ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) P.9  (อ่าน 83016 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :hao5: :sad4: :heaven

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อยู่กินกัน ฉันสามีภรรยา :-[

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
แหมเข้าหอก็แล้ว ย้ายมาอยู่อย่างนี้หวังว่าคงไม่มีดร่าม่าอีกนะ

ตอนนี้คงเหลือแต่ด่านพ่อแม่พี่โชแล้วสินะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หนีไปอยู่ด้วยกันละหรอ??

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
รวดเร็วทันใจ หลังจากที่พี่โชรอคอยมายาวนาน เป็นแฟนปุ้บ จับกินเสร็จ ให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันทันที

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
 :L1:

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ตอนที่ 24

วันนี้ผมต้องฝืนสังขารตัวเองมาเรียนเพราะอาจารย์บอกไว้ว่าจะมีสอบเก็บคะแนนแต่ทั้งที่ร่างกายของผมมันเพลียมันเปลี้ยจนแทบจะเดินไม่ไหว ทั้งยังเสียดช่วงล่างจนรู้สึกได้ว่าเดินแปลกไป ที่คอก็ยังมีแต่รอยเป็นจ้ำจากฝีมือของพี่โช ซึ่งพี่โชก็บอกแล้วว่าให้หยุดพักผ่อนแต่ผมก็ไม่ฟังเพราะไม่อยากขาดสอบถึงจะเป็นสอบย่อยผมก็ไม่อยากที่จะต้องไปตามสอบคนเดียวทีหลัง นี่ถ้าใครเห็นสภาพผมตอนนี้ก็ต้องรู้ว่าผมโดนอะไรมาแน่ๆ ผมทำใจไว้แล้ว จนก่อนออกจากห้อมผมต้องทำข้อตกลงกับพี่โชใหม่ว่าถ้าวันที่มีเรียนห้ามทำอะไรผม ตอนแรกพี่โชทำท่าจะไม่ยอมผมเลยยื่นคำขาดถ้าไม่ยอมผมจะย้ายออกพี่โชจึงยอมตกลงโดยดี



เมื่อพี่โชขับรถมาส่งผมที่คณะพี่โชก็บอกจะเดินลงไปส่งผมให้ถึงเพื่อนแต่ผมต้องรีบห้ามไว้ เพราะอย่างน้อยโดนเพื่อนแซวตอนอยู่คนเดียวยังดีกว่าที่มีพี่โชอยู่ด้วย ไม่งั้นผมคงจะอายจนทำอะไรไม่ถูกแน่

ผมเดินลงจากรถตรงมาที่ใต้คณะโต๊ะประจำของพวกผมก็เห็นเพื่อนทุกคนนั่งอยู่แล้ว



“ไอ้อาร์ททำไมสภาพมึงเป็นอย่างนี้วะ” น้ำตาลทำท่าทางตกใจเมื่อเห็นสภาพเหมือนผีเดินได้ของผม

“กะ..กู ไม่...” ผมยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรกายก็ชิงพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

“โดนฟัดมาสิมึง”

เมื่อกายพูดจบหน้าผมก็ร้อนขึ้นมาจนต้องหลุบตาลงต่ำมองพื้นไม่กล้าสบตาเพื่อน

“ว่าไงมึงโดนฟัดมาแบบที่ไอ้กายบอกหรือเปล่า” น้ำตาลพูดอย่างหยอกล้อคลายอาการตกใจเมื่อครู่ไปจนหมด

ผมจึงเลือกที่จะเงียบไม่ตอบอะไร แล้วหันไปสนใจฟ้ากับเพื่อนของฟ้าแทน “อ้าวฟ้ากับกรอยก็อยู่หรอ”

“ใช่สิอาร์ทเรากับกรอยก็นั่งอยู่ตั้งแต่แรกแล้วนะ” ฟ้าไม่พูดเปล่ายังทำสายตาล้อเลียน

“ฮ่าๆ เราขอโทษไม่ทันได้มอง” ผมตอบเฉไฉไปทั้งที่ผมก็เห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าสองคนนั่งอยู่แต่อย่างน้อยก็หวังจะทักเพื่อเบี่ยงประเด็กให้พ้นตัวเท่านั้น

“มัวแต่เขินอยู่ละสิ” ฟ้าแซวผม

ผมยิ้มกลับไปให้ฟ้าไม่ได้ตอบอะไร แล้วจึงตัดสินใจนั่งลง ระหว่างที่ช่วงล่างที่สัมผัสกับเก้าอี้มันก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาจนผมนิ่วหน้าโดยทันทีจนกายเข้ามากระซิบ

“มึงกินยาแก้อักเสบกับทายาหรือยัง”

ผมตาโตอ้าปากพะงาบและรู้สึกอายขึ้นมาแต่ก็กระซิบตอบกลับไป “ยากูกินแล้วส่วนทาพี่โชจัดการให้กูแล้ว” ผมตอบออกไปและชั่งใจคิดสักครู่แล้วก็ถามกายออกไป “มึงรู้ได้ไงว่ากูต้องเป็นคนกินยา”

กายยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบ “หึ! ไอ้อาร์ทเอ้ย อย่างมึงไม่มีปัญญากดพี่โชแน่นอน”

“ฆวย” ผมแยกเขี้ยวใส่กายอย่างโมโห

“มึงสองคนกระซิบไรกันวะ” น้ำตาลหรี่ตามองผมกับกายอย่างจับผิด

“ทุกเรื่องนะมึงอ่ะ อ่านหนังสือไปป่ะ” กายว่าน้ำตาลอย่างไม่จริงจังนัก

“เชอะ!” น้ำตาลสะบัดหน้าใส่ผมสองคนก่อนจะหันไปหาฟ้า “ฟ้าอธิบายตรงนี้ให้เราฟังหน่อยเรางงอ่ะ”

“ฟ้าสอนเราด้วย” ผมพูดต่อจากน้ำตาล

“ไม่โว้ย กูไม่ให้ฟ้าสอนมึงฟ้าจะสอนกูคนเดียว” น้ำตาลพูดแล้วยักคิ้วท้าทายผมก่อนหันไปเอาคำตอบจากฟ้า “ใช่ไหมฟ้า”

ฟ้าทำได้ยิ้มและท่าทางเหนื่อยใจกับผมสองคน จากนั้นพวกเราจึงตั้งใจอ่านหนังสือโดยมีฟ้าคอยอธิบายในส่วนที่ไม่เข้าใจบ้าง ไม่นานนักก็ถึงเวลาเข้าเรียนจึงแยกย้ายกันไป

เมื่อสอบเสร็จพวกผมก็พากันลงมาใต้คณะเพื่อหาอะไรรองท้องก่อนที่จะเรียนในช่วงบ่าย พอลงมาถึงใต้คณะก็เห็นกลุ่มพี่โชเกือบครบกลุ่มขาดแค่พี่คิวมานั่งรอกันอยู่แล้ว พวกเราจึงเดินตรงเข้าไปหา

“มากันทำไมเนี่ย” ผมถามขึ้น

“มาดูแลเมี...” พี่โชยังพูดไม่ทันจบคำผมก็รีบใช้มือตะปบปิดปากพี่โชอย่างเร็ว

“ฮ่าๆ” เสียงขำหลุดออกมาจากทั้งเพื่อนผมและเพื่อนพี่โช

ผมจึงหาทางเปลี่ยนเรื่อง “แล้วพี่คิวไปไหนอ่ะ”

“มันนัดสาวมั้ง” พี่โชตอบ

ผมพยักหน้าไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเพราะแค่ต้องการเปลี่ยนเรื่องเท่านั้น

“เออเย็นนี้พี่ปันนัดเข้าชมรม” พี่โชบอกแล้วมองสภาพผมก่อนจะถาม “ไหวไหมถ้าไม่ไหวเดี๋ยวมารับไปส่งที่ห้องก่อนแล้วจะบอกพี่ปันให้”

ผมทำหน้าเลิ่กลักเมื่อทุกสายตาบนโต๊ะมองมาที่ผมเป็นตาเดียว “ไหวดิทำไมจะไม่ไหวเย็นนี้เจอกันที่ชมรม”

“ไม่ เดี๋ยวเลิกเรียนแวะมารับ” พี่โชพูดเสียงแข็ง

“แหมไอ้โช มึงจะประคบประหงมมันมากไปหรือเปล่า” พี่อัครแซวพร้อมทำสายตาล้อผม

“ไม่ได้ดิไอเชี่ยอัคร แฟนกูทั้งคน”

“อ้าว เป็นแฟนกันแล้วเหรอวะไม่บอกกูไม่รู้นะเนี่ย” พี่อัครพูดพร้อมทำท่ากวนๆ ก่อนจะหันมาหาผมแล้วยกยิ้มร้ายๆ ออกมาก่อนจะพูด “มึงไปใจอ่อนให้มันตอนไหนวะไอ้อาร์ท”

ผมไม่ตอบพี่อัครได้แต่ส่งสายตาให้พี่โชช่วยตอบแทนหรือไม่ก็ทำอะไรก็ได้ที่ให้พี่อัครเลิกถาม เพราะตอนนี้หน้าผมร้อนจนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

“มึงนี่ก็เสือกเหมือนกันเนอะ” พี่โชว่าเพื่อนขำๆ

“เออไอ้อัครวันนี้ทำไมมึงอยากรู้อยากเห็นจังวะ ปกติต้องเป็นไอ้คิวนี่ไม่ใช่มึงที่ขี้เสือก” พี่ณัฐพูดเสริมทำให้ขำกันทั้งโต๊ะ

พี่อัครมองค้อนพี่ณัฐก่อนจะโวยวายขึ้นมา “มึงก็อีกตัวไอ้ณัฐตัวติดกับไอ้กายเป็นตังเม”

พี่ณัฐยักคิ้วท้าทายพี่อัครก่อนจะพูด “เรื่องของกู”

เท่านั้นพี่อัครก็เงียบไปเพราะไม่มีพวกปกติแล้วจะเป็นพี่คิวที่คอยแซะคนอื่นเพราะพี่คิวคู่หูไม่อยู่พี่อัครเลยสู้ใครไม่ได้

เมื่อหมดเวลาพักเราก็แยกย้ายกันไปเรียน พอเรียนเสร็จผมจึงลงมาใต้คณะก่อนจะหยิบโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาพี่โช แต่ไม่ทันได้โทรก็เห็นรถพี่โชจอดรออยู่แล้วผมจึงหันไปบอกลาเพื่อน

“กูไปก่อนนะพวกมึงต้องเข้าชมรม”

เท่านั้นเพื่อนๆ ก็พยักหน้ารับ ผมจึงเดินตรงมาเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ

“มานานยัง” ผมถามขึ้น

“ไม่เท่าไหร่ ว่าแต่ไหวแน่เหรอยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” พี่โชถามพลางยื่นมือมาลูบแก้มผมอย่างอ่อนโยน

แก้มผมร้อนผ่าวขึ้นมาก่อนจะเบนหน้าหลบสายตาของพี่โช “ก็เจ็บแต่ไม่มากเท่าไหร่ น่าจะไหวถ้าไม่ได้เล่นหนักมาก”

“อืม ถ้าไม่ไหวอย่าฝืนนะ” พี่โชบอกด้วยน้ำเสียงห่วงใย

ผมพยักหน้ารับ จากนั้นพี่โชจึงกลับไปสนใจที่พวงมาลัยรถมองออกไปยังถนนและเร่งเครื่องออกจากตรงนั้นเพื่อไปยังสนามฟุตบอล

รถจอดสนิทผมก็เปิดประตูลงจากรถแล้วยืนรอพี่โชหยิบของจากท้ายรถจึงเดินเข้าไปในชมรมพร้อมกัน ทันทีที่พี่ปันเห็นสภาพผมจึงเอ่ยทักอย่างตกใจ

“เฮ้ย ทำไมสภาพไอ้อาร์ทเป็นอย่างงี้วะ” แล้วหันไปหาพี่โช “มึงทำอะไรมันไอ้โช แล้วแบบนี้มันจะเล่นไหวไหมวะวันนี้อาจารย์จะเข้ามาดูด้วย”

พี่โชทำหน้าไม่ถูกผมจึงตอบแทนพี่โชออกไป “ไหวพี่ ผมไหว พี่โชไม่ได้ทำอะไร”

“แหมปกป้องกันดีเหลือเกินนะมึง” พี่ปันแซวก่อนจะพูดต่อ “เออไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัว วันนี้แบ่งทีมเล่นให้อาจารย์ดูด้วย”

“ครับ” ผมและพี่โชตอบรับพร้อมกัน

เมื่อผมเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาพร้อมกับมาเจอแดดผมก็รู้สึกมึนๆ ขึ้นมาผมเซเกือบจะล้มดีที่พี่โชรับเอาไว้ทัน

“ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน นั่งรอข้างสนามนั่นแหละ” พี่โชพูดเสียงดุๆ

ผมจึงพยักหน้าตอบก่อนจะยอมให้พี่โชพยุงไปนั่งข้างสนาม สรุปแล้วผมก็ต้องนั่งดูคนอื่นเล่นเพราะร่างกายของผมมันไม่ไหวจริงๆ

เมื่อเล่นเสร็จทุกคนก็มารวมตัวกันที่ข้างสนามเพื่อคุยอะไรกันเกี่ยวกับชมรม ก่อนจะกลับพี่ปันเลยบอกว่าวันนี้เป็นวันศุกร์เลยจะเลี้ยงสมาชิกในชมรมที่ติดไว้ตั้งแต่เทอมที่แล้ว จึงนัดกันไปเจอที่ร้านเหล้าสามทุ่ม

พี่โชเห็นว่าสภาพร่างกายของผมไม่ไหวคงไม่สามารถไปนั่งนานๆ ขนาดนั้นได้พี่โชจึงปฏิเสธไป

“โถวไอ้โช เดียวนี้หงอเลยนะมึงไอ้อาร์ทไม่ไปมึงก็ไม่ยอมไปเลยนะ” พี่ปันแซวขำๆ เพราะพี่ปันรู้อยู่แล้วว่าผมกับพี่โชเป็นอะไรกันมากกว่าพี่น้อง จริงๆ ก็รู้กันทั้งชนรมนั่นแหละ ถึงตอนแรกจะยังไม่ได้เป็นแฟนกันแต่พี่โชมันก็ทำกับผมไม่ต่างกับตอนเป็นแฟนกัน

“ไม่ได้ดิพี่เดี๋ยวโดนเมียตี” พี่โชก็ตอบกลับขำๆ ผมจึงทุบไหล่พี่โชแรงๆ ไปทีหนึ่ง

“เห็นไหมพี่นี่ขนาดผมไม่ไปกินกะพวกพี่ผมยังโดนตีเลย” พี่โชทำท่าฟ้องพี่ปัน

พี่ปันขำก่อนจะพูด “ฮ่าๆ กลัวเมียนี่หว่า”

ผมทำอะไรไม่ถูกจึงรีบเดินหนีเข้าไปในห้องล็อคเกอร์เพื่อเก็บของ ปล่อยให้พี่โชคุยกับพี่ปันต่อไป

ผมเดินออกมาพร้อมกับของผมและของพี่โชจึงเดินตรงไปที่รถเลยเพราะพี่โชนั่งรออยู่ในรถอยู่แล้ว

ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งเสียงพี่โชก็ลอยมา “อยากกินอะไร”

“อยากกินซูชิอ่ะ” ผมหันไปตอบ

“ครับเมีย” พี่โชทำหน้าล้อผม

ผมมองค้อนพี่โชก่อนจะเอื้อมมือไปทุบต้นขาพี่โชอย่างไม่แรงนัก

พี่โชพาผมไปกินซูซิร้านใกล้ๆ มหา’ลัย เมื่อกินเสร็จพี่โชจึงชวนผมแวะซุปเปอร์ก่อนจะถึงหอเพื่อซื้อของใช้และของสดไว้ทำกินซึ่งจริงๆ แล้วก็ทำอาหารกันไม่ค่อยจะเป็นทั้งคู่นั่นแหละครับ ทำได้แค่พวกง่ายๆ ไข่เจียว หมูทอดอะไรประมาณนี้แหละ

“ซื้อไปเยอะๆ เลยนะ” พี่โชบอกขณะที่เรากำลังยืนกันอยู่ตรงแผนกของสด

“จะซื้อไปทำไมเยอะแยะ” ผมถามอย่างสงสัย ในเมื่อถ้าหมดก็ค่อยออกมาซื้อใหม่ก็ได้

“ก็เสาร์อาทิตย์นี้เราจะไม่ออกไปไหนไง” พี่โชพูดอย่างเจ้าเล่ห์

ผมได้ยินแบบนั้นหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมาอย่างทำอะไรไม่ถูกได้แต่หยิบนู่นหยิบนี่ลงรถเข็นโดยไม่มองด้วยซ้ำว่าหยิบอะไรลงมาบ้าง สุดท้ายเสาร์อาทิตย์นั้นผมและพี่โชก็ไม่ได้ออกจากห้องกันจริงๆ





วันนี้ผมเลิกเรียนเร็วกว่าพี่โชครึ่งชั่วโมงเพราะอาจารย์มีประชุมจึงเลิกคลาสก่อนเวลาพอดีกับที่กายก็ต้องไปรับพี่ณัฐอยู่แล้วผมจึงขอติดรถกายไปหาพี่โชที่คณะด้วยเลย

“พวกมึงเดี๋ยวนี้พอเลิกเรียนก็ทิ้งกูกันเลยนะ” น้ำตาลว่าอย่างงอนๆ

ผมเดินเข้าไปกอดคอน้ำตาลแล้วดึงเข้ามาหอมแก้มเบาๆ “โอ๋ๆ ไม่งอนนะไว้เดี๋ยวพี่พาไปกินขนม”

“ไม่ต้องเอาขนมมาล่อกูเลยพวกมึง...กูงอน” น้ำตาลพูดกระชากเสียงก่อนจะผลักหัวผมออกให้ไกลๆ

“แหมทำอย่างกับมึงมีเวลามาอยู่กับพวกกูตายแหละเห็นมึงก็ติดฟ้าไม่ต่างกัน” กายว่าจนน้ำตาลอยู่ๆ ก็เงียบเถียงไม่ออกแถมหน้ายังมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาอีก

“ไปป่ะพวกมึงจะไปไหนก็ไป” น้ำตาลพูดไล่พวกผมแล้วหันหลังเดินไปยังห้องที่ฟ้ากำลังเรียนอยู่ พวกผมหันมองหน้ากันแล้วยิ้มเหมือนว่ารู้กัน น้ำตาลมันปากแข็งบอกไม่มีอะไรแต่การกระทำมันนี่สิชัดยิ่งกว่าอะไร



เราสองคนขับรถมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของคณะสาถาปัตย์แล้วลงไปหาที่นั่งรอบริเวณใต้คณะเพราะเราไม่ได้บอกคนของเราก่อนว่าเลิกเรียนแล้ว

ผมหยิบโทรศัพท์มองนาฬิกาเวลาบอกว่าอีกห้านาทีจะเป็นเวลาเลิกเรียนของพี่โช ผมเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ภาพที่เห็นคือพี่โชเดินลงบันไดมากับผู้หญิงคนหนึ่งเดินคุยกันมากระหนุงกระหนิง

ผมมองภาพตรงหน้าอย่างหงุดหงิด ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นเพื่อนพี่โชมันก็ได้ ไม่ทันที่ผมจะลุกขึ้นยืนเพื่อเดินไปหา ผู้หญิงคนนั้นยกมือขึ้นลูบที่แก้มพี่โชเบาๆ พี่โชก็ยิ้มให้ก่อนจะพูดอะไรสักอย่าง มันทำให้ผมโมโหอยากอาละวาดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ไม่รู้ทำไมตั้งแต่ที่ตกลงเป็นแฟนกันผมโคตรขี้หึง ขี้หวง โคตรงี่เง่า ผมก็หงุดหงิดตัวเองเหมือนกันที่เป็นแบบนี้

ผมลุกขึ้นยืนกำลังจะเดินตรงไปที่ชายหญิงคู่นั้นแต่ก็มีมือกายดึงแขนผมไว้ “ใจเย็นๆ มึง เขาอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้”

“เออ” ผมหันมาตอบกายพร้อมกับดึงแขนตัวเองกลับมาแล้วรีบเดินไปหยุดตรงหน้าทั้งสองคนนั้น

พี่โชหันหน้ามามองผมโดยทำสีหน้างงๆ นิดหน่อยก่อนส่งยิ้มมาให้ “อ้าวทำไมวันนี้มานี่ได้อ่ะ”

“ถ้าไม่มาแล้วจะได้เห็นเหรอ” ผมพูดในขณะที่ส่งสายตาดุๆ มองจ้องหน้าพี่โชอย่างไม่สบอารมณ์

พี่โชเลิกคิ้วไม่เข้าใจก่อนจะมองตามสายตาผมไปหยุดที่ผู้หญิงข้างๆ “อ๋อ นี่เพื่อนกูชื่อเอีย”

ผู้หญิงชื่อเอียหันมายิ้มให้ผม “นี่แฟนมึงที่พวกไอ้ณัฐชอบพูดถึงใช่ป่ะ”

“เออนี่อาร์ทแฟนกู” พี่โชบอกผู้หญิงคนนั้นยิ้มๆ

“โหยหล่อนี่หว่า”

“แต่น้อยกว่ากู” พี่โชยักคิ้วกวนๆ

“ถุย” ผู้หญิงชื่อเอียทำท่าหมั่นไส้พี่โช “อายมาละงั้นกูไปก่อน พี่ไปก่อนนะน้องอาร์ท” เขาบอกพี่โชก่อนหันมาบอกผม ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่มองเฉยๆ และมองตามเขาไปก็เห็นมีผู้หญิงอีกคนยืนรออยู่ซึ่งหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะคงจะเป็นฝาแฝดกันละมั้ง

“ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ได้ยังไม่ตอบกูเลยนะเบี้ยว” พี่โชเดินเข้ามาโอบไหล่ผมพลางพาเดินไปยังโต๊ะที่ผมเดินมาเมื่อสักครู่

“อาจารย์ปล่อยไว” ผมตอบห้วนๆ เพราะยังหงุดหงิดไม่หาย

พี่โชพยักหน้ารับ “งั้นกลับห้องกัน”

“อ่าวไม่เข้าชมรม?”

“ไม่ต้องเข้าหรอกวันนี้พวกสมาชิกไม่ค่อยอยู่กัน ไอคิวก็ไปต่างจังหวัดกับครอบครัวตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว”

“อือ”

จากนั้นผมก็ไม่พูดไม่จาไม่ร่ำไม่ลาใครทั้งนั้นรีบเดินดุ่มๆ ตรงมาที่รถเลยจนพี่โชต้องลาเพื่อนเร็วๆ แล้วรีบเดินตามผมมาอย่างไวๆ ทันทีที่มาถึงพี่โชปลดล็อคผมก็เปิดประตูกระแทกตัวลงนั่งอย่างไม่สบอารมณ์

“เบี้ยวเป็นอะไร” พี่โชถามเสียงเข้มๆ

“......”

“หรือว่าหึงไอ้เอีย”

“.....”

“มันไม่มีอะไรเป็นเพื่อนในเซค”

“เพื่อนกันต้องมายืนลูบแก้มกันด้วยเหรอวะ” ผมกัดฟันถามด้วยอารมณ์ที่มันสุมอยู่ในอก

“เฮ้ยไม่ใช่มันแค่เช็ดรอยเปื้อนดินสอออกให้เฉยๆ”

ผมไม่ตอบพี่โชจึงถอนหายใจก่อนจะหันไปสตาร์ทรถและขับออกกลับไปยังหอทันที



กลับมาถึงห้องด้วยความที่เหนื่อยๆ ไหนยังจะหงุดหงิดเรื่องที่เห็นไอ้พี่โชมันอยู่กับผู้หญิงอีก ถึงมันจะบอกแค่เพื่อนก็เถอะแต่มันหงุดหงิดโว้ย เกลียดอารมณ์แบบนี้ฉิบหายผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปอาบน้ำเผื่ออารมณ์จะเย็นลงมาบ้าง

ผมจัดการถอดเสื้อผ้าออกจนหมดและกำลังจะเปิดฝักบัวเพื่ออาบน้ำแต่ตาก็เหลือบไปเห็นเข้ากับอะไรบางอย่างทำให้ผมสติหลุดกระเจิงร้องโวยวาย



“พี่โช!!!” ผมตะโกนดังลั่นห้องน้ำด้วยความตกใจ

“.........”

“ไอ้พี่โช!!” ผมตะโกนจนสุดเสียง

พี่โชรีบเดินเข้ามาเคาะหน้าประตูห้องน้ำพร้อมกับถามออกมาด้วยเสียงตกใจ “เบี้ยวเป็นอะไร”

“ไอ้ห่าพี่โช มึงๆๆๆๆ” ผมพูดไม่เป็นภาษาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวประหลาดตรงหน้า

“เบี้ยวเปิดประตูสิวะ เป็นอะไร” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนเพราะความเป็นห่วงพร้อมกับเคาะประตูให้ผมเปิด

ผมกลั้นใจขยับตัวไปหมุนลูกบิดประตูแล้ววิ่งออกมาทั้งที่ร่างกายไม่มีผ้าปกปิดอยู่สักชิ้นเดียว



ผลั่ก!

เมื่อวิ่งออกมาก็ประทะเข้ากับร่างพี่โชอย่างแรง

“โอ๊ยแม่ง” ผมอุทานออกมา

“เบี้ยวเป็นอะไร” พี่โชถามอย่างตกใจ

“ตัวห่าอะไรอยู่ในห้อง พี่มึงเอาตัวห่าอะไรไปไว้ในห้องน้ำ” ผมตะหวาดใส่พี่โชอย่างโมโห

“อ๋อ กิ้งก่า” พี่โชพูดอย่างหน้าตาเฉย

“เออนั่นแหละ พี่ไปเอาไอ้ตัวห่านี่มาจากไหน แล้วไปเอามาทำไม” ผมโวยวายไม่ยอม

พี่โชใช้สายตามองผมตั้งแต่หัวลงต่ำมาเรื่อยๆ จนมาหยุดสายตาที่กลางลำตัวผมก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาแล้วค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ

“หยุด!” ผมตะคอกพี่โชจนพี่โชชะงัก

“เบี้ยวไม่ใส่เสื้อผ้า” พี่โชพูดด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์แถมยังส่งสายตาหื่นๆ มาให้ผมอีก

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ตอบมาก่อนว่าไปเอาไอ้ตัวห่านั่นมาไว้ในห้องทำไม” ผมยังไม่เปลี่ยนประเด็น

“กิ้งก่าไอ้คิวมันฝากเอาไว้ มันต้องไปธุระต่างจังหวัดกับครอบครัวไม่มีคนให้อาหาร”

“แล้วไปเอามาตอนไหนวะ เมื่อเช้ายังไม่เห็นมี”

“ก็ตอนเช้าเรียนเสร็จมันก็ลากไปเอาจากหอมันมาไว้ที่ห้องนี่แหละ”

“แล้วจะรับมาทำไม”

“ก็มันฝากไง แค่สองวัน”

“วันเดียวก็ไม่ได้โว้ย”

“นี่มึงกลัวกิ้งก่า?”

“ไม่ได้กลัวโว้ย แต่รังเกียจ” ผมตะโกนเสียงดัง

“มึงก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมันสิแค่สองวันเอง”

“แล้วพี่มึงจะเอาไปไว้ในห้องน้ำทำฆวยอะไร”

“ก็ไอ้คิวมันบอกให้อยู่ที่ชื้นๆ กูก็คิดว่าน่าจะเป็นห้องน้ำ”

“ไอ้พี่โช!” ผมโมโหจนขยับเข้าไปใช้มือบีบคอพี่โช

“เฮ้ยๆ หายใจไม่ออก ใจเย็นๆ ดิวะ จะไปรู้เหรอว่ามึงกลัวอ่ะ...แค่กๆ” พี่โชพูดไปพร้อมไอออกมาเหมือนจะหายใจไม่ออก

“บอกไม่ได้กลัวไงเว้ย รังเกียจอ่ะ..รังเกียจเข้าใจไหมวะ”

“เออนั่นแหละ ใครจะไปรู้เล่า” พี่โชยังคงหอบหายใจแรงขณะที่พูด

“ถ้ารู้แล้วพี่มึงก็ช่วยเอามันออกไปจากห้องนี้ด้วย” ผมออกคำสั่งเด็ดขาดด้วยสายตาแข็งกร้าวก็คนมันไม่ชอบนี่หว่าจะให้มาอยู่ร่วมห้องทำไม่ไหวแน่ๆ

“เฮ้ยก็ไอ้คิวไม่อยู่”

“นั่นแหละก็เอาไปฝากพี่อัครหรือพี่ณัฐก็ได้นี่หว่า”

“แต่กูรับปากมันไปแล้วจะให้กูเอาไปโยนให้คนอื่นได้ไง”

“ถ้ามีไอ้ตัวเหี้ยนี่อยู่ในห้องก็ไม่มีไอ้อาร์ทในห้องนี้โว้ย” ผมพูดใส่หน้าพี่โชก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อผ้าออกมาใส่อย่างลวกๆ แล้วเดินออกไปโทรศัพท์ที่ด้านนอกห้องนอน

ต่อข้างล่างจ้า
VVVVV
 VVV
   V
   V
   V
   V
   V

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ต่อจ้า!!!

ตู๊ดๆ

(ไงเพื่อน)

“ไอ้กายมึงอยู่ไหนกูขอไปนอนห้องมึงได้ไหมวะ”

(มึงทะเลาะกะผัวไม่เลิกหรือไง)

“เชี่ยกาย ตกลงกูไปนอนด้วยได้ไหม”

(เออ จะมาก็มาแต่พี่ณัฐอยู่ด้วยนะ)

“เออเดี๋ยวเจอกัน”

ผมวางสายก็เห็นว่าพี่โชกำลังนั่งมองผมอย่างไม่เข้าใจจึงถามออกมา

“จะไปไหน”

“.......”

“อาร์ท” เสียงพี่โชเข้มขึ้น

“ไปนอนห้องไอ้กาย”

“ได้ไงอ่ะ นี่วันศุกร์นะ” พี่โชทำตาละห้อย

“ก็พี่ไม่ยอมเอามันออกไปอ่ะ”

“เดี๋ยวเอาออกไว้นอกห้องนอนก็ได้ จะไม่ให้เกะกะสายตาเลยอ่ะ”

“ไม่”

“โหไรอ่ะ เบี้ยวทำไมเอาแต่ใจแบบนี้” พี่พูดอย่างเหนื่อยใจ

“เออ งั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกัน” ผมพูดเสียงดังทำท่าจะเดินออกไปเปิดประตูพี่โชจึงใช้มือรั้งแขนไว้

“ไม่เอาดิ”

ผมสะบัดแขนออกจากมือพี่โชแล้วรีบเดินออกไปลงลิฟท์ไปเรียกแท็กซี่ตรงไปหอกาย ก็แม่งผมกำลังโกรธพี่มันเรื่องผู้หญิงอยู่ว่าจะอาบน้ำให้อารมณ์เย็นลงหน่อยแม่งก็ต้องมาเจอไอ้ตัวห่านั่นที่ผมเกลียดฉิบหายอยู่ในห้องน้ำอีก อารมณ์ผมยิ่งระเบิดกว่าเดิมตอนนี้ยังไม่อยากคุยอะไรทั้งนั้นแหละ



ก๊อกๆ

รอไม่นานกายก็เดินมาเปิดประตูห้องออกให้ผมเข้าไปข้างใน ผมมองสอดส่องไปรอบห้องจึงเห็นว่าพี่ณัฐนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี

“ไงมึงทะเลาะไรกันวะ?” ทันทีที่ผมเดินก้าวเข้าไปยังโซฟาพี่ณัฐก็ทักขึ้นทั้งที่มือก็ถือโทรศัพท์เหมือนคุยกับใครอยู่

“......” ผมไม่ได้ตอบเพราะเห็นว่าพี่เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่จึงก้มหัวทักทายออกไปแค่นั้น

“เออมันถึงละ ไม่ต้องห่วงแค่นี้แหละ” ผมได้ยินพี่ณัฐพูดกับคนในโทรศัพท์ผมคาดว่าน่าจะเป็นพี่โช

ผมรู้สึกว่าตั้งแต่ผมได้สถานะเมียมานี่รู้สึกตัวเองงี่เง่าฉิบหายเลยอะไรนิดอะไรหน่อยก็งอนอย่างกับตุ๊ด คิดแล้วก็หงุดหงิดตัวเองชะมัด

“ไงมึงทะเลาะไรกันมาวะ” พี่ณัฐถามอีกครั้งเมื่อผมนั่งลงข้างๆ

“นิดหน่อยพี่ไม่มีไรมาก”

“ไอห่าไม่มีไรมากแล้วมึงจะหนีมันมาทำไม”

“ก็....”

“เออแม่งไม่บอกก็ไม่บอก แต่กูอยากให้มึงมีอะไรก็คุยกันดีๆ ไม่อยากให้มึงหนีแบบนี้”

“มันก็จะคุยดีๆ ได้หรอกพี่ถ้าไม่มีไอ้ตัวห่านั่นอ่ะ” พูดถึงไอ้ตัวนั้นแล้วผมก็อารมณ์ขึ้น

“ตัวไรของมึงวะ? หรือพี่โชมีกิ๊ก” กายพูดแทรกขึ้นมาขณะที่กำลังเดินมานั่งพร้อมกับในมือที่ถือขวดน้ำมาให้ผม

“ไม่ใช่กิ๊กเว้ย แต่แม่งเป็นกิ้งก่า”

“ฮ่ะกิ้งก่าเนี่ยนะ” ทั้งสองทำหน้าแปลกใจ

“เออก็ผมเกลียดนี่หว่า เพื่อนพี่แม่งดันเอามันมาไว้ในห้องบอกให้เอามาฝากพวกพี่ก็ไม่ยอม” ผมพูดจบทั้งกายและพี่ณัฐถึงกับฮาก๊ากกันขึ้นมา แม่งไม่เคยเกลียดสัตว์อะไรสักอย่างกันเหรอวะขำกันอยู่ได้

“แล้วมันไปเอามาจากไหนวะ” พี่ณัฐถามทั้งที่ยังขำไปด้วย

“ของพี่คิวอ่ะดิ มาฝากไว้เห็นบอกว่าไปต่างจังหวัดอะไรไม่รู้”

“อ๋อ ถึงว่าเมื่อกลางวันไอ้คิวมารับไอ้โชไปไหนกันสองคน”

“นั่นแหละพี่ ผมแม่งหงุดหงิด”

ทั้งพี่ณัฐและกายต่างก็มองหน้ากันแล้วหันมาขำใส่ผมจนผมไม่อยากจะพูดอะไรต่อ เพราะเหตุผลผมมันคงจะปัญญาอ่อนไปนั่นแหละมั้ง ก็ทำไงได้คนมันเกลียดจริงๆ นี่หว่า

“เออมึงนอนรวมกับพวกกูได้ไหมละห้องนอนมันมีห้องเดียว” กายถามผม

“ไม่เป็นไรกูนอนโซฟาข้างนอกนี่แหละ มึงนอนข้างในกับพี่ณัฐเถอะ” ผมไม่ได้อะไรกับที่นอนอยู่แล้วแค่ไม่อยากอยู่ห้องร่วมกับไอ้ตัวห่านั่นเฉยๆ พอมาแบบนี้ก็เกรงใจสองคนนี้จะแย่ ไม่อยากให้เค้าต้องมาลำบากเรื่องที่นอนเพราะผมอีก

“ไม่เอาดิวะไอ้อาร์ท มึงจะมานอนเมื่อยที่โซฟาทำไม” กายทำสีหน้าจริงจังไม่ยอมให้ผมนอนโซฟา จนพี่ณัฐคว้าคอกายเข้าไปกระซิบอะไรซักอย่างจนกายพยักหน้ารับก่อนหันมาผมอีกครั้ง “เออแล้วมึงแดกไรมายัง?”

“เรียบร้อยว่ะ มึงไม่ต้องห่วงกู” ผมโกหกออกไปเพราะผมไม่อยากกินอะไรทั้งนั้นตอนนี้และก็ไม่อยากรบกวนกายกับพี่ณัฐมากกว่านี้แล้ว

“เอองั้นมึงตามสบายว่ะ เดี๋ยวกูกับพี่ณัฐทำอะไรกินในครัวนะ”

“เออๆ”

ผมหยิบรีโมทมาเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ เพื่อหารายการที่ถูกใจดูแต่ก็เหมือนไม่มีอะไรที่ถูกใจหรือว่าใจผมมันไม่ได้อยู่กับทีวีกันแน่

นี่พี่โชมันจะไม่มาตามผมกลับจริงๆ เหรอ ผมก็ออกมาพักใหญ่แล้วนะมันไม่คิดจะมาง้อกันเลยเหรอทั้งที่ทั้งหมดเป็นความผิดพี่มันทั้งนั้นเลยนะ ผมกระวนกระวายใจจนมันคงแสดงออกมาทางสีหน้าชัดเจน

“มึงโอเคไหมวะอาร์ท” กายเดินถือจานผมไม้ออกมาวางที่โต๊ะหน้าโซฟาแล้วนั่งลงใช้มือตบไหล่ผม

ผมไม่ตอบได้แต่ส่ายหน้ากลับไปให้กาย

“มึงกลับไปเคลียกับพี่โชไหมเดี๋ยวกูไปส่ง”

“นี่มึงไล่กูเหรอวะ”

“ไม่ใช่สัด” กายปฏิเสธทันควันก่อนจะใช้มือผลักหัวผม “กูแค่ไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนี้ไอ้ห่า อยากให้มึงเคลียๆ ไปได้ไม่ต้องมานั่งหน้าบูดเป็นตูดลิงอย่างนี้”

“แม่งทีพี่มันยังไม่สนกูเลย กูบอกว่ากูไม่ชอบไอ้ตัวห่านั่นแม่งก็ไม่เห็นจะทำอะไรเลย กูออกมาขนาดนี้มันยังไม่เห็นตามมาเลย” ผมพูดออกไปด้วยความอัดอั้น

“สรุปมึงกลัวกิ้งก่าขนาดนั้นเลยหรอวะ”

“กูเกลียด”

“ก็นั่นล่ะไอห่า” กายทำหน้าเอือมที่ผมไม่ยอมรับความกลัวของตัวเอง

“............” ผมหน้ามึงใส่กายแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“เรื่องแค่นี้มึงต้องหนีออกมาเลยหรอวะ”

“แค่นี้ที่ไหนวะ ก่อนหน้านี้ก็แม่งไปยืนให้ผู้หญิงลูบหน้าลูบตากูยังโมโหไม่หาย พอกลับมาถึงห้องยังจะมีเรื่องไอ้ตัวนั้นอีกแม่งกูหงุดหงิดฉิบหาย”

“กูว่าแล้ว” กายพูดขึ้นมาพร้อมกับเอามือตีขาตัวเอง “สรุปคือหึงผู้หญิงคนนั้นมึงเลยพาลไปหมด”

“ไม่รู้โว้ยกูหงุดหงิด” ผมพูดแค่นั้นเสียงประตูก็ดังขึ้นทำให้ใจผมเต้นแรงเพราะคิดว่าคงจะเป็นคนที่ผมกำลังโกรธอยู่มาง้อกันแน่ๆ



ก๊อกๆ

กายลุกจากโซฟาไปเปิดประตูผมหันมองตามไปเพื่อหวังว่าจะเห็นคนที่ผมกำลังคิดถึงอยู่แต่เปล่าเลย

“น้องกายคะ พี่ทำต้มพะโล้เลยเอามาแบ่งให้” ผู้หญิงหน้าหวานส่งถ้วยที่ถืออยู่มาตรงหน้ากาย

กายรับถ้วยมา “ขอบคุณครับพี่แบม พี่จะรอเอาจานไปเลยไหมครับ”

“ไว้วันหลังก็ได้จ้า พี่ไปล่ะสามีกับลูกรอทานข้าวอยู่” เธอยิ้มหวานก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไป

กายเดินเอาถ้วยเข้าไปให้ครัว



ก๊อกๆ

“ไอ้กายมีคนมา” ผมตะโกนบอกกายที่อยู่ในครัว

“เออมึงไปเปิดเลยพี่แบมอาจจะเอาอะไรมาให้เพิ่ม” กายตะโกนกลับมาแบบนั้นผมจึงลุกขึ้นยืนเดินไปยังประตู

เมื่อประตูเปิดออกคนที่ผมเห็นกลับไม่ใช่พี่แบมคนเมื่อครู่กลับเป็นพี่โชที่ยืนถือกล่องไอ้ตัวห่านั่นอยู่ เมื่อเห็นเช่นนั้นผมจึงไม่พูดอะไรแต่รีบเดินจ้ำเข้ามานั่งที่โซฟาตามเดิม

“อ้าวไอ้โช” ทันทีที่พี่ณัฐเดินออกมาก็เห็นว่าเพื่อนตัวเองกำลังเดินเข้ามาภายในห้องจึงเอ่ยเรียกออกไปแบบนั้น

“เออ กูจะเอาไอ้ตัวห่านี่ของไอ้คิวมาฝากมึงเลี้ยงวะ” พี่โชไม่พูดเปล่ายังชูกล่องขึ้นให้พี่ณัฐเห็นชัดๆ “แล้วก็จะมารับเมียกลับด้วย”

ผมหันขวับไปหาพี่โชทันทีที่ได้ยิน

“ไงมึงมันเอาไอ้นี่มาไว้ห้องกูแล้ว” พี่ณัฐพูดพรางชูกล่องขึ้นให้ผมดู “มึงจะกลับไปกับมันไหม”

ผมยิ่งไม่ตอบและหันหน้ากลับมามองที่ทีวีต่ออย่างไม่สนใจ แต่ในใจนี่ดีใจฉิบหายที่พี่มันมาง้อ แต่เรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นมายืนลูบแก้มพี่มันผมยังไม่ได้สระสรางไม่งั้นผมคงไม่ยอมกลับง่ายๆ แน่

พี่โชเดินมานั่งลงข้างๆ “อาร์ทกลับห้องกัน”

“…….”

“แฟนครับกลับห้องกันเหอะนะ”

“ไม่” ผมไม่มองหน้าพี่โชเลยแม้แต่น้อย

“ไอ้โชกูให้ยืมห้องนอน” พี่ณัฐพูดแทรกขึ้นมาแถมส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้เพื่อนอย่างไม่น่าไว้ใจ

ผมมองพี่ณัฐอย่างหงุดหงิด “พี่แม่...” ผมพูดไม่ทันจบพี่โชก็ช้อนตัวผมขึ้นแล้วเดินตรงเข้าไปที่ห้องนอนตามที่พี่ณัฐบอก จนผมได้ยินเสียงขำของกายและพี่ณัฐตามหลังมา

“ปล่อยนะเว้ย” ผมโวยวายทุบไหล่คนที่อุ้มผมอย่างไม่ออมแรง

พี่โชไม่พูดไม่จาปิดประตูล็อคห้องอย่างหน้าตาเฉย “ไหนบอกซิโกรธอะไร”

“..........”

พี่โชเดินมานั่งลงข้างแล้วดึงมือผมไปจับ “ถ้าไม่บอกแล้วจะอธิบายถูกไหมละ”

“อธิบายไม่ถูกก็ไม่ต้องอธิบายไง” ผมพูดประชดออกไป

“ไม่ใช่แค่เรื่องกิ้งก่าใช่ไหม” พี่โชบีบมือผมแน่น

“.......” ผมไม่ตอบแต่สีหน้าก็บูดบึ้งไม่หาย

“เรื่องเอียหรือเปล่า”

“......”

“นั่นไง เอียเป็นเพื่อนในเซคอย่างที่บอกไปตอนแรกจริงๆ ไม่เชื่อถามไอ้ณัฐได้เลย”

“แล้วไง เพื่อนเขาต้องไปยืนลูบแก้มกันอย่างนั้นหรือไง” ผมหันไปเสียงแหวใส่พี่โช

“ก็บอกแล้วว่าแก้มกูเปื้อนดินสอ เอียมันเลยเช็ดให้”

“เช็ดก็เช็ดดิวะ นี่ลูบซะอ่อนโยนแม่ง” ผมไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

“มึงไม่ชอบ?” พี่โชเอียงหน้าหรี่ตาถาม

“เออดิวะ ใครจะชอบให้คนอื่นมาลูบหน้าลูบตาแฟนตัวเองวะ”

พี่โชยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ เดี๋ยวก่อนนี่กูกำลังหงุดหงิดพี่มึงอยู่ไง

“ยิ้มอะไร” ผมถามพร้อมกับมองค้อนแฟนตัวเองกลับไป

“ก็ยิ้มที่แฟนขี้หึงขี้หวงไง” พี่โชยังลอยหน้าลอยตายิ้มไม่เลิก

“ถ้าคนที่โดนลูบแก้มเป็นผมพี่จะรู้สึกยังไง”

พี่โชชะงักกับคำถามของผมก่อนจะตอบ “กูฆ่าทิ้งตรงนั้นแน่ ผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะ”

“เห็นไหม แล้วจะไม่ให้ผมรู้สึกอะไรเลยได้ยังไงวะ” ผมว่าอย่างหัวเสีย

“โอเคเข้าใจแล้วครับ ทีหลังกูจะระวังตัวกว่านี้”

“ระวังไม่ให้ผมเห็น?” ผมถามแบบจับผิด

“ไม่ใช่ดิครับ ระวังไม่ให้ใครมาโดนตัวสิครับ” พูดไม่พอยังดึงผมเข้าไปกอดจนแน่นอีกต่างหาก “รู้ว่าแฟนหวงขนาดนี้ก็ต้องหวงเนื้อหวงตัวเก็บไว้ให้แฟนคนเดียวดิครับ”

ฟอด!!

พูดจบพี่โชก็ตะโบมจูบเข้ามาที่แก้มผมซ้ายทีขวาทีอย่างไม่ปราณีจนผมต้องผลักหน้าพี่โชออกแล้วร้องห้าม

“พอเลย”

“หายโกรธกูยัง” พี่โชทำท่ากระลิ้มกระเหรี่ย

“ยัง” ผมเก็กหน้าให้ขรึมทั้งที่ในใจตอนนี้มันเขินไปแล้ว

“แล้วจะทำยังไงให้เบี้ยวหายโกรธอ่ะ” พี่โชทำหน้าอ้อนๆ เหมือนลูกแมวน่าเอ็นดูจนผมหลุดยิ้มออกมา

“อยากดูหนัง” จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากดูเท่าไหร่แต่แค่ยังไม่อยากรีบกลับห้องก็เท่านั้นเพราะรู้ดีว่ากลับห้องไปผมจะต้องเจอกับอะไร

พี่โชยกแขนขึ้นดูนาฬิกา “เวลานี้เนี่ยะนะ”

“อืม ไม่ได้เหรอ”

“ได้สิครับ เมียอยากทำอะไรผัวพาไปหมดเลย”

ผมฟาดแรงๆ เขาที่แขนพี่โช “อย่ามาเรียกแบบนี้ได้ไหมวะ”

“ทำไมอ่ะ ไม่ชอบเหรอ”

“เออไม่ชอบ”

“แต่กูชอบนะ” พูดจบพี่โชก็ขโมยจูบที่ปากผมเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาให้ผมจับ “ป่ะ”

ผมส่งมือให้พี่โชจับและดึงผมให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตรงไปเปิดประตูห้องนอนออกไปหากายกับพี่ณัฐที่นั่งกันอยู่ที่โซฟา

“อ้าวดีกันแล้วหรอ” พี่ณัฐเอ่ยแซวเมื่อเห็นพี่โชเดินจูงมือผมออกมา

“เออ กูฝากลูกไอ้คิวมันด้วย” พี่โชบอกพี่ณัฐพร้อมกับฝากฝังไอ้กิ้งก่านั่น

“รับทราบ” พี่ณัฐทำตาล้อเลียน “แล้วอย่าตีกันอีกละครับ”

พี่โชไม่ตอบได้แต่ไหวไหล่แล้วเดินจูงมือผมออกจากห้องกายไปขึ้นรถ เราสองคนไปดูหนังกันต่อตามที่ผมบอกไว้

วันนั้นกว่าจะกลับถึงห้องก็ปาเข้าไปเกือบจะตีสามทำให้เราสองคนเพลียหัวถึงหมอนได้ก็รับเป็นตายกันทั้งคู่

===============
TBC.
Talk. ตอนนี้เกือบสุดท้ายแว้ว.....เหลืออีกตอนเดียวก็จบแล้วจ้าา หลังจากตอนจบจะมีตอนพิเศษ อีก 5 ตอน จะลงขายเป็น e-book ถ้ายังไงเดี๋ยวเอารายละเอียดมาบอกกันนะคะ ขอบคุณที่ตามอ่านกันนะคะ รักคนอ่านนะคะ :)
       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2017 19:55:16 โดย Le_Let »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
« ตอบ #249 เมื่อ: 19-09-2017 14:58:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mus_melon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ขี้หึงมากๆเลย,,,

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
คืนวันศุกร์รอดใช่ว่าวันเสาร์อาทิตย์จะไม่รอดนะ 55555

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แตกเนื้อสาวแล้วอาร์ท 555

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เป็นผมจะจัดหนัก ทั้งวันทั้งคืนเลบ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มันก็น่าโมโหนะ มาลูบแก้มแฟนตัวเอง
ถึงจะเพราะเปื้อนดินสอก็ตาม

พออาร์ท ย้อนถามว่าถ้าอาร์ท ถูกลูบบ้างจะรู้สึกอย่างไร
โช ก็อารมณ์ขึ้นเลย ผู้หญิงก็ไม่ยอมฆ่าตรงนั้น
นี่ไง เข้าใจอารมณ์อาร์ทแล้วสินะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จะจบแล้วววววว   :mew2:

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ตอนที่ 25
(ตอนจบ)

Birthday chokun
Nuttt :
????
Akk_kub:
กลุ่มไรวะ
Q :
เออ ใครลากกูมาวะ
Sugar_Sweet :
ไอ้อาร์ทลากกูมาทำไม
 
Guyyy :
อะไรอ่า
ท้องฟ้า :
?
Artเองจะใครละ :
ก็อาทิตย์หน้าจะวันเกิดพี่โชเลยหาแนวร่วม
Guyyy :
จะเซอร์ไพรส์ผัวว่างั้น
Artเองจะใครละ :
เชี่ยกาย
*สติกเกอร์โกรธ
Q :
ไหนมึงจะทำอะไร
 
Artเองจะใครละ :
วันเกิดพี่โชผมอยากให้ทุกคน.......

และจากนั้นผมก็พิมพ์อธิบายแผนการทั้งหมดให้ทุกคนในกลุ่มไลน์เข้าใจ ทุกคนจึงตกลงที่จะช่วยกันเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่โช

เมื่อผมตกลงแผนการกับเพื่อนของผมและเพื่อนของพี่โชเรียบร้อย ผมก็แอบไปสั่งทำสร้อยที่เป็นชื่ออักษรชื่อของพี่โชและผมไว้เป็นของขวัญที่จะเซอร์ไพรส์
 
ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์วันนี้เป็นวันเกิดพี่โชแต่ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาผมตั้งใจว่าจะออกไปหาซื้อเค้กและไปรับของขวัญที่ผมสั่งทำไว้ด้วยจึงอ้างกับพี่โชว่าเพื่อนเก่าสมัยมัธยมนัดเจอไปกินอาหารกัน

“พี่โชผมไปหาเพื่อนก่อนนะ”

“จะไปจริงดิ แต่วันนี้มันวัน....” พี่โชพูดแค่นั้นก็หยุด

“วันอะไร” ผมแสร้งทำเป็นถามออกไป

“เปล่าไม่มีอะไร จะไปก็ไปเถอะ” พี่โชพูดเสียงหงอยๆ จนผมรู้สึกผิดจนอยากเข้าไปกอดแต่ก็ต้องห้ามตัวเองเอาไว้

“อืม แล้วตอนเย็นจะกินอะไรจะได้ซื้อกลับมาหรือจะออกไปกินข้างนอก”

“ซื้อมาเถอะอะไรก็ได้” พี่โชพูดก่อนจะเดินเข้ามาหา “แล้วนี่จะไปยังไงให้ไปส่งไหม”

“ไม่เป็นไรเพื่อนผมขับรถมารับ”

“อืม รีบกลับมานะ” พี่โชพูดจบแล้วก็ทำหน้าหงอยจนผมอดสงสารไม่ได้

ผมพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องลงมาเรียกรถแท็กซี่ที่หน้าหอเพื่อไปยังห้างที่นัดกับเพื่อนไว้

ผมก็ไม่ได้โกหกซะทีเดียวเพราะวันนี้มีโอกาสที่ผมและเพื่อนเก่าว่างตรงกันจึงนัดมาเจอกันด้วยเลย

ทันทีที่ผมมาถึงห้างก็ตรงไปยังร้านที่นัดกับเพื่อน ไว้

“กว่าจะมานะมึง” แสตมป์เพื่อนสนิทของผมอีกคนเอ่ยทักขึ้น

“โหแม่งรถติด” ผมตอบไปก่อนจะหันไปหาพี่ชายของแสตมป์ “หวัดดีพี่ตางค์”

“ดีอาร์ทไม่เจอกันนานเลย” พี่สตางค์ยิ้มหวานส่งมาให้ผมจนน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ส่งสายตาดุให้ พี่สตางค์จึงหุบยิ้ม

“แหมไอ้แตมป์มึงยังติดพี่หวงพี่เป็นเด็กๆ เหมือนเดิมเลยนะมึง” ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ของมันกับพี่ชายมันเท่าไหร่หรอกเพราะตั้งแต่รู้จักกับมันมามันก็ติดและหวงพี่สตางค์แบบนี้มาตลอด พี่สตางค์หน้าตาน่ารักก็คงไม่แปลกที่น้องชายจะหวงขนาดนั้น ‘เอ๊ะหรือแปลก’

“ทำไมล่ะ ก็ของๆ กู” แค่คำพูดที่แสตมป์พูดมาแค่นั้นทำให้พี่สตางค์ทำหน้าไม่ถูกและรีบหันหน้าหนีก่อนที่จะเห็นสีแดงระเรื่อขึ้นมาเรื่อยๆ บนใบหน้า

“หึหึ” ผมไหวไหล่ให้มัน “เออแล้วไอ้ตาลยังไม่มาอีกเหรอวะ”

“กูต้องถามมึงหรือเปล่าเชี่ยอาร์ทเพราะมึงอยู่มอเดียวกับมัน”

“ฮ่าๆ เออว่ะเดี๋ยวกูโทรหามันแป๊บ” ผมพูดจบก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาน้ำตาลทันที
 
ตู๊ดๆ

(ไงคะ)

“อยู่ไหนแล้ววะ”

(อยู่หน้าห้างแล้วพวกมึงถึงกันแล้วหรอ)

“เออดิรอมึงคนเดียวเนี่ย”

(เออแป๊บกูกำลังเดินไป)

“งั้นแค่นี้แหละ”

เท่านั้นผมก็วางโทรศัพท์แล้วหันกลับมาคุยกับสองพี่น้องนี่ต่อ

“มึงจะกินไรวะ” แสตมป์ถามขึ้น

“กูอยากแดกปูผัดผงกะหรี่วะ”

“งั้นสั่งอาหารเลยนะ” แสตมป์บอกพลางยกมือเรียกพนักงานมารับเมนู

น้ำตาลเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ผมพอดีกับที่พนักงานเดินมารับเมนู “พวกมึงสั่งกันยัง”

“ยังก็รอมึงเนี่ย” ผมหันไปบอก จากนั้นทุกคนก็รัวกันสั่งอาหารกันยกใหญ่คงเพราะหิวกันมาอยู่แล้ว

“ทำไมมึงมาช้าวะ” ทันทีที่สั่งอาหารเสร็จจนพนักงานไปแสตมป์ก็เลงเป้าไปที่น้ำตาล

“โหยไอ้ห่ารถโคตรติด” น้ำตาลพูดก่อนหันไปมองคนข้างกายแสตมป์พร้อมยกมือไหว้ “หวัดดีพี่ตางค์ ไม่เจอนานพี่ตางค์หน้าหวานขึ้นนะเนี่ย”

“ดีตาล เราก็ใช่ย่อยนะเดี๋ยวนี้สวยขึ้นเป็นกอง” พี่สตางค์ก็ยอน้ำตาลกลับมา

“อย่ามาหลอกตาลเลยพี่ตางค์” น้ำตาลยิ้มหวานๆ ส่งให้พี่สตางค์ “เอ๊ แต่ที่พี่ตางค์น่ารักขึ้นแบบนี้เพราะมีแฟนหรือเปล่าน๊า”

พี่สตางค์ทำหน้าเขินก่อนจะตอบ “มงมีอะไรกันเล่า พี่ไม่มีหรอก”

“มึงเงียบปากไปเลยไอ้ตาล” แสตมป์ชี้นิ้วมาที่น้ำตาลก่อนจะใช้อีกมือโอบไหล่พี่ชายตัวเอง “ไม่ต้องมายุ่งกับพี่กู”

“แหมหวงตลอด นี่ถ้ากูไม่รู้กูนึกว่ามึงหึงพี่มึงนะเนี่ย” ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่เมื่อน้ำตาลพูดจบพี่สตางค์ก็หน้าแดงขึ้นมาซะอย่างนั้น

“พอๆ พวกมึงจะตีกันทำห่าไรวะ” ผมรำคาญจึงทำการยุติศึกน้ำลายของทั้งคู่

“เออว่าแต่กินเสร็จไปไหนต่อวะ” แตมป์ถามขึ้น

“ไปดูเค้กให้ผัวเพื่อนมึงไงล่ะ” น้ำตาลว่าก่อนจะหันมายักคิ้วกวนประสาทผม

“ฮ่ะ?” ทั้งแสตมป์และพี่สตางค์ตกใจไม่ต่างกัน “นี่กูไม่เจอมึงแป๊บเดียวมึงไปเป็นเมียเขาแล้วเหรอวะ”

“ฆวย” ผมไม่รู้จะตอบอะไร

“ไหนเรื่องเป็นไงมึงเล่าดิ่” แสตมป์คะยั้นคะยอถาม

“วันนี้ที่มันนัดกูกับมึงออกมาได้ก็เพราะวันเกิดแฟนมันไงมึงเลยให้พวกเรามาช่วยเลือกเค้ก ไม่งั้นอย่าหวังเลยว่าจะได้เจอหน้ามันเล้ย” น้ำตาลเล่าอย่างออกรสออกชาติ “อ่ออีกอย่างมึงจะไปช่วยกูจัดงานที่ห้องของมันไหม”

แสตมป์ทำท่าคิดก่อนจะหันไปขอความเห็นของพี่ชายตัวเอง เมื่อพี่สตางค์พยักหน้าให้ แสตมป์จึงหันกลับมาหาน้ำตาล “เออเอาดิกูก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครวะที่มันเป็นผัวเพื่อนกู”

“หล่อมากมึง กูยังเคยชอบเลย” น้ำตาลพูดแค่นั้นก็หยุด

“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

“เพราะกูให้มันไปช่วยจีบเขาแต่แม่งไปแดกกันเองซะงั้น” น้ำตาลน้ำหน้าเซ็ง

“ฮ่าๆ ไม่มีที่ยืนให้ชะนีอย่างมึง” เมื่อแสตมป์พูดจบอาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ จึงทำให้ไม่มีการพูดคุยกันต่อเพราะทุกคนตั้งหน้าตั้งตากินอาหารตรงหน้ากันอย่างหิวโหย

กินอาหารเสร็จแล้วเราก็ออกจากร้านไปยังร้านเค้กในห้างเพื่อเลือกซื้อเค้กก่อนจะลงไปยังชั้นที่เป็นซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้อของสดและขนมเพื่อปาร์ตี้คืนนี้
 
ติ๊ง!

เสียงไลน์เตือนเข้ามาทำให้ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู
 
Nuttt :
พวกมึงไอ้โชบอกจะมาหากูว่ะ
Akk_kub:
ห่าในแผนกูกับไอคิว
ต้องเป็นคนชวนมันออกมาตอนสี่โมงไม่ใช่หรอวะ
Nuttt :
เออดิ แต่แม่งโทรมาเหมือนนอยด์ๆ
เลยบอกจะเข้ามาหากู
 
Artเองจะใครละ :
ถ้างั้นก็เปลี่ยนแผนแล้วกันพี่
พี่ณัฐถ้าพี่โชไปหาแล้วพี่ก็ดึงเวลา
ให้พี่โชอยู่กับพี่นานๆ แล้วกัน
Nuttt :
เออโอเค
ถ้ามันมาถึงแล้วเดี๋ยวกูโทรหา
Artเองจะใครละ :
*สติเกอร์โอเค
ส่วนทุกคนที่เหลือ
ก็ไปเจอกันที่ห้องผมเลยแล้วกัน
ถ้าผมถึงห้องจะไลน์บอกอีกที

Q :
OK
Akk_kub:
OK
ท้องฟ้า :
OK
Guyyy :
OK

ผมยิ้มเมื่อเห็นทุกคนพร้อมใจกันตอบก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วเลือกซื้อของต่อ

เมื่อซื้อของเสร็จผมก็บอกให้ทุกคนไปรอที่รถก่อนที่ผมจะเดินตรงไปยังร้านที่ผมมาสั่งทำสร้อยไว้

“มารับสร้อยครับ” ผมพูดพร้อมกับยื่นบัตรรับของให้แก่พนักงาน

พนักงานรับบัตรไปก่อนจะเดินหายเข้าไปเพื่อไปหยิบกล่องที่ใส่สร้อยมาวางตรงหน้าผม “นี่ครับ ตรวจสอบของข้างในก่อนนะครับว่าถูกต้องไหม”

ผมหยิบขึ้นมาเปิดดูของข้างในก็ทำให้ผมยิ้มจนแก้มปริ มันสวยมากจริงๆ มันเป็นจี้ที่ด้านหนึ่งเขียนว่า CHO ส่วนอีกด้าน ART “มันสวยมากครับ”

พนักงานยิ้มให้ผมก่อนจะรับกล่องไปจัดการใส่ถุงให้เรียบร้อยแล้วยื่นให้ผม

ได้ของครบตามที่ต้องการแล้วจึงรีบเดินตรงไปยังรถของแสตมป์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถของห้างแต่ยังไม่ทันถึงก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

Rrrrrrr
‘p’nut’
เมื่อเห็นเป็นชื่อพี่ณัฐผมจึงกดรับสายทันที

“ครับพี่”

(มันมาถึงแล้ว /มึงคุยกับใครวะ/) หลังจากพี่ณัฐพูดจบก็มีเสียงพี่โชโผล่ขึ้นมาทำให้ผมเงียบเพื่อรอฟัง

(ไอ้กาย/เออกูมากวนมึงเปล่าวะเดี๋ยวกูกลับก็ได้/)

(กวนห่าไร) พี่ณัฐหันไปพูดกับพี่โช

“ผมรอฟังเงียบๆ ก็ได้ พี่ทำเหมือนวางสายแล้ววางโทรศัพท์ไว้ใกล้ๆ แล้วกัน”

(เอองั้นแค่นี้นะ)

(ไหนมึงเป็นอะไรวะถึงรีบมาหากู /แม่งไม่รู้จะพูดยังไงวะ/)

(งั้นก็ไม่ต้องพูด /สัด วันนี้วันเกิดกูนะมึง/)

(เออแล้วไงวะ /ก็ไอ้อาร์ทแม่งไม่รู้ว่ามันลืมหรือมันไม่ได้จำตั้งแต่แรก/) ผมยิ้มเมื่อได้ยินพี่โชพูดน้อยใจเป็นเด็กๆ

(โถที่แท้ก็น้อยใจเมีย ฮ่าๆ /ไอ้เชี่ยณัฐ/)

(โอเคๆ กูไม่แซวแล้ว แล้วมึงจะเอาไง /ไม่รู้เว้ย เบื่อๆ เลยมาหามึง/)

(แล้วไอ้อาร์ทมันไม่อยู่ห้องหรือไงมึงถึงถ่อมาหากูเนี่ย /เออไงสัดแม่งออกไปกินข้าวกับเพื่อนหน้าตาเฉย กูถึงต้องถ่อมาหามึงนี่ไง/)

(ฮ่าๆ ไอโชมึงนี่เป็นเอามาก งั้นมึงก็นั่งเล่นห้องกูก่อนแล้วกันพอดีเลยไอ้กายก็กลับบ้าน /เออเย็นๆ กูค่อยกลับแล้วกันแม่ง เซ็ง/)

ผมฟังจนถึงแค่นั้นก็กดวางสายโทรศัพท์เพราะเดี๋ยวจะไม่ทันเวลาและรีบเดินตรงไปยังรถของแสตมป์ที่จอดรออยู่

“ช้านะไอ้อาร์ท” แสตมป์บ่นอุบอิบเมื่อผมเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ

“โทษทีสัด รีบไปเถอะเดี๋ยวไม่ทัน”

ผมพูดจบแสตมป์ก็เหยียบคันเร่งออกรถทันที เราคุยกันอย่างสนุกสนานลั่นรถ คงเพราะคิดถึงกันมากไม่ได้เจอกันมานาน หลายๆ อย่างดูเปลี่ยนไปแต่ที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคือความกักขฬะของพวกเราสามคนที่ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ไม่นานรถก็แล่นเข้าสู่ลานจอดรถของหอพัก

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อส่งไลน์บอกทุกคนในกลุ่มว่าตอนนี้ผมกลับมาถึงหอแล้วให้ทุกคนมาที่ห้องผมได้เลยก่อนจะเปิดประตูลงไปขนของหลังรถขึ้นไปบนห้อง

ก๊อกๆ

เสียงประตูดังขึ้นเมื่อพวกเราช่วยกันเตรียมอาหารอยู่ในครัว ผมเดินตรงไปเปิดประตูก็พบว่าเพื่อนผมและเพื่อนพี่โชมาถึงพร้อมๆ กัน

“ทำไมมาพร้อมกันหมดเลยอ่ะ”

“ก็นัดกันสิโว้ยไอ้อาร์ท” พี่คิวว่าพร้อมกลับใช้มือผลักหัวผมเบาๆ

“ฮ่าๆ เข้ามาเลยมาช่วยกันจัดห้องเลย”

“แหมวันเกิดผัวมึงนี่ทำพวกกูลำบากกันไปหมด” พี่คิวยักไหล่กวนๆ ใส่ผม

“พี่โชมันก็เพื่อนพี่เปล่าวะ” ผมตบกลับอย่างกวนๆ

“เออๆ กูไม่เถียงกับมึงแล้วแม่ง”

ผมมองพี่คิวขำๆ ก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณทุกคน “ขอบคุณทุกคนนะที่มาช่วย”

ฟ้ายิ้มหวานส่งมาให้ผม “ไม่เห็นต้องขอบคุณเลยเหอะอาร์ท พี่โชก็เหมือนพี่ชายเราอยู่แล้ว” ฟ้าพูดกับผมจบก็หันไปหากาย “ใช่ไหมกาย”

กายยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “ใช่เป็นทั้งพี่ชายแล้วก็เป็นเพื่อน.....” กายพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรพูด

“เพื่อนใครว๊าไอ้กาย” พี่อัครแซวขึ้นมาทันที

กายได้แต่ยิ้มให้พี่อัครไม่ยอมตอบอะไร จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันเตรียมของจนแสตมป์กับพี่สตางค์เดินออกมาจากครัวทำให้ทุกคนมองอย่างงงๆ

“ทุกคนนี่เพื่อนผมชื่อแตมป์” ผมผายมือไปที่แสตมป์ก่อนจะผายมือไปที่พี่สตางค์ “ส่วนนี่พี่ตางค์เป็นพี่ชายไอ้แตมป์มัน”

ทุกคนพยักหน้ายิ้มรับทักทายกันก่อนจะแนะนำตัวเองให้เพื่อนใหม่ทั้งสองคนรู้จัก

“อาหารเตรียมใกล้เสร็จแล้วละ” น้ำตาลพูดขึ้นมา

“อืม พวกข้างนอกก็จัดเรียบร้อยแล้วงั้นไลน์ไปบอกไอ้ณัฐเลยแล้วกัน” พี่อัครบอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ส่งข้อความหาพี่ณัฐ

ตึ้ง!
โทรศัพท์ทุกคนดังขึ้นจึงหยิบขึ้นมาดูพร้อมกัน
Nuttt :
กำลังจะไปขึ้นลิฟต์แล้ว
พร้อมนะทุกคน

ทุกคนอ่านจบก็รีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วทำการไปหยิบเค้กมาปักเทียนกันอย่างวุ่นวายทั้งช่วยกันจุดไฟอย่างรีบรน

แกร๊ก!
เสียงไขประตูดังขึ้นทำให้ผมตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะยืนถือเค้กอยู่หน้าประตู นึกภาพไม่ออกเลยว่าเมื่อพี่โชเปิดมาแล้วเห็นผมแบบนี้จะทำหน้ายังไง

ทันทีที่ประตูเปิดออก

‘happy birthday to you’
‘happy birthday to you’
‘happy birthday’
‘happy birthday’

พี่โชยืนอึ้งอ้าปากค้างทำหน้าไม่ถูก

ผมถือเค้กขยับเข้าไปใกล้พี่โชกว่าเดิม “อธิษฐานแล้วเป่าเค้กสิ” ผมพูดยิ้มๆ

พี่โชหลับตาอธิษฐานก่อนจะก้มลงมาเป่าเมื่อเทียนดับหมดแล้วทุกคนก็ร้องเพลงทิ้งท้าย

‘happy birthday to ‘CHO’’

ปุง! ปัง!

เมื่อจบเสียงเพลงทุกคนก็ดึงพลุที่ถือกันอยู่ในมือให้พี่โช

“เบิร์ธเดย์เว้ยมึง” พี่ณัฐบอกพร้อมกับยื่นกล่องให้พี่โช “อ่ะของขวัญของกูกับกาย” พี่โชยิ้มให้เพื่อนก่อนจะรับของขวัญมาพร้อมกล่าวขอบคุณเพื่อน

“สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่โช” ฟ้าพูดพ้อมกลับยื่นถุงอะไรซักอย่างให้พี่โชจนพี่โชเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย “อ๋อ ของขวัญค่ะ” พี่โชยิ้มให้พร้อมกับพยักหน้า

“แฮปปี้เว้ยมึง/ปี้ปี้เว้ยมึง” พี่อัครกับพี่คิวพูดพร้อมกันทำให้พี่โชขำออกมา “กูสองคนไม่มีของขวัญว่ะ แต่พวกกูมาช่วยเมียมึงเตรียมงานนะโว้ย”

“เออ ขอบใจพวกมึงกูซึ้งในน้ำใจพวกมึงจริงๆ”

“มีความสุขมากๆ นะคะพี่โช อ่อแล้วอีกอย่างดูแลเพื่อนตาลให้ดีๆ ด้วยห้ามทำให้มันเสียใจเด็ดขาด” น้ำตาลอวยพรพร้อมกับขู่

“ฮ่าๆ คร๊าบจะดูแลอย่างดี”

“ถือว่าตาลเอามันเป็นของขวัญให้พี่แล้วกันโน๊ะ”

“เดี๋ยวไอ้ตาล” ผมรีบโวยวายขึ้นมา “มึงมีสิทธิ์อะไรเอากูไปเป็นของขวัญของมึง”

น้ำตาลไม่ตอบทำให้ทุกคนพากันขำก่อนที่พี่โชจะมองไปยังแสตมป์และพี่ชายแล้วทำหน้าสงสัย

“อ่อ นี่เพื่อนผมชื่อแตมป์กับพี่ชายแตมป์ชื่อพี่ตางค์” ผมแนะนำทันทีที่พี่โชทำหน้าเป็นหมาสงสัย พี่โชจึงพยักหน้าและยิ้มให้กับสองคนนั้น

“เบี้ยวไม่ได้ลืมวันเกิดกูเหรอ”

“ใครจะลืมวะ”

“ก็นึกว่าไม่สนใจ” พี่โชพูดเบาๆ

“สนใจดิวะ แฟนทั้งคนนะเว้ย” ผมก็ตอบกลับเบาๆ ที่ทำให้ได้ยินกันแค่สองคนเช่นกัน

“ไปๆ ฉลองกันดีกว่า” พี่คิวพูดแทรกขึ้นมา

จากนั้นเราทุกคนก็มานั่งลงตรงกลางห้องกินอาหารและเครื่องดื่มกันอย่างมีความสุข ผมเหลือบมองหน้าพี่โชแล้วผมก็ยิ้มตามเมื่อเห็นว่าวันนี้พี่โชยิ้มกว้างอย่างมีความสุขกว่าที่เคย ผมดีใจอย่างน้อยผมก็ได้ทำให้คนรักของผมมีความสุขได้ถึงมันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

เมื่อตกดึกทุกคนเริ่มเมาพี่คิวกับพี่อัครนี่สติแทบไม่เหลือนอนเกือกกลิ้งอยู่ที่พื้นแต่ก็ยังไม่ยอมเลิกกินกัน พี่ณัฐเองก็แทบจะไม่ไหวกายจึงขอตัวพาพี่ณัฐกลับ

“ไอ้อาร์ทกูกลับก่อนนะเว้ย พี่ณัฐแม่งไม่ไหวแล้ว” กายหันมาบอกผมก่อนหันไปหาพี่โช “กลับก่อนนะครับพี่โช มีความสุขมากๆ ครับพี่”

ผมแค่พยักหน้ายืนอยู่ข้างๆ พี่โช

“เออขอบใจมากขับรถดีๆ ถึงแล้วไลน์มาบอกด้วย” พี่โชบอกกับกายก่อนจะเอามือโอบไหล่ผมไว้
 
ตอนนี้ทุกคนที่เหลือเริ่มเมาขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็สลบไปแล้ว เช่นพี่คิว ตอนนี้ไม่มีสติใดๆ ผมมองรอบๆ จนเห็นน้ำตาลเองก็ไม่ไหวแต่ยังมีฟ้าคอยนั่งดูแลอยู่ข้างๆ ผมจึงเดินเข้าไปหาฟ้า

“ฟ้าพาไอ้ตาลเข้าไปนอนในห้องเถอะ”

ฟ้าเงยหน้าขึ้นมองผมก่อนจะพูด “แล้วอาร์ทกับพี่โช?”

“ไม่เป็นไรเรากับพี่โชนอนข้างนอกกับพวกนี้ได้”

ฟ้าหันหน้าไปหาพี่โชเหมือนจะถามความเห็น

“อึ้ม ฟ้ากับตาลเข้าไปนอนในห้องเถอะเราสองคนเป็นผู้หญิง พี่กับอาร์ทนอนข้างนอกกับพวกมันได้”

“ขอบคุณค่ะพี่โช” ฟ้าก้มหัวขอบคุณก่อนจะพยายามพยุงร่างน้ำตาลขึ้นแต่ดูเหมือนจะทุลักทุเล

พี่โชเดินตรงเข้ามาเพื่อจะช่วยพยุงน้ำตาล ทำให้ผมต้องรีบเข้าไปแทรกเพื่อพยุงน้ำตาลแทน

“ไม่ต้อง เดี๋ยวพามันเข้าไปเองกลับไปนั่งเลยป่ะ” ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมผมต้องโมโหขนาดนี้แต่ก็นะไม่ชอบให้พี่มันไปโดนตัวใครนี่นา

“เอ้า นี่จะช่วยนะเนี่ย”

“บอกให้ไปนั่ง” พี่โชก็ยังทำท่าเหมือนจะไม่ยอม ผมจึงต้องพูดขู่ขึ้น “หรือจะนอนระเบียงคนเดียว”

พี่โชยกมือยอมแพ้และยอมหมุนตัวเดินกลับไปนั่งที่โซฟาเพื่อรอผมแทน

ผมพยุงน้ำตาลเข้ามาในห้องโดยมีฟ้าคอยช่วยอยู่ข้างๆ เมื่อถึงเตียงผมก็ค่อยๆ วางน้ำตาลลง และหันไปบอกฟ้า “ฟ้าใช้ห้องน้ำข้างในนี้เลยนะ อาบน้ำได้ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้ แต่เสื้อผ้าคงต้องชุดเดิมนะ” ผมยิ้มให้ฟ้า

ฟ้าพยักหน้า “ขอบคุณนะอาร์ท”

“อื้ม เราฝากเช็ดตัวให้มันด้วยแล้วกัน เดี๋ยวเราออกไปข้างนอกก่อนนะ”

“อึ้ม”

ก่อนออกไปผมก็ฝากฟ้าอีกครั้ง “ฝากมันด้วยนะ”

ฟ้าส่งยิ้มกลับมาให้และพยักหน้า

ผมเดินออกมาก็พบว่าพวกที่เหลือล้มตัวลงนอนกันเรียบร้อยแล้ว พี่โชยังคงนั่งรอผมอยู่ที่โซฟาเหมือนเดิม ผมจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาและจับมือพี่โชดึงให้ลุกขึ้น พี่โชเลิกคิ้วมองผมแบบสงสัย

“มานี่ดิ”

“ไปไหน?”

“ตามมาเถอะน่า”

ผมพูดจบก็ดึงพี่โชไปที่ระเบียงก่อนจะถึงระเบียงผมเดินผ่านพี่คิวกับพี่อัครที่นอนกอดกันกลมและที่ตกใจคือพี่สตางค์กับแสตมป์กำลังจูบกัน ผมรีบหันไปมองพี่โชที่อาการไม่ต่างกับผม พี่โชชี้นิ้วไปที่สองคนนั้น ผมจึงต้องรีบดึงพี่โชให้เดินเร็วๆ ออกไปยังระเบียงเมื่อออกมาระเบียงพี่โชก็ถามขึ้น

“ทำไมสองคนนั้น?”

“ช่างเขาเถอะน่า”

ผมทำการปิดประตูระเบียงจากด้านนอกแล้วจับให้พี่โชนั่ง ลง ผมยืนทำใจสักครู่ก่อนทำใจกล้านั่งคล่อมลงบนตักพี่โชแบบหันหน้าเข้าหาพี่โชแล้วใช้สองแขนคล้องคอพี่โชไว้

พี่โชเลิกคิ้วงงๆ กับการกระทำของผมก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ “นี่มันระเบียงนะเบี้ยว”

“อือ ก็ระเบียงไงใครว่าห้องนอน”

“จะทำจริงดิ?” พี่โชยกยิ้มร้าย

ผมไม่ตอบแต่เพียงแต่ก้มหน้าลงไปใช้ริมฝีปากสัมผัสแผ่วเบากับริมฝีปากของพี่โช ทำให้พี่โชยกแขนสองข้างขึ้นโอบกอดรอบตัวผม พี่โชกำลังจะอ้าปากเพื่อรับสัมผัสแต่ผมก็ผละออกมาก่อน

ผมยกมุมปากยิ้มเจ้าเล่ห์ให้พี่โชก่อนจะยักคิ้ว

พี่โชยิ้มกลับมาให้ผมก่อนจะพูด “จะเล่นอะไร หือ?”

เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นไว้ตรงหน้าพี่โช

พี่โชทำหน้างงก่อนจะถามขึ้น “อะไร?”

“เปิดสิ”

พี่โชรับกล่องจากมือผมไปเปิดออกดู เมื่อเห็นของในกล่องพี่โชจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม

“สุขสันต์วันเกิดนะครับ” ผมยิ้มและโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มพี่โชเบาๆ “ขอให้พี่มีความสุขมากๆ”

พี่โชยิ้มหวานส่งมาให้แล้วหยิบสร้อยที่มีจี้เป็นตัวอักษรชื่อเราสองคนขึ้นมาถือแล้วพูดออกมา “ใส่ให้หน่อยสิ”

ผมใช้มือหยิบสร้อยมาและทำการใส่ลงบนคอให้พี่โชอย่างเบามือก่อนจะก้มลงจูบเบาๆ ที่ต้นคอพี่โช

พี่โชรวบตัวผมเข้าไปกอดและหอมลงเบาๆ ที่หัว “งั้นวันนี้ที่ระเบียงเลยแล้วกันเนอะ นานๆ ทีเมียจะทำตัวน่ารักขนาดนี้” พี่โชพูดจบก็ไซร้ลงมาที่ซอกคอผมอย่างหยอกล้อ

“อื้อ..มะ..ไม่เอา พวกนั้นอยู่ในห้อง”

“หลับกันหมดแล้ว” พี่โชกระซิบแผ่วเบาข้างใบหู

“ไม่เอาพี่โช” ผมพูดเสียงเข้มจริงจังขึ้นมา

“โอเคๆ ไม่ทำๆ งั้นขอกอดอย่างนี้ทั้งคืนนะ”

“อึ้ม”

ฟอด!!

“วันนี้น่ารักจริงๆ”

“น่ารักทุกวันเหอะ” ผมยักคิ้วให้พี่โช

“หึหึ”

“ชอบไหม” ผมถามออกไป

“ชอบอะไร” พี่โชถาม

“ของขวัญไง ชอบไหม”

“ชอบสิ ชอบมากเลย” พูดจบพี่โชก็หอมแก้มผมแรงๆ “ไม่ได้ชอบแค่ของขวัญนะ พี่ชอบทุกอย่างที่อาร์ททำให้พี่วันนี้ทั้งหมดเลย”

“พี่โชถามไรหน่อยดิ”

“อืม”

“พี่ชอบผมเพราะอะไรแล้วก็ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่”

พี่โชทำท่าคิด “ชอบเพราะอะไรกูไม่รู้วะ แต่กูรู้ว่ากูชอบทุกอย่างที่เป็นมึง แล้วชอบตอนไหนนี่กูยิ่งไม่รู้ไปใหญ่เพราะกูรู้ตัวอีกทีกูก็มีความสุขที่ได้อยู่กับมึงและหงุดหงิดทุกครั้งเวลาเห็นมึงไปสนิทสนมกับคนอื่นที่ไม่ใช่กู จนทุกวันนี้กูขาดมึงไม่ได้แล้วอาร์ท” พี่โชยกมือขึ้นลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบาพร้อมกับส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ “แล้วมึงละ”

ผมยิ้มหวานยกมือขึ้นโอบคอพี่โช “ผมก็เหมือนพี่นั่นแหละไม่รู้กันว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่พอรู้ตัวอีกทีก็ขาดพี่ไม่ได้แล้ว” พูดจบผมก็แนบหน้าผากเข้ากับหน้าผากพี่โช

“ต้องขอบคุณตาลสิเนอะที่ชอบกู” พี่โชยกยิ้มมุมปาก ทำให้พี่โชดูดีดูน่ามองจนผมหวงรอยยิ้มของพี่โชขึ้นมาแบบไม่อยากให้ใครเห็น

“นั่นสินะ ผมแค่ช่วยเพื่อนเอง ใครจะรู้ว่าจะได้มาเอง” ผมพูดจบก็ก้มหน้าลงไปประกบจูบกับพี่โชเบาๆ

“กูรักมึงนะอาร์ท” พี่โชพูดทั้งที่ปากของเรายังประกบกันอยู่

ผมผละออก “ผมก็รักพี่” เท่านั้นเราสองคนก็โน้มตัวเข้าหากันกอดกันไว้แบบนั้น

บรรยากาศรอบๆ เงียบสงบทำให้ผมและพี่โชกอดกันซึมซับความรู้สึกที่เรามีให้กัน ต่อจากนี้ไม่รู้ว่าชีวิตของผมกับพี่โชจะเป็นยังไง ผมไม่สนอีกแล้วขอแค่เวลานี้ ปัจจุบันนี้ผมมีพี่โชอยู่ข้างๆ แบบนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมพร้อมจะก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกันกับพี่โชอย่างที่คนเป็นแฟนเขาทำกัน......

END

 ======================

TBC.

Talk. พี่โชกับน้องอาร์ทจบแล้ววววว ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ตามอ่านกันมาตั้งแต่ต้นนะคะ เราอ่านทุกคอมเม้นท์ของทุกคน เพราะทุกคอมเม้นท์ทุกยอดวิวเป็นกำลังใจให้เราอยากเขียนเรื่องนี้ออกมาให้ดี และจบอย่างแฮปปี้ที่สุด และบางตอนอาจจะไม่ถูกใจใครหลายคนเราต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่ในเรื่องหน้า เป็นคิวของ คิว X อัคร คู่หูที่คอยแซะคนอื่น ดูซิว่าถ้านางสองคนสปาร์คกันเองจะเป็นยังไง รอติดตามกันนะคะ เรารักนักอ่านทุกคนนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2018 11:50:16 โดย Le_Let »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
จบแล้วววว
HAPPY ENDING
2คนนี้รักกันได้ต้องขอบคุณตาล เอ้ย! คนเขียน ที่ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสใกล้ชิดกันหล่ะนะ

สนุกมากๆๆๆ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ยินดีด้วยน้าาาาา รักกันนานๆ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จบแล้ว ยินดีด้วยนะคะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
จบแล้วววว
HAPPY ENDING
2คนนี้รักกันได้ต้องขอบคุณตาล เอ้ย! คนเขียน ที่ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสใกล้ชิดกันหล่ะนะ

สนุกมากๆๆๆ

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกัน  :L1: :L1: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
:mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ  :L1: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ยินดีด้วยน้าาาาา รักกันนานๆ  :mew1: :mew1:

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ  :L1: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
จบแล้ว ยินดีด้วยนะคะ

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ  :L1: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
:pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ  :L1: :L1: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด