
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 41
ข้อมือมันลื่นไปหมด กดรอยแผลแน่นเท่าไหร่เลือดก็ไม่หยุดไหล เสียงเปิดประตูห้องพร้อมเสียงจานหล่นแตกกระจายบนพื้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง จิ๋วยืนหน้าซีดมองมาที่ผม เสียงตะโกนถามจากด้านนอกพร้อมกับใบหน้าพี่ชายเจ้าของห้องที่เดินเข้ามาแล้วรีบวิ่งมาหาผม ผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ตรงบานประตูตู้เสื้อผ้าถูกนำมากดบาดแผลไว้แน่นก่อนที่ตัวผมจะลอยขึ้นเพราะถูกอุ้ม ภาพรอบๆ ดูลางเลือนในความรู้สึก แต่สีหน้าเจ้าของห้องที่ยืนตัวแข็งมองดูผมถูกอุ้มผ่านหน้าไปกลับชัดเจน ถึงจะถูกอุ้มจนมาถึงรถแล้วก็ยังไม่สามารถลืมแววตานั้นได้ เสียงพี่หน่อยพี่นพร้องเรียกผมอยู่ตลอดเวลา ผมไม่ได้ง่วง...แต่กลับอยากนอน....ถ้าผมนอน....แล้วตื่นขึ้นมาอีกครั้ง....เรื่องราวเหล่านี้...จะกลายเป็นเพียงแค่ความฝัน....รึเปล่า
เพดานสีขาวคือสิ่งแรกที่มองเห็นเมื่อลืมตาขึ้นมา ผมครางในลำคอเบาๆ เมื่อเริ่มขยับตัวแต่กลับรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ ข้อมือด้านขวามีเข็มจากสายน้ำเกลือเจาะอยู่ ด้านซ้าย....ถูกพันไว้ด้วยผ้าก๊อซสีขาว สิ่งที่ช่วยเตือนความทรงจำ...ว่าผม...มานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
"เป็นไงบ้างพาย อยากดื่มน้ำมั้ย"เสียงคนที่นั่งด้านซ้ายมือทำให้ต้องหันมามอง จิ๋วนั่นเองที่นั่งเฝ้าผมอยู่ข้างเตียง
ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ใจหนึ่งก็อยากจะลุกขึ้นนั่งแต่ข้อมือทั้งสองข้างทำให้ทำอะไรไม่สะดวก ผมดันศีรษะขึ้นเล็กน้อยเพื่อดูดน้ำในแก้วที่จิ๋วใส่หลอดมาให้ จิ๋วกลับมานั่งข้างๆ ผมโดยไม่พูดอะไร ผมเองก็...ไม่รู้จะพูดอะไร จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตายงั้นเหรอ....คงตลกพิลึก....ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่ก็ทำลงไปแล้วจริงๆ เหมือนกัน แค่อารมณ์งี่เง่าชั่ววูบ....มาตอนนี้ถึงได้นึกเสียใจที่ทำลงไป ถ้าเกิดผมตายไปขึ้นมาจริงๆ...แม่คงเสียใจมาก....ผมมันอ่อนแอจริงๆ
"พาย...หิวมั้ย พยาบาลเพิ่งเก็บอาหารเย็นออกไปน่ะ ถ้าอยากกินอะไรเดี๋ยวจิ๋วไปซื้อมาให้"
"ไม่หิวหรอก ขอบ....ใจนะ"ผมแทบจะพูดไม่จบเมื่อมองผ่านหลังจิ๋วไป ร่างสูงใหญ่ยืนพิงขอบหน้าต่างมองออกไปด้านนอกโดยไม่สนใจบรรยากาศในห้อง
"ออกไป"ผมพูดโดยหันหน้าไปอีกด้าน ถึงไม่มองหน้า แต่มันคงรู้ว่าหมายถึงตัวมันนั่นล่ะ
“.........”มันไม่ได้พูดอะไรกลับมา แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจคือมันเดินออกไปจากห้องจริงๆ ไม่มีคำพูดสักคำที่สวนกลับมาเหมือนทุกที ผมหลับตาลงหลังจากประตูห้องปิดสนิท เสียงจิ๋วขยับตัวไปนั่งบนโซฟาแล้วเปิดทีวีกลบความเงียบ ผมไม่รู้ว่าจิ๋วมองทีวีหรือมองผม แต่...แค่มีคนอยู่ในห้องผมก็รู้สึกอึดอัดแล้ว คงเรียกความรู้สึกนี้ว่า...ไม่กล้าสู้หน้า...ผม...ไม่กล้ามองหน้าจิ๋วตรงๆ รู้สึกละอายใจที่ทำเรื่องบ้าๆ ลงไป...อยากตายเหรอ...เปล่าเลย ผมยังจำอารมณ์ตอนนั้นได้ แค่...อยากเจ็บ....อยากให้ใครสักคนเจ็บ ให้รู้สึกผิดที่ทำกับผม...อยากโยนความเจ็บปวด อยากโยนความผิดให้คนอื่น ถ้าผมตาย...คนที่ผิดก็คือมัน...คนที่ต้องโดนคนอื่นประณามก็คือมัน....คนที่ต้องจมกับความทุกข์เพราะผมฆ่าตัวตายก็คือมัน....นั่นล่ะ...ที่ผมต้องการ....ให้มันรู้สึกผิด ให้มันเจ็บปวดบ้าง แค่เพียงครึ่งเดียวของผมก็ยังดี
มันก็แค่...ความคิดโง่ๆ...ใช่ว่าทำอย่างนั้นลงไปแล้วมันจะเจ็บเสียเมื่อไหร่...หรือมันอาจโดนคนอื่นประณามจริง...แต่ผมคงไม่มีโอกาสได้รับรู้....คนที่เจ็บที่สุดคงไม่ใช่มัน แต่เป็นแม่ผม....แค่ชั่ววูบเดียวที่ลืมนึกถึงแม่ ผมถึงกับทำเรื่องบ้าๆ ลงไป....เพิ่งรู้สึกว่า...ถ้าเราขาดสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ....อะไร....ก็เกิดขึ้นได้....เรื่องโง่ๆ...ก็เกิดขึ้นได้
ผมหลับไปทั้งๆ ที่จิตใจยังไม่สงบ ในหัวผมคิดอะไรมากมายวกวนตีกันแต่กลับหลับลงไปเพราะความอ่อนเพลีย ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของอีกวัน จิ๋วนอนเฝ้าผมทั้งคืน ตื่นเช้ามาก็พยุงผมเข้าห้องน้ำ เอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้ผม ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้จิ๋วยังไม่ได้พูดอะไรกับผม...เหมือนที่ผมยัง...ไม่กล้าพูดอะไรออกไป
".....จิ๋ว......ขอโทษนะ"ผมคงพูดอย่างอื่นไม่ได้นอกจากคำนี้ แค่...อยากขอโทษ...ที่ทำเรื่องงี่เง่า...ที่ไม่รักชีวิต...ทำให้เพื่อนเป็นห่วง ท้อแท้สิ้นหวัง ทำตัวเหมือน...ไม่มีใคร ทั้งๆ ที่ยังมีคนคอยอยู่ข้างๆ
"....อืม....อย่าทำอีกแล้วกัน....อย่าทำอีกนะพาย....อย่าทำอีก"จิ๋วก้มหน้าเช็ดแขนผมซ้ำไปซ้ำมา น้ำตาหยดลงบนแขนพร้อมกับคำพูดซ้ำๆ ....นี่ไง....ผมยังเหลือ....เพื่อนอีกหนึ่งคน
อาหารเช้าเป็นข้าวต้มเครื่อง ผมทานเองไม่ได้ก็มีจิ๋วคอยป้อน รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แต่ดุใช่ย่อย บังคับให้ผมกินข้าวต้มจนจุก ทำตัวเป็นผู้ปกครองผมเต็มที่ หมอเข้ามาตรวจอาการก็บอกว่าทุกอย่างปกติ ถ้าแผลไม่อักเสบก็กลับบ้านพรุ่งนี้ได้
"พายจะทำยังไงต่อ"
"ก็อย่างที่บอกไว้นั่นล่ะ หาหออยู่"
"เขาจะยอมให้พายไปเหรอ จิ๋วยังมองไม่เห็นทางเลย"
"เขาไม่ได้เป็นอะไรกับพายนะ พายคิดว่าจิ๋วรู้แล้วใช่มั้ยว่า...เขาคือคนที่ข่มขืนพาย"
"อืม....รู้หมดทุกอย่างเลย"
"เพราะงั้นจิ๋วน่าจะเข้าใจนะว่าทำไมพายถึงไม่อยากอยู่ใกล้เขาอีก สองวันมานี้เป็นช่วงเวลาที่พายมีความสุขที่สุดเพราะไม่ได้เห็นหน้าเขา เหมือนพายได้โลก ได้ชีวิตของตัวเองกลับมา พายอยากกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนเมื่อก่อน"
"ถึงพายไม่เห็นแต่เขาเห็นพายทุกวันนะ"
"หมายความว่าไง"
"เขา...นั่งอยู่ข้างนอก"จิ๋วพูดพร้อมหันหน้าไปทางประตูห้อง
"......"ผมฟังแล้วก็เงียบ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
"ตั้งแต่ที่พายไล่ให้ออกไป เขาก็ไปนั่งที่โซฟาหน้าห้อง มีออกไปทำงานอะไรบ้าง แต่ก็จะกลับมานั่งที่เดิมจนหมดเวลาเยี่ยม พาย....ให้เขาเข้ามาในห้องดีกว่ามั้ย"
"ไม่ต้อง พายไม่รู้หรอกว่าเขาทำอย่างนั้นทำไม แต่มันไม่มีประโยชน์ ยังไงพรุ่งนี้พายก็จะไม่กลับไปที่นั่นอีก"ผมแปลกใจ แต่....ไม่คิดจะใจอ่อน ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ผมไม่เคยเข้าใจการกระทำของมันเลย ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน มันต้องการอะไร...ขอโทษผมเหรอ...มันเคยขอโทษผมมาแล้วครั้งหนึ่ง...พอพูดคำนั้นจบมันก็ทำร้ายผมทันที ครั้งนี้ถ้าผมหลงไปกับคำพูดหรือการกระทำของมันอีกก็คงโคตรโง่อย่างที่มันบอกจริงๆ
การดึงดันที่จะออกไปเช่าหออยู่คนเดียวของผมไม่เป็นผลเพราะคนสองคนที่มาเยี่ยมผมช่วงบ่าย ใบหน้าซ่อนยิ้มที่ปิดไม่ค่อยมิดเมื่อพ้นประตูห้องทำให้เดาได้ว่า...ยิ้มขำอะไร...คงเห็นตุ๊กตาตัวโตๆ หน้าห้องผมล่ะมั้ง หลังจากที่จิ๋วบอกผมก็ยังมีคนอื่นบอกผมอีก ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านที่มาทำความสะอาดห้อง คนส่งอาหาร พยาบาลที่เข้ามาเปลี่ยนน้ำเกลือและวัดไข้ ทุกคนล้วนพูดถึง....ตุ๊กตาหน้าห้องที่นั่งคู่กับโน๊ตบุ้ค
"เอาเป็นว่าพายไปอยู่กับพี่ก่อนแล้วกันนะ หลังสอบค่อยว่ากันอีกที จะสอบแล้วควรทุ่มเทอ่านหนังสือ อย่าเพิ่งห่วงเรื่องที่อยู่เลยนะ"พี่หน่อยเกลี้ยกล่อมผมร่วมชั่วโมงจนผมคล้อยตาม
"แล้ว....พี่นพจะไม่ว่าอะไรเหรอครับ"ยังไงผมก็เป็นผู้ชายนะ ให้ไปอยู่กับพี่หน่อยสองคน พี่นพที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวไม่รู้สึกอะไรบ้างรึไง
"เอ่อ....ไม่ว่าครับ...พายไปอยู่กับพี่หน่อยนั่นแหล่ะดีแล้ว พี่กับพี่หน่อยจะได้ไม่เป็นห่วง"พี่นพพูดแบบเก้อๆ ยังไงไม่รู้ ตกลงพี่เขาไม่หึงผมเลยใช่มั้ย แต่ก็อย่างว่าแหล่ะ จะแต่งงานกันอยู่แล้วคงไว้ใจกันมาก ขนาดตอนคบกันอยู่คนละจังหวัดยังคบกันรอดเลย
ตกลงแล้วผมถ้าผมออกจากโรงพยาบาลแล้วต้องไปอยู่ที่คอนโดพี่หน่อยกับจิ๋ว อันที่จริงจิ๋วบอกว่ากลับไปหาต่อก็ได้ แต่กลัวผมจะทำอะไรอีก เลยอยากอยู่เฝ้าไว้ เรียกว่า...ทุกคนไม่อยากให้ผมไปอยู่คนเดียวเพราะกลัวผมคิดฆ่าตัวตายอีก ถึงจะไม่มีใครมาพูดหรือถามอะไร แต่ผมรู้ว่าทุกคนพยายามจะหลีกเลี่ยงคำพูดที่ทำให้ผมเจ็บปวดอยู่ ทุกคน...เป็นคนดี...เป็นห่วงผมจริงๆ....ถ้าคราวนี้ผมถูกหลอกอีก....ก็ช่างมัน...อยู่กับความสุขปลอมๆ ดีกว่าไม่มีความสุขเลย ผมว่า....ผมกลายเป็นคนขี้ระแวงมากกว่าเดิม แต่ก็....ยังเป็นผม...ที่อ่อนแอจนไม่สามารถทำอะไรเองได้
ตอนเย็นผมหลับเพลินจนเลยเวลาเก็บถาดอาหาร พยาบาลเขาเอาไปเก็บทั้งที่ผมยังไม่ได้กิน พอตื่นมาตอนสองทุ่มเลยหิว ผมเลยนอนรอให้จิ๋วเข้าห้องน้ำให้เสร็จแล้วจะวานให้ลงไปซื้อขนมปังมาให้กินหน่อย แต่...คนที่เข้าห้องน้ำอยู่ดันเป็นคนที่....ควรจะอยู่แต่หน้าประตู
"เข้ามาทำไม"
"เข้าห้องน้ำ แค่นี้ไม่รู้รึไง"นี่ไง คำพูดมัน สีหน้ามัน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่เห็นมีท่าทีสำนึกผิดหรืออยากขอโทษผมเลย
"ออกไป"ผมหันหน้าเข้าหาหน้าต่างแล้วพูดกับคนที่อยู่ด้านหลัง
"วันนี้จิ๋วไม่อยู่"
"ออกไป"
"จะกินข้าวมั้ย"
"ออกไป"
"....จะเอาอะไรก็ตะโกนเรียกแล้วกัน"มันพูดจบ ผมก็ได้ยินเสียงเปิดปิดประตู หันกลับมาดูมันก็ไม่อยู่ในห้องแล้วจริงๆ จากที่มันพูดแสดงว่าคืนนี้มันจะนั่งเฝ้าผมข้างนอกงั้นสิ ไม่เข้าใจการกระทำของมันเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่ผมเป็นฝ่ายถูก ทุกคนควรจะเข้าข้างผม ควรจะเห็นใจผม แต่ทำไมทุกคนถึงทำเหมือนการกระทำของมันสมควรให้อภัย แค่มันมานั่งเฝ้าหน้าห้องก็เรียกร้องความสงสารจากพยาบาล จากคนผ่านไปผ่านมา มีแต่คนมาเกลี้ยกล่อมให้ผมอนุญาติให้มันเข้ามานั่งในห้อง แม้แต่จิ๋วกับพี่หน่อยยังพูดอ้อมๆ ว่าให้สงสารมัน ตกลงผมเลยกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคนอื่น ผมกลายเป็นคนใจแข็ง หากมันพูดมาสักคำว่าต้องการอะไรผมจะยอมทำทุกอย่างเลย ขอแค่ให้มันเลิกยุ่งกับผม ขอแค่ให้มันออกไปจากชีวิตผมก็พอ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คืนนี้
อาจ มีตอนพิเศษ (ขึ้นอยู่กะเน็ตคนโพสว่าจะดีหรือไม่ 555+)
