Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09  (อ่าน 16305 ครั้ง)

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนจบ up 21/09
« เมื่อ30-01-2017 22:10:13 »

***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~





ตอนที่ 1 You will never walk alone




โรคบางโรครู้สาเหตุ บางโรคไม่รู้ บางโรครักษาได้ บางโรครักษาไม่ได้

บางคนเป็นโรคกลัวที่แคบ บางคนเป็นโรคกลัวรู

บางคนแพ้กุ้ง บางคนแพ้ฝุ่น บางคนแพ้ขนสัตว์ บางคนแพ้เกสรดอกไม้

ผมเองก็ป่วยครับ ป่วยชนิดที่หาสาเหตุไม่เจอตราบจนทุกวันนี้ ได้แค่ทำใจและทำตัวให้ชินเพราะผมต้องอยู่กับมันให้ได้



 



สเตอร์ริดจ์ ลากลูกเข้าไป ลากเข้าไป เลี้ยงหักหลบ  คาร์ลิด ลากยาว ลาก ลาก ชิบเสียบสามเหลี่ยม เด เคอา พุ่งตัวปัดสุดตัว ลูกตุงตะข่ายเข้าไป เย้!!!!!!  Gold!!!!!!! Gold!!!!!!!! 2-0  you will never walk alone ดังกระหึมทั่วสนามแอนด์ฟิลด์ ผมที่ยืนตรงบัตรแพงสุดแบบริงไซด์มองเห็น เยือร์เกิน คลอพพ์ โค้ช ลิเวอร์พูลห่างไม่สองช่วงแขน แหกปากร้องเพลงสุดเสียงข้างๆกายผมทั้งสี่ทิศมีแต่ฝรั่งหัวทองที่กอดคอกันด้วยดีใจ  ชนะใครก็ไม่ซ่ะใจเท่าชนะผี ในศึกวันแดงเดือด ผมนี่น้ำตาไหลพรากๆ



“ไอ้ซอ! ปั้ง!! ปั้ง!! ไอ้ซอตื่น”


ผมฝันไปใช่ไม? ไม่น่าใช่ ก็เสียงเพลง  you will never walk alone ดังกระหึ่มในหู ผมอยู่ที่แอนด์ฟิลด์ ยังไม่ได้ซื้อตั๋วกลับไทย 


“ไอ้ซอ! จะตื่นไม่ตื่นห๊ะ อย่าให้ชานเข้าไปได้นะ ปั้ง ปั้ง ตื่น ไอ้ซอ!”


ฝัน!ฝัน!ฝัน! ฝานนนนนนนนนนนนน  ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงที่เรียกผมให้กลับมาจากแอนด์ฟิลด์คือเสียงเจ้ขิม นี่เพิ่ง9โมงจะมารีบปลุกทำไมวะ มีเรียนตั่งตั้งบ่ายโมง



ผมเป็นนักศึกษาธรรมด๊าธรรมดา ที่เรียนอยู่ปี1เทมอ2 วิทยาลัยการบินและการคมนาคม ของมหาวิทยาลัยเอกชลแห่งหนึ่ง ไม่มีความสามารถพิเศษ ชอบดูบอลพรีเมียร์ลีก ชอบอ่านการ์ตูน ไม่ติดโซเชียล ไม่ติดเกมส์  ฝันอยากเป็นสจ๊วจเพราะหวังได้เที่ยวรอบโลกฟรี สมองอยู่ในเกณฑ์ดี  ฐานะที่บ้านปานกลาง


เราเป็นครอบครัวเชื้อสายจีนครอบครัวใหญ่อยู่กันหลายชีวิตอย่าให้เท้าความเลยครับประวัติยาวตั้งแต่อากงนั่งเรือสำเภามาจีนแผ่นดินใหญ่โน้น ผมขอข้ามไปก่อนแล้วกัน


ส่วนบ้านหลังนี้ครอบครัวผมก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นานนัก ก็หมู่บ้านจัดสรรเกษตร-นวมินทร์นี่แหละครับ บ้านสามชั้นห้าห้องนอน สี่ห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว หนึ่งห้องโถงใหญ่ บ้านหลังนี้ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของพี่ๆทั้งสามช่วยกันผ่อน


ป๊าม๊าเป็นผู้จัดการธนาคารทั้งคู่ พี่สาวคนโตชื่อเจ้ขิม ทำงานขายประกัน พี่ชายคนรองชื่อขลุ่ย ทำงานอยู่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พี่ชายอีกคนชื่อฉิ่ง ทำงานอยู่บริษัทเอกชนแถวอนุสาวรีย์ชัย แล้วก็ร้องเพลงที่ผับในตอนกลางคืน


พี่ๆทั้งสามของผมก็ปกติดีทุกส่วนของร่ายกาย แต่ผมสิดันมีโรคประหลาดติดตัวมาตั้งแต่เด็กไม่มีทางรักษา แม้กระทั้งหมอก็ไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับโรคนี้ ไม่มีสาเหตุไม่มีที่มา รักษาหลายที่มาก หมอจีน หมอไทย หมอแขก หมอฝรั่ง หมอผี ก็เคย แต่ก็ไม่หาย  ทางบ้านเลยไม่ปล่อยให้ผมไปไหนมาไหนกับคนที่ไม่รู้จักหรือไม่สนิทชิดเชื้อเด็ดขาด นอกจากเพื่อนหรือคนในครอบครัว ทุกคนจึงเก็บเรื่องอาการป่วยของผมไว้เป็นความลับประจำตระกูลหลิวเลยก็ว่าได้ อย่าถามถึงแฟนครับมีไม่ได้ก็เพราะไอ้โรคเชี่ยนี่แหละ นึกขึ้นมาทีไรก็อดน้อยใจในโชคชะตาไม่ได้ทุกที





“คุณหมอค่ะช่วยลูกดิฉันด้วยนะค่ะ เสียเงินเท่าไหร่ก็ยอมค่ะคุณหมอ ช่วยลูกดิฉันด้วย ซอๆได้ยินม๊ามั้ยลูก ฮือๆๆๆๆ”

“คุณใจเย็นๆก่อน หมอต้องช่วยลูกเราได้ ฝากด้วยนะครับคุณหมอ ฝากด้วยครับ”

“ไม่ต้องห่วงครับหมอจะรักษาสุดความสามารถ ขอให้คุณพ่อกับคุณแม่ออกไปรอข้างนอกก่อนครับ”

“ม๊าครับ น้องจะตายมั้ยครับ”

“ทำไมถามม๊าแบบนี้ฉิ่ง น้องต้องไม่เป็นไรสิ ฮือๆๆ”

“ขิม ขลุ่ย พาฉิ่งออกไปเล่นก่อนอย่าเพิ่งให้น้องมากวนม๊า”

“ค่ะป๊า ครับป๊า”






 
เจ้ขิมเป็นนักขายประกันตัวยง ขายทุกอย่าง ประกันสุขภาพ ประกันเงินออม ประกันอุบัติเหตุ ประกันอวัยวะตามร่างกาย ประกันที่จ่ายตอนสาวได้ใช้ตอนแก่ ประกันที่จ่ายรุ่นลูกได้ใช้รุ่นหลาน ประกันที่จ่ายชาตินี้ได้ใช้ชาติหน้าก็มี  เจ้แกพูดเก่ง พูดให้ลิงหลับก็ยังได้ พูดแบบไม่ถามเรื่องสุขภาพหูคนฟังสักนิด ผมคงพูดเก่งติดเจ้ขิมมาล่ะมั้ง เพราะคอยช่วยขายประกันอยู่บ่อยๆ  เอาไงล่ะตอนนี้เจ้ขิมมาแหกปากเรียกผมอยู่หน้าประตูคงด่าเรื่องดูบอลนอนเช้าของผมอีกตามเคย


 
“คร๊าบบบบบบบ เจ้ ตื่นแล้วครับ” ผมใช้มือควานหาขอบเตียงพยุงร่างลุกขึ้นแล้วก้าวขาลงมา พร้อมเสื้อเบอร์8ของเจอร์ราร์ด ที่ใส่นอนทุกวัน

“เปิดช้าจังว่ะ” เจ้แกยืนเท้าเอวเตรียมบ่น

“อ่านหนังสือไงเจ้ นี่ซอนอนเกือบตีห้าเลยนะ” เอาเรื่องเรียนเข้าอ้าง เป็นรอดทุกที เชื่อผมดิ

“หรอๆ งั้นลงมาคุยกันข้างล่าง เจ้มีเรื่องให้ช่วย” เสียงที่เปลี่ยน คือเสียงตรงมาจากจากหัวใจ

“คร๊าบ ” ผมปิดประตูแล้วเดินตามต่อยๆลงมา

“นี่ลึ๊เป็นใคร มาอยู่ในบ้านอั๊วได้ยังไง” สมาชิกอีกคนของบ้าน อาม่าผมเองครับ อัลไซเมอร์รับประทานเรียบร้อย แกกำลังนั่งดูละครเรื่องโปรดอยู่

“คุณทศพล ไง คำแก้ว” ผมสวมบทบาทเป็นพระเอกทันที แล้วจูบแก้มคำแก้วฟอดใหญ่

“คำแก้ว ให้คุณทศพล มาหาแม่ก่อนมีงานจะให้ช่วย” อาม่าปล่อยแขนออกจากตัวผมตามคำสั่งของพี่สาว เจ้กล้าเล่นเป็นแม่คำแก้วเชียวหรอเนี่ย

ผมนั่งที่โซฟาเอกสารกองโตวางประกอบอยู่งานเข้าผมอีกตามเคย “มีไรเจ้”

“คือบริษัทเจ้ ออกแคมเปญประกันมาใหม่ อยากให้แกช่วยขายให้เจ้หน่อย” เจ้ขิมยื่นเล่มเอกสารของบริษัท IIIA บริษัทชั้นนำด้านการประกันชีวิตอันดับหนึ่งของประเทศให้ผม

“จะหาตังค์ไปทำไมเยอะแยะอ่ะเจ้ ตายไปก็เอาไปได้ ผัวก็ไม่มี ลูกก็ไม่มี”

“แต่ จ่าย ค่า เทอม แพงๆ ของ แก ได้” เน้นเสียงหนักแน่นขนาดนี้เอาสันหนังสือฟาดหัวยังดีซ่ะกว่าเลยเจ้

“ช่วยอยู่แล้วไม่ต้องประชด รายละเอียดคืออะไรว่ามา” ผมเตรียมรอฟังเจ้แกร่าย กระบวนท่าในการขายอันสุดลึกล้ำ

“คืองี้ โครงการนี้ง่ายๆเลยนะซอ จ่ายเบี้ย 3,000,000 คุ้มครอง15ปีคือจบเลย จ่ายปุ๊บคุ้มครองปั๊บ คุ้มครองทั้งแต่ปลายเล็บยันปลายผม ง่ายมั้ย” เดี๋ยวนะเจ้ ขอนับเลขศูนย์อีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามันมีกี่ตัว  0 0 0 0 0 0    6ตัวเลยนะเจ้ขิม

“เบี้ย3,000,000 ผมขายไม่ได้หรอก เพื่อนผมก็ซื้อประกันจากเจ้หมดทุกคนแล้ว ใครจะบ้าเอาเงินมาทิ้งตั้ง3ล้าน” ผมปฏิเสธเสียงแข็ง เอาเอกสารสามล้านของเจ้คืนไป

“อย่าเพิ่งบอกว่าทำไม่ได้อ่านก่อน มันคุ้มครอง ทุกอย่างนะ เข้ารักษาตัวได้ทุกโรงพยาบาลด้วย ซื้อตัวนี้ตัวเดียวจบ” จบสิ จบชีวิตผมนี่แหละเจ้ จะไปขายใครวะ

“เพื่อนซอไม่ใครรวยพอที่จะซื้อประกันเป็นล้านๆหรอกเจ้” ผมยังปฏิเสธงานช้างนี่ต่อไป

“หารดูดิ คุ้มครอง15ปี ตกปีล่ะ 200,000 ต่อเดือน 16,666.66 ต่อวัน 555.55 บาทเอง เข้าโรงบาลแบบอันลิมิด ป่วยก็จ่าย เจ็บก็จ่าย แต่ถ้าตายภายใน15ปีนี่นะ ได้เงินคืน15ล้าน คุ้มมาก”

“ประกันเจ้ทำแล้วน่าตายเลยเนาะ  เอาอันอื่นได้มั้ยอ่ะ อันนี้แพงเกิน ซอขายไม่ได้หรอกเจ้” ผมช่วยขายประกันบ่อยนะครับแต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่แพงที่สุด

“ไม่ได้! ถ้าเจ้ขายแคมเปญนี้ได้ก่อนคนอื่น 5เล่มนะ เจ้จะได้เลื่อนตำแหน่งมงของเจ้เป็น มงกุฎเพชรเจ็ดชั้นยอดประดับมุขสามเม็ด แซงหน้าอีจอยขึ้นเป็นพนักงานดีเด่นสามปีซ้อนทันที” แววตาเจ้แกเปล่งประกายวิบวับมีความหวัง

“แล้วไงเจ้”

“มันหมายถึงโบนัสไงไอ้ซอ เจ้จะได้เอามาจ่ายค่าบ้านที่แกซุกหัวนอนอยู่นี่ไง หนี้จะได้หมดสักทีไม่ต้องมานั่งผ่อนให้เมื่อยตุ้ม” ฉิบหายล่ะ คำตอบจากเจ้ขิมเหมือนหมัดตัวเองให้ต้องช่วยแบ่งเบาภาระอย่างบอกไม่ถูก ไหนจะค่าเทอมไหนจะค่าบ้าน

เริ่มเครียดเอาไงดีวะเจ้ขิมเสียงแข็งเสียด้วย “ซอไม่รู้จะขายให้ใคร คนที่ซอรู้จักก็ไม่มีใครรวยพอที่จะมาซื้อประกันแพงๆแบบนี้หรอก คนในหมู่บ้านก็เป็นลูกค้าเจ้หมดแล้วนะ ซอจะขายใคร”

“แต่….ถ้าแกช่วยขายได้หนึ่งเล่ม เจ้จะซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับ แล้วก็บัตรผ่านประตูแอนด์ฟิลด์ไปนั่งดูบอลแบบติดขอบสนามให้แกเลยด้วย”

ผมนิ่งเงียบตาทะโลนแทบจะหลุดออกจากเบ้า เมื่อได้ยินเสียงแห่งความหวังที่จะไปแอนด์ฟิลด์ได้เร็วขึ้น ความหวังผมเริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์


ผัวะ!!


“ไอ้ซอ ว่าไง จะขายมั้ย” เจ้แกยื่นมือมาตบหน้าผากผม เจ้ขิมยอมแลกขนาดนี้แปลว่า ค่าตอบแทนของเจ้คงสูงน่าดู

“เจ้ พูดจริงป่าว ห้ามคืนคำนะเจ้” ผมรีบคว้าเอกสารมากอดไว้ที่อกทันที มันดุจเป็นความหวังที่เด็กตาดำๆอย่างผมจะได้ไปเหยียบแอนด์ฟิลด์สักครั้งในชีวิต  ผมยังคิดไม่ออกจะไปขายให้ใคร แต่เก็บเอาไว้ก่อนเพื่อความอุ่นใจ

“คนสวยพูดแล้วไม่เคยคืนคำ ขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วป่ะ มีเรียนไม่ใช่หรอ กับข้าวอยู่ในครัว” ผมยังคงหอบเอกสาร บริษัทIIIA ไว้แน่น มันคือความหวังมันคือชีวิต แล้วเดินขึ้นบันไดเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน

“คุณทศพล ลึ๊จะไปไหน” อาม่าถามก่อนที่ผมจะเดินพ้นบันได

“อั๊ว จะ ไป แอนด์ฟิลด์ คำแก้ว”






เจ้ขิมคือธนาคาร เจ้ขิมคือตั๋ว เจ้ขิมคือแสงสว่างของซอ หลังจากที่เก็บเงินหยอดกระปุกมานานแต่ก็ยังไม่พอที่จะซื้อตั๋วเข้าไปนั่งดู เจอร์ราร์ด ในสนามจนตอนนี้พี่เจิดก็ไม่อยู่แล้ว ยังไงก็ตามเดอะคอปอย่างผมก็ต้องไปสักครั้ง มีอีกทางคือรอเรียนจบมีเงินเดือนแล้วค่อยไปก็ได้ แต่วิธีที่เจ้ขิมเสนอมาเร็วกว่าเยอะ ง่ายกว่าด้วย….ง่ายตรงไหนวะ  เฮ่ย….ถอนหายใจแบบยาวไป



คมขับ jazz สีดำของเจ้ขิมไปเรียนทุกวันขับผ่านแยกเกษตรมุ่งตรงไปทางบางเขน เลี้ยวรถเข้ามหาลัยจอดไว้ที่ชั้น4ของตึก1 วันนี้มีเรียนวิชาพื้นฐานของเด็กปีหนึ่งทั่วไป ผมยืนรอลิฟท์ที่ใต้ตึก5 ซึ่งเป็นตึกของวิศวะมองซ้ายมองขวา ขออย่าเจอเลยนะวันนี้ สาธุ….



“มึงก็มีเรียน HUM หรอ” กะไว้แล้วเชียว

“เออดิ”

“หอบอะไรเยอะแยะขนาดนี้วะ กูช่วยป่ะ”

“เสือกล่ะ จะไปไหนก็ไปป่ะ รำคาญ”

“กูก็มีเรียนตัวเดียวกับมึงไง ถึงมารอมึง เอ่ย!! รอลิฟท์อยู่นี่”




Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2017 22:46:48 โดย 19919 »

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนที่1 up30/1
«ตอบ #1 เมื่อ30-01-2017 22:12:46 »

เปรตตัวสูงหน้าหล่อเข้าลิฟท์ตัวเดียวกับผมจนเดินมาถึงห้องเรียนรวม ไอ้เอเพื่อนสนิทผมนั่งอยู่หลังสุดโน่นโบกมือเรียกหยอยๆ ผมรีบก้าวเท้าใส่เกียร์หมาหนีไอ้คนข้างๆให้เร็วที่สุด ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ ฟึ๊บบบ



“มึงมากับไอ้โฟร์ได้ไง” ไอ้เอเอียงตัวถามด้วยความสงสัย

“กูไม่ได้มากับมัน มันนั้นแหละวิ่งหางกระดิกตามกูมาเอง” ผมหยิบเอกสารของเจ้ขิมมานั่งดูด้วยสายตาระห้อย เหมือนมีความหวัง แล้วความหวังนั้นอยู่ไหนวะ

“กูยอมใจมันจริงวะ จีบมาตั้งแต่ ม.5 จนตอนนี้ หูไม่ดมไข่ไม่ได้จับ นับถือๆ” ไอ้เอมองไปหาไอ้โฟร์ที่นั่งรวมกลุ่มแก๊งวิศวะหน้าห้องที่จับกลุ่มป้อสาวกัน

“สัสเอ!มึงจะย้ายไปนั่งกับมามั้ย กูกำลังใช้ความคิด”

“ไหนๆ กูดูสิเครียดเรื่องอะไร” แล้วมันก็ดึงเอกสารประกันแคมเปญล่าสุดของเจ้ขิมไปดู

โผละ!! เอกสารประกันเล่มแพงที่ปกแข็งเป็นสันขวานตกกระทบกับพื้น ไอ้เอปล่อยหลุดมือเมื่อมองเห็นที่หน้าปกเขียน IIIA

“กูมีประกันทุกส่วนในร่างกายแล้วมึง ไม่นะ ไม่ๆ ไม่มีตังค์ซื้อแล้ว” ไอ้เอเก็บเล่มประกันที่หล่นพื้นมาวางที่โต๊ะคืนผม แล้วยกแขนเป็นกากบาท ส่ายหัวปฏิเสธทันที

“เออ!กูรู้ มึงไม่มีปัญญาซื้อแน่ เล่มนี้ 3ล้าน”

“เหี๊ยสาสสสสสสสสสสสสสส” ไอ้เอสบถเสียงดังจนเพื่อนร่วมห้องและกลุ่มไอ้โฟร์ก็หันมามอง

ผมรีบเอามืออุดปากไอ้เอทันที “สาด พ่องมึงสิ จะแหกปากเสียงดังทำไมวะ เบาๆ”

เพื่อนผมส่ายหน้าเป็นพัดลม “แพงสัส แพงเหี้ยใครจะซื้อวะ เจ้ขิมโหดไปป่าวให้มึงขายได้ไงเนี่ย ที่บ้านกูก็ซื้อประกันจากมึงครบทุกคนล่ะ กูช่วยไม่ได้จริงๆวะ  แม่งแพงเว่อร์” ไอ้เอบ่นๆ เพราะเวลาที่เจ้ขิมทำยอดขายไม่ถึง ก็ได้ไอ้เอนี่แหละช่วยซื้อ

“เออกูรู้หน่า กูไม่ขายให้มึงหรอก แต่กูอยากได้ตังค์ไปแอนด์ฟิลด์ไง กูเลยจำใจทำ แม่ง! ชีวิตกูก็ไม่เคยรู้จักคนรวยๆซ่ะด้วย จะขายได้ไงวะเอ” มือสองข้างกุมที่ขมับคิ้วต่อกันเป็นเส้นตรง

“น่านไง กูว่าล่ะ เจ้ขิมต้องมีข้อแลกเปลี่ยน มึงถึงกอดไว้แน่ขนาดนี้ แต่กูรู้จักคนรวยอยู่คนหนึ่ง กูว่าเขาซื้อประกันมึงได้วะ” ผมเอามือออกจากขมับแล้วหันหน้ามองไอ้เออย่างตั้งใจ เพื่อนกูรักมึง มึงช่วยกูได้เสมอ

“ใครวะ”

“ก็ไอ้โฟร์ไง มันซื้อได้แน่ แค่มึงเอ่ยปากนะ ขี้คร้านจะซื้อบ้านซื้อรถให้มึงด้วยซ้ำ” นิ้วชี้ไปที่หน้าห้อง

“สัส!! ยกเว้นมัน กูบอกกี่ทีแล้ววะ กูไม่ได้ชอบมัน  เพื่อนอ่ะเพื่อน กูคิดกับมันแค่เพื่อน ยังจะมายัดเหยียดไอ้โฟร์ให้กูอยู่ได้”

“เอ้า! ไอ้นี่ มึงอยากรู้จักคนรวย มันไงรวย”

“เออขอบใจ แต่มึงมีชอยส์อื่นม๊ะ ที่ไม่ใช่ไอ้โฟร์ ใครก็ได้”

“อืม….อืม….เออ….” ไอ้เอนั่งคิดอยู่นานจนอาจารย์เข้ามาสอน มันก็ยังคิดต่อ อาจารย์สอนร่วม2ชม แล้วเดินอออกจากห้อง ไอ้เอก็ยังนั่งคิดอยู่

“พอๆมึง ไม่ต้องคิดล่ะ หมดคาบหาข้าวแดกกัน” ศอกผมกระทุ้งเข้าทีสีข้างไอ้เอ


ปั๊กกกกก!!!!! ฝ่ามือไอ้เอตบเข้าที่โต๊ะ


“คิดออกแล้ว คนนี้โคตรรวย เป็นเพื่อนพี่ชายกูเองเป็นเจ้าโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแล้วก็เป็นผู้บริหารบริษัทอะไรสักอย่างนี่แหละกูก็นึกไม่ออก แต่ที่แน่ๆรวย รวยมาก”


ฟังไอ้เอสาธยายแล้วสนามลิเวอร์พูลใกล้เหมือนอยู่ปากซอยหน้าบ้านเลยตอนนี้ พี่เขาคือคนที่สามารถซื้อกระดาษมีมูลค่าสามล้านบาทของผมแน่นอน
 
“กูจะเจอพี่เขาได้ไงวะ นัดให้กูหน่อยได้ป่ะ”

“เออวะ นานๆกูถึงจะได้ไปเที่ยวกับพี่กู แล้วอีกอย่างพี่เค้าไม่ค่อยว่างด้วยไง” ผมกับไอ้เอยังคงนั่งคุยกันอยู่ที่หลังห้อง เพื่อนเริ่มทยอยออกจากห้องกันบ้างแล้ว

“ผู้บริหารแก่ๆงานคงเยอะ เขาจะให้กูเจอหรอวะเอ” ผมเอนตัวกับพนักพิงของเก้าอี้มือกอดอก ถอนหายใจยาว ใส่ไอ้เอ

“แก่ เชี่ยอะไร พี่เค้าอายุเท่าพี่กูเลย 27เอง วัยรุ่นมากเท่ห์สุดๆ  อะนี่กูเซิร์จประวัติพี่เค้าเจอล่ะ” ไอ้เอยื่นโทรศัพท์ให้ผม



นายธันวา พาณิตไพศาล

ประธานกรรมการบริหารงานฝ่ายการตลาด



แล้วรูปอันหล่อเหลากับประวัติพอสังเขปของผู้ชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าละไม้คล้ายคลึงกับพี่เนมก็ปรากฏตรงหน้าผม เด็กอยู่เลยเป็นผู้บริหารด้วย แบบนี้สาวหลงตึม ทำไมวาสนาดีจังวะ ทั้งหล่อทั้งรวย เราสิแค่เงินจะซื้อตั๋วทีมรักสักใบยังต้องมานั่งขายประกันช่วยพี่สาวอยู่ได้ ขณะที่ผมก้มหน้าก้มตาอ่านประวัติของคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนอยู่นั้น ก็มีคนที่ผมรู้จักมานานแสนนานเข้ามาทัก จนผมเงยหน้าขึ้น



“ไปกินข้าวกับกูป่าว”

ผมเก็บหนังสือยัดใส่กระเป๋าพลางพูดไล่มันพลาง “ซอรี่ กูไม่ชอบแดกข้าวกับคนอื่น”
 
“ไปเถอะกูเลี้ยงที่โรงร้อน” โรงร้อนคือ โรงอาหารหลังเก่า มีพัดลมอยู่ไม่กี่ตัว เราเลยเรียกว่าโรงร้อน  เพราะร้อนสมชื่อแต่อาหารอร่อยทุกร้าน

“กูจะแดกโรงเย็น” โรงเย็นคือ โรงอาหารใหม่มี3ชั้น มีบันไดเลื่อนติดแอร์เย็นสบาย เด็กสายบริหารชอบมานั่งกินที่นี่ ปกติก็กินแต่โรงร้อนนั้นแหละครับ วันนี้กระแดะอยากแดกโรงเย็นเพื่อหนีไอ้โฟร์มันเฉยๆ

“หว้า…เมื่อคืน เสียใจด้วยนะ 1-1 กูก็อุตส่าห์รอดู นึกว่าเก่งเอื่อยชิบหาย ไม่น่าเปิดดูให้เปลืองไฟเล๊ย”

“สัส”  นึกว่ามันจะไม่แขวะเรื่องนี้แล้วนะแต่ก็ไม่วายหันกลับมากัดจนได้ กัดเสร็จก็รีบวิ่งแจ้นตามหลังเพื่อนมันไป แน่จริงอยู่ต่อดิไอ้เชี่ยโฟร์

“เสมอหรอ”

“มึงจะย้ำทำเพื่อ”

“อ๋อ! เมียพี่ธันก็เรียนที่นี่นะ ทั้งสามคนเลย”  มันเปลี่ยนเรื่องกลับมาที่หัวข้อเดิม

“มี เมีย เรียน ที่ นี่ สาม คน”
ย้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ

“ใช่! ไม่หล่อไม่รวยทำไม่ได้นะมึง เงินต้องถึง” 

“แปลว่ารวยจริงไรจริง ถึงมีเมียเยอะได้ขนาดนี้ แล้วมึงจะมาบอกกูเรื่องเมียเค้าทำไมวะ”

“อ่าว…โง่ บรรลัยเลย ก็มึงอยากเจอพี่ธันไม่ใช่หรอ เข้าทางเมียเค้าสิ ยังไงบรรดาเมียๆ พี่เขาก็ต้องไปหาพี่ธันทุกวันอยู่แล้วป่ะไม่คนใดก็คนหนึ่ง ให้เมียพี่ธันนัดให้เลยสิไอ้ ฟาย”

“แล้วทำไมไม่ให้พี่มึงนัดให้กูวะเอ”

“ก็ได้ แต่พี่กูติดงานที่เชียงใหม่ มึงรอได้ป่ะ อีกอาทิตย์หนึ่งรอได้ก็รอ แต่ถ้ามึงเข้าทางเมียพี่เขานะ มึงจะมีช่องทางเยอะขึ้น แล้วก็รู้ความเคลื่อนไหวพี่เขาทุกวันด้วย เชื่อกูดิ” นั้นสินะมันพูดถูก

“แล้วมึงรู้จักเมียพี่เค้าหรอ เอ”

“กูรู้จักกับทุกคนแหละ แต่อยู่มหาลัยแกล้งไม่รู้จักเฉยๆ”

“งั้นตามนี้ กูจะเริ่มจากเมียเค้าเลย ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะอันอบอวลไปด้วยความสุขของผมที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยพลังแห่งความหวัง งานตามล่าฝันที่จะไปแอนด์ฟิลได้เริ่มต้น ณ บัดนี้












99999999999999999999999999999999999



เก้าเขียนเรื่องนี้จบพักใหญ่แต่เพิ่งได้ลงเพราะไม่มีชื่อเรื่อง ตั้งไว้หลายชื่อมากแต่ไม่ชอบ

เพื่อนเก้าได้อ่านนางเลยตั้งชื่อนี้ให้ แค่อยากขอบคุณเพื่อน555

ฝากด้วยค่ะ รอคำแนะนำอยู่นะค่ะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2017 07:53:29 โดย 19919 »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนที่1 up30/1
«ตอบ #2 เมื่อ30-01-2017 23:01:02 »

ซอเป็นโรคอะไรแน่

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนที่1 up30/1
«ตอบ #3 เมื่อ31-01-2017 20:37:39 »

ซอเป็นโรคอะไรแน่
ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่2 ทริปเปิ้ลเมีย



“ซอ ม๊าต้มยาจีนที่ซินแสให้มาเสร็จแล้ว ลองดู”

“หมดถ้วยนี้เลยหรอม๊า”

“อืม!หมดนั้นแหละ ม๊าต้มสามวันสามคืนเลยนะ ซินแสบอกต้องกินให้หมดถึงจะได้ผล”

“หยี๊ หน้าตาไม่หน้ากินเลยม๊า ขมชัวร์ ดูจากสีก็รู้”

“เอาหน่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา”

“ดี ตลอดอ่ะ ผลเหมือนเดิม”

“ซินแสคนนี้เก่งมากนะ รักษาคนที่เดินไม่ได้ให้กลับมาเดินได้ ม๊าเห็นกับตา ใครๆก็เรียกซินแสเทวดา”

“ซอไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว กินก็กิน อึก อึก อึก อ่า….ขมชิบหายเลยม๊า งื้อ……แหว๊ะ”

“หมดแล้วใช่มั้ย งั้น ม๊าเทส เลยนะ”

“ครับ”

“ซอ! ตั้งสติไว้ ได้ยินม๊ามั้ย ซอ! ซอ! ไหนซินแส บอกว่าได้ผลไง”






ผมกับไอ้เอเก็บของใส่เป้แล้วลงมาจากตึก5 มุ่งตรงไปที่โรงเย็น เพราะไอ้เอบอกว่าเมียพี่ธันชอบมากินข้าวที่นี่ผมเลือกนั่งที่ชั้น1ตรงประตูทางเข้าใครเดินผ่านไปผ่านมารับรองเห็นทุกคน แอบอิจฉาพี่ธันเล็กๆรวยแล้วดีจริงจะจีบใครก็ได้
 
นี่เพื่อนร่วมสถาบันของผมพี่แกก็ฟันไปซ่ะสาม ผมกับเพื่อนสั่งโอลีโอ้ปั่นจากร้านเจ๊ออยมานั่งดูดฆ่าเวลาเพื่อรอสาวนิเทศเมียพี่ธัน



“บลูทางนี้” ไอ้เอวางช้อนซ้อมลง แล้วเรียกชื่อใครบางคน ผมหันหน้าตามเสียงไอ้เอเพื่อมองหาสาวนิเทศที่ผมวาดภาพไว้ ไหนวะอยู่ไหน ไม่เห็นมีสาวนิเทศเอ็กๆที่ผมเคยแอบมองเลย มีแต่ผู้ชายหน้าตาดีตรงรี่เข้ามาหามัน

“หวัดดีเอ เรียกเราทำไม” เพื่อนใหม่ที่ชื่อบลูถามไอ้เอ

“นั่งก่อนบลู เรามีเรื่องให้ช่วย นี่เพื่อนเราชื่อซอ” แล้วคนที่ชื่อบลูก็นั่งลงข้างผม [ผมส่งสายตาถามไอ้เอใครวะมึง ไอ้บลูคือใคร]
 
“มีอะไรให้ช่วย” หน้าที่หยิ่งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง

“เอ่อ……………………………………”

“ไอ้ซออยากเจอพี่ธันอ่ะ บลูช่วยนัดให้หน่อยได้มั้ย” ไอ้เอรีบขอความช่วยเหลือจากไอ้บลูแทนผม เพราะผมมัวแต่อ้ำอึ้งไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไรต่อ ก็ไหนบอกเมีย ผมก็จินตนาการเป็นผู้หญิงสาวสวยผอมบางนมตูม แต่นี้มันผู้ชายนี่หว่า

“เอ จะพาเพื่อนมาขายให้พี่ธันหรอ”

“ใช่! เอ๊ย! ไม่ใช่  จะว่าใช่ก็ได้ …..ขายๆ แต่ไม่ได้ขายอย่างว่า” ไอ้เอรีบแก้ตัวพัลวัน

“ตกลงจะมาขายอะไร” ไอ้บลูยื่นหน้ามาจ้องผมเข็มง

“แค่จะมาขายประกันเท่านั้นแหละ พอจะช่วยนัดพี่ธันให้ได้มั้ย”

“โทษทีนะ คงช่วยไม่ได้ ขอตัว” แล้วมันก็ลุกออกจากโต๊ะไปเลย หน้าเชิดได้อีก

ผมเอามือวางที่อก หู๊ววว พ่นลมหายใจออกทางปาก  “สัสเอ กูก็นึกว่าผู้หญิง นี่มันผู้ชายชัดๆทีหลังบอกกูก่อนไอ้เชี่ย กูตั้งตัวไม่ทัน”  ผมด่าไอ้เอยกใหญ่หลังจากที่เมียคนแรกเดินจากไป

“ลืมบอกไปพี่ธันเป็นผู้ชายที่มีเมียเป็นผู้ชายวะ ฮ่าฮ่าฮ่า”

“บอกช้าไปมั้ยฟาย เดี๋ยวเมียเค้าก็จะหาว่ากูมาขายตัวให้ผัวเค้าอีกหรอก เอาไงล่ะไอ้บลูไม่ช่วยซ่ะด้วย”

“เหลืออีกสองคนนะมึง ไอ้บลูก็เป็นแบบนี้แหละขี้หึง อีกสองคนเป็นมิตรกว่านี้ รอก่อนเดี๋ยวคงเดินผ่านมา”

“ที่เหลือก็ผู้ชายใช่มั้ย กูจะได้เตรียมใจ”

“เออ”




ผมจะโดนเมียพี่เค้ากระทืบตายมั้ยเนี่ย ถ้าแม่งเกิดคิดว่าผมจะมาขายตัวให้ผัวเค้าล่ะก็ ตาย ตาย จมตีนตาย ผมกับไอ้เอนั่งรอนานมากไม่มีทีท่าว่าจะเจอเมียทั้งสองคนที่เหลือของพี่ธัน เริ่มถอดใจวันนี้คงคว้าน้ำเหลวไม่มีความคืบหน้าใดๆ กลับบ้านไปพักเอาแรงไว้ลุยต่อพรุ่งนี้ดีกว่า



ขณะเรากำลังเดินผ่านลานต้นหูกวาง  “นั้นไงมึง เจอแล้ว”  ไอ้เอหยุดฉะงัก มองไปที่ผู้ชายสองคนนั่งอยู่ที่โต๊ะใต้ต้นไม้ใหญ่

“คนไหนวะ เมียคนที่สอง กูจะได้ทักถูกคน”

“ก็ทั้งสองคนนั้นหละ มันเป็นเพื่อนกัน” เชี่ย!เป็นคำตอบที่เชี่ยมาก มีอะไรที่เหี้ยไปมากกว่านี่อีกมั้ย เป็นเพื่อนกันมีผัวคนเดียวกันด้วย เกิดมาเพิ่งเคยเจอ ตะเภาแก้วตะเภาทองชัดๆถึงยอมมีผัวคนเดียวกันได้โดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย

“อ่าว เอ มีไรป่าว” หนึ่งในสองทักไอ้เอ เมื่อผมกับเพื่อนนั่งลงที่โต๊ะใกล้ๆ

“เนส เบล นี่เพื่อนกูชื่อซอ คือมันมีเรื่องให้มึงสองคนช่วยหน่อย”

“หวัดดีมึง” ผมแสยะยิ้มทักทายเพื่อนใหม่ที่ทำให้ผมช็อกกว่าตอนที่เจอไอ้บลู บ้าไปแล้วโลกใบนี้

“มีอะไรให้พวกกูช่วยว่ามา” ไอ้เบลถาม

“คือกูอยากเจอพี่ธัน ช่วยนัดให้หน่อยได้ป่ะ” ผมเริ่มตั้งสติและเริ่มถาม

“ช่วงนี้กูสองคนไม่ค่อยเจอพี่ธันวะ น่าจะอยู่กับไอ้บลูมั้ง ไม่ไปให้มันช่วยล่ะ”


นี่มันสามคนรู้จักกันด้วย WTF เมียสามคนเรียนที่เดียวกันแถมยังรู้จักกันอีก ยอม ยอมแพ้ ยกธงขาวเลยเรื่องนี้ พี่ธันเป็นคนประเภทไหนถึงควบคุมเมียทั้งสามให้อยู่ด้วยกันอย่างปองดองได้

 
“กูเจอมันแล้วแต่มันไม่ช่วยไง เลยมาหามึงสองคนนี่แหละ มึงพอจะช่วยไอ้ซอได้มั้ยวะ วันไหนก็ได้” ไอ้เอช่วยพูดอีกแรง

“งั้นเอาเบอร์มา ถ้ากูเจอพี่ธันกูจะโทรบอก” ไอ้เนสแบมือรอมือถือจากผม ค่อยน่าคุยหน่อยดูเป็นมิตรอย่างที่ไอ้เอบอก

“ขอบใจพวกมึงมาก” ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋าหลังจากที่ไอ้เนสกดเบอร์เสร็จ

“มึงอยากเจอพี่ธัน ทำไม” ไอ้เบลทำหน้าสงสัย

“กูจะขายประกันให้พี่เค้าเฉยๆ ไม่ต้องกลัวกูจะมาขายอย่างอื่น” ผมต้องอธิบายเพราะกลัวพวกมันเข้าใจผิด

“ประกันขายได้อยู่แล้ว แต่พี่ธันน่าจา…เออๆชั่งมันเถอะ”  ไอ้เบลเอียงตัวมองผมแปลกๆ










หลังจากเจอเมียพี่ธันที่มหาลัยได้เบอร์ไว้ติดต่อเพื่อรู้ความเคลื่อนไหวของพี่แกแล้วผมก็แยกย้ายกลับบ้าน บ้านที่เงียบเชียบผิดปกติกว่าทุกๆวัน



“ป๊าม๊า ไปไหนวะ” ผมถามพี่ชาย ที่กำลังเตรียมกีต้าร์ไปร้องเพลงที่ร้านประจำของมัน

“ไปสัมมนาที่กาญกลับวันอาทิตย์เย็นๆ” พี่ชายเงยหน้าขึ้นมาตอบ

“คนอื่นล่ะ ไปไหนกันหมด”

“เจ้ขิมพาอาม่าเข้านอน เฮียขลุ่ยไปดูหนังกับสาว”

“ไม่มีใครอยู่เลยหรอวะ เซ็ง!” ผมนั่งลงใกล้ๆไอ้ฉิ่ง

“ไปร้านกับกูมั้ย”

“กูอาบน้ำ10นาที รอแป๊ป”

ผมรีบวิ่งขึ้นห้องด้วยความเร็วจะได้ไปนั่งจิบเบียร์ฟรีจากร้านที่ไอ้ฉิ่งร้องเพลง ร้านนี้เป็นใหม่ที่มันเพิ่งย้ายมาร้องได้แค่เดือนเดียว ผมเองยังไม่เคยไปนั่งสักครั้ง เพราะร้านเดิมที่มันร้องอยู่ก่อนหน้าปิดกิจการลงไปแล้วหรือเรียกอีกอย่างคือเจ๊งนั้นแหละ แต่งตัวเสร็จภายใน10นาทีก็วิ่งกลับลงมาหาไอ้ฉิ่ง เพื่อเป็นสาระถีพาพี่ชายสุดหล่อไปเฉิดฉายบนเวทีให้สาวๆกรี๊ดเล่นเหมือนทุกๆคืน


“เดี๋ยวก่อนซอ มึง หันมาดิ” ไอ้ฉิ่งจับมือถือขึ้นมาส่องตรงหน้ามันกับผม แชะ! แชะ! แชะ!

“แม่ง…หล่อทุกรูปเลยวะซอ กูเลือกรูปลงไม่ถูกเลย”
 
“กู”

“เปล่า กู ฮ่าๆๆๆๆ”

“เชี่ย” หล่อครับไม่เถียง ไอ้ฉิ่งใช้นิ้วเลื่อยๆ ที่จอมือถือของมันอยู่สักพักใหญ่

“กูแท็ค ig ให้แล้วนะ”

“ไม่ต้องแท็คก็ได้ กูไม่ค่อยเข้าไปดูหรอก”

“มึงก็เข้าไปอัปบ่อยๆสิวะ ถ่ายรูปตัวเองลงบ้าง เอาไว้คุยกับสาวก็ยังดี เผลอๆมีแฟนจากigไม่รู้ตัว ไม่ใช่อัปแต่รูปส้นตีนอะไรก็ไม่รู้” ที่มึงว่ารูปส้นตีนนั้น มึงไม่ได้หมายถึงรูปพี่เจิดสุดรักของกูใช่มั้ย

“มึงก็รู้กูมีไม่ได้ ลองมากี่ครั้งแล้ว สุดท้ายไง สุดท้ายกูก็เจ็บ มึงเลิกเอาปมกูมาพูดสักทีได้ป่ะวะ”

“กูอยากให้มึงมีแฟน กูอยากให้มึงใช้ชีวิตปกติ แค่นั้น”

“เชี่ย! กูจะไม่ปกติก็ตอนที่มึงพูดนี่แหละหุบปากเลย ชีวิตกูแค่เกิดมาแล้วก็ตายไป กูทำใจได้ล่ะ” น้อยใจในชะตาชีวิตตัวเองชิบ

พี่ชายตีไหล่เบาๆ  “บางทีมึงอาจเจอคนที่รับมึงได้ ก็ได้นะ”

“ฉิ่ง มึงจะให้กูดูแลใครได้วะ ตัวกูเอง กูยังดูแลไม่ได้เลย”

“ถ้ามึงดูแลคนอื่นไม่ได้ มึงก็หาคนที่เขาดูแลมึงได้ดิ”

ผมจับพวงมาลัยหน้ามุ่ยไม่ซบอารมณ์พ่นลมหายใจเฮือกมหึมาใส่พี่ชาย  “ใครจะอุทิศตนขนาดนั้นวะ กูเกลียดไอ้โรคเชี่ยนี่ เมื่อไหร่จะหายสักทีวะ เกลียด เกลียด เกลียด”

“ลองกับกูก่อนได้นะ เผื่อมึงหายแล้ว” ไอ้ฉิ่งเสนอหน้ามาใกล้ผม

มือซ้ายยันหน้าพี่ชายทันที “ไอ้ฉิ่ง ไอ้เชี่ย กูขับรถอยู่ เดี๋ยวพ่องได้ตายคู่หรอก”




ทะเลาะกับพี่ชายมาในรถพักใหญ่เราก็มาถึงร้าน Twins อยู่แถวเรียบด่วนเกษตรนวมินทร์ไม่ไกลจากบ้านมากนัก เป็นร้านนั่งชิลๆมีเวทีเล็กสำหรับวงดนตรี เพลงที่เปิดในร้านก็แนวอีซี่ลิตซึ่นนิ่ง เพลงฮิตเพลงฮ็อตตามยุคสมัยเพลงไหนกำลังอินกำลังมารับรองว่าได้ยินทุกเพลง พี่ชายผมก็ร้องเพลงประมานนี้จากที่เคยฟังมันร้องเมื่อหลายเดือนก่อน



“ซอ นี่เจ้าของร้าน พี่เชนพี่ชิน” คนหนึ่งมีเครา คนหนึ่งไม่มี
 
“สวัสดีครับ สวัสดีครับ” ว่าที่สจ๊วจอย่างผมมารยาทงามเสมอ

“นี่น้องชายผมครับพี่ ไอ้ซอ”

“เออๆหวัดดี อยากแดกอะไรก็สั่งเลยนะมึงใช้สิทธิ์ของพี่มึงไป” นี่แหละที่อดตาหลับขับตานอนมา เพื่อกินฟรีมีเพลงฟัง นั่งมองสาว ไอ้ฉิ่งให้ผมนั่งร่วมโต๊ะกับเจ้าของร้านที่เป็นแฝดตามชื่อร้าน แล้วมันก็หายเข้าไปเตรียมตัว

“ทางนี่ๆอีแรดสามหน่อ” พี่ชินเรียกผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวโป๊ๆเสื้อคว้านลึกเกือบถึงสะดือ สะโพกพาย เดินตรงเด่วเข้ามายังโต๊ะที่ผมนั่งกับเจ้าของร้าน

พี่คนสวยเอามือวางที่ไหล่ผมพร้อมก้มหน้ามามอง “ผู้ชายอ่อนเยาว์ คนนี้ชานจอง”

“ทักเพื่อนก่อนมั้ยพลอย” พี่เชนยื่นแก้วให้

“หยุด อีพลอยปล่อยน้องเขาเป็นสุขบ้างเหอะมึง” พี่ชินชี้หน้าพี่ผู้หญิง

“มึงจองแล้วหรอ” พี่คนสวยถามพี่ชินแล้วนั่งลงยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากแบบสนิทสนมกับเจ้าของร้าน

“นี่ซอ น้องไอ้ฉิ่ง มึงเว้นสักคนนะ กูขอ ส่วนนี่อีพลอยเพื่อนพวกพี่เอง อยู่ไกลๆมันเป็นดี” พี่เชนแฝดอีกคนเตือนผม

 "หวัดดีครับพี่พลอย”

“อ่าว…น้องชายฉิ่งหรอ มีน้องน่ารักแบบนี้ไม่เคยบอกกันบ้างวะ”

“ทำไมวะ แดกไอ้ฉิ่งไม่ได้ จะแดกน้องมันงั้น” เหมือนพี่เขากำลังด่ากันอยู่ใช่มั้ย ปล่อยพี่เขาฝัดกันไป


เรื่องนี้ซอจะไม่ยุ่งเพราะหน้าเริ่มตึงต้องหาอะไรมาเบรกตัวเองก่อนจะเมา มือล้วงหาโทรศัพท์มาดูรูปที่ไอ้ฉิ่งแท็คมา รูปนี้คงเป็นรูปแรกในรอบปีที่มีหน้าผมโผล่มา โดยส่วนมาก ig ผมมีแต่ รูปนักเตะของลิเวอร์พูล




 
Ching_chingวันนี้มาร้องเพลงกับน้องชายสุดหล่อ มาเป็นกำลังใจด้วยนะครับ@Jikksor

Twinschinมีน้องน่ารักไม่บอกพี่@Ching_ching

SexyPloyน่ากินน่าอม

18899Umeนู๋จองนะพี่ฉิ่ง ว่าที่น้องสะไภ้ น่าร๊ากกกก

Cremmy9starพี่น่ารักน้องก็น่ารัก@Ching_ching

Bblittleอยากตีฉิ่งจัง

Mlovech7ขอ2ได้ป่าว

Ching_ching5555เดี๋ยวพี่จีบน้องผม@Twinshin



ผมเลื่อนอ่านคอมเม้นที่สาวๆแฟนคลับของไอ้ฉิ่งได้มาเม้นยาวจนมาสะดุจตาที่ข้อความข้อความหนึ่ง


December09น้องเอมึงละ@Twinschin

Twinschinคนนั้นอยู่ในใจ เส-มอ อิอิ@December09




ชื่อเอคงเป็นชื่อที่โหลมั้ง พ่อแม่คิดชื่อลูกแบบไม่คีเอท ชื่อแรกๆที่จะตั้งก็ เอ บี ซี หนึ่ง สอง สาม โลกคงไม่แคบพอที่จะทำให้ไอ้เอเพื่อนสนิทคนเดียวที่ผมมี มารู้จักกับแฝดอย่างพี่ชินเป็นแน่ ถ้าเป็นแบบนั้นโลกแคบเกินกว่าที่ผมคิดอีกนะ


เวลาที่ไอ้ฉิ่งขึ้นร้องเพลงบนเวทีก็มาถึง ผมยัดมือถือเก็บลงกระเป๋า ไอ้ฉิ่งก็เดินออกมาหน้าเวทีนั่งที่เก้าอี้ตัวสูง มีไมค์หนึ่งตัวตั้งข้างหน้ากับกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าคู่ใจ ทำให้สาวๆในร้านพากันกรูไปนั่งจ้องหน้าจ้องไข่ไอ้ฉิ่งแบบติดขอบเวที ถ้าขึ้นไปนั่งบนนั้นได้พวกเธอๆคงทำไปแล้ว ก็บ้านผมหน้าตาดีกันทั้งบ้านช่วยไม่ได้ ป๊าม๊าให้มา



พี่ฉิ่ง น่ารัก ว๊ายยยยย พี่ฉิ่ง กรี๊ดดดด จับมือหน่อยพี่ฉิ่ง รักพี่ฉิ่งค่า


“เพลงแรกผมขอมอบให้น้องชายของผมที่นั่งอยู่ทางโน้น” ไอ้ฉิ่งชี้นิ้วมาทางผมที่นั่งสุมหัวอยู่กับเพื่อนรุ่นพี่ของมัน






รอคนจะมาคนจะมามองตา รอใครจะมาใครจะมาดูแล
รอไปนานๆฉันก็ชักท้อแท้ หวังไว้แค่นี้แค่ได้พบเจ้าชาย
พอมีเธอมามีเธอมาวนเวียน เธอยังเนียนๆเธอยังเนียนๆกันไป
ตามองกันไปมองกันมาทีไร จะทำยังไงถ้าในใจสปาร์ค






นี่ผมไม่ได้มาฟังไอ้ฉิ่งร้องเพลงแค่เดือนเดียวมันเปลี่ยนแนวเพลงไปขนาดเลยหรอ มาดผู้ชายอบอุ่นๆ เท่ห์ๆ แมนๆ หายไปไหนหมด เปลี่ยนแนวมาเป็นมุ้งมิ่งตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบ โอลิฟส์ก็มา




หวิวๆ เหมือนฉันบ้างไหมเธอ ทุกครั้งที่ได้เจอ อยากมีความรัก




อร๊ายยยย ฉิ่ง กรี๊ดดดดดด หิ๊ววววว ฉิ่ง ยิ่งทำให้สาวๆกรี๊ดไปกันใหญ่มือมันละมือจากสายกีตาร์แล้วทำมือ เป็นสัญญาลักษณ์ ไอ เลิฟ ยู สาวๆก็ยื่นมือไปแย่งกันกันจับมือไอ้ฉิ่งเหมือนเปรตขอส่วนบุญ



แต่มาคิดๆตามเนื้อเพลงนี้มันชั่งตรงกับผมทุกประการ แฟนไม่มี ไม่ใช่สิ ต้องใช้คำว่ามีแฟนไม่ได้ต่างหาก  ซึ่งผมเป็นคนเดียวที่โหยหาความรัก โหยหาคนรู้ใจ โหยหาคนที่ยอมรับผมได้ โหยหาคนที่พร้อมจะดูแลซึ่งกันและกัน แต่มันก็เกินจะฝืนเพราะไอ้โรคบ้าๆที่ติดตัวมาแต่ชาติบางก่อน



แฟนคนแรกของผม เมื่อตอน ม.ต้น เธอชื่อวิวรักมากไปไหนมาไหนติดกันยิ่งกว่าปาท่องโก๋ จนมาวันหนึ่งวิวเซอร์ไพร์สผมด้วยการให้สิ่งที่ผมกลัวเป็นของขวัญวันเกิดกลางห้องเรียนคณิตผมจำไม่เคยลืม และเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเลิกกับวิวไปในที่สุด




“ซอ วิวมีของขวัญจะให้”

“ไรอ่ะ”

“หลับตาก่อนสิ”

“ต้องหลับตาด้วยหรอ”

“ช่าย ต้องหลับ”

“อ่ะ อ่ะ หลับก็หลับ”

“ว๊ายยยยยยยยย ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยซอด้วย”   







เสียงเพลงยังคงดังต่อ เห็นสาวๆก็กรี๊ดดัง ผมนี่เจ็บคอแทน





ก็โสดๆอยู่ทางนี้ ยังโสดๆอยากเอาความรักมาโหลดๆ
เธอใช่ไหมที่ฟ้ามาโปรดฟ้ามาโปรด ยังโสดๆอยู่ทางโน้นก็โสดๆ
ถ้าเธอพร้อมก็โดดๆ เข้ามารักกันฉันไม่โหดฉันไม่โหด   
น้องใจดีถ้าพี่ไม่เจ้าชู้ พี่ดูๆแล้วท่าทางโอเค
น้องยินดีถ้าพี่ไม่โลเล พี่เกเรน้องก็คงเซย์โน






ผมเริ่มยกแก้วชนกับพี่ๆที่โต๊ะอีกรอบ และฟังไอ้ฉิ่งร้องเพลงต่ออีกหลายชั่วโมง ลุลา ปาล์มมี่ แพรว คณิตกุล ดาเอ็นโดฟิน มาหมด ไอ้ฉิ่งมันร้องเพลงตามกระแสหรือร้องเพลงแค่เอาใจสาวๆแฟนคลับที่ตามมันทุกวันกันแน่ พี่เชนกับพี่ชินเจ้าของร้านไม่ว่าอะไรมันเลยใช่มั้ยที่เพลงแอ๊ปแบ๊ว หวานจ๋อยขนาดนี้ หวังว่าร้านTwinsจะไม่ปิดกิจการลงเร็วๆนี้นะ





เที่ยงคืนไอ้ฉิ่งร้องเพลงเสร็จก็ลงมานั่งร่วมโต๊ะกับพวกผม  ตอนแรกมันกะจะให้ผมมาขับรถให้ แต่พอเห็นผมสีหน้าตึงมันก็ได้แต่กระดกแก้วแป๊ปซี่แทนแก้วเหล้า



“ฉิ่ง พี่ขอน้องซอได้ป่ะ” พี่พลอยสาวสวยถามพี่ชาย

“จีบเอาดิพี่ ไม่หวงเลย” นอกจากจะช่วยโฆษณาผ่านเพลงให้ผมแล้ว มันยังยกผมให้คนอื่นง่ายๆอีก หวงกูหน่อยช่วยดูแลกูด้วยพี่ชาย

พี่พลอยใช้แขนโอบไหล่ผมไว้ แล้วโน้มตัวทำปากจู๋  “จูบมัดจำไว้ก่อนล่ะกัน”

“เฮ้ยยยยยยย พี่” ผมผละตัวออกด้วยความตกใจ

“พอเลยพี่พลอย จีบวันหลังนะ ดึกละกลับบ้านก่อนไอ้ซอมีเรียนเช้า” มึงช่วยกูช้าไปมั้ยไอ้พี่เหี้ย

“เค งั้นกลับดีดี เจอกันพรุ่งนี้ กูไม่ส่ง” เสียงพี่เจ้าของร้านบอกลาพี่ชายกับผม วันนี้กลับบ้านอย่างปลอดภัยครับ โล่งอก

















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2017 07:29:31 โดย 19919 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

มาลุ้นกัน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ซาหนุกจริงๆ ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
แค่ชื่อเรื่องก็รู้ละ ทริปเปิ้ลเมีย ตามเป็นสาวกเลย
เอ่อ.....พี่ธันนี่ โคตรหื่น เมียสามบอกโต้งๆ  :pighaun: :haun4: :jul1:
แต่บลูนี่หึงมากกกก
สองเพื่อนเมีนพี่ธัน โดยเฉพาะเบล
ก็เซนส์แรง รู้ว่าซอเนี่ย สเป็คพี่ธันชัดๆ
ซอ ไม่พลาดเงื้อมมือพี่ธัน แน่
เอ เพื่อนซอ เป็นน้องเอ ของพี่แฝดชิน สินะ
ใกล้ตัวซอจริงๆด้วย
โรคประหลาดเป็นยังไงนะ
โดนจูบแล้วสลบ หลับทันทีใช่มั้ย
พี่ธัน มาและ December09 ใช่แน่ๆ
อยากอ่านต่ออีกแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    เพิ่งอ่านสนุกมากๆคับ โฟร์จะเป็นพระเอกหรือว่าจะเอาพี่ธันจากทริปเปิ้ลเมีย
  รอออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
    เพิ่งอ่านสนุกมากๆคับ โฟร์จะเป็นพระเอกหรือว่าจะเอาพี่ธันจากทริปเปิ้ลเมีย
  รอออ่านตอนต่อไปคับ
ลงให้ค่ะ ยาวๆไป

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่3 ผ่าดงเสือ





สอง-สามวันผ่านไปผมยังรอสายจากไอ้เนสกับไอ้เบล คู่เมียตะเภาแก้วตะเภาทองของพี่ธันโทรมาบอกข่าวดีแต่ก็ไร้วี่แวว 


มีหลายครั้งที่เดินสวนกันบ้างในมหาลัย ต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กันแค่นั้น  ผิดกับไอ้บลูมองเหยียดผมแบบไม่ไยดี  หยิ่งชิบหาย เชิดหน้าชูคอตั้งเป็นหงส์ เดาได้เลยว่าไอ้บลูคือฮองเฮา ไอ้เนสกับไอ้เบลคือสนมฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา นี่ก็หลายวันแล้วยังไม่ถูกเรียกเข้าเฝ้าฮ้องเต้สักวัน ถึงสนมสองคนนั้นจะเป็นเพียงความหวังอันน้อยนิดและริบหรี่ของผม แต่ผมก็ยังหวังพึ่งมันเป็นสะพานไปเจอพี่ธันให้ได้  อย่างน้อยนั้นก็เป็นอีกทางที่บัตรลิเวอร์พลูจะมาอยู่ในมือผมเร็วขึ้น
 

ครั้งที่ลิเวอร์พลูมาไทย ผมก็เบียดเสียดแย่งกับคนนับหมื่นเพื่อเข้าไปถ่ายรูปพี่เจิดให้ใกล้ที่สุด เห็นนะ แต่เห็นพี่เจิดตัวเท่ามดซึ้งจนน้ำตาไหลพรากๆ ชาตินี้จึงสัญญากับตัวเองไว้แล้วต้องไปเหยียบแอนด์ฟิลด์ให้ได้ เพราะฉะนั้นเบี้ยประกันแค่ 3,000,000บาทในมือตอนนี้จิ๊บๆ จิ๊บเตี่ยมึงซิไอ้ซอ

 


ผมนั่งจับประกันเล่มหนาอยู่ที่มุมมืดของห้องเรียน พลิกไปมาด้วยหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับผมในไม่ช้า  หลังจากที่สวรรค์กลั่นแกล้งผมด้วยการประทานโรคประหลาดติดตัวผมมาเป็นปมในชีวิต 


โชคร้ายมา18ฝน18หนาวพอดี มันจะต้องมีเรื่องดีๆผ่านมาบ้างแหละเนาะให้กำลังตัวเองในทุกๆวัน  ห้องเรียนวันนี้เงียบเป็นพิเศษเพราะงดการสอนครึ่งวัน ใต้ตึกมีกิจกรรมของคณะการท่องเที่ยวและการจัดการโรงแรมเพื่อนๆเลยลงไปช่วยกิจกรรมด้านล้างกันหมด




ตุ๊บ ตั๊บ  ตุ๊บ ตับ ตุ๊บ ตั๊บ …….เสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งตรงมาทางนี่



ปั้งงงงงงงงงงงง!!!



“มีข่าวดี” ฮือ ฮ๊า ฮือ ฮ๊า ไอ้เอก้มจับเข่าเสียงเหนื่อยหอบดังออกทางปาก

“ข่าวดีคือ”

“พี่กูกลับมาจากเชียงใหม่แล้วซอ นัดพี่ธันให้มึงได้ล่ะนะ คืนนี้เลย” ไอ้เอค่อยๆลากสาระร่างมานั่งลงข้างผม

“จริงดิ”

“จริงสัส”

“ที่ไหนว่ะ”

“Twins”

“คุ้นๆเหมือนเคยเห็น”

“แถวบ้านมึงไงห่า”

“เฮ๊ยยย…!...ร้านที่ไอ้ฉิ่งร้านเพลงนี่หว่า กูเพิ่งไปมา”

“แต่กูไม่ค่อยอยากไปร้านนี้เลยวะ” หน้ามุ้ยลงทันที

“เป็นเชี่ยไร กับแกล้มอร่อยจะตาย”

“ก็แม่ง! เจ้าของร้านตอดกูชิบหาย แดกได้ แดกกูแล้ว ไม่รู้จะเอาตูดรอดไปถึงเมื่อไหร่”

“นี่ป่ะ” ผมเปิด ig ที่ไอ้ฉิ่งแท็ครูปมาหลายวันก่อนให้ไอ้เอดู




December09น้องเอมึงละ@Twinschin

Twinschinคนนั้นอยู่ในใจ เส-มอ อิอิ@December09




“เชี่ย!!ขนลุกเลย ว่าแต่มึงรู้จักพี่เขาหรอวะ” ไอ้เอทำตาโตเมื่อเห็นข้อความในig

“กูพาไอ้ฉิ่งไปร้องเพลงที่ร้านเลยรู้จัก เห็นเขาแซวใน ig ไม่คิดว่าเป็นมึง โลกของigแคบสัส แล้วมึงรู้จักพวกพี่ได้ไง”
 
“เพื่อนพี่กูไงห่าแก๊งเดียวกับพี่ธัน เพื่อนสนิทเลยมึง กูถึงไม่ค่อยไปเที่ยวกับไอ้กัส ก็เพราะพี่ชินนี่แหละทั้งตอมทั้งตอด”

“งั้น December09 ก็คือพี่ธันสิ ใช่ม๊ะ”

“เอ่อ นี่แหละพี่ธัน”

“โลกกลม พรหมลิขิตเหี้ย แม่งคนใกล้ตัวทั้งนั้น แบบนี้ บัตรลิเวอร์กูก็ง่ายแค่เอื้อมแล้วไอ้เอ”



เพี๊ยะ! กิฟมีไฟว์สองเพื่อนซี้





นัดแนะกันเสร็จสรรพได้เวลาหาของเข้าปาก เพราะเสียง คร๊อก คร๊อก เตือนว่าถึงเวลากินข้าว  ร้านสุกี้ป้าเก๋ที่โรงร้อนคือเป้าหมายให้พวกผมฝากท้องสำหรับอาหารเที่ยงที่กินตอนบ่าย3โมง 


ลงจากตึกการบินผ่านโรงเย็น เดินข้ามลานหูกวาง ลอดใต้ตึก5 จะถึงทางเข้าโรงร้อนอยู่แล้วเชียวอีก3ก้าวครึ่งเอง เสียงเปรตร่างสูงโหยหวนมาจากวิศวะกลุ่มใหญ่ทะลุเข้าแก้วหู




“ซอรอกูด้วย!!!!!!!!” ไอ้โฟร์ลุกออกจากกลุ่มเพื่อนมัน

“เด็กการบินน่ารัก ปึ้ง!ปึ้ง! รักเด็กการบิน ปึ้ง! ปึ้ง!”

"ใครอยากเด็ดปีกนางฟ้าว่ะ หิ้วววววววว"

"เห่าเครื่องบินเร็วพวกมึง โห่งๆๆ"

"อยากขึ้นที่สูงๆ มันจะได้เสียวๆ หู๊ยยยย "




เสียงขวดน้ำพลาสติดกระทบกันให้จังหวะในการส่งเสียง หอนได้ทุกวัน แซวแม่งทุกเพศ ลิง ค้าง บ่าง ชะนี กูปรี แก้ง กวาง มันก็เห่า



“กูบอกให้เดินอ้อมมา เป็นไงหมาเห่าอีกล่ะ” หันกลับไปด่าเพื่อนที่ทำหน้าหงอย

“ก็มันไกลอ่ะ ขี้เกียจเดินอ้อม”

“กินข้าวกันหรอ กินด้วยนะ เลี้ยงเอง” มันยืนสะพายกระเป๋ากับเสื้อช็อปผาดบ่า ไอ้เก๊กฮวยเอ๊ย!

“อวดรวย กูซื้อแดกเองได้” ผมเดินจ้ำอ้าวตรงไปที่ร้านป้าเก๋

มันก็เดินตามมาติดๆ  “ป่าวอวด รวยจริง  เมื่อก่อนก็กินด้วยกันทุกวันไม่เห็นเคยด่าเลยวะ”  กูไม่รู้มึงคิดไม่ซื่อกับกูไงเชี่ย

“ซอรี่ ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้นแล้วโว้ย”  ผมเบือนหน้าหนีมัน ส่วนไอ้เอไม่ฟังผมกับไอ้โฟร์กัดกัน มันต่อแถวสั่งสุกี้เรียบร้อย


ผมวางกระเป๋านั่งจองโต๊ะรอสุกี้กับไอ้เอ ส่วนไอ้ชายสี่วางแก้วใสพันด้วยทิชชูสีสวยกับหลอดสีชมพูไว้ตรงหน้าผม


“อ่ะ โค้กของมึง”

“กูไม่ชอบโค้ก”

“มึงชอบ กูจำได้”

“วันนี้กูจะกินน้ำเปล่า”

“อ่ะ น้ำเปล่า”
 
“งั้น โค้กกูแดกเอง” ไอ้เอวางถาดใส่ถ้วยสุกี้ลงแล้วคว้าแก้วน้ำนั้น อึก! อึก! ไอ้เห็นแก่กิน

“ไม่หาไรแดกหรอโฟร์” ไม่ใช่ผมถามมันแน่นอน

“ไม่อ่ะ แค่มองก็อิ่ม”

“เชี่ยโฟร์มึงจะหอนอีกนานมั๊ย ถ้ายังไม่หยุดก็ไปไกลๆตีน กูยัดไม่ลง”

“มึงเหมาะกันชิบหาย ฮ่าฮ่า”




หลายปีก่อน ผม ไอ้เอ ไอ้โฟร์ เป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน กินนอน เชียร์บอลทีมเดียวกันมาตลอด สนิทมากจนถึงขั้นกรีดเลือดกรีดเนื้อสาบานเป็นเพื่อนร่วมสำนักหงส์แดง


พอมาวันหนึ่งไอ้โฟร์ดันจะเอาผมทำเมีย ทางสำนักหงส์แดงเลยขับไล่ไอ้โฟร์ออกทันที ผมกับมันกลายเป็นศัตรูอย่างถาวรหันมาฟาดฟันเชือดเฉือนต่อสู้กันด้วยวาทะและกำลังภายในเรื่อยมา




“เย็นนี้ว่างกันป่ะ” ไอ้โฟร์ถาม หลังจากมันนั่งมองผมกินสุกี้อยู่นาน

“มีไร” ไม่ใช่ผมถามนะ

“แดกเหล้ากัน”

“ไอ้ซอมีงานตอนเย็นวะ”

“มึงจะบอกมันหาพระแสงคอง้าวอะไร สัสเอ”

“กูไปด้วย”

“เสือก”

“งานพี่มึงอีกอ่ะเด๊..กูซื้อได้นะ”

“รวย!!เหี้ยๆ”

“กูซื้อได้จริงๆ”

“ซอรี่ กูไม่ขายให้มึง”

“เดี๋ยวมึงก็ขายให้กู”

“ไปตายให้หนอนแดกป่ะโฟร์”

“มึงสองตัวเลิกกัดกันได้แล้ว เพื่อนสำนักเดียวกันเลิกๆ”

“เพื่อนหรอเอ เพื่อนเหี้ยแบบนี้กูเลิกคบ”

“งั้น…ก็…แยก กูปวดหู” ผลก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งไปเวลาอยู่ใกล้มัน




เจอไอ้ชายสี่ทีไรมีแต่สร้างแต่ความรำคาญชอบทำให้รู้สึกปวดตีนเหมือนมีตาปลาเดินไปไหนมาไหนก็ติดขัด คืนนี้ในสมองไม่ควรคิดถึงเรื่องอื่นนอกจากเรื่องประกัน3ล้านที่ต้องเสนอขายให้ได้ อย่าเก็บเอาไอ้โฟร์มาเป็นอารมณ์


รถจอดไว้ที่ประตูหน้าบ้านแล้วเดินเข้ามาข้างในห้องรับแขก อาม่าทาแป้งเด็กหน้าขาวโพลนนั่งกินเต้าทึงน้ำขิงดูนาคีย้อนหลัง ข้างๆเป็นไอ้ขลุ่ยสวมบทเป็นคุณทศพลแทนผมไปพลางๆ เจ้ขิมนอนคุยโทรศัพท์ที่โซฟาตัวยาว





“ขลุ่ย ไอ้ฉิ่งอยู่ไหน” ผมหย่อนก้นลงนั่งติดกับพี่ชาย

“อาบน้ำอยู่ มีไรถึงถามหามัน” ไอ้ขลุ่ยหยุดนวดแขนให้อาม่าแล้วหันมาคุยกับผม

“จะไปร้านกับมัน ลูกค้าอยู่นั้นพอดี”

“งานเจ้ขิม?”

“อืม”

“แล้วช่วงนี้ม๊าไม่พามึงไปรักษาหรอเห็นเงียบๆไป”

“อย่าพูดดิ…ครั้งก่อนม๊าต้มยาจีนผสม งูเง่า ตะขาบ ตุ๊กแก ไส้เดือนให้กิน มารู้ทีหลังอวกพุ่งเลยเชี่ย สยองสุดๆ” ทำท่าขนลุกขนชันให้พี่ชายดู

“ผลคือ”

“เหมือนเดิม บอกแล้วมันไม่หายหรอก ยังดันทุรังพาไปรักษาอยู่ได้ มีแต่พิธีกรรมพิศดาลทั้งนั้น”

“ม๊าห่วงมึงมากนะซอ เขาถึงหาวิธีรักษามึงทุกทาง อย่าว่าม๊าเลยวะ ทำๆตามแกไป” ไอ้ขลุ่ยยื่นแขนมากอดคอผม

“เออๆ”




บางครั้งผมก็เหมือนตัวตลกของบ้านที่คอยเป็นหนูทดลองให้คนในครอบครัวหาวิธีรักษามาทดลองกับตัวผม เพื่อให้โรคบ้าๆนี่หายขาดสักที


เงินทองเสียไปเท่าไหร่ไม่รู้แต่ทุกคนก็ไม่เคยเสียดายขอแค่ได้รักษาก่อน วิธีไหนดีวิธีไหนดังลองมาหมดแล้ว ทั้งวิทยาศาสตร์ทั้งไสยศาสตร์ ผมเคยมาแล้วทั้งนั้น เอาเป็นว่าเสียตังค์ทิ้งเฉยๆ


กฎเหล็กของบ้านคือห้ามปล่อยผมไปไหนตอนกลางคืนคนเดียวตามลำพัง ถ้าจะออกจากบ้านต้องมีคนติดตามเป็นองครักษ์ประจำตัวจนรู้สึกว่าเป็นคนแปลกที่พิเศษมาก


อาบน้ำเรียบร้อยก็หยิบเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำรองเท้าผ้าใบ กับกระเป๋าสะพายหนึ่งใบที่มีเอกสารบริษัท IIIA ลงมานั่งรอไอ้ฉิ่งที่ข้างล่าง เพราะมันต้องแต่งหล่อก่อนออกจากบ้านทุกคืน ใช้รูปร่างหน้าตาที่สวรรค์ให้คุ้มค่าจริงๆ ผิดกับผมที่ไม่สามารถใช้อะไรได้เลยจากร่างกายที่ผิดปกตินี่


 
“แต่งตัวจะไปไหนวะ”

“ไปกับมึงไง”




ตอบพี่ชายแล้วผมก็รีบไปนั่งที่คนขับ สตาร์ทรถขับตรงดิ่งมุ่งหน้าไปยังร้าน Twins ฟังจากที่ไอ้เอเล่า พี่ธัน เจ้าชู้เงียบ พร้อมเปย์ ดุ บ้างาน แต่ใจดี


ผมเตรียมคำพูดที่แสดงออกถึงความเคารพนอบน้อมและสุภาพ บวกกับการซ้อมกับกระจกอยู่หลายรอบเป็นอย่างดี ที่ผ่านมาลูกค้าที่ผมเคยเสนอขายงานช่วยเจ้ขิมก็ป้าๆในหมู่บ้านเท่านั้น ไม่เคยเจอผู้บริหารตำแหน่งใหญ่โตขนาดนี้




ณ Twins เรียบด่วนเกษตร พี่ชินพี่เชนเจ้าของร้านนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ ไอ้เอกับพี่ชายของมันนั่งที่โต๊ะใกล้ๆ




“อ่าวไอ้ซอ ไม่เจอนานเลยนะมึง นั่งนี่ดิ” พี่ชายไอ้เอกวักมือเรียกผม

“หวัดดีครับพี่ๆ”

“ฝากไอ้ซอด้วยนะพี่ ผมเข้าหลังร้านก่อน” ไอ้ฉิ่งฝากฝังผมไว้กับเพื่อนรุ่นพี่แล้วเดินหายหัวเข้าไปในร้าน

“ให้กูนัดไอ้ธัน ทำไมวะซอ”

ผมยิ้มหน้าสลอน  “แหะๆ ผมจะขายประกันอ่ะพี่กัส ไอ้เอบอกพี่ธันรวย ประกัน3ล้านเขาซื้อได้ใช่ป่ะพี่”

“หืมมมมม 3ล้าน เลยเร๊าะ! กูไม่แน่ใจวะซอ แพงอยู่หน่า” พี่กัสเกือบสำลัก

“ขอแค่เจออ่ะพี่กัส ที่เหลือผมขายเอง”

พี่กัสยกไหล่ขึ้นเบาๆ “แล้วแต่มึงเลยซอ”

“ว่าแต่พี่ธันจะมากับเมียคนไหนวะเอ” ผมกระซิบกระซาบข้างหูเพื่อน

“แม่ง ใครจะรู้วะเมียเยอะแบบนั้น อาจเป็นไอ้เนสหรือไม่ก็ไอ้เบลก็ได้น่า คิดมาก ยก ยก แดกก่อน”

“แล้วไหนมึงบอกว่าพี่ชินตอมมึงไง กูเห็นเขานิ่งจะตายมึงคิดไปเองป่ะเอ” มันมองบนหนึ่งที เบ้ปากใส่ด้วย

“มึงคอยดู ตอนนี้เขายุ่งทำบันชีอยู่ เดี๋ยวมึงก็เห็น”

“พวกมึงกำลังนิทาเพื่อนกูอยู่ป่าววะ” พี่กัสถาม

“ป๊าววว พี่”





จากนั้นสายตาผมก็คอยชะเง้อมองที่หน้าร้านตลอดเวลา เพื่อรอการปรากฏตัวของพี่ธัน ประมาณ2ทุ่มเห็นจะได้


ผู้ชายร่างสูงใหญ่หล่อเนียบด้วยผมทรงเวทลุคเป๋ข้าง ใส่กางเกงเดฟสแล็คห้าส่วนสีดำ รองเท้าหนังกลับสีน้ำตาล เสื้อเชิตแขนยาวพับแขนเสื้อขึ้นดูแมทกัน กระดุมเสื้อเม็ดบนสุดถูกปลดออก จนทำให้เห็นสร้อยเงินเส้นเล็กที่มีจี้ไม้กางเขนเล่นแสงกับไฟในร้านวิบวับเข้าตา มือหนึ่งเดินล้วงกระเป๋ากางเกงเป็นภาพสโลโมชั่นเข้ามาในร้าน


ทุกคนต่างจับจ้องไม่ละสายตาท่าทีที่สง่าอกผายหลังตรงโคตรเท่ห์เหมือนพี่เนมสุดๆ อีกคนที่เดินตามหลังมาคือฮองเฮาบลู ทำไมไม่ใช่ตะเภาแก้วตะเภาทองของผมนะ



“พี่ธันมานั้นแล้ว ทำเชี่ยอะไรของมึง” ไอ้เอกระตุกแขน

ผมลืมตาขึ้น “กูกำลังอันเชิญดวงวิญญาณเจ้ขิมสิงร่างกูอยู่”

“ห่า เตรียมตัวเลยมึง พี่เขามาแล้ว”




พอพี่ธันมาถึงพี่แฝดออกจากเคาน์เตอร์มานั่งร่วมโต๊ะกับพวกเราทันที




“ไอ้ซอ นี่ไงพี่ธันที่มึงอยากเจอ ส่วนนี่บลูแฟนพี่ธัน” พี่กัสแนะนำ

“สวัสดีครับพี่ธัน ผมชื่อ กนิกนันท์ หลิว เป็นตัวแทน ขะ…ขาย….”

โป๊ก!!!!!พี่กัสเขกหัวผมทำไมอ่ะ แนะนำตัวยังไม่เสร็จเลยพี่

“ธรรมดาพอสัส ไอ้นี่มันชื่อซอเป็นเพื่อนกับไอ้เอ แล้วก็เป็นน้องของไอ้ฉิ่งลูกน้องมึงอ่ะ ธัน”

ห๊ะ!อะไรนะเป็นเจ้านายของไอ้ฉิ่งด้วย คือทุกคนรู้จักกันหมด ยกเว้นผมหรอ

“คือผมมีแคมเปญใหม่ …..ของ lIIA…..” ผมยังไม่ได้เอ่ยปากสักแอ๊ะ พี่แกก็เล่นปิดการขายผมทันทีทันใด

“มีอะไรติดต่อเลขาพี่ก่อน นัดวันมา วันนี้ไม่ว่างคุย” ให้ไปหาเลขาอีก ใครละ ผมจะตรัสรู้ได้เยี่ยงใด ใครคือเลขาพี่ครับ

“เลขาพี่คนไหนครับ ผมไม่รู้จัก”


ปึ๊ก!!!! อีกหนึ่งหมัดจากพี่ชินลงที่กลางหัว


“ก็อีพลอยอีแรดป่าเพื่อนกูที่เจอครั้งโน่นไงห่า”

“อ่าว ผมไม่รู้นิ”

“หน่อโผล่มานั้นล่ะ ตายยากนะมึง”

“น้องซอมาหาพี่หรอ” มือจับที่ไหล่อีกแล้วนะ

“ป่าวครับ" แล้วพี่ธันก็ดึงตัวพี่พลอยไปกระซิบข้างหู 

“อ่ะ นี่นามบัตรคุณธัน พรุ่งนี้ค่อยไปหาที่บริษัทนะ วันนี้คุณธันมาเที่ยวไม่สะดวกคุย ไปช่วงเช้านะคุณธันว่าง”

"ขอบคุณครับพี่พลอย"

ตอนที่พี่พลอยเอานามบัตรให้ผมนั้น ผมสังเกตเห็นฮองเฮาบลูเริ่มมองผมแรงขึ้น แรงขึ้น






คืนนี้มีโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับพวกพี่ๆทำให้ผมรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพวกแกมากขึ้น พี่กัส พี่ชิน พี่เชน กำลังถ่ายทำหนังสั้นอยู่ที่เชียงใหม่ พี่พลอยสาวสวยสุดเซ็กซี่คือคู่กัดของพี่ชิน และพ่วงอีกหนึ่งตำแหน่งคือเลขาของพี่ธัน พวกพี่แกก็เล่าเรื่องถ่ายหนังไปหัวเราะกันไปตามประสาเพื่อนฝูง ช่วยกันชงช่วยกันตบมุกให้อีกฝ่ายขำจนท้องเกร็งไปหมด พี่ธันบุคลิกขรึมๆ เวลาเฮฮาก็สุดเหยียดอยู่เหมือนกัน  มิน่าล่ะเท่ห์แบบนี้นี่เองคู่เพื่อนซี้ เนสเบล ถึงยอมมีสามีคนเดียวกันได้ ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงเสียดายงานพรีเมี่ยมแบบพี่ธันแน่ พันธุ์ดีขนาดนี้เหมาะแกการเอาน้ำเชื้อไปขยายพันธุ์เป็นที่สุด



“น้องเอครับ เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกับพี่ครับ” มือพี่ชินคว้าหมับที่มือไอ้เอ

ไอ้เอชักมือหนีเร็วทันขวัน “เลิกตอมผมได้แล้วพี่ชิน ผมชอบผู้หญิง”

“เลิกไม่ได้หรอก ชอบไปแล้ว”

“ไอ้กัสช่วยกูด้วย”

“ตัวใครตัวมันดิ เกี่ยวไรว่ะ” พี่ชายดี๊ดี

“น้องเอกูยกให้มึงนะชิน ซอฟใสอย่างกูขอน้องซอท่าทางจะเข้ากันได้ดี”

พี่พลอยทำท่าลูบปากจะงาบผม พอกันเลยเพื่อนกลุ่มนี้ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายหื่นพอกัน ดงเสือชัดๆ

“ซอฟใสเชี่ยไรอีพลอย มึงไม่ใช่น้ำเปล่า มึงอ่ะเหล้าขาว40ดีกรี นี่แหละ”

“สัส เปรียบซ่ะหมดราคาเลย”

“มึงคิดว่าจะแดกน้องซอได้หรออีพลอย กูบอกเลยยาก จริงมั้ยธัน” ทำไมต้องพูดแบบนี้วะพี่

ไอ้บลูลุกพรวดพราด “พี่ธัน! บลูขอไปนั่งดูพี่ฉิ่งทางโน่นนะ เหม็นขี้หน้าคน”


ไอ้บลูมันหมายถึงใครทำไมมองมาที่ผม ผมเกี่ยวอะไร ก็บอกไปแล้วมาขายประกันไม่ได้มาขายอย่างว่า หวงออกหน้าออกตาเกิน ไม่รู้จะหวงทำเผือกอะไร ผมยังไม่ได้คุยกับพี่ธันสักคำมีอะไรที่ต้องหึงผม


“เดี๋ยวบลู” พี่ธันคว้าแขนเมียรักไว้ในอ้อมกอดแล้วจูบโชว์ต่อหน้าเพื่อนๆในกลุ่ม อื้อหือ…ต่อหน้าเพื่อนขนาดนี้ อยู่สองต่อสองจะขนาดไหนวะพี่





เวลาล่วงเลยถึงเที่ยงคืน วันนี้ไอ้ฉิ่งไม่โฆษณาผมให้สาวๆเหมือนวันนั้น เพราะมัวแต่เอ็นเตอร์เทนสาวน้อยสาวใหญ่แฟนคลับของมันอยู่หน้าเวที



ฉิ่งขา-------
กรี๊ดดดดดดดดดด พี่ฉิ่ง
พี่ฉิ่งน่ารักมากค่า…..
สามีจ๋า รักพี่ฉิ่ง ม๊ากกกกกกกก
กรี๊ดดดดดดด วร๊ายยยยยยย



“ใครเกิดวันนี้ครับ ยกมือเลย ก้าวออกมาข้างหน้า ผมมีอะไรจะให้”

“นู๋ค่า นู๋เกิดวันนี้ วันเกิดนู๋เองพี่ฉิ่ง” ผู้หญิงคนหนึ่งชูบัตรประชาชนขึ้นสุดแขน ทำเอาสาวๆบริเวณนั้น แสดงอาการอิจฉาตาร้อนเป็นแทบๆ

“เชิญด้านหน้าเลยครับน้อง” คนร่างเล็กเดินมาหยุดที่ตรงหน้าไอ้ฉิ่ง

“พี่ฉิ่งจะให้อะไรนู๋ค่า” บิดตัวเป็นเกลียวแล้วครับคุณ

“พร้อมน๊า” พี่ชายผมค่อยๆโน้มตัวหอมแก้มผู้หญิงคนนั้นจมูกชนแก้มนิดหน่อย สาวร่างเล็กถึงกลับยืนตัวแข็งหาโต๊ะแทบไม่เจอ


ว๊ายยยยยย…………
กรี๊ดดดดดด
พรุ่งนี้วันเกิดนู๋ ขอแบบนี้นะพี่ฉิ่ง 


“เพลงนี้ขอมอบให้ทุกคนที่มาวันนี้ ไม่ว่าจะเจออะไรมาหนักหนาแค่ไหนก็ตาม อย่าลืมว่า ผมคนนี้อยู่ “ที่เดิม” เป็นการเข้าเพลงของโปเตโต้ที่ชวนอวกมากแต่ความหมายดี













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2017 10:04:00 โดย 19919 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 ตลกซอ ชอบผู้หญิงแต่พี่พลอยเล่นด้วยกลับไม่ชอบ เป็นเมียโฟร์หรือพี่ธันเอาเนาะ 555
  โฟร์ซื้อได้ไม่ยอมขาย จะไปขายให้พี่ธัน3เมีย เรื่องยุ่งๆจะตามมาละทีนี้  รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตกลงว่าซอเป็นโรคอะไร แบบว่าถ้าโดนจุ๊บหรือหอมแก้มจะหลับ (ลึก) เหรอ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
พี่ธันนี้ยังไงๆ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตกลงว่าซอเป็นโรคอะไร แบบว่าถ้าโดนจุ๊บหรือหอมแก้มจะหลับ (ลึก) เหรอ
ตอนที่4อาการออกแล้วจ้า

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่4 ความลับ หมอผี ข้าวสารเสก





ผมฝืนสังขารกับหัวที่หนักหลายสิบโลมึนๆอึนๆเบิกตาตื่นในเช้าวันเสาร์ วันนี้มีงานใหญ่รอผมอยู่ ก็งานประกันของเจ้ขิมนี่ไงครับมันยังไม่คืบความหน้าอะไรเลย ดีที่พี่ธันให้เข้าไปหาที่บริษัทได้ ร่างกายเหมือนยังไม่พร้อมเอามากๆ ก็เมื่อคืนกว่าจะได้กลับจากTwinsเกือบสว่าง พี่เชนพี่ชินแกปิดร้านก็จริงแต่พวกเราทั้งหมดยังกินเหล้ากันต่อในนั้น


 
ผมจำได้แค่ว่าผมเมามากเพราะพี่พลอยเทเหล้าให้ผมไม่หยุดแบบแก้วต่อแก้ว ภาพสุดท้ายที่ผมพอจำได้ลางๆคือผมดันทะเล่อทะล่าเข้าห้องน้ำไม่ดูตาม้าตาเรือจนเห็นบทรักที่ไม่ควรเห็นระหว่างพี่ธันกับเมียอีกครั้ง

 
งัวเงียลุกอาบน้ำอยู่นานสองนานแต่น้ำที่อาบไม่สามารถปลุกให้ผมตาสว่างได้เลย ร่างอิดโรยเดินโต๋เต๋ลงมาจากชั้นสองเข้าในครัว



“ม๊า ขอกาแฟดำแก้วนึ่ง” 

“ตื่นเช้าได้ด้วยหรอ” ม๊าวางแก้วกาแฟลง

“นัดลูกค้าไว้”

“ขยันจังนะลูกชาย” ม๊าตีหลังผมเบาๆ แล้วก็หันไปสนใจหม้อแกงจืดต่อ

“บัตรลิเวอร์”

“ไม่น่าชม”

“ป๊ากับเฮียขลุ่ยไปไหนอ่ะม๊า”

“ไปตีเทนนิสที่ชมรมแต่เช้าเดี๋ยวคงกลับมากินข้าวกันล่ะ แล้วซอจะกลับที่โมง ม๊าเชิญอาจารย์มาปัดเป่าความชั่วร้าย ช่วงบ่ายกลับมาให้ทันด้วยนะ” เอาอีกแล้วม๊าผม

“คราวนี้อาจารย์จากวัดไหนล่ะม๊า”

“ก็อาจารย์ โจน ยานอวกาศ ที่ออกทีวีบ่อยๆไง อาจารย์สัมผัสดวงวิญญาณในตัวซอได้ ม๊าเลยเชิญท่านมาที่บ้าน”

“คร๊าบ คร๊าบ ซอจะกลับมาให้ทันนะ”




ฟังแค่ชื่อก็ไม่น่าเลื่อมไสละห่า อยู่ดีๆก็มีผีตามซ่ะงั้น  ตกลงในตัวผมจะมีสิ่งดีๆกับเขาบ้างไหม ผมยกกาแฟหมดแก้วก็เดินออกมายังห้องรับแขก เจ้ขิมกับอาม่านั่งดูทีวีอย่างแฮปปี้ไม่ขัดจังหวะดีกว่าขี้เกียจแสดงละครไม่รู้อาม่าดูเรื่องอะไร



สี่กุมารหารกล้า ตรี คฑา จักร สังฆ์ 



ฮ่า ฮ่า ฮ่า เกือบได้เป็นสี่ยอดกุมารแล้ว หนังจักรๆวงศ์ๆตอนเช้าที่เล่นเรื่องเดียวทั้งปีเดินวนไปวนมาไม่จบสักซักทียาวเป็นมหากาพย์





บริษัทที่พี่ชายผมทำงานก็เป็นบริษัทเดียวกับพี่ธันเป็นผู้บริหาร (เพิ่งรู้เมื่อคืน)  ไอ้ฉิ่งอยู่แผนกมาร์เก็ตติ้งทำงานที่นี่ตั้งแต่เรียนจบ มันเรียนเก่งชอบทำกิจกรรม ชอบร้องเพลง  นอนวันล่ะไม่กี่ชั่วโมงก็ทำงานต่อได้ ผมไม่รู้ว่ามันสนิทกับพี่ธันมากน้อยแค่ไหน  เพราะมันไม่เคยเล่าเรื่องที่ทำงานให้ผมฟัง รู้อย่างเดียวคือเป็นเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น



ผมถึงบริษัทที่ตั้งสูงเด่นกลางใจเมืองตอน9โมงกว่าๆ โชว์นานบัตรที่พี่พลอยให้มากับรีเซฟชั่นตรงทางเข้า พี่แกก็บอกให้ผมใช้ลิฟท์แก้วด้านใน ผมเดินตรงมาที่ลิฟท์ตัวนั้นตามคำบอก ลุง รปภ ยิ้มต้อนรับผม




“ชั้นไหนครับ” ลุง รปภ ถาม

“ผมมาหาพี่ธันครับลุง ผมไม่รู้ชั้นไหน พี่ธันให้ผมมาแค่นามบัตรนี่” ผมยื่นนามบัตรอีกที ลุงแกยิ้ม

“อ๋อ!  ชั้น8ครับ ญาติคุณธันวานี่เอง”

“ป่าวครับลุงผมไม่ใช่ญาติ”

“งั้นก็แขก VIP เพราะปกติแล้วชั้น8 เป็นชั้นของผู้บริหารทั้งหมด มีแค่ญาติเท่านั้นมีนามบัตรแบบนี้ถึงจะเข้าได้ คนนอกขึ้นไม่ได้หรอกครับ”

“หรอครับลุง?” นี่หรือป่าวเป็นสาเหตุให้ไอ้บลูมองแรงตาขวางเมื่อคืนหลังจากผมได้บัตรนี้




ติ๊ง! ลิฟท์หยุดที่ชั้น8



“เชิญครับ เดินตรงไปเลี้ยวขวา ก็ถึงห้องคุณธันวา”

“ขอบคุณครับลุง”

เงียบมากเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองเดินตามทางมาเรื่อยๆสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่เพิ่งเจอมา คนที่แต่งตัวโป๊และมอมเหล้าผมทั้งคืนนั่งอยู่โต๊ะทำงานด้านหน้าห้องกับชุดเรียบร้อยปิดมิดชิดถึงคอ ใช่คนเดียวกับที่จะลวนลามผมเมื่อคืนมั้ยครับ คนละคนแน่ๆ

“สวีสดีครับพี่พลอย”

“หวัดดีจ๊ะน้องซอ มาหาคุณธันสินะ เชิญๆ ทางนี้” พี่พลอยลุกขึ้นจากเก้าอี้ยืนตรงประตูที่มีชื่อตำแหน่งของพี่ธันยาวเหยียด


ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!


“คุณธันค่ะ พลอยให้ซอเข้าไปเลยนะค่ะ”

“เชิญครับ คุณพลอย” เมื่อวานมึงกู วันนี้คุณแล้วหรอ




พี่พลอยเปิดประตูให้ผมเข้าในห้องสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือกลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์ตลบอบอวล  รู้สึกง่วงขึ้นมาทันทีถ้าได้นอนในนี้คงหลับสบายแน่ ห้องทำงานใหญ่มากใหญ่พอๆกับห้องรับแขกที่บ้านเลย มีโซฟาหนังสีดำตั้งอยู่มุมข้างๆ โต๊ะทำงานของพี่ธันอยู่กึ่งกลาง  ผมควรเรียกพี่เขาว่าคุณเหมาะกว่าใช่ไหมครับ




“สวัสดีดีครับคุณธัน” ผมยกมือไหว้

“เฮ่ย….กูไม่ใช่เจ้านายมึง เรียกพี่เหมือนเดิม กูไม่ถือ เชิญนั่งซอ”

“โห้ยยย ค่อยหายใจโล่งหน่อย ผมเกร็งเลยอ่ะพี่ธัน ก็ทุกคนก็เรียกพี่ว่าคุณ ผมเลยเรียกตามเขา”

“ว่ามา มีอะไร ถึงอยากเจอพี่” ผมกับพี่ธันเดินมานั่งด้วยกันที่โซฟา





เด็กหน้าตี๋ ปากออม ตาเล็ก คิ้วเข้ม จมูกเป็นสัน ตัดผมรองทรงสูงจนเห็นหัวทุยสวย ผมหน้าม้าหยักศกเล็กน้อย นั่งตรงข้ามหน้าตาดูจริงจังและตั้งใจ เด็กคนนี้ไม่ได้แสดงท่าทีกลัวผมเหมือนคนอื่นๆเลยแม้แต่น้อยทำเหมือนสนิทกับผมมานาน ทั้งที่เพิ่งเจอกันวันที่สอง


คนที่ไม่รู้จักหรือไม่สนิทกับผมต่างเข้าใจว่าผมดุ และบ้างาน ความจริงเปล่าผมแยกเป็นเรื่องๆ งานคืองาน เที่ยวคือเที่ยว หลังเลิกงานทุกคนก็คือเพื่อนไม่มีคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง หัวโขนใส่ฉะเพราะเวลาทำงานเพื่อบอกตำแหน่ง ผมไม่เคยถือตัวกับลูกน้องสักคน ผมกับพี่ไอ้ฉิ่งก็สนิทกันมากทำงานด้วยกันมาหลายปีแต่ไม่เคยรู้ว่ามีน้องชาย ที่ยอมให้มาพบถึงที่ทำงานก็เห็นเป็นน้องของไอ้กวีนี่แหละ แล้วเด็กตาเล็กก็ล้วงเอกสารออกมาจากกระเป๋าเพื่อนำเสนออะไรบางอย่าง




“คือผมช่วยพี่สาวขายประกัน ผมเห็นว่าประกันตัวนี้ดีมาก มีพี่ธันคนเดียวเท่านั้นที่ควรได้มันไป เอาไว้คอยดูแลพี่ในยามเจ็บป่วย พี่ควรได้รับการดูแลที่ดีเยี่ยมจากเรา” หน้าตี๋เริ่มร่ายยาว

“ที่อยากเจอกูแค่จะขายประกันเองหรอวะ กูมีแล้ว” ประกันพวกนี้ผมมีเยอะมากคบทุกอย่างแล้วด้วยทนฟังเอาหน่อยเด็กมันตั้งใจมาละ

“แต่ของผมไม่เหมือนที่พี่ธันมีแน่นอน มันพิเศษมากตรงที่พี่สามารถเพิ่มคนที่พี่อยากให้คุ้มครองได้อีก1คนด้วยนะพี่ธัน จ่ายครั้งเดียวคุ้มครองตั้ง15ปีผลตอบแทนก็ดี จ่าย1คุ้มครองถึง2หาที่ไหนไม่มีอีกแล้ว”

“กูมีแล้ว”

“พี่ธันจ่ายแค่3ล้านเอง ผมคิดมาให้แล้ว ตกปีล่ะ 200,000 ต่อเดือน 16,666.66 ต่อวัน 555.55 บาท เข้าโรงบาลแบบอันลิมิด ป่วยก็จ่าย เจ็บก็จ่าย คุ้มครองทุกโรคภัย เล็บขบก็คุ้มครองนะพี่ธัน หรือถ้าพี่ตายภายใน15ปีนี้ พี่ได้เงินคืน15ล้าน คุ้มมาก”

“ตายไปกูก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี อีกอย่างกูไม่เอาเงิน3ล้านไปทิ้งเล่นๆหรอก ทำอย่างอื่นได้ตั้งเยอะ” ดูซิเด็กนี่จะขายต่อมั้ย

“ใครบอกเสียทิ้งครับพี่ คนข้างหลังพี่ได้ใช้นะครับ เผื่อวันดีคืนดี พี่ธันเกิดรถชนขึ้นมาแย่เลยนะครับ”

“แช่งกูหรอ”

“ป่าวนะครับพี่ ก็พี่เท่านั้นแหละที่สมควรครอบครองมัน”

“กรุงเทพเหยียบได้ไม่เกิน60หรอกมึง รถติดเชี่ย อุบัติเหตุตัดไปได้เลย”

“งั้น ถ้าพี่เป็นโรคร้ายอย่างมะเร็งละ ประกันผมช่วยจ่ายค่ารักษาให้พี่ได้สูงสุดถึง2ล้านเลยนะครับ ถ้าตรวจเจอ เอาแบบอยู่โรงพยาบาลเป็นปีๆยังได้”

“กูตรวจสุขภาพทุกปี”

“งั้น ถ้าแผ่นดินไหวละครับ บริษัทถล่มลงมาก็เสียชีวิตได้นะครับ”

“บริษัทกู มีโครงสร้างกันแผ่นดินไหวได้ 7.6 ริกเตอร์ ไม่มีถล่มแน่นอน”

“เกิดไฟไหม้ล่ะพี่ หนีไม่ทันตายได้เหมือนกันนะครับ”

“มึงจะให้กูตายอย่างเดียวเลยใช่มั้ย ประกันอัคคีภัยกูก็ทำแล้ว”

“โห่ พี่ธันอ่ะ ปิดการขายผมทุกช่องทางแบบนี้เลยหรอ พี่ช่วยซื้อหน่อยเหอะ ถ้าพี่ไม่ซื้อผมก็จะตามพี่อยู่แบบนี้นี่แหละ”

“ความผิดกูหรอ ที่กูไม่ซื้อ”

“ก็พี่ธันเป็นคนเดียวที่ซื้อผมได้นิ” เด็กหน้าตี๋ทำหน้าตึงใส่

“มึงซ่างเมาจากเมื่อคืนยังวะพูดมาก คนอื่นก็ซื้อได้มีเยอะแยะ มึงไม่ไปขายเขาวะ”

“คนอื่นผมไม่รู้จัก ยังไงผมก็จะตื้อจนกว่าพี่ธันจะซื้อคอยดู”

“อ้าว…เกี่ยวไรกับกูวะ ว่างมากก็นั่งไป กูเคลียร์งานก่อน” ขณะที่ผมลุกขึ้นจากโซฟานั้นไอ้เด็กขายประกันคว้าแขนผมเอาไว้




“พี่ธัน งั้นช่วยเอาเอกสารไป อ่ะ อ่ะ อ่านนนนน ”





ผมหันหลังกลับไม่ทันระวังและไม่ทันสังเกตเด็กขายประกันยืนประชิดติดตัวไม่ถึงคืบ ทำให้ริมฝีปากผมกับเด็กซอประกบกันเข้าแบบพอเหมาะพอเจาะ ร่างผอมสูงค่อยๆเอนตัวล้มฟุ้บซบเข้าที่อกและหมดสติไป ผมรีบช้อนตัวมันเอาไว้ก่อนหัวจะฟาดกับพื้น คุยกันดีๆเป็นลมซ่ะงั้นไอ้เด็กบ้องเอ่ย ผมอุ้มร่างไอ้ซอวางราบกับโซฟา เป็นลมทำไมยิ้ม นี่เป็นลมจริงเปล่า หรือแค่กวนตีน




“พลอย พลอย เข้ามานี่หน่อย” ผมเรียกเลขาหน้าห้อง

“มีอะไรคะ คุณธัน ว๊าย! ซอเป็นอะไร” พลอยตกใจเมื่อเห็นไอ้เด็กนี่นอนไม่ได้สติ

“โทรเรียกพี่มัน ขึ้นมาดูสิ จะตายคาห้องกูมั้ย” เลขาผมรีบกดเบอร์หาไอ้ฉิ่งรนราน

“ฉิ่งกำลังขึ้นมา นี่มึงทำอะไรน้องเขาป่าววะธัน ถึงสลบไสลแบบนี้ ” พลอยหันมาถามอย่างมีเลศนัย

“มึงจะบ้าหรอพลอยนี่ห้องทำงาน อยู่ดีๆมันก็เป็นลมล้มพับไป กูไม่ได้ทำไรมันเลย เจอเด็กทีไรมีแต่เรื่องให้ปวดหัว”

“ไอ้ธันเอ๊ย เมียมึงทั้งสามก็เด็กเหมือนน้องซอนี่แหละทำเป็นเกลียดไม่เห็นเคยหนีพ้น” พลอยหยิบกระดาษมาพัดให้คนเป็นลม ทั้งยาดม ยาหม่อง บีบนวดสักพักพี่ชายมันก็มา




ก๊อก!!!!!!!!!!ก๊อก เสียงเคาะประตูแบบรัวๆ




“เข้ามา”

“ไอ้ซอเป็นอะไรครับพี่ธัน” พี่มันดูตกใจไม่น้อย แล้ววิ่งรี่ไปนั่งติดกับเลขาผม

“น้องมึงเมาค้างจากเมื่อคืนป่าวฉิ่ง ยืนอยู่เฉยๆมันก็วูบไป กูรับเกือบไม่ทัน” ไอ้ฉิ่งเงยหน้ามามองผม

“พี่พลอยผมขอคุยกับพี่ธันส่วนตัวได้มั้ยครับ” ไอ้ฉิ่งมีท่าทีแปลกทำไมต้องให้พลอยออกจากห้องด้วย พลอยก็พยักหน้าตามคำขอของไอ้ฉิ่ง เดินออกไปนอกห้อง

“มีอะไรฉิ่ง เรื่องซีเรียสหรอวะ”

“ครับซีเรียส ผมจะถามพี่ว่า พี่จูบน้องผมใช่มั้ย”

“เฮ้ย!!! แต่กูไม่ได้ตั้งใจมันเป็นอุบัติเหตุ กูไม่ได้ทำอะไรน้องมึงนะฉิ่ง อย่าเข้าใจผิด” แก้ตัวพัลวันเลยผม

“ผมเดาไม่ผิดจริงด้วย พี่ต้องจูบน้องผมแน่ มันไม่ได้เป็นลมหรอกพี่ ไอ้ซอป่วยเป็นโรคที่ติดตัวมันมาตั้งเด็กมันจูบกับใครไม่ได้หรอกครับ เพราะร่างกายมันเหมือนมีปุ่มชัดดาวน์ ถ้าจูบก็เป็นอย่างที่พี่เห็นนี่แหละหลับเหมือด”

“เชี่ยยยยย!? โรคเหี้ยอะไรวะเนี๊ยะ กูเพิ่งเคยได้ยินมีโรคประหลาดแบบนี้ด้วยหรอวะ แล้วมันจะฟื้นมั้ยเป็นอันตรายรึป่าว” ผมสบถเสียงดังเมื่อรู้เรื่องแล้วโน้มตัวมาส่องคนนอนหลับแก้มปุ๋ยอยู่บนโซฟา

“ปล่อยไว้ไม่เกิน1-2ชั่วโมง เดี๋ยวมันก็ตื่น ผมขอร้องพี่ธันอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะพี่ โชคดีที่วันนี้เกิดกับพี่ ถ้าเป็นคนอื่นจะเป็นยังไง”

“……?…….”

“แล้วผมจะบอกไม่ให้มันมากวนพี่เรื่องประกันอีก ขอโทษพี่ด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ห่วงน้องมึงเถอะแน่ใจนะไม่เป็นไร ไปหาหมอมั้ย”

“มันแค่หลับจริงๆพี่”





บอกตรงๆผมยังไม่อยากเชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดตรงหน้าแต่ก็รับปากกับไอ้ฉิ่งไป ทั้งตะลึง ทั้งงง ทั้งไม่เชื่อ โรคบ้าอะไรถึงมีอาการแบบนี้  ไอ้ซอมันใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไงถ้าไม่สามารถจูบกับใครได้เลย ชีวิตน่าสงสารไปนะไอ้เด็กประหลาด พอพี่ชายมันเล่าอาการป่วยน้องชายให้ผมฟังเสร็จสรรพ ผมก็ให้กลับไปทำงานต่อ ส่วนน้องมันผมจะดูแลให้จะรอจนกว่ามันฟื้น




“อื้ย….ฝันดีจังเลยครับม๊า” ไอ้ซอเริ่มบิดขี้เกียจหลังหลับไป1ชั่วโมงเต็มๆ ลืมตามองผมที่นั่งจ้องมันอยู่

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ มึงนี่แปลกสุดเท่าที่กูเคยเจอมาเลยวะซอ”

“เห้ย! พี่ธัน พี่จูบผมทำไม ทำอะไรผมป่าวเนี่ย” มันลุกดิ้นพ่านๆด้วยความตกใจ สำรวจร่างกายตัวเองเป็นการใหญ่

“มันเป็นอุบัติเหตุไม่ได้ตั้งใจ ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้ ไอ้ฉิ่งเล่าอาการป่วยให้กูฟังหมดแล้ว ขอโทษด้วยที่ทำให้หลับ” มันสงบสติอารมณ์แล้วนั่งลงอีกครั้ง

ทำหน้าเศร้าสลดเล็กน้อย “งั้น….พี่ก็รู้หมดแล้วดิ”

“เออ”

 “พี่ซื้อประกันผมเลย แลกกับความลับของผม” ห๊ะ!!!!ยังมีหน้าขายประกันต่ออีก

“ไอ้หน้ามึน กูไม่ได้อยากรู้สักนิด ทำไมกูต้องซื้อความลับมึงด้วยวะ”

“ไม่รู้ล่ะ พี่ก็รู้ไปแล้ว นี่เอกสารอ่านด้วยแล้วผมจะมาฟังคำตอบวันหลัง สงสัยตรงไหนก็โทรหาได้ ในนั้นมีเบอร์โทรแล้ว ผมต้องกลับละมีนัด”



ไอ้ตาเล็กคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไปเลย อะไรของมันวะ โอ้ย! ปวดหัวมีเด็กเข้ามาเกี่ยวข้องทีไรมีเรื่องทุกครั้ง นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป มนุษย์แบบนี้ก็มีด้วยแล้วประกันนี้เกี่ยวอะไรกับความลับมัน






ผมยัดเหยียดประกันเล่มแพงไว้ที่มือพี่ธันแล้วรีบพุ่งร่างออกมาทันที เพราะไม่อยากโดนตีนดูพี่ธันจะโกรธแล้วด้วยที่ผมพูดจามัดมือชกพี่แกแบบนั้นออกไป พลังที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากเจ้ขิมใช้ไม่ได้กับพี่ธันหวะไปคิดลูกเล่นใหม่ค่อยมาตื้ออีกครั้งดีกว่า ปกติผมก็ไม่หน้ามึนขนาดนี้หรอกครับแต่เห็นใจผมเถอะพี่ธันเป็นเพียงตัวช่วยเดียวที่ผมมี ไม่นับไอ้โฟร์นะครับเพราะผมไม่อยากเป็นเมียมัน





เมื่อผมกลับถึงบ้านกลางห้องรับแขกกลายเป็นสำนักหมอผีแบบจัดเต็ม ดอกไม้ธูปเทียน ผ้าเจ็ดสี ลูกปะคำเม็ดใหญ่เท่าไข่ห่าน หัวกะโหลก กุมารทองวางซ้ายขวา ของเส้นไหว้ หมูเห็ดเป็ดไก่ ตั้งวางเป็นชั้นๆ ผู้ชายรูปร่างท้วมนุ่งขาวห่มขาว หนวดเคราเฟิ้มนั่งอยู่ตรงกลางปะรำพิธี


นั้นคงเป็น อาจารย์โจน ยานอวกาศ ผู้โด่งดังเรื่องผีจากจอทีวีแน่  งานนี้ม๊าผมคงเสียค่าใช้จ่ายในการไล่ผีร้ายมากพอตัว เชิญอาจารย์คนดังมาถึงบ้านแบบนี้ ถ้าถามผมว่าเชื่อไหม ไม่เลยสักนิดลองมากี่ครั้งก็ล้มเหลวตลอดเรียกว่าผมเจ็บจนชิน  แต่ที่ยอมเพราะรักม๊า เขาอยากให้ผมหายเป็นปกติผมยอมได้แต่พิธีกรรมแต่ล่ะอย่างไม่เคยปกติเอาซ่ะเลย




“มีพลังงานบางอย่างตามลูกชายคุณมา อยู่ที่หน้าประตูนั้น”  ผมมองซ้ายขวาอยู่ไหนวะผี ก็อาจารย์เล่นใหญ่ชี้นิ้วมาทางผม ตอนที่ผมกำลังก้าวขาเข้าบ้าน ขนาดหลับตายังมองเห็นเก่งเว่อ กลิ่นธูปกลิ่นเทียนและหมอกลอยฟุ้งออกจากอ่างน้ำมนต์กระจายทั่วพิธีกรรม น่ากลับชิบหาย


“ซอมานั่งนี่เร็วลูก ช่วยไล่มันออกจากร่างลูกชายดิฉันทีค่ะพ่อหมอ”  ผมเดินมานั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าปะรำพิธี  ป๊า พี่สาว พี่ชาย  ได้แต่นั่งอมยิ้มอยู่ไกลๆ จริงๆแล้วพวกเขาน่าจะมานั่งเป็นกำลังใจผมนะเพราะไม่รู้อาจารย์ยานอวกาศจะทำอะไรกับผมวันนี้


“ไม่ต้องห่วง อาจารย์ปลุกเสกข้าวแม่ม่ายมาแล้ว แค่วิญญาณมันถูกข้าวสารนี่นะ หนีทุกตัวฮ่าๆๆๆ” ดูอาจารย์แกมั่นใจในวิชาอาคมมาก ถ้าได้ผลนะอาจารย์จะบวชให้สัก3พรรษา แล้วอาจารย์โจน ที่หน้าเหมือนโจรก็หยิบเอาข้าวแม่ม่ายออกจากถุงย่าม โอม นโม นโม นโม นโม แล้วสาดใส่ผมไม่ยั้งมือ


“ออกไป! ออกไป! วิญญาณร้ายจงออกไป” ฮ่าๆๆๆ เสียงขำจากพี่ๆผมที่นั่งมองพิธีกรรมด้านหลัง ขำกันเข้าไป พายุข้าวสารยังถล่มผมห่าใหญ่หลายสิบนาที มันเข้าตาแล้วครับจารย์ เมื่อไหร่จะเสร็จครับ


“สัมภเวสี เจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลายจงออกไป” แซ่เส้นใหญ่เท่าเชือกผูกKฟาดลงบนหลังผม3ที เฟี๊ยะ!เฟี๊ยะ!เฟี๊ยะ! แสบครับจารย์ กูแสบหลังแล้วเหี้ย


“อาจารย์ศักดิ์สิทธ์มากค่ะ ลูกชายดิฉันน้ำตาไหลเลย สั่นด้วยค่ะผีร้ายออกแล้วแน่ๆ” เออ…ม๊าครับ ข้าวแม่ม่ายเข้าตาครับม๊า ซอเจ็บครับไม่เกี่ยวกับผีสางใดๆ และที่สั่น สั่นเพราะหิวมากท้องเริ่มร้องโครกครากเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน


“เอาละเสร็จพิธีแล้ว อยู่ดีมีสุขนะไอ้หนู พระคุ้มครอง อาจารย์ไปก่อน มีอีกหนึ่งที่ต้องไปปราบ มีอะไรก็เรียกใช้อาจารย์ได้ เรื่องผีๆไว้ใจ อาจารย์โจน ฮ่าๆๆๆ” เจ็บเชี่ยเจ็บโคตรๆ ดีนะที่พิธีมีแค่นี้ไม่งั้นหิวตายก่อนผีออกแน่เลย




อาจารย์เก็บสำนักรับตังค์จากม๊าผมแล้วก็ออกจากบ้านไป ผมต้องมานั่งเก็บกวาดข้าวแม่ม่ายของอาจารย์โจนอยู่คนเดียว น่าจะช่วยกันก่อนแล้วค่อยไปรับงานอื่นทิ้งภาระให้ผมแท้ๆ คราวนี้คนในครอบครัวมองผมเป็นสายตาเดียวกัน คงรอทดสอบเหมือนเคย สงสัยวันนี้ผมต้องหลับเป็นครั้งที่สองแล้วละครับ เจ้ขิมเข้าครัวทำข้าวผัดหมูมาให้กินก่อนเตรียมตัวนอนที่โซฟานุ่มๆ เพื่อรอการทดสอบ ใครก็ได้ครับยังไงก็ผลเหมือนเดิม 












« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2017 16:55:57 โดย 19919 »

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  หึยยยยย!! โรคอะไรจูบปากแล้วหลับ 555++ จะสงสารซอดีมั้ยอะ แต่สะใจมากกว่าที่จะได้เป็นเมียพี่ธันอีกคนรึป่าว ฮ่าๆ แซ่บจริง
  รออ่านตอนต่อไปคับ สนุกอะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พี่ธันเป็นพระเอกเหรอ ไม่เอาได้ไหมอ่ะ ตอนนี้มีตั้งสามเมียแล้วนะ จะตั้งฮาเร็มเลยหรือไง
ว่าแต่โรคของซอนี่จริง ๆ แล้วอาการจะไม่กำเริบกับเนื้อคู่หรือเปล่า ฮา (สายมโน)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
พี่ธันเป็นพระเอกเหรอ ไม่เอาได้ไหมอ่ะ ตอนนี้มีตั้งสามเมียแล้วนะ จะตั้งฮาเร็มเลยหรือไง
ว่าแต่โรคของซอนี่จริง ๆ แล้วอาการจะไม่กำเริบกับเนื้อคู่หรือเปล่า ฮา (สายมโน)
อยากให้เป็นทั้งสองคนเลย

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่5 ความผิดของสโนวไวท์





“พรุ่งนี้ม๊ามาเล่านิทานให้ซอฟังอีกนะครับ ซออยากฟังทุกวันเลย”

“ซออยากฟังเรื่องอะไรลูก”

“สโนวไวท์”

“ไม่เอาฉิ่งจะฟังเรื่องอื่น ฉิ่งไม่ชอบเรื่องนี้”

“ซอชอบนะเฮีย ซออยากเป็นสโนวไวท์”

“ซอเป็นตุ๊ด ซอเป็นตุ๊ด”

“ฉิ่งไม่ล้อน้องแบบนั้นลูก นอนได้แล้ว ขลุ่ยห่มผ้าให้น้องด้วย”

“เป็นสโนวไวท์หลับฝันดีนะเฮีย ตื่นมาเจอเจ้าชายด้วย ซออยากฝันดี นะนะ ม๊านะ ซออยากเป็นสโนวไวท์”

“จ้าๆ อยากฝันดีทุกคืนก็ต้องให้ม๊าจุ๊บก่อนนอนนะเด็กๆ”

“จุ๊ฟ จุ๊ฟ  มาไอ้ตัวเล็กสโนวไวท์ของม๊า กู๊ดไนท์ นะลูก จุ๊ฟฟฟฟฟ”

“ซอ! เป็นอะไรลูก ซอ!ได้ยินไหมลูก ซอ!!!! ขลุ่ยไปบอกป๊าเอารถออกพาน้องไปโรงพยาบาลเร็ว”







ไม่ต้องถามถึงผลเมื่อวานนี้หลับเหมือนเดิมครับ วิชาอาคมจากสำนักไหนก็ช่วยผมไม่ได้จริงๆ วันนี้หยุดอีกวันต้องอยู่ดูแลอาม่า  เจ้ขิมออกไปเจอลูกค้า ไอ้ขลุ่ยไอ้ฉิ่งนั่งเล่นหมากรุกที่ระเบียงหน้าบ้าน ป๊ากับม๊าไปประชุมกับนิติของหมู่บ้านกว่าจะกลับอีกนาน

ผมหยิบโทรศัพท์มาเซฟรูปจากแมตเมื่อคืนที่ทีมรักของผมชนะใสๆเป็นแมตที่เล่นดีมากเล่นดีทุกตำแหน่ง อยากไปนั่งดูที่สนามเร็วๆจังคงได้บรรยากาศที่สนุกสนานสมจริงมากกว่าดูผ่านจอสี่เหลี่ยมนี้แล้ว


ตึ่ง! เสียงเตือนจาก ig  ไม่ใช่จากใครหรอกครับจากเพื่อนร่วมสำนักหงส์แดงของผมนั้นแหละมันแท็กรูปสกอร์ผลบอลมาที่ ig ผมเป็นประจำ  แท็กฉะเพราะเกมส์ที่ชนะนะครับห้ามแท็กเกมส์ที่แพ้มาโดยเด็ดขาดเพราะมันเป็นข้อห้ามของสำนักเรา



3-1

Anothaiชนะเว้ยเฮ้ย3-1@Jikksor

Jikksorเทพ@Anothai

Ching_Chingนานๆทีดีใจด้วย@Jikksor@Anothai

 _2010mcarเจ๋งสาส

4Siwaฟลุ๊ควะเล่นกะทีมท้ายตารางก็งี้ชนะทีคุยสามวันเจ็ดวัน@Jikksor@Anothai

Jikksorไอ้สัส@4Siwa

Twinschinน้องเอน่ารัก@Anothai



นี่ไงเรื่องที่จะทำให้อารมณ์เสียคอยตามหลอกหลอนผมทุกที่จริงๆกำลังอารมณ์ดีแท้ๆเริ่มจะขุ่นมัวเพราะมันตัวเดียว



ครื๊ด~~~ครื๊ด~~~ครื๊ด~~~


“หวัดดีครับ”

“กูเองซอ”

“ใครวะ”

“เนสไงมึง”

“เนส เนส อ่อไอ้เนสมีไร”

“ไอ้นี่มึงบอกให้กูโทรหา วันนี้กูมีนัดดูหนังกับพี่ธันที่สยามมึงจะมามั้ย ให้ว่องเลยมึง” เกือบลืมคู่ตะเภาแก้วตะเภาทองไปเลยครับ

“ไปๆ เดี๋ยวเจอกัน”

“กูให้มึงอยู่ได้แค่ช่วงกลางวันนะ กลางคืนไม่ได้นะมึง”

“เออ กูรู้หน่าขอบใจที่โทรบอก ตามนั้น”


ตุ๊ด.. ตุ๊ด..ตุ๊ด..


“ฉิ่ง! กูจะออกไปข้างนอก ดูอาม่าด้วย” ผมร้องบอกพี่ชายผมแล้วรีบใส่รองเท้าวิ่งออกจากบ้าน

“ไปไหนไปกับใคร โทรหากูด้วย ห้ามกลับมืด” เป็นแบบนี้ตลอดถ้าผมไปไหนตัวคนเดียว






ด้วยความรีบร้อนและกลัวไม่ทันผมจึงนั่ง BTS เพื่อประหยัดเวลาถ้าเอารถมา2ชั่วโมงคงไม่ถึง ผมลงที่สยามแล้วก็โทรหาไอ้เนส ถามตำแหน่งจะได้ไปหาถูกที่ไอ้เนสบอกรอที่โรงหนังผมก็แทรกร่างเดินตามหาเป้าหมายอยู่นานในที่สุดก็หาเจอ พี่ธันแต่งชุดสบายๆเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ไม่เหลือมาดผู้บริหาร เสื้อผ้าที่ธรรมดาเลยทำให้พี่ธันดูกลายเป็นวัยรุ่นทั่วไป ต่างจากชุดสูทที่เป็นทางการที่น่าอึดอัดนั้น ส่วนไอ้เนสมาในชุดนักศึกษา พอเห็นทั้งสองคนแล้วผมก็รีบเสนอหน้าเข้าไปทักทายตามมารยาท




“พี่ธันสวัสดีครับ เนสหวัดดี วันนี้ขอดูหนังด้วยคนน๊า”

“นี่มึงรู้จักกับเนสด้วยหรอ”

“อ่อ!ใช่ครับเพื่อนรักกันเลย” ผมเตะเข้าที่ตีนไอ้เนสหนึ่งที

“โอ้ย!!! อ๋อๆ ใช่ครับเพื่อนสนิท  เนสนัดมันมาเองครับพี่ธันดูหนังหลายๆคนสนุกดี” ไอ้เนสเอื้อมมือมากอดคอผมแสดงความสนิทสนมโชว์พี่ธัน

“ที่มาไม่ได้มาขายประกันใช่มั้ย” เสือกรู้ทัน

“โน๊ววว มาดูหนังจิ๊งจริ้ง พี่ธันคิดม๊าก” โทนเสียงผมปกติดีไม่มีพิรุธใช่มั้ย

แล้วเพื่อนสนิทหมาดๆของผมก็ช่วยเชียร์ขาย

“เนสว่า พี่ธันซื้อก็ดีนะครับ เนสอ่านรายระเอียดแล้วโอเคเลยอ่ะผลตอบแทนดี๊ดี พี่ธันไม่สนใจหรอครับ” มึงอ่านตอนไหนวะเนสแต่ขอบคุณมากกูจะไม่ลืมพระคุณเลยตะเภาแก้ว

“ก็ดีนะพี่จะได้หักจากค่าขนมของเนสมาซื้อประกันมัน โอเค๊” พี่ธันแขวะไอ้เนสด้วยเงินค่าขนมเลยวะ

เพื่อนสนิทปล่อยแขนออกจากคอผมคว้าแขนพี่ธัน

“มีเยอะแล้วไม่ต้องซื้อก็ได้ครับ” ไอ้เนสเพื่อนไอ้เลว

“โห่ พี่ธันมาดูหนังไม่พูดเรื่องประกันดิ ยังไงคนใจดีแบบพี่ก็ช่วยผมซื้ออยู่แล้วจริงมั้ย” ผมต้องมึนเข้าไว้

“คิดว่างั้นหรอ” ทำหน้าเข้มใส่ผมอี๊ก

"ใช่ผมคิดแบบนั้น ผมรู้พี่ใจดี" ยิ้มหวานใส่

“กูซื้อตั๋วแถว G ไว้ 10,11 มึงจะซื้อติดกูกับพี่ธันเลยก็ได้นะ”




แล้วผมก็ไปต่อคิวซื้อตั๋วแถวเดียวกับไอ้เนส แล้วเราก็เดินเข้าโรงหนังมาด้วยกันผมเลือกที่นั่งฝั่งขวาของพี่ธันเผื่อมีโอกาสพูดเรื่องประกันบ้าง ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกผมว่าคำนี้ใช้ได้เสมอนะ ไอ้เนสก็นั่งฝั่งซ้าย ไฟเริ่มสลัวๆมองอะไรไม่ชัด หนังตัวอย่างเริ่มฉาย



พี่ธันโน้มตัวมาทางผมพูดเสียงเบา

“นี่มึงจะก่อกวนกูจริงๆใช่มั้ย” ไอ้เนสก็มัวแต่กินป๊อปคอนไม่สนใจคนรอบข้าง

ผมทำหน้าสลอนใส่ “พี่ก็ซื้อประกันซิ ผมจะได้เลิกตามพี่” พี่ธันดึงตัวกลับไปนั่งตัวตรงที่เบาะ

“พี่ธัน เนสไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะ” ไอ้เนสลุกไปเข้าห้องน้ำโดยที่มันไม่รู้เลยว่าได้ทิ้งช่องโหว่ไว้ช่องเบ้อเร่อ

“อยากตามกูมากใช่มั้ย นอนรอเลยละกัน ไอ้เด็กพูดมาก” พี่ธันใช้มือทั้งสองข้างตรึงหน้าผมไว้แน่น

“เฮ้ยยย! พี่ธัน อย่าๆ อย่าเล่นแบบนี้ พี่ธัน ธะ~ธานนน~”


ผมดิ้นแรงจนเบาะนั่งเสียงดัง กุกกักๆ คนข้างหน้าหันมามอง ผมพยายามปัดป้องริมฝีปากจากพี่ธันสุดแรง แต่สู้ยักษ์ตัวใหญ่โย่งไม่ไหว ปากผมประกบเข้ากับปากพี่ธันจนได้


“ฝันดีนะมึง”




ไอ้ตาเล็กหลับไปกับเบาะในโรงหนัง นอนยิ้มมีความสุขเหมือนครั้งแรกที่ผมเห็นอาการป่วยประหลาดนี้ อยากเซ้าซี้ทำหน้าสลอนดีนัก นอนรอเลยละกันหนังจบแล้วค่อยตื่นมาพูด



“ไอ้ซอเป็นไรอ่ะพี่ธัน คอพับเลย” เนสถามผมตอนที่เห็นเพื่อนแน่นิ่ง

“อ่อ มันบอกพี่ว่าเมื่อคืนมันไม่ได้นอนเลยของีบหน่อยนะ เนสไม่ต้องกวนมันหรอกให้มันนอนไป หนังจบเดี๋ยวค่อยปลุกก็ได้”

“คนอะไรหลับง่ายจัง”




เนสคงเป็นตัวช่วยที่ไอ้ซอวางแผนมาเพื่อเรื่องประกัน เนสไม่เคยโกหกผมเนียนสักครั้ง อีกอย่างผมก็รู้จักนิสัยเด็กในอุปการะของผมเป็นอย่างดี บลูเป็นคุณหนูขี้หึง หวงก้าง จอมเหวี่ยง ไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ผม  ส่วนเนสกับเบลใจดีทั้งคู่ไม่หึงไม่หวงไม่คิดครอบครอง ที่อยู่กับผมเพราะต้องการแค่เงินส่งเสียตัวเองเรียน หนัง2ชม กว่าๆจบลงไฟในโรงหนังค่อยๆสว่างขึ้น ไอ้ตี๋พูดมากก็เริ่มขยับตัวและลืมตา



“ฝันดีจังครับม๊า” เหมือนเป็นประโยคแรกที่ไอ้ซอพูดจนติดปากเวลาตื่น

“หนังสนุกขนาดนี้หลับได้ไงว่ะซอ”

“กูง่วง” ผมตอบไปส่งๆ ใครจะเสียเงินมานอนเล่นในโรงหนังวะเนส

“พี่ธัน เนสหิวแล้ว หาไรกินก่อนกลับบ้านได้มั้ยอ่ะ” ไอ้เนสเกาะแขนพี่ธันทำท่าอ้อน ตอนที่เราสามคนเดินมาหยุดที่ร้านอาหาร
 
“ร้านนี้เลยนะ พี่ก็หิวแล้วเหมือนกัน” หิวอะไรอ่ะพี่ ทำไมตาเยิ้มแบบนั้น

“มึงจะกินกับกูมั้ยซอ”

ก็มึงให้เวลากูแค่ช่วงกลางวันนี่หน่า นี้มันทุ่มหนึ่งแล้วกูควรกลับตามสัญญา

“มึงกินกับพี่ธันเถอะกูไม่ชอบมันเลี่ยน”

“รู้ได้ไงว่าเลี่ยน เคยแล้ว?” พี่ธันกวนส้นตีนกว่าที่เห็นเยอะครับ

“ไม่เคย แต่รู้”

“ไม่กินก็ดี เผื่อมึงง่วงหลับคาโต๊ะขึ้นมากูไม่รอนะ” ผมมองตาขวางทำไมต้องเอาปมมาล้อเล่นด้วยวะพี่




ขณะที่ผมกำลังยืนต่อปากต่อคำกับพี่ธันอยู่ เพื่อนสนิทตัวจริงอย่างไอ้เอก็เดินเข้ามาทัก มันไม่ได้มาคนเดียวซ่ะด้วยเกลียดโลกแคบเกลียดที่ต้องเจอไอ้ชายสี่



“สวัสดีครับพี่ธัน มากับไอ้ซอได้ไงพี่”

“หวัดดีเอ สงสัยพี่เดินเหยียบ มันเลยติดรองเท้ามามั้ง” ปากร้ายกว่าที่คิดมาก

“ฮ่าๆๆเปลียบซ่ะเห็นภาพเลยพี่” ไอ้เอมึงเพื่อนกูนะ

“กูชวนมันมาเองแหละมึง” ไอ้เนสตอบไอ้เอ

“หมดธุระแล้วใช้ป่ะ กินข้าวกัน” เสียงไอ้โฟร์แทรกขึ้นมา

“ไม่ไป จะกลับบ้านแล้ว”

“เดี๋ยวกูไปส่ง มากินข้าวกับกูก่อน”

“พี่ธัน ลาลาลาละละละครับ” ไอ้เอช่วยไอ้โฟร์ลากคอผมออกมาจากพี่ธันกับไอ้เนส โดยที่ไม่ทันขอบใจไอ้เนสสักคำ



 
ณ ร้านตำแหล

“กูไหว้ละ มึงสองตัวเลิกแยกเขี้ยวใส่กันแล้วแดกข้าวดีๆบ้างได้มั้ยวะกูเหนื่อยจะห้าม” ไอ้เอเอ่ยปากเมื่อมองเห็นผมจ้องไอ้โฟร์ตาเขม็ง

“ถ้ามันไม่เห่า กูก็ไม่กัด”

“เออๆ กูไม่เห่า กูไม่หอน ไม่เหี้ยอะไรทั้งแหละ เชิญมึงร่วมแดกข้าวกับกูสักวันได้มั้ย เอ้าสั่ง” มันยื่นเมนูมาให้ผม

“ซอที่มึงมากับพี่ธันนี่เรื่องประกันป่าววะ” ไอ้เอถาม

“อืม”

“เขาซื้อยัง”

“ยังวะ”

“กูซื้อได้นะ  มึงจะได้ไม่ต้องมาตามอ้อนวอนเค้าแบบนี้ เห็นแล้วอนาถจิต”

“ไหนมึงบอกจะไม่เห่าไงเชี่ย”

“กูจะช่วยมึงก็ไม่ให้กูช่วย มัวแต่ไปวิ่งตามใครก็ไม่รู้ คนใกล้ตัวแม่งไม่เคยมองเห็น กูไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนจากมึงเลยนะซอ ช่วยเพราะอยากช่วยเมื่อไหร่มึงจะเข้าใจวะ”

ผมเอาช้อนชี้หน้าไอ้โฟร์ที่นั่งฝั่งตรงข้ามหน้าบึ้ง

“กูบอกว่าไม่ ก็คือไม่ ฟังไม่รู้เรื่องหรอวะ”

“หยุด! ถ้ากัดกันอีกทีกูจะเอาน้ำสาด แม่งทั้งคู่” ไอ้เอขึ้นเสียงบ้าง ผมกับไอ้โฟร์หุบปากแล้วก้มหน้ากินข้าวเงียบๆ




ในใจลึกๆแล้วผมไม่ได้เกลียดไอ้โฟร์นะครับเคยสนิทกันเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก  ถ้ามันไม่สาระภาพรักกับผมวันนั้นความสัมพันธ์ระหว่างผมกับมันคงดีกว่านี้ ผมพยายามจะเป็นเหมือนเดิมพยายามจะเป็นเพื่อนแต่มันยืนยันจะเป็นแฟนให้ได้ ผมจะทำยังไงกับมันดี


“ดึกแล้วกูบ้านเลยละกัน” หารค่ากับข้าวก็ได้เวลากลับบ้านสักที

“กลับไง”

“นั่งแท็คซี่ กูไม่ได้เอารถมา” ผมตอบไอ้เอ

“กูไปส่ง” ไอ้โฟร์เสนอหน้าอีกตามเคย

“ไม่ต้อง”

“มันดึกแล้วซอ กูว่ามึงให้ไอ้โฟร์ไปส่งเหอะ ไม่งั้นที่บ้านมึงสวดยาวแน่จะสี่ทุ่มแล้วนะมึง”

“แต่……”

“ถ้ามึงไม่ไว้ใจกู ให้ไอ้เอไปด้วยอีกคนก็ได้นะ”


ผมเลยต้องจำใจให้มันมาส่งทั้งๆที่บ้านมันคนละทางกับบ้านเลย ชั่งแม่งสาระแนดีนัก พอมาถึงที่บ้านไอ้ขลุ่ยยังนั่งรอที่หน้าบ้าน ส่วนคนอื่นๆขึ้นนอนกันหมดแล้ว


“กลับซ่ะดึกเลยนะมึง”

“พี่ขลุ่ยหวัดดีครับ หวัดดีครับ” ไอ้เอกับไอ้โฟร์ทักทายสวัสดีพี่ชาย

“ไม่เจอนานเลยนะโฟร์ หายหัวไปไหนไม่เห็นมาแดกเหล้าเป็นเพื่อนกูบ้างวะ”

“วันนี้ก็ได้นะพี่ อยากอยู่พอดี” ไอ้เลวหาเรื่องอยู่ยาวสิท่ากูอ่านเกมส์มึงออก

“พรุ่งนี้มึงไม่มีเรียนกันหรอ”

“มีบ่ายพี่ ใช่มั้ยไอ้เอ” ไอ้เอก็ดูเหมือนจะเป็นใจกับไอ้โฟร์เหลือเกิน

“จัดไป”

“พวกมึงจะแดกก็แดกไป กูนอนก่อน” อาบน้ำเสร็จก็นั่งเช็กผลบอลคู่อื่นๆที่มีแข่งกันตั้งแต่ตอนหัวค่ำ จนผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่พนัง2ตีพอดีได้เวลาปิดไฟนอน



ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!


“ซอเปิดประตูดิ เพื่อนมึงเมากลับไม่ได้”

ผมเปิดประตูคุยกับไอ้ขลุ่ยเห็นไอ้โฟร์กับไอ้เอเมาหมดสภาพเหมือนจงใจมอมเหล้าตัวเอง

“ทำไมไม่ให้มันนอนข้างล่างวะเอามันขึ้นมาห้องกูทำไม”

“เพื่อนมึงนะ ขืนให้มันสองคนนอนข้างล่างยุงหามไปแดกพอดี” ไอ้ขลุ่ยเริ่มขนร่างที่ไม่ได้สติของมันสองคนเข้ามาในห้องผมทีละตัว

“ช่างแม่งดิ”


ไอ้ขลุ่ยทิ้งซากเพื่อนผมไว้แล้วก็เดินเข้าห้องมัน สิ่งที่ผมทำได้ในคืนนี้คือให้ไอ้เอขึ้นมานอนที่เตียงกับผม ส่วนร่างของไอ้ชายสี่ผมก็ปล่อยให้มันนอนกับพื้นแข็งๆไม่ได้ปูที่นอนโยนแค่หมอนกับผ้าห่มบางๆให้ ถ้าพ่อแม่ไอ้โฟร์มาเจอคุณชายทายาทโรงแรมชื่อดังเพียงคนเดียวนอนในสภาพนี้อกแตกตายแน่




ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด 08:30น.


“เฮ่ย!!!ตื่น” ผมเอาหมอนข้างฟาดที่ตัวไอ้โฟร์

“มึงตีมันแรงไปป่าวซอ เดียวแม่งก็ตายหรอก”

“เอมึงอย่าปัญญาอ่อนดิ นี้มันหมอนข้างไม่ใช้ไม้สัส”

“กูตื่นแล้วจะตีอะไรนักหนาวะ” มันตื่นขึ้นมาพร้อมจับตามเนื้อตัว คงไม่เคยนอนพื้นทั้งคืนสิท่า

“ตื่นแล้วก็ไสหัวออกจากบ้านกูไปเลย กูจะอาบน้ำไปเรียน เกะกะชิบหาย” ผมเดินข้ามตัวมันไปหยิบเสื้อในตู้

"กูกับไอ้เอยังไม่ได้อาบน้ำเลย มึงจะให้กูไปสภาพเนี่ย”

“เรื่องของมึง”

“กลับๆโฟร์ ไปอาบน้ำกินข้าวบ้านกูก็ได้ ไม่ต้องง้อมันกูรำคาญ มึงมีชุดนักศึกษาติดรถไว้ป่าว”

“มี”

“งั้นก็ลุก”



ไอ้เอเดินกอดคอไอ้โฟร์ออกจากห้องหน้าตึงๆคงโกรธที่ผมไล่ออกจากบ้านแต่เช้า ที่ผมต้องทำแบบนี้เพราะอยากเก็บเพื่อนรักของผมไว้ ไม่อยากให้ความเป็นเพื่อนที่มีพังลงจากการเปลี่ยนสถานะไปเป็นอย่างอื่น ผมจึงสร้างกำแพงที่สูงชันปิดกั้นตัวเอง เพราะผมกลัวเจ็บกลัวการเสียใจและเกลียดความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างที่ผ่านมา


เป็นเพราะผมรับความสุขจากคนอื่นไม่ได้ ให้ก็ไม่ได้ มันเจ็บปวดและทรมานมาก เสียใจที่ไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสชาติความสุขจากการจูบกับใครสักคน ผมอยากเป็นคนธรรมดาที่สามารถ รักได้ จูบได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างที่ผมทำกับไอ้โฟร์มันอาจดูใจร้ายไปบ้างแต่ผมไม่เคยเกลียดเพื่อนที่ชื่อโฟร์เลยแม้แต่วันเดียว









999999999999999999999999999999999999

 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2017 00:13:24 โดย 19919 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
  หึยยยยย!! โรคอะไรจูบปากแล้วหลับ 555++ จะสงสารซอดีมั้ยอะ แต่สะใจมากกว่าที่จะได้เป็นเมียพี่ธันอีกคนรึป่าว ฮ่าๆ แซ่บจริง
  รออ่านตอนต่อไปคับ สนุกอะ
ซออยากฝันดี 55

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
   ตลกซออีกล่ะ โดนพี่ธันจุบปากอีกล่ะ 5555 แมงเม่าบินเข้ากองไฟเองนะ  จะเอาพี่ธันให้ได้ว่างั้น ฮ่าๆ
  ยังลุ้นอยู่ว่าใครจะเป็นพระเอก

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนที่6 ปม up4/2
«ตอบ #22 เมื่อ04-02-2017 22:11:59 »

ตอนที่6 ปม






หลังจากที่ไล่เพื่อนสนิทออกจากบ้านไปผมก็แต่งตัวมามหาลัย วันนี้มีเรียนวิชาการบริการภาคพื้นสนามบิน ผมไม่ละสายตาออกจากหนังสือกับสไลด์ก้มๆเงยๆจนไม่มีเวลาคุยกับไอ้เอที่นั่งข้างๆ


หมดคาบวิชาการบินผมกับไอ้เอย้ายจากตึกที่มีเครื่องบินโบอิ้ง 747 ลำใหญ่จอดอยู่ที่ในตึกมาเรียนENG101ที่ตึก5อีกครั้ง จองมุมด้านหลังสุดของห้องนั่งสุมหัวกับเพื่อนอีกสามคน ไอ้พัด เน และฟาง

 
การบินเป็นคณะที่มีคนเรียนน้อยซึ่งรุ่นผมมีแค่60คนเองครับ ว่าที่แอร์โฮสเตสกับสจ๊วจจึงถูกจับจ้องจากคณะอื่นอยู่เสมอ ที่ดึงดูดสายตาเอามากๆคือชุดนักศึกษาที่พวกผมใส่มันจะต่างจากชุดนักศึกษาคณะอื่น จึงกลายเป็นจุดเด่น จะไม่มองได้ยังไงละครับ เนคไทสีชมพูกับสูทสีกลมท่าเหมือนชุดนักบิน มีเข็มกลัดรูปปีกสีทองติดที่อกข้างซ้ายหลา จนใครๆก็ยกย่องเราเป็นคณะนางฟ้าชนกลุ่มน้อยอย่างพวกผมเลยชอบนั่งด้านหลังเพื่อหลีกเลี่ยงสายตา 




 
“มึงโกรธกูเรื่องเมื่อเช้าหรอเอ” เพิ่งมีเวลาง้อเพื่อนหลังจากที่ไล่ตะเพิดมันพร้อมไอ้โฟร์

ไอ้เอจิ๊ปากใส่ผมหนึ่งครั้ง “ไม่โกรธ แต่มึงก็แรงกับไอ้โฟร์ไปหน่อย มันรักมึงมากนะซอ ถึงยอมได้ขนาดนี้เป็นคนอื่นไปเกิดใหม่ละสัส”

“คือกูก็ไม่ได้เกลียดมัน แต่มึงเข้าใจไม กูให้ในสิ่งที่มันต้องการไม่ได้ แล้วมึงจะให้คบมันได้ไง มันควรเจอคนที่พร้อมไม่ใช่คนประหลาดอย่างกู”

“บางทีมึงก็กลัวสิ่งที่มันยังไม่เกิดมากเกินไปซอ ไอ้โฟร์มันดูแลมึงได้แล้วมึงกลัวอะไรวะ  กูขอล่ะจะชอบไม่ชอบก็ช่วยพูดกับมันดีๆหน่อย ไล่มันเหมือนหมูเหมือนหมา อย่างน้อยมันก็เพื่อนนะซอ” หน้าไอ้เอยังตึงใส่ผมไม่เลิก

“แบบนี้ดีแล้ว” ผมก้มหน้ามองโต๊ะตอบเพื่อนเสียงแผ่ว

“อ๋อ! ซอกูลืมเล่าวันก่อนเดือนวิศวะมาแอบมองมึงอีกแล้ววะ ฮอตจริงเพื่อนกู ไม่เชื่อมึงถามเนกับฟางได้ จริงมั้ย” ไอ้พัดพูดขึ้น ใครบ้างจะไม่รู้จักเดือนวิศวะคนดัง

“จริ๊งนะซอ  เรากับฟางเห็นโฟร์มานั่ง ชะเง้อมองที่หน้าห้องเป็นชั่วโมง สาวๆที่คณะโคตรอิจฉาซอเลยนะรู้ตัวป่าว” สองสาวเพื่อนผมพยักหน้ายืนยัน

“อิจฉาเราทำไม”

“แหมะ….ซออย่ามาซื่อก็วันเฟสชี่เดย์ไง ฮ่าฮ่าฮ่า” สองสาวหัวเราะชอบใจคิกคัก

“ขอร้องหละ อย่าพูดถึงวันเฟสชี่เดย์อีกได้มั้ย อายวะ เรากับมันไม่มีอะไรจริงๆ” ผมลุกขึ้นยืนกราบแทบหัวเพื่อนๆให้หยุดล้อเรื่องไอ้โฟร์

“ไม่พูดก็ไม่พูด แต่มึงเอามือออกจากหัวกูก่อนเชี่ยซอ”




เด็กในสังกัดของพี่ธันกำลังเดินเข้ามาในห้องสายตาสอดส่องหาที่นั่ง “เบล เบลมานั่งนี้”  ไอ้เอยกมือเรียก

“มีเพื่อนเรียนวิชานี้ละกู” ไอ้เบลนั่งเก้าอี้ตัวหน้า

“ไอ้เนสละ”

“มันเรียนลงเทอมที่แล้ว เหลือกูนี่แหละที่เพิ่งลง เออแล้วตอนเย็นว่างกันป่ะ” ไอ้เบลถามเราสองคน

“ก็ว่างมีไร”

“วันเกิดกู พี่ธันจะพาไปเลี้ยงที่ Twins พวกมึงไปเป็นกูหน่อยดิ ที่ร้านมีแต่เพื่อนพี่เค้ากูไม่มีเพื่อนคุยวะ”

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะมึง กูสองคนไปเป็นเพื่อนเอง เผื่อพี่ธันเปลี่ยนใจซื้อประกันกูแล้วจะได้ฉลองด้วยกันเลย”

“เดี๋ยวกูช่วยพูดอีกแรง” อย่าเลยเบลมึงจะถูกตัดค่าขนมเหมือนไอ้เนส






คาบENGผ่านไปไอ้เบลก็ชวนมาหาของกินที่โรงเย็น ผมได้โค้กแก้วหนึ่ง ไอ้เบลกับไอเอได้ข้าวคนละจาน แล้วเราก็นั่งคุยกันเรื่องทั่วๆไป เรื่องเรียนบ้างเรื่องบอลบ้าง


ขณะนั้นฮองเฮาบลูไม่รู้โผล่มาจากไหนทิ้งตัวนั่งข้างๆไอ้เบล ตานี่เขียวปั๊ด

“เบล แค่สามคนก็จะแย่อยู่แล้วนะ ยังคิดหาเด็กเพิ่มให้พี่ธันอีกหรอ” มองหน้าผมแบบหาเรื่อง
 
“เข้าใจผิดแล้ว ใครจะทำแบบนั้น ไม่มีใครบังคับพี่ธันได้สักหน่อยบลูก็รู้นิ ยกเว้นพี่ธันจะชอบเอง”

ปั้ง!!เสียงตบโต๊ะฉาดใหญ่ด้วยความโกรธ จนผมสะดุ้งโหยงเพื่อนรอบๆโต๊ะก็พากันหันมามองเพราะเสียงเริ่มดังทั้งสองฝ่าย

“เบลก็อย่าเปิดโอกาสให้คนนอกเข้ามาก็พอ เราไม่ชอบ เนสอีกคนหนึ่ง” มันหันขวับมาทางผมอีกครั้ง

“แต่เราก็เคยเปิดโอกาสให้บลูนะ ลืมหรอ” เช็ด!แทงใจดำสุดๆเป็นการตอบโต้ที่นิ่งๆแต่บาดลึกถึงความรู้สึก

ไอ้บลูหน้าจ๋อยแต่ยังคีบลุค “เราเตือนแล้วนะเบล” ฮองเฮาลุกออกจากโต๊ะไปแบบหน้าเชิดคอตั้ง แรงหึงนี่มันมีอานุภาพทำลายล้างที่สูงมาก

ไอ้เอตบลงที่บ่าไอ้เบลปุๆ  “โอเคนะมึง”

“อืม บลูก็เป็นแบบนี้แหละหวงจนเกินเหตุ สงสัยต้องให้พี่ธันจัดการบ้างละ” เกิดศึกภายในครอบครัวจนได้

“มึงไม่ต้องห่วงนะเบล พี่ธันไม่มีทางชอบกูหรอก และกูก็ไม่มีวันชอบพี่ธันได้” ไม่ได้แก้ตัวพูดจากความรู้สึก

“กูไม่หวง มันเป็นเรื่องของพี่ธัน กูไม่ยุ่งเขาจะรักใครชอบใคร มันก็สิทธิ์ของเขาป่าววะ” ใจกว้างเป็นมหาสมุทรเลยพ่อคุณเอ๊ย!



ครื๊ด~~~ครื๊ด~~~ครื๊ด~~~



“ครับพี่ธัน เบลนั่งอยู่ที่โรงอาหารกับเพื่อน พี่ธันเดินเข้ามาได้เลยครับ”

ไอ้เบลพูดกับคนปลายสายด้วยอาการดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัด ผู้ชายร่างใหญ่หล่อเนียบด้วยผมทรงเวทลุคกับสูทสีดำก็เดินตรงเข้ามาทำให้สาวๆมองจนเหลียวหลังทั้งมหาลัย

“พี่ธันสวัสดีครับ” “สวัสดีครับ” เรากล่าวทักทายแฟนไอ้เบล

“พี่ธันนั่งนี้ครับ ทำไมวันนี้มารับเบลได้ด้วยอ่ะ” สีหน้าไอ้เบลดูปลื้มปริ่มมาก

“ให้พิเศษหนึ่งวัน” หวานกับเมียซ่ะด้วย

“เอ๋อ!!!! พี่ธันครับ มดสำลักน้ำตาลแล้วครับพี่” ผมพูดแทรกหยอกล้อสองผัวเมียที่ทำหวานต่อหน้าพวกผม

“นี่มึงเป็นเพื่อนสนิทกับเบลอีกคนหรอ เด็กคนขายประกัน” กัดผมอีกแล้ว

ไอ้เอกลั้นขำไม่อยู่ “ฮ่าๆ มันก็สนิทได้กับทุกคนแหละพี่ธัน มันอยากไปอังกฤษ”

“พี่อ่านรายระเอียดที่ผมเอาไว้ให้รึยัง” ทำการขายอย่างต่อเนื่อง

“ก็บอกแล้วว่าไม่ซื้อ” ปฏิเสธอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

“พี่ธันน่าจะซื้อเพิ่ม เบลว่ามันก็เข้าท่าดีนะครับ เบลอ่านแล้ว” กราบงามๆเพื่อนเบล

เบล” เสียงแข็งโป๊กใส่เด็กบริหาร จนหน้าจ๋อยลงทันที

“พี่ไม่ต้องว่าเบลเลยพี่ธัน ผมให้มันอ่านเอง”

“พอ! วันนี้กูมารับเบลไม่ได้มาฟังมึงขายประกัน” พี่ธันส่ายหน้าอย่างเอือมระอา

 “เออแล้วมึงสองคนจะไปพร้อมกูเลยมั้ย” ไอ้เบลถาม

“กูกลับบ้านก่อนวะเบล” ไอ้เอตอบ

“กูไปกับมึงเลยเบล รถให้ไอ้เอขับกลับบ้าน”

“พี่ธันให้ซอไปด้วยนะ”

“ไม่ต้องถามพี่แล้วม้างงง”





ผมเอากุญแจรถให้ไอ้เอขับกลับบ้านไป ส่วนผมก็เดินตามพี่ธันกับไอ้เบลมาขึ้นรถออดี้สีดำสุดหรูที่จอดไว้อีกฝากของมหาลัย มันช่างเป็นวาสนาตูดจริงๆที่ได้ประทับรอยไว้บนเบาะหนังเงาวับแบบนี้  ผมนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ด้านหลัง ไอ้เบลนั่งเบาะหน้าคู่คนขับ เขาก็สวิทหวานกันสองคนปล่อยผมเป็นเพียงอากาศธาตุที่อยู่ในรถเท่านั้น ได้แค่นั่งมองออกไปทางกระจกเงียบๆคนเดียวแต่หางตาก็ดันเหลือบไปเห็นจังหวะที่ไอ้เบลเอียงตัวไปจูบกับพี่ธันตอนที่รถติดไฟแดงพอดี 



อยากจูบเหมือนคนธรรมดาทั่วไปได้สักครั้ง จูบแล้วไม่ต้องหลับสักครั้ง อยากรับรู้ความรู้สึกได้บ้าง



จนมันทำให้ผมนึกถึงแฟนคนอีกคนตอนที่ผมอยู่ม.4 เธอชื่อปลาและเพิ่งย้ายเข้ามา ปลาเป็นคนสวยเป็นดาวโรงเรียนเพื่อนๆรุมจีบกันทุกคน แต่ปลากับบอกว่าชอบผม เพื่อนนี่แทบแจกตีนผมทั้งห้อง คบกันได้หนึ่งเทอมก็นัดกันไปเที่ยวคอนเสิร์ตกับเพื่อนๆในกลุ่มที่สวนผึ่ง




ผมยืนจับมือปลาไว้ตั้งแต่คอนเสิร์ตเริ่มเพลงแรกจนมาถึงช่วงท้ายๆ ทั้งบรรยากาศพาไป เพลงพาไป เผลอไป ผีผลักไปหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมลืมตัวยื่นหน้าไปจูบปลาเข้าเต็มๆ ครั้นจะผละออกก็ไม่ทัน ผมหลับกลางอากาศล้มลงต่อหน้าเพื่อนๆ กองอยู่กับเศษขยะที่เกลื่อนเต็มพื้น ไอ้โฟร์กับไอ้เอต้องแบกมาส่งที่ห้องพัก


หลังจากออกเดทที่ต่างจังหวัดวันนั้นผมก็ขอเลิกกับปลา เพราะรู้ตัวว่าผมไม่สามารถดูแลใครได้เลยแม้แต่ตัวเอง ปลาร้องไห้ฟูมฟายถามหาเหตุผลจากผมแต่ก็ไม่มีคำอธิบายใดๆ จนปลาคบกับพี่ม.5 แม่งโคตรเจ็บตอนที่เห็นแฟนเราไปเป็นของคนอื่น




“พี่ธันแวะปั้มให้หน่อย เบลจะซื้อโกโก้ ซอมึงเอากาแฟมั้ย” ผมตื่นจากความหลังอันแสนเจ็บปวดเพราะเสียงไอ้เบลเรียก

“ไม่อ่ะ ขอบใจ” รถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าร้านกาแฟไอ้เบลก็ลงจากรถไป

“ไม่ได้เอาปากขึ้นรถมาด้วยหรอ นั่งเงียบเลยนะมึง”

“โห๊ยยย พี่เล่นจูบกันมาตลอดทางแบบนี้ ให้ผมพูดตอนไหนคร๊าบบบ” ผมเอื้อมมือไปเกาะเบาะหน้าคุยกับพี่ธัน

“อิจฉา?” พี่ธันมีพายกระซิบป่าววะ ถึงรู้ผมคิดอะไร

“อิจฉาทำไม ไม่เห็นอยากจูบเลย” ตอบแบบลอยหน้าลอยตา

“ไม่อยากจูบหรือจูบไม่ได้กันแน่วะ” จึ๊กกกกกก มีดแทงเข้าที่กลางอกเลือดพุ่งกระจาย

กดรีโมทเปลี่ยนช่องด่วน ช่องนี้พระเอกกำลังสาหัด

“ตกลงพี่จะส่งเอกสารให้ผมได้วันไหน”

“เอกสารอะไร”

“เอกสารทำประกันไงพี่ ผมจะได้เอาให้พี่สาว”

“ไอ้ซอไอ้หน้าด้าน กูบอกว่ากูไม่ซื้อ” ด่าแสกหน้าผมมาเสียงดัง

“ไม่เป็นไรวันหลังก็ได้ครับ”

“มึงอยากหลับอีกใช่มั้ย พูดมากชิบ” เริ่มใช้คำขู่อีกแล้วพี่ธัน

“ผมไม่พูดพี่ก็ว่าผมเงียบ พอผมพูดก็หาว่าพูดมาก พี่จะเอาไงแน่คร๊าบบบ”

“กูให้มึงพูดเรื่องอื่นไม่ใช่ขายประกัน พี่ชายมึงรู้มั้ยว่ามึงมีอีกโรคติดตัวมา”

“โรคไรพี่”

“โรคกวนส้นตีนกูนี่ไง”

“ชงมุขให้เลยนะเนี่ย ไม่งั้นพี่ไม่ด่าผมหรอก ฮ่าๆๆๆๆ”

“ไอ้เด็กเปรต”




ไอ้เบลกลับขึ้นมาผมก็ไม่ได้กวนประสาทพี่ธัน ปล่อยให้เขาจ๊ะจ๋าต่อ รถพี่ธันมาจอดที่ Twins ตอน6โมงเย็น เจ้าของร้านฝาแฝดกำลังนั่งกินข้าวเราเลยได้แจมมื้อเย็นด้วย



 
“น้องเอแฟนพี่ไม่มาหรอ ซอ” พี่ชินทำหน้า
กะลิ้มกะเหลี่ยถามผม

“ตามมาพร้อมพี่กัสครับพี่”

“ไอ้ธันซื้อประกันรึยังซอ” แฝดอีกคนถามผม

“ยังเลยพี่เชน ผมถึงต้องตามติดแบบนี้ไง” ผมแอบมองปฏิกิริยาพี่ธันด้วยตาดวงน้อยๆ พี่แกจะด่าผมต่อไหม

“มันโคตรหน้ามึนเลยนะมึง ตามกูยิ่งกว่าวิญญาณ พูดแต่เรื่องประกัน ไม่รู้แม่มันเอาอะไรให้กินตอนเกิดตื้อชิบหาย”

“ขนาดนั้น ฮ่าฮ้าๆๆๆๆ” แฝดพี่น้องหัวเราะเสียงดัง

“พี่ก็ซื้อ สักทีดิคร๊าบ ผมจะได้เลิกตื้อ” กวนได้นั่งคนละฝั่งตีนพี่ธันไม่น่ามาถึง

“พวกมึงดูมันดิ พูดเชี่ยอะไรก็ลากเข้าเรื่องประกันตลอด ไอ้ฉิ่งไม่เห็นหน้ามึนเท่ามันวะ”

“นั่นไอ้ฉิ่งนี่ไอ้ซอไง ฮ่าๆๆ” พวกพี่แกดูชื่นชมจังครับ

“เบลละวันเกิดไอ้ธันให้อะไรรึยัง” พี่เชนถามเบลเจ้าของวันเกิดด้วยเสียงนุ่ม

“ได้แล้วครับพี่เชน แต่บอกไม่ได้ว่าอะไร” ไอ้เบลหน้าแดงอายจนออกอาการ

“อั๊ย~ยะ ความลับสาด้วย พี่ธันรับเลี้ยงน้องชินอีกสักคนได้มั้ยครับ อยากเป็นเด็กพี่ธันจัง” พี่ชินเอาหน้าซบที่ไหล่พี่ธันทำท่าอ้อนๆ

“แดกตีนกูก่อนมั้ยสัส ไปไกลๆขยะแขยง” มือพี่ธันผลักหัวพี่ชินออก

“แหนะๆ กับเพื่อนทำเป็นรังเกียจกับเด็กๆปล่อยผ่านนะมึง”





เวลาผ่านไป2ทุ่มตรง พี่กัสไอ้เอพี่ชายผมก็มาถึงร้าน วันธรรมดาคนที่ร้านไม่ค่อยเยอะ จะมีเพียงแฟนคลับที่ตามกรี๊ดไอ้ฉิ่งอยู่ทุกวันนั่งหน้าเวทีไม่กี่สิบคน กับกลุ่มพวกผมที่มานั่งกินเหล้าฉลองวันเกิดเมียตะเภาทองของพี่ธันที่โต๊ะตัวใหญ่ ไอ้ฉิ่งทักทายพี่ๆแล้วขึ้นเวทีทำหน้าที่ร้องเพลง บรรยากาศในร้านชิลๆอบอุ่นด้วยเพลงรักฟังง่ายไม่มีเพลงอกหักสักเพลง เจ้าของวันเกิดก็เริ่มเมาพูดจากไปเป็นภาษา ส่วนไอ้เอก็ถอยห่างจากพี่ชินเพราะกลัวโดนตอด แต่ก็ใช่ว่าจะหนีพ้น





“น้องเอครับ ไม่นั่งใกล้พี่เลยนะ”

“กลัว”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เพื่อนร่วมใจหัวเราะพร้อมกันแบบไม่ได้นัด

“เอกลัวพี่ หรือ เอ กวา ดอร์” พี่ชินยกแก้วชนกับพี่ธันผู้เป็นกองหนุน จัญไรเชี่ยๆ



ผั๊ว!!!!!!



“น้องกูคนไทยสัส แทะพอสมควร เดี๋ยวจะได้คุยกับตีน” พี่กัสตบหัวเพื่อนตัวเองเข้าอย่างจัง

“โห่ กัสมึงก็ตบกูซ่ะสมองไหลมารวมกันแล้วเหี้ย จีบนิดจีบหน่อยทำเป็นหวง” มือลูบที่หัวเองเนื่องๆ





ผมก็เริ่มอึนๆหลังจากที่ชนกับไอ้เอไอ้เบลอยู่นานเลยเดินมาล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ พี่ธันเองก็ยืนล้างมือที่อ่างผมเลยชะโงกมองหาไอ้เบล เพราะไม่อยากมาเห็นภาพสวิทอันดูดดื่มอีกรอบในห้องน้ำ



“มองหาอะไรของมึง” ถามด้วยเช็ดมือไปด้วย

“ป่าว พี่ธันผมขอเบอร์หน่อยดิ ผมจะได้คุยเรื่องประกันได้สะดวกขึ้น”  หน้าด้านไปมั้ยวะ?

“นี่มึง สนิทพอที่กูจะเบอร์ได้แล้วหรอ”

“ก็ผมให้เบอร์พี่ไปแล้วพี่ไม่โทรมา งั้นพี่ก็เอาเบอร์ให้ผม ผมโทรหาเอง” ผมส่งมือถือให้พี่ธัน

“ถ้าขืนยังพูดเรื่องประกันอีกคำ กูจะทำให้มึงหลับคาห้องน้ำเดี๋ยวนี้” พี่ธันก้าวเข้ามาประชิดติดตัวทำหน้าเข้ม

หลังติดผนังแล้วนะ “เฮ่ยยยพี่ อย่าแกล้งแบบนี้ดิ แค่ขอเบอร์โทรเอง” ผมพยายามให้มือดันอกพี่ธันออกห่างตัว


 
ฝันดีนะมึง



พูดจบพี่ธันก็ใช้ร่างอันสูงใหญ่บดบังตัวผมติดกับผนังห้องน้ำ หน้าเข้มก้มเข้ามาใกล้จมูกเอียง45องศาประกบจูบเรียบร้อย รู้สึกแต่เพียงว่าริมฝีปากอ่อนนุ่มจูบผมนานกว่าครั้งก่อน


ม่านตาเริ่มเลือนรางและค่อยๆมืดลงๆ ขาเริ่มอ่อนแรงไม่สามารถพยุงร่างตัวเองให้ยืนได้ ช่วงเสี่ยววินาทีนั้นผมขอแค่พี่ธันอย่าปล่อยผมให้นอนในห้องน้ำก็พอมันคงเป็นภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่นัก





ร่างของไอ้ตาเล็กเด็กขายประกันจอมพูดมากค่อยๆไถลลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกเกือบถึงพื้นปูน ผมใช้แขนโอบเอวมันไว้แล้วอุ้มร่างด้วยสองแขนเดินออกจากห้องน้ำ ผ่านเข้าไปที่ห้องพักด้านหลังของร้านซึ่งห้องนี้มีไว้สำหรับเพื่อนๆนอนค้างเวลาเมา


ผมวางร่างเด็กซอไว้บนเตียงแล้วห่มผ้าให้ ใบหน้ามีแต่รอยยิ้มเปื้อนเต็มไปหมด  ไม่เหมือนคนป่วยสักนิด ปากเล็กเผยอยิ้มชวนมองใบหน้าไม่ได้แสดงถึงความทุกข์ใดๆ  บางทีพระเจ้าอาจสร้างโรคนี้ขึ้นมาเพื่อให้เด็กซอหลับฝันดีทุกคืนก็ได้ เพราะทุกครั้งที่ผมเห็นมันหลับก็มีแต่รอยยิ้มพิมพ์ใจที่แสดงออกถึงความสุขอย่างเดียว ความเจ็บปวดจากอาการป่วยอยู่ที่ไหนกัน?



ผมเดินกลับไม่นั่งทำตัวนิ่งๆและพูดคุยกับเพื่อนตามปกติ จะมีก็แต่ไอ้เอเพื่อนของไอ้ซอที่คอยชะเง้อมองหา



“พี่ธันไปเข้าห้องน้ำมาเจอไอ้ซอป่าวพี่ มันไปสักพักแล้วไม่กลับมาสักที”

“มันนั่งพักอยู่หลังร้านนะ ปวดหัวเดี๋ยวจะออกมาเอง มันฝากมาบอก”




ไอ้เอก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อ แต่ก็ไม่เดินเข้าไปดูจนเวลาผ่านไปเลขาของผมก็มาพร้อมกับกล่องของขวัญใบเล็กที่ผมซื้อไว้และให้เลขาไปเอามาเซอร์ไพร์สให้เบล วันนี้ไม่มีเป่าเค้กใดๆส่วนของขวัญชิ้นนี้เป็นของขวัญสำหรับเด็กดีของผม พลอยยื่นกล่องนั้นให้ผมแล้วนั่งลงข้างไอ้กัส



“แล๊วๆๆๆๆ ไหนเบล บอกว่าได้ของขวัญแล้วไงนี่มันอะไรอีกวะ ป๋าธัน” ไอ้ชินแซวผม

“เสือก”

“พี่ธันให้เบลอีกทำไมครับ” เบลทำหน้างง ก่อนหน้านี้ผมโอนเงินเข้าบัญชีให้เป็นของขวัญไปแล้ว

“เบลเปิดดูก่อนสิ พี่ไปนั่งรอตั้งนานนะกว่าจะได้ เหมาะกับเบลด้วย” เสียงจากเลขา

เบลรับกล่องของขวัญนั้น ด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย “ขอบคุณครับพี่ธัน”

“เปิดดูสิชอบป่าว” ฝากล่องค่อยๆเปิดขึ้น

“เชี่ย!! นาฬิกาเลยหรอวะธัน ป๋าสัส ซื้อให้กูบ้างดิ” ไอ้ชินแย่งนาฬิกาจากเบลไปดู

“พี่ธันไม่น่าซื้อเลยครับ เบลใส่อะไรก็ได้” เบลกุมมือผมไว้ที่ตักตัวเอง

“เบลพูดแบบนี้ไอ้ธันมันเสียใจแย่นะ” เลขาพูดอีกที

“ม๊ะ พี่ใส่ให้” ผมคว้านาฬิกามาจากมือไอ้ชินแล้วใส่ให้ข้อมือเล็ก เบลจ้องด้วยตาสวยขนตาหนา มีน้ำใสๆคลอกำลังเอ่อไหลออกมา ขี้แงไม่เคยเปลี่ยนเลยเบล ผมจูบปลอบใจหนึ่งที

“ฮิ้ววววววววววววววว หวานทุกคนเลนนะพ่อขุนแผน” เสียงแซวเสียงกัดดังกว่าเพลงที่ไอ้ฉิ่งกำลังร้องอยู่บนเวทีซ่ะอีก




แล้วไม่นานนักไอ้เด็กที่หลับอยู่หลังร้านก็เดินตรงเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าที่โกรธ



“พี่ธันแกล้งผมทำไม” ผมยืนประชันหน้ากับพี่ธันที่กำลังให้เมียซบไหล่

“แกล้งอะไรห๊ะ กูแกล้งอะไรมึงซอ ไหนบอกมาสิ แกล้งอะไร” พี่ใหญ่กวนส้นตีน

“ก็พี่..พี่…โอ้ยยยยยย!! หงุดหงิดโว้ย” ผมเดินกะหวัดกะเหวี่ยงกลับไปนั่งที่ เพราะทำอะไรไม่ได้

“อ่าว! ทำไมไม่พูดกูแกล้งอะไรมึง” ยัง ยัง ยังกวนตีนไม่เลิกอีก

ไอ้เอเอี้ยวตัวกระซิบที่ข้างหู

“พี่ธันแกล้งอะไรมึงซอ”

ไอ้เพื่อนเวรเสือกอยากรู้ผมก็โกหกไม่เป็นซ่ะด้วย อยากรู้จริงใช่ไม ฟังดีๆนะเพื่อน

“เขาขังกูไว้ในห้องน้ำ กูออกมาไม่ได้”

จบนะ















9999999999999999999999999999999

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2017 14:03:44 โดย 19919 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนที่6 ปม up4/2
«ตอบ #23 เมื่อ04-02-2017 22:34:54 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนที่6 ปม up4/2
«ตอบ #24 เมื่อ04-02-2017 22:37:33 »

พ่อขุนแผนนี่ยังไง เอะอะจูบ ๆ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนที่6 ปม up4/2
«ตอบ #25 เมื่อ04-02-2017 23:15:41 »

 ซอโดนอีก 555 โดนจูบ3รอบไม่โกรธไม่หนีเหมือนโฟร์เลยนะ ไม่เห็นใจซอล่ะ สะใจมากกว่า แมนๆดูบอลได้เป็นเมียพี่ธันแน่ๆ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: Goodnight kiss ฝันดีนะ ตอนที่6 ปม up4/2
«ตอบ #26 เมื่อ05-02-2017 10:41:38 »

ซอโดนอีก 555 โดนจูบ3รอบไม่โกรธไม่หนีเหมือนโฟร์เลยนะ ไม่เห็นใจซอล่ะ สะใจมากกว่า แมนๆดูบอลได้เป็นเมียพี่ธันแน่ๆ ฮ่าๆ
ซอคิดผิดฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่7 ติดตาม




วันเกิดของไอ้เบลจบลงไปด้วยความแฮปปี้กันทุกฝ่าย (หรอ?) ยกเว้นผมที่นอนหลับอยู่หลังร้านจากฝีปากของพี่ธัน ทำไมชอบเอาปมผมมาล้อเล่นแบบนี้ก็ไม่รู้ มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะครับ


วันนี้คณะผมมีเรียนนอกสถานที่เกี่ยวกับมารยาทการรับประทานอาหารตามหลักสากลที่ถูกต้องในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางใจเมือง


เฮ่ย!....โรงแรมก็มีเยอะแยะแต่ทำไมต้องจองโรงแรมของไอ้โฟร์ด้วยผมไม่เข้าใจ ผมกับเพื่อนๆนั่งกลุ่มเดียวกัน ตั้งใจฟังวิทยากรที่กำลังสอนวิธีการใช้อุปกรณ์บนโต๊ะอาหารทีละอย่าง จะกินข้าวทำไมพิธีรีตองเยอะขนาดนี้ด้วยนะ





“ซอ เมื่อคืนมึงพลาดรู้มั้ย ตอนที่ไอ้เบลเปิดของขวัญกูนี่ตาลุกเป็นไฟเลยเชี่ย”

“พี่ธันให้อะไรมันวะ”

“นาฬิกาแพงสัส พี่ธันแม่งโคตรใจป๋า” ไอ้เอยกเมนูอาหารมาบังหน้าแล้วแอบคุยกับผมสองคน

“แล้วทำไมเค้าถึงไม่ซื้อประกันกูวะ งกอยู่ได้กับเมียจ่ายได้จ่ายเอา” ผมยกเมนูขึ้นตามมันมาติดๆ

“นั้นเมียเค้าไงห่า แล้วมึงรู้ยังวันนี้พี่ธันว่างนะมึง เขาจะไปโรงงาน ไอ้เบลมันหลอกถามให้เมื่อคืน มึงไม่ไปตามเค้าหรอ”

“กูไม่รู้จักโรงงานเค้าวะ”

“ไอ้โง่! ไปรอเค้าสิ”


นักศึกษาค่ะตั้งใจฟังด้วยคะ



แล้วผมกับไอ้เอก็ก้มหน้าลงสนใจช้อนซ้อมกับแก้วไวน์ที่วางเรียงรายกันเป็นสิบๆอันตรงหน้า เข็มนาฬิกาชี้เลข 11 พวกเราก็กินเสร็จ เอ่ย! ไม่ใช่ทานอาหารตามหลักสากลเสร็จสิ้น ผมเก็บของเตรียมตัวก้าวเท้าออกจากประตูห้องจัดเลี้ยงเพื่อไปขึ้นBTSกลับ




“ไอ้พัด เน ฟาง ไปไหนกันต่อวะ”

“เราจะไปช็อบปิ้งต่อ ซอไปด้วยกันป่าว” ฟางชวนผมไปต่อ

“ไม่ดีกว่า เรามีงาน บ๊ายสาวๆ” โบกมือหยอยๆ

“มึงอ่ะจะไปไหน” ผมหันกลับมาคุยกับไอ้เอ

“กูนัดไอ้โฟร์ไว้”

“เหี้ยแล้ว งั้นกูเผ่นก่อนนะมึง ขี้เกียจทะเลาะด้วย แล้วเจอกัน” ยังไม่ทันปลีกตัวออกจากไอ้เอมือปีศาจก็ดึงแขนผมไว้

“มึงจะรีบไปไหน”

“ไอ้โฟร์ปล่อย กูรีบมีธุระไม่ว่างกัดด้วย” พยายามสะบัดมือออกสุดแรง

“พ่อแม่กูอยากเจออยู่กินข้าวด้วยกันก่อนดิ”

“ซอรี่ กูไม่อยากเจอพ่อแม่มึง ปล่อยเลย ปล่อย” ผมใช้มืออีกข้างแกะมือไอ้ชายสี่ออก กำแน่นเลยนะมึง

“คุณศิวะ ค่ะ คุณท่านรอที่ห้องรับประทานอาหารแล้วนะคะ” พนักงานของโรงแรมเดินมาบอกไอ้โฟร์

“ครับ เดี๋ยวผมไป บอกท่านด้วยผมกำลังพาแฟนไปเจอท่าน”

“ไอ้เหี้ย ใครแฟนมึง” ผมยกเท้าถีบเจ้าของโรงแรมจนตัวงอต่อหน้าพนักงานหลายคน

“เฮ๊ยยยยย ไอ้ซอ หยุดๆ” ไอ้เอเข้ามาขวาง รปภ กำลังจะกรูเข้ามาจับผมโยนออกไปข้างนอก ซวยแล้วถีบใครไม่ถีบ เสือกถีบเจ้าของโรงแรม

“ไม่เป็นไรแฟนผมเอง หยอกกันเล่นเฉยๆมันชอบความรุนแรง” ไอ้โฟร์ยกมือห้ามพนักงานของมันไว้

“มึงพอสักทีโฟร์” ผมหันหลังให้ไอ้ชายสี่ รีบจ้ำอ้าวเดินลงบันไดมา

“ซอ มึงไปเจอพ่อแม่กูสัก5นาทีไม่ได้หรอวะ กูขอร้อง” ไอ้โฟร์วิ่งมาดักหน้าผมไว้ ทำหน้าสลดให้ผมสงสารมัน

“กูไม่ไป”

“3นาทีก็ได้”

“ไม่”

“กูจะสั่งพนักงานไม่ให้มึงออกจากโรงแรม มึงเลือกเอา” คิดว่าเป็นเจ้าของโรงแรมแล้วจะทำอะไรก็ได้หรอไอ้เหี้ย

“โฟร์ กูมีธุระ วันหลังได้ไหม”

“1นาทีก็ได้”

“กูให้แค่1นาที พ่อแม่มึงอยู่ไหน เร็วเลยถ้ากูไปไม่ทันเวลา มึงตาย”

ไอ้โฟร์หน้ายิ้มๆแล้วมันก็เดินนำผมกับไอ้เอไปที่ห้องรับประทานอาหารของพ่อกับแม่มัน พอเปิดประตู้เขาไป ทั้งสองคนปากยิ้มฉีกจะถึงหูแต่ผมต้องรีบตัดบท อาจเป็นการเสียมารยาทกับผู้ใหญ่แต่มันจำเป็น


“พ่อแม่สวัสดีครับ ซอต้องขอตัวกลับก่อนคงอยู่คุยนานไม่ได้ ซอติดธุระจริงๆครับ พ่อแม่คุยกับไอ้เอไปก่อนนะครับ ถ้าผมว่างแล้วผมจะเข้ามากินข้าวด้วยวันหลัง สวัสดีครับ”





แล้วผมก็เดินออกมาเลย กอดเสื้อสูทกับเนคไทใส่กระเป๋าแล้ววิ่งขึ้น BTS มาลงที่สถานีอนุสาวรีย์ชัย นั่งวินมอเตอร์ไซค์ตรงมาที่บริษัทของพี่ธัน ยื่นนามบัตรใบเดิมให้ ลุง รปภ ประจำลิฟท์แก้ว แกก็ยิ้มทักทายเพราะจำหน้าผมได้ ลิฟท์หยุดที่ชั้น8 ผมวิ่งหน้าตั้งมาถึงหน้าห้อง เหงื่อไหลเป็นทางตามไรผมเสียงหอบเหนื่อยดัง เฮื่อฮา เฮื่อฮา




“พี่พลอยสวัสดีครับ พี่ธันออกไปรึยังครับ” ผมถามเลขาส่วนตัวของพี่ธัน

“ยังนะ ใจเย็นซอมีอะไรรึป่าวดูรีบๆ เอ๊ะ!เดี๋ยวก่อน แล้วซอรู้ได้ไงว่าคุณธันจะออกไปข้างนอก แหน่ๆๆ พี่ตกข่าวรึป่าวซอ” พี่พลอยยืนขึ้นใช้มือเท้าที่โต๊ะ คำถามดูกำกวม

“เปล่าๆไม่มีอะไร คือเบลบอกผมตั้งแต่เมื่อคืนอ่ะพี่”

“มีสายสืบนี่เอง เข้าไปเลยก็ได้นะ คุณธันคงไม่ว่าหรอก พี่มีนัดพี่กลับก่อนนะตามสบาย” พี่พลอยโบกมือลา แล้วปล่อยให้ผมเข้าไปหาพี่ธันเอง



ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!



“เชิญครับ”

“พี่ธันสวัสดีครับ”

“อ่าวเฮ่ย มึงเข้ามาได้ไง”

“ตกใจอะไรพี่ ผมก็เข้ามาทางประตูนี่ไง พี่พลอยให้ผมเข้ามาได้”

“ออกไปกูมีงาน ไม่ว่างฟัง”

“โกหก ผมรู้พี่ไม่มีงาน วันนี้ผมตามพี่ได้ทั้งวัน พี่ไปไหนผมไปด้วย” ผมนั่งลงที่โซฟา พี่ธันก็เริ่มเก็บเอกสารใส่ลิ้นชัก

“ยังไม่เข็ดใช่มั้ย” พี่ธันถอดเสื้อสูทแขวนที่เก้าอี้ดึงเสื้อเชิ้ตออกจากกางเกงเกะกระดุมที่แขนออกแล้วผับแขนเสื้อขึ้น

“พี่ธันจะไม่ลองคิดทบทวนเรื่องประกันหน่อยหรอ ถือว่าทำบุญก็ได้พี่”

“กูไม่ซื้อ มันบาปด้วยหรอวะ”

“ไม่บาปหรอกพี่ แต่เวรกรรมอย่างผมก็จะติดตามพี่ไปทุกหนทุกแห่งแบบนี้แหละ”

“ไอ้หน้าหนา  กูเข้าโรงงานมึงก็จะตามหรอ”

“ไปดิพี่ ขนาดนี้แล้ว ตื้อก็ต้องตื้อให้สุดดิ” พี่ธันทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วก็เดินนำผมไปที่ลานจอดรถ

“พี่ธันให้ผมนั่งไหน เบาะหน้าหรือเบาะหลัง”

“กูไม่ใช่คนขับรถ มานั่งข้างหน้า”

“ครับๆ”


ผมนั่งเบาะหน้าตามคำสั่งพี่ธัน นั่งสบ๊ายสบายเป็นบุญตูดรอบสอง แถมในรถมีเพลง maroon5 เปิดคลอเบาๆเสียงเพลงก็รื่นหู เบาะก็นิ่มมีคนขับให้นั่งอีกต่างหาก


“พี่ธันชอบมารูน5หรอพี่” ผมเริ่มชวนคุย

“อืม”

“ผมก็ชอบmaroon5นะ แต่ชอบน้อยกว่าลิเวอร์พลู ที่ต้องขายประกันก็เพราะพี่สาวจะให้ตังค์ผมไปแอนด์ฟิลด์ ผมถึงตามเซ้าซี้พี่อยู่นี้ไง” ดูยากจนเกินไปมั้ยวะ?

“ถ้ามึงไม่หยุดพูดกูจะปล่อยไว้กลางทางด่วน”

“แค่ขู่ผมรู้”


เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด



"ลง"

“พี่ธัน ผมไม่พูดแล้ว ไม่พูดๆ” พลางเอามืออุบปากไว้

ลง

ชิบหายละพี่ธันจะทำจริงหรอเนี่ยเอาไงดีวะเป็นไงเป็นกัน ดีกว่าลงกลางทางด่วน

“ไม่ลง ดูสิพี่จะทิ้งผมไว้ที่นี่จริงมั้ย”




จากนั้นไอ้ตาเล็กก็ยื่นหน้ามาจูบผมด้วยริมฝีปากที่นุ่มละมุนของมันแบบเต็มปากเต็มคำโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว

แอบจูบผมไม่ว่า แต่มันเสือกหลับฟุ๊บตรงเป้ากางเกง เป๊ะ!! ผมได้แค่เป่าปาก ฟู่ว ถอนหายใจเฮือกยาว เรียกสติคืน ก่อนดึงร่างมันให้นอนเป็นที่เป็นทาง

ผมแค่ขู่เล่นๆ กลัวเป็นด้วยหรอไอ้เด็กบ้องสติขาดๆเกินๆ เวลามันหลับค่อยน่ารักหน่อย หูสงบขึ้นเยอะ เด็กอะไรชอบทำหน้ามึนยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผมเป็นลิงเป็นค่างตลอดเวลาที่เจอหน้ากัน


จนกระทั้งผมขับรถมาถึงบ้านได้เวลามันก็ตื่น



พี่ธันบอกจะไปโรงงานแต่นี่มันบ้านนี่หน่า เป็นบ้านที่หลังใหญ่มากน่าจะเท่าบ้านผมรวมกันสี่หลังได้ อยู่กันกี่คนวะถึงใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ จากนั้นป้าอายุกลางคนเดินมาขนกระเป๋าลงจากรถ



“ป้าใจ ป๊าอยู่บ้านมั้ย” พี่ธันเอ่ยถามป้าคนนั้น

“อยู่ครบทุกคนเลยค่ะคุณ ที่ห้องรับแขก” ผมมีหน้าที่แค่เดินตามหลังพี่ธันขืนเดินเองหลงแน่กว้างชิบหาย

“ป๊า เมษ อาซ้อ หวัดดีครับ” พี่ธันยกมือไว้คนทั้งสาม

“เออหวัดดี พาเมียมาให้ป๊าดูหรอ” ผู้ชายแก่มีหนวดใส่แว่นตานั่งที่โซฟาตัวใหญ่พูดขึ้น

“ใช่..ที่ไหนละป๊า มันแค่เด็กขายประกันเท่านั้นแหละ สวัสดี ป๊า พี่ชาย พี่สะใภ้กูซ่ะสิมึง ปากอ่ะเอามามั้ย”

“สวัสดีครับ ป๊า เฮีย อาซ้อ ผมชื่อซอ รบกวนด้วยนะครับ”

“แค่เด็กขายประกันจริงหรอวะธัน ขายประกันแบบไหนถึงพาเข้าบ้าน เมียไม่เห็นเคยพามาสักครั้ง” พี่ชายถามพี่ธัน

“เมษมึงไม่ต้องคิดไปไกล กูจะเข้าโรงงาน มึงเอามันไว้ปวดหัวแทนกูสัก3ชั่วโมงแล้วกัน”


พี่ธันยังไม่ได้นั่งพัก ได้แต่พูดๆแล้วพี่แกก็ทิ้งผมไว้ที่บ้านกับคนในครอบครัว คิดว่าผมจะกลัวจนหนีกลับบ้านใช่มั้ย ไม่มีทางหรอกไม่ยอมแพ้อยู่แล้วแค่นี้เอง

“มาๆ มานั่งใกล้ๆป๊านี่ลูก อายุน่าใกล้เคียงกับตุลย์นะ ว่ามั้ยเมษ” ป๊ากำลังพูดถึงใครอีกคน

“คิดถึงลูกชายคนเล็กอีกแล้วป๊า”

“ก็น้องไม่กลับเป็นเดือนแล้วนะเมษ” ป๊าพี่ธันพับหนังสือพิมพ์ วางไว้ที่โต๊ะ

“ป๊า ช่วงนี้ไอ้ตุลย์สอบ เดี๋ยวมันก็มา เออ รินเข้าไปหาของว่างมาให้ซอกินหน่อยสิ” พี่เมษบอกอาซ้อ

“แล้วเขาอยู่ไหนครับ ป๊า” ผมถามผู้ชายที่ดูน่าเกรงขาม

“อยู่เชียงใหม่กับม๊าเค้าโน้น แล้วซอเป็นอะไรกับไอ้ธัน” ป๊าถามกลับบ้าง

“รู้จักกันในกลุ่มเพื่อนๆครับ อีกอย่างพี่ชายผมเป็นลูกน้องพี่ธัน ผมตามขายประกันให้พี่ธันเฉยๆไม่ได้เป็นอะไรกันครับป๊า”

“อ่อ ขายอะไรบ้างละ มีเอกสารให้ป๊าดูบ้างมั้ยเผื่อป๊ากับพี่เมษช่วยซื้อได้” อ่าวเฮ้ย..โชคล่นทับแน่เลยซอ ถ้าพี่ธันรวย ป๊ากับพี่ชายก็ต้องรวยกว่า

“วันนี้ไม่มีเอกสารเลยครับป๊า วันหลังเดี๋ยวผมฝากพี่ธันมาให้ครับ” ปูทางไว้ก่อนจะได้เข้ามาที่บ้านบ่อยๆ อยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ

“จะฝากมาทำไม มาเองเลย ป๊าจะได้มีเพื่อนคุย” ตรงตามแผนไอ้ซอ

“ขอบคุณครับป๊า”


อาซ้อเอาขนมกับผลไม้ออกมาให้ผมกินเยอะมากอร่อยทุกอย่างด้วย ผมนั่งคุยกับป๊าจนลืมดูเวลาเงยหน้าขึ้นอีกทีก็6โมงเย็นเข้าไปแล้ว พี่ธันก็กลับมาจากโรงงานพอดี



“ป๊า ธันกลับเลยนะครับ เอกสารเซ็นไว้ให้หมดแล้ว บอกไอ้เมษด้วยอยู่ที่ห้องทำงานมัน”

“ได้ ธันวันหลังก็พาซอแวะมาหาป๊าอีกนะคุยเก่งมาก ป๊านั่งเพลินเลย”

“พูดเก่งกับพูดมาก แค่เส้นบางๆเองนะป๊า”

"...><..."

“เอ้าลุกสิ กลับได้แล้วนั่งทำหน้าสลอนอยู่ได้”

“สวัสดีครับป๊าแล้วซอจะมาหาใหม่นะครับ” ไหว้สวยๆก่อนกลับอีกครั้ง



ขากลับเพลง sugar ของ maroon5 ดังอีกครั้ง ผมฮัมตามเบาอย่างอารมณ์ดี พลางคิดเรื่อยเปื่อย ผมรู้จักพี่ธันมาก็พักใหญ่แล้วเบอร์โทรก็ยังไม่มี ขอไอ้ฉิ่งมันก็ไม่ให้เพราะมันกลัวผมจะโทรไปกวนเจ้านายมัน ผมจึงใจกล้าขอเบอร์พี่ธันอีกครั้ง หลังจากครั้งแรกไม่สำเร็จ



“พี่ธันขอเบอร์โทรหน่อยได้มัยครับ”

“เอาไปทำไม”

“ไว้คุยกันไงพี่”

“กูไม่อยากคุย”

“ไลน์ก็ได้พี่ พิมพ์เอาไม่ได้ยินเสียงผมด้วย แอ๊ดเลยนะครับ” ผมก็ถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์ของพี่ธันที่วางอยู่ด้านหน้ามาแอ๊ดไลน์โดยที่พี่ธันยังไม่ได้อนุญาต

“ไอ้นี่ กูจะด่ามึงยังไงดีวะ” ดีนะที่พี่ธันจับพวงมาลัยอยู่ แอ๊ดเสร็จก็จัดการส่ง บราว์ไปทักทาย

“พี่ธันส่งผม ที่สาวรีย์ก็ได้ครับ ผมนั่งแท็กซี่กลับเอง”

“บอกทางมากูจะไปส่งที่บ้าน เดี๋ยวมึงเผลอไปจูบใครเข้าหลับกลางทางอีกทำไง ไอ้ฉิ่งเอากูตายเลย”

“จริงดิพี่ ใจดีอ่ะ”

“อย่ามาเล่นลิ้น บอกทางมา"

“เกษตรนวมินทร์ครับ”





มาถึงบ้านทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาผมเลยชวนพี่ธันเข้ามากินน้ำเดินเข้าประหน้าบ้านมาปุ๊บ คำแก้วของผมก็เดินเข้ามาหาทันที

“คุณทศพลกลับมาแล้ว ลึ๊หายไม่ไหนมา” อาม่าครับ ซออยู่ข้างๆไม่ใช่คนที่อาม่ากำลังกอดแขนแนบชิดนั้น

“สวัสดีครับ อาม่า” พี่ธันทักทายคำแก้ว

“ทุกคนครับ นี่พี่ธันเจ้านายไอ้ฉิ่ง นี่ ป๊า ม๊า เจ้ขิม เฮียขลุ่ย ครับพี่”

“สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ”

“เจ้ขิมมาพาคำแก้วออกไปที ให้คุณทศพลกินน้ำ” หน้าพี่ธันงง แล้วเจ้ขิมก็พาอาม่าขึ้นชั้นสองไป

“คุณธันนั่งดื่มน้ำชากับเราก่อน ตามสบายนะครับ” ป๊าเรียกพี่ธันร่วมวงดื่มน้ำชา ที่ห้องรับแขก

“ขอโทษด้วยนะครับคุณธัน  อาม่าแกเป็นอัลไซเมอร์นะครับหลงลืมหมดแล้ว” ไอ้ขลุ่ยบอกพี่ธัน

“ไม่เป็นไรครับ อีกอย่างไม่ต้องเรียกผมว่า คุณ ก็ได้ครับ เรียกธันได้เลย” ความเป็นกันเองของพี่ธัน

“อ่าววววว พี่ธันมาบ้านผมได้ไงพี่” ไอ้ฉิ่งทักด้วยเสียงที่ตกใจมากเมื่อเห็นเจ้านายนั่งดื่มน้ำชากับป๊า

“มาส่งน้องชายมึงนั้นแหละ”

“มันทำอะไรให้พี่ธันเดือดร้อนป่าวครับ ผมจะได้จัดการมันให้” ไอ้ฉิ่งกูน้องมึง

“ป่าว บังเอิญเจอเลยมาส่ง” ทำไมพี่ธันไม่บอกว่าผมตามติดเป็นเงาทั้งวันวะ

“แล้วพี่จะไปTwinsมั้ยจะได้ออกไปพร้อมกันเลย”

“ไม่วะ ขอพักสักวัน เดี๋ยวต้องไปหาบลูด้วย” ทำไมเคืองๆตอนได้ยินชื่อนี้วะ

“อ๋อครับ”

“ผมขอตัวกลับเลยนะครับ ป๊าม๊า น้ำชาอร่อยมากครับ วันหลังคงต้องขอมาอีกนะครับ” พี่ธันกล่าวลาครอบครัว

“ยินดีมากครับ” ไอ้ขลุ่ยตอบรับ




พี่ธันกับไอ้ฉิ่งก็ออกจากบ้านไป วันนี้เป็นเหมือนวันพบญาติผู้ใหญ่เลยแหะ ผมไปบ้านพี่ธัน พี่ธันก็มาบ้านผมแถมยังเป็นครอบครัวจีนทั้งสองบ้านด้วย 


ทุกคนในบ้านต่างพากันแยกย้ายเข้านอน ผมก็เช่นกันเหนื่อยมาทั้งวันขอตัวอาบน้ำพักผ่อนกับชุดนอนตัวเก่งเบอร์8ของผมก่อนนะครับ


30นาทีผ่าน พลิกไปพลิกมา  1ชั่วโมงผ่าน กลิ้งจนทั่วเตียง  2ชั่งโมงผ่าน อ่านการ์ตูนหลายเล่ม ก็ไม่ง่วง


เอ๊ะ!นอนมาสักพักแล้วทำไมนอนไม่หลับวะ พลิกซ้ายพลิกขวาทุกท่าแล้วก็ยังตาค้างอยู่


ปั้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


“ขลุ่ยกูนอนไม่หลับ ช่วยกูหน่อย”

“ไปเรียกคนอื่น”

“เค้าหลับกันหมดแล้ว มาช่วยกูหน่อย”

แอ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด


ในที่สุดมันก็เปิดประตูออกมาจนได้


“เป็นอะไรของมึงวะ”

“วันนี้กูเป็นอะไรก็ไม่รู้นอนไม่หลับตาค้าง กระวนกระวานแปลกๆ ช่วยทำให้กูนอนหลับหน่อยดิ นะเฮีย นะ”


ผมดึงแขนไอ้ขลุ่ยมาที่ห้องตัวเองล้มนอนบนเตียงห่มผ้าเรียบร้อย รอแค่ไอ้ขลุ่ยทำให้ผมหลับ


“ฝันดีนะ สโนวไวท์”

“ไอ้สัส”




















9999999999999999999999999999



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2017 17:43:26 โดย 19919 »

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ซอไม่ลองจูบโฟร์ดูล่ะ อาจจะไม่เป็นอะไรก็ได้นะ ฮ่าๆ โดนพี่ธันจูบบ่อยๆนี่ไม่คิดอะไรเลยเหรอหรือว่าชอบพี่ธัน

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เบนเข็มมาขายประกันให้ป๊าพี่ธันดีไหมซอ อาจจะสำเร็จนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด