มาตามคำเรียกร้อง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 26
ผมยืนค้างห่างจากโต๊ะไม่กี่ก้าว สายตาทุกคู่ตรงหน้าจ้องมองที่ผมด้วยแววตาที่แตกต่างกันไป บางคนเฉยๆ บางคนแปลกใจ และบางคน......สะใจ
“พายๆ มานี่ก่อนเลย ย้ายหอทำไมไม่บอกนุก่อน ตอนอ่านจดหมายพายนุตกใจแทบแย่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”นุกวักมือเรียกให้ผมเดินไปหา เพราะไม่สามารถลุกจากเก้าอี้ที่มีคำนั่งประกบทั้งสองข้างได้ แต่ผม...ไม่สามารถก้าวเดินได้แม้เพียงก้าวเดียว ใจหนึ่งก็คิดว่าจะทำอย่างไร เหลียวหันไปมองกลุ่มต่อกับเพื่อนเพื่อคิดใช้เป็นข้อแก้ตัวในการมายืนอยู่ตรงนี้
“ไม่ต้องหาเรื่องชิ่งเลยนะ มานี่ก่อนเลยพาย”ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร นุก็ลุกขึ้นมาลากผมกลับไปที่โต๊ะ คนที่มาพร้อมกันกับผมนั่งอมยิ้มอย่างสาแก่ใจเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของผม ตำแหน่งการนั่งถูกสับเปลี่ยนเพื่อให้ผมนั่งลงข้างๆ นุ แต่ผมยื้อแขนไว้ไม่ให้นุฉุดลงไปนั่งได้ง่ายๆ
“เอ่อ..นุ ไว้ค่อยคุยกันวันหลังนะ พาย...จะกลับแล้ว”
“ได้ไงกัน ไม่ยอมหรอก เดี๋ยวพายก็หนีนุอีก หมู่นี้ยิ่งตามตัวยากอยู่ด้วย”
“พายลุกออกจากโต๊ะนานแล้ว เดี๋ยวเพื่อนเป็นห่วง ไว้ค่อยคุยกันนะ เดี๋ยวพายโทรหา”ผมพยายามแกะมือนุออก แต่นุไม่ยอมปล่อย จากที่จับไว้มือเดียวก็กลายเป็นสองมือ
“ไหน พายนั่งโต๊ะไหน มากับทิวเหรอ”นุพยายามชะเง้อมองไปด้านหลังเพื่อหาโต๊ะเพื่อนที่ผมอ้างขึ้นมา
“เอ่อ..เปล่า มากับเพื่อนทิวน่ะ นุปล่อยพายก่อนนะ เดี๋ยวพายค่อยโทรหา”
“จริงๆ นะ”
“จริง ปล่อยพายเถอะ”
“งั้นเดี๋ยวนุเดินไปส่งที่โต๊ะดีกว่า”นุเลื่อนเก้าอี้แล้วลุกขึ้น ผมก็รีบหันหลังกลับ เตรียมเดินออกไป ถ้าไม่มีเสียง....พูดขึ้นมา
“นั่งลง”ไม่ต้องหันไป ก็รู้ว่า...เสียงใคร....และรู้ด้วยว่า...สั่งใคร
“ฮะ..เอ่อ..นุขอเดินไปโต๊ะเพื่อนแป๊ปนึง เดี๋ยวมานะครับ”นุหันไปขออนุญาติมัน ส่วนผม...อยากจะเดินหนีไปใจจะขาด ถ้าไม่ติดว่านุยังจับมือผมไม่ปล่อยล่ะก็ ผมวิ่งออกไปนอกร้านแล้ว
“จะไปไหนก็ไปสิ พี่พูดกับพายต่างหาก”
“...เอ่อ...พี่ตั้ม....หมายความว่าไงครับ”
“พาย...กลับมานั่งที่เดิมซะ”คำสั่งครั้งที่สองดังและชัดกว่าครั้งแรก ผมไม่รู้ว่านุมองผมยังไงเพราะยังหันหลังให้อยู่ รู้แต่เพียงว่า ขอบตาผมร้อนผ่าว เหมือนมีก้อนแข็งๆ จุกอยู่ที่คอ มือที่กระชับข้อมือผมเลื่อนหลุดลงช้าๆ จนกระทั่งเป็นอิสระ
“...หมาย...หมายความว่าไง”น้ำเสียงสั่นเครือทางด้านหลัง คำถาม...ไม่รู้ว่า...กำลังถามใคร แต่ที่รู้คือ...มันไม่มีคำตอบที่เขายินดีจะฟังแน่ๆ
“มึงจะทำอะไรไอ้ตั้ม”พี่นัทร้องถาม กึ่งห้ามไม่ให้มันทำอะไรมากกว่านี้ แต่คนอย่างมัน...เคยฟังใครที่ไหน
“เสือกอะไรด้วย กูคุยกับเมียกู”
“พี่....พี่ตั้ม...หมายถึงใคร”คำถามใหม่ดังขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่คำถามเดิมยังไม่ได้รับการตอบ
“......พาย”เสียงชื่อผมที่ออกจากปากมันชัดเจน....เป็นครั้งแรกที่รู้สึกเกลียดชื่อตัวเองจนไม่อยากได้ยิน
“อะ..อะไร พี่ตั้ม...หมายความว่าไง นุไม่เข้าใจ
พาย......เป็นเพื่อนนุ”ถ้อยคำสุดท้ายของนุช่วยคลายความอึดอัดในลำคอ ก้อนแข็งๆ ที่รู้สึกกลืนไม่ลงเลือนหายไป....เมื่อน้ำตา...หยดลงไม่ขาดสาย
“ก็หมายความอย่างที่พูด อย่าทำเป็นตีโพยตีพายไปเลยน่า นุก็รู้อยู่ว่าเราคบกันแบบไหน เรื่องงานหรือเงินก็ไม่ต้องห่วง พี่ยังโอนเข้าให้ทุกเดือน ไม่ปล่อยให้เราลำบากหรอก พายเขาใจกว้างพอที่จะให้พี่ช่วยเหลือนุต่อไป เพราะนุเป็นเพื่อนสนิทเขา น่าปลื้มใจแทนนะ หาไม่ได้ง่ายๆ หรอกเมียหลวงที่ใจกว้างแบบนี้น่ะ”คำพูดเสียดสี คำที่มีแต่การดูถูกดูแคลน ไม่เหลืออีกแล้ว....สิ่งที่ผมพยายามปกป้องมาตลอด มิตรภาพที่เคยมี....เพื่อน...ที่ผมไว้ใจ.....และ....ไว้ใจผม
“...พะ..พาย”
“อย่ามัวแต่ยืนนิ่งอยู่สิ เรายืนขวางที่นั่งพายเขาอยู่ไม่รู้รึไง มาทีหลังไม่รู้จักดูที่ดูทางบ้างเลยนะ”เสียงคนพูดกลั้วหัวเราะพร้อมๆ กลุ่มเพื่อนอย่างสนุกสนาน สมองมึนงงพอๆ กับความรู้สึกบนใบหน้าที่ชาจนแทบไม่มีความรู้สึก คำพูดที่ดูถูกผมนั่นไม่เท่าไหร่ แต่คำที่เขาดูถูกและถากถางนุต่างหากที่ทนไม่ได้ ผมหันหน้ากลับมาเพื่อจะพานุออกไปจากตรงนี้ ใบหน้าที่มีรอยยิ้มให้ผมเมื่อครู่หายไป ริมฝีปากสั่นระริกอย่างพยายามอดกลั้น น้ำตาไหลอาบข้างแก้ม แต่ไม่มีคำพูดอะไรออกมา ผมเอื้อมมือไปจับข้อมือนุแต่ก็ถูกสะบัดออก ฝ่ามือเล็กๆ กระทบผิวหน้าโดยไม่ทันตั้งตัว เสียงรอบข้างเงียบหายไป ผม...อยากจะเอ่ยปากขอโทษ ทั้งๆ ที่รู้ตัวว่าไม่ผิด แต่คนที่อยากให้รับฟังกลับวิ่งหนีออกไปด้านนอกโดยไม่ฟังเสียงเรียก
กว่าจะวิ่งตามมาคว้าตัวนุเอาไว้ได้ก็เกือบจะพ้นบริเวณจอดรถของร้านไปแล้ว นุร้องไห้โดยไม่พูดอะไรสักคำ ไม่ฟังเสียงผมที่พยายามปลอบห้าม ฝ่ามือที่กระทบผิวหน้าซ้ำจนรู้สึกถึงรสคาวเลือด ต่อให้ตบตีผมเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะคนทำ....เจ็บมากกว่า
“นุ...นุฟังพายก่อน มันไม่ใช่อย่างที่นุคิดนะ”ผมรั้งแขนทั้งสองข้างพยายามให้หยุดนิ่ง ไม่สนว่าฝ่ามือที่เป็นอิสระจะฟาดลงส่วนไหน ขอแค่คนตรงหน้ายังยืนอยู่และยอมฟังผมเท่านั้น
“ไม่ฟัง...ฮืออ...ทำไมพาย...ทำไม..ฮึก....พายก็มีทิวอยู่แล้วนี่....ทำไมล่ะพาย....ทำไมต้องแย่งพี่ตั้มไปด้วย....ทำไม!!”
“ไม่ใช่นะนุ มันไม่ใช่อย่างที่มันพูด ไม่ใช่ นุเชื่อพายนะ”
“พายจะโกหกอะไรเพื่อนอีกเหรอ โกหกบ่อยๆ มันบาปนะ”เสียงจากด้านหลังยังคงเจือความรู้สนุกที่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะตนเอง....สำหรับมัน...คงเห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสนุกสินะ
“
หุบปากนะ!!!.....นุ...นุเชื่อพายนะ มันไม่ใช่อย่างที่มันพูด มันโกหก นุอย่าไปฟังนะ ให้พายอธิบายให้ฟังก่อน”ผมหันไปตวาดมันก่อนจะหันกลับมาละล่ำละลักปลอบคนตรงหน้า
“โกหก!!!”เสียงกรีดร้องพร้อมกับฝ่ามือที่ง้างขึ้นเตรียมฟาดลงบนใบหน้าอีกครั้ง หากไม่ได้อีกมือหนึ่งคว้าไว้ รอยบนหน้าคงมีมากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้ารู้ล่วงหน้าผมคงยินดียื่นหน้าให้นุตบ ดีกว่าให้มันตบหน้านุกลับไป
“อย่ายุ่งกับพายนะนุ พี่เตือนเธอไว้ก่อน”
“คุณนั่นแหล่ะ! อย่ามายุ่งกับผม ทำร้ายนุทำไม!!”ผมผลักอกเขาออกไป แล้วหันมาดูรอยนิ้วบนแก้มข้างซ้าย รอยนิ้วมือเด่นชัดเพราะคนตบไม่ผ่อนแรง ผมเช็ดเลือดที่มุมปากเบาๆ โดยที่เจ้าตัวไม่ปัดหนี นุยืนยิ่งมองข้ามไหล่ผมไปเพื่อมองคนที่เพิ่งทำร้ายเขา
“นุ..เจ็บมากมั้ย ไม่เป็นไรนะ โอ้ย!!”โดยไม่ทันตั้งตัว นุก็ผลักผมเต็มแรงจนหงายหลังไปกองกับพื้น
“นุ!!”เสียงตวาดพร้อมกับมือที่ขยำคอเสื้อจนยับ
“อย่า!!”ผมรีบร้องห้ามก่อนมือที่กำหมัดไว้จะกระทบใบหน้าที่บอบช้ำเมื่อครู่
“ทำไม!! มันดีกว่านุตรงไหนพี่ถึงหลงมันขนาดนี้ ที่ผ่านมาพี่ก็รู้ว่านุไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่เพราะนุรักพี่จริงๆ ทำไมพี่ทำกับนุแบบนี้ ทำไม!!”
“ถามตัวเองก่อนเถอะนุ ว่าเธอดีกว่าเขาตรงไหน อย่าให้พี่ต้องพูดพฤติกรรมต่ำๆ ของเธอออกมาเลยนะ แค่ที่รับรู้มาก็ทุเรศเต็มทน”มือที่ขยำคอเสื้อคลายออกแล้วผลักคนตรงหน้าออกไปเหมือนกับไม่อยากสัมผัส ไม่อยากแตะต้อง
“ใช่สิ! นุมันเลว แต่มันก็ไม่ได้ดีกว่านุนักหรอก เจ้าของก็มีเป็นตัวเป็นตนแล้ว พี่เองก็เคยเจอ ชอบกินเดนชาวบ้านเขาหรือไง ไม่รู้เหรอว่าเดี๋ยวนี้มันสำส่อนขนาดไหน ห้องก็ไม่กลับ ไม่รู้ไปนอนกับใครมากี่คนแล้ว พี่เป็นคนที่เท่าไหร่จะนับไหวเหรอ ไหนเคยบอกว่าไม่ชอบใช้ของร่วมกับคนอื่นไง”
“ที่พูดน่ะมันตัวเธอต่างหาก อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่าลับหลังพี่เธอไปกับลูกค้ารวยๆ มาแล้วกี่คน แม้แต่ไอ้นัทก็ยังไม่เว้น ที่ให้เงินใช้ทุกวันนี้มันไม่พอสินะ ถึงได้หาจ็อบเสริมอยู่ตลอดเวลา แล้วขอบอกให้รู้ด้วยนะ ว่าพายเขาไปอยู่กับพี่ แล้วก็อยู่มานานแล้วด้วย”
“ไม่จริง!!!”“จริง!! และรู้เอาไว้อีกอย่างนะ ว่าเธอมันก็แค่ของแก้ขัดระหว่างที่พายไม่อยู่ก็แค่นั้นแหล่ะ”
“
พอแล้ว!!! หยุดพูดนะ! คุณจะไหนก็ไป อย่ามายุ่งกับผม อย่ามายุ่งกับนุ”ผมลุกขึ้นร้องห้ามคนที่ตะโกนใส่นุ ผลักอกเขาให้ถอยห่างออกไป ยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดี
“ขนาดนี้แล้วยังมาตีสองหน้าเป็นเพื่อนแสนดีอยู่อีกเหรอ เพราะแกนั่นแหล่ะเรื่องมันถึงเป็นแบบนี้ เพราะแก!!”นุกระชากไหล่ผมให้หันไปหาพร้อมกับเขย่าแขนทั้งสองข้าง นิ้วมือที่จับอยู่จิกลงบนเนื้อจนรู้สึกแสบ รอยข่วนลากยาวเพราะคนทำกรีดนิ้วลงตามช่วงแขนและเตรียมย้อนขึ้นมาบนใบหน้า
“ปล่อยพายนะนุ! พี่บอกให้ปล่อย”คนพูดแทรกเข้ามาระหว่างผมกับนุแล้วบิดแขนออกอย่างแรง
“โอ้ย!!”นุร้องเสียงดังพร้อมๆ กับผมที่เป็นอิสระ......เขาพูดถูก.....เรื่องที่เกิดขึ้น......มันเป็นเพราะความซวยของผมเอง......ผมเป็นคนที่ร้ายนุ
“พาย!! จะไปไหน!”
ผมวิ่งออกมานอกร้านโดยไม่สนใจเสียงอะไรอีก.....ตอนนี้...ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกแล้ว เมื่อครู่มันเหมือนกับอยู่ในความฝัน คนที่ทำร้าย...คนที่ว่ากล่าวผมด้วยถ้อยคำรุนแรง....คือคนที่ผมเรียกว่าเพื่อน.....คือคนที่ผมพยายามปกป้องแม้กระทั่งเมื่อครู่......คำพูดทุกคำที่ออกจากปากคนที่ผมเรียกว่าเพื่อนรัก....คำพูดที่เอ่ยออกมาด้วยความผิดหวังและเสียใจ แต่...มันก็ทำให้ผมเจ็บ ถึงแม้จะรู้ว่าเขาพูดเพื่อระบายความโกรธ แต่....มันเจ็บ...แววตาที่มองมาด้วยความโกรธแค้นและผิดหวัง....นี่สิ....เจ็บยิ่งกว่าคำพูดเสียอีก.....เพราะผม...ผมทั้งให้เพื่อนรักของผมผิดหวัง...ทำให้เขาเสียใจ.....ทั้งหมดเป็นเพราะผมเอง
“พาย!!!”
......น่าหัวเราะ....แต่กลับหัวเราะไม่ออก....ทั้งๆ ที่คิดว่าคงไม่มีอะไรให้ต้องตกใจ....หรือเสียใจไปมากกว่านี้ ไม่มีอะไรทำให้เสียใจเพิ่มได้อีก แต่...เสียงของคนที่ตะโกนเรียกจากรถคันที่เพิ่งจอดเทียบฟุตบาตกลับ....ทำให้จิตใจที่คิดว่าเจ็บจนถึงขีดสุด....เจ็บมากกว่าเดิมได้อีกเท่าตัว…..เจ็บ...จนอยากหยุดหายใจ
“ไปทำอะไรมา ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้”ฝ่ามืออุ่นแนบลงบนรอยแผลบนใบหน้าทันทีที่เดินมาถึงตัวผม
“ปล่อยมือออกจากพายซะ”ขณะที่ผมยังนิ่งเฉย คนที่วิ่งตามมาถึงก็เดินมายืนเคียงข้างพร้อมปัดมือของทิวออก
“คุณ! เกี่ยวอะไรด้วย หรือว่า.....คุณเป็นโทรนัดผมมาที่นี่”
“ใช่...แต่รู้สึกจะมาสายไปหน่อยนะ”
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ชีวิตพายช่างสุดแสนรันทด
