<<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<ลมหายใจแห่งผืนทราย>>  (อ่าน 151949 ครั้ง)

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                    ลมหายใจแห่งผืนทราย



                                                                             บทที่ 13



                วิกเตอร์ก้าวไปยังที่ทำการคณะรัฐบาลฮาลียันด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ ข่าวที่ได้รับเป็นการภายในของบรรดาผู้สื่อข่าวต่าง

ประเทศในเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้เขาเป็นห่วงเพื่อนสนิทเป็นอย่างมาก สำนักข่าวที่เขาทำงานอยู่ส่งผู้สื่อข่าวคนใหม่มาทำงานแทน

กวินท์ที่ผู้จับตัวไปโดยที่ยังไม่รู้ชะตากรรม นักข่าวที่ถูกส่งมาใหม่เป็นรุ่นพี่สาวใหญ่ชื่อแอนนิสซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำงานใน

ตะวันออกกลาง 




                  บ่ายจัดของเมื่อวานนี้ แอนนิสโทรศัพท์สายด่วนหาเขา แล้วแจ้งข่าวให้วิกเตอร์รู้




                 “ข่าวด่วนวิกเตอร์ มีการต่อสู้และระเบิดเกิดขึ้นที่พื้นที่แห่งหนึ่งกลางทะเลทราย ฝ่ายหนึ่งเป็นกองกำลังของรัฐบาลแต่อีกฝ่าย

หนึ่งไม่รู้ว่าใคร”


                  วิกเตอร์ตกใจเป็นอย่างมาก เขารีบไปหาแอนนิสทันที ณ จุดรวมของนักข่าวต่างประเทศที่ต่างก็ตรวจเช็คข่าวกันอย่าง


วุ่นวาย




                  “มีข่าวเพิ่มหรือเปล่าแอน”




                    แอนนิสคร่ำหวอดในการทำข่าวแถบนี้มานานแล้ว เธอมีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือมากมาย สีหน้าของเธอคร่ำเคร่งขณะกำลัง

ตรวจสอบที่มาของข่าว




                    “มีสิ ข่าวทางลับบอกว่า ตรงนั้นเป็นสถานที่สำหรับดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บของกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีกับรัฐบาล”


                “ผู้บาดเจ็บงั้นเหรอ รัฐบาลฮาลียันเป็นบ้าอะไร ทำไมต้องโจมตีพวกบาดเจ็บด้วย ไม่แฟร์เลย”





                     วิกเตอร์กล่าวอย่างแปลกใจกับการกระทำของรัฐบาล แอนนิสยังพูดต่อด้วยข้อมูลที่เธอหามาได้




                     “เด็ดกว่านั้นอีก มีข่าวลับสุดยอด เขาบอกว่าที่กษัตริย์ราชิดโกรธเกลียดหัวหน้ากองโจรแห่งดาฟาร์และมักจะให้ข่าวใน

ทางร้ายกับพวกนั้นเสมอ เพราะว่าพวกกองโจรน่ะให้การสนับสนุนกลุ่มตรงข้ามกับรัฐบาล พวกนั้นน่ะมีทุน มีสายข่าว และมีผู้คนให้การ

ช่วยเหลือจำนวนมาก”


 
                  “ทำไมล่ะ ทำไมคนถึงหันไปช่วยเหลือพวกโจร”




                   วิกเตอร์ไม่เข้าใจ ดูเหมือนจะมีคนไม่เห็นด้วยกับการมีกษัตริย์ราชิดเป็นประมุขของประเทศ




                  “ก็เพราะว่าพวกโจรเหล่านั้น บางทีอาจจะเป็นคนจากกษัตริย์พระองค์เดิมที่ถูกชิงอำนาจไปน่ะสิ”




                  “เฮ้ย นี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว มันเกมการเมืองชิงความเป็นใหญ่ชัดๆ แล้วกวินท์ล่ะ”




                   วิกเตอร์สบตากับแอนนิส รุ่นพี่ที่ทำงานถอนหายใจออกมา 




                   “บางทีกวินท์อาจจะกลายเป็นเหยื่อทางการเมืองนะ”




                     ตากล้องหนุ่มไม่นึกแปลกใจอีกแล้วว่าทำไมการตามหาเพื่อนของเขาจึงไม่คืบหน้า คืนนั้นทั้งคืนวิกเตอร์จึงต้องอยู่

ทำงานกับแอนนิส จนกระทั่งตอนเช้าเขาจึงมาสำนักงานรัฐบาลด้วยอารมณ์ไม่ดีนัก




                    “พวกคุณไม่จริงใจ”




                   วิกเตอร์โวยวายเมื่อไม่มีใครให้คำตอบกับเขาได้เรื่องการตามหากวินท์




                  “ผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว มันควรจะได้ข่าวอะไรมาบ้าง นี่ผมยังเห็นนั่งสบายไม่เดือดร้อนอะไรเลยที่มีคนต่างชาติถูกจับตัว

ไป”




                  “มิสเตอร์คอร์นเนอร์ หยุดเดี๋ยวนี้”





                     เสียงหนึ่งดังขึ้นเพื่อหยุดการโวยวายของเขา วิกเตอร์หันขวับไปมองด้วยสายตาเยาะหยันเมื่อเห็นว่าเป็นใคร     คาลีล

เลขานุการของกษัตริย์ราชิดนั่นเอง


 

                    “จะใช้สิทธิ์อะไรมาห้าม ผมไม่ใช่คนในประเทศของคุณ ผมไม่ได้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของคุณ”




                       วิกเตอร์โวยวายไม่เลิกจนคาลีลหมดความอดทน เขาเอ่ยปากให้พนักงานรักษาความปลอดภัยเข้ามาจับกุมตัววิกเตอร์

และบังคับให้เดินตามคาลีลมาที่ห้องทำงานของเขา


                   “ไอ้คนบ้าอำนาจ มึงจะทำอย่างนี้ไม่ได้ จับกูมาทำไม”


                   วิกเตอร์เอะอะตลอดทาง จนกระทั่งถูกผลักเข้ามาในห้อง ประตูปิดลงจนเหลือเพียงเขาและคาลีลเจ้าของห้องที่มองเขา


อย่างรำคาญ




                 “จะโวยอะไรอีกก็ตามสบาย เอาให้สบายใจ”




                   คาลีลทิ้งกายนั่งบนเก้าอี้ของเขาด้วย วิกเตอร์มองอิริยาบทของคาลีลแล้วตีความไปว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจใยดีจุดมุ่งหมาย

ของเขาที่มาที่นี่เลยสักนิด วิกเตอร์ก้าวเข้าไปแล้วกระแทกมือทั้งสองใส่โต๊ะทำงานของคาลีลเสียงดังปัง




                  “ผมต้องการคำตอบว่าเมื่อไหร่ฮาลียันจะตามตัวกวินท์พบและพากลับมาอย่างปลอดภัย”




                   “ทางกองทัพทหารของเรากำลังเร่งการค้นหาอยู่”




                  คาลีลตอบด้วยเสียงเรียบเฉย วิกเตอร์หรี่ตามองด้วยความไม่ไว้ใจ




                   “พวกคุณเร่งค้นหาด้วยการถล่มที่ตั้งลับของฝ่ายก่อความไม่สงบนี่นะ มั่นใจได้ยังไงว่าที่นั่นไม่มีกวินท์อยู่”




                    คิ้วโก่งเข้มสีดำสนิทของคาลีลขมวดเข้าหากันทันที เขาลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับวิกเตอร์




                  “ที่คุณพูดหมายถึงอะไร ถล่มที่ตั้งของฝ่ายก่อความไม่สงบไปเกี่ยวอะไรกับพวกโจรที่จับเพื่อนของคุณไป แล้วคุณรู้ข่าวนี้

ได้อย่างไร”




                 วิกเตอร์หัวเราะหยัน คาลีลกำลังแสดงพิรุธบางอย่างออกมาให้เห็น เขาเชื่อว่าคาลีลที่เป็นถึงเลขานุการของกษัตริย์ราชิดจะ

ต้องมีความลับที่ปิดบังไว้อย่างแน่นอน




                     “พวกคุณปิดข่าวไม่ให้คนนอกประเทศรู้ ว่าแท้ที่จริงแล้วพวกโจรทะเลทรายเหล่านั้นคือพวกเดียวกับพวกก่อความไม่

สงบที่คิดจะโค่นเจ้านายของคุณลงจากบัลลังก์”




                   “มิสเตอร์คอร์นเนอร์!”




                   คาลีลกระชากคอเสื้อของวิกเตอร์เข้าหา ดวงตามีแววเกรี้ยวกราดเผยออกมาให้เห็นแม้ว่าจะพยายามควบคุมไว้อย่างเต็มที่




                  “คำพูดอย่างเมื่อครู่นี้อย่าได้เที่ยวพูดให้ใครได้ยินอีกถ้ายังอยากจะกลับประเทศของคุณอย่างปลอดภัย”




                  วิกเตอร์เบ้ปาก เขาดึงข้อมือของคาลีลออกพลางมองกลับอย่างไม่นึกกลัว




                   “คุณกำลังข่มขู่ผมอยู่นะท่านเลขาหน้าห้อง แต่ขอโทษเถอะที่ผมไม่กลัว และถ้าหากผมกับกวินท์เป็นอะไรไปรับรองว่าดัง

ระเบิดไปทั่วโลกแน่ๆ”




                    วิกเตอร์หมุนกายกลับเดินไปทางประตู ก่อนจะออกจากห้องเขาหันมาเอ่ยทิ้งทวน




                      “ผมว่าคุณควรจะกราบทูลกษัตริย์ของคุณให้เขาตามหากวินท์ให้กลับมาอย่างปลอดภัยโดยเร็วจะดีกว่า อย่าทำให้เรื่อง

มันวุ่นวายไปกว่านี้เลย”




                       คาลีลมองตามแผ่นหลังร่างสูงของช่างภาพจากสำนักข่าวต่างประเทศด้วยสายตาเป็นกังวล ความมุทะลุไม่ยั้งคิดของ

วิกเตอร์อาจจะทำให้เรื่องบานปลายมากไปกว่านี้




                    บางทีคาลีลอาจจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้วิกเตอร์ไม่สามารถไปพูดจาเช่นนี้ให้ใครได้ยินอีกจนกว่าเรื่องทุกอย่างจะ

จบลง





มีต่ออีกนิด...




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2017 12:02:46 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


อ่านต่อตรงนี้....



                 กวินท์ขยับกายช้า ๆ ตามด้วยแพขนตาที่ค่อย ๆ เปิดตามขึ้นมา ความหนาวเหน็บอาบไล้ไปตามแขนขา โชคดีว่าเสื้อผ้าที่ใส่

เป็นชุดแขนขายาวของชนพื้นเมืองจึงพอจะต่อสู้กับความหนาวเย็นได้บ้าง เขาเคยได้ยินมาว่าท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุมากกว่าสี่

สิบองศาเซลเซียสในตอนกลางวัน เมื่อตกกลางคืนผืนทรายจะคายความร้อนโดยไม่เก็บกักแม้แต่นิด และจะทำให้อากาศหนาวเย็นแตก

ต่างกันเป็นอย่างมาก

                    อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้กวินท์ไม่รู้สึกหนาวจนเกินไปนักก็คงจะเป็นอ้อมกอดที่โอบล้อมไปรอบตัวนี่เอง เมื่อตื่นจากนิทรา

แล้วกวินท์จึงแจ้งแก่ใจว่าเขายังคงนอนเบียดกับร่างสูงใหญ่ของชารุกข์อยู่บนเบาะรถจี๊ปสองเบาะแคบๆ อันที่จริงเขาควรจะหวาดกลัวกับ

เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาเข้าใกล้กับคำว่าสมรภูมิแห่งการสู้รบอันดุเดือดขนาดอยู่กลางเหตุการณ์นั้นทีเดียว

แต่ความหวาดหวั่นนั้นจางหายไปเมื่อกวินท์รู้ว่าเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นนี้จะช่วยปกป้องเขาได้ กวินท์ไว้วางใจในตัวชารุกข์จนสามารถ

หลับตาลงและคล้อยหลับไปจนถึงตอนนี้

                     ใบหน้าของเขาซุกอยู่กับอกกว้างที่มีเพียงผ้ายืดพันทับแผลที่ชารุกข์ได้รับบาดเจ็บเท่านั้นเพราะเสื้อที่ชารุกข์ใส่ขาดวิ่น

ไปหมดแล้ว มีรอยโลหิตไหลซึมออกมาเป็นวงแห้งกรังอยู่บนผ้ายืด ความเป็นห่วงแล่นเข้ามาจับหัวใจจนต้องวางมือแนบไปกับมันอย่าง

แผ่วเบา


                     “ตื่นแล้วหรือกวินท์”


                     เสียงนุ่มเอ่ยถามอยู่เหนือศีรษะ กวินท์เงยหน้าสบตาอย่างเป็นกังวล


                     “แผลของคุณเป็นยังไงบ้างครับชารุกข์ ยังเจ็บอยู่ไหม แล้วนี่คุณหนาวหรือเปล่า”


                    “นอนกอดคุณทั้งคืนแบบนี้ไม่หนาวหรอก อย่าห่วงไปเลย”


                     ชารุกข์เชยคางมนขึ้น มันเป็นความจริงที่ไม่รู้สึกหนาวเลยสักนิดเมื่อได้กอดร่างอุ่นของกวินท์แนบชิดเช่นนี้ นิ้วมือสาก

แตะไล้อยู่บนริมฝีปากนุ่มที่ตอนนี้แห้งผากไปบ้างจนเขานึกสงสาร


                   “ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้วครับ”


                   กวินท์เอ่ยถามเมื่อเหลียวมองรอบตัวยังมีแต่ความมืดปกคลุม เขาดันกายห่างจากอ้อมกอดของชารุกข์เพื่อลุกขึ้นนั่ง รู้สึก

ถึงความเมื่อยขบมาเยือนตามร่างกายที่นอนนิ่งตลอดทั้งคืน ชารุกข์ขยับลุกนั่งตามมา


                  “ตีห้าแล้ว ดาววีนัสกำลังส่องแสงสว่างอยู่ทางทิศเหนือ”


                   ชารุกข์ชี้ชวนให้ดู เขาจัดการปลดผ้าใบหลังคารถออกให้ม้วนกลับที่เดิม กวินท์มองเห็นท้องฟ้าที่ยังคงดำสนิท มีประกาย

ดาวส่องแสงกระจายไปทั่ว จุดเด่นที่สุดคือดาวดวงที่สดใสที่สุดในยามเช้าตรู่


                   “คุณยายของผมเคยเล่าให้ฟังว่าดาววีนัสในภาษาไทยคือดาวศุกร์ ตอนหัวค่ำคนไทยจะเรียกว่าดาวประจำเมือง และพอถึง

ตอนเช้าจะเรียกว่าดาวประกายพรึก”


                   กวินท์ส่งเสียงเจื้อยแจ้วกลบความเงียบและเสียงลมหวีดหวิว ชารุกข์ได้แต่มองกลีบปากช่างพูดนั้นยามเล่าเรื่องราวให้เขา

ฟังพลางอมยิ้ม เขาวางมือไปบนบ่าของกวินท์และรั้งให้อีกฝ่ายเอนกายซบบ่าของเขาพลางแหงนหน้าชมความงดงามของหมู่ดาวบน

ท้องฟ้า


                “มันมีความหมายยังไงบ้าง”


                “ยายบอกว่าในทางโหราศาสตร์ดาวศุกร์หมายถึงศิลปะความบันเทิง ความสวยงาม ความรักและความหวัง”


                “โชคดีมากที่ผมได้มานั่งชมดาวดวงนี้กับคุณนะกวินท์”


                   เสียงนุ่มที่เอ่ยนั้นเมื่อได้คิดตามแล้วกวินท์เพิ่งจะเข้าใจความนัย แก้มของเขาเห่อร้อนเมื่อถูกคนพูดน้อยหยอดคำหวาน

โดยไม่ทันตั้งตัว


                “หยอดเสียผมชักเขินแล้วนะครับท่านเชคฮ”


                 กวินท์หันไปมองเสี้ยวหน้าคมอย่างหมั่นไส้ คนที่กอดเขาอยู่บทจะโหดก็ดูน่าเกรงขามทั้งในยามใช้ดาบโบราณหรืออาวุธปืน

ทันสมัย แต่บทจะเอ่ยคำหวานก็ทำให้เขาเกือบละลายคาอ้อมกอดอบอุ่นนี้ กวินท์หวั่นไหวอยู่ในหัวใจจนอดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงว่าเมื่อเขา

ต้องกลับไปใช้ชีวิตเช่นที่ผ่านมาเขาจะทนได้หรือไม่


               “เป็นอะไร ทำไมอยู่ ๆ ก็ทำหน้าเศร้า”


                สีหน้าของกวินท์ไม่สามารถปิดบังความคิดเจ้าของได้ ชารุกข์เอ่ยถามอย่างใส่ใจในความรู้สึกของคนที่อยู่ในอ้อมกอด กวินท์

ฝืนยิ้มดวงตางามหมองหม่นลง


               “คิดถึงวันที่เราต้องจากกันครับ”


               “กวินท์!”


                ชารุกข์เองก็อดใจหายไม่ได้หากว่าวันหนึ่งเขาจะไม่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วใกล้ๆหูเช่นนี้อีก


                “เราจะไม่จากกัน”


                 “ผมเคยบอกคุณแล้วว่าเรื่องของเรามันไม่ได้มีแค่เราเท่านั้น มันมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เราต้องคิดถึง และเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะ

ไม่จากกัน คุณเองก็เคยบอกผมว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมคุณจะไปส่งผมเพื่อให้ผมเป็นกระบอกเสียงแทนพวกคุณ”


                  “ที่ผมพูดนั่นมันก่อนที่ผมจะรักคุณ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เราไม่ต้องจากกัน”


                   กวินท์นิ่งงัน ดวงตาเรียวเบิกกว้าง สมองของเขากำลังประมวลผลจากประโยคคำพูดที่ชารุกข์กล่าวออกมา


                   ชารุกข์เอ่ยคำว่า “รัก” อย่างนั้นหรือ กวินท์หูฝาดหรือเปล่า หรือว่าเขาแปลภาษาอังกฤษที่ใช้มาตลอดชีวิตผิดพลาด


                   “กวินท์”


                    “เอ่อ ว่าไงนะครับ ยังไงนะ คือ ผมว่าผมฟังผิด”


                    ชารุกข์คลี่ยิ้ม ดวงตาของเขาพร่างพราวขณะมองใบหน้าเขินจัดของกวินท์ แม้ว่าจะยังมีแต่ความมืดโดยรอบก็มองออกว่า

บัดนี้แก้มของกวินท์แดงจัด ชารุกข์อดใจไม่อยู่จนต้องวางมือแนบไปกับกรอบหน้านั้นแล้วยึดให้กวินท์สบตากับเขา ชารุกข์โน้มใบหน้า

เข้าใกล้ใบหูของกวินท์แล้วกระซิบเบาๆ


                  “อักฮบักค ฮาบิบี”  (أحبك حبيبي ออกเสียงว่า 'ahbak habibi ใช้วุ้นแปลภาษามาช่วยเร็ว:ผู้แต่ง)


                  พูดจบชารุกข์ก็หอมแก้มนุ่มของกวินท์ เขาสูดกลิ่นกายของกวินท์ไปจนพอใจจึงได้ยอมถอนจมูกโด่งออกอย่างอ้อยอิ่ง

กวินท์ตัวแข็งทื่อกรอกตาไปมาเมื่อถูกคนหน้าเข้มจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว


                  “คุณพูดอะไร ชารุกข์บอกผมมานะ”


                   ส่งเสียงคาดคั้นแต่อีกฝ่ายก็ได้แต่อมยิ้ม กวินท์ทั้งเขินทั้งเคือง


                    “ชารุกข์!”


                   “เดี๋ยวค่อยไปหากูเกิลทรานสเลทแปลก็แล้วกันนะ”


                    “ขี้โกง”


                   “เปล่า” ชารุกข์ยักไหล่


                    “ก็แค่อยากให้คุณฝึกพูดภาษาของผมบ้าง”


                        กวินท์ทำท่าจะเอ่ยปากต่อว่า หากแต่เสียงเครื่องยนต์ที่ดังแว่วมาแต่ไกลก็ขัดขวางไว้เสียก่อน สีหน้าผ่อนคลายของ

ชารุกข์เปลี่ยนเป็นจริงจัง  เขาผลักกวินท์ให้ลงจากเก้าอี้ย่อตัวลงต่ำไปกับที่ว่างด้านหน้า ส่วนตัวเขาก็มองอย่างระแวดระวังจนกระทั่ง

ได้ยินเสียงแหลมอยู่เบื้องบนท้องฟ้า เขาจึงถอนหายใจโล่งอก


                    “อับบาส”


               พึมพำก่อนจะผิวปากตอบรับ พลันนกเหยี่ยวสีดำกลมกลืนกับความมืดก็โผบินฉวัดเฉวียนลงมาปรากฏกายให้เห็น อับบาสกรีด

เสียงร้องเมื่อลงมาเกาะที่บ่าของเจ้านายอย่างดีใจ


               “ขอบใจนะอับบาส”


                 ชารุกข์ลูบขนสีดำสนิทเป็นการตอบแทน ไม่นานหลังจากนั้นแสงไฟจากหน้ารถยนต์คันหนึ่งจึงสว่างชัด จนกระทั่งคนขับ

เหยียบเบรกให้ห่างจากรถของชารุกข์ไม่มากนัก ชารุกข์ขยับไหล่แทนการออกคำสั่ง อับบาสจึงโผบินจากไป


                  “เชคฮครับ ปลอดภัยหรือเปล่า”


                   กวินท์หายใจโล่งอกเมื่อได้ยินเสียงยาก็อบ ชายหนุ่มรุ่นน้องกระโดดลงมาจากด้านหน้าของรถจี๊ปคันเก่าจนไม่น่าเชื่อว่าจะ

ยังใช้งานได้อยู่ ชารุกข์พยักหน้าให้กวินท์ก้าวลงจากรถคันเก่าไปยังรถของยาก็อบ


                  “บาดเจ็บนิดหน่อย แล้วที่หมู่บ้านเป็นยังไงบ้าง”


                      “เชคฮอาลีทราบข่าวแล้วครับ ทุกคนเตรียมกำลังสำหรับเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเชคฮอาลีก็บอกว่า

ให้พวกเรากลับไปที่อัลกามาร์ก่อนสักพัก”


                   ชารุกข์พยักหน้ารับรู้ยาก็อบจึงหันหลังกลับไปยังรถของเขา ชารุกข์จึงหันมาหากวินท์


                  “กลับกันเถอะฮาบิบี”


                    มือใหญ่รวบข้อมือของกวินท์ให้เดินตาม เมื่อถึงรถของยาก็อบกวินท์มองเห็นด้านท้ายซึ่งเป็นที่ว่างมีน้ำและเสื้อผ้าชุด

ใหม่วางอยู่ ชารุกข์ก้าวเข้าไปตรงนั้นและหยิบเสื้อสีดำมาสวม


                 “คุณนั่งด้านหน้ากับยาก็อบนะ ผมขอพักสักหน่อย”


                  เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของกวินท์ชารุกข์จึงไม่ได้หลับตลอดทั้งคืน เขาบังคับตัวเองให้ตื่นเพื่อระวังภัยที่อาจเกิดขึ้น

เมื่อรู้ว่าปลอดภัยแน่แล้วความอ่อนเพลียและเจ็บปวดจากบาดแผลจึงได้มาเยือน เขาค้นหายาแผงยาแก้ปวดที่ยาก็อบเตรียมมาให้แล้ว

โยนเข้าปากก่อนจะดื่มน้ำตาม


                    ยาก็อบขับรถกลับทางเดิมโดยมีกวินท์นั่งคู่ไปด้วย กวินท์เหลียวมองด้านหลังอย่างเป็นห่วง ชารุกข์เอนกายลงกับที่ว่าง

และหลับไปอย่างง่ายดาย กวินท์หันกลับมาหายาก็อบที่นั่งยิ้มให้เขา


                  “ดีใจที่คุณปลอดภัยนะกวินท์”


                  “ทำไมคุณไม่บอกผมว่าเชคฮของคุณที่แท้เขาเป็นเจ้าชาย”


                   ยาก็อบยกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ


                    “อ้าว ในที่สุดคุณก็รู้ ดีแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องคอยปิดบังอีก ผมบอกแล้วไงว่าผมมาทำงานกับเขาเพราะความศรัทธา พวก

เราหวังว่าชารุกข์อามิรจะเป็นคนนำพาความถูกต้องมาสู่ฮาลียัน”


                   ยาก็อบเรียกขานตำแหน่งที่ถูกต้องของชารุกข์กับเขา กวินท์ถอนหายใจเมื่อรู้ว่าชารุกข์นั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เขาคิดมากนัก

กวินท์นึกกลัวความผูกพันที่กำลังโอบรัดเขาไว้กับบุรุษที่เป็นความหวังของผู้คน


                     “ยาก็อบ ถามหน่อยสิ เอ่อ...อักฮบักค ฮาบิบี แปลว่าอะไร”


                      กวินท์เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าชารุกข์หลับสนิทแล้ว เขาพยายามออกเสียงให้คล้ายภาษาอารบิกที่ชารุกข์พูดให้มากที่สุด

เมื่อยาก็อบได้ยินเขาถึงกับหัวเราะออกมา


                    “โอ กวินท์ อยู่ฮาลียันไม่นานคุณก็ได้ภาษาไปเยอะนะ แต่ผมไม่นึกว่าคุณจะฝึกพูดคำนี้ นี่คุณจะเอาไปพูดเกี้ยวสาว

ที่ไหน”


                   กวินท์ทำหน้าเลิกลัก ยาก็อบหยุดหัวเราะก่อนจะเฉลยให้ฟัง


                     “อักฮบักค แปลว่ารัก ส่วนฮาบิบี ผมจะแปลว่าอะไรดีนะ อืม ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษก็น่าจะแปลว่าดาร์ลิง ที่รักทำนองนี้

แหละมั้ง”


                 กวินท์หันขวับไปมองคนที่หลับสนิทอยู่ตรงท้ายรถ เขาเม้มปากห้ามความขัดเขินที่พร่างพรูขึ้นมา หัวใจของกวินท์พองฟู

ราวกับลูกโป่งที่กำลังล่องลอยไปบนท้องฟ้าเมื่อรู้ความหมายของประโยคนั้น





                                                                                         TBC


                          คู่รอง วิกเตอร์กับคาลีล คือยังไม่ได้ตัดสินใจว่าใครจะเคะจะเมะนะ คู่นี้อาจจะไม่จบในเรื่องนี้ก็ได้
                   อาจจะสปินออฟไปเปิดเรื่องใหม่หลังจากนี้อะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้ให้พวกนางทะเลาะกันไปก่อนละกัน ^^


                                                                         :m12: :m12: :m12: :m12: :m12:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2017 12:13:00 โดย Belove »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

รักกันแล้ว มันก็หวานหน่อยๆนะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
มีความหวานอยู่กลางทะเลทราย อิอิ

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :katai5: :katai5: :katai5:
ติดตามคู่รองค่า เราเป็นบ้าเป็นบอกับคู่รอง

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เขินนนนนนนนนนน  :-[
ส่วนคู่รองก็น่าลุ้นเหมือนกันค่ะ

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
พระเอกเราก็มีความหวานตลอด  :-[

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ได้ทีขยันหยอดเชียวนะ

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
ชอบฉากดูดาว 
แล้วก็ ทราย คงกลายเป็น น้ำตาลไปแล้วเพราะชารุกอามิร :o8:
 :L2: :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
บอกความนัยเพื่อรักษาแผล
อิอิ

ออฟไลน์ Warnkt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินมากกกกก รอออออออ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ตัวบิดเป็นเกลียวแทนกวินทร์  :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
วิกเตอร์เคะเลยค่ะ ชอบๆอ่า

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
มีการสารภาพรักกันด้วยยยยย >\\\<
ฮาบิบีของเชคฮชารุกข์~~~~

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อามิรบอกรักแล้ว กวินท์ก็ขวยเขินไปสิ แถมบอกแล้วด้วยว่าจะไม่ปล่อยให้ไปไหน
กวินท์เตรียมรับมือได้เลยนะ ชารุกข์มีครบทุกโหมด
อ้อมกอดอันอบอุ่น ความห่วงใย ที่มีให้กัน ว้าวๆๆๆ ฟินค่ะ

โอ๊ยยยย แล้วทำไมตามหาเจอ เจอได้ไง สงสารกวินท์ต้องมาเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญ

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฮาบิบี ฟังแล้วดูมีเสน่ห์ชวนฝันจริงๆนะ :impress2:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เขินแทนกวินทร์ :-[

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
จ้าฮาบิบี จ้าาาาาาาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อั๋ยยยยะ.......นึกอยู่ว่า “อักฮบักค ฮาบิบี”  นี่  น่าจะแปลว่าที่รัก ตรงเผงเลย   :heaven
ชารุกข์ กวินทร์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

วิกเตอร์ โวยเรื่องกวินทร์ ได้ดีมากกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เลขาคิดทำไรกับวิกเตอร์ ไม่ใช่เก็บนะ  :fire:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
อาหักบัก อาบิบี. อิอิ ภาษาเสื่อมมั๊ย เค้าเขิลลลลลล

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
หวานจริงๆ เจ้าชายองค์นี้

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ยิ้มไม่หุบเลยจ้าาาาาาา :impress2:

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
เขินมากกก อะไรกัน  แค่เขารักกันเองทำไมเราเขินได้ขนาดนี้ง่ะ งือออ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ดอกรักบานท่ามกลางสงคราม :o8:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ช่างเป็นน้ำหวานกลางทะเลทรายจริงๆ

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
โว้ เชคฮนี่หยอดได้ตลอดเวลาเลยนะ  :-[

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
โอยย เขินนนชารุกข์
ขยันหยอดจริงๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด