นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า  (อ่าน 74770 ครั้ง)

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ทั้งสองอย่าเพลิดเพลินกันเกินไปป เจ้าอยุ่ในถิ่นของศัตรูนะอย่าลืมมม

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :hao6: รอออ ว้าาาา หมิงๆยังรู้สึกตัวแย่จัง 5555 :hao7: สั้นจังเลยยย :ling1: รอตอนต่อไปจ้า  :pig4:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เล็กๆน้อยๆก็ถือว่าดี  ให้พี่ใหญ่เตียมใจมากกว่านี้สักหน่อย

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0


ตอนที่28



ช่วงเวลาแห่งความร้อนรุ่มกินเวลากว่าสามชั่วยาม เมื่อยาปลุกกำหนัดหมดฤทธิ์เสวี่ยหมิงก็ค่อยๆได้สติกลับมา ถึงแม้ว่าจะปลดปล่อยออกไปหลายครั้งแต่ด้วยพลังวัตรที่มากล้นทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเท่าใดนัก



“เสี่ยวหลงพอได้แล้ว....อา....ยาหมดฤทธิ์แล้ว.....”



บอกล่าวให้เสี่ยวหลงเข้าใจ เด็กน้อยแม้จะมีท่าทีอิดออดแต่ก็รามือตามเขาสั่ง เสวี่ยหมิงรีบลุกขึ้นมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองทันทีเพื่อกลบเกลื่อนความอายของตน



“เจ้าเองก็รีบแต่งตัวเข้าเถิด”



ออกคำสั่งรัวเร็วไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองเสี่ยวหลง เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จหันไปเผชิญหน้ากับเสี่ยวหลงเด็กน้อยเองก็แต่งตัวเสร็จแล้วเช่นกัน



“เอ่อ....” เสวี่ยหมิงอึกอักไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี ขอบคุณหรือขอโทษล้วนแต่กล่าวออกไปได้ยากทั้งนั้น



“พี่ใหญ่ เม่ยเหนียงรออยู่ด้านนอกนานแล้วเราออกไปกันเถอะ”



ไม่คาดว่าเสี่ยวหลงจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้เองที่เสวี่ยหมิงรู้สึกไม่ถูกต้อง เขาเกิดความสับสนในใจจนต้องเอ่ยเป็นคำพูด



“เจ้าไม่โกรธพี่ใหญ่ที่บังคับให้ทำเรื่องบัดสีเช่นนั้นรึ”



“เหตุใดต้องโกรธด้วยเล่า พี่ใหญ่ก็พูดเองว่าท่านชอบข้า ก่อนหน้านั้นข้าเองก็เพิ่งบอกว่าชอบท่านเช่นกัน เราสองคนต่างใจตรงกันหาได้มีเรื่องต้องบาดหมางกันไม่”



ตอนนี้เองที่เสวี่ยหมิงหน้าแดงก่ำ เขายังจำได้ว่าได้พร่ำเพ้อสิ่งใดให้เสี่ยวหลงฟัง พวกเขาสองคนต่างบอกรักเร่าร้อนถึงเพียงนั้น คำพูดที่พ่นไปแล้วไม่สามารถนำกลับไปเก็บไว้กับตนเองอีกได้



“พี่ใหญ่หากท่านลำบากใจล่ะก็ ข้าจะถือว่าท่านไม่ได้พูด ตามจริงมันก็เป็นคำพูดตอนท่านขาดสติข้าไม่เก็บมาคิดจริงจังหรอก”



“จะได้อย่างไร”



เสวี่ยหมิงกลับรู้สึกว่าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ตอนนี้เกิดความคิดคล้ายต้องการรับผิดชอบต่อเสี่ยวหลงอย่างจริงจัง



“ให้ข้าได้รับผิดชอบเถอะนะหลงเอ๋อ”



เสวี่ยหมิงเดินเข้าไปหาแล้วจับมือของเด็กน้อยขึ้นมากุมไว้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแววตามุ่งมั่นจนแม้แต่เสี่ยวหลงยังรู้สึกได้ แต่มันยังแสร้งโง่เล็กน้อยเปิดทางให้พี่ใหญ่ได้ถอยหลัง



“รับผิดชอบอันใดพี่ใหญ่”



“ก็เรื่องที่ข้าล่วงเกินเจ้าเมื่อคืนอย่างไรเล่า”



“พี่ใหญ่”



 ตามจริงแล้วมันดีใจยิ่งที่พี่ใหญ่ตั้งใจรับผิดชอบ ทว่ามันกลับไม่อยากนำเรื่องราวเช่นนี้มาบังคับให้เสวี่ยหมิงรับรักมัน ดังนั้นมันจึงพูดจาให้โอกาสพี่ใหญ่หลีกหนี



 “เรื่องสุดวิสัยเช่นนั้น ข้าไม่ถือสาเลยซักนิด อย่าได้ตัดสินใจผลีผลามสิ”



“ข้าหาได้ผลีผลามไม่ ข้าจริงจังนะหลงเอ๋อ จากนี้ไปให้ข้าได้รับผิดชอบตัวเจ้าเถิดนะ”

 

เสวี่ยหมิงอ้อนวอน ไม่เคยจริงจังกับใครเช่นนี้มาก่อน เขาถึงขั้นคุกเข่าลงตรงหน้าหวังให้เสี่ยวหลงเห็นใจ



“พี่ใหญ่อย่าได้คุกเข่าเช่นนั้น”



“หากเจ้าไม่อยากเห็นข้าทำแบบนี้ เจ้าก็รับรักข้าเสียสิ”



สองคนประสานสายตาจ้องมองกันเนิ่นนาน เสี่ยวหลงรู้ใจตัวเองดีว่าทั้งรักและลุ่มหลงในตัวพี่ใหญ่ ทว่าหากมันตกลงปลงใจเรื่องราวที่ปิดบังไว้อีกเล่าจะทำเช่นไร ตอนที่ยังไม่ได้เป็นคนรัก มันก็ทรมานใจมากพอดูกับการที่ต้องหลอกใช้พี่ใหญ่ หากเป็นคนรักแล้วมันจะทนหลอกลวงพี่ใหญ่ต่อไปได้หรือ



“พี่ใหญ่ข้าตามจริงหาใช่คนดีไม่ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ปิดบังซ่อนเร้นท่านไว้ ข้าเป็นคนเลวร้ายเช่นนี้ท่านยังรับได้หรอกหรือ”



“ปิดบังอันใด” เสวี่ยหมิงอดสงสัยไม่ได้ หลงเอ๋อยังมีความลับใดหลบซ่อนอยู่อีกหรือ



“เป็นความลับที่พอท่านทราบแล้วท่านอาจโกรธข้ามากก็เป็นได้”



“บอกตอนนี้ได้หรือไม่” เสวี่ยหมิงลองถามหยั่งเชิงดู ถึงแม้มีความสงสัยในตัวตนที่แท้จริง แต่หาได้มีความระแวงในตัวหลงเอ๋อ



“หากบอกไปตอนนี้เกรงว่าพี่ใหญ่จะเป็นอันตราย”



“เจ้าจะบอกว่าเจ้าเป็นห่วงข้ารึ”



“พี่ใหญ่ ข้าเองก็รักท่านนะ ข้ายินดีที่จะตอบสนองท่านทุกเมื่อหากท่านต้องการ แต่ว่าข้าไม่สามารถบอกความจริงแก่ท่านตอนนี้ได้ และเมื่อถึงเวลาที่ความจริงปรากฏท่านอาจจะเกลียดชังข้าแล้วทิ้งข้าไป สู้เราไม่ถลำลึกให้มากเกินไป เป็นพี่น้องกันเช่นนี้ไปก่อน ไว้ข้าพร้อมจะบอกความจริงแก่ท่านเมื่อไหร่ เมื่อถึงวันที่ความจริงทุกอย่างเปิดเผย หากท่านยังรักและเอ็นดูข้าอยู่ถึงตอนนั้นเราสองคนจะไม่แยกจากกันอีกตลอดกาล ท่านว่าดีหรือไม่”



“เป็นความลับที่ไม่สามารถบอกข้าได้ในตอนนี้หรือ”



เสี่ยวหลงพยักหน้า ตอนนี้มันเริ่มจะหวาดกลัวต่อปฏิกิริยาต่อไปของเสวี่ยหมิง เปิดเผยไปมากเช่นนี้หากเป็นคนอื่นคงสลัดมันทิ้งเพราะหวาดระแวง มันเกลียดตัวเองนักที่เลือกความรักมากกว่าหน้าที่ไปเสียแล้ว



จากนี้ไปมันอาจจะต้องหาทางลอบเข้าไปในพรรคมังกรพิโรธด้วยวิธีใหม่ นอกจากนั้นแล้วมันอาจจะต้องสูญเสียพี่ใหญ่ไปนับแต่ตอนนี้ก็เป็นได้



“พี่ใหญ่ ข้าหาได้คิดร้ายต่อท่านไม่ หากท่านไม่เชื่อใจข้าแล้วท่านจะไล่ข้าไปเสียเดี๋ยวนี้ก็ได้ ข้าจะไม่โทษท่านแม้เพียงนิด”



เสี่ยวหลงยิ้มเศร้า สำหรับเสวี่ยหมิงแล้วยิ่งทำสีหน้าเช่นนี้เขายิ่งรู้สึกว่าหลงเอ๋อช่างงดงามยิ่งนัก ตามจริงเขามีความขุ่นเคืองอยู่บ้างที่เด็กน้อยไม่ยอมบอกความจริงท่าเดียว ตอนนี้ความคิดอ่านของเสวี่ยหมิงแล่นฉิว เด็กน้อยนี่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคมังกรพิโรธ ความลับที่ปิดบังเอาไว้คงเป็นความลับที่เกี่ยวข้องกับพรรคและตัวเขาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง



เสวี่ยหมิงเองใช่ว่าจะลืมเรื่องที่ตนเองถูกคนสกุลเสวี่ยหลอกใช้ ความเจ็บปวดที่ถูกหลอกลวงยังคงอยู่ในความทรงจำ เวลานี้หลงเอ๋อที่เขาปักใจรักเองก็สารภาพว่ากำลังหลอกใช้เขาเช่นกัน เสวี่ยหมิงหาได้ไม่ทราบว่าตอนนี้ตนเองรู้สึกเช่นใด



หากบอกว่าไม่ผิดหวังก็โกหกตัวเอง ทว่ายามที่มองดูรอยยิ้มเศร้าๆของคนที่รักแล้วก็ให้เกิดเจ็บที่อก ทั้งสงสารทั้งเจ็บปวดที่ถูกปฏิเสธรักและเลือกจะหลอกลวงเขาต่อไปถึงแม้ว่าจะเพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพของเขาก็ตาม กระนั้นแววตาที่เต็มไปด้วยความทรมาณของเด็กน้อย มันทำให้เขาตัดสินใจได้



“ข้าไม่ไล่เจ้าไปหรอกหลงเอ๋อ”



เสี่ยวหลงกลั้นหายใจ รอคอยพี่ใหญ่ของมันว่าจะพูดอะไรต่อ



“บอกตามตรงข้าชอบเจ้ามากจนไม่สามารถตัดใจจากเจ้าได้ในพริบตา ตอนนี้ข้าอยากทดสอบตัวเองให้โอกาสทั้งเจ้าและตัวข้า ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะบอกความจริงต่อข้า ตอนนี้หากมันจะทำให้เจ้าสบายใจ เราสองคนจะเป็นพี่น้องกันไปก่อน ข้าหวังว่าเมื่อความจริงปรากฏเจ้าจะไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวัง”



“พี่ใหญ่”



ไม่ทราบว่ามันเป็นอะไรถึงบ่อน้ำตาตื่นเช่นนี้ มันซาบซึ้งในความใจกว้างของพี่ใหญ่จนสุดพรรณนา



“ตอนนี้ภายในใจท่านคงไม่ไว้วางใจเสี่ยวหลงแล้วใช่หรือไม่”



“ข้าไม่โกหกหลงเอ๋อมีความคิดเช่นนั้นบ้าง แต่คงไม่มีใครมาบอกคนอื่นให้รู้ตัวว่ากำลังโกหก ดังนั้นจึงไม่ทำให้ความรักที่มีต่อเจ้าเบาบางไป ทว่าต่อแต่นี้เราจะรักกันแบบพี่น้องตามที่หลงเอ๋อขอเอาไว้ เช่นนี้แล้วคงจะดีที่สุดต่อสถานการณ์ตอนนี้ของเรา เจ้าว่าดีหรือไม่”



“พี่ใหญ่”



เสี่ยวหลงผวาเข้ากอดรัดเสวี่ยหมิงด้วยความตื้นตันก่อนจะเผลอไผลประทับจูบบนริมฝีปากของพี่ใหญ่ กว่าจะรู้ตัวมันก็ล่วงเกินเสวี่ยหมิงไปมาก มันรีบผละออกด้วยความลำบากใจ



“โกรธข้าหรือไม่” เสวี่ยหมิงส่ายหน้า



“ไม่โกรธ แค่เสียดายที่มันจะกลายเป็นจูบแรกและจูบสุดท้ายต่อการเป็นคนรักของเรา เสี่ยวหลง เจ้าแน่ใจนะว่ายังไม่อยากบอกความจริงกับพี่ใหญ่ตอนนี้”



“ให้เวลาข้าครุ่นคิดอีกซักหน่อยเถิดพี่ใหญ่”



“เข้าใจล่ะ เมื่อครู่เจ้าบอกว่าเม่ยเหนียงรออยู่ข้างนอกรึ”



“ถูกต้องพี่ใหญ่”



ตอนนี้เองที่ใบหน้าของเสวี่ยหมิงแดงซ่าน นางรออยู่ข้างนอกไม่ใช่ว่าได้ยินเรื่องดีงามของเขากับเด็กน้อยทุกเรื่องแล้วรึ จังหวะที่คิดเช่นนั้นเสี่ยวหลงก็เปิดประตูห้อง เสวี่ยหมิงจะบอกให้เด็กน้อยช้าก่อนก็ไม่ทันเสียแล้ว



เมื่อเปิดปะตูออกไปก็พบว่าเม่ยเหนียงนั่งซุกใบหน้าลงกับเข่าของตัวเอง นางค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพวกเขา นัยดวงตาบอกชัดว่าเจ็บปวดเสียใจ



“พี่ใหญ่ ออกมาแล้วหรือคะ”



เม่ยเหนียงกล่าวเสียงระโหย นางตอนนี้รู้ตัวว่าเทียบไม่ได้กับเสี่ยวหลง นางได้ยินคำบอกรักและเสียงครางชัดเจนทุกถ้อยคำ แต่กระนั้นก็ยังทนยืนฟังเพราะต้องการที่จะตัดใจจากพี่ใหญ่ให้ได้ กระนั้นช่วงหลังของความเร่าร้อนนางยอมรับว่าจิตใจเหม่อลอยแทบไม่รับรู้ความจริงไปแล้วเช่นกัน นางภาวนาให้พี่ใหญ่กับเสี่ยวหลงออกมาจากภายในห้อง รอคอยอยู่หลายชั่วยามในที่สุดพวกเขาก็ออกมาเสียที



“เม่ยเหนียงเจ้านั่งรออยู่ตรงนี้ตลอดเลยรึ” เสวี่ยหมิงถาม นางพยักหน้า



“เอ่อ.... จริงสิเราไปช่วยผู้หญิงที่ถูกขังไว้ในคุกกันดีกว่านะ ป่านนี้พวกนางไม่รู้เป็นอย่างไรไปกันเถอะ”



เบี่ยงประได้สวย เม่ยเหนียงไม่ถามถึงเรื่องราวภายในห้อง ไม่นานนักเสวี่ยหมิงก็นำทั้งสองคนมายังห้องขังปลดปล่อยเหล่าสตรีผู้น่าสงสารกลับคืนสู่บ้านของพวกนางได้เป็นผลสำเร็จ



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



เป็นตอนที่คิดหนักว่าจะเขียนออกมาแบบไหน แต่เลือกจะเขียนออกมาแบบนี้ 5555



หวังว่าคนจะไม่ด่าเจ้าเสี่ยวหลงกับเสวี่ยหมิงมากไปน้า คนเขียนก็รู้นะว่าเขียนไรไป



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
หมิงควรตะโกรธบ้างนะตอนรุความจริง

แต่ไม่ต้องโกรธนานมากนะ

ออฟไลน์ lovetogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คงไม่จบเศร้านะไรต์ ถ้าจบไม่นี่ไรต์เตือนล่วงหน้าหน้าไปให้ไปทำใจก่อนนะ :katai1:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
ก็นะ.....

ความจริงมันไม่งายที่จะบอก

รอกันต่อไป


ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
หลงๆถึงแม้จะยังไม่ถูกเสียทีเดียวแต่เจ้าก็หันหัวเรือถูกทิศอยู่น้า

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
แอบสงสารเม่ยเหนียงนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
บอกตอนไหนก็ไม่ง่ายทั้งนั้น
ความรู้สึกถูกหลอกใช้ มันเจ็บปวด
ต้องมองจุดประสงค์การถูกหลอกด้วย
แต่ถ้าไม่เข้าใจก็เสียความรู้สึก เจ็บปวด
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0


ตอนที่29



หลังจากเรื่องราวคลี่คลายลงเสวี่ยหมิงก็ร่วมเดินทางไปกับอู่เหว่ยกั๊วะมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง เสวี่ยหมิงตัดสินใจเช่นนั้นเพราะอย่างไรเสียหมิงคงก็เป็นทางผ่านของการมุ่งสู่หุบเขาหมื่นปี



เสวี่ยหมิงและคณะรอนแรมมาได้เกือบสามสิบวันในที่สุดก็มาถึงหมิงคงเสียที เนื่องจากทุกอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทางอู่เหว่ยกั๊วะจำต้องตั้งค่ายพักอยู่นอกเมืองไปก่อน



“พี่ใหญ่คะเราไปเดินเที่ยวกันในเมืองหมิงคงดีหรือไม่” เม่ยเหนียงกล่าวชวนทันทีหลังจากที่มาถึงนอกเมืองหมิงคง



“เจ้าอยากไปเที่ยวในเมืองก่อนออกเดินทางต่อหรือไม่เสี่ยวหลง” เสวี่ยหมิงหันไปถามความเห็น



“ถ้าพี่ใหญ่เห็นว่าดีข้าก็ว่าดีเช่นกัน”



“อย่างนั้นก็ดี”



กล่าวจบเสวี่ยหมิงก็คว้ามือลากเสี่ยวหลงไปตามทาง มันจ้องมองมือที่ยึดจับมันอย่างทนุถนอมแล้วก็ให้เกิคความรู้สึกหลากหลายในใจ  หนึ่งเดือนมานี้พี่ใหญ่ปากก็บอกว่าเป็นพี่น้องแต่กระทำการรุกล้ำมันอย่างต่อเนื่องและตั้งใจ



ไม่ว่าจะเป็นการจับมือถือแขนบ่อยครั้ง หรือแม้แต่การจงใจส่งยิ้มหยาดเยิ้มมาให้ ทุกครั้งที่ทำเช่นนี้จะทำให้มันแทบคลั่งตาย ตัวมันหาใช่นักพรตไม่ย่อมมีทั้งอารมณ์รักและหวามไหวต่อพี่ใหญ่ของมันเพิ่มขึ้นทุกขณะ



ครานี้ยิ่งมาถึงเมืองหลวงยิ่งเห็นได้ชัด พี่ใหญ่เอาอกเอาใจมันด้วยการซื้อขนมปรนเปรอมันมากมายยิ่ง ถึงแม้ว่าจะซื้อให้เม่ยเหนียงเช่นกัน ทว่าดวงตาชม้ายมองทั้งยังการเอาอกเอาใจต่างกันจนใครๆก็ต้องรู้สึกได้



“เจ้าไม่ชอบพุทราเชื่อมหรือเสี่ยวหลง”



 เสวี่ยหมิงเมื่อเห็นเด็กน้อยถือขนมที่ตนซื้อให้เอาไว้เฉยๆก็ให้เกิดความสงสัย หากแม้นไม่ชอบคงต้องหาขนมชนิดอื่นให้ ตัวเขานั้นไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือเบื่อเลยที่จะต้องเอาอกเอาใจเด็กน้อยนี่



คิดๆดูแล้วก็ให้นึกถึงสมัยอยู่กับคุณหนูเสวี่ยถิง เขาในตอนนั้นก็เอาใจนางเช่นนี้ ด้วยมีใจหลงใหลได้ปลื้มจนลืมความเป็นจริง ทว่านั่นเป็นเรื่องเก่า ณ ตอนนี้เพียงต้องการให้เสี่ยวหลงลุ่มหลงในตัวเขาให้มากยิ่งขึ้นหากรักเขาหมดใจเมื่อไหร่เด็กน้อยนี่คงยอมคายความจริงออกมาให้ได้รู้กัน



เขากลายเป็นคนเช่นนี้ไปได้อย่างไรกันนะ คิดเพียงแค่ว่าหากหว่านเสน่ห์ให้เสี่ยวหลงทั้งรักทั้งหลงจนหมดหัวใจ ความรักของพวกเขาคงจะก้าวหน้าขึ้นและความจริงทุกอย่างจะปรากฏ รู้อยู่ว่าการกระทำขจองตนเป็นการผิดคำพูดที่ว่าจะเป็นพี่น้องกันไปก่อน ทว่ากลับไม่เห็นการกระทำของตัวเองเป็นเรื่องหน้าด้านบิดพลิ้วต่อคำกล่าวเดิมไม่



“หลงเอ๋อให้ข้าป้อนให้ดีหรือไม่” กล่าววาจาอ่อนหวานทั้งยังถือวิสาสะยื่นพุทราเชื่อมเม็ดหนึ่งไปยังเบื้องหน้าเสี่ยวหลง เด็กน้อยมีสีหน้าตะลึงพึงเพริด ตลกนักเสี่ยวหลงไม่เคยเห็นมันทำท่าทางเช่นนี้มาก่อน



“พี่ใหญ่หากไม่อายผู้คนก็เกรงใจเม่ยเหนียงบ้างเถิด”

 

เสี่ยวหลงตามจริงใช่ว่าจะอาย แต่ตั้งตัวไม่ถูกจริงๆเมื่อเป็นฝ่ายโดนยั่วเย้า พี่ใหญ่ของมันยิ่งมายิ่งร้ายกาจ นับวันยิ่งทวีความเจ้าชู้จนมันสุดจะอดกลั้น ให้ตายเถอะหากข้าอดทนไม่ไหวจะหาว่าข้าใจร้ายไม่ได้นะเสวี่ยหมิง มันลอบขบฟันก่อนจะเปลี่ยนท่าทางเป็นยิ้มยั่ว



“พี่ใหญ่ล่ะก็อยากป้อนข้าก็ไม่บอก”



กล่าวจบมันก็อ้าปากรอรับการป้อน จงใจส่งสายตาพราวระยับไปให้พี่ใหญ่ของมันอย่างท้าทาย ตอนนี้เองที่พี่ใหญ่ของมันกลืนน้ำลายดังเอือก ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องมารยาหรือจะสู้เสี่ยวหลงผู้นี้ได้



พี่ใหญ่ยิ้มค้างในบัดดลก่อนจะยื่นส่งพุทราเชื่อมเข้าปากมันมือไม้สั่น เสี่ยวหลงจงใจให้ริมฝีปากของมันกระทบถูกกับปลายนิ้วของพี่ใหญ่ ขณะที่จ้องตากันอยู่นั้นมันสัมผัสได้ถึงความปรีดาภายในดวงตาของเสวี่ยหมิงซึ่งส่งผ่านมาอย่างชัดเจน พลันตอนนั้นได้ยินเสียงกระแอมกระไอของเม่ยเหนียงขัดจังหวะเสียนี่



“พี่ใหญ่ข้ารู้ว่าท่านกับเสี่ยวหลงเป็นคนรักกันทว่า ช่วยระวังหน่อยเถิดค่ะผู้คนมองมาตรงนี้กันใหญ่แล้ว”



เม่ยเหนียงหน้าแดงก่ำมากทีเดียว เป็นจริงอย่างที่นางว่าผู้คนมากหน้าต่างมองมา เสวี่ยหมิงรีบทำตัวเป็นปกติแต่ไม่เลิกคว้าจับมือของเสี่ยวหลงไปตลอดทาง



“พี่ใหญ่เราแวะโรงเตี๊ยมเพื่อทานอาหารกลางวันดีหรือไม่คะ” เม่ยเหนียงกล่าวชวนอีก เสวี่ยหมิงยังไม่หิวนักแต่หันไปถามความเห็นจากเสี่ยวหลง



“เจ้าหิวหรือยัง”



“หากพี่ใหญ่ว่าดีข้าก็ว่าดี”



“เม่ยเหนียงหิวใช่หรือไม่” เสวี่ยหมิงหันไปถามเม่ยเหนียงนางผงกหัวตอบรับ



“ถ้าอย่างนั้นเราเข้าไปที่โรงเตี๊ยมกันเถอะ”



จากนั้นพวกเขาก็พากันเข้าไปยังโรงเตี๊ยมใกล้ๆ ภายในนั้นมีผู้คนมากหลายแต่ละคนแต่งตัวด้วยชุดรัดกุมพร้อมทั้งพกอาวุธทั้งนั้นบ่งชัดว่าเป็นผู้มีวรยุทธ เสวี่ยหมิงหาได้สนใจไม่เขาพาเด็กน้อยทั้งสองไปนั่งตรงที่ว่างเรียกเสี่ยวเอ้อแล้วสั่งอาหาร



“อีกไม่กี่วันจะมีการคัดเลือกจ้าวยุทธภพคนใหม่ ยังไงเสียข้าก็คิดว่าพี่ใหญ่หรงเกอเอ่อของเราต้องเป็นผู้ได้รับเลือกแน่ๆ”



เสียงห้าวหาญของชาวยุทธที่โต๊ะใกล้ๆดังกังวานไปทั่ว คาดว่าคงมั่นใจในความคิดของตัวเองนักจึงไม่กลัวเกรงที่จะกล่าววาจายกยอกันเองอย่างเอิกเกริก เสวี่ยหมิงแม้ไม่สนใจแต่ก็ได้ยินชัดเจน



“พี่ใหญ่คาดว่าคงมีงานประลองคัดเลือกจ้าวยุทธภพกันใกล้ๆนี่” เม่ยเหนียงกระซิบ



“เจ้าสนใจหรือเม่ยเหนียง” เสวี่ยหมิงถาม



“ค่ะข้าได้ข่าวมาเหมือนกันว่าจ้าวยุทธภพคนเก่าจะล้างมือในอ่างทองคำในงานนี้ด้วย สถานที่จัดงานประลองน่าจะอยู่นอกเมืองไม่ไกลจากที่ตั้งค่ายอาชาของเรานัก”



“เจ้าพูดอย่างนี้คงอยากไปดูล่ะสิ” เสี่ยวหลงพูดราวกับรู้ทัน เม่ยเหนียงยักไหล่ส่งยิ้มมาให้อย่างยอมจำนน



“ข้าอยากไปดูค่ะพี่ใหญ่ แต่ก็รู้ว่าพี่ใหญ่คงรีบออกเดินทางต่ออีกไม่นาน”



“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รีบไปหรือไม่ แต่เราไม่ได้มีเทียบเชิญนี่สิ พวกเราโผล่ไปอาจเป็นการผิดมารยาท”   



 เสวี่ยหมิงแสดงความคิดเห็นอย่างนุ่มนวล ตามจริงเรื่องประมุขยุทธภพคนต่อไปจะเป็นใครมันไม่เกี่ยวกับเขา แต่พอเม่ยเหนียงพูดก็เกิดความสนใจขึ้นเล็กน้อย



“เฮ้ย ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมีโอกาสได้พบกับมือปราบหน้าหยกกับเขาด้วย” เสียงพูดส่อไปในทำนองเหยียดหยามดังจากคนพูดเดิม เสวี่ยมหมิงและพวกอดจะหันไปมองดูไม่ได้



“คารวะท่านหรงเกอเอ่อแห่งหมู่ตึกหรงขอรับ” คนที่ทำความเคารพเสวี่ยหมิงคาดว่าเป็นคนที่ถูกเรียกขานเป็นมือปราบหน้าหยก เนื่องจากคนผู้นี้แต่งชุดขุนนางฝ่ายบู๊และมีตราห้อยผูกไว้ที่เอว



“เฮอะเรามีศักดิ์ศรีเหนือชั้นกว่ามันใยศิษย์น้องต้องเคารพนอบน้อมมันด้วย” คนในชุดขาวซึ่งอยู่ด้านหลังของมือปราบแสดงออกชัดว่าไม่พอใจทั้งยังส่งสายตาเหยียดหยามไปให้คู่สนทนาของศิษย์น้อง   



“ใยพูดจาเช่นนั้นมู่เกาจง”



“ข้าหาได้พูดผิดไม่หมู่ตึกหรงหาได้มีศักดิ์อันใดเทียบเทียมกับเรือนญาณพิทักษ์ธรรม ยิ่งหรงเกอเอ่อหาได้มีส่วนใดนำมาเปรียบเทียบกับฉินจวิ้นเจี๋ยศิษย์น้องข้าได้”



“หนอย” ตอนนี้คนของหมู่ตึกหลงลุกขึ้นยืนกันหมด เหลือแต่คนผู้หนึ่งเท่านั้นยังนั่งอยู่ เสวี่ยหมิงคาดเดาว่าอาจเป็นหรงเกอเอ่อผู้นำก็เป็นได้



“ขออภัยศิษย์ของข้าพูดจาไร้สาระทุกท่านจากหมู่ตึกหรงอย่าได้ถือสา” เป็นศิษย์น้องฉินจวิ้นเจี๋ยเสียอีกที่ต้องค้อมคำนับหลายครั้ง ทว่าหาได้ทำให้ไฟในตัวของคนหมู่ตึกหรงดับมอดไม่



“ไปขอโทษมันทำไมศิษย์น้อง หรงเกอเอ่อกับพวกหลงตัวเองนักคิดว่าจะได้เป็นเจ้ายุทธคนต่อไป ฟังนะตราบใดยังมีศิษย์น้องฉินอยู่พวกเจ้าอย่าได้หวัง”



“หุบปากสุนัขเสียเจ้าคนหูหนวก ถูกจูเยว่เสวียนเล่นงานมาจนเพี้ยนไปแล้วหรือไร”



เสวี่ยหมิงหูพึ่งทันทีเมื่อมันผู้นั้นกล่าวถึงอาจารย์ เขาคาดว่ามู่เกาจงคงเป็นคนเดียวกับที่อาจารย์เคยเล่าให้ฟัง หนึ่งในสามคนที่หูหนวกไปเพราะเข้ามาลอบกัดอาจารย์ของเขา



จะทำอย่างไรดีถึงจะเข้าไปตีสนิทสืบเสาะหาข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของคนที่แพร่ความลับของอาจารย์ได้นะ เสวี่ยหมิงคิดว่าถ้าได้ถามโดยตรงกับมู่เกาจงคงได้เบาะแสตัวคนร้ายซึ่งบอกที่ซ่อนลับของอาจารย์ไม่มากก็น้อยเป็นแน่



“หนอยอย่าอยู่เลยไอ้คนหูหนวก” ไม่คาดว่าสุดท้ายกลายเป็นการวิวาทจนได้ ทว่าหรงเกอเอ่อกลับใช้มือคว้าจับลูกน้องที่ลงมือคนแรกเอาไว้หยุดยั้งการเคลื่อนไหวของมัน พลางยกยิ้มเป็นกันเอง



“เจ้าไม่ต้องลงมือ เดี๋ยวข้าจัดการเอง” เสวี่ยหมิงได้แต่ถอนหายใจ นึกว่าหรงเกอเอ่อจะเป็นคนใจเย็นที่ไหนได้แค่ห้ามไม่ให้ลงมือเพราะจะจัดการเสียเอง หรงเกอเอ่อใช้กระบวนท่าหมัดกระจกออกหมัดแรงหมายปะทะกับมู่เกาจง





 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


ตัวละครใหม่มาอีกแล้ว55555 นิยายมาถึงครึ่งเรื่องแล้วมั้ง ความจริงของเสี่ยวหลงอยู่อีกไม่ไกล

อีกไม่นานคงได้เปิดเผยตัว รอกันอีกนิดนะ



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
เอาจิงๆ ตอนนี้สับสนไปหมดละ ใครเป็นใครรร

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
รอวันที่เสี่ยวหลงจะเปิดเผยความจริง :mew1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตัวละครใหม่ๆ ก็โผล่มาเรื่อยๆละ

ออฟไลน์ someone0243

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
ติดตามค่ะ รักเรื่่องนี้ก็ตรงมาอัพบ่อยๆนี่แหละ 5555 สนุกมากก เริ่มเข้มข้นขึ้นทุกที :mew1:

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เสวี่ยหมิงออกตัวแรงนะเนี่ย :-[

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ทนได้ทนไป ข้าจะยั่วใครก็ห้ามไม่ได้ 5555

หมิงเอ๊ยยยย น่ารักอ้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่30



ชั่วขณะที่หรงเกอเอ่อกับมู่เกาจงจะปะทะกัน ที่โต๊ะด้านหลังไม่ห่างไปนักคนของหมู่ตึกหรงเตรียมใช้อาวุธลับลอบกัดจอมยุทธจากเรือนญาณพิทักษ์ธรรมซึ่งพิการทางหู เสวี่ยหมิงนึกไม่ชอบใจในการกระทำของคนจากหมู่ตึกหรงทั้งยังรู้สึกว่าการช่วยเหลือครั้งนี้อาจเป็นโอกาสให้นำตัวเขาไปสนิทชิดเชื้อเพื่อสืบข่าวคราว ดังนั้นจึงซัดตะเกียบเข้าใส่เจ้าหมาลอบกัดจนเกิดเสียงดังปัง ทำให้หรงเกอเอ่อ ฉินจวิ้นเจี๋ย และมู่เกาจงรู้ตัวในทันที



“พวกท่านโปรดยั้งมือด้วยถือว่าเห็นแก่หน้าข้า แต่ว่าหากพวกท่านไม่ยอมรามือข้าจะขอใช้อำนาจมือปราบของทางการจับพวกท่านฐานหาเรื่องวิวาทนะ”



 ฉินจวิ้นเจี๋ยรู้ดีว่าตนเองใช้อำนาจในมือไม่ถูกต้องเสียทีเดียว แต่จะให้ทำเช่นใดเล่าหากไม่ใช่วิธีนี้ก็ไม่รู้จะหลีกเลี่ยงการปะทะอย่างไร



หรงเกอเอ่อเมื่อได้ฟังก็แค่นเสียงดังเฮอะ “คนขี้ขาดมักอ้างกฎหมาย โชคดีที่เจ้าเป็นมือปราบนะฉินจวิ้นเจี๋ย พวกเราไป” กล่าวจบคนของหมู่ตึกหรงก็ทยอยเดินตามหรงเกอเอ่อออกจากโรงเตี๊ยมไป เสี่ยวเอ้อที่หลบดูสถานการณ์อยู่แสดงสีหน้าดีอกดีใจที่คนก่อเรื่องออกจากโรงเตี๊ยมของมันไปได้เสียที



“ท่านผู้นี้ไม่ทราบว่ามีชื่อเสียงเรียงนามใด” มู่เกาจงถึงแม้หูหนวกจากการทำร้ายของจูเยว่เสวียนแต่มันได้ฝึกวิชาอ่านปากจนช่ำชองมาก่อนดังนั้นการสนทนาจึงไม่ทำให้มันลำบากแต่อย่างใด



“ข้ามีนามว่าเสวี่ยหมิง ส่วนสองคนนี้คือน้องชายน้องสาวของข้า เสี่ยวหลง และอู่เม่ยเหนียง”



มู่เกาจงมองดูลักษณะของแต่ละคนแล้วก่อให้เกิดความละลานตา ทั้งสามล้วนมีรูปลักษณ์ดีเยี่ยมคาดว่าคงเป็นลูกผู้มีอันจะกิน หรือเป็นศิษย์จากสำนักยุทธอันล้ำเลิศจากที่ใดที่หนึ่ง ทว่าจากการแต่งตัวเรียบง่ายคงมิใช่บุตรของคหบดีกระมัง



“ข้าขอทราบนามของอาจารย์ท่านได้หรือไม่”



“อาจารย์ฝึกยุทธของข้าหาใช่คนมีชื่อเสียงที่ท่านจะรู้จักไม่ ท่านมีนามว่าอาจารย์จิ้ง”



มู่เกาจงคล้ายผิดหวัง คนผู้นี้รูปกายเหมาะแก่การฝึกยุทธยิ่งแต่กลับมิได้มีอาจารย์เลิศเลออะไร ที่แท้ผู้ที่ช่วยมันในยามคับขันหาใช่เก่งกาจเท่าใดแค่บังเอิญพบจังหวะเหมาะเพียงเท่านั้น ทว่ามันยังรักษามารยาทได้ดีอยู่ มันหาใช่คนลืมบุญคุณไม่ ช่วยก็คือช่วยดังนั้นมันจึงปั้นยิ้มแล้วกล่าวขอบคุณตามมารยาท



“ต้องขอบคุณคุณชายเสวี่ยมากที่ช่วยข้าเอาไว้จากพวกลอบกัด” มู่เกาจงประสานมือคารวะ



“ถ้ายังไงให้ข้ากับศิษย์น้องเลี้ยงอาหารท่านซักมื้อดีหรือไม่”



“ถ้าไม่รบกวนพวกท่านละก็” เสวี่ยหมิงลอบโห่ร้องในใจ นับว่าทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่ทาง เท่านี้ก็มีโอกาสถามถึงเรื่องของอาจารย์ได้แล้ว



“ถ้าอย่างนั้นเราขึ้นไปจับจองห้องส่วนตัวบนชั้นสองดีหรือไม่ศิษย์พี่” ฉินจวิ้นเจี๋ยที่เงียบอยู่นานเสนอ มู่เกาจงพยักหน้า ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงขึ้นไปยังห้องบนชั้นสอง



ถึงแม้ว่ามู่เกาจงจะมีบ้างที่ทำให้ลำบากใจเวลาพูดด้วย แต่เสวี่ยหมิงใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาทั้งหมดพูดคุยเพื่อให้สนิทสนมกับคนผู้นี้ให้มากที่สุด ผ่านไปครึ่งชั่วยามนับว่าความพยายามได้ผล มู่เกาจงแสดงออกชัดถึงความพึงใจที่จะคบหากับเขาต่อไป



“ตามจริงด้วยลักษณะล้ำเลิศอย่างท่าน ข้าสามารถตอบแทนด้วยการนำท่านเข้าสู่สำนักของเราโดยง่าย” มู่เกาจงกล่าวพลางแย้มยิ้ม เนื่องจากดื่มไปมากจึงเริ่มพูดจาด้วยเสียงป้อแป้



“ศิษย์พี่ท่านดื่มมากไปแล้วกระมัง”



 ฉินจวิ้นเจี๋ยกล่าวเตือน ตามจริงศิษย์ของเรือนญาณพิทักษ์ธรรมจำต้องงดเว้นสุรา ทว่าศิษย์พี่มักเป็นเช่นนี้เสมอจนมันเหนื่อยที่จะตักเตือนดังนั้นจึงมีเพียงมันที่ดื่มน้ำเปล่าระหว่างสังสรรค์



“เพ้ย อย่าวุ่นวายนักเลยข้ากำลังคุยกับน้องเสวี่ยอย่างถูกคอ”



“จอมยุทธมู่เมื่อครู่ตอนท่านเข้าปะทะกับคนพวกนั้น พวกมันกล่าวว่าท่านได้ประมือกับจอมมารจูเยว่เสวียนนั่นจริงหรือไม่”



เป็นเม่ยเหนียงเองที่ตั้งคำถาม เสวี่ยหมิงนึกอยากให้รางวัลนางนักเท่านี้เขาก็ไม่ต้องเผยตัวตนให้มู่เกาจงกับฉินจวิ้นเจี๋ยระแวง



“ตามจริงหากไม่เพราะถูกพันแข้งขาจากพวกกังปังกับหยางเหวินเป่าข้าคงมีโอกาสได้ปลิดชีพจอมมารนั้นเป็นผลสำเร็จ น่าเจ็บใจนักนอกจากผิดหวังยังพลาดท่าต้องมาพิการอีก”



“แล้วท่านรู้ได้อย่างไรละขอรับว่าจูเย่วเสวียนกบดานอยู่ที่นั้น”



“เฮอะ ง่ายดายยิ่ง มีคนแปลกประหลาดมาร่วมโต๊ะกับพวกเราในวันนั้นแล้วบอกข่าวนะสิ”



มู่เกาจงหวนระลึกกถึงวันนั้น วันที่มันร่วมเดินทางกับกังปังและหยางเหวินเป่าเพื่อนสนิทต่างวัยของมัน



“วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนัก ชายแปลกหน้าเดินเข้ามาหาเราแล้วถือวิสาสะร่วมโต๊ะ ตามจริงเราจะไล่ไปแต่คนผู้นั้นเสนอเลี้ยงเหล้าเราจำนวนมากทั้งยังบอกว่าเลื่อมใสในตัวพวกเรา”



“ท่านเชื่อด้วยรึจอมยุทธมู่” เสี่ยวหลงถาม



“เฮอะต่อให้โกหกยังต้องกลัวอันใด พวกข้าสามคนล้วนวรยุทธสูงส่ง ยังคงต้องถล่มเจ้ารูปหล่อแปลกหน้านั่น”



มันหวนระลึกถึงช่วงเวลานั้นอีกครั้งพร้อมเล่าออกมาเป็นฉากๆ



“เจ้าชื่อเสียงเรียงนามอันใด” มู่เกาจงถาม



“ข้าแซ่หลงชื่อเยี่ยอิ่ง พวกท่านคงเคยได้ยินมาบ้างกระมัง”



เพียงเท่านั้นกังปัง มู่เกาจงและหยางเหวินเป่าก็พลันลุกจากโต๊ะและชักอาวุธ พวกมันทั้งสามรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของคนผู้นี้ดี มันคือศิษย์คนรองของจูเยว่เสวียนไม่ผิด ทว่าถึงแม้จะอยู่ในหน้าสิ่วหน้าขวานคนแซ่หลงกลับยังนั่งยิ้ม



“ทีข้ามาวันนี้เพราะมีข้อเสนอน่าสนใจยิ่ง พวกท่านสนใจหรือไม่”



“อย่าไปฟังมันเลย จัดการมันเถอะ” กังปังโวยวายก่อนใคร แต่หยางเหวินเป่ากลับต่างออกไป



“ข้าอยากจะฟัง ท่านมู่ท่านคิดอย่างไร” ตอนนี้มู่เกาจงกลายเป็นคนกลางเสียแล้ว และมันก็สนใจในสิ่งที่คนแซ่หลงพูดไม่น้อย



“คนแซ่หลงเจ้าพูดมา” มู่เกาจงกล่าว



“ข้ารู้ที่ซ่อนลับของจูเย่วเสวียน ตอนนี้มันอ่อนแอยิ่ง พวกท่านสามารถร่วมมือกันพิทักษ์ธรรมให้แก่ยุทธภพโดยง่าย”



เพียงคำกล่าวของคนแซ่หลงดวงตาของพวกมันล้วนเป็นประกาย แต่กังปังยังสงสัยอยู่ดี



“เหตุใดเจ้าต้องเอามาบอกเรา จูเยว่เสวียนมิใช่อาจารย์เจ้ารึ”



“เฮอะพวกมารฆ่ากันเองย่อมดีกับพวกเรา” มู่เกาจงสันนิษฐานว่าคงแย่งชิงกันภายใน กับจูเยว่เสวียนที่ฝีมือล้ำลึกมันยังหากลัวไม่ กับเจ้าหนอนบ่อนไส้เช่นนี้จะจัดการปลิดชีวิตที่หลังจะยากอะไร



“เจ้าบอกมาเสียว่ามารร้ายนั่นกบดานอยู่ที่ใด” มู่เกาจงตัดสินใจแทนทุกคน



“เรื่องนั้นง่ายดายยิ่ง”



คนแซ่หลงยกยิ้ม จังหวะนั้น มีสตรีนางหนึ่งงามหยดย้อยโผล่หน้าเข้ามา นางผู้นั้นกระซิบกระซาบข้างหูคนแซ่หลง เฮอะพวกมันคงไม่รู้ว่ามู่เกาจงผู้นี้ฝึกวิชาอ่านปากอยู่ ดังนั้นมันจึงรู้ได้ทุกถ้อยคำ



“นายน้อยตวนมู่หรงเจ้าค่ะแผนจัดการกับหลงเยี่ยอิ่งพร้อมแล้วนะเจ้าคะ”



เฮอะที่แท้แล้วมันก็ไม่ใช่หลงเยี่ยอิ่ง เรื่องนี้คาดว่าภายในพรรคมังกรพิโรธคงกำลังปั่นป่วน ถึงว่าจอมมารจูจึงได้หนีออกมากบดานด้านนอก นับว่าเป็นเรื่องที่ดียิ่ง ไม่ว่าคนผู้นี้จะเป็นใครย่อมเป็นผลดีต่อยุทธภพของเรา



ดังนั้นมันจึงเชื่อในสิ่งที่คนแปลกหน้าพูดมาครึ่งหนึ่ง แน่นอนว่าเรื่องนี้มันได้บอกกล่าวกับกังปังและหยางเหวินเป่า จากนั้นยังมิได้นิ่งนอนใจนำพาผู้คนจำนวนมากไปล้อมจับมารเฒ่า แต่ไม่คาดว่าจะถูกกับดักที่รายล้อมเล่นงานจนเหลือแต่เพียงพวกมันสามคนเท่านั้น



“แปลก ท่านจะบอกว่าคนที่แจ้งข่าวให้ท่านทราบคือหลงเยี่ยอิ่งตัวปลอมรึ” เสวี่ยหมิงถาม



“แน่นอนวิชาอ่านปากของข้าไม่เคยพลาด” มู่เกาจงถึงแม้เมายังตอบอย่างมั่นใจ



เสวี่ยหมิงตอนนี้สมองถึงกับพองโต ไม่ทราบว่าภายในพรรคมังกรพิโรธอยู่ในสภาพใด ตอนนี้คงเต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างหนัก พลันมีความคิดว่าในเมื่อมีคนปลอมตัวเป็นศิษย์พี่รอง แล้วพี่รองตัวจริงซึ่งรักษาการณ์พรรคอยู่เล่าทำอะไรอยู่ ชักไม่ดีเสียแล้วสิ เสวี่ยหมิงคิดว่าการเดินทางไปยังพรรคมังกรพิโรธครานี้อ่านมีเรื่องอันตรายรออยู่ก็เป็นได้



ทว่าเท่านี้ก็สามารถตัดเป้าหมายออกไปได้หนึ่งคน หากเป็นอย่างที่มู่เกาจงพูดจริงศิษย์พี่รองย่อมไม่ใช่คนทรยศต่ออาจารย์ จะมีคนชั่วคนใดเล่าทำชั่วแล้วบอกชื่อเสียงเรียงนามของตน นับว่าเป็นโชคดีของเขาที่ได้พบข่าวคราวข้อนี้ก่อนไปถึงที่หมาย



ในขณะที่เสวี่ยหมิงครุ่นคิดอย่างหมายมั่นเสี่ยวหลงเองก็มีความคิดของมัน ตวนมู่หรงเขาไม่เคยได้ยิน แต่แซ่ตวนเป็นนามเฉพาะของเชื้อพระวงศ์แห่งต้าหลี นั่นชี้ชัดว่ารัฐหลีจงใจแทรกแซงพรรคมังกรพิโรธ เฮอะคงจะเจ็บใจที่บุกมาคราวก่อนไม่สามารถตีพรรคมังกรพิโรธแล้วผ่านทางอันง่ายดายมาได้กระมัง



เป็นเช่นนี้แล้วมันยิ่งต้องการรู้ประวัติส่วนตัวของหลี่มู่ไป๋กับอิงเฟยมากกว่าเดิม คนแซ่ตวนจะเข้ามาแทรกแซงพรรคมังกรพิโรธมิได้หากไม่มีมือเท้า คงเป็นหนึ่งในศิษย์พี่ศิษย์น้องของมัน หรืออาจจะเป็นคนใดคนหนึ่งเองที่อาจมีเชื้อสายของเชื้อพระวงศ์หลีก็เป็นได้



ตามจริงมันหาใช่ไม่สืบประวัติของทั้งสองมาก่อนไม่ มันเคยให้คนของมันตามสืบไปถึงบ้านเกิด มันทราบว่าหลี่มู่ไป๋เป็นลูกชายแม่นมของสกุลหลี่ซึ่งเป็นคนของตึกโป๊ยเซียนสาขาพรรคมังกรพิโรธ ส่วนอิงเฟยก็เป็นเด็กกำพร้าที่หัวหน้าสาขาบัวสวรรค์เก็บมาตั้งแต่ยังเล็ก ตามจริงสืบมาเท่านี้น่าจะเพียงพอ แต่ครานี้กลับเห็นมีแต่ช่องโหว่



มันไม่ได้สืบถึงที่มาของมารดาบิดาของหลี่มู่ไป๋ และไม่ได้สืบค้นให้ลึกว่าอิงเฟยก่อนหน้านั้นอยู่มาอย่างไรที่จะมาถึงมือของหัวหน้าหมู่ตึกบัวสวรรค์ ตัวมันเองช่างสะเพร่าและปล่อยปละละเลยนัก ทุกสิ่งเป็นความผยองของมันที่คิดว่าอะไรๆล้วนอยู่ในกำมือเพราะมีราชสำนักคอยหนุนหลัง นึกแล้วก็ให้เกลียดตัวเองยิ่ง



“เป็นข่าวที่แปลกประหลาดมาก แต่มันอาจจะดีกับยุทธภพนะพี่ใหญ่ การที่ภายในพรรคมังกรพิโรธรำส่ำระส่าย ยังไงก็เป็นผลดีต่อชาวยุทธฝ่ายธรรมะ”



เม่ยเหนียงออกความเห็น มันทำให้มู่เกาจงพอใจ ถึงกลับกล่าวชมความคิดของนางหลายครั้ง



“จริงสิจอมยุทธมู่ขอรับ เหตุใดคนพวกนั้นถึงหาเรื่องพวกท่านเล่า” เสี่ยวหลงถาม



“ฮ่าฮ่า คงเป็นเพราะหรงเกอเอ่ออยากเป็นเจ้ายุทธภพคนต่อไป ทว่ายังมีศิษย์น้องฉินขวางทางมันอยู่ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย”



“อ้อที่แท้แล้วก็หมายถึงประลองคัดเลือกจ้าวยุทธภพนี่เอง” เม่ยเหนียงกล่าวด้วยท่าทางดีใจยิ่ง



“ข้าอยากไปจังเลยค่ะพี่ใหญ่”



“โอ้ถ้าเจ้าอยากไปย่อมไปได้ ข้ามีเทียบเชิญเหลืออยู่อีก ถือว่าตอบแทนที่พวกเจ้าช่วยข้าเป็นอย่างไร”



มู่เกาจงควักเทียบเชิญออกมาแล้วยื่นให้เสวี่ยหมิง



“คุณชายเสวี่ยท่านต้องไปร่วมเป็นพยานการรับตำแหน่งของศิษย์น้องข้าให้ได้นะ” ถูกรบเร้าถึงเพียงนี้ตามจริงจะปฏิเสธ แต่เม่ยเหนียงกลับเขย่าแขนเขาไปมาคล้ายต้องการให้รับปาก



“ข้าถือว่าท่านรับปากว่าจะไปแล้วนะ”



 เพราะมัวแต่ครุ่นคิดกลายเป็นว่าถูกบังคับให้ตกปากรับคำ รู้สึกว่าครั้งนี้ตนเองชักจะเถลไถลเกินความจำเป็นไปแล้ว ทว่าเม่ยเหนียงกลับโห่ร้องดีใจที่นางจะได้อยู่กับพี่ใหญ่นานขึ้นอีกหน่อย



“เม่ยเหนียงเจ้าต้องไปขออนุญาตท่านอู่ก่อนนะ”



“เจ้าค่ะพี่ใหญ่”



นางทำหน้าระรื่นเสวี่ยหมิงได้แต่ถอนหายใจ ขณะที่เสี่ยวหลงปั้นหน้าขรึม มันวางแผนจะเข้าวังพบบิดาซักครั้งตามหมายกำหนดการซึ่งก็คือคืนนี้ กลับไปครานี้คงมีเรื่องให้สนทนากันอีกมากทีเดียว



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:





รู้สึกว่าปมมันเยอะคนเขียนเองก็ชักงงงง555555 พยายามคลี่คลายปม แต่ทำไมรู้สึกเหมือนขมวดปมแทนกะไม่รุ





งงเด้ๆๆ





เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ลุ้นมากว่าใครคือคนร้าย

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มีพยานยืนยันว่าคนที่บอกข่าว เป็นหลงเยี่ยอิงตัวปลอม
น่าจะซักถามถึงรูปร่าง หน้าตาของหลงเยี่ยอิงตัวปลอม
แต่นี่ก็ทำให้เสวียหมิง เข้าใกล้ไปอีกนิด
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0


งงเด้

แต่ก็รอ


ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เถลไถลจริงๆนะหมิงหมิง
แล้วอย่าไปร่วมวงชิงเจ้ายุทธภพกับเขาด้วยล่ะ :ling1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
อ่านไปแอบบบ งงงเด้อออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด