บทที่ 31 หนุ่มรำวง
“ไม่ได้ ยังไงฉันก็ยอมไม่ได้เด็ดขาด”เสียงเจ้าของแฟชั่นคัลเลอร์ฟูลค้านคำของพ่อตาลั่นใต้ถุนบ้าน
“บ๊ะ ก็จะไม่ได้ได้ยังไงล่ะวะ”กำนันแม้นแย้ง
จะอะไรซะอีกถ้าไม่ใช่อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะถึงวันสงกรานต์ แล้วที่วัดเขาก็จัดงานประจำปีมีรำวงหาเงินเข้าวัดอีกแล้ว งานนี้ก็เหมือนกับงานวันลอยกระทงไม่มีผิดเพี้ยน ผู้หญิงสมัยนี้เขาก็มีสิทธิมีเสียงกัน พากันเรียกร้องรำวงที่มีหนุ่มๆเพิ่มมาแทนที่จะมีแค่สาวๆ เดือดร้อนหนุ่มๆหน้าตาดีในหมู่บ้านดอนไฟไหม้ต้องเสียสละขึ้นเวทีเพื่อหาเงินเข้าวัด
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ฉันไม่ยอมให้เมียฉันขึ้นเวทีอีกเด็ดขาด”พี่เจิดจำได้ดีเลยว่าครั้งที่แล้วที่ปล่อยให้น้องมะลิขึ้นเวทีแล้วต้องมานั่งหัวเสียแค่ไหน ไหนจะสาวๆต่างหมู่บ้าน ไหนจะหนุ่มๆพากันมองตาเป็นมัน ให้ตายพี่เจิดก็ไม่ยอมหรอก
“เอ้า!! ก็ไอ้ลิลูกข้ามันได้ตำแหน่งนายนพมาศเมื่อวันลอยกระทงมันก็ต้องขึ้นเวทีสิวะ จะได้เรียกแขกหาเงินเข้าวัดให้ได้เยอะๆ”
“ก็แล้วมันใช่เหตุผลไหมล่ะจ๊ะ”พี่เจิดขมวดคิ้วพลางอุ้มไอ้ดาวเรืองตัวเล็กเขย่าไปมา เพราะถ้าปล่อยลงคลานเผลอแปบเดียวคงจะคลานตกตั่งไม้แน่
“ก็ต้องใช่สิวะ เอ็งพูดอย่างกับบ้านดอนไฟไหม้มีคนวัยหนุ่มหน้าตาดีเยอะอย่างงั้นแหละ”
“ก็ฉันนี่ไงล่ะจ๊ะ ฉันขึ้นเวทีแทนน้องลิของฉันก็ได้”ก็พี่เจิดน่ะหน้าตาดี รับรองว่าสาวๆจะต้องแย่งกันซื้อตั๋วมารำวงกับพี่เจิดเยอะแน่ๆ
“พักเลยไอ้ลูกเขย พักความคิดเห็นของเอ็งไปเลย เอ็งเองก็ต้องขึ้นเวทีเหมือนกัน ในฐานะที่เอ็งเป็นเกษตรกรดีเด่นประจำตำบล เพราะฉะนั้นเอ็งจะมาแทนลูกข้าได้ยังไง”
“แต่ว่า…”ถึงกับเถียงพ่อตาไม่ออก มองซ้ายมองขวาหาข้อแก้ตัว
“ไม่เป็นไรหรอกพี่เจิด ก็แค่ขึ้นเวทีรำวง”น้องมะลิตอบ ถึงแม้จะไม่ถนัดไอ้เรื่องรำวงอะไรก็เถอะ
“จะไม่เป็นอะไรได้ยังไงล่ะจ๊ะ พี่เจิดไม่ยอมหรอกนะ”
“เอ็งนี่มันดื้อด้านจังเลยวะไอ้ลูกเขย เรื่องมากจริงเชียว ถ้าเอ็งไม่ให้ลูกข้าขึ้นเวทีแล้วเอ็งจะหาใครมาแทน”กำนันแม้นเท้าสะเอวใส่ เริ่มจะมีน้ำโหกับไอ้ท่าทีหวงเมียจนน่าหมั่นไส้
“กะ ก็ไอ้มิ่งนี่ไงจ๊ะ ไอ้มิ่งนี่ไง พ่อกำนันก็ให้ไอ้มิ่งขึ้นเวทีแทนน้องลิของฉันสิจ๊ะ จับมันปัดฝุ่นหน่อยก็ขึ้นเวทีได้แล้วล่ะจ้ะ”หันซ้ายหันขวาไปเจอหน้าเซ่อๆของลูกสมุนพอดีก็เลยชี้ไปทางไอ้มิ่งมัน
“อะ อ้าว อะไรล่ะจ๊ะพี่ ฉันไปเกี่ยวอะไรกับพี่ด้วย”ไอ้คนที่มันตามติดตูดพี่เจิดเป็นเมียน้อยต้อยๆแหกปากแย้งขึ้นมาทันควัน
“เออน่า มึงขึ้นๆเวทีไปแทนเมียกูแค่นี้ ไม่ตายหรอก”
“เอ้า! ก็แล้วทำไมฉันจะต้องขึ้นด้วยล่ะจ๊ะ เอาเวลาไปกินยาดองไปแซวสาวไม่ดีกว่าเหรอเหรอจ๊ะ”ปากก็บอกแซวสาว แต่เห็นทีไรสาวเมินทุกทีกับผมเผ้ารุงรังของมัน
“เออน่า มึงนี่ไม่รู้อะไร พอมึงขึ้นเวทีนะ เดี๋ยวก็มีสาวๆเขาซื้อตั๋วขึ้นมารำวงกับมึง ดีไม่ดีมึงอาจจะได้เมียก็ได้ ใครจะไปรู้”พี่เจิดตะล่อมมัน
“นะ นั่นสิจ๊ะ”ไอ้มิ่งพยักหน้า เหลือบตาทำท่าคิดตามที่ลูกพี่ของมันบอก
“ตกลงเอาไอ้มิ่งขึ้นเวทีแทนเมียฉันนะจ๊ะพ่อตา”พี่เจิดตกลงเสร็จสรรพ
“เฮ้อออ เอ็งเนี่ยนะ จริงๆเลยเชียว จะเอาอย่างนั้นก็ได้”กำนันแม้นส่ายหน้า
มันก็ยังดีกว่าให้น้องมะลิของพี่เจิดขึ้นเวทีไปให้หนุ่มๆสาวๆแย่งกันรำวงด้วยล่ะวะ นึกถึงคราวที่ไอ้อบต.กัมพลมองนมเมียพี่เจิดแล้วก็แค้นไม่หาย ว่าแล้วก็หันไปกระแซะเมีย ฉีกยิ้มหวานให้เมีย ต่อด้วยก้มลงไปหอมแก้มนุ่มๆฟอดใหญ่
พลั๊วะ!!
ไม่ทันสูดหายใจได้เต็มปอดฝ่ามือพิฆาตก็ฟาดเข้าให้เต็มไหล่ ได้ยินเสียงไอ้ตัวเล็กหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบอกชอบใจที่พ่อเจิดของมันโดนแม่มะลิทำร้ายร่างกาย
“ตีพี่เจิดทำไมล่ะจ๊ะ พี่เจิดเจ็บนะ”พี่เจิดบ่นกระปอดกระแปด หันไปฟัดแก้มไอ้ดาวเรืองตัวน้อยต่อจนหัวเราะดังเอิ๊กอ๊ากลั่นบ้าน
“ทะลึ่ง!!”
“แค่หอมแก้มทะลึ่งที่ไหน ถ้าทะลึ่งต้อง…ต่างหาก”พูดเว้นวรรคให้คิดเอาเอง ผลที่ตามมาก็คือหน้าแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุกเชียว
“แหม่ น้อยๆหน่อยนะไอ้ลูกเขย นี่ข้ากับไอ้มิ่งนั่งอยู่ตรงนี้ทนโท่ ไม่อายผีบ้านผีเรือนก็อายข้ากับไอ้มิ่งมันบ้าง”
“ก็แหม ฉันจะหวานกับเมียบ้างอะไรบ้า…อุ๊บ”เรื่องอายน่ะพี่เจิดไม่อายหรอก แต่ยังพูดไม่ขาดคำมือของเมียก็อุดปากไม่ให้พูดต่อ
“ชักจะพูดมากเกินไปแล้ว!!”
“ก็มันจริงนี่จ๊ะ ผัวเมียกันจะหวานกันไม่เห็นต้องอายเลย”
“บ้าบอ”
แหม่ มีอย่างที่ไหนว่าผัวตัวเองว่าบ้าบอ แต่ก็อย่างว่า คนเขาด่าก็แปลว่ารัก พี่เจิดเลยยอมแล้วยิ้มรับคำด่าว่าบ้าบอ
“ถึงจะบ้าก็บ้ารักนะจ๊ะ”
“โว้ยยยยยย พวกเอ็งนี่มันอะไรกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็พาๆกันกลับบ้านไปไป๊ อีกเดี๋ยวข้าว่าจะไปคุยกับมัคนายกเรื่องงานประจำปีสงกรานต์นี้เสียหน่อย”
พอเสร็จธุระกำนันแม้นก็ไล่ตะเพิดบรรดาหนุ่มๆ ไม่ลืมหันไปหยอกเอินกับหลานผมทองตาน้ำขาวให้ยิ้มจนเหงือกบานน้ำลายไหลย้อย
“งั้นเรากลับบ้านกันเถอะจ้ะน้องลิจ๋า อีกเดี๋ยวก็ได้เวลานอนกลางวันของไอ้ตัวเล็กแล้ว”
-----------------------------------------------------------------------
และแล้วก็ถึงวันงานประจำปีที่จัดขึ้นทุกวันสงกรานต์จนได้ พี่เจิดวางหวีลงบนโต๊ะเครื่องแป้งหลังจากจัดทรงผมจนเรียบแปร้ หันซ้ายหันขวามองตัวเองในกระจกก็ยิ้มย่องหระหย่องใจให้กับแฟชั่นที่ไม่ว่าจะมองกี่ทีกี่ทีก็โดดเด่นสะดุดตา วันนี้ก็เสื้อแดงตัวเก่งเหมือนเดิม กางเกงขาม้าสีเขียวขี้ม้าเหมือนเดิม จัดผ้าพันคอสีเหลืองเสียหน่อยให้เข้าที่เข้าทางแค่นี้ก็หล่อจนไม่มีใครเทียมแล้ว
“พอได้แล้วน่าพี่เจิด เดี๋ยวก็ไปสายเอาหรอก”เสียงเมียดังเรียกเพราะพี่เจิดใช้เวลาแต่งตัวนานไปหน่อย แต่ก็แหม จะขึ้นเวทีทั้งทีก็ต้องโดดเด่นเป็นธรรมดา จะปล่อยให้ใครมาเด่นกว่าไม่ได้หรอก
“พี่เจิดหล่อรึยังจ๊ะน้องลิจ๋า”
“อื้อ หล่อแล้ว”ตอบแล้วเอื้อมมือมาจัดผ้าพันคอให้
แล้วไอ้ที่แอบอมยิ้มมันหมายความว่ายังไงวะ พี่เจิดแอบเห็นนะ ทำเอาพี่เจิดล่ะไม่อยากจะไปวัดแล้วจับเมียไปเคลียกันบนเตียงซะเดี๋ยวนี้
“ว่าแต่น้องลิ ตอนที่พี่เจิดอยู่บนเวทีห้ามให้ใครมาปะแป้งนะจ๊ะ พี่เจิดหวง”
วันนี้ทั้งวันพี่เจิดต้องคอยตามเฝ้าเมียไม่ยอมห่างไม่ให้สาวๆบ้านไหนเอาดินสอพองมาปะแก้มเมีย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่รอดมือสาวๆมือบอน ขนาดพี่เจิดยืนคุมอยู่นะ ถ้าไม่ยืนคุมอยู่จะขนาดไหน
“วันสงกรานต์เขาก็ต้องมีปะแป้งกันเป็นธรรมดา จะหวงอะไรนักหนา ก็ไม่ได้ไปไหนสักหน่อย”
“นั่นแหละ ยังไงก็ห้ามให้ใครมาปะแป้ง ไม่งั้นคืนนี้พี่เจิดคิดบัญชียาว ไม่ปล่อยให้นอนแน่”ว่าแล้วก็คว้าเอวเมียมากอดแล้วก็หอมแก้มซ้ายขวาเป็นการเก็บมัดจำ
“ก็ตามใจ จะทำอะไรก็ทำ”
แต่คำตอบของเมียนี่สิ ทำเอางูยักษ์ของพี่เจิดตื่นขึ้นมาทันทีทันใด เลยจัดการกอดแน่นกว่าเดิม หอมแก้มสลับซ้ายขวาไปฟอดใหญ่ แล้วก็สอดมือเข้าไปใต้เสื้อลายดอกเลื่อนขึ้นไปตามผิวลื่นมือ ก้มหน้าเข้าไปใกล้หวังจะจูบให้หวานปากเสียหน่อย ทว่า
“อะ แฮ่ม!! แค่กๆๆๆ จะไปกันได้รึยังจ๊ะ ฉันติดเครื่องรถกระบะรอจนน้ำมันจะหมดถังแล้วนะจ๊ะ”
ไอ้มิ่งเจ้าเดิมเพิ่มเติมคือคำพูดกระแนะกระแหน มันมาขัดพี่เจิดกับน้องมะลิอีกแล้ว อีกนิดเดียวพี่เจิดก็จะได้จูบแล้วแท้ๆ ทำเอาน้องมะลิกับพี่เจิดสะดุ้งกันไปตามๆกัน หันไปมองไอ้มิ่งก็เห็นว่ามันยืนพิงประตูใส่เสื้อลายดอกคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรืองอย่างกับไปหาเสียง
“มึงนะมึง ขัดกูอยู่ได้”
“เชอะ”
ไม่สลดแต่ยังมาเชอะใส่ลูกพี่มันอีก นี่ถ้าพี่เจิดไม่หาเมียให้มันเป็นตัวเป็นตนมีหวังมันคงจะขัดจังหวะพี่เจิดหวานกับเมียไปตลอดชีวิตแน่
“ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวพ่อจะรอ”
“จ้ะ ไปกันเลยจ้ะ”พยักหน้า
ใจนี่เต้นตุบตับเวลาที่เมียเอื้อมมือมาคว้าแขนให้เดินตามลงไปชั้นล่าง วันลอยกระทงปีที่แล้วพาน้องมะลิไปดูกระทงชมจันทร์เพ็ญข้างคลอง แล้ววันสงกรานต์ปีนี้พี่เจิดจะพาน้องมะลิไปชมจันทร์ที่ไหนดี ถึงจะโรแมนติดสู้ปีที่แล้วได้ ว่าแล้วก็คิดไปพลางระหว่างที่กำลังไปวัด
พอถึงวัดเสียงเครื่องเสียงของงานวัดก็ดังกระหึ่ม จุดเด่นของงานก็เหมือนกับทุกปี ที่มีนางสงกรานต์มีรำวง แต่ต่างจากทุกปีก็ตรงที่เพิ่มหนุ่มรำวงหนุ่มกรานต์เข้าไปเนี่ยแหละ โชคดีที่น้องมะลิของพี่เจิดได้ตำแหน่งนายนพมาศไปแล้ว ไม่อย่างนั้นกำนันแม้นคงจะเอาขึ้นเวทีอีกรอบแน่
“ไปกันเถอะจ้ะน้องลิจ๋า”พี่เจิดจับมือเมียเดินจูงเข้าไปในวัด ปล่อยให้ไอ้มิ่งมันหาที่จอดรถของมันไปคนเดียว ไม่วายได้ยินเสียงบ่นพึมพำไล่หลังตามมา
“ว่าแต่จะดีเหรอจ๊ะพี่เจิดที่ฝากลูกไว้กับแม่นมน้องจี๊ด”น้องมะลิหันมาถาม หน้าตาเป็นกังวล
จะอะไรซะอีกถ้าไม่เป็นห่วงลูกที่เอาไปฝากไว้กับแม่นมน้องจี๊ดลูกพี่แจ่มเพราะดูท่างานนี้จะยาว พามาด้วยก็กลัวจะไม่ได้หลับได้นอนจนไม่สบายเอา
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แม่นมน้องจี๊ดเขาเลี้ยงเด็กเก่งอยู่แล้ว”
“อืม”น้องมะลิพยักหน้า ยอมเดินตามแรงจูงเข้าไปในงาน
มาถึงเต้นท์หน้าเวทีก็ได้เวลาประกวดนายสงกรานต์พอดี แน่นอนว่าคนที่ได้ตำแหน่งหน้าตาสู้พี่เจิดไม่ได้หรอก จนพิธีมอบรางวัลมอบตำแหน่งเสร็จก็ได้เวลารำวงย้อนยุคเสียที พี่เจิดเลยหันไปกำชับเมีย
“รอพี่เจิดอยู่นี่นะจ๊ะ ห้ามไปไหน แล้วก็อย่าให้ใครมาปะแป้งด้วยนะจ๊ะ”
“รู้แล้วน่า รีบๆไปได้แล้วไป พี่มิ่งเขาขึ้นเวทีไปนู่นแล้ว”
“เอานี่”พี่เจิดล้วงตังแบงค์ร้อยหลายใบยื่นให้
“จะเอามาให้ทำไม”
“ก็เอาไว้ซื้อตั๋วไปรำวงกับพี่เจิดไงจ๊ะ”
“ท่าจะบ้า ไม่เอาด้วยหรอก”
พี่เจิดไม่รอต่อความยาวสาวความยืดก็จับเงินยัดใส่มือเมียเพราะเดี๋ยวจะไม่ทันเพลงแรกเอา เสร็จแล้วก็ขึ้นเวทีไปนั่งรอบนเก้าอี้รวมกับคนอื่นๆ แต่รอบแรกก็แล้วรอบที่สองก็แล้วน้องมะลิก็ไม่ยอมซื้อตั๋วขึ้นมารำวงกับพี่เจิดสักที พอมองไปก็เห็นว่านั่งกอดอกหน้ามุ่ยอยู่ข้างกำนันแม้น แถมมองมาตาเขม็ง พี่เจิดที่เต้นเด้าๆอยู่กับสาวก็เลยลดระดับลีลาการเต้นแล้วมองเมียแบบงงๆ
อุตส่าห์ให้ตังไปซื้อตั๋วมารำวงด้วยก็ไม่ยอมซื้อ แล้วจู่ๆก็มานั่งหน้าบึ้งใส่ พี่เจิดเลยงงเลยว่าเมียอารมณ์เสียเรื่องอะไร คิดไปคิดมาก็จบรอบพอดี คราวนี้เลยกวักมือกะให้น้องมะลิซื้อตั๋วสักที เหมือนจะคิดอยู่นาน ในที่สุดน้องมะลิก็ยอมซื้อตั๋วเดินดุ่มๆมายัดใส่มือพี่เจิดจนได้
“เป็นอะไรเหรอจ๊ะ”พี่เจิดถามเสียงดังแข่งกับเพลงจังหวะม้าย่อง ปากก็ยิ้มกริ่มเอาใจ แต่น้องมะลิไม่ได้ยิ้มตามเลยนี่สิ
พี่เจิดเลยขยับไปใกล้แล้วเด้งเอวใส่ พอเด้งเอวใส่ตากลมๆก็เหลือบขึ้นมามองค้อน ปากที่คว่ำอยู่ก็เริ่มขยับเหมือนจะยิ้มแหล่ไม่ยิ้มแหล่ เลยเด้งใส่ไปอีกทีแถมด้วยขยับซ้ายขวา ปากที่คว่ำอยู่ก็เลยยิ้มออกมาจนได้ แถมมือทุบเข้ามาที่อกดังแอ่กให้พี่เจิดได้จุกเล่น
“เป็นอะไรเหรอจ๊ะ โกรธอะไรพี่เจิดเหรอจ๊ะ”ถามไปก็จับมือเมียให้เต้นตาม
“ไม่ได้เป็นอะไร”
“ปากแข็ง”
ปากก็ออกจะนุ่มออกจะหวาน แต่พูดจาแต่ละทีทั้งแข็งทั้งขมน่าจูบเสียให้เข็ด ว่าแล้วก็ก้มไปกะจะจูบอวดชาวบ้านสักหน่อยว่าคนนี้เมียพี่เจิด แต่ก็อย่างว่า ก้มหน้าไปกะจะจูบหน้าบึ้งๆก็เบี่ยงหลบ
“หึ สนุกมากไหมล่ะรำวงไอ้กับสาวๆเนี่ย”เสียงหึขึ้นจมูกมาสูงเชียว พูดประชดประชันกันออกมาจนได้ พี่เจิดล่ะถึงกับบางอ้อ
“อ้ออออ”
“อ้ออะไร!!”
“ก็อ้อไง”ยิ้มกริ่มรวบเอวเมียเข้ามากอด
“แล้วมันอ้ออะไรเล่า ถ้าไม่บอกจะลงมันเดี๋ยวนี้ล่ะ”ทำท่าจะผละออก แต่พี่เจิดกอดเอาไว้แล้ว ไม่ทีทางที่จะหลุดออกไปจากอ้อมกอดของพี่เจิดได้หรอก สายตาชาวบ้านน่ะเรอะ พี่เจิดไม่สน สนก็แค่หน้าบึ้งๆของเมียเท่านั้น
“ก็อ้อที่น้องลิหึงพี่เจิดยังไงล่ะจ๊ะ”
“คะ ใครหึง ใครมันจะไปหึง”
นั่นไง ทำเป็นปากแข็งไป แต่ตานี่หลบไปมองทางไหนไม่รู้ แล้วแบบนี้จะไม่ให้พี่เจิดเอ็นดูได้ยังไง
“ก็น้องลิไงที่หึงพี่เจิด หึงพี่เจิดใช่ไหมล่ะที่พี่เจิดรำวงกับสาวๆ”
“ไม่ใช่สักหน่อย จะรำวงกับใครก็รำไปสิ ปล่อย!! จะลงแล้ว ไม่รงไม่รำมันแล้วโว้ย”มีวงมีโว้ย
“แล้วก็บอกไม่หึง หึหึ”
เพลงจังหวะม้าย่องจบรอบพอดี ความน่าเอ็นดูของน้องมะลิตอนที่หึงเนี่ย พี่เจิดล่ะโคตรจะดีใจเลยว่ะ ทำเอาพี่เจิดอดใจไม่ไหวจริงๆ ในเมื่อเมียหึงก็ต้องง้อ ว่าแล้วก็คว้าแขนเมียให้เดินตามลงมาจากเวที
“จะไปไหนน่ะพี่เจิด”น้องมะลิถามตกใจ
“ไปหาที่เงียบๆคุยกันดีกว่านะจ๊ะ”
“แล้วรำวงล่ะ?”
“เดี๋ยวพี่เจิดจัดการเอง”
เดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะขายตั๋วแล้วล้วงแบงค์พันจ่ายไปสองใบ คนขายตั๋วเลยเงยหน้ามองแบบงงๆ
“ฉันเหมารอบตัวเองทั้งคืนเลยจ้ะ”
เดินออกมาจากลานวัดมาถึงบึงน้ำเล็กๆหลังวัด หน้าแล้งเดือนเมษาบึงเล็กๆเหลือน้ำแค่ก้นบ่อ
“จะพาไปไหนล่ะพี่เจิด แล้วนี่อะไร เหมารอบตัวเองได้ยังไง จะบ้ารึไง”
“ก็บอกแล้วไงว่าถ้าพี่เจิดบ้าก็บ้ารักน่ะ”
“บะ บ้าไปแล้ว มุขเสี่ยวตายห่า”
ถึงมุขจะเสี่ยวแต่คนแถวนี้ก็หน้าแดงล่ะวะ ถึงแถวนี้จะไม่ค่อยติดไฟสว่างเท่าบึงหน้าวัดแต่ก็พอจะเห็นหน้าอายๆของเมียก่อนที่เมียจะหันหลังให้ แต่พอหันหลังให้แล้วหันหน้าเข้าบึงเท่านั้นแหละ ถึงกับพูดไม่ออกเลยล่ะสิ
“สวยไหมจ๊ะ”พี่เจิดกระซิบถาม
“อืม สวย”
ก็บึงท้ายวัดน่ะ น้ำมันน้อยแถมต้นไม้ก็เยอะ หึ่งห้อยเลยชุม ตกกลางคืนหึ่งห้อยก็เลยบินว่อนอย่างที่เห็น จังหวะที่เมียเผลอเลยเดินเข้าไปประชิดหลังแล้วจัดการสวมกอดมันซะเลย คิดว่าจะมีขัดขืนกันเหมือนกับแต่ก่อน แต่ก็ไม่ ได้ทีเลยก้มลงหอมแก้มไปหนึ่งฟอดก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองหึ่งห้อย มีตัวหนึ่งมันบินมาข้างหน้าน้องมะลิก็เลยเอื้อมมือไปให้มันบินมาเกาะ
“แล้วทีนี้จะบอกพี่เจิดได้ยังล่ะจ๊ะว่าโกรธพี่เจิดเรื่องอะไร”
“ไม่ได้โกรธอะไรสักหน่อย”
“ถ้าไม่ได้โกรธแล้วทำไมต้องทำหน้าบึ้งล่ะจ๊ะ”
“กะ ก็ เออน่า บอกว่าไม่ได้โกรธก็ไม่ได้โกรธไง”
“แน่ใจ”
“อืม แน่ใจ”พยักหน้าหงึกๆแล้วตวัดมือให้หึ่งห้อยบินออกไป
“หึงพี่เจิดใช่ไหมล่า”ถามลากเสียงยาว รู้สึกเลยว่าน้องมะลิสะดุ้งเล็กๆที่พี่เจิดจับได้ แต่ก็ทำเป็นนิ่ง ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้ว่าเมียใคร ทำไมถึงได้น่าเอ็นดูขนาดนี้
“กะ ก็แล้วถ้าหึงจะทำไมล่ะ มีปัญหารึไง”
“พี่เจิดไม่กล้ามีปัญหาหรอกจ้า”ใครมันจะไปกล้ามีปัญหากับเมีย
“ลองมีดูสิ”
“จ้าๆ น้องลิจ๋า”พี่เจิดเรียกเสียงหวาน
“มีอะไร”
“บอกรักพี่เจิดหน่อยสิ”
“ไม่เอา”
แหน่ะ จนป่านนี้แล้ว เป็นผัวเมียกันจนเสาเรือนจะคลอนอยู่แล้วยังจะมาปากแข็งอีก
“น่านะ นะจ๊ะคนดีของพี่เจิด บอกรักให้พี่เจิดชื่นใจหน่อยสิจ๊ะ”
“ก็บอกว่าไม่เอาไง”
“น้องลิไม่รักพี่เจิดเหรอจ๊ะ ถึงไม่ยอมบอกรักพี่เจิด”คราวนี้ทำเสียงเศร้าเล่าความเท็จ กระชับกอดแน่น แล้วก็ยิ้มกว้างออกมากับไอ้ประโยคที่เหมือนจะบ่นพึมพำกับตัวเองแต่พี่เจิดก็ได้ยินมันชัดเจน
“ไม่รักก็ไม่หึงหรอกน่า”
หิ่งห้อยนับร้อยตัวเป็นพยานเลยว่าเมื่อกี้น้องมะลิของพี่เจิดพูดว่ารัก ไม่ต้องบอกรักให้พี่เจิดหวานหูหรอก แค่คำบ่นพึมพำก็ทำเอาหัวใจของพี่เจิดคนนี้แทบจะหลุดออกมาจากอก นี่แหละนะน้องมะลิเมียของพี่เจิด ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลายพี่เจิดก็ยังรักยังหลงเมียคนนี้หัวปักหัวปำอยู่ดี
จบ
-------------------------------------------------------------------------------
แท่ม แท้ม จบจริงๆแล้วนะเออ
มีความสุขจริงๆที่ได้เขียนเรื่องนี้ เป็นนิยายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคนใกล้ตัว (บางคนอาจจะแอบรู้มาแล้ว) ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่อ่านกันจนจบกับนิยายรั่วๆ สุดท้ายแล้วก็ขอฝากเรื่อง รุกของพี่แจ่มเอาไว้ในอ้อมอกอีกเรื่องด้วยนะค้า จะมีมะลิกับพี่เจิดไปแจมอยู่เรื่อยๆตามประสา
ปล. เตรียมพบผลงานรูปเล่ม เรื่องรักของพี่เจิดเร็วๆนี้เน้อ ติดตามได้ที่เพจ “เด็กหญิงเย็นชา2” ค่า