[เรื่องสั้น] เสียดายของ-- ตอนจบ(NC)--UP //2017-11-09//
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] เสียดายของ-- ตอนจบ(NC)--UP //2017-11-09//  (อ่าน 19307 ครั้ง)

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

เรียน   ท่านสมาชิกทุกท่านทราบและโปรดดำเนินการอย่างเคร่งครัด

เรื่อง  กฎกติกาและมารยาท

          กรุณาอ่านข้อความข้างล่างที่แนบมาด้วยข้าล่างนี้   ด้วยความระมัดระวังยิ่ง

เพราะเป็นบรรทัดฐานที่พึงยึดและปฏิบัติตามอย่างไม่สามารถพิจารณาเป็นอื่นได้

หากผู้ใดฝ่าฝืน  ทางเราจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป


      จึงเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน

                                                                                 นับถือ

                                                                            อิเจ้  โมดุเรเตอร์


..................................................................................................
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2017 19:37:14 โดย ChabaSri »

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เสียดายของ









Story By. คุณนายสกุลอู๋




      
      คุณเคยลมหายใจสะดุดไหมครับ




มันอาจเกิดขึ้นเพราะเราตกใจ ตื่นเต้นหรืออาจเกิดขึ้นเพราะเราได้สบตากับใครบางคน




นักศึกษาหลายพันคนที่เดินเที่ยวงานสัปดาห์วิชาการและงานออกร้านของมหาวิทยาลัย แดดยามสายในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เสียงโหวกเหวกโวยวายรอบตัวไม่ด้ทำให้ผมละสายตาไปจากดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยนั้นได้เลย




   “เฮ้ย โพซเดี๋ยวมึงออกไปเดินเก็บบรรยากาศงานหน่อยนะ เฮียต้องไปทางพิธีการว่ะ” เสียงร้องสั่งงานของรุ่นพี่ทำให้ผมถอนสายตาจากใบหน้าคมคายนั้นครู่หนึ่งหันมาพยักหน้ารับคำก่อนจะหยิบน้องหนอน(น้องหนอนเป็นชื่อเล่นที่ช่างภาพหรือผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพใช้เรียกกล้องยี่ห้อCANNON)คู่ใจขึ้นมาเช็ค พอเงยหน้าขึ้นมาคนคนนั้นก็หายไปจากตรงนั้นแล้ว







      น่าเสียดาย







สลัดความคิดอื่นออกจากหัวก่อนจะเอ่ยชวนเพื่อนชมรมเดียวกันที่นั่งส่องสาวอยู่ข้างๆให้ออกไปเดินเก็บภาพด้วยกัน
ด้วยความที่ชมรมถ่ายภาพมีสมาชิกอยู่มากมายแต่ไม่เกาะกลุ่มกันพอมีกิจกรรมแบบนี้พวกที่ชอบเข้ากลุ่มแบบพวกผมก็ต้องรับภาระมากหน่อย ก็เข้าใจล่ะครับอุปกรณ์ถ่ายภาพพวกนี้ไม่ใช่ถูกๆจะให้ทำงานการกุศลบ่อยๆก็ไม่มีจะกินกันครับ ภาพที่สวยงามนอกจากฝีมือแล้วอุปกรณ์เสริมก็เป็นเรื่องสำคัญปากท้องก็เช่นกัน





เดินเก็บภาพไปเรื่อยๆสายตาที่มองผ่านเลนส์ก็ไปสะดุดอยู่ที่ใครคนหนึ่งอีกครั้ง  ผมกดชัทเตอร์เก็บรอยยิ้มนั้นไว้ด้วยความไม่ตั้งใจก่อนจะค่อยๆลดกล้องลงและมองภาพนั้นด้วยตาเนื้อของตนเอง อาการเหม่อมองของผมคงไปสะกิดต่อมความอยากรู้ของเพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆเข้า



   “มองไรมึง”



มันหันไปมองตามสายตาของผมก่อนจะร้องอ๋อออกมา



   “มึงรู้จักไอ้เนปด้วยหรอ?”



คำถามนั้นของเพื่อนทำให้ผมต้องหันไปถามมัน



   “เนป?”



   “ก็คนที่มึงมองอยู่ไง มันชื่อเนปเรียน Com-Sci อยู่มอนอกเมือง รุ่นน้องโรงเรียนเก่ากู พวกคนดังน่ะ”




   “อ้าว! แล้วเขามาทำไรม.เราวะ?”



   “จะรู้กับมันหรอ”



ว่าจบมันก็เดินเข้าซุ้มของคณะพยาบาลไป ทำให้ผมได้แต่ยืนมองคนที่คุยกับเพื่อนอย่างออกรสชาติ ทั้งท่าทางที่เป็นธรรมชาติ อาการยกกล้องในมือขึ้นมาเช็คภาพ กิริยาการยิ้มมุมปากน้อยๆนั่น




      ยิ่งมองเท่าไหร่ใจยิ่งสั่น




ผมยกกล้องในมือขึ้นอย่างเผลอไผล รู้ตัวอีกทีก็ลั่นชัตเตอร์เก็บภาพของคนคนนั้นเอาไว้อีกภาพ ดูเหมือนว่าคนที่ถูกแอบมองอยู่จะรู้ตัวว่าโดนแอบถ่าย



      เราสบตากันชั่วแวบหนึ่ง เป็นครั้งที่สอง



ผมส่งยิ้มให้ และผมก็ได้รับยิ้มสวยๆนั่นตอบกลับมา




      เกือบลืมหายใจ







แรงสะกิดจากเบื้องหลังทำให้ผมต้องละสายตาไปจากเขาอีกครั้ง



คนที่เดินมาสะกิดเป็นเพื่อนจากสาขาวิชาที่ผมเรียนอยู่ มาเรียกให้ไปเก็บภาพที่ซุ้มของสาขาผมพยักหน้ารับ หันกลับไปมองตรงจุดเดิมอีกครั้งเขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว





      น่าเสียดาย





หลังจากที่เดินเก็บภาพไปทั่วงานตลอดช่วงเช้าผมก็มานั่งเอาหน้าจ่อพัดลมแอร์อยู่ในซุ้มของชมรมพลางโซ้ยข้าวกล่องไปด้วยทำงานฟรีก็มีข้าวฟรีกินครับ



   “เฮียผมเห็นพวกชมรมถ่ายภาพของมอนอกด้วยอ่ะเมื่อกี้เพื่อนเฮียหรอ” เสียงร้องถามดังมาจากกลุ่มเด็กปีหนึ่งในชมรม



   “เออ”



   “เห็นพี่เนปด้วยว่ะ ตัวจริงโคตรดูดี”



เสียงคุยกันของน้องๆยังดังต่อเนื่องแม้จะเปลี่ยนประเด็นไปแล้วแต่ชื่อของคนคนหนึ่งทำให้ผมสะดุด



   “เออ โคตรเท่อ่ะ สาวๆเอกกูดี๊ด๊ากันใหญ่ แต่กูว่าความหล่อยังสู้พี่โพซไม่ได้ว่ะ”



   “กูว่าพอๆกันนะแต่ดูดีคนล่ะแบบ พี่เนปดูออกแนวเท่ๆคูลๆ  แต่พี่เราออกแนวแบดกาย”



ผมไม่สนใจกับการเปรียบเทียบของน้องๆ ไม่พูดแสดงความคิดเห็นใดใด นั่งเงียบเก็บข้อมูลดีกว่า



   “กูตามไอจีพี่เขาอยู่ แม่งถ่ายรูปโคตรเทพ”



   “คนตามจีบตามเต๊าะเขาก็เยอะ ทั้งหญิงทั้งชายแต่เหมือนเขาไม่ค่อยสนใจ โคตรติสต์”



   “คนฟอลไอจีเป็นแสน แต่เขาฟอลอยู่สิบกว่าคนเองมั๊ง ความติสต์นี้”



   “พอๆกับพี่โพซอ่ะกูว่า”



   และอื่นๆ อีกมากมาย



หลังจากที่นั่งเก็บข้อมูลมาก็ทำให้ผมพอจะรู้จักเขา(แม้จะจากปากคนอื่นก็ตาม) ขึ้นมาบ้าง




   “นินทาเขาเข้าไปพวกมึง นู่นเดินมานู่นแล้ว” พี่ชายประธานชมรมเอ่ยขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นโบกทักทายกลุ่มคนที่เดินเข้ามาในซุ้มที่พวกเรารวมตัวกันอยู่ คนที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาเมื่อครู่เดินก้มหน้าดูอะไรในมือถือของตนอยู่ท้ายแถว พอเขาเดินเข้าซุ้มมาแล้วมีการทักทายกันทั่วไปสำหรับกลุ่มรุ่นพี่ที่เขาสนิทสนมกัน ส่วนผมก็ลอบสังเกตคนที่โดนนินทาเมื่อครู่เงียบๆ





   นี่เธอดูดีไปหรือเปล่า หรือเดินออกมาจากฝันของใคร







ใบหน้าเรียวเล็กทว่าคมคาย ผิวสีน้ำผึ้งแทนสวย รูปร่างโปร่งบางแบบสมัยนิยมส่วนสูงถ้ากะจากสายตาผมแล้วน่าจะเกือบๆร้อยแปดสิบได้กระมัง  ใบหน้าเรียบนิ่งและสายตาที่จดจ่ออยู่กับเครื่องมือสื่อสารในมือทำให้ผมยกกล้องคู่ใจที่คล้องคออยู่แล้วขึ้นมากดชัตเตอร์เก็บภาพนี้ไว้




      แชะ





เสียงชัตเตอร์ที่ลั่นขึ้นทำให้การสนทนาทั้งหมดหยุดชะงักลงทุกสายตาหันมามองผม ซึ่งกำลังค่อยๆลดกล้องลงอย่างช้าๆสายตาที่มองมาด้วยความสนเท่ห์ทั้งหมดนั้นรวมไปถึงคนที่โดนแอบถ่ายไปเมื่อครู่ด้วย




   “อ้อ!! ลืมแนะนำไปเลยนี่ไอ้โพซรุ่นน้องกูที่มึงเคยถามหาไง” พี่ชายประธานชมรมแนะนำผมกับเพื่อนๆของเขา ผมยืนขึ้นค้อมหัวทักทายรุ่นพี่




   “น้องโพซที่ชื่อเต็มๆว่า โพไซดอน ที่ชนะรางวัลประกวดภาพถ่ายตอนงานเทียนใช่ป่ะ” รุ่นพี่ผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มเอ่ยถามขึ้นมา




   “อ่า....ครับ ใช่ครับ”




   “ที่พี่จำได้เพราะชื่อเราไปพ้องกับชื่อน้องพี่คนนึงพอดี”  ว่าจบพี่เขาก็คว้าแขนคนที่โดนผมแอบถ่ายเมื่อครู่ให้ก้าวออกมายืนตรงหน้าผมพอดี  อืม...ยิ่งมองเท่าไหร่ใจยิ่งสั่น




   “นี่ไง คนที่คว้ารางวัลชนะเลิศระดับนักเรียน/นักศึกษา ตัดหน้ามึงไป รู้จักกันไว้ซะสิ”




เขาหันไปมุ่ยหน้าใส่รุ่นพี่ ก่อนจะส่งสายตาดุๆมาที่ผม




อ่า...ยังไม่ทันได้คุยกันก็เหมือนจะโดนเขม่นซะแล้วเรา




   “เออ รู้จักกันไว้ เดี๋ยวเดือนหน้าต้องไปออกทริปของทางจังหวัดด้วยกันนี่”




   “เออใช่”




แล้วพวกรุ่นพี่ก็หันหน้าไปคุยกันขะมักเขม้นไม่สนใจอะไรพวกผมอีก ผมจึงถือโอกาสนี้คุยกับคนที่ยืนเขี่ยโทรศัพท์หน้ามุ่ย ทั้งๆที่เมื่อเช้ายังยิ้มให้กันแท้ๆ




   “เอ่อ...หวัดดี เราโพไซดอนนะเรียกโพซก็ได้”




ดวงตาคมวาวคู่นั้นตวัดมองมา ก่อนจะพึมพำตอบผมเบาเบา




   “อืม รู้แล้วแชมป์จังหวัดนี่ดังจะตายใครจะไม่รู้จัก”




   “แล้ว”




   “...”




   “...”




   “เราชื่อเนป”




   “เนป?”




   “เนปจูน”




ตอบผมเสร็จก็สนใจมือถือในมือต่อ อ๋อ...มิน่าล่ะรุ่นพี่คนนั้นถึงบอกว่าชื่อพ้องกัน




   “อ่าฮะ  แล้วนี่ไม่พอใจอะไรเราล่ะ”




ผมพูดก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิมทำให้อีกคนตวัดหางตามามองก่อนจะนั่งลงที่ว่างข้างๆกันอย่างเสียมิได้




   “ไม่ได้โกรธ” ตอบมาแล้วแต่ก็ยังไม่มองหน้ากันอยู่ดี




   “จริงอ่ะ”




   “อือดิ ไม่ได้รู้จักกันจะมาไม่พอใจอะไรล่ะ”




   “อืม...แบบนั้นฟังดูดีแฮะ แต่ชักอยากจะให้โกรธขึ้นมาจริงๆซะแล้วสิ”




ผมพูดแล้วยิ้มมุมปากตามความเคยชิน ที่หลายๆคนบอกว่ามันดูกวนตีน แล้วเหมือนจะได้ผลเสียด้วยเขาหันมามองผมตาขวางเลยอ่ะ




      จะโดนถีบเก้าอี้ไหมวะ




   “หมายความว่าไง”  อ่าฮะ..เสียงแข็งใช้ได้




   “หมายความว่าอยากรู้จัก” ว่าจบก็ยักคิ้วไปสองจึ้ก




   “กวนตีนว่ะ”




เขาว่าแค่นั้นก็หันไปสนใจโทรศัพท์ต่อ ผมเลยทำแบบเขาบ้างโดยที่เข้าไปที่แอพพลิเคชั่นที่ตัวเองเข้าบ่อยที่สุดคือ Instagram เข้าช่องค้นหาแล้วยื่นให้คนข้างๆกัน เขาขมวดคิ้วใส่ไอโฟนก่อนจะเหลือบสายตามามองเจ้าของมันอย่างผม





   “อะไร?”





   “ขอไอจีหน่อยสิ”




เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจเล็กน้อย แต่ผมว่าเขาไม่ได้ไม่พอใจหรอกก็ดูจากหูแดงๆนั่นสิ(ทำไมมั่นหน้า) ก่อนจะคว้าไอโฟนไปจากมือผม กดยุกๆยิกๆสักพักเจ้าตัวก็ยื่นน้องหกลูกรักคืนให้ ผมมองโปรไฟล์ไอจีที่โชว์หราอยู่หน้าจอ จัดการกดฟอลโล่ไป เขาถ่ายภาพสวยจริงๆแบบที่รุ่นน้องผมชมกันนั่นล่ะครับ จากที่เลื่อนๆดูเจ้าตัวดูจะไม่ค่อยชอบลงรูปตัวเองเท่าไหร่มีแค่รูปที่ถ่ายกับเพื่อนนิดๆหน่อยๆ ดูไปด้วยกดLikeไปด้วยบางภาพ แต่ก็มาสะดุดอยู่กับภาพหนึ่งที่มันแสนจะคุ้นตาผมเหลือเกิน มันเป็นภาพที่ถ่ายผลงานการประกวดภาพถ่ายงานเทศกาลประจำปีของจังหวัด เป็นผลงานที่ติดประกาศชนะเลิศ ผลงานของผม  นิ้วมือเลื่อนลงไปอ่านแคปชั่นภาพ




   ‘ถ่ายดี ถ่ายสวยจนหน้าหมั่นไส้ ฮ่าๆๆ ยินดีด้วยนะครับ ปีหน้าเราไม่พลาดแน่’
เลื่อนอ่านดูคอมเม้นก็มีแต่เพื่อนๆและแฟนคลับเขาเข้ามาถามว่าเจ้าตัวได้รางวัลอะไร เขาก็ตอบไปบ้างแต่ผมมาสะดุดอยู่ที่คอมเม้นนึง




   ‘ไม่ใช่แค่ถ่ายภาพดีนะพี่เนป คนถ่ายยังหล่อมากด้วย’




แล้วเจ้าตัวก็ตอบCommentนั้นด้วยสิ




   ‘หล่อจริงป่ะ โสดไหม ฮ่าๆๆ’




   “หึ” ผมหลุดขำออกมาหลังจากอ่านที่เขาตอบเม้นแฟนคลับ แฟนคนนั้นตอบเขาต่อแทบจะทันที




   ‘หล่อจริง โสดจริงค่ะพี่เนป จีบเลยๆนี่แจกไอจี @Poseidon_PoZ  อิอิ’




   ‘ถ้าได้เจอน่ะนะ ฮ่าๆๆๆ’




ตอนนี้กลั้นยิ้มไม่ไหวแล้ววววว





ผมสะกิดคนที่นั่งข้างๆกันก่อนจะชูหน้าจอCommentนั้นให้อีกฝ่ายดู เขาดูตกใจที่ผมไปส่องเจอเข้า




   “ถ้าได้เจอแล้วจะทำไมเหรอ” ผมเอ่ยเย้าเสียงใส อารมณ์ดีไง




   “จะใส่ใจอะไรเล่า ก็แค่คอมเม้นเล่นๆกับน้อง”




ถึงบอกว่าเล่นๆแต่อาการหน้าแดงหูแดงนี่ไม่ใช่เล่นๆเลยอ่ะจริงๆ




ผมไม่ได้เอ่ยแซวอะไรไปอีกเลื่อนๆดูรูปเขาไปสักพักก็อยากอัพรูปขึ้นมาบ้างผมหยิบเจ้าหนอนลูกรักขึ้นมาจัดการส่งรูปจากในกล้องเข้าสมาร์ทโฟน เป็นภาพที่ผมแอบถ่ายเขาเมื่อเช้านี้ จัดการอัพรูปนั้นขึ้นInstagram ไม่ต้องแต่งภาพเพราะเท่าที่ดูภาพนี้ก็โอเคมากแล้ว ถ้าดูดีกว่านี้เดี๋ยวเพิ่มคู่แข่งซะเปล่าๆ





นี่บอกเลยว่าค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่ผมฝ่ายเดียวที่สนใจเขาแต่เขาก็สนใจผมเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรถึงไม่สนใจก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมจะทำให้เขาสนใจผมเอง







ผมจัดการอัพภาพเขาลงInstagram ของตัวเองพร้อมแท็กไปหาเขาด้วยแนบแคปชั่น




   “อย่างเธอแค่มองไม่ได้หรอก ให้มองอย่างเดียวไม่ได้หรอกพบคนโดนใจอย่างเธอถ้าไม่คุยกับเธอฉัน ’เสียดายของ’ ปล่อยเธอผ่านไปไม่ได้หรอกไม่รู้จักเธอไม่ได้หรอกแม้เราพึ่งเคยพบกันแต่เธอได้ใจฉันไปครอบครอง” #Poseidon #NepTune #เสียดายของ





หลังจากอัพเสร็จยอด Like ก็พุ่ง ตามด้วย Comment อย่างล้นหลาม ผมเฝ้ามองปฏิกิริยาของคนโดนแอบถ่ายที่เหมือนยอดแจ้งเตือนจะเด้งจนเจ้าตัวรำคาญต้องกดเข้าไปดู





   ขมวดคิ้ว







   ตาโต







   อ้าปากค้าง   ก่อนจะ...






   “โพไซดอน!!!!”






   “ครับ เนปจูน”






ผมว่าการเรียกร้องความสนใจครั้งนี้ของผมสำเร็จนะดูจากอะไรน่ะหรอ ก็จากแก้มแดงๆนั่นแล้วก็รอยยิ้มที่พยายามจะกลั้นเอาไว้ ก่อนจะตวัดสายตาไม่มองหน้าผม









   เป็นครั้งแรกของวันนี้ที่ผมไม่รู้สึกเสียดายที่เราไม่ได้สบตากัน






--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ต้องเอามาลงใหม่เพราะดันมือลั่นไปเผลอกดลบหัวข้อ ความกะเล้อกะลังนี้ สมควรตายจริงๆ
เอาเป็นว่าลงให้อ่านกันใหม่เนอะๆ^^
เสียดายของเหมือนกันนะเนี่ย เสียดายคอมเม้นดีดีจากทุกคนที่เคยเม้น เสียดายยอดวิว (กอดเข่าร้องไห้)


เดี๋ยวพาร์ทของเนปจูนบ่ายๆอาจจะได้กลับมาลงให้นะ

ปล.รักคนอ่านครับ คุณคือกำลังใจที่ดีเสมอมา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2017 10:22:21 โดย ChabaSri »

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ฮืออออออ ตกใจหมดเลยค่ะ มีคนบอกลิ้งนิยายเข้าไม่ได้ก็ตกใจ รีบเปิดลิ้งก็เจอว่าเปิดไม่ได้เพราะนิยายหายไป ดีใจที่ลงให้ใหม่อีกครั้งนะคะ ขอบคุณค่า :L1: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
รอพาร์ทเนปจูนๆ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
มาเม้นท์ให้ใหม่..ไหนๆก้อลงใหม่แล้ว แถมตอนพิเศษให้ด้วยนะ เค้าจารอ..อออออออ   :pig4:

ออฟไลน์ somberness

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
คนเท่ๆคลูๆเขินหน้าแดงนี่น่ารักจริงๆ :m1: :m1:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เสียดายของ(เดาใจ)








Neptune Part


   


      คุณเคยใจเต้นแรงเพียงเพราะสบตากับใครบางคนเข้าโดยบังเอิญไหมครับ






สายตาของผมถูกสะกดเอาไว้ด้วยดวงตาสีดำสนิทคมเข้มที่ไปสบเข้าโดยบังเอิญ ราวกับทุกสิ่งรอบตัวได้อันตรธานหายไป นานเท่าใดมิอาจรู้ได้หรืออาจเป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น





แรงสะกิดจากด้านหลังทำให้ผมรู้สึกตัวและถอนสายตาจากนัยน์ตาสีดำแลลึกนั้น อยู่ๆก็รู้สึกเขินเหมือนโดนจับได้ขึ้นมาซะงั้น





โคตรแย่





“ฮั่นแน่..มองใครมึง” เพื่อนสนิทจากชมรมเดียวกันเอ่ยทักขึ้น




“ก็มองไปเรื่อยแหละ แล้วมีไร” เรื่องอะไรจะบอกว่ามองผู้ชายเดี๋ยวแม่งก็แซวอีก




“เจ้ให้มาเรียก เดียวไปถ่ายรอบๆงานกัน มึงไปกะกู”




“อือ ไปดิ”





ผมดันหลังเพื่อนให้ออกเดินนำทางไป สายตาก็หันไปมองตรงจุดเดิมอีกครั้ง ใครคนนั้นหันไปคุยกับเพื่อนท่าทางตั้งใจ  ผมยกกล้องที่คล้องอยู่ที่คอขึ้นมากดชัตเตอร์ถ่ายภาพนั้นเอาไว้





   คงไม่รู้หรอกเนอะ






ผมเดินตามเพื่อนไป ท่ามกลางนักศึกษาและบุคคลภายนอกมากมายผมรู้ตัวว่าตนเองค่อนข้างเป็นเป้าสายตาของใครหลายคนแต่ถ้ามันไม่กระทบชีวิตเท่าไหร่ผมก็ไม่วอร์รี่ อยากมองก็มองไปไม่ได้สึกหรออะไร




เดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆก็เหลือบไปเห็นรุ่นพี่ชมรมเดียวกันโบกไม้โบกมือเรียกจากภายในซุ้มซุ้มนึงที่เป็นซุ้มขายน้ำไอ้ที่เป็นสีๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร





“มาๆ แดดร้อนมาพักก่อน สั่งเลยนะเดี๋ยวเจ้เลี้ยงเอง” รุ่นพี่สาวสวยประธานชมรมพูดอย่างร่าเริง




“เลี้ยงหรอมมมมมม ได้ข่าวงบชมรม” เพื่อนที่เดินตามหลังมาเอ่ยขึ้น แล้วมันก็เดินนำหน้าผมไปสั่งไอ้น้ำสีๆหน้าตาน่ากินนั่น




“แล้วไอ้นี่มันคืออะไรอ่ะเจ้” ผมเอ่ยถามออกมาเรียกสายตาทุกคนให้หันมามอง แม้กระทั่งสาวน้อยที่กำลังขายน้ำอย่างขยันขัน




แข็ง ทุกคนทำหน้าเหมือนเจอตัวประหลาด






   อะไรล่ะ ก็คนมันไม่รู้จักนี่






“เนปจูนมนุษย์ถ้ำที่แท้ทรู” ไอ้เพื่อนตัวพูดขึ้นทำท่าอาเมนไปด้วย...เออไอ้เพื่อนเลวขอให้พระเจ้าลงโทษมึง





“เนปจูนลูก เจ่เจ้ถามจริงจังเลยนะคะหนูไม่ได้ทะลุมิติมาจากยุคเจนละใช่ไหม?” อ้าวเจ้





“เนปกูถามจริงๆ มึงรู้ไหมว่าพุ่มพวงตายแล้ว”





“ไมเคิล แจ็กสันก็ตายละนะ รู้ยัง”







   เออซ้ำเติมกูเข้าไปพวกนี้...ว่าแต่...พุ่มพวงคือใคร =,.=






“ตกลงจะบอกได้ยังว่าไอ้น้ำสีๆนี่มันอะไร” ผมเอ่ยตัดบท





“ไอ้น้ำสีๆที่คุณว่ามันก็คือ อิตาเลี่ยนโซดาค่ะคุณหนู กินได้ อร่อยชื่นใจ ไม่ตาย” ว่าจบคุณเธอก็ยัดแก้วน้ำไอ้เลี่ยนๆดาๆอะไรนั่นใส่มือผม





ก้มลงดูดไปอึกนึง






อือ ก็ดี






“เป็นไง” เพื่อนถาม





“ก็ดี” ผมตอบ






รุ่นพี่คนสวยจ่ายเงินค่าน้ำเรียบร้อยก็เดินนำพวกเรามาตรงที่สนามหญ้าบริเวณข้างๆสถานที่จัดงานซึ่งมีร่มไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงา ผมวางแก้วน้ำลงข้างๆเพื่อนสนิทที่นั่งลงกับพื้นหญ้าเรียบร้อยแล้ว



ส่วนตัวผมเองยังยืนมองบรรยากาศรอบๆ กดถ่ายภาพไปหลายภาพในตอนที่ผมกำลังก้มหน้าก้มตาเช็คภาพอยู่ ไล่ดูภาพไปเรื่อยๆก็หยุดอยู่ที่ภาพเจ้าของบหน้าคมคายที่โดนผมแอบถ่ายมาก่อนหน้านี้






“เนป มึงโดนแอบถ่ายว่ะ” เพื่อนสนิทคนเดิมที่นั่งดูดน้ำหวานอยู่สะกิดขาผมยิกๆ





กวาดสายตาไปตามคำบอกเล่าของเพื่อนก็สบเข้ากับนัยน์ตาสีดำแลลึกนั้นอีกครั้ง อีกฝ่ายยิ้มมุมปากนิดๆพลางค้อมหัวเป็นเชิงทักทาย





โคตรแย่





ผมส่งยิ้มตอบกลับไป






“ฮั่นน่อ....รู้จักกันหรอ” เสียงเรียกจากนรกจริงๆมึงเนี่ย





“เปล่า”





“แล้วเขายิ้มให้มึงทำไมอ่ะ”





“ไม่รู้สิ”





“ชอบมึงแน่ๆ”





“บ้าบอ”





ยังไม่ทันที่ไอ้เพื่อนเลวจะตอบอะไรกลับมารุ่นพี่คนสวยก็เอ่ยเรียกให้ไปรับข้าวกล่อง





“เดี๋ยวกินเสร็จจะพาไปรู้จักเพื่อนๆชมรมถ่ายภาพของที่นี่ เดี๋ยวเดือนหน้าเราต้องไปออกทริปโพรเจ็คท่องเที่ยวของจังหวัดด้วยกัน”






พวกผมพยักหน้ารับคำ





พอกินเสร็จก็รวบรวมขยะไปทิ้ง ก่อนจะรวมตัวเดินตามพวกรุ่นพี่ไป





ผมมองผ่านเข้าไปในเต็นท์สีขาวที่กำลังมุ่งหน้าไปใครอีกคนที่กำลังก้มหน้าเช็คภาพจากกล้องที่อยู่ในมือ เส้นผมยาวสีดำสนิทถูกมัดรวบตึง สายตาที่จดจ้องไปที่อุปกรณ์ในมือ...อ่า...ใจเต้นแรงชะมัด หูอื้อไปหมด จะตายไหม






ผมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาสไลด์หน้าจออย่างที่ชอบทำเป็นประจำเวลารู้สึกประหม่า ทำไมมือสั่น...เป็นโรค?





โอยยยยยยเข้ามาในเต็นท์แล้วอ่ะ ทำไงดีวะ รู้ตัวนะว่าถูกมอง ครั้งก่อนมองไกลๆว่าใจเต้นแรงแล้ว นี่แบบใกล้ๆเลยนะ ใจสั่นโคตรจะมาก  ฮืออออออ ชอบมากทำไงดี




‘แชะ’






ผมเหลือบมองที่มาของเสียงนั้นที่ทำทุกคนในเต็นท์หยุดชะงักมองไปที่คนที่กำลังลดกล้องในมือลงช้าๆ ปะเป็นอีกครั้งที่ดวงตาคมกล้าดำสนิทนั้นมองตรงมาที่ผม






พลันรู้สึกว่าตัวเองใจเต้นแรงจนต้องขมวดคิ้ว...





      โคตรแย่






“อ้อ ลิมแนะนำไปเลยนี่ไอ้โพซรุ่นน้องกูที่มึงเคยถามหาไง” ผู้ชายที่ยืนคุยอยู่กับเจ้ประธานเอ่ยขึ้นเสียงดัง





“น้องโพซ ที่ชื่อเต็มๆว่าโพไซดอนที่ชนะรางวัลประกวดภาพถ่ายตอนงานเทียนใช่ป่ะ” ยัยเจ้เอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น





คำบอกกล่าวของรุ่นพี่ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ ผู้ชายคนนี้เป็นเจ้าของผลงานชนะเลิศภาพนั้นหรอเนี่ย ผมจำภาพถ่ายภาพนั้นได้ มันเป็นภาพช่างแกะที่กำลังสลักเทียนขนาดใหญ่ภายใต้แสงไฟสีส้ม จำได้ถึงพลังที่ภาพนั้นสื่ออกมาแววตาความมุ่งมั่นของช่างภาพคนนั้น รวมถึงองค์ประกอบต่างๆของภาพถ่าย ไม่แปลกใจที่จะได้เป็นผลงานชนะเลิศ  อ่า...หน้าตาดีแล้วยังเก่งด้วยแฮะ 






“อ่าครับ ใช่ครับ”





“ที่พี่จำได้เพราะว่าชื่อเราไปพ้องกับชื่อน้องคนนึงของพี่พอดี” ว่าจบเจ้ประธานก็คว้าแขนผมหมับ แล้วดึงให้มายืนต่อหน้าเขา




โคตรใกล้ อ่า...หล่อจัง ไม่ได้ๆเนปจูนเก็บอาการหน่อย






“นี่ไงที่คนที่คว้ารางวัลชนะเลิศตัดหน้าแกไป รู้จักกันไว้ซะ”






ผมถลึงตาใส่ยังเจ้ประธานที่หันไปหัวเราะคิกคักกับเพื่อน ก่อนจะตวัดสายตามองคนที่มองมาที่ผมยิ้มๆ อะไร!! เยาะเย้ยกันหรอ ใช่สิผมมันไม่เก่งนี่(ดราม่าทำไม)






“เอ่อ..หวัดดีครับ เราโพไซดอนนะเรียกโพซก็ได้”





ผมหันไปมองเขาตามเสียงเอ่ยทัก อ่า...หล่อละเฟรนด์ลี่





   “อืมรู้แล้ว แชมปืจังหวัดนี่ดังจะตายใครจะไม่รู้จัก”  ปากดีไปงั้นที่จริงไม่ได้รู้จักเขาเล้ยยย   




   “แล้ว?”




   “...” ใกล้ไปแล้ววว




   “...”




   “เราชื่อเนป”  เยี่ยม!!เสียงไม่สั่น




   “เนป?”




   “เนปจูน”





อ่า...โคตรแย่ ไม่กล้ามองนานๆ มือถือ มือถืออยู่ไหน(อยู่ในมือเอ็งอ่ะ)





   “อ่าฮะ แล้วนี่โกรธอะไรเราอ่ะ” เขาพูดก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม ทำให้ผมต้องนั่งลงที่ว่างข้างๆเขา




   “ไม่ได้โกรธ”  อ่า...ทำไมวันนี้ทวิตเตอร์เงียบๆนะ (มันเคยเงียบด้วยหรอ)




   “จริง?” จริงสิ ไม่ได้โกรธเลย อยากรู้จัก ขอไลน์หน่อย




   “อือดิ ไม่ได้รู้จักกันจะมาไม่พอใจไรล่ะ นี่คือสิ่งที่ตอบไป อ่า...เขาจะแปลความหมายออกไหมนะ ว่าอยากรู้จักอ่ะ จะรู้ไหมว่าอ่อย นี่อ่อยอยู่นะรู้ยัง




   “อืม...แบบนั้นฟังดูดิแฮะ แต่ชักอยากให้โกรธขึ้นมาซะแล้วสิ”





ผมตวัดสายตามองอีกคนก็พบกับรอยยิ้มเล็กๆตรงมุมปาก บวกกับสายตาแพรวพราวท่าทางแบบนั้นของเขาดูร้ายกาจมาก





      โคตรแย่





“หมายความว่าไง” เอ..เสียงแข็งไปรึเปล่านะ




“หมายความว่าอยากรู้จัก” ว่าจบก็ยักคิ้วมาให้ โอ้โหววววววว แอทแทคมาก




“กวนตีนว่ะ” เปล่าเลย ที่จริงอยากบอกว่าหล่อมาก ไม่ไหวละ โคตรแย่ มือถือ มือถืออยู่ไหนอีกแล้วนะ อ่า...facebook ก็ไม่มีแจ้งเตือนเลยแฮะ(แล้วไอ้แดงๆ99+นั่นมันอะไร)





กว่าจะรู้ตัวก็มีไอโฟนยื่นมาตรงหน้าผม





“อะไร”  ให้หรอ




“ขอไอจีหน่อยสิ” อ่อ ไอจี แหมนึกว่าจะขอไลน์





ผมจิ๊ปากนิดหน่อยตามความเคยชิน คิดได้ไงว่าเขาจะขอไลน์วะไอ้บ้าเนปจูนเอ้ย แล้วเขินเหี้ยไรเนี่ย





คว้าไอโฟนเครื่องนั้นมาก่อนจะพิมพ์ชื่อแอคเคาท์ของตัวเองลงช่องค้นหาแล้วยื่นมันคืนให้กับเจ้าของ เขารับมันคืนไป




ผมแอบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเป็นลูกครึ่งรึเปล่านะทำไมขาวจัง ขนตาก็น้าหนา เสื้อเชิ้ตนักศึกษาที่ถูกพับแขนขึ้นเผยให้เห็นท่อนแขนแข็งแรง มองไล่ขึ้นไป อ่า...ไหล่กว้างชะมัด แล้วดูกล้ามที่อยู่ภายใต้เสื้อนักศึกษานั่นดิ ฮอลลลลลลลล กร๊าวใจ





“หึ” เสียงหัวเราะน้อยๆที่ดังมาจากคนที่ถูกแออบมองอยู่ ทำให้ผมหันมาสนใจหน้าฟีดfacebookที่เปิดค้างไว้แต่แรงสะกิดจากคนข้างกันทำให้ผมหันไปมอง





ไอโฟนเครื่องเดิมเพิ่มเติมคือหน้าคอมเม้นไอจีของผมที่ตอบไปมาคุยกับรุ่นน้อง ที่สนิทกัน โคตรแย่ ลืมได้ไงว่าเคยลงรูปประกวดรูปชนะประกวดภาพนั้นไว้





“ถ้าได้เจอจะทำไมหรอ?”




“จะใส่ใจอะไรล่ะ ก็แค่คอมเม้นเล่นๆกันกับน้อง” แล้วทำไมอยู่ดีดีหน้าก็ร้อนอ่ะ...เป็นโรค?





เขาไม่ได้พูดอะไรกับคำตอบของผม แต่แอบเห็นว่าเขาส่งภาพอะไรสักอย่างจากกล้องเข้าไอโฟน





สักพักผมรับรู้ถึงแจ้งเตือนที่กระหน่ำรัวเข้ามาอย่างหนัก ต่อให้เป็นสมาร์ทโฟนปีศาจก็ค้างได้ ผมกดเข้าไปดูอย่างเสียไม่ได้ ตั้งใจว่าจะปิดแจ้งเตือนโพส แต่ภาพต้นเหตุของการแจ้งเตือนทำเอาผมอึ้ง





เจ้าของแอคเคาท์ Poseidon_poz ลงรูปภาพที่แม้จะลงแค่ไม่กี่นาทีก็เรียกยอดไลค์ไปเกือบพัน จะไม่อะไรเลยถ้าภาพนั้นมันไม่ใช่ตัวผมเองที่โดนแอบถ่าย แล้วไอ้แคปชั่นนี่มันอะไรกัน!!!




“โพไซดอน!!”




“ครับ เนปจูน”





ไม่ต้องมาตอบรับเสียงนุ่มแบบนั้นเลยนะ แล้วนี่เป็นอะไร กลั้นยิ้มทำไม บ้าเอ๊ย หน้าต้องแดงแน่ๆเลยว่ะ





ต้องเอาคืน แบบนี้ต้องเอาคืน ผมก้มลงอ่านแคปชั่นนั่นอีกรอบ โคตรแย่ ใจเต้นแรงกว่าเดิมอีก





ผมคอมเม้นโพสของคนที่นั่งข้างๆ เป็นเพลงเหมือนกันแต่คนละเพลงกับเขา มันเป็นเนื้อเพลงท่อนสั้นๆที่ตรงกับความรู้สึกของผมตอนนี้







Neptune_nept  @poseidon_poz ทุกๆอย่างที่ฉันเผลอ ก็คิดว่าไม่เข้าข้างตัวเองมากไป เธอไม่บอกไม่เป็นไร
ให้ฉันเดาใจก็คิดว่าคงใกล้เคียง #เดาใจ







   ไอ้บ้า เม้นเองเขินเอง






   โคตรแย่







ทำได้แค่นั่งก้มหน้ามองมือถือที่เหมือนแจ้งเตืนจะรัวเข้ามามากกว่าเดิม แล้วก็ต้องตัวแข็งทื่อเพราะวงแข็นที่พาดมาบนพนักเก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่ ได้กลิ่นอาฟเตอร์เชฟบางเบาพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆและเสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหู






   “เดาเก่งแบบนี้ งั้นก็เตรียมตัวโดนจีบได้เลยนะครับ เนปจูน”






      แย่แล้ว






   โคตรแย่เลย เนปจูน








fin



-----------------------------------------------------------------------------------------------

ฟินป่าวไม่รู้ แต่ลงตอนที่โดนลบไปครบแล้วเหลืออีกสองตอน(ใช่ไหมนะ??)


แอบอยากแถมอีกสักตอนนึงนะแต่เลือกไม่ได้ว่าจะเอาแบบไหนดีระหว่าง เมื่อน้องเนปจูนเมา กับ เมื่อพี่โพซหึง เลือกช่วยเราหน่อย เม้นๆโหวตๆกันมาหน่อยนะ^^


เจอกันตอนหน้าครับ

ปล.รักคนอ่านเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือรักน้องเนปจูนมาก



ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ฟินๆๆๆๆๆ ลงสองตอนเลยเถอะน๊า ไม่อยากจะเลือกใคร อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองตอน   o18

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านกี่รอบก็ชอบเหมือนเดิม.......ฟินเหมือนเดิม  o18. คือดี...ชอบ ไม่รู้ทำไมต้องยักคิ้วตาม ไม่รู้ทำไมต้องยิ้มมุมปากตาม ไม่รู้ทำไมต้องหรี่ตา  ไม่รู้ทำไมต้องนั่งยิ้มกลั้นฟิน   :o8:

ชอบตรงนี้

“โพไซดอน!!”




“ครับ เนปจูน”


ครับเนปจูน! ครับเนปจูน!! ครับเนปจูน!!! โอ้ยยยยพี่โพซ มาเป็นผัวหนูเถอะพี่ ...~ :katai2-1:


อยากบอกว่าต่อเถอะเจ้ เอาตอนเมื่อน้องเนปจูนเมา เมาแล้วจะยั่วขนาดไหน ...ต่อนะๆ

ออฟไลน์ Legpptk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ somberness

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
แท้จริงแล้วคนคลูคือคนขี้เขิน
ถ้าให้เลือกอยากอ่านโพซหึงแต่ใจจริงอยากได้ทั้งคู่เลย :m13: :m13:

ออฟไลน์ swoooaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่โพซหึงก็ดีนะคูนนน แต่ได้ทั้ง2ก็กรุณามาก อิอิ

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
โอ้ยยยย ตายๆๆๆ ฟินแทนเนปจูนสุด  :hao7:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เสียดายของ
ตอนพิเศษ  เธอจะรักฉันได้ไหม





นายโพไซดอนกำลังหงุดหงิดอย่างมาก





ภาพของชายหนุ่มผมยาวใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังก้มหน้าดูอะไรในแทปเล็ต ภายในร้านกาแฟในมหาวิทยาลัยเป็นภาพที่ดึงดูดสายตาใครต่อใครเป็นอย่างมาก  จะด้วยเพราะชุดนักศึกษาที่ไม่ใช่เครื่องแบบของสถาบันแห่งนี้หรือด้วยหน้าตาของเขาก็ตาม


 

แต่ชายหนุ่มผู้ที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาไม่ได้สนใจต่อสายตาและเสียงนินทารอบข้าง  เพราะภาพที่ปรากฏหราอยู่บนหน้าจอแทปเล็ตในมือกำลังทำให้เขาเหมือนถูกแช่แข็ง





   ภาพของเนปจูน ...




   เนปจูนที่กำลังนั่งหันหลังให้กล้องโดยมีวงแขนของใครสักคนโอบไหล่เอาไว้ พร้อมแคปชั่น





น้องเนปจูนกับน้องเอิร์ธนี่ยังไงน้า....โอบกันขนาดนี้พี่ก็ฟินสิคะ #เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ #เอิร์ธเนป  แอดมินแม่มดน้อยโดเรมี






วันนี้เขามารอรับคนที่ตามจีบที่มหาวิทยาลัยของเจ้าตัว  ก็มานั่งรอที่ร้านกาแฟใกล้ๆกับคณะที่เนปจูนเรียนอยู่ นั่งอยู่พักใหญ่ๆเพื่อนสนิทก็ส่งภาพต้นเรื่องนี่มาให้เขาดู  เห็นภาพนี้เขาก็พอจะเข้าใจว่าคงแค่เพื่อนกันแต่เมื่อกดเข้าไปดูเอชแท็ก #เอิร์ธเนป ก็พบกับภาพลักษณคล้ายๆกันนี้หลายภาพ ทั้งนั่งติดกัน จับมือ เช็ดเหงื่อหรือโอบกันอย่างภาพแรกนั่นก็มีอยู่เยอะ


 ก็รู้ว่าเนปจูนเป็นที่น่าสนใจของคนเยอะแยะแต่ไม่คิดว่าจะมีในรูปแบบนี้ ไอ้คู่จิ้นอะไรนี่ด้วย จิ้นทำไมว่าที่แฟนตัวจริงนั่งอยู่นี่โว้ยยยยยยยยย อยากจะตะโกนให้ก้องโลกแต่เรื่องจริงทำแค่กดไลค์ไปเบาเบาพร้อมกับเม้นไปว่า




   น่ารักดีครับ เป็นเพื่อนที่ดูสนิทกันดีเนอะ






หงุดหงิดชะมัด





ในความหงุดหงิดก็มีความอยากเจอ..อะไรของผมวะ ย้อนแย้งชะมัด 






หงุดหงิดตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้นี่แหละ...ยังไม่ใช่แฟนไง แม่งหงิดใจ






ตึ๊ง





เสียงเตือนจากโปรแกรมแชทดังขึ้นดึงความสนใจของผมไป คนที่แชทมาคือไอ้เพื่อนสนิทตัวดีที่ส่งลิงค์ภาพมาให้ผมนั่นแหละ




ไงมึง หงิดเลยดิ


                                เออแม่ง


ตกลงเพื่อน?


                                ไม่รู้ยังไม่เจอ


เออๆ
คุยกะน้องมันดีดีล่ะ
อย่าลืมว่ามึงยังไม่ใช่แฟนเค้า
                                   เอออออออ






มันกดอ่านแล้วไม่ได้ตอบอะไรกลับมา  ผมนึกถึงประโยคสนทนาเมื่อครู่ นั่นสินะผมกับเนปจูนเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมตามจีบเขาก็จริงและอีกคนก็เหมือนจะมีใจแต่เรื่องของสถานะมันก็จำเป็นป่ะวะ หรือผมคิดมากไป แล้วไอ้สถานะคนคุยนี่มันหึงได้ไหม






   โอ้ยยยยไอ้โพซเครียด




ผมไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่ผมไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครแบบที่เหมือนเอาตัวเองไปหมุนรอบคนคนนึง  เหมือนกำลังวิ่งอยู่บนฝ่ามือของเขา ความรู้สึกมากมายนี้ทำให้ผมไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง กลัวว่าจะเสียไป ถ้าผมอยากได้สถานะนั้นอยากได้สิทธิ์นั้นแล้วเขาให้ไม่ได้ ผมกลัวว่าตัวเองจะกลับมายืนจุดเดิมไม่ได้เหมือนกัน




   มือถือผมสั่น



ยกขึ้นมาดูเป็นชื่อของคนที่กำลังคิดถึงอยู่พอดี



   “ครับ”



   //เรียนเสร็จละนะ มายัง?//



   “ถึงนานแล้ว อยู่ร้านเดิม”



   //โอเค เดี๋ยวเดินไปหา//



   “ครับ”



แล้วปลายสายก็ตัดไป  ผมเก็บเรื่องสถานะที่ยังคิดไม่ตกอยู่นี่ให้ออกไปจากใจก่อน วันนี้ผมกับเนปจูนนัดกันว่าจะไปเก็บภาพทุ่งหนองหญ้าม้า ที่เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัด ที่นัดกันวันนี้เพราะเราเช็คสภาพอากาศและช่วงเวลาที่จะเกิด Magic Hour มาแล้ว




เสียงกระดิ่งเหนือประตูดังขึ้นผมหันไปมองก็พบกับคนที่ตัวเองมานั่งรอ เกือบจะยิ้มให้แล้วถ้าไม่เห็นว่าใครเดินตามเนปจูนมาด้วย  คนที่เดินตามเนปจูนเข้ามายกมือไหว้ผม ผมพยักหน้ารับเบาเบาไม่ได้แสดงออกเลยนะว่าไม่ชอบ จริงๆ...




   “รอนานไหม” เนปจูนเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างๆผม



ผมส่ายหน้า ไม่ตอบอะไร



   “เดี๋ยวเพื่อนไปด้วยนะ มีเอิร์ธกะอีกสองคนที่จะไปรถเอิร์ธ”




   “อ่าฮะ” ผมตอบรับ




ผมลุกขึ้นทำให้อีกสองคนต้องลุกตาม เนปจูนมองผมงงๆว่าเป็นอะไรแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา  เพื่อนของเนปจูนเดินไปขึ้นรถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกล แล้วจะเดินมาด้วยแต่แรกทำไมฟระ




เมื่อเข้ามาในรถผมนั่งนิ่งๆปรับอารมณ์ตัวเองอยู่สักพัก คนที่นั่งข้างกันมองนิ่งๆแต่เมื่อผมกำลังจะเอื้อมมือไปสตาร์ทรถเขากลับแตะเบาเบาที่หลังมือของผม



   “เป็นอะไรหรือเปล่า  ทำหน้าไม่โอเคตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วอ่ะ ถ้าไม่สบายเราไม่ไปวันนี้ก็ได้นะ”



ผมส่ายหน้า



   “เปล่าไม่ได้ไม่สบาย แค่มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อย”






         หน่อยแป๊ะไรล่ะ




ตอบแค่นั้นแล้วก็ออกรถไป  เนปจูนเอื้อมมือมากดเปิดเพลงคลอไประหว่างทาง  เจ้าตัวเอากล้องขึ้นมาเช็คไม่ได้ถามอะไรอีก




จนเมื่อเรามาถึงสถานที่ที่จะมาเก็บภาพกันวันนี้ ทุ่งหนองหญ้าม้า หรือทุ่งดอกกระดุมเงินชาวบ้านเรียกว่าหญ้าหัวหงอก เป็นพื้นที่ทุ่งกว้างโดยในช่วงหนึ่งของปีทหารจะใช้ลริเวณนี้เป็นสถานที่ซ้อมยิงปืนเป็นเวลาราว1-2 เดือน แต่นอกนั้นก็ปล่อยว่างเปล่าเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านจะใช้เลี้ยงสัตว์ และในช่วงฤดูหนาวทุ่งกว้างแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกกระดุมเงิน เหมาะเป็นสถานที่ที่ถ่ายภาพ เพราะทั่วทั้งทุ่งจะเต็มไปด้วยเจ้าดอกเล็กๆสีขาวพวกนี้





เนปจูนบอกผมว่าจะไปสมทบกับเพื่อนๆ ผมพยักหน้ารับรู้แล้วกลับมาสนใจกล้องในมือ  พยายามมีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแต่เชื่อผมเถอะใจผมลอยตามใครบางคนไปอีกแล้ว  ผมไม่ชอบตัวเองเวลาต้องมาหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่แบบนี้  แต่ก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำยังไงถึงจะหายหงุดหงิด 





ผมเดินตามเนปจูนไป




จะด้วยอะไรก็ตามแต่ผมดันเดินมาเห็นภาพที่ทำให้อุณหภูมิในเลือดพุ่งสูงขึ้น  นั่นคือภาพของคนสองคนที่ยืนชิดกันแล้วก้มลงมองภาพในกล้อง...กล้องที่คล้องอยู่ที่คอเนปจูน ใกล้ไปป่ะ





แม้กายหยาบจะหยุดนิ่งแข็งค้างเหมือนต้องสาปแต่กายละเอียดของผมคือพุ่งเข้าไปจับสองคนนั้นแยกออกจากกันแล้ว



 

พอ พอแล้ว พอครับ





ผมเดินจากมาเงียบๆ ไม่ได้เข้าไปทำอะไรแบบที่คิด  แค่เดินออกมาจากตรงนั้น  ถ้าไม่มีสิทธิ์ก็สู้ไม่เห็นเลยจะดีกว่า






 
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงผมเห็นเนปจูนเดินมาที่รถ อารมณ์ที่เริ่มเย็นลงก็พลันร้อนขึ้นมาอีกเมื่อเห็นว่าใครเดินตามมา






“ทำไมมาอยู่นี่อ่ะ”  เนปจูนก้าวเท้าเข้ามาใกล้ผมแล้วเอ่ยถาม




“ได้รูปแล้ว” 




อันนี้ไม่ได้โกหกนะครับผมได้ภาพแบบที่ต้องการแล้วจริงๆ  เลยมานั่งรออีกคนที่รถ





“เก่งอ่ะเรานี่ถ่ายไปตั้งเยอะยังไม่แน่ใจเลยว่าจะได้รูปดีดี”




“ได้อยู่แล้วล่ะ”  ผมตอบไป ยกมือขึ้นขยี้หัวอีกฝ่ายเบาเบา




เนปจูนส่งยิ้มกว้างๆมาให้....




ผมเบือนสายตาหนีจากรอยยิ้มที่ชวนให้ใจเต้นนั้น  ไปที่คนที่เดินตามเนปจูนมา ส่งสายตาเป็นเชิงถามไถ่ไปให้




“ผมจะเดินมาบอกว่าเดี๋ยวให้เนปกลับกับผมก็ได้ครับ ยังไงก็ทางเดียวกัน”





คือจะเอาแบบนี้เลยใช่ป่ะ




ผมตวัดสายตามองคนที่มาด้วยกัน  ที่เดินมานี่คือจะมาบอกว่าจะกลับกลับคนอื่นงี้ดิ เออ ยืนรอตั้งนานโง่เป็นควายเลยกู หงิดโว้ยย





“ก็จะได้ไม่ต้องวนรถไปมาไง ว่าจะกลับเข้าเมืองก็ตั้งหลายกิโล”  เนปจูนพูดเสียงอ่อน  แต่ความรู้สึกเดือดพล่านในอกกลบทุกอย่างไปจนมิด




โอเค



จะเอาแบบนี้ก็ได้



“แล้วแต่ละกัน”  ผมพูดแค่นั้นแล้วหันหลังไปเปิดประตูรถ  ไม่สนใจว่าใครจะมองยังไงไม่สนใจว่าน้ำเสียงที่พูดออกไปจะเต็มไปด้วยความเย็นชามากแค่ไหน   จัดการถอยรถออกมาจากตรงนั้น






ถ้าอยากจะไปกับใครก็ไปเถอะ  วันนี้แม่งเกินจะรับไหวแล้วจริงๆความมั่นใจที่เคยมีหายไปหมด ขอถอยไปตั้งหลักก่อนละกัน







ติดไฟแดงแรกผมกดโทร.หาเพื่อนสนิทชวนมันไปดื่มที่ร้านประจำ แล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่คอนโซลรถ





ไฟแดงที่สองโทรศัพท์แจ้งเตือนว่ามีไลน์เข้า  เบนสายตาไปมองเห็นว่าเป็นชื่อใครก็เมิน ไม่อ่าน ไม่ตอบ ไม่อะไรทั้งนั้น พอก่อน วันนี้พอก่อน






เสียงแจ้งเตือนยังเข้าต่อเนื่อง ทั้งสายเรียกเข้า ไลน์ 






ยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น ขอปรับสภาพอารมณ์ตัวเองก่อน ผมยังไม่พร้อมจะรับรู้อะไรทั้งนั้น แค่คืนนี้...ขอเวลา จริงๆ






กลับมาถึงหอก็มืดพอดี ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไลน์บอกเพื่อนว่ากำลังออกไปแล้วทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่ห้อง






   ใจร้าย 





เสียงเล็กๆในหัวดังขึ้น  ถ้าการที่ผมปกป้องความรู้สึกตัวเองแล้วจะเรียกผมว่าคนใจร้าย ผมร้ายก็ได้





แต่การที่เขาเลือกกลับกับเพื่อนคนนั้นของเขาทั้งๆที่มากับผม มันไม่ใจร้ายเลยงั้นสิ ผมที่ไปนั่งรอเขาอยู่หลายชั่วโมงแทนที่จะได้คุยกัน เสร็จธุระไปกินข้าวบ้างกลับมีคนมาขวางตลอดแล้วเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ผมที่ขับรถไปหาตั้งเป็นยี่สิบกิโลเพื่อจะเห็นว่าเขาอยู่กับคนอื่นและมีความสุขดี 





ไอ้อาการที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินนี่ผมต้องจัดการเองผมรู้ และนี่คือวิธีการของผม






แต่ไอ้ความรู้สึกที่เรียกว่าหึงนี่ที่ผมยังหาทางจัดการกับมันไม่ได้ ทำให้ผมต้องถอยมาตั้งหลักก่อน  เพราะไม่ว่ายังไงผมยังไม่มีสิทธิ์อะไรไปหึงเขา






แต่สิทธิ์ที่จะปกป้องความรู้สึกตัวเองนี่ผมมีเต็มที่ ใช่ไหม?






ไปเถอะแดกให้แม่งเมาละพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาสู้ใหม่





ผมมาถึงร้านก่อนเวลาเล็กน้อย(มาแท็กซี่ครับ ตั้งใจจะมาเมาเราต้องไม่ขับเพื่อรับผิดชอบสังคม) จัดการสั่งเครื่องดื่มพร้อมกับแกล้มเรียบร้อย  นั่งรอไม่นานไอ้เพื่อนสนิทผมก็มาถึง





ผมกับมันต่างคนต่างนั่งดื่มกันไปเงียบๆ ไม่มีบทสนทนาใดใดระหว่างเรา






จนเหล้าในขวดพร่องไปครึ่งหนึ่งมันถึงได้เปิดปากถามขึ้นมา





“สรุปโดนเท?”  ปากมันนี่นะบอกแล้วว่านั่งเงียบๆก็พอ




“เปล่า”



“อ้าว ไม่โดนเทละชวนกูมาทำหน้าเศร้าดื่มเหล้าเคล้าเสียงเพลงเพื่อ?”



“ต้องโดนเทหรอถึงกินเหล้าได้  แค่มีเงินจ่ายก็พอแล้วไหม”



“ครับๆ แล้วตกลงจะบอกไหมว่าเป็นเหี้ยไร”  มันรู้นั่นแหละครับว่าผมนอยด์เรื่องอะไรแกล้งถามกวนตีนไปงั้น





ผมถอนหายใจใส่มันไม่ตอบอะไร




“ถ้าคิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ก็ทำให้มันมีซะสิ”




“ถ้ามันง่ายกูจะมานั่งนอยด์ทำไม”




“แล้วมันยากตรงไหน กูก็เห็นน้องมันก็ชอบมึงแล้ว ถ้ามึงหมายถึงไอ้คนที่เป็นเพื่อนน้องมันนะถ้าเขาจะขยับสถานะกันมันคงขยับมานานแล้วไหมวะ”




“ตั้งนานไอ้เพื่อนนั่นไม่อยากขยับ แต่เสือกอยากมาขยับตอนนี้ดิ กูมองตาแม่งก็รู้”




“งั้นมึงก็รวบเลย”




“รวบ?”




“ปล้ำแม่งเลย”





“ไอ้เหี้ย”




แล้วบทสนทนาก็จบลงแค่นั้น นั่งฟังเพลงที่นักร้องประจำของร้านกำลังขับกล่อมค่ำคืนให้ดำเนินไปแต่ความคิดของผมกลับลอยไปไกล



                     คำว่ารักฉันพูดมาตลอดเลย อย่างที่เธอเคยเคย ได้รับฟัง
                                                             แต่เธอก็รู้ คนเรามันตบมือข้างเดียวไม่ดัง...






นั่นสินะผมยังไม่เคยถามเขาเลยนี่นา 




ผมที่เคยเชื่อในการกระทำมาโดยตลอด มาในวันนี้ที่ความมั่นใจที่เคยมีมันลดลงจนน่าใจหาย





เวลาล่วงเลยมาจนถึงเที่ยงคืนเหล้าหนึ่งกลมกินสองคน...ต้องยอมรับว่ามึนครับ ยังไม่ถึงกับเมา เอาเป็นว่ายังคงสติตัวเองไว้ได้





ไอ้เพื่อนสนิทโทร.เรียกรูมเมทมารับส่วนตัวผมที่อยู่คนเดียวก็ต้องพึ่งพาตัวเอง เรียกแท็กซี่สิครับ





ผมลงจากแท็กซี่ที่หน้าหอพัก ยามเห็นผมเดินเซๆลงมาจากรถก็เดินเข้ามาจะมาพยุงแต่ผมโบกมือปฏิเสธไปผมโอเค




ร่างกายน่ะไหวแต่ใจล้ามาก





ลุงยามแกพูดอะไรสักอย่างกับผมซึ่งผมก็ไม่ทันได้ฟังหรอก  เพราะลิฟต์มาถึงซะก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมมาฟังนะลุง



 

ลิฟต์เปิดที่ชั้นที่ต้องการ ร่างกายเดินไปตามสัญชาติญาณความเคยชิน  เดินมาจะถึงห้องตัวเองผมถึงได้สังเกตว่าที่พื้นหน้าประตูมีใครคนนึงนั่งกอดเข่าอยู่  ไฟทางเดินส่องสว่างทำให้ผมเห็นชัดเจนว่าคนคนนั้นเป็นใคร





   เนปจูน






มาทำอะไรที่นี่   




ยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นดู  เที่ยงคืนครึ่ง





ผมก้าวเดินเข้าไปใกล้ สะกิดคนที่นั่งเอาหน้าซุกแขนอยู่ให้เงยขึ้นมา





“พี่โพซ” อีกคนเอ่ยเรียกชื่อผมแผ่วเบา  น้ำเสียงสั่นเครือ





ผมไม่ตอบอะไรฉุดให้เขาลุกขึ้นยืน  ควานหากุญแจห้องในกระเป๋ากางเกง ในจังหวะที่ไขกุญแจนั้นมือของคนที่มานั่งรอก็คว้าหมับเข้าที่ชายเสื้อ





“พี่โพซ”  น้ำเสียงของเนปจูนแผ่วเบายิ่งกว่าเคย





“ไปคุยกันในห้องตรงนี้ยุงกัด” ผมเหลือบมองรอยแดงๆที่แขนของเขา 





จัดการเปิดประตูห้องแล้วเดินเลยเข้าไปเปิดไฟเปิดแอร์  ปล่อยให้อีกคนเดินตามเข้ามาเงียบๆ





ผมเดินเลยเข้าไปในห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเนปจูนยังยืนอยู่ที่กลางห้องดวงตาภายใต้ขนตาดกหนาเป็นแพนั่นจ้องมาที่ผม 





เขายังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลยเป้ที่อยู่บนไหล่นั่นก็เป็นใบที่ใช้วันนี้...อือ ผมจำได้ ถ้าเป็นเรื่องของเขาผมจำได้ทุกอย่างนั่นแหละ






“มีอะไรถึงได้มานั่งอยู่แบบนั้น  ลืมอะไรบนรถหรอ?”  ผมเอ่ยถาม





ยืนกอดอกไหล่พิงกำแพงห้องจ้องมองอีกฝ่าย





เนปจูนสายหน้า ฟันขาวขบริมฝีปากล่างหลุบตามองพื้นไม่สบตาผม






วินาทีที่เขาหลบตา ผมถึงกับใจดิ่งวูบ ไม่ใช่ว่าจะมาบอกจะเลิกคุยกันหรอกใช่ไหม






“แล้ว...”





“ก็พี่โพซนั่นแหละ” 





พูดไม่ทันจบอีกคนก็แทรกขึ้นก่อน เพราะผม ผมทำอะไรวะครับ



“พี่? พี่ทำอะไร?”  สิ้นคำถามผมเนปจูนก็เงยหน้ามองผมแววตาตัดพ้อ



“ก็ทำไมไม่ตอบไลน์ ไม่รับโทรศัพท์ เดินหนีมาแบบนั้นแล้วจะยัง...”  หลบตาอีกแล้ว




“ยัง?”  เอาล่ะผมเริ่มเข้าใจละ นี่เรียกมาง้อป่ะ




“ก็พี่โพซ...วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ถามก็ไม่บอก ทำหน้าเหมือนไม่อยากคุยกับจูน  ตอนถ่ายรูปก็ไม่เดินมาหาแล้วก่อนกลับยังทำหน้าเหมือนรำคาญด้วย  ฮึก...ไลน์มาหาก็ไม่อ่าน โทร.ก็ไม่รับ ฮึก...ถ้าไม่ชอบแล้วก็บอกกันดิไม่ใช่มาทำแบบนี้”





 
พูดอยู่ดีดีน้ำตาก็ไหลออกมา ผมที่ยืนเก๊กอยู่ก็อยู่ไม่สุข  มือเอื้อมมาจะคว้าตัวเขาไว้แต่อีกคนสะบัดออก




 
“อย่ามาจับ  ฮึก...ไม่ชอบกันแล้วก็อย่ามายุ่ง ไม่อยากคุยแล้วก็พูดมาเลย”  ชิปหายละไอ้โพซงานเข้าไอ้ที่มึนๆอยู่เพราะเหล้านี่
หายเลย





“พี่ยังไม่ได้พูดเลยว่าไม่ชอบ”  เดินไปคว้าแขนเขาไว้





“แล้ว...”





“พี่หึง”






“...”





“พี่เห็นรูปจูนกับเพื่อนที่นั่งกอดกันโพสต์ลงเฟซบุ๊ค  แล้ววันนี้ที่ไปทุ่งดอกไม้จูนไปกับพี่แต่กลับกับคนอื่น พี่ไปนั่งรอจูนตั้งนานขับรถไปหาเพราะอยากเจอ พี่รู้ว่ามันงี่เง่า พี่รู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์หึงจูน แต่คนมันรู้สึกไปแล้วจะให้พี่ทำไงวะ”




“เลยไปกินเหล้าหรอ?”




“พี่แค่อยากจัดการความรู้สึกตัวเองก่อน  ไม่อยากพูดอะไรตอนนั้นกลัวว่าจะระเบิดออกไปทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์ทำ”




“เลยไม่อ่านไลน์แล้วก็ไม่รับโทรศัพท์ด้วยหรอ?”




“อือ  ก็กลัวว่าถ้าได้ยินเสียงว่าเราอยู่กับคนอื่นพี่คงจะแย่กว่าเดิมไปอีก”




“จูนคิดว่าเพราะพี่โพซเบื่อจูนแล้ว เบื่อที่ต้องคอยไปหาตั้งไกล บางวันก็นั่งรอจนมืด...”





“พี่จีบเราอยู่นะ”




เนปจูนก้มหน้ามองพื้น   





เอาเถอะยอมมาหากันถึงที่นี่ก็ดีใจจะตายห่าอยู่ละ




“ไปอาบน้ำไป คืนนี้นอนนี่แหละเดี๋ยวพี่หาเสื้อผ้าให้”





 
ผมหมุนตัวจะเดินผละไปที่ตู้เสื้อผ้า แต่แรงกอดรัดที่ด้านหลังทำให้หยุดชะงัก





“พี่โพซเป็นแฟนกันนะ”






ห๊ะ





“ห๊ะ!!” ผมยืนอึ้ง  หูฝาดป่ะวะ




“เป็นแฟนกันไง”  เสียงเดิมย้ำมาอีกที




ผมจับมืออีกคนให้คลายอ้อมกอด  หันกลับมามองหน้าให้แน่ใจว่านี่ใช่เนปจูนจริงๆหรือเปล่า




“เมาหรือเปล่าเนี่ย”  ผมถามกลับไป  ใบหน้าเรียวเล็กนั่นมุ่ยเข้าหากันอย่างไม่พอใจทั้งๆที่เหมือนเลือดทั้งตัวจะไหลไปรวมกันที่หน้า






“ก็พี่พูดเองไม่ใช่ไงว่ายังไม่มีสิทธิ์หึง ก็เนี่ยถ้าเป็นแฟนกันก็จะหึงได้ใช่ไหมล่ะ”  ทำกล้าพูดเนอะคนเราทั้งๆที่เขินหน้าแดงขนาดนั้น  น่ารักว่ะ





“ชอบให้หึงหรอ?”



อีกคนส่ายหน้า



“ไม่รู้หรอกว่าชอบหรือเปล่า  แต่ที่แน่ๆคือไม่ชอบให้พี่โพซเมินจูนแบบวันนี้อ่ะ มันไม่โอเคเลยมันกลัวไปหมดหัวใจก็ปวดหนึบๆ”



 
 โอ้ยยยยยน่ารักโว้ยยยยย กลั้นยิ้มจนปวดแก้มสถานการณ์แม่งมาถึงจุดนี้ได้ไงวะ




“แต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้วพี่จะไม่ปล่อยให้จูนไปสกินชิปกับผู้ชายคนไหนแล้วนะทำได้กับพี่คนเดียว พี่จะหึง จะหวงมากๆด้วย จะมีสิทธิ์ที่จะลงโทษถ้าจูนดื้อด้วยนะ เอาหรอ?”





อีกคนจ้องผมตาแป๋วทั้งๆที่ยังมีหยดน้ำเกาะพราวอยู่ที่ขนตา พยักหน้าช้าๆ




“อะไรก็ได้ แค่พี่โพซไม่เมินแบบวันนี้ก็พอ”






ผมคว้าคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอดคางเกยไว้บนไหล่ กระซิบคำตอบที่ข้างหูให้คนในอ้อมกอดฟัง




“งั้นน้องเนปจูนก็เป็นแฟนพี่โพซแล้วนะครับ”





คนฟังพยักหน้ารับเบาเบา สองแขนยกขึ้นมากอดตอบเหมือนกับจะย้ำคำตอบด้วยภาษากาย






คืนนั้นเป็นคืนแรกที่ผมได้นอนกอดแฟนตัวเอง...แฟนผมที่ชื่อเนปจูน





Fin


----------------------------------------------------------------------------------------------

ฟินไหมไม่รู้รู้แค่คนเขียนง่วงมาก ถ้าเจอคำผิดหรือตกหล่นก็แจ้งไว้ได้นะครับ


ยอมรับว่าตอนที่แต่งตอนนี้อารมณ์สวิงมาก


ปล.รักคนอ่านทุกคนครับ ทุกยอดวิวและทุกๆคอมเม้นเป็นแรงผลักดันและกำลังใจที่ดีเสมอ


ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ครับ เจอกันตอนหน้า...(อีกกี่ตอนนะ...)

ปล2. เอาภาพ"ทุ่งหนองหญ้าม้า"มาฝากให้ชมกันครับ ^^


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2017 04:42:39 โดย ChabaSri »

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น่ารักมากกกกกกกกกกก
ชอบบบบ ฟินนนน

กว่าจะเข้าใจกัน น้องโพสน่ารักกกกกกกมาก
มีตอนพิเศษมาอีกนร้า

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้องจูนน่าเอ็นดู..เอาอีกหลายๆตอนเลยนะ ชอบจริงๆ  o13 o13 o13

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
 :o8: น่ารักม๊ากกกกก 

ออฟไลน์ patchamai28

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ชอบมาก น่ารัก  :-[
รอตอนต่อไปค่าา

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่โพซน้องจูน น่ารักจังเลย  :o8: :-[
อ่านไปเขินไป
ขอบคุณที่แต่งนิยายเรื่องนี้นะคะ  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
น่ารักที่สุด

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
 อ่านแล้วเขิน น้องจูนน่ารัก  :hao3:

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เธอเป็นแฟนฉันแล้วววววววววววว ~ มันดีมากกกกกกกกกกกกก ><  เขินหนักมาก เขินจนแม่ถาม มันเขิน. -/////-

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ละมุนเวอร์  :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ wichiwiwie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 ชอบบบบ >< :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ a.amyw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักมากกกกกกกกก โง้ยยชอบบ พี่โพซกับน้องจูน เอาอีกๆๆๆ อยากอ่านตอนเป็นแฟนกัน><

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เสียดายของ (ตอนจบ(จริงๆแล้ว))





วันนี้เป็นวันแรกในรอบเดือนที่โพไซดอนโผล่หน้ามาที่ชมรม



   “โอ้โห นี่หิมะจะตกป่ะวะไอ้โพซเข้าชมรม”  เสียงทักจากรุ่นพี่ดังขึ้นจากมุมหนึ่งของห้อง



   “วันนี้ไม่ไปเฝ้าแฟนรึไง” เพื่อนอีกคนเอ่ยกระเซ้ามา



หลังจากที่โดนขอเป็นแฟน ต้องบอกว่าโดนขอสิเนอะ นั่นแหละๆหลังจากที่เป็นแฟนกันทั้งผมและเนปจูนก็ขึ้นสถานะfacebook  ตัดปัญหาพวกริ้นไร แต่ก็นำมาซึ่งกระแสที่พูดถึงในกลุ่มเพื่อนของทั้งสองฝ่าย ส่วนใหญ่แปลกใจเพราะทั้งผมและอีกคนล้วนเป็นคนที่เป็นที่รู้จัก



   “ไม่เสือก” ตอบเบาๆพร้อมยักคิ้วให้สองจึ๊ก



   “กวนตีน”



   “มันจะไปเฝ้าทำไม วันนี้เขาจะมาหานี่” รุ่นพี่คนเดิมเอ่ยมาเสียงดังทำให้เกือบทุกคนที่อยู่ในห้องแสดงสีหน้าแปลกใจ



   “...”  ผมเลือกที่จะไม่ตอบอะไร หน้าที่ตอบคำถามจากสายตาของคนทั้งชมรมจึงกลายเป็นของรุ่นพี่แทน



   “ก็วันนี้มอนู้นเขาจะเข้ามาบรีพงานที่จะไปออกทริปด้วยกันสัปดาห์หน้าไง ทำลืมนะพวกมึง”



   “อ๋อ”



   “เออว่ะ ลืมเลย”




ผมเลิกสนใจพวกเพื่อนๆและรุ่นน้องที่ทำสีหน้าตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าจะมีเพื่อนจากอีกมหาลัยมาเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะเคยเจอกันแล้วแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป เพราะเหมือนเป็นงานเชื่อมความสัมพันธ์งานแรกของทั้งสองชมรมจากทั้งสองมหาลัย  เป็นโปรเจคใหญ่ของทางจังหวัดซะด้วยท่าทางจะงบเยอะ




RRRRR



เสียริงโทนมือถือของผมดังขึ้น



Neptune




ยิ้มกับมือถือก่อนจะกดรับ



   “ว่าไง”



   [ห้องชมรมอยู่ไหนอ่ะ นี่มาถึงละไปไม่ถูก]



   “มากับใคร”



   [มารถเจ๊]



   “แล้วตอนนี้อยู่ตรงไหนกัน”



   [อยู่ตรงหน้าตึก LAW เนี่ยแล้วไปไงต่อ?]



   “อ่าจากตรงนั้นก็....”



หลังจากบอกทางกันอยู่ครู่หนึ่งรถอีโค่คาร์คันเล็กก็เข้ามาจอดที่ที่จอดรถคณะข้างๆที่อยู่ติดกับห้องชมรม มีรถอีกสองสามคันขับตามมาจอดข้างๆกัน



   “มากันละ แล้วเฮียพวกมึงไปไหนล่ะเนี่ย”



รุ่นพี่ปีสี่หนึ่งเดียวในห้องเอ่ยขึ้น



   “เฮียบอกเดี๋ยวเข้ามาครับ ให้คุยกันไปก่อน” น้องปีสองหน้าใสคนหนึ่งเอ่ยตอบขึ้นเบาเบา



รุ่นพี่คนที่ถามหันไปมองน้องมันหรี่ตามองเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ เหมือนปลงอะไรสักอย่าง อะไรวะ



   “บอกมันรีบมา” พูดแค่นั้นก่อนจะหันไปสนใจกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามา




มีการพูดคุยทักทายกันไปทั่วเพราะหลังจากเจอกันเมื่อหลายเดือนก่อนหลายคนก็สนิทกันมากขึ้นมีชวนกันถ่ายรูปบ้าง ไปเที่ยวกันบ้าง คนที่ชอบอะไรเหมือนๆกันมันก็จะสนิทกันง่ายแบบนี้ล่ะนะ



ส่วนคนที่ตกเป็นที่สนใจเสมอตอนนี้ก็กำลังยืนตัวลีบอยู่หลังพี่สาวประธานชมรม ทำแค่ส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้เพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะถูกรุ่นพี่ยึดตัวไว้



   “มองไรโพไซดอน มองให้น้องพี่ท้องเลยไหมล่ะ” รุ่นพี่สาวสวยเอ่ยเย้ามายิ้มๆ



   “ยังไม่ทำไรเลยจะท้องได้ไง” ตอบกลับไปไม่ได้สะทกสะท้านใดใด เล่นมาเล่นกลับครับ



   “ฮิ้ววววววว/เหยดดดดดดดด”



   “พี่โพซคนจริงว่ะ”




เหลือบมองคนที่ยืนอยู่หลังรุ่นพี่ก็อดขำออกมาไม่ได้ จะเขินอะไรขนาดนั้น ส่วนที่บอกว่ายังไม่ทำอะไรนี่คือยังไม่อะไรจริงๆครับ ไม่ใช่ไม่อยากทำแต่...เกรงใจ ผมว่าถ้าผมบอกเขาก็โอเคแหละแต่ไม่รู้ดิผมไม่อยากฝืนใจเขาว่ะ เอาเป็นว่าเมื่อพร้อมละกันเนอะ




บทสนทนาทั้งหมดหยุดลงเมื่อรุ่นพี่ประธานชมรมถ่ายภาพของมหาลัยเดินเข้ามา พวกเราเริ่มจริงจังกับงาน มีการแบ่งหน้าที่และแบ่งสายเดินทาง การแจกแจงงานเป็นไปอย่างราบรื่น งบทั้งหมดที่ต้องใช้มาจากการท่องเที่ยวของจังหวัด



ทริปนี้เป็นทริป 3 วัน 2 คืน แบ่งออกเป็นสองสายการเดินทาง ผมใช้เส้นสายนิดหน่อยการติดสินบนอีกนิดนึงให้ได้ไปสายเดียวกับเนปจูน อย่ามองผมแบบนั้นครับ แหมมมมมมมมม





   “เดี๋ยวเสร็จนี่พวกสายหนึ่งอยู่คุยกันก่อนนะ ที่เหลือก็แยกย้ายได้เจอกันจันทร์หน้า” พี่ชายประธานชมรมเอ่ยขึ้น  สมาชิกบางส่วนเดินออกจากห้องไป เหลืออยู่น้อยกว่าครึ่ง




พวกสายหนึ่งจะเป็นสมาชิกของทั้งสองชมรมที่ฝีมือดีและมีรถส่วนตัวใช้ เพราต้องออกไปต่างอำเภอที่ไกลกว่าและแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีผมและเนปจูนด้วย




   “เรื่องที่พักถ้าจะพักที่เขาหาให้กูว่าไม่ค่อยสะดวกว่ะ มันไกลแล้วเอาจริงนะ ไม่สวย”  พี่สาวประธานชมรมของอีกมหาลัยเอ่ยขึ้น




อันนี้ผมเห็นด้วยนะ ไปทั้งทีก็หาที่สวยๆวิวสวยๆ จะได้มีรูปดีๆสวยๆมาอัพเล่นบ้าง



   “แล้วเอาไงอ่ะ?”  พี่ชายประธานชมรมผมเอ่ยถาม



   “ผมว่าเราก็รับส่วนที่เขาจะให้เรื่องที่พักมา แล้วเราก็หาเองดีไหม จ่ายเพิ่มเองนิดๆหน่อยๆ” เนปจูนเสนอความคิดเห็น
หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย




   “มีใครเสนอที่ไหนป่ะ? เอาที่สวยๆ ริมแม่น้ำนี่ชอบมาก” พี่สาวคนเดิมพูดต่อ





หลายคนเสนอที่พักที่ตัวเองเคยไปพักหรือเห็นในรีวิวมา หลังจากโหวตกันสองสามรอบและโทร.ไปสอบถามอยู่สองสามที่ก็ตกลงกันได้เรื่องที่พัก



   “โอเค เดี๋ยวประสานไปทางพี่ที่ท่องเที่ยวจังหวัดว่าเราจะพักที่นี่” ว่าจบก็ลุกออกไปโทรศัพท์



   “หาไรกินกันแมะ นี่ยังไม่กินข้าวเที่ยงเลยอ่ะโคตรหิว”  เพื่อนคนหนึ่งที่มาจากอีกมหาลัย



   “เออดี กระชับความสัมพันธ์ไง กินไรดี”




คำถามโลกแตก




ผมมองหน้ากันกับเนปจูน เขายักไหล่ทำนองว่าว่าไงก็ว่าตามกัน หลังจากที่พี่ชายประธานชมรมเดินกลับมาพี่แกก็เสนอให้ไปกินที่ร้านอาหารอีสานร้านหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในตัวเมืองเพราะเป็นร้านของคนรู้จัก ที่สำคัญคือมีแบบจองเป็นห้องVIP ร้องเกะกันยาวๆ 





ตกลงกันได้แล้วก็ออกเดินทางมาที่ร้าน เนปจูนไปรถผม  แหม...ก็แฟนกันอ่ะจะทำไม





ห้องที่โทร.มาจองไว้เป็นห้องวีไอพีขนาดกลางสำหรับคนสิบคน ซึ่งก็พอดีเพราะพวกเรามา8คน


 
จะด้วยความหิวโหยหรือเกรงใจกันก็แล้วแต่ พอมาถึงพวกเราไม่มีใครสนใจคาราโอเกะกันเลย ต่างตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอาเป็นเอาตาย จนอาหารหมดไปสองสามอย่างถึงได้มีคนเดินไปกดเพลงร้อง  โดยส่วนตัวผมแล้วเป็นคนไม่ค่อยร้องเพลงสักเท่าไหร่ คือร้องเล่นๆอ่ะได้แต่ให้มาร้องต่อหน้าคนอื่นนี่มันจะเขินๆอยู่สักหน่อย




มาร้านแบบนี้พวกของมึนเมามันก็ต้องมีบ้างโชคดีที่พวกเราบรรลุนิติภาวะกันแล้วเลยไม่มีปัญหาอะไร ตัวผมเองก็จิบๆนิดหน่อยไม่กล้าดื่มมากเพราะขับรถมาแล้วยังต้องดูแลแฟนตัวเองที่ตอนนี้เริ่มเปิดศึกแย่งไมค์กับเพื่อนอยู่ เนปจูนคนคูลหายไปไหนแล้ว



ผมนั่งคุยกับเพื่อนกับพี่ไปเรื่อยทั้งเรื่องท่องเที่ยว เรื่องถ่ายภาพ ความสนใจต่างๆได้ถูกนำมาแชร์กัน สักพักคนที่แย่งไมค์กับเพื่อนเมื่อครู่นี้ก็เดินหน้ามุ่ยมานั่งลงข้างๆผมแล้วยังหยิบแก้วเบียร์ของผมไปกระดกใส่ปากเอื้อกๆ




“เลอะเทอะหมดแล้ว” ผมเช็ดมุมปากของอีกคนด้วยปลายนิ้ว  เนปจูนหันมามองก่อนจะฟ้องวีรกรรมของตัวเองให้ฟัง



“พวกมันร้องเพลงไรกันก็ไม่รู้ นี่ร้องไม่เห็นได้สักเพลงเลย” ฟ้องเสร็จก็หันไปค้อนให้เพื่อนตัวเองที่กำลังร้องเพลงอย่างเมามันส์



“เราไม่รู้จักเองนี่นา ไม่เป็นไรหรอก” ผมพูดปลอบยีผมอีกฝ่ายเบาเบาเป็นการเอาใจ



“อือออ ก็อยากร้องบ้างอ่ะ”



“ร้องไปหลายเพลงแล้วนี่เมื่อกี๊อ่ะ”



“ฟังด้วยหรอ”



“ก็มองอยู่ตลอดอ่ะ”



“น่ารัก” พูดจบก็ยิ้มหวานมาให้ โอ้โหน้องครับอย่าร้ายกับพี่แบบนี้



นั่งดื่มนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ เนปจูนไม่ได้ลุกไปร้องเพลงกับเพื่อนๆแล้วแต่หันมาสนใจยำทะเลจานใหญ่และแก้วเบียร์ที่อยู่ตรงหน้าแทน ผมปล่อยให้อีกคนดื่มไปเพราะผมก็อยู่ด้วย ไม่เป็นไร ผมเองก็จิบๆบ้างคุยกับรุ่นพี่ไปเรื่อย หันไปอ้าปากรับของที่คนข้างๆส่งให้บ้าง นั่งไปพักหนึ่งก็มีน้ำหนักของอะไรบางอย่างทิ้งลงมาที่ไหล่ตัวเอง หันไปมองก็เจอกันกลุ่มผมนุ่มๆหอมๆ




   “ไง เมาแล้วดิ”  ผมก้มลงไปกระซิบใกล้ๆให้ได้ยินกันสองคน แอบฝังจมูกลงกับหัวหอมๆของคนที่ใช้ไหล่คนอื่นเป็นหมอน



   “อื้อ มึนๆนิดหน่อย” นอกจากจะซบแล้วยังขยับตัวยุกยิกมากอดแขนผมไว้อีก เหมือนจะเมาจริงๆแฮะ เพราะถ้าปกติดีอีกคนไม่มีทางทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนๆแน่



   “กลับไหม?” ผมก้มไปกระซิบถาม



   “มากับเจ๊” อีกคนพึมพำบอก



   “ก็กลับกับพี่ไง พรุ่งนี้วันหยุด”



   “ฮื้ออออล่อลวงว่ะ”



   “ป่าวเลยอ่ะ อยากอยู่ด้วยไม่ได้หรอ?” พูดก่อนจะใช้คางขยี้ๆผมนุ่มๆนั่นไปอีกทีด้วยความหมั่นเขี้ยว



   “อือ ก็ได้ แต่พี่บอกเจ๊เองนะ” ว่าจบก็ขยับตัวไปหยิบแก้วเบียร์ที่ถูกเติมให้เต็มอีกแล้ว แต่ก่อนที่น้องจะเอาเข้าปากผมก็แย่งมาซะก่อน



   “ไรอ่ะ ของจูนนะ” เมาแล้วแน่นอน ปกติถ้าไม่อยู่กันสองคนสรรพนามแบบนี้จะไม่หลุดออกมาจากปากคนคูลเขาหรอกครับ



   “เมาแล้ว เดี๋ยวปวดหัว”



   “อื้อออพรุ่งนี้วันหยุด ได้อยู่กับแฟนด้วยเดี๋ยวให้แฟนดูแล”  พูดจาน่าตีว่ะ



   “ปากดี เดี๋ยวจะโดน” ปล่อยมือยกแก้วให้น้องไป ก่อนจะบีบปากเล็กๆนั่นด้วยความหมั่นเขี้ยว



   “อื้อออออยากโดนจัง ฮิฮิ”  ละมาทำปากจู๋ใส่ คือไร...ร้ายเกินไปละ



ผมไม่ตอบอะไรไปได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆให้กับความร้ายของอีกคน นี่ถ้าไม่เมาคือจะไม่ได้เห็นมุมนี้เลยสิเนี่ย



   “เหม็นความรัก” เสียงแขวะเบาเบาดังมาจากพี่สาวที่เนปจูนเรียกว่าเจ๊ ซึ่งผมก็พลอยเรียกแบบนั้นไปด้วย



   “หึหึ” ผมหัวเราะน้อยๆก่อนจะหอมหัวคนที่คลอเคลียอยู่ข้างๆไปอีก โดนแขวะละไงใครแคร์ก็นี่แฟนผม



   “โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย  คือเจ๊เนี่ยไม่คิดว่าแกจะเป็นคนแบบนี้อ่ะ” คุณเจ๊พูดไปด้วยทำสีหน้าไม่เชื่อไปด้วย



   “เป็นคนแบบไหนครับ?”



   “เป็นคนอวดแฟน ว่าเนปมันอวดละนะแกยิ่งกว่ามันอีกอ่ะ นี่ถ้าพวกเจ๊ไม่อยู่ตรงนี้ด้วยนี่ไม่รวมร่างกันไปละหรอ” ว่าจบก็ทำสีหน้าหมั่นไส้ผมกับคนที่คลอเคลียอยู่ข้างๆนี่เสียเต็มประดา




แล้วที่บอกว่าเนปจูนอวดแฟนนี่คือยังไงวะ โซเชี่ยลของน้องก็ปกตินะไม่เห็นโพสต์อวดอะไร



   “อวดยังไง?” ผมถาม



   “แหมะ อย่าให้พูดเลยจ้า พี่โพซอย่างนั้นพี่โพซอย่างนี้ หมั่นไส้มัน” เบะปากด้วยอ่ะสงสัยจะหมั่นไส้จริงจัง



   “ทำไมอ่ะก็แฟนเราป่ะ เจ๊อย่าอิจดิ” คนที่มัวแต่สนใจของกินอยู่เมื่อครู่เงยหน้ามาตอบโต้ข้อกล่าวหาของพี่สาวคนสนิทแล้วยังกอดแขนผมไว้อีก เออน่าให้เมาบ่อยๆ



   “ย่ะ!!!” 


ผมหัวเราะน้อยๆกับการทะเลาะกันของพี่น้อง



   “ขำไรอ่ะ”



   “ขำจูนกะเจ๊อ่ะแหละ”



   “ฮื่อ นี่ไม่ขำนี่จริงจัง มีแฟนก็อยากอวดอ่ะยิ่งมีแฟนเป็นพี่โพซยิ่งอยากอวด”



   “ทำไมล่ะ”



   “พี่โพซหล่อ นิสัยดี สาวๆต้องเยอะแน่ๆไม่ได้หรอกจูนต้องอวดไว้ก่อนว่านี่แฟนจูนคนอื่นห้ามยุ่ง ห้ามพี่ไปยุ่งคนอื่นด้วย”



   “หวงพี่?”



   “อื้อหวงสิ รักอ่ะก็หวง”  โอ้ยยยยยยน่ารักไปไหนวะคนเรา



   “หวงเยอะๆ พี่ชอบ”



   “จริงนะ แล้วพี่โพซหวงจูนป่ะ?”



   “ต้องหวงสิ แฟนพี่หล่อน่ารักนิสัยดีก็ต้องหวง”



   “น่ารักแล้วรักป่ะ”



   “รักครับ รักน้องจูนนะ” กระซิบเบาเบาข้างหูให้ได้ยินแค่สองคน หอมแก้มอีกฝ่ายเบาเบา นี่ไม่ได้เมาเหล้านะเมาเนปจูนเนี่ย



   “พวกมึงกลับไปไป กูอิจฉาตาร้อนไม่ไหวละ”



   “เออ กลับไปเลยกูเริ่มรกหูรกตาละเนี่ย”



   “จะจีบกันให้ดูอีกนานป่ะ กลับบ้านไปเลย”


   “ฯลฯ”



แหมแค่สวีทกับแฟนนี่ก็ต้องโดนหมั่นไส้โดนไล่ด้วยอ่ะ ขอที่ยืนให้กับเราสองคนด้วยครับ แต่ผมก็แอบเห็นด้วยนะดูท่าทางเนปจูนจะเมาแล้วจริงๆ พากลับดีกว่าก่อนจะได้ปล้ำคนกลางห้องคาราโอเกะ



   “กลับกันไหม เพื่อนไล่แล้วอ่ะ” ผมถามอีกคนที่ยังใช้หัวพิงไหล่ผม



น้องไม่ตอบอะไรแค่พยักหน้าหงึกหงัก ผมฝากเงินค่าอาหารของสองคนวันนี้ไว้กับพี่ชายประธานชมรม ก่อนจะจูงมือคนเมาให้ออกจากร้านมา



ขึ้นรถมาคนเมาก็บ่นงุ้งงิ้งๆอะไรตลอดทาง คว้ามือผมไปบีบเล่นอีกแหน่ะ



   “เมาแล้วเป็นงี้พี่ไม่ให้ไปดื่มกับคนอื่นแล้วนะ” ผมพูดขึ้นเบาเบาตอนเราติดไฟแดง



   “ทำไมอ่า” หันมามองละทำปากยื่นอีก เดี๋ยวจะไม่รอดนะน้องนะ



   “เมาแล้วทำตัวน่ารักเรี่ยราด”



   “ฮื้ออออไม่มีเลยใครน่ารัก นี่เนปจูนคนคูล”



   “หึหึ”  ครับไม่น่ารักเลยครับ หลงจะตายละเนี่ย



 เราไม่ได้คุยอะไรกันอีกหลังจากนั้น จนมาถึงหอผมต้องหิ้วคนเมาให้ขึ้นมาบนห้อง ยังดีที่มีลิฟต์



   “อาบน้ำไหม” ผมถามคนที่ทิ้งตัวพาดไปกับเตียงนอนในท่าคว่ำ ขายังอยู่นอกเตียงอยู่เลยอ่ะคิดดู



   “อาบ เดี๋ยวขอพักแป๊ปนึงก่อนนะ”



ผมปล่อยให้คนเมานอนไปก่อน ส่วนตัวเองก็อาบน้ำชำระร่างกาย



ออกจากห้องน้ำมาก็งานเข้าเลยเพราะคนที่ตอนแรกนอนพาดอยู่บนเตียงตอนนี้นั่งน้ำตาไหลพรากๆอยู่ ผมก้าวพรวดเดียวถึงตัวเขาก่อนจะโอบอีกคนไว้



   “ฮืออออออ”



   “ชู่ววว เป็นอะไรครับร้องไห้ทำไม”



   “ฮึกฮืออออออพี่โพซ” เอ้าสะอื้นด้วยทีนี้



   “เป็นอะไรไหนบอกพี่”



   “ฮืออออออเมื่อกี๊ฝันร้ายอ่ะ ฮึก ปวดหัวด้วย” เรื่องที่ได้รู้อีกเรื่องวันนี้คือเมื่อคนคูลเขาเมาเขาจะงอแงด้วย



   “ชู่วววววเงียบก่อนนะครับ ยิ่งร้องไห้จะยิ่งปวดหัวนะ” หอมหัวคนคูลเขาไปทีนึงเป็นการเอาใจ
เห็นน้องพยายามกลั้นสะอื้น ยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆละสงสาร



   “ไหนพี่ดู ปวดตรงไหน” ผมช้อนคางอีกคนขึ้นมา มองสำรวจไปทั่วใบหน้าคม




ตาแดงด้วยว่ะ สงสาร




ผมจุมพิตที่เปลือกตาของเนปจูน หอมหน้าผากเนียนเบาๆก่อนจะลามมาที่แก้ม คนคนนึงจะหอมไปหมดทุกส่วนของร่างกายแบบนี้หรอ ใจด้านมืดอยากจะกระชากเสื้อผ้าของน้องออกละจุมพิตไปให้หมดทุกส่วน แต่ใจด้านดียังต้านทานไว้ว่าให้รอให้อีกคนพร้อม




จ้องลึกเข้าไปในแววตาของอีกคนก็รู้เลยว่าความปรารถนาของตัวเองที่กดไว้มันมากมายขนาดไหน Sex Appeal สูงมากขนาดนี้อดทนได้ไม่ใช่คนละ



   “พี่โพซ...”



   “หืม?” รับคำในลำคอแผ่วเบา



   “กอดกัน นะ” น้ำเสียงออดอ้อนแหบพร่านี่ไปหัดมาจากไหน




คิดว่าจะทนได้ไหม




มีต่อด้านล่าง--->
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2017 19:38:15 โดย ChabaSri »

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ต่อจากข้างบน ---->



ผมกดริมฝีปากเข้ากับปากแดงๆนั่นให้รู้ว่าไม่ได้ล้อเล่น กลิ่นแอลกอฮอล์เจือจางกรุ่นกลิ่นหลอกล่อให้หลงมัวเมา รู้ตัวอีกทีน้องก็นั่งคร่อมตักผมสองแขนคล้องอยู่ที่คอ ผมผละริมฝีปากออกจ้องลึกไปในดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยที่ผมหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น แรงหอบหายใจน้อยๆกับอาการที่จ้องตาตอบกลับมาทำหัวใจผมเต้นกระหน่ำรัวแรง




เนปจูนใช้นิ้วเกลี่ยเบาๆที่ท้ายทอยผมไล่เรื่อยไปจนถึงยางรัดผมที่ผมมัดรวบไว้ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ เขาดึงยางรัดผมของผมออกแผ่วเบาตลอดเวลาที่ทำแบบนั้นเราไม่ได้ละสายตาไปจากกันเลย วินาทีที่ยางหลุดออกความอดกลั้นที่กดไว้ก็ถึงจุดสิ้นสุด




ผมพลิกกดร่างโปร่งบางลงกับเตียงก่อนจะลงทันฑ์คนร้ายกาจด้วยจุมพิตที่ร้ายกาจเท่ากัน เสียงเครือครางแผ่วเบาดังมาจากคนใต้ร่างผมผละออกมาจ้องหน้าอีกคนอีกครั้ง อาการกัดริมฝีปากของน้องทำผมสติแทบหลุด ร่างกายโปร่งบางถูกบดเบียดแนบแน่น และถูกรุกรานโดยริมฝีปากร้อนๆที่ไล่แตะตั้งแต่ขมับ เรื่อยมาถึงสันกรามที่เรียวได้รูป และซอกคอหอมกรุ่น




รับรู้ถึงแรงจิกทิ้งระบายความซ่าน  ลิ้นร้อนลุกล้ำริมฝีปากบางอีกครั้งความรุนแรงของอารมณ์ที่ถูกพัดให้โหมกระพือแสดงออกมาด้วยเสียงหยาบโลนของจุมพิต ทว่าหวามไหวในความรู้สึก




เรียวขายาวที่เกี่ยวกดเข้ากับสะโพกสอบบ่งบอกอารมณ์ที่โหมกระพือของคนใต้ร่าง มือข้างหนึ่งลูบไล้เรียวขาของคนน้องด้วยความต้องการไม่ต่างกันมืออีกข้างก็มิได้ว่างเว้น กระดุมเสื้อนักศึกษาถูกปลดออกทีละเม็ดปลดเปลื้องความงามต่อสายตาตนเอง มือลูบผ่านที่ใดลมหายใจอุ่นร้อนก็รินรดที่นั้น ผิวสีแทนเนียนสวยตัดกับยอดทับทิมสีหวานชวนลิ้มลอง ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่บิดเร่ากัดปากกลั้นเสียงครางก่อนจะเผยยิ้มร้ายออกมา



ในวินาทีที่ครอบริมฝีปากลงไปเสียงหวานที่อยากได้ยินก็ดังขึ้น



   “อื้อ อื้มมม”  แม้จะพยายามกลั้นแล้วก็ยังเล็ดลอดออกมา




เสียงเครือครางดังอยู่ไม่ได้หยุดพัดพาความดำมืดของห้วงอารมณ์ให้โหมแรงขึ้น




กางเกงสแลคสีดำที่ติดกายคนน้องอยู่ถูกปลดออกไปเหลือเพียงอันเดอร์แวร์สีเข้มติดกาย




ลมหายใจหอบขาดเป็นช่วงยามเมื่อริมฝีปากและลมหายใจอุ่นร้อนปัดป่ายต่ำลงเรื่อยๆขบกัดหยอกล้อเรียกเสียงเครือครางไม่ขาดสาย




จนเมื่อปลดเปลือยต่อหน้า ผมจ้องมองความงดงามเบื้องหน้าอยากไม่อยากเชื่อสายตา ผิวสีแทนที่เนียนสวยไปทั้งร่างตัดกับผ้าปูที่นอนสีขาวบิดเร่าไปด้วยความต้องการเรือนร่างงดงามราวรูปสลัก โค้งเว้าและแข็งแรงผสานไปกับความอ่อนไหวของเนื้อหนังจนพาลทำให้เลือดสูบฉีด




 ดวงตาฉ่ำชื้นนั้นจ้องมองตรงมาที่ผมริมฝีบางบวมเจ่อเผยอน้อยๆเชิญชวน และแน่นอนว่าผมตอบรับคำเชิญนั้นด้วยความเต็มใจ




ผมเปลื้องเสื้อผ้าด้วยความต้องการที่เริงแรง ปรารถนาที่จะสัมผัสอีกฝ่ายด้วยตัวตนทั้งหมดของตนเองโจนจ้วงเข้าไปในกองไฟที่งดงามนั้นด้วยความเต็มใจ





จุมพิตเร่าร้อนถูกมอบให้อีกครั้งและอีกครั้งราวกับนี่เป็นแหล่งน้ำเพียงหนึ่งเดียวที่ต้องการจะได้ดื่มกิน





ขาเรียวขัดไขว้กันกดให้ความต้องการอุ่นร้อนทั้งสองสัมผัสกัน การกระทำของเนปจูนปลดสัตว์ร้ายในตัวผมออกมาเสียงคำรามพึงพอใจนั้นดังออกมาจากลำคอด้วยความไม่ตั้งใจหากเป็นไปตามสัญชาติญาน




มือข้างหนึ่งกอบกุมความต้องการทั้งสองนั้นเข้าหากันขยับรูดรั้งแผ่วเบา



   “อ๊า อื้ออเสียว” เสียงแหบพร่ากระซิบบอกแผ่วเบาข้างหู กระตุ้นให้กระบัดข้อมือรัวเร็วขึ้น




ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลฉ่ำหวานนั้นด้วยความปรารถนาที่มากมายไม่แพ้กัน



   “ดีรึเปล่า แบบนี้ดีไหม” กอบกุมแน่นขึ้นพร้อมกระซิบถามโดยมิได้ละสายตา



   “อ๊า ดี ฮื้อออพี่โพซ”




โจนจ้วงทะยานไปด้วยความต้องการที่ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะแตกพร่าเป็นความปรารถนาขุ่นคลัก




ลมหายใจหอบหนักหน่วงของเราสองคนปะปนกัน ยังไม่ทันที่ผมจะปรับลมหายใจเป็นปกติได้คนที่นอนอยู่ใต้ร่างก็พลิกตัวมานั่งครอมตักผม แหม่...มุมนี้วิวดีชะมัด




น้องใช้นิ้วเกลี่ยใบหน้าของผมก่อนจะละเรื่อยไล้ต่ำลงเรื่อยๆ ลมหายใจผมติดขัดใจเต้นแรงผมมองตามมือซนๆนั่นไปเรื่อยๆจนมันหายเข้าไปในริมฝีปากบวมเจ่อนั่น หนึ่งนิ้ว...สองนิ้ว....สามนิ้ว


เสียงดูดจ๊วบจ๊าบกับน้ำลายใสใสที่เลอะออกมาทางมุมปาก...



แม่งแค่มองก็จะแตกแล้วว่ะเอาจริงๆ




คนขี้ยั่วยังไม่หยุดเท่านั้น ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยมองตรงมาที่ผมมือข้างหนึ่งดันอกผมไว้ก่อนจะยกตัวเองขึ้นเผยให้เห็นช่องทางสีเข้มแล้วนิ้วที่ถูกชะโลมไปด้วยน้ำใสใสนั่นก็หายเข้าไปในนั้น หนึ่งนิ้ว...สองนิ้ว...สามนิ้ว



ขยับเข้าออกพร้อมกับหมุนคว้านน้อยๆเสียงครางอื้ออ้านี่มัน!!




 ไม่ไหวละนะ




ผมตั้งท่าจะพลิกอีกคนให้นอนลงแต่เขาไม่ยอม มือข้างนั้นยังดันอกผมไว้ มือข้างที่แต่เดิมผลุบเข้าออกช่องทางนั้นบัดนี้ประคองความปรารถนาของผมไว้ จ่อมันเข้ากับความรุ่มร้อนที่ผมต้องการที่จะเข้าไปเหลือเกิน




ผมส่งเสียงคำรามในลำคออย่างสุดจะกลั้นเมื่อพบว่าเนปจูนรุ่มร้อนและรัดแน่นเพียงใด ความต้องการดุจผลิแตกออกมาเสียเดี๋ยวนั้น การโอบรัดที่ค่อยเป็นค่อยไปทำให้ผมแทบคลั่ง ผมจับสะโพกสวยที่กำลังกดตัวเองลงช้าๆนั้นไว้มั่นก่อนจะกระแทกตัวตนของตัวเองเข้าไปด้วยความต้องการที่มากล้น




   “อ๊า!!พี่โพซ มันอื้อ..” เสียงอู้อี้ประท้วงดังมาจากคนที่ทำตัวร้ายกาจ




เนปจูนตัวสั่นระริกมองผมราวกับจะตัดพ้อ ขอความเมตตาและแน่นอนผมมันคนใจดีอยู่แล้ว





ผมผุดลุกขึ้นนั่งกอดน้องเอาไว้ก่อนจะขยับสะโพกกระแทกกระทั้นจนอีกคนหัวสั่นหัวคลอนส่งเสียงครางไม่ได้ศัพท์ แขนเรียวกอดรัดผมแน่นเข้า



   “อ๊า อ๊า อ๊า”  เสียงครางและลมหายใจหอบกระเส่าดังขึ้นข้างหูยิ่งกระตุ้นปีศาจในตัวผมให้แผงฤทธิ์มากขึ้น




ผมวางน้องลงกับเตียงจับข้อเท้าให้แยกออกกว้าง กดย้ำร่างกายให้ลึกล้ำรุนแรงกว่าเดิม โจนจ้วงเข้าใส่ด้วยความต้องการที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้มากมายขนาดนี้





เสียงครางของเราสองคนดังไปทั่วห้องกว้างๆนี่ อารมณ์รุนแรงที่สาดพัดใส่กันและกันดุจพายุที่โหมกระหน่ำ คลื่นอารมณ์โหมกระพือเป็นเสียงหยาบโลนจากท่วงท่าของเราทั้งคู่ ถาโถมความต้องการใส่กันไม่หยุดยั้งราวกับว่าเรารู้จักร่างกายของกันและกันมาเนิ่นนาน ลุ่มหลงมัวเมาราวน้ำจันชั้นเลิศ กระหายหิวดุจนี่เป็นผลไม้จากสวรรค์เต็มไปด้วยความหฤหรรษ์แห่งความต้องการ หวานล้ำและเปี่ยมสุข





ความรุ่มร้อนแข็งแกร่งที่ตอกลึกเข้าสู่ช่องทางฉ่ำชื้นสร้างความเสียวซ่านให้กับคนใต้ร่างไม่ต่างกับผมที่รู้สึกราวกับมีไฟฟ้าสักหมื่นโวลต์ไหลผ่านไปทุกอนูรูขุมขน ลมหายใจหอบถี่ประสานกันหนักขึ้นเสียงครางหวานกรีดร้องขอสัมผัสที่หนักหน่วงขึ้น  แสงระยิบที่ปลายทางเรียกร้องให้โจนทะยานเข้าหา ความรุ่มร้อนสองสายประสานกันจนมิอาจห้ามขมวดเกลียวแน่นบีบรัดจนมิอาจต้านทานก่อนจะแตกละเอียดพร่างพราย...





ผมหอบหายใจหนักหน่วงซุกซบลงกับซอกคอหอมกรุ่นของคนรัก เสียงที่เงียบไปของน้องทำให้ผมรู้ว่าคงผล็ยหลับไปแล้ว แล้วตอนแรกทำเก่ง โถ่...




ผมถอดถอนร่างกายออกมาจากช่องทางฉ่ำชื้น น้ำสีขาวขุ่นไหลตามออกมาภาพที่เห็นทำเอาผมอยากจะฝังตัวเองเข้าไปในนั้นอีกรอบ แต่ก็สงสารคนที่ผล็อยหลับไป





ตัวเองเดินเข้าไปอาบน้ำอีกรอบก่อนจะออกมาพร้อมกะละมังใบเล็กกับผ้าขนหนู จัดการทำความสะอาดร่างกายให้น้องสวมเสื้อผ้าให้เสร็จสรรพก่อนจะเอนตัวลงนอนข้างกัน ดึงตัวอีกคนเข้ามากอดหอมหัวเหม่งๆนั่นไปทีนึงก่อนจะกระซิบแผ่วเบา





   “รักจูนนะ ฝันดีครับ”











-เช้า-







ถ้าคุณคิดว่าเราจะตื่นมาแล้วยิ้มสดใสบอกอรุณสวัสดิ์ให้กันบนเตียงแล้วล่ะก็คุณคิดผิดครับ




ในเมื่อวันนี้เป็นวันหยุดกว่าผมจะตื่นขึ้นมาก็เกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว ส่วนคนเก่งเมื่อคืนนี้ก็นอนแฮงค์อยู่บนเตียง ตื่นมาก็บ่นปวดหัวแล้วก็สั่งผมไปซื้อข้าวมาให้ ผมมันก็แฟนที่ดีอ่ะเนาะรับบัญชาทุกอย่าง ทั้งข้าวทั้งขนมแล้วเครื่องดื่มแก้แฮงค์ด้วย




ตอนนี้คนแฮงค์เลยนั่งกินขนมบนเตียงหน้าตาเฉย...





ส่วนตัวผมก็นั่งทำรูปส่งลูกค้าวนไปครับ ชีวิตช่างภาพใครว่าง่ายมีเมียเด็กให้ต้องเลี้ยงดูก็ต้องขยันทำงานสิเนอะ^^




   “พี่โพซทำไร” เสียงเนือยๆดังข้ามห้องมา ผมหันไปดูก็เจอคนหัวยุ่งๆยังจกขนมเข้าปากไม่หยุด



   “ทำรูปส่งลูกค้า”



   “ฮื้ออออขยันว่ะ นี่ยังไม่ทำเลยขี้เกียจอยู่”



   “ขี้เกียจหรือเจ็บตูด” ผมพูดแซ็ว



   “ไอ้พี่โพซ!!!!” หมอนเต็มหน้าเลยครับ



   “อะไรทำร้ายพี่หรอ” ผมลุกขึ้นหยิบหมอนบนพื้นก่อนจะย่างสามขุมเข้าไปหาเจ้าแกะน้อยบนเตียง



   “อะไร อย่าเข้ามานะเว่ย!!!!” โวยวายว่ะคนเรา



   “เจ้าแกะน้อย มาให้ข้าทำโทษซะดีดี”



   “ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก”





แล้วการลงโทษเจ้าแกะน้อยของผมก็จบลงที่เสียงครางกระเส่าแผ่วเบาเคล้าไปกับแดดยามบ่ายที่ทอทอดเข้ามาภายในห้องนอน

 




ถ้าถามว่าอีกครั้งว่าคุณเคยลมหายใจสะดุดไหม...




มันอาจเกิดขึ้นเมื่อคุณสบตาเข้ากับใครบางคน...




ไม่แน่ว่าแค่สบตากันครั้งแรกอาจจะทำให้การสบตาครั้งต่อๆมามีความหมายมากขึ้นก็ได้...









จบ.....จริงๆแล้วนะ


------------------------------------------------------------



คุยกันสักนิด


ก็เดินทางมาจนถึงตอนนี้จนได้เนอะ^^

ตอนแรกลังเลมากว่าจะให้น้องจูนโดน”กอด”ดีไหม แบบอารมณ์เหมือนพ่อหวงลูกสาว5555 แต่ก็คิดว่าสงสารพี่โพซเลยออกมาแบบนี้ 


คนเขียนไม่ถนัดการเขียนNCในมุมมองบุคคลที่หนึ่งแบบนี้เลย มันเขินๆยังไงไม่รู้แต่ก็พยายามให้มากที่สุดดีมากดีน้อยหรือไม่ดีอย่างไรก็เม้นบอกกันบ้างนะจ๊ะ แอบใจหายที่คิดว่าจะไม่ได้เขียนเรื่องราวของสองคนนี้แล้วแต่ก็ให้จบเถอะเรื่องราวต่อจากนี้ก็ให้คนอ่านจินตนาการต่อเองเนอะ^^ 


ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นทุกๆกำลังใจที่มีให้กันเสมอมา


ขอบคุณน้องญิ๋งบุญคนสวยที่เชียร์ให้เขียนNC ออกมาจนได้


ขอบคุณคนอ่านทุกๆคนที่เข้ามาอ่านจนถึงบรรทัดนี้^^


เจอกันใหม่เรื่องหน้านะคะ รักแหละ


ปล.ฝากเรื่องสั้นอีกเรื่องให้ไปลองอ่านกันด้วยเนอะ เผื่อว่าง แหะๆ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61534.0



ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เนปจูนน่ารักอะ มิน่าล่ะแฟนหวง อิอิ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:

ชอบอ่ะ แต่งเรื่องยาวเลยได้ไหม เรื่องสั้นอ่านไม่สะใจเลยยยย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด