บทที่ 27 : มากเล่ห์ (6)
งานเลี้ยงดำเนินมาทั้งวัน แม้เป็นที่กังขาว่าตอนนี้รูเมเรียร์มีราชาสองพระองค์ ทว่าผู้ฉลาดย่อมไม่เอ่ยออกมา ผู้ฉลาดมาเข้าเฝ้าเพื่อแสดงความจงรักภักดี และถวายเครื่องบรรณาการอย่างดีที่สุดแด่มหากษัตริย์ยอดนักรบ
ขุนนางแห่งอิซิลดาร์ ชนชั้นสูง และผู้มีอำนาจจากเผ่าพันธุ์อื่นพิจารณาแล้วว่าราชาผู้กลับมากะทันหันได้รับการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติจากท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ ทั้งที่นางเคยหมางเมินพระองค์...การทำตามเจ้าบ้านย่อมไม่มีอะไรเสียหาย
...นอกจากนี้คณะทูตจากรูเมเรียร์ซึ่งพำนักในอิซิลดาร์ก็มาเข้าเฝ้าเช่นกัน
เมื่อราชสำนักอิซิลดาร์ประกาศว่า จะมีการจัดขบวนและงานเลี้ยงต้อนรับราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์อย่างเกรียงไกร พิราบสื่อสารของรูเมเรียร์ถูกส่งจากหอสื่อสารในอิซิลดาร์อย่างเร่งด่วน ราชสำนักรูเมเรียร์แทบโห่ร้องยินดีกับเนื้อหาในสารนั้น
ราชามงกุฏดำผู้พิชิตจอมทัพทมิฬกลับมาแล้ว!
ที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านั้น คือของขวัญอันเป็นสัตว์สงคราม--พยัคฆ์ เหยี่ยว อสรพิษ อาชาศึก ตำรา พืชพันธุ์หายาก ผ้าทอลาย เครื่องประดับหินเวทมนตร์ อัญมณี ทองคำ รวมไปถึงสินแร่ล้ำค่าจำนวนห้าสิบคันรถจากทูตสันถวไมตรีของจอมทัพทมิฬ!!!
“เอิกเกริก” ริวอร์นอร์อยู่ในห้องส่วนตัวของท่านหญิงคนสำคัญ เขาสางนิ้วไปตามแนวขนมันปลาบของเสือดำ--หนึ่งในของขวัญจากจอมทัพทมิฬ
“เจ้าเข้ามาในห้องข้าได้อย่างไร” เอริแอดเน่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ งานเลี้ยงต้อนรับริวอร์นอร์กำหนดจัดโต้รุ่งเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน นางใช้จังหวะพักผ่อนก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำสลับตัวกลับมา ส่วนโรสเวนเร้นตัวอยู่ในหอคอย
เวลานี้เอริแอดเน่สวมแค่เสื้อคลุมผ้าแพรเนื้อนุ่ม นางกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์
“หายไปไหนมา” ริวอร์นอร์ดันตัวเสือดำให้ย่างไปหานาง ก่อนจะไปนั่งบนโซฟาปลายเตียง
“ไม่เห็นหรือว่าข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด” นางแตะที่สาบเสื้อคลุม จากนั้นตวัดมือลูบแก้มเสือดำ “ทมิฬส่งของขวัญมาให้เจ้า ทีนี้คงโจษจัน” จอมทัพทมิฬทำเช่นนี้ ด้านหนึ่งมองได้ว่าเป็นความใจกว้างของผู้ปกครองแผ่นดินที่มีให้แก่ศัตรูคู่ปรับ อีกด้านหนึ่งคือบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของเหล่าเอลฟ์จากภายใน สร้างความเคลือบแคลงในตัวริวอร์นอร์ใช่หรือไม่…
น่าขำที่อย่างไร...ความสัมพันธ์ก็พังทลายอยู่แล้วละนะ“เรากับจอมทัพทมิฬเป็นสหายที่ดีต่อกัน” ริวอร์นอร์เผยรอยยิ้มร้ายเกินร้าย “บางครั้งที่ประดาบ เราเหมือนได้พบพี่น้องที่แท้จริง”
“หึ” เอริแอดเน่เหยียดในใจ เสียแรงที่ท่านเฟรธูรินเมตตาเจ้า นางยกมืออย่างนุ่มนวล นางกำนัลก็ถอยออกไป รอจนอยู่ตามลำพัง นางจึงเอ่ย “ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาที่ห้องของข้าอีก”
“ขอรับ...นายหญิง” ริวอร์นอร์ไล้ริมฝีปากขณะพิจารณาสตรีโฉมงามผู้มีพิษร้าย “เราไม่อาจขัดวรรณะเวทของเจ้าได้ก็จริง เอริแอดเน่ แต่เรากุมความลับเดียวกับเจ้า เช่นว่า...เจ้าคืนชีพให้เราอย่างที่เอลฟ์ไม่พึงทำ เจ้าช่วยให้อาเลธตัดคอเรา และเจ้าหยามเกียรติเราด้วยการผนึกวิญญาณในโลงหิน เจ้าไม่คิดว่าเราควรทำดีต่อกันหรือ”
เอริแอดเน่รินสุราทับทิมลงแก้วเจียระไน นางย่างเท้าอย่างนุ่มนวลไปยืนหน้าระเบียงหินอ่อนที่เปิดกว้าง มองทิวทัศน์ท้องทะเลยามเย็นจากมุมงดงามที่สุดของราชวัง--ของกำนัลแด่นางกษัตริย์ ริมฝีปากอิ่มแตะขอบแก้ว ดื่มของเหลวสีแดงใส และเอ่ย
“ความลับที่จะพากันล่มจมทั้งหมดน่ะหรือ” นางกรีดรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าเจ้ารักตัวเองแค่ไหน เจ้าไม่มีทางยอมเสี่ยง”
“เราเรียนรู้อะไรมากกว่านั้นจากความตาย” เห็นว่านางจงใจทิ้งระยะห่าง ริวอร์นอร์ก็อดเข้าไปใกล้เพื่อหยอกเย้าไม่ได้ เขาลุกขึ้น เดินไปยืนซ้อนด้านหลัง ไล้ฝ่ามือกับหลังมือเนียนขาวก่อนจะสอดนิ้วประสานนิ้ว ตรึง...และขังนางไว้ในอ้อมกอด ยัง ยังไม่พอ เมื่อนางทำท่าจะขืนออก จมูกโด่งก็โน้มลงเฉียดปลายใบหูอย่างย่ามใจ
“การเสี่ยงเป็นสิ่งที่เราอยากทำมากที่สุดในเวลานี้ เพราะมันทำให้ใจเต้นแรงจนรู้สึกถึงชีวิต...ที่เจ้ามอบให้”
เอริแอดเน่รู้สึกถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็น มันหนักและรุ่มร้อน ต้นกำเนิดความร้อนมาจากกายเขา ทว่าทั่วสรรพางค์กายของนางเย็นเฉียบ “เจ้ากำลังขู่ข้าเพราะข้าผลักไสเจ้า หรือแค่อยากทำสิ่งที่ขัดกับข้า” นางหันประจันหน้าเขา มือเล็กประสานมือใหญ่ ดันเขาให้ถอยไปยังเตียง หงายหลังและนอนลง “แล้วถ้าข้าอยากทำแบบนี้ เจ้าจะขัดไหม” นางยืนเหนือร่างเขา เล็บคมจิกกลางแผ่นอกแข็งแรง
“ย่อมไม่” ประกายตาขบขันฉายวาบขึ้นมา ริวอร์นอร์ไล้คมเล็บของนางช้าๆ ไปถึงเนื้ออ่อนที่ยึดระหว่างนิ้ว
หัวคิ้วของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ขมวดเข้าหากัน “มักมากไม่เปลี่ยน”
“เรายอมรับ” มืออีกข้างลูบปลีน่อง...สูงขึ้น สูงขึ้นจนถึงขาอ่อนและไม่ยอมหยุดเพียงเท่านั้น
มือของริวอร์นอร์ถูกนางปัดออก “ถือดีอย่างไรมาแตะตัวข้า ข้าไม่ใช่นางบำเรอของเจ้า” ก่อนนี้นางยั่วยวนเขา โอนอ่อนผ่อนตาม เวลานี้แข็งกร้าว ดูขัดแย้งกัน ทว่าทั้งหมดคือเรื่องของการกุมอำนาจ ว่าใครคือผู้นำ และใครคือผู้ตาม เอริแอดเน่อาจเป็นอสรพิษหลังหัก แต่นางไม่มีทางยอมโดนล่ามไว้ใช้งาน
“ผิดแล้ว…” ริวอร์นอร์บีบเคล้นสะโพกแน่น “เราไม่แตะต้องนางบำเรอ พวกนางต่างหากที่ควรให้ความสุขแก่เรา”
“หึ บนเตียงของเจ้ากับพวกนาง ข้าจะเคยเห็นหรือ และข้าไม่สนใจ” นางแกะมือเขาออก ทว่ามือนั้นไม่ยอมขยับ
ริวอร์นอร์ยิ้มมุมปาก เขาดึงนางให้ผวาลงมาทาบทับ ร่างอันนุ่มละมุนไปเสียทุกส่วนเช่นสตรีแนบชิดกับอกแน่นหนั่นอย่างบุรุษ เขาสบนัยน์ตาหยิ่งทะนงของนาง หัวเราะเบาๆ นิ้วช้อนปอยผมสีทองสวยไปทัดหู และถือโอกาสคลึงมันอย่างทะนุถนอม นิ้วของนักรบ...นิ้วของนักฆ่า อ่อนโยนกับนางได้ถึงเพียงนี้
เอริแอดเน่ปรือตาเพราะสัมผัสตรงส่วนนั้นสงวนไว้สำหรับคนรัก นางโกรธ ทั้งโกรธที่ริวอร์นอร์อยู่ใต้อำนาจเวทของนางแต่ทำตัวผยองดั่งเป็นเจ้าของนาง และโกรธตัวเองที่ไวต่อสัมผัสของเขา “ข้ายังเป็นคู่หมั้นของซิกฟรีด เจ้าอยู่ร่วมห้องกับข้า...ไม่เหมาะสม”
ริวอร์นอร์วางมือบนหลังศีรษะของเอริแอดเน่ ลูบเหมือนปลอบโยน “เจ้าปฏิเสธเราได้ไม่ใช่หรือ” เขากระซิบ
หากนางไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง เมื่อครู่...น้ำเสียงทุ้มในอกนั้นเจือการเว้าวอนใช่หรือไม่
“ข้า...”
เมื่อท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์นิ่งไป ริวอร์นอร์ก็ค่อยๆ ดันหลังศีรษะของนางเข้ามาใกล้ ริมฝีปากแตะกันแผ่วเบา เช่นเดียวกับลมหายใจที่แลกเปลี่ยนกันค่อยๆ ถี่ขึ้นและถี่ขึ้น เขาขัดใจนางครั้งแล้วครั้งเล่า แน่นอนว่าจะมีครั้งต่อๆ ไป นางควรยอมเขาหรือ ถ้าไม่ยอมจะทำอย่างไรกับเขาได้
เอริแอดเน่เผชิญการตัดสินใจ ทั้งความรู้สึกและเกมการเมืองล้วนกลายเป็นเรื่องที่คุยกันบนเตียง นางใช้สองมือดันอกริวอร์นอร์ ก้มหน้า สูดลมหายใจ “ข้า...ข้าต้องการเวลาริวอร์นอร์ ถ้าเจ้าพูดความจริง แล้วจะให้ข้าทำอย่างไร” นางกำหมัดทุบอกเขา “บอกว่าไม่เป็นไร ข้าเข้าใจผิดไปเอง ขอโทษที่สังหารเจ้าหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร และความจริงก็คือ...” นางเงยหน้า “เจ้า...สังหาร...เขา”
ท่านเฟรธูริน ข้าจะยกโทษให้กับคนที่สังหารท่านได้อย่างไร...“เรายินดีหากเจ้าเอ่ยคำขอโทษ” ริวอร์นอร์จับคางมน “เรามาเริ่มกันใหม่เถิด”
ช่างใจกว้าง…
แต่ในคำเชื้อเชิญก็แสนอันตราย เอริแอดเน่ทราบดี...ริวอร์นอร์ไม่ใช่คนใจกว้างโดยไม่หวังผลใด
ส่วนเรื่องสังหารพี่ชายตัวเอง ริวอร์นอร์ไม่เอ่ยถึง เขาฆ่าเฟรธูรินจริงและไม่นึกเสียใจ
“ข้ายังไม่เชื่อเจ้า” เอริแอดเน่สงบลง ริวอร์นอร์ชอบความโอนอ่อนของนาง ข้อนี้นางเพิ่งแน่ใจ นางอาจโอนอ่อนให้เขาได้โดยไม่ต้องเสแสร้ง แต่นางจะใช้ประโยชน์จากมันเช่นกัน
“ถ้าอยากได้ข้า จงไปขอเอากับซิกฟรีด ทำให้มันถูกต้อง”
แบบนี้สิเจ็บแสบ จงไปขอเอาจากซิกฟรีดเถิด
“ช่างรู้ใจ” ริวอร์นอร์เลียขอบฟัน ดวงตาสีแดงวาวโรจน์ “เราจะติดต่ออาเลธในวันพรุ่งนี้ เขาควรได้เวลาเตรียมใจก่อนพบหน้าพี่ชายที่ตัวเองฆ่า”
“ก็มาดูกันว่าเขาจะยกข้าให้เจ้าหรือไม่”
ริวอร์นอร์ลูบศีรษะเอริแอดเน่พลางส่งเสียงชี่...เหมือนปลอบเด็กหญิงตัวน้อย “ถ้าเขาให้จริงๆ เล่า เจ้าจะรู้สึกอย่างไร”
“ไม่แปลกใจ” เอริแอดเน่ตอบทันที ออกจะไวเกินไป “เขาค่อนข้างไร้เดียงสา เชื่อว่าความรักสำคัญนัก ข้าให้ใจเขาได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่เขาไม่ต้องการมัน”
เอริแอดเน่ถามใจตัวเองเป็นพันๆ ครั้งหลังสิ้นริวอร์นอร์ว่านางสามารถรักซิกฟรีด--เจ้าชายน้อยในความทรงจำได้หรือไม่ นางตอบตัวเองหลายครั้งว่า ‘ได้’ ทว่าเป็น ‘ได้’ ที่หมิ่นเหม่ อันตราย ทุ่มเทความรักอย่างสิ้นหวัง หน้ามืดตาบอด
“ข้าเคยสาบานว่าจะรักและดูแลเขา ไม่ให้เขากลายเป็นคนที่ผิดพลาดเหมือนกับเจ้า...ข้าจะเป็นราชินีของเขา สร้างราชวงศ์อันเกรียงไกร ทว่าทั้งหมดพังทลายแล้ว พังเป็นกองทราย ข้าเป็นคนที่จมไปแล้วครั้งหนึ่งริวอร์นอร์ วันที่ซิกฟรีดหนีออกจากอาศรมควาร์ เขาไม่พูดถึงดาร์กเอลฟ์ แต่เข้ามาเป็นหลักให้ข้าเกาะ เขาขึ้นเป็นราชา รับข้าเป็นคู่หมั้น ทว่าจากนั้นเขากลับคิดขึ้นมาได้ว่า...” นางหัวเราะ “เขายังรักดาร์กเอลฟ์ และจะรักมันไปพร้อมให้ข้าสมรสกับเขา ร่วมเตียงเขา เลี้ยงดูบุตรของเขา” นางอสรพิษแยกเขี้ยว “ข้าไม่เหลือหลักอะไรให้เกาะอีกต่อไป และเจ้าควรระวังให้ดี เพราะสาเหตุที่ข้าจมล้วนมาจากเจ้า!”
“อืม…” ริวอร์นอร์จ้องลึกเข้าไปยังนัยน์ตาใสดุจอัญมณี เขารู้จักนิสัยใจคอของเอริแอดเน่ดี ทว่าเมื่อครู่ นางเพิ่งเปิดเปลือยความอ่อนแอของตน สตรีผู้พังภินท์เพราะรัก นางมีหัวใจที่แสวงหาความสงบ ความดีงาม--สิ่งที่เขาไม่มีให้
“อย่าบังอาจใช้สายตาสมเพชข้า เขาเต็มใจร่วมเตียง ข้าไม่ตกต่ำถึงขนาดบังคับเขา”
“ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ยังไม่แค้นเคืองอาเลธ” ริวอร์นอร์คล้ายหยั่งเชิง
“เจ้าคิดว่าความแค้นของข้าเป็นของไม่มีราคาหรืออย่างไร จะได้เที่ยวยกให้ใครต่อใคร” นางยกมุมปาก ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ
ริวอร์นอร์ส่ายหน้า “เราเพียงคิดว่าหากเจ้าแค้นเคืองอาเลธสักนิด ‘เกม’ ที่เราจะชวนมันเล่นคงสนุกพิลึก”
เอริแอดเน่เห็นแววตาเฉก ‘ราชามงกุฏดำ’ ยามริวอร์นอร์เอ่ยคำว่า ‘เกม’
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าเกมของเจ้าน่าสนุกแค่ไหน” เอริแอดเน่มองท้า
“เกมดาษดื่นที่เจ้าเคยเล่นมาแล้ว” ริวอร์นอร์แตะปลายจมูกนาง “ ‘ชิงแผ่นดิน’ ”
เอริแอดเน่ทราบมานานแล้วว่าริวอร์นอร์มีบางสิ่งที่สามารถกระตุ้นเร้าจิตวิญญาณของนางให้ลุกไหม้ บางสิ่งที่ไม่ดีงามทว่าทำให้นางอยากก้าวไปยืนเคียงข้างเขา นางลูบรอยสักบนลำคอเขาแผ่วเบา จุดที่นางแย่งชิงทุกสิ่งของเขามา...และคืนให้เขาไป
“ถ้าเป็นเกมนั้น ไม่ว่าข้าคิดอยากเล่นหรือไม่ เมื่อลงสนามแล้ว ข้าก็จะไม่ปรานีใคร”
“แดนทมิฬอาจอยากร่วมกระดานด้วย” ริวอร์นอร์หลงรักไฟในตัวนาง ไฟที่ผลาญได้ทุกสิ่งอย่างไร้ปรานีแม้กระทั่งตัวเขา ราชามงกุฏดำหยัดกายขึ้น ก่อนจะอุ้มราชินีไร้มงกุฏให้นั่งประจันหน้า สายตาเขาขย้ำทุกสัดส่วนในร่างกายนาง
“นี่หรือคือเวลาที่เจ้าให้ข้า” แค่ไม่กี่นาทีของการพูดคุย ทว่าความไม่มั่นใจของเอริแอดเน่คล้ายถูกชะล้าง เพราะริวอร์นอร์...เพราะมีเขา ไม่ว่าจะความรัก ความชัง หรือความแค้นของนาง ล้วนมีเขาเป็นเชื้อไฟ
“เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ” ริวอร์นอร์เหยียดรอยยิ้มพลางกระซิบใกล้ริมฝีปากแดงชาด
นางกระซิบตอบบนริมฝีปากเขา “คำขอโทษไม่มีประโยชน์ ข้าจะกอดเจ้า มอบความสุขให้แก่เจ้า รึกระทั่งรักเจ้า แต่ข้าไม่ลืมว่าเจ้าเคยทำอะไร ถ้าวันใดข้าพิสูจน์ได้ว่าเจ้าพูดโกหกเรื่องในคืนนั้น ไม่ต้องรอบิดาแห่งความตายมาพบเจ้า ข้าจะส่งเจ้าไปหาพระองค์ในสภาพสัตว์นรกน่าสมเพชเวทนาที่สุดเท่าที่นรกเคยให้กำเนิด”
“เราก็ไม่เคยลืม ‘คืนนั้น’ ”
เอริแอดเน่ทราบดีว่าริวอร์นอร์หมายถึงคืนไหน ศีรษะที่ถูกใบดาบคมกริบบั่นกระเด็นยังตอบสนองในชั่วระยะหนึ่ง นัยน์ตาสีแดงเบิกค้างจ้องนางอย่างโกรธแค้น อย่างรวดร้าว...และเจ็บปวดถึงที่สุด ในชั่วขณะนั้นเอริแอดเน่ทราบดีกว่าใครว่า หากไม่ผนึกวิญญาณให้แน่นหนา ริวอร์นอร์จะกลับมาไม่ว่าในรูปแบบใด
“เท่านี้เราก็รู้สึกเหมือนกันแล้วใช่ไหม ช่างน่าดีใจ” เขาจะสั่งการดาร์กเอลฟ์พวกนั้นจริงหรือไม่ นางยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ที่พิสูจน์ได้คือเขาปล่อยให้นางจมน้ำตายในความโศกเศร้า ไม่เคยแก้ตัว ขอโทษ หรือแสดงความเสียใจ
“เราดีใจตั้งแต่ได้เห็นใบหน้าแหลกลาญของเจ้าในวันที่เจ้าปลุกเราขึ้นมา เจ้าถูกอาเลธหยามน้ำใจ แต่ทำไมกันหนอ ทำไมเจ้าถึงยังเมตตามันเหลือเกิน”
“ข้าจะปล่อยให้เจ้าสงสัยต่อไป” นางยิ้ม
ริวอร์นอร์เลิกคิ้ว “รู้จักหยอกล้อด้วยหรือ” เขากระเซ้านางก่อนจะพลิกให้นอนใต้ร่างตน “รักเราเถิด นายหญิง” ริวอร์นอร์ปัดริมฝีปากกับขนตานางก่อนแนบลงไป
ให้นางแผดเผาเขา...และเขาแผดเผานาง
จนกว่าจะถือกำเนิดใหม่จากเถ้าในดินแดนนิรันดร์
—————————————————————————
A/N ขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก อยู่กับริวอร์นอร์เป็นอะไรที่เครียดและกดดันอยู่เหมือนกันนะคะ
แต่ก็หวาน โรแมนติก ใจเต้นไปพร้อมกัน /ช่างเลือกยากจริงๆ XD!
ป.ล. เหลืออีก 1 บทใหญ่ และ 1 บทส่งท้าย Elven Almanac ภาคพันธนาการรักราชันเอลฟ์ ก็จะจบลงแล้วค่ะ
บอกได้เลยว่าเนื้อเรื่องที่เหลือจะกลับไปโฟกัสที่รูเมเรียร์แล้ว ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวอิซิลดาร์กันนะคะ จุ๊บเบาๆ
แฟนอาร์ตสวยๆ คู่ ริวอร์นอร์ x เอริแอดเน่ จากคุณ Ann Sophon ค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ ดีใจมากเลย วาดได้ละมุน รู้สึกถึงความรักเลยค่ะ ;w;

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @ILLREIwriter
♰ LINE : @illrei