◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย] ◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◯ เซ็ตรัก ส่งฝัน ◯ [รักวุ่นๆ ในวงการวอลเลย์บอลชาย] ◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯◯  (อ่าน 27023 ครั้ง)

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ความรักมักเป็นอย่างนี้ มีทุกข์ มีสมใจ ตัวฉันไม่เคยเข้าใจ ในรัก รักของเธอ #สองคนในร่างเดียว

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
EP 26 | ลาก่อน (100%)


ที่นัดหมายครั้งนี้ดูจะห่างไกลสายตาผู้คนมากทีเดียว ท่าทางคงเป็นเรื่องสำคัญมาก จีนถึงนัดให้เปามาหาในที่ลับตาคนแบบนี้ ตอนแรกเปาว่าจะไม่มา แต่จีนย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เปาควรต้องรู้เรื่องนี้ เขาก็เลยตัดสินใจมาพบ แม้ว่าไม่อยากเจอหน้ากันอีกเลย

บริเวณด้านหลังสนามกีฬา ใครคนหนึ่งยืนรออยู่มุมอับๆ เขาอยู่ในชุดลำลองทันสมัย กำลังยืนหันหลังและมองไปอีกด้าน เมื่อได้ยินเสียงคนเดินมา เขาก็รีบหันมามอง พยายามส่งยิ้มบางๆ ให้ แต่ก็ยากเต็มทีเพราะต้องคอยซ่อนสายตารู้สึกผิดเอาไว้ด้วย

"สบายดีนะ ไม่ได้เจอกันหลายวันเลย" นั่นคือคำทักทายแรก

"อืม มีอะไรก็ว่ามา" เปาไม่สนใจตอบคำถาม เพราะเขาอยากคุยให้จบเร็วที่สุด เขาจึงไม่อยากเยิ่นเย้อให้เสียเวลา

จีนหน้าเสียเล็กน้อย กระนั้นก็ยังพยายามยิ้ม แต่ก็ดูเศร้าเต็มที เขาถอนหายใจ ก่อนเม้มริมฝีปากและหันหน้าหนีไปทางอื่น ท่าทางอย่างนี้คงมีเรื่องหนักใจมาก

"จีน...จะลาออกจากทีมชาติแล้วนะ"

ถ้าจะพูดเพื่อเรียกความสนใจก็นับว่าได้ผล เปาดูตกใจแม้ว่าจะพยายามไม่แสดงสีหน้า ที่จริงจีนเล่นวอลเลย์บอลในตำแหน่งตัวเซ็ตได้ดีมาก ไม่คิดว่าจะเลิกเล่นเร็วขนาดนี้

"ที่จริง...ที่บ้านก็ไม่อยากให้เล่นเป็นอาชีพหรอก เขาอยากให้ไปช่วยทำธุรกิจครอบครัวมากกว่า จีนคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้วล่ะ" จีนพูด ก่อนอธิบายสืบไปและเดินเข้ามาใกล้เปา

"ก็เสียดายนะ แต่คิดว่า...ยิ่งอยู่ต่อไป ก็ยิ่งไม่มีความสุข ความจริง...เราไม่ควรกลับมาเจอกันเลยนะ มันไม่ควรจะมีครั้งที่สองเลย หรือจะว่าไป...เราสองคนก็ไม่ควรจะเจอกันด้วยซ้ำ เพราะการเจอกันของเรา ไม่ว่าจะครั้งนี้...หรือครั้งที่ผ่านมา ไม่เห็นมีอะไรน่าจดจำเลย"

"แล้วจะไปเมื่อไหร่" เปาถามแทรก

จีนทำท่าคิด ไม่นานก็ตอบ "ก็ยื่นใบลาออกไปที่สมาคมแล้วก็สโมสรแล้วล่ะ อีกหนึ่งเดือน...เราก็จะไปแล้ว"

เปาไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกใจหายหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เพราะใจหาย ก็คงเป็นความรู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเสียดาย เสียใจ หรืออะไรทำนองนั้น คอแข็งๆ ของเขาดูอ่อนลง แววตาที่สื่อความเป็นมนุษย์เริ่มกลับมาอีกครั้ง

"แต่ก่อนจะไป จีน...มีความลับจะบอก" จีนเกริ่น เมื่อเห็นเปาทำท่าสนใจ เขาก็เล่าต่อ

"ตั้งแต่รักเปาครั้งแรกเมื่อห้าหกปีก่อน เปารู้ไหม จีนไม่เคยรักใครอีกเลย ถึงแม้ว่าจะมีคนเข้ามามากมาย แต่ลึกๆ จีนก็เหงา เหงามากๆ ทุกครั้งที่คิดจะรักใคร...จีนก็กลัวว่ามันจะเป็นเหมือนเดิม แต่ช่างมันเถอะ มันผ่านไปแล้ว ถือซะว่า...มันเป็นเวรกรรมของจีนเองละกัน เพราะจีนก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมันแล้ว"

จีนหยุดเว้นจังหวะ ทำท่าให้ดูเหมือนว่าสิ่งที่กำลังจะเล่าสำคัญมาก "แต่...เมื่อไม่นานนี้ จีนก็รู้สึกชอบคนๆ หนึ่ง ไม่ใช่เปาหรอก"

ถ้าไม่ใช่เพราะประโยคท้าย เปาก็คงไม่คิดจะสงสัย พลันเขาก็นึกสงสัย จีนชอบใครกันแน่...ถ้าไม่ใช่เปา

"จีนชอบไท้" จีนสารภาพด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

เปาเบิกตากว้าง สิ่งที่จีนพูดช่างดูเหลือเชื่อ แม้ว่าเปาจะเคยได้ยินเพื่อนจีนแซวเรื่องนี้มาก่อน แต่เขาก็ไม่เคยเก็บมาสนใจ อีกอย่าง ถ้าจีนชอบไท้จริง ก็ไม่ควรบีบบังคับเปาให้รับผิดชอบเรื่องในอดีต จนกระทั่งเลยเถิดเป็นความสัมพันธ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

"นี่มึงพูดเรื่องอะไรของมึง" เปาถามเสียงทุ้มต่ำ คิ้วขมวดเข้ม ท่าทางพร้อมจะเอาเรื่องคนตรงหน้าได้ทุกเมื่อ

"จีนชอบไท้จริงๆ ชอบตั้งแต่แรกที่เห็นเขาเลย แต่...จีนก็ไม่กล้าบอกเขา อีกอย่าง...จีนกลัวเจ็บเหมือนที่ผ่านมา ก็ยิ่งไม่กล้าคิดไปใหญ่ แต่ว่า...จีนก็รู้นะว่าไท้เขาไม่ได้ชอบจีนหรอก เขาคิดกับจีนแค่พี่ เขาไม่เคยคิดกับจีนมากกว่านั้น"

จีนหยุดเว้นจังหวะ ใจคอเขาไม่ค่อยดีนักเมื่อเห็นสีหน้าถมึงทึงของเปา กระนั้นก็ยังต้องข่มใจพูดต่อไป

"พอเรารู้ว่าเปาชอบไท้ เราก็เลย...อยากเอาชนะ อยากแก้แค้นด้วย"

"มึงพูดมาให้หมดเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้จีน ตกลงมึงทำอะไรกับกูกันแน่!" เปาคาดคั้นเสียงเข้ม นิ้วชี้ยกขึ้นชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง

จีนตัวสั่น แค่จะสารภาพก็ยังต้องใช้ความกล้าหาญมากโข พอเจอท่าทางโกรธเกรี้ยวของเปา ความกล้าหาญที่เตรียมมาก็แทบจะหายหมดสิ้น

"จีนขอโทษ" เสียงจีนสั่น ท่าทางเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ "เรื่องคลิปของไท้ มันเป็นแผนของจีนเอง"

"อะไรนะ!" เปาตวาดลั่น มือไม้สั่นอย่างคนโกรธจัด

"ฟังจีนอธิบายก่อนได้ไหม" จีนขึ้นเสียงบ้าง "ฟังให้จบ แล้วเปาอยากจะทำอะไรกับจีนก็ได้ จะเตะ จะต่อย หรือจะฆ่าให้ตาย จีนก็ยอมทุกอย่าง เปาฟังก่อนได้ไหม"

อาการโกรธเกรี้ยวของเปาลดลง แต่เสียงหายใจแรงบ่งบอกว่าเขาพยายามควบคุมอารมณ์เต็มที่

"ที่จริง จีนว่าจะลองจีบไท้ดู แต่บังเอิญ...เปาเข้ามาซะก่อน จีนก็เลยไม่กล้าจีบ เพราะว่า...จีนคงต้องผิดหวังแน่ๆ จีนไม่ชอบผิดหวัง ตั้งแต่เลิกกับเปาตอนนั้น จีนบอกกับตัวเองว่าจีนจะต้องไม่ผิดหวังแบบนั้นอีก จีนต้องชนะเท่านั้น จีนก็เลย...วางแผนว่าจะให้เปากลับมารับผิดชอบ แล้วก็ให้น้องที่รู้จักกันมาตีสนิทกับไท้ คลิปที่ทุกคนเห็น น้องคนนั้นมันเป็นคนทำ แต่จีนเช็คกับมันแล้ว มันไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น"

"ไอ้เหี้ย!"

ผลั่วะ!

เปาซัดหมัดเปรี้ยงอย่างหนัก จีนถอยหลบแต่ก็โดยปลายหมัดกระแทกปากจนเลือดซิบ เขาล้มก้นจำเบ้า เปาถลาลงมาหาและกระชากคอเสื้อจีนแน่น พอจะซัดอีกเปรี้ยงจีนก็รีบบอก

"ฟังให้จบก่อนได้ไหมเปา จีนบอกแล้วว่าจีนจะไม่หนี"

เปาชะงักมือค้างไว้ ทุกส่วนในร่างกายของเขาตึงเครียด สั่นเทิ้ม "เล่ามาให้หมด เดี๋ยวกูจะจัดการมึงทีเดียว"

จีนสบตาโกรธเกรี้ยวคู่นั้นอย่างสงบ ตอนนี้น่าจะมาถึงจุดที่เลยความกลัวไปแล้ว ถ้าเปาจะฆ่าเขาให้ตาย เขาก็จะยอม ขอแค่ให้เขาได้สารภาพกับใครสักคน ไม่อย่างนั้นเขาคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

"จีนยอมรับว่าจีนแค้นเปามาก จีนอยากเห็นเปาเจ็บปวด...เหมือนที่เปาเคยทำกับจีนไว้ จริงๆ น่ะ...จีนแค่ต้องการให้น้องคนนั้นถ่ายรูปคู่กันบนเตียงกับไท้ แล้วเอามาให้เปาดู ไม่คิดว่ามันจะเผลอทำไปถึงขนาดนั้น"

"มึงทำอย่างงั้นทำไม! ไอ้ชั่ว! มึงรู้ไหมว่ามึงกำลังทำลายอนาคตของไท้!" เปาตะคอกใส่ พยายามสะกดกลั้นอารมณ์อย่างเต็มที่

"ก็เพราะกูอยากให้มึงเจ็บเหมือนกูไง เป็นไงล่ะ เจอแบบนี้เข้าไปบ้าง แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ มันยังไม่ได้ครึ่งความเจ็บที่กูเคยได้รับจากมึงเลย มึงว่ากูชั่ว แล้วมึงไม่ชั่วเหรอ มึงเอาความแค้นในครอบครัวของมึงมาลงที่กู กูไม่รู้เรื่องอะไรกับมึงซะหน่อย มึงหลอกให้กูรักมึง หลงมึง ยอมมึงทุกอย่าง กูรักมึงจนโงหัวไม่ขึ้น แล้วมึงก็ทำร้ายกู มึงเห็นฝีมือของมึงหรือเปล่า มึงเห็นไหมว่าชีวิตกูเป็นยังไง ขนาดกูเจอคนที่กูชอบ กูยังไม่กล้าเปิดใจให้เขาเลย แทนที่กูจะได้รักใครอย่างมีความสุข กูเสือกมีชีวิตเสเพล หาความสุขจากเซ็กซ์ แต่มันทดแทนความรักไม่ได้ มึงรู้ไหมว่ามันทดแทนไม่ได้!"

จีนระเบิดอารมณ์ใส่บ้าง เปาถึงกับหน้าชา เมื่อฟังจีนพูดแล้วเขาก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ ไม่ว่าจะนึกถึงหรือได้ยินสักกี่ครั้งก็ตาม

"กูต้องการความรัก มึงได้ยินไหมไอ้เปา กูอยากจะรักใครสักคน แต่กูก็รักไม่ได้ มึงน่ะยังโชคดีมากกว่ากูด้วยซ้ำ มึงเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง แล้วมึงก็มีความรักกับไท้ แต่กู...แม่งไม่เคยมีความรักเลย" จีนตะโกนลั่นและร้องไห้หนัก

เรี่ยวแรงของเปาแทบจะหายไปจนหมด มือที่ดึงคอเสื้อค่อยๆ คลายจนหลุด ส่วนหมัดที่เงื้อไว้ก็ตกลงข้างตัว

"มึงโกรธกูใช่ไหม เกลียดกูใช่ไหม จะทำกับกูเหมือนที่มึงเคยทำก็เชิญเลย จะฆ่ากูให้ตายเลยก็ได้ กูก็ไม่อยากอยู่กับชีวิตเหี้ยๆ แบบนี้หรอก ฆ่ากูสิ มึงฆ่ากูเลยสิ ไอ้เปา ฮือ...."

จีนโผเข้ากอดเปาแน่น ส่วนเปาไม่ขัดขืนใดๆ นี่คงจะเป็นผลกรรมที่เขาเคยทำกับจีนไว้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่ทำจะหนักหนาถึงเพียงนี้ เมื่อเห็นชีวิตที่ไร้รักของจีนแล้ว เขาก็ได้แต่รู้สึกผิด จะว่าไป...เรื่องที่เขาเจอมันก็เจ็บน้อยกว่าจีนด้วยซ้ำ อย่างน้อย...เปาก็ยังรักใครสักคนได้ ในขณะที่จีน...เจ็บปวดอยู่กับอดีตมาจนถึงทุกวันนี้

ที่จริงก็ไม่เห็นมีอะไรยาก เปาก็แค่กลับไปหาไท้ พูดคุยกันให้เข้าใจ ไท้เองก็รักเขามาก พร้อมจะให้อภัยทุกอย่าง ขอเพียงแค่เปาเลิกมีอคติ ทุกอย่างก็พร้อมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

จีนร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดของเปาที่กอดไว้หลวมๆ แต่กอดนี้ไม่ใช่การปลอบใจ เขากับจีนควรจะหมดความสัมพันธ์กันตั้งแต่วันนี้ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นอดีตที่เจ็บปวดอีกครั้ง อย่างที่จีนพูดไว้ ไม่ว่าจะกลับมาพบกันสักกี่ครั้ง ก็ไม่มีอะไรดีๆ ให้น่าจดจำ เหมือนคนที่ฟ้าไม่ได้ตั้งใจให้มาเจอกัน กระนั้นก็ยังต้องเจอกันถึงสองครั้ง ต่อไปคงไม่มีครั้งที่สามอีกแล้ว

"มึงกับกู ให้มันจบกันแค่นี้แหละ เรื่องที่ผ่านมา กูขอโทษ จากนี้ไป กูกับมึงไม่ควรเจอกันอีกแล้ว กูหวังว่า...มึงจะได้เจอรักแท้จากใครสักคน กูขออวยพรให้มึงเจอคนๆ นั้น กูอยากให้มึงมีความรัก อยากให้มึงลืมอดีตที่เจ็บปวดที่กูเคยทำกับมึงไว้ กูเคยบอกมึงแล้วไง...ว่ากูรักมึง ถึงกูจะเอาปัญหาในครอบครัวมาลงกับมึง แต่ตอนนั้นกูก็รักมึงไปแล้ว มึงก็ลองนึกย้อนดูละกัน ตอนที่มึงกับกูคบกัน มึงทำยังไงล่ะกูถึงได้รักมึง มึงก็แค่ทำอย่างนั้นกับคนที่มึงอยากรัก ปลดปล่อยหัวใจของมึงบ้าง ไม่ต้องกลัวเจ็บหรอก มึงไม่เคยได้ยินเหรอ อกหักดีกว่ารักไม่เป็น มึงต้องกล้าที่จะอกหัก ถ้ามึงกล้าที่จะเจ็บอีกครั้ง หรือมากกว่าหนึ่งครั้ง มึงก็จะมีความรักได้แล้ว อกหักมันก็เจ็บเป็นธรรมดา แต่ชีวิตที่ไม่กล้ารักใคร...มันเจ็บมากกว่า มึงเลือกเอาเองละกัน กูบอกมึงได้แค่นี้ ลาก่อนนะจีน"

เปาพูดจบก็ลุกขึ้น ก่อนหันหลังกลับและเดินจากไป ไม่หันกลับไปมองจีนอีก เหตุการณ์ช่างเหมือนกับวันนั้น วันที่จีนไม่เคยได้เจอเปาอีกเลยหลายปี แต่คราวนี้คงจะต้องจากกันเหมือนตายจากกันไป ไม่อย่างนั้นก็คงจะมีชีวิตใหม่อีกไม่ได้ ต่างคนต่างก็ได้ชดใช้ให้กันแล้ว ก็ขอให้หมดเวรหมดกรรมแต่เพียงเท่านี้ เปาจะขอกลับไปหาความรักของเปาบ้าง ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่เขารักอย่างจริงจังเสียที

ลาก่อนนะจีน...



“Say again. I don’t understand.” (พูดอีกที ผมไม่เข้าใจครับ)

“I said you’re so cute and handsome. The more I see you, the more I like you.” (ผมบอกว่าคุณน่ารักและหล่อมาก ยิ่งเห็นก็ยิ่งชอบ)

ไท้ส่ายหัวไปมา แจซังถึงกับขำ เขาพยายามพูดสองสามรอบแล้วแต่ไท้ก็ยังฟังไม่เข้าใจ น่าจะเป็นเพราะสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ค่อยดี ทำให้สัญญานเสียงไม่ชัด แถมไท้ก็ยังไม่คุ้นสำเนียงคนเกาหลีพูดภาษาอังกฤษอีก ก็เลยไปกันใหญ่

“Sorry, I don’t understand.” (ขอโทษครับ ผมไม่เข้าใจ)

“Never mind.” (ช่างมันเถอะ)

แจซังบอกพลางขำ คงจะเหนื่อยใจเต็มที อุตส่าห์ว่าจะทำให้อีกฝ่ายเขินเสียหน่อย แต่ดันมีอุปสรรคด้านสำเนียงและเทคโนโลยีเสียอย่างนั้น

“Thank you for help me teach English. You very good. I will speak English good in future sure.” (ขอบคุณที่สอนภาษาอังกฤษผม คุณใจดีมาก ผมจะพูดภาษาอังกฤษได้ในอนาคตแน่นอน)

ไท้ถือโอกาสขอบคุณอีกฝ่าย เมื่อวานเขาแวะไปเข้าคลาสที่สถาบันสอนภาษามา ได้เรียนในคลาสกับคนอื่นๆ อีกเกือบๆ สิบคนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ไท้ก็เลยมีไอเดียว่าถ้าได้พูดบ่อยๆ อีกก็น่าจะดี จะทำให้มั่นใจมากขึ้น พอแจซังส่งข้อความมาหา ไท้ก็เลยขอวิดีโอคอลแทน จึงได้คุยภาษาอังกฤษสำเนียงไทยกับเกาหลีกันเป็นชั่วโมงๆ รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็สนุกดีไม่น้อย

“I can’t wait to see you, Tie. If you have time after we finish all the matches, I’d like to take you to my condo. It’s in Incheon. I’ll take you around Incheon, too. Okay?” (ผมแทบรอเจอไท้ไม่ไหว ถ้าคุณมีเวลาหลังแข่งเสร็จหมดแล้ว ผมอยากชวนคุณไปเที่ยวคอนโดผมที่อินชอน ผมจะพาคุณเที่ยวอินชอนด้วย โอเคไหม)

แจซังพูดยาวอีกแล้ว แต่เขาก็พยายามพูดช้าๆ ชัดๆ กระนั้นไท้ก็ฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้าง แม้ว่าจะสนทนาแบบนี้มาเป็นชั่วโมง แต่แจซังก็ไม่มีท่าทีเบื่อหน่าย ดูเหมือนเขาสนุกด้วยซ้ำ

“Ok.’ (ตกลง)

ไท้ตอบตกลงอย่างงงๆ แต่ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

“ตอบตกลงเขาไปได้ยังไง!”

อยู่ๆ เสียงใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น น้ำเสียงนั้นฟังดูเหมือนไม่พอใจบางอย่าง ไท้รีบถอดหูฟังออกแล้วหันไปมองข้างหลัง เปานั่นเอง ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าหมาสองตัวที่นอนอยู่หลังบ้านก็ไม่ส่งเสียงดีใจ สงสัยเปาไม่ได้ขับรถมา เพราะเห็นบอกว่าจะเอาไปซ่อมทำไมล์เมื่อวันสองวันก่อน

“พี่เปา” ไท้เรียก สีหน้าเขาดูหวั่นๆ เพราะเปาทำหน้าดุอีกแล้ว

“โดนหลอกไปครั้งหนึ่งแล้ว ยังไม่เข็ดอีกเหรอ หรือว่าชอบ” เปาใส่อารมณ์อย่างไม่พอใจ

“เปล่านะครับพี่เปา”

“จะมาเปล่าได้ยังไง เมื่อกี้ก็เห็นอยู่ว่าไอ้หมอนั่นมันจีบ ไหนว่าเรียนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษประสาอะไรมานั่งจีบกับผู้ชาย”

“ไม่ใช่อย่างงั้นครับพี่ ผมแค่อยากหาคนพูดภาษาอังกฤษด้วย แจซังเขาว่างพอดี ผมก็เลย…”

“พอๆๆ เมื่อกี้พี่ได้ยินหมดแล้ว เดี๋ยวชมหล่อ เดี๋ยวชมน่ารัก เขาชวนไปเที่ยวคอนโดก็ยังจะไปกับเขาอีก ไม่รู้เหรอว่าเขาชวนไปทำอะไร จะซื่ออะไรขนาดนั้น”

ไท้หน้าเสีย เมื่อกี้เขาฟังไม่ค่อยออกเพราะไม่คุ้นสำเนียง เขาไม่รู้เลยว่าแจซังพูดอย่างนั้น ถ้ารู้ก็คงไม่ตอบไปอย่างนั้นแน่ กระนั้น ต่อให้ไท้ฟังออก เปาก็น่าจะรู้ว่าเป็นเพียงการตอบตามมารยาทเท่านั้น แต่ไม่ทันอ้าปากพูด เปาก็สวนมาอีก

“ทำแบบนี้เขาเรียกว่าอ่อยรู้ไหม หรือว่าตั้งใจจะอ่อยเขา”

“เปล่านะครับพี่เปา ผมไม่ได้อ่อย” ไท้หน้าเจื่อน รู้สึกยุ่งยากใจที่เปาไม่เลิกซักไซ้และต่อว่าเรื่องนี้เสียที

“คนพวกนี้มันเป็นอย่างนี้กันหมดทุกคนเลยเหรอ” เปาแค่นหัวเราะ ก่อนเหลือบดูหน้าจอวิดีโอคอลในหน้าจอคอมพิวเตอร์ เจ้าหนุ่มนั่นหายไปจากหน้าจอแล้ว คงเป็นเพราะได้ยินเสียงเปา ถึงจะฟังไม่ออก แต่ฟังจากน้ำเสียงก็น่าจะรู้ว่าไม่พอใจ

“ทำไมชีวิตนี้กูต้องเจอแต่เกย์ที่ทำตัวแย่ๆ แบบนี้วะ ขนาดพ่อกูเอง…ยังทำเมียตัวเองตาย”

“พี่เปาพูดเรื่องอะไรครับ” ไท้ขัดขึ้น เปาชะงักไปเล็กน้อย

“ทำไมวะ เป็นเกย์แล้วต้องสำส่อนด้วยเหรอ ต้องหลอกลวงคนอื่นด้วยเหรอ ไท้ก็เหมือนกัน…พี่เคยคิดว่าไท้จะไม่เป็นเหมือนคนพวกนั้นที่พี่เคยเจอมา แต่สุดท้าย…”

เปาแสดงสีหน้าผิดหวัง ท่าทางแบบนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่การหึงหวงกันธรรมดาเสียแล้ว เมื่อเปาไม่ยอมหยุด ไท้จึงต้องแสดงอาการไม่ยอมบ้าง เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง

“พี่เปารังเกียจอะไรผมนักหนาเหรอครับ เพราะผมจน เพราะผมมาอาศัยพี่อยู่ หรือเพราะคิดว่าผม…จะเป็นเหมือนพ่อพี่”

พอไท้ทำท่าขึงขัง เปาก็ชะงัก แต่เขาคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่นอน

“อยากรู้เหรอ ไท้ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าพี่รู้สึกยังไง เคยมีพ่อเป็นเกย์ไหม เคยโดนล้อว่าพ่อเป็นเกย์ไหม เคยมีแม่ตรอมใจตายไหม คนพวกนี้…แค่รังเกียจยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

ประโยคสุดท้ายเล่นเอาคนฟังหน้าชา ต่อให้เป็นคนรักกัน พูดแบบนี้ก็ถือว่าไม่ให้เกียรติกันเลย

“รังเกียจผมมากใช่ไหมครับ” ไท้ถามเสียงเข้ม

เปายืนนิ่ง จะตอบก็ไม่กล้าตอบ เมื่อเจอคำถามนี้ก็ดูเหมือนว่าสติจะกลับมาแล้ว

“ได้ งั้นผมก็จะไม่อยู่ให้พี่รังเกียจ”

ไท้พูดจบก็เดินหนีขึ้นห้อง ส่วนเปาได้แต่ยืนอึ้งและหน้าเสีย กระนั้นเขาก็ไม่ตามขึ้นมาด้วย ไม่นานเขาก็เห็นไท้เดินลงมาจากบ้านพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าเก่าๆ ใบนั้น

“จะไปไหน” เปาร้องถาม

ไท้หยุดหันมามอง “ไปไหนก็ได้ครับ ที่ไม่มีคนที่เขารังเกียจผม”

พูดจบไท้ก็เดินออกไปจากบ้าน เปาจะร้องห้ามอีกก็ปากหนักไปแล้ว ปากกับใจทำงานไม่สอดประสานกันเลย ไม่รู้ว่าเป็นอวัยวะที่ประกอบอยู่บนร่างกายเดียวกันหรือเปล่า จึงได้แต่ยืนหงุดหงิด นึกอยากจะเตะอะไรสักอย่างให้กระเด็นแต่ก็ไม่รู้จะเตะอะไร

… … …

ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิด แต่เมื่อไม่รู้จะพึ่งใคร ไท้ก็เลือกที่จะมาหาจีน เพราะเป็นคนเดียวที่เคยเสนอความช่วยเหลือให้ แต่พอมาถึงคอนโดของรุ่นพี่ ไท้ก็รู้สึกว่าสีหน้าท่าทางของจีนดูแปลกๆ ยากที่จะเดาได้ว่าเจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ไหน

“ไท้มาอยู่ไม่นานหรอกนะครับพี่จีน แค่สองสัปดาห์ พี่จีนจะคิดค่าเช่าผมก็ได้นะครับ แต่ว่าผมคงไม่มีให้ตอนนี้” ไท้บอกอย่างเกรงใจ

“ไม่ต้องหรอกไท้ อยู่นานแค่ไหนก็ได้ พี่ไม่ว่าหรอก” จีนแย้ง ถ้าใครถามว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง เขาเองก็ตอบตัวเองไม่ได้

“ขอบคุณครับพี่” ไท้ยิ้มเศร้า รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยยามเดือดร้อนลำบากก็ยังพอมีคนให้พึ่งพาอาศัยได้

พลันรอยยิ้มของไท้ก็หุบเข้าแทบไม่ทัน เมื่ออยู่ดีๆ จีนก็พูดประโยคนี้

“ไท้มาอยู่กับพี่ พี่ไม่ให้ไท้ลำบากหรอก แต่…รู้ใช่ไหมว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน พี่ไม่ต้องการความรัก ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น พี่ต้องการแค่…”

จีนลากเสียงจนเสียงค่อยๆ หายไป สีหน้าท่าทางดูไม่ใช่จีนที่ไท้เคยรู้จัก ทั้งดูเหี้ยม เจ้าเล่ห์ ทว่ามิอาจซ่อนแววตาเจ็บปวดเอาไว้ได้

“แลกเปลี่ยนอะไรเหรอครับพี่ ถ้าให้ได้ผมก็จะให้ครับ” ไท้ถามด้วยความอยากรู้

จีนยิ้มมุมปาก แค่นหัวเราะ แต่อยู่ๆ น้ำตาก็ไหล อารมณ์ประหลาดและแปรปรวจจนไท้ชักหวาดระแวง

“เซ็กซ์!”

นั่นคือคำตอบจากจีนที่เขายอมพูดออกมาในที่สุด แต่ใครเลยจะรู้ว่าทำไมเขาถึงพูดอย่างนั้น คนฟังจึงตกใจไม่น้อย จนไม่แน่ใจว่าตัวเองมาหาผิดคนหรือเปล่า

"แต่ไท้ไม่ต้องห่วงนะ พี่ไม่เคยขอใครฟรีๆ หรอก ยิ่งบริการดี พี่ก็ยิ่ง...เปย์ไม่อั้น"

ไท้ผงะและเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้จีนเป็นแบบนี้ไปได้ ที่ผ่านมาจีนทำอย่างนี้กับคนอื่นๆ แต่ไม่เคยคุกคามไท้ในลักษณะนี้เลย

นี่ไม่น่าใช่จีนที่ไท้เคยรู้จักเสียแล้ว


TBC



ป.ล. อัปเดตเจ้าชายชาร์มินแล้วนะครับ ใครที่ติดตามอย่าลืมไปอ่าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2017 20:56:09 โดย inxsara »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เนี่ย ดูจีนดิ... โดนที่ระเบิดโวยวายเปาก็พูดแต่ว่าแก้แค้นปะ แล้วเรื่องทำลายอนาคตน้องมันเกี่ยวกับเปายังไงอ่ะ อย่ามาทำเป็นโทษนั่นโทษนี่ไปหน่อยเลย เหอะ จบๆ กันไปก็ดี นิสัยไม่ดีเลย

อีกครึ่งรอคนสองคนเขาปรับเข้าใจกันค่ะ คุยกันดีๆ อย่างปรองดองนะคะ55555

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สรุปไม่ว่าไปหาใคร ไท้ก็เจ็บ

พอๆๆๆๆ กลับบ้านเหอะไท้,,,

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
   เปาปากหนัก ไท้ออกบ้านไปแล้ว พ่อกลับมาเปาได้คุยกับพ่อแน่ๆ
 แล้วจีนที่พูดมานั้นคือไม่จริงใช่มั้ย แค่พูดเล่นๆใช่มั้ย
  รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จีนที่พูดแบบนี้ตั้งใจไล่ไท้กลับใช่มั้ย

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจในความรักของเปา
ถ้ารักแล้วต้องบาดเจ็บกันระเนระนาด ก็ไม่รู้ว่าจะรักกันไปทำไม? เพื่ออะไร?

หรือว่ารักตัวเองแทนที่จะรักคนอื่น
งั้นก็อยู่ตัวคนเดียวไป เลิกคร่ำครวญซะที
เบื่อว่ะ คนพรรค์นี้#อิเปา

บวกเป็ด บวกหนึ่งฮับ

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
EP 27 | ความจริง


“พี่ล้อเล่น”

อยู่ๆ จีนก็เกิดเปลี่ยนท่าทีกะทันหัน สีหน้าท่าทางที่ดูไม่น่าไว้วางใจค่อยๆ หายไป เขายิ้มและหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นไท้ยังคงมองอย่างหวาดระแวง

“กลัวเหรอ” จีนถาม

“ครับ” ไท้ยอมรับตามตรง พยายามยิ้ม แต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่ดี

“พี่ขอโทษนะที่ทำให้กลัว” จีนพูดแล้วก็เดินเข้ามาใกล้ ก่อนเอามือแตะไหล่ไท้ข้างหนึ่ง “พักอยู่นี่แหละ อยู่นานแค่ไหนก็ได้ ไม่ต้องกลัวพี่ทำอะไรไท้หรอก พี่รู้ว่าไท้มีเจ้าของแล้ว”

จีนนิ่งคิด เสมองไปทางอื่น “เปาน่ะ...เขารักไท้มากนะ ไท้รู้ใช่ไหม”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ” ไท้ตอบเสียงอ่อย เมื่อพูดถึงเปาแล้วเขาก็หนักใจ

“มา เดี๋ยวพี่เอากระเป๋าไปเก็บให้” จีนตัดบท ก่อนยื่นมือไปรับเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาจากไท้ หันมองซ้ายขวาแล้วก็เอาไปวางไว้บนโต๊ะเตี้ยๆ สำหรับวางกระเป๋าเดินทาง

“จะให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม หรือว่า…อยู่คนเดียวได้” จีนหันไปถามเมื่อวางกระเป๋าเรียบร้อย

“แล้วพี่จีนจะไปอยู่ไหนเหรอครับ”

“พี่ว่าจะกลับบ้าน ไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว ป๊ากับม๊าอยากให้กลับไปอยู่บ้านบ้าง ถ้าไท้อยู่คนเดียวได้ พี่ก็จะกลับ แต่ว่าคืนนี้พี่อยู่เป็นเพื่อนได้”

"อ๋อ...ได้ครับ"

ไท้เดินไปที่โซฟา ก่อนถือวิสาสะนั่งลงไป สีหน้าเขาดูดีขึ้น น่าจะหายหวาดระแวงเจ้าของห้องแล้ว ไม่นานจีนก็เดินตามมานั่งด้วย

“มีเงินติดตัวมาพอหรือเปล่า อาหารแถวนี้แพงหน่อยนะ ถ้าจะกินแบบธรรมดาก็ต้องเดินออกไปอีกหน่อย มีร้านอาหารตามสั่งอยู่หลายร้าน”

ไท้ยิ้มแหยๆ เขาเหลือเงินในกระเป๋าไม่ถึงพันบาทเท่านั้น จีนเห็นท่าทางอย่างนั้นก็พอเดาออก เขาจึงหยิบเงินจากกระเป๋าสามพันแล้วส่งให้ไท้

“คราวที่แล้วไท้ไม่รับ แต่คราวนี้พี่ขอนะ ไท้รับไว้ก่อน มีแล้วค่อยเอามาคืนพี่ก็ได้ แต่ไม่ต้องรีบนะ พี่อยากเป็นกำลังให้ไท้สู้ต่อไป สู้เพื่อความฝัน สู้เพื่อครอบครัวของไท้”

แม้จะเกรงใจอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดถึงความอยู่รอดแล้ว ไท้ก็ต้องรับไว้อย่างเกรงใจ

"อย่าท้อนะ พี่รู้ว่าตอนนี้ไท้เจอปัญหาเยอะ แต่ความฝันของไท้สำคัญกว่าทุกอย่าง แมทต์ที่เกาหลี ไท้ต้องไปให้ได้ เพราะสโมสรในยุโรปจะส่งคนมาดู ถ้าเขาสนใจใครเขาก็จะจองตัวเลย ถ้าฝีมือดี โอกาสไปเล่นที่ยุโรปสูงมาก พี่ไม่อยากให้ไท้พลาดโอกาสนี้"

การที่จีนจะพูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายทั้งหมดมาจากเขา แต่ครั้นจะสารภาพความผิดก็คงไม่มีประโยชน์ ทางที่ดีเขาควรจะช่วยให้ไท้ผ่านพ้นปัญหาต่างๆ นี้ไปให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยว่ากัน

“พี่เข้าไปคุยกับนายสมาคมเมื่อวานก่อน พี่ขอให้ท่านนายกช่วยพิจารณาให้ไท้กลับไปซ้อมกับเพื่อนๆ เพราะทีมเรา…ขาดไท้ไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีไท้ ก็สู้เกาหลียาก เด็กๆ ชุดใหม่ของเกาหลีโดดเด่นหลายคนเลย ระบบเขาดีกว่าเรา ปั้นคนใหม่ๆ ได้ดีกว่า พี่ว่า...ท่านนายกสมาคมน่าจะเห็นด้วย"

"จริงเหรอครับพี่" ไท้ยิ้มดีใจ เขารู้มาว่าจีนค่อนข้างมีเส้นสายดีกับคนในสมาคม เข้าถึงผู้หลักผู้ใหญ่บางคนได้ เพราะครอบครัวของจีนบริจาคเงินให้สมาคมเป็นประจำทุกปี

"ไท้รอฟังข่าวดีก็แล้วกัน เหลืออีกสองสัปดาห์ ยังพอมีเวลาซ้อมกับเพื่อนๆ จะได้เล่นเข้าขากัน"

"ขอบคุณครับพี่จีน" ไท้ยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ

จีนเสมองไปทางอื่น บางทีเขาก็รู้สึกละอายใจเหลือเกิน เกือบทำไท้เสียอนาคตไปแล้ว ดีที่เป็นความผิดครั้งแรก สมาคมจึงยังให้โอกาส

"ไม่เป็นไร ก่อนพี่ไป...พี่จะช่วยไท้อย่างสุดความสามารถ พี่ไม่ยอมให้ไท้พลาดโอกาสดีๆ หรอก" จีนหันมายิ้ม

"พี่จีนจะไปไหนเหรอครับ" ไท้ทำหน้าฉงน

"อ๋อ...พี่จะเลิกเล่นวอลเลย์บอลแล้ว" จีนแค่นหัวเราะ

"ทำไมล่ะครับพี่ ฝีมือพี่ก็ดี อายุก็ยังน้อย เล่นได้อีกหลายปีเลย ทำไมถึงจะเลิกเล่นล่ะครับ"

"พี่จะไปช่วยธุรกิจที่บ้านน่ะ พี่ว่ามันก็ถึงเวลาแล้ว ไท้ก็รู้ อาชีพนักวอลเลย์บอลไม่มั่นคงหรอก ไม่นานก็จะมีคนใหม่มาแทน อายุมากขึ้น ฝีมือก็จะตกลง ไหนจะเสี่ยงบาดเจ็บอีก พี่ว่า...พี่ไปทำธุรกิจกับที่บ้านดีกว่า ยังไงก็ต้องกลับไปทำอยู่แล้ว ไม่ทำวันนี้ วันหน้าก็ต้องทำ พี่ก็เลยตัดสินใจลาออก ยื่นใบลาออกไปแล้วล่ะ ทั้งกับสมาคมแล้วก็สโมสร"

ไท้ทำท่าเสียดาย แต่เมื่อฟังเหตุผลของจีนแล้ว เขาก็ไม่รู้จะขัดอย่างไร วันหนึ่งไท้ก็อาจจะต้องตัดสินใจอย่างนั้นบ้างก็ได้ ยกเว้นว่าจะมีเส้นทางให้ไปต่อ ที่จริงไท้ก็อาจจะเป็นโค้ชได้เมื่ออายุมากขึ้น

"เสียดายจัง" ไท้พูด

"พี่ก็เสียดาย" จีนยิ้มเศร้า ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง "กินข้าวมาหรือยัง"

"ยังเลยครับ" ไท้พูดพร้อมส่ายหน้า

"เดี๋ยวพี่พาไปกินข้างล่างละกัน มีร้านอาหารอยู่ พี่ก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน อ้อ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเองนะ" จีนบอกพลางขำ เขารู้ว่าไท้เป็นคนประหยัด จะซื้ออะไรแพงๆ กินก็คิดแล้วคิดอีก

ไท้ได้แต่ยิ้มๆ แม้จะรู้สึกเศร้ากับปัญหาหลายอย่างในช่วงนี้ แต่ยังดีที่มีคนเมตตาช่วยเหลือ

"อย่าเศร้านะไท้ เรื่องเปาน่ะ ไม่นานเขาก็จะคิดได้เอง เขาชอบวู่วามแบบนี้แหละ แต่พี่มั่นใจว่าเขาเลือกไท้"

จีนบอกพลางเอามือโอบไหล่อีกฝ่าย ตบเบาๆ สองสามครั้งเพื่อให้กำลังใจ ที่ผ่านมาเขาไม่กล้าพาใจถลำลึกไปกับผู้ชายคนนี้ เพราะเขากลัวตัวเองถูกปฏิเสธ กลัวตัวเองเจ็บจากความรัก แต่วันนี้...เขาจะลองปล่อยหัวใจของตัวเองให้เป็นอิสระ ทำตามเสียงหัวใจของตัวเอง แม้ว่าจะไม่ได้ความรักตอบก็ไม่เป็นไร เขาจะยอมเจ็บและเสียน้ำตาให้กับความรักอีกครั้ง เพราะเขาอยากสัมผัสความรักด้วยหัวใจ แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่สัปดาห์ก็ตาม

ขอโอกาสให้พี่ชายเลวๆ คนนี้ได้รักไท้บ้างนะ...



“แม่นั่งก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปหาน้ำหาท่ามาให้”

โค้ชเด้งเชื้อเชิญผู้สูงอายุนั่งลงที่โซฟา สีหน้าบ่งบอกความเกรงใจ เขาเพิ่งมาถึงบ้านไม่ถึงนาที อดีตแม่ยายกับน้องเมียก็มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน คงจะคิดถึงหลานชายจึงแวะมาหา ช่วงนี้เปาไม่ค่อยไปหายายเลย

“ไม่เป็นไรค่ะพี่เด้ง เดี๋ยวมนจัดการเอง พี่เด้งเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ” น้าสาวของเปาร้องบอก เธอมาที่นี่บ่อยๆ รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน จึงไม่จำเป็นต้องให้เจ้าของบ้านดูแล

โค้ชเด้งพยักหน้า ก่อนหันไปบอกผู้สูงอายุ “เดี๋ยวผมไปตามเปาให้นะครับแม่”

ยายของเปาพยักหน้าพลางยิ้ม โค้ชเด้งจึงขอตัว อันดับแรกเขาเดินขึ้นไปบนห้อง เมื่อเคาะประตูเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ พอเปิดห้องเข้าไปดูก็ไม่มีใครอยู่ เขาจึงเดินไปดูที่ห้องของไท้ ไม่มีใครอยู่อีกเช่นกัน น่าแปลกที่ไท้ก็หายไปด้วย

โค้ชเด้งจึงลงมาข้างล่างและเดินไปหลังบ้าน เขาจึงเห็นเปากำลังนั่งเล่นกับหมาสองตัวในบ้านของพวกมัน แต่แทนที่จะมีความสุข สีหน้ากลับดูเหมือนแบกโลกไว้ทั้งโลก ในขณะที่หมาสองตัวนั้นก็เพียงแต่นอนให้เจ้านายลูบขนเล่น ไม่ได้หยอกเล่นกันเหมือนปกติ

“เปา ยายกับน้ามนมาหาน่ะลูก” โค้งเด้งบอกลูกชาย รู้สึกแปลกใจที่เปาไม่อินังขังขอบใดๆ เพราะเจ้าตัวน่าจะได้ยินเสียงรถบ้าง

เปาเงยหน้า เจ้าหมาสองตัวนั้นหันมามองตามเสียงด้วย พวกมันเพียงแต่กระดิกหางให้พ่อของเจ้านายและยิ้มดีใจพอเป็นพิธี

“อ้อ เปาเห็นไท้ไหม ไท้ไปไหนหรือเปล่า พ่อไม่เห็นเลย” โค้ชเด้งถามเมื่อนึกได้

“ออกไปแล้วครับ” เปาตอบ ออกอาการไม่กล้าสู้หน้าตรงๆ

โค้ชเด้งขมวดคิ้ว “ออกไปเหรอ ไปไหน เขาไม่เห็นบอกพ่อนี่ว่าเขาจะออกไปข้างนอก”

เปาลูบหัวหมาสองตัวเบาๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ลุกมาจากบ้านของพวกมัน “ไม่รู้ครับ เขาไม่ได้บอก”

“ทะเลาะกับไท้หรือเปล่า” โค้ชเด้งถามดัก

เปาหยุดชะงัก สีหน้ามีพิรุธและแววตารู้สึกผิดนั้นตอบคำถามได้ดีกว่าคำพูด เท่านี้คนเป็นพ่อก็พอเดาได้ว่าน่าจะทะเลาะกันจริงๆ และน่าจะทะเลาะกันหนักจนอีกฝ่ายต้องหนีไป

“ทำไมทำแบบนี้ล่ะเปา น้องโดนลงโทษ ได้ซ้อมน้อยกว่าคนอื่น แค่นี้ก็แย่อยู่แล้ว อีกสองอาทิตย์ก็จะไปแข่งที่เกาหลี ถ้าไม่ได้ซ้อม น้องเขาอาจจะไม่ได้ลง เสียโอกาสแสดงฝีมือให้คนต่างชาติเห็น ไท้เขาควรจะได้ลงนะเปา โอกาสดีๆ รอเขาอยู่” โค้ชเด้งตำหนิลูกชาย

“ก็ทำตัวแบบนี้” เปาพูดมุบมิบ

“ทำตัวยังไง”

“ก็เหมือนที่พ่อเคยทำนั่นแหละครับ” เปากระแทกเสียง จากนั้นก็เดินเข้าไปในบ้าน

ยายกับน้าสาวเห็นหลานเดินเข้ามาในบ้านก็ยิ้มดีใจ เปายกมือไหว้ทั้งสองคนและพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ยายรับไหว้แล้วก็ถาม

“ไม่ได้ไปหายายนานเลย ไม่ว่างเหรอลูก”

“ครับยาย จริงๆ ยายไม่ได้ต้องมาก็ได้ เดี๋ยวผมไปหาที่บ้าน ผมว่าอีกวันสองวันก็จะไปหาพอดี”

“ไม่เป็นไรหรอกลูก ถือโอกาสมาเยี่ยมพ่อของเราด้วย” ยายพูด

จังหวะนั้นโค้ชเด้งเข้ามาในบ้านพอดี สีหน้าดูเครียดๆ จนแขกผู้มาเยือนรู้สึกได้

“พ่อเด้ง เดี๋ยวกินข้าวเย็นด้วยกัน แม่ให้มนเตรียมมาหมดแล้ว กำลังให้เด็กจัดใส่จานให้อยู่” อดีตแม่ยายบอกอดีตลูกเขย

“ครับแม่” โค้ชเด้งรับคำ เขาพยายามยิ้มแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่นัก เพราะนึกเป็นห่วงไท้ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะไปอยู่ที่ไหน

… … …

อาหารเย็นวันนี้ดูจะพร้อมหน้าพร้อมตามากกว่าทุกครั้ง ปกติอยู่กันสองพ่อลูกก็กินใครกินมัน ไม่ค่อยได้นั่งกินข้าวด้วยกันอย่างนี้เท่าไหร่ กระนั้น เปากับพ่อก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ถ้าไม่ติดว่ายายมาหาคงทะเลาะกันไปแล้ว

หลังอาหารเย็น โค้ชเด้งก็ขอตัวออกไปข้างนอก ยายกับน้าสาวของเปาคงไม่รู้ว่าไปไหน แต่โค้ชเด้งเดินมากระซิบบอกลูกชายว่าจะออกไปตามหาไท้

พอพ่อออกไปแล้ว เปาก็นั่งคุยกับยายและน้าสาวไปเรื่อยๆ เกือบๆ สี่ทุ่มจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน คืนนี้ยายกับน้าจะนอนที่นี่ พรุ่งนี้สายๆ ก็จะกลับ

เปาเข้ามานั่งรอพ่ออยู่ในห้องของตัวเอง ถึงตอนนี้เขาก็รู้สึกเป็นห่วงไท้มากเหมือนกัน นึกโมโหตัวเองที่วู่วามมากไปหน่อย ด้วยความเป็นห่วงจึงลองโทรหา แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ ครั้นจะออกไปตามหาก็ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน

ระหว่างที่นั่งรอ สักพักใหญ่ๆ เขาก็ได้รับข้อความเอสเอ็มเอสจากใครคนหนึ่ง ข้อความนั้นเขียนว่า

"ไม่ต้องห่วงไท้นะ เขาอยู่ที่นี่แล้ว จีนจะดูแลไท้เอง แต่ไม่ทำอะไรเขาหรอก ขอให้จีนได้ใช้หัวใจรักใครสักคนบ้าง ถึงไท้จะไม่รักตอบ จีนก็ยินดีจะเจ็บอีกครั้ง มันเป็นโอกาสสุดท้ายของจีนแล้ว จีนรู้ว่าเปารักไท้มาก เพราะฉะนั้น เชื่อใจไท้นะ น้องเขาเป็นเด็กดี ที่สำคัญ เขารักเปามาก เปาต้องเชื่อใจคนที่เปารักนะ"

เป็นเรื่องยากทีเดียวที่เปาจะรู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับข้อความที่เพิ่งได้รับ กระนั้นก็น่าแปลกที่ความกังลและกระวนกระวายของเขาลดลง

เอาเป็นว่าเปาจะไม่ไปตามหา ครั้งนี้เปาจะลองเชื่อใจคนรักดูบ้าง เพราะที่ผ่านมา ความไม่เชื่อใจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง แม้กระทั่งกับพ่อเปาก็ไม่เคยเชื่อใจเลย คนเราถ้ารักกันจริงก็ต้องเชื่อใจกัน ไม่อย่างนั้น…ก็อย่ารักกันเลยดีกว่า

อย่างน้อยได้รู้ว่าไท้มีที่อยู่อาศัย มีคนดูแล ไม่ต้องตกระกำลำบาก เปาก็พอสบายใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว รอเวลาอีกเพียงไม่นาน ทุกอย่างก็จะกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติ

เสียงรถของพ่อกลับมาพอดี เปาจึงออกมาจากห้องและลงมาข้างล่าง พอพ่อเห็นลูกชายเดินมาหา ด้วยความหงุดหงิดเขาจึงอดต่อว่าไม่ได้

"ที่หอพักก็ไม่มี เพื่อนๆ ของไท้ก็ไม่มีสักคนรู้ว่าไท้ไปไหน เปา...พ่อว่าเปาทำกับน้องเกินไปแล้วนะ อนาคตของเด็กที่มีความฝัน มีความตั้งใจ จะพังก็เพราะเปานี่แหละ"

เปาพลันหยุดชะงัก สีหน้าเปลี่ยนเป็นอึ้งและตกใจ

"ทำไมพ่อพูดแบบนี้ล่ะครับ"

"แล้วจะให้พ่อพูดยังไงล่ะเปา เปาไม่เคยเชื่อใจใครเลย เอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ จะทำอะไรก็ใช้แต่อารมณ์"

"แล้วมันเป็นความผิดของผมคนเดียวเหรอครับ" เปาเถียงเสียงดัง คนเป็นพ่อถึงกับชะงัก เปาจึงถือโอกาสต่อว่าบ้าง "ที่ผมไม่ไว้ใจใครทุกวันเนี้ย ไม่ใช่เพราะพ่อเหรอครับ แม่...เขารักพ่อมากขนาดไหน เขายังไว้ใจพ่อไม่ได้เลย พ่อยังหักหลังเขาเลย ที่แม่ตายก็เพราะพ่อ ที่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะพ่อ!"

สายตาเจ็บปวดฉายขึ้นในดวงตาของคนเป็นพ่อ ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ต้องเจ็บปวดอย่างนี้

"ถ้าเปาไม่รู้อะไร เปาก็อย่าพูดดีกว่า" โค้ชเด้งกัดฟันบอกลูกชาย

"ทำไมผมจะไม่รู้ ถึงตอนนั้นผมจะยังเด็ก แต่ผมก็รู้ว่าพ่อนอกใจแม่ พ่อมีผู้ชายคนอื่น แม่เขาทนไม่ไหวถึงได้ฆ่าตัวตายไง!"

"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะเปา" โค้ชเด้งเถียง ริมฝีปากสั่นระริก

"ไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่ใช่แล้วแม่จะฆ่าตัวตายทำไม!" เปาตะโกนใส่ รู้สึกผิดหวังในตัวพ่อจนแทบจะทนไม่ได้ ช่วงที่ผ่านมา เขายอมรับว่ารู้สึกดีกับพ่อขึ้นมาก แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว และคงยากที่จะมีความรู้สึกดีๆ ให้ต่อจากนี้

"เพราะพ่อมีชู้ แม่เขาถึงได้ฆ่าตัวตาย จำไม่ได้เหรอครับ" เปาว่าซ้ำ แต่พลันก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงคนพูดแทรก

"พอได้แล้ว ทั้งพ่อทั้งลูกนั่นแหละ"

ยายของเปานั่นเอง กำลังเดินลงบันไดมากับน้าสาวพอดี คงจะได้ยินเสียงเปากับพ่อทะเลาะกันมาพักหนึ่งแล้ว ทั้งสองคนจึงลงมาดู

เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง ยายก็เดินมาต่อว่าหลานชายทันที "หยุดว่าพ่อได้แล้วนะเปา มันบาปรู้ไหมลูก"

สีหน้าของเปาอ่อนลง กระนั้นเขาก็ไม่อยากทำตามที่ยายบอกเท่าไหร่นัก

ยายของเปาหันไปทางคนเป็นพ่อแล้วก็พูด "เด้ง...แม่จะทนไม่ไหวแล้วนะ ถ้าเรามัวแต่ปิดบังเปา แล้วมันทำให้เด้งกับเปาทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้น แม่ว่า...เราต้องบอกความจริงกับเปาได้แล้ว แม่ไม่อยากเห็นเปากับเด้งทะเลาะกันอีกแล้ว มันหลายปีแล้วนะลูก มินท์เขาคงไม่มีความสุขหรอกที่พ่อกับลูกเป็นแบบนี้"

"แต่..." โค้ชเด้งลังเล

"ไม่ต้องแต่แล้ว ถ้าเด้งไม่บอก แม่ก็จะบอกเอง" ยายของเปาพูดเสียงเฉียบขาด

เปาขมวดคิ้วแน่น เขามองยายกับพ่อด้วยสายตาไม่เข้าใจ ดูเหมือนว่ามีความลับบางอย่างเกี่ยวกับแม่ แต่ยาย น้าสาวและพ่อไม่ยอมพูด

"อย่าเลยครับแม่ มินท์เขาไปสบายแล้ว ผมไม่อยาก..."

"มันคือความจริงนะเด้ง แม่ไม่อยากให้เปาเขาว่าพ่อของตัวเองแบบนี้อีกแล้ว เขาเข้าใจพ่อตัวเองผิดมาตลอด เด้งเองก็ได้แต่หน้าชื่นอกตรม ให้ลูกมันว่า ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเด้งเลย" ยายเถียง

เข้าใจผิดอย่างนั้นหรือ? เปาเข้าใจอะไรพ่อผิด? ตกลงการตายของแม่มันเป็นอย่างไรกันแน่? คนที่จะตอบเปาได้ดีที่สุดก็คงเป็นหนึ่งในสามคนนี้ แต่คนแรกที่น่าจะบอกเปาได้ก็คือยาย ว่าแล้วเปาจึงหันไปถาม

"ยาย…ยายบอกผมได้ไหมครับว่าแม่ผมฆ่าตัวตายทำไม!"

โค้ชเด้งและน้าสาวของเปาต่างก็ทำหน้าตกใจ แต่มาถึงตอนนี้ก็รู้ว่าคงห้ามได้ยาก นอกจากจะเอามืออุดปากผู้สูงอายุไว้เท่านั้น

"นะครับยาย ยายบอกผมหน่อย ตกลงแม่ผมฆ่าตัวตายเพราะอะไรกันแน่ เพราะว่าพ่อผมมีชู้หรือเปล่า หรือว่าเป็นเพราะอย่างอื่น" เปาเร่งเร้าด้วยท่าทางอยากรู้สุดขีด เขารู้สึกได้ว่าต้องมีบางอย่างไม่ธรรมดาแน่ ไม่อย่างนั้นยายคงไม่พูดแบบนี้

"แม่อย่าบอกนะครับ ผมขอร้อง" โค้ชเด้งอ้อนวอน แต่สีหน้าก็เริ่มหวาดหวั่นมากขึ้นทุกที

ยายของเปาถอนหายใจ เธอเองก็หนักใจไม่น้อยกับเรื่องนี้ เพราะถ้าเปารู้ความจริง ความรู้สึกดีๆ ที่เขาเคยมีต่อแม่อาจจะพังพินาศไปเลยก็ได้ แต่พอไม่บอกความจริง เปาก็เอาแต่ว่าพ่อ มีปัญหากันไม่หยุดไม่หย่อน ไม่เคยมีความสุขในครอบครัวเลย เธอคงจะทนดูต่อไปอีกไม่ได้

"เปาฟังดีๆ นะลูก" คนเป็นยายเกริ่น โค้ชเด้งกับน้าสาวของเปาถึงกับหน้าซีด

"แม่จะบอกจริงๆ เหรอ" ลูกสาวสะกิดแม่เบาๆ

"ใช่ ฉันจะบอก เพราะฉันทนไม่ไหวแล้ว มาบ้านนี้ทีไร ฉันไม่เคยเห็นสองพ่อลูกคุยกันดีๆ เลย เปาก็เอาแต่ด่าพ่อ ฉันไม่อยากให้หลานของฉันมันทำบาปไปมากกว่านี้แล้ว" ยายของเปายืนยันหนักแน่น

โค้ชเด้งหลับตาและหันหน้าหนี เขาเห็นรูปอดีตภรรยาอยู่บนเปียโนของเปาพอดี เมื่อไม่รู้จะห้ามอย่างไรจึงได้แต่นึกขอโทษในใจ

เมื่อเห็นว่าทุกคนเตรียมใจกันดีแล้ว ยายของเปาจึงตัดสินใจพูดความจริงที่ถูกปิดไว้มาสิบกว่าปีให้หลานชายฟัง

"คนที่มีชู้น่ะ ไม่ใช่พ่อของเปาหรอกลูก แต่เป็นแม่ของเปาเองต่างหาก!"


TBC



ป.ล. รู้สึกว่าจะโดนเทอีกแล้ว ผมยอมแพ้ที่นี่จริงๆ เลย 555


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 22:35:38 โดย inxsara »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
อ้าวววว ยังงี้ก็คดีพลิกซินะ

เปาเข้าใจผิด
พ่อไม่ได้ทำอะไรผิด

นี่ล่ะนะคนเป็นพ่อ
โค้ชเด้งแมนจริงๆ

บวกเป็ด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่เข้าใจค่ะ การที่พ่อไม่ผิด ทำไมพ่อต้องยอมรับผิดอ่ะ
แล้วทุกคนคิดอะไรอยู่ทำไมไม่บอกความจริงตั้งแต่ตอนที่เปาเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ทำไมไม่มีใครอธิบายอ่ะ ปล่อยให้ความเกลียดชังมันกัดกินลูกหลานตัวเอง เรางงกับครอบครัวนี้จริงๆ นะ เปาอาจจะไม่เชื่อถ้าโค้ชเป็นคนเล่า  แต่ยายกับน้ามล ถ้าเป็นคนพูดเราคิดว่สเปารับฟังนะ
สงสารไท้ชะมัด ที่ต้องมาชอบคนในครอบครัวแบบนี้ ดูจัดการชีวิตกันไม่ได้เลย
ปล. เหมือนเราอินเกินไปเลย555555

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
ไม่เข้าใจค่ะ การที่พ่อไม่ผิด ทำไมพ่อต้องยอมรับผิดอ่ะ
แล้วทุกคนคิดอะไรอยู่ทำไมไม่บอกความจริงตั้งแต่ตอนที่เปาเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ทำไมไม่มีใครอธิบายอ่ะ ปล่อยให้ความเกลียดชังมันกัดกินลูกหลานตัวเอง เรางงกับครอบครัวนี้จริงๆ นะ เปาอาจจะไม่เชื่อถ้าโค้ชเป็นคนเล่า  แต่ยายกับน้ามล ถ้าเป็นคนพูดเราคิดว่สเปารับฟังนะ
สงสารไท้ชะมัด ที่ต้องมาชอบคนในครอบครัวแบบนี้ ดูจัดการชีวิตกันไม่ได้เลย
ปล. เหมือนเราอินเกินไปเลย555555

อ่านตอนหน้าแล้วจะกระจ่างครับ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
นั่นไง!!

พลิกล๊อคจริงๆ

สงสารไท้จังครับ,,,

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  หือออ ค้างอะ 555 อยากอ่านต่อ
  **เห็นทิว-บูม ข้างล่าง คิดถึงมากกก ชอบเรื่องนี้อะ ** 

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
EP 28 | เดินทาง


"ไม่จริง ผมไม่เชื่อ มันจะเป็นไปได้ยังไง" เปาเถียง แต่กระนั้นภายในใจก็สั่นคลอนไปแล้ว น้ำเสียงและท่าทางของเขาจึงไม่ไปในทิศทางเดียวกับเรื่องที่พูด

ก่อนที่เปาจะสติหลุดไปมากกว่านี้ ยายของเปาก็รีบอธิบายต่อ "เปา แม่ของเปาเป็นลูกสาวของยายนะลูก ไม่มีเหตุผลอะไรที่ยายจะใส่ร้ายลูกสาวของตัวเอง แต่มันเป็นความจริง มินท์มาสารภาพกับยายเอง...ว่าเขา...มีชู้" ยายพูดอย่างขมขื่น แม้จะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยลืมวันที่ลูกสาวมาสารภาพเรื่องนี้และร้องไห้ปานจะขาดใจ

"แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะผมนะครับ" โค้ชเด้งขัดขึ้น

"เด้งไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ขอแม่พูดกับหลานเอง" ยายหันไปปรามฝ่ายพ่อ เมื่อก่อนเธอก็เคยโกรธลูกเขยที่มาหลอกลูกสาวของเธอ แต่หลังจากลูกสาวเสียไปเธอจึงทำใจได้และยอมให้อภัย เพราะถึงอย่างไรเปาก็เกิดขึ้นมาแล้ว ชีวิตที่เหลือของเปากับพ่อไม่ควรเป็นแบบนี้

ยายหันมาทางหลาน จากนั้นจึงเริ่มต้นเล่าเรื่องราวอดีตรักของพ่อกับแม่ให้เปาฟัง นี่คือข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่เปาแทบไม่เคยรู้มาก่อนเลย

เมื่อตอนเปาอายุราวสองขวบ แม่ของเปาบังเอิญรู้จากเพื่อนในวงการวอลเลย์บอลว่าโค้ชเด้งเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน แต่เนื่องจากโค้ชเด้งต้องระวังไม่ให้ทางบ้านรู้ จึงมาจีบแม่ของเปาเพื่อให้ที่บ้านสบายใจ แต่จะว่าไม่รักกันเลยก็ไม่ใช่ ทั้งคู่ก็ดูเหมือนรักกันดีเหมือนหนุ่มสาวทั่วไป จนกระทั่งนำมาสู่การแต่งงาน

หลังจากนั้นแม่ของเปาจึงตามสืบข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น ไปๆ มาๆ ก็ได้ความว่าสามีของเธอมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนจริง รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยแล้ว หลังคบกันไปสักพัก ผู้ชายคนนั้นก็ถูกครอบครัวบังคับแต่งงาน ความสัมพันธ์ของโค้ชเด้งกับผู้ชายคนนั้นจึงกลายเป็นอดีตไป

แต่ความลับนั้นก็จุดชนวนให้เกิดปัญหาในครอบครัวขึ้น แม่ของเปาอยู่กับสามีอย่างหวาดระแวงมาตลอด เวลาสามีไม่อยู่ กลับบ้านค่ำ หรือบางวันไม่กลับ เธอมักกระวนกระวายใจว่าสามีจะไปหาผู้ชายอื่น จนในที่สุดก็เริ่มมีปากเสียงกัน

วันหนึ่งแม่ของเปาก็หลุดปากบอกสามีไปว่าเธอรู้เรื่องอดีตที่ผ่านมาทั้งหมดแล้ว นั่นยิ่งทำให้ชีวิตครอบครัวดิ่งเหว เพราะความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาถึงคราสะดุด จนถึงขนาดแยกห้องกันนอน ที่เคยวางแผนว่าจะมีลูกอีกสองสามคนก็ล้มเลิกไป ทั้งคู่ใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายปี ต่างคนต่างก็อดทนเพื่อลูก

ในที่สุด ความเหงาก็กลายเป็นตัวการที่นำพาปัญหาใหญ่เข้ามาในชีวิต แม่ของเปาบังเอิญเจอเพื่อนสนิทชายคนหนึ่งที่เคยเรียนมหาลัยด้วยกัน ตอนนั้นเปาอยู่ปอสามปอสี่ พอคุยกันบ่อยเธอก็เริ่มเล่าชีวิตที่ขมขื่นให้เพื่อนฟัง เพื่อนจึงกลายเป็นที่ปรับทุกข์ จนกระทั่งเลยเถิดไปเป็นความสัมพันธ์ทางกาย ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ ฝ่ายชายมีลูกมีเมียอยู่แล้ว ทั้งคู่จึงต้องแอบคบกันอย่างลับๆ กระนั้น เปาเองก็เคยเห็นเพื่อนผู้ชายคนนี้มาส่งแม่ที่บ้านบ่อยๆ แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก เขาจึงไม่คิดอะไร

เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน เปามักจะเห็นพ่อเป็นฝ่ายออกไปจากบ้านบ่อยๆ ส่วนแม่ก็เอาแต่ร้องไห้ เปาจึงอยู่กับแม่มากกว่าพ่อ ถ้าจะว่าไป เขาก็เริ่มรักแม่มากกว่าพ่อด้วยซ้ำในตอนนั้น เพราะเขาเห็นแม่เป็นฝ่ายเจ็บปวดมากกว่า

จนกระทั่งวันหนึ่งโค้ชเด้งก็เจรจาขอหย่า แต่พอเรื่องรู้ไปถึงหูของปู่กับย่าของเปา ทั้งคู่ก็ถึงกับเต้นผาง รีบเข้ามาห้ามทัพแทบไม่ทัน แต่โค้ชเด้งก็ยืนยันว่าจะหย่าให้ได้ ซ้ำยังตัดสินใจเปิดเผยกับครอบครัวว่าเขาเป็นเกย์ด้วย ไม่สามารถอยู่กินกับผู้หญิงได้อีก แม่ของเปาเองก็รู้เรื่องแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะทนฝืนกันต่อไป ปู่กับย่าของเปารับไม่ได้เมื่อรู้ความจริง จึงยื่นคำขาดว่าถ้าลูกชายเลิกกับเมีย จะขอตัดขาดพ่อแม่ลูก จึงทำให้มหากาพย์ปัญหาชีวิตครอบครัวยืดเยื้อต่อไป

เมื่อโค้ชเด้งบอกพ่อแม่ไปแบบนั้น ใครต่อใครจึงคิดว่าเขาต้องการหย่ากับภรรยาเพื่อไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่ บางคนลือไปถึงขั้นที่ว่าโค้ชเด้งแอบซ่อนผู้ชายเอาไว้ แม้แต่เปาเองก็ยังเข้าใจอย่างนั้น เขาจึงห่างเหินกับพ่อมากขึ้นและมากขึ้น

ก่อนแม่ของเปาจะตัดสินใจลาโลก ช่วงนั้นครอบครัวของเพื่อนเธอเริ่มระแคะระคายแล้วว่าทั้งคู่เป็นชู้กัน นับว่ายังดีที่ทางนั้นไม่ออกมาแฉเสียก่อน แต่ก็ยื่นคำขาดให้เลิกติดต่อกันอย่างเด็ดขาด ช่วงนั้นแม่ของเปาเครียดมาก ก่อนวันฆ่าตัวตาย เธอตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แม่ของเธอฟัง เมื่อวันแม่มาถึง เธอก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหาที่แก้ไม่ตก ปู่กับย่าโกรธพ่อของเปามากเมื่อลูกสะใภ้เสียชีวิต เพราะคิดว่าลูกชายของตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้เมียตาย โกรธถึงขนาดไม่พูดคุยกันเป็นปีๆ แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังทำตัวห่างเหินจนเหมือนไม่ใช่สายเลือด

หลังจากแม่ของเปาเสียไป เปาก็ไม่คุยกับพ่ออีกคน ยายของเปาจึงตัดสินใจบอกความจริงกับโค้ชเด้งเรื่องที่ลูกสาวของเธอมีชู้ เพราะยายไม่อยากให้พ่อกับลูกเกลียดชังกัน แต่โค้ชเด้งก็ไม่กล้าเอาเรื่องนี้มาบอกลูกชาย เขารู้ว่าเปารักแม่มาก ช่วงหลังๆ เปาอยู่กับแม่และสนิทกับแม่มากกว่าพ่อ เขาจึงไม่อยากให้ลูกชายมีความทรงจำไม่ดีกับแม่ของตัวเอง เพราะไหนๆ คนตายก็ตายไปแล้ว นอกจากนี้เขายังขอร้องไม่ให้ยายของเปาเล่าเรื่องนี้ให้หลานฟังอีกด้วย

แม้กระทั่งตอนหลังปู่ของเปารู้เรื่องนี้เข้า ก็ยังไม่วายโทษว่าเป็นความผิดของลูกชายอยู่ดี "การเป็นเกย์" คือมูลเหตุของความอัปยศอดสูและปัญหาทั้งหมด ซ้ำปู่ยังขออีกว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกหลาน ปู่ยอมให้หลานรู้สึกแย่กับพ่อที่เป็นเกย์ ดีกว่าให้หลานรู้สึกแย่กับแม่ที่มีชู้ สำหรับปู่แล้ว การมีลูกเป็นเกย์คือสิ่งชั่วร้ายที่สุด ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพ่อของเปาคนเดียวเท่านั้น เขาจึงกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของลูกชาย พ่อและแม่มาตลอด

ช่วงนั้นโค้ชเด้งเสียศูนย์ไปเลย เขาสติหลุด เที่ยวเตร่ บางครั้งก็พาผู้ชายมาที่บ้าน จนเปาทนไม่ไหวต้องออกปากเตือนพ่อว่าอย่าพามาอีก ในขณะที่ชาวบ้านก็เอาไปซุบซิบนินทา ทำให้เปาพลอยมีปัญหาไปด้วยเพราะถูกเพื่อนล้อ ยิ่งทำให้เกลียดพ่อมากขึ้น

แต่ไม่นานโค้ชเด้งก็ได้สติและหยุดทุกอย่างไว้ แต่ก็ยังคบหากับผู้ชายคนหนึ่งเงียบๆ ถ้าไม่นับผู้ชายคนนั้นแล้ว ชีวิตของโค้ชเด้งก็เหมือนไม่เหลือใครเลย พ่อแม่ญาติพี่น้องก็แทบจะตัดขาดกันไป แต่ยังดีที่ยกเว้นหลานไว้ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พ่อของเปาต้องกล้ำกลืนฝืนกินตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งเปาเองก็ยังรู้สึกว่าปู่กับย่าใจร้ายกับพ่อมาก ถ้าปู่กับย่าไม่ใจแคบ พ่อ แม่และเปาคงไม่เจอสภาพชีวิตแบบนี้

เมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว เปาก็อ้าปากค้าง เขามองหน้ายาย แล้วก็หันไปมองหน้าพ่อและน้าสาว เรื่องที่ยายเล่ามาทั้งหมดนั้น เปายอมรับว่ามีเค้าความจริงไม่น้อย ช่วงก่อนที่แม่จะตาย เปาก็เคยเห็นผู้ชายคนหนึ่งมาส่งแม่ที่บ้านบ่อยๆ แม่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน เปาก็เลยไม่เอะใจ อีกอย่างตอนนั้นพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันบ่อยๆ การที่มีคนอื่นมาส่งแม่แทนพ่อจึงพอเข้าใจได้

เปาหันไปมองพ่ออีกครั้ง เขาร้องไห้และทรุดลงนั่งกับพื้นตรงหน้าพ่อ ก่อนก้มกราบลงแทบเท้าของผู้ให้กำเนิดด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

"พ่อครับ เปาขอโทษ เปาขอโทษครับพ่อ"

โค้ชเด้งรีบย่อตัวลงมาหาลูกชาย เปาโผเข้ากอดพ่อ ทั้งพ่อทั้งลูกต่างร้องไห้และกอดกันแน่น ทั้งสองคนแทบไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวกันมาสิบกว่าปีแล้ว นี่คืออ้อมกอดที่ต่างคนต่างก็เรียกร้องโหยหามานานแสนนาน ในที่สุดพ่อก็ได้กอดลูกชายเหมือนที่เคยทำตอนเด็กๆ และในที่สุด เปาก็ได้กอดพ่อด้วยความรู้สึกว่าพ่อคือผู้ชายที่อบอุ่นที่สุดในโลก

"พ่อ...เปาขอโทษ ทำไมพ่อไม่บอกผม พ่อทำอย่างนี้ทำไม" เปาร้องไห้คร่ำครวญ เมื่อนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่เขาเคยทำกับพ่อ เขาก็ยิ่งสะท้อนใจและเสียใจ เขาทำบาปกับพ่อมากเหลือเกิน

ทั้งยายและน้าสาวต่างมองดูพ่อกับลูกกอดกันทั้งน้ำตา หวังว่าต่อจากนี้ไปเปากับพ่อจะกลับมาเป็นพ่อลูกที่รักกันเหมือนเดิมอีกครั้ง นี่คือสิ่งที่ยายกับน้าสาวต้องการมากที่สุด จึงไม่อยากให้คนที่ตายไปแล้วทำให้คนที่เหลืออยู่ต้องมีชีวิตอย่างทรมาน

"เปาอย่าโกรธแม่นะลูก แม่เขาไม่ผิดหรอก พ่อผิดเองที่พ่อเป็นแบบนี้ แม่เขาก็เลย..." เสียงของโค้ชเด้งกลืนหายไป เมื่อนึกถึงตอนนั้น เขาก็รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย

"ครับพ่อ พ่ออย่าโทษตัวเองอีกเลยนะครับ ผมขอโทษ ผมไม่รู้ ฮือๆ"

"ไม่เป็นไรลูก มันผ่านไปแล้ว พ่อรักเปานะลูก"

"เปาก็รักพ่อครับ พ่อยกโทษให้เปาด้วย"

โค้ชเด้งยกมือป้ายน้ำตา แม้จะร้องไห้แต่เขาก็ดีใจที่สุดแล้ว "พ่อไม่โกรธเปาหรอกลูก เปาก็ยกโทษให้พ่อด้วยนะลูก ที่ผ่านมาพ่อก็ทำไม่ดีกับเปาหลายอย่าง"

"ครับพ่อ เปาไม่โกรธพ่อแล้ว ต่อไป...เปาจะดูแลพ่อ เปาจะไม่ทำให้พ่อเสียใจอีกแล้ว"

"เปาลูกพ่อ ขอบใจมากลูก"

ทั้งสองพ่อลูกยังคงกอดกันแน่น ปากก็พร่ำขอโทษซึ่งกันและกัน น้ำหูน้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย แต่ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว นับจากนี้ไป สองพ่อลูกจะให้อภัยกัน เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ชีวิตที่เหลือจากนี้จะมีแต่ความทรงจำที่ดี ก่อนที่ละสังขารลาจากโลกนี้ไป

นับว่าฟ้าดินยังเมตตาอยู่บ้างที่ทำให้เปาได้รู้ความจริงในวันนี้ อย่างน้อยเปาก็ยังมีพ่ออยู่ให้ขอโทษ เขาไม่อยากคิดเลยว่าถ้ายายไม่มาที่บ้านวันนี้ เปากับพ่ออาจจะตายจากกันไปโดยที่เปาไม่เคยรู้ความจริงเลยก็ได้

ยิ่งคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาเปาก็ยิ่งสะท้อนใจ พ่อยอมเจ็บ ยอมเป็นคนผิด ยอมถูกครอบครัวตัดขาด เพียงเพราะไม่อยากให้เปารู้สึกไม่ดีกับแม่ แต่เปากลับไม่เคยรู้อะไรเลย แถมยังทำหลายอย่างให้พ่อเจ็บไม่เว้นแต่ละวัน หวังว่าคำขอบคุณจากลูกชายคนนี้คงจะทำให้พ่อหายเจ็บได้บ้าง

"ขอบคุณนะครับพ่อ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อทำให้ผม เปารักพ่อนะครับ"



บรรยากาศที่สนามบินวันนี้คึกคักไม่น้อย ทั้งนักข่าวและบรรดาแฟนคลับของนักกีฬาต่างก็มารอส่งนักกีฬาคนโปรดของตนเองอย่างเนืองแน่น ตั้งแต่เริ่มมีชุดเยาวชนยูสิบเก้าขึ้นมา ในโลกออนไลน์และโซเชียลต่างก็พูดถึงอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง นักกีฬาหลายๆ คนเริ่มมีแฟนเพจและแฟนคลับของตัวเอง มีแม้กระทั่งเพจคู่จิ้นนักกีฬาด้วย

เมื่อใกล้เวลาเดินทาง ทีมสต๊าฟโค้ชก็เดินมาเตือนนักกีฬาให้รีบทำภารกิจให้เสร็จสิ้น เพราะหลายคนไม่เคยเดินทางต่างประเทศ ชักช้าอาจจะตกเครื่องได้

ไท้ยังคงถูกสั่งห้ามไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าว จนกว่าจะกลับมาจากการแข่งขันที่เกาหลี กระนั้นก็ไม่ถึงกับต้องคอยหลบ เพราะโค้ชกิตติจัดการบอกนักข่าวไปแล้วว่าห้ามสัมภาษณ์ เขาจึงใช้โอกาสดีนี้ร่ำลารุ่นพี่ที่อุตส่าห์มาส่ง

"ขอบคุณพี่จีนมากนะครับที่ดูแลผมเป็นอย่างดีเลย ถ้าไม่ได้พี่ช่วย ผมคงแย่แน่ๆ" ไท้ยิ้มด้วยสีหน้าและแววตาที่บ่งบอกความรู้สึกขอบคุณ

"ไม่เป็นไร พี่ยินดี" จีนยิ้ม แต่ก็ดูค่อนข้างเศร้า

ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาแทบจะไม่ได้กลับไปอยู่ที่บ้านเลย เมื่อไท้มาอยู่ด้วย เขาก็ต้องคอยดูแล วันไหนว่างก็จะพาไปกินข้าว ไปดูหนัง หรือพาไปเที่ยวที่นั่นที่นี่บ้าง แต่ก็ไม่ให้กระทบการซ้อม

"กลับมาผมจะได้เจอพี่ไหมเนี่ย" ไท้ทำหน้าเศร้าบ้าง

"อยากเจอก็มาหาได้ รู้จักแล้วนี่" จีนขำเบาๆ

"จริงด้วย พี่จีนอย่าเพิ่งไปไหนนะ วันไหนที่ผมประสบความสำเร็จ ผมจะมาตอบแทนพี่" ไท้บอกด้วยท่าทีขึงขัง

จีนหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ที่เขาทำไปทั้งหมดตอนนี้นั้น เป็นเพราะเขาต้องการไถ่โทษความผิดของตัวเอง ไม่ใช่เพราะต้องการให้ไท้มาถือเป็นบุญคุณ จะว่าไป การไถ่โทษเพียงสองสัปดาห์ถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับความผิดที่เขาเพิ่งทำไป

"ยังไม่ต้องคิดเรื่องนั้นหรอก ทำให้เต็มที่ ทำให้มันเป็นจริงก่อน จากนั้น...ไท้ก็จะทำอะไรได้อีกเยอะเลย"

"ครับพี่" ไท้ยิ้ม ช่วงนี้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาก จิตใจแจ่มใสมากขึ้น คิดฟุ้งซ่านน้อยลง

"อย่าลืมคุยกับเปานะ เห็นไหม...เขาคอยมองไท้อยู่" จีนพูดพลางขำ แอบชำเลืองมองอีกคนที่คอยมองอยู่ไกลๆ ไปด้วย

"ครับพี่" ไท้รับคำอย่างว่าง่าย เขาหันไปมองตามด้วย เมื่อเปาเห็นไท้หันมามอง เจ้าตัวก็แสร้งทำเป็นหันไปทางอื่น

ไท้ไม่ได้พบหรือคุยกับเปาสองสัปดาห์แล้ว ช่วงที่ผ่านมา เปาถูกสมาคมขอให้ไปช่วยดูแลเรื่องสมรรถนะให้ทีมยูยี่สิบเอ็ด เพราะมีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรัง แถมหลายคนก็ยังดูแลตัวเองไม่ถูกวิธี ไท้จึงไม่ได้เจอเปาเวลาไปซ้อมกับทีมเลย เพิ่งจะได้มาเห็นหน้าค่าตากันก็วันนี้ แต่ก็ยังไม่มีจังหวะคุยกันเลย

"ไท้รีบไปเหอะ เดี๋ยวจะไม่ทัน" จีนเตือนเมื่อเห็นเพื่อนๆ ของไท้เริ่มทยอยไปรวมตัวกันแล้ว

"ครับพี่ เดี๋ยวผมจะซื้อของมาฝากนะครับ มีตังค์แล้ว สมาคมให้พ็อกเก็ตมันนี่มาด้วย" ไท้พูดอย่างอารมณ์ดี

จีนพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะวางมือสองข้างลงไปตบไหล่ของไท้เบาๆ สองสามครั้ง "เดินทางปลอดภัยนะ พี่ขอให้ไท้ทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จ พี่เชื่อว่าไท้ทำได้ ไท้เก่งอยู่แล้ว"

ไท้พยักหน้า ถ้าหากจะต้องเลือกระหว่างความรักกับความฝันแล้ว ตอนนี้เขาตอบตัวเองได้แล้วว่าเขาควรจะเลือกอะไร

จีนปล่อยมือลง เขารู้สึกใจหายเหลือเกิน เพราะจากนี้ไป เขาจะไม่กลับมาเจอไท้อีกแล้ว สองสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาปล่อยหัวใจของตัวเองให้รู้สึกอย่างที่อยากรู้สึก เขาได้คำตอบชัดเจนแล้วว่าหัวใจของเขายังทำงานดีอยู่ แต่อาจจะผิดจังหวะเวลาไปหน่อย ทางที่ดีเขาจึงควรรีบตัดใจ ทำตามที่เปาบอกเขาวันนั้น ยอมเจ็บสักครั้งเพื่อให้หัวใจได้มีความรัก เพราะอกหัก...ดีกว่ารักไม่เป็น

"พี่มีอะไรจะบอกไท้น่ะ" จีนพูดแล้วก็ถอนหายใจ ท่าทางดูประหม่าชอบกล

"อะไรเหรอครับ" ไท้เอียงคอสงสัย

จีนทำท่าครุ่นคิด แต่เขาก็ใช้เวลาไม่นานเลยที่จะตัดสินใจพูด เพราะที่จริงเขาคิดมาหลายวันแล้ว

"พี่ชอบไท้นะ ชอบตั้งแต่เจอครั้งแรกแล้วล่ะ พี่ไม่เคยชอบใครแบบนี้มาหลายปีแล้ว ไท้เป็นคนแรก พี่ดีใจนะที่คนที่พี่รู้สึกแบบนี้ด้วย...เป็นไท้"

ไท้ดูตกใจไปเล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ที่จริงไท้ก็พอสัมผัสได้ว่าจีนมีความรู้สึกบางอย่างให้ แต่เพราะไม่แน่ใจจึงไม่กล้าถาม จนกระทั่งจีนเป็นฝ่ายบอกด้วยตัวเอง

"ขอบคุณที่พี่รู้สึกดีกับผมนะครับ" ไท้บอกพลางยิ้ม

จีนรีบพูดดักทันที "แต่ไท้ไม่ต้องห่วงหรอก พี่รู้ว่าไท้รักใคร พี่แค่อยากบอกไท้เฉยๆ เท่านั้นแหละ ไม่ต้องห่วงพี่นะ ไม่ต้องพูดเอาใจพี่เพราะกลัวว่าพี่จะเสียใจ พี่ไม่เป็นไรเลย เห็นไหม"

รอยยิ้มแจ่มใสของจีนดูจะยืนยันสิ่งที่เจ้าตัวพูดได้เป็นอย่างดี ไท้จึงขำเบาๆ ตามไปด้วย แม้ว่าจะเห็นใจอีกฝ่ายก็ตาม

"แย่จัง พี่ก็ชวนคุยอยู่ได้ ไท้รีบไปเลย เดี๋ยวจะตกเครื่อง" จีนเตือนอีกครั้ง ถือโอกาสตัดบทไปด้วย

"ครับพี่ ผมไปก่อนนะครับ ไว้เจอกันตอนผมกลับมา พี่อย่าเพิ่งไปไหนนะ" ไท้ย้ำ

จีนพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนโบกมือลาเมื่ออีกฝ่ายก้าวเดินออกไป ไท้เดินไปได้หน่อยก็หยุดหันมามอง โบกมือและยิ้มให้ด้วย เขาไม่รู้เลยว่านี่คือรอยยิ้มสุดท้ายจากพี่ชายคนนี้

เมื่อไท้หันหลังเดินจากไป น้ำตาของจีนก็อดที่จะรินไหลลงมาไม่ได้ เขารีบเอามือเช็ด ก่อนจะเดินจากไปเช่นเดียวกัน

'ลาก่อนนะไท้ ขอให้น้องของพี่สมหวังทั้งความฝันและความรัก ขอบคุณที่เราได้เจอกัน ขอบคุณที่ทำให้หัวใจของพี่ชายคนนี้ฟื้นคืนกลับมาทำหน้าที่ของมันของอีกครั้ง พี่จะไม่ลืมไท้เลยจนชั่วชีวิต'

นั่นคือเสียงพูดในใจครั้งสุดท้ายที่ไม่มีใครได้ยิน มันหายไปพร้อมๆ กับร่างของเขาที่หลบฉากไปจากสายตาของคนเหล่านั้นแล้ว นักกีฬาต่างทยอยเดินตามโค้ชและทีมงานเข้าไปในด่านตรวจผู้โดยสารขาออก ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกับการแข่งขันต่างประเทศครั้งแรก จึงไม่มีใครสนใจรุ่นพี่คนนี้ที่ตามมาส่ง เพราะทุกคนต่างก็มีทางชีวิตของตัวเอง จีนเลือกที่จะเดินแยกออกจากเส้นทางนี้ ในขณะที่คนที่เหลือยังต้องการเดินทางต่อไป

"พี่นั่งด้วยได้ไหม"

ขณะที่ไท้กำลังง่วนกับการรัดเข็มขัดที่นั่ง เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นใกล้ๆ เมื่อเงยหน้ามองดูก็เห็นว่าเป็นเปา ค่าที่ไม่คิดว่าจะเจอกันตอนนี้ เขาก็เลยทำหน้าไม่ถูก กระนั้นก็พยักหน้าตกลงไปก่อน

เปายิ้มแล้วก็นั่งลง ก่อนจะถือวิสาสะช่วยสอนคนเงอะๆ งะๆ ให้รู้จักวิธีรัดเข็มขัดที่นั่ง

"เอาอันนี้สอดเข้าไปตรงนี้ แล้วค่อยดึงสายรัดให้พอดีตัว"

คนสอนถือโอกาสแย่งมาทำให้เสียเลย ไท้ยิ้มแปลกๆ แล้วก็ขอบคุณเบาๆ อดนึกแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเปาถึงมานั่งตรงนี้ เพราะตอนก่อนขึ้นเครื่อง คนที่ได้เบอร์ที่นั่งใกล้กันเป็นเกิ้น แต่อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นเปา สงสัยคงไปขอแลกที่นั่งกับเกิ้นมาแน่

เปาสอนเสร็จก็จัดการรัดเข็มขัดที่นั่งของตัวเองบ้าง เสร็จแล้วก็หันไปยิ้มกับคนนั่งข้างๆ

"จะให้พี่ช่วยอะไรก็บอกนะ"

"ครับ" ไท้รับคำสั้นๆ ก่อนจะหันไปสนใจกับวิวนอกหน้าต่างเครื่องบิน ค่าที่เพิ่งนั่งเครื่องบินครั้งแรก อะไรๆ จึงน่าตื่นตาตื่นใจไปหมด ถ้าไม่ใช่เพราะอาชีพวอลเลย์บอล เขาก็นึกไม่ออกเลยว่าชาตินี้จะได้นั่งเครื่องบินกับเขาหรือเปล่า

"พี่คิดถึงไท้นะ"

เสียงนุ่มทุ้มพูดต่อ คราวนี้ไท้จะทำเป็นไม่สนใจคงไม่ได้แล้ว เขาสะดุ้งและรีบหันกลับมามองคนนั่งข้างๆ เมื่อเจอรอยยิ้มหวานรออยู่ก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก จะยิ้มตอบก็ยังไม่รู้สึกสนิทใจขนาดนั้น แต่เปายังไม่หยุดแค่นี้ เมื่อได้รับความสนใจเขาก็รุกต่อทันที

"ไท้คิดถึงพี่ไหม"


TBC





ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ตามอารมณ์เปาไม่ทันจริงๆ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวก็ขอเลิก เดี๋ยวก็ไล่ ตอนนี้ก็จะมาง้อคืนดีอีก
ถามจริง เดี๋ยวไม่ใช่ทะเลาะกันอีกก็ไล่อีกนะ และไม่ใช่เดี๋ยวก็กลับไปง้อหาฟางอีกล่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 ชอบตอนนี้อะ อ่านแล้วชอบจริงๆ แต่ไม่ชอบตอนที่ปู่ของเปาไม่ชอบโค้ชเด้งนี่ล่ะ แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกันจริงๆ แต่ก็ซึ้งใจล่ะที่พ่อลูกเข้าใจกันสักที
 รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ถือว่าเคลียร์ปมเรื่องครอบครัวไปแล้วนะ สรุปก็ผิดมันทุกคนนั่นแหละ55555555 ตอนหน้าก็ทำตัวดีๆ กับน้องหน่อยล่ะ อย่าให้เสือสิงห์มายุ่งกับไท้เชียว ดูท่าจะเป็นที่หมายปองของหนุ่งกรุงโซล แต่เอาจริงๆ แทบไม่ต้องกังวลเลยอ่ะ ไท้ไม่หวั่นไหวอยู่แล้ว มีแต่อีคนพี่นี่แหละ ทำร้ายจิตใจน้องจังเลย ไปเกาหลีก็สวีทกันบ้างเถอะ คนอ่านจะเฉาตายแล้วค่ะ55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ไปเกาหลีจะเป็นอย่างไรบ้างนะ???

อยากรู้,,,

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
รออีกแป๊บนึงนะครับ ตอนนี้กำลังเคลียร์งาน เพิ่งเขียนตอนใหม่ไปได้นิดเดียวเอง



ว่าแต่ว่า ตอนที่ผ่านมา ไม่มีใครบวกเป็ดให้เลยเหรอ?
ตั้งแต่เขียนนิยายมา เพิ่งมีครั้งแรกที่ได้เป็ด 0 ตัว
555 หรือจะดี ถือเป็นประวัติศาสตร์

ออฟไลน์ tongzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
EP 29 | เกาหลี


เมื่อถูกถามว่าคิดถึงพี่หรือเปล่า ไท้ก็นิ่งไปประมาณห้าวินาที ก่อนเจ้าตัวจะทำหน้าเป็นไม่รู้ไม่ชี้และตอบกึ่งกวน

“ไม่คิดถึงครับ”

“อ้าว” เปาหน้าจ๋อย แต่เมื่อเป็นฝ่ายผิดจะโอดครวญคงไม่ได้ ก็คงต้องยอมไปก่อน “สักนิดหนึ่งก็ไม่คิดถึงเลยเหรอ”

ไท้ส่ายหน้า “ใครเขาจะคิดถึงคนใจร้ายล่ะครับ”

พูดจบไท้ก็หันกลับไปสนใจวิวนอกตัวเครื่องต่อ ขนาดเครื่องยังไม่ขึ้นยังน่าตื่นเต้นขนาดนี้ ถ้าเครื่องเทคออฟแล้วคงตื่นเต้นน่าดู วันหนึ่งไท้จะพาแม่กับไอซ์นั่งเครื่องบินไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้บ้าง ทั้งสองคนคงตื่นเต้นและมีความสุขมาก

เปาหน้าจ๋อยสนิท เขาพยายามคิดหาทางพูดให้อีกฝ่ายหายงอน แต่ดูท่าทางจะไม่ง่ายเสียแล้ว

“ตื่นเต้นเหรอ”

“อืม เด็กบ้านนอกก็งี้แหละครับ” ไท้ตอบห้วนสั้นโดยไม่หันมามอง

เปายื่นหน้าไปดูวิวข้างนอกด้วย เมื่อเคลื่อนเข้าสู่ระยะประชิด อีกฝ่ายก็มีท่าทีระแวดระวังมากขึ้น “เวลาที่เครื่องบินมันเทคออฟนะ เราจะปวดหูนิดหน่อย เพราะว่าความดันอากาศมันเปลี่ยน ถ้าไท้ปวดหู ไม่ต้องตกใจนะ”

“รู้แล้ว”

“อ้อ” เปาหัวเราะแหะๆ ท่าทางเก้อๆ เขินๆ เมื่อมองไปรอบๆ ก็เห็นสายตาของลูกศิษย์ในทีมหลายคนมองมาที่เขา ส่งสัญญาณคล้ายกับกำลังเอาใจช่วย ดูท่าพวกนี้จะรู้กันหมดแล้วว่าไท้กับโค้ชเปามีความสัมพันธ์แบบไหน

มีคนคอยเอาใจช่วยแบบนี้ เปาก็ค่อยมีกำลังใจขึ้นอีกโข ไท้เลิกสนใจวิวข้างนอกพอดี เปาจึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋า ช่วงนี้เครื่องยังไม่ออก ผู้โดยสารยังคงทยอยเดินขึ้นมาบนเครื่อง เขาจึงพอใช้อินเตอร์เน็ตได้

“พี่ชอบคู่รักคู่นี้มากเลย คุณพอร์ชกับคุณอาร์ม ไท้เคยดูไหม พี่ตามดูในเฟสบ่อยๆ เขาสองคนน่ารักดีนะ เหมาะสมกันมาก วางตัวก็ดี แถมยังรักกันสม่ำเสมอ พี่อยากมีความรักที่อบอุ่นแบบนี้บ้างจัง” เปาบอกพลางยื่นมือถือให้ไท้ดูหน้าแฟนเพจของคู่รักชายชายชื่อดังคู่หนึ่ง เขาแอบติดตามสองคนนี้เงียบๆ มาสองสามปีแล้ว

ไท้ยื่นหน้ามาดู จากนั้นก็ทำเป็นยิ้มๆ “ก็ดีนะครับ”

“ดีใช่ไหม” เปายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนถามทีเล่นทีจริง “แล้วไท้อยากมีแบบนี้ไหม”

“ครับ” ไท้พยักหน้าเร็วๆ ก่อนยิ้มยียวน “แต่…ไม่ใช่กับคนแถวนี้”

“อ้าว โธ่” เปาหน้าม่อยจนดูน่าสงสาร “มีเข็มกับด้ายไหม”

“ไม่มี” ไท้ส่ายหน้า สีหน้าดูงงๆ จนอีกคนต้องกลั้นหัวเราะ “จะเอามาทำไมครับ”

“จะเย็บหน้า หน้าแตกเลย”

เมื่อถึงบางอ้อ ไท้ก็อดขำเบาๆ ไม่ได้ แต่เขาก็ต้องพยายามทำเป็นขรึม เพราะจีนบอกเขาไว้ว่าต้องเล่นตัวหน่อย อย่าปล่อยให้เปาง้อได้ง่ายๆ ไม่งั้นเปาจะเคยตัว ต้องเอาให้หนักๆ เปาจะได้เข็ด

เปาเก็บโทรศัพท์และนั่งหน้าจ๋อยอย่างเงียบๆ กระนั้นก็อดลอบมองอีกฝ่ายไม่ได้ ผิวพรรณและหน้าตาของไท้ดูสดใสขึ้นมาก ร่องรอยความเศร้าไม่มีแล้ว แสดงว่าจีนคงช่วยดูแลเป็นอย่างดี เปาพลาดโอกาสดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ช่วงเวลาที่ไท้ต้องการใครสักคน เขาควรจะเป็นคนแรกด้วยซ้ำที่ยื่นมือมา แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น

เมื่อไม่รู้จะทำอะไร ต่างคนก็ต่างเงียบ บางช่วงก็หันไปคุยกับคนอื่นๆ บ้าง เสียงดังนิดหน่อยเนื่องจากหลายคนยังคึกคะนองตามวัย แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้วุ่นวายหรือน่ารำคาญ อีกอย่างที่นั่งโซนนี้ก็เป็นของนักกีฬาและสต๊าฟโค้ชทั้งหมด

เมื่อทุกอย่างพร้อม เครื่องบินก็เคลื่อนตัวออกจากลานจอดไปยังรันเวย์ ไม่นานก็เร่งความเร็วขึ้นจนกระทั่งเทคออฟ เมื่อเครื่องทะยานขึ้นสู่ฟ้า ไท้ก็มองออกไปข้างนอกด้วยความสนใจและอยากรู้อยากเห็น คนนั่งข้างๆ แอบยิ้มด้วยความเอ็นดูอย่างเงียบๆ

พอเห็นไท้เริ่มเอามือกดๆ ที่หู เปาก็รีบส่งลูกอมซูกัสที่เตรียมมาไปให้

"อมแล้วก็เคี้ยว มันจะช่วยลดอาการปวดหูได้" เขาบอก

ไท้รับไปแกะอมอย่างว่าง่าย คงเป็นเพราะว่าปวดหูนั่นเอง ไม่ใช่แค่ไท้เท่านั้น เปายังส่งลูกอมให้ลูกศิษย์คนอื่นๆ ด้วย เพราะต่างก็หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยอาการปวดหูเหมือนกัน จนกระทั่งเครื่องบินอยู่ในระดับความสูงคงที่ อาการปวดหูจึงค่อยทุเลาลงจนหายเป็นปกติ

บรรดาสาวๆ แอร์โฮสเตสเริ่มออกมาทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารให้ผู้โดยสาร ไท้กับเพื่อนๆ ดูจะตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะนี่คือการกินอาหารบนเครื่องครั้งแรก เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวกันพอสมควร

เปาเห็นไท้เงอะๆ งะๆ กับการหยิบจับอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่จำกัด เขาก็ช่วยสอนให้ ดูเหมือนไท้จะงงๆ กับขนมปังกลมๆ ในถุงพลาสติกใส เปาจึงหยิบมาช่วยแกะ บิและทาเนยให้ พอไท้หยิบเข้าปากก็ทำหน้าเหยเก เพราะมันจืดชืดและรสชาติชวนสะอิดสะเอียน เปาเห็นท่าไม่ดีก็รีบจุ๊ปาก เพราะกลัวอีกฝ่ายจะคายออกหรือเผลออาเจียนเสียก่อน

"ไม่อร่อยเหรอ" เปาถาม

ไท้ส่ายหน้า

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่กินเอง”

ไท้พยักหน้า พลางก็พยามเคี้ยวและกลืนก้อนขนมปังนั้นลงไปอย่างพะอืดพะอม เปาเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้

"อย่างนี้จะไปอยู่ต่างประเทศได้ไง รู้ไหมว่าถ้าไปอยู่ยุโรป ต้องกินแบบนี้ทุกวัน ต้องฝึกนะ เมื่อก่อนพี่ก็ไม่ค่อยชอบหรอก ตอนเด็กๆ แม่สอนให้กินอาหารฝรั่งบ้าง ก็เลยพอกินได้ แต่ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวกลับจากเกาหลี พี่จะทำให้กินบ่อยๆ เดี๋ยวไท้ก็ชิน"

"ใครเขาจะกิน" ไท้ทำปากขมุบขมิบ

"อะไรนะ" เปาถามเพราะได้ยินไม่ถนัด แต่ไท้ก็ไม่ยอมตอบ เขาจึงหันมาสนใจอาหารต่อ

"ตอนพี่เรียนมหาลัย พี่เคยมาเที่ยวเกาหลีสองครั้งแล้ว มากับเพื่อน คนอื่นๆ เขาไม่ชอบกิมจิกัน แต่พี่ชอบมาก ที่ชอบที่สุดก็คือข้าวคลุก เขาเรียกบิบิมบับ เดี๋ยวเย็นนี้ไปถึง พี่จะพาไปกิน สนใจไหม" เปาหันไปชวนคุย

ไท้หันมามองแวบหนึ่งแต่ไม่ตอบ ก่อนหันไปสนใจอาหารของตัวเองต่อ ส่วนเปาก็เล่าเรื่องที่เขามาเที่ยวเกาหลีให้ไท้ฟังไปเรื่อยๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำท่าเหมือนไม่ได้ยิน แต่เปาก็รู้ว่าไท้สนใจฟัง ไม่มีใครไม่สนใจฟังข้อมูลประเทศที่ตัวเองกำลังจะเดินทางไปถึงเป็นครั้งแรกหรอก แค่ฟังจากที่เปาเล่า ไท้ก็ได้ความรู้ไปเยอะแล้ว คงพอช่วยลดความประหม่าเวลาไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองได้บ้าง

จบจากอาหารหนัก ก็มีชาและกาแฟมาเสิร์ฟ ทั้งเปาและไท้เลือกชาด้วยกันทั้งคู่ มีมะนาวฝานบางๆ กลัดด้วยไม้จิ้มฟันให้มาด้วย เปาต้องสอนอีกตามเคยว่าให้หย่อนมะนาวลงไปในแก้วทั้งอย่างนั้น ดูแปลกๆ สำหรับไท้อยู่บ้าง

"อิจฉาคนบางคนเนอะ มีคนดูแลอย่างดีมาตลอดทางเลย" เสียงเกิ้นแว่วมาจากที่นั่งข้างหลัง ตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนๆ

สองหนุ่มคงเขินบ้างไม่มากก็น้อย แต่ก็ทำเป็นเฉยๆ เหมือนไม่ได้ยิน

"เป็นไงรสชาติ" เปาหันไปถาม ก่อนเป่าแก้วชาของตัวเองและยกขึ้นจิบ

"ก็ดีครับ" คนตอบประหยัดถ้อยคำตามเดิม

"ชาแบบนี้ เกรดมันไม่ดีเท่าไหร่ เอาไว้ว่างๆ พี่จะพาไปร้านชาอู่หลงขึ้นชื่อที่โซล" เปาพูด ไท้เพียงแต่ทำท่าว่ารับรู้

ทั้งคู่จิบชาจนหมดในเวลาไม่นาน จากนั้นเปาก็หยิบไอแพ็ดของตัวเองออกมาจากกระเป๋า เขาเปิดแล้วก็ชวนไท้ดูรูปที่เขามาเที่ยวเกาหลีกับเพื่อนๆ เมื่อสองสามปีที่แล้ว

"ตอนนั้นที่พี่มาก็ช่วงเดือนเมษาเหมือนกัน เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของที่นี่ มีดอกไม้สวยๆ บานเต็มเมืองเลย เขามีดอกไม้คล้ายๆ ซากุระด้วยนะ แต่ว่ามันก็จะมีบางที่ที่สวยเป็นพิเศษ อันนี้ที่พี่ไป มันชื่อถนนยออิโด มีต้นซากุระเกาหลีหนึ่งพันสี่ร้อยต้น เป็นอุโมงค์ดอกไม้ให้เราเดินชมเลย สวยมากๆ เนี่ยดูสิ ดอกซากุระที่นี่มันจะขาวๆ ไม่สีชมพูดจัดเหมือนของญี่ปุ่น ไปไหม เดี๋ยวพี่พาไปดูพรุ่งนี้ ช่วงนี้มันออกดอกแล้วล่ะ"

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวให้แจซังพาไปก็ได้" ไท้เผลอหลุดปากพูด ที่จริงเขาเพียงแต่อยากแกล้งเท่านั้น ไม่มีเจตนาอย่างอื่น

เปาถึงกับชะงัก สีหน้าจืดเจื่อน ทั้งผิดหวังและน้อยใจระคนกัน ไม่รู้ว่าสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ไท้คุยกับหนุ่มเกาหลีคนนั้นไปถึงไหนแล้ว เขากลัวเหลือเกินว่าไท้จะเผลอมีใจให้หนุ่มต่างชาติคนนั้นไปแล้ว เพราะคนเรามักจะเห็นใจกันก็ตอนลำบาก เพียงแต่เปาไม่ใช่คนที่อยู่กับไท้ช่วงที่ผ่านมาเท่านั้นเอง

"ก็แล้วแต่" เปายิ้มเศร้า ก่อนปิดไอแพ็ดและเก็บใส่กระเป๋าไว้ตามเดิม

จากนั้นต่างคนต่างก็นั่งเงียบ เงียบจนไท้เองก็รู้สึกอึดอัด เขาต้องคอยชำเลืองมองเปาบ่อยๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังคงไม่พูดไม่จา แถมยังไม่หันมามองอีกด้วย

อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะถึงเกาหลีแล้ว คาดว่าจะถึงที่นั่นราวๆ ห้าโมงเย็น เมื่อถึงอิ๋นชอนก็จะนั่งรถมินิบัสที่เจ้าภาพเตรียมไว้ให้เข้าไปที่โซล น่าจะใช้เวลาอย่างน้อยอีกสองชั่วโมงไปถึงโรงแรมที่พัก

ไท้อยากดูหนังตรงที่นั่งแต่ก็ทำไม่เป็น ในขณะที่คนนั่งข้างๆ ก็งอนไปแล้ว เปานั่งดูหนัง ใส่หูฟัง แถมยังไม่หันมาสนใจไท้เลย พอนั่งเฉยๆ ไปสักพักไท้ก็ง่วงและสัปหงก คนนั่งข้างๆ เห็นแล้วคงทนไม่ไหว จึงแอบเอามือดึงหัวอีกฝ่ายให้มาซบตรงไหล่ คราวนี้เจ้าตัวคงจะหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง แต่กลับไม่ยอมเอาหัวออก แถมยังแกล้งทำเป็นหลับตาและซบลงไปอย่างสบาย คนถูกซบจึงมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฎขึ้นที่ใบหน้า

ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่เมื่อกี้ปากไม่ดีละกัน!



โซลถือว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองหลวงของโลกที่มีความเจริญไม่น้อย มองไปทางไหนก็มีตึกรามบ้านช่องสูงๆ คน รถ ถนนและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ดูไปดูมาก็วุ่นวายดีเหมือนกัน แม้จะดูคล้ายๆ กับกรุงเทพในแง่ความเจริญของวัตถุ แต่ก็มีหลายอย่างแปลกตา คนที่ยังไม่เคยมาต่างก็ตื่นเต้น ชี้ชวนกันดูนั่นนี่สารพัด ไม่ลืมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

อากาศที่นี่หนาวพอสมควรในช่วงฤดูใบไม้ผลิ บางพื้นที่ของเกาหลีอาจมีอุณภูมิต่ำสุดถึงศูนย์องศา แต่โดยเฉลี่ยก็อยู่ในช่วงสิบกว่าๆ แค่นี้ก็ถือว่าหนาวมากสำหรับคนไทยแล้ว ยิ่งในช่วงค่ำๆ แบบนี้ยิ่งหนาวขึ้นอีก ตอนดึกๆ อุณหภูมิอาจลดจนเหลือแค่เลขตัวเดียว

ดูเหมือนคนขับรถจะพะวงกับการดูจีพีเอสนำทางพอสมควร คนบนรถจึงเดาว่าเขาคงไม่ชินพื้นที่ จึงขับไปและมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ในที่สุดก็เกิดความผิดพลาดจนได้ จู่ๆ เขาก็หักเลี้ยวซ้ายข้ามสองเลนเพื่อตัดเข้าถนนที่จะพาไปสู่โรงแรมที่พักกะทันหัน รถเมล์คันหนึ่งซึ่งวิ่งอยู่เลนซ้ายสุดพุ่งตรงเข้ามาหา ทางนั้นเบรกไม่ทันจึงชนเข้าให้ตรงกลางลำตัวรถ ดีทีว่ารถเพิ่งวิ่งออกจากป้าย ความเร็วจึงไม่มาก แรงกระแทกจึงไม่รุนแรง กระนั้น กระจกฝั่งที่โดนชนก็แตกละเอียดเป็นเม็ดๆ ทุกคนที่อยู่บนรถต่างก็ร้องตกใจและหวาดกลัวไปตามๆ กัน

คนขับรถเมล์วัยกลางคนหน้าเสีย เจ้าตัวหันมาขอโทษขอโพยนักกีฬากันใหญ่ จองฮุนรีบบอกให้นักกีฬาและสต๊าฟโค้ชลงจากรถ เขาเป็นผู้ประสานงานซึ่งทางเจ้าภาพขอให้มาช่วยดูแลกลุ่มนี้ตลอดทั้งทริป

หลังจากนั้นตำรวจก็เข้ามาดูเหตุการณ์และสอบสวนคนขับทั้งสองฝ่าย ผู้โดยสารบนรถเมล์คันนั้นทยอยลงจากรถ บ้างก็เรียกแท็กซี่กลับ บ้างก็โทรให้คนเอารถมารับ บ้างก็กลับไปรอรถเมล์คันอื่น ส่วนนักกีฬาพากันลงมาจับกลุ่มคุยกันอยู่ริมฟุตบาท บ้างก็ยืน บ้างก็นั่ง ขณะที่จองฮุนโทรศัพท์และเดินวนไปวนมา

จองฮุนเดินมาบอกว่าจะมีรถพยาบาลมารับ แม้ไม่มีใครเป็นอะไรแต่ก็อยากให้ไปตรวจร่างกายก่อน แต่กว่ารถจะมาถึงก็นานพอสมควร

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล จองฮุนกับเปาก็ช่วยเป็นธุระจัดการให้ ไม่นานแขกต่างเมืองก็ทยอยเข้าไปตรวจร่างกาย ระหว่างนั้นมีชายหนุ่มวัยรุ่นปลายๆ สามคนเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วย สต๊าฟโค้ชและนักกีฬาซึ่งนั่งรอเพื่อนๆ อยู่ต่างก็หันไปมองอย่างสงสัย ไม่มีใครรู้จักทั้งสามคนนี้ ยกเว้นไท้เท่านั้นที่จำหน้าหนึ่งคนในนั้นได้

"แจซัง" เขาร้องเรียกอย่างดีใจ

"Tie" แจซังเรียกชื่อแล้วก็เดินมาหาด้วยรอยยิ้มดีใจ เขากับเพื่อนๆ มีถุงใส่ของบางอย่างติดไม้ติดมือมาด้วย หลังทราบข่าวจากโค้ช เขาก็รีบรุดมาดู ไม่ลืมซื้อน้ำและอาหารง่ายๆ มาฝากทุกคนด้วย เพราะคิดว่าหลายคนคงหิวและยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ออกมาจากสนามบิน

"Is everything alright? Just grab something to eat." (ไม่เป็นอะไรใช่ไหม หยิบอะไรไปกินก่อนนะ) แจซังบอก

เมื่อไท้หยิบน้ำและขนมไปแล้ว แจซังและเพื่อนๆ ก็เดินเอาไปแจกทุกคนที่นั่งอยู่ ไท้อาสาช่วยรับถุงไปแจกด้วย ไม่นานทุกคนก็ได้อาหารและน้ำประทังชีวิตคนละอย่างสองอย่าง แถมยังมีเหลืออีกหน่อยเผื่อใครไม่อิ่ม

เปาเดินออกมาจากห้องตรวจร่างกายกับจองฮุนพอดี แจซังเห็นก็เดินเข้าไปหาและยื่นถุงที่มีน้ำกับอาหารให้

"Please grab something to eat." แจซังบอกให้สองคนหยิบน้ำและขนมไปกิน

เปามองอย่างสงสัย ไม่นานเขาก็พอนึกออกว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร เขายืนดูไท้คุยกับแจซังทางวิดีโอคอลสักพักใหญ่ จึงพอจำเค้าหน้าได้ ส่วนแจซังไม่แสดงอาการว่ารู้สึกคุ้นหน้าเปาเลย

"I'm Jaesung. I'm a U-20 volleyball player. Our camp is just near here. Are you one of the Thai U-20 players, too?" (ผมเป็นนักวอลเลย์บอลยูยี่สิบครับ แคมป์ของเราอยู่ใกล้ๆ นี่เอง คุณเป็นนักกีฬายูยี่สิบของทีมไทยด้วยหรือเปล่า)

เปาส่ายหน้า "No, I'm a team's trainer." (ไม่ครับ ผมเป็นเทรนเนอร์ของทีม) เปาตอบสั้นๆ ตอนแรกเขาว่าจะไม่หยิบอะไรมากินแล้ว แต่ก็เกรงว่าจะเสียมารยาทมากไปหน่อย อีกอย่าง แจซังก็ยังไม่รู้จักเขาด้วย เขาจึงเพียงแต่หยิบเครื่องดื่มรสผลไม้ยี่ห้อหนึ่งมาถือไว้และกล่าวขอบคุณ "Thank you."

พลันเปาก็ขอตัวไปพานักกีฬาคนต่อไปเข้าไปตรวจร่างกาย เปาต้องเข้าไปในห้องตรวจด้วยเพื่อช่วยสื่อสารภาษาอังกฤษ จองฮุนจะช่วยแปลภาษาอังกฤษเป็นเกาหลีอีกทอด เท่าที่ตรวจมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครช้ำในหรือได้รับบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว ก็ถือว่าโชคดีไป กระนั้นก็โชคร้ายที่มาถึงเกาหลีวันแรกก็โดนต้อนรับด้วยอุบัติเหตุ

ระหว่างที่เปากับจองฮุนช่วยกันพาคนเข้าออกจากห้องตรวจ เขาก็สังเกตเห็นแจซังกับเพื่อนอีกสองคนได้รับความสนใจนักกีฬาคนไทยไม่น้อย ต่างก็ไปมะรุมมะตุ้มพูดคุยกันอย่างสนุก แม้บางคนรู้ภาษาอังกฤษจำกัดก็ยังอยากคุยด้วย ส่วนทีมสต๊าฟโค้ชจับกลุ่มคุยกันอีกกลุ่ม

"Are you cold?" (คุณหนาวเหรอ) แจซังถามเมื่อสังเกตเห็นไท้นั่งกอดอก เสื้อกันหนาวที่เขาใส่มานั้นค่อนข้างบางไปหน่อย ครั้นจะซื้อที่แพงและดีกว่านี้ก็มีเงินไม่พอ

ไท้พยักหน้ายอมรับเพราะหนาวจริงๆ ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยเจออากาศหนาวขนาดนี้มาก่อนเลย

"I'll get you another jacket. Wait a second. It's in my car." (เดี๋ยวผมไปเอาเสื้อแจ็คเก็ตมาให้ รอแป๊บหนึ่ง มันอยู่ในรถผม) แจซังบอกแล้วก็วิ่งออกไปข้างนอก คนที่เหลือจึงนั่งคุยกันต่อ

ไม่นานแจซังก็กลับมาพร้อมแจ็คเก็ตสีดำๆ ตัวหนึ่ง เขานั่งลงข้างๆ ไท้ ก่อนบริการใส่เสื้อให้โดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องร้องขอ ดูเป็นสุภาพบุรุษจนเพื่อนๆ ฮือฮา

"เห็นเงียบๆ ร้ายไม่ใช่เล่นนะมึงไอ้ไท้" เหินฟ้าแซว

"เสร็จงานนี้ สงสัยจะมีแฟนเป็นหนุ่มเกาหลีแน่ๆ" เวิร์มเสริม

"Hey, what are you guys talking about?" (เฮ้ย พวกคุณคุยอะไรกันเหรอ) แจซังหันไปถามคนอื่นๆ ด้วยความอยากรู้

"Nothing." (เปล่า) เวิร์มบอก จากนั้นก็พากันหัวเราะคิกคัก

เปาเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่ไปแล้ว ตั้งแต่ตอนที่แจซังเอาเสื้อแจ็กเก็ตมาสวมให้ จนถึงตอนที่เพื่อนๆ ของไท้แซวเล่น ไม่รู้ว่าจะแซวเล่นหรือแซวจริงกันแน่ แต่ภาพที่เห็นก็บาดตาบาดใจเปาเหลือเกิน

"ถึงตาถาแล้วครับ ส่วนคนที่เหลือ เดี๋ยวเตรียมตัวกลับโรงแรม เขาจะเอารถคันใหม่มารับ อีกยี่สิบนาทีจะมาถึง" เปาเดินเข้ามาบอกนักกีฬาที่จับกลุ่มคุยกันอยู่

ถาลุกขึ้นแล้วแยกตัวออกมาจากลุ่ม ก่อนเดินตามเปาและจองฮุนไป พอจะหายเข้าไปในห้องตรวจ เปาก็หยุดและหันมามองไท้กับแจซัง ไท้ทำหน้ายิ้มยาก คงเป็นเพราะทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกมองด้วยสายตาแบบนั้น

เปาหันหลังกลับแล้วเดินตามเข้าไปในห้อง คิดแล้วก็อดโมโหตัวเองไม่ได้ แม้กระทั่งเวลาที่ไท้หนาว เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ดูแลเลย สุดท้ายก็มีคนอื่นมาดูแลแทนอีกแล้ว ช่างน่าละอายใจสิ้นดี

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย นักกีฬาและสต๊าฟโค้ชก็เดินทางกลับโรงแรมที่พัก ท่าทางดูอิดโรยและอ่อนเพลียกันพอสมควร เพราะออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าตรู่ จนดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วก็ยังไม่ได้พักเลย

แจซังกับเพื่อนมายืนส่งทุกคนขึ้นรถ ดูเหมือนเพื่อนๆ ของไท้ชอบสามคนนี้มากทีเดียว ต่างก็โบกไม้โบกมือให้แจซังกับเพื่อนกันใหญ่ คงเป็นเพราะเขาอัธยาศัยดีและมีน้ำใจ

กว่าจะถึงโรงแรมก็ตีหนึ่งกว่าไปแล้ว ใช้เวลาตรงเช็คอินกันอีกหน่อย สุดท้ายทุกคนก็ได้ขึ้นไปพักผ่อนในห้องของตัวเอง สิ้นสุดวันที่แสนยาวนานไปเสียที

ไท้ได้นอนห้องเดียวกับเกิ้น ดูเหมือนจะเป็นคู่บัดดี้ของไท้ในทริปนี้ไปแล้ว ก่อนจะนอนหลับพักผ่อนในคืนนี้ ไท้ก็เห็นข้อความจากไลน์ที่เปาส่งมาให้ เมื่อเปิดอ่านแล้วก็ชักใจเสีย

"พี่ขอโทษนะ ไม่มีโอกาสดูแลไท้อีกแล้ว พี่นี่แย่จัง"

เปาส่งสติ๊กเกอร์รูปคนผิดหวังมาด้วย แม้จะดูตลกๆ แต่ไท้กลับไม่รู้สึกตลกเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้จะทนแกล้งเปาอย่างนี้ได้สักกี่วัน กลัวจะอดสงสารไม่ได้และยอมใจอ่อนในที่สุด


TBC


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 16:48:18 โดย inxsara »

ออฟไลน์ tongzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รีบๆมาต่อนะครับ..รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :ruready

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  เดี๋ยวไท้ก็ใจอ่อน 555 แค่เปาส่งข้อความมาบอกไท้ก็ใจเสียล่ะ ถ้าเปาไม่สนใจไท้นะ ไท้จะคิดถึงเองล่ะ ถึงเวลาต้องง้อกันแล้ว
  รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทีใครทีมันอ่ะ55555 แต่ไท้ก็ทนได้ไม่นานหรอก ยังดีที่มีแจซังเป็นตัวกระตุ้นเปา ฮี่ฮี่

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สมควรโดนแล้วหล่ะ. ไท้อย่ายอมง่ายๆนะครับ,,,,

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด