จบบริบูรณ์ วันนี้ตุลย์พาแม่ผมออกจากบ้านตอน10โมง เห็นบอกว่ามีนัดที่โฮมสเตย์กับม๊าตุลย์เพื่อไปแต่งตัว งานนี้ไม่ชุดผ้าไหมก็ชุดล้านนาเต็มตัวแน่นอน งานใหญ่ของแม่เลี้ยงสาทั้งทีจะธรรมดาก็คงเป็นไปไม่ได้ จะเรียกว่างานช้างก็ได้นะครับ ยิ่งตุลย์เอ่ยปากงบไม่อั้นแบบนี้แล้วด้วย ถึงขนาดสั่งอาหารมาจากโรงแรมดังในตัวเมืองสงสัยจะเชิญแขกผู้ใหญ่มาเยอะ ผมเพิ่งแวะไปดูสถานที่มาเมื่อวาน จอคาราโอเกะหรือจอหนังผมไม่กล้าฟันธงมันมหึมาจริงๆ ตั้งเด่นอยู่ที่หน้าบ้าน ตุลย์ส่งแม่ผมแล้วคงไปรับพี่เมษกับพี่ธันที่สนามบินต่อเลย
สมาชิกของบ้านผมที่หายตัวไปอีกคนก็คือสอง แต่งหล่ออยู่หลายชั่วโมงเปลี่ยนชุดไม่รู้กี่ชุดถึงออกจากบ้านได้ สองบอกว่าจะไปรับแฟนมางานนี้ด้วย ผมก็ถามด้วยความสงสัยว่าใคร สอง ตอบกลับว่า ปิง ไม่รู้ไปตกลงปลงใจกันตั้งแต่ตอนไหน หรือน้องชายผมทึกทักเอาเอง ส่วนผมหลังจากสอบเสร็จแล้วก็โล่งหน่อยครับไม่ต้องนอนกับหนังสือทุกๆวัน อ่านจนตาลายผมมีเวลาพักผ่อยน้อยมาก วันนี้เลยขอออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ในสวนสักหน่อย เพราะงานเลี้ยงตอนเย็นอีกตั้งหลายชั่วโมง เดี๋ยวค่อยอาบน้ำเย็นๆก็ทัน แต่ผมก็เดินไม่ทั่วสวน ก็มีเสียงร้องเรียกมาจากทางหน้าบ้าน จนผมต้องเดินตามหาเจ้าของเสียงนั้นมา พอเห็นถึงเข้าใจว่าทำไมต้องบีบเสียงเล็กขนาดนี้ ทั้งสามคนแต่งหญิงในชุดสีขาวเหมือนกันยืนอยู่หน้าประตูบ้าน
“พธู อยู่ไหน ออกมานี่หน่อยเร็ว” เสียงหวานเจื้อยแจ้ว แบบนี้ก็แก๊งดอกปีบนั้นแหละครับ
“สวยกันทุกคนเลยนะ” ต้องชมหน่อยครับเพราะสวยจริง ลงทุนแต่งหญิงจัดเต็มขนาดนี้
“ทูไม่ต้องชม พวกเราสวยทุกวันอยู่แล้ว” มินนี่ทำท่าสะบัดบ๊อบใส่อวดความงาม
“ทำไมไม่ไปบ้านตุลย์ล่ะ มาบ้านทูทำไม”
“ก็อีตุลย์สั่งให้พวกเรามานี่ ทูขึ้นไปอาบน้ำเลย” สายรุ้งดึงแขนผมเข้าในบ้าน
“เดี๋ยวก่อนจะรีบไปไหน นี่ยังไม่เย็นเลย” ผมหยุดถามเพื่อน
“เราเอาชุดมาให้ทูไง อาบน้ำเลยเดี๋ยวต้องเซ็ตผมอีก” แม็กกี้ยกถุงชุดสูทสีขาวให้ผมดู
“ทำไมทูต้องใส่ชุดนี้ด้วย”
“อ่าว นี่อีตุลย์ไม่ได้บอกทูหรอ นึกว่ารู้แล้วซ่ะอีก มันสั่งตัดให้เลยนะ แล้วก็กำชับให้พวกเรามาแต่งหล่อให้ทูไปงานคืนนี้”
“ทูไม่ใส่ชุดนี่หรอกมันทางการไป งานก็จัดที่บ้านแต่งสบายๆก็ได้ ตุลย์ก็เว่อร์ตลอดเลย”
“เออ พวกเราก็ว่างั้นแหละทู สูทสีขาวทางการโคตรๆ อีตุลย์มันคิดจะทำอะไรของมัน ตอนที่มันเอาชุดให้พวกเราก็แปลกใจเหมือนกัน เอ๊ะ!! หรือว่า……. มันจะขอทู แต่งงาน” เพื่อนผมเน้นเสียงตรงคำว่า แต่งงาน ดังมาก
“ไม่ใช่หรอกมั้ง ตุลย์เนี่ยนะจะขอทู แต่งงาน” ผมยืนทำหน้าสงสัย
“อย่าว่าไปนะทู อีตุลย์มันอาจทำอย่างที่พวกเราสงสัยก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงนะ ตาร้อนผ่าวๆ อิจ มากพูดเลย” มินนี่เอาฝ่ามือพัดที่ตา
“อย่าเพิ่ง อิจ เพื่อนค่ะ อีมินนี่ ทูรีบขึ้นไปอาบน้ำเถอะ แล้วก็ใส่ชุดนี่ด้วย ถ้าไม่ใส่อีตุลย์เร่งงานเราสามคนแน่” แม็กกี้ยังคงบังคับผมให้ใส่ชุดนี่อยู่
“ขอโทษทุกคนด้วยนะ ทูจะใส่กางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ตก็พอ”
“ไม่ๆๆๆๆ ทูต้องใส่ชุดนี้ ขอร้องนะ ใส่เถอะนะทู อีตุลย์มันขอมา จะได้หล่อๆไง”
“ไม่เอา ทูไม่ใส่” เพื่อนวิ่งไล่จับผมให้ขึ้นไปอาบน้ำ และพากันยัดเหยียดชุดสูทสุดหรูให้อีก
….
….
….
....
....
....
.... “ไงไอ้น้องเชี่ย ตั้งแต่ปลาทูให้เอานี่ มึงไม่โทรหากูเลยนะสาสสส” ไอ้ธันทักทายด้วยการตบหัวผมหนึ่งที แล้วไอ้เมษพี่ชายคนโตของผมก็โยนกระเป๋าให้ผมใบเบ้อเร่อ แบกขึ้นรถคนเดียว มันสองคนเพิ่งมาจากกรุงเทพเพราะไอ้ธันติดงานเลยมาช้ากว่าที่ตกลงกันไว้ เราทั้งสามคนพี่น้องเดินกอดคอกันออกจากสนามบิน ผมรู้มันสองคนกวนตีนผมเฉยๆ จริงๆมันก็คิดถึงม๊ากับผมแต่งานที่โรงงานของป๊ายุ่งมากผมเข้าใจข้อนี้ดี จะหาเวลามาเชียงใหม่เยี่ยมม๊ากับผมบ่อยๆก็คงยาก ไอ้เมษอายุ28ปีแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูกและเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนป๊า ไอ้ธันอายุ27ปี โสดเรื่อยเปื่อยเอาได้เลื่อยๆไม่มีความคิดจะมีครอบครัวเพราะมันไม่ชอบผู้หญิง เป็นผู้บริหารของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ส่วนผมอายุ20ปี เป็นนักศึกษาน้องเล็กสุดท้องไข่ในหินของม๊า ฮ่าๆๆๆๆ
เราสามคนแย่งกันพูดตลอดทาง พูดทุกเรื่องเลยครับ ไม่เคยปิดแม้แต่เรื่องเดียว ไอ้เมษอาจจะมีดุบ้างกับเรื่องที่มันไม่เห็นด้วย แต่ยังไงก็ต้องยอม เสียงหัวเราะลั่นดังทั่วรถจนไม่ได้ยินเสียงเพลงที่เปิด ที่เสียงดังก็เพราะเรื่องลามกของไอ้ธันนั้นแหละครับ ไอ้นี่มันมีแต่เรื่องนี้ในหัวจริงๆ ม๊าออกมายืนรอที่หน้าบ้าน ผมมองเห็นแต่ไกล ชะเง้อมองจนรถเราจอดสนิทแล้วก็วิ่งเข้ามากอด พี่ชายผมทั้งสองคน
“ม๊าหวัดครับ หวัดดีครับม๊า” มันหอมแก้มม๊าพร้อมกันคนล่ะข้าง
“ม๊าคิดถึงจังเลยลูก”
“ม๊า ครับ ไอ้ตุลย์บังคับม๊าใส่ชุดนี้รึป่าวครับ” ไอ้ธันถาม เมื่อเห็นที่คาดผมวงแหวนฟรุ้งฟริ้ง กับปีกนางฟ้าที่หลังม๊า
“ป่าว ม๊าคิดธีมเอง แม่น้องทูก็ใส่นะ อยู่ในบ้านโน่นแหนะ ม๊าน่ารักมั้ยล่ะ” ม๊าหมุนตัวให้พี่ชายผมดู และวันนี้ม๊าผมก็58ปีเต็มพอดี แต่แต่งตัวชุดนางฟ้าสีขาวกระโปรงฟูฟ่องเหมือนลืมอายุตัวเอง หมดกันแม่เลี้ยงสาที่ใครๆก็นับถือ มิน่าล่ะ ม๊าถึงให้ใช้ธีมสีขาวเพราะชุดนางฟ้านี่เอง ม๊าผมแต่งนางฟ้าแล้วแม่ทูแต่งชุดอะไร
“ม๊า แล้วใครเป็นคนจัดงานครับ เมษนึกงานมางานแต่ง”
“ใช่เมษ กูก็คิดแบบเดียวกับมึงเลยว่ะ” มันสองคนหันมองพุ่มดอกไม่ที่วางรอบๆ
“กูสั่งเอง ทำไมว่ะ ก็ม๊าชอบดอกไม้ อาหารจากโรงแรมนี่ ม๊าก็ชอบ ตามใจม๊าทุกอย่าง กูผิดตรงไหน”
“เมษกับธัน อย่าว่าน้องลูก ม๊าขอแบบนี้เอง เข้าบ้านเถอะ กัส ชิน แล้วเชน อยู่ข้างใน คงรอกินเหล้าอยู่ เร็วๆ”
เราทั้งหมดเดิมตามนางฟ้าของเราเข้ามาในบ้าน ไอ้เมษกับไอ้ธันหยุดกึ๊กแบบที่ผมทันตั้งตัว ชนมันสองคนเข้าเต็มแรง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงหัวเราะของมันสองคนดังมาก มันหัวเราะอะไรกันว่ะ จนผมต้องเอนตัวไปมองที่โต๊ะรับแขก ก็เห็นหมีขาวสามตัวนั่งยกแก้วเหล้ากันอยู่ หมีทั้งสามคือ พี่กัส พี่ชิน พี่เชน ใส่ชุดหมีสีขาวขนปุกปุย ช่างเป็นภาพที่น่ารักเกินอาชีพหน้าที่การงานของพวกพี่แกจริงๆ
“พวกมึงแต่งตัวเชี่ยอะไรกันเนี่ย” ไอ้ธันทั้งถามทั้งหัวเราะ แล้วก็นั่งลงร่วมวงกับเพื่อนๆมัน
“หมีไงสัส หมีขั่วโลกมึงรู้จักมั้ย” พี่กัสตอบแบบภูมิใจ
“โชคดีจริงโว้ยยย ได้แดกเหล้ากับหมีด้วย” ขณะที่ทุกคนเฮฮากันอยู่ ม๊าก็เต็มใจนำเสนออะไรบางอย่าง
“หมีขั่วโลก น่ารักไม่สู้ คิวปิด ของม๊านะ” แล้วม๊าก็จับมือแม่ปลาทูออกมาจากครัว ในชุดคิวปิดมีช่อมะกอกติดที่ผม ทำเอาเด็กๆอย่างพวกผมถึงกับพูดอะไรไม่ออก เมื่อเห็นแม่ทั้งสองคนแต่งตัวกันแบบนี้ พี่ชายผมอมยิ้มพร้อมยกมือไหว้
“สวัสดีครับ สวัสดีครับ"
ผมว่านิสัยบ้าแต่น่ารักแบบนี้ผมคงได้จากม๊าผ่านทาง DNA 100% ตอนนี้เราก็นั่งคุยกันรอเพื่อนคนอื่นๆมาสมทบ งานคืนนี้ก็ไม่ได้เชิญใครมาเป็นพิเศษนอกจากคนในครอบครัวแล้วก็เพื่อนสนิทของผมที่มางานวันเกิดม๊าเป็นประจำ จากนั้น อิงกับไอ้ภีมก็มาถึง มันสองคนใส่ชุดคู่เข้ากัน หวานจริงนะมึงคู่รักแห่งปี ตั้งแต่ยอมรับว่าคบกันเนี่ย ต่อด้วยไอ้ต้อง ไอ้สน มาด้วยชุดทีม รีล มาดริด ง่ายดีไม่ลงทุนดี พอเพื่อนเริ่มทยอยมา พวกเราก็ย้ายมานั่งที่โต๊ะหน้าบ้านที่จัดไว้ กับจอคาราโอเกะ ที่ม๊าผมยืนจับไมค์ประเดิมคนแรก ผมชอบม๊าหัวเราะแบบนี้จังนานแล้วที่ไม่เห็น ขอให้ม๊ามีความสุขแบบนี้ตลอดไปนะครับ
“ไอ้ธันมึงเอาของที่กูให้ซื้อมาด้วยป่าว”
“เอามาครับคุณตุลย์ ไอ้น้องบังเกิดเกล้า สั่งเอาๆ แล้วมึงจะซื้อมาทำเชี่ยอะไรหนักหนาว่ะ อ่ะเอาไป” มันยื่นกล่องผ้ากำมะหยี่เล็กๆให้ผม
“ความสุขกู มึงจะทำไม”
“ความสุขมึง แต่กูเดือดร้อนไงสัส ”
“อ่าวๆ เลิกเห่าคร๊าบบบทุกคน ชนๆๆๆๆ” พี่กัสยื่นแก้วเข้าหาทุกคน
“ทุกคนมองกล้องด้วยครับทางนี้ๆ ยิ้มครับ ยิ้มกว้างๆ กำลังอัดวีดีโอโบกมือหน่อย ดี ดีมาก ” พี่หมีเชนแบกกล้องถ่ายรอบโต๊ะ แล้วก็ไปหันไปถ่าย ม๊าผมกับแม่ทูกำลังร้องเพลงอย่างสนุกสนาน
“หยุดพี่ ผมขอไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ก่อนได้ป่ะ” ผมเอามือปิดหน้าไว้ไม่ให้พี่เชนถ่าย
“อย่าใส่ชุดนางฟ้าออกมานะมึง!!! 5555555555” เสียงโห่แซวตามตูดที่เดินยกแก้วเหล้าเข้ามาในบ้าน แต่งหล่อรอแฟนผมดีกว่า
….
….
….
....
....
....
....
ผมเหยียบคันเร่งชินตีนไปหน่อย จนลืมมองคนที่นั่งมาด้วย ทั้งเกร็งทั้งสั่นมือนี่จิกเบาะแน่นเลย ชวนตั้งนานในที่สุดปิงปิงก็ยอมมากับผมเต็มใจหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่แค่มาด้วยก็รู้สึกมากดีแล้ว ผมไปบ้านปิงปิงหลายครั้งแต่ไม่เคยเจอน้องข้าวปุ้นเลย ก็เลยถามว่าน้องสาวไปไหน ปิงปิงบอกเป็นลูกพี่ลูกน้องกันข้าวปุ้นไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับปิง ค่อยหายใจโล่งหน่อยนึกว่าตัวเองจะเป็นพญาเทครัวซ่ะแล้ว ก็ดีหมือนกันผมจะได้ไม่ต้องเจอหน้าน้องข้าวปุ้นอีก ปิงปิงอาจจะไม่ชอบผมก็ได้ ถ้ารู้เรื่องผมกับน้องสาว ก็อย่างที่รู้ผมไม่ผิดนะ ผมไม่ได้เป็นคนทิ้งน้องข้าวปุ้น เขานั้นแหละที่ทิ้งผมและทำให้ผมมาเจอกับปิงปิงจนผมเริ่มอยากลองคบกับผู้ชายดูบ้าง
“สอง ไม่ต้องขับเร็วขนาดนี้ก็ได้นะ” ปิงปิงเอามือแตะที่ขาผม
“เป็นห่วงสองหรอ”
“ป่าว เรากลัวอายุสั้น”
“อยากอยู่กับสองนานๆอ่ะดิ”
“หลงตัวเอง”
“ใครกันแน่ที่หลงสอง”
“ขับดีๆ ไม่ต้องหยอดมาก มันเลี่ยน พอดีอ่ะสอง พอดี อย่าเยอะ มาด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“คับพี่ปิง” ผมขับรถแป๊ปเดียวก็ถึง
“สวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ นี่แฟนผมครับ” ผมยืนข้างปิงปิงและแนะนำผู้ชายหน้าใสคนนี้ให้ทุกคนรู้จัก ถ้าถามว่าทุกคนจะอวยพรหรือยินดีกับผมมั้ย ตอบเลยว่ามีแต่เสียงชื่นชมและยินดี เมื่อเห็นปิงปิงมากับผม
“น้องครับ น้องรู้จักคำว่านรก แล้วใช่ครับ” พี่กัสกัดแรง
“ปิง มึงคิดผิด คิดใหม่เลยนะ ไอ้นี่เลี้ยงเหี้ยไว้เยอะมาก” ไอ้ภีมไอ้เมียเชี่ย จำไว้นะมึง
“พอเถ๊อะ สงสารกูบ้างครับพี่ กว่ามันจะยอมมากับกู ครับเพื่อน ไว้หน้ากูนิ๊ดนึ่ง” ผมไหว้รอบโต๊ะขอร้องให้หยุดกัด
“แดกเหล้าครับบบบบพวกมึง ไอ้สองนั่งสักที” ขอบคุณพี่ธันที่ช่วยตัดบทให้ผม รอดพ้นจากมือมาร
….
….
….
....
....
....
....
สูทสีขาวสองตัวถูกสั่งตัดให้เหมือนกัน เข้ารูปพอดีตัว ผมแค่อยากให้ปลาทูใส่เหมือนผมสักครั้ง อยากมีรูปคู่ใบใหญ่ติดที่ห้องรับแขก ความหวังครั้งนี้ผมฝากไว้กับเพื่อนสาวทั้งสามคน พวกมันคงช่วยให้ความฝันผมจริงได้ แต่งตัวเสร็จผมก็เดินลงจากบ้านมาร่วมโต๊ะกับทุกๆคนเหมือนเดิม เอ๊ะนี่!! ไอ้สองพาปิงปิงของมันมาได้จริงๆหรอเนี่ย ขอให้สมหวังนะมึง แผนที่จะชวนเขานอนบ้านอีกรอบ เดี๋ยวกูนอนเป็นเพื่อนอีกคืน ฮ่าๆๆ พอผมเดินถึงโต๊ะสายตาทุกคนรวมพลังกันมองมาที่ผมแบบอึ้งๆ จากหัวจรดตีน ตีนจรดหัว
“ไอ้เชี่ยตุลย์นี่งานวันเกิดม๊าหรืองานวันเกิดมึงห๊ะ จัดเต็มไปมั้ยสัส” ไอ้เมษเอ่ยปากถามแบบเหน็บแนมผม
“นิดนึ่งดิว่ะ นี่จะเป็นชุดแรกที่ปลาทูใส่เหมือนกูเลยนะมึง พวกมึงคอยดูนะชุดเหมือนกันเด๊ะๆ กูขอวันนึ่งล่ะกัน” ผมนั่งลงข้างไอ้ภีม
“อิงนึกว่าเจ้าบ่าวอ่ะ ตุลย์”
“เจ้าบ่าวอะไรอิง นี่เด็กเสริฟชัดๆ”
“หยุดเห่า ไอ้สอง เดี๋ยวกูจะเผามึงให้ไอ้ปิงฟังเดี๋ยวนี้”
“ขอโทษ คร๊าบบบบ อาจารย์ ศิษย์ผิดไปแล้ว”
สักพักรถทูก็เข้าจอดที่หน้าบ้าน เพื่อนสาวสามนางวิ่งลงจากรถด้วยชุดขนนกฟูฟ่องยิ่งกว่าชุดม๊าผมอีก นึกว่าชุดแดนซ์เซอร์ พี่ก็อต จักรพันธ์ มันสามตัววิ่งผ่านผมไปแบบก้มๆหน้า ไม่สบสายตา งานที่กูสั่งเรียบร้อยใช่มั้ยพวกมึง มึงให้ทูใส่ชุดเหมือนกูได้ใช่ป่ะ แล้วคำตอบของคำถามนี้ ก็เดินลงมาจากรถ กางเกงยีนส์ขายาวขาดเข่า เสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนสองข้าง รองเท้าผ้าใบไนกี้ โรช รัน เฮ่ยยยยยยยยย :TT: ลมหายใจพ้นออกจากจมูกเฮือกใหญ่ สูทสีขาวสุดเท่ห์ของกูอยู่ไหนทู ชุดเหมือนกัน กับรูปคู่สลายไปอีกครั้ง
“ทำไมไม่ใส่ชุดที่ตุลย์เอาไปให้”
“ไม่ชอบมันอึดอัด”
“ชุดเหมือนกันเด๊ะๆเลยสาสสสสส 5555555”
“ไอ้ธัน หุบปาก”
“โห่ ทู ใส่ให้มันหน่อยก็ไม่ได้ มันก็อวดไว้ซ่ะเยอะ สงสารจับใจเลยเนี๊ยะ ฮ่าๆๆๆๆ” ภีมมึงสงสารกูหร๋อ?
“มาๆ ชุดไหนก็แล้วแต่ มากินเหล้าเป็นเพื่อนพี่หน่อย ปล่อยให้ไอ้ตุลย์แต่งตัวเป็นเด็กเสริฟของมันคนเดียวดีแล้ว” ไอ้ธันขยับที่ให้ทูนั่งใกล้ๆ
“ทุกคน ชนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่อวกไม่นอน เฮ่ เฮ่ เฮ่ เฮ่” เพื่อนสาวของผมหายไปอยู่หน้าจอกับม๊าผมทันที พวกมันไม่กล้าสู้หน้าเพราะกลัวผมทวงเงินค่าจ้างคืนแน่
“เพลงต่อไปนี่เราสามคนขอ มอบให้ม๊าสุดที่รักของพวกเรานะค่ะ” อีมินนี่จับไมค์ อีแม็กกี้อีสายรุ้ง หางเครื่อง
ตั๋วน้องเป็นสาว รุ่นราวเอ๊าะ เอ๊าะ
หุ่นฮ่างก็เหมาะ บ่าวเก๊าะมาต๋อม
อีแม่น้องขาง เปิ้นตึงบ่ยอม
ถึงไผมาต๋อม ตึงบ่ฮื้อใกล้
ไผบ่ได้หยุ๊บ ไผบ่ได้ก๋ำ
คงบ่ได้หลำ ไป๊เป๋นลูกไป๊
น้องมินนี่คนงาม ขอยกมือไหว้
บ่าวเหนือบ่าวใต้ อ๊อเอา
พวกมึงรับเงินกูไปแล้วทำไม่สำเร็จแต่กับทำหน้าระรื่น ร้องเพลงกลบเกลื่อน จบงานก่อนกูจัดการกับพวกมึงแน่ ทุกคนดูสนุกสนาน ปรบมือตามเพลงนังสามตัวนั้น ปลาทูก็เอาแต่คุยกับไอ้เมษแล้วก็ไอ้ธัน ไม่เข้าใกล้ผมเลย ชุดไม่ใส่ไม่เป็นไร ผมมีแผนสำรอง
“ทูได้ข่าวว่าร้องเพลงเพราะหรอ ร้องให้พี่ฟังสักเพลงสิ” ไอ้เมษขอ
“พี่เมษอยากฟังเพลงอะไรครับ”
“เพลงอะไรก็ได้”
“แต่ทู อย่าร้องเพลง ไอ้หนุ่มมอเตอร์ไซค์ ของ จรัญ มโนเพชร ก็พอ เพราะเราเคยฟังตุลย์ร้องแล้วที่โรงอาหาร” ไอ้ปิงมองมาทางผม
“ไอ้ปิง มึงจะเล่นใช่มั้ย” ผมชี้หน้ามัน คนยิ่งอารมณ์ไม่ดี
"ล้อเล่นนะ"
ปลาทูเดินไปที่ด้านหน้าของจอคาราโอเกะ ม๊าผมแม่ทู แล้วก็เพื่อนสาวลงมานั่ง ที่โต๊ะเพื่อยกเวทีให้ทูคนเดียว ผมก้มหน้าก้มตายกแก้ว เพราะยังไงความฝันของผมก็พังลงแล้ว ความหวาน อย่าได้เรียกร้องจากปลาทู เพราะมันไม่มี
“ทูขอให้ม๊าสุขภาพแข็งสวยวันสวยคืนแบบนี้ตลอดไปนะครับ วันนี้เป็นวันที่ 1ตุลา ม๊าคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยครับ ถ้าทูจะขอร้องเพลงต่อไปนี้ ให้ผู้ชายที่มีชื่อตรงกับวันเกิดของม๊าฟัง” ผมเงยหน้าขึ้นจากแก้วเหล้าแล้วมองไปที่ปลาทูกำลังจับไมค์พูดอยู่
“หวิ๊ดดด หวิ๊วววววว หวานก็ได้หรอทู” เสียงแซวจากทุกคน
------------อินโทร ดังขึ้น--------------
ยิ้มที่ดูสดใส กับหัวใจที่อ่อนหวาน
ท่าทางเธอแบบนั้น ดูเท่าไหร่ไม่เคยเบื่อ
แม้เวลาจะผ่านพ้นไป นานสักเท่าไร
เธอยังคงสดใส ได้อย่างเหลือเชื่อ
เสียงหัวเราะในวันนั้น ฉันยังจำถึงวันนี้
นึกทีไรรู้สึกดี และดีทุกๆเมื่อ
แม้เวลาจะพ้นไป นานสักเท่าไร
ไม่เคยมีวันไหน ที่ฉันจะเบื่อเลย
ต่อให้โลกจะหมุนสักเท่าไร
เธอยังคงสดใสอ่อนหวานเหมือนเคย
ต่อให้ใครจะสวยเท่าไร รู้ไหม ว่าฉันเฉยๆ
ก็เพราะว่าเธอน่ารัก ทุกๆวัน
จนไม่อาจเปลี่ยนใจฉันที่มีให้เธอได้เลย
ฉันก็คงต้องบอก ฉันรักเธอ เหมือนเคย
ทุกอย่างช่างดูเหมือนฝัน
ตั้งแต่เราได้พบกัน
เธอเติมให้ฉันเต็มโดยไม่ต้องเอ่ย
แม้เวลาจะพ้นไป นานสักเท่าไร
ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันจะเบื่อเลย
ก็เพราะว่าเธอน่ารักทุกๆวัน
จนไม่อาจเปลี่ยนใจฉันที่มีให้เธอได้เลย
ฉันก็คงต้องบอก ฉันรักเธอ เหมือนเคย
ต่อให้โลกจะหมุนสักเท่าไร
เธอยังคงสดใสอ่อนหวานเหมือนเคย
ต่อให้ใครจะสวยแค่ไหน รู้ไหมสำหรับฉันยังคงเฉยๆ
ก็เพราะว่าเธอน่ารัก ขึ้นทุกวัน
จนไม่อาจเปลี่ยนใจฉันที่มีให้เธอได้เลย
ฉันก็คงต้องบอก ฉันรักเธอ เหมือนเคย
“สุดยอดเลยทู กูโคตรชอบ น่ารักมาก ไอ้ตุลย์จะได้เลิกหน้าเป็นตูดซักที” พี่หมีเชนอัดวีดีโออยู่ข้างหน้า เสียงปรบมือเกรียวกราว ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปหยุดต่อหน้าปลาทูหลังเพลงพี่บอยจบลง
“ไม่ต้องใส่ชุดเหมือนกันก็ได้เน๊าะ เพลงก็บอกแล้ว เหมือนเคย”
“โอ้ยยยย!!! อาจารย์ กูอิจฉา เชี่ยๆ” ไอ้สองแหกปากดัง
“งั้น ใส่แหวนเหมือนกัน อีก วง ได้มั้ยปลาทู” ผมคุกเข่าต่อหน้าทู แล้วเอาแหวน ออกมา
“อร๊ายยยยยยย กูบอกแล้ว อีตุลย์ต้องขอทูแต่งงานแน่ๆ” เสียงโห่เสียงกรี๊ดดัง ทุกคนยืนขึ้นลุ้นกับผมที่กำลังสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย ของทู
“ไม่ๆๆๆๆๆ เราไม่แต่ง เราไม่แต่งนะ ตุลย์” ทูยืนบิดไปบิดมาเหมือนคนปวดเยี่ยว เขินจนหน้าแดงก่ำ
“เดี๋ยวๆๆมือสั่นทำไม ตุลย์ไม่ได้ขอแต่งงาน แค่อยากให้ใส่แหวนนิ้วนี้อ่ะ ถ้ายังไม่ใส่อีกนะ ตุลย์จะซื้อให้ครบสิบนิ้วเลย”
“อ่าว!!!!! นึกว่าจะขอแต่งงาน” สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“อยากให้ขอ ปลาทูก็ท้องสิ เดี๋ยวให้ม๊า ยกขันหมากพรุ่งนี้เลย”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆฮ่าๆๆๆๆๆๆฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังลั่นอีกครั้ง เพราะทุกคนก็คงเข้าใจเหมือนปลาทู
“ตุลย์ แกล้ง เรา หร๋อ”
“เรียนจบก่อนได้มั้ยล่ะ ตุลย์จะไปขอกับแม่เอง”
“ตุลย์อ่ะ”
ปลาทูกระโดดเข้ากอดผมเต็มแรง ตัวผมถลาล้มลงกับพื้น โดยมีตัวทูทับอยู่ด้านบน แกร๊ก!!!! เสียงคุ้นๆนะ ปลาทูก้มจูบผมต่อหน้าทุกๆคน เสียงโห่ร้อง อื้ออึงไม่ขาดสาย แขนผมเจ็บๆข้างเดิมอีกแล้ว
“จูบเสร็จรึยังครับ ถ้าเสร็จแล้วช่วยพาตุลย์ส่งโรงพยาบาลที แขนน่าจะหักนะ ครั้งนี้หมอต้องดามเหล็กให้แน่เลย”ผมพยายามยกแขนขึ้นโชว์
“หักจริงหรอตุลย์ ขอโทษๆๆๆๆ เจ็บมากมั้ย ทูไม่ได้ตั้งใจ”
นี่แหละครับตอนจบความรักของ นายหนึ่งตุลา ไพศาลพาณิตย์ จบลงด้วยจูบพิฆาต แขนหักรอบที่สาม หวานบ้างขมบ้างปะปนกันไป ส่วนหนังสั้นของพวกพี่กัสจะได้ตอนจบแบบไหนนั้นผมช่วยไม่ได้จริงๆ แต่หวังว่าเรื่องราวความรักของผมกับปลาทูจะเป็นส่วนหนึ่งให้หนังพวกพี่แกได้
“จบซ่ะแล้วหนังรัก ของพวกผม”
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณมากๆค่ะ จบ แล้ว จ้า