[เรื่องสั้น] My Cat แมวนั่นของผม [1.1] [25/03/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] My Cat แมวนั่นของผม [1.1] [25/03/60]  (อ่าน 3180 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



[เรื่องสั้น]
MY CAT แมวนั่นของผม






* ฝากเรื่องสั้นด้วยนะคะ *


ผลงานเรื่องที่ผ่านมา

Just you and I เพราะนายคือของฉัน [จบแล้ว]
No Sugar ไม่หวานก็รักว่ะ [จบแล้ว]
คำทำนาย...ทายว่าต้องรัก [จบแล้ว]
พี่ครับ...ไอเลิฟยู [ยังไม่จบ]

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2017 11:22:35 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Re: [เรื่องสั้น] My Cat แมวนั่นของผม
«ตอบ #1 เมื่อ22-03-2017 11:21:26 »


My Cat แมวนั่นของผม (ตอนเดียวจบ)




        เมี๊ยว เสียงเล็กๆ ดังจากซอกตึกแถวที่ผมเดินผ่าน ปกติผมก็ผ่านซอกนี้ทุกวันยังไม่เห็นจะได้ยิน หรือว่ามีคนเอามาปล่อย หรือแม่มันลืมทิ้งไว้ ผมเริ่มสาวเท้ายาว ดวงตาก็มองหาต้นตอของเสียง

   เจอแล้ว...

   กล่องสีน้ำตาลขนาดพอดีถูกปิดฝามิดชิด ผมรีบดึงฝากล่องออก ด้านในมีเจ้าตัวมีชีวิตเล็กๆ สีขาวขนฟูเดินวนไปมา ปากก็อ้าส่งเสียงร้องคล้ายกับหิว

   “น่ารักจัง” ทันทีที่ถูกดวงตาใสสีฟ้าอ่อนจ้องมองคล้ายกับผมกำลังตกอยู่ในห้วงของความรัก นี่ผมกำลังหลงรักเจ้าตัวเล็กนี่สินะ “ไปอยู่ด้วยกันนะเจ้าเหมียว”



   จากวันที่ผมเก็บเจ้าเหมียวมาเลี้ยง ตอนนี้ก็ผ่านมาเป็นปี แม้ห้องเช่าผมจะเล็กแต่ก็ไม่ลำบากที่จะเลี้ยงแมวสีขาวอ้วนพลีแบบเจ้าเหมียว



   “อย่าแอบหนีไปเที่ยวอีกล่ะ พี่เกลกลับมาจะซื้อปลาเส้นมาฝาก เข้าใจไหมเจ้าเหมียว” ผมชี้นิ้วสั่งแมวสุดที่รักของตัวเอง ตอนเลี้ยงใหม่ๆ ผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นเพศอะไรหรืออายุเท่าไหร่ อาศัยหาความรู้จากอินเตอร์เน็ตเอา จนพามันไปฉีดวัคซีนถึงได้รู้ว่ามันเป็นตัวผู้

   ผมเปล่าโง่นะ ก็มันไม่เคยเลี้ยงนี่นา

   ออกจากห้องเพื่อไปเรียน ห้องเช่าผมอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก ซึ่งมันช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากโข ผมเดินตามทางเท้าอย่างเช่นทุกที แต่วันนี้กลับดวงซวยที่ตอนค่ำของเมื่อคืนฝนตกทำให้มีแอ่งน้ำขังที่พื้นถนน

   “เชี่ยเอ้ย ขับรถยังไงวะ” ตะโกนด่าออกไป ไม่รู้คนขับรถจะได้ยินหรือเปล่า แต่ก็ขอได้ด่าสักหน่อย ขับรถไม่มองคนเดินสักนิด ทำเอากางเกงยีนส์สุดโปรดของผมเปียกไปหมด จะกลับไปเปลี่ยนก็คงไม่ทันเพราะนี่ก็ใกล้เวลาเรียน ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้รถแพง

   สายตาหลากหลายคู่ต่างก็มองอย่างสนใจ คงเพราะกางเกงยีนส์ผมเปียกด้วย แต่นั่นผมไม่สนหรอก ไม่ได้เดือดร้อนใครนี่ ผมรีบเดินฝ่าฝูงสายตานับสิบขึ้นห้องเรียน ในระหว่างเดินขึ้นบันได กระจกใสด้านข้างมองเห็นรถแพงคุ้นตาเลื่อนถอยหลังเข้าจอดในโซนวีไอพี


   เหอะ ลูกคนรวยสินะ


   ผมละความสนใจก่อนเร่งฝีเท้าเพื่อไปยังห้องเรียน เพื่อนในคลาสก็ไม่ต่างจากคนอื่นที่มองมาที่ขาของผม อ่า กางเกงยีนส์สีซีดมันเปียกเลยเห็นชัดสินะ

   “ไอ้เกล มึงฉี่ใส่กางเกงเหรอวะ” แรงตบหัวจากด้านหลังกับน้ำเสียงหยอกล้อของไอ้มั่นทำให้ผมแทบยกขาถีบ แต่ติดตรงที่มันเป็นนักเทควันโดของมหาวิทยาลัยทำให้ต้องยั้งความคิดนั้นไว้ซะก่อน

   “ฉี่บ้านมึงสิ รถห่านั่นขับไม่ดูทาง สาดน้ำใส่กู” ผมว่า ไอ้มั่นนั่งขำบ้าบอของมัน แต่พอคิดแล้วก็โมโห ไอ้คนขับรถจะรู้ไหมว่าทำให้ผมเดือดร้อนเนี่ย ผมว่า สายตาหลายคู่ที่เดินผ่านมา ต้องคิดเหมือนไอ้มั่นแน่ๆ

   “วันนี้ป้าศรีลาป่วย กูได้ยินมาว่ามีอาจารย์พิเศษมาสอนแทนว่ะ” เสียงไอ้มั่นทำให้ผมหลุดจากความโมโห

   “อาจารย์พิเศษเหรอวะ ใครมึงรู้ป่ะ” ปกติคณะผมก็มีอาจารย์พิเศษวนเวียนมาสอนอยู่แล้ว เคยมีอาจารย์สาวสวยมากๆ มาอยู่ช่วงหนึ่ง นักศึกษาหนุ่มๆ แทบไม่เป็นอันเรียนมัวแต่จ้องหน้าอก เอ้ย หน้าตางามๆ

   “ไม่รู้ว่ะ เห็นว่าเป็นหลานอธิการด้วยนะ เส้นใหญ่สุดๆ” เบ้ปากให้กับคำตอบของเพื่อน พวกคนรวยมักจะนิสัยเสียเสมอ เท่าที่ผมเจอมานะ ไม่ได้คิดไปเอง

   เสียงเปิดประตูทำให้บรรดานกกระจอกแตกฮือ ผมดึงเลคเชอร์วิชาขึ้นมาจังหวะเดียวกับไอ้มั่นสะกิดแขนยิกๆ ไอ้นี่เป็นบ้าอะไรเนี่ย

   “เป็นไร โรคชักกระตุกเหรอ” กระซิบถามเพื่อนสนิท

   “ไอ้เชี่ยเกล มึงดู” เงยหน้ามองตามที่เพื่อนบอก “นั่นมันพี่ริกใช่ไหมวะ” ผมพยักหน้าตามคำบอกของเพื่อน

   “ใช่ว่ะ ซวยแล้วกู” รีบก้มหน้าก้มตาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ตัว

   ทำไมผมต้องหลบน่ะเหรอ ก็เพราะอาจารย์พิเศษคนใหม่ เป็นรุ่นพี่โรงเรียนเก่าของผมกับไอ้มั่น ที่สำคัญ ผมเคยท้าจีบผู้หญิงแล้วผมดันจีบติด ไม่ใช่ผมหล่อมากกว่าหรอกนะ แต่ใช้เล่ห์กลนิดๆ หน่อยๆ ผมประกาศชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ไม่สนใจความแค้นของคู่กรณีที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง



   ไอ้เกลจะตายเพราะความซวยนี้ไม่ได้



   จากที่เป็นคนตั้งใจเรียน วันนี้ผมโคตรไม่มีสมาธิเพราะมัวแต่หลบ ไอ้พี่ริกมันคงไม่เห็นผมหรอกใช่ไหม

   เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยสอนอย่างไม่เคอะเขิน คงจะสอนมาหลายที่แล้วสินะ ผมนั่งหลบจนหมดคาบเรียน อยากถอนหายใจจนอากาศหมดปอดซะจริง

   “กลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ไอ้มั่นถามปนขำ

   “เออสิ มึงไม่ได้เห็นสายตาสุดท้ายของมันที่มองนี่หว่า” สายตาที่มีแต่ความแค้นยังจำฝังติดตาผมอยู่เลยให้ตาย “กูกลับล่ะ ตอนเย็นกูทำงานนะเว้ย” บอกเพื่อนรักก่อนเดินแยกกลับห้องเช่า ไม่รู้เจ้าเหมียวจะเชื่อฟังหรือเปล่า

   ผมเดินกลับทางเดิม และก็เจอรถคันเดิมขับผ่านหน้าไปแต่ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องสน ผมแวะซื้อปลาเส้นที่ร้านสะดวกซื้อ เจ้าเหมียวชอบมาก แม้หมอจะเตือนว่าไม่ค่อยอยากให้มันกินก็เถอะ แต่สายตาเว้าวอนของมันทำให้ผมอดสงสารไม่ได้นี่นา

   “เจ้าเหมียว” ร้องเรียกทันทีที่เปิดประตูห้อง “อย่าบอกว่าแอบหนีอีกแล้วนะ”

   น่าโมโหที่สุด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมกำลังเก็บเงินเพื่อจะพาแมวไปทำหมันครับ มันจะได้ไม่หนีเที่ยวแบบนี้ อันที่จริงก็ไม่ได้เป็นอะไรเพราะมันคงอยากออกไปเปิดหูเปิดตา แต่ติดตรงที่กลัวมันจะถูกวางยาหรือไม่ก็ถูกรถชน แบบนั้นผมคงร้องไห้ขาดใจตายพอดี

   จัดข้าวของอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะได้ยินเสียงคนเคาะประตู เมื่อผมเปิดประตูออกเจอผู้ชายอุ้มเจ้าเหมียวของผม ตามัวแต่มองแมวจนลืมมองคนอุ้ม

   “เจ้าเหมียว” รีบโผเข้าไปอุ้ม แต่คนที่กอดแมวผมไม่ยอมปล่อย “คุณ...เชี่ย”

   “ผมไม่ได้ชื่อเชี่ย” คำพูด สายตาและรอยยิ้มนั่นทำเอาหนาวขึ้นมา “เจอกันอีกแล้วนะครับ น้องเกล”

   “จะ จำผมได้ด้วยเหรอ” อยากตบปากตัวเองจะพูดสั่นทำไม ไอ้พี่ริกมันไม่ตอบ แต่กลับเหยียดยิ้มแทน “ขอแมวผมคืนด้วยครับ”

   “พูดเพราะเป็นด้วยนี่” หมาในปากแทบอยากกระโดดออกมาหากในอ้อมกอดไม่มีแมวของผมอยู่ “แมวนี่เข้าไปอยู่ในบ้าน ผมเลยเอามาคืน”

   “ขอบคุณ” เอ่ยเบาๆ พลางยื่นมือไปรับ แต่อีกฝ่ายกลับโยกหลบ “เอ๊ะ...” ขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ

   “ไม่ให้ผมเข้าไปหน่อยเหรอ ผมอุตส่าห์อุ้มมาส่ง” ไอ้พี่ริกชะเง้อมองลอดเข้าไปในห้อง ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนขยับถอยให้อีกฝ่ายเข้าห้อง “ห้องนี้เล็กกว่าห้องน้ำบ้านผมอีก”

   แทบกลั้นอารมณ์โมโหไม่อยู่ ผมกำหมัดแน่นพยายามนับหนึ่งถึงร้อยเพื่อไม่ให้พุ่งไปชกหน้าขาวนั่น

   “ขอแมวผมคืนด้วย” กัดฟันยื่นมือไปขอ แต่อีกฝ่ายทำเป็นไม่ได้ยิน ขายาวเดินร่อนไปทั่วห้อง “ผมขอแมว...”

   “จำชื่อผมไม่ได้แล้วเหรอครับ น้องเกล” สีหน้ายั่วโมโหสุดๆ ผมนับหนึ่งถึงสิบก่อนจะยอมเรียก

   “ผมขอแมวคืนด้วยครับ...พี่ริก” หลับหูหลับตาพูด ได้ยินอีกฝ่ายขำเบาๆ

   “แมวน่ารักผิดเจ้าของนะ” ตวัดมองอย่างไม่พอใจ ผมรีบดึงแมวมาในอ้อมแขน ไอ้พี่ริกยักไหล่ ตายังมองสำรวจห้องของผมอยู่ “พี่กลับก่อนนะ” ถ้าไม่ติดอุ้มแมวคงยกมือขยี้หู ผมได้ยินไอ้พี่ริกแทนตัวเองว่าพี่ “อ่อ ในห้องเรียนไม่ต้องหลบหรอก มันตลก”

   “ไอ้...” ด่าไม่ทันเพราะคนที่ผมจะด่าเดินไปนู้นแล้ว โมโหว่ะ “เจ้าเหมียว แกไปเจอไอ้พี่บ้านั่นได้ยังไง ต่อไปอย่าไปอีกนะ ไม่งั้นถูกงดปลาเส้นแน่”





****************************




   โชคดีที่วิชาที่ต้องเรียนกับไอ้รุ่นพี่ขี้เก็กนั่นมีวันเดียว ไม่อย่างนั้นผมคงปวดหัวแย่แน่

   “วันนี้มึงทำงานหรือเปล่าวะ” ไอ้มั่นถาม ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ เรื่องงาน ตอนนี้ผมเป็นพนักงานเสิร์ฟแบบพาร์ทไทม์ครับ เจ้าของร้านเป็นรุ่นพี่ที่รู้จัก ซึ่งโชคดีมากที่ผมได้โอกาสจากพี่เขา “งั้นไปแดกเหล้ากัน กูเปรี้ยวปาก”

   “โทษทีว่ะ เงินเดือนกูยังไม่ออก” ที่จริงก็พอมีอยู่ แต่ไม่อยากใช้สิ้นเปลืองเท่าไหร่

   “เดี๋ยวกูเลี้ยงน่า” ไอ้มั่นตบหลังผม

   “มึงก็รู้ว่ากูชอบแชร์มากกว่า” ผมว่า

   “โอ๋ๆ รู้ครับๆ แกล้งเอง เลิกทำหน้างอเป็นปลาทูได้แล้วไอ้ห่า คนอื่นอาจมองมึงน่ารัก แต่กับกู โคตรตลก” ยกขาถีบเพื่อนสนิทจนมันเซ

   “กูกลับละ มึงก็กลับดีๆ อย่าไปขวางเท้าชาวบ้าน”

   ชีวิตในทุกๆ วัน เรียนเสร็จกลับห้อง เย็นๆ ก็ออกไปทำงาน กลับห้องมานอน เช้ามาก็เรียน วนเวียนแบบนี้มาเกือบสี่ปี จากข้างทางที่มีแต่ที่ว่าง ตอนนี้มีตึกขึ้นเต็มไปหมด

   “เจ้าเหมียว พี่เกลกลับมาแล้ว” ตะโกนเรียกแมวเช่นทุกวัน และมันก็เงียบหายเช่นเดิม คงออกไปติดแมวตัวเมียแน่นอน ชักอยากถึงสิ้นเดือนไวๆ ผมจะจับมันไปทำหมัน

   ก๊อกๆๆ

   เสียงเคาะประตูอีกแล้ว อย่าบอกนะว่า...

   “พี่เอาแมวมาคืน” เปิดประตูปุ๊บ เหมือนเหตุการณ์เมื่อวานย้อนกลับมา แค่วันนี้ไอ้พี่ริกไม่ได้สวมเชิ้ตสีฟ้าอ่อนแค่นั้น

   “ขอบคุณครับ” ยื่นไปรับ แต่อีกฝ่ายกลับเบียดเข้ามาในห้องแทน “สะกดมารยาทเป็นไหม” อดไม่ได้ที่จะว่า ถ้าคนสนิทกันผมจะไม่พูดเลยให้ตาย

   “เป็นสิ แต่กลับน้องเกลไม่ต้องมีก็ได้มั้ง” ไอ้พี่ริกวางแมวลงบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวนั่งลง “ห้องแค่นี้เลี้ยงแมวได้เหรอ”

   “ได้ไม่ได้มันก็อยู่จนโตแล้ว” ทำหน้าหงิกเพราะมีคนนั่งเตียงผมอยู่ “แมวผมไปบ้าน...เอ่อ พี่เหรอ” ไม่ชินปากที่เรียกเลยให้ตาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ว่าไปอย่าง

   “อืม บ้านพี่มีแมวตัวเมีย แมวของน้องเกลคงติดใจแมวของพี่” เกลียดรอยยิ้มกับสายตาเจ้าเล่ห์โคตรๆ “ถ้าหากน้องเกลอยากเห็นน้องก็ไปหาพี่ได้ ไม่ไกลจากที่นี่หรอก”

   “ไม่อยากเห็นสักนิด” พูดกับตัวเองเบาๆ “ต่อไป พี่ไม่ต้องอุ้มแมวผมมาส่งแล้วนะ” ผมบอก

   “น้องจะไปรับมาเองเหรอ”

   “เปล่า เพราะเดี๋ยวมันก็กลับมาเอง”

   “แต่รถเยอะนะ ไม่กลัวมันถูกรถชนเหรอ” ประโยคนี้ทำเอาผมจ้องหน้าคนพูด ก็จริงของไอ้พี่ริกมัน “เดี๋ยวพี่อุ้มมาส่งก็ได้ ไม่ได้ลำบากอะไร”

   “พี่ไม่ลำบาก แต่ผมลำบาก” เผลอพูดตามใจคิด ไอ้พี่ริกขมวดคิ้วจ้องหน้า “ผมหมายถึง เกรงใจ”

   “งั้นน้องเกลก็ไปบ้านพี่แทนแล้วกัน จะได้ไม่ต้องเกรงใจ” พูดจบ ก็ยืนเต็มความสูง ไอ้พี่ริกสูงขึ้นหรือเปล่าวะ หรือว่าผมเตี้ยลง “เรื่องเก่าพี่ลืมไปหมดแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะแก้แค้นที่น้องเล่นไม่ซื่อหรอกนะ”

   อ้าปากค้างมองตามหลังคนบอกไม่แก้แค้น แต่ยังจำฝังใจ นี่ผมควรดีใจหรือกังวลมากกว่ากัน ไอ้เกลมีเรื่องเครียดอีกแล้ว

   ค่ำคืนที่ดวงตาปิดไม่ลง ผมพลิกตัวไปมา ในสมองก็ครุ่นคิดถึงคำพูดนั่น ผมรู้ว่าผมผิดจริง แต่ก็ไม่ได้ผิดมากขนาดนั้น ก็แค่ไปบอกผู้หญิงคนนั้นว่าไอ้พี่ริกเป็นเกย์ ชอบผู้ชายแต่อยากจีบผู้หญิงเพื่อบังหน้า...ก็แค่นั้นเอง

   “หืม...” มัวแต่คิดจนเหลือบไปเห็นกรงนอนของเจ้าเหมียว “หนีไปหาสาวอีกแล้ว” ลุกขึ้นนั่งแล้วขยี้หัวตัวเองแรงๆ จะปล่อยก็กลัวรถชน ผมตัดสินใจเดินออกไปตามหา

   ทางเท้าที่มีต้นไม้ปลูกห่างเป็นระยะ ผมมองสอดส่องไปทั่วแต่ก็ไม่เห็นเจ้าเหมียว หายไปไหนเนี่ย หรือข้ามถนน ไม่นะ รถเยอะออกแบบนี้ ใจผมตอนนี้แทบเต้นไม่เป็นจังหวะ สมองคิดไปก่อนจนร้อนรน

   “มองหาเจ้านี่เหรอ” เสียงทุ้มมาจากด้านหลัง ผมรีบละสายตาจากท้องถนนกลับไปมอง ดวงตาสีฟ้าใสจ้องมาที่ผม เจ้าเหมียวส่งเสียงร้องเรียก “นี่...ร้องไห้เหรอ” เงยหน้าขึ้นมองคนอุ้ม

   “เปล่าร้องสักหน่อย” เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองร้องไห้

   “หึๆ” ผมสอดมืออุ้มแมว ปากกดหอม กดจูบเจ้าเหมียวจนมันดิ้น “เดี๋ยวมันก็ตายหรอก”

   “ยุ่ง” ตวัดสายตามองพลางสูดน้ำมูก “แมวผมไปบ้านพี่เหรอ”

   “อืม พี่กำลังจะนอนเห็นมันเดินที่กำแพง กลัวเกลจะห่วงเลยอุ้มมาส่ง” เม้มปากจ้องหน้าคนตรงหน้า “คิดถูกแล้วที่อุ้มมาส่ง ไม่งั้นเด็กขี้แยแถวนี้คงร้องไห้เป็นเผาเต่า”

   “ขอบคุณครับ” แม้ไม่ค่อยชอบประโยคหลังสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องขอบคุณอยู่ดี “อีกไม่กี่วันผมกำลังจะพาแมวไปทำหมัน ตอนนั้นมันคงไม่ไปบ้านพี่แล้วล่ะ”

   “ทำหมัน?” คนถามเลิกคิ้วขึ้น “งั้น...พี่ก็ไม่ได้อุ้มมาส่งแล้วสิ”

   “อืม ไม่ดีเหรอ ไม่เหนื่อยด้วย” ผมว่า

   “ไม่ดี” กระพริบตาปริบๆ มองคนบอกไม่ดี “พี่มีวิธีที่ไม่ต้องเสียเงินทำหมัน”

   “ทำยังไง”

   “เกลก็ไปอยู่บ้านพี่สิ แมวน้องก็ไม่หนีไปไหนแล้ว”

   “ผมต้องตลกกับมุกนี้ไหม” เบ้ปากใส่ก่อนหันหลังเตรียมกลับห้อง แต่ข้อศอกกลับถูกดึงไว้ “อะไร ผมจะกลับแล้ว”
 
   “พี่พูดจริงๆ นะ ไปอยู่บ้านพี่” ลมหายใจอุ่นๆ รดต้นคอจนใจเต้นแรงกว่าการหาเจ้าเหมียวไม่เจอซะอีก

   “เรื่องอะไรต้องไปอยู่ ญาติก็ไม่ใช่” ปากโวยวายแต่ไม่กล้าหันไปมองหน้า

   “ก็ไม่ใช่ญาติอยู่แล้ว” น้ำเสียงโคตรยั่วโมโหผมเผลอหันไป...

   เรื่องรถวิ่งหายเงียบไปจากการได้ยินเมื่อแก้มของผมชนกับปากที่ขยับมาอยู่ใกล้ตอนไหนไม่รู้

   “เอ่อ...” เหมือนเสียงตัวเองหายไป

   “คือพี่...” อีกฝ่ายก็เช่นกัน

   “ผมกลับละ” รีบเดินหนีออกมา ผมสาวเท้ายาวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แทบอยากวิ่งหากไม่มีเจ้าเหมียวอยู่ในอ้อมแขน


   เมื่อกี้เหมือนถูกไฟช็อตเลยให้ตาย


   กลับมาถึงห้อง รีบยัดเจ้าเหมียวเข้ากรงแล้วกระโดดขึ้นนอนบนเตียง ตาเหม่อมองหลอดไฟบนเพดาน ภาพที่ถูกหอมแก้มกับสายตาที่มองระยะใกล้ยังลอยเข้ามา ความอุ่นที่แก้มเหมือนยังคงอยู่จนเผลอยกมือขึ้นลูบ

   “เชี่ย ไอ้เกล มึงตั้งสติหน่อยสิวะ” มือที่ลูบเปลี่ยนเป็นตบ นี่ผมจะเผลอใจไม่ได้ นอนๆ




*******************************




   “ตาโหลๆ ไม่ได้นอนเหรอวะ” ไอ้มั่นทักเมื่อผมหย่อนก้นนั่งข้างมันในห้องเรียน “อ่าวไอ้นี่ ถามไม่ตอบ”

   “กูขอนอนแป็บ” แล้วก็ผล็อยหลับไปจริงๆ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่เพื่อนสนิทสะกิดยิกๆ “อีกแป็บ”

   “แต่นี่เวลาเรียนนะครับนักศึกษา” เสียงทุ้มแบบนี้ไม่ใช่เสียงไอ้มั่นแน่ ผมรีบเงยหน้าจากโต๊ะเจอหน้าคนที่ทำให้ผมนอนไม่หลับทั้งคืน “ตั้งใจเรียนหน่อย จะจบแล้วนะ” คล้ายกับดุ แต่สายตาไม่ใช่

   “นี่มึงกับพี่เขาญาติดีกันแล้วเหรอวะ” ไอ้มั่นกระซิบหลังจากคนที่มันนินทาเดินกลับไปหน้าห้อง

   “ไม่รู้” ผมตอบ

   ช่วงเวลาเรียน ผมไม่ได้หลบเหมือนคราแรก เลยทำให้เห็นว่า สายตาคนสอนมักจะมองสบกับผมพอดี บังเอิญหรือว่าตั้งใจ นี่ไม่ใช่จับตาดูผมหรอกนะ จะว่าผมไม่ตั้งใจเรียนล่ะสิ กว่าจะหมดเวลา พลังชีวิตผมแทบจะหมด

   “อย่าลืมทำรายงานตามหัวข้อนะครับ อ่อ นักศึกษาที่ชื่อนายกันตพัทธ์เลิกแล้วมาพบผมหน่อยนะ” ชื่อผมนี่หว่า ทุกคนในห้องต่างก็มองมา ไงละ เล่นผมซะแล้ว

   ผมออกจากห้องแล้วเดินตามหลังอดีตรุ่นพี่โรงเรียนไป ไอ้มั่นมันให้กำลังใจแต่ไม่ยอมตามมา ทีแบบนี้ชิ่งตลอด ทางเดินที่เดินตามปลายทางไม่ใช่ห้องพักครู แต่เป็นห้องพยาบาล

   “พาผมมาห้องพยาบาลทำไม” ถามอย่างสงสัย

   “นอนในห้องนี้ดีกว่าในห้องเรียน” กระพริบตาปริบๆ มองคนพูด “พี่บอกพยาบาลแล้วว่าเกลไม่สบาย นอนในนี้สักตื่น”

   “แต่ผมไม่ได้ป่วย...” รู้สึกแปลกๆ ไม่ชินกับท่าทางแบบนี้สักนิด

   “พี่รู้ ถ้าป่วย พี่ก็พาไปโรงพยาบาลแล้ว นอนนี่แหละ หายง่วงค่อยกลับ” คนพามายิ้มอย่างจริงใจ ก่อนจะยกมือขยี้ศีรษะผมเบาๆ “นอนเถอะ พี่มีสอน”

   ผมต้องรู้สึกยังไงดี ต้องทำยังไงกับหัวใจที่มันเต้นแรง

   


   “นี่บ้านพี่เอง” ผมเผลอนอนหลับยาวจนเย็น ตื่นมาก็เจอไอ้พี่ริกนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ พอเห็นผมตื่นก็พาผมกลับ แต่ไม่ได้ไปส่งที่ห้อง กลับมาบ้านตัวเองซะงั้น

   “พาผมมาทำไม” ขมวดคิ้วมองบ้านเดี่ยวหลังพอดี จากเส้นทางที่ผ่านมา ไม่ไกลจากห้องเช่าผมจริงๆ ดูใกล้กว่ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ

   “ก็พามาให้รู้ไง แล้วก็...”

   “เจ้าเหมียว” ผมร้องขึ้นมาเมื่อเห็นแมวตัวเองนอนคลอเคลียกับแมวขนฟูสีขาวปลอดไปทั้งตัว “หนีเที่ยวอีกแล้วนะ” บ่นแมวครับ ได้ยินเสียงขำจากคนยืนข้างๆ

   “แมวเกลทำแมวพี่ท้อง ต้องรับผิดชอบด้วยนะ” คนพูดขำไปด้วยจนน่าหมั่นไส้ สายตาและรอยยิ้มทำไมมันอบอุ่นแปลกๆ
 
   “ผมถามจริงๆ พี่เป็นเกย์จริงๆ เหรอ” สุดท้ายก็เผลอถามออกไป ไอ้พี่ริกเลิกคิ้วแต่รอยยิ้มที่มุมปากยังไม่ยอมหุบ “ผมจริงจังนะ”

   “ก็เกลไล่บอกคนอื่นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ” เหมือนถูกเตะเข้าท้องจนจุก

   “นี่พี่แก้แค้นผมเหรอ” จ้องไอ้พี่ริกที่ทำหน้านิ่ง “ผมขอโทษที่ไปพูดแบบนั้นกับคนอื่น” ยอมรับผิดไม่ใช่เรื่องยาก “ต่อไปผมจะดูแลแมว ไม่ให้มันมารบกวนอีก” ทำไมรู้สึกแปลกๆ ที่หัวใจยามเจอใบหน้าเรียบเฉย “ขอโทษอีกครั้งครับ” ก้มศีรษะเชิงบอกลาก่อนรีบออกมาจากบ้าน


   เจ็บจี๊ดเหมือนถูกมดกัด


   กลับมาถึงห้องผมก็ปล่อยเจ้าเหมียวบนพื้น ส่วนตัวเองรีบเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา ใบหน้าผิดหวังแบบนี้นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่ใช่ไหม ผมไม่ได้ผิดหวังนะ...แค่เสียใจ

   ผมยังคงไปทำงานแม้จะเบลอๆ แต่ก็ทำจนร้านปิด ถูกตำหนินิดๆ ได้แต่ก้มศีรษะขอโทษ

   “เอ่อพี่ไหมครับ ถ้าผมจะขอเบิกเงินล่วงหน้าก่อนได้ไหมครับ”

   “อีกไม่กี่วันก็สิ้นเดือนแล้วนี่ เกลจะเอาไปทำอะไร”

   “ผมอยากพาแมวไปทำหมัน มันกำลังติดสาวน่ะครับ” หัวเราะแห้งๆ ส่งให้กับรุ่นพี่เจ้าของร้าน พี่ไหมยิ้มเข้าใจพร้อมเรียกผมเข้าไปในห้องเพื่อจ่ายเงินที่ผมเบิกล่วงหน้า “ขอบคุณนะครับ”

   “จ้า นี่ห่วงแมวจนเบลอใช่ไหม”

   คำตอบของผมทำเพียงแค่ยิ้ม ตอนนี้ได้เงินแล้ว พรุ่งนี้เจ้าจะพาเจ้าเหมียวไปโรงพยาบาล ต่อไปจะได้ไม่ต้องออกไปบ้านหลังนั้นอีก

   ผมเดินลากเท้ามาถึงห้องเกือบๆ ตีหนึ่ง มัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พอมาถึงต้องแปลกใจเมื่อเจอรถคันที่เคยสาดน้ำโคลนใส่จอดอยู่หน้าห้องเช่า ผมมองสำรวจไปรอบๆ รถไม่เห็นเจ้าของ คงเพราะติดฟิล์มดำอีกทั้งตรงนี้ยังมืดอีก ไม่รู้เจ้าของรถมาทำอะไรแถวนี้ ระหว่างสำรวจ ประตูรถกลับถูกผลักออกมาจนสะดุ้งแทบวิ่งหนี หากไม่มีเสียงร้องเรียกไว้ซะก่อน

   “เกล” ผมหันหลังมามองคนเรียก เจ้าของรถสาวเท้าห่างจากรถมายืนตรงหน้าผม “ไปไหนมาวะ พี่มารอตั้งนาน” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดจนน่าตกใจ

   “มารอผมทำไม หรือแมวผมไปบ้านพี่อีก” ตอบไปทั้งที่ยังตกใจไม่หาย ไม่เข้าใจจะโมโหอะไร ดูเหมือนคนโมโหจะพยายามข่มอารมณ์ ไอ้พี่ริกหลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าผม

   “พี่มารอเกลนั่นแหละ” นี่ก็น่าแปลกใจ

   “รอเกล? รอทำไม” ทำไมรู้สึกเหมือนคนตรงหน้าจำเผลอยิ้ม มีแต่เรื่องไม่เข้าใจว่ะ “พี่มารอผมทำไม”

   “แทนตัวเองว่าเกลน่ารักกว่านะ” ใบหน้านิ่งเริ่มมีรอยยิ้ม “พี่รอเกลเพราะมีเรื่องอยากจะคุย”

   “เรื่องอะไร” มุ่ยหน้านิดๆ เมื่อได้ยินประโยคแรก

   “ก็เรื่องเมื่อตอนเย็น เกลกำลังคิดผิด” ทำไมผมไม่อยากฟังวะ แต่จะเดินหนีก็ไม่ได้เมื่อถูกจับแขนไว้ “เกล พี่ไม่ได้จะแก้แค้นเกลเลยนะ พี่ไม่ได้โกรธที่เกลบอกคนอื่นแบบนั้น”

   “ไม่ได้โกรธ? ผมไม่เชื่อหรอก” ผมยังจำสายตาตอนนั้นได้ แววตาเต็มไปด้วยความแค้น

   “พี่ไม่ได้โกรธจริงๆ แค่เสียใจที่เกลทำเรื่องแบบนั้น” คนตรงหน้าผมขมวดคิ้ว ดวงตาจ้องแทบไม่กระพริบ “พี่ไม่เคยโกรธ และไม่มีวันโกรธ ไม่เชื่อพี่เหรอ” ผมพยักหน้ารัวๆ ไอ้พี่ริกขำออกมา “งั้นจ้องตาพี่สิ จะได้รู้ว่าพี่โกหกหรือเปล่า”

   ผมจ้องตาคนสูงกว่าอยากที่เขาบอก อ่า หัวใจเต้นแปลกๆ อีกแล้ว ดวงตานัยน์ตาสีน้ำตาลกำลังมีผมอยู่ในนั้น จนต้องรีบหลบสายตาซ่อนความร้อนที่ขึ้นแก้ม

   “ง่วงแล้ว” รีบหาเรื่องหนี

   “เขินพี่ล่ะสิ แก้มแดงเชียว” เม้มปากแน่นไม่กล้าเงยขึ้นไปสบตา “ตอนเกลบอกคนอื่นว่าพี่เป็นเกย์ พี่ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะไม่ได้เป็น แต่มาตอนนี้ชักอยากจะลองเป็นบ้างซะแล้วสิ”

   “ลองเป็นเกย์เนี่ยนะ มันลองกันได้ด้วยเหรอ” เผลอเงยหน้าขึ้นไปสบตา รอบนี้หลบไม่ได้ด้วย เหมือนถูกตรึงด้วยสายตาอ่อนโยนนั่น

   “แค่กับเกลนะ”

   “อย่ามาล้อเล่น”

   “ไม่ได้ล้อเล่น ตอนพี่ไปเรียนต่อ มีคนส่งรูปเกลให้ดูตลอด”

   “สะ ส่งให้ดูทำไม โรคจิตเหรอ” ทำไมหน้ามันร้อนขึ้นเนี่ย ทั้งที่อากาศก็ไม่ได้อบอ้าว

   “คงจะเป็นโรคจิตเพราะคิดถึงเกลมั้ง” น้ำเสียงนุ่มพร้อมดวงตาอ่อนโยน “เกล...”

   “ไม่ฟังแล้วๆ” ยกมือขึ้นอุดหู ไอ้พี่ริกก็ขำร่วน

   “ที่พี่รับปากแข่งจีบผู้หญิงตอนม.ปลายเพราะแค่อยากอยู่ใกล้เกล แม้จะเป็นเรื่องโคตรงี่เง่าก็เถอะ แต่มันก็ทำให้เกลสนใจพี่อยู่ตลอด” เหมือนความในใจถูกถ่ายทอดออกมา ผมจ้องหน้าตั้งใจฟังด้วยความหน้าร้อน “พอรู้ว่าจะได้ไปเรียนต่อ พี่แทบเป็นบ้า ยังดีที่ให้คนรู้จักส่งรูปเกลไปให้ ไม่อย่างนั้นคงอยู่เรียนไม่จบ”

   “เว่อร์” ว่าแต่ ใครวะ ที่ส่งรูปผมได้

   “พี่พูดจริงๆ เกลครับ พี่สารภาพแบบนี้แล้ว เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ”

   ผมต้องตอบยังไงดี

   “ไม่รู้ๆ ง่วงแล้ว” เลือกจะเฉไฉแทน ก็คนมันไม่รู้จะตอบยังไงนี่หว่า

   “เกล ไปนอนบ้านพี่ไหม...เจ้าเหมียวก็อยู่บ้านพี่นะ” กำลังจะอ้าปากขัด สัตว์เลี้ยงสุดรักกลับไปนอนบ้านนั้นก่อนซะอีก

   “ไม่ได้คิดลามกใช่ไหม” หรี่ตาจ้อง

   “พี่ไม่ทำหากเกลไม่สมยอมหรอกน่า”

   “เออก็ได้ เพราะแมวผมไปนอนบ้านพี่หรอกนะ” ย่นหน้าเดินไปเปิดประตู แต่กลับถูกมือใหญ่กว่ายื่นตัดหน้ามาเปิดให้ “ขอบคุณครับ”

   “ถือเป็นการไถ่โทษที่เคยขับรถสาดน้ำใส่” ไอ้พี่ริกยิ้มออกมา

   “รู้ด้วยเหรอว่าเป็นผม” อยากด่า แต่ก็เกรงใจ

   “เห็นผ่านกระจกน่ะ ตกใจมากเลยนะ ไม่คิดว่าจะเจอ”

   “ต่อไปขับรถระวังด้วย ผมเสียหายหมด มีแต่คนว่าผม...”

   “แทนตัวเองว่าเกลสิ” เหมือนถูกต้อนในอยู่ในวงแขน ตัวผมยังยืนค้างชิดตัวรถ โดยมีแขนของพี่ริกค้ำหลังคากับประตูไว้ “พี่ชอบให้เกลแทนตัวเองด้วยชื่อแบบเมื่อก่อน”

   “ไม่...เชี่ย” หันไปโวยวายเมื่อถูกขโมยหอมแก้ม

   “ต่อไปไม่แทนตัวเองด้วยชื่อจะถูกหอมแก้ม อ้อ พูดคำหยาบกับพี่ด้วย จะโดนสองรอบ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้ต้องรีบยกมือสองข้างกุมแก้มตัวเอง “เข้าไปนั่งได้แล้ว เดี๋ยวถึงบ้านเช้าแล้วไม่ได้นอน” พูดโคตรกำกวมว่ะ

   “รู้แล้วน่า”

   เพราะเจ้าเหมียวแท้ๆ เลยทำให้ผมต้องไปนอนที่อื่นทั้งที่ห้องเช่าตัวเองก็มี สงสัยต้องงดปลาเส้นไปสักปี โทษฐานที่ทำให้ผมคนนี้ถูกหอมแก้ม

   “อย่าทำตัวน่ารักกับคนอื่นที่มหาวิทยาลัยนะ พี่ขี้หึง” น้ำเสียงคล้ายกับหยอกล้อ แต่สายตาจริงจังสุดๆ

   “ตลก ผม...เอ่อ เกลไม่ได้น่ารักขนาดนั้น” ผมว่า

   “ไม่ขนาดนั้นสำหรับคนอื่น แต่มากสำหรับพี่ นี่คือคำเตือนข้อที่หนึ่ง ห้ามทำตัวน่ารักกับคนอื่นเพราะพี่ขี้หึง...มาก”

   “พี่ริกอย่าเว่อร์ได้ป่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”

   “เอ้า นี่พี่กำลังจีบเกลอยู่นะ จีบวันนี้ พรุ่งนี้เป็นแฟน ดีจะตาย”

   ไปแล้วครับหัวใจผม มันเต้นจนแทบจะโดดออกมานอกอก

   “จะถึงหรือยัง ง่วงแล้ว” รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวเป็นโรคหัวใจ

   “ใกล้แล้วครับ ใจร้อนนะเราเนี่ย” พี่ริกกัดปากทำท่าเซ็กซี่จนผมขำออกมา

   ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อ แต่วันนี้ผมลบความรู้สึกผิดวันนั้นได้หมดแล้ว ตอนนี้นอนอย่างมีความสุขสักที ที่สำคัญ ได้นอนข้างคนที่ทำให้ผมฝันร้ายมาตลอด ต่อไปคงจะมีแต่ฝันดีสินะ



   เมี๊ยว (แปลว่าจบ) 



...

เพราะภาพรูปแมวเหมียวในทวิตทำให้เกินเรื่องสั้นนี้มา ต้องขอบคุณจริงๆ ค่า

หากผิดพลาดตรงไหนขออภัย จะพยายามปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นค่า

 :pig4: :pig4: :pig4:       

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: [เรื่องสั้น] My Cat แมวนั่นของผม
«ตอบ #2 เมื่อ22-03-2017 12:25:17 »

น่ารักมากเลยค่ะ เจ้าเหมียวสื่อรัก  :hao3:
ว่าแต่จะมีตอนพิเศษของพี่ริกมั้ยคะว่าได้รูปเกลมายังไง?

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] My Cat แมวนั่นของผม
«ตอบ #3 เมื่อ22-03-2017 12:44:14 »

มาต่ออีกหน่อย กะลังฟิน พี่ริกน่ารัก   :katai2-1:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: [เรื่องสั้น] My Cat แมวนั่นของผม
«ตอบ #4 เมื่อ22-03-2017 21:05:32 »

ขอต่อตอนหวาน ๆ อีกสักตอนนะคะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: [เรื่องสั้น] My Cat แมวนั่นของผม
«ตอบ #5 เมื่อ23-03-2017 11:38:04 »

น้องเกลน่ารัก


 :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: [เรื่องสั้น] My Cat แมวนั่นของผม
«ตอบ #6 เมื่อ24-03-2017 19:19:18 »

น่ารักอ่ะ.. :man1:

ออฟไลน์ owlfon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] My Cat แมวนั่นของผม
«ตอบ #7 เมื่อ24-03-2017 23:43:33 »

ชอบบบอ่ะ น่ารักจัง  อ่านแล้วเขิน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
MY CAT แมวนั่นของผม 1.1





       “พี่ริกได้รูปนี้มาจากไหน” ผมเลื่อนดูรูปจากคอมพิวเตอร์ในห้องนอนของเจ้าของบ้าน ที่จริงก็สะดุดตาอยู่หลายรูปเหมือนกันแต่รูปที่ต้องถามมันเป็นรูปที่ไม่น่าจะมีใครถ่ายได้ “พี่ริก”

   “หืม รูปไหนครับ” เจ้าของบ้านเดินมาซ้อนหลัง พี่ริกโน้มตัวลงมาจนหน้าขาวชิดกับหน้าของผม สองแขนก็วาดคร่อมตัวผมที่นั่งเก้าอี้อยู่ เอาง่ายๆ คือโดนโอบกลายๆ นั่นเอง

   “รูปนี้” ชี้ไปที่หน้าจอ

   “อ๋อ” พี่ริกลากเสียงยาวจนผมต้องใช้หางตาเหล่ไปมอง เพราะเอียงคอไม่ได้ เดี๋ยวจะไปเข้าแผนการจังหวะบังเอิญเหมือนเมื่อคราวที่แล้ว ผมรู้ทันหรอก

   “ได้มาจากไหน” ถามย้ำ แต่คนถูกถามทำอ้ำอึ้งก่อนหน้าขาวจะเลื่อนห่างจากหน้าผมขึ้นไปวางคางบนศีรษะ“พี่ริก”

   “ก็มีคนถ่ายมาให้ดู” เสียงนุ่มเอ่ยออกมา แม้ไม่เห็นหน้าหรือสาย แต่คนพูดก็น่าจะยิ้มอยู่ “พี่ไปเรียนตั้งไกล ก็อยากเห็น อยากรู้เรื่องของเกล ว่าเกลทำอะไร อยู่ที่ไหนกับใครบ้างในช่วงที่พี่ไม่อยู่”

   “เลยให้คนคอยถ่ายรูปพวกนี้ส่งให้เหรอ...โรคจิตหรือเปล่าเนี่ย” แอบกลัวนะครับ ดีที่ไม่มีรูปในห้องน้ำ ถ้ามีละก็ ไอ้เกลก็วิ่งกลับห้องเถอะ

   “อยากรู้เรื่องคนที่เราชอบ เขาไม่เรียกโรคจิตหรอก”
 
        ไปไม่เป็นแล้วครับ

   พี่ริกขำเบาๆ อยู่บนหัวของผม มือที่วางบนโต๊ะเปลี่ยนมารวบกอดผมแทน ความเงียบที่มีเพียงเสียงเข็มนาฬิกาค่อยๆ หมุนเวลาไปช้าๆ กับเสียงเต้นของหัวใจที่ดังเป็นจังหวะพร้อมๆ กัน ของผมแล้วก็คนที่กอดผมจากด้านหลัง

   “พี่ริก เอ่อ ชอบเกลตอนไหน” พูดทำลายความเงียบที่มันทำให้ผมวางตัวไม่ถูก แม้จะรู้สึกกระดากปากที่ต้องถามเรื่องรักกับคนที่เคยเขม่นกันมานานก็ตาม หลังจากผมถามจบ แขนที่โอบจากด้านหลังก็กระชับมากกว่าเดิมนิดๆ พร้อมกับหน้าที่อยู่เหนือศีรษะลดลงมาซบบริเวณต้นคอ

   “ไม่รู้สิ” ลมหายใจอุ่นเป่าซอกคอซะขนลุกเกรียว “มารู้อีกทีก็ตอนไม่ได้เจอ พี่คิดถึงตอนเราทะเลาะกัน แค่มองหน้าก็ด่ากัน ตอนนั้นโคตรเกลียด พอไม่ได้ยินก็คิดถึง”

   “นี่เขาไม่เรียกคิดถึงหรอก เขาเรียกเหงาปากมากกว่า” ผมขำออกมา แต่พี่ริกไม่ขำด้วย ปากที่เจื้อยแจ้วกดจูบบริเวณซอกคอที่ซบหน้าอยู่

   “คิดถึงสิ มากด้วย” ผมว่า ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงพิกล “แล้วเกลล่ะ คิดถึงพี่หรือเปล่า ไม่เจอหน้าพี่ตั้งนาน”

   “เอาความจริงหรือคำเอาใจล่ะ” ถามไป มือก็คอยแกะมือปลาหมึกที่ลูบตามแขน “พี่ริกอย่าลวนลามสิ”

   “พี่เนี่ยนะลวนลาม” ว่าแล้วก็หัวเราะร่วน “ขอโทษที ก็พี่คิดถึง” เบ้ปากให้กับคำขอโทษ “เอาความจริงก็ได้”

   “ความจริงก็คือ โคตรโล่งใจที่ไม่ต้องเจอหน้าพี่อีก” ผมบอก พี่ริกถึงกับหยุดนิ่ง อ้อมแขนที่โอบคลายออกทันที ก่อนตัวผมจะถูกหมุนพร้อมเก้าอี้ให้หันไปเผชิญหน้า “อะไรเนี่ย ตกใจหมด”

   “เกลดีใจที่ไม่ต้องเจอพี่งั้นเหรอ เกลคิดแบบนั้นจริงๆ น่ะเหรอ” สีหน้าของพี่ริกเคร่งเครียด แต่ผมกลับอยากขำ “เกล พี่ไม่ตลกนะ”

   “อ่าว ก็พี่บอกอยากได้ความจริง เกลก็จัดให้ แล้วจะมาโทษเกลได้ยังไง” สุดท้ายก็เผลอหลุดขำออกมา และยิ่งทำให้คนหน้าบึ้งตีหน้ายุ่งหนักมากกว่าเก่า “แต่มันก็แค่ช่วงแรกๆ นั่นแหละ” ผมยกมือขึ้นแตะแก้มของพี่ริก สบตากับนัยน์ตาสีน้ำตาลที่จ้องมองผมอย่างอ่อนโยน

   “ช่วงแรกๆ หมายความว่ายังไง”

   “ก็โล่งใจแค่ตอนแรก พอหลังๆ ก็เหงาเหมือนกันนั่นแหละ ไม่มีคนชวนทะเลาะ”

   “คิดถึงพี่ล่ะสิ” พี่ริกยกมือดึงมือผมมาจูบเบาๆ ทำเอาเขินหน้าร้อนไปหมด “เราใจตรงกันเหมือนกันนะ” ผมผลุบสายตาลงมองท้องของพี่ริกแทน ไม่อาจทนจ้องสายตาคนตรงหน้าได้ เขินก็ใช่ ใจเต้นก็ใช่ “เกล”

   “อะไร” ตอบรับทั้งที่ยังก้มหน้า

   “ชอบหน้าท้องพี่เหรอ จ้องจริง” เจอคำถามแบบนี้ทำให้รีบเงยหน้าขึ้นมองหน้าเหมือนเดิม พี่ริกหัวเราะร่วนจนผมยื่นมือไปต่อยหน้าท้องแข็งๆ “เกลครับ”

   สายตาอ่อนโยนตรึงให้ผมหยุดดิ้น หน้าขาวค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนจมูกของเราสัมผัสคลอเคลียกัน ปากที่ห่างไม่ถึงสองเซนคอยจะเฉี่ยวไปมาให้ใจเต้น แต่ก่อนที่ปากของเราจะสัมผัสกัน เสียงร้องเบาๆ ก็ขัดขึ้นมาจนผมต้องรีบหันหน้าหนี

   “เจ้าเหมียว” ผมโผเข้าไปหาแมวสีขาวของผม พี่ริกทำเสียงฮึดฮัดที่โดนขัดพลางทิ้งตัวนั่งเก้าอี้แทน “ทำไมชอบหนีมาอยู่บ้านนี้เนี่ย”

   “ก็เพราะทั้งคน ทั้งสัตว์บ้านนี้เสน่ห์แรงยังไงล่ะ” แทบอยากหันไปอ้วกใส่คนที่ขยิบตาส่งให้ แต่เกรงใจเจ้าของบ้าน

   “มั่นหน้ามาก” ผมว่า พี่ริกถึงกับขำ “ผมว่าจะจองวันที่คลินิกเพื่อเอาเจ้าเหมียวไปทำหมัน”

   “ทำหมัน? ไม่ต้องทำหรอก”

   “ทำสิ ป้องกันโรคด้วย อีกอย่างเกิดมันไปติดใจแมวตัวอื่น บ้านอื่น เกลไม่ต้องไปนอนบ้านเขา แบบที่ต้องมานอนบ้านพี่เหรอ” ถามปุ๊บ พี่ริกตาเหลือกแล้วรีบเดินไปคว้ากุญแจรถ “พี่ริกจะไปไหน”

   “เอาแมวไปทำหมัน พี่ไม่ยอมให้เกลไปบ้านอื่นหรอกนะ” พี่ริกตีสีหน้าขึงขังจะฉุดแขนผมให้ลุกขึ้น

   “พี่จะบ้าเหรอ นี่มันจะห้าทุ่มอยู่แล้ว” ดูเหมือนคนรีบร้อนเพิ่งนึกได้ “ทำใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้นะคนเรา”

   “พี่ก็วัยรุ่นอยู่นะ”

   “วัยรุ่นตอนปลายน่ะสิ”

   “เดี๋ยวเถอะ”

   ลืมเล่าไป ผมมาบ้านพี่ริกบ่อยกว่าอยู่ห้องเช่าตัวเองซะอีก แต่เจ้าเหมียวไม่ยอมกลับเลยให้ตาย ยังดีที่บ้านพี่ริกดูแลมันอย่างดี จนตอนนี้แทบจะกลิ้งแทนเดินอยู่แล้ว เจ้าเหมียวคงมีความสุขที่มีแฟนแล้วก็เพื่อน ตอนอยู่ห้องเช่ามันคงเหงาที่ต้องอยู่ตัวเดียวในเวลาที่ผมไปเรียนและไปทำงาน

   “เกลไปอาบน้ำ ดึกแล้ว” พี่ริกเดินมาอุ้มเจ้าเหมียวไปรวมกับแมวของพี่เขาที่นอนอยู่บนตู้นอนสำหรับน้องเหมียว “หรือเราจะอาบพร้อมกัน”

   “ไม่มีทาง”

   ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าที่จะสวมใส่จากกระเป๋าเดินทาง ก่อนเข้าห้องน้ำไม่ลืมหยิบโทรศัพท์ติดมือเข้าไปด้วย มีเรื่องต้องเคลียร์กับคนบางคน

   ในห้องน้ำ ผมวางข้าวของบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ตาก็มองหาเบอร์ที่ต้องการจะคุยก่อนกดโทรออก รอสายอยู่นานกว่าคนอีกด้านจะกดรับ ฟังจากน้ำเสียงคงกำลังนอนฝันหวานไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรอยู่แน่

   (โทรมาทำเหี้ยอะไร กูกำลังฝันหวาน) ไอ้มั่นเหวี่ยงเสียงแหบ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องใส่ใจ

   “มึงจำวันที่กูถูกสาวบอกเลิกตอนปีสามแล้วไปกินเหล้าห้องมึงได้ไหม” ถามตรงประเด็น เพราะไม่ชอบอ้อมค้อมให้มันน่าเบื่อ ปลายสายนิ่งเงียบ “ไอ้เชี่ยมั่น”

   (เออๆ จำได้ ทำไมวะ) แม้มันจะเหมือนหงุดหงิด แต่น้ำเสียงเบาลงอย่างรู้สึกได้

   “มึงไม่ได้ทำอะไรในช่วงกูเมาเละใช่ไหม” ลองหยั่งเชิงดู เพราะถ้าคาดคั้น ไอ้มั่นมันจะแถจนไหลไปเรื่อยๆ

   (กูจะไปทำอะไรมึง กูไม่คิดจะปล้ำมึงหรอก ขนลุกไอ้ห่าเกล) เห็นไหมครับ เริ่มเปลี่ยนเรื่อง

   “กูหมายถึง มึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์กูใช่ไหม” เงียบ ตอนนี้ไอ้มั่นเงียบไปแล้ว “มึงไม่ได้อัดวีดีโอตอนกูเพ้อบ้าบอแล้วเก็บไว้แบล็คเมล์กูใช่ไหม”

   (ใครมันจะไปทำกัน) เสียงสูงสุดๆ

   “เหรอ ไม่ทำเลยสินะ คุณมั่นเมือง”

   (แน่นอน ไม่ทำหรอก กูรักเพื่อนจะตาย)

   “ไอ้สัด แล้วหมาตัวไหนมันถ่ายรูปกูตอนเมาเละแล้วส่งให้คนอื่นวะ ในห้องมีแค่กูกับมึง ไม่ใช่มึงจะเป็นกูหรือไง ทำไมมึงทำกับกูแบบนี้วะ หักหลังกู”

   (เชี่ย นี่มึงเห็นรูปเหรอวะ) ไอ้มั่นตะโกนใส่โทรศัพท์เอาซะหูชา กะจะดึงดราม่าสักหน่อย หูอื้อเลยตอนนี้ (แปลว่า มึงกับพี่ริกสนิทกันแล้ว ถึงขนาดให้ดูรูปอย่างงั้นเหรอ)

   “ไม่สนิทขนาดนั้นเว้ย” อ่าว ทำไมผมถูกกดดันแทน “พี่เขาแค่...เอ่อ แค่ให้กูดูเฉยๆ”

   (ไม่สนิท แต่ให้ดูรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้อย่างแรง)

   “ก็เป็นไปแล้วนี่ไง แล้วมึงอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง มึงทำแบบนั้นได้ยังไง แถมไม่บอกกูด้วย” ที่เคืองไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะครับ มันเล่นส่งรูปภาพอุบาทๆ ของผมด้วยนี่สิ อ้าปากกินข้าวมันก็ถ่าย ตอนนั้นคิดว่ามันลองกล้อง ที่ไหนได้ ถ่ายส่งให้คนอื่น

   (มึงเห็นกูชอบขายเพื่อนเหรอวะ กว่ากูจะยอมถ่ายส่งให้ พี่เขาต้องอ้อนวอนกูตั้งเท่าไหร่ ต้องแสดงความจริงใจให้กูดูแค่ไหน นี่มึงมองไม่เห็นความรัก ความหวังดีของกูเหรอ กูเสียใจ ไอ้เหี้ยเกล)

   พูดไม่ออกแล้วครับ จากที่ตัวเองดราม่า กลายเป็นไอ้มั่นดราม่าแทน แถมหนักกว่าซะด้วย น้ำเสียงสั่นเครือของมันทำเอาผมอึ้ง นี่มันเสียใจจริงหรือเปล่าวะ

   “มึง...ร้องไห้เหรอ” ลองถามไป

   (ร้องอะไรละ กูหาวไอ้ห่า แล้วนี่มึงเลิกงานแล้วเหรอวะ)

   “อืม เพิ่งเลิก...”

   “เกลครับ อาบเสร็จหรือยัง หรือหลับในห้องน้ำไปแล้ว”

   ฉิบหาย กำลังคุยกับไอ้มั่นอยู่ดีๆ พี่ริกเคาะประตูห้องน้ำแถมตะโกนเข้ามาเฉย แล้วคิดว่า คนปลายสายโทรศัพท์ของผมจะไม่ได้ยินมันก็เป็นไปไม่ได้

   (เสียง...) นั่นไง (มึงอยู่ที่ไหน แต่กูว่า เสียงนั่นคุ้นๆ)

   “ระ รุ่นพี่ที่ร้าน” แถไปให้สุด

   (โกหก กูจำเสียงได้ กูคุยกับพี่เขามาตั้งหลายปี ไอ้ห่า นี่มึงไปนอนกับพี่ริกเหรอวะ หรือว่ามึงเป็นเมียพี่เขาแล้ว)

   “ไม่ใช่เว้ย กูแค่มาตามแมวแล้วมันดึก พี่เขาเลยให้กูนอน ไม่ใช่เรื่องใต้เข็มขัดอย่างที่มึงคิด”

   (จริงๆ เหรอครับคุณกันตพัทธ์)

   “เออ แค่นี้นะ”

   รีบกดวางแล้วถอนหายใจออกมา เสียงเคาะประตูยังดังเป็นระยะจนต้องตะโกนออกไปว่าอาบน้ำอยู่ นี่ก็เหมือนกัน ตามตอแยจนผมเครียด ไปทำงานที่ร้าน พี่ริกก็ไปนั่งเฝ้า พูดกำชับอยู่ตลอดเวลาผมเดินผ่านว่าห้ามเล่นหูเล่นตาหรือยิ้มให้ใคร พอเลิกปุ๊บก็แทบจะคว้าแขนผมออกมา ไอ้เกลเครียด

   รีบอาบน้ำภายในสิบนาที เปิดประตูออกมา พี่ริกนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงรอ บนตัวมีแค่ผ้าขนหนูสีขาวพันไว้ที่เอวอย่างหมิ่นเหม่ นี่พี่แกจะแผ่ออร่าความขาวกลบผมหรือยังไงกัน

   “ชอบรูปร่างพี่ล่ะสิ จ้องอยู่นานเชียว” เจ้าของห้องลุกขึ้นมาจากเตียง ผ้าขนหนูนั่นเหมือนจะหลุดอยู่แล้ว “แข็งมากเลยนะ”
 
   “อะไรแข็งวะ อย่ามาทะลึ่ง” รีบโวยวายที่อยู่ๆ ก็ถูกกระซิบชิดใบหู พี่ริกขำร่วนที่ได้แกล้ง

   “หมายถึงหน้าท้องนี่ไง แข็งมาก” พูดแล้วก็ตบหน้าท้องที่เต็มไปด้วยซิกแพก “โอ๊ะหลุด”

   “ไอ้พี่ริก” ตกใจแทบวิ่ง อยู่ๆ ผ้าขนหนูสีขาวหลุดไปกองที่พื้นเฉย

   “พี่ไม่ได้ตั้งใจให้หลุดนะ มันหลุดเอง” น้ำเสียงกับสีหน้าโคตรกรุ้มกริ่ม

   “ไม่ได้ตั้งใจก็เอาผ้าพันเหมือนเดิมสิ จะโชว์เหนือหรือไงเล่า” พี่ริกก็ผู้ชายเหมือนผม จะหันหน้าหนีทำไม ก็แค่ไม่มองตรงๆ แค่นั้น

   “โชว์เหนือที่ไหน โชว์เกลนั่นแหละ” ผมชูนิ้วกลางคืนให้คนพูดกวนโมโห พี่ริกหัวเราะแล้วก้มหยิบผ้าขนหนูขึ้นพาดบ่า “พี่อาบน้ำแป๊บ”

   “เออ รีบๆ ไปเลย โชว์หนอนอยู่ได้” เดินหนีไปนั่งอีกฝั่งของเตียง ปล่อยพี่ริกเดินเปลือยล่อนจ้อนเข้าห้องน้ำ แม้จะรู้จักกัน แต่ไม่ได้สนิทถึงขั้นโชว์หนอนแบบนี้

   “หนอนที่ไหน มังกรต่างหาก”

   “ไอ้พี่ริก”

   แหกปากโวยวายเมื่อคนที่คิดว่าจะเข้าห้องน้ำไปแล้วเดินย้อนกลับออกมาโชว์ความอล่างฉ่างจนต้องขว้างหมอนไป คืนนี้จะนอนหลับไม่เนี่ย





******************************
   




   “แหม บอกไม่มีอะไรกัน แต่มาด้วยกัน ตอแหลนะมึงไอ้เกล” ทันทีที่ผมเดินมานั่งที่โต๊ะก็ถูกไอ้มั่นแขวะทันที มันคงไม่รู้หากพี่ริกไม่เดินตามก้นผมมาต้อยๆ ก่อนจะแยกขึ้นตึกไป

   “ไม่มีก็คือไม่มี” เห็นหน้าเพื่อนแล้วนึกถึงที่มันถ่ายรูปผมส่งให้พี่ริกอย่างเคืองๆ “มึงเล่ามา ว่าพี่ริกทำยังไงมึงถึงยอมหักหลังกู”

   “โหย ดูใช้คำ กูไม่ได้หักหลัง กูแค่ช่วยให้คนมีความรักได้สมหวัง” ส่ายหน้าให้กับคำสวยหรูของเพื่อน “ตอนพี่เขาจะไปเรียนต่อ เขาไปหากูที่บ้าน แม่กูโคตรปลื้ม บอกหล่อเหมือนพระเอกเกาหลี”

   “เอาเนื้อๆ น้ำไม่เอา” รีบขัดก่อนไอ้มั่นจะร่ายยาวกว่านี้

   “เออๆ พี่ริกมาหากูก่อนไปเมืองนอก พี่เขาบอกว่า ช่วงที่ไม่เจอมึงหลายเดือนเขาลองมาทบทวนความรู้สึกดู คิดแล้วคิดอีก คิดย้ำๆ จนแน่ใจว่า เขาชอบมึง” จ้องหน้าเพื่อนตลอดเวลาที่มันพูด ผมพยายามจับผิด แต่สายตามันไม่ไหวติง คำพูดดูหนักแน่น “ตอนแรกกูก็ไม่เชื่อ แต่ช่วงเวลาก่อนพี่เขาจะไป เขามาหากูทุกวัน มาขอร้องกู เคยคุกเข่าต่อหน้ากูเพื่อให้ส่งรูปกับความเคลื่อนไหวให้”

   “แล้วมึงก็ใจอ่อนเหรอวะ”

   “เปล่า แต่แม่กูดึงหูกูจนแทบยาน กูเลยต้องรับปาก”

   “ไอ้เชี่ยมั่น”

   “ล้อเล่นๆ เพราะกูเห็นสายตาและความตั้งใจ กูถึงยอมช่วย พี่เขาชอบมึงจริงๆ โดยที่กูก็ไม่รู้หรอก ว่าช่วยไปมึงจะชอบพี่เขาตอบไหม แต่พอพี่เขาไป กูก็พอดูออก ว่ามึงก็คงไม่ได้เกลียดพี่เขา”

   ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไอ้มั่นมันก็ไม่ควรถ่ายรูปอุบาทๆ ของผมส่งให้หรือเปล่าวะ เท่าที่ดู รูปส่วนใหญ่มีแต่รูปบ้าบอ อย่างข้าวติดปาก ผักติดฟัน เกาตูดอีก มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น

   “ไอ้คนเก่ง” แขวะเพื่อนตัวเอง ไอ้มั่นยืดจนอดที่จะตบหัวไม่ได้ โคตรน่าหมั่นไส้

   “สรุปแล้ว มึงกับพี่ริก แฮปปี้ๆ สินะ” ไอ้มั่นพูด ตาก็เหล่ ปากก็ขำ

   เริ่มทะแม่งๆ กับคำพูดของมันว่ะ

   “พูดมาก จะไปเรียนไหม”

   “แหม มีเปลี่ยนเรื่องปี้ เอ้ย แฮปปี้นะมึง”

   ด่าความอยากรู้ด้วยถ้อยคำที่ต้องเซ็นเซอร์เอง ไอ้มั่นหัวเราะก่อนกอดคอผมเดินขึ้นตึก วันนี้มีเรียนวิชาเดียว ส่วนพี่ริก สอนถึงเย็น แบบนั้นผมจะได้กลับห้องเช่าสักที ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไง แม้ไม่มีข้าวของที่มีค่า แต่ก็น่าห่วงอยู่ดี

   การเรียนในปีสุดท้ายไม่ค่อยมีอะไรมาก ที่เน้นก็คือเรื่องที่จะต้องทำงานจริงมากกว่า ซึ่งส่วนมากอาจารย์ก็จะอธิบายปนบ่นเรื่องประจำวันของตัวเองเสียมากกว่า ผมนั่งฟังบ้าง ง่วงบ้าง กว่าจะเลิกไอ้มั่นก็ตื่นพอดี

   ผมบอกลาเพื่อนรักเพื่อกลับห้องเช่า ทางเท้าที่ไม่ได้เดินกลับมาหลายอาทิตย์ ร้านส้มตำยังขายเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไก่ย่าง ร้านขนมหวานก็ยังคงขายดีอยู่เหมือนเดิม ผมยิ้มให้กับสิ่งรอบตัวที่คุ้นเคยก่อนรีบกลับห้อง แม้ห้องเช่าจะเป็นห้องเล็กๆ แต่ราคาที่ถูกซึ่งถือว่าคุ้มมาก

   ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการทำความสะอาด เหมือนสูบพลังชีวิตไปมากโข มองนาฬิกาอีกทีก็เย็น ผมลุกจากที่นอนเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน แต่งตัวทรงเครื่องซะหล่อพร้อมกับยิ้มให้กระจก ไอ้เกลก็หล่อไม่หยอกนะครับ ว่าไม่ได้

   “สู้ๆ” ขยิบตาส่งจูบให้ตัวเองผ่านกระจกเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ

   ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูเรียกความสนใจ ผมเดินไปแง้มนิดๆ ด้วยความระแวง แต่พอเห็นหน้าหงิกของคนด้านนอกก็ต้องรีบเปิดกว้างต้อนรับ

   “พี่โทรหาทำไมไม่รับ” หน้าหงิกไม่พอ น้ำเสียงยังเหวี่ยงอีกต่างหาก “เกล ได้ยินพี่ถามไหม”

   “สงสัยจะอาบน้ำอยู่ พี่ริกมีอะไรกับเกลเหรอ” ถามขณะจัดทรงผมให้ฟูๆ แต่คนถามดูจะไม่พอใจที่ผมมัวแต่สนใจทรงผม พี่ริกเดินมาหมุนตัวผมให้หันกลับไปหา สายตาที่เคยอ่อนโยนวันนี้ดูดุมาก มันมากซะจนเผลอกัดปากตัวเอง

   “สนใจพี่หน่อยสิ พี่เลิกสอนปุ๊บก็รีลโทรหาเกล เกลก็ไม่รับ มั่นบอกเกลกลับนานแล้วแต่พี่ติดต่อเกลไม่ได้ พี่เป็นห่วง ตามหาจนหัวหมุนไปหมด แล้วดูเกลสิ ไม่สนใจ ไม่รับรู้ความรู้สึกของพี่บ้างหรือไง” พี่ริกตะคอกเสียงดังจนผมแทบไม่กระพริบตา “พี่ห่วงเราจนแทบบ้า!” 

   “เกลขอโทษ” คล้ายกับละเมอพูดออกมาเพราะยังตกใจ ผมเคยเห็นความน่ากลัว เกรี้ยวกราดในตอนที่เราไม่ถูกกันมาก่อน แต่ไอ้ความโมโหแบบนี้ผมเพิ่งเคยเห็น มันไม่ได้ดูโกรธ แต่เหมือนกับน้อยใจ “พี่ริก เกลขอโทษ”

   “เออๆ ช่างมัน” คำบอกปัดของพี่ริกกลับทำให้ผมรู้สึกผิดมากกว่าด่าอีก “พี่กลับละ เกลไปทำงานเองได้นะ ถ้ากลับดึกยังไงก็โทรหาพี่แล้วกัน”

   “พี่ริก”

   ไม่ทันแล้วครับ พี่ริกเดินออกจากห้องไปขึ้นรถโดยไม่รอผมสักนิด ขาพี่แกจะยาวไปไหน ผมรู้ว่าผมผิด แต่พี่ริกจะมาดราม่ารุนแรงแล้วจากไปแบบนี้ไม่ได้หรือเปล่าวะ ไอ้เกลคาใจนะเว้ยเฮ้ย ตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานแล้วครับ ผมโทรไปลางานก่อนรีบตามไปหาคนที่ทิ้งระเบิดดราม่ากองใหญ่ไว้ให้

   ผมซ้อนวินมาเพราะเร็วกว่าเดิน มาถึงหน้าบ้านเดี่ยวหลังไม่ใหญ่มาก ด้านในมีรถของพี่ริกจอดอยู่ แต่เท่าที่เคยมา บ้านนี้มีรถคันเดียวนี่นา แล้วคันข้างๆ เป็นของใคร

   กริ่งหน้าประตูก็มีแต่ผมไม่อยากกด กลัวพี่ริกจะมีแขกมาหาเลยยืนพิงกำแพงอยู่ด้านนอกเพื่อรอ ผ่านไปเป็นชั่วโมง นั่งบ้าง ยืนบ้างจนเห็นคนเดินออกจากตัวบ้าน ผมกำลังจะอ้าปากตะโกนเรียกพี่ริก แต่ภาพที่เห็นตอนนี้ทำให้ต้องหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่าง



   พี่ริกจูบกับผู้หญิงคนนั้น



   หัวใจมันเจ็บจี๊ดเหมือนมดรุมกัดเป็นล้านๆ ตัว อกหัก? ไม่ใช่หรอกมั้ง คงแค่เสียใจ ใช่ ผมกำลังเสียใจ ภาพรอยยิ้มหวานที่เคยให้ผม ตอนนี้เป็นของผู้หญิงคนนั้นซะแล้ว ดูพวกเขาหน้าเหมือนกัน คงเป็นเนื้อคู่สินะ ผมยืนมองภาพคู่รักกระหนุงกระหนิงอีกครู่เดียวก่อนจะเดินจากมา

   ดราม่าใหญ่ๆ เหมาะกับเหตุการณ์แบบนี้ต่างหาก

   ผมเลือกจะไปทำงานทั้งที่โทรลาไปแล้ว ดูเหมือนมีคนอยากจะถามแต่เห็นหน้าของผม ทุกคนก็พากันเดินผ่านไป หน้าผมคงโคตรแย่สินะ ไอ้เกลคนหล่อวันนี้หน้าคงเหี้ยมาก ผู้จัดการของร้านเลยให้ผมอยู่แต่ในครัวแทน

   ผมทำงานจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็ตอนครัวปิด ซึ่งครัวจะปิดทีหลังเนื่องจากต้องเช็คสต็อก ผมยิ้มให้กับรุ่นพี่ที่ชวนคุย มือพี่แกก็คอยเขียนรายการต่างๆ ผมหัวเราะบ้าง ยิ้มบ้าง ตอบบ้าง กว่าจะบอกลากันก็เกือบตีสาม


   โชคดีที่ผมเพิ่งเผลอใจไปแค่นิดเดียว...นิดเดียวจริงๆ แต่แม่งโคตรเจ็บ

   



***************************

.
.
.

(มีต่อด้านล่างค่า เขาบอก ตัวอักษรเกิน งื้ออ)

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
.
.



   “มองหน้ากูทำไม หลงรักกูหรือไง” ถามไอ้มั่นที่มันเอาแต่จ้องหน้าผม มันทำแบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว ใช่ ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ที่ผมต้องเห็นภาพนั้น และไม่ได้เจอ ไม่ได้คุย ไม่ได้รับโทรศัพท์ของพี่ริกอีกเลย ในคาบเรียน ผมพยายามทำเป็นสนใจเนื้อหา เลิกเรียนปุ๊บรีบออกก่อนใครเพื่อน

   “อย่าทำให้กูอ้วกไอ้ห่าเกล” ไอ้มั่นตบหัวผมเน้นๆ จนแทบมึน

   “แล้วมองกูทำไม กูหล่อกูรู้ ไม่ต้องชม” ตบมุกตัวเองแล้วขำแห้งๆ ออกมา “กูไปทำงานก่อนนะเว้ย”

   “เดี๋ยวสิวะ” ไอ้มั่นดึงแขนให้ผมนั่งลงที่เดิม “มึงทะเลาะกับพี่ริกเหรอวะ” เผลอขมวดคิ้วนิดๆ แล้วส่ายหน้า “อย่ามาโกหก มึงหลบหน้าพี่เขา ไม่ยอมคุย มึงเป็นอะไรวะ หรือทำผิดจนไม่กล้าเจอ”

   “ผิดห่าอะไร กูต้องทำงาน ไปนะ” ได้แต่พูด เพราะแขนยังถูกเพื่อนรักรั้งไว้อยู่ “อะไรของมึงเนี่ย กูรีบ”

   “มึงรีบเพราะกลัวเจอพี่ริกใช่ไหม” ผมหลบสายตาของเพื่อน “ไอ้เกล”

   “เปล่า กูแค่รีบ”

   “รีบขนาดคุยกับพี่ไม่ได้เลยเหรอ” เสียงนุ่มแบบนี้ไม่ใช่ไอ้มั่นแน่นอน ผมหันไปมองด้านหลังเจอหน้าพี่ริกที่ปั้นนิ่งยากที่จะบอกอารมณ์ได้ถูก ไอ้มั่นมองผมกับพี่ริกสลับไปมาก่อนบอกลากเพื่อกลับบ้าน

   นี่มึงจะทิ้งกูไว้แบบนี้ไม่ได้

   “จะไปไหน” คราวนี้ผมรั้งแขนเพื่อนรักบ้าง ไอ้มั่นทำหน้าเหลอหลา มือมันพยายามแกะมือผมออก แต่ฝันไปเถอะ ผมไม่ปล่อยหรอก “มึงห้ามทิ้งกู”

   “ไอ้เหี้ย กูไม่อยากรับรู้” ความพยายามของไอ้มั่นเป็นผลเมื่อผมถูกพี่ริกรวบตัวขึ้นพาดบ่า “โอ้ว ใจเย็นๆ นะพี่ ค่อยๆ คุยกัน โชคดีเพื่อนรัก”

   “ไอ้เชี่ยมั่น มาช่วยกูก่อน” ผมแหกปากไม่แคร์ใคร มือก็กวักเรียกเพื่อน แต่ยิ่งเรียกก็ยิ่งปวดท้อง บ่าโคตรแข็ง ยิ่งพี่ริกเดินไวก็ยิ่งปวดว่ะ แม่ง “พี่จะพาผมไปไหนเนี่ย ไม่อายเหรอ พี่เป็นอาจารย์นะ” โวยวายแต่คนแบกทำเหมือนไม่ได้ยิน พี่ริกพาผมมายัดใส่ในรถตัวเอง แถมยังชี้นิ้วสั่งไม่ให้ผมลงมาอีก โคตรเผด็จการ

   “นั่งนิ่งๆ ถ้าไม่อยากให้พี่โมโห” ตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ เป็นใครวะ ถึงมาออกคำสั่ง แต่ผมก็เลือกจะอยู่เงียบๆ จนโทรศัพท์ของผมดัง พอหยิบมารับก็ถูกพี่ริกแย่งไปกดปิดแล้วโยนทิ้งด้านหลัง

   “พี่ทำบ้าอะไรเนี่ย” เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ

   “เกลนั่นแหละเป็นบ้าอะไร” ตวาดมาก็ตวาดกลับ ใบหน้าของพี่ริกไม่ใช่คนที่จะพูดเล่นได้ในตอนนี้ “หลบหน้าพี่ทำไม หรือโกรธที่พี่พูดไม่ดีในวันนั้น ถ้าไม่พอใจก็บอกสิวะ จะเงียบหายไปทำไม”

   “จะตวาดทำไมเนี่ย” ขนาดยกมือปิด เสียงยังดังทะลุ ผมเบ้หน้าไม่พอใจ พี่ริกก็ทำหน้านิ่งไม่ยอมคุยอะไรอีก

   รถที่นั่งมาเลี้ยวเข้าจอดในตัวบ้านที่ผมเคยมา ภาพที่พยายามลืมกลับเข้ามาอีกจนต้องย่นคิ้ว พี่ริกเปิดประตูรถออกไปแล้ว เหลือแค่ผมที่ยังนั่งอยู่ในรถ

   “เกล ออกมา” คำสั่งกลายๆ ยามที่เจ้าของรถอ้อมมาเปิดประตูให้ ผมปรายตามองแต่ไม่ยอมขยับ “จะออกมาดีๆ หรือให้พี่อุ้ม”

   “เออๆ” รีบออกมาจากรถอย่างไว พลางเดินตามเจ้าของบ้านเข้าบ้าน เจ้าเหมียวของผมย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่นี่ถาวรจนแทบจะลืมว่าผมเป็นเจ้าของแล้วมั้ง “เจ้าเหมียว แกไม่ทักทายฉันเลยนะ” แวะลูบหัวแมวรักของตัวเอง มันทำแค่ปรือตาขึ้นมองแล้วฟุบหน้าหลับต่อ เฮอะ ขนาดแมวยังเมิน

   “เกล มานั่งคุยกันดีๆ” คำสั่งมาอีกแล้ว และผมก็ต้องทำตาม ผมเดินซุยๆ มานั่งโซฟาโดยเว้นระยะห่างพอสมควร พี่ริกย่นคิ้วเหมือนไม่พอใจที่ผมทำตัวห่างเหิน “เกล มานั่งข้างพี่”

   “นั่งตรงนี้ก็ได้ พี่มีอะไรกับผมหรือเปล่า” เลือกที่จะใช้ผมแทนชื่อตัวเอง ผมรู้สึกว่าต้องเว้นระยะห่างกับพี่ริกให้มาก เกรงใจผู้หญิงสวยคนนั้น

   “เกล” เสียงนิ่งซะจนขนลุก “ได้ ถ้าเกลจะทำแบบนั้น ก็ได้” ตอนแรกไม่เข้าใจ แต่พอเห็นพี่ริกลุกมานั่งข้างผมแทนก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆ

   “พะ พี่มีอะไร” แอบระแวงกลัวจะถูกบีบคอตาย

   “เป็นอะไร” อยู่ๆ ก็ถูกถามขึ้นมา ผมได้แต่ทำหน้างง “เกลไม่พอใจอะไรพี่ ไหนบอกพี่หน่อยสิ” ดูเหมือนพี่ริกจะพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองยามที่ต้องคุยกับผม “เกล บอกพี่ได้ไหม ว่าเกลเป็นอะไร ไม่พอใจอะไรพี่ถึงขนาดต้องหนีหน้าแบบนี้”

   “ไม่มีอะไร ผมแค่...ต้องไปทำงานแล้วมันก็ไม่มีเวลา แค่นั้น” พยายามตั้งใจพูดเพื่อให้ดูว่าพูดจริง แต่สายตาที่จ้องดูก็รู้ว่าไม่เชื่อ “ผมบอกหมดแล้ว ขอตัวไปทำงาน เฮ้ย”

   อยู่ๆ ผมก็ถูกดันให้ลงไปนอนราบบนโซฟากำมะหยี่สีน้ำตาลเข้ม พี่ริกใช้แขนคร่อมร่างผมไว้ ดวงตาแข็งกร้าวจ้องในระยะประชิด

   “โกหก” เสียงนิ่งๆ แต่ฟังแล้วน่ากลัว

   “ผมไม่ได้โกหก” ยืนยันเสียงแข็ง

   “จ้องตาพี่ แล้วพูดออกมา เกลที่พี่รู้จัก คือคนที่พูดแต่ความจริง” ผมเม้มปากไม่กล้าจ้องตาคนที่คร่อมร่างตัวเอง ภายในสมองกำลังนึกถึงคำพูดที่จะใช้อธิบายเพื่อกลบเกลื่อน “เกลครับ อย่าทำแบบนี้เลยนะ พี่เจ็บปวดจะตายอยู่แล้ว” ศีรษะหนักฟุบลงบนหน้าอกของผม ผมสีดำมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูที่ผมเลือก

   คล้ายกับหินหนักๆ ทับลงบนหัวใจจนมันอ่อนลง ผมยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมดำเบาๆ พร้อมรอยยิ้มหยันให้กับตัวเอง...ไม่ได้เผลอรักนิดหน่อยแล้วแบบนี้ ไอ้เกล มึงรักพี่เขาแล้ว

   “ผมแค่ไม่อยากทำให้พี่อึดอัด” สุดท้ายก็เลือกที่จะพูด ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ ยังไงผมก็ต้องบอกพี่ริกอยู่ดี “ความสัมพันธ์ของเรา มันเป็นไปไม่ได้หรอก พี่ยังมีอนาคต มีผู้หญิงที่ดีรอให้พี่เลือกอยู่มาก อย่ามาสนใจคนแบบผมเลย” พูดจบ พี่ริกก็รีบเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาที่แดงกล่ำคล้ายกับร้องไห้จ้องมองผมด้วยความตัดพ้อ

   “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ พี่เลือกเกลแล้ว พี่จะไปเลือกใครอีก” ผมพูดอะไรไม่ออกหลังจากได้ยิน พี่ริกยื่นฝ่ามือมาลูบแก้มก่อนลากลงมาลูบวนอยู่ที่ปากของผม “เกลอย่าพูดแบบนี้อีกรู้ไหม พี่ไม่อยากได้ยิน”

   “แต่ผมพูดจริง ผู้ชายเพอเฟกแบบพี่ ยังมีผู้หญิง...”

   พูดไม่ทันจบประโยค ปากด้านบนก็ประกบจูบลงมา ผมเบิกตาโตตกใจกับการจูบแบบไม่ทันตั้งตัว...จูบแบบจู่โจมก่อนจะค่อยๆ อ่อนโยน พี่ริกดูดปากล่างของผมเบาๆ ด้วยสายตาอ่อนโยนเช่นเดิม

   “ผู้หญิงที่ไหน เกลไปเห็นอะไรมาใช่ไหม หรือใครไปพูดอะไรให้ฟัง” พี่ริกพูดทั้งที่ปากของเรายังชิดกันอยู่ และคงจะดีกว่านี้ ถ้าพี่เขาให้ผมพูดบ้าง นี่เล่นจูบอย่างเดียว แล้วแบบนี้ผมจะตอบได้ยังไง

   “พี่ริก” สุดท้ายก็ต้องยกมือดันหน้าคนด้านบนให้ออกห่าง แต่ก็ไม่ยากเกินกำลังที่ผมจะถูกจูบอีกรอบ

   “ไหนบอกพี่ซิ ว่าผู้หญิงที่ไหนทำให้เกลเข้าใจพี่ผิด” ตอนนี้พี่ริกทิ้งตัวนอนทับบนตัวผม บอกได้เลยว่าหนักมาก ไม่มีโมเม้นโรแมนติกแบบในหนังหรอก

   “ก็ผู้หญิงสวย...จูบพี่ด้วย” พอนึกถึงจูบก็ต้องขมวดคิ้ว พี่ริกเลิกคิ้วนิดๆ ไม่นานก็ร้องอ๋อยาวออกมา “อะไร” ทำไมผมรู้สึกไม่ชอบรอยยิ้มพร้อมสายตาพราวระยับแบบนี้เลยให้ตาย

   “หึงพี่หรือครับ” น้ำเสียงหยอกล้อทำเอาหน้าร้อนไปหมด “พี่ไม่มีวันทำให้เกลหึงหรอก แล้วก็นะ ผู้หญิงที่จูบพี่ เกลเห็นที่บ้านนี้ใช่ไหม” รีบพยักหน้ารัวๆ “เจอเด็กขี้หึงหนึ่งอัตราว่ะ”

   “ไม่ตลกนะเว้ย” โวยวาย แต่อีกฝ่ายเอาแต่ขำ

   “นั่นน่ะ แม่ของพี่เอง” เหมือนเป็นเรื่องตลก แต่สีหน้าคนบอกดูจริงจัง “นี่ไง” เพราะผมทำหน้าไม่เชื่อ พี่ริกเลยผละจากตัวผมเพื่อไปหยิบกรอบรูปที่วางในตู้มาให้ดู “คนนี้ใช่ไหม”

   “อืม” ผมเอารูปภาพยกขึ้นเทียบกับหน้าพี่ริก เหมือนกันอย่างกับแกะ “พี่สวยได้แม่สินะ”

   พี่ริกเลิกคิ้วก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เพิ่งมีคนชมว่าพี่สวยนะเนี่ย”

   “ตลกเหรอ” ถามอย่างสงสัย ผมก็มีคนทักบ่อยว่าเหมือนแม่ ยังไม่เห็นน่าขำแบบนี้เลย

   “ตลกสิ...มากด้วย” เห็นสายตาแบบนั้นผมก็รีบลุกจากโซฟา แต่มันคงช้าไปเลยถูกดันให้นอนราบอีกรอบ คราวนี้คนคร่อมด้านบนกดจูบหนักๆ แถมมือก็เริ่มอยู่ไม่สุข ผมดิ้นเท่าที่มีกำลัง ไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะเว้ยเฮ้ย “เกลครับ ต่อไปห้ามคิดเองเออเองนะ มีอะไรต้องถามพี่ แล้วอย่าหลบหน้า พี่โทรหาต้องรับ พี่เรียกก็ต้องไปหา เข้าใจไหม อ้อ ห้ามยิ้มให้คนแปลกหน้าด้วย”

   “สั่งจังวะ พ่อก็ไม่ใช่” ตอบแบบกวนๆ เลยถูกจูบปากไปหลายรอบ ปากบวมแน่ไอ้เกล

   “พี่ไม่ได้อยากเป็นพ่อสักหน่อย” พี่ริกยิ้มร้าย ก่อนโน้มหน้ามากระซิบข้างใบหู “อยากเป็นผัวมากกว่า”

   “ไอ้พี่ริกหื่น” ตะคอกใส่หูคนหื่นไป



   หวังว่าดราม่าใหญ่ๆ จะไม่เกิดกับผมอีกนะ โคตรไม่ชอบเลยว่ะ




   “เกล...”

   “อะไร”

   “ไปห้องนอนกันนะ พี่...ไม่ไหวแล้ว”

   “ไม่ไหวอะไร ปวดขี้เหรอ”

   “นี่ไง” เชี่ย มือผมถูกพี่ริกดึงไปจับตรงกลางลำตัว “ไม่ไหวแล้ว”

   “ห้องน้ำนู้น ไปเลย”

   “ห้องนอนดีกว่า ห้องน้ำเดี๋ยวเกลจะปวดหลัง”

   เสื่อมกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

   “นั่นๆ แมวมา เจ้าเหมียว มาหาพี่เกลมา”

   “เรียกแมวไปเถอะ เดี๋ยวได้เรียกชื่อพี่ริกทั้งคืนแน่”

   “ไอ้พี่หื่น ไม่เว้ย ไอ้พี่ริก ห้ามจับตรงนั้น เชี่ย!!!!”




   เมี๊ยว เมี๊ยว เมี๊ยววว (แปลว่า จบแล้วจ้า)



...


มาแบบ 1.1 แล้วน่าจะมี 1.2 ตามมา ฮ่าๆๆ (ไหนบอกตอนเดียวจบ อีคนโกหก << ด่าตัวเองแทนทุกคน)

ฝากเรื่องสั้น MY CAT ด้วยนะคะ ฝากที่พี่ริกคนขี้หึง (หรือหื่นดี) ด้วยนะค้าาาา

 :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1

อิพี่ริกอย่ามาทำหื่น
.
.
.
Live ด้วย
รอดูอยู่ 5555
 :hao6:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่ริกหื่นมาก


 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารักทั้งคู่้เลย รอตอน...ที่คุณก้อรู้ว่าอะไร 555   :hao6:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
1.2 , 1.3 หรือยาวไปเรื่อยๆ ก็ได้นะค๊ะ ชอบ เรื่องน่ารักมากค่ะ

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
1.2 มาเลยได้ไหม
อยากเห็นพี่ริกหึงน้องเกลจังค่ะ
จะขึ้หึงมากสมกับที่บอกน้องไหมนะ

ออฟไลน์ marshall

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักจังเลย รอ 1.2 1.3 1.4 ...  :z10:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
จัด 1.2 มาเลยค่ะ

นี่อยากแปลงร่างเป็นเจ้าเหมียวมาก ฮาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด