[เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)  (อ่าน 9375 ครั้ง)

ออฟไลน์ 16meena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



[เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP

เข้าค่ายวันที่ 1

“เก๊กฮวยถ้วยใหญ่ๆแช่เอาไว้อยู่ในตู้เย็น
ปีหนึ่งก็ผ่านมาเห็น ปีหนึ่งก็ผ่านมาเห็น
แอบเปิดตู้เย็นกินน้ำเก๊กฮวย
ชักแง็กๆๆๆๆๆ ชักแง็กๆๆๆๆๆ”

เสียงร้องเพลงรวมถึงเสียงกลองยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุด พอๆกับความมันส์ของพี่ๆที่ลุกขึ้นเต้นกันแบบไม่มีใครยอมใคร มันส์ชนิดที่ว่าถ้าไปเต้นที่บ้านของตัวเอง พ่อกับแม่อาจจะพาส่งโรงพยาบาลบ้าก็เป็นได้

“ฮิ้ววววววว~” เสียงเพลงเงียบลง แทนที่ด้วยเสียงโห่ฮิ้วต้อนรับประธานค่ายที่กำลังเดินขึ้นเวที

“ขอต้อนรับน้องๆเข้าสู่ค่าย ‘com-sci สายฮา’ อย่างเป็นทางการอีกครั้งนะคร้าบบบบ” พี่ประธานค่ายพูดเสร็จก็ตามด้วยเสียงโห่ร้องอีกครั้ง “ต่อจากนี้ไป พี่รับรองว่าน้องๆทุกคนจะได้รับความสนุกจากค่ายนี้แน่นอนนน” พี่ประธานค่ายพูดเสร็จก็เดินลงจากเวทีไป เปลี่ยนให้พี่ที่ทำหน้าที่พิธีกรขึ้นมาแทน สวยๆแบบนี้ค่อยน่าจรรโลงใจหน่อย ดีกว่าพี่ประธานค่ายหน้าหนวดเมื่อกี้ตั้งเยอะ ฮา

“ต่อไป พี่จะให้น้องๆจับฉลากเลือกกลุ่มแล้วไปสนุกกับเกมฐานแรกสำหรับวันนี้นะคะ” เสียงกรี๊ดโห่ร้องดังขึ้นแทนที่เสียงพี่พิธีกรคนสวย เสียงกรี๊ดในใจผมก็เช่นกัน T^T

“มึงไหวป้ะวะซัน” ‘ไอ้ภีม’ เพื่อนสนิทของผมที่นั่งด้านหลังเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง คือก่อนที่จะมาค่ายเนี่ย ผมมีเรียนจนถึงตอนเย็นเลยครับ ที่สำคัญคือตั้งแต่เช้ายังไม่มีข้าวตกถึงท้องสักเม็ด โรคกระเพาะที่เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยม.ต้นก็เลยแวะเวียนมาทักทาย มันพีคตรงที่ผมลืมหยิบยามาด้วยน่ะสิครับ ผมเลยนั่งหน้านิ่วตัวงออย่างที่เห็น คิดว่าถ้าไม่ไหวจริงๆก็คงต้องบอกพี่สตาฟแหละครับ “หาอะไรรองท้องก่อนไหมมึง เดี๋ยวกูขอพี่เขาให้” ไอ้ภีมถามขึ้นอีกครั้ง

“กูยังโอเค ขอบใจนะมึง” ไอ้ภีมไม่ตอบอะไร แค่ยื่นมือมาตบบ่าผมเบาๆ

“น้องคนไหนได้ยินชื่อแล้ว ลุกมาจับฉลากได้เลยนะคะ ด้านหลังจะมีชื่อพี่เลี้ยงแล้วก็สีบอกไว้ ใครจับเสร็จแล้วก็ลุกไปนั่งตามสีของตัวเองเลยนะค้า” พูดเสร็จปีหนึ่งก็ทยอยกันลุกออกไปทีละคน

ผมชื่อ ‘ซัน’ เป็นนักศึกษาปีหนึ่ง ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ของมหา’ลัยชื่อดัง ค่ายนี้จัดขึ้นด้วยความร่วมมือของพี่ปีสาม แน่นอนว่าไม่มาเข้าร่วมไม่ได้ เพราะเป็นค่ายบังคับ ตอนนี้ผมอยู่ที่นครนายกครับ บรรยากาศโดยรอบสดชื่นมาก ด้านข้างอาคารที่เราอยู่มีทางน้ำไหลผ่านยาวเป็นสาย เห็นแล้วอยากลงไปเล่นมากๆ ถ้าไม่ติดว่าไอ้โรคกระเพาะบ้านี่กำลังกำเริบล่ะนะ

เรามาถึงที่นี่กันประมาณสองทุ่ม ตอนแรกผมคิดว่ามาถึงค่ายแล้วคงจะให้กินข้าว อาบน้ำแล้วนอนเลยเสียอีก ที่ไหนได้ ยังต้องมาเล่นเกมอีกฐานก่อนนอน ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งนั้นแหละ ผมอยากกินข้าววว ผมอยากนอนนนน  ฮืออออ T^T

พอจับฉลากเสร็จผมก็มานั่งเหมือนหมาโดนยาเบื่ออยู่ข้างเสา โชคยังดีที่ยังฟลุคอยู่สีเดียวกับไอ้ภีม เผื่อผมเกิดเป็นลมขึ้นมามันจะได้ช่วยแบกผมทัน

“สีไหนที่ได้น้องครบแล้ว ให้พี่เลี้ยงพาเดินไปฐานได้เลยนะค้า” พี่เลี้ยงของผมคือพี่ไม้กับพี่สวย ทั้งสองคนก็ดูใจดีดีนะครับ เทคแคร์พวกผมดีมาก กลุ่มของเรามี 8 คน บอกตรงๆว่าจำชื่อได้ไม่ครบทุกคนหรอก ก็เพิ่งเปิดเทอมได้ไม่นานเองนี่ครับ ตัวผมเองกว่าจะได้มาเรียนก็ปาไปอาทิตย์หนึ่งหลังจากที่มหา’ลัยเปิด เพราะดันซวยเป็นไข้เลือดออกนอนซมอยู่ที่โรงพยาบาลนานเกือบเดือน วันรับน้องก็เลยไม่ได้ไปสักวัน

พี่ไม้กับพี่สวยพาเราเดินมายังห้องๆหนึ่งที่ปิดไฟไว้ มืดอย่าบอกใคร อย่าบอกนะ ว่าเป็นฐานบ้านผีสิงน่ะ ผมไม่มีแรงวิ่งนะครับพูดเลย

เราเดินไปถึงหน้าห้องก็เจอกับพี่ที่มายืนรอรับพวกเราสองคน“ฐานนี้พี่จะใช้ผ้าปิดตาน้องๆนะครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีอันตรายแน่นอน” พี่ผู้ชายหน้าตาใจดีบอก

“น้องๆอาจจะแปลกใจกันนะครับว่าทำไม พวกพี่ถึงต้องปิดตาน้องๆ” เสียงพี่ที่เป็นใครก็ไม่รู้ดังขึ้น ที่ไม่รู้เพราะตอนนี้ผมกับเพื่อนๆถูกปิดตานั่งกันอยู่ในห้องครับ ทุกอย่างดูเงียบไปหมด ประกอบกับโลกที่ตอนนี้โคตรจะมืดมิด ทำให้เกิดอาการกลัวได้ไม่ยาก คนยิ่งกลัวๆผีอยู่นะเฮ้ย “ฐานนี้คือฐานปีสามนะครับ ฐานของพวกพี่คือ first date จุ๊บๆ” เดี๋ยวๆ อยากรู้คนคิดชื่อฐานจริงๆ ทำไมต้องมีจุ๊บๆด้วยวะ “วันนี้พี่จะพาน้องๆไปเดทกันนะครับ” ไม่ถามผมหน่อยเหรอพี่ ว่าผมอยากเดทไหม ตอนนี้ไม่อยากหรอก เดทน่ะ อยากแดกมากกว่า T^T “แต่ละคนจะมีคู่เดทของตัวเองนะครับ น้องสามารถพูดคุยกับคู่เดทของตัวเองยังไงก็ได้ แล้วตอนท้ายต้องทายให้ถูกด้วยว่าคู่เดทของตัวเองคือพี่ปีสามคนไหน” ปั๊ดโธ่ ให้ได้ยินแค่เสียงเนี่ยนะ ต่อให้เปิดตาคุยกูยังจำไม่ได้เลย ตอนนี้กูปวดท้องงง

สักพักผมก็ถูกใครไม่รู้จับเดินไปมาในห้อง เดินได้ไม่กี่ก้าวก็จับผมให้นั่งลง “ตรงหน้าของน้องๆคือคู่เดทนะครับ ใครอยากคุยอะไรก็คุยได้เลย” อ่า ที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือพี่ปีสามสินะ ที่บอกว่าคุยอะไรก็ได้นี่ผมพูดได้ไหมอะว่าผมหิวข้าววว

“หวะ หวัดดีค่ะ” คู่เดทของผมเอ่ยขึ้น น่อวว ผู้หญิงซะด้วย จีบดีไหมเนี่ย แต่ไอ้โรคกระเพาะตอนนี้ทำให้สกิลจีบสาวของผมหายไปกว่าครึ่ง เพราะงั้นเรื่องจีบเอาไว้ก่อนดีกว่า

“หวัดดีครับ เปิดเทอมแล้วเป็นไงบ้างครับ เรียนยากไหม” ผมเริ่มถามอีกฝ่ายก่อน อยากรู้ว่าปีสามเรียนยากมากหรือเปล่า ปีหนึ่งนี่ไม่ต้องพูดถึง ผมยังปรับตัวไม่ทันเลยครับ อาจารย์นี่สอนไวโคตร ไม่เหมือนมัธยมเลยสักนิด

“ก็ยากนะคะ ยังงงๆอยู่เลย ตามอาจารย์ไม่ค่อยทัน” อยู่ปีสามแล้วยังปรับตัวไม่ได้อีกเหรอเนี่ย สงสัยที่มหา’ลัยนี้จะหินอย่างที่เขาพูดกันจริงๆ เราคุยกันไปสักพักก็ไม่ค่อยได้เรื่องอะไรมากหรอกครับ แค่ถามว่า เรียนเป็นไง หอเป็นไง รูมเมทดีไหม แค่นั้นเอง แต่ก็แปลกๆที่อีกฝ่ายไม่ค่อยกล้าพูดเท่าไหร่ ความจริงปีสามน่าจะดูกร้านโลกกว่านี้หรือเปล่า สงสัยจะเขินในความหล่อของผมแน่ๆเลย ฮา

“หมดเวลาครับ เดทแรกพี่จะยังไม่ให้น้องทายนะครับ” แสดงว่าผมต้องคุยอีกหลายคนเลยเรอะ T^T “ตอนนี้ให้น้องๆเปิดผ้าผูกตาออกเลยครับ” พี่ปีสามพูดเสร็จ ผมก็ถอดผ้าออก เลยได้เห็นว่าพี่เขาเปิดไฟกันอยู่ และได้เห็นด้วยว่าคนตรงหน้าไม่ใช่พี่ปีสามอย่างที่รุ่นพี่บอกไว้ตอนแรก แต่เป็นเพื่อนปีหนึ่งของผมเอง หลอกกันนี่หว่า พอเจอหน้าผม เธอก็ยิ้มเขินให้ผม ก็น่ารักอยู่นะ สงสัยกลับไปต้องจีบหน่อยแล้ว “เดทแรกแค่น้ำจิ้มนะครับ เดทที่สองจะเป็นเดทสุดท้ายและเป็นพี่ปีสามของจริงแน่นอน พี่ไม่ชอบหลอกใคร” พูดเสร็จก็ได้ยินเสียงโห่ร้องของเพื่อนๆพี่ๆที่อยู่ในห้อง ที่พี่ทำเมื่อกี้ก็เรียกว่าหลอกไม่ใช่หรือไง

“ตอนนี้ให้น้องๆปิดตาอีกรอบนะครับ” ปิดตาเสร็จ ทุกอย่างก็อยู่ในความเงียบอีกครั้ง จากนั้นพี่ๆก็พาผมเดินไปเดินมาอีกครั้ง สักพักก็จับให้ผมนั่งลงอีกรอบ ผ่านไปไม่กี่วินาทีก็รู้สึกได้ว่ามีใครสักคนนั่งลงตรงหน้าผม กลิ่นโคโลญจ์ผู้ชายอ่อนๆลอยมาแตะจมูก ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นของคนตรงหน้า “จากนี้พี่จะให้เวลาสิบห้านาทีในการเดทนะครับ เริ่มได้”

“หวัดดีค่ะน้องซัน” ผมดีใจนะที่พี่เขาจำชื่อผมได้ แต่จะดีกว่านี้มากเลย ถ้าคู่เดทของผมคนนี้น่ะเป็นผู้หญิงจริงๆ ก็คนตรงหน้าเล่นบีบเสียงให้เล็กเหมือนผู้หญิงทั้งที่ความจริงไม่ได้ใกล้เคียงเลยสักนิด ดูยังไงก็ผู้ชายชัดๆ ไม่ใช่กระเทยด้วย เพราะดูจะลำบากกับการบีบเสียงเหลือเกิน

“หวัดดีครับพี่ ทำไมคู่เดทผมไม่ใช่ผู้หญิงล่ะ” ผมถามพี่เขาออกไปแบบเซ็งๆ จากนั้นพี่เขาก็หัวเราะในลำคอเบาๆ

“พี่ก็ผู้หญิงไงคะ น้องซันพูดแบบนี้พี่น้อยใจนะ” พี่ครับ ผมเรียนปีหนึ่งแล้วนะครับ ไม่ใช่อนุบาลหนึ่ง จะได้เชื่อพี่เนี่ย อยากจะบอกเหลือเกินว่า ‘เรื่องของพี่เถอะครับ’ แต่ก็เกรงใจ ฮา “เรียนเป็นยังไงบ้างคะ ไม่เข้าใจตรงไหนหรือเปล่า” พี่ปีสามตรงหน้ายังคงบีบเสียงไม่เลิก

“ก็พอได้ครับ แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ cs102 เท่าไหร่” วิชาที่ว่าก็เป็นทฤษฎีการเขียนโปรแกรมนี่แหละครับ ยากเอาการเลย

“ถ้าจับจุดดีๆไม่ยากหรอกค่ะ เดี๋ยวกลับไปพี่จะเอาชีทกับเล็คเชอร์ของพี่ให้นะคะ” เฮ้ย คนตรงหน้าจะใจดีไปแล้ว ทั้งที่ความจริงควรจะเก็บไว้ให้น้องรหัสไม่ใช่หรือไง แต่พี่แกอาจจะซีร็อกซ์เอามาให้ผมก็ได้ล่ะมั้ง

“โหย เกรงใจจังเลยพี่ ขอบคุณนะครับ” พี่แกคงจะเห็นยิ้มกว้างๆของผมที่แสดงถึงความดีใจแล้วก็ขอบคุณที่เทคแคร์น้องในภาคดีขนาดนี้ ต่างกับผมที่ไม่ได้เห็นสีหน้าของคนตรงหน้าว่าเป็นอย่างไร สักพักก็ต้องนิ่วหน้าอีกรอบ เพราะความปวดจากโรคกระเพาะเล่นงาน

“น้องซันไม่สบายเหรอคะ”

“ปวดท้องนิดหน่อยครับ โรคกระเพาะ” ผมอ้อมแอ้มตอบ จะโดนด่าหรือเปล่าเนี่ยว่าทำตัววุ่นวาย

“แล้วทำไมไม่บอกล่ะ” เสียงที่บีบเมื่อกี้ คลายออกเป็นเสียงผู้ชายเข้มๆ น้ำเสียงติดจะออกไปทางตำหนิเล็กน้อย สักพักพี่เขาก็แกะผ้าผูกตาของผมออก ผมเลยได้เห็นว่าทั้งห้องถูกเปิดไฟอีกครั้ง มิน่าล่ะ พี่เขาถึงได้รู้ว่าผมปวดท้อง พอมองไปรอบๆ แต่ละคนกำลังใจจดใจจ่อกับคู่เดทของตัวเองกันอยู่ เลยไม่ได้มีใครสนใจเราเท่าไหร่ จากนั้นพี่เขาก็จับมือผมให้ลุกขึ้นเดินตาม

“ไปไหนอะพี่” ผมถามขึ้นอย่างสงสัย

“ชู่ววว” พี่เขาส่งเสียงให้ผมเงียบ คงเป็นเพราะตอนนี้ทั้งห้องยังเดทกันอยู่ล่ะมั้ง “น้องไม่สบาย กูพาน้องไปกินยานะ บอกพี่เลี้ยงน้องด้วย” คู่เดทของผมบอกกับพี่สตาฟที่ยืนหน้าห้อง

เราเดินเคียงกันมาเรื่อยๆ แสงไฟริมทางไม่ได้ทำให้ความหล่อของคนข้างๆผมลดลงไปเลย อยากจะให้หน้าหล่อๆนั่นมาอยู่บนหน้าของตัวเองจริงๆ เห็นแล้วอิจฉาโคตรๆ ไหนจะส่วนสูงที่ผมคิดว่าพี่เขาอาจจะชอบกินเสาไฟฟ้าเป็นอาหารว่าง ก็เล่นสูงซะไม่เกรงใจต้นมะพร้าวข้างๆทางเลยนี่

“เราจะไปไหนกันอะพี่” ผมถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ เพิ่งสังเกตว่าพี่เขายังจับมือผมอยู่ เลยเขย่าเบาๆ เพื่อให้พี่เขาปล่อย

“ไปกินข้าว กินยาไง” พี่เขาตอบ ผมเลยแค่พยักหน้าหงึกหงักๆ “ปวดท้องมากไหม”

“ก็ประมาณนึง แต่ทนได้ครับ” ที่จริงอยากจะตอบว่าปวดโคตรๆ แต่เดี๋ยวจะดูไม่แมน

“กินข้าวไม่ตรงเวลาหรือไง”

“ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าครับ ตื่นสายแล้วยังเลิกเรียนเลทอีก เลยไม่มีเวลา”

“วันหลังก็หัดพกนมหรือขนมติดกระเป๋าไว้บ้างสิ” พี่เขาถอนหายใจเล็กน้อย “ถ้าปวดท้องอีกก็บอก ถ้าเป็นหนักกว่านี้จะยิ่งแย่” น้ำเสียงดุๆตอนนี้โคตรจะผิดกับเสียงผู้หญิงที่พยายามบีบเมื่อกี้เลย อยากจะเห็นหน้าพี่แกตอนทำเสียงผู้หญิงจริงๆ คงจะฮาไม่น้อย

“คร้าบบบบ”

หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาที ผมก็มาถึงห้องพี่สตาฟฝ่ายพยาบาลโดยมีคู่เดทของผมเดินนำเข้าไปก่อน

“อ้าว นึกว่าใคร สุดหล่อปีสามนี่เอง” พี่ผู้หญิงซึ่งผมจำได้ลางๆว่าอยู่ปีสี่เอ่ยทักพี่เสาไฟฟ้า (ไหนๆก็ไม่รู้ชื่อแล้ว งั้นขอเรียกงี้ละกันเนอะ) พอกวาดตามองรอบๆห้องก็ไม่พบใครอีก พี่คนสวยไม่กลัวผีหรือไงเนี่ย “น้องซัน?” พี่ปีสี่คนสวยพูดขึ้นแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มส่งไปให้พี่เสาไฟฟ้า ยิ้มงั้นทำไม ผมรู้สึกแปลกๆนะเนี่ย

“มองงั้นทำไม น้องไม่สบาย” พี่คนสวยยังทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ พี่ครับ หน้าผมดูไม่เหมือนคนป่วยหรือไง เซ็งตัวเอง ขนาดป่วยยังหล่อสินะ ฮา

“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย น้องซันไม่สบายเป็นอะไรคะ” พี่คนสวยหันไปพูดกับพี่เสาไฟฟ้าในประโยคแรก ส่วนประโยคหลังหันมาถามผมพร้อมรอยยิ้มใจดี

“โรคกระเพาะ ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า” พี่เสาไฟฟ้าตอบแทนผม พี่คนสวยเลยพยักหน้าเข้าใจ “พาน้องไปกินข้าว กินยานอนเลยละกัน ไม่ต้องให้ไปห้องรวมแล้ว” พี่คนสวยลุกไปหยิบยาในกล่องปฐมพยาบาลขนาดใหญ่ แล้วหยิบขวดยาเคลือบกระเพาะส่งให้ผม

“รับทราบค่ะเจ้านาย ฉันเริ่มไม่แน่ใจละว่าฉันเป็นพี่แก” พี่คนสวยพูดไปกลั้วหัวเราะไป “งั้นให้น้องนอนนี่ละกัน ฉันไม่มีกุญแจห้องน้อง” เฮ้ยยย นี่จะให้ผมอยู่กับพี่คนสวยสองต่อสองเหรอ ผมเขินนะเนี่ย “ไม่ต้องมองอย่างนั้นเลยย่ะ ฉันนอนกับพวกไอ้กุ้งนู่น ห้องนี้ว่าง ให้น้องนอนไปคนเดียวละกัน” เฮ้ยยยย ผมไม่อยากนอนคนเดียวนะ ผมกลัวผี บรื๋ออออ

“เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวผมไปบอกพี่เลี้ยงน้องก่อนละกัน”

“ไอ้ไม้เหรอ?” พอพี่เสาไฟฟ้าพยักหน้า พี่คนสวยก็ยิ้มกรุ้มกริ่มอีกรอบ “แหม ทำงานเป็นทีมเลยน้า” พี่คนสวยพูดยิ้มๆ

“อะไรเล่า ไม่ใช่งั้นซะหน่อย พาน้องไปกินข้าวได้แล้ว” ไม่รอให้พี่คนสวยพูดเสร็จ พี่เสาไฟฟ้าก็หันมามองผมนิดหน่อยก่อนเดินออกจากห้องไป เฮ้ยยย จะรีบไปไหนล่ะ ยังไม่ได้ขอบคุณเลย

“ไปกินข้าวกันน้องซัน” ผมยิ้มแล้วเดินตามพี่คนสวยไป

ผมได้กินข้าว กินยา อาบน้ำโดยมีพี่คนสวยซึ่งต่อมาผมรู้ว่าเธอชื่อพี่น้ำตามดูแลไม่ห่าง หลังจากได้กินข้าว กินยา อาการปวดท้องก็เริ่มดีขึ้น และเหมือนจะหายก็ตอนที่หัวถึงหมอนนี่แหละ ที่นอนนุ่มๆกับหมอนนิ่มๆ ผ้าห่มอุ่นๆในอากาศเย็นๆ นี่มันสวรรค์ชัดๆ แต่เอ๊ะ เหมือนผมจะลืมอะไรสักอย่างเลย แต่ช่างมันเถอะ ขอนอนก่อนละกัน ราตรีสวัสดิ์นะครับทุกคน


to be continue

Hello World! ได้ลงนิยายสักที  :sad4: (ซึ่งลงถูกมั้ยก็ไม่รู้ ฮ่าๆ :laugh:) ตื่นเต้นมากเติมเอส ฝากเนื้อฝากตัวฝากใจด้วยน้า  :impress2:

ปล1. เราลงกฎละน้า คือเราไก่กามาก  :katai1: ขอบคุณที่บอกนะค้า
ปล2. เราแก้เนื้อเรื่องแล้วน้า ปล่อยไก่อีกแล้ว สับสนกับตอนเปิดไฟปิดไฟมาก อายมากด้วย แหะๆ  :-[
ปล3. ขอบคุณทุกเม้นต์มากๆเลย ถ้าเราทำอะไรไม่ถูกช่วยบอกเราด้วยน้า เราค่อนข้างก่งก๊ง  :o8:

ขอบคุณมากจริงๆค่ะ :pig4:  :pig4:  :pig4:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2017 18:49:04 โดย 16meena »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
«ตอบ #1 เมื่อ04-03-2017 06:45:00 »

พี่สุดหล่อปีสาม ใจดีกับซัน
เลิกบีบเสียงเป็นผู้หญิงเลย ตอนที่รู้ว่าซันปวดท้อง
แต่พี่เห็นได้ยังไงว่าซัน ไม่สบาย นิ่วหน้าเพราะปวดท้อง
ก็ตอนที่พี่แกะผ้าผูกตาซันออก ห้องยังปิดไฟมืดอยู่  :katai1: :katai1: :katai1:
พี่ที่ห้องพยาบาลแซวว่าทำงานเป็นทีม
แสดงว่าพี่สุดหล่อจงใจมาคุยกับซันสินะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
«ตอบ #2 เมื่อ04-03-2017 06:55:06 »

อ้าวยังไงๆตั้งใจมาจีบหรอพี่เสาไฟฟ้า :z2:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
«ตอบ #3 เมื่อ04-03-2017 07:39:23 »

อะไรคือทำงานเป็นทีม 555555


ปล.อย่าลืมลงกฏเล้านะตะเอง

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
«ตอบ #4 เมื่อ04-03-2017 11:20:50 »

อุ๊ย ยังไงๆ พี่สุดหล่อปีสามกับน้องซัน
ชอบน้องชิมิค่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
«ตอบ #5 เมื่อ04-03-2017 17:01:46 »

ลุ้นอ่ะ อะไรคือทำงานเป็นทีม รู้เห็นเป็นใจ หรือ 3p อุต๊ะ!!!   :impress2:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
«ตอบ #6 เมื่อ04-03-2017 17:37:39 »

ปิ๊งน้องซันแน่ๆ.  ส่วนอีกคู่ก็ไม้กับภีม. แบบนี้ล่ะทำงานเป็นทีม. คู่ใครคู่มัน :ruready
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2017 23:36:35 โดย Pittabird »

ออฟไลน์ 16meena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
«ตอบ #7 เมื่อ05-03-2017 01:21:31 »

เข้าค่ายวันที่ 2.1

หลังจากที่เมื่อคืนได้กินข้าว กินยาแล้ว อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ผมในเช้านี้เลยสดใสกว่าเมื่อวานหลายสิบเท่า ตอนนี้ผมอาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อย โดยมีพี่ไม้ที่ตามมาปลุกถึงห้องพากลับไปหาเพื่อนๆในกลุ่ม

“ไงมึง นอนคนเดียวสบายเลยนะสาสสส” นี่แหละไอ้ภีม เจอหน้าปุ๊บ ก็กวนตีนปั๊บ มันคงเห็นสีหน้าของผมตอนนี้ว่าแฮปปี้ดี๊ด๊าขนาดไหน

“บ่นเชี่ยไร นอนหลายคนก็สบายเหมือนกันแหละ มึงไม่ได้นอนบนโขดหินซะหน่อย” พูดเสร็จก็ยื่นมือไปผลักหัวมัน

“หายดีแล้วเหรอซัน” บอล เพื่อนตัวอ้วนเดินมาทักผม

“ดีขึ้นแล้วว่ะ ขอบใจนะมึง” ผมหันไปพูดกับบอล มันพยักหน้ายิ้มๆส่งมาให้ผม

“น้องๆมาครบแล้วนะ ไป ขึ้นห้องรวมกันเถอะ” ผมและเพื่อนๆเดินตามพี่ไม้กับพี่สวยไปยังห้องรวมซึ่งอยู่ชั้นบน

เสียงร้อง เสียงกรี๊ดดังแว่วมาตั้งแต่เรายังไม่ถึงชั้นบนด้วยซ้ำ พี่ๆยังคงตีกลองร้องเพลงต้อนรับเราเหมือนเดิม บ้างก็เต้นแบบลืมโลก บ้างก็แหกปากร้องเพลงปานประกวดเดอะสตาร์ ผมว่าค่ายนี้นี่จัดเพื่อให้พี่ๆมาปลดปล่อยอารมณ์กันมากกว่าล่ะมั้งเนี่ย

เสียงเพลงดังได้สักพัก ก็หยุดลงเนื่องจากน้องๆปีหนึ่งทะยอยมากันจนครบแล้ว “น้องๆมากันครบแล้วเนอะ แล้วตอนนี้ก็คงจะหิวกันแล้ว งั้นพี่จะรีบๆพูดกำหนดการณ์แล้วกันนะคะ”

ผมพยายามกวาดตาหาพี่เสาไฟฟ้าแต่ก็ไม่พบ ยังไม่ได้ขอบคุณพี่เขาเลย เขาจะหาว่าผมเนรคุณหรือเป็นเด็กไม่มีมารยาทไหมเนี่ย

“กำหนดการณ์ต่อไปคือ ทานข้าวนะคะ” พูดเสร็จเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น ไม่ใช่แค่เฉพาะปีหนึ่งเท่านั้น ผมว่าทุกคนคงจะหิวกันมาก แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็รวมผมด้วย โอย ยิ่งพูดยิ่งหิวนะเนี่ย “น้องๆ มีเวลาทานข้าวกันจนถึง 9 โมงนะคะ เสร็จแล้วเราทุกคนจะเข้าร่วม mini sport day กันค่ะ” โฮก มาค่ายแล้วยังมีกีฬาสีตามมาหลอกหลอนหรือเนี่ย “เราจะมีกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ ซึ่งแข่งกันเป็นชั้นปีนะคะ พอเสร็จ mini sport day แล้ว ให้พี่เลี้ยงพาน้องไปอาบน้ำ กินข้าว แล้วมาเจอกันที่ห้องรวมอีกครั้งนะคะ”

ระหว่างที่พี่พิธีกรพูดผมก็หันไปเจอพี่เสาไฟฟ้าที่เพิ่งเดินเข้ามาพอดี อยากจะขอบคุณพี่เขา แต่จะให้ลุกเดินไปหาตอนนี้ก็ใช่เรื่อง “พี่เลี้ยงพาน้องไปทานข้าวได้เลยค่ะ แล้วเจอกันอีกครั้งตอนบ่ายนะคะ” ง่ะ ว่าจะปลีกตัวมาขอบคุณพี่เสาไฟฟ้าสักหน่อย แต่พอมองหาอีกรอบก็ไม่เจอตัวพี่แกแล้ว

“หิวสาสสส กว่าจะได้ฤกษ์แดก กูหิวไส้จะขาดแล้วเนี่ย” ไอ้ภีมเดินมาคว้าคอผมไปกอดแล้วเดินไปยังใต้ถุนอาคาร ซึ่งมีโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารอยู่สิบกว่าโต๊ะ

“น้องซัน อะ อย่าลืมกินยานะ” พี่ไม้ที่ยืนอยู่ด้านนำอยู่ข้างหน้า เดินกลับลงมาส่งยาเคลือบกระเพาะให้ผมซึ่งยืนรอคิวตักอาหารอยู่

“ขอบคุณมากเลยครับพี่ ว่าแต่พี่เห็นพี่…”

“เฮ้ยไม้ มึงมานี่หน่อยดิ๊” ผมกำลังจะถามพี่ไม้ว่าเห็นพี่เสาไฟฟ้าไหม แต่ยังถามไม่ทันจบ รุ่นพี่คนหนึ่งก็ตะโกนเรียกพี่ไม้ให้ตามไป อดเลยทีนี้ คนหล่อเซ็ง

กินข้าวเสร็จ พี่ไม้ก็เดินกลับมาพาเราไปที่สนามกลางแจ้งที่มีพี่ๆยืนรอกันอยู่แล้ว แน่นอนว่าเสียงกลอง เสียงเพลงที่คุ้นหูก็ยังคงดังอยู่เรื่อยๆ

“ดก ลูกดกจะทำยังไง~ ดก ลูกดกจะทำยังไง~
น้องนาเขาจะบอกให้ น้องนาเขาจะบอกให้”

พี่หนึ่งหยุดร้อง จากนั้นก็ยื่นโทรโข่งไปให้นา เพื่อนสาวปีหนึ่งที่นั่งทำหน้าตกใจอยู่

“อ่านหนังสือไง ลูกจะได้ไม่ดก”
   
“กรี๊ดดดดดด”

เพลงนี้ไม่ใช่แค่มีเนื้อหาทะลึ่งหรือเอาฮาอย่างเดียวนะครับ มันเป็นเพลงที่สอนให้เรารู้ถึงการป้องกันตนเองตอนมีความรักหรือมีเพศสัมพันธ์ จะได้ไม่เกิดปัญหาการท้องไม่พร้อมตามมา แต่คำตอบนามันยังไม่สะใจครับ ก็นาเล่นเรียบร้อยน่ารักซะขนาดนั้น จะให้พูดจาทะลึ่งตึงตังก็คงไม่ใช่

“ดก ลูกดกจะทำยังไง~ ดก ลูกดกจะทำยังไง~
น้องซันเขาจะบอกให้ น้องซันเขาจะบอกให้”

พี่หนึ่งมาหยุดตรงหน้าผมแล้วยื่นโทรโข่งให้ ตายห่าล่ะ กูยังไม่ได้คิดคำตอบเลย

“เอาข้างหลังไง ลูกจะได้ไม่ดก”

“กรี๊ดดดดด / ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ / ฮิ้วววววว” ตามนั้นแหละครับ พอผมพูดเสร็จ บางคนก็กรี๊ด บางคนก็หัวเราะ แล้วก็มีบางคนร้องฮิ้ว ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าจะฮิ้วเพื่อ? คำตอบผมตลกมากดิ? ก็คนมันคิดไม่ทันนี่หว่า คำตอบมันก็เลยออกมาจากสันชาตญาณ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าตัวเองก็ทะลึ่งใช้ได้ ฮา

“น้องซันเขาก็บอกชัดเจนแล้วนะครับ พี่เสาร์ฟังไว้นะครับ” พูดจบก็เกิดเสียงเฮฮากันอีกรอบ โอ๊ย แค่นี้ผมก็อายจะแย่ ไม่ทันได้ฟังหรอกว่าพี่หนึ่งพูดว่าอะไร หันไปก็เจอพี่เสาไฟฟ้าหัวเราะอีกคน ปั๊ดโธ่!

พวกเราเต้นสันทนาการกันอีกสักพัก งาน mini sport day ก็เริ่มขึ้น “เกมส์แรกของเราเบสิคมากๆ เรียกว่าไม่มีไม่ได้แล้วค่ะพี่กาย”

“ใช่ครับพี่หนึ่ง เกมส์ของเราคือ กินวิบากนั่นเองงงง”

“กรี๊ดดดดด / เฮฮฮฮฮฮฮ”

“อย่างที่บอกเนอะว่าเราแข่งกันเป็นชั้นปี เพราะฉะนั้นขอเชิญตัวแทนของแต่ละชั้นปี ออกมาปีละ 4 คนเลยค่ะ” เกมส์นี้ไอ้ภีมถูกเลือกลงไปครับ จริงๆก็เหมาะกับมันดีนั่นแหละ คนห่าอะไรไม่รู้กินเก่งชิบเป๋ง แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยครับ เพราะไอ้ภีมมันคว้าชัยชนะมาให้พวกเราชาวปีหนึ่งได้จริงๆ

Mini sport day ยังคงดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ ผมที่เพิ่งเหนื่อยกับเกมส์โยนลูกโป่งน้ำก็ได้แต่นั่งหอบแฮกๆอยู่ข้างต้นไม้ ค่ายนี้นี่เอาจริงๆก็โคตรสนุกเลยครับ ได้คุยกับเพื่อนๆ ได้รู้จักพี่ๆมากขึ้น ก็อย่างที่บอก เพราะผมป่วยบ่อยเลยไม่ค่อยรู้จักใครที่มหา’ลัยเลย ที่รู้จักไอ้ภีมก็เพราะว่าเราเรียนมัธยมที่เดียวกัน การมาที่นี่เลยถือเป็นการเปิดโลกใหม่ๆ ได้พบผู้คนใหม่ๆ ที่สำคัญอากาศก็ดีมากด้วย เหนื่อยจากการเรียนแล้วได้มาสูดอากาศแบบนี้ บอกเลยว่าโคตรชื่นใจ

“เออซัน มึงรู้จักพี่เสาร์ปีสามป่ะวะ” อยู่ๆไอ้ภีมที่นั่งข้างๆก็หันมาถามผม เสาร์ไหน กูไม่รู้จัก กูรู้จักแต่พี่เสาร์ไฟฟ้าของกูเท่านั้นแหละ

“เหอะ ใครอีกล่ะมึง” เอ่ยถามไปอย่างนั้นแหละ จริงๆก็ไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่หรอก

“กูได้ยินมาว่าเขาชอบมึง” ฟังแล้วก็เฉยๆนะครับ มีคนมาชอบผมน่ะเรื่องธรรมดา ก็คนมันหล่อนี่นา อย่าหมั่นไส้ผมนักสิ แค่ล้อเล่นเฉยๆเอง

“ผู้หญิงอะไรชื่อเสาร์” อันนี้ผมสงสัยจริงๆ

“ผู้ชายโว้ยยย ผู้หญิงก๋งมึงเหรอชื่อเสาร์” ไอ้ภีมหันมาแว้ดใส่ แม่ครับ ซันเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้วครับแม่ ซันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ทำไมไม่มีผู้หญิงมาชอบผมบ้างล่ะคร้าบบบบ ผมชอบผู้หญิงงง ผมไม่ได้ชอบผู้ชายยย ฮืออออ T^T

ไอ้ภีมทำท่าเหมือนจะพูดอะไรอีกผมเลยเบรกมันไว้ “พอ หยุดพูด กูไม่อยากฟัง” ไอ้เรื่องที่มีผู้ชายมาชอบนี่เป็นเรื่องปกติประหนึ่งเรื่องที่ผมแปรงฟันก่อนนอนเลยครับ ดูหน้าผมสิ ไม่เหมือนผู้ชายตรงไหน ทำไมต้องดึงดูดแต่เพศเดียวกันเล่า กูสนใจเพศตรงข้ามนะว้อย T^T

“ต่อไปจะเป็นเกมส์ส่งลูกปิงปองนะคะ เกมส์นี้พิเศษนิดหน่อย เราจะให้ปีหนึ่งแทคทีมกับปีสาม แข่งกับปีสองที่ต้องแทคทีมกับปีสี่ เชิญแต่ละชั้นปีส่งตัวแทนออกมาเลยค่ะ”
 

“มึงๆ ไปเล่นกัน กูอยากเล่น” ไอ้ภีมที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้น ปั๊ดโธ่! กูยังไม่หายเหนื่อยจากเกมส์ที่แล้วเลยสัสภีม จะลากกูไปเหนื่อยอีกแล้วเรอะ

“ไม่ กูเหนื่อย” ผมตอบมันแบบปัดๆ “อ๊ากกก ไอ้ภีมมมม กูบอกว่ากูเหนื่อย” สาบานให้มึงได้เอฟฟิสิกส์ไหมเพื่อน ว่ามึงไม่ได้ยินกูวววว

“เกมส์นี้ไม่ได้ใช้แรงเยอะซะหน่อย แค่ยืนเฉยๆเองมึง” แค่ยืนเฉยๆกูก็ไม่อยากกกก กูอยากนั่งงง ไอ้ภีมไม่ได้สนใจคนหล่อที่สุดแสนจะน่าสงสารอย่างผมเลย มันลากผมมายืนกลางสนามเรียบร้อย T^T

“ขอให้แต่ละชั้นปี ยืนสลับตำแหน่งกันด้วยนะคะ” พี่หนึ่งพูดปั๊บ ไอ้ภีมก็เดินจากไปให้ผมเคว้งปุ๊บ ผมยืนคนแรกสุด พอหันไปมองคนข้างๆก็ต้องยิ้มออกมา พี่เสาไฟฟ้านั่นเอง แหม หาตั้งนานก็ไม่เจอ พอไม่หาดันเจอซะงั้น

“หายปวดท้องหรือยังเรา” พี่เสาไฟฟ้าหันมาถามผม

“หายแล้วพี่ ผมยังไม่ได้ขอบคุณพี่เลย ขอบคุณนะครับ” ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่เสาไฟฟ้าอย่างเด็กมารยาทงาม ธรรมดาครับ พอดีที่บ้านสอนมาดี ฮา

“ไม่เป็นไร แค่อย่าเป็นอีกก็พอ” โอ้โห คนอะไรหล่อแล้วยังใจดีอีก ผมไม่ตอบพี่เสาไฟฟ้า แค่ยิ้มหวานส่งไปให้ แหม รอยยิ้มนี่จุดขายผมเลยนะ เป็นบุญของพี่เสาไฟฟ้านะครับ ที่ผมอุตส่าห์ฉีกยิ้มส่งให้ขนาดนี้

“เรามาเริ่มเกมส์ก่อนที่มดจะขึ้นสนามดีกว่านะคะ” เสียงพี่หนึ่งปีสามคนเดิม เพิ่มเติมคือแซวใครก็ไม่รู้ เพราะผมไม่ได้สนใจฟัง “เกมส์นี้เราจะเล่นโดยการส่งต่อลูกปิงปองโดยใช้ช้อนนะคะ แต่จะให้ถือช้อนแล้วส่งต่อกันเฉยๆมันคงจะธรรมดาเกินไป” จะให้ใช้อะไรล่ะ อย่าบอกนะว่าใช้ตีนน่ะ ฮา “เราจะให้ใช้ปากคาบช้อนค่า” กริบ ผมกริบคนเดียวในใจ แต่ทุกคนในสนามส่งเสียงกรี๊ดประหนึ่งดูคอนเสิร์ตบอดี้แสลมก็ไม่ปาน จะดีกว่านี้ถ้าคนข้างๆผมเป็นผู้หญิงล่ะนะ แต่เอ๊ะ ยังไม่ทันแข่งเลย ทำไมรู้สึกหน้าร้อนแปลกๆล่ะเนี่ย

“เราจะแข่งพร้อมกันทั้งสองทีมเลยนะคะ ตัดสินโดยดูจากลูกปิงปองที่ได้ทั้งหมด ถ้าพร้อมแล้ว” เดี๋ยวสิ เดี๋ยวๆ ผมยังไม่พร้อมเลย “เริ่มได้!” ไหน มีใครคนไหนฟังกูบ้างงง

พี่หนึ่งพูดจบ เสียงนกหวีดก็ดังขึ้น ผมเริ่มใช้ปากคาบช้อนไว้ แล้วหยิบลูกปิงปองใส่ช้อนด้วยตัวเอง จากนั้นก็ค่อยๆหันไปทางที่พี่เสาไฟฟ้ายืนอยู่ นี่ผมตามฝาดหรือเปล่าที่เห็นพี่เสาไฟฟ้าหน้าแดงๆ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ สงสัยอากาศจะร้อน

พี่เสาไฟฟ้าเริ่มก้มหน้าลงมา แต่ดูยึกยักไม่ทันใจ ผมเลยเอื้อมมือไปคว้าเอวพี่แกเอาไว้เพื่อจะได้ส่งลูกปิงปองได้ถนัด ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าที่พอผมส่งลูกปิงปองให้พี่เสาไฟฟ้าทีไร จะได้ยินเสียงร้องฮิ้วแปลกๆทุกที ครั้งนี้ก็เช่นกัน

“ฮิ้วววววววว” เห็นไหมล่ะ มันต้องร้องเฮไม่ใช่เหรอ หรือเป็นเทรนด์ใหม่ คนหล่อไม่เข้าใจ

เพราะคนข้างหลังที่ทำลูกปิงปองตกเป็นว่าเล่น เลยทำให้ผมต้องส่งลูกปิงปองให้พี่เสาไฟฟ้าหลายรอบมาก คาบช้อนจนเมื่อยปากหมดแล้วเนี่ย เหนื่อยจนใจเต้นตึกตักๆไปหมด ยิ่งได้เห็นหน้าหล่อๆที่ขึ้นสีของพี่เสาไฟฟ้าเวลาที่หน้าเราเข้าใกล้กันยิ่งทำให้หัวใจผมทำงานหนักกว่าเดิม อย่าหล่อนักสิ ผมใจไม่ดีนะเนี่ย

เกมส์จบที่ทีมผมเป็นฝ่ายชนะ ต้องยกความดีความชอบให้ผมนะเนี่ย ถ้าไม่เกี่ยวเอวพี่เสาไฟฟ้าไว้ ก็คงส่งลูกปิงปองได้ไม่ถนัดหรอก และเหมือนพี่เสาไฟฟ้าจะเอาเทคนิคผมไปใช้ในรอบหลังๆด้วย ดูเผินๆคงจะเหมือนคนกอดกันยังไงยังงั้น เลยทำเอาผมใจเต้นตึกตักไปอีกพักใหญ่เลย

ผมว่าผมไม่ได้ใจเต้นแรงเพราะเหนื่อยหรอก…ผมชอบพี่เสาร์ต่างหาก

ตลกดีเนอะ ชอบ…แม้กระทั่งยังไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ


to becontinue...


เราตื่นเต้นกับเม้นต์มากเลย  มันเป็นกำลังใจที่ดีจริงๆ ขอบคุณทุกคนจริงๆนะค้า

 :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
«ตอบ #8 เมื่อ05-03-2017 15:38:04 »

ไรท์ ช่วยลงวันที่ด้วยนะ เวลาอัพตอนใหม่
คนอ่านเข้าใจว่าเป็นตอนเก่า
แบบ [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP ::::::หน้า 1 :::::: 5/3/2560
>>>>>
ซันเอ้ย.....พี่เสาร์ปีสาม ก็เสาไฟฟ้าของซันแหละ
ว่าแต่ไมพี่เสาร์ มาชอบซันได้ล่ะ
แล้วคงชอบจริงจัง เรื่องเลยดังมาถึงภีม เพื่อนซันเลย
ซันไม่รู้เรื่องเลย ยิ้มหวานให้งี้ กอดเอวงี้
เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเล่นเกม
แล้วไม่สงสัยเลยว่าเขาฮี้วว กันทำไม
แล้วตอนร้องเพลง ดก....ลูกดก
ซัน ร้องเพลงถูกใจพี่เสาร์เล้ย  :ling1: :ling1: :ling1:
แถมชมตัวเองซะอีกว่าตัวเองทะลึ่งใช้ได้  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2017 21:00:26 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
«ตอบ #9 เมื่อ05-03-2017 20:10:07 »

เรื่องน่ารักดี อ่านเพลินเกินห้ามใจ
ปล. ช่วยห้อยวันที่อัพเรื่องให้โหน่ย..ยยยย ไม่อยากพลาดจริงๆ   :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP
« ตอบ #9 เมื่อ: 05-03-2017 20:10:07 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 16meena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [06/03/60]
«ตอบ #10 เมื่อ06-03-2017 20:00:56 »

เข้าค่ายวันที่ 2.2

“ขอบคุณครับ” ผมไหว้พร้อมส่งยิ้มหวานขอบคุณป้าแม่ครัวที่ตักอาหารให้ จะบอกว่าตอนนี้หิวมาก หิวจนอยากกินปลาฉลามทอดน้ำปลากันเลยทีเดียว เวอร์? ถ้าผมกินข้าวน้อยกว่าสองจานอย่ามาเรียกผมว่าซัน แต่ให้เรียกว่าซันสุดหล่อแทน ฮา

ผมและเพื่อนๆกินอิ่มจนพุงย้วย พี่ๆเลยปล่อยให้เรานั่งย่อยกันไป จนผ่านไปสักพักพี่หนึ่งก็เรียกให้พวกเราขึ้นไปที่ห้องรวมชั้นบน

“น้องๆมาครบกันแล้วเนอะ เป็นไง อาหารอร่อยไหมค้า!” พี่หนึ่งถามพวกเราเสียงใส เราทุกคนพร้อมใจกันตะโกนตอบพี่หนึ่งไป

“อร่อยคร้าบ/ค่า” กับข้าวเขาอร่อยจริงครับ ผมน่ะกินไปสองจาน ส่วนไอ้ภีมคนกระเพาะครากก็โน่น ล่อเข้าไปสามจานถ้วน กินประหนึ่งเป็นมื้อสุดท้ายของชีวิต ฮา

“กินกันอิ่มแล้วก็พร้อมทำกิจกรรมกันแล้วเนอะ” ทำอีกแล้วเหรอพี่ กินแล้วนอนก่อนไม่ได้หรือไง “สำหรับคืนนี้ น้องๆจะได้รับชมการแสดงสุดพิเศษของพี่ๆแต่ละชั้นปี” เพื่อนๆเริ่มฮือฮากันแล้วครับ “มั่นใจได้เลยว่า กว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาในชีวิต จะไม่มีการแสดงไหนในโลกที่จะตราตรึงใจได้เท่ากับการแสดงของพี่ภาคเราอีกแล้ว!!!” มันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอพี่ บางทีผมก็คิดนะ ว่าพี่อาจจะเล่นใหญ่เกินไป

“แต่!” พอมีแต่ปุ๊บ ลางสังหรณ์ก็เริ่มมา คงไม่ได้แค่ให้ดูอย่างเดียวแล้วล่ะม้างงง “น้องๆก็ต้องมีการแสดงมาโชว์พี่ๆด้วยเหมือนกันนะคะ” นั่นไง! ซื้อหวยทำไมไม่ถูกอย่างนี้บ้าง ไม่งั้นผมคงกลายเป็นเสี่ยซัน มีรถหรูๆขับ มีน้องๆโคโยตี้คอยบอกฝันดีก่อนนอนไปแล้วล่ะ เวิ่นเว้อจริงๆมึง ตื่นจากความฝันได้แล้วล่ะ “เพราะฉะนั้น ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงหกโมงเย็น จะเป็นเวลาที่น้องๆได้ซ้อมการแสดงเพื่อมาโชว์ในช่วงดึกๆของวันนี้นะคะ ส่วนการแสดงจะเป็นการแสดงแบบไหนก็ได้ แต่ต้องแสดงตามสีของตัวเองนะคะ มีใครมีข้อสงสัยไหมเอ่ย” สงสัยว่าผมไม่ทำได้ไหมครับ พอดีผมง่วง ผมอยากนอน ฮืออออ “ถ้าไม่มีงั้นพี่เลี้ยงพาน้องๆไปซ้อมได้เลยค่า” สิ้นเสียงพี่หนึ่งพวกเราก็ฮือฮากันอีกครั้ง ก็คงปรึกษากันนั่นแหละครับ ว่าเราจะแสดงอะไรกันดี คิดแล้วปวดหัวดีแท้ กี่ค่ายๆก็เหมือนกันหมด เดี๋ยวพ่อแต่งหญิงเต้นจั๊มบ๊ะโชว์ซะเลยนี่

“รักมิใช่ ดวงดาว เมื่อพราวแสง
ใช่ร้อนแรง ดั่งแสง อาทิตย์ส่อง
รักมิใช่ ภูผา สุดจับจอง
ใยใครมอง หารัก กันทำไม”

“ไอ้ซันมึงเต้นดีๆหน่อยสิวะ” ไม่น่าพูดเลยไอ้ซันเอ๊ย ตอนนี้ผมและเพื่อนๆกำลังเต้นเย้วๆเหมือนกิ้งกือโดนน้ำร้อนลวกอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆที่พักครับ เป็นเพราะไอ้ภีมแท้ๆ ดันอุตริให้พวกเราเต้นประกอบเพลงโชว์ในคืนนี้ แล้วเต้นเพลงอะไรไม่เต้น ดันมาเต้นเพลงสาวแบบนี้ ไม่ใช่สาวธรรมดา นี่มัน สาว สาว สาว ชัดๆ ฮือ

“จำเป็นต้องมีอินเนอร์ขนาดนั้นเลยเหรอมึง” ผมถามไอ้ภีมที่แม่งตั้งใจเต้นเกิ๊น หรือว่า… “มึงเป็นใช่ไหมเนี่ย โอ๊ย!” ถามได้แค่นั้นไอ้ภีมก็ตอบผมด้วยการตบหัวไปหนึ่งฉาด

“เป็นหน้ามึงสิ พูดอะไรดูตัวเองก่อนนะ น้องซันขา” มันพูดพร้อมจีบปากจีบคอ ทำท่าทำทางประหนึ่งกระเทยควาย อี๋ สยอง

“ทุเรศว่ะสัสภีม” ผมด่าพร้อมทำท่าถีบมัน

“พวกแกตั้งใจซ้อมกันหน่อยสิยะ” เสียงจิ๊บ เพื่อนสาวในกลุ่มร้องขึ้น แหม ขออู้หน่อยไม่ได้หรือไง จะจริงจังไปไหน ไม่ได้ประกวดระดับโลกซะหน่อย

“ฉันตั้งใจสุดๆแล้วนะยะหล่อน เดี๋ยวแม่ตบเลยนี่” ไอ้ภีมแปลงร่างเป็นกระเทยอีกครั้ง นี่กูจะคิดว่ามึงเป็นจริงๆแล้วนะเพื่อนภีม ไอ้ห่า เล่นซะเหมือนเกิ๊น

“ไปเต้นต่อเถอะจิ๊บ เราจะอ้วกแล้วว่ะ” ผมบอกกับจิ๊บแล้วเดินเลี่ยงไอ้ภีมไป เห็นแล้วสยอง ไม่ไหวๆ

เต้นกันสักพักเราก็เริ่มเหนื่อย เพื่อนๆเลยขอนั่งพักกันก่อนครับ เหนื่อยอย่างกับไปวิ่งสี่คูณร้อยมายังไงยังงั้น แต่ละคนหอบแดกกันเลยทีเดียว

“นี่ ฉันว่า เต้นอย่างเดียวมันยังดูขาดๆอะไรไปนะ” จิ๊บคนเดิม เพิ่มเติมคือหน้าเยิ้มเครื่องสำอางค์ไหลกล่าวขึ้น

“เออ ฉันว่ามันดูจืดๆเหมือนกันว่ะ” ข้าวโพดเพื่อนในกลุ่มพูดเสริมอีกคน

“คิดออกแล้ว ไอ้โพด แกพกเครื่องสำอางค์มาหรือเปล่า” จิ๊บหันไปถามข้าวโพด ผมว่ามันเริ่มแหม่งๆแล้วล่ะ สังหรณ์ใจไม่ดีเลยครับ

“พกสิยะ พกเหมือนพกผ้าอนามัยนั่นแหละ” แหม พูดเหมือนไม่เห็นเราเป็นผู้ชายเลยนะข้าวโพด อายเราบ้างก็ดีนะ

“ดี ผู้ชายกลุ่มเรามี 5 คน อ้าว ลืมไป ซันก็เป็นผู้ชายนี่หว่า ดันนับรวมผู้หญิงซะงั้น” ฮะ หมายความว่าไงวะจิ๊บ “ตกลงผู้ชายกลุ่มเรามี 6 คนเนอะ เราต้องเพิ่มความน่าสนใจของการแสดงโดย…” อ้าว หยุดทำไมล่ะ บอกต่อสิจิ๊บ “โดย…” น่านนน ลุ้นไปอี๊ก “โดย…เราจะให้เพื่อนทุกคนแต่งหญิงเต้นประกอบเพลงค่า!!!” นั่นไง บอกแล้ว นรกมาเยือนไหมล่ะ

“กรี๊ดดดดดด” ไม่ใช่เสียงข้าวโพดหรือเสียงจิ๊บ ผู้หญิงเพียงสองคนของกลุ่ม แต่เป็นเสียงไอ้ภีม ผู้ชายร่างควายที่ทำท่ากรี๊ดเหมือนไส้เดือนโดนน้ำร้อนลวก กูล่ะอยากให้สาวในสต็อกของมึงมาเห็นจริงๆ “เป็นความคิดที่ดีมากเลยค่ะเพื่อนจิ๊บ” ไอ้ภีมยังไม่เลิกแกล้งแอ๊บเป็นกระเทยควาย

“มึงเล่นเหมือนจนกูเริ่มขนลุกแล้วนะเว้ยไอ้ภีม” ไอ้แว่น เพื่อนอีกคนในกลุ่มพูดในสิ่งที่ผมโคตรจะเห็นด้วย มึงอินเกินไปว่ะภีม

“เรื่องนั้นช่างหัวไอ้ภีมมันก่อนเถอะ” ผมเอ่ยขึ้น ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาโฟกัสความกระเทยควายของไอ้ภีม “มันจะดีเหรอจิ๊บ ไอ้เรื่องแต่งหญิงน่ะ” เราต้องมาเครียดเรื่องแต่งหญิงถึงจะถูก T^T

“กูว่าก็ดีนะมึง ผู้ชายตัวควายๆมาเต้นเย้วๆแต่งตัวแต่งหน้า คงจะฮากันน่าดู” ไม่นะโย่ง มึงควรเห็นด้วยกับกูสิ T^T

“เออ กูก็ว่าดี” ทำไมเพื่อนทุกคนถึงเห็นแย้งกับกูไปกันหมดล่ะ พวกมึงจะถือโอกาสนี้เปิดเผยตัวตนกันใช่ไหม บอกกูมาเถอะว่าพวกมึงไม่ใช่ชายแท้ T^T

“โอเค งั้นตามนี้นะ มาซ้อมเต้นอีกรอบกันเถอะ” จิ๊บว่าเสร็จเราก็ลุกขึ้นซ้อมเต้นกันต่อ นี่กูต้องแต่งหญิงจริงเหรอเนี่ย หมดกันความแมน?ของกู T^T

ซ้อมไปสักพักก็รู้แล้วครับว่าไม่ใช่แค่อีกรอบอย่างที่จิ๊บบอก เพราะเต้นกี่รอบต่อกี่รอบจิ๊บก็บอกว่า “ฉันว่ามันยังไม่โอ” ปั๊ดโธ่! ถ้ากูเต้นเก่งขนาดนั้นกูก็ไปเป็นแดนซ์เซอร์แล้วล่ะ คงไม่มาเรียนเขียนโปรแกรมแบบนี้หรอก

“พอๆ เลิกซ้อมได้ เห็นพวกแกแล้วสงสาร ฮ่าๆ” จิ๊บหันมามองชายหนุ่มอย่างพวกเราแล้วหัวเราะร่วน อื้อหือ หมดกันความเป็นกุลสตรีของจิ๊บ

“ถามจริง จะจริงจังไปไหนเนี่ย” ไอ้ภีมหอบแฮ่กถามจิ๊บ

“ก็พี่รหัสฉันกระซิบมา ว่าถ้าสีไหนชนะ จะได้เบอร์พี่เสาร์น่ะสิยะ” จิ๊บพูดพร้อมทำหน้ามีความหวัง เดี๋ยวๆ ทำไมต้องอยากได้เบอร์ไอ้พี่เสาร์อะไรขนาดนั้นด้วยวะ

“ได้ไปก็เท่านั้น เขามีคนที่เล็งไว้แล้วนี่” อ้าว แล้วมองกูทำไมล่ะสัสภีม กูไม่ได้ชอบมันซะหน่อยไอ้พี่เสาร์อะไรนั่นน่ะ ถ้าเป็นพี่เสาไฟฟ้าของกูก็ว่าไปอย่าง ฮี่ๆ

“ชิ นี่ผู้ชายเขาหันมากินกันเองหมดแล้วเหรอไงเนี่ย คนสวยเซ็ง” จิ๊บหันมามองผมแล้วสะบัดผมใส่ อ้าว ซวยกูอีก

“แต่ซันมันสวยกว่าแกอีกนะจิ๊บ” ขอบคุณมากเลยข้าวโพด พูดอย่างนี้หน้าเราเสี่ยงต่อการเกิดรอยจากเล็บของจิ๊บนะ เสียโฉมขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ?

“จิ๊ อย่าย้ำบ่อยสิยะ ฉันรู้หรอกน่า” จิ๊บจิ๊ปากอย่างเสียอารมณ์ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เพราะผมก็ไม่ได้ปลื้มเท่าไหร่ ที่มีคนมาชมว่าสวยหรือน่ารักอะไรกว่านี้ ชมกูว่าหล่อว่าเท่บ้างไม่ได้หรือไง คนหล่อเซ็ง

“เรามาแต่งหน้ากันเถอะเพื่อนๆ ได้เวลาสวยแล้วค่ะ!” ข้าวโพดบอกพร้อมยิ้มร้าย แม่ครับ ซันคิดถึงแม่จังเลยครับ อยากกลับไปกอดแม่เหลือเกิน T^T

“ฮิ้วววววว” พี่ๆยังคงต้อนรับพวกเราด้วยเสียงเพลงเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือสายตาของพี่ๆที่มองมา ทำไมมองด้วยสายตาแบบนั้นกันเล่า! กูเขิน! กูอายโว้ย!

“มึงเห็นพี่พวกนั้นป้ะ แม่งมองมึงตาเป็นมันเลยว่ะ” ไอ้ภีมชะโงกหน้ามากระซิบ

“ไอ้ซัน แกแย่งซีนพวกฉันหมดเลยว่ะ ไม่น่าแต่งให้แกสวยแบบนี้เลยอะ คนสวยเซ็ง!” ข้าวโพดบ่นกระปอดกระแปด เชื่อไหมครับว่าพอแต่งหน้าให้เพื่อนเสร็จแล้ว จิ๊บกับข้าวโพดยังลงความเห็นกันต่อว่าแค่แต่งหน้ายังไม่พอ เลยจับพวกเราทุกคนใส่กระโปรงด้วย ใครพอจะมีปี๊บให้ยืมไหมอะครับ ผมขอซื้อต่อก็ได้อะ! T^T

“เราไม่สวย เราหล่อ” ผมยังคงยืนยันในความหล่อของตัวเอง

“ถ้าพูดว่าตัวเองหล่ออีกครั้งฉันจะลุกตบแกจริงๆแล้วนะ!” ทำหน้าโหดใส่กูขนาดนี้แล้วใครจะกล้าพูดต่อล่ะเฮ้ย พระเจ้าช่วย! นี่คุณเธอทั้งสองเป็นผู้หญิงจริงๆใช่ไหมอะครับ ณ จุดๆนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจ

“ฮัลโหลๆ” พี่หนึ่งเทสต์ไมค์ “สวัสดีตอนเย็นนะคะน้องๆ หวังว่าทุกสีจะเตรียมตัวกันพร้อมแล้วเนอะ” พี่หนึ่งส่งยิ้มหวานมาให้ “งั้นพี่ขอให้ตัวแทนสีออกมาจับฉลากเลือกลำดับการแสดงเลยค่า”

“ไอ้ซัน มึงนั่งหน้าอะไปเลย” ไอ้ภีมดันหลังผมให้ออกไป จะบ้าเหรอ! ให้กูออกไปสภาพนี้อะนะ อายตายชัก!

“ไม่เอาอะ” ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากจิ๊บกับข้าวโพด

“ไม่ต้องหันมา แกออกไปเลยซัน” ขอบคุณเพื่อนจิ๊บมากๆ ช่วยเราได้เยอะเลย T^T

“ตอนนี้เหลือสีชมพูนะคะ ส่งตัวแทนออกมาเลยค่ะ” ผมจำใจต้องเดินออกไปในฐานะตัวแทนสี ปั๊ดโธ่! เพื่อนนะเพื่อน แต่ละคนช่วยเหลือกูดีมาก

“ฮิ้วววว น้องซันน่ารักจังเลยคร้าบ” อ้าว อายยกกำลังสองไปเลยกู

“พอๆ อย่าแซวน้อง” พี่หนึ่งปรามเพื่อน “เรามาจับฉลากกันดีกว่า!” แล้วความซวยก็มาเยือนผมและเพื่อนๆอีกรอบ เมื่อสีของเราได้แสดงเป็นกลุ่มแรก โอ๊ยยย ขอเวลาทำใจอีกนิดไม่ได้หรือไง๊!?

“รักมิใช่ ดวงดาว เมื่อพราวแสง
ใช่ร้อนแรง ดั่งแสง อาทิตย์ส่อง
รักมิใช่ ภูผา สุดจับจอง
ใยใครมอง หารัก กันทำไม”
   
ผมหลับหูหลับตาเต้นตามที่จิ๊บกับข้าวโพดสอน อาจจะมีผิดคิวบ้างเล็กน้อย เพราะพวกเราไม่ใช่มืออาชีพ แต่เราก็แสดงกันอย่างตั้งใจ และในที่สุดเราก็เต้นกันจนจบเพลง

“ฮิ้วววววว/กรี๊ดดดดด” เสียงกรี๊ดเสียงเฮดังขึ้นหลังจากที่เพลงจบ เฮ้ออ โล่งแล้วกู

“น้องๆน่ารักมากเลยว่าไหมคะ ขอเสียงปรบมือให้กับสีชมพูอีกครั้งค่า!” แล้วเสียงเซ็งแซ่ก็เกิดขึ้นอีกรอบ

หลังจากที่พวกเราแสดงเสร็จ ผมก็ขอให้พี่ไม้กับพี่สวยพาพวกเราไปล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนชุด เนื่องจากตอนนี้ผมเริ่มจะรับสภาพหน้าที่เยิ้มด้วยเครื่องสำอางค์แบบนี้ไม่ไหวแล้ว

การแสดงของเพื่อนๆผ่านไปจนครบ บางสีก็แสดงละคร บางสีก็เต้นประกอบเพลงเหมือนสีของผม บางสีก็เล่นตลก เล่นเอาทุกคนฮาครื้นกันไม่น้อย

พี่ๆปีสองกับปีสามเตรียมการแสดงมาโชว์ให้พวกเราดูครับ แต่มันไม่ได้น่าเบื่อจำเจก็เพราะพี่ๆต่างใส่มุกฮาเข้าไปกันไม่ยั้งนี่แหละ ไม่รู้พวกพี่เขาคิดได้ไง เอาหนังเรื่องเทรนทูปูซานที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับซอมบี้มาเล่นรวมกับหนังเรื่องแฟนเดย์ที่เป็นหนังรักปนตลก ผมนี่นั่งฮาจนท้องแข็ง ฮาจนลืมไปเลยว่าเมื่อวานเคยปวดท้อง พูดแล้วยังฮาไม่หาย โอ๊ยยย ฮ่าๆ

พอการแสดงของพี่ปีสามจบลง (ระหว่างนั้นผมพยายามมองหาพี่เสาไฟฟ้าแต่ก็ไม่เจอ T^T) พวกพี่ปีสี่ก็ทะยอยพากันขึ้นมาแทนที่ พวกพี่เขาบอกว่าไม่ได้มีการแสดงอะไรจะมาโชว์ จะมีก็แต่ วิดีโอที่เก็บรวบรวมภาพของพวกเราตลอดระยะเวลาที่อยู่ในค่าย ภาพแต่ละภาพ สื่อได้เป็นอย่างดีว่าทุกวินาทีที่เราอยู่ด้วยกันที่นี่มันสร้างความสุข ความสนุกให้พวกเราขนาดไหน ภาพทุกภาพที่พวกเราเห็นบนโปรเจคเตอร์ไม่มีภาพไหนเลย ที่จะไม่มีรอยยิ้มปรากฎอยู่บนภาพเหล่านั้น

หลังจากที่วิดีโอจบลง ตัวแทนของพี่ๆแต่ละชั้นปีก็ออกมาพูดแสดงความรู้สึก ความประทับใจตลอดเวลาที่พวกเราอยู่ค่าย เนื่องจากพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกลับบ้านกันแล้ว พี่บางคนไม่ได้พูดจาหวานๆ ไม่ได้พูดประโยคซึ้งๆ แต่ทุกประโยค ทุกคำที่พี่เขาพูดออกมา มันสื่อถึงความจริงใจได้เป็นอย่างดี

“หลังจากนี้ขอให้น้องๆทุกคนหลับตานะครับ” เสียงเพลงประจำมหาวิทยาลัยดังขึ้นหลังจากที่พี่ปีสี่คนหนึ่งพูด “พี่เลี้ยงแต่ละสี ทำหน้าที่เลยนะครับ พาน้องเดินระวังๆด้วยนะ” สิ้นเสียงพี่ปีสี่ พี่ไม้ก็บอกให้ผมลุกขึ้นแล้วออกเดินโดยมีพี่สวยจูงมือ จะพาไปไหนกันล่ะเนี่ย

“ระวังนะน้องซัน ข้างหน้าเป็นบันได ก้าวยาวนิดนึงนะคะ” พี่สวยส่งเสียงหวาน หวังว่าระหว่างนี้หน้าผมจะไม่ทิ่มแล้วตีลังกาลงบันไดนะ

พี่สวยพาผมกับเพื่อนๆเดินลงมาด้านล่างที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นที่ๆพวกเราใช้กินอาหารกันเมื่อเช้า ตอนนี้ผมและเพื่อนๆยังนั่งหลับตากันอยู่ เสียงเพลงยังคงดังอย่างต่อเนื่องโดยมีเสียงพี่ๆร้องคลอตามไปด้วย ให้ความรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
   
สักพักพี่ๆก็ให้สัญญาณว่าให้เราลืมตาได้ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือรุ่นพี่ที่นั่งหันหน้าหาพวกเราปีหนึ่งทั้งหมด แสงสว่างเพียงอย่างเดียวในเวลานี้คือแสงจากเทียนเล่มเล็กๆที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของพี่ๆ บนตักของพี่มีด้ายเส้นเล็กๆอยู่จำนวนหนึ่งด้วย เห็นพี่เขาบอกว่านี่คือพิธีบายศรี

“หวัดดีจ้า น้องซันใช่ไหม” พี่ผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่งเอ่ยทักผม พี่คนสวยคงจะสังเกตชื่อผมจากป้ายชื่อล่ะมั้ง

“ครับผม” ผมส่งยิ้มหวานให้

“ยินดีต้อนรับสู่ภาคของเราอย่างเป็นทางการนะคะ” พี่เขาพูดไปก็เอาเส้นด้ายรนไฟไป สักพักก็เอามาผูกที่ข้อมือของผม “พี่ชื่อเนปจูนนะ เรียกพี่จูนก็ได้ มีอะไรก็ปรึกษาได้ตลอด เจอข้างนอกก็ทักได้ พี่ไม่กัด” พี่จูนยิ้มอย่างใจดี

“ขอบคุณครับพี่” ผมยกมือไหว้

ผมคุยกับพี่จูนต่ออีกนิดหน่อย ถามเรื่องเรียนบ้าง เรื่องการใช้ชีวิตในมหาลัยบ้าง พี่เขาใจดีมาก ผมถามอะไรก็ตอบอย่างใจดีตลอด ที่สำคัญ สวยจนผมเคลิ้มเลย ฮ่าๆ

จบจากพี่จูน ผมก็ไปนั่งให้พี่อีกหลายคนผูกข้อมือให้จนตอนนี้สายสิญจน์เต็มแขนไปหมดแล้ว เต็มจนอีกนิดจะกลายเป็นซอมบี้ ฮ่าๆ พี่ๆทุกคนใจดีมากจนผมรู้สึกอบอุ่น หลายต่อหลายคนให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเรียนจนผมรู้สึกว่าอนาคตผมคงได้เอวิชาภาค ฮ่าๆ เดินเวียนให้พี่ๆผูกข้อมือให้จนเกือบจะครบทั้งภาคแล้วมั้ง จะขาดก็แต่พี่เสาไฟฟ้าของผมเนี่ยแหละ ไม่รู้ไปเดินหล่ออยู่ที่ไหน

ผมเดินตามหาพี่เสาไฟฟ้าจนทั่วจนรู้สึกปวดฉี่เลยเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่ง ตรงนี้ก็เปลี่ยวอยู่แฮะ

“จูน ใจเย็นหน่อยได้ไหม” ในที่สุดผมก็เจอพี่เสาไฟฟ้าแล้ว แต่ภาพตอนนี้ทำเอาใจผมหล่นไปที่ตาตุ่ม พี่เสาไฟฟ้าอยู่กับพี่เนปจูนคนสวยของผม

“ไม่เย็นแล้ว ฮึก ทำไมทำร้ายกันแบบนี้วะ หมดรักกันแล้วใช่ไหม ฮืออออ” พี่จูนร้องไห้จนน่าสงสาร

“จูน อย่าร้อง” ว่าแล้วพี่เสาไฟฟ้าก็ดึงพี่จูนเข้าไปกอด ผมยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก

พี่เขาเป็นแฟนกัน?

ชัดแล้วนะไอ้ซัน พี่เขามีเจ้าของแล้ว เลิกฟุ้งซ่านแล้วไปนอนซะ ผมบอกกับตัวเองอย่างนั้นซ้ำๆ พยายามสั่งตัวเองให้เดินหันหลังกลับ ตอนนี้ผมรู้สึกชาหนึบไปทั่วหัวใจ

ความรู้สึกแบบนี้…อกหักสินะ

to be continue...

อันยองงง เรามาแล้ววว วันนี้เอาน้องซันมาเต้นจั้มบ๊ะโชว์  :laugh:
ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่ให้คำแนะนำนะค้า คือเราใหม่มากจริงๆ
ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆโลย :pig4:  :3123:  :กอด1:


ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [06/03/60]
«ตอบ #11 เมื่อ07-03-2017 00:01:26 »

 :sad4:น้องเข้าใจผิดจนได้  รีบเคลียร์ด่วน ๆ ค่ะ   :m16:

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [06/03/60]
«ตอบ #12 เมื่อ07-03-2017 02:30:21 »

เอ๊ะยังไง
พี่เสาไฟฟ้า น้องซันเข้าใจผิดแล้วน้า
รีบรู้ตัวแล้วไปเคลียเร็ว

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [06/03/60]
«ตอบ #13 เมื่อ07-03-2017 07:55:03 »

ต้องไม่เป็นงี้จิ
น้องซันเข้าใจผิดช่ายมั้ยลูก

ออฟไลน์ 16meena

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60 *จบ]
«ตอบ #14 เมื่อ07-03-2017 18:48:05 »

เข้าค่ายวันที่ 3

“เฮ้ย! ไอ้ซัน กูนึกว่าหมีแพนด้า!” ไอ้ภีมโวยวายเมื่อเห็นสภาพผมหลังตื่นนอน

“จะโวยวายทำไมวะ” เมื่อคืนกูแค่นอนไม่หลับเฉยๆเอง แต่จะเพราะอะไร เพราะใคร ทุกคนคงเดากันได้นะครับ

เฮ้อออ ยังไม่ทันรู้จักชื่อก็อกหักซะแล้ว

“มึงเป็นอะไร บอกกูมา” ไอ้ภีมจี้ไม่หยุด

“ไม่ได้เป็นอะไร อยู่ดีๆก็นอนไม่หลับ”

“เมื่อวานใช้แรงเยอะจะตาย นอนไม่หลับได้ไงวะ”

“แล้วกูจะไปรู้ไหมล่ะ ก็มันนอนไม่หลับเองนี่” ผมเดินหนีไอ้ภีมเพราะไม่อย่างนั้นมันจะซักผมจนสะอาดเอี่ยมอ่องแน่นอน

ตอนนี้แปดโมงเช้าแล้วครับ ผมเก็บของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เตรียมตัวกลับบ้านเต็มที่ พี่ๆเรียกรวมตอนแปดโมงครึ่ง แปลว่ามีเวลาให้ผมโอ้เอ้อีกประมาณครึ่งชั่วโมงได้

การโอ้เอ้ของผมก็ไม่มีอะไรมากหรอก ผมแค่นั่งเหม่อคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดไปคิดมาจนสายตาไปสบเข้ากับสายตาของคนที่ทำให้ผมกลายเป็นหมีแพนด้าแบบเนี้ย

“ซัน” พี่เสาไฟฟ้าเรียกผม แต่ผมทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินหนีเข้ามาที่ห้องพักตัวเอง ทำอะไรของมึงวะซัน เดินหนี่เนี่ยนะ ตุ๊ดสัสว่ะ แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่พร้อมจะเจอพี่เขานี่

SAO’PART

ผมชื่อเสาร์ เรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ ปี3 ผมแอบชอบน้องคนหนึ่งมาสักพักแล้ว ผมเจอกับเขาครั้งแรกตอนที่เขามาสอบสัมภาษณ์รอบแอดมิดชัน เขาน่ารัก เขาอารมณ์ดี เขาดูสดใส เขาดูเป็นธรรมชาติ และ…

…เขาชื่อน้องซัน
   
ผมเจอน้องซันหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปทักสักที เพราะคิดว่าน้องเขาคงมีแฟนแล้ว อย่างน้อยก็มีไอ้ภีมเพื่อนสนิทตัวยักษ์ของเขานั่นแหละที่ผมคิดว่าเป็นผู้ต้องสงสัยรายสำคัญ ก็น้องเขาน่ารักขนาดนั้นนี่ครับ

ข่าวเรื่องผมชอบน้องเริ่มดังไปทั่วภาค ไม่รู้ว่าน้องเขาจะรู้เรื่องไหม แต่ผมคิดว่าไม่ เพราะเขาดูไม่มีท่าทีอะไรกับผมเลย (หรือว่าเขารู้แล้วไม่สนใจผมวะ ถ้าเป็นงั้นคงเศร้าใจน่าดู T^T) จนวันที่เราต้องไปเข้าค่ายนี่แหละ ปกติน้องเป็นคนสดใสมาก สมกับชื่อ ‘ซัน’ ของเขา แต่วันแรกที่เข้าค่ายน้องซันก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยสบาย เขานั่งตัวงอ มือก็กุมท้องเอาไว้ ในใจอยากจะเข้าไปถามแทบตาย แต่กลัวเขาด่ากลับมาว่าเสือก เฮ้อ ก็คนไม่มีสิทธิ์นี่ครับ

“ฉันจัดการยัดชื่อไอ้ไม้ลงสีชมพูเรียบร้อย มีน้องคนไหนอยู่สิชมพูบ้างน้า” น้ำเพื่อนสนิทเนปจูนทำหน้าล้อเลียน ส่วนไอ้ไม้เป็นน้องรหัสผมเอง นี่ก็คงจะใช้มันให้ช่วยผมจีบน้องล่ะสิ

“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” ผมบอกกับน้ำ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับผมรู้ดีว่าผมคิดยังไงกับน้องซัน แล้วก็คอยยื่นมือเข้ามาช่วยตลอด แต่ผมอยากจีบเองมากกว่านี่

“ชิ ไอ้ไม้ แกก็ช่วยพี่รหัสแกหน่อยแล้วกัน คอยเสี้ยมไว้เยอะๆ ให้จีบเองมีหวังคงแห้ว” น้ำยังคงเสี้ยมไอ้ไม้

“ได้เลยเจ๊ แต่ถ้าน้องมาชอบผมก่อน ผมไม่รับผิดชอบนะ ยิ่งหล่อๆอยู่” ไอ้น้องรหัสนี่ก็กวนโอ๊ยตลอด

“ไปไกลๆตีนเลย”

ผมแอบมองเขาตลอดจนกระทั่งเข้าฐาน first date อะไรบ้าบอนั่น ถึงชื่อมันจะดูกวนๆแต่เพราะฐานนั้นนั่นแหละ ผมถึงได้คุยกับน้องเป็นครั้งแรก ใจผมเต้นแรงสุดๆตอนที่เดินเข้าไปนั่งด้านหน้าของเขา น้องดูเหมือนจะไม่สบายจริงๆ น่าซีดจนอดสงสารไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังแสดงความน่ารักออกมาให้ผมเห็นไม่หยุด ทำเอาผมเผลอยิ้มเป็นคนบ้า

ผมอยากจะหยุดเวลานั้นไว้ อยากนั่งคุยกับน้องให้นานที่สุด แม้ในตอนนั้นเขาจะไม่ได้เห็นหน้าผมก็ตาม แต่ช่วงเวลานั้นก็ต้องหยุดลง น้องปวดท้อง เป็นโรคกระเพาะ ตอนแรกอยากจะดุแรงๆด้วยซ้ำ ข้อหาที่ทำให้ผมเป็นห่วง อยากจะจับตีก้นจริงๆ ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลยนะ

ผมพาเขาเดินไปยังห้องพักที่เป็นของฝ่ายพยาบาล ตอนแรกได้จับมือน้องด้วย มือน้องนิ่มมาก นิ่มจนผมอยากจับไปนานๆ แต่ก็ต้องปล่อยอย่างเสียดาย พอเข้าไปในห้องก็เจอกับน้ำอีก ไม่ต้องเดาเลย น้ำยังคงแซวไม่หยุด เดี๋ยวน้องก็รู้กันพอดี

ผมแอบเข้าไปหาน้องอีกทีตอนดึก น้องหลับไปแล้ว ท่าทางตอนหลับเหมือนลูกแมวไม่มีผิดเพี้ยน น่ารักจนผมอยากลักหลับ แต่ก็ต้องตบหัวตัวเองเบาๆไล่ความคิดหื่นๆนั่นทิ้งไปซะ ผมห่มผ้าให้น้องก่อนกลับไปนอนยังห้องของตัวเอง คืนนั้นฝันดีเป็นบ้า

วันต่อมา เราเล่นเกมส์ส่งลูกปิงปองด้วยกัน อยากจะซื้อดอกไม้ไปขอบคุณคนคิดเกมส์นี้จริงๆ ถึงจะทำให้ผมเขินน้องแทบตายก็เหอะ ตอนนั้นผมได้เห็นหน้าน้องแบบใกล้มากๆ ตัวน้องหอม ผิวก็เนียนเอามากๆ อยู่ใกล้น้องทีไรทำให้ผมมีอารมณ์หื่นทุกที สงสัยต้องไปเตะบอลซะแล้ว

พอถึงตอนแสดง น้องน่ารักจนผมอยากพาไปล้างหน้า ก็น่ารักขนาดนั้น ผมหวง ผมไม่อยากให้ใครมามองน้องนี่ น้องซันไม่ได้เต้นสวย ท่าทางของเขาออกจะตลกด้วยซ้ำ แต่เพราะความเป็นธรรมชาติของเขานั่นแหละที่ทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย    

“น่ารักเนอะ” เนปจูน ‘พี่สาว’ ของผมยังคงแซว ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงไม่เรียกพี่ ก็เพราะว่าพี่สาวผมไม่ได้ทำตัวน่าเคารพเลยน่ะสิ “ฉันจีบได้ป้ะ?”

“อยากโดนเตะเหรอ?” ผมถามหน้าตาย

“ฉันเป็นพี่สาวแกนะยะ!” จูนง้างมือเหมือนจะตี แต่ก็ต้องละมือไปเพราะมีคนโทรเข้ามา

“ยังไม่เลิกคุยกับมันอีกเหรอ เลวขนาดนั้น” ผมหมายถึงแฟนของจูน โดนมันสวมเขาขนาดนั้นยังไม่เลิกติดต่อกันอีก ถ้ามันทำให้พี่สาวผมเจ็บอีกครั้ง ผมเอามันตายแน่

“เขาคิดได้แล้ว” จูนพูดเสียงเบา นี่คงจะโดนมันเป่าหูมาอีกล่ะสิ เมื่อไหร่จะตาสว่างสักทีนะจูน

“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน” ผมบอกกับจูน

แล้วผมก็ได้ช่วยจูนจริงๆ ไอ้เวรนั่นมันโทรมาบอกเลิกจูนจนได้ ทำเอาจูนร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด ได้เจ็บตัวก็ดี จูนจะได้จำสักที

“ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะเสาร์ พี่ไม่ดีหรือไง! ทำไมต้องมาบอกเลิกกันด้วย! ฮือออ” จูนร้องไห้จนน่าสงสาร

“จูน ใจเย็นหน่อยได้ไหม” ผมพยายามเรียกสติจูน

“ไม่เย็นแล้ว ฮึก ทำไมทำร้ายกันแบบนี้วะ หมดรักกันแล้วใช่ไหม ฮืออออ” ดูสิ ร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว

“จูน อย่าร้อง” จูนร้องไห้หนักจนผมต้องดึงตัวเขาเข้ามากอด มีไม่กี่ครั้งหรอกที่จูนจะอ่อนแอขนาดนี้ ปกติไล่เตะผมด้วยซ้ำ

ผมยืนปลอบจูนอยู่นานกว่าจะสงบลง ถ้าแม่มาเห็นจูนเป็นแบบนี้มีหวังได้ด่าหูชาแน่ๆ อยากจะเห็นน้องซันตอนร้องไห้บ้างจัง อยากจะรู้ว่าน้องน่าร้องไห้น่ารักกว่าจูนหรือเปล่า พูดถึงน้องซัน! เลยอดผูกข้อมือให้น้องเลย! จูนนะจูน กลับไปจะฟ้องแม่ซะให้เข็ด โทษฐานที่ทำให้ผมไม่ได้คุยกับน้อง

เช้านี้ผมเจอน้อง แต่สภาพน้องตอนนี้ทำเอาผมตกใจไม่น้อย ตาเขาดำคล้ำเหมือนคนอดนอน หน้าตาก็ไม่สดใส เหมือนคนมีเรื่องอะไรในใจ ไปทำอะไรมาเนี่ย

“ซัน” ผมลองเรียกเขา แต่น้องกลับหลบสายตาแล้วเดินหนีเข้าห้องพักตัวเองไป ผิดปกติ น้องเป็นอะไร?
ผมกะจะเดินไปเคาะห้องเขาแต่ไอ้เมฆเพื่อนสนิทดันตะโกนเรียกซะก่อน

“เชี่ยเสาร์ ไปช่วยกูขนของหน่อย” ผมพยักหน้าให้เพื่อนแล้วเดินตามมันไปอย่างจำใจ

ข้าวเช้าเป็นอะไรที่ไม่อร่อยเลยสักนิด น้องเป็นอะไร? คำถามนี้ยังคงคาใจผมอยู่ น้องไม่พอใจอะไรผมหรือเปล่าวะ แต่ผมยังไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลยนะ หรือเขาจะรู้แล้วว่าผมชอบเขา เขาเลยรังเกียจ…เป็นอย่างนั้นใช่หรือเปล่า

“ตอนนี้ฟรีไทม์นะคะ เชิญน้องๆพักผ่อนตามอัธยาศัย ใครจะไปถ่ายรูปกับสายรหัสก็เชิญได้เลยค่า เราจะมารวมกันที่นี่อีกครั้งตอนสิบโมงนะค้า” หนึ่งยังคงทำหน้าที่ตัวเอง ผมเห็นไอ้พาย พี่รหัสน้องซันเดินเข้าไปทักน้องด้วย ท่าทางจะชวนไปถ่ายรูปรวมสายรหัส

“พี่เสาร์ ไปถ่ายรูปกัน” ไอ้ไม้เดินมาชวนพร้อมกับน้องฝนสายรหัสปีหนึ่ง ผมเลยพยักหน้าแล้วเดินนำน้องๆไป

การถ่ายรูปเป็นไปอย่างเร่งรีบ ด้วยอากาศตอนนี้ไม่เหมาะต่อการถ่ายรูปเป็นอย่างมาก ถึงตอนนี้จะเพิ่งเก้าโมง แต่แดดก็แรงไม่แพ้ตอนเที่ยงเลย ยิ่งไอ้ไม้เลือกพาเรามาถ่ายกลางแจ้งแบบนี้ด้วยแล้ว ร้อนจนอยากถอดเสื้อเดิน เราเลยลงความเห็นกันว่าควรรีบถ่ายแล้วรีบกลับไปยังจุดนัดหมายจะดีกว่า

พอถ่ายรูปกันเสร็จ ผมที่กำลังจะเดินกลับไปยังจุดนัดหมายก็สะดุดสายตาเข้ากับร่างเล็กน่ารักที่ผมเพิ่งเจอเมื่อเช้า ต้นเหตุที่ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นเจ้าตัวทำหน้าเหมือนอึไม่สุดแบบนั้น

“มึงพาน้องไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป” ผมบอกกับไอ้ไม้แล้วเดินไปหาน้องซัน น้องกำลังนั่งหน้าหงอยอยู่ใต้ต้นฉำฉาที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก   

“ไง ทำไมมานั่งคนเดียว” ผมนั่งลงข้างๆน้อง เขาดูตกใจมากเมื่อเห็นหน้าผม

“รอพี่รหัสไปเอากล้อง” น้องหลุบตาลงต่ำแล้วบอกเสียงเบา

“ไม่สบายอีกเหรอ?” ผมถามเขา

“สบายดีครับ” แต่หน้าน้องดูหงอยๆไม่เหมือนอย่างที่พูดเลยสักนิด

“เราโอเคหรือเปล่า มีอะไรบอกพี่ได้นะ” ผมบอกกับเขาอย่างเป็นห่วง

“ผมโอเค พี่นั่นแหละ ง้อแฟนสำเร็จแล้วเหรอครับ” ผมทำหน้างง แฟนอะไรวะ? ก็โสดมาตั้งนานแล้วนะ

“พี่ยังไม่มีแฟน” ผมบอกไปตามตรง

“ก็พี่จูนนั่นไง แฟนพี่ไม่ใช่เหรอ” น้องถามพร้อมทำหน้าจ๋อย เห็นแล้วอยากจะบีบแก้มเล่นเลย

“เนปจูน?” ผมถามให้แน่ใจอีกครั้ง

“ก็ใช่ไง! พี่จูนน่ะ แฟนพี่ไม่ใช่หรือไง” ผมทำหน้างง จูนเนี่ยนะแฟนผม ท่าทางน้องจะเข้าใจผิดใหญ่แล้ว อย่าบอกนะว่าเห็นผมกับจูนเมื่อคืนน่ะ งั้นก็แสดงว่า…น้องก็คงชอบผมเหมือนกัน ใช่ไหม…

“จูนไม่ใช่แฟนพี่” น้องทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ

“…”
   
“จูนเป็นพี่สาวพี่ พี่สาวแท้ๆ” ผมบอกน้องอย่างใจเย็น แต่น้องดันทำหน้างงหนักกว่าเดิม “ถ้าไม่เชื่อจะดูทะเบียนบ้านไหม หรือจะไปหาพ่อกับแม่พี่ดี?” ผมถามน้องพร้อมทำหน้ากวน เห็นหน้างงๆของน้องแบบนี้แล้วอยากแกล้งชะมัด

“ไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ” น้องบอกพร้อมหลุบตาลงต่ำอีกรอบ

“จูนน่ะไม่ใช่แฟน” ผมเดินไปยืนหน้าน้อง

“รู้แล้ว”

“แต่คนที่อยากให้เป็นแฟน…ก็นั่งอยู่ตรงหน้าแล้วนี่ไง” น้องเงยหน้ามองผมอย่างตะลึง มุกนี้เจ๋งสัส มึงคิดได้ไงวะเสาร์ โคตรคูล! “พูดจริงนะ พี่…ชอบซัน” ถึงผมจะตัวใหญ่แต่ผมก็เขินเป็นนะ! แล้วดูหน้าน้องตอนนี้ดิ อย่าบอกนะว่าจะปฎิเสธรักพี่น่ะ นี่ผมจะแห้วเหรอ? เฮ้ยย ไม่นะ!

“ผมงงไปหมดแล้ว” น้องทำหน้าสับสน

“ยังไม่ต้องตอบอะไรก็ได้ พี่ไม่รีบ” แค่ซันไม่ไล่เตะพี่ก็พอ

“ชอบผมเนี่ยนะ ชื่อพี่ผมยังไม่รู้เลย” เฮ้ย! นี่จริงดิ! ผมข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ไงวะ นี่น้องยังไม่รู้จักผมจริงอะ!? ไม่ได้หลงตัวเองนะ แต่คนทั้งภาคก็ต้องรู้จักเดือนมหา’ลัยอย่างผมไหมอะ เสียเซลฟ์เลยกู

“หมดความมั่นใจเลยอะ” ผมสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง “ต้องแนะนำตัวก่อนใช่ไหม พี่ชื่อเสาร์นะ ชื่อเล่นชื่อเสาร์ ชื่อจริงก็ชื่อเสาร์” ผมเห็นน้องหลุดขำเล็กน้อย

“โอเคครับ ผมชื่อซัน แต่ชื่อจริงไม่ได้ชื่อซันนะ” น้องยักคิ้วกวนส่งมาให้ หน็อย แสบไม่ใช่เล่นเลยนะ

“ครับ รับทราบครับ” แล้วนี่คือยังไงอะ ตกลงน้องชอบผมไหม แล้วผมควรทำไงต่อเนี่ย “เอ่อ…ไปไม่เป็นเลยแฮะ” ผมเกาหัวแก้เขิน

“พี่ยังไม่ได้ผูกข้อมือให้ผมเลย” น้องก้มมองสายสิญจน์ที่ถูกผูกอยู่เต็มข้อมือเขา

“หึๆ” ผมหัวเราะเล็กน้อย เขาน่ารักจนผมอยากลุกไปฟัดแรงๆเลย “ยื่นมือมาหน่อยครับ” ผมควักสายสิญจน์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ สายสิญจน์ที่ผมเตรียมไว้ให้เขาตั้งแต่เมื่อคืน น้องซันเลยยื่นข้อมือข้างที่ไม่มีสายสิญจน์ผูกอยู่เลยมาให้ผม “ขอต้อนรับสู่ภาคของเราอย่างเป็นทางการนะครับ” ผมเริ่มผูกข้อมือให้น้อง “อยากได้คำแนะนำอะไรบอกพี่ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ แล้วอย่างที่บอก เดี๋ยวพี่เอาชีทมาให้”

“ขอบคุณครับ” น้องยิ้มน่ารักอีกแล้ว

“ไม่อยากถามอะไรเลยเหรอ เรียกยากไหม อาจารย์เป็นไง การบ้านเยอะไหมอะไรแบบเนี้ย ไม่อยากรู้เลยเหรอ” ผมถามยาว

“อยากรู้ถ้าว่าเขินแล้วต้องทำยังไง คือตอนนี้ผมเขินมากเลย” น้องเกาหัวแกรกๆ

“อันนี้ให้คำตอบไม่ได้ เพราะตอนนี้พี่ก็เขินเหมือนกัน” เรามองตากันยิ้มๆ แม้ตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไร แต่ผมกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

“อะแฮ่มๆ” เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ “ผมขอรบกวนเวลาสักครู่ได้ไหมครับ พอดีจะขอถ่ายรูปกับน้องรหัสหน่อย” ไอ้พายเพื่อนสนิทอีกคนที่เป็นสายรหัสปีสามของน้องซันถามอย่างกวนตีน

“เชิญครับ” ผมบอกเพื่อนสนิท “พี่ไปก่อนนะ ไว้เจอกัน” ผมยิ้มให้น้อง

“จะไปแล้วเหรอจ๊ะพี่เสาร์จ๋า ไม่รอพาน้องซันขาไปด้วยหรือไงค้า” ไอ้พายแอ๊บเสียงกระเทยกวนตีน

“ไปไกลๆตีนเลยไป” ผมทำท่าถีบเพื่อนสนิท ส่ายหัวน้อยๆให้กับความไม่เต็มเต็งของเพื่อน “ไปนะครับ” ผมบอกกับน้องอีกครั้ง น้องซันยิ้มให้แล้วพยักหน้าหงึกๆ โอ๊ยยย ขอฟัดได้ไหม
   
SUN’S PART

พี่เสาไฟฟ้า เอ้ย! พี่เสาร์...ชอบผม….

โอ๊ยยย ไม่อยากจะเชื่อเลย! เราใจตรงกัน! ผมไม่ได้เพ้อไปคนเดียว! ไม่ได้อกหักแล้วด้วย! เย้!~

“หน้าระรื่นเชียวไอ้สัส” ไอ้ภีมผลักหัวผมอย่างหมั่นไส้  “ยังไม่ได้บอกกูเลยว่าไปได้ยาดีที่ไหนมา” ยาดีที่ชื่อเสาร์ไง โอ๊ยยย พูดแล้วก็เขินง่ะ

“เรื่องของกูน่า” ผมเดินไปหยิบกระเป๋าเพื่อเตรียมกลับหอ เราถึงมหา’ลัยกันพักใหญ่แล้วครับ พี่ๆเพิ่งจะปล่อยเราเมื่อกี้นี่เอง

“แล้วนี่กลับบ้านเลยป้ะ” ไอ้ภีมถาม

“กลับหอก่อน ดึกๆแม่จะมารับ” ผมบอกกับเพื่อนสนิท “ไปละ ไว้เจอกันนะมึง” ผมบอกลาเพื่อนสนิทก่อนจะเดินกลับหอตัวเอง หอผมอยู่ใกล้แค่นี้เองครับ เดินไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว

“ซัน!” เดินได้สักพักผมก็มีคนตะโกนเรียก พี่เสาร์?

“พี่เสาร์ มีอะไรหรือเปล่าครับ” พี่เสาร์หยุดวิ่งแล้วหอบแฮ่กๆ ภาพตรงหน้าทำเอาผมขำเล็กน้อย

“กลับหอเหรอ?” พี่เสาร์ถาม

“ครับ เดี๋ยวดึกๆแม่มารับ” เราเดินกันต่อ “พี่เสาร์ล่ะ กลับหอหรือกลับบ้าน” ผมถามพี่เสาร์บ้าง

“กลับหอเหมือนกัน พี่ช่วยถือไหม” พี่เสาร์ทำท่าจะคว้าเป้ผมไปถือแต่ผมยื้อไว้ก่อน

“ไม่เป็นไร ผมถือเอง”

“โอเคๆ นี่ไปหอ C ใช่ไหม?”

“รู้ได้ไง เป็น stalker หรือเปล่าเนี่ย” ผมแกล้งทำท่าระแวงพี่เสาร์

“เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ” พี่เสาร์ปฏิเสธยกใหญ่ จะตกใจอะไรขนาดนั้น

“ฮ่าๆ ผมล้อเล่นครับ” จะเป็นไรไหมถ้าผมจะบอกว่าพี่เขา…น่ารัก “แล้วตกลงรู้ได้ไงว่าผมอยู่หอไหน”

“รู้เรื่องของคนที่ชอบ ผิดด้วยเหรอ” พี่เสาร์หยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผม ทำเอาใจเต้นตึกตักเลย

“พี่เสาร์” ไปไม่เป็นเลยกู

“เดี๋ยวพี่เดินไปเป็นเพื่อนแล้วกัน หอพี่ใกล้กับหอซัน” พี่เสาร์เดินนำ ผมเลยต้องเดินตาม

“นี่ๆ รู้อะไรไหม ชื่อเราคล้ายกันเลยนะ” พี่เสาร์ชวนคุย ตอนนี้เราใกล้ถึงที่หมายเต็มที

“คล้ายกันยังไงครับ” ผมทำหน้างง

“ก็วันเสาร์กับวันอาทิตย์ไง” ผมขำพรืด นี่มุกหรืออะไร

“ชื่อผมไม่ได้แปลว่าวันอาทิตย์สักหน่อย” พี่เสาร์ทำหน้าให้ผมตลกอีกแล้ว “ดาวเสาร์กับดวงอาทิตย์ต่างหาก”

“แต่ดาวเสาร์ไม่ได้คู่กับดวงอาทิตย์นี่” พี่เสาร์งอแง น่ารักดี ไม่คิดว่าพี่เขาจะมีมุมเด็กๆแบบนี้

“งั้นเรามาสร้างโลกของเราดีไหมครับ โลกที่ดาวเสาร์อยู่คู่กับดวงอาทิตย์ไง” พี่เสาร์หันมายิ้มกว้างส่งให้ผม แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ยิ้มตอบกลับไปได้ยังไง

เราเดินเคียงข้างกันไปเรื่อยๆ รู้สึกปลอดภัย อบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พี่เสาร์ยิ้ม ผมยิ้ม เราเดินยิ้มให้กัน

และผมหวังว่าต่อไป…เราจะเดินยิ้มให้กันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ…

เดินข้างกันแบบนี้ไปนานๆเลยนะ…ดาวเสาร์ของผม

end...

จบแล้ววว /จุดพลุฉลองแอนด์ปิดซอยเลี้ยงงง  :mc4:
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำแนะนำนะค้า :pig4: 
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราเขียนจบและมีโอกาสลง /ดีใจน้ำตาปริ่ม  :hao5:
เจอกันเรื่องหน้าเน้ออออ (ถ้าแต่งจบล่ะนะ) บ๊ายบายยย /ส่งจูบ  :mew1:

 :pig4:  :L2:  :pig4:  :L2:  :L1:  :L2:  :L1:  :L2:  :L1:  :L2:  :L1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2017 21:14:25 โดย 16meena »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #15 เมื่อ07-03-2017 21:22:28 »

อ่ะ..จบแล้วหรา ขอตอนพิเศษด้วย..ยยยยย
ว่าแต่ทำไมยังห้อย to be continue...  :hao4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #16 เมื่อ07-03-2017 21:31:09 »

น่ารักมากกกกก มุ้งมิ้งดี ชอบบบบบ
เสาร์ ซัน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #17 เมื่อ08-03-2017 00:56:37 »

น่ารักและแล้วดาวเสาร์ ก็คู่กับพระอาทิตย์

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #18 เมื่อ09-03-2017 02:19:41 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #19 เมื่อ09-03-2017 14:59:22 »

น่ารักมากค่ะ


 :-[ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
« ตอบ #19 เมื่อ: 09-03-2017 14:59:22 »





ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #20 เมื่อ09-03-2017 16:42:32 »

โอ้ยๆๆๆ อ่านไปยิ้มไป  :o8:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #21 เมื่อ10-03-2017 00:21:05 »

 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #22 เมื่อ12-03-2017 09:35:38 »

น่ารักมาก ๆ เลยครับ ......................... ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #23 เมื่อ13-11-2018 21:44:57 »

สนุกดี บรรยากาศในรั้วมหา'ลัย เรียลมากๆ
แต่จบห้วนมากเลยอะ แง โมเมนต์น้อยยย 5555555555555

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #24 เมื่อ04-12-2018 06:11:02 »

เง้ยน่ารัก ให้บรรยากาสไปค่ายสึดๆเลย

ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #25 เมื่อ05-12-2018 12:34:58 »

สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ Morgen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #26 เมื่อ05-12-2018 12:44:35 »

น้องซันพี่เสาร์ ฉันเขิน น่ารักๆๆๆๆๆ :-[

ออฟไลน์ moomee1112

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #27 เมื่อ05-12-2018 19:40:22 »

หืมมม น่ารักมากอะ อ่านไปเขินไป :mew1:

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 876
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #28 เมื่อ05-12-2018 20:13:44 »

 :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: [เรื่องสั้น] LOVE IN A CAMP [07/03/60] (*จบ)
«ตอบ #29 เมื่อ06-12-2018 15:42:37 »

 :L2: :pig4:

น่ารัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด