
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนพิเศษ....เมื่อวันพระจันทร์สองดวงช่วงนี้จะเรียกได้ว่าอาการเห่อสิ่งแปลกใหม่ ไม่รู้เป็นอะไรนะครับ เดี๋ยวก็มีเรื่องโน้นเรื่องนี้แปลกๆ เกิดขึ้นบ่อยๆ ผมเองก็เฝ้าติดตามเหมือนกับใครอีกหลายๆ คน อย่างคราวที่บอกว่าจะสามารถเห็นสุริยุปราคา ผมก็เตรียมตัวนับถอยหลังรอ แต่...ฝนตก แย่มากๆ เลย ผมตั้งตารอตั้งหลายวัน ฝนดันตกลงมาได้ เมฆเต็มฟ้าไปหมด ผมต้องเดินเข้าบ้านอย่างหัวเสีย ส่วนคนที่ไม่สนใจอะไรเลยก็นั่งหัวเราะเยาะผมเสียงดัง
“ความจริงก็น่าจะเอาตะไคร้ไปปักก่อนนะ ฝนจะได้ไม่ตก”พอผมจะเดินหนีเข้าห้องนอนเขาก็พูดขึ้นมา
“อะไร เกี่ยวอะไรกับตะไคร้”
“ก็โบราณเขาบอกไว้ไง แก้เคล็ดให้ฝนไม่ตก...แต่...สงสัยพายคงทำไม่ได้หรอก...เขาให้เฉพาะคนซิงๆ น่ะ”ดูมัน พูดเองหัวเราะเอง
“ไอ้บ้า เขาให้ผู้หญิงไปปักต่างหาก ไม่รู้เรื่องแล้วอยากจะพูด”ยิ่งหัวเสียอยู่ยังมาแหย่อีก
“อะไร ว่าใคร ไหนออกมานี่ดิ๊”ดูมัน พอผมว่าหน่อยเดียวทำตาขวาง คิดว่ากลัวเหรอ ผม...รีบวิ่งเข้าห้องล็อคกุญแจเลย ได้ยินเสียงมันหัวเราะลั่นบ้าน ไอ้บ้านี่ชอบแกล้ง โรคจิตชัดๆ
เดินเข้ามานั่งอยู่หน้าคอมฯ การเช็คข่าวสารออนไลน์ก็เป็นอะไรที่เริ่มชินแล้วเหมือนกัน จะว่าไปมันก็รวดเร็วดีนะครับ ติดต่อกับเพื่อนทางไกลก็สะดวกและประหยัดดีด้วย ผมนั่งเช็คอีเมลล์ตัวเองเรื่อยๆ จนมาถึงอีเมลล์ที่น่าสนใจอีกอันหนึ่ง
วันที่ 27 สิงหาคม 2551 คือวันที่คนทั้งโลกตั้งตารอคอย....
เพราะดาวอังคารจะส่องแสงเจิดจรัสบนฟากฟ้าให้เห็นแบบช ัดเจนที่สุดตลอดเดือนสิงหาคม
ด้วยรูปทรงขนาดใหญ่ประดุจดังพระจันทร์เต็มดวงซึ่งเรา สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
โดยเฉพาะวันที่ 27 สิงหาคมซึ่งทุกอย่างจะชัดเจนสมบูรณ์ที่สุดเพราะวันนั ้นดาวอังคารจะอยู่ห่างจากโลก
แค่ 34.65 ล้านไมล์
อย่าพลาดนะ...คืนวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง เราจะเห็นดวงจันทร์สองดวงบน
ท้องนภา (โรแมนติคมั่กมั่ก)
ปรากฎการณ์เช่นนี้จะมีให้เห็นอีกครั้งในปี คศ. 2287 (หรือพุทธศักราช 2830)
ร่วมแบ่งปันเมล์นี้ให้เพื่อน ด้วยนะครับ เพราะนี่คือโอกาสเดียวในชีวิต
(ยกเว้นแต่คุณเป็นมนุษย์อมตะซึ่งสามารถมีชีวิตได้อีก 280 ปี)
ผมอ่านข้อความทั้งหมดแล้วแอบอมยิ้มอยู่คนเดียว ไม่รู้ทำไมผมถึงชอบอะไรแบบนี้ มันดูน่าตื่นเต้นดีนะครับ พระจันทร์สองดวง....แค่คิดก็...โหหหห..คงต้องสวยมากแน่ๆ เลย คราวนี้ผมจะไม่บอกมัน เดี๋ยวถ้าเกิดพลาดขึ้นมามันจะได้ไม่เยอะเย้ยผมอีก
หลังจากวันนั้นผมก็นั่งเฝ้าพระจันทร์ที่นอกชานแทบทุกคืน เผื่อว่ามันจะเห็นลางๆ ก่อนวันที่ 27 บางทีเห็นเงาๆ ผ่านกลุ่มเมฆก็แอบอิ้มดีใจคนเดียว พอเมฆผ่านถึงได้ถอนหายใจแบบเซ็งๆ ที่ยังเห็นดวงเดียวเหมือนเดิม
“เป็นอะไร นั่งยิ้มคนเดียว”
“ยุ่ง”ผมตอบกลับแบบขำๆ ไม่บอกมันหรอก ถ้าเห็นเมื่อไหร่จะมาเยาะเย้ยมันบ้าง ให้มันเสียดายเล่นๆ แค่คิดก็สะใจแล้ว
“อ้าว ถามดีๆ”
“ไม่บอก จะไปไหนก็ไปดิ”ช่วงนี้ไม่มีอะไรทำ นอนดึกเท่าไหร่ก็ได้ อยากนั่งดูเงียบๆ คนเดียว
“ดูทีวีอยู่ไม่เห็นรึไง แล้วนี่ดึกแล้วทำไมยังไม่ไปนอน ไปนั่งตากน้ำค้างอยู่ได้ อยากไปนอนให้หมอหนุ่มๆ ฉีดยารึไง”ดุอีกแล้ว ชอบดุอยู่เรื่อยเลย อารมณ์เสียเรื่องงานมาหรือไง นิสัยไม่ดี ชอบพาลกับคนอื่น นิสัยเลวจริงๆ
“....ปากเสีย”
“...ไปนอนไป เดี๋ยวไม่สบาย”น้ำเสียงดูอ่อนลง แต่ก็น่าจะรู้ว่า...ผมโกรธไปแล้ว
“พายนอนห้องเล็กนะ”ผมพูดเสียงแข็งให้รู้ว่าไม่พอใจที่เขาพูดกับผมเมื่อครู่ การย้ายห้องนอนเป็นการต่อต้านเล็กๆ ที่ทำจนชินแล้ว
“อ้าว........ตามใจ”เขามองแบบไม่เห็นด้วย แต่ก็ยอมตามใจ ผมเดินเปิดประตูห้องนอนใหญ่เข้าไปหยิบหมอนกับผ้าห่มออกมา แล้วก็เดินไปห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกัน ก่อนเข้าห้องนอนเห็นเขาไปหยิบเบียร์มานั่งดื่มด้วย ช่างเขา ไม่สนใจ อยากพูดไม่ดีกับผมก่อนทำไม
หลังจากวันนั้นเขาต้องไปธุระเรื่องงาน ตอนแรกจะเอาผมไปด้วยแต่มันต้องค้าง ไม่อยากไปครับ รู้สึกติดกับการนั่งมองพระจันทร์แล้ว อยากดูทุกวัน เผื่อมันจะเห็นชัดขึ้นวันละนิดๆ ขอขัดใจนิดหน่อย แต่ท่าทางจะโกรธๆ เหมือนกัน แต่ช่างมัน โดนโกรธจนชินแล้ว
หลังจากทำงานกลับมา ผมก็ยังคงคอยเฝ้าพระจันทร์เหมือนเดิม แต่ไม่ได้ไปนั่งที่นอกชานแล้วนะครับ เดี่ยวเขาว่าอีก ตอนนี้ก็เลยนั่งแหงนหน้ามองจากหน้าต่างห้องรับแขกแทน
“ถามจริงๆ เถอะ ที่นี่นั่งเฝ้าทุกวันนี่รอมองไอ้ดาวอังคารนั่นใช่เปล่า”คำถามมันช่างห้วนจริงๆ ไม่โรแมนติกเลย พระจันทร์สองดวงเว้ยไม่ใช่ดาวอังคาร
“ใช่ เจอในเมลล์”
“อีกสองวันไม่ใช่เหรอ มานั่งรออะไรทุกวัน”ไม่รู้ว่าเขาไปรู้มาจากไหน สงสัยได้เมลล์เหมือนกัน แสดงว่าไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกที่นั่งรอแบบนี้
“ก็เผื่อมันเห็นไง”
“วันนี้ฟ้าปิด ไม่เห็นหรอก มานอนเถอะ”เขาพยายามดึงผมออกจากหน้าต่าง แต่ผมรีบเกาะขอบหน้าต่างแน่น ไม่ได้อยากดูมากหรอกนะครับ แต่รู้ว่าจะดึงผมไปทำไม โอยยย...แรงเยอะชะมัดเลย
“ไม่ๆๆๆ พายจะดู พี่ก็ไปนอนคนเดียวสิ”
“เรื่องอะไรล่ะ นอนคนเดียวตั้งหลายคืนแล้ว...นะ”อย่ามานะเนอะอะไรนะ ไม่เอาด้วยหรอก
“อ๊ะ! อื้ออ”ไอ้บ้านี่ ฉวยโอกาสที่ผมหันไปยื่นหน้ามาจูบเฉยเลย พอผมอ่อนแรงเข้าหน่อยก็อุ้มผมลอยหวือเข้าห้องนอนเสียอย่างนั้น
“อืมม...ไม่เอา”
“น่า....เดี๋ยวพรุ่งนี้ดูเป็นเพื่อน”
“อืม.....ดะ...เดี๋ยว”ผมพยายามดิ้นหนีจนเกือบตกเตียง แต่เขาก็คว้าตัวผมจากด้านหลัง ริมฝีปากร้อนๆ จูบไซร้ตามซอกคอ ฝ่ามือที่ว่างก็พยายามปลดชุดนอนผมออก แล้วก็ทำได้สำเร็จอย่างรวดเร็วเสียด้วย ลิ้นร้อนชื้นที่ลากผ่านตามยอดอกจนถึงท้องน้อยทำให้ต้องเกร็งตาม ผมพยายามเม้มริมฝีปากตัวเองเพื่อกั้นเสียงครางอย่างเต็มที่ ในขณะที่เขาพยายามกระตุ้นผมทุกวิถีทาง
“อ๊ะ...อื้มมมม”
.
.
.
อากาศยามเช้าช่างไม่น่าพิศมัย ผมเดินโซเซเข้าไปอาบน้ำแล้วกลับมายืนมองร่างหนาที่นอนแผ่อยู่บนเตียง ใบหน้ายามหลับดูมีความสุขเสียเหลือเกิน ผมยื่นมือไปบีบจมูก ด้วยความหมั่นไส้ เขาส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอเบาๆ ผมแอบหัวเราะเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องไป
“วันนี้พี่จะไปกินเหล้ากับเพื่อน”ตอนบ่ายหลังจากที่เขาตื่นก็มีเพื่อนโทรมาตามทันที คำพูดที่แยกไม่ค่อยออกว่าเป็นคำบอกเล่าหรือขออนุญาติ
“ไปด้วย”ผมตอบทันควันเลย ไว้ใจไม่ได้ครับ ไปเมาทีไรพาปัญหากลับมาให้ทุกที
“ไม่ดูพระจันทร์เหรอ เผื่อวันนี้เห็นไง”
“วันนี้ 26 เอง ไม่เห็นหรอก พายไปด้วย”สงสัยไอ้ที่บอกว่าจะดูเป็นเพื่อนนี่คงลืมไปแล้วมั้ง นิสัยเสียจริงๆ เลย แย่มากๆ
“จะไปทำไมล่ะ ไปนั่งเฉยๆ เบื่อเปล่าๆ นั่งเฝ้าพระจันทร์น่ะดีแล้ว”
“พรุ่งนี้ค่อยดูทีเดียวก็ได้ วันนี้ไม่เห็นหรอก ดูมาหลายวันแล้ว”สงสัยต้องรอ 27 จริงๆ ไม่น่าเฝ้าตั้งหลายคืนเลย
“เขาบอกเที่ยงคืนกว่าของวันที่ 27 ไม่ใช่เหรอ ถ้าเลยคืนนี้ไปก็เท่ากับเป็นเที่ยงคืนของวันที่ 27 แล้วนะ จะไม่ดูเหรอ”ที่เขาพูดมันก็น่าคิด เที่ยงคืนกว่าของวันที่ 27...ถ้าพ้นจากคืนนี้ มันก็นับเป็น 27 แล้วนี่ หรือว่าจะหมายถึงคืนนี้ เพราะถ้าเลยเที่ยงคืนพรุ่งนี้ก็กลายเป็น 28
“จริงน่ะ”
“ไม่รู้สิ ก็วันมันนับแบบนี้ไม่ใช่เหรอ เกิดพลาดไปต้องรอชาติหน้าเลยนะ”นั่นสิ....ผมก็ไม่ได้เป็นอมตะด้วย...เอาไงดีเนี่ย
“....งั้น...ห้ามเมานะ”ผมชี้หน้าแบบขู่ๆ มีปัญหาขู่ได้แค่นี้แหล่ะครับ ไม่รู้ว่าจะกลัวมั้ย
“ตกลง ว่าแต่...ไม่ไปจริงเหรอ”ผมส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง จะไปทำไม เหล้าก็ไม่กิน ไปก็ได้แต่คอยเป็นคนขับรถพาคนเมากลับ น่าเบื่อ นั่งเฝ้าพระจันทร์ยังสนุกกว่าเลย
ตกดึกผมก็มานั่งที่หน้าต่างเหมือนเดิม ได้ยินเสียงล้อรถมาจอดที่หน้าบ้าน สงสัยจะเมากลับมาอีกแล้ว ล้อบดถนนจนหนวกหูเลย
“หืมมม...ยังไม่นอนอีก”
“เมาอีกแล้วสิ ไปนอนไป”พระจันทร์ก็เห็นแค่ดวงเดียว แถม...ยังเมากลับมาอีก เดินมาใกล้ๆ นี่ได้ทั้งกลิ่นเหล้า กลิ่นน้ำหอมเลย เกลียดมันจริงๆ
“อืมม...มานอนด้วยกันสิ”เดินมาถึงก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผม แล้วก็เอามือมาโอบเอวผมไว้อีก
“ไม่ วันนี้จะนอนห้องเล็ก”
“เอาน่า อย่าเรื่องมาก”ดูมันพูด น่าหาของไปฟาดปากชะมัด เขาเรียกเล่นตัว ไม่ได้เรื่องมาก....เอ๊ะ...ไม่สิ ไม่ได้เล่นตัว ผมไม่ยอมต่างหาก
“ไม่ๆๆๆ ไม่ต้องมาจับ เมาก็ไปนอนไป”ผมพยายามปัดมือที่เอื้อมมากอดเอวผมออก ไปอยากอยู่ใกล้ครับ เหม็นเหล้า
“ยังไม่เมาซะหน่อย ยังเหลือแรงอีกเยอะ”น่าน ยังมาพูดดีอีก
“ไอ้บ้า”ผมเอามือดันหน้าที่พยายามยื่นมาหอมแก้มผมเอาไว้ แต่ก็ยังถูกปลายจมูกเฉียดๆ ที่แก้ม แล้วก็ไล่มาตามลำคอ
“เร็วๆ ปล่อยมือด้วย คืนนี้ไม่เห็นหรอก”จะมาเร็วอะไร เมื่อคืนก็ยอมไปแล้ว วันนี้ไม่ยอมหรอก ตอนนี้ยังเมื่อยๆ ตัวอยู่เลย
“ไหนบอกว่าคืนนี้ไง โกหกพายเหรอ”
“เปล่า...ก็เห็นเพื่อนบอกว่าอาจเป็นพรุ่งนี้ นี่ก็เลยเวลาแล้ว ไม่เห็นแล้วล่ะ นะ เข้าห้องเถอะ”
“.....ไม่เห็นจริงอ่ะ”
“จริง”
“อ๊ะ! ปล่อยก่อน ไม่ต้องอุ้ม เดี๋ยวตก”ผมพยายามดิ้นลง แต่ก็ไม่ทันแล้วครับ เสียงเปิดประตูห้องนอนพร้อมๆ กับตัวผมและเข้าที่เข้ามาอยู่ข้างใน แล้วไม่กี่วินาทีหลังผมก็สัมผัสกับเตียงนอนนุ่มๆ
“อื้มมมม....เดี๋ยว.....”
“....เงียบน่า”
.
.
.
แสงแดดยามเช้า........เช้าแล้ว....ผมลุกขึ้นจากที่นอนอย่างอ่อนแรง กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็แทบจะทรุดลงไปนั่งหลายรอบ เดินมายืนมองคนที่นอนหลับด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขก็ยิ่งเพิ่มความโมโห ผมเอาหมอนตัวเองไปกดหน้าเอาไว้จนรู้สึกว่าเขาเริ่มดิ้นนั่นแหล่ะถึงได้เอาออก แล้วดึงผ้าห่มคลุมปิดหน้าเอาไว้ด้วย ทำอะไรไม่เคยคิดบ้างว่าผมรับได้มั้ย แล้วยังมีหน้ามานอนหลับสบายใจอีก
ในที่สุดจุดมุ่งหมายผมก็กำลังจะเป็นจริง คืนนี้...ผมจะได้เห็นพระจันทร์สองดวงแล้ว
“ทำไมถึงอยากดูนักนะ คนอื่นเขาไม่เห็นกระตือรือร้นแบบพายเลย”เสียงคนข้างๆ ผมเอาอารมณ์โรแมนติกผมตกวูบ จะช่วยนั่งทำตัวเข้ากับบรรยากาศบ้างได้มั้ยเนี่ย
“เรื่องของพาย”
“แต่พี่อยากนอนแล้วนี่”
“ก็ไปนอนสิ”เข้าใจครับว่าทำงานมาเหนื่อยๆ ผมก็ไม่อยากฝืนให้เขานั่งเป็นเพื่อนหรอก
“นอนพร้อมกันสิ”
“ไม่เอา อีกแค่ชั่วโมงก็จะเที่ยงคืนแล้ว ถ้ายังไม่อยากไปนอนก็หาหนังมานั่งดูดิ”
“ก้ได้ ได้หนังใหม่มาพอดี”
“พายดูด้วย”
“จริงนะ”เขาถามกลับ ผมก็พยักหน้าให้ นั่งรอนี่ไม่ใช่ว่าไม่เบื่อนะครับ เบื่อเหมือนกัน แต่...อดทนครับ
ผมเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะออกมาพร้อมซีดีหลายแผ่น ผมก็รอดูอยู่ว่าจะเปิดเรื่องอะไร แต่...พอภาพบนจอปรากฏเท่านั้นแหล่ะ หมอนอิงข้างๆ ผมก็ลอยหวือไปเกือบโดนหัวเขาทันที
“ไอ้บ้า โรคจิต เปิดอะไรน่ะ ปิดเลยนะ”จะไม่ให้โวยวายได้ไง ก็มันเล่นเปิดหนังโป๊ขึ้นมาเต็มจอเลย ภาพงี้ชัดแจ๋วไม่มีเซ็นเซอร์ ระบบเสียงรอบทิศ มันจะมาเปิดอะไรกลางบ้านเนี่ย
“อ้าว ก็พายบอกให้เปิด เรื่องใหม่เลยนะ ยังไม่ได้ดูเลย”ดูมัน ยังมีหน้าเอาหมอนที่ผมขว้างไปหนุนนอนหน้าทีวีอีก กลัวเห็นไม่ชัดหรือไง
“ไม่ดู ไปดูคนเดียวในห้องไป๊”ผมตะโกนไล่เสียงดังพร้อมทั้งขว้างหมอนไปอีกใบ
“ไหนบอกว่าจะดูด้วย ตอนแรกจะไปดูในห้อง แต่พายนั่นแหล่ะบอกว่าจะดูด้วย พี่เลยเปลี่ยนใจ”
“ไอ้บ้า!!”ผมล่ะเชื่อเขาเลย แทนที่จะปิดดันเร่งเสียงเพิ่มขึ้นอีก ไล่ยังไงก็ไม่ไป เสียงครวญครางจากลำโพงทำให้รู้สึกแปลกๆ ผมเลือกที่จะนั่งหันหลังแล้วหยิบเอ็มพีสามขึ้นใส่หูฟัง ถึงจะเปิดเสียงเพลงดังเท่าไหร่ เสียงจากลำโพงก็ยังกลบอยู่ดี
ผมพยายามไม่สนใจ แต่ก็เห็นจากหางตาว่า...เขากำลังทำกิจกรรมบางอย่าง....โรคจิตชะมัด หน้าไม่อาย มานั่งทำอยู่ได้กลางบ้าน ผมเพ่งความสนใจไปที่ท้องฟ้าเบื้องบน แต่แล้ว.......พระเจ้าก็ไม่เข้าข้างผม สายฝนเม็ดเล็กๆ ค่อยๆ พร่างพรูลงมา จนเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมมองอย่างท้อใจ อีกแค่ไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาแล้ว แต่...ฟ้าปิดแบบนี้ผมก็คงมองไม่เห็นอีกตามเคย...เศร้าใจชะมัด
“ฝนตกซะแล้ว....งั้นก็ไปนอนได้แล้วสิ”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------

จบซะอย่างนั้น

ไปโทษคนแต่งเน้อ แต่งตอนอารมณ์เปลี่ยว
