บทที่ 25 : รักร้าว (2)
“หลักฐานล่ะ” โคลด์จับแขนมาลแกธไม่ให้พุ่งไปเอาเรื่องราชาหนุ่ม “เจ้าดูมั่นใจมากเลยนะซิกฟรีด” เขาถามเพราะศิลาเวทที่แตกออกแปลว่ามีคนบุกรุกสุสานสำเร็จเท่านั้น
“ข้ามั่นใจมากหรือ” ซิกฟรีดหัวเราะเบาๆ “ข้าแน่ใจต่างหากเล่า” ราชาหนุ่มหยัดกายขึ้นจากพื้น “แต่หากถามถึงหลักฐาน ข้ายังรออยู่เหมือนเจ้า...ที่รัก” เขาหันไปคุยกับโคลด์
มาลแกธแค่นหัวเราะเมื่อเห็นเด็กน้อยหึงหวงผิดเวลา “เจ้าคิดว่าไม่ควรบอกเรื่องสำคัญอย่างนี้ให้ ‘แดนตะวันออก’ รับทราบก่อนหน้านี้หรือ… ‘รูเมเรียร์’ ”
“เรื่องสำคัญที่ว่านี้เกี่ยวข้องกับสถานที่ลับอันมีค่าเทียบเท่าอนาคตของ ‘รูเมเรียร์’ ข้าไม่กล้ารบกวน ‘แดนตะวันออก’ ” ซิกฟรีดยกยิ้มเล็กน้อยและหลุบตาลง แสดงกิริยาสุภาพและให้เกียรติคู่สนทนา
แต่มาลแกธรู้สึกว่าหางตากระตุก
โคลด์แทบจะมองเห็นประกายไฟแล่นเปรี๊ยะๆ อยู่กลางอากาศระหว่างเอลฟ์ผู้นำดินแดนทั้งสอง เขาห่อเหี่ยวใจขณะเอ่ยแทรกความตึงเครียดทางการเมือง “ก่อนจะทะเลาะกัน ฟังข่าวของข้าก่อนไหม เกวนมีเรื่องสำคัญมาบอก”
นกสีขาวตัวเล็กบินจากอกเสื้อมาเกาะไหล่โคลด์
มาลแกธยอมละสายตาเป็นคนแรก เขาผายมือให้โคลด์ ส่วนซิกฟรีดพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
พอถูกทั้งสองจ้อง โคลด์ปวดศีรษะขึ้นมานิดๆ “เกวนบอกว่าที่ไม่ได้ติดต่อมาก่อนหน้านี้เพราะราชามังกร--เอเลียต จับตาดูนาง อ้อ นางยอมบอกแล้วว่าถูกใครจับไป เป็นราชามังกรน่ะ ราชามังกร” โคลด์บดฟันกรอดๆ อย่างไม่พอใจตัวการลักพาตัวพี่สาวของตน
ข่าวนี้ทำให้ทั้งซิกฟรีดและมาลแกธเงียบไป ราชาหนุ่มแห่งรูเมเรียร์ถึงกับยกนิ้วกดหัวตา ไล่อาการปวดศีรษะซึ่งแล่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“เอาละ ที่เกวนยอมบอกก็มีสาเหตุ เพราะนางต้องการแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวของราชามังกร หลังเหตุการณ์ที่เมืองโรสมินาส เกวนถูกจับตาดูไม่ให้ใช้นกส่งข่าว เป็นการจับตาดูที่เข้มงวดมาก ทว่าเมื่อสี่วันก่อน ระบุให้ชัดคือวันที่ศิลาเวทแตก ท่าทางของราชามังกรแปลกไป จากที่คอยเฝ้านางก็กลับไปอยู่ราชวังหลวงและเข้าประชุมขุนนางติดต่อกัน มีมังกรจากหลายอาณาจักรเดินทางมาร่วมประชุมด้วย เกวนจึงเป็นห่วงข้า...รวมถึงพวกเจ้า”
มาลแกธตวัดสายตาไปยังซิกฟรีด “แม้แต่มังกรยังเคลื่อนไหว…” เขาเอ่ยเรียบนิ่ง ทว่าน้ำเสียงทุ้มยังพอจับกระแสไม่พอใจได้ “แดนตะวันออกก็ไม่ควรอยู่เฉย เราเป็นพันธมิตรกับรูเมเรียร์ จะปล่อยให้รูเมเรียร์โดดเดี่ยวได้อย่างไร”
คำพูดของมาลแกธแฝงนัยอันตราย เขากำลังบังคับให้ซิกฟรีดเปิดเผยความลับที่เก็บงำไว้ หรือมิฉะนั้น แดนตะวันออกจะทิ้งรูเมเรียร์ให้เผชิญกับวิกฤติเอง
ทั้งอิซิลดาร์
แดนทมิฬ
มังกร
และราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์
“เจ้าไม่ปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวอยู่แล้ว ก็เป็น ‘สหาย’ กันไม่ใช่หรือ” โคลด์ขัดมาลแกธ ทว่าไม่ใช่ด้วยสีหน้าเอื่อยเฉื่อยเป็นนิจ แต่เป็นสีหน้าจริงจังแบบฮีมเดียร์ จากนั้นก็หันไปหาซิกฟรีด “เจ้าเองก็จะไม่ปิดบังเขา เพราะเขาเป็นสหายของเจ้าใช่หรือไม่”
หยั่งเชิงกันครู่ใหญ่ ซิกฟรีดก็ยอมเอ่ยปากเรื่องพระศพของราชามงกุฏดำซึ่งถูกผนึกไว้ในแต่ละที่ รวมถึงการสืบหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องโดยอิลราลานและกอห์นดีเอน
หลังฟังจบ มาลแกธเข้าใจว่าทำไมซิกฟรีดจึงไม่เอ่ยถึงก่อนหน้านี้ พระศพของกษัตริย์...หากตกอยู่ในมือแผ่นดินอื่นอาจถูกนำไปใช้ประโยชน์ เช่นเปิดโปงว่าพระศพไม่ได้ผ่านนาวาพิธีจนเกิดความแคลงใจในตัวราชาคนปัจจุบัน หรือใช้เป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง รวมไปถึงใช้ทำลายขวัญกำลังใจทหารหาญและประชาชนชาวรูเมเรียร์
เวลานี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ซิกฟรีดแน่ใจว่าริวอร์นอร์กลับมาสู่โลกคนเป็นแล้วแม้จะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด และสงสัยว่าผู้ที่นำราชามงกุฏดำกลับมาจากความตายคือท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์--เอริแอดเน่
“บิดาของข้ามีเมตตาพิลึก” มาลแกธนับถือพระบิดาแห่งความตายเป็นบิดาแท้ๆ ของตน “แบบนี้ไม่ดีแน่…” เขารำพึง “เมื่อใดที่คนตายกลับสู่โลกของคนเป็น...เมื่อใดที่พระบิดาแห่งความตายทรงปิดพระเนตรไม่รู้ไม่เห็นเสียข้างหนึ่ง นั่นแปลว่าหายนะครั้งใหญ่จะมาเยือน”
เหมือนครั้งที่ข้าคืนชีวิตให้แก่จอมทัพทมิฬ โคลด์คิด
“สงคราม...” ซิกฟรีดเงยหน้ามองท้องนภาผ่านน้ำในอ่างแก้วเจียระไน “อาจเป็นสงครามสามแผ่นดิน”
เขานึกถึงคำทำนายที่เคยได้ยินสมัยเด็ก
พวกท่านกำลังเล่นสนุกอะไรอยู่หรือ บิดา...มารดาโคลด์ลูบตัวนกสีขาวอย่างใช้ความคิด “มาลแกธ เจ้าทราบสาเหตุที่เอริแอดเน่ร่วมมือกับซิกฟรีดไหม” สาเหตุที่ซิกฟรีดเคยเล่าเป็นเรื่องส่วนตัวของนาง ถึงเขามีบัญชีแค้นกับนางก็มิใช่ข้ออ้างให้ทำตัวไร้เกียรติเปิดเผยมัน แต่เขาต้องประเมินสถานการณ์ จึงเอ่ยถามแบบไว้หน้านางโดยไม่ลงรายละเอียด
“ให้พูดตรงๆ ใช่หรือไม่” มาลแกธคล้ายขออนุญาตโคลด์
โคลด์เหลือบมองซิกฟรีด เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ค้านก็พยักหน้าให้มาลแกธ
“เอริแอดเน่เมตตาเจ้ามาก ราชาผู้เยาว์ หากเป็นอสรพิษอิซิลดาร์นางอื่น รูเมเรียร์คงโดนอิซิลดาร์เขมือบไม่เหลือแม้แต่กระดูก เจ้าให้ข้ามาคานอำนาจของอิซิลดาร์ หึ...นางต่างหากที่ปรามข้า และเจ้าโชคดีที่มีโคลด์ สตาร์ ข้าจึงยั้งมือ รูเมเรียร์ยังแข็งแกร่งได้เพราะชื่อบรรพกษัตริย์ นั่นรวมถึงราชามงกุฏดำ...ไม่ใช่เจ้า หากให้ข้าตอบว่าทำไมเอริแอดเน่หรือมารดาแห่งอสรพิษร่วมมือกับเจ้า ข้าพูดได้คำเดียว… ‘รัก’ ”
โคลด์คิดว่ามาลแกธพูดตรงและแรงทีเดียว...แต่ก็ใกล้เคียงสิ่งที่เขาประเมิน ซิกฟรีด มาลแกธ เอริแอดเน่ ต่างฝ่ายต่างใช้งานกันและกันตามเกมการเมือง ทว่าด้วยสาเหตุที่ซิกฟรีดเคยเล่า...สำหรับเอริแอดเน่ การจะร่วมเตียงกับซิกฟรีดได้ย่อมมีความรักร่วมด้วย
“แต่อย่าถามหาความรักที่ไร้ผลประโยชน์หากเจ้ายังเป็นราชา”
มาลแกธขยี้ซิกฟรีดในจุดที่เจ็บที่สุด ทว่านั่นเป็นความจริง เขาเคยเป็นผู้นำตระกูลล็องธู ตำแหน่งเทียบเท่าราชาในรูเมเรียร์...เคยผ่านทุกสิ่งที่ซิกฟรีดกำลังจะผ่าน แม้ในปัจจุบันจะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับผู้อื่น แต่ประสบการณ์ยังคงอยู่
ซิกฟรีดไม่ได้โต้เถียง เขาทราบสิ่งที่มาลแกธพูดอยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติ ช่างยากยิ่งที่จะปล่อยวาง
มาลแกธเสริมต่อไปว่า “และหากนางคืนชีพให้ราชาริวอร์นอร์จริง เป็นไปได้ว่านางเปลี่ยนความรักที่มีต่อเจ้าให้เป็นความเกลียดชัง สตรีที่มีความเกลียดชังอัดแน่นอยู่ในใจ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย”
โคลด์เห็นซิกฟรีดนิ่งเงียบจากประเด็นที่เขาเปิดก็รู้สึกเห็นใจ “ใช่แล้ว!” เขาโพล่งอย่างนึกขึ้นได้ จากนั้นก็ลดเสียงลง “เจ้าเคยเห็นรอยกรีดบนร่างเอริแอดเน่ใช่ไหม รอยกรีดแบบนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกันทุกอัน วาดให้ข้าได้ไหม ข้าอาจสืบได้ว่าริวอร์นอร์ร่วมมือกับทมิฬเผ่าไหน”
ซิกฟรีดไม่อยากนึกถึงสิ่งที่หลู่เกียรติพี่หญิง แต่เขาก็ลงมือวาดรอยกรีดนั้นบนถาดทรายในหอสัมผัสเสียง
มาลแกธประหลาดใจเมื่อเห็นตราในถาดทราย เขาไม่ชำนาญเวททมิฬ มีความรู้เกี่ยวกับแดนทมิฬอยู่บ้างแต่ไม่ถึงขั้นลึกซึ้ง เพียงแต่...ตราที่ซิกฟรีดวาดช่างคุ้นตาอย่างยิ่ง
มันเป็นตราที่ชนเผ่าดาร์กเอลฟ์ประทับลงบนตัวสัตว์เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ เช่นวัวหรือม้าฝูงนี้เป็นของเผ่าไหน และถ้ามาอยู่บนร่างคน...มันก็คือ...!
มาลแกธตัดสินใจไม่พูดอะไร ไม่ถาม ไม่ออกความเห็น ตรานี้ทำให้เข้าใจว่าทำไมท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ถึงเกลียดเผ่าพันธุ์ดาร์กเอลฟ์นัก
โคลด์พิจารณาตราในถาดทรายอยู่ครู่หนึ่ง “จำได้แล้วใช่ไหมเกวน” เขาถามนกสีขาว มันร้องจิ๊บเบาๆ เป็นการตอบรับ โคลด์จึงปาดทรายให้เรียบ ลบภาพออกอย่างว่องไว “ข้ากับเกวนต้องใช้เวลาแยกสัญลักษณ์ ข้าจะสืบจากที่นี่ ส่วนเกวน…”
นกสีขาวร้องจิ๊บๆ สั้นและยาวอีกสองสามที
“นางจะใช้นกไปสืบที่แดนทมิฬ อาจช้าหน่อย แต่ถ้ามีเบาะแสจะรีบมาบอก แบบนี้เราอาจหาสถานที่ทดลองเวททมิฬของริวอร์นอร์ได้ไวขึ้น ขอโทษที่ข้าเพิ่งนึกออก” โคลด์ตั้งใจเอ่ยต่อหน้ามาลแกธ เพื่อลดความลับระหว่างรูเมเรียร์และแดนตะวันออก มาลแกธทราบเรื่องริวอร์นอร์แล้ว ช้าเร็วก็คงทราบเรื่องซิกฟรีดกำลังตามหาสถานที่ลับของริวอร์นอร์ด้วยเช่นกัน
นี่จึงไม่ใช่เวลามากุมความลับให้แตกคอกันเอง
ซิกฟรีดเห็นดี เขาเอ่ยเป็นภาษาควาร์ถึงกอห์นดีเอนว่าจะมีกำลังเสริมช่วยค้นหาสถานที่ลับของริวอร์นอร์
“หรือจะลองใช้วิธีสืบรอยแบบควาร์” มาลแกธกอดอก “ข้าถนัดเรียกใช้ไฟ ถ้านำของส่วนตัวของราชามงกุฏดำมาเผาในอ่างแก้ว ข้าจะได้ยินเสียงชัดขึ้น บางทีความทรงจำของสิ่งของอาจนำไปสู่อะไรก็ตามที่เรากำลังค้นหา”
ซิกฟรีดลูบริมฝีปาก ครุ่นคิด “ก็น่าลองอยู่…”
ราชาหนุ่มสั่งให้ข้ารับใช้นำฉลองพระองค์ซึ่งราชามงกุฏดำทรงบ่อยที่สุดมายังหอสัมผัสเสียง จากนั้นให้ชักอ่างแก้วเจียระไนลงมาแล้วถ่ายน้ำออกทั้งหมดเพื่อวางฉลองพระองค์ ก่อนจะสั่งให้พวกมันออกไป หับประตูปิด และห้ามผู้ใดรบกวนเช่นเดิม (และโคลด์ก็ออกมาจากที่ซ่อนหลังผ้าทอแขวนผนัง)
“ใครจะชักอ่างขึ้นละทีนี้” มาลแกธพึมพำ “ไม่เป็นไร ข้าหูดี ไม่ต้องครบพิธีก็ได้”
เอลฟ์ตะวันออกดีดนิ้วข้างที่สวมถุงมือเวท ไฟดวงเล็กลุกพรึ่บแล้วลอยคว้างในอากาศ มาลแกธเอ่ยภาษาควาร์ มันเปลี่ยนรูปร่างเป็นผีเสื้อปีกเพลิงหลายตัว บินไปยังฉลองพระองค์ของราชามงกุฏดำ
ไฟลามเลียไหมชั้นดีอย่างเชื่องช้า ควันสีเทาเงินม้วนขึ้นเป็นม่านบาง หอสัมผัสเสียงไร้เสียง กระทั่งผู้ที่มีพรสวรรค์ในการสดับรับฟังตั้งสมาธิ มาลแกธยืนไม่ไกลจากอ่างแก้ว ไฟดึงเอาความทรงจำของไหมทุกเส้นออกมาตีแผ่ให้เอลฟ์ตะวันออกฟัง
แต่แล้ว...จู่ๆ ไฟก็โหมขึ้น ฉลองพระองค์ไหม้อย่างรวดเร็วและส่งกลิ่นเหม็น เสียงกระซิบดังขึ้น ดังขึ้น จนแม้แต่โคลด์หรือซิกฟรีดยังได้ยิน มันเป็นเสียงหัวเราะสมเพชกึ่งสาปแช่ง!
‘ข้ารับใช้ราชามงกุฏดำ! ข้าไม่รับใช้มันผู้อื่น!’
ไฟพุ่งสูงถึงยอดโดม แทบทะลุออกไปแตะฟ้า เส้นไหมและดิ้นทองหดตัวฉับพลันจนเหมือนฉลองพระองค์ทั้งชุดกำลังดิ้นเร่า
‘ข้าเป็นของราชามงกุฏดำ!’เลือดไหลออกจากหูของมาลแกธ เสียงกรีดร้องกลายเป็นเสียงร่ายเวท เอลฟ์ตะวันออกเอ่ยภาษาควาร์ดับไฟ แต่ไฟสีแดงกลับเป็นไฟสีดำทมิฬ
ซิกฟรีดร่ายเวทควาร์เพื่อเรียกน้ำแต่ไม่เป็นผล เขาสูญเสียความสามารถของควาร์ให้กับเงาทมิฬไปแล้ว ซึ่งหากเวลานี้ใช้เงาทมิฬปะทะคำสาปทมิฬอาจส่งผลร้ายมากกว่าดี
มาลแกธป้องหูที่ปวดเจียนตาย เขาคำรามภาษาควาร์อีกครั้ง น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแท่นซึ่งตั้งอยู่ตามเสาในหอสัมผัสเสียงกลายเป็นพราย มันเข้าดับไฟทันที
“เงียบซะ!” มาลแกธหันฝ่ามือไปทางไฟปีศาจ พรายน้ำพุ่งสูงขึ้นแล้วสาดลงมาใส่มัน
‘ขอให้เจ้าพินาศ!’มาลแกธแยกเขี้ยว เขาคำรามลั่น พรายน้ำพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งแล้วตกลงมาในรูปห่าฝน
เมื่อไฟสีดำอ่อนแรงเพราะน้ำ มีดสั้นเล่มหนึ่งถูกปาเข้าไปปักกลางฉลองพระองค์ที่ลุกโชน ทำให้ชุดที่กำลังเต้นเร่าถูกตรึง เสียงร่ายเวทสั้นๆ ภาษาดาร์กเอลฟ์ดังตามอย่างดุดัน ห่าฝนกลายเป็นหนามน้ำแข็ง เย็นจัดปะทะร้อน เปลวไฟมอดแล้วดับ ฉลองพระองค์กลายเป็นเถ้าละเอียด เหลือเพียงมีดสั้นน้ำแข็งใบมีดเรืองสีฟ้าเย็นปักอยู่กลางอ่างแก้วเจียระไน
ทุกอย่าง...ค่อยๆ สงบลง
สีหน้าของซิกฟรีดเคร่งเครียดเมื่อเสียงหัวเราะยังคั่งค้างอยู่ในมวลอากาศ มาลแกธเซเล็กน้อย เขาลูบใบหูที่ปวดจนชาของตน ได้เลือดสดๆ ติดปลายนิ้วมา
“มาลแกธ” โคลด์รีบเข้าไปดู
“ปกติควาร์ไม่ได้รับอนุญาตให้คุยกับของส่วนตัวของคนอื่น” มาลแกธอธิบายกับโคลด์ “ยิ่งเป็นสิ่งของที่เจ้าตัวผูกพันยิ่งต้องห้าม เพราะอาจเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อครู่”
แต่อย่างไรก็มีข้อยกเว้นบางประการ อย่างเช่นครั้งที่ซิกฟรีดเคยกร่อนมีดของโคลด์ในถ้ำมังกร มันเชื่อฟังเนื่องเพราะไม่ชอบใจที่โคลด์จะนำไปแงะฟันมังกรดิน หรือหากควาร์มีอำนาจแข็งแกร่งเพียงพอก็สามารถทำได้
“ไม่เป็นไร ถือว่าได้ลอง” โคลด์ล้วงผ้าเช็ดหน้าให้ “ยังเจ็บอยู่ไหม...”
“ได้ความหรือไม่” ซิกฟรีดถามแทรก
มาลแกธส่ายหน้า “รู้แค่เป็นชุดที่ริวอร์นอร์ชอบใส่ไปหาเอริแอดเน่”
โคลด์นิ่วหน้า “น่ากระอักกระอ่วนหรือเปล่า…” เขาถามไม่ค่อยเต็มปาก
“มากทีเดียว” มาลแกธเอียงศีรษะให้โคลด์ช่วยซับเลือด
ดาร์กเอลฟ์แตะผ้าแผ่วเบา ที่จริงถ้าชุดไม่ได้ผล เขาว่าจะเสนอให้เผาเครื่องประดับหรืออาวุธของริวอร์นอร์ แต่แค่ชุดก็แผลงฤทธิ์ขนาดนี้...ไม่ควรเสี่ยงให้มาลแกธหูดับมากกว่า
“รอหูข้าหายปวดก่อนค่อยเริ่มกันใหม่” มาลแกธว่า “อาจต้องหาวิธีเสริมเวทป้องกัน”
“ระวังถูกครอบงำ” ซิกฟรีดเอ่ยขณะมองเถ้าฉลองพระองค์ “เจ้าอาจเป็นเถ้าแทนชุดของริวอร์นอร์” เขาไม่ได้ขู่
“เรายังมีอีกหลายวิธี ไม่จำเป็นต้อง...อืม…” โคลด์กระแอม “เสี่ยง...” ถึงเขาจะเคยทำมาลแกธเกือบตายมากกว่านี้ก็เถอะ
“ไปพักเถิด” ซิกฟรีดระบายลมหายใจ ตัวเขาเองก็ล้าเต็มทน
“ข้าจะใช้ห้องสมุดต่ออีกหน่อย” โคลด์มองซิกฟรีด ชั่งใจ ก่อนเอ่ยว่า “เราทราบว่าเอริแอดเน่มี ‘สาเหตุ’ ให้เกลียดริวอร์นอร์ขนาดล้มบัลลังก์ ถึงนางจะโกรธเคืองเจ้ามากแค่ไหน ก็ไม่น่าปลุกชีพริวอร์นอร์โดยลืมสาเหตุนั้น”
จากการหยั่งเชิงมาลแกธก่อนหน้า ทำให้โคลด์ทราบว่าเอลฟ์ตะวันออกไม่ทราบสาเหตุที่ว่านั้น แต่เขากับซิกฟรีดทราบ...และต่างเข้าใจกันดีว่ามิใช่เรื่องที่ควรพูด
ซิกฟรีดสบตาโคลด์ ใช่...เขารู้สาเหตุนั้นดีกว่าใคร
“นั่นทำให้ข้าส่งอิลราลานไปสืบท่าทีของอิซิลดาร์และพี่หญิง”
ความต้องการแท้จริงของเอริแอดเน่ยังอยู่ในหมอกมัว
—————————————————————————
A/N สวัสดีค่ะ กลับมาลงนิยายทุกวันแล้วนะคะ หวังว่าจะลงจนจบได้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ และเริ่มเปิดจองหนังสือต้นเดือน ก.ค. 60 ค่ะ ตอนนี้ลิสต์ตอนพิเศษที่จะเขียน เน้นแต่คู่ฟินๆ ของเรากับคุณ FOULSOUL ทั้งนั้น (คู่หนุ่มๆ ทั้งหมด รายละเอียดจะแจ้งอีกครั้ง)
แล้วก็กำลังคิดอยู่ว่าของแถมรอบจองจะเป็นอะไรดี
อาจจะเป็นมินิโนเวลสั้นๆ แบบที่หนังสือญี่ปุ่นชอบทำนะคะ
จะได้พิเศษเฉพาะรอบจองจริงๆ 
ป.ล. ตอนนี้ตัวละครหลักโฉบๆ กลับมามีบทบาทให้หายคิดถึงกันแล้วจ้า!
ป.ล. 2 ซิกฟรีดหึงอีกแล้วค่ะ ^^; จับสังเกตกันได้ไหมนะ... /ตอนถามแทรกไง /ชี้ๆ กระซิบๆ
ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz