ตอนที่9 แฟนผมยอมแล้วครับ ออกจากโรงพยาบาลวันนี้จะอ้อนตีนให้สมกับที่เจ็บหนัก ให้สมกับที่แลกมาด้วยเลือดด้วยเนื้อคอยดู ทูมานอนเป็นแฟนที่โรงพยาบาลทุกวัน พาเข้าห้องน้ำ ป้อนข้าว เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อ คอยเช็คไข้ ดูน้ำเกลือ ห่มผ้า อ่านหนังสือให้ฟัง เล่าเรื่องงานที่มหาลัย ร้องเพลง คุยกับหมอ ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยม มีพยาบาลส่วนตัวมันดีแบบนี่นี้เอง กอดก็ได้ จูบก็ได้ ทำให้อาหารที่โรงพยาบาลมีรสชาติดีขึ้นเยอะ หลังหมอมาตรวจอาการในช่วงเช้าเรียบร้อย ทูก็พาผมขับรถ กินลมชมวิวมาเลื่อย ตุลย์กินนั้นไหม ตุลย์อยากไปไหนรึเปล่า ตุลย์ต้องตัดผมนะ ตุลย์ต้องโน้น ตุลย์ต้องนี้ จากที่ผมเป็นคนชวนคุยตลอด แต่ตอนนี้ ผมต้องเป็นคนฟัง ปลาทูพูดเก่งขึ้นมาก เอาใจเก่งขึ้นด้วย อยากแขนหักอีกสักข้าง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ แม่ผมเลยยกหน้าที่คนดูแลให้ทู เพราะแม่ไม่ค่อยมีเวลา อยู่บ้านทูน่าจะเหมาะกว่า เรามาถึงบ้านช่วงสายๆ ไอ้สองช่วยขนของเข้าบ้าน แล้วบอกว่ามีแขกมารอ ที่ห้องรับแขก ทำไมไอ้สองถึงใช้คำว่าแขก มันดูสุภาพเกินไป
“หวัดดีทู เรามาเยี่ยมตุลย์ แล้วก็ขอโทษเรื่องคืนนั้นด้วย ที่คณะมีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องเราสามคน เราเลยอยากขอโทษ ไม่คิดว่าคนอื่นจะคิดไปไกลขนาดนั้น ทูไม่โกรธเราใช่ไหม” กระต่ายลุกขึ้นจากโซฟา แล้วรีบอธิบายพร้อมขอโทษแฟนผมยกใหญ่
“กระต่ายไม่ต้องกังวลเรื่องข่าวลือนะ แล้วทูก็ไม่ได้โกรธกระต่ายด้วย สบายใจได้” ทูยังดีกับคนอื่นเสมอ
“ขอบใจนะทู ขอบใจตุลย์ด้วย หายเร็วๆ” กระต่ายเดินมาจับมือผมแบบเพื่อน แล้วก็กลับบ้านไป
ทูรู้ว่าผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง รู้ว่าผมต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ทูบอกผมให้เปลี่ยนใจได้ ถ้ายังชอบผู้หญิงอยู่ แต่ผมก็พิสูจน์มาตั้งหลายปีแล้ว ผมจะไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด สัญญาที่ให้ไว้จำได้ทุกคำ แล้วผมจะนอกใจนอกกายได้ยังไง กอดที่กระต่ายให้ผม มันไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ไม่ได้รู้สึกอยากสานต่อ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมคงไม่ปล่อยให้กระต่ายรอดมือผมมาจนป่านนี้แน่ เพราะเธอทั้งสวยทั้งเก่ง และเธอก็ชอบผมมาตั้งแต่ปี1
“ทูกลัว ตุลย์กลับไปชอบผู้หญิงหรอ” ผมถามลองใจ
“เปล่า กลัว”
“งั้น หึง”
“เปล่า หึง ไปอาบน้ำ ตัวเหม็น ไม่กอดนะ”
“ไม่เป็นไร ตุลย์กอดเอง ไม่ต้องกลัวนะ ตุลย์จำสัญญาได้เสมอ” ผมยกมือข้างขวากอดที่เอวของทู คางเกิยที่ไหล่
“แต่ทู ไม่มีสิ่งที่กระต่ายมีนะ ตุลย์”
“ใครบอกทู ว่าตุลย์อยากได้แบบนั้น ไม่รู้หรอ ทูคือสิ่งที่ตุลย์ต้องการ อย่าพูดแบบนี้ ไม่เคยคิด ถ้าพูดอีก จะงอนบ้างล่ะนะ” หัวผมซุกเข้าที่ต้นคอ
“อ๊ะแหม่!! สาบานว่ามองไม่เห็นกู ขึ้นไปหวานบนห้อง กูดูหนังไม่รู้เรื่อง” ไอ้สองเห่าขัดจังหวะ ลืมจริงๆครับ มันมานั่งตั้งแต่ตอนไหน แล้วเราก็ขึ้นมาที่ห้อง ผมไม่ได้นอนในห้องนี้ตั้งหลายวัน โคตรคิดถึงเลย ทั้ง ผ้าห่ม หมอน ผ้าปู เตียง แล้วก็คิดถึงคน คนนี้ที่สุด ได้เวลาอันสมควรที่จะทำการง้องแง้งสักที
“ปลาทู๊ววววววววววววววววว ช่วยตุลย์หน่อย” เสียงสูงยิ่งกว่าทุกครั้ง
“เจ็บขนาดนี้ ยังจะให้ช่วยหรอ ตุลย์”
“เจ็บสิ ถึงต้องช่วย”
“ไม่เอา หายก่อนค่อยทำก็ได้ เดี๋ยวช่วย”
“ทูหมายถึงอะไร ตุลย์ขอให้ช่วยถอดเสื้อให้หน่อยจะอาบน้ำ เหม็นกลิ่นโรงพยาบาลจะแย่ ลามกนะทูอ่ะ” นานๆจะเห็นเขินแบบนี้
“อ่อ ตุลย์ วันนี้ มีนัดกับเพื่อนตอนเย็น ตุลย์จะไปไหม” เสียงร้องบอกผม ในขณะที่ผมยังอยู่ในห้องน้ำ
“ไปๆ”
นัดที่ว่าคือ นัดเตะฟุตบอลล้างตา เพราะครั้งก่อนผมแพ้ทีมไอ้สองแบบราบคาบต้องเสียเงินเลี้ยงเหล้ามันไปตั้งหลายพัน ครั้งนี้ผมต้องมาแก้แค้นมันให้ได้ ถึงร่างกายผมจะไม่สมบูรณ์ก็ตาม นอนพักไม่กี่ชั่วโมง ผมก็โทรยืนยันความพร้อมกับเพื่อน ว่าผมเล่นได้ ผมก็รั้นแบบนี้แหละครับ ไม่กลัวเจ็บ ก็ผมมีคนดูแลดีนี่หน่า นัดนี้ไม่มีการยกเลิก ผม ทู ไอ้ภีม ไอ้สอง ไอ้สน ไอ้ต้อง พี่กัส พี่ชิน พี่เชน มาครบ ทูไม่เล่น อิงก็มาเชียร์ไอ้ภีม พร้อมเป็นฝ่ายเสบียงอาหาร เราเล่นที่สนามฟุตซอลใกล้ๆกับมหาลัย แบ่งทีมเป็น4ต่อ4 ทีมผมมี ไอ้ภีม ไอ้สน พี่เชน ทีมไอ้สองมี ไอ้ต้อง พี่กัส พี่ชิน เราเล่นกันแบบ สองในสามเกมส์ ทีมไหนแพ้ต้องเป็นเจ้ามือ ส่วนสถานที่เมาก็บ้านทูนั้นแหละครับ จะได้มีกับแกล้มอร่อยๆจากแม่ที่ทำไว้รอด้วย เพื่อนๆก็เล่นแบบถนอมคนป่วยอย่างผม ทุกคนเหลี่ยงประทะกับผมโดยตรง ตอนนี้เสมอ1ต่อ1 เกมส์สุดท้ายเราวิ่งกันจนเหงื่อท่วมตัว วิ่งจนหอบแฮกๆ แทนที่ทีมผมจะมาแก้แค้นไอ้สอง กลายเป็นว่า มันมาย้ำแคนแทน ไอ้ภีมนี่ออกอาการเซ็งสุดๆที่ไม่เคยชนะทีมไอ้สองได้เลย เสียเงินไม่ว่าแต่เจ็บใจมากกว่า
เวลาประมาณทุ่มกว่าๆ เราก็กลับมาถึงบ้าน ลังเหล้าเบียร์ที่กองเป็นภูเขาถูกขนลงจากรถ อิงขอตัวกลับบ้าน เพราะวันนี้ปาร์ตี้ถูกจัดที่บ้านของทูเลยไม่ต้องห่วง ไม่ต้องคอยมานั่งเฝ้าคนเมา ไอ้ต้องกับไอ้สนก็วิ่งหายเข้าไปในครัวเพื่อขอของกิน ไอ้สองผู้ชนะทำหน้ายิ้มระรื่นและอวดความเก่งของตัวเองกับแม่ ส่วนผู้แพ้อย่างไอ้ภีมก็เดินคอตกแบบหงอยๆไม่พูดจา ทุกคนอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวแล้วขึ้นอัดแน่นที่ห้องไอ้สอง ผมไม่ได้แตะเหล้าสักแก้ว มีแต่ทูที่กินแทนผม เพื่อนๆพี่ๆก็แหกปากร้องเพลงบ้าง นั่งกดวินนิ่งกันบ้าง เผลอแป๊ปเดียวก็เที่ยงคืน ผมอาศัยช่วงเวลาที่คนอื่นเริ่มตึงๆดึงแขนทูลุกขึ้นกลับห้อง คงไม่มีใครสังเกตเห็นว่าผมกับทูหายไป ขอลองครั้งที่ 1488 เผื่อพระเจ้าจะเห็นใจผมบ้าง
“ปลาทู๊ววววว ตุลย์ขอนะ” ผมนั่งหย่อนขาอยู่บนเตียง ขอไปงั้น ก็รู้อยู่ว่าผลมันคืออะไร
“เราต้องทำไง” ห๊ะ อะไรนะ ผมหูฝาดรึเปล่า
“ตุลย์ เริ่มเอง”
ผมพูดแค่นั้น คิดว่าทูน่าจะเมา อาจไม่มีสติ ถือโออาสนี้รวบรัดเลยแล้วกัน ผมดึงตัวทูให้นอนลงกับเตียง เริ่มจูบลงบนริมฝีปาก กลิ่นเบียร์อ่อนยังลอยฟุ้งในนี้ ลิ้นนิ่มๆของผมสอดผ่านเข้าเจอลิ้นของทู ทั้งสองพัวพันกันจนเป็นหนึ่งเดียว โต้ตอบกันไปมาด้วยความเล้าร้อน ทูค่อยๆพลิกตัวผมให้นอนลงกับเตียงแบบอ่อนโยนนิ่มนวลทะนุถนอม มือทั้งสองข้างถอดเสื้อกับกางเกงออกทีชิ้นทีล่ะชิ้น แล้วทูค่อยหันมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง หน้าที่นี้ควรเป็นของผมมากกว่านะ แต่แขนผมมันเป็นอุปสรรค อยากกอดเฝือกออก3ชั่วโมงแล้วค่อยใส่ใหม่ ไม่ถนัดเลย ผมคงเป็นนายเอกที่ทุลักทุเลมากในการเมคเลิฟกับแฟน อยากยกแฟนก็ยกไม่ได้ ท่ายากผมมีเยอะคงไม่ได้ใช้ จะบ้าตาย
ผมพลิกตัวกลับอีกครั้ง จูบไล่ตั้งแต่หน้าผาก ลงมาแก้ม หยุดที่ปาก ผ่านที่หู เลื่อนลงต่ำที่คอ ลิ้นวนที่หน้าอก ผมลดระดับต่ำลงจนถึงหน้าท้อง ดีผมใช้ลิ้นเก่ง ถึงจะมีแขนขวาข้างเดียวที่ใช้งานได้ก็ตาม ผมจะทำให้ทูมีความสุขเท่าที่ร่างกายผมจะอำนวย ผมต้องปลุกความต้องการทางอารมณ์ของทูให้ได้ ทุกอย่างต้องสวย ผมใช้ลิ้นลูบไล้ทั่วตัวของทู พลิกด้านหน้าพลิกด้านหลัง เลื่อนลงมาที่โคนขาหนีบ ตรงนี้ใกล้จุดอ่อนของทูมากที่สุด และมันพร้อมที่จะสู้กับตุลย์น้อยของผมเต็มที่
...
...
...
^^
...
...
...
ตุลย์ใช้มือหยิบหลอดเจลที่วางอยู่หัวเตียงเหมือนมันถูกจัดเตรียมไว้ ตุลย์บีบเจลใสๆ ทาตรงทางเข้าของผมจนเปียกชุ่ม แล้วค่อยดันนิ้วเข้าด้วยความเบามือเหมือนเป็นการทดสอบ ผมรู้สึกเย็นๆเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย นิ้วของตุลย์วนเวียนเข้าๆออกๆ แต่ปากก็ยังจูบผมอยู่ตลอดเวลา มันเจ็บนิดหน่อย แต่เป็นความเจ็บที่ทนได้ ผมนึกว่ามันจะแย่มากกว่านี้ซ่ะอีก จากนั้นตุลย์ก็บีบเจลทาจนทั่วน้องชายตัวเอง แล้วจับผมลุกขึ้นนั่งหันหน้าเข้าหาตัว โดยที่ตุลย์นั่งห้อยขาที่ขอบเตียง ส่วนผมอยู่ในท่านั่งคร่อม แล้วมือข้างเดียวนั้น จับตัวผมสูงขึ้นให้อยู่ในท่าเตรียมพร้อม น้องชายตุลย์ก็จ่อที่ทางเข้า ตุลย์บอกกับผมว่า เจ็บหน่อยนะปลาทู ทนไม่ได้ก็ร้องออกมามันจะผ่อนคลาย จะร้องได้ยังไง ในเมื่อห้องข้างๆยังมีปาร์ตี้อยู่ แล้วตัวผมถูกกดลงต่ำด้วยมือที่จับระหว่างเอวของผมเพื่อให้สัมผัสกับน้องชายตุลย์ที่ตั้งตระหง่านรอ มันค่อยๆเลื่อนเข้ามาข้างในอย่างช้าๆ เมื่อทั้งสองส่วนของร่างกายผมกับตุลย์รวมกันเป็นหนึ่ง เจ็บแทบทนไม่ไหว มันถูกขยายใหญ่ เหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ทั้งเจ็บทั้งปวด ไปทุกอณู ตอนที่โดนนิ้วเข้ามาเทียบไม่ได้เลยกับของจริง ยิ่งมันเลื่อนเข้าไปลึกเท่าไหร่ ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น มือจิกแผ่นหลังของตุลย์ ผมร้องออกด้วยความเจ็บปวด ตุลย์ก็กอดผมแน่ขึ้น จูบปลอบใจและหยุดการเคลื่อนไหว
“ปลาทูไม่ต้องเกร็ง ทูทำได้ เราจะมีความสุขไปด้วยกันนะ”
ตุลย์พูดจบก็จับตัวผมยกขึ้นเล็กน้อย ตุลย์กำลังสอนให้ผมโยกตัวขึ้นลงเป็นจังหวะ เพื่อลดความเจ็บปวด ผมทำตามที่ตุลย์บอกทุกอย่าง ความเจ็บไม่ได้ลดลง แต่รู้สึกดีขึ้น มันไม่ได้มีเพียงความเจ็บปวดอย่างเดียว เพราะผมสัมผัสถึงความสุขที่แทรกผ่านมา ผมลืมเรื่องความเจ็บปวดที่มีปะปนอยู่ และปล่อยร่างกายไปตามคำสั่งของตุลย์ ตุลย์จับตัวผมเปลี่ยนมาอยู่ในท่าพร้อมคลาน ตุลย์เริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นโยกตัวเข้าออก สัมผัสจากตุลย์ทำให้ผมผ่อนคลายมากขึ้น และปล่อยให้ตุลย์ จับทำท่านั้น นั่งท่านี้ ยืนบ้าง นอนบ้าง ตามความต้องการของตุลย์และปล่อยตามแรงโน้มถ่วงของเตียง ตุลย์ยังโยกไม่หยุด แม้จะมีเพียงแขนขวาที่จับผมไว้แน่น ความพยายามสูงมากจริงๆตุลย์ มันเริ่มแรงขึ้นแรงขึ้นเลื่อยๆ เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมายของตัวเอง แต่น้ำขาวขุ่นจากตัวผมกับพุ่งออกมาก่อนของตุลย์ ทั้งที่ยังไม่มีการสัมผัสมันแต่อย่างใด สิ่งที่ตุลย์ทำให้ผมในคืนนี้มันยากที่จะต่อต้านหรือทัดทานได้ และแล้วผมก็รับรู้ได้ว่ามีน้ำอุ่นๆไหลผ่านเข้ามายังร่างกายผม มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ อย่างที่รู้กันคืนนี้เป็นคืนแรกที่ผมเป็นของตุลย์ทั้งตัว นับตั้งแต่เป็นแฟนกันมา ไม่ใช่เพราะเมา แต่เพราะรัก ตุลย์ทิ้งตัวนอนหมดแรงข้างๆผมมีเสียงหอบเบาๆ
“ขอบคุณนะปลาทู สมกับที่รอมานานจริงๆ”
“อืม”
แล้วเราสองคนก็หลับด้วยความเพลียหมดแรง ครั้งเดียวในคืนแรกนานพอสมควร ผมไม่แน่ใจเราสองส่งเสียงดังมากน้อยแค่ไหน ไม่รู้เพื่อนได้ยินไหม ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ผมคงโดนล้อไปอีกนาน ศอกพิฆาตก็ยังไม่เลิกล้อเลย ความรู้สึกที่เป็นฝ่ายรับไม่ได้แย่ มีความสุขได้และดีด้วย ถึงปลายทางเหมือนกัน อาจเป็นเพราะทำตุลย์เก่งเกินที่ผมคาดไว้ มาตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถเป็นฝ่ายรุกได้ไหม หรือผมเหมาะที่จะเป็นฝ่ายรับให้ตุลย์อย่างเดียว
2story
หลังจากที่เราเตะบอลเสร็จเราก็ย้ายฐานทับมาจัดปาร์ตี้ที่บ้าน ห้องผมคือสถานที่จัดงาน เพราะมีครบทุกสิ่งในเรื่องเอ็นเตอร์เทน ชุดโฮมเทียเตอร์ คาราโอเกะ วินนิ่ง ห้องผมกว้างที่สุดของบ้าน แต่วันนี้มันแคบลงถนัดตาเพราะเราทั้ง8คน อัดจนเต็มพื้นที่ ไอ้ต้องกับไอ้สนจองวินนิ่ง แก๊งพี่กัสแย่งไมค์ร้องคาโอเกะเสียงดัง ไม่รู้ร้องเพลงอะไรจับใจความไม่ได้ พี่ชายผมก็นั่งคลอเคลีย สวิทหวานอยู่กับไอ้ตุลย์ที่โซฟาตามประสาผัวเมียที่อยากกินกันเต็มแก่ ผมไซโคทูตลอดว่าให้รุกอย่ายอมไอ้ตุลย์เด็ดขาด แต่ดูแล้วพี่ผมคงยอมไอ้ตุลย์ชัวร์ๆ
คู่กัดเจ้าเดิมของผมก็นั่งแดกเหล้าแข่งกับผมตามเคย เหล้าเบียร์ที่กองเป็นภูเขาค่อยๆลดลงทีละนิด เที่ยงคืน ไอ้ตุลย์ก็ลากแขนพี่ชายผมเข้าไปในห้องจนได้ ส่วนแก๊งพี่กัส ไอ้สนไอ้ต้อง ก็ทยอยกันกลับบ้านจนหมด เหลือก็แต่ไอ้เวรนี่ที่ยังยกแก้วเหล้าเข้าปากไม่หยุด ไอ้ภีมก็รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องแดกเหล้าไม่มีทางเอาชนะผมได้ แต่มันก็ยังจะดันทุรังแข่งกับผมทุกครั้งไป จากเหล้าโซดา เปลี่ยนมาเป็นเหล้าเพรียวๆ
ผมกับไอ้ภีมเล่นเป่ายิ้งฉุบ ใครแพ้ถอดเสื้อผ้า ใครชนะแดกเหล้า เราผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ จนไอ้ภีมไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้น มันนั่งตากไข่กับพัดลมอยู่คนเดียว ผมยังเหลือกางเกงใน เรื่องแก้ผ้าไม่อายครับ เพราะเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กเห็นของมันจนเบื่อ เห็นเมื่อไหร่ก็หมดอารมณ์เมื่อนั้น จนครั้งสุดท้ายผมแกล้งแพ้มัน เพื่อถอดกางเกงในออก ผมจะได้โชว์ศักยภาพปืนใหญ่ของผม มันจะได้รู้ว่าผมชนะมันในทุกเรื่องจริงๆ ตัดเรื่องเรียนออก เรื่องนั้นผมไม่นับ ฮ่าๆๆๆ ในห้องมืดสลัว เสียงเพลงดัง แสงไฟหลากสีส่องแสงวิบวับเข้าตา จนทำให้ผมมึนหัวมากตอนนี้
“ไอ้สอง กูเห็นลูกโป่งวางตรงนั้น เอามาเป่าแข่งกัน กูต้องชนะมึงเกมส์นี้” มันชี้ไปที่หัวเตียง ยังจะแข่งต่อ นั่งก็ไม่ตรงเสือกอยากเล่น
“แพ้แล้วอย่าร้องไห้ฟ้องแม่นะมึง” ผมใช้มือหยิบลูกโป่ง แล้วยื่นให้ไอ้ภีม ผมกับไอ้ภีมแข่งกันเป่าลูกโป่งให้แตก ลูกโป่งขยายใหญ่แต่มันไม่แตกสักที ทำไมมันเหนียวจังว่ะ ผมเป่าอยู่นานสองนานเกมส์ไม่มีใครชนะ ง่วงก็ง่วง หัวเริ่มหมุน ติ้วๆๆๆ ตัวเอนเอียงไปมา หัวผมกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่าง แล้วทุกอย่างในห้องก็มืดสนิท
ภาพตัดมาตอน 7 โมงเช้า ผมรู้สึกปวดตัว แขนรู้สึกชาขยับตัวไม่ได้ เหมือนถูกผีอำ ผมค่อยเปิดตาขึ้นทีล่ะข้างและพยายามลุกแต่แขนหนัก เลยหันหน้าไปมอง แขนที่ชาเพราะไอ้ภีมนอนทับอยู่ ไอ้ภีมแก้ผ้านอนในอ้อมกอดผม ส่วนตัวผมก็ไม่มีแม้แต่กางเกงใน เราของสองคนร่อนจ้อน ทำไมไม่นอนบนเตียงมานอนที่พื้นเพื่อ ปวดหลังจะตายห่า ผมใช้เท้าถีบไอ้ภีมออกเบาๆ แล้วมองดูรอบห้อง เสื้อผ้ากางเกงกระจัดกระจาย ขวดเหล้า แก้วเบียร์ล้มระเนระนาด เพลงกับไฟหลากสียังคงเปิดอยู่ เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน ทำไมมีถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว ตกใกล้ขาผม สองอัน ผมเรียกสติตัวเองเพื่อเรียบเรียงลำดับตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนนี้ แต่ก็นึกไม่ออก ผมเลยปลุกไอ้ภีมเผื่อมันจะจำอะไรได้บ้าง
“ไอ้ภีม เชี่ยภีม ตื่นๆๆๆๆ ”ผมใช้เท้าเขี่ยไอ้ภีม แล้วมันก็เอามือมาขยี้ตา ลุกขึ้นนั่ง มันก้มมองสภาพตัวเอง เงยหน้ามามองผม เอาเป็นว่าสภาพนี่ผีเปรตสองตัวเลยครับ ตามันแถบถลนออกจากเบ้า
“เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนว่ะ” มันดูท่าทางตกใจมาก
“กูก็ไม่รูว่ะ แต่ที่แน่ๆ ถุงยาง2อันนี้ถูกใช้เรียบร้อยแล้วว่ะมึง” ผมตอบไอ้ภีมพร้อมใช้นิ้วคีบถุงยางขึ้นมาโชว์มัน
“เหี้ยแล้วววววววว มึงทำอะไรกับกูบ้างว่ะเนี่ย”
“ดูจากสภาพแบบนี้ กูว่าน่าจะทำเยอะอยู่นะ”
“ไอ้สัส มึงนึกดูดีๆ อย่ากวนตีน ตั้งสติหน่อย กูว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาด”
“กูว่าไม่น่าพลาด เพราะตอนกูตื่น มึงกับกูกอดกันอยู่ แล้วไอ้ถุงนี่มันก็วางอยู่ตรงนี้ มึงจะให้กูคิดอะไรได้อีกว่ะ”
“เหี้ย เอ่ยยยย……..”สบถสุดท้ายก่อนไอ้ภีมหายเข้าห้องน้ำไป
ผมไม่ได้แกล้งหรือกวนตีนไอ้ภีมจริงๆนะครับ ผมจำอะไรไม่ได้เหมือนเมมโมรี่มันโดนลบทิ้ง เหล้าเพียวๆ4ขวด ที่ผมกับไอ้ภีมดวลกันทั้งคืนนั้นสามารถลบความทรงจำผมได้ชั่วขณะ ผมจำได้ผมยกแก้วสุดท้ายตอนตี4 แค่ช่วงเวลา ระหว่างตี4ถึงตอนนี้แค่ไม่กี่ชั่วโมง ความจำมันหายไปไหนหมด ทำไมมันว่างเปล่า นึกยังไงก็นึกไม่ออก ไอ้ภีมเดินมากจากห้องน้ำนั่งลงบนเตียง หน้ากลุ้มใจ มือสองข้างกุมหัว
“มึงไม่ต้องห่วงกูรับผิดชอบเอง”
“รับผิดชอบส้นตีนอะไร กูสำรวจร่างกายกูแล้ว ปกติดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ต้องมาแสดงความแมนต่อหน้ากู”
“มึงแหละอย่าป๊อด โดนก็บอกว่าโดน ไม่ต้องโกหก หรือมึงโกรธเลยไม่กล้าบอก”
“ไอ้เหี้ยนี่ ก็กูบอกอยู่นี่ไง ว่ากูไม่ได้โดนมึงเอา กูจะโกหกมึงเพื่อ”
“งั้นมึงรอกูอาบน้ำแป๊ป กูพาไปหาหมอให้มันรู้กันไปเลย”
“ดูปากกูนะ กู ไม่ ได้ โดน มึง เอา กูไม่ไป ทำไมกูต้องทำตามที่มึงสั่งด้วย”
“ก็มึงเป็นเมียกูแล้วไง กูจะรับผิดชอบ"
“แม่งเอ่ย..ตัวมึงเองยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ เสือกมารับผิดชอบกู ทีมึงฟันผู้หญิงมานักต่อนัก ทำไมไม่อยากรับผิดชอบบ้างว่ะ กูยืนยันกูไม่มีอะไรกับมึง กูจะไม่ไปหาหมอ สุดท้ายนะไม่ต้องมีคำว่ารับผิดชอบ กูไม่เอา”
ผมเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมไอ้ภีม ที่หน้าบูดบึ้งเป็นหมาขี้ไม่ออก แม่ พี่ชาย แล้วก็ไอ้ตุลย์นั่งกินข้าวเช้าพร้อมหน้ากัน ผมทรุดตัวลงนั่งหมดแรงข้างแม่ จนแม่ต้องหันมาดูด้วยความสงสัย ไอ้ภีมเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามติดกับไอ้ตุลย์ ทำหน้าละเหี่ยใจใส่ผมตลอดเวลา ส่วนสีหน้าสีตาพี่ชายผมกับไอ้ตุลย์ดูมีความสุข สดใสผิดกับเมื่อวาน คงเสพสมอารมณ์ทั้งคู่แล้วสินะแต่เอาไว้กัดวันหลัง หมดอารมณ์ที่จะเห่า เช้านี้มีเรื่องต้องเคลียร์กับไอ้ภีมก่อน
ผมได้ไอ้ภีมแบบงงๆ ไม่เคยตั้งรับกับการมีเมียเป็นผู้ชายเลยในชีวิตนี้ แล้วผมจะบอกอิงยังไง ที่รู้มาสองคนนี้น่าจะคบกันอยู่ ผมจะมองหน้าเพื่อนอย่างอิงด้วยหน้าแบบไหน อิงถึงจะไม่โกรธและเกลียดผม แต่ถ้าจะบอกว่าให้เราเงียบ ผมไม่พูด ไม่ภีมไม่พูด คือจบ ผมก็ทำไม่ได้ ไอ้ภีมเป็นผมมาทั้งแต่เด็กเหมือนกัน ถึงจะกัดกันบ่อยครั้ง แต่เราก็เพื่อนกันอยู่ดี ไอ้ภีมคงอายมากกว่าที่ได้ผมเป็นผัว มันชอบด่าผมว่าไม่เอาไหน เหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ หาแต่เรื่อง ยกเว้นเรื่องดี ถ้าผมไม่รับผิดชอบอะไรเลย เท่ากับผมยอมรับคำด่านั้น พี่ชายผม ต้องเอาผมตายแน่เพราะไอ้ภีมเป็นเพื่อนรักของทู ไอ้ภีมจะเกลียดก็ให้มันเกลียดไป วันนี้ผมจะพูด เพราะผมรู้สันดานผมดี เมาทีไรต้องมีการระบายน้ำออกจากตัว และเมื่อคือไอ้ภีมก็ตกเป็นเหยื่อของผม ผมมั่นใจ
“แม่ครับ สองได้ไอ้ภีมเมื่อคืน แม่มีลูกสะใภ้แล้วนะครับ” พี่ชายผมถึงกับสำลักข้าว ไอ้ตุลย์ยื่นแก้วน้ำให้แล้วลูบที่หลังทู แม่นั่งนิ่งด้วยความแปลกใจ วางช้อนลงทันที
“ฮ่าๆๆๆ กัดกันดีนักนะมึง เสร็จจนได้” ไอ้ตุลย์หัวเราะเสียงดังแบบซ่ะใจ
“แม่ไม่ต้องฟังไอ้สอง มันเพ้อ ผมกับมันไม่ได้มีอะไรกัน มันเข้าใจผิด ผมแน่ใจมากครับไม่มีอะไร”
“งั้นมึงบอกกูสิ ถุงยางที่วางอยู่ เหี้ยที่ไหนมันใช้ว่ะ ถ้าไม่ใช่มึงกับกู กูรับผิดชอบมึงได้จริงๆ” ผมเริ่มเสียงดังใส่หน้าไอ้ภีม แล้วมันเงียบเพราะมันเองก็คงจำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
“ใจเย็นๆลูก ค่อยๆคิดมันเกิดอะไรขึ้น แต่แม่ยินดีนะที่จะมีภีมมาเป็นสมาชิกของบ้านแม่อีกคน” แม่ส่งยิ้มที่อบอุ่นกล่าวต้อนรับไอ้ภีม
“ขอบคุณครับแม่ แต่มันไม่มีอะไรจริงๆครับ ไอ้สองมันบ้า”
...
...
...
...
...
...
เมื่อคืนเป็นคืนที่มีความสุขมากครับ ไม่คิดว่าปลาทูจะยอมผมได้ ทั้งๆที่ตอนเริ่มจีบใหม่ๆเราตกลงกันแล้วว่าจะสลับขั้วกัน แต่ทูเองกลับเป็นฝ่ายยอม ความสุขมันจุกอกผมแทบทะลัก ร่างกายของทูถูกผมบงการทุกอริยะบท การเคลื่อนไหว ท่ายากท่าง่าย ก็ถูกผมควบคุม ทูทำตามแบบไม่อิดออด ผมรู้ว่ามันเป็นท่าที่ผู้ชายไม่เคยทำแน่นอน แต่ทูก็ทำได้ไม่เลวเลยกับครั้งแรก นอกจากเรื่องของผมแล้ว ช็อกสุดหนีไม่พ้นเรื่องของไอ้สองกับไอ้ภีมไม่รู้ฝ่ายไหนพูดความจริง แต่ชั่งเถอะ เพราะตอนนี้ไอ้สองโดนพี่ชายมันสวดยกใหญ่ ผมว่าไม่จบง่ายๆแน่ ระหว่างนั่งรอทูจัดการกับไอ้สองอยู่นั้น
ไลน์!!!!ไลน์!!!!ไลน์
ตุ๊ดน้อยจากดอยตุงไม่ใส่ถุงไม่ให้เยมินนี่เมียตุลย์: ทูยอมมึงแล้วหรออีตุลย์
1October: มึงรู้ได้ไงว่ะ
แม็กกี้: แปลว่าจิง 5555
สายรุ้ง: พธู ของ เฮา ไปซ่ะแล้ว ฮือๆๆๆๆ
มินนี่เมียตุลย์: ทูทำเป็นป่าวว่ะ กูอยากรู้
1October: ตกลงใครบอกพวกมึง ได้กลิ่นเร็วจังว่ะ
แม็กกี้: ไอ้ภีมมันไลน์บอกพวกกูตั้งแต่เมื่อคืน มันบอกได้ยินเสียงร้องดังม๊ากกก ตกลงได้หรือไม่ได้
มินนี่เมียตุลย์: มันส์มั้ย อีตุลย์
1October: มึงก็ถามปลาทูเองสิ 5555
มินนี่เมียตุลย์: ดอก มันคงบอกพวกกูหรอก
1October: กูเห็นพวกมึงอยากรู้ไง ถามกันเองสิ
.........@.....$......#....%....¥.....&....₩........**.....×...%....