#สาดน้ำกับแว่น
"เฮ้ย แว่นปีนี้มึงเล่นน้ำป่ะ?"
ประโยคนี้เป็นประโยคที่ผมได้ยินตั้งแต่ตอนอยู่ปีหนึ่งจนตอนนี้ปีสี่แล้ว มันก็ยังคงถามเหมือนเดิม
"ไม่อ่ะ เราจะอ่านหนังสือ"
ผมก็ตอบประโยคเดิมๆ ไอ้การเล่นน้ำสงกรานต์มันไม่เคยอยู่ในความคิดของผมสักนิด ผมไม่ชอบการไปอยู่เยอะๆ ท่ามกลางคนหมู่มาก ไหนจะความสูงที่พอๆ กับฮอบบิทนี่อีกล่ะ ถ้าผมเข้าในดงคนคงละลายหายไปในพริบตาเหมือนพวกกระต่ายที่หลงฝูงไปอยู่ท่ามกลางยีราฟ แน่นอนว่าจุดจบชีวิตของผมคือโดนเหยียบตาย
"ไรวะ กูชวนมาสามปีแล้วนะสัส ไม่สนอ่ะ ปีนี้มึงต้องเล่น คนอื่นเขาเล่นกันหมด"
ผมเงยหน้าจากหนังสือมองคนพูดที่หน้าตาบูดบึ้งระดับสิบ อ้อ เพื่อนคนนี้เป็นรูมเมตผมน่ะ ชื่อเบส อยู่คนละคณะกันแต่ผมกับมันสนิทกันมากตัวติดกันยกเว้นตอนสงกรานต์และเทศกาล มันมีความสูงแบบสเมิร์ฟซึ่งไม่ต่างจากผมสักเท่าไหร่
"เล่นกับเราไม่สนุกหรอก"
"ถามจริง เกิดมามึงเคยเล่นสงกรานต์ไหม" ดูเหมือนมันจะเริ่มหงุดหงิดกอดอกถามผมเสียงขุ่น
ผมโคลงหัวคิด อืมม มันก็ค่อนข้างนานมากนะ
"ป.2 มั้ง ตอนนั้นอาเราพอไปเล่นด้วยอยู่หน้าร้านยา เผลอสาดใส่มอไซต์จนล้มด้วย"
เห็นไหม ผมเล่นแล้วเดือดร้อนคนอื่น ผมเลยไม่อยากเล่นเท่าไหร่
มันทำหน้าอึ้งนิดๆ แล้วกระแอมพูดต่อ "เออน่า นั้นมันป.2 ตอนนี้มึงปีสี่แล้ว มึงโตแล้ว มึงเล่นได้ เผลอๆ มึงสาดไปอาจจะได้แฟนก็ได้ใครจะไปรู้ วู้ๆ "
ผมหัวเราะแห้งๆ
"ไม่เอาอ่ะ"
ผมไม่เคยมีแฟนและไม่เคยคิดจะมี ไม่รู้สิ ผมรู้สึกว่ามันไกลตัวผมน่ะ อีกอย่างปีที่แล้วผมก็เพิ่งจัดงานแต่งตัวเองกับหนังสือตอนเมาโดยมีคนทำพิธีคือรูมเมตที่เมาแอ๋คนเดิม รู้สึกจะทำจนถึงพิธีจูบมั้งแล้วผมก็สลบตายตรงนั้นตื่นมาแทบร้องไห้กับสภาพห้องที่ยังกับนรก
"ไม่รู้อ่ะ มึงต้องเล่น" มันมองผมขู่แง่งๆ "ปืนกูซื้อมาให้แล้ว ที่มึงต้องทำคือพากูกับปืนไปไล่ยิงคนซะ"
"ไม่ชวนพวกนั้นอ่ะ"
พวกนั้นก็คือคนในกลุ่มเบส ส่วนพวกของผมก็เหมือนผมแก๊งค์เด็กเรียน
"มันไปหมดและรีเควสต์ว่าชวนมึงไปด้วย พวกมันอยากพามึงไปละลายพฤติกรรมกลัวว่ามึงจะสมองระเบิดตายไปซะก่อน"
ผมหัวเราะรับ "ไม่ตายหรอก"
"สรุปจะไปไม่ไป?"
"ไม่อ่ะ"
ผมตอบโดยไม่ต้องคิดแต่ผมเห็นสีหน้าดุร้ายเหมือนหมาปั๊กหิวข้าวของเบสผมก็ยิ้มแห้ง "...อย่าโกรธสิ เราพูดเล่น ไปก็ได้"
"ดีมากกกก เพื่อนเลิฟ" เบสดีใจจนกระโดดกอดผม มันหัวเราะร่า "ทีนี้ล่ะมึง กูจะทำให้ทุกคนเห็นว่าเนิร์ดๆ อย่างมึงมันร้ายลึก เชื่อไหมคนอื่นคิดว่ามึงชวนกูสวดมนต์ก่อนนอนทุกวันด้วย ฮ่าๆ กูอยากให้แม่งมาเห็นตอนมึงเมาแอ๋ในห้องชิบหาย โคตรรั่ว"
"บ้า" ผมยิ้มขำๆ คนอื่นชอบคิดไปเองว่าผมดีอย่างงูนอย่างงี้เพราะผมไปพวกร้านเหล้านับครั้งได้แต่อย่าให้ถามตอนอยู่ในห้อง ผมกับเบสบางทีฉลองสอบเสร็จก็กินกันอยู่สองคน มีแต่พวกเพื่อนเบสที่เคยมาห้องผมนั่นแหละถึงเคยเห็นผมนอนแอ่กอยู่บนพื้นท่ามกลางเศษซากอารยธรรม
"งั้นมึงก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ เพราะคราวนี้กูจะไม่ยอมให้มึงไปแบบเนิร์ดๆ แน่นอน"
ผมขมวดคิ้วเริ่มยิ้มไม่ออก "ห้ะ"
"มึงอำลาแว่นกับผมมึงไว้เลย พี่แว่นจะกลายร่างเป็นพี่ข้าวแทน"
บางทีมันก็เรียกผมว่าแว่นจนผมลืมว่าตัวเองชื่อข้าวนะ
"อืมๆ วันเดียวนะ"
ไหนๆ ก็ไปแล้วอะไรที่ยอมๆ ได้ผมก็ยอมแล้ว
แค่วันเดียวเอง คงเจอคนรู้จักไม่เยอะหรอกเดี๋ยววันต่อมาผมก็จะกลายเป็นพี่แว่นคนเดิมเพิ่มเติมคือดำขึ้นหลายเปอร์เซ็น
"ข้าว มึงถอดแว่นเดี๋ยวนี้ นี่คือบัญชาจากสวรรค์ที่มึงไม่มีสิทธิ์ขัดขืน" ผู้หญิงที่มีศักดิ์เป็นถึงดาวคณะเศรษฐศาสตร์คนนี้คือเกรซครับ เป็นหนึ่งในกลุ่มเบสและชื่นชอบการทำลายภาพลักษณ์คนอื่นที่สุด สมมุติไอ้เบสไว้ผมยาวเกิน เกรซก็จะบังคับให้มันไปตัดผมจนได้ผมสั้นระต้นคอ ผลออกมาคือดูดีมากครับ ช่วงนั้นไอ้เบสแลฮอตมากผ่านใครใครก็ทัก เอาเป็นว่าเรื่องเซนต์การแต่งตัวตัดผมนี่ยกให้เกรซได้เลย ผมเลยยอมอยู่นิ่งๆ ให้เกรซเล่นครับ วันเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก
"เฮ้ย เบส มึงไปหยิบคอนแท็กเลนส์เพื่อนมึงมาดิ้"
ผมตอนนี้มองเห็นหน้าใครในระยะหนึ่งเมตรไม่ชัดเลยครับ ขนาดหน้าเกรซผมยังไม่เห็นเลย นี่สินะโทษของการอ่านหนังสือและเล่นโทรศัพท์มากเกินไป สายตาเลยผมสั้นมาก
"เออ เดี๋ยวค่อยให้มันใส่ รอมึงแต่งตัวให้มันเสร็จก่อนจะได้เซอร์ไพรส์" เสียงทุ้มแหบๆ นี่เป็นอีกคนในกลุ่มเบสครับชื่อพีท คณะเดียวกับเบสเป็นผู้ชายร่างใหญ่ที่หล่อพอสมควรตอนนี้รู้สึกว่าจะคบกับผู้หญิงคณะพยาบาลแต่จวนเจียนจะเลิกแล้วเลยไม่เอามาเล่นสงกรานต์ด้วย
ส่วนกลุ่มผมเหรอ? ผมชวนแล้วไม่เล่นกันสักคนครับ พวกมันออกจะตกใจด้วยที่ผมไปเล่นสงกรานต์เพราะปกติผมก็ทำตัวเหมือนพวกมันคือหนีจากสังคมอันวุ่นวาย
"เบาๆ หน่อยเกรซ" ผมร้องโอยเบาๆ เมื่อผมของผมถูกรวบขึ้นไปมัดจุก
เดี๋ยวนะ มัดจุก?
ผมขมวดคิ้วมุ่น "เกรซมันจุกให้เราเหรอ"
"ทรงเปิดหน้าไงจ๊ะ แว่น น่ารักออก"
วันเดียว ข้าว.. วันเดียว
ผมท่องสะกดจิตตัวเองในใจยอมรับชะตากรรม
"นี่เสื้อกางเกงใส่ซะ เจ๊คัดสรรมากอย่างดี รับรองปังแน่นอน สลัดคราบแว่นเด็กเนิร์ดผู้ธรรมมะธัมโมกลายเป็นพี่ข้าวพี่ปีสี่สุดเฟรนด์ลี่"
ปรกติผมก็ค่อนข้างเฟรนด์ลี่นะ มั้ง แต่เห็นรุ่นน้องส่วนใหญ่ที่มาทักก็เห็นมีแต่เนิร์ดๆ เด็กเรียนแบบผมโดยเฉพาะน้องรหัสนี่อื้อหือ เนิร์ดกว่าผมอีก นอกจากจะทักถามเรื่องเรียนก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวอย่างอื่นเลย แบบชอบกินอะไรร้านไหนยังไง แต่ผมก็เป็นพี่รหัสที่ดีด้วยการให้ขนมน้ำน้องตามอารมณ์ของผมน่ะ อารมณ์ดีก็ให้ไม่ดีก็อดกิน
"งั้นเราเข้าห้องน้ำแปปนึงนะ"
ผมรับเสื้อกางเกงที่เห็นลางๆ ว่าเป็นลายดอกเดินไปเข้าห้องน้ำ อย่าเข้าใจผิดผมแค่สายตาสั้นไม่ได้ตาบอด ผมมองเห็นน่าแค่ไม่ชัดเท่านั้นเอง ผมสวมกางเกงขาสั้นสีดำกับเสื้อสงกรานต์ลายดอกสีฟ้าจ๋า ผมพยายามเพ่งมองกระจกรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเองเลยสักนิด แต่แปลกนะเบสมันซื้อเสื้อมาพอดีกับตัวผมเป๊ะเลยแฮะ ยื่นชื่นชมตัวเองที่เลือนรางเหมือนวิญญาณสักพักก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
"กรี๊ด น่ารักมาก เอฟซีเลยค่ะ" เกรซส่งเสียงกรี๊ดพร้อมโถมมากอดผม เฮ้อ จะว่าไปก็มีแต่คนชอบกอดผมนะ ไม่รู้เพราะอะไร เบสก็กอด เกรซก็กอด พีทเห็นขรึมแบบนั้นก็เคยกอดผมนะ แล้วก็เพื่อนเบสอีกคนที่ยังไม่มาชื่อเพลงก็ชอบกอดผม ส่วนแก๊งค์กลุ่มผมไม่เคยกอดเพราะอะไรก็ไม่รู้
"เบส คอนแท็กเลนส์อ่ะ"
ผมเคยใส่คอนแท็กเลนส์ตอนม. ปลายนะแต่เบื่อความยุ่งยากก็เลยติดแว่นซะมากกว่า
"อ่ะ รีบๆ ใส่ จะเที่ยงแล้วเราต้องออกไปรบ" มันยื่นคอนแท็กให้ผมซึ่งผมก็ใส่ด้วยความคิดถึงนิดๆ ผมไม่ใส่มันมานานแล้วนะเนี่ย ผมกระพริบตาให้มันเข้าที่แล้วก็ยิ้มให้เบส
"ไปกัน เราพร้อมแล้ว"
เบสยิ้มพอใจยื่นอาวุธร้ายแรงมาให้ผม
"ระวังอย่าให้มันลั่นใส่หัวใครล่ะ"
"ครับ" ผมรับคำขึงขังรับปืนฉีดน้ำลายริลัคคุมะมาสะพายและออกจากห้องพร้อมกับแก๊งค์เพื่อนเบส ซึ่งครั้งนี้เบสมันต้องชื่อให้กับแก๊งใหม่ว่าแก๊งค์หมีดุเพราะทุกคนใช้ปืนฉีดน้ำลายริลัคคุมะและเราก็คุมโทนกันด้วยเสื้อสงกรานต์สีฟ้ากับกางเกงสีดำดูน่าเกรงขามมากจริงๆ ประชดนะ ผมและคณะพากันไปกินข้าวแกงหน้าหอก่อนเพื่อนตุนพลังพอกินเสร็จก็นั่งรถพีทไปลงแถวที่เขาเล่นสงกรานต์กันเยอะๆ
ทันทีที่ผมกับแก๊งค์หมีดุเข้ามาในสมรภูมิก็ถูกฉีดน้ำอัดใส่ทันที ผมรีบปั๊มลมใส่ปืนและฉีดคืนใส่ทันที สงครามกลางเมืองเกิดขึ้น เพลงจังหวะเร็วยิ่งทำให้หัวใจผมเต้นรัว มันสนุกเป็นบ้าเลย ผมหัวเราะเอามือปิดหัวตัวเองที่ถูกทรยศจากแก๊งค์หมีดุรุมฉีดผมแทน
ผมรู้แหละว่ามาแล้วมันสนุก แต่ผมก็ไม่ค่อยอยากมาเท่าไหร่เพราะคนมันเยอะแล้วก็จอแจเกิน
"น้องๆ พี่ขอปะแป้งหน่อย"
"ครับ"
และหน้าผมที่กลายเป็นเค้ก แป้งเต็มแก้มไปหมด ไม่เข้าใจนะทำไมปะแป้งไม่พอต้องแกล้งดึงแก้มผมด้วย ให้ตายสิเด็กเมื่อกี้ผมจำได้นะว่าอยู่คณะเดียวกับผมและอยู่ปีหนึ่ง สงสัยเพราะผมแวะมาเติมน้ำคนเดียวมั้งเลยคิดว่าผมเป็นน้อง อะไรกัน ถึงความสูงผมจะฮอบบิทแต่ก็ต้องจำหน้าผมได้บ้างสิ
ผมเดินกลับเข้าไปรวมกลุ่มที่ตอนนี้เริ่มปล่อยลวดลายกันแล้ว โดยเฉพาะเพลงที่ตามมาสบทบทีหลังกำลังเต้นอยู่ซึ่งพอเห็นผมก็กวักมือเรียก
"อ้าว แว่นมานี่ๆ มาเต้นมา"
ผมส่ายหน้าหวือ เต้นหรอไม่เอาน่า นอกจากตอนเมาแล้วผมเต้นไม่ออกหรอก
"อย่ามาไอ้แว่น สเต็ปมึงตอนเมานี่โหดกว่าเพลงอีก" เบสตะโกนกลั้วหัวเราะซึ่งตอนนี้เบสก็ดิ้นอยู่ข้างๆ ด้วยสภาพแป้งเปียกปอนไม่ต่างจากผม
"ไม่เอาอ่ะ"
อันนี้ผมให้ไม่ได้จริงๆ พอสติอยู่ครบยางอายผมเลยเยอะมาก
แต่จู่ๆ กลับมีมือปริศนาผลักผมเข้าไปกลางวงและดีเจที่เปิดเพลงอยู่เหมือนจะชอบใจถึงกลับเปลี่ยนเป็นจังหวะที่เร็วกว่าเดิมให้ผมโดยเฉพาะ แต่ผมก็ยังยืนนิ่งมองหน้าเบสยิ้มแหย
"เลี้ยงชาบูมื้อนึงถ้ามึงเต้น"
โอ๊ย มันรู้จุดอ่อนผม ทำไมต้องชาบูด้วยนะ
แน่นอนว่าด้วยอิทธิฤทธิ์แห่งชาบู ผมเลยวาดลวดลายบ้างเพื่อชาบูที่รักยิ่งของผม ไอ้เบสหัวเราะดังลั่นเช่นเดียวกับเสียงคนอื่นที่ฮือฮาเมื่อเห็นผมเต้น
"เชี่ย เบส นี่ไอ้แว่นเหรอ"
ผมได้ยินเสียงของเพลงพูดสั่นๆ อ้อ เพลงเป็นคนเดียวในกลุ่มเบสที่มาไม่เคยทันตอนผมเมาแล้วเต้นสักทีชอบมาตอนผมสลบไปแล้ว
"เออ นี่แหละไอ้แว่น บอกแล้วกูไม่ได้โม้ ฮ่าๆ"
ผมเผลอยิ้มเมื่อเหลือบไปเห็นสีหน้าเหวอๆ ของเพลง จะตกใจอะไรนักหนา ก็แค่เต้นเอง
จะว่าไปทำไมอยู่ๆ ถึงมีคนมายืนข้างหน้าผมกันนะ ใช่เจ้าของมือปริศนาเมื่อกี้รึเปล่า ผมสงสัยแต่ก็เก็บคำถามพวกนั้นไว้ในใจเมื่อเขาสาวเท้าเข้ามาใกล้ผม
ทุกคนเงียบกริบเมื่อผู้ชายร่างใหญ่ในชุดเสื้อสงกรานต์ดำกางเกงขาสามส่วนสีดำเดินเข้าหาผมด้วยท่าทางคล้ายจะหาเรื่อง ใบหน้าหล่อคมเข้มนั้นมองผมดุๆ เหมือนผมเพิ่งไปตบหัวเขามา
จะว่าไปหน้าคุ้นๆ ไม่สิ ผมจำน้องนี่ได้ เดือนคณะผมปีนี้นี่ ทำไมเด็กปีหนึ่งตัวใหญ่ขนาดนี้เนี่ย ไม่สิ สิ่งที่ผมต้องสงสัยคือผมไปทำอะไรให้น้องโกรธเนี่ยยย อย่าตบผม มาปีแรกในชีวิตมหาลัยก็จะโดนกระทืบตายแล้วเหรอ ผมยังไม่ได้ฉีดน้ำใส่น้องซะหน่อย
ผมยืนตัวแข็งยิ้มแห้งใส่น้อง อยากถอยหลังนี่นะแต่มันก้าวไม่ออก งั้นผมแกล้งตายสลบไปเลยดีไหมเผื่อจะรอด ผมกลืนน้ำลายเอือกเมื่อน้องยกมือขึ้นมา
ฮือๆ น้องต่อยผมแน่เลยอ่ะ อย่างน้อยผมก็เป็นพี่นะ
ผมหลับตายกมือขึ้นมาบังหน้า
"ขอปะแป้งหน่อยครับ พี่ข้าว"
ผมลืมตาขึ้นมามองและเหวอ ทุกคนเหวอเหมือนผม แต่ผมถูกมือที่เย็นและเต็มไปด้วยแป้งลูบแก้มถึงได้รู้สึกตัวว่าน้องไม่ได้จะต่อยผม ที่ผ่านมาผมแค่มโนไปเองเท่านั้น เฮ้อ รอดตัว
แต่จะว่าไปทำไมน้องมันปะนานจังวะ
ผมสงสัยอีกแล้วแต่ไม่กล้าถาม แก้มผมมันหนาเป็นเมตรแล้วมั้งเพราะแป้งเนี่ย ผมมองหน้าน้องที่ตอนนี้นิ่งมากแต่มุมปากเริ่มยิ้มนิดๆ เพลิดเพลินซะเหลือเกินกับแก้มผม
เห้ย น้องมันดึงแก้มผมอ่ะ แรงด้วยเหมือนหมั่นเขี้ยว
"พอแล้วมั้ง" ผมพูดเสียงเบา ขืนพูดดังเดี๋ยวน้องเปลี่ยนใจมาตื๊บผมแทน ไม่เอานะ ผมเป็นคนรักความสันติ แต่จะว่าไปน้องรู้ได้ไงว่าผมคือข้าววะ มหัศจรรย์ ผมถอดแว่นนับครั้งได้และไม่เคยเปิดเถิกแบบนี้ด้วย ผมรู้แหละว่าตัวเองหน้าเปลี่ยนไปเลย ตอนแรกดูติ๋มๆ ตอนนี้อาจจะดูดีขึ้นนิดนึงมั้ง
น้องมันไม่ฟังครับยังยืดต่อ คือถ้าแก้มผมเป็นตังเมนี่คงยาวไปยันปากซอย
"พี่ผมเล่นน้ำด้วยดิ"
"ปล่อยก่อน เจ็บแก้มแล้ว" นี่ถ้าแป้งไม่บังแก้มคงเห็นเป็นรอยแดงแล้วล่ะ ดึงอะไรนักหนาผมไม่ได้แก้มย้วยซะหน่อย
น้องเหมือนจะเชื่อฟังครับแต่ขยำแก้มผมทิ้งท้ายแล้วค่อยปล่อยครับ เจ็บมาก ตัดแก้มผมไปขยำเล่นที่บ้านเลยไหม ถ้าจะขนาดนี้
ด้วยความโกรธผมจึงหยิบปืนขึ้นมาลั่นใส่หัวน้องครับเป็นการแก้แค้น ถึงเบสมันจะห้ามผมแล้วแต่ผมทนไม่ไหวจริงๆ ตอนแรกตัวน้องแค่หมาดๆ ครับพอโดนผมฉีดอัดก็เปียกซ่ก ความจริงผมอยากถอดกระบอกแล้วเทน้ำใส่หัวน้องนะแต่ติดที่ว่าผมเป็นสายพันธุ์ฮอบบิท อย่าว่าแต่จะปะแป้งเลยถ้าจะเทจริงๆ คงถึงแค่ไหล่รวมผมเขย่งด้วย เฮ้อ
"เฮ้ย น้องเช็คนี่ มาได้ไงเนี่ย" เบสเดินเข้ามาหาผมและทักน้อง อ๋อ ชื่อเช็คนี่เอง ผมจำหน้าได้นะแต่จำชื่อไม่ได้ ช่วยไม่ได้คนในมหาลัยมีเป็นร้อยเป็นพันผมจำหน้าได้ก็ถือว่ามากแล้ว
"พอดีบ้านผมอยู่แถวนี้เลยแวะมาเล่นครับ"
"กรี๊ด น้องเช็ค" เกรซกรี๊ดเบาๆ "เมื่อกี้ได้ยินชวนข้าวเล่นน้ำไปกับกลุ่มหมีดุไหม รับรองสนุก"
เช็คมองหน้าผมแล้วถึงตอบยิ้มๆ "ครับ"
"มาคนเดียวเหรอ" อันนี้ผมถาม เพราะผมเคยเห็นกลุ่มน้องอยู่ คนเยอะพอสมควรและไม่น่าพลาดการเล่นน้ำสงกรานต์
"ครับ พวกมันไปเล่นอีกที่แต่ผมอยากเล่นที่นี่มากกว่า เลยมาคนเดียว"
"อ๋อ" ผมรับคำแล้วเดินต่อพร้อมกับแก๊งค์หมีดุ ยังไงซะเป้าหมายในวันนี้ก็คือการเล่นน้ำครับไม่ใช่การเต้น อีกอย่างผมอยากไล่ยิงคนมากกว่าสนุกดี
ซ่า..
ผมขมวดคิ้วมุ่นลูบหัวป้อยๆ ที่ถูกขันน้ำที่เคยมีแป้งมาปะหน้าผมตอนนี้มันกลายเป็นขันสาดน้ำใส่หัวผมครับ ผมเลิกคิ้วมองน้องที่ถือขันแล้วหัวเราะ
"จะเอา?" เห็นแบบนี้ผมห้าวนะ ผมเล็งปืนใส่น้อง
"อยากเอามากกว่าครับ"
ผมถอนหายใจคำพูดสองแง่สองงามแล้วฉีดใส่น้องและน้องก็สู้กลับ เห้ย ผมเพิ่งเห็นปืนสงกรานต์น้อง ใหญ่กว่าผมเท่านึง คือถ้าเปรียบเป็นปืนจริงๆ ของผมคงปืนพกน้องเป็นปืนกลเตรียมไล่ยิงให้ผมไส้แตกตาย
พอน้องเล็งมันใส่ผม ผมก็วิ่งหนีทันที แม่งปืนบ้าอะไรเนี่ย ผมส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้แก๊งค์หมีดุและพบว่าพวกมันกำลังมองผมยิ้มๆ โดยเฉพาะเบส
หมับ
น้องดึงตัวผมทันก่อนที่ผมเกือบจะไปชนหลังฝรั่งเข้า ให้ตายสิ เกือบไปแล้วไหมล่ะ เหมือนจะรับรู้ถึงภัยอันตรายฝรั่งตาน้ำข้าวหันมาหาผมครับและขอปะแป้ง
ทำตัวได้กลมกลืนกับคนไทยมากครับ ยอมรับ เอาวีซ่าตลอดชีวิตไปเลย
"You're so cute" เขาว่าขณะที่ปะแป้งผมครับ
อะไรคิ้วๆ จะบอกว่าภาษาอังกฤษผมค่อนข้างแย่มาก แต่คำชมมั้งเห็นเขายิ้มดูใจดีมากๆ
"แท้งกิ้ว" ผมยิ้มรับ มารยาทงดงามกว่านางสาวไทยก็ผมเนี่ยแหละ
"Are you single?"
ห้ะ ซิง ซิงอะซอง ร้องเพลงอ่ะเหรอ
ผมทำหน้างงใส่เพราะงงจริงจัง แต่ฟังแล้วท้ายประโยคเสียงขึ้นสูง อาจารย์สอนว่ามันคือประโยคคำถามและประโยคคำถามก็ต้องตอบด้วยเยสโน
"เยส" ผมยิ้มรับ อาจารย์ต้องภูมิใจในตัวผมมากแน่ๆ ลูกศิษย์ตั้งใจเรียนและนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง อย่างน้อยผมก็ไม่เป็นโรคกลัวฝรั่งนะเว้ย
"Really? How lucky!"
ฝรั่งยิ้มกว้างกำลังจะรวบมือผมไปจับแต่ผมกลับถูกน้องดึงไปไว้ข้างหลังซะก่อน อะไรกัน นี่ผมกำลังจะได้เพื่อนใหม่ในการฝึกภาษาอังกฤษนะเนี่ย ผมมองน้องงงๆ แต่น้องมองผมโกรธๆ
"พี่รู้ไหมเนี่ย ว่าเขาจีบพี่"
"ห้ะ" ผมเหวอรอบสองของวัน
น้องหน้าหงิกแล้วไปพูดอะไรไม่รู้ใส่ฝรั่ง "Sorry,He's my boyfriend." และลากผมกลับเข้าหาแก๊งค์หมีดุ ผมหันไปเห็นฝรั่งคนนั้นทำหน้าเศร้าๆ โบกมือให้ผมก่อนที่เขาจะเดินไปปะแป้งคนอื่นต่อ
เมื่อกี้อะไรเฟรนด์ๆ เพื่อนเหรอ ไม่ใช่ซะหน่อยเป็นพี่ต่างหาก
"เมื่อกี้เขาคุยไรวะ" เบสกระซิบถามผม
"ไม่รู้อ่ะ เราฟังไม่รู้เรื่อง"
ใครจะไปบอกว่าโดนฝรั่งจีบครับ แหม่ ผมมาเล่นสงกรานต์นะไม่ใช่มาหาแฟน อีกอย่างอุดมการณ์รักหนังสือตลอดไปของผมยังอยู่ ฉะนั้นเราจะครองโสดตลอดไป เย้
"แล้วน้องเช็คนี่ยังไง มึงไปสนิทกันตอนไหนวะ ทำไมกูไม่รู้" สีหน้าเบสอยากรู้มาก
"ไม่รู้เหมือนกัน เพิ่งเคยคุยกันวันแรกก็วันนี้เนี่ยแหละ"
เหมือนรู้ว่าโดนนินทาน้องเดินเข้ามาร่วมวงสนทนา
"พี่ข้าวจะเล่นถึงกี่โมงเหรอครับ"
และน้องก็คุยกับผมเหมือนรู้จักกันมาสิบปี
"ก็แล้วแต่เบสอ่ะ คงเย็นๆ ไม่ก็ดึกๆ มั้ง"
ผมยังไงก็ได้อยู่แล้วเล่นถึงสี่ทุ่มก็ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่ผมยังมีแรงเหลือ อย่าดูถูกพลังแห่งฮอบบิทนะครับ
"ผมเล่นด้วยนะพี่"
"อืมๆ แล้วแต่" มีคนเยอะๆ สิถึงจะสนุก
ผมมองหน้าและพอหันไปมองเบสมันก็แสยะยิ้มแล้วลากผมไปคุยกันสองคน
"ไอ้ข้าวกูบอกแล้ว" ทันทีที่พ้นระยะจากระยะการดักฟังเบสก็พล่ามตาเป็นประกายทันที "สาดน้ำทีมึงได้แฟนเลย ไอ้น้องเช็คนั้นชอบมึงแน่ๆ ฮ่าๆ บอกแล้วใครจะหนีสเน่ห์จากพี่ข้าวสุดฮอตปีสี่คนนี้ได้"
ผมหัวเราะแห้งๆ มโนแล้วเพื่อนผม "ไม่หรอกน่า"
"เดี๋ยวมึงก็รู้ข้าว เดี๋ยวมึงก็รู้" เบสย้ำผมถึงสองครั้งแล้วฉีดน้ำใส่หัวเกรซที่กำลังหัวเราะคิกคักเอาแป้งไปปะหน้าหนุ่มร้านขายน้ำ แน่นอนว่าเกรซหันมาหน้าหงิกฉีดน้ำกลับ ส่วนเพลงกับพีทกำลังยืนกินลูกชิ้นอยู่ครับ
พอเพลงกับพีทกินเสร็จก็กลับมารวมตัวเดินเท้ากันต่อครับไล่ฉีดคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยทั้งโดนปะแป้งและเป็นฝ่ายปะแป้ง แต่ไม่นับผมนะ ผมไม่ได้ปะแป้งใครเพราะส่วนสูงฮอบบิท น่าอายจะตายถ้าจะปะแป้งแล้วต้องเขย่ง ผมไม่เอาด้วยหรอก อย่างผมก็ปะแป้งได้แต่เด็กๆ นั่นแหละครับ
"เฮ้ย พี่เบส นี่ใครอ่ะ ทำไมผมไม่คุ้น" ไม่น่าเชื่อว่าโลกจะกลมถึงขั้นเจอน้องรหัสเบสครับ มันมากับแก๊งค์เพื่อนสองสามคนเหมือนกัน
ไอ้เบสดูภูมิใจมากมันเดินมาโอบไหล่ผมแล้วยิ้ม "หึๆ พี่แว่นไง มึงจำไม่ได้เหรอ"
น้องรหัสไอ้เบสและเพื่อนมันเหวอเลยครับ
อะไรวะ เจอผมลุคนี้มันน่าตกใจมากเลยเหรอ
"พูดจริงอ่ะพี่ นี่พี่แว่นจริงอ่ะ นอกจากส่วนสูงนี่ไม่มีอะไรเหมือนเลยนะ ถึงหน้าจะคุ้นๆ ก็เถอะ"
หยาบคายมาก
ผมแยกเขี้ยวแล้วฉีดน้ำใส่หัวน้องข้อหาด่าผมเตี้ย
นอกจากน้องมันจะไม่หลบแล้วยังพูดพล่ามต่อไม่หยุด "เฮ้ย พี่ผมพูดจริง พี่เลิกใส่แว่นเหอะ รุ่งกว่า เชื่อผมสิ"
"ไม่อ่ะ พี่ชอบใส่แว่นมากกว่า" ผมปฏิเสธและเลิกฉีดน้ำใส่น้องเพราะมันไม่สะเทือนเลยสักนิด
"จริงๆ นะพี่"
เบสเหมือนจะรำคาญแทนผม "วันนี้พี่แว่นเขาแค่มาปลดปล่อยตัวตนเว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้เขาก็กลายเป็นพี่แว่นเด็กเนิร์ดคนเดิมและ เสียดายมึงมาไม่ทันตอนเต้น"
"เต้นไรอ่ะพี่ พี่แว่นเต้นเป็นด้วยเหรอ" น้องรหัสถามตาเป็นประกายมองผมเหมือนบอกว่าเต้นให้ผมดูหน่อยดิพี่ ได้โปรด
"ยิ่งกว่าเซียนบอกเลย" นี่ก็เวอร์จัง
ผมถอนหายใจขี้เกียจคุย ถึงผมจะไม่ได้แอนตี้ตัวเองลุคนี้แต่ผมชอบตอนเป็นแว่นเนิร์ดมากกว่า ผมชอบโลกส่วนตัวของผมที่ไม่ค่อยมีใครมางุ้งงิ้ง
"พี่ผมขอปะแป้งหน่อย"
เพราะมีคนสะกิดผมเลยหันไปหาและพบว่าเป็นน้องเช็คคนเดิมเพิ่มเติมคือแป้งอีกแล้ว ผมขมวดคิ้ว ไอ้แป้งมันก็เย็นดีอยู่หรอกแต่มันจะปะแป้งผมอะไรบ่อยๆ กันเล่า ผมไม่ใช่กุ้งนะถึงจะได้เอาไปชุบทอดกินได้เลย
"ไม่เอา แค่นี้ก็หนาเป็นนิ้วแล้ว" แก้มผมตอนนี้แทบจะหาสีเนื้อไม่เจอมีแต่แป้ง นี่ถ้านับมือคนปะคงปาไปหลายสิบแล้วมั้งเพราะเล่นมาตั้งแต่แต่เที่ยงจนตอนนี้จะบ่ายสองแล้ว อากาศกำลังร้อนแรงมากทีเดียว
"นิดนึง" น้องว่าและปะแป้งผม แล้วจะถามทำไมวะเนี่ย
"ห้ามดึงแก้มนะ" ผมดักไว้ก่อนเลย
"ไม่เอา" น้องพูดยิ้มๆ แล้วดึงแก้มผมซึ่งปฏิกิริยาตอบรับของผมคือหน้างอ เจ็บโว้ย
"พี่.. แม่งน่ารักว่ะ"
"เออ อย่าดึงแก้มเจ็บ" จะชมก็ชมไปแต่อย่าทำร้ายร่างกายครับ
"ผมโครตอยากเป็นหลานรหัสพี่เลย พี่รู้เปล่า" น้องกระซิบข้างหูผม
"ไม่รู้ เลิกดึงซะที" ผมดึงมือน้องออกแต่ถูกรวบจับไว้ พอกำลังจะโวยวายกลับถูกน้อง..
"ฮิ้ววววววววววว"
ไอ้เบสและคณะเป่าปากดังลั่น
ไอ้เหี้ย
ผมอุทานในใจ
น้องแม่งจูบผม!!!!
พอน้องผละหน้าออกไป ผมก็ยังยืนอยู่ที่เดิม เหมือนปลาช็อคน้ำ
เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น น้องจูบผม แม่งอะไรวะเนี่ย ฮือ ทำไมผมต้องเขินวะ ผมรู้เลยว่าตัวเองตอนนี้หน้าร้อนมาก ทำไมวะ ทำไมน้องถึงต้องมาทำให้อุดมการณ์แต่งงานกับหนังสือของผมต้องสั่นคลอน
เออ ผมรู้ตัวเองมาตั้งนานแล้วแหละ ว่าไม่ได้ชอบผู้หญิง เลยไม่ได้หวังอะไรกับเรื่องแฟนมาก
ไอ้เบสวิ่งมาหาผมเลยครับหน้าสะใจมาก
"กูบอกแล้วไอ้ข้าว! ฮ่าๆๆ กูบอกแล้ว ว่าสาดน้ำสงกรานต์มึงต้องได้ผัว!"
โอเคมันจะดีกว่านี้มาก ถ้ามึงไม่ตะโกนดังลั่นขนาดนี้!!
"เบส เรากลับบ้านละ"
ผมทนอยู่ไม่ไหวจริงๆ โคตรน่าอายเลย ฮือ
"พี่ผมกลับด้วย" และตัวต้นเหตุก็เดินมาข้างๆ ผม
"ไม่ให้กลับ ไปเล่นน้ำต่อไป" ผมโบกมือชิ่วๆ ผมจะกลับไปหาหนังสือที่ผมแต่งงานด้วย
น้องรวบมือผมไปจับ
"พี่ข้าว อย่างน้อยผมว่าผมก็มีดีกว่าหนังสือที่พี่แต่งด้วยนะ"
เห้ย น้องมันรู้เรื่องนี้ได้ไงวะ
"รู้ได้ไง" ผมถามงงๆ
"รู้แล้วกัน" น้องยิ้มมุมปาก "สรุปว่าไงครับ จะกลับไปหาหนังสือหรือว่าจะเลือกผมครับ"
"ไว้คุยวันอื่นแล้วกัน"
ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะดึงมือน้องออกแต่แม่งเหนียวกว่ากาวตราช้างอีก เลยได้แต่ไปเลยตามเลย ผมหน้างอนิดๆ แล้วพูดเสียงอ้อมแอ้ม "ก็ได้"
น้องยิ้มพอใจดูดีใจมากเวอร์ๆ ผมหันไปหาเพื่อนเบสพบว่ามันกำลังขยับปากให้ผมอ่าน
ผมหรี่ตามองแล้วอ่านปากมัน
สาด-น้ำ-อย่าง-ไร-ให้-ได้-ผัว
อืม....
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ปีหน้าผมคงไม่เล่นแล้วล่ะ
เฮ้อ
------------------
จริงๆ อยากลงวันสงกรานต์ แต่ช่วงนั้นไม่อยู่
ติดตามผลงานอื่นได้ที่เพจค่ะ
:
https://www.facebook.com/FoggyTime/