12
ความรู้สึกของคนกลางใจ
ขณะนี้วันเสาร์สิบโมงเช้าที่แสนสุข ผมกับเพื่อนที่มีหน้าที่เตรียมงานมาถึงมอxxแล้วครับ เชี่ยโคตรง่วง ผมเบื่อการนอนตื่นเช้าของตัวเอง ให้ตายเถอะ ผมแบกเป้ขนาดกลางเหมือนคอนเซ็ปต์ตัวเองขึ้นบ่าก่อนจะเดินตามพวกคณะกรรมการเข้าโรงแรม มอนี้เขาหรูครับ มีโรงแรมเป็นของตัวเองให้เด็กได้ฝึกเรียนรู้งานโรงแรม ทางประธานชั้นปีอย่างคุณอาร์ตก็จัดที่พักให้ผมกับเพื่อนคณะกรรมการห้าห้องรวมถึงอีกสามมอด้วย เรามากันเก้าคนครับจริงๆ แล้วมีสิบสองแต่ว่าอีกสามคนบ้านมันไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่เลยขอไปกลับดีกว่า
ปึก
“ง่วงหรอคุณ”
“เอ่อ นิดหน่อยครับ”
ผมเดินชนหลังของคนข้างหน้า ไอ้คุณอาร์ตประธานมอxxเหลือบตามองผมพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้า ผมก็ตาโตสิครับ หมายถึงอะไรคุณอาร์ต
“เอามานี่สิ ผมช่วยถือ”
มันคงหมายถึงแฟ้มเอกสารกำหนดการที่ผมกำลังถือไว้ “เอ่อไม่เป็นไร”
“มาสิ เดินง่วงอย่างนี้เดี๋ยวก็ไม่ถึงห้องหรอก ตกบันไดก่อน”
“ไม่เป็นไรค้าบบ คุณประธานอาร์ตเดี๋ยวผมดูแลเพื่อนผมเอง”
ไอ้เจที่โผล่มาได้จังหวะก็เบียดคุณอาร์ตซะกระเด็นแถมยังยกมือมากอดคอผมทำหน้ากวนตีนอีก เชี่ยเจเดี๋ยวเขาก็รู้หมดว่ามึงไม่ชอบขี้หน้าเขา
“อ๋องั้นหรอ ดูแลให้ตลอดแล้วกัน เจอกันครับคุณกลาง”
ทะ...ทำไมผมเห็นสายฟ้าออกจากตาพวกมันสองคนวะครับเนี่ย โคตรน่ากลัว ไอ้พวกอีโก้สูงพวกนี้
“แบ่งห้องตามนี้นะ เจอยู่กับรัน เพียวกับฟ้า...”
ไอ้เต้นเดินถือเอกสารมาจากล็อบบี้แล้วเริ่มอ่านรายชื่อพร้อมกับแจกกุญแจห้อง ถ้ายังจำกันได้ไอ้เต้นเป็นคณะกรรมการนักศึกษาครับ วันนี้มันมาในมาดคุณชายแต่งตัวเนี้ยบ แต่ต้องให้เขาหน่อยมามออื่นก็ต้องจัดเต็มเต็มยศ สาวมอนี้ติดอันดับสาวมหาลัยหน้าตาดีนะครับ ส่วนมอผมหรอเท่าที่เห็นมีแต่คนอินดี้ อย่างไอ้เปาเป็นต้น เอ๊ะ แต่มันไม่ใช่ผู้หญิงนี่นา
“เดี๋ยวๆ ทำไมกูไม่ได้นอนกับไอ้กลางอะ”
ระหว่างที่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไอ้เจถามขึ้นมาอย่างสงสัย จะว่าไปนอกจากเพียวแล้วมันสนิทกับผมมากที่สุดในคณะเดินทางนี้แล้ว
“ก็ไอ้กลางนอนกับเปาไง นี่เขียนไว้แล้ว”
เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ ไอ้เปามันเกี่ยวอะไรด้วยครับ เท่าที่ผมจำได้ไม่มีชื่อมันอยู่ในหัวหน้าฝ่ายนะ ผมขมวดคิ้วแต่ก็แอบขำเพราะไอ้เจทำหน้างงกว่าผมอีก
“อ๋อ พอดีมันมาแทนหัวหน้าฝ่ายสันฯ อะ ไอ้กีวี่มันท้องเสีย” ไอ้เต้นตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“งั้นหรอ”
คนอื่นก็ยังไม่มั่นใจครับ ไอ้เปามันไม่ได้ร่วมประชุมกับเรานานนับเดือนให้ใครไม่รู้มาแทนแบบนี้ถ้างานมีปัญหาจะแย่เอาครับ ยิ่งประธานคณะสินกำของผมเนี่ยโคตรเข้มก็พี่ซัน พี่รหัสไอ้เต้นมันน่ะครับ พี่คนนี้มันเงียบโคตรๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเลือกตั้งให้เป็นประธาน
“เรื่องกำหนดการรันคิวไม่มีปัญหาไอ้เปามันรู้เรื่องหมดละ ส่วนพี่ซันก็รับรู้เรียบร้อยออกคำสั่งเองด้วย” ไอ้เต้นบอกเสร็จสรรพพอได้ยินชื่อพี่ซันทุกคนก็พยักหน้ารับรู้กันเบาๆ แม้จะมีหนึ่งคนที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
“แล้วนี่มันอยู่ไหน” ท่าทางไอ้เจจะไม่สบอารมณ์มันทำหน้ากวนๆ พร้อมกับเท้าเอวมองซ้ายขวาหาไอ้ตัวปัญหา ผมก็ลืมไปครับไอ้สองคนนี้มันเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งนาน
“อยู่ตรงนี้ไง” ไอ้เปาโผล่มาด้านหลังผมแล้วยกแขนไอ้เจทิ้ง เอ่อ สถานการณ์คุ้นๆ เหมือนที่ไอ้เจเบียดคุณอาร์ตกระเด็นเมื่อกี้ กรรมตามสนองแล้วเพื่อนเจ
“เอ่อ ไหนๆ ก็มาครบแล้วไปเก็บของกัน แล้วเราจะเดินไปจัดของที่ซุ้มเรา หลังกินข้าวเที่ยงนะเจอกันที่ล็อบบี้”
“ไปเถอะกลาง”
ไอ้เปากอดคอผมเดินชนไหล่ไอ้เจขึ้นบันไดก่อนจะยักคิ้วแบบกวนๆ ไอ้เจพยายามถลึงตาแต่ด้วยความที่มันตาชั้นเดียวเลยเป็นภาพที่ดูตลกๆ มันได้แต่ขบเคี้ยวฟันเหวี่ยงกระเป๋าใส่หลังแล้วเดินไปกับรันอย่างหงุดหงิด ส่วนเพียวก็ยืนยิ้มโบกมือให้ผมกับไอ้เปาหยอยๆ ห้องของผมกับไอ้เปาอยู่ชั้นสามครับติดกับห้องของเพื่อนอีกมอนึง งานสี่เสาวันพรุ่งนี้มีสี่มหาลัยร่วมมือกันไม่แปลกที่ในโรงแรมจะเต็มไปด้วยนักศึกษาที่ผมพอคุ้นหน้าจากการประชุมบ้าง ส่วนไอ้เปาก็เดินไม่สนใจใครทั้งนั้น ระหว่างทางมีสายตาที่แอบมองมันหลายคู่ เออไอ้หล่อ เดินกันไม่นานก็ถึงห้องพักขนาดมาตรฐานแต่ก็หรูอยู่เหมือนกัน
“มาได้ไงวะเนี่ย” ผมเริ่มต้นบทสนทนา ไอ้เปาที่กำลังเอาของใช้ออกจากกระเป๋าเงยหน้าขึ้นมามองผมแวบนึงก่อนจะก้มลงไปจัดการของมันต่อ
“มาได้ละกัน แม่ง กว่าจะขอร้องพี่ซันได้” มันพูดงึมงำในลำคอจับคำไม่ได้หรอกครับ
“หือ ยังไงนะ”
“เปล่าไม่มีอะไร”
“มึงทำอะไรป้ะเนี่ย”
ผมหรี่ตาอย่างไม่ไว้วางใจ ผมรู้ว่ามันไม่พอใจที่ต้องมาทำงานงกๆ แต่ถึงขนาดลงทุนตามมาด้วยนี่บ้ามากเลยนะ
“เปล่า ไม่ดีใจหรอกูมาด้วยเลยนะ”
“มึงเป็นใครอะ ทำไมกูต้องดีใจ”
“เป็นเดือนคณะ”
“จะอ้วก มาเรียกเรทติ้งหรอ” หมั่นไส้ครับตั้งแต่เดินเข้ามามีใครบ้างที่ไม่มองมัน
“ตัวเองหึงเค้าหราจ๊ะ”
ไอ้เปาเริ่มทำตัวกวนตีนด้วยการใช้ปลายนิ้วชี้มาสะกิดคางผมอย่างหยอกล้อ ไอ้สาด กูไม่ใช่สาวน้อยนะเว้ย
“เชี่ย ขนลุก”
“ขนลุกเลยหน้าแดงเลออ” ไอ้คำว่าเลอเนี่ย ขายทิ้งพร้อมแก๊งคอหล่นได้มั้ย พูดกันจังเลอ
“รำคาญญญ”
หลังจากนอนพักไม่นานเราก็ลงไปกินข้าวแล้วก็ต่อด้วยจัดซุ้มกิจกรรม ซุ้มของมอผมอยู่ลานกิจกรรมเยื้องกับคณะศิลปกรรมของมอxx ซุ้มเรามีหลายกิจกรรม เราต้องแยกเพื่อนที่คละมหาลัยกันแล้วเป็นหลายกลุ่มเวียนกันไปจะได้สนุก ไอ้เปามันก็ทำหน้าที่หัวหน้าสันฯได้ดีครับ ขนาดพึ่งมาก็ไปนู่นไปนี่เหมือนรู้ดีนัก ส่วนพวกที่มาทำงานก็มองมันตาเคลิ้ม สาวๆ จากมอxxที่มาช่วยพวกเราส่วนหนึ่งก็อายม้วนกันไม่หยุด ยืมมองภาพเหล่านั้นแล้วก็ได้แต่คิดว่าผมเห็นหน้ามันทุกวันบางทีก็ลืมไปว่าไอ้เด็กนกกระปูดเนี่ยมันไม่ใช่คนธรรมดาแล้วนะเดี๋ยวนี้
ขณะที่ผมกำลังยกโต๊ะกั้นสำหรับวางเกมกินวิบาก ฟ้าก็เดินมาหาผม ฟ้าอยู่คนละสาขาครับแต่ด้วยความที่ทำงานด้วยกันบ่อยเราเลยคุยกันได้
“กลางๆ”
“ว่าไง”
“เดี๋ยวกลางไปหาคุณอาร์ตแทนเราทีดิ เราจะไปติดต่อเรื่องสวัสดิที่ซุ้มมอdd”
“อ๋อได้ๆ ”
ฟ้ายื่นสมุดลายคิตตี้ใส่ในมือผม ก่อนจะวิ่งตึกตักจากไป เหมือนละครที่ผมหันไปมองช้าๆ เดี๋ยวนะผมควรจะรีบไปเหมือนกัน มาช้าไอ้คุณอาร์ตโคตรเข้มคงจะได้ว้ากผมน่าดู ผมเดินเข้าไปฝั่งกลุ่มทำงานของมอxxที่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อายุเกือบร้อยปีของมหาลัย โห เด็กมหาลัยนี้เขาคัดหน้าตากันหรอครับ มีสไตล์กันทั้งหญิงทั้งชาย แล้วผมที่ชอบงานพอร์ทเทรตจะเหลือหรอ โอ๊ย คนนั้นก็หน้าเก๋อยากวาดรูปชะมัด ผมเผลอมองสติแทบไม่อยู่กับตัว ผมสเก็ตโครงหน้าเก๋ของเพื่อนมอนี้ไว้ในกระดาษสมุดคิตตี้ เอ่อ ของฟ้านี่หว่า เดี๋ยวค่อยฉีกละกันนะฟ้า
“คุณกลางนี่ชอบคิตตี้หรอครับ”
“เฮ้ย!!”
ผมร้องเสียงดัง ไอ้คุณอาร์ตน่ะสิครับยื่นหน้าผ่านไหล่มาดูรูปที่ผมกำลังวาด รู้สึกถึงแก้มมันที่เฉียดผ่านแก้มผมไป มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย เพื่อนมันที่นั่งทำงานกันอยู่แถวนั้นหันมามองที่ผมกันหมด ไม่เข้าใจว่าส่งยิ้ม ทำหน้ากรุ้มกริ่มอะไรกันขนาดนั้น คนนั้นที่ผมแอบวาดอยู่หันหน้าไปอีกด้านแล้ว แม่งไอ้คุณอาร์ตขัดจังหวะจริง
“ขอโทษๆ ทำไมต้องทำหน้าโกรธผมขนาดนั้น”
“แล้วคุณอาร์ตมีอะไรรึเปล่าครับ”
“อ๋อ พอดีจะปรับเปลี่ยนที่กันนิดหน่อย ฝ่ายพยาบาลจะอยู่ตรงโต๊ะนี้นะครับ ที่เดิมที่เราวางแผนกันไว้มันออกจะไกลไปซักหน่อยเลยขยับเข้ามาใกล้ๆ”
“โอเคครับได้เลย”
ผมก้มหน้าจดรายละเอียดที่เปลี่ยนใหม่ยิกๆ ไอ้คุณอาร์ตก็พูดไปด้วยชี้ไปด้วยครับ สมองอย่างไอ้คนกลางเนี่ยจะจำอะไรได้มากเท่าไหร่ผมเลยใช้วิธีวาดร่างคร่าวๆ
“แล้วก็สวัสดิการของฝั่งนี้จะประจำอยู่มอละทีมเลยนะครับ”
“โอเค”
“...”
ผมเงยหน้าจากกระดาษที่กำลังจดอยู่ก็พบว่าคุณอาร์ตกำลังจ้องหน้าผมอยู่ ลมที่พัดจนตัวผมแทบปลิวทำให้ไม่ได้ยินที่คุณอาร์ตพูดแน่ชัด ผมเลยถามย้ำเผื่อฟังพลาดตรงไหน
“มีอะไรอีกมั้ยครับ”
ไอ้คุณอาร์ตไม่ตอบกลับในทันทีแต่กลับยื่นมือมาหยิบอะไรบางอย่างบนหัวของผม ขณะนั้นลมก็พัดมาอีกระลอก ผมได้ยินเสียงโห่ฮามาจากไกลๆ แต่เสียงคุณอาร์ตนี่ดังใกล้ชะมัด
“ใบไม้น่ะ”
“อ๊ะ ขอบคุณครับ”
แต่เสียงที่ดังแหวกอากาศมาเป็นเสียงที่ดังชัดที่สุดครับ
“กลาง!!”
“อะ...ไอ้เปา”
ไอ้เปาก้าวอาดๆ มาทางผม สาวๆ ที่นั่งทำงานหันมามองไอ้เปากันหมด เฮ้ๆ ทำงานสิครับคุณ เดี๋ยวกรรไกรก็เฉือนมือหรอก
“มึงทำไรตรงนี้นานวะ ทางนู้นมีคนเรียกหาอยู่” ปากมันก็พูดแต่ตาจ้องเขม็งไปทางไอ้คุณอาร์ต ฝั่งทางนี้ก็ไม่แพ้กัน คุณอาร์ตดันแว่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเลิกคิ้วส่งกลับไป นี่คือคุยกันแบบไม่ออกเสียงใช่มั้ย จะได้เอาไปใช้บ้าง
“เอ่อ นี่คุณอาร์ตประธานชั้นปีที่นี่ แล้วนี่เปาเพื่อนผมเอง”
“หวัดดีครับ”
“...” กริบ
“ไอ้เปา” ผมเอื้อมมือไปตบหลังมันเบาๆ ไอ้เปาหันมามองผมด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์แล้วมันก็หันไปทักทายคุณอาร์ตพร้อมกับหน้าตาหงิกงอเป็นบ้าบออยู่คนเดียว
“เออดีเว้ย”
“นี่คุณเปาทำงานตำแหน่งอะไรครับ ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้า”
“อ๋อเปาเป็นหัวหน้าสันฯ น่ะ” ผมชิงตอบแทนเมื่อเห็นว่าไอ้เปาเริ่มที่จะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
“เอ แต่ผมจำได้ว่าเป็นคุณกีวี่ไม่ใช่หรอครับ คนใหม่มาอย่างงี้ จะดีหรอครับ” คุณอาร์ตยื่นหน้าพูดกับไอ้เปาพร้อมกับแสยะยิ้มแบบเหนือกว่า
“ดีไม่ดีก็รอดูดิวะ”
“คนอื่นก็ชอบคนที่ทำงานเป็นกันทั้งนั้น คนที่ไม่ถนัดก็ถอยไปดีกว่านะครับ”
“หมดงานทางนี้ยัง ไปนะ”
ไอ้เปามันตัดบท ปากก็ยิ้มยียวนคุณอาร์ตอีกทีแต่มือจับข้อมือผมไว้แน่นแล้วหันหลังเดินไปทันที ท่าทางมันจะโมโหครับ ผมก้มหัวไปเชิงขอโทษส่งไปให้คุณอาร์ต ไม่ได้ครับเดี๋ยวตัดงบพวกผมตอนเคลียร์ใบเสร็จทำไง คิดไปเองมั้ยไม่รู้แต่ผมรู้สึกว่าบรรยากาศไม่น่าจะดีเท่าไหร่ครับ แอบหันไปมองพวกเพื่อนๆ ที่นั่งทำงานกันอยู่ด้านหลัง ทุกคนต่างมองมาทางเรากันหมดส่วนไอ้เปาตัวดีก็ลากผมกลับซุ้มไม่พูดไม่จา
“แนวมากมั้ง แต่งตัวอะไรก็ไม่รู้ ผมแสกกลาง ใส่แว่นกรอบทองสไตล์ไม่เข้ากับหน้าแม่งเลย”
“เป็นเหี้ยไรไอ้เปา”
“มึงดิเหี้ย”
“เอ้า กูก็ถามเฉยๆ ทำหน้าเหมือนแฟนมีกิ๊ก”
“ไอ้สัด!”
“ว่าแต่คนที่บ่นนี่ใช่คนเดียวกับกูป้ะวะ”
“อะไรอย่าบอกนะว่าไอ้เจ มึง...”
“เออ”
“มึงชอบไอ้แว่นทองคุณอาร์ตห่าเหวไรนั่นหรอ”
“พรวด!! กูหมั่นไส้หน้ามันโว้ย”
“ว้าย อีเจ!!! มึงจะหมั่นไส้หน้าใครก็ได้แต่ทำไมต้องพ่นน้ำใส่หน้ากู”
“โทษๆ ซาร่า โทษไอ้เปานู่น แม่งพูดอะไรน่าขนลุก กูขนลุกออกจากปากเลย”
“อ๊ะ เปาขา แค่เปานั่งหล่อๆ ให้พวกเราแทะโลมทางสายตาตรงนี้เปาไม่ต้องไปทาสียกโต๊ะอะไรทั้งนั้นค่ะ”
ผมยืนมองภาพตรงหน้าอยู่ไม่ไกล เหตุการณ์ชุลมุนมันเริ่มต้นที่ไอ้เจเดินไปใกล้ๆ ไอ้เปาตอนมันนั่งทาสีอยู่ข้างๆ ซาร่า แล้วจู่ๆ ไอ้เจก็พ่นน้ำออกมาแต่โชคดีที่ไอ้เด็กน้อยมันเอี้ยวตัวไปเอาสีด้านหลังพอดิบพอดี น้ำที่ออกมาจากปากไอ้เจนั้นก็ประทับอยู่บนหน้าของซาร่าแทน ซาร่าคือเพื่อนผู้หญิงที่ร่างกายบึกบึนเหมาะสำหรับยกของหนัก ตอนนี้ซาร่ากำลังเกาะแขนไอ้เปาท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ไอ้เปามันก็ดันหน้าซาร่าที่เต็มไปด้วยน้ำลายของไอ้เจออกแล้วเริ่มต้นพูดอย่างจริงจัง ซาร่าทำหน้าเคลิ้มสุดๆ
“ซาร่า จริงๆ แล้วกูไม่เคยกลัวอะไรเลย”
“ว้าย ซังนัมจาแมนมากสมเป็นว่าที่ผัวซาร่าค่ะทุกคน”
“ไม่ยังพูดไม่จบ กูไม่เคยกลัวอะไรในชีวิตมาก่อน...”
“จ้ะ”
“แต่ตั้งแต่กูเจอมึงเนี่ยทำให้กูสัมผัสความกลัวเป็นตัวแรกเลยว่ะ”
“กรี๊ดด!! เปาอะ งอล ง้อด้วย อยากกินคูก้ารสนม อยากเสียวค่ะเปาขา”
เชี่ย ผมสบถกลัวแทนไอ้เปามันน่ะครับ แต่ไอ้เปามันทำหน้าแหยงก่อนจะเช็ดมือที่โดนตัวซาร่ากับผ้าขี้ริ้ว
ตึง ตึง ตึง
แล้วซาร่าก็สะบัดหน้ากระทืบเท้าออกไปช่วยด้านอื่นด้วยท่าทีแสนงอน ซาร่า...งานตรงหน้ามึงยังทาไม่ถึงไหนไปนู่นอีกละ
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“หัวเราะไรไอ้เจ”
“เปล๊า ว่าแต่มึงไม่ชอบไอ้คุณเชี่ยอาร์ตหรอวะ เหี้ยแล้วกูจะเรียกมันว่าคุณทำไม”
“เออไม่ชอบหน้าแม่ง”
“อย่างงี้ต้องจัด”
“จัดไรหรอ”
ผมโผล่หน้าไปแทรกระหว่างไอ้เจกับไอ้เปา ไอ้เจตกใจจนน้ำเกือบพุ่งอีกรอบ
“เสือกนะมึง”
“...” ผมหน้าเหวอ ไอ้เจ เดี๋ยวนี้มึงพูดกับกูแบบนี้หรอวะ “ว่ากูงี้เดี๋ยวจับขังพร้อมกับคุณอาร์ตเลย”
“เชี่ย มึงเลิกพูดชื่อมัน เดี๋ยวท้องฟ้าวิปริตแปรปรวน”
ไอ้เจทำหน้าตาหงิกงอก่อนจะลูบแขนตัวเอง ส่วนไอ้เปานอกจากจะดื้อเงียบแล้วก็ยังทำหน้างอเหมือนไอ้เจอีก
“อะ กินน้ำ เอามาให้”
“กูมีแล้ว นี่ไงดูดอยู่”
“ให้ไอ้เปา ไม่ได้ให้มึง”
“แหม คุณคนกลางครับ เพื่อนอยู่ตรงนี้ตั้งหลายคน เลือกปฏิบัติหรอ”
ไอ้เจล้อ มึงกลายร่างเป็นหนึ่งในแก๊งคอหล่นหรอตั้งหน้าตั้งตาแซวกูอยู่ได้ ผมหรี่ตาส่งไปให้มัน ส่วนมือก็ยัดน้ำใส่ในมือไอ้เปา
“กินหน่อยดิ”
“ไม่ กูจะตั้งใจทำงานเดี๋ยวจะออกมาไม่ดี”
“มึงทำได้ดีอยู่แล้ว คิดมาก”
ท่าทางจะฝังใจกับคำพูดคนอื่น ผมยืนค้ำหัวมันอยู่เลยได้แต่วางมือบนหัวมันให้กำลังใจเขาหน่อยครับ ไอ้เปาเนี่ยแต่ก่อนมันไม่เคยได้เป็นหัวหน้าอะไรกับเขาหรอกหรือแม้แต่ทำกิจกรรมมันก็จะนั่งไม่มีส่วนร่วมเท่าไหร่นัก อยู่ในห้องเรียนเหมือนเด็กมีปัญหาไม่สุงสิงกับใคร ถ้าในห้องเรียนมีคนอยู่สามประเภทมันจะเป็นประเภทที่สี่ มาสเตอร์ยังเคยเรียกผมไปคุยให้ผมช่วยดูๆ มันหน่อย ตอนนี้มันคงกดดันสินะ ไอ้ความคาดหวังคนอื่นที่ฝากไว้กับคำว่าหัวหน้าเนี่ย
“...” มันไม่ตอบอะไรแต่ก็เงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วเอื้อมมือมาจับมือผมที่วางบนหัวมันอีกที
“กู...จะทำได้จริงหรอวะ”
“ทำไมจะไม่ได้วะ มึงเจ๋งจะตาย ตอนนี้มึงไม่ใช่ไอ้เปาคนเดิมแล้วนะเว้ย”
มันไปไกลกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก ไม่รู้ตัวเลยหรอวะ ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้นแต่ในใจของมันกลับเหมือนไอ้เปาตอนเด็ก ขี้กลัว ไม่มั่นใจในตัวเองเอาซะเลย ทำไมต้องกังวลขนาดนั้นวะ
“ตอนที่เราเรียนกับทีชเชอร์สมศรีน่ะ กูเคยบอกมึงตอนที่มึงต้องออกไปพูดภาษาอังกฤษหน้าห้องว่าไงนะ”
“...กูต้องทำได้”
“อื้ม นั่นแหละ มึงทำได้อยู่แล้ว” ขยี้หัวมันเหมือนเดิม ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย มันส่งยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มกลับให้ผม เอองี้สิ สมกับเป็นไอ้เปาหน่อย
“กรี๊ดด”
“ทำไมน้ำเปล่ามันหวานอย่างงี้วะ”
“ประธานคร้าบ นี่ไม่ใช่มอเรานะค้าบบบ”
“กูจะแซวพวกมึงให้เต็มที่ ไอ้กล้วยส่งข้อความมาฝากแซวทุกย่างก้าว”
เชี่ย นี่พวกมันตามหลอกหลอนผมถึงที่นี่เลยหรอวะ
“เอาล่ะ พร้อมสำหรับพรุ่งนี้นะครับ ขอบคุณทุกคนมาก ขอให้พรุ่งนี้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น”
ขณะนี้เวลาห้าทุ่มครึ่งครับ หลังจากที่เราจัดของเตรียมงาน เตรียมความเรียบร้อยกันเสร็จ คุณอาร์ตเรียกประชุมทุกมออีกครั้ง โดยมอเจ้าภาพอย่างไอ้คุณอาร์ตที่ย้ำเรื่องความเป๊ะ เรื่องเวลาจนผมจำได้ทุกคำพูดแทบจะละเมอเป็นเลขแล้ว หลังจากประชุมกันเสร็จก็เป็นเวลาพูดคุยทักทายกันครับ พวกเราทั้งสี่มอต่างก็รู้จักกันจากการทำงานหลายคนครับ เพื่อนใหม่ที่ทำงานคล้ายๆ กับเราต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องเรียนบ้าง เรื่องงานบ้าง เพราะเราอยู่สายอาชีพศิลปะเหมือนกัน
“เจอกันเว้ยพวกมึง”
อย่างพวกมอssเป็นต้นครับ มอนี้มีวิชาที่เรียนคล้ายๆ กับเราแถมยังอินดี้พูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนกันอีกด้วย ไอ้เปาดูเฮฮามากขึ้นเมื่อเจอเพื่อนต่างมอ บางคนก็รู้จักไอ้เปาจากแฟนเพจบ้างแต่ไม่รู้ว่ามันจะบ้าเต้นสันฯ แถมยังเป็นหัวหน้าด้วย ทั้งๆ ที่หน้าตาไม่เข้ากับทางสายนี้เลย เห็นมันยืนคุยกับเพื่อนคนอื่นถูกคออย่างงี้ผมก็ดีใจครับ ไม่รู้รึไงว่าคนอื่นชื่นชมมึงแค่ไหน
“เออๆ พักผ่อนเว้ย ดีใจที่ได้เจอพวกมึงนะเว้ย”
“พรุ่งนี้กูจะรอดูมึงเต้น มาประชันกันหน่อยดีกว่า”
“ดีเหมือนกันไอ้แจ็ค น้องสาวกูกดไลก์รูปไอ้เปาตลอดเดี๋ยวกูจะอัดคลิปไปให้แม่งดู ว่ามึงจังไรแค่ไหน”
“ฮ่าๆๆ เอาที่สบายใจเพราะกูหน้าด้านหน้าทน”
ฮ้าว
“หัวเราะเข้าไปไอ้เปาดูหน้าเพื่อนมึงด้วย”
“เออไปล่ะ พาเด็กเข้านอนก่อน”
“ไอ้สัด กวนตีน ไปก่อนนะครับคนกลาง”
“แหม ไอ้เอิงเจอคนน่ารักเข้าหน่อยผีคนพูดเพราะเข้าสิงหรอ”
“จ้าว่าแต่กู มึงก็มองเขาตาเยิ้มเชียว”
“เออ รีบมองก่อน รีบทำความรู้จักก่อนเดี๋ยวมออื่นมองตัดหน้า ได้ข่าวเป็นตัวเต็งในหัวข้อการพูดคุยนะครับไอ้กลางเนี่ย”
ขอโทษที่ขัดจังหวะนะเว้ย แต่นี่ผมหาวจนน้ำตาไหลแล้วครับ มึงบอกเจอกันๆ ตั้งแต่สามสิบนาทีที่แล้วจนเพื่อนคนอื่นเดินกลับที่พักกันหมด ดูดิ ขนาดไอ้เจยังไม่รอผมเลย
“ฮ่าๆ ไอ้กลางน่ารักสัด ดูหน้ามันดิ ไม่รู้เรื่องละ ไปเว้ยเจอกัน พวกกูจะไปซื้ออะไรมาโด๊ปก่อน”
ไอ้แจ็ค ไอ้เอิง ไอ้เบน และอีกหลายๆ คนของมอss เดินกอดคอกันไปอีกทางครับ มันบอกยังไม่กลับที่พัก คาดว่าไม่เหล้าก็เบียร์ที่มันจะมุ่งหน้าไปสู่ครับ ส่วนผมนายคนกลางตาจะปิดแล้ว
“ปะ กลาง เฮ้ย!ระวังดิ เดินหลับตาหรือไงวะเนี่ย”
ไอ้เปารีบปรี่เข้ามาใกล้ผม พอมันร่ำลากันเสร็จผมก็ได้แต่พยักหน้าส่งกลับไปอย่างมึนๆ แล้วเดินไปทางโรมแรมก่อนเพื่อน ไอ้เปาเลยต้องรีบวิ่งตามมากลัวว่าผมจะเดินไปชนต้นไม้เขาหัก
“ไอ้เปา กูขอจับเสื้อหน่อย”
ไม่รอมันตอบหรอกครับ ผมยื่นมือไปคว้าปลายเสื้อยืดมันไว้อย่างน้อยขอให้ได้เดินหลับตาได้มั่ง
“มึงนี่จริงๆ เลยน้า เห็นเหนื่อยงี้ไม่กล้าแกล้งเลยว่ะ”
นี่สมองมึงคิดแต่จะแกล้งกูหรอ นึกขึ้นมาได้ว่าผมเคยเดินหลับตาแล้วให้มันพาเดินไปซื้อของที่สหกรณ์โรงเรียนตอนประถม เห็นหน้าตาไอ้เปาตอนเด็กไม่มีพิษไม่มีภัยที่ไหนได้พากูไปลงทางต่างระดับบ้าง เกือบชนเสาบ้าง ร้ายเงียบแต่เด็กนะมึง อยากจะด่ามันเหมือนกันแต่พอมันยิ้มตาปิดแล้วก็ด่าไม่ลงครับ ผมบอกแล้วว่ามันน่ารักตอนเด็กน่ะนะ
“ขอเดินหลับ อย่าแกล้ง”
“ฮ่าๆ งั้นมานี่”
ไอ้เปาหยุดเดินมันดึงมือผมออกจากเสื้อมัน ก่อนจะรั้งแขนผมไว้ “กูง่วงอย่าพึ่งเล่น”
“กูเล่นที่ไหนล่ะ มาขึ้นหลังกูเดี๋ยววันนี้พี่จะพาน้องไปขึ้นสวรรค์ เอ๊ย ไปโรงแรม เอ๊ย เชี่ยไม่พูดละ แม่งเสื่อม”
“หึหึ มึงเนี่ยนะจะพากูขึ้นหลัง”
“เออมาดิ เร็ว พูดมาก เวลาทองนะครับ”
ผมส่ายหน้าเบาๆ ไอ้เปามันรั้นจะตาย มันย่อตัวตรงหน้าผม แสงข้างทางที่ส่องมาทำให้ผมหยีตาเล็กน้อยเพราะทางที่เรากำลังเดินอยู่ตอนนี้เป็นในสวนครับสองข้างทางมีไฟประดับสีส้มที่ห้อยลงมาจากต้นไม้เรียงเป็นทางตรงไปยังโรงแรม เสียงจิ้งหรีดดังมาแว่วๆ มอนี้ต้นไม้เยอะจริงๆ ครับ บรรยากาศดีมากด้วยถึงจะเริ่มเย็นเพราะดึกแล้วก็เถอะ
“อึ้บ ตัวหนักใช้ได้นี่หว่า”
“พูดมาก นอนละ เหนื่อยขึ้นมาอย่าบ่นล่ะ”
“ไม่บ่นหรอกเคยบอกว่าจะดูแลทุกวินาทีเลยไง”
“อืม”
“ไอ้กลางมึงดูดิ ลืมตาเร็ว โห เห็นดาวด้วย”
ดาวอะไรล่ะ นี่มันกลางเมือง ผมขยับหัวแนบหน้าไปกับลำคอของมัน แขนทั้งสองข้างของผมก็กระชับกอดมันแน่นขึ้นสัมผัสอุ่นๆ จากผิวมันทำให้ลดความเย็นได้บ้าง หวังว่ามึงคงจะอุ่นขึ้นเหมือนกันนะ ผมอยากเป็นที่พึ่งให้มันแต่วันนี้ผมขอแหกกฎตัวเองให้มันดูแลผมตามที่มันพูดละกัน
“อือ”
“กูโคตรดีใจ โคตรมีความสุขเลยว่ะ อยากหยุดเวลา...”
“...”
“แต่ไม่ดีกว่า กูอยากใช้เวลาไปกับมึงเรื่อยๆ ฟังอยู่ป้ะเนี่ย”
“...”
“รู้ป้ะ ตอนที่ไม่เจอกัน กูโคตรเหงาเลย”
“...”
“หลับแล้วหรอวะ หึหึ กูนี่เหมือนคนบ้าเลยว่ะพูดคนเดียวก็ได้”
[ต่อด้านล่างค่ะ]