หงส์ซาน #27 The End (ตอนจบ) [P.18][12-8-2017]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หงส์ซาน #27 The End (ตอนจบ) [P.18][12-8-2017]  (อ่าน 180043 ครั้ง)

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][28-6-2017] 100%
«ตอบ #330 เมื่อ26-06-2017 19:28:18 »

#17 จูบผ่านทาง

#หงส์ซาน
เรากลับมาถึงวิมานกันอีกครั้ง ได้ของฝากมาแยะเลย (เราขนซื้อกันก่อนขึ้นเครื่อง) พี่หมอซื้อเยอะสุด เห็นจำนวนที่ขนแล้วคิดว่าพี่หมอจะเอาไปขาย เยอะมาก พี่หมอบอกคนที่ต้องการเอาไปฝากเยอะกว่าจำนวนที่หอบได้ซะอีก
 
ผมได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเองได้ แต่ต้องมีซันไรส์เดินทางไปด้วย รุ่งขึ้นผมจึงขนของฝากที่ซื้อมาใส่รถ (ซันไรส์เป็นคนขับ) พากันกลับบ้าน ผมเลือกกลับช่วงเย็นๆ คนในบ้านจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พอถึงผมก็เอาของฝากไปแจกทุกคน โดนแซวอย่างหนักว่าผิวพรรณผ่องใส
 
แน่นอนสิ เพิ่งกลับมาจากสถานที่ฟอกปอดไม่ให้ดีได้ไง
 
ผมอยู่คุยกับทุกคนโขมงโฉงเฉง กระทั่งได้เวลากลับ ผมถึงขอตัวทุกคนขึ้นไปเอาของที่ห้อง เฮียฮันเดินตามมาด้วย
 
“เฮียดีใจที่ลื้อปรับสภาพได้นะหงส์”
 
ผมมองหน้าพี่ชายตัวเอง
 
“ช่วยไม่ได้ ยังไงก็ต้องอยู่ให้ได้จนกว่าจะหย่า”
 
เฮียฮันจ้องหน้าผม ทำสีหน้าลำบากใจ
 
“เฮียว่าอาจไม่มีวันนั้นก็ได้”
 
“หะ เมื่อกี้เฮียว่าอะไรนะ”
ได้ยินไม่ชัดครับ
 
“เปล่าหรอก หงส์รู้สึกอะไรกับไป่หลงแล้วรึยัง”
 
ผมทำหน้าแหยงใส่ทันที
 
“รู้สึกสิ”
 
“รักเขาแล้ว?”

“เปล่า เกลียดมากต่างหากล่ะ”
ผมตอบกลับทันที เฮียฮันมองหน้า ส่ายหัวไปมา ลูบหัวผมเบาๆ ผมมองอาเฮียตาปริบๆ เดินไปหยิบของที่ต้องการมาใส่กล่อง ไม่ลืมหยิบตุ๊กตาหมีตัวโปรดมาด้วย มาครั้งที่แล้วไม่กล้าเอาไปด้วยเพราะกลัวไอ้บ๊วยมันล้อ
 
“เฮียว่าไป่หลงเขาเป็นคนดีนะ”
 
ผมหันไปมองคนพูด
 
“ดีตรงไหน ดีแต่ออกคำสั่ง บังคับกันตลอด”
 
“เขาทำร้ายร่างกายลื้อเหรอ”
เฮียฮันถามมาด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม ผมชะงักทันที ขืนบอกว่าใช่ เฮียต้องรู้แน่ๆ ว่าผมตกเป็นของหมอนั่นทางพฤตินัยแล้ว
 
“ปะ เปล่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย” ผมเกาแก้ม “เพียงแต่บังคับเรื่องอื่นๆ น่ะ เฮียๆ เอากล่องนั่นให้อั๊วหน่อย”
ผมรีบเสความสนใจให้หยิบของที่อยู่สูงๆ ให้ เฮียฮันหันไปมองตาม เดินไปหยิบให้

ผมพ่นลมหายใจแรง รับกล่องมาถือ ดึงเอาเฉพาะของที่ต้องการออกจากกล่อง ปิดฝาไว้ตามเดิม ยื่นคืนให้เฮียเก็บเข้าที่
 
ผมมองไปรอบๆ อีกทีว่ามีอะไรให้ต้องเอาอีกไหม แต่ไม่มีแล้วครับ
 
เฮียฮันมองหน้าผมอีกรอบ จ้องตา ทำท่าจะพูดแล้วเงียบเสียงลง ก่อนเอ่ยแผ่ว
 
“เฮียไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดนี่เป็นโชคดีหรือโชคร้ายนะ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็เปิดใจหน่อยละกัน แต่ถ้าไม่ไหว เฮียพร้อมช่วยเสมอ เพราะไงหงส์ก็น้องเฮีย”
 
ผมฉีกยิ้มกว้าง เฮียอาสาถือกล่องให้เพราะค่อนข้างหนัก พอเปิดประตูออกไปก็เห็นซันไรส์ยืนคอย รายนั้นเดินเข้ามารับกล่องไปถือด้วยตัวเอง
 
“มีแค่กล่องเดียวใช่ไหม”
มันถามนิ่งๆ ผมพยักหน้า รายนั้นเดินไปที่รถ ผมเดินเคียงไปกับพี่ชายต่อ หลายคนเดินมาส่ง ผมยกมือไหว้รอบวง บอกลาทุกคนก้าวขึ้นรถไป
 
 



บ๊วยมันยังไม่กลับเลยครับ สงสัยจะติดงาน ผมอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยเตรียมเข้านอน พออาบน้ำเสร็จประตูห้องนอนก็เปิดออก ผมมองคนเข้ามาใหม่ สีหน้ามันเพลียอย่างเห็นได้ชัดเลย
 
ว่าจะไม่สนใจ แต่ไม่เคยเห็นมันในสภาพโทรมแบบนี้มาก่อนจริงๆ
 
“งานมีปัญหาเหรอ”
 
มันยิ้ม เดินเข้ามาใกล้ จับผมสูบพลังไปหนึ่งดอก พอปากผมชาได้ที่มันก็ปล่อย ลูบหัวผมเบาๆ
 
“หงส์นอนก่อนละกัน ขอเฮียอาบน้ำก่อน”
 
ใครถามวะ อยากอาบก็อาบ อยากนอนก็นอน แต่อย่ามายุ่งตอนนอนละกัน
 
ผมไม่ได้รวนทางคำพูดครับ แค่ความคิด ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ มันพูดแค่นั้น หันหลังเดินดุ่มๆ หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป
 
ผมเดินขึ้นเตียงก่อน ทิ้งตัวลงนอน อยากหลับไปก่อนเหมือนกัน แต่มันระแวงครับ กลัวโดนทำอะไร ผมนอนระแวงอยู่กระทั่งมันเดินออกมา สีหน้าดูสดชื่นขึ้นมาหน่อย
 
ผมแกล้งหลับตาเมื่อมันมองมา พยายามนอนนิ่งๆ พักใหญ่มันก็ก้าวขึ้นมานอนเคียงข้าง ปิดไฟหัวเตียง ดึงร่างผมเข้าไปไว้ในอ้อมแขนอย่างที่มันชอบทำประจำ หัวใจผมไหวแรง ผมนอนหันหลังให้ มันขยับจูบแก้มผมเบาๆ กระซิบแผ่ว
 
“ราตรีสวัสดิ์ หงส์ของเฮีย”
อ้ากกกก ทำไมต้องมาทำอะไรสวีทหวานแหววใส่กันแบบนี้ด้วยวะ
 
ผมไม่ตอบรับอะไรทั้งนั้น ทำเป็นนิ่งเสีย ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงลมหายใจของมันเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกว่ามันได้หลับสนิทไปแล้ว

ผมนอนฟังเสียงลมหายใจของมันอยู่นาน พยายามข่มใจให้หลับก็หลับไม่ได้สักที

ผมลืมตา จ้องนิ่งบนกำแพงว่างเปล่าจนสายตาชาชินกับความมืด ค่อยๆ ขยับพลิกหันหน้าเข้าหาคนตัวสูง ขยับให้เบาที่สุด เพราะไม่อยากให้มันตื่น มันยังไม่รู้ตัว นอนนิ่งแขนยังพาดนิ่งไว้บนลำตัวผม ผมเงยหน้ามอง
 
มันคงจะเหนื่อยมากจริงๆ ถึงได้หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ ผมค่อยๆ ยกมือขึ้นแตะปลายคางมันเบาๆ ไต่ขึ้นไปยังริมฝีปาก ร่องจมูก ปลายจมูก ดีดไปเบาๆ ทีเพื่อแก้แค้น
 
มันยังไม่รู้สึกตัว
 
“หลับเป็นตายเชียวนะ”
ผมกระซิบต่อว่า มันยังคงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอตามเดิม
 
หลากหลายความรู้สึกตีกันให้วุ่น หัวใจเต้นในจังหวะแปลกๆ ด้วย
 
หัวใจ
หัวใจ.. ความรัก
หงส์รักเฮีย
 
คำที่ผมถูกมันบังคับให้พูดแวบผ่านเข้ามาในหัว ผมรีบสลัดทิ้ง จ้องมองอกซ้ายของมัน ผมลองเลื่อนมือไปแตะ สัมผัสได้ถึงแรงเต้นชัดเจน ผมขยับเข้าไปใกล้อีกนิด จรดหน้าผากชิดนำไปก่อน ตามด้วยแก้ม แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ ออกจะหนาวนิดๆ ด้วย พอได้รับไออุ่นจากตัวมันแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นยังไงพิกล กลิ่นตัวมันหอมด้วย ผ่อนคลายยังไงบอกไม่ถูก
 
ดวงตาผมค่อยๆ หรี่ปรือลงอย่างเชื่องช้า หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีก
 




 
อืม..
ผมขยับ เพราะรู้สึกถึงแรงรัดจากบางสิ่ง รู้สึกอุ่นๆ ที่หน้าผากด้วย ผมค่อยๆ ปรือตามอง
 
“อรุณสวัสดิ์”
 
ผมกะพริบตาปริบๆ มอง ใบหน้าคมคายคุ้นเคยอยู่เหนือผมขึ้นไป ปากร้อนแนบลงมาบนหน้าผากผมเบาๆ รู้สึกถึงวงแขนแกร่งที่รัดมารอบตัวผมจนแน่น ผมตาโต รีบดันตัวออกอย่างรวดเร็ว ลุกนั่ง
 
“เป็นครั้งแรกนะที่หงส์นอนหันหน้าให้เฮีย”
 
“หลับหรอก ไม่รู้เรื่อง”
ผมมุสาไป บอกได้ไงว่าตั้งใจพลิกหันมาหาเอง หนำซ้ำยังหลับไปง่ายๆ เพราะกลิ่นสาบอุ่นๆ ของเขาด้วย ผมโดดไปยืนอยู่ข้างเตียง
 
“เฮียรีบอาบน้ำก่อนสิ จะได้ไปทำงาน”
 
มันยิ้มนิดหนึ่ง ลุกอย่างขี้เกียจมานั่งข้างเตียง กางสองแขนยื่นมาด้านหน้าคล้ายพ่อหรือแม่ที่ต้องการให้ลูกน้อยวิ่งเข้าไปสู่อ้อมแขน
 
“ขอเฮียกอดรับอรุณหน่อย”
 
“ถ้าเฮียจะลีลาขออั๊วอาบก่อนละกัน”
ผมหันหลังทันที กำลังจะก้าว แต่ความเร็วระดับผมหรือจะสู้คนด้านหลัง สองมือมันรวบจับเอวผมไว้ทันทีลากจนผมก้าวถอยหลังไปนั่งแหมะอยู่บนตักมันในท่านั่งหันหลังให้นั่นแหละ แล้วมันก็ก้มหอมแก้มผมฟอดใหญ่ซ้ายขวาสลับกันไปมา ผมดิ้นดุ๊กดิ๊ก แต่ไม่หลุดหรอก วงแขนมันเหนียวอย่างกับเชือกล่ามช้าง
 
“ปล่อย จะไปอาบน้ำ”
 
“ขอเฮียเพิ่มพลังก่อนไปทำงานหน่อย”
 
“โอ๊ย ถ้าอยากได้พลัง ไปขอซุปเปอร์แมนเลยไป!! แม่ครัวก็ได้ ข้าวต้มสักถ้วย ได้พลังเหมือนกัน”
 
มันหัวเราะ หอมแก้มผมอีกฟอดใหญ่จนแก้มบี้
 
ผมพยายามเอนตัวหลบ มันยอมปล่อยผมออกดีๆ เดิมฮัมเพลงคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ผมยังยืนนิ่งอยู่กับที่ พอเห็นว่าประตูห้องน้ำปิดลงแนบสนิทแล้วถึงได้ยกมือขึ้นมาลูบแก้มเบาๆ
 
มันร้อนผ่าว
 
เลื่อนต่ำลงไปที่หัวใจ
 
มันเต้นแรง
 
ยกสูงขึ้นมากุมแก้มอีกรอบทั้งสองข้าง
 
มันร้อนยิ่งกว่าเดิมอีก
 
ผมรีบสลัดอาการแปลกๆ ในร่างกายทิ้ง หันรีหันขวาง แล้วผมจะทำอะไรระหว่างรอดี
 
ผมเดินเกร่ไปทั่วทั้งห้อง หยิบหนังสือของไอ้บ๊วยที่มักมีวางไว้ยังมุมต่างๆ ขึ้นมาเปิดดู ดีว่าบ๊วยมันไม่ปัญญาอ่อนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นแบบพี่หมอ กระทั่งประตูห้องน้ำเปิดออก ผมหันไปมอง

มันเดินหน้านิ่งออกมา ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวเท่านั้น ผมยัดหนังสือเก็บไว้บนชั้นตามเดิม เดินตรงไปหยิบผ้าขนหนูในตู้เพื่อเตรียมอาบน้ำต่อ เดินก้มหน้าก้มตาปลดกระดุมเสื้อนอนออก

ผมชะงักกึกก่อนถึงประตูห้องน้ำ

ตอนแรกคิดว่ามันเดินแยกไปทางตู้เสื้อผ้าแล้ว แต่ไม่ใช่ มันยังยืนเป็นยักษ์วัดแจ้งเวอร์ชั่นเกือบเปลือยอยู่หน้าห้องน้ำ สองมือกอดอก พิงไหล่กับขอบประตู ตัวมันแห้งแล้ว แต่ผิวยังดูชุ่มๆ อยู่ เส้นผมเปียกหน่อยๆ สีหน้าท่าทางดูมีเลศนัยยังไงพิกล

“ถอยไป จะอาบน้ำ”
 
“ขอค่าผ่านประตูก่อน”
 
ผมขมวดคิ้วมองทันที
 
“อะไร”
 
มันยิ้ม เอียงหน้า จิ้มแก้มซ้ายตัวเองเบาๆ
 
ผมส่งเสียงหึในลำคอพอๆ กับยกยิ้มในความหมายว่า ‘เหอะ อย่าหวัง’
 
“ถ้าไม่จ่ายค่าผ่านประตู เฮียไม่ถอยให้นะ”
 
“ตามใจดิ อั๊วอาบตอนไหนก็ได้ แต่เฮียต้องรีบไปทำงานไม่ใช่รึไง ช้าเร็วก็เสียที่เฮียคนเดียว อั๊วไม่เกี่ยว”
ผมทำท่าจะเดินกลับ แต่ไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ถูกดักหน้าอีก
 
มันไม่ดักเปล่า ยังกางแขนกว้างๆ กั้นไว้อีกด้วย
 
“เล่นไรเนี่ย”
 
“ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะจ่ายค่าผ่านทางก่อน”
 
ผมไม่สนใจคนตรงหน้า หันหลังจะเดินเข้าห้องน้ำไปตามเดิม แต่ถูกรวบไว้ในอ้อมแขนแน่น
 
คือ…
มันไม่ได้มาแค่แขนครับ มันมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวด้วย
 
และถ้าผมจำไม่ผิด…
 
ผ้าเช็ดตัวผืนนี้น่าจะอยู่บนตัวมันไม่ใช่เหรอ
 
แล้วถ้าผ้าเช็ดตัวของมันมาอยู่บนตัวผม แล้วตัวมันจะมีอะไรห่ออยู่ล่ะ
 
ผมกลืนน้ำลายลงคอลงดังเฮือก ไม่จินตนาการต่อ ไม่พลิกหันไปพิสูจน์ ไม่ดิ้นด้วย
 
“ค่าผ่านทาง”
มันกระซิบพูดเรียบๆ แต่น้ำเสียงบ่งบอกว่าถ้าไม่ทำ ผมอาจต้องจ่ายเยอะกว่าแค่หอมแก้มก็ได้
 
“ดะ ได้ แต่เอ่อ เฮียใส่ไอ้นี่ไว้เหมือนเดิมก่อนได้ไหม แอร์เย็น เดี๋ยวเฮียไม่สบาย”
 
ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ จากคนด้านหลัง
 
“ถ้าตุกติก เฮียจะไม่พูดอีกแล้วนะ จะ ‘รีด’ เอาค่าผ่านทางด้วยตัวเองเลย อาจ ‘รีด’ จนหงส์ลุกไม่ขึ้นไปสามวันก็ได้”
 
ผมกลืนน้ำลายลงคออีกรอบ ไม่อยากโดน ‘รีด’ เหมือนกัน ผมพยักหน้าหงึกๆ มันค่อยๆ คลายวงแขนออกพอๆ กับผ้าขนหนูบนตัวผม
 
“เรียบร้อย”
มันบอกเสียงเบา
 
“ใส่แล้วแน่นะ”
 
“ใส่อะไร”
มันถามมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
 
“ผ้าเช็ดตัว”
 
ได้ยินเสียงหัวเราะอีกรอบ แล้วตอบ
 
“ใส่แล้ว”
 
ผมยืนกล้าๆ กลัวๆ เกรงว่าหันกลับไปแล้วจะเจออนาคอนด้าในสภาพหลับใหลเข้า ดีไม่ดีมันอาจตื่นขึ้นมารอเซย์ไฮหรือหนีห่าวผมอยู่ก็ได้
 
ผมค่อยๆ พลิกหันไปมอง ลอบถอนหายใจเบาๆ ที่มันใส่แล้วจริงๆ มันยืนกอดอกอยู่เหมือนเดิม สีหน้ายิ้มๆ
 
“ทำเหมือนไม่เคยเห็นไปได้”
 
“เพราะเคยเห็นไงถึงไม่อยากเห็นอีก”
ผมสวนกลับไปทันที
 
“เอาละ จ่ายค่าผ่านทางได้แล้ว”
 
ผมยืนอิดๆ ออดๆ
 
“เอ้า ช้า สงสัยว่าหงส์อยากให้เฮีย…”
มันพูดพร้อมจับปมผ้าขนหนูทำท่าจะปลด
 
“เดี๋ยว!!”
ผมตาโตรีบถลาเข้าไปหาทันที
 
มันหยุดมือลง คลายปล่อย ผมขยับใกล้เข้าไปอีกนิด ห่างจากมันแค่ศอกเดียว
 
ผมอ้ำๆ อึ้งๆ ลำบากใจยิ่งกว่าตอนโดนบังคับให้บอกรักซะอีก
 
เอาวะ ยิ่งช้ายิ่งอันตราย ผมรีบหลับหูหลับตาจับสองไหล่มัน เขย่งจนสุดปลายเท้าหอมแก้มอย่างว่องไว
 
“เรียบร้อย ไปอาบน้ำได้ยัง”
ผมรีบเขยิบไปยืนอยู่ห่างๆ มันฉีกยิ้มกว้าง จิ้มแก้มอีกข้าง
 
“พอแล้ว ข้างเดียวก็พอ นี่เงินหมดกระเป๋าแล้วเนี่ย”
 
มันหัวเราะ ส่ายหน้าไปมา ส่งสายตาว่าให้จ่ายอีกข้าง ผมอมลม
 
เมื่อกี้มันคงเห็นผมลำบากเขย่งจูบมันเลยก้มหน้าลงมาหานิดๆ เสิร์ฟให้แทบจะถึงปาก ผมกัดฟัน หน้าร้อนฉ่าไปหมด
 
มันจิ้มแก้มตัวเองอีกรอบเมื่อผมยังชักช้า ผมยื่นปากจุ๊บเบาๆ
 
“จ่ายครบแล้ว”
ผมรัวลิ้นบอก มันยิ้ม ยิ้มจริงๆ ครับ ยิ้มทั้งปากทั้งตา แต่ส่ายหน้า
 
อ้าว ขี้โกงนี่หว่า
 
“จ่ายตรงนี้อีกรอบ พร้อมพูดว่า ‘หงส์รักเฮีย’ ด้วย”
มันจิ้มไปที่ตำแหน่งหัวใจตัวเอง
 
ผมส่ายหัวพรืด มันเลิกคิ้วสูงข้างหนึ่ง เลื่อนมือช้าๆ ต่ำลงไปที่เอว เป้าหมายคือปมผ้าขนหนู
 
“ก็ได้ๆๆ”
ผมรีบรัวลิ้นใส่ทันที
 
โอ๊ย เมื่อกี้ว่าหนักแล้ว ตอนนี้ยิ่งกว่าอีก อยากวิ่งงอแงไปให้ปลาคาร์ปปลอบใจ
 
ผมขยับกระดึบๆ เข้าไปใกล้ ดีว่ามันไม่เร่งมา ได้กลิ่นสบู่หอมๆ ลอยคลุ้ง ผมจ้องเป้าหมายคือตำแหน่งหัวใจมัน
 
“ช้าๆ นะ ถ้าทำเร็ว เฮียจะให้จ่ายเพิ่มจนกว่าจะพอใจ”
 
ผมตวัดค้อน มองแผงอกกว้างนั้นใหม่ หลับหูหลับตาแนบริมฝีปากกับแผงอกเปลือยเปล่านั้น ฝังนิ่งเบาๆ มันเย็นชืดเพราะน้ำที่อีกคนเพิ่งอาบมาปะทะแอร์เย็นฉ่ำภายในห้อง รู้สึกถึงสองมือที่เลื่อนมาโอบประคองไว้หลวมๆ รอบเอว
 
“บอกรักด้วยสิ”
มันกระซิบนำแผ่ว ผมถอนปากออกพูดเบาๆ กับหัวใจดวงนั้น
 
“หงส์รักเฮีย”
 
ตูม!!!!
 
ได้ยินเสียงระเบิดจากภายในอก ไม่ใช่ของไอ้บ๊วยมันหรอกครับ
 
ของผมเองนี่แหละ
 
แรงระเบิดมีผลข้างเคียงทำให้หัวใจผมเต้นแรง หน้าร้อนตัวร้อน สะเก็ดระเบิดกัดกินสติให้รู้สึกเหมือนจะเป็นลม
 
สงสัยว่ามันจะรู้ว่าผมกำลังบาดเจ็บสาหัส มันก้มลงมาจูบรักษาผมเบาๆ ที่หัว
 
แล้วคำบางคำก็ลอดผ่านริมฝีปากมันออกมา
 
“เฮียก็รักหงส์”
มันเลื่อนปากต่ำลงมาจูบที่หน้าผาก พวงแก้ม แล้วจบที่ริมฝีปากผมตามสูตรเดิม ไม่ได้ล่วงล้ำหรอกครับ แนบไว้เฉยๆ แล้วค่อยๆ คลายปล่อย ลูบหัวผมเบาๆ เดินไปยังตู้เสื้อผ้า
 
ในขณะที่ผมยังยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ
 
มะ เมื่อกี้ บ๊วยมันพูดว่าอะไรนะ?
 
‘เฮียก็รักหงส์’
 
หงส์ไหน
 
หงส์ขาว หงส์แดง หรือว่า…
 
หงส์ซานอย่างผม
 
บอกรักเป็นภาษาไทยด้วย ชัดเจนเลย
 
รักได้ไง เราเป็นผู้ชายเหมือนกัน
 
รักได้ไง ก็ในเมื่อเราไม่เคยคบหากันมาก่อน
 
และอีกหลากหลายคำถามที่ถาโถม
 
ผมพยายามประมวลผล
 
เมื่อกี้มันบังคับให้ผมบอกรักมัน
 
บอกรักทั้งที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันจริงๆ
 
แล้วเมื่อกี้มันก็บอกรักผม
 
แล้วนี่มันพูดมาจากความรู้สึกจริงๆ หรือพูดไปงั้นเหมือนที่มันสั่งให้ผมบอกรักมันกันแน่
 
ผมยืนคิดต่อ
 
ผมว่าระยะเวลาเพียงสั้นๆ ไม่มีทางทำให้มันรู้สึกรักผมได้จริงๆ หรอก พูดไปเหมือนที่มันบังคับให้ผมพูดมากกว่า
 
ผมเลิกสนใจ ก้าวเข้าห้องน้ำไปทันที พอออกไปก็ไม่เห็นบ๊วยมันแล้วล่ะครับ ผมเดินออกไปข้างนอก กวาดตามองหา
 
“เฮียล่ะ”
ผมถามซันไรส์
 
“ประชุมออนไลน์ด่วนในสวน ไม่เกิน 30 นาทีก็แล้วเสร็จ ท่านสั่งให้คุณหงส์รอก่อน”
 
“รอทำไม เผื่อประชุมยืดเยื้อ ฉันจะกินก่อน”
 
“ท่านบอกให้รอก่อน”
มันบอกเสียงเครียดขึ้น ผมไม่ฟังจะเดินไปที่โต๊ะกินข้าว แต่ซันไรส์มันรั้งจับข้อมือผมไว้
 
“ท่านอุตส่าห์เลือกประชุมสำคัญผ่านโน้ตบุ๊กเพื่อจะได้มีเวลาทานมื้อเช้ากับคุณนะครับ กรุณาอย่าทำให้ความตั้งใจของท่านต้องเสียไปเพราะความดื้อดึงของคุณหน่อยเลย”
 
ผมอึ้งไป ซันไรส์มองมาด้วยสายตานิ่งๆ แต่จากลักษณะท่าทาง บอกได้เลยว่าผมไม่มีสิทธิ์ได้กินข้าวเช้าก่อนแน่ๆ
 
“ก็ได้” ผมดึงข้อมือออกเบาๆ “เขาอยู่ในสวนใช่ไหม”
 
ซันไรส์พยักหน้า
 
“แต่อย่าเพิ่งไปกวนดีกว่า ประชุมเครียด”
 
“ไม่กวนหรอก จะไปให้อาหารปลาคอย”
 
“ผมว่าคุณเพลาๆ การให้อาหารปลาบ้างดีกว่า มันอ้วนจนจะกลายเป็นหมูว่ายน้ำได้แล้ว”
 
“บ้า”
ผมว่ามันไปแค่นั้น เดินเข้าไปในสวน บนโต๊ะเก้าอี้พักผ่อน เห็นบ๊วยมันนั่งหันหลังให้ รัวพูดภาษาต่างประเทศ น่าจะฝรั่งเศส ผมเดินไปหยิบอาหารปลา ทิ้งตัวลงนั่งที่ประจำ หย่อนขา ปลาพวกนั้นรีบกรูกันเข้ามาหาผมอย่างรู้ดี ผมยิ้มให้พวกมันค่อยๆ โปรยอาหารลงไป
 

“ตะกละนะพวกแก” ผมพูดใส่ปลาในบ่อ มองพวกมันว่ายมางับอาหารเม็ดด้วยลักษณะต่างกัน บ้างก็ว่ายมากินอย่างรวดเร็ว บ้างก็มาแบบชิลล์ๆ เอื่อยๆ จนผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นปลาหรือว่าสล็อตกันแน่ บางตัวก็ว่ายไปว่ายมาไม่สนใจหันมางับกิน แม้ว่าอาหารปลาราคาแพงของผมจะลอยเกาะหัวมันไปก็ตาม
 
สงสัยจะอิ่มกันแล้ว
 
ผมนั่งมองพวกมันอย่างเพลิดเพลิน หูฟังเสียงไอ้บ๊วยรัวภาษาต่างประเทศของมันไป ไทย จีน อังกฤษยังพอรู้เรื่องครับ นอกเหนือจากนั้นฟังไม่ออก
 
โห ฟังแล้วเครียดแทนเลย
 
สักพักหนึ่งก็รู้สึกว่าเสียงของมันเงียบลง (มันใส่แฮนด์ฟรีคุย) ผมทำหน้าฉงน หันไปมอง บ๊วยมันเลิกประชุมแล้ว โน้ตบุ๊กถูกงับปิด มันนั่งไขว่ห้าง ผสานมือไว้บนตักมองมานิ่งๆ
 
“ประชุมเสร็จแล้วเหรอ กวนหรือเปล่า”
ผมบอกไปอย่างเกรงใจ เพิ่งเห็นมันทำงาน มิน่า ถึงบอกว่าเครียด เพราะงานมันโหดหินแบบนี้นี่เอง ขนาดวันนี้วันเสาร์มันยังทำ
 
“เรียบร้อย หงส์หิวรึยัง”
 
“นิดหน่อย”
ผมรีบปิดอาหารปลาลง กำลังจะลุกแต่หยุดนิ่งเพราะมีมือยื่นมาตรงหน้า ผมเงยมอง บ๊วยมันยืนอยู่ข้างๆ ยื่นมือมารับ
 
ผมมองมือนั้น มันยิ้มนิดหนึ่ง ตอนแรกก็ว่าจะเล่นตัว แต่ไม่อยากกวนครับ สงสารมัน ผมวางมือลงบนมือมันเบาๆ ดีดตัวลุก มันออกแรงดึงให้ผมลุกด้วย ผมปัดก้นเบาๆ ตอนแรกคิดว่าจะกลับไปกินข้าวกันที่โต๊ะใหญ่ในบ้าน แต่เห็นซันไรส์กับวิกเซอร์เดินมาพร้อมถาดอาหาร
 
มื้อนี้ไม่ใช่ข้าวต้มอย่างเคย แต่เป็นอาหารฝรั่งครบเซตเลย
 
พวกนั้นนำมันมาวางไว้บนโต๊ะที่มันนั่งประชุมเมื่อกี้ วิกเซอร์ยกโน้ตบุ๊กออกไปแล้ว
 
บ๊วยมันจับมือผม พาเดินไปยังโต๊ะที่กลายร่างจากโต๊ะนั่งเล่นสีขาวแนววินเทจค่อนไปทางจีนมาเป็นโต๊ะอาหารเช้าชั่วคราว พอได้ระยะ มันก็เลื่อนเก้าอี้ออกให้เบามือ ผมทำตัวแทบไม่ถูกกับการปฏิบัติแบบนั้น
 
อยากรวนสักหน่อย แต่ไม่รู้ว่าจะรวนยังไงดี เลยทำได้แค่ทิ้งตัวลงนั่งเท่านั้น
 
คำพูดของซันไรส์ก้องอยู่ในหูผม
 
มันยอมประชุมงานสำคัญทางออนไลน์เพื่อจะได้มีเวลากินข้าวเช้ากับผม
 
หน้าผมเห่อร้อนขึ้นมาทันที หยิบช้อนกับส้อมขึ้นมาตักอาหารกินเงียบๆ
 
“เรื่องงาน...”
ผมพูดขึ้นเบาๆ มันละสายตาจากอาหารมองหน้าผม
 
“เฮีย…”
ผมนิ่งไปชั่วอึดใจ
 
“ทำไม”
มันถามกลับมาเมื่อผมยังไม่พูดต่อ
 
“เฮียมีอะไรให้อั๊วช่วยหรือเปล่า บางทีสิ่งที่อั๊วเรียนมาอาจเป็นประโยชน์กับเฮียก็ได้นะ”
 
มันจ้องหน้าผมนิ่ง ยิ้มละมุน เพราะมื้อนี้ไม่ได้ใช้ตะเกียบ เป็นช้อนกับส้อม บรรยากาศมันจึงดูโรแมนติกยังไงพิกล
 
“แค่หงส์กินข้าวกับเฮีย ยิ้มให้เฮีย แค่นั้นก็พอแล้ว”
 
ผมทำหน้าแหยงใส่
 
“มักน้อยจัง”
 
มันหัวเราะ หั่นไส้กรอกรมควันเป็นชิ้นพอดีคำ จิ้มซอสปรุงรสสูตรพิเศษของแม่บ้าน ยื่นมาจ่อไว้ใกล้ปากผม
 
กำลังจะอ้าปากบอกว่ากินเองได้ แต่เห็นสายตาละมุนนั้นแล้วปฏิเสธไม่ลง
 
ผมตัดสินใจอ้าปากงับเอาไส้กรอกคำนั้นเข้าปาก
 
“อร่อยไหม”
 
“แม่บ้านเราทำอาหารเก่ง”
ผมตอบไม่ตรงคำถาม
 
รู้สึกกระดากที่ต้องตอบตรงๆ นี่หว่า
 
มันหัวเราะหึๆ ไม่เซ้าซี้เอาคำตอบ
 
“เสาร์หน้าทำตัวให้ว่างนะ”
 
“ทำไม”
 
“เฮียจะพาไปขับรถเล่น”
 
ผมตาโต
 
“ที่ไหน!!”
 
“แล้วแต่หงส์เลย อยากไปที่ไหนเฮียจะพาไป”
 
ผมเบิกตากว้างอย่างดีใจ
 
“แบบไปเช้าเย็นกลับหรือว่าค้าง”
 
“แบบไหนก็ได้ แล้วแต่หงส์อีกเหมือนกัน”
 
โห ตามใจกันสุดๆ อย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย ผมพยักหน้ารับ รู้สึกอาหารอร่อยขึ้นมาอีกมากโข
 
ผมกินไป ใจนึกวาดภาพหนึ่งในการท่องเที่ยวแบบที่ผมอยากทำมานาน โดยมีสารถีคือไอ้บ๊วย
 
แต่เดี๋ยวนะ…
 
ทำไมเดี๋ยวนี้ผมต้องวาดภาพตอนมีมันด้วยล่ะ!!!
 
พอเงยหน้ามองก็เห็นแต่ออร่าสดใสหล่อเหลาของมัน
 
เอาวะ ไปกับมันก็ไม่เสียหาย (แต่อาจมีเสียตัวนิดหน่อยหลังจากนั้น TT)
 

To be Con...

เดือนสิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติและเป็นวันเกิดแม่ไรท์ด้วย ไรท์จึงตั้งใจจะทำบุญด้วยการไถ่ชีวิตโคท้อง (ไถ่หนึ่งได้ถึงสอง) ฉนวนอยู่ที่ตัวละ 23,000

ปีที่แล้วทำไปแล้วหนึ่งตัว ตอนคล้องพวงมาลัยวัวมันน้ำตาไหลเลยนะ มันรู้ไงว่ามันรอดแล้ว ปีนี้จะทำอีก เดี๋ยวประมาณกลางเดือนไรท์จะเอาหนังสือที่ไรท์สะสมไว้มาประกาศขาย และถ้าเป็นไปได้ กะจะเขียนนิยายสักเรื่อง(สั้น ๆ) แล้วรวมเล่มให้คนจอง (รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปเป็นค่าไถ่โค) กำหนดไถ่คือวันที่ 4 สิงหา ใครอยากร่วมบุญกดเพจไรท์ไว้นะคะ
 
ประมาณวันที่ 8-10 ไรท์จะมาอัพเรื่องที่จะขาย เป็นนิยายวาย การ์ตูนวาย และอาจมีเสื้อผ้าบางชิ้น ตุ๊กตา  (ของสะสมไรท์ทั้งนั้นแหละ) ถ้าพวกหนังสือหรือเสื้อผ้าที่ไม่มีต้นทุน รายได้ทั้งหมดสมทบทุนไถ่โคหมดเลย

จริง ๆ ก่อนหน้านี้เก็บเงินสำหรับไถ่โคครบแล้วล่ะ แต่พอดีอยู่ ๆ ก็อยากจัดสร้างตู้และทำหนังสือพระไตรปิฏก จึงเทเงินทั้งหมดทำไป (แต่ไม่ครบหรอกนะ ครึ่งหนึ่งมีผู้ร่วมบุญมา) จึงต้องมานั่งสะสมกันใหม่ (ปกติไรท์จะหัก 10% จากทุกรายได้ไว้ทำบุญ ซึ่งถ้าใครอยากร่วมบุญกับไรท์ (แบบครบทุกบาททุกสตางค์) เวลาจองหนังสือหรือโอนเงินมาค่าอะไร โอนเข้าแบงค์กรุงเทพเลยนะคะ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ที่โอนเข้าแบงค์นั้นไว้ทำบุญล้วน ๆ เลย - แต่ถ้าโอนเข้าแบงค์อื่น ไรท์จะถอนออกมา 10% ตามที่บอก)

โชคดีทุกคนค่ะ



ข่าวสารและนิยายเรื่องอื่นๆ: https://goo.gl/WbWxt8
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-06-2017 20:12:41 โดย memew »

ออฟไลน์ et-file

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][26-6-2017] 40%
«ตอบ #331 เมื่อ26-06-2017 21:49:46 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][26-6-2017] 40%
«ตอบ #332 เมื่อ26-06-2017 22:45:48 »

สาธุค่า หุหุ น้องหงส เริ่มหวั่นไหวแล้วสินะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][26-6-2017] 40%
«ตอบ #333 เมื่อ26-06-2017 23:11:35 »

รอจ้ะรอ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][26-6-2017] 40%
«ตอบ #334 เมื่อ26-06-2017 23:32:52 »

 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][26-6-2017] 40%
«ตอบ #335 เมื่อ27-06-2017 12:48:56 »

อรั๊ย~~~ ยักษ์ วัดไหนเนี่ย น่าลากเข้าถ้ำมาก 5555

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][27-6-2017] 80%
«ตอบ #336 เมื่อ28-06-2017 01:18:58 »

หงส์เริ่มรักเฮียนิดๆ แล้วใช่มะ

แต่เฮียน่าจะรักหงส์มาพักใหญ่แล้วนะ  ดูมีลับลมคมในงัยไม่รู้นิ    :hao4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][27-6-2017] 80%
«ตอบ #337 เมื่อ28-06-2017 02:45:05 »

 :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][27-6-2017] 80%
«ตอบ #338 เมื่อ28-06-2017 08:08:27 »

อ่านไป ระเบิดตามหงสไปด้วย

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][27-6-2017] 80%
«ตอบ #339 เมื่อ28-06-2017 12:26:30 »

หงส์น้อยช่างน่าเอ็นดู๊ๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][27-6-2017] 80%
« ตอบ #339 เมื่อ: 28-06-2017 12:26:30 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][27-6-2017] 80%
«ตอบ #340 เมื่อ28-06-2017 14:00:41 »

ขอบคุณค่า

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][28-6-2017] 100%
«ตอบ #341 เมื่อ28-06-2017 20:58:13 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][28-6-2017] 100%
«ตอบ #342 เมื่อ28-06-2017 22:12:51 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][28-6-2017] 100%
«ตอบ #343 เมื่อ29-06-2017 07:57:46 »

ใจจะพัง กะความหวานของเฮียยย

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: หงส์ซาน #17 จูบผ่านทาง [P.12][28-6-2017] 100%
«ตอบ #344 เมื่อ29-06-2017 08:01:43 »

สาธุคะ รอร่วมด้วยช่วยกัน

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][4-7-2017] 100%
«ตอบ #345 เมื่อ29-06-2017 20:05:33 »

ตอนที่ 18 หมดความอดทน


พออิ่มมันก็ลากให้ผมเดินไปส่งที่รถ จริงๆ มันก็เป็นหน้าที่ของเมียที่ดีนั่นแหละ แต่ผมไม่เต็มใจเป็นเมียที่ดีของมันไงเลยไม่อยากจะทำ
 
ซันไรส์เปิดประตูรถออก บ๊วยหันมามอง มือหนึ่งแตะบั้นเอวผมไว้แผ่วเบา ก้มลงมาสูบพลังจากผมหนึ่งดอก
 
“รอนะ เฮียจะรีบกลับมาหา”
 
“ใครเขารอ”
ผมอุบอิบพูด มันได้ยินแน่ๆ หัวเราะแผ่วๆ ก้าวขึ้นรถไป นั่งนิ่งบนเบาะหลัง วิกเซอร์สตาร์ทเครื่อง บ๊วยหันมามอง ยิ้มให้นิดๆ แล้วรถคันนั้นก็เคลื่อนที่ออกไปช้าๆ
ผมเดินกลับไปที่บ่อปลาตามเดิม

“น้องหงส์คร้าบบบบบบ”
เดินยังไม่ทันจะถึงก็ได้ยินเสียงร่าเริงของพี่หมอดังมาด้านหลัง ผมหันไปมอง พี่หมอเดินตรงเข้ามาหา ไม่ได้มามือเปล่า สะพายกระเป๋าเครื่องมือปริญญาตรีพยาบาลของพี่หมอมาด้วย (คือไม่ใช่เครื่องมือปฐมพยาบาลครับ เพราะเครื่องมือพี่แกอลังการมาก มีครบทุกอย่าง กระเป๋าจะใหญ่มากด้วย) แต่ไม่ทุกครั้งหรอก ขึ้นอยู่กับเคสที่เดินทางไปตรวจรักษา บางครั้งก็กระเป๋าเล็กๆ
 
“พี่หมอ”
 
รายนั้นโดดเข้ามาโอบกอดผมไว้แนบอกแน่น
 
“ตัวยังเล็กเหมือนเดิมนะเรา”
 
“เราเพิ่งจากกันเมื่อวันก่อนครับพี่หมอ ไม่ใช่สิบปี และอีกอย่าง ส่วนสูงผมไม่กระเตื้องมาตั้งนานแล้ว”
ผมติงไป พี่หมอหัวเราะ ทิ้งกระเป๋าลงพื้นดังตุบ
 
“กำลังจะไปรักษาหรือว่าไปมาแล้วถึงแวะมาหา เฮียเพิ่งออกไปเมื่อกี้”
 
“พี่หมอเห็นแล้วครับ สวนกันเมื่อกี้ พี่หมอเพิ่งกลับมาจากบ้านคนไข้ ถูกเรียกตัวตั้งแต่ตีสี่”
 
โห
 
“คนเป็นหมอนี่ทำงานกันไม่เป็นเวลาเลยเนอะ ใครป่วยมาตอนไหนก็ต้องรีบไปรักษา นี่ถ้ากำลังกินข้าวหรือทำธุระส่วนตัวไม่ต้องทิ้งชามข้าวไปเลยเหรอ”
 
พี่หมอยักไหล่
 
“เรื่องปกติ จะกินอยู่กี่คำ มือถือดังเคสด่วนมา ก็ต้องวิ่งแนบ ขนาดทำกิจกรรมอย่างอื่นอยู่ยังต้องรีบเบรก”
 
“อย่างเช่น?”
ผมถามอย่างใคร่รู้
 
พี่หมอไม่ตอบด้วยคำพูด แต่มองมาด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ผมเบิกตา
 
“บ้าแล้วพี่หมอ ปิดมือถือไว้สิ!!”
 
“เรื่องนั้นรอได้ แต่ชีวิตคนบางทีก็รอไม่ได้”
 
มันก็จริง
 
“พี่หมอนี่จริงจังกว่าที่ผมคิดนะ”
 
พี่หมอยิ้ม จับสองไหล่ผมบีบเบาๆ ทำหน้าจริงจังยิ่งกว่าเดิม
 
“เพราะงั้นจะคลอดเมื่อไหร่ ให้พี่หมอเป็นคนทำคลอดนะ”
 
ผมขอคืนคำพูด ==;
 
สงสัยว่าผมจะทำหน้าตรงกับสิ่งที่คิดไว้จัดพี่หัวเราะเสียงดังแล้วลูบพุงตัวเองป้อยๆ
 
“หิวจัง”
เอากับเขาสิ เสพูดไปเรื่องอื่นเฉย
 
“งั้นเดี๋ยวผมไปบอกแม่ครัวให้”
ผมทำท่าจะเดินไปหาแม่ครัว แต่พี่หมอเบรกไว้
 
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่หมอทำเอง”
 
ผมตาโต
 
“พี่หมอทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ”
ขนาดผมยังทำไม่เป็นเลย
 
พี่หมอขยิบตาเจ้าชู้ให้
 
“จิ๊บๆ”
แล้วหันไปทางซันไรส์
“แต่ขอตัวซันไรส์ไปเป็นผู้ช่วยหน่อยได้ไหม”
 
“เอาเลยครับตามสบาย”
ผมรีบยกซันไรส์ใส่พานถวายพี่หมอทันที การมีซันไรส์อยู่ด้วย ทำให้อากาศอันบริสุทธิ์ของผมเบาบางลง ออกห่างบ้างก็ดี
 
ซันไรส์มองหน้าผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ผมไม่สนใจ พี่หมอยิ้ม พยักหน้าชวนซันไรส์อีกรอบ
 
ซันไรส์ไม่พูดอะไร เดินหน้านิ่งตามพี่หมอไปเงียบๆ
 
 
#ซันไรส์
 
“เล่นอะไรของคุณ”
ผมถามด้วยคำถามเดิมๆ หมอหันมามองหน้าตาย ยักไหล่ให้นิดหนึ่ง
 
“จิ๊บๆ?? ขนาดทอดไข่ดาวยังกลายเป็นไข่ดำ ยังมีหน้าไปโม้หงส์ซาน”
 
“ฮ่าๆ อยากโม้บ้าง ฉันอยากกินสปาเก็ตตี้ ทำให้หน่อยสิ”
 
ผมมองหน้าเขา และนี่คือสาเหตุที่หมอไปบ้านคนนู้นคนนี้บ่อยๆ มากกว่าอยู่บ้านตัวเองในช่วงเวลาอาหารเช้าเที่ยงหรือเย็น
 
เพราะหมอทำอาหารได้ห่วยแตกมาก
เก่งในการรักษาคน แต่ไม่เก่งเอาซะเลยในการทำอาหาร (แต่ถ้าจำเป็นต้องอยู่บ้านจริงๆ หมอจะสั่งอาหารมาทาน แต่ส่วนใหญ่แม่บ้านจะทำให้)
 
“กะอีแค่เอาเครื่องปรุงมาผสมกัน ทำไมจะทำออกมาให้ดีไม่ได้ ทั้งที่การรักษาคนน่าจะยากกว่าอีก”
 
“การรักษาคนมันอยู่ในสายเลือด และนายก็รู้ว่าผู้ชายทุกคนในสายเลือดฉันทำอาหารห่วยแตกกันทุกคน”
 
ไม่เถียง
 
ผมแทบกุมขมับ เดินเข้าครัวไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวม วันนี้ผมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กำลังจะพับแขนเสื้อแต่หมอขยับเข้ามาใกล้
 
“เดี๋ยวฉันช่วย”
 
ผมชะงัก จ้องนิ่งยังคนที่ขยับมาจับปลายแขนเสื้อผมไว้
 
หมอเงยหน้า ยิ้ม
 
“ถึงฉันจะทำอาหารไม่ได้เรื่อง แต่เรื่องถอดหรือใส่เสื้อผ้า ฉันเก่งนะ”
 
ผมมะเหงกหน้าผากหมอเบาๆ อย่างที่คุณไป่หลงชอบทำกับหงส์ซานเวลาท่านหมั่นไส้
 
แต่ก่อนผมไม่รู้ว่าท่านชอบทำทำไม
 
แต่ตอนนี้ผมชักจะรู้สึกแล้ว
 
หมอปล่อยมือจากแขนเสื้อผมไปกุมหน้าผากทันที ยู่หน้าใส่ ไม่เคยเห็นมาดนี้ของหมอมาก่อนจริงๆ ผมยิ้มนิดหนึ่ง หมอเลิกคิ้วแล้วยิ้ม
 
“ยิ้มอะไร”
ผมถามเสียงนิ่ง
 
“เปล่า นานๆ ทีจะเห็นเสือยิ้มยากยิ้มสักที เสียดายถ่ายรูปไม่ทัน”
 
ผมหน้าตึงเหมือนเดิม ทำท่าจะปลดกระดุมแขนเสื้อตัวเองต่อ แต่หมอหยุดมือผมไว้ก่อน ผมยอมยืนนิ่งให้เขาทำอีกที
 
ปกติคนเป็นหมอต้องใส่เสื้อกาวน์ ต้องมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ แต่หมอกันต์จะตัวหอมสะอาดตลอดเวลา ถ้าไม่ใส่เสื้อยืดก็เสื้อเชิ้ต และวันนี้เจ้าตัวก็ใส่เสื้อเชิ้ตมา สีดาร์กบลู ตัดกับผิวขาวๆ นั้นดี
 
หมอค่อยๆ บรรจงแกะกระดุมจากข้อมือผม พับเป็นทบชนิดเนื้อผ้าไม่ยับเลยสักนิดขึ้นไปทีละชั้น กระทั่งมันขึ้นไปเหนือศอกให้ผมเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น ตรวจสอบ ผมขยับยื่นอีกข้างให้ทำดีๆ จ้องมองดวงหน้าของคนที่อยู่ต่ำลงไปไม่มาก
 
“หลงเสน่ห์ฉันแล้วรึไงถึงได้มองไม่วางตาแบบนั้น”
 
ผมชะงัก หมอเงยหน้ามอง
 
“หลงเสน่ห์ฉันแล้วใช่ม้า”
 
“เปล่า ผมกำลังมองหมอปัญญาอ่อนอยู่ต่างหาก”
ผมแก้ตัว หมอยิ้ม เป็นคนที่ยิ้มง่าย ยิ้มไปกับทุกเรื่อง ยิ้มจนผมสงสัยว่าเขายิ้มออกมาจากใจจริงหรือแค่แยกเขี้ยวจนเป็นนิสัยกันแน่ หมอหลุบตาลงต่ำ ตบเบาๆ เมื่ออีกข้างแล้วเสร็จ
 
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับทำอะไรต่อ เขาก็จับคอเสื้อผมดึงเบาๆ ให้ผมก้มหน้า แล้วปากของเราก็แนบผสานกันอีกครั้ง คุณหมอเอียงคอ ส่งลิ้นอุ่นๆ เข้ามาสำรวจหาไออุ่นภายในเพิ่มเติม
 
“ออร์เดิร์ฟ เร็วเข้าเถอะ ฉันหิวแล้ว”
 
ผมจ้องมองคนตรงหน้านิ่ง สูดลมหายใจเข้าปอด พยายามระงับบางสิ่งให้สงบลง ลงมือทำอาหารเงียบๆ
 
หมอเดินไปหยิบแอปเปิ้ลเขียวในตู้เย็นมาหนึ่งลูก นำไปล้างจนสะอาด กัดกรวบจนได้ยินเสียงชัดเจน ผมไม่ได้สนใจคนด้านหลังอีก ใช้สมาธิกับการทำสปาเก็ตตี้ ทำง่ายไม่ยากหรอก เพียงแต่ถ้าจะทำให้อร่อยต้องใช้ใจทำ
 
“ซันไรส์”
 
ผมหยุดมือที่กำลังราดน้ำซอสลงบนจานหันไปมอง คุณหมอจับหัวผมไว้ แนบปากอีกรอบ ส่งผ่านบางสิ่งมาให้
 
รสหวานๆ และกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์นั้นบอกได้ชัดเจนว่าเป็นแอปเปิ้ลเขียว
 
“คำสุดท้าย แฟนหล่อ”
 
ผมขมวดคิ้ว นิ่งคิด
 
“มันต้องบอกว่า คำสุดท้ายแฟนสวยไม่ใช่รึไง”
จากสำนวนไทยที่ผมเคยเรียนมา ผมไม่ได้คายทิ้ง แต่เคี้ยวสิ่งนั้นกลืนลงคอ คนทำอาหารไม่ชอบทิ้งอาหารหรอก
 
หมอส่ายหัว คลี่ยิ้ม
 
“คำสุดท้ายแฟนหล่อ นับจากนี้ไปนายมีแฟนแล้ว หล่อด้วย”
 
ผมวางสิ่งที่กำลังทำอยู่ลง มองหน้าหมอ ยกมือกอดอก เอียงคอ สบตาหมอด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
 
“โทษที ในชีวิตนอกจากชวนผู้หญิงหลับนอนแล้วยังไม่เคยจีบใครมาเป็นแฟน จึงมั่นใจว่ายังไม่มีแฟน ไอ้หล่อด้วยยิ่งแล้วใหญ่”
 
“ฉลาดน้อยจัง”
 
ผมหน้าตึงกับคำนั้น
 
“ประมวลคำพูดฉันให้ดีๆ สิซันไรส์ ฉันว่านายฉลาดพอกับความหมายที่ฉันพูดไปเมื่อกี้นะ”
 
ผมมองตาเขา
 
“คุณกำลังจะเคลมผมเป็นแฟน”
 
“ใช่”
หมอตอบรับมาตรงๆ ผมพ่นลมหายใจแรง

 
“ผมขอปฏิเสธ ข้อแรก ผมยังไม่อยากมีแฟน ข้อสองผมไม่ต้องการมีแฟนเป็นผู้ชาย ข้อสาม ผมไม่ได้ชอบหมอ และที่สำคัญ หมอไม่ใช่สเปกผม”
 
หมอยิ้มหวาน
 
“ไม่ใช่สเปกแต่ทำเซ็กส์ได้นะ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้”
 
“ผมขอปฏิเสธ”
 
“ตามนั้น”
 
“นี่คุณหมอ คุณจะมาใช้วิธีมัดมือชกเอาผมเป็นแฟนเหมือนที่คุณทำมาเรื่องอื่นๆ ไม่ได้นะ ผมไม่เล่นด้วย”
 
หมอยิ้ม หันไปมองจานสปาเก็ตตี้ตัวเองที่ผมทำค้างไว้
 
“เสร็จยัง ฉันหิวแล้ว”
 
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”
ผมจับแขนเขาให้หันมาคุยกันดีๆ
 
“คุยแล้ว ตามนั้นแหละ ทำเร็วๆ ฉันหิว”
 
“คุณหมอ!!”
 
“ฉันกินทั้งอย่างนี้เลยได้ไหม”
พูดจบเขาก็หยิบส้อมที่ผมใช้จัดเส้นสปาเก็ตตี้ทำท่าจะคลุกซอส ผมรีบหยุดมือเขาไว้ทันที
 
“ยังไม่เสร็จ”
 
“ฉันหิว”
มันไม่ใช่แค่คำพูด เพราะท้องหมอพากันร้องโครกครากออกมาให้ได้ยินจริงๆ
“วันนี้แหกตาตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อไปรักษา หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว”
 
ผมถอนหายใจแรง เลิกสนใจเรื่องที่คุยกันเมื่อกี้มาทำสปาเก็ตตี้ให้แล้วเสร็จ
 
ยังไงเสียปรบมือข้างเดียวไม่มีทางดังอยู่แล้ว ถ้าผมไม่เล่นด้วย ทุกอย่างก็จบ
 
“เรียบร้อย”
ผมยกจานไว้ในมือ หมอเตรียมจะรับ แต่ผมดึงคืน
“จะไปนั่งกินในสวนกับหงส์ซานหรือจะนั่งกินที่นี่”
 
“แล้วนายจะไปอยู่ที่ไหนระหว่างฉันกิน”
 
“หน้าที่ผมคือดูแลหงส์ซานอย่างใกล้ชิดตามคำสั่งของเจ้านาย”
 
“งั้นก็ไปกินกับหงส์ซาน”
หมอตอบรับมาง่ายๆ
 
ผมพยักหน้า
 
“เดี๋ยวผมยกไปเอง คุณเดินนำไปก่อน”
 
หมอยิ้ม พยักหน้า ก้าวนำไปโดยไม่อิดออด
 
หงส์ซานหันมามอง
 
“ทำอะไรกินครับพี่หมอ”
 
“สปาเก็ตตี้”
 
“โห ครั้งหน้าสอนผมบ้างสิ อยากทำเป็นบ้างเหมือนกัน”
 
ผมหัวเราะหึๆ ในใจ ถ้าให้สองคนนี้เข้าครัว ผมว่าคุณไป่หลงอาจต้องทำประกันไฟไหม้ไว้หลายๆ เจ้าหน่อย เพราะจากประวัติที่สืบทราบมา
 
ทำอาหารห่วยแตกพอกัน
 
“ลองชิมไหม”
คุณหมอใจดีชักชวน หงส์ซานส่ายหัว
 
“ไม่ละ ผมอิ่มตื้อเลย ตามสบายครับ”
แล้วลิงนั่นก็หันไปนั่งมองปลาต่อ ผมกำลังจะเดินไปยืนอยู่ตรงตำแหน่งเดิมของตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวก็ถูกรั้งชายเสื้อไว้
 
หมอหัวเราะ
 
“นายลืมอะไรไปอย่างนะซันไรส์”
 
“อะไร!”
ผมกระแทกถามเสียงห้วน
 
ผมมั่นใจว่าทำอาหารไม่เคยบกพร่องนะ
 
หมอหัวเราะ ชี้ส้อมมาทางตัวผม ผมก้มมอง ชะงักนิดเพราะบนตัวผมมีผ้ากันเปื้อนสวมไว้อยู่ หมอหัวเราะอย่างขบขัน ผมหน้าร้อนผ่าว ไม่เคยทำเปิ่นแบบนี้มาก่อน รีบกระชากมันออกเดินลิ่วๆ กลับเอาไปเก็บ
 
พอเรียบร้อยก็เดินกลับมายืนประจำตำแหน่ง หมอนั่งกินไปเงียบๆ ดูท่าจะหิวจริง เพราะไม่เกินห้านาทีไอ้ที่ทำมาจนพูนจานเมื่อกี้ก็หายลับไปราวกับถูกเสก
 
“อิ่มหรือเปล่า”
ในอนาคตผมว่าถ้าเรี่ยวแรงไม่พอทำอาชีพบอดี้การ์ด ผมจะไปเอาดีด้านการเป็นพ่อครัวให้คุณไป่หลงแทน อะไรที่เกี่ยวกับการกิน ผมใส่ใจเสมอ
 
“อื้อเลย เมื่อกี้ล่อแอปเปิ้ลไปแล้วลูกหนึ่ง พอแล้วล่ะ เดี๋ยวจุก”
 
ผมเห็นด้วย ยกจานเปล่าหันหลัง เดินเข้าครัวเพื่อนำไปล้าง ผมหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมอีกรอบ ได้ยินเสียงเปิดตู้เย็น ผมหันไปมอง เห็นหมอยืนคุ้ยหาอะไรอยู่ แล้วก็เดินกลับมาพร้อมแอปเปิ้ลเขียวแบบเดิม
 
“ฝากล้างหน่อย”
 
“ขอผมล้างจานก่อน”
ผมตอบรับนิ่งๆ ยืนล้างจานโดยมีหมอยืนกอดอกคอย
 
“บางทีเราอาจต้องสลับกันนะ ฉันเป็นสามี นายเป็นภรรยา ผู้ชายอะไรทำงานบ้านเป็น ทำอาหารก็เก่ง เจ้าระเบียบอีกต่างหาก”
 
ผมพ่นลมหายใจแรง หันไปมองนิ่งๆ ออร่าเหี้ยมโหดที่แม้แต่หมายังวิ่งหางจุกตูดใช้ไม่เคยได้ผลกับผู้ชายคนนี้หรอก
 
“ผมไม่คิดจะเป็นสามีหรือภรรยาใคร”
แล้วผมก็หันกลับมาล้างจานต่อ ยกสะเด็ดน้ำ หยิบผ้ามาเช็ดจนแห้ง วางเรียงกันไว้ในตู้ หยิบช้อนมาเช็ดจนแห้ง วางไว้ในถาดเก็บช้อน ผึ่งผ้าเช็ดจานไว้ หยิบแอปเปิ้ลของหมอมาบรรจงล้างจนสะอาด
 
“จะให้หั่นด้วยหรือเปล่า”
 
“ไม่ต้องหรอก”
 
“ฟันเกหมด”
 
“ฉันแข็งแรง ฟันได้ไม่เป็นไรหรอก”
ผมชะงัก หันไปมอง คุณหมอฉีกยิ้มกว้าง ผมยัดแอปเปิ้ลลูกนั้นใส่มือหมอด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ปลดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้ที่เดิม เดินลิ่วๆ ออกไปหาหงส์ซานตามเดิม

ผมลากเก้าอี้มานั่ง ฟังรายละเอียดงานที่วิกเซอร์อัดมาให้เงียบๆ     คุณหมอก้าวตามมาติดๆ ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ตีเนียนพิงหัวกับไหล่ผมเหมือนเดิม ได้กลิ่นหอมจางๆ ลอยมาจากตัวหมอ มันผสมเคล้ากันกับกลิ่นแอปเปิ้ลเขียวที่อีกคนกำลังกัดกรวบกิน
 
ผมเลิกสนใจคนข้างๆ เพ่งสมาธิไปยังเสียงที่กำลังฟังอยู่
 
ผมนั่งนิ่งไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งรู้สึกถึงแรงขยับจากคนข้างๆ ผมหันไปมอง คนที่อาศัยพิงไหล่ผมอยู่หลับตาพริ้ม ได้ยินเสียงฟี้ของลมหายใจเบาๆ
 
ผมขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าหมอหลับเพราะหนังท้องตึงเกินไป หรือว่าเพราะต้องตื่นไปรักษาคนไข้ตั้งแต่เช้ามืดกันแน่ ผมขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม กำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงกับสภาพหมอตอนนี้ดี
 
“อ้าว พี่หมอหลับไปแล้ว”
เสียงทักเบาๆ ของหงส์ซานปลุกคนข้างตัวผมให้สะลึมสะลือตื่น เขาอ้าปากหาวหวอด
 
“เผลอหลับไปได้”
 
“ถ้าง่วงไปนอนก่อนก็ได้ครับพี่หมอ”
 
“เป็นความคิดที่ดี”
แล้วหมอก็เดินตัวลอยๆ เข้าบ้านไป ผมไม่ได้สนใจหมออีก กดปิดสิ่งที่กำลังฟังอยู่เพราะมันจบพอดี หงส์ซานคงอยากนอนด้วยเหมือนกัน รายนั้นไปลากเสื่อออกมาปู พอๆ กับดึงผ้ารองและหมอนหนุนเล่นนอกบ้านออกมานอนด้วย
 
สักพักรายนั้นก็เข้าภวังค์ไปด้วยอีกคน
 
ได้ยินเสียงนกพากันร้องจิ๊บๆ ผมปิดเปลือกตาลง ได้ยินเสียงเมสเสจเบาๆ ผมล้วงหยิบมาเปิดดู
 
มันเป็นข้อความจากคนที่เดินเข้าบ้านไปเมื่อกี้ ผมเปิดอ่าน
 
‘ฉันรออยู่ในห้อง’
 
ผมหัวเราะขึ้นจมูก
 
แล้วไง คิดว่าผมจะรีบวิ่งโร่เข้าไปหางั้นสิ
 
ฝันไปเถอะ
 
ผมยัดมือถือกลับใส่กระเป๋า แล้วนั่งนิ่งตามเดิม
 
สายลมยังคงพัดไหวจนใบไม้ปลิวสะบัด เมฆยังคงล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าสีคราม ปลาคาร์ปยังคงแหวกว่ายอยู่ในบ่อน้ำ หงส์ซานยังคงหลับสนิทอยู่บนเสื่อผืนเดิม
 
‘ฉันรออยู่ในห้อง’
 
ไหนว่าง่วง แล้วทำไมไม่นอน
 
‘ฉันรออยู่ในห้อง’
 
แล้วตอนนี้เขายังรอผมอยู่ไหม
 
‘ฉันรออยู่ในห้อง’
 
หรือว่าหลับไปแล้ว
 
‘ฉันรออยู่ในห้อง’
 
โธ่เว้ย!!
 
ผมดีดตัวลุกยืน แม้จะพยายามสงบอารมณ์ขนาดไหน แต่ภายในผมร้อนรุ่มไปหมด ผมรีบตรงดิ่งไปยังห้องรับแขกที่หมอใช้เป็นห้องนอนชั่วคราว เปิดประตูออกผลัวะ
 
แต่ทั้งห้องว่างเปล่า
 
ผมหัวเสีย ปิดประตูห้องเสียงดัง
 
ทั้งที่รู้อยู่ว่าโดนปั่นหัว แต่ผมก็ยังโง่หลงโดดลงไปในหลุมดักนั้นอีก
 
ผมก้าวฉับๆ กำลังจะกลับไปหาหงส์ซานตามเดิม แต่เบรกกึก หันมองไปทางห้องนอนตัวเอง
 
ถ้าหมอไม่ได้นอนในห้องรับแขก แล้วตอนนี้หมอไปอยู่ที่ไหน

ผมหรี่ตา ก้าวช้าๆ ตรงไปยังห้องนอนตัวเอง จับลูกบิด หมุนเปิดออกช้าๆ
 
ภายในห้องเย็นฉ่ำจากแอร์ที่ผมจำได้ว่าปิดไปแล้ว บนเตียงกว้างขนาดคิงไซส์มีเรือนร่างของคนแปลกหน้ามานอนอยู่ เขานอนหงาย ผ้าห่มคลุมไว้ถึงเอว มือถือหล่นอยู่ข้างๆ มือ ดวงตาปิดสนิท
 
ผมเสยผมเบาๆ อย่างหงุดหงิด ขยับเข้าไปใกล้ ปลดปล่อยรังสีคุกคามเต็มที่ คร่อมร่างหมอไว้ เลื่อนมือไปยังลำคอ แค่สิบวิชีวิตหมอก็ถูกปลิดได้ง่ายๆ แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับได้ เพราะผมเก่งในเรื่องของการเก็บหลักฐานได้อย่างมิดชิด ชนิดที่จมูกหมาก็หาไม่เจอ
 
หมอปรือตามอง ผมขยับมือกุมคอหมอแน่นขึ้น หมอกลืนน้ำลายจนรู้สึกได้ถึงลูกกระเดือกที่ขยับขึ้นลง
 
หมอไม่ดิ้นรน ไม่ร้องขอชีวิต สายตาไม่มีความแปลกใจหรือตระหนกตกใจอะไรเลย มองมานิ่งๆ เท่านั้น
 
“รู้ใช่ไหมว่าผมสามารถฆ่าคุณได้ง่ายๆ”
 
หมอไม่ตอบ ขยับมือ ไม่ได้เลื่อนยกขึ้นมาดึงมือผมออก แต่เลื่อนลงไปยังเป้ากางเกงผมด้านล่าง ลูบไล้มันเบาๆ น้องผมกระตุกวูบ ผมบีบคอหมอแรงขึ้นจนหมอชะงัก
 
สุดท้ายหมอก็ทนไม่ไหว เลื่อนมือขึ้นมาจับข้อมือผมไว้ สีหน้าบ่งบอกว่าเขากำลังจะหมดลมหายใจเอาจริงๆ ผมคลายมือออกก่อนเวลานั้นจะมาถึง หมออ้าปากกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดทันที มันไม่น่าดูเลย ถ้าเป็นเหยื่อรายอื่น
 
แต่กับคนตรงหน้าไม่ใช่ ดวงตาหมอดูปรอย กลีบปากได้รูปเผยออ้าจนเห็นลิ้นสีแดงภายในได้ชัดเจน แผงอกได้รูปไหวกระเพื่อมอย่างคนที่พยายามกอบโกยเอาอากาศเข้าปอด
 
มันดูยั่วยวนอย่างบอกไม่ถูก ผมหรี่ตา ก้มหน้าฉกกลีบปากนั้นทันที ส่งถ่ายลมหายใจที่ผมพรากทิ้งไปเมื่อกี้กลับคืนให้
 
ผมจะทำให้เขาทรมานเจียนตายอีกครั้ง
 
แต่ไม่ใช่ด้วยการบีบคอหรอกนะ
 
 
ชั่วโมงครึ่งผ่านไป
 
ผมนั่งพิงหลังกับหัวเตียง สองขาวางราบไปกับที่นอน ท่อนบนเปลือยเปล่าไม่ต่างกับคนที่นอนตะแคงข้างอยู่ข้างตัว ท่อนล่างกลืนหายไปกับผ้าห่ม ดวงตะวันสาดแสงแรงกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ ผมส่งกล้องจิ๋ว (จะเรียกว่ามินิโดรนก็ได้) ลงไปสำรวจหงส์ซานที่อยู่ข้างล่าง มองทุกอย่างผ่านมือถือ รายนั้นยังคงหลับสนิท ผมเรียกกล้องกลับคืน ปิดมือถือลง หันไปมองคนข้างตัว
 
ไม่รู้ว่าผมไปมีอารมณ์มากมายกับคนไร้เสน่ห์แบบนี้ได้ยังไงกัน
 
เป็นหมอ (แถมยังปัญญาอ่อนด้วย)
 
เป็นผู้ชาย (ที่เป็นผู้ชายแท้ๆ อีกต่างหาก)
 
เป็นเพื่อนสนิทกับเจ้านายด้วย ถ้าคุณไป่หลงรู้ขึ้นมาเขาจะว่ายังไง
 
ผมพ่นลมหายใจแรง เลื่อนนิ้วลงไปเกลี่ยตรงรอยคิสมาร์คจางๆ บนต้นคอและแผงอกอีกคน
 
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำรอยคิสมาร์คได้ แต่ผิวของหมอเหมาะแก่การสร้างริ้วรอยแบบนี้จริงๆ
 
ผมเลื่อนมือจากรอยคิสมาร์คตรงต้นคอเลื่อนขึ้นไปยังผิวแก้ม ไม่รู้ว่าหมอรำคาญหรือต้องการหาไออุ่น หมอจับมือผมไปกดเบาๆ ตรงซอกคอ นิ่งค้างไว้อย่างนั้น
 
เขาดูผ่อนคลาย หลับสนิทจนผมอยากจะทิ้งตัวลงไปนอนด้วย แต่ผมเลือกที่จะดึงมือออกช้าๆ ลุกจากเตียง หยิบเสื้อผ้ามาใส่ ปรับให้มันเรียบร้อย หันไปมองคนที่กำลังหลับสนิท
 
หน้าที่ของผมตอนนี้คือดูแลหงส์ซาน ไม่ใช่มาอยู่ตรงนี้
 
ผมเดินออกจากห้องไป นั่งลงตรงตำแหน่งเดิมของตัวเอง ดวงตาของผมจ้องนิ่งอยู่ยังหงส์ซาน แต่ในมโนความคิด ตัวผมกำลังฝังร่างอยู่บนเตียงเคียงข้างใครอีกคนในห้องนอน
 
 
#หงส์ซาน
 
ผมสะดุ้งโหยงเพราะเสียงมือถือที่ดัง ผงกหัวลุกมอง คว้าหยิบมากดแนบหูโดยไม่มองเบอร์ กรอกเสียงแหบๆ ลงไป
 
“นอนกลางวันอยู่เหรอ นี่ใกล้เที่ยงแล้วนะ ตื่นขึ้นมากินข้าวได้แล้ว”
 
ผมขมวดคิ้วมองเบอร์ที่ไม่ได้ถูกเมมไว้นั้นงงๆ
 
“ใคร”
ผมถามกลับอู้อี้
 
“หงส์ซาน”
 
เสียงและสำเนียงแบบนี้…
 
“อาเฮีย!!” ผมดีดตัวลุกนั่ง “นี่เฮียเอาเบอร์อั๊วมาจากไหน”
 
ได้ยินเสียงถอนหายใจของมันแรงอย่างเอือมระอา
 
“หงส์ ไม่มีสามีคนไหนไม่มีเบอร์ของเมียตัวเองหรอกนะ”
 
กูว่ามึงใช้คำผิดนะบ๊วย สามีต้องคู่กับภรรยา เมียน่ะใช้กับผัวเว้ย!!
 
“โทรมามีไร”
ผมถามกลับห้วนๆ ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ
 
“เฮียคิดถึง”
 
ครับ เบาๆ แต่คำนั้นมีอานุภาพทำให้สติที่กำลังพร่าเลือนของผมตื่นเต็มตา ตัวร้อนหน้าร้อนไปหมด ผมเม้มปาก ควานมือทึ้งหญ้าข้างตัวทิ้งไปสองสามต้นระบายไอร้อนที่กำลังกรุ่นขึ้นมาตอนนี้
 
“ประสาท”
ผมอุบอิบต่อว่าไป ได้ยินเสียงหัวเราะอีกรอบ
 
“เป็นเด็กดีนะ เฮียจะรีบกลับไปหา”
 
“ไม่ได้รอ”
ผมว่ากลับไปเบาๆ ได้ยินเสียงหัวเราะอีกรอบตามด้วยเสียงเรียกชื่อมันของวิกเซอร์
 
“แล้วเจอกัน แค่นี้ก่อน เฮียติดงาน”
มันพูดแค่นั้นแล้ววางสายไป 
 
ผมพยายามไม่เปิดปากที่กำลังจะยิ้มแหล่มิยิ้มแหล่ของตัวเอง ควานหาหญ้าอีกต้นมาดึงดังปึ้ด
 
“ถ้าจะเขินก็เขิน ไม่ต้องมาทำหน้าปัญญาอ่อนแล้วไปทำร้ายต้นหญ้าแบบนั้น”
 
ผมชะงักกึก หันไปมองเจ้าของเสียง ซันไรส์ยืนกอดอก ทำหน้าเอือมระอาอยู่ไม่ห่าง
 
มันก็ขยันดีเนอะ เฝ้ามองผมได้ตลอดเวลาจริงๆ
 
“ใครเขิน มั่วแล้ว”
 
ผมหันมองไปรอบๆ
 
“อ้าว แล้วพี่หมอล่ะ ยังไม่ตื่นเหรอ”
 
“กลับไปแล้ว”
 
ผมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนไปก็น่าจะปลุกกันสักหน่อย 
 
“จะทานข้าวที่นี่หรือที่ห้องกินข้าว”
ซันไรส์ใจดีถาม
 
“ที่นี่ละกัน”
 
มันไม่พูดอะไร เดินหายไปไม่ถึงสิบนาทีก็ได้อาหารมาเสิร์ฟ
 
ผมนั่งกินเงียบๆ
 
บนโต๊ะกินข้าวตัวเดียวกัน เมื่อเช้าผมนั่งกินกับไอ้บ๊วยสองคน แต่มาตอนนี้ผมนั่งกินคนเดียวเงียบๆ
 
รู้สึกเหงาแฮะ
 
ผมชักอยากให้บ๊วยมันมานั่งกินด้วยอีกคน ถึงจะกินกันไปกัดกันไปก็เถอะ แต่มันดูมีชีวิตชีวามากกว่านี้
 
พออิ่มซันไรส์ก็ยกถาดเปล่าไปเก็บ ผมกลับไปนั่งว่างๆ ตามเดิม ชักอยากให้เวลาผ่านไปเร็วๆ
 
ผมแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
 
ดวงตะวันเลยหัวไปไม่มาก เที่ยงวันนี้บ๊วยมันกินข้าวที่ไหน กินกับใคร หรือกำลังนั่งทำงานหน้าเครียดอยู่
 
เอาตามจริง ผมไม่ชอบตอนมันทำหน้าเครียดเลย ยิ้มหล่อกว่าอีก ทำให้ใบหน้าทุยๆ ของมันดูดีขึ้นเยอะ
 
เหอะ ป๊าม๊าก็ช่างสรรค์สร้าง เอาซะมันดูดีไปหมดทุกมุม
 
หล่อกว่าผมอีก
 
ใส่ชุดไหนก็หล่อ
 
ไม่ใส่ก็หล่อ
 
ผมชะงักความคิดตัวเองไว้กับที่
 
ไม่ได้ชะงักเพราะคิดถึงภาพเปลือยของมันเมื่อกี้
 
แต่ชะงักกับสิ่งที่วนเวียนอยู่ในสมองของผมตอนนี้ต่างหาก
 
เดี๋ยวหงส์ซาน
 
เดี๋ยวก่อน!!
 
ผมดีดตัวลุกยืน เบิกตากว้าง
 
ทำไมในหัวของผมตอนนี้ถึงมีแต่เรื่องของไอ้บ๊วยมันล่ะ!!!
 


To be Con

อัพนิยายครั้งหน้าจะลองใช้เน็ตของ Ais ดู เน็ตทรูตจวสโลว์มากกกกกกกก (อิชั่นจะร้องไห้)
เม้นท์กันให้ชื่นใจสักนิ้ดดดด






ข่าวสารและนิยายเรื่องอื่นๆ: https://goo.gl/WbWxt8
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2017 19:40:34 โดย memew »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][29-6-2017] 40%
«ตอบ #346 เมื่อ29-06-2017 20:23:21 »

ขขขขขขขขขขขขขข :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][29-6-2017] 40%
«ตอบ #347 เมื่อ29-06-2017 21:05:21 »

 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][29-6-2017] 40%
«ตอบ #348 เมื่อ29-06-2017 22:05:06 »

อิอิ น่ารัก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][29-6-2017] 40%
«ตอบ #349 เมื่อ29-06-2017 23:08:56 »

 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][29-6-2017] 40%
« ตอบ #349 เมื่อ: 29-06-2017 23:08:56 »





ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][29-6-2017] 40%
«ตอบ #350 เมื่อ29-06-2017 23:27:27 »

คุณหมอน่ากลัวจริงๆ ดูยังงัยซันไรท์ก็ไม่ทันเล่ห์คุณหมอแน่ๆ   o18

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][29-6-2017] 40%
«ตอบ #351 เมื่อ29-06-2017 23:29:27 »

พี่หมอนี่จริงๆเล้ยย

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][29-6-2017] 40%
«ตอบ #352 เมื่อ30-06-2017 18:45:22 »

 :jul3: :jul3: :jul3:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][1-7-2017] 80%
«ตอบ #353 เมื่อ01-07-2017 09:48:42 »

เจ้าของไร่อ้อยมาเอง

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][1-7-2017] 80%
«ตอบ #354 เมื่อ01-07-2017 15:05:21 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][1-7-2017] 80%
«ตอบ #355 เมื่อ01-07-2017 15:09:07 »

กรี้ดอ่ะ ถ้าเจอ ถูกทำโทษแน่เลย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][1-7-2017] 80%
«ตอบ #356 เมื่อ01-07-2017 15:31:01 »

 :hao7:ห้องใครน่ะ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][1-7-2017] 80%
«ตอบ #357 เมื่อ01-07-2017 16:27:25 »

อื้อหือ หมออออ แซ่บเฟร่อออ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][1-7-2017] 80%
«ตอบ #358 เมื่อ01-07-2017 17:48:12 »

 :z1:

 :3123: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: หงส์ซาน #18 หมดความอดทน [P.12][1-7-2017] 80%
«ตอบ #359 เมื่อ01-07-2017 21:52:30 »

 :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด