[เรื่องสั้น] I love your brother : รักน้องชายเสือกได้กับพี่ ตอนพิเศษ 2 [จบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] I love your brother : รักน้องชายเสือกได้กับพี่ ตอนพิเศษ 2 [จบ]  (อ่าน 13547 ครั้ง)

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โอ้ ดีที่จบแฮปปี้นะ ลุ้นตั้งแต่ตอนที่โซ่บอกจะไปจากภพแล้วววว

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ชื่น..นนนนนใจ แอบลุ้นแทบแย่ สุดท้ายก้อแฮปปี้เอนดิ้ง   o13

ออฟไลน์ Thearz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
มาถึงตอนนี้... นิยายเรื่องนี้อาจจบลง แต่ความรักของผมกับไอ้แซคยังคงดำเนินต่อไป
ชื่อแซค ต้องเป็นภพ หรือเปล่า
พ่อภพ แซค คนอ่าน คิดตรงกัน
ภพ ชอบใช้อารมณ์ กำลัง รุนแรงกับโซ่ตลอด
เจอกัน จนรักกัน มีแต่ทำให้โซ่เจ็บตัว
พ่อภพพูดดีมากเลย
ถ้าสองคนจะคบกัน ก็ต้องพากันไปในทางที่ดี
มีแววนะ ว่าแซคกับภู จะสานสัมพันธ์กัน
แล้วยักษ์ล่ะ จะมีคู่กับเขาปะ
       :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

เห็นมั้ย ? นั่งพิมพ์ดึก ๆ ดื่น ๆ เบลอหมดแล้ว 5555
ยังไงก็ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยสังเกตให้ เปลี่ยนให้แล้วเด้อ
  :pig4: o13



o13  สนุกมากครับ

ขอบคุณมากครับ   :pig4: :pig4:


โอ้ ดีที่จบแฮปปี้นะ ลุ้นตั้งแต่ตอนที่โซ่บอกจะไปจากภพแล้วววว

ที่จบแบบแฮปปี้เพราะผมอยากให้คนอ่าน อ่านแล้วชอบ อ่านแล้วสนุก อ่านแล้วมีความสุขครับ   :pig4:



ชื่น..นนนนนใจ แอบลุ้นแทบแย่ สุดท้ายก้อแฮปปี้เอนดิ้ง   o13

ชื่นนนนนใจด้วยคน ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะครับ  :pig4: o13

ออฟไลน์ benji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อู้หูยยยยยย กว่าจะลงตัว เสียน้ำตาไปเป็นปี๊บ รอคู่น้องภู ว่าจะเป็นใคร และ รอดูว่าพี่ยักษ์เล็งใครไว้ เอ๊ะ หรือ สองคนจะลงเอยกันเอง...เอวัง...

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ Thearz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตอนพิเศษ Japan! "กลับมาแล้วครับ!"


อาริงาโตะ โกไซมัส!/ขอบคุณครับ! ” ไอ้แซคตะโกนประโยคนี้ออกมาหลังจากก้าวลงจากรถแท็กซี่ที่พาเรามาส่งจนถึงหน้าบ้าน
ตอนนี้ผมมายืนอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ที่ประตูรั้วมีตัวหนังสือภาษาญี่ปุ่นติดเอาไว้ซึ่งแน่นอนผมอ่านไม่ออกหรอก แต่ไอ้แซคบอกว่าบ้านหลังนี้แหละที่มันอยู่

“เข้าไปดิ หนาวจะตายแล้ว!” ไอ้แซคบอกผมแล้วผลักให้ผมเดินเข้าไปในบ้าน เพราะอากาศตอนนี้หนาวก้าวขาแทบไม่ออก

ผมรู้สึกประหม่า ไม่กล้าเดินเข้าไป แล้วก็ยังไม่รู้ควรจะทำตัวยังไงเมื่อต้องเจอหน้าแม่

ทะดะอิมะ!/กลับมาแล้ว!”
ส้นเสียงไอ้แซค ก็มีเสียงคล้ายผีเท้าที่กำลังวิ่ง ตรงมาทางประตู และเมื่อประตูนั้นเปิดออก ก็มีเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งวิ่งเข้ามากอดไอ้แซค

โอไกรินาไซ!/ยินดีต้อนรับกลับบ้าน” เสียงที่ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ยินมานาน แต่ก็ยังคงจำได้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร

แม่เดินออกมาเปิดประตู มีสีหน้าตกใจเล็กน้อยที่เห็นผม...ผมเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ในความคิดของผมตอนนั้น มองแม่ต่างไปจากเดิม

“สะ... สวัสดีครับ” ผมกล่าวพลางหลบสายตา.... แม่ผอมจัง...

ถึงผมจะไม่ได้มองไปที่แม่ตรง ๆ แต่ก็รู้ได้ว่าแม่กำลังเดินตรงมาหาผม มือของแม่สัมผัสที่แก้มของผมอย่างแผ่วเบา แล้วดึงผมเข้าไปกอด

“แม่นึกว่าหนูจะไม่ยอมมาซะแล้ว”

ผมยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก ผมไม่รู้ว่าผมกำลังรู้สึกอะไรกันแน่ ระหว่างโกรธ กับคิดถึง ทั้งที่อยากกอดแม่กลับแน่น ๆ แต่ผมกลับทำได้เพียงยืนเฉย ๆ

โชตะคุงที่ไอ้แซกกำลังอุ้มอยู่มองมาที่ผมอย่างประหลาดใจ แล้วหันไปถามไอ้แซคเป็นภาษาญี่ปุ่นว่าผมคือใคร ไอ้แซคยิ้มพยายามจะอธิบายให้น้องฟัง แต่ดูเหมือนโชตะก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

“หิวไหมลูก? เข้าบ้านก่อน ๆ”
“โคตรหิวเลยแม่” ไอ้แซคบอก
“แม่ถามน้อง”
“โห่! ไอ้โซ่มึงกลับไปเลย ดูดิ มึงมาไม่ถึงห้านาทีกูเป็นหมาหัวเน่าแล้ว”

ผมหัวเราะ

“โชตะ รักพี่มั้ย?”
“ยั๊ก!” โชตะตอบเสียงดัง
“พูดไทยได้ด้วยหรอ?” ผมหันไปถาม
“ปกติอยู่บ้านส่วนใหญ่ก็พูดไทยกันนะ”
“พาน้องเข้าบ้านก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะเป็นหวัดกันซะก่อน แม่ทำกับข้าวไว้เยอะเลย”

<---o--->

ระหว่างกินข้าว...

“โซ่ เรียนเป็นไงบ้าง พอไหวไหม? แล้วอยู่ปีอะไรแล้ว?”
“ปีสอง กำลังจะขึ้นปีสามครับ” ผมตอบ
“แล้วพี่แวนล่ะ? สบายดีไหม?”
“ก็ดีครับ”
“พี่แวนบอกว่า เดี๋ยวบินตามมา ขอเคลียร์งานก่อน” ไอ้แซคเสริม
“ทำไมหน้าเหมือนอะนิซัง?” โชตะนั่งจ้องหน้าผมแล้วหันไปถามแม่ด้วยสำเนียงแบบเด็ก

*อะนิซัง / พี่ชาย

“คนนี้เป็นพี่ของโชจังอีกคนนึงนะ เป็นลูกของแม่ อยู่ประเทศไทย” แม่พยายามอธิบาย
“แล้วทำไมหน้าเหมือนอะนิซัง?”
“กี่ขวบแล้วเนี่ย ทำไมพูดเก่งจัง?”
“เดือนหน้าก็ 2 ขวบแล้ว” แม่ตอบ
“แล้วทำไมหน้าเหมือนอะนิซังอ่ะ?” โชตะยังถามซ้ำ  ผมกับไอ้แซกหัวเราะในความไร้เดียงสาของน้อง
“แล้ววันนี้พ่อจะกลับตอนไหนหรอแม่?”

ผมหันไปมองหน้าไอ้แซค เพราะรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ที่มันเรียกสามีใหม่แม่ว่าพ่อ

“คิดว่าอีกเดี๋ยวก็คงกลับมาแหละ แม่โทรไปบอกแล้วว่าลูกกลับมาแล้ว”
“เขาจะโอเคหรอครับ? ที่ผมมา” ผมถาม
“ทุกคนโอเคที่ลูกมา”
“ครับ...”
“แล้วนี่มีแฟนรึยังเนี่ย?” ผมกับไอ้แซกสำลักออกมาพร้อมกัน ทันทีที่แม่ยิงคำถามนี้ใส่ผม
“เอ่อ... มีแล้วครับ”
“หรอ? เป็นคนนิสัยดีไหม?”
“ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ กวนประสาท ชอบแกล้ง ชอบหาเรื่องให้ผมเจ็บตัวอยู่เรื่อย”
“ทำไมแบบนั้นล่ะ? แบบนี้ลูกไม่เหนื่อยแย่เลยหรอ?”
“บางทีก็เหนื่อยนะครับ ”
“แสดงว่าสาวคนนั้นต้องสวยแน่เลย ลูกถึงยังยอมขนาดนี้”
“แฟนผมเป็นผู้ชายครับ!” ผมตอบ

ไอ้แซคสำลักรอบสอง มันคงไม่คิดว่าผมจะกล้าพูดออกมาตรง ๆ แบบนี้ แม่เองก็ดูจะตกใจไม่น้อย

แม่ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มโดยไม่พูดอะไรต่อ
บรรยากาศเริ่มอึดอัด เมื่อไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรเลย จนกระทั่งผมทนไม่ไหว

“แม่จะโกรธผมก็ได้นะ ที่ผมเป็นเกย์ แต่นั่นก็เพราะชีวิตผมดันจำภาพผู้หญิงคนนึงที่ทิ้งลูก ทิ้งสามีตัวเอง จนทำให้ผมไม่อยากคบผู้หญิง”

ไอ้แซคต่อยที่ต้นแขนผมเป็นการเตือนที่ผมดันพูดจาแบบนั้นออกไป

“โอ้ย!”

ผมถอนหายใจในความปากไม่ดีของตัวเอง

“เอ่อ... ผมขอโทษ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก มันเป็นความผิดแม่จริง ๆ ที่ไม่ได้พาหนูมาอยู่ด้วย”
“เรื่องนั้นมันไม่ใช่ประเด็นหรอก ผมไม่ได้โกรธที่แม่ไม่ได้พาผมมาอยู่ด้วย แต่ผมโกรธที่แม้แต่งานศพพ่อ แม่ก็ไม่ยอมไป”
“ไอ้โซ่ ไหนตกลงกันว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ไง?”
“ไม่พูดก็ไม่เคลียร์” ผมบอก

ไอ้แซคแสดงสีหน้าโกรธผมอย่างชัดเจน

“แม่ขอโทษ ตอนนั้นโชตะยังเล็ก แม่ต้องคอยดูแลน้อง”

ผมหันไปมองโชจังที่ทำหน้าไร้เดียงสาตามประสาเด็ก ถ้าเด็กคนนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ไม่ไปงานศพพ่อ ผมก็คงโกรธไม่ลง

“ไม่ใช่ว่าแม่ไม่อยากไป ไม่ใช่ว่าแม่ไม่เสียใจนะ” แม่น้ำตาไหลบอกกับผม
“ทีนี้เคลียร์ยัง? กินข้าวเถอะ” ไอ้แซคทำหน้าดุหันมาถามผม
“ขอโทษ...ที่ปากไม่ดีครับ” ผมบอก

บรรยากาศการกินข้าวมื้อนั้นผ่านไปไม่ค่อยดีนัก หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องของไอ้แซคที่ชั้นสอง

“แซค พาน้องไปเที่ยวสิ มาทั้งทีอยู่แต่บ้านคงน่าเบื่อแย่”
“ไว้พรุ่งนี้ดีกว่า วันนี้เดินทางมาเหนื่อย ๆ อยากพักผ่อนก่อนครับ” ผมบอก
“มึงอยากไปเที่ยวที่ไหน?” ไอ้แซคหันมาถามผม
“กูจะไปรู้ได้ไงวะ? ว่าควรจะไปที่ไหน กูไม่เคยมานะ ไม่รู้จัก”
“เออ เอาไว้เดี๋ยวค่อยคิดแล้วกัน เอ้า! นี่!” ไอ้แซคโยนบางอย่างมาให้ผม มีลักษณะเป็นซองกระดาษแช็ง ๆ
“อะไรวะ?”
“ซิมโทรศัพท์ ช่วงนี้ก็เปลี่ยนใช้เบอร์นี้ไปก่อน เผื่ออยากโทรหาใคร แต่ที่บ้านก็มี wifi นะเดี๋ยวกูไปเอารหัสมาให้”

ผมลืมนึกถึงไอ้ภพไปเลย ทั้งที่มันบอกเอาไว้ว่าถ้ามาถึงญี่ปุ่นแล้วให้ไลน์ไปบอกมันทันที

“เออ ไอ้แซค กูขอถามอะไรหน่อยดิ”

ไอ้แซคนั่งลงบนเตียงข้าง ๆ ผม

“มีอะไร?”
“แฟนใหม่แม่นี่ เขาเป็นคนยังไงวะ? แล้วดีกับมึงรึเปล่า?”
“ก็ดีนะ เป็นคนดี ขยัน แล้วก็รักแม่ดี”
“กูเห็นมึงเรียกเขาว่าพ่อ”
“กูว่าแล้ว ว่ามึงต้องนอยด์เรื่องนี้”
“ก็นิดหน่อย”
“โซ่... กูรู้ว่ามึงรักพ่อมาก แต่ก็เหมือนที่กูเคยบอกมึง พ่อกับแม่มีเหตุผลที่ต้องเลิกกัน แล้วเมื่อกี้กูก็ไม่โอเคที่มึงพูดกับแม่แบบนั้น”
“กูผิดหรอวะ? ถ้ากูยังไม่โอเคกับเรื่องนั้น”
“แต่มึงก็ไม่ควรพูดแบบนั้น”
“อืม...”

ไอ้แซคมองหน้าผมเหมือนลังเลที่จะพูดอะไรออกมา ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ถ้ากูบอกอะไรมึง มึงจะเชื่อกูมั้ย?”
“อะไร?”
“ถ้ากูบอกไปแล้ว มึงต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกแม่ ว่ากูบอกมึง” ไอ้แซคย้ำจนผมเริ่มรู้สึกรำคาญ
“เออ มีอะไรก็พูดมา”
“จริง ๆ แล้ว แม่ไม่ได้ทิ้งพ่อ แต่พ่อนั่นแหละที่มีเมียน้อย จนแม่ทนไม่ไหว”

ผมอึ้งไปชั่วขณะที่ได้ยินแบบนั้น เหมือนกำลังชั่งใจว่าจะเชื่อสิ่งที่ไอ้แซคพูดได้ไหม เพราะเท่าที่ผมจำได้ ตอนเด็ก ๆ ผมก็ไม่เคยเห็นพ่อไปมีใครเลย

“แล้วที่แย่กว่านั้นคือ พ่อมีลูกกับคนนั้นก่อนที่จะมีมึงกับกูอีก!
“มึงรู้ได้ยังไง?” ผมถาม
“แม่เล่าให้กูฟังทุกอย่าง และกูก็เคยไปเจอกับลูกอีกคนของพ่อด้วย”
“...” ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
“แล้วแบบนี้มึงยังคิดว่าแม่เลวที่ทิ้งพ่ออีกมั้ย?”
“พี่แวนรู้มั้ย?”
“รู้สิ แต่ที่ไม่มีใครบอกมึง เพราะทุกคนรู้ว่ามึงรักพ่อมาก ไม่มีใครอยากให้มึงรู้สึกไม่ดีกับพ่อ”
“กูไม่เชื่อ” น้ำตาผมไหลออกมา ณ ตอนนี้ความรู้สึกต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาเต็มไปหมด ทั้งเสียใจเรื่องพ่อ และรู้สึกผิดกับแม่ เสียใจที่ผมกลายเป็นคนที่มักจะถูกกันออกจากเรื่องราวปัญหาต่าง ๆ อยู่เรื่อยจนแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวตัวเองเลย

ไอ้แซคเห็นผมร้องไห้จึงดึงผมเข้าไปกอดเพื่อปลอบ

“กูไม่ได้บอกกเรื่องนี้เพื่อให้มึงเกลียดพ่อนะ แต่บอกเพื่อให้มึงเข้าใจแม่ แล้วตอนนี้มึงก็โตพอที่ควรจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว”
“มึงน่าจะบอกกูให้เร็วกว่านี้ ปล่อยให้กูรู้สึกไม่ดีกับแม่มาตลอด”
“เพราะแม่ห่วงความรู้สึกของมึงมาก เขาถึงไม่ยอมให้กูบอก”

ได้ยินแบบนั้นผมกลับร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม เพราะรู้สึกผิดกับแม่ เพราะที่ผ่านมาผมรู้สึกไม่ดีกับแม่มาตลอด แต่แม่ยอมให้เป็นแบบนั้น เพื่อปกป้องความรู้สึกของผม



<----O<<::::::======[ จบตอน ]======::::::>>O---->

ออฟไลน์ benji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ห๊ะ!!! จบตอน คือ??? แล้วตกลงยังไง คือ แม่ไม่ได้ทิ้งพ่อกับแซค แต่พ่อ มีคนอื่นก่อนงี้เหรอ โอ่ยยยย

ออฟไลน์ Thearz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตอนพิเศษ Japan! เพื่อนใหม่

“หน้าเหมือนแซคเลยเนอะ ชื่อโซ่ใช่มั้ย?” ชายชาวญี่ปุ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แม่เอ่ยขึ้น
“ครับ...” ผมได้แต่นั่งนิ่งฟัง และรู้สึกแปลกใจที่ชายคนนั้นพูดภาษาไทยได้คล่องปร๋อ

“อ้อ ลุงชื่อยูกินะ เรียกยูเฉย ๆ ก็ได้” ชายคนนั้นบอก

ยูกิซัง อายุประมาณ 40 ปี เป็นสามีใหม่ของแม่ ปัจจุบันคบกันมาแล้วเกือบ 3 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่นานพอจะทำให้ผมรู้สึกวางใจชายคนนี้

“ครับ”
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ อยู่ที่นี่ทำตัวตามสบายนะ คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเอง”
“เอ่อ... ขอบคุณครับ”
“แซค ทำไมไม่พาน้องไปเที่ยวล่ะ แถว ๆ นี้ก็มีที่ให้เที่ยวเยอะนะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยพาไป วันนี้เพิ่งกลับมาเหนื่อย ๆ ให้มันพักก่อน” ไอ้แซคบอก
“แล้วจะมาอยู่กี่วันล่ะ? จริง ๆ ที่บ้านเราก็มีห้องว่างอยู่นะ อยากมาอยู่ถาวรเลยรึเปล่าล่ะ? เดี๋ยวพ่อ... เอ่อ... ลุงจะได้ช่วยทำเรื่องให้”
“เอ่อ... ไม่หรอกครับ ผมยังอยากอยู่ที่ไทยมากกว่า ขอบคุณมากครับ”
“มาอยู่ที่นี่ด้วยกันก็ดีนะ แต่มึงคงไม่มาหรอก ติดผ... โอ้ย!” ผมเตะเท้าไอ้แซคอย่างแรงจนมันหยุดพูด  รีบก้มลงไปเอามือกุมเท้าตัวเอง
“ผมยังเรียนไม่จบเลย อีกอย่าง ผมเป็นห่วงบ้านด้วย ถ้ามาอยู่นี่เดี๋ยวไม่มีใครดูแล”
“จริง ๆ ประกาศขายไปก็ได้นะ เพราะถึงยังไงมึงก็อยู่แต่หอพักมึงอยู่ดี” ไอ้แซคบอก
“พ่อมึงสิ! แล้วตอนกูเรียนจบอ่ะ จะให้กูไปอยู่ไหน?” ผมด่า

แม่กับลุงยูกิหันมามองผมด้วยความตกใจ เพราะปกติคงไม่มีใครพูดหยาบในบ้านแบบผม

“ขอโทษครับ”
“มาอยู่ที่นี่ไง” แม่เสริม
“ไม่เอาอ่ะ... ยังไงผมก็อยากอยู่ไทยมากกว่า”
"ติดแฟน" ไอ้แซคเหน็บ
"ไม่เกี่ยวเปล่าวะ? ต่อให้ไม่ได้คบกับไอ้ภพ กูก็ยังอยากอยู่ที่ไทยอยู่ดี"
“เอาไว้ถึงเวลานั้นค่อยคิดกันอีกทีแล้วกันเนอะ” ลุงยูบอก

หลังจากนั้นเราก็คุยอะไรกันอีกมากมาย จนผมเริ่มรู้สึกว่าแฟนใหม่ของแม่คนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรจริง ๆ อย่างที่ไอ้แซคคุยไว้ ทุกคนดูสนิทสนม และรักกันดี ผมรู้สึกได้ถึงคำว่าครอบครัวอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้มานาน

“ผมขอไปเดินเล่นแถว ๆ นี้ได้มั้ย?” ผมถาม
“พาแซคไปด้วยสิ จะได้ไม่หลง”
“มันไม่หลงหรอกแม่ แถวบ้านเราไม่ใช่เขาวงกตนะ เดินไม่กี่นาทีก็รอบหมู่บ้านแล้ว” ไอ้แซคบอก
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปไม่ไกลหรอก”
“ใส่เสื้อหนา ๆ หน่อยนะ ข้างนอกกาศค่อนข้างหนาว” ลุงยูบอกพร้อมชี้ให้แม่ลุกไปหยิบเสื้อโค้ทตัวหนาเตอะมาให้ผม


ขณะที่ผมเดินออกมาที่หน้าบ้านนั้น จู่ ๆ ก็มีลูกบอลลอยตรงมาทางผม และชนเข้าที่หัวผมอย่างจัง จนผมล้มลงไป


“โอ้ย!” ผมเอามือกุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บ พลางมองหาต้นตอของลูกบอลนั้นว่ามาจากที่ไหน

ผู้ชายคนหนึ่ง น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับผม วิ่งมา แล้วหัวเราะใส่ผม พร้อมกับพูดภาษาญี่ปุ่นที่ผมไม่สามารถเข้าใจได้ ว่าไอ้หมอนั่นมันกำลังพูดว่าอะไร

“ขำเชี้ยไรวะ?!” ผมพึมพำเบา ๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า? บอกให้รับทำไมไม่รับวะ?” หนุ่มยุ่นคนนั้นถามผมด้วยภาษาไทยด้วยสำเนียงที่ค่อนข้างชัดเจน
“อ้าว พูดไทยได้หรอ?”
“โดนบอลอัดแรงไปจนสมองเสื่อมเลยหรอวะ?” ชายคนนั้นบอก แล้วยื่นมือมาช่วยดึงผมลุกขึ้น
“ไอ้ชู!!” ผมกับไอ้หนุ่มยุ่น หันไปตามเสียงของไอ้แซคที่คงออกมาดูว่าใครเอะอะอะไรอยู่หน้าบ้าน

“เชี้ย!”
“มึงทำอะไรน้องกูเนี่ย?”
“น้อง...? น้องมึง?” หนุ่มยุ่นที่น่าจะชื่อชู ถาม
“เออ นี่น้องกูเอง”
“เชี้ย! กูนึกว่ามึง”

ชูคุงหันมามองผมด้วยความตกใจ แล้วรีบขอโทษผมยกใหญ่

“กูนึกว่ามึง ก็เลยส่งบอลให้ แต่...”
“แต่เข้าหัวกูเต็ม ๆ” ผมบอก
“ขอโทษครับ!” ไอ้ชูรีบขอโทษอีกครั้ง (ไม่ทันไรเรียกไอ้ชูซะแล้ว)
“นี่ชูอิจิ เพื่อนในห้องกู พูดไทยได้นิดหน่อย แม่มันก็เป็นคนไทยเหมือนกัน” ไอ้ภพแนะนำเพื่อนมันให้ผมรู้จัก
“ถึงขนาดด่าเป็นนี่ไม่นิดหน่อยแล้วมั้ง!”
“ไอ้ชู นี่น้องกู ชื่อไอ้โซ่ เพิ่งมาจากไทย”
“หน้าเหมือนกันจนกูแทบแยกไม่ออก” ไอ้ชูบอก
“กูหล่อกว่า!”
“เหอะ ๆ” ผมหัวเราะแกน ๆ
“เออ มึงว่างป่ะ? พาน้องกูไปเดินดูรอบ ๆ นี้หน่อยสิ”
“ได้ ๆ ว่าแต่จะไปที่ไหนล่ะ?” ชูหันมาถามผม
“ไม่เป็นไร แค่เดินดูรอบ ๆ นี้เฉย ๆ เราไปคนเดียวได้”
“ไม่เป็นไร ถือว่าไถ่โทษที่เตะบอลใส่เมื่อกี้”

<---o--->

“มีอะไรรึเปล่า? เห็นเอาแต่มองตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” ผมหันไปถามไอ้ชู เพราะรู้สึกอึดอัดที่มันเองแต่มองหน้าผมตั้งแต่เดินออกมาจากบ้านด้วยกันแล้ว
“เอ่อ ขอโทษ แค่แปลกใจที่หน้าเหมือนไอ้แซคมาก ๆ เลย”
“ก็เป็นแฝดกัน หน้าก็ต้องเหมือนกันสิ”
“ไอ้แซคเคยบอกว่ามีน้องชายอีกคน ไม่คิดว่าเป็นแฝดกันนะเนี่ย”
“ช่างเถอะ แล้วนี่บ้าอะไรเนี่ย? ออกมาเล่นบอลตอนอากาศหนาวขนาดนี้เนี่ยนะ?”
“ทำไมอ่ะ? สนุกดี ไม่ร้อน ไม่มีเหงื่อ” ไอ้ชูบอก
“อืม ก็คงชินแล้วสินะ”
“ไม่ชอบเล่นฟุตบอลหรอ?”
“ทำไมรู้อ่ะ?”
“ก็เตะไปให้ ไม่เห็นรับได้เลย”
“เตะมาตอนไม่ได้ตั้งตัวแบบนั้น ใครจะไปรับได้วะ?” ผมเอามือกุมหัวอย่างไม่รู้ตัว
“ฮ่ะ ๆๆ”
"แต่ก็ชอบดูนะ แฟนเราก็เป็นนักฟุตบอลเหมือนกัน"
"มีแฟนแล้วหรอ?"
"อืม"
"ที่ประเทศไทยนี่ ผู้หญิงก็ชอบเล่นฟุตบอลหรอ?" ไอ้ชูถาม
"เอ่อ... ไม่หรอก"
"งั้นก็?"
"แฟนเราเป็นผู้ชาย" ผมบอก ไอ้ชูดูตกใจนิดหน่อย แต่ก็ยังมีมารยาทพอที่จะยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไร
"ก็โอเคนะ สบายใจแบบไหนก็เป็นแบบนั้น เราเองก็ไม่ได้แอนตี้เรื่องแบบนี้เหมือนกัน"

จากนั้นต่างคนต่างเงียบ เพราะผมเองก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับมันเหมือนกัน

“พูดไทยชัดจังเลยเนอะ” ผมเริ่มชวนคุย ก่อนที่บรรยากาศจะเริ่มอึดอัดด้วยความเงียบ
“ก็เคยอยู่ไทยตอนเด็ก ๆ ประมาณป.6 ได้มั้ง แล้วก็ย้ายตามแม่มา”
“แม่เป็นคนไทยหรอ?”
“แม่เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น พ่อเราเป็นคนญี่ปุ่น”
“อืม ก็ดีนะ เจ๋งดี”
“เจ๋งยังไงอ่ะ?”
“ก็ถ้าหน้าตาอย่างนี้ ถ้าอยู่ที่ไทย สาว ๆ ก็คงชอบอ่ะ”
“อย่างงี้สงสัยต้องหาโอกาสไปเที่ยวประเทศไทยบ้างแล้ว ฮ่า ๆๆ” ไอ้ชูบอกแล้วหัวเราะออกมา

ปกติแล้วผมเป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ค่อนข้างแย่ กับคนที่เพิ่งรู้จัก หรือไม่สนิทด้วย ผมมักจะมึนใส่เสมอ แต่กับไอ้ชู ผมกลับรู้สึกโอเคที่จะคุยด้วยซะงั้น อาจเพราะผมคิดว่า นอกจากไอ้แซคกับคนที่บ้านแล้ว ก็มีไอ้ชูนี่แหละ ที่ผมจะคุยกับมันได้ เพราะมันพูดไทยได้

“จะมาอยู่นานไหม?”
“ประมาณ 2 อาทิตย์”
“น่าเสียดาย น่าจะอยู่นาน ๆ จะได้พาเที่ยว”
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็คงได้มาบ่อย ๆ อยู่แล้ว อย่าลืมที่พูดแล้วกัน” ผมบอกพลางเอื้อมมือไปหยิบลูกฟุตบอลที่ไอ้ชูถือเอาไว้มาเตะเล่น

ซึ่งในขณะนั้น ก็มีผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมเข้ามาทักไอ้ชู แล้วหันมาพูดกับผมด้วยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งถ้าให้เดา ฝ่ายนั้นก็คงคิดว่าผมเป็นไอ้แซคแน่นอน ไอ้ชูจึงรีบอธิบาย ไอ้หมอนั่นก็ทำท่าทางตกใจ ก่อนจะหันมามองผมแบบพินิจพิจารณาอีกที จนผมรู้สึกเกร็งที่โดนมองขนาดนี้

“นี่เคนตะ เพื่อนเรา”
“Hi I’m Kenta, nice to meet you!” เคนตะแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษกับผม
“เอ่อ... Nice to meet you too.”

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็หันไปคุยกันต่อจนเคนตะแยกตัวออกไป

“เคนตะมันตกใจมากเลย ที่รู้ว่านายเป็นแฝดกับไอ้แซค”
“แหง~”
“??” ไอ้ชูหันมาทำหน้ามึนใส่ผม
“เอ่อ หมายถึง แน่นอน! แหง แปลว่า แน่นอน อะไรประมาณนั้น”
“อ่อ โอเค จะจำไว้นะ”

ตือดึ่ง! เสียงการแจ้งเตือนของไลน์ดังขึ้น ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วอุทานเบา

“เชี้ย!” ผมลืมไอ้ภพไปซะสนิทเลย











“เริ่มหนาวแล้ว เรากลับกันก่อนมั้ย?” ผมบอกกับไอ้ชู
“จากตรงนี้ไปกลับเองถูกมั้ย?” ไอ้ชูหันมาถามผม
“เอ่อ...”
“ฮ่า ๆๆ ล้อเล่น! เดี๋ยวเดินไปส่ง”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร คิดว่าน่าจะกลับถูก”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปส่ง ขืนปล่อยให้กลับคนเดียว ถ้าหลงขึ้นมาไอ้แซคฆ่าเราแน่”
“เว่อร์ ฮ่า ๆๆ”


<---o--->


“กูกำลังจะออกไปตามพอดีเลย แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้ว”
“ขอบใจนะ ที่มาส่ง”
“อืม ไม่เป็นไร”
“เออนี่ อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ”

ไอ้ชูทำท่าทางลังเล แล้วหันไปมองไอ้แซค

“ได้ใช่มั้ย?” ผมหันไปถามไอ้แซค
“เออ มาเหอะ”
“งั้นรบกวนด้วยแล้วกันนะ” ไอ้ชูบอกแล้ววางลูกฟุตบอลไว้ตรงหน้าประตูบ้านก่อนจะเดินตามผมเข้ามาในบ้าน


<---o--->


“โซ่ชอบกินอะไรเป็นพิเศษไหมลูก?” แม่เอ่ยถามผมขณะที่เรากำลังกินข้าวกันอยู่
“ก็หลายอย่างนะครับ ถ้าให้บอกตอนนี้คงนึกไม่ออก”
“ไก่กระเทียมละมั้ง!” ไอ้แซคแซว
“ทำเป็นรู้ดี”
“เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนกันเลยนะ ทั้งสองคนเนี่ย! ตีกันตลอดเลย” แม่บ่นพลางหัวเราะ ผมหันไปมองไอ้ชูก็แอบหัวเราะเช่นกัน
“ก็มันกวนตีน...เอ่อ... ขอโทษครับ” ผมเผลอหลุดคำด่าไปอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวแม่กับลุงก็คงชินเอง” ลุงยูกินบอก
“แต่ก็ต้องระวัง เดี๋ยวโชจังพูดตาม” แม่บอกแล้วเอื้อมมือไปลูบหัวโชตะคุงที่นั่งอยู่ช้าง ๆ ผม
“เดี๋ยวชูจังก็จะพูดตาม” ไอ้แซคบอกแล้วหันไปลูบหัวไอ้ชูบ้าง

ทุกคนพากันหัวเราะอีกครั้ง

“จริง ๆ อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะ...” ผมคิดในใจ


<----O<<::::::======[ จบตอนพิเศษ ]======::::::>>O---->

สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน  :3123:
อันเนื่องมาจากผู้เขียนพอจะมีเวลาว่างนิดหน่อย บวกกับ มีความคิดถึงไอ้ภพกับไอ้โซ่ และทุก ๆ คน
ก็เลยเขียนตอนพิเศษขึ้นมาให้หายคิดถึงซะหน่อย  :man1:
ตอนนี้ได้ลองอะไรใหม่ ๆ ด้วย นั่นก็คือการแคปหน้าจอไลน์มาลง 555
2 ตอนนี้ อาจเป็นตอนสั้น ๆ  พอให้หายคิดถึง
จริง ๆ มีแพลนจะแต่งภาค 2 ต่อ แต่คงต้องดูเวลาก่อน ไม่อยากแต่งแล้วดองนาน ๆ แต่ไม่ว่ายังไงมาแน่!
และบอกไว้ก่อนว่า ใครที่รอคู่ แซคภู อาจได้ลุ้น  :z1:
รอก่อนน๊าาาา 

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ชอบตอนเค้าไลน์หากัน ตะมุตะมิ น่าย๊าก.....กกกกกกกกกกก    :hao3:

ออฟไลน์ lostinthelight

  • 엑소엘
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด