บทที่ 20 แปลงโฉม 1
วันนี้เป็นวันที่ชาวบ้านค่อนข้างจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะที่วัดจัดงานลอยกระทงยิ่งใหญ่กว่าทุกปีเพราะเป็นการรวมตัวของ
ทุกหมูบ้านในระดับตำบล และแน่นอนว่าวันลอยกระทงที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการประกวดนางนพมาศประจำปี แต่ปีนี้คงจะเป็นปีที่
พิเศษหน่อยเพราะทางเทศบาลตำบลได้ออกเสียงให้จัดประกวดนายนพมาศเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้เป็นการเท่าเทียมกันจากเสียงเรียก
ร้องของบรรดาสาวๆที่อยากจะเห็นชายหนุ่มประกวดขึ้นเวทีดูบ้าง แต่ประเด็นหลักก็คงจะไม่พ้นหาเงินทำบุญเข้าวัดนั่นเอง
วันนี้พี่เจิดค่อนข้างจะตื่นเต้นมากเลยทีเดียวเพราะวันนี้พี่เจิดต้องขึ้นไปรับรางวัลเกษตรกรดีเด่นประจำตำบลต่อหน้าชาว
บ้านทั้งตำบล พี่เจิดเลยยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้เสื้อผ้ามาร่วมชั่วโมง ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำเพราะไอ้มะลิมันกำลังอาบน้ำอยู่
จนแล้วจนรอดไอ้มะลิมันออกมาจากห้องน้ำพี่เจิดก็ยังเลือกเสื้อผ้าไม่ได้สักที เพราะวันนี้พี่เจิดต้องการที่จะโดดเด่นกว่าทุก
วันเลยกำลังดูๆอยู่ว่าสีไหนที่มันจะทำให้พี่เจิดโดดเด่นมากที่สุด
“นี่มึงคิดจะใส่ผ้าสามสีพวกนั้นขึ้นเวทีเหรอวะ”ไอ้มะลิมันค่อนขอดตอนที่พี่เจิดหยิบเสื้อสีแดงสดออกมาจากตู้เสื้อผ้า
“แน่น๊อน…ขึ้นเวทีทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้เด่นสิวะ ว่าแต่มึงเถอะ”พี่เจิดล่ะหมดคำพูดกับมันเชียวเพราะมันออกมาจากห้องน้ำ
แล้วนุ่งผ้าขนหนูผื่นเดียวออกมาอีกแล้ว
มันพันผ้าขนหนูหลวมๆหมิ่นเหม่จนเห็นไรขนอ่อนโผล่แพลมออกมาให้พี่เจิดกลืนน้ำลาย ตัวขาวๆของมันมีแต่หยดน้ำเกาะ
เต็มไปหมด นี่มันกำลังอ่อยพี่เจิดอีกแล้วนะ
“พอเลย เอาเสื้อผ้าเห่ยๆของมึงเก็บใส่ตู้ไปเลย”
มันบอกแล้วแย่งเสื้อสีแดงแปร๊ดสุดจ๊าบของพี่เจิดยัดใส่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบถุงกระดาษที่มันซื้อมาจากห้างยัดใส่มือพี่เจิด
พี่เจิดเลยถามมันออกไปแบบงงๆ
“อะไร เอามาให้กูทำไม?”
“เอานี่ไปใส่ มึงขึ้นรับรางวัลทั้งทีจะใส่เสื้อผ้าแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“มึงหมายความว่าไง เอาไอ้นี่มาให้กูทำไม”
“ก็เสื้อผ้าไง เอาไปใส่สิอย่าถามมากความ น่ารำคาญ”มันตัดบทแล้วหันไปเลือกเสื้อผ้าใส่เองบ้าง
หันหลังขาวๆให้พี่เจิดแล้วเลือกเสื้อผ้า ถ้าไม่ติดที่ว่าจะต้องรีบไปงานที่วัดพี่เจิดคงจัดมันรับคืนเพ็ญเดือนสิบสองสักชุด
เล็กๆก่อนไป
แต่กลัวจะไปรับรางวัลไม่ทันก็เลยข่มใจหยิบเสื้อผ้าในถุงออกมาดู จะว่าไปแล้วเสื้อผ้าพวกนี้มันไซต์เดียวกับพี่เจิดเลยนี่
หว่า นี่ไอ้มะลิมันแอบซื้อเสื้อผ้าให้พี่เจิดตอนไหนวะ ถึงว่าทำไมมันถึงให้คนขายมาวัดรอบเอววัดตัวพี่เจิด
“นี่มึงซื้อเสื้อผ้าให้กูเหรอวะ”
“ใครบอกกูซื้อให้มึง มึงซื้อให้ตัวเองต่างหากก็เงินมึงเป็นคนจ่ายนี่”
พี่เจิดไม่เห็นหน้ามันหรอกว่าเป็นยังไง แต่พี่เจิดรู้สึกปลื้มปริ่มยังไงไม่รู้สิ นี่ไอ้มะลิมันรู้ว่าพี่เจิดจะขึ้นรับรางวัลมันก็เลยพาพี่
เจิดไปซื้อเสื้อผ้าสินะ พี่เจิดก็หลงนึกว่ามันกลั่นแกล้งเอาคืนพี่เจิดอยู่หลายวันเชียว
“ถึงจะเงินกูแต่มึงก็เป็นคนเลือกให้กูนี่หว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากมึงซื้อหรอก”เพราะเงินผัวก็คือเงินเมียไง ไอ้มะลิเนี่ยบทมัน
จะทำตัวดีๆมันก็ทำได้นี่หว่า
“อะ เออน่า ใส่ๆไปเถอะ เดี๋ยวก็ไปไม่ทันงานพอดี”
“มึงอยากให้กูใส่เสื้อผ้าจืดๆแบบนี้เหรอวะ”
“ใส่ไปเถอะน่า ไม่ตายหรอกอย่ามาเรื่องมาก”
เห็นแก่ที่มันทำตัวดีทำหน้าที่เมียที่ดีเลือกซื้อเสื้อผ้าให้ผัว พี่เจิดจะยอมใส่เสื้อผ้าสีจืดๆที่มันอุตส่าห์เลือกให้พี่เจิดโดย
เฉพาะสำหรับให้พี่เจิดใส่คนเดียวก็แล้วกัน
พี่เจิดเลยบรรจงใส่เสื้อผ้าที่โคตรจะเหมือนเสื้อผ้าของชายกลางจากละครเรื่องบ้านทรายทอง สงสัยพี่เจิดมัวจะยืดยาดไอ้
มะลิมันเลยใส่เสื้อผ้าของมันเสร็จก่อน มันหันมาหาพี่เจิดแล้วช่วยพี่เจิดติดกระดุม พี่เจิดเลยก้มหน้ามองมัน ไม่ค่อยเห็นหรอกว่า
หน้ามันเป็นยังไง เห็นแต่หูของมันแดงๆ ไอ้มะลิมันเขินที่พี่เจิดคนนี้หล่อใช่ไหมมันถึงได้หน้าแดงหูแดงเพราะพี่เจิดคนนี้ใส่อะไรก็
หล่อไปหมด
“นั่งลง”
“กูจะไปเอาเจลใส่ผม”พี่เจิดบอกมันเพราะมันผลักให้พี่เจิดนั่งลงบนเตียง
“ไม่ต้องหรอก”
“จะไม่ต้องได้ไงเดี๋ยวผมกูก็เสียทรงพอดี”ผมพี่เจิดต้องใส่เจลจนมันแผล็บหวีให้เรียบแปล้เท่านั้นถึงจะเท่ทันสมัย
“ไม่ทำผมเรียบแปล้สักวันไม่ตายหรอกน่า อยู่เฉยๆ”
ไอ้มะลิมันหยิบหวีมากับเจลแต่งผมของมัน มันขย้ำหัวพี่เจิดบ้างหวีหัวพี่เจิดบ้างอะไรของมันไม่รู้ พี่เจิดไม่ค่อยจะไว้ใจมัน
สักเท่าไรหรอก แต่เห็นว่าวันนี้มันทำตัวดีเลยยอมๆมันไป
พอมันจะทำตัวน่ารักมันก็ทำได้นี่หว่า ตอนที่มันกำลังทำผมให้พี่เจิดมือพี่เจิดก็กำลังว่างๆไงเลยไม่รู้จะทำอะไรดี ประกอบ
กับไอ้มะลิมันทำตัวน่ารักพี่เจิดเลยคว้าหมับจับตูดมันเข้าให้เต็มไม้เต็มมือ
โป๊กกก!!
กระปุกเจลเคาะลงมาบนหัวพี่เจิดแรงๆทีนึงให้พี่เจิดสะดุ้งปล่อยมือจากตูดมันแทบไม่ทัน
“นั่งเฉยๆสิวะ!!”
“จับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้”
บ่นอุบเบาๆยอมนั่งนิ่งๆให้มันหวีผมให้ต่อ ไม่อย่างนั้นมีหวังมันคงเอากระปุกเจลเคาะหัวพี่เจิดอีกทีแน่
“เสร็จแล้ว”
ไอ้มะลิบอกก่อนจะเดินเอาหวีกับกระปุกเจลไปเก็บหน้ากระจก พี่เจิดเลยเดินตามหลังมันไปส่องกระจกดูสารรูปตัวเอง
โอ้โห!!ไอ้คนหน้าตาเหมือนพระเอกหนังที่อยู่ในกระจกมันพี่เจิดจริงๆเหรอวะเนี่ย เสื้อเชิ้ตสีฟ้ากรมท่าที่ไอ้มะลิมันช่วยพับ
แขนเล็กน้อยกับกางเกงแสลคสีดำมันโคตรจะทำให้พี่เจิดดูดีเลย แล้วผมที่ไอ้มะลิมันจัดทรงให้พี่เจิดมันไม่ได้เรียบแปล้ เกือบจะ
ปล่อยเป็นเหมือนไม่ได้ทำอะไรยิ่งทำให้พี่เจิดโคตรจะหล่อ
ก็บอกแล้วไงว่าพี่เจิดน่ะหล่ออยู่แล้วต่อให้เสื้อผ้าสีทึบๆก็ไม่ทำให้ความโดดเด่นของพี่เจิดมันหมองได้หรอก ว่าแล้วก็หัน
ซ้ายหันขวามองกระจกเพราะค่อยจะคุ้นชินกับตัวเองในสภาพนี้สักเท่าไร
แต่พี่เจิดแอบเห็นผ่านกระจกนะว่าไอ้มะลิมันยืนอมยิ้มอยู่นะ เพราะพี่เจิดหล่อโดนใจมันใช่ไหมล่ะมันถึงได้ยิ้มออกมาแบบ
นั้น มันชอบแบบนี้ก็ไม่บอก คราวหลังพี่เจิดจะได้แต่งแบบนี้ให้มันดูบ้างมันจะได้ทำตัวน่ารักๆแล้วยอมให้พี่เจิดจัดชุดใหญ่ เพราะ
ตั้งแต่วันนั้นที่ไอ้มิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาพี่เจิดนี่แทบจะไม่ได้แตะตัวมันเลย
------------------------------------------------------------------------
“โอ้โห!!ไอ้หนู นี่พ่อเกือบจะจำลูกชายตัวเองไม่ได้”เสี่ยมุ่ยมองลูกชายตาค้าง ไม่รู้อะไรเข้าสิงลูกชายถึงได้แต่งตัวเป็นผู้
เป็นคนขึ้นมา
“ใช่ไหมล่ะจ๊ะพ่อ เพราะฉันมันหน้าตาดีไงแต่งอะไรก็หล่อไปโหม๊ดด”พี่เจิดยืดอกรับคำชม พี่เจิดก็ยังแอบเห็นไอ้มะลิมัน
แอบยิ้มเวลาที่พ่อพี่เจิดกับไอ้มิ่งชมพี่เจิดอยู่ดีนั่นแหละ
“แต่งหล่อไม่ชวนฉันเลยนะจ๊ะ”ไอ้มิ่งแซว
“งั้นก็ไปกันได้แล้วเดี๋ยวจะไม่ทันไปเปิดงานกันพอดี”
“พี่เจิดแต่งแบบนี้สาวๆก็ไม่มองฉันน่ะสิจ๊ะ”
“พูดอย่างกับปกติสาวๆเขามองมึงอย่างงั้นแหละ”
“แหม่ มันก็ต้องมีบ้างแหละ แค่สาวๆไม่กล้ามองฉันตรงๆก็แค่นั้น”
“มึงนี่มันหลงตัวเองได้ใครมาวะ มึงไปเตรียมรถไปเดี๋ยวกูจะไปไม่ทันรับรางวัล”พี่เจิดบอกมันก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้มะลิ
แต่พอหันไปมองมันมันกำเป็นเชิดหน้าหนีไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่เมื่อกี้นี้พี่เจิดยังแอบเห็นมันยิ้มอยู่เลยเชียว ไอ้มะลิเนี่ยปากแข็งดีจริงๆ
------------------------------------------------------------------------
สองคนนี้ก็มุ้งมิ้งกันได้นะขอบอก มุ้งมิ้งไหมละ ตอบ!!
พี่เจิดหล่อแล้วมะลิก็เตรียมหึงสิคะ รออะไร โฮ๊ะๆๆ