MBK❤lover
ตอนที่ ๘ : ของฝากชิ้นสุดท้ายจากดิเรก วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก เทอมใหม่ และมันอาจเป็นวันเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ของใครสักคนด้วย
เช่นใครคนนี้ที่กำลังยืนอยู่หน้ากระจกเงาบานเต็มในห้องของแม่ ภาพในกระจก เป็นวัยรุ่นชายหล่อเหลาหน้าตาดีคนหนึ่ง สูงโปร่ง แบบบาง เสื้อนักเรียนผ้าเนื้อดีที่ใส่ใหม่เอี่ยม ขาวโอโม่ ปักชื่อสีน้ำเงินเข้ม ติดเข็มประจำโรงเรียนเข็มใหม่แวววาว
ต่ำลงมาเป็นเข็มขัดหนังสีน้ำตาลแดงใหม่เอี่ยม หัวเข็มขัดที่เป็นทองเหลือง ถูกขัดถูด้วยบรัสโซหลายรอบ จนมันวาวเหมือนพึ่งหล่อออกมาจากเบ้าหลอมใหม่ๆ ปลายเข็มขัดหนังมีคลิปหนีบโลหะสีดำตัวเล็กหนีบเก็บปลายเรียบร้อย
ส่วนกางเกงขาสั้นสีกากีที่ใส่ ไม่ใช่กางเกงที่ซื้อสำเร็จตามพวกห้างน้อมจิตต์ทั่วไป แต่เป็นกางเกงผ้าเวสปอยท์สีกากี ผ้าออกมันๆ สั่งตัดจากร้านตัดเสื้อผ้าวัยรุ่นชื่อดังแห่งยุค ร้านสนู๊ปปี้ ที่ถนนเจริญผล มันเป็นกางเกงขาสั้นที่ค่อนข้างจะสั้นมาก มากที่สุดเท่าที่พอจะกล้อมแกล้มงุบงิบก้มตัวเดินผ่านครูฝ่ายปกครองไหว ปลายขาค่อนข้างบานเล็กน้อย
ส่วนล่างสุด แน่นอน ถุงเท้าคาร์สันคู่ใหม่เอี่ยม และรองเท้านักเรียน PAN สีน้ำตาลแดงรุ่นใหม่กริบ!
และถ้าจะย้อนกลับขึ้นไปส่วนบนอีกที ที่คอมีสร้อยดินเผาสีดำจากด่านเกวียน ลายเป็นแฉกๆ เหมือนรังสีพระอาทิตย์ห้อยอยู่ นี่เป็นผลพวงมาจากภาพยนตร์ "น้ำพุ" ที่ดาราชื่อดัง อำพล ลำพูน ใส่ในฉากตอนไปโรงเรียน
ส่วนใบหน้า ใส เกลี้ยงเกลา ไม่มีริ้วรอยใดๆ บนใบหน้า เพราะการพยายามที่ไปรักษาสิวและผิวอย่างจริงจัง ที่คลินิก แพน คอสเมติก ตลอดสามเดือน เมื่อมีผิวที่ดี ก็ขับโครงหน้าให้ชัดเด่นขึ้น ใบหน้าที่เหมือนภาพเขียนของทวยเทพ
และบนใบหน้าของต้นข้าวนี้...ไม่ได้ใส่แว่นหนาเตอะแล้ว
ใช่แล้ว ด้วยเทคโนโลยี่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ในยุคนั้นมีคอนแทคเลนส์แบบล่าสุดเข้ามา เป็นคอนแทคเลนส์แบบแข็ง หรือกระจกบางๆ พับงอไม่ได้ ต้องสั่งตัดเฉพาะดวงตาใครดวงตามัน เป็นเลนส์ที่มีอายุใช้งาน 1 ปี มีราคาหลายพันอยู่ แต่เพราะสายตาสั้นถึง 700 นี่ ผู้ปกครองคนไหนก็อยากให้ลูกมีสายตาที่ดีเหมือนคนปกติทั้งนั้นแหล่ะ
"อ้าว ต้นข้าว จะไปโรงเรียนแล้วหรือ" แม่เปิดประตูเข้ามาพอดี และทักต้นข้าวไปงั้นๆ
"ว้าย แล้วนี่ใส่รองเท้าเข้ามาในห้องแม่ทำไม" คราวนี้แม่เสียงสองขึ้นมาทันที
"แห่ะๆๆ รองเท้าใหม่อ่ะแม่ ต้นข้าวพึ่งเอาออกมาจากกล่อง" ต้นข้าวชูกล่องเปล่าใส่รองเท้าขึ้นมา
"อ่อ แล้วไป ไปเถอะ เดี๋ยวไปสายนะ รถติด แหม่...วันนี้ทำไมลูกใส่ชุดนักเรียนแล้วหล่อจัง!"
แม่ทิ้งท้ายแล้วไม่ได้รอคำตอบ เดินนำออกจากห้องไป
เจ้าหล่อเทพยืดตัวขึ้นนิดนึงเมื่อได้ยินประโยคหลังของแม่
จากนั้นก็ยืนลังเลอยู่หน่อย ว่าจะเอากระเป๋านักเรียนไปดีไหม เพราะวันนี้วันแรก ยังไม่มีตารางสอนใหม่ ไม่มีสมุดหนังสืออะไรที่ต้องขนไป และส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนหรอก เพราะต้องไปจดตารางสอน และทำความสะอาดห้องเรียนกัน
คิดไปคิดมา ถือไปดีกว่า ถือเอาเท่ ไม่ได้ขนหนังสืออะไรไปก็ดี กระเป๋าจะได้แบนๆ หน่อย เพราะจริงๆ กระเป๋าต้นข้าวก็ไม่ได้ใช้คลิบหนีบให้แบนเหมือนนักเรียนคนอื่น เพราะต้นข้าวชอบแบกหนังสือไปโรงเรียนเยอะๆ
ตัดสินใจได้ ก็เดินกลับเข้าห้องนอนตัวเอง หันไปหันมาอย่างลังเลครู่นึง แล้วเดินไปก้มตัวที่ซอกข้างเตียง --อยู่นี่เอง กระเป๋าจาคอปของฉัน ไม่เจอกันมาสามเดือน ต้นข้าวหยิบขึ้นมาแล้วปิดล็อคปากกระเป๋า เอาไม้กวาดขนไก่ปัดๆ สองที กระเป๋าก็พร้อมล่ะ
วันนี้ ทำไมถนนหนทางมันดูรื่นรมณ์แบบนี้นะ ป้ายรถเมล์คนเยอะก็ช่างมัน ขึ้นสาย ๗ คนแน่นต้องโหนประตูออกมานอกรถก็ช่างมัน เอาแขนหนีบกระเป๋าแบนไว้ สองมือจับขอบประตู เอาหน้าปล่อยให้ลมนอกรถโกรก หล่อแล้วนี่ มั่นใจซะอย่าง 555+
เหตุที่ระรื่นขนาดนี้ ก็เพราะคิดถึงใครคนหนึ่งล่ะ ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้ยินเสียงมาสามเดือนเต็ม เขาจะเป็นยังไงหนอ วันนี้จะมาโรงเรียนหรือเปล่า กลับมาจากนครปฐมหรือยังนะ
แต่พอรถใกล้ถึง ผ่านโรงเรียนหญิงข้างๆ ไอ้ที่ระรื่นอยู่ก็หุบทันที เมื่อนึกถึงความจริงอันโหดร้าย เขาคนนั้น มีคนอีกคนรออยู่แล้วนี่ที่โรงเรียนนี้ ดารินไง
พอคิดถึงชื่อนี้ ต้นข้าวหดหน้ากลับเข้าไปในประตูรถอย่างไว กลัวลมพัดตีหน้าเยินขึ้นมาทันที
--------------------------------
"อ้าว แว่น...เฮ้ยยย ไปทำอะไรมา หล่อสัส" เสียงเนติกับราชา ที่แทบจะประสานเสียงพร้อมกัน
"เฮ้ย เฮ้ย กูไม่ได้ใส่แว่นแล้ว เรียกชื่อแว่นไม่ได้แล้วเฟร้ยยย" ต้นข้าวยืดอกขึ้นมานิดนึง
"ห่า พวกกูเรียกมาตั้งนาน ชินแล้วว่ะ"
"ไม่ได้เว้ย คนใหม่ นี่ต้นข้าวคนใหม่แล้วนะ"
"แล้วมึงมองเห็นหรือวะ เสือกไม่ใส่แว่น" เนติสงสัย
"ฮาร์ทเลนส์ไงมึง เกือบสามพัน แม่กูตัดให้" ต้นข้าวเบิ่งตาโตให้ดู
"โห แม่มึงลงทุนเนาะ แต่ก็ดี มึงหล่อผิดตาไปเลย นี่ถ้าไอ้ศักดิ์สิทธิ์ กับ ไอ้สมนึกเห็น คงอึ้งล่ะนะมึง"
--สมนึก-- หืมมม ชื่อนี้อุตส่าห์งุบงิบคิดถึงมาตลอดเช้าวันนี้ มาหรือยังหว่า ต้นข้าวชะโงกไปดูหลังห้อง
"เออแว่น เอ๊ยย โทดๆ ไอ้ต้นข้าว พวกกูลงไปกินโอวัลตินที่โรงอาหารก่อนนะ มีรถมาแจก ไปมะ"
"ไม่อ่ะ กูกินมาแล้ว" ต้นข้าวโบกมือ จริงๆ ยังไม่ได้กินอะไรมาหรอก แต่ตอนนี้มีอย่างอื่นต้องทำ
ต้นข้าวเอากระเป๋าจาคอป ไปวางที่พนักพิงบนเก้าอี้ของตัวเอง แล้วทำเดินเลยไปหลังห้อง เหมือนจะไปหยิบไม้กวาดมากวาดอะไรอย่างนั้น
ตอนนั้นมีเพื่อนนักเรียนร่วมห้องมากันสักสิบกว่าคนแล้ว นั่งๆ ยืนๆ คุยกันรอบห้อง ต้นข้าวเดินไปถึงโต๊ะประจำของจิว ก้มลงมอง ไม่เห็นมีกระเป๋าหรืออะไรในเก๊ะนั้น
"จึ๊ จึ๊" เสียงดีดปากจากต้นข้าวเบาๆ แบบไม่สบอารมณ์ เลยพาลหงุดหงิด โยนไม้กวาดหวือออ~ กลับไปหลังห้องซะงั้น เพื่อนสองสามคนหันมามอง ต้นข้าวเลยยิ้มแห้งๆ ให้ แล้วเดินไปหยิบวางใหม่ดีๆ
--------------------------------
"เอาล่ะค่ะนักเรียน ครูจดตารางสอนให้บนกระดานแล้วนะคะ ใครยังไม่ได้จด จดเลยนะคะ ครูจะได้ลบแล้ว"
เสียงครูสูงอายุฝ่ายปกครองสุดเฮี๊ยบ ที่ต้นข้าวไม่เคยเรียน หรือรู้จักด้วย มาจดตารางสอนให้แทนครูประจำชั้นตัวจริง ครูคนนี้เห็นเพื่อนกระซิบว่าดุนัก ไม่เข้าใครออกใคร
"การเรียนเทอมนี้ อาจจะดูเยอะหน่อยนะคะนักเรียน หนังสือเยอะ หนักๆ ทั้งนั้น แต่เป็นภาระของนักเรียนที่จะต้องมี"
พอครูพูดเรื่องหนักๆ ต้นข้าวก็ปวดหลังขึ้นมาพอดี เพราะกระเป๋านักเรียนของตัวเองพิงอยู่ด้านหลังพนักเก้าอี้ ต้นข้าวเลยหันไปหยิบกระเป๋าจาคอปตัวเอง ไปวางพิงที่เก้าอี้ข้างๆ แทน เพราะเพื่อนนักบอลไม่ค่อยมาเรียน โต๊ะยังเหมือนว่างๆ อยู่
แถมตอนหันไปหยิบกระเป๋า ยังแอบเลยมองไปข้างหลัง คนที่อยากเจอ อยากเห็นหน้า จนป่านนี้ก็ยังไม่เข้ามาเรียน ยังไม่เห็นหัวอยู่ข้างหลังเลย ถ้ามา จิวมันคงลากเก้าอี้ย้ายมานั่งด้วยกันที่โต๊ะนี้เหมือนเคยแล้ว
"แต่สบายใจได้นะคะนักเรียน ครูจะบอกข่าวดีให้ฟัง เร็วๆ นี้ แต่ไม่รู้จะภายในสองสามปีนี้หรือเปล่านะ ทางกระทรวงศึกษาได้ประชุมกัน มีความเห็นว่าอาจจะอนุญาตให้นักเรียนเปลี่ยนมาใช้เป้สะพายหลังแทนกระเป๋านักเรียนแบบเดิมได้แล้ว"
เสียงฮือฮา ดังขึ้นทันทีในห้อง
"จุ๊ๆ เงียบ!! รอประกาศก่อนค่ะ! นี่ครูเล่าให้ฟังเฉยๆ ตอนนี้ก็ใช้กระเป๋านักเรียนแบบเดิมนี้ไปก่อนค่ะ มันก็ใส่หนังสือเยอะๆ ได้นี่ ใช้ให้มันถูกวิธีหน่อย" ครูปกครองชี้มาที่โต๊ะต้นข้าว
"เธอ คนหล่อๆ นั่นล่ะ ใครใช้ให้ใส่สร้อยคอแฟชั่นมาเรียนหือ...หล่อไม่เป็นที่เป็นทางนะเรา เอ้า เธอส่งกระเป๋านั่นมาหน่อย ครูจะสาธิตให้ดู"
แว่นหันไปหยิบกระเป๋านักเรียนตัวเองที่พึ่งเปลี่ยนที่วางไปเมื่อสักครู่ ยื่นส่งให้ครู
"นี่ค่ะ กระเป๋านักเรียนที่ถูกต้องนะคะ อย่าเอาคลิปไปหนีบข้างกระเป๋าให้มันแบน มันจะใส่หนังสือได้น้อย จริงๆ ข้างในมันกว้างมากนะคะ มันกางออกได้เยอะ แบบนี้..."
ไม่พูดเปล่า ครูได้เปิดฝากระเป๋าเสร็จแล้ว และถ่างข้างในกระเป๋าอย่างเต็มที่ หันมาอวดนักเรียนในห้องให้ดูด้วย
วินาทีนั้น นักเรียนในห้องเรียนเงียบกริบ ทุกสายตาเหมือนจ้องเข้าไปในกระเป๋า รวมทั้งต้นข้าวที่ทำหน้าพิศวงเต็มที่ อ้าปากค้าง ไม่มีใครมองหน้าครู จนครูชักเอะใจ
"เอ๊ะ อะไร?"
ครูพลิกปากกระเป๋าเข้าหาตัวเอง ก้มลงไปมอง แล้วถ่างปากกระเป๋าออกกว้าง แล้วใช้มือที่จีบแค่สองนิ้วคือนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ลงไปคีบหยิบอะไรบางอย่างจากในกระเป๋านักเรียนใบนั้นขึ้นมาชูสูง สายตารังสีพิฆาตที่มองมายังต้นข้าว เหมือนจะฆ่าก่อนแล้วค่อยถามว่ามันคืออะไร
สองนิ้วที่จับจีบชูขึ้นมาอย่างหมิ่นเหม่ นั่นคือรูปภาพลับเฉพาะของนายแบบปึกหนึ่ง ที่อวัยวะส่วนกลางขนาดมโหฬาร แข็งโด่ชูชัน พุ่งชี้เข้าหน้าครูเต็มที่ และที่หยิบติดนิ้วขึ้นมาพร้อมกันด้วย...คือกางเกงในยี่ห้อแอปเปิ้ลของผู้ชายที่ใส่แล้วตัวหนึ่ง ย้วย และมีคราบขาวแห้งกรังเป็นทางยาว!!!
ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ มันไม่ใช่เรื่องปกติเลย ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ นี้ เรื่องพรรค์นี้ไม่ใช่เรื่องเปิดเผย หรือยอมรับกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเด็กมัธยมวัยรุ่นแบบนี้ นี่มันเข้าข่ายโรคจิตเลยนะ แค่เขียนคำหยาบด่าพ่อล่อแม่เพื่อนแรงๆ ใส่กระดาษ แล้วหลักฐานถึงมือครูนี่ ยังโดนเรียกผู้ปกครองเข้าพบเลย
แล้วนี่เด็กผู้ชายมัธยม พกรูปโป๊ผู้ชายเห็นท่อนลำแข็งขันครบถ้วน บางรูปยังกำลังพ่นน้ำขาวขุ่นแตกเป็นสาย แถมยังมีกางเกงในผู้ชายที่ใส่แล้ว และเต็มไปด้วยคราบขาวเกรอะกรัง พกไปพกมาในกระเป๋า นี่มันจิตวิปริตโดยแท้ สงสัยครูต้องเรียกพบทั้งสาแหรกตระกูลนับขึ้นไปอีกเจ็ดชั้นแน่ๆ
แค่คิดมาถึงตรงนี้ ต้นข้าวก็รู้สึกเหมือนมีก้อนเย็นๆ วิ่งขึ้นไปบนหัว ทำให้ขนหัวลุกตั้งชัน แล้วก้อนเย็นๆ นั้นก็วิ่งลงข้างล่างไปที่ปลายเท้า ทำให้ชากระดุกกระดิกไม่ได้ ตัวเย็นยะเยือก แข็งเป็นหินไปชั่วขณะ
--เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงหว่า--
ต้นข้าวไม่มีเวลาคิดนาน ประกาศิตของครูก็ผ่าเปรี้ยงลงมา
"ชั้นจะโทรเรียกผู้ปกครองเธอเข้ามาพบ"
--ฉิบหายแล้ว กรูตายดีกว่า-- ต้นข้าวคิดในใจ คือต้นข้าวคิดว่าถ้าแม่รู้เรื่องว่าเป็นเกย์น่ะไม่เท่าไร แม่คงรับได้ไปเรื่อยๆ สักวันหนี่ง เพราะแม่รักต้นข้าวและตามใจมาก และต้นข้าวก็เป็นเด็กดีมาตลอด แถมต้นข้าวเป็นคนอ่อนไหวง่ายมาตั้งแต่เด็ก เผลอๆ แม่จะแอบคิดในใจไว้แล้วด้วยซ้ำ
แต่เรื่องนี้มันซับซ้อนกว่านั้น เพราะรูปโป๊ที่ว่ามันมาจากซองจดหมายของน้าเดียร์ ที่แม่จะให้ต้นข้าวส่งต่อไปให้ แล้วถ้าแม่รู้ว่าในซองนั้นมันคืออะไร โชคสองชั้นมันจะไปหล่นใส่น้าเดียร์อีกต่อหนึ่งหรือเปล่า เหมือนถูกหวยโดยไม่ต้องซื้อแท้ๆ เฮ้อออ
แล้วไหนจะอีกางเกงลิงเน่านั่นอีก มันของใครวะ มันมาอยู่ในกระเป๋าเราได้ยังไง เวรแท้ๆ เป็นเกย์น่ะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าถึงขนาดคนจะคิดว่า โรคจิต ชอบดมกางเกงในผู้ชายใช้แล้วนี่ ต้นข้าวอ่อนใจที่จะนึกต่อ
คิดแล้วยืนทำตาแดงๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไรตอบครูไป ก้มหน้างุด รอรับชะตากรรมครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีนี้
"..............."
"กระเป๋านักเรียนใบนั้น ของผมเองครับครู ไม่ใช่ของต้นข้าว"
เสียงหนึ่งดังขึ้นหน้าห้องเรียน ทั้งห้องหันขวับไปพร้อมกันไม่เว้นแม้แต่ต้นข้าว
"จิว!!" ต้นข้าวอุทานออกมา
จิว เดินเข้ามาในห้อง ไม่ได้เดินไปที่โต๊ะตัวเองหลังห้อง แต่มุ่งตรงมาที่โต๊ะของต้นข้าว ที่ต้นข้าวยืนอยู่ แล้วเดินเลยไปนิดนึง ตรงโต๊ะติดกันข้างๆ ที่จิวชอบมานั่งเบียด และเมื่อกี้ต้นข้าวยังเอากระเป๋าของตัวเองวางพิงพนักเก้าอี้ไว้
จิวล้วงมือลึกเข้าไปใต้โต๊ะ แล้วดึงกระเป๋านักเรียนจาคอปที่มีสีเดียวกันออกมา มันเป็นกระเป๋าที่มีคลิปหนีบแบนด้านข้างรอบๆ แล้วส่งกระเป๋าไปที่มือของต้นข้าว ที่ยังยืนงง จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ต้นข้าวก็รับกระเป๋าไว้
"กระเป๋าใบนี้ต่างหากที่เป็นของต้นข้าวครับครู เราวางสลับกัน"
ตอนนี้ต้นข้าวพึ่งสังเกตเห็น ว่าแขนซ้ายของจิวมีผ้าพันแผลตรงข้อศอก
คราวนี้ถึงตาครูที่จะงงบ้าง
"อะไรกันเนี่ย อะไรของพวกเท๊อออ!!"
ครูใช้เสียงสองร้องออกมา กรอกตาซ้ายขวามองต้นข้าว และจิวสลับกันไปมา แล้วปิดท้ายด้วยมองบนแรง
"กระเป๋าในมือครู เป็นของผมจริงๆ ครับครู" จิวยังคงยืนยัน
"งั้นเธอจะเอาอะไรมาพิสูจน์ว่ากระเป๋าที่มีของลามกจกเปรตนี้เป็นของเธอ อย่าลืมนะ ถ้าเป็นของเธอจริง เธอต้องโดนเรียกผู้ปกครองเข้าพบแทนนายต้นข้าวนะ"
"ครับ ผมพร้อม" จิวมีแววตาแน่วแน่
"งั้นเธอบอกครูมา ว่ามีอะไรยืนยันได้ว่ากระเป๋าลามกใบนี้ เธอเป็นเจ้าของ ครูถึงจะเชื่อ"
สมนึกจ้องไปที่กระเป๋านักเรียนในมือครู พิจารณาอยู่สักครู่ แล้วตอบไปว่า
"ถ้ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งในกระเป๋า ที่เป็นลายมือของผมอยู่ในนั้น และผมบอกได้ว่าอยู่ตรงไหน ครูจะเชื่อผมไหมครับ"
ต้นข้าวหันไปมองหน้าจิว อย่างประหลาดใจ
"โอเค ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นลายมือของเธอ และเธอบอกถูกว่ามันคืออะไร อยู่ตรงไหน ครูจะเชื่อเธอ"
ครูท้า แต่มั่นอกมั่นใจว่าไม่ใช่แน่ เพราะเมื่อกี้ตอนล้วงลงไปหยิบของลามกพวกนั้น ในกระเป๋าก็ไม่มีอะไรอีก
จิว หันไปมองหน้าต้นข้าวครู่หนึ่ง เหมือนเป็นการวัดใจ แล้วสีหน้าก็กลับมีประกายมุ่งมั่น เหมือนเป็นการตัดสินใจสุดท้ายที่แน่วแน่ มั่นคง
ตอนนั้นต้นข้าวได้แต่จ้องมองตอบด้วยความงุนงง
"กระเป๋าใบที่อยู่ในมือครู ด้านหน้าซ้ายมือ มีช่องใส่ของเล็กๆ อยู่ มีฝากระเป๋าปิดไว้ ในนั้นมีเทปคาสเซ็ท ที่มีลายมือของผมอยู่ครับ"
ต้นข้าวอ้าปากค้าง!!
ครูวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ แล้วหาช่องในกระเป๋าที่ว่านั้น เมื่อพบก็เปิดออก แล้วล้วงหยิบสิ่งหนึ่งขึ้นมา มันคือเทปคาสเซ็ท ที่ไม่มีกล่องใส่ เป็นตัวตลับเทปเดี่ยวๆ จึงอยู่ในกระเป๋าที่แบนราบได้ โดยไม่นูนออกมา
นักเรียนในห้องส่งเสียงฮือ และต้นข้าวอ้าปากค้างกว้างกว่าเดิมอีกสองนิ้วจากเมื่อตะกี้ และเริ่มจะคุ้นๆ แล้วว่าเทปตลับนี้เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
ครูแม้มปากจนเกือบเป็นเส้นตรง ยกเทปคาสเซ็ทขึ้นมาอ่านข้อความบนนั้น แล้วเงยหน้าพูดกับจิว
"เอาล่ะ บนหน้าเทปนี้ ที่อ้างว่าเป็นลายมือเธอ มันเขียนว่าอะไร"
จิวไม่ได้มองหน้าครูตอนตอบออกไป แต่กลับจ้องตาต้นข้าว แล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า
"
ให้คนนี้ดีกว่า...จากจิว, รอวันฉันรักเธอ คีรีบูน"
"....................."
แน่นอนว่า คนในห้อง รวมทั้งครู ไม่มีใครรู้ความนัย หรือที่มาที่ไปของข้อความนี้ เพราะมันก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ที่จะมีของกุ๊กกิ๊กเตรียมไว้ให้กับแฟน หรืออะไรประมาณนี้
ยกเว้นหนุ่มน้อยสุดหล่อระดับองค์เทพ ที่โดนจ้องตา และรับฟังข้อความนี้จากจิวเต็มๆ น่ะสิ
เทปเพลงที่อยู่ในมือครูนั้น คือเทปที่จิวไปอัดจากวิทยุที่ห้องนอนต้นข้าว จิวบอกไว้ทีแรกว่าจะมอบให้ผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วไปไงมาไง มันกลับมาอยู่ในกระเป๋าของต้นข้าว รวมทั้งข้อความที่เขียนขึ้นต้นว่า
"ให้คนนี้ดีกว่า..."
ตอนนี้ต้นข้าวมีความรู้สึกว่า ความเครียดเย็นยะเยือกที่อยู่ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเมื่อกี้ คลายตัวออกไป เปลี่ยนเป็นควันสีชมพู แล้ววนมารวมตัวกันใหม่ หมุนไปรอบๆ เหมือนเซเลอร์มูน ที่ใช้มนต์แห่งจันทรา จงสำแดงฤทธา ณ บัดนี้
ตอนนี้ต้นข้าวมองไม่เห็นสิ่งรอบตัวแล้ว ครูเลือนหายไป เพื่อนร่วมชั้นเรียนก็เลือนหายไป เหลือแต่จิวและต้นข้าวที่ยืนกอดกระเป๋านักเรียนของจิว จ้องตากันอยู่
กระดานดำหน้าห้อง เหมือนจะแปลงร่างเป็นผนังของปราสาทเทพนิยายหน้าแดนเนรมิต ชอล์กและแปรงลบกระดาน ก็แปลงร่างเป็นผีเสื้อและนกคีรีบูนแสนสวย บินวนและร้องเพลงอยู่รอบๆ ตัวของต้นข้าวและจิว เหมือนโลกนี้มีแค่ เจ้าชายและเจ้าชาย กันแค่สองคน
แต่แล้วความฝันนี้ก็ถูกเบรคเอี๊ยดหัวทิ่ม!! แล้วกระจายกลับคืนร่างเดิม ด้วยเสียงแหลมๆ เบอร์สามของครู ว่า...
"ถูกต้อง!!! ดีล่ะสมนึก งั้นเธอตามชั้นมาที่ห้องฝ่ายปกครอง แล้วเอาเบอร์โทรบ้านเธอมาให้ด้วย ชั้นจะโทรไปเชิญคนที่บ้านเธอให้มารับรู้เรื่องบ้าๆ นี้ เก็บของบัดสีนี่ของเธอใส่กระเป๋าแล้วหิ้วตามครูมา"
แล้วครูก็เดินฉับๆ นำออกไป ให้จิวรวบรวมเก็บรูปโป๊เหล่านั้น พร้อมกางเกงในแอปเปิ้ล ใส่ลงในกระเป๋าเหมือนเดิมแล้วตามครูออกไป
ก่อนพ้นห้อง ลับหลังครู จิวก็หลิ่วตาให้ต้นข้าวทีหนึ่ง พร้อมแอบโยนขยุ้มกระดาษสีน้ำตาลก้อนเล็กๆ มาให้ต้นข้าว ซึ่งรับไว้ทันพอดี
พอครูกับจิวเดินลับตาไปแล้ว ต้นข้าวจึงคลี่ก้อนกระดาษสีน้ำตาลนั้นออกดู มันคือซองเปล่าที่เคยใช้ใส่รูปโป๊นั่น มันมีชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ผู้รับเขียนอยู่บนนั้น และมันเป็นนามสกุล และที่อยู่เดียวกับของต้นข้าวเอง
อ้อ ฮีโร่ตี๋หน้าใสขี่ม้าขาวมาช่วยออกตัวรับความผิดแทนให้ แล้วยังไม่ลืมทำลายหลักฐานให้ด้วยสินะ
--------------------------------