ ///กราบ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อาร์ม/เติ้ล ปากบอกปอยว่าคุยแบบเพื่อน
แต่ดูเหมือน เวลาคุยกับปอย เป็นแบบยอมๆปอย
มันเหมือนให้ความหวังปอยนะ
จริงๆ เติ้ล ต้องห่างๆปอย นะ

แล้วงานวันเกิดรุ่นพี่เติ้ล ทำไมปอยต้องพูดว่าไม่ชวนปอยไปด้วย
เติ้ล ก็มีเพื่อนของเติ้ลปะ เหมือนปอยยังทำตัวแบบเป็นแฟนเติ้ล ตัวติดกัน
แล้วเพื่อนปอยไม่มีหรือ เห็นดิ่งมาคุยแต่กับเติ้ล

ดูๆทั้งคู่ จิม อาร์ม อึดอัดกันลึกๆ
รอให้ทั้งคู่ หายสับสน
แต่จิม คงต้องเห็นปอยมีคนคุยใหม่จริง ใจจึงจะเปิดรับอาร์มได้จริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ปลายฟ้าใส

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สะดุดชื่อเรื่องมาก แฟนเราก็เตี้ยประมาณนี้เลย เดี๋ยวจะตามอ่านรวดเดียวเลยค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด