Chapter 13: เด็กดีไม่หนีเที่ยว
“อารมณ์ดีจังนะพวกมึง แล้วนั่นน้องเดือนมหาลัยไม่ใช่เหรอ? รู้จักกันด้วยเหรอ?”
เหนือฟ้าเปิดปากถามทันทีที่เพื่อนทั้งสองนั่งลงพร้อมกับเด็กหนุ่มหน้ามนเจ้าของตำแหน่งผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดในมหาวิทยาลัยของปีการศึกษานี้ เวย์ที่ยังใส่เฝือกอยู่พยักหน้าให้เพื่อนทั้งสองของสองแฝด ข้างเหนือฟ้ามีร่างของกวินภพที่นั่งฟุบหน้ากับโต๊ะหินอ่อนอย่างหมอดอาลัยตายอยาก ซึ่งดูจะเป็นท่ามาตรฐานเวลาที่อีกฝ่ายไม่ได้อยู่กับน้องแว่น
“แฟนกู”
เทสต์ตอบ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้ใบหน้าของตัวเองแดงก่ำกับคำพูดนั้น เหนือฟ้ามีสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อจำได้ว่าเดือนมหาวิทยาลัยรูปหล่อคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกับอาจารย์วีรภัทร ร่างโปร่งเหลือบตามองแฝดคนน้อง ไม่มั่นใจว่าทีมกับเทสต์รู้หรือยังว่าแฟนของตัวเองมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
“เทสต์รู้แล้ว”ทีมเอ่ยเสียงเรียบ
“เดี๋ยว..นี่มึงรู้?แล้วไม่บอกกู?”
เทสต์ขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าเหนือฟ้าจะรู้เรื่องที่น้องชายของเขาแอบคบกับอาจารย์ แถมยังไม่คิดจะห้ามเลยซักนิด
“ก็มึงไม่ถาม” เหนือฟ้าไหวไหล่ หันกลับไปสนใจเวย์ที่นั่งจ้องหน้าเขาไม่วางตาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว “ว่าแต่เราเถอะ นึกยังไงถึงได้มาคบกับมัน อนาคตยังสดใสอยู่แท้ๆ”
“เชี่ยเหนือ” เทสต์เตะหน้าแข้งเพื่อนรักใต้โต๊ะ แต่ดันกะพลาดไปโดนร่างสูงของกวินภพที่นอนฟุบอยู่แทน
“โอ๊ย! ไรของมึงเนี่ยเทสต์”
ชายหนุ่มร่างสูงบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ เทสต์ยักคิ้วยียวนกวนบาทา ไม่ได้สำนึกผิดที่ทำร้ายคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่สักนิด
“สรุปคือนี่มึงจะพาแฟนมาอวด?”
เหนือฟ้ายังคงสนใจเด็กหนุ่มตรงหน้า ร่างสูงหลบสายตาของเขาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มจ้องเขากลับมาอย่างไม่ละสายตาเช่นกัน
“เออ พามาเปิดตัว จะได้ช่วยกันดู เผื่อแม่งไปหาเศษหาเลยลับหลังกูจะได้มีคนเป็นหูเป็นตาให้”
เทสต์เอ่ยทีเล่นทีจริง กอดคอคนรักพร้อมรอยยิ้มกว้าง เมื่อเห็นเพื่อนมีความสุข เหนือฟ้าก็สบายใจ ดูท่าว่าสถานการณ์ของสองพี่น้องคู่นี้จะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิดนัก
“ผมไม่ทำแบบนั้นหรอกครับพี่เทสต์”
เวย์แก้ต่างให้ตัวเองเมื่อถูกกล่าวหาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“แล้วมึงอ่ะทีม ไม่เปิดตัวกับเขาบ้างเหรอ?”
เหนือฟ้ายิ้มมุมปาก ส่งสายตาให้เพื่อนอย่างรู้ทัน แฝดคนพี่มีสีหน้าไม่พอใจทันทีที่ได้ยินดังนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“หือ? ไอ้ทีมมีแฟนแล้ว?”
กวินภพที่ยังไม่ตื่นดีก่อนหน้านี้ตาสว่างแทบจะในทันทีที่ได้ยินดังนั้น ทีมยิ้มแห้ง
“ช่วงนี้...ยังไม่เหมาะมั้ง”
“ได้เวลาเข้าเรียนกูละ ไปนะ”
เทสต์ก้มมองนาฬิกาข้อมือ วันนี้เป็นวันแรกหลังจากคลาสแรกของเขาในวิชาอังกฤษเพื่อธุรกิจ ร่างโปร่งลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองและคนรักขึ้นมาสะพาย ถึงแม้เวย์จะยืนยันว่าตัวเองถือเองได้ แต่คนอายุมากกว่าก็ยังยืนยันจะถือไปส่งที่ห้องเรียนของอีกฝ่ายอยู่ดี
“เหอะ จะหาเรื่องอยู่กับน้องเขานานขึ้นน่ะสิ” เหนือฟ้ามองตามคู่รักคู่นั้นอย่างขบขัน “กูก็ไปบ้างดีกว่า วันนี้ว่าจะไปซื้อของซะหน่อย มึงจะไปด้วยมั้ยกล้า?เดี๋ยวกูเลี้ยงไอติม”
“เดี๋ยวกูกลับมาไม่ทันแว่นเลิกเรียน”ร่างสูงตอบเสียงอ่อยเมื่อได้ยินคำว่าไอติม อยากไปก็อยากไป คิดถึงแฟนก็คิด เฮ้อ
“ทันอยู่แล้วน่า อีกตั้งหลายชั่วโมง กูให้มึงกินสองก้อนเลยอ่ะ”
กวินภพถูกของกินล่อไปจากโต๊ะอย่างง่ายดาย เหลือเพียงทีมที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เขาไม่มีเรียน ปกตินี่จะเป็นเวลาที่เขาเข้าเรียนแทนเทสต์ แต่เมื่อพี่ชายรับหน้าที่นั้นไปแล้ว เขาจึงได้แต่นั่งเล่นรออีกฝ่ายเลิกเรียนเพื่อกลับคอนโดด้วยกัน เหมือนอย่างที่ทำก่อนหน้าที่เขาจะเจอกับวีรภัทร
แค่คิดภาพเทสต์เข้าไปนั่งเรียนในคลาสของคุณวีอีกครั้งเขาก็รู้สึกว่าจะต้องมีเรื่องน่าปวดหัวเกิดขึ้นแน่ๆ
“คิดอะไรอยู่เหรอ?”
เสียงทุ้มของคนรักดังขึ้นข้างหูพร้อมกับมือใหญ่ที่จับลงมาบนไหล่ของเขาทั้งสองข้าง ทีมหันขวับกลับไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว เร็วเสียจนริมฝีปากของเขาจุ๊บเข้าที่ปลายจมูกของวีรภัทรเต็มๆ
“คุณวี! ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ?”
ทีมหันซ้ายแลขวาด้วยกลัวว่าเหตุการณ์เมื่อครู่จะมีผู้พบเห็น
“ฉันคิดถึงเธอ”
ชายหนุ่มเอ่ยตามตรงด้วยเสียงที่ไม่เบานัก ถึงแม้จะไม่มีคนอยู่ในบริเวณใกล้ๆ แต่ทีมก็ยังรีบเอามือปิดปากอีกฝ่ายไว้อยู้อยู่ดี วีรภัทรหัวเราะเบาๆในลำคอ จับข้อมือเรียวของคนรักดึงออกจากใบหน้าของเขา แล้วจุมพิตที่หลังมือของอีกฝ่ายเบาๆ
“คุณวี! เล่นอะไรครับเนี่ย? แล้วทำไมยังไม่เข้าสอนครับ”
“จะเข้าสอนทำไมล่ะ” ร่างสูงเลิกคิ้ว ดึงซองจดหมายสีขาวออกมาจากภายในเสื้อสูทยื่นให้นักศึกษาหนุ่ม ทีมแกะซองออกอ่านเนื้อหาภายใน ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง เงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับคนรักอย่างตื่นเต้น
เอกสารอนุมัติการลาออกของวีรภัทร มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“คุณวี....”
“ตอนนี้พี่ชายเธอก็ติดอยู่กับอาจารย์ใหม่สามชั่วโมง...อยากไปไหนล่ะ”
แค่สีคิดถึงสีหน้าของพี่ชายตอนที่ประมวลผลได้ว่าตัวเองไม่สามารถอยู่คุมเข้มน้องชายกับคนรักได้ตลอดสามชั่วโมงนี้ทีมก็หลุดขำออกมา
“ไปไหนก็ได้ครับ ผมตามใจคุณวีเลย”
“คุณวี นี่มันไกลมากเลยนะครับ เรากลับไปไม่ทันในสามชั่วโมงหรอกนะครับ”
ทีมเอ่ยตื่นๆ พอบอกว่าไปไหนก็ได้อีกฝ่ายก็พาเขามาทานกุ้งเผาร้านหรูริมแม่น้ำซึ่งห่างจากมหาวิทยาลัยชั่วโมงกว่าๆ วีรภัทรยิ้ม ท่าทีเหมือนลูกแมวขี้ตกใจของคนรักยังทำให้เขาเอ็นดูได้เสมอ
“เราไม่จำเป็นต้องกลับไปภายในสายชั่วโมงหรอก” สีหน้ากลัวความผิดของคนที่ไม่คุ้นเคยกับการแหกกฎทำให้เขารู้สึกรัก
อีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก “ไม่ต้องห่วง ฉันพาเธอไปส่งที่คอนโดคืนนี้แน่”
“แต่แบบนั้นผมก็โดนดุอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ”ทีมบ่นอุบ
“ไม่ต้องห่วง ฉันมีตัวช่วยถ่วงเวลาชั้นดีอยู่” ร่างสูงขยิบตา ยกแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นดื่ม
“ถอดเฝือก?”
เทสต์ถามคนรักที่มานั่งรอเขาหน้าห้องเรียนอย่างงุนงง ทำไมเมื่อเช้าอีกฝ่ายถึงไม่ยอมบอกเขา่าวันนี้หมอนัดถอดเฝือก
“ครับ พี่เทสต์พาผมไปหน่อยได้มั้ย”
เด็กหนุ่มถาม ไม่ยอมบอกสาเหตุที่บิดาของตนไม่ว่างขับรถไปส่งแล้ว แต่เทสต์พอจะเดาได้จากการที่น้องชายไม่ยอมรับโทรศัพท์สักสาย ชายหนุ่มพยักหน้า พาอีกฝ่ายเดินไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ข้างตึก
“แล้วถอดเฝือกเสร็จต้องทำยังไงต่อ”
“หมอเคยบอกว่าทำกายภาพบำบัดสักเดือน ไม่ยกของหนักก็โอเคแล้วครับ”
เด็กหนุ่มตอบ ก่อนที่ภายในรถจะตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เทสต์เลี้ยวรถเข้ามาจอดในลานจอดรถใต้ดินของโรงพยาบาล หลังจากยื่นใบนัด พวกเขาก็มานั่งรอหมอที่หน้าห้องตรวจ เทสต์ขยับเข้าใกล้เวย์เล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว เขาไม่เคบชอบบรรยากาศของโรงพยาบาลเลยสักนิด สถานที่แห่งนี้มักทำให้เขารู้สึกหดหู่ในใจเสมอ
“อ้าว มาทำอะไรน่ะ?”
เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับร่่างสูงในชุดกาวน์ยาวสีขาวเดินมาหาพวกเขา ติณณ์ภพ แฟนของเหนือฟ้ายังคงดูหล่อบาดใจถึงแม้จะถูกการเรียนและราวน์วอร์ดในตอนเช้าทำร้ายจนสะบักสะบอมเพียงใด
“สวัสดีครับพี่ติณณ์” ถึงแม้จะมีเรื่องบาดหมางกันในอดีต แต่เทสต์ก็ยังทักทายอีกฝ่ายตามมารยาท เวย์ที่จำอีกฝ่ายได้ก็พยัก
หน้าทักทายเช่นกัน “พาน้องมาถอดเฝือกครับ”
“น้อง?”
ร่างสูงเลิกคิ้ว เหลือบมองเด็กหนุ่มที่ดูอย่างไรก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเทสต์เลยแม้แต่น้อย
“แฟนครับ”
ร่างโปร่งแก้ ติณณ์ภพเลิกคิ้วสูงขึ้นอีก ก่อนจะยิ้มออกมา ท่าทางของชายหนุ่มดูเป็นมิตรกับเทสต์ขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินว่าร่างโปร่งมีคนรักเป็นตัวเป็นตนของตัวเองแล้ว
“วันนี้ไม่น่านานหรอก คนไม่เยอะ พี่ไปนะ”
“ขอบคุณครับ”
หลังจากที่ร่างสูงเดินจากไปไม่นาน พวกเขาก็โดนเรียกเข้าไปในห้อง เทสต์นั่งอยู่ข้างๆคนรักตลอดเวลาที่คุณหมอถอดเฝือดให้เด็กหนุ่ม ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้ทำอะไร แต่จากอมยิ้มของพยาบาลสาว คนที่เห็นคงมองออกได้ไม่ยากว่าพวกเขาเป็นอะไรกัน
ทั้งที่ควรจะรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ แต่เทสต์กลับขัดเขินขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เวย์ถอดเฝือกออกแล้ว
หลังจากแขนของร่างสูงเป็นอิสระหลังจากอุดอู้อยู่ในเฝือกมานาน เทสต์จึงตัดสินใจให้รางวัลคนรักด้วยการพาไปเลี้ยงไอศกรีม ถึงแม้เวย์จะอิดออดเล็กน้อยเพราะรู้สึกว่าถูกปฎิบัติเหมือนเด็กเล็กๆ แต่เมื่อถูกอีกฝ่ายบดขยี้ริมฝีปากอย่างดูดดื่มในรถก่อนที่จะขับออกมาจากโรงพยาบาล เด็กหนุ่มก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
“อร่อยมั้ย?”
เทสต์พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่อมยิ้มกับท่าทางอารมณ์ดีหลังจากได้รับของหวานเย็นๆเข้าสู่กระแสเลือดนั้น เวย์พยักหน้า คำไอศกรีมคำโตเข้าปากอยากมีความสุข
“ใช้มือคล่องมั้ย?”
“ก็โอเคอยู่นะครับ ไม่ได้รู้สึกขัดๆอะไรมาก” เวย์หมุนข้อมือให้คนรักดูช้าๆ
“ดีแล้ว พี่จะได้ไม่ต้องป้อน”
ร่างโปร่งยิ้ม เด็กหนุ่มที่เพิ่งรู้ตัวว่าพลาดโอกาสอ้อนคนรักไปสำออยย้อนหลังขึ้นมาทันที เทสต์หัวเราะ ตักไอศกรีมของอีกฝ่ายป้อนให้ เวย์ยิ้มกว้าง อ้าปากงับช้อนตรงหน้าอย่างมีความสุข
แชะ!
“ว้าย ทำไมไม่ปิดเสียงแก”
“ฉันลืม”
“ลุกๆๆ”
เทสต์หันไปทางที่ได้ยินเสียงกดถ่ายรูปเมื่อครู่ เด็กสาวกลุ่มหนึ่งรีบลุกจากที่นั่งออกไปยังเคาท์เตอร์จ่ายเงิน ร่างโปร่งคิดจะลุกตามไปแต่ถูกคนรักรั้งไว้
“ไม่ต้องหรอกครับพี่เทสต์”
“แต่…”
“เรื่องปกติครับ” เด็กหนุ่มยิ้มเจื่อน “ผมถึงไม่ค่อยออกจากบ้านไง”
เขาเกือบจะลืมไปแล้วว่าคนรักของตัวเองเป็นนายแบบดาวรุ่งมาแรง เทสต์นั่งกลับลงมาที่เดิม
“เออ จะว่าไปเวย์ก็ไม่ค่อยมีผลงานนะ ไม่มีคนจ้างเหรอ”ชายหนุ่มถามหยอกๆ
“มีมาตลอดเลยครับ ผมแค่รู้สึกว่ามันเป็นแค่งานอดิเรก ไม่อยากจริงจังกับมันมาก ผมไม่คิดจะเข้าวงการเต็มตัวอยู่แล้ว”เด็กหนุ่มไหวไหล่
“ทำไมล่ะ เงินดีออก?”
“ผมไม่ชอบ...คนบางคนในนั้น”
เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนี ก่อนจะเปลี่ยนบทสนทนาแทบจะในทันที แม้ว่าเทสต์จะสงสัยในท่าทีประหลาดนั้น แต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไร
“พี่เทสต์ สุดสัปดาห์นี้ผมมีถ่ายงานที่ชายหาดแล้วจะพักที่โรงแรมของพ่อ ผมได้ยินมาว่าพี่เทสต์ต้องทำรายงานสัมภาษณ์คนที่ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน ไปด้วยกันมั้ยครับ ชวนพี่ทีมไปด้วย”
“ก็ได้นะ หยุดยาวพอดีเลยด้วย”
“แล้ววันนี้...”
“ไม่ได้ พี่ต้องกลับคอนโด”
ร่างโปร่งขัดก่อนที่อีกฝ่ายจะได้พูดจบประโยคเสียอีก
“พี่เทสต์....” สายตาออดอ้อนของคนรักแทบทำให้เขาใจอ่อน เทสต์เบือนหน้าหนี เอ่นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยสนใจไอ้ทีมมันเลย ให้พี่ทำหน้าที่พี่ที่ดีซักหน่อยเถอะ”
“แต่ผมว่าดูจากสภาพการณ์...ไม่น่าจะทันแล้วมั้งครับ” เวย์หัวเราะแห้งๆ พ่อของเขาน่าจะกลืนกินแฝดคนน้องจนหมดทั้งตัวไปเรียบร้อยแล้ว
“แต่ก็ขอให้พี่ได้อบรมมันซักหน่อยก่อนปล่อยแรดคืนสู่ป่าเถอะ”เทสต์นวดขมับของตัวเอง
“….”เวย์ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆอย่างไม่รู้จะพูดอะไร แผนการชิงตัวประกันของสองพ่อลูกล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า
“แต่ว่า...”ร่างโปร่งยิ้ม เอื้อมมือมาแตะที่หลังมือของคนรักเบาๆ “ถ้าแค่สองสามชั่วโมงนี้ล่ะก็...พี่ว่างนะ”
ถึงแม้แผนชิงตัวประกันจะล้มเหลว...แต่อย่างน้อยก็ได้อะไรติดไม้ติดมือไปล่ะนะ
-----
มาต่อล้าวนาจา
เรื่องของคุณเมฆรอไปก่อนเน้อ5555 กำลังเร่งปั่น
ขอบคุณที่รอนะคะ