บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (5)
“ฮีมเดียร์”
เสียงทุ้มนุ่มนวลของบุรุษปลุกโคลด์อีกครั้ง เรียกชื่อเก่าที่เขาฝังไว้ สัมผัสอบอุ่นประทับบนริมฝีปาก กลิ่นหอมคุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย
โคลด์ค่อยรู้สึกตัว...ว่าเมื่อสักครู่เขาหลุดปากเอ่ยประโยคสุดท้ายในความฝันออกมาจริงๆ
“มาลแกธ” ดาร์กเอลฟ์มองอาจารย์ของตนเต็มตา รอยน้ำตาเป็นทางบนผิวแก้มสีเข้ม มาลแกลทับเขาไว้ทั้งตัว จับข้อมือกางออก ดูจากสภาพแล้วคงยึดไว้ไม่ให้ดิ้น ผิวเปลือยของเขาถูกกดด้วยร่างล่ำสันของเอลฟ์ตะวันออก ผู้สวมกางเกงนอนตัวเดียว
ฮีมเดียร์มองอย่างเหม่อลอย ยกศีรษะขึ้นให้ปากใกล้ปาก หัวใจของเขาขาดพร่องความอบอุ่นซึ่งโหยหาอย่างแรงกล้า
“ข้าอยู่ตรงนี้...ที่รัก” มาลแกธปัดปลายจมูกกับปลายจมูก
“จูบข้า” ฮีมเดียร์สูดจมูก เขายอมให้อีกฝ่ายยึดข้อมือไว้ แรงบีบหนักแน่นแต่ไม่ทำร้ายทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ไม่ตื่นกลัว
“ขอรับ” มาลแกธยิ้ม มือที่กดข้อมือเปลี่ยนมากอบใบหน้า แล้วช้อนขึ้นให้รับจูบอ่อนหวาน
ทายาทแห่งเผ่าจันทร์แตะปากเหมือนลิ้มรสน้ำหวาน...ผิวเนื้อทุกส่วนของเขาตื่นตัว เสื้อคลุมของมาลแกธลื่นอยู่ใต้ร่าง...ด้านบนคือร่างกำยำแข็งแกร่งสมเป็นยอดนักรบแห่งแดนตะวันออก
จูบร้อนแรงขึ้น เมื่อลิ้นของมาลแกธสอดเข้ามาในปากอย่างกึ่งขออนุญาตกึ่งบังคับ เขาโอบศีรษะและแผ่นหลังของฮีมเดียร์ ยกขึ้นมาแนบชิด
หิวกระหาย...ฮีมเดียร์เข้าใจสัมผัสของเอลฟ์ตะวันออก แม้ภายนอกนุ่มนวล แต่ภายในคล้ายสัตว์ร้ายที่กำลังดึงโซ่ล่ามออกทีละเส้น
เขาหลับตา ค่อยๆ แตะลิ้นตอบ เหมือนสัตว์ที่ทำความรู้จักกันช้าๆ...ค่อยๆ เปิดหัวใจออก
ทว่ามาลแกธประกบปากแน่นขึ้น จนเขาต้องหายใจผ่านปากของอีกฝ่าย
ร่างสีม่วงอมเทาแอ่นขึ้นเหมือนจะประท้วงว่า
‘ข้าหายใจไม่ออก’
มาลแกธจึงเลื่อนใบหน้าลงมาที่ต้นคอของฮีมเดียร์ จูบหนักๆ ตั้งแต่ใต้คางจนถึงแผ่นอก ก่อนจะเลื่อนกลับขึ้นมาที่ข้างลำคอ เม้มหนักเสียจนขึ้นเป็นรอยช้ำ ฮีมเดียร์มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ทำให้มาลแกธอดทนไม่ไหว มือเริ่มสัมผัสผิวเนียนบริเวณเอว...และสะโพก
ไม่ห้าม...ฮีมเดียร์หรือโคลด์ไม่ห้ามเลย สัมผัสของมาลแกธช่วยลบความฝันอันโหดเหี้ยมได้...ทว่าเขาจำเป็นต้องถาม
“เจ้าใจดีจริงหรือเปล่า”
“คนตัดสินคือเจ้า” มาลแกธลากริมฝีปากกับหน้าท้องของฮีมเดียร์ ซึ่งเกร็งเพราะอารมณ์ใคร่พุ่งสูง
ฮีมเดียร์หลับตา สองมือขยุ้มผมสีทองแดง “เจ้ากระหาย” แอสซาสซินหนุ่มบิดร่างตามรอยที่ริมฝีปากลากผ่าน
รอยเม้มผิวเนื้อต่ำลงมาถึงต้นขาด้านใน
บนเตียง...มาลแกธพูดน้อย เขาให้สัญชาตญาณนำ มือและปากชำนาญเหลือร้ายสัมผัสทุกส่วนที่ตนกระหาย ส่วนอ่อนไหวของฮีมเดียร์ถูกกระตุ้นให้ชูชันร้อนผ่าว
ดาร์กเอลฟ์ครางเสียงเบา ริมฝีปากสีม่วงอ่อนเผยอออก แสงยามเช้าลอดผ่านกรอบหน้าต่างไม้ ผ้าม่านผืนบางปลิวตามแรงลม ชายที่เขาเคยเรียกว่าอาจารย์กำลังปลอบโยนเขาในแบบที่ต่างออกไป
“มาลแกธ...มาลแกธ” ฮีมเดียร์กลับมาเป็นโคลด์ สตาร์ เขาตั้งเข่า สะโพกยกตามความสุขที่ปากของอีกฝ่ายมอบให้
“มาลแกธ…!”
โคลด์ลืมตา ขยุ้มกลุ่มผมที่อยู่ตรงกลางระหว่างขา “ข้าจะ…” ใบหูสีเข้มลู่ลง “จะ...แล้ว อือ…!”
ภาพมาลแกธเงยหน้าขึ้นมาทำให้หัวใจของโคลด์เต้นแรงกว่าเดิม ดวงตาของเอลฟ์ตะวันออกเป็นสีแดงเร่าร้อน ภายในมีประกายเพลิงลุกโชนอย่างให้สัญญาถึงสิ่งที่ร้อนแรงยิ่งกว่า
ลือกันว่าเอลฟ์ตะวันออกเป็นทั้งนักรบและนักรัก ดูท่าจะเป็นความจริง
มาลแกธช่วยปลดปล่อยราคะให้โคลด์ ก่อนที่จะทำให้มันปะทุยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาถอดผ้าพันเอวออก ปลดกางเกงของตัวเองลงให้โคลด์เห็นอารมณ์ซึ่งขยายออกเต็มที่
เขาจับหัวเข่าของโคลด์แยกออก ดันสะโพกเข้ามา
“ตรงไหนที่รู้สึกดีให้บอกข้า” เอลฟ์ตะวันออกพูดปนหอบ รอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์เหลือร้าย เขาตื่นตัวราวกับเอลฟ์หนุ่มเพิ่งหัดทำรัก อาจเพราะรอเวลานี้มานานจนไม่อยากรอ
“จะ เจ้า!” โคลด์ไม่คิดว่ามาลแกธจะทำต่อ...เห็นแล้วว่าความหิวกระหายของบุรุษตะวันออกไม่สามารถดับลงง่ายๆ
โคลด์ถดสะโพก ไม่คิดว่ามาลแกธจะพร้อมรบบนเตียงขนาดนี้ “ข้าเจ็บ...” เขาไม่ได้ร่วมรักกับใครมานานแล้ว สายตาดุปนน้ำตาบอกว่า ‘ข้ายังไม่รู้สึกดี’
มาลแกธจึงหยุด แล้วโน้มตัวลงมาโลมเลียยอดอกที่อ่อนไหว ขณะเดียวกันก็เลื่อนมือต่ำ ขยับมือเนิบช้า กำรูดส่วนที่เพิ่งอ่อนตัวให้แข็งขึ้นมาใหม่อย่างมีศิลปะ เมื่อโคลด์ถูกกระตุ้นไปทุกส่วน เขาก็ค่อยๆ ดันตัวเข้าไปใหม่จนสุด
เมื่อร่างกายของพวกเขาขยับเข้าหากันในจังหวะที่ลื่นไหลกว่าเดิม โคลด์กำผ้าปูที่นอน ปรือตาถามมาลแกธเสียงพร่า
“ข้าผิดหรือเปล่าที่อยากทำแบบนี้”
“หากเจ้าคิดว่าผิด เทพีแห่งความรักที่สถิตในตัวข้าคงเสียพระทัยแย่” มาลแกธจูบแก้มโคลด์แล้วยิ้มให้ “ข้าไม่เคยสนใจพระองค์จนตอนนี้ ข้าผิดหรือไม่”
“อึก! อือ!” โคลด์ส่ายหน้าเกลือกหมอน ใบหูสองข้างลู่ลง มือของมาลแกธช้อนใต้ข้อพับขา ยกสะโพกเขาจนตัวงอ ต้นขาด้านนอกแบออกแทบติดเตียง “ข้าคิดว่า...ข้ายอมเจ้าตั้งแต่เจ้ายอมให้ข้าฆ่า” ใบหน้าแดงซ่านของดาร์กเอลฟ์ในแสงยามเช้าช่างเร้าอารมณ์
“ข้าเป็นของเจ้าที่รัก…” มาลแกธส่งแรงหนักขึ้น “และเมื่อใดที่เจ้ายอมเป็นของข้า นั่นจึงเป็นความรักอันสมบูรณ์”
โคลด์ร้องอ้า! สติของเขาแตะจุดสูงสุด นิ้วเท้าทั้งสิบจิกเตียง “ให้ข้าอีก!”
โคลด์คิดว่าสิ่งนี้ดีแล้วสำหรับการตัดใจจากซิกฟรีด...ซิกฟรีดเป็นราชาแห่งเอลฟ์ มีราชินีที่คู่ควร ความคิดที่จะเก็บดาร์กเอลฟ์ไว้ข้างกายเหมือนความฝันของคนบ้า
เขาจะไม่ตอบสนองความฝันนั้น
เขาไม่อยากให้ซิกฟรีดเป็นบ้า
แต่ยังทิ้งไปตอนนี้ไม่ได้...ต้องใช้เวลา...โคลด์น้ำตาคลอ
มาลแกธจูบโคลด์แบบที่เรียกได้ว่ากลืนกิน แลกลมหายใจแก่กันและกัน เช่นเดียวกับคลื่นอารมณ์ที่ซัดอย่างรุนแรง
เตียงเล็กสะเทือนไปทั้งหลัง เตียงไม้ราคาถูกส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ดาร์กเอลฟ์ตอบสนองเผ็ดร้อนแบบที่เอลฟ์ตะวันออกไม่คาด ทั้งตวัดขารัดเอว ข่วนหลังเป็นแนวและกัดบ่า ใบหน้าพึงพอใจยอมรับความรักและราคะซึ่งทะลักเข้ามา
โคลด์คำรามฮื่อ! โดยที่ฟันยังในฝังบ่าแข็งแรง
มาลแกธหอบหนัก “เหนื่อยยิ่งกว่าออกรบ” เขาหัวเราะขณะรอโคลด์ปล่อยปาก แล้วแนบหน้าผากเข้ากับโคลด์ ดวงตาสีแดงมองเจ้าชู้
“จริงหรือ...” เมื่ออารมณ์คลายลงโคลด์จึงเอียงใบหน้า ให้อีกฝ่ายจูบที่หู เขาแตะลิ้นบนใบหูสีขาวเช่นกัน
การดูดเม้มใบหูหลังร่วมรัก ทำให้หัวใจอบอุ่นได้มากกว่าคำพูดนับร้อย
“เราควรข้ามอาหารเช้าไป” มาลแกธยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่เอา ข้าหิว” โคลด์เลียโคนหูของมาลแกธ ลูบแผ่นหลังที่ตนเพิ่งข่วนจนเลือดซิบคล้ายขอโทษ “แต่สั่งมากินในห้องก็ได้”
ใจส่วนหนึ่งของโคลด์เจ็บปวดต่อรักแรกที่เขาควรตัดใจ แต่นั่นก็สามปีมาแล้ว...ส่วนคนตรงหน้า แม้ก้ำกึ่งระหว่างความรักกับการถูกใช้ประโยชน์ เขาก็ยังต้องการพิสูจน์
ทว่า...หากโคลด์ได้คลุกคลีกับชาวตะวันออกโพ้นทะเล จะทราบว่าแววตาของมาลแกธไม่ได้นึกถึงผลประโยชน์อื่นใด
นอกจากได้รับความรักตอบเท่านั้นเอง
----------------------------------------------
อิลมาเรแนบหูกับประตูห้องพักของโคลด์อยู่
เนื่องจากเมื่อวานได้เห็นหน้ากันแล้ว แต่เพราะเธอ ‘อบรม’ เจ้าพวกทำมาค้าขายไม่ได้เรื่องนานไปหน่อย เลยไม่ได้คุยกันดีๆ วันนี้เมื่อตื่นแต่เช้า (เที่ยง) ดวอร์ฟสาวจึงรีบมาหาแอสซาสซินคนโปรด เดินกระโดดๆ มาพร้อมงานที่จะจ้างให้ทำในราคายุติธรรม (สำหรับเธอ)
ทว่าสาเหตุที่อิลมาเรต้องหยุดแล้วเอาหูแนบประตูไม้บางๆ ราคาถูกก็คือ...เสียงที่ลอดมาจากข้างในห้อง
“มาลแกธ...” นี่เสียงของโคลด์
“อืม” นี่เสียงทุ้มๆ ของท่านมาลแกธที่ฟังดูเร้าใจยังไงไม่รู้
“ดวอร์ฟ” ส่วนนี่เสียงของ…
เอ๊ะเอลฟ์ร่างยักษ์สวมฮู้ดบังหน้ายืนกอดอกอยู่ด้านหลังเธอ จำได้ว่าเป็นเอลฟ์ที่ลากคอแมดส์ออกจากด้านหลังบาร์
อิลมาเรหมุนตัวกลับไปหนึ่งร้อยแปดสิบองศา ยิ้มแฉ่ง! “นายท่านมีอะไรให้รับใช้เจ้าคะ” แม่ค้าสาวถูมือ เนื่องจากสนิทกับแมดส์นักค้าข่าว จึงทราบว่าเอลฟ์ท่านนี้เป็นถุงทองเดินได้เช่นกัน
“แมดส์กันอาหารเช้าไว้ให้” เอลฟ์บอกนิ่งๆ
โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองมีบริการอาหารเช้า เป็นโรงเตี๊ยมแรกที่ริเริ่มบริการนี้ในเขตนี้ นักเดินทางบอกกันปากต่อปาก หากเปิดห้องพักแรมจะไม่ต้องเสียค่าซุป ขนมปัง และชีสในตอนเช้า เจ็ดนาฬิกาถึงสิบนาฬิกา ถือว่าคุ้มค่า (แม้คุณภาพเหล้าจะแค่พอใช้ และมีการทะเลาะวิวาททุกคืนก็ตาม)
“แต่ข้ามาหาเพื่อนนะเจ้าคะ…” อิลมาเรบุ้ยใบ้ไปทางประตูห้องอย่างสงบเสงี่ยม ถึงเอลฟ์ที่มาที่นี่ส่วนมากไม่ใช่พวกหัวสูง แต่อย่างไรเผ่าเอลฟ์ก็ยังเป็นพวกเจ้ายศเจ้าอย่าง (แน่ว่า พวกเอลฟ์หัวสูง ชนชั้นสูง หรือขุนนางรวยๆ ย่อมไม่มาโรงเตี๊ยมรูหนูแบบนี้)
เอลฟ์มองไปทางประตู เขาได้ยินเสียงกิจกรรมด้านในโดยไม่ต้องเอาหูแนบ ผ่านทางอุปกรณ์เวทที่หน้าตาเหมือนเครื่องประดับห้อง--นาฬิกาทรายสีดำ
“ซุปกำลังร้อน เจ้าไปนั่งรอเพื่อนด้านล่างเถิด”
อิลมาเรไม่ชอบให้ใครมาสั่ง แต่เพราะค้าขายมานาน จับบรรยากาศเก่ง แม้ไม่อยากไป (เพราะอยากฟังต่อ) ก็ยอมเดินไปทางบันไดลงชั้นล่างแต่โดยดี
ผมทรงทวินเทลสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วตามจังหวะการกระทืบเท้า หน้าตาของดวอร์ฟสาวบูดสนิท (นี่คือยอมแต่โดยดีแล้ว) พวกลูกน้องของอิลมาเรคงต้องเป็นกระสอบทรายให้ลูกพี่ต่อไปก่อน
ข้าอยากเจอโคลด์แท้ๆ! อิลมาเรบ่นในใจ เธอเป็นห่วงคู่หูมากทีเดียว
เอลฟ์เดินตาม พอถึงชั้นล่างก็เดินไปด้านหลังบาร์ หยิบผ้าขึ้นมาเช็ดแก้วแทนแมดส์ที่น่าจะยังไม่ตื่น
มีเอลฟ์ร่างสูงท่าทางไว้ตัวอย่างนักรบเจนสนามมาเช็ดแก้วแทนบาร์เทนเดอร์...เป็นภาพที่ประหลาดจริงๆ
—————————————————————————
A/N บทนี้อิลมาเรน่ารักเนอะ \(*0*)/ เฉไฉก่อนเข้าเรื่อง อะแฮ่ม...คือเราเฉไฉเรื่องเรือ official กับเรื่องพระเอกมานานแล้วเนอะ ขอเฉไฉต่ออีกหน่อยละกันเนอะ ^^; แต่สภาพการณ์ตอนนี้ ใจโคลด์อยู่ที่ใคร โคลด์ตัดสินใจยังไง ก็บอกได้ระดับหนึ่งแล้วอะนะ
อาจมีคนผิดหวังต่อการตัดสินใจนี้ หรือมีคนกรีดร้องสมหวังอยู่ แต่อย่างไรก็อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหน รออ่านเรื่องนี้ไปจนสุดทางกันค่ะ ยังมีอีกหลายเรื่องให้ค้นหาเลยนะ จุ๊บๆติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz