~หนึ่งตุลา~ ตอนที่18 ตอนจบ up 11/11
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~หนึ่งตุลา~ ตอนที่18 ตอนจบ up 11/11  (อ่าน 25974 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :a5: แบบว่าตกใจ หมดตอนแล้วหรือ
** ซอก กับ ศอก คือเราเข้าใจถูกแล้วใช่ไหมว่ามันเป็นแบบ ซอก(คอ)พิฆาต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2016 01:46:34 โดย B52 »

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
:a5: แบบว่าตกใจ หมดตอนแล้วหรือ
ตอนที่7กับ8 จะสั้นที่สุด ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นค่ะ ^^

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: ~หนึ่งตุลา~ ตอนที่8 ซอกพิฆาต
«ตอบ #32 เมื่อ10-10-2016 01:21:49 »

เลือกตุลย์เป็นแฟนน่ะถูกต้องที่สุดแล้ว แต่จะดีกว่านี้ก็ยอมเป็นของตุลย์สักทีเถอะ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่9 แฟนผมยอมแล้วครับ




          ออกจากโรงพยาบาลวันนี้จะอ้อนตีนให้สมกับที่เจ็บหนัก  ให้สมกับที่แลกมาด้วยเลือดด้วยเนื้อคอยดู  ทูมานอนเป็นแฟนที่โรงพยาบาลทุกวัน  พาเข้าห้องน้ำ  ป้อนข้าว  เช็ดตัว  เปลี่ยนเสื้อ  คอยเช็คไข้  ดูน้ำเกลือ ห่มผ้า อ่านหนังสือให้ฟัง เล่าเรื่องงานที่มหาลัย  ร้องเพลง  คุยกับหมอ  ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยม มีพยาบาลส่วนตัวมันดีแบบนี่นี้เอง  กอดก็ได้ จูบก็ได้ ทำให้อาหารที่โรงพยาบาลมีรสชาติดีขึ้นเยอะ  หลังหมอมาตรวจอาการในช่วงเช้าเรียบร้อย   ทูก็พาผมขับรถ  กินลมชมวิวมาเลื่อย  ตุลย์กินนั้นไหม ตุลย์อยากไปไหนรึเปล่า  ตุลย์ต้องตัดผมนะ  ตุลย์ต้องโน้น  ตุลย์ต้องนี้  จากที่ผมเป็นคนชวนคุยตลอด แต่ตอนนี้ ผมต้องเป็นคนฟัง ปลาทูพูดเก่งขึ้นมาก  เอาใจเก่งขึ้นด้วย  อยากแขนหักอีกสักข้าง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ  แม่ผมเลยยกหน้าที่คนดูแลให้ทู เพราะแม่ไม่ค่อยมีเวลา อยู่บ้านทูน่าจะเหมาะกว่า  เรามาถึงบ้านช่วงสายๆ ไอ้สองช่วยขนของเข้าบ้าน  แล้วบอกว่ามีแขกมารอ ที่ห้องรับแขก ทำไมไอ้สองถึงใช้คำว่าแขก มันดูสุภาพเกินไป



“หวัดดีทู เรามาเยี่ยมตุลย์ แล้วก็ขอโทษเรื่องคืนนั้นด้วย ที่คณะมีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องเราสามคน  เราเลยอยากขอโทษ ไม่คิดว่าคนอื่นจะคิดไปไกลขนาดนั้น  ทูไม่โกรธเราใช่ไหม” กระต่ายลุกขึ้นจากโซฟา แล้วรีบอธิบายพร้อมขอโทษแฟนผมยกใหญ่

“กระต่ายไม่ต้องกังวลเรื่องข่าวลือนะ แล้วทูก็ไม่ได้โกรธกระต่ายด้วย สบายใจได้” ทูยังดีกับคนอื่นเสมอ

“ขอบใจนะทู ขอบใจตุลย์ด้วย หายเร็วๆ”  กระต่ายเดินมาจับมือผมแบบเพื่อน  แล้วก็กลับบ้านไป


 
          ทูรู้ว่าผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง  รู้ว่าผมต้องเปลี่ยนแปลงอะไร  ทูบอกผมให้เปลี่ยนใจได้  ถ้ายังชอบผู้หญิงอยู่ แต่ผมก็พิสูจน์มาตั้งหลายปีแล้ว  ผมจะไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด  สัญญาที่ให้ไว้จำได้ทุกคำ  แล้วผมจะนอกใจนอกกายได้ยังไง กอดที่กระต่ายให้ผม  มันไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ไม่ได้รู้สึกอยากสานต่อ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมคงไม่ปล่อยให้กระต่ายรอดมือผมมาจนป่านนี้แน่  เพราะเธอทั้งสวยทั้งเก่ง และเธอก็ชอบผมมาตั้งแต่ปี1



 “ทูกลัว ตุลย์กลับไปชอบผู้หญิงหรอ” ผมถามลองใจ

“เปล่า กลัว”

“งั้น หึง”

“เปล่า หึง ไปอาบน้ำ ตัวเหม็น ไม่กอดนะ”

“ไม่เป็นไร ตุลย์กอดเอง ไม่ต้องกลัวนะ ตุลย์จำสัญญาได้เสมอ” ผมยกมือข้างขวากอดที่เอวของทู คางเกิยที่ไหล่

“แต่ทู ไม่มีสิ่งที่กระต่ายมีนะ ตุลย์”

“ใครบอกทู ว่าตุลย์อยากได้แบบนั้น ไม่รู้หรอ ทูคือสิ่งที่ตุลย์ต้องการ อย่าพูดแบบนี้  ไม่เคยคิด ถ้าพูดอีก จะงอนบ้างล่ะนะ” หัวผมซุกเข้าที่ต้นคอ


“อ๊ะแหม่!! สาบานว่ามองไม่เห็นกู ขึ้นไปหวานบนห้อง กูดูหนังไม่รู้เรื่อง” ไอ้สองเห่าขัดจังหวะ ลืมจริงๆครับ มันมานั่งตั้งแต่ตอนไหน แล้วเราก็ขึ้นมาที่ห้อง ผมไม่ได้นอนในห้องนี้ตั้งหลายวัน โคตรคิดถึงเลย ทั้ง ผ้าห่ม หมอน ผ้าปู เตียง แล้วก็คิดถึงคน คนนี้ที่สุด ได้เวลาอันสมควรที่จะทำการง้องแง้งสักที


 
“ปลาทู๊ววววววววววววววววว  ช่วยตุลย์หน่อย” เสียงสูงยิ่งกว่าทุกครั้ง

“เจ็บขนาดนี้ ยังจะให้ช่วยหรอ ตุลย์”

“เจ็บสิ ถึงต้องช่วย”

“ไม่เอา หายก่อนค่อยทำก็ได้ เดี๋ยวช่วย”

“ทูหมายถึงอะไร ตุลย์ขอให้ช่วยถอดเสื้อให้หน่อยจะอาบน้ำ เหม็นกลิ่นโรงพยาบาลจะแย่ ลามกนะทูอ่ะ” นานๆจะเห็นเขินแบบนี้

“อ่อ ตุลย์ วันนี้ มีนัดกับเพื่อนตอนเย็น ตุลย์จะไปไหม” เสียงร้องบอกผม ในขณะที่ผมยังอยู่ในห้องน้ำ

“ไปๆ”





         นัดที่ว่าคือ นัดเตะฟุตบอลล้างตา  เพราะครั้งก่อนผมแพ้ทีมไอ้สองแบบราบคาบต้องเสียเงินเลี้ยงเหล้ามันไปตั้งหลายพัน ครั้งนี้ผมต้องมาแก้แค้นมันให้ได้  ถึงร่างกายผมจะไม่สมบูรณ์ก็ตาม  นอนพักไม่กี่ชั่วโมง  ผมก็โทรยืนยันความพร้อมกับเพื่อน ว่าผมเล่นได้  ผมก็รั้นแบบนี้แหละครับ  ไม่กลัวเจ็บ  ก็ผมมีคนดูแลดีนี่หน่า  นัดนี้ไม่มีการยกเลิก ผม ทู ไอ้ภีม ไอ้สอง ไอ้สน ไอ้ต้อง พี่กัส พี่ชิน พี่เชน มาครบ  ทูไม่เล่น  อิงก็มาเชียร์ไอ้ภีม พร้อมเป็นฝ่ายเสบียงอาหาร  เราเล่นที่สนามฟุตซอลใกล้ๆกับมหาลัย แบ่งทีมเป็น4ต่อ4  ทีมผมมี ไอ้ภีม ไอ้สน พี่เชน ทีมไอ้สองมี ไอ้ต้อง พี่กัส พี่ชิน เราเล่นกันแบบ สองในสามเกมส์ ทีมไหนแพ้ต้องเป็นเจ้ามือ  ส่วนสถานที่เมาก็บ้านทูนั้นแหละครับ  จะได้มีกับแกล้มอร่อยๆจากแม่ที่ทำไว้รอด้วย  เพื่อนๆก็เล่นแบบถนอมคนป่วยอย่างผม  ทุกคนเหลี่ยงประทะกับผมโดยตรง  ตอนนี้เสมอ1ต่อ1 เกมส์สุดท้ายเราวิ่งกันจนเหงื่อท่วมตัว วิ่งจนหอบแฮกๆ  แทนที่ทีมผมจะมาแก้แค้นไอ้สอง กลายเป็นว่า มันมาย้ำแคนแทน  ไอ้ภีมนี่ออกอาการเซ็งสุดๆที่ไม่เคยชนะทีมไอ้สองได้เลย เสียเงินไม่ว่าแต่เจ็บใจมากกว่า
   

          เวลาประมาณทุ่มกว่าๆ เราก็กลับมาถึงบ้าน ลังเหล้าเบียร์ที่กองเป็นภูเขาถูกขนลงจากรถ  อิงขอตัวกลับบ้าน  เพราะวันนี้ปาร์ตี้ถูกจัดที่บ้านของทูเลยไม่ต้องห่วง  ไม่ต้องคอยมานั่งเฝ้าคนเมา  ไอ้ต้องกับไอ้สนก็วิ่งหายเข้าไปในครัวเพื่อขอของกิน  ไอ้สองผู้ชนะทำหน้ายิ้มระรื่นและอวดความเก่งของตัวเองกับแม่   ส่วนผู้แพ้อย่างไอ้ภีมก็เดินคอตกแบบหงอยๆไม่พูดจา  ทุกคนอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวแล้วขึ้นอัดแน่นที่ห้องไอ้สอง  ผมไม่ได้แตะเหล้าสักแก้ว  มีแต่ทูที่กินแทนผม  เพื่อนๆพี่ๆก็แหกปากร้องเพลงบ้าง  นั่งกดวินนิ่งกันบ้าง  เผลอแป๊ปเดียวก็เที่ยงคืน  ผมอาศัยช่วงเวลาที่คนอื่นเริ่มตึงๆดึงแขนทูลุกขึ้นกลับห้อง  คงไม่มีใครสังเกตเห็นว่าผมกับทูหายไป  ขอลองครั้งที่ 1488 เผื่อพระเจ้าจะเห็นใจผมบ้าง



“ปลาทู๊ววววว ตุลย์ขอนะ” ผมนั่งหย่อนขาอยู่บนเตียง ขอไปงั้น ก็รู้อยู่ว่าผลมันคืออะไร

“เราต้องทำไง” ห๊ะ อะไรนะ ผมหูฝาดรึเปล่า

“ตุลย์ เริ่มเอง”



          ผมพูดแค่นั้น  คิดว่าทูน่าจะเมา อาจไม่มีสติ ถือโออาสนี้รวบรัดเลยแล้วกัน  ผมดึงตัวทูให้นอนลงกับเตียง  เริ่มจูบลงบนริมฝีปาก  กลิ่นเบียร์อ่อนยังลอยฟุ้งในนี้  ลิ้นนิ่มๆของผมสอดผ่านเข้าเจอลิ้นของทู  ทั้งสองพัวพันกันจนเป็นหนึ่งเดียว  โต้ตอบกันไปมาด้วยความเล้าร้อน  ทูค่อยๆพลิกตัวผมให้นอนลงกับเตียงแบบอ่อนโยนนิ่มนวลทะนุถนอม  มือทั้งสองข้างถอดเสื้อกับกางเกงออกทีชิ้นทีล่ะชิ้น  แล้วทูค่อยหันมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง  หน้าที่นี้ควรเป็นของผมมากกว่านะ  แต่แขนผมมันเป็นอุปสรรค  อยากกอดเฝือกออก3ชั่วโมงแล้วค่อยใส่ใหม่ ไม่ถนัดเลย  ผมคงเป็นนายเอกที่ทุลักทุเลมากในการเมคเลิฟกับแฟน  อยากยกแฟนก็ยกไม่ได้ ท่ายากผมมีเยอะคงไม่ได้ใช้  จะบ้าตาย 

         ผมพลิกตัวกลับอีกครั้ง  จูบไล่ตั้งแต่หน้าผาก ลงมาแก้ม หยุดที่ปาก ผ่านที่หู เลื่อนลงต่ำที่คอ  ลิ้นวนที่หน้าอก ผมลดระดับต่ำลงจนถึงหน้าท้อง  ดีผมใช้ลิ้นเก่ง ถึงจะมีแขนขวาข้างเดียวที่ใช้งานได้ก็ตาม  ผมจะทำให้ทูมีความสุขเท่าที่ร่างกายผมจะอำนวย  ผมต้องปลุกความต้องการทางอารมณ์ของทูให้ได้ ทุกอย่างต้องสวย ผมใช้ลิ้นลูบไล้ทั่วตัวของทู พลิกด้านหน้าพลิกด้านหลัง เลื่อนลงมาที่โคนขาหนีบ  ตรงนี้ใกล้จุดอ่อนของทูมากที่สุด และมันพร้อมที่จะสู้กับตุลย์น้อยของผมเต็มที่

...
...
...
^^
...
...
...


        ตุลย์ใช้มือหยิบหลอดเจลที่วางอยู่หัวเตียงเหมือนมันถูกจัดเตรียมไว้  ตุลย์บีบเจลใสๆ ทาตรงทางเข้าของผมจนเปียกชุ่ม  แล้วค่อยดันนิ้วเข้าด้วยความเบามือเหมือนเป็นการทดสอบ  ผมรู้สึกเย็นๆเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย  นิ้วของตุลย์วนเวียนเข้าๆออกๆ แต่ปากก็ยังจูบผมอยู่ตลอดเวลา  มันเจ็บนิดหน่อย แต่เป็นความเจ็บที่ทนได้  ผมนึกว่ามันจะแย่มากกว่านี้ซ่ะอีก จากนั้นตุลย์ก็บีบเจลทาจนทั่วน้องชายตัวเอง  แล้วจับผมลุกขึ้นนั่งหันหน้าเข้าหาตัว โดยที่ตุลย์นั่งห้อยขาที่ขอบเตียง  ส่วนผมอยู่ในท่านั่งคร่อม แล้วมือข้างเดียวนั้น  จับตัวผมสูงขึ้นให้อยู่ในท่าเตรียมพร้อม  น้องชายตุลย์ก็จ่อที่ทางเข้า  ตุลย์บอกกับผมว่า เจ็บหน่อยนะปลาทู ทนไม่ได้ก็ร้องออกมามันจะผ่อนคลาย จะร้องได้ยังไง ในเมื่อห้องข้างๆยังมีปาร์ตี้อยู่  แล้วตัวผมถูกกดลงต่ำด้วยมือที่จับระหว่างเอวของผมเพื่อให้สัมผัสกับน้องชายตุลย์ที่ตั้งตระหง่านรอ  มันค่อยๆเลื่อนเข้ามาข้างในอย่างช้าๆ  เมื่อทั้งสองส่วนของร่างกายผมกับตุลย์รวมกันเป็นหนึ่ง  เจ็บแทบทนไม่ไหว  มันถูกขยายใหญ่ เหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ทั้งเจ็บทั้งปวด ไปทุกอณู  ตอนที่โดนนิ้วเข้ามาเทียบไม่ได้เลยกับของจริง  ยิ่งมันเลื่อนเข้าไปลึกเท่าไหร่ ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น  มือจิกแผ่นหลังของตุลย์ ผมร้องออกด้วยความเจ็บปวด  ตุลย์ก็กอดผมแน่ขึ้น  จูบปลอบใจและหยุดการเคลื่อนไหว


“ปลาทูไม่ต้องเกร็ง ทูทำได้ เราจะมีความสุขไปด้วยกันนะ”


         ตุลย์พูดจบก็จับตัวผมยกขึ้นเล็กน้อย ตุลย์กำลังสอนให้ผมโยกตัวขึ้นลงเป็นจังหวะ  เพื่อลดความเจ็บปวด  ผมทำตามที่ตุลย์บอกทุกอย่าง  ความเจ็บไม่ได้ลดลง  แต่รู้สึกดีขึ้น  มันไม่ได้มีเพียงความเจ็บปวดอย่างเดียว เพราะผมสัมผัสถึงความสุขที่แทรกผ่านมา  ผมลืมเรื่องความเจ็บปวดที่มีปะปนอยู่ และปล่อยร่างกายไปตามคำสั่งของตุลย์  ตุลย์จับตัวผมเปลี่ยนมาอยู่ในท่าพร้อมคลาน  ตุลย์เริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นโยกตัวเข้าออก  สัมผัสจากตุลย์ทำให้ผมผ่อนคลายมากขึ้น  และปล่อยให้ตุลย์  จับทำท่านั้น นั่งท่านี้ ยืนบ้าง นอนบ้าง ตามความต้องการของตุลย์และปล่อยตามแรงโน้มถ่วงของเตียง  ตุลย์ยังโยกไม่หยุด แม้จะมีเพียงแขนขวาที่จับผมไว้แน่น  ความพยายามสูงมากจริงๆตุลย์  มันเริ่มแรงขึ้นแรงขึ้นเลื่อยๆ  เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมายของตัวเอง  แต่น้ำขาวขุ่นจากตัวผมกับพุ่งออกมาก่อนของตุลย์  ทั้งที่ยังไม่มีการสัมผัสมันแต่อย่างใด  สิ่งที่ตุลย์ทำให้ผมในคืนนี้มันยากที่จะต่อต้านหรือทัดทานได้  และแล้วผมก็รับรู้ได้ว่ามีน้ำอุ่นๆไหลผ่านเข้ามายังร่างกายผม  มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้  อย่างที่รู้กันคืนนี้เป็นคืนแรกที่ผมเป็นของตุลย์ทั้งตัว  นับตั้งแต่เป็นแฟนกันมา ไม่ใช่เพราะเมา แต่เพราะรัก  ตุลย์ทิ้งตัวนอนหมดแรงข้างๆผมมีเสียงหอบเบาๆ


“ขอบคุณนะปลาทู สมกับที่รอมานานจริงๆ”

“อืม”

        แล้วเราสองคนก็หลับด้วยความเพลียหมดแรง ครั้งเดียวในคืนแรกนานพอสมควร ผมไม่แน่ใจเราสองส่งเสียงดังมากน้อยแค่ไหน  ไม่รู้เพื่อนได้ยินไหม  ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ผมคงโดนล้อไปอีกนาน  ศอกพิฆาตก็ยังไม่เลิกล้อเลย  ความรู้สึกที่เป็นฝ่ายรับไม่ได้แย่  มีความสุขได้และดีด้วย  ถึงปลายทางเหมือนกัน  อาจเป็นเพราะทำตุลย์เก่งเกินที่ผมคาดไว้  มาตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถเป็นฝ่ายรุกได้ไหม หรือผมเหมาะที่จะเป็นฝ่ายรับให้ตุลย์อย่างเดียว



 :hao6:




2story


        หลังจากที่เราเตะบอลเสร็จเราก็ย้ายฐานทับมาจัดปาร์ตี้ที่บ้าน  ห้องผมคือสถานที่จัดงาน  เพราะมีครบทุกสิ่งในเรื่องเอ็นเตอร์เทน ชุดโฮมเทียเตอร์ คาราโอเกะ วินนิ่ง  ห้องผมกว้างที่สุดของบ้าน  แต่วันนี้มันแคบลงถนัดตาเพราะเราทั้ง8คน อัดจนเต็มพื้นที่  ไอ้ต้องกับไอ้สนจองวินนิ่ง แก๊งพี่กัสแย่งไมค์ร้องคาโอเกะเสียงดัง  ไม่รู้ร้องเพลงอะไรจับใจความไม่ได้ พี่ชายผมก็นั่งคลอเคลีย สวิทหวานอยู่กับไอ้ตุลย์ที่โซฟาตามประสาผัวเมียที่อยากกินกันเต็มแก่  ผมไซโคทูตลอดว่าให้รุกอย่ายอมไอ้ตุลย์เด็ดขาด  แต่ดูแล้วพี่ผมคงยอมไอ้ตุลย์ชัวร์ๆ


         คู่กัดเจ้าเดิมของผมก็นั่งแดกเหล้าแข่งกับผมตามเคย  เหล้าเบียร์ที่กองเป็นภูเขาค่อยๆลดลงทีละนิด เที่ยงคืน ไอ้ตุลย์ก็ลากแขนพี่ชายผมเข้าไปในห้องจนได้  ส่วนแก๊งพี่กัส ไอ้สนไอ้ต้อง  ก็ทยอยกันกลับบ้านจนหมด  เหลือก็แต่ไอ้เวรนี่ที่ยังยกแก้วเหล้าเข้าปากไม่หยุด  ไอ้ภีมก็รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องแดกเหล้าไม่มีทางเอาชนะผมได้  แต่มันก็ยังจะดันทุรังแข่งกับผมทุกครั้งไป จากเหล้าโซดา เปลี่ยนมาเป็นเหล้าเพรียวๆ

         ผมกับไอ้ภีมเล่นเป่ายิ้งฉุบ ใครแพ้ถอดเสื้อผ้า  ใครชนะแดกเหล้า  เราผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ  จนไอ้ภีมไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้น  มันนั่งตากไข่กับพัดลมอยู่คนเดียว  ผมยังเหลือกางเกงใน  เรื่องแก้ผ้าไม่อายครับ  เพราะเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กเห็นของมันจนเบื่อ  เห็นเมื่อไหร่ก็หมดอารมณ์เมื่อนั้น จนครั้งสุดท้ายผมแกล้งแพ้มัน เพื่อถอดกางเกงในออก  ผมจะได้โชว์ศักยภาพปืนใหญ่ของผม  มันจะได้รู้ว่าผมชนะมันในทุกเรื่องจริงๆ ตัดเรื่องเรียนออก เรื่องนั้นผมไม่นับ ฮ่าๆๆๆ  ในห้องมืดสลัว เสียงเพลงดัง แสงไฟหลากสีส่องแสงวิบวับเข้าตา  จนทำให้ผมมึนหัวมากตอนนี้



“ไอ้สอง กูเห็นลูกโป่งวางตรงนั้น  เอามาเป่าแข่งกัน  กูต้องชนะมึงเกมส์นี้” มันชี้ไปที่หัวเตียง  ยังจะแข่งต่อ นั่งก็ไม่ตรงเสือกอยากเล่น


“แพ้แล้วอย่าร้องไห้ฟ้องแม่นะมึง” ผมใช้มือหยิบลูกโป่ง แล้วยื่นให้ไอ้ภีม ผมกับไอ้ภีมแข่งกันเป่าลูกโป่งให้แตก ลูกโป่งขยายใหญ่แต่มันไม่แตกสักที  ทำไมมันเหนียวจังว่ะ  ผมเป่าอยู่นานสองนานเกมส์ไม่มีใครชนะ  ง่วงก็ง่วง  หัวเริ่มหมุน  ติ้วๆๆๆ ตัวเอนเอียงไปมา หัวผมกระแทกเข้ากับอะไรสักอย่าง  แล้วทุกอย่างในห้องก็มืดสนิท





          ภาพตัดมาตอน 7 โมงเช้า ผมรู้สึกปวดตัว แขนรู้สึกชาขยับตัวไม่ได้ เหมือนถูกผีอำ ผมค่อยเปิดตาขึ้นทีล่ะข้างและพยายามลุกแต่แขนหนัก เลยหันหน้าไปมอง แขนที่ชาเพราะไอ้ภีมนอนทับอยู่ ไอ้ภีมแก้ผ้านอนในอ้อมกอดผม  ส่วนตัวผมก็ไม่มีแม้แต่กางเกงใน  เราของสองคนร่อนจ้อน  ทำไมไม่นอนบนเตียงมานอนที่พื้นเพื่อ  ปวดหลังจะตายห่า  ผมใช้เท้าถีบไอ้ภีมออกเบาๆ แล้วมองดูรอบห้อง  เสื้อผ้ากางเกงกระจัดกระจาย ขวดเหล้า แก้วเบียร์ล้มระเนระนาด  เพลงกับไฟหลากสียังคงเปิดอยู่  เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน  ทำไมมีถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว  ตกใกล้ขาผม สองอัน  ผมเรียกสติตัวเองเพื่อเรียบเรียงลำดับตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงตอนนี้  แต่ก็นึกไม่ออก ผมเลยปลุกไอ้ภีมเผื่อมันจะจำอะไรได้บ้าง



“ไอ้ภีม เชี่ยภีม ตื่นๆๆๆๆ ”ผมใช้เท้าเขี่ยไอ้ภีม แล้วมันก็เอามือมาขยี้ตา  ลุกขึ้นนั่ง มันก้มมองสภาพตัวเอง เงยหน้ามามองผม เอาเป็นว่าสภาพนี่ผีเปรตสองตัวเลยครับ  ตามันแถบถลนออกจากเบ้า

“เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนว่ะ” มันดูท่าทางตกใจมาก

“กูก็ไม่รูว่ะ แต่ที่แน่ๆ ถุงยาง2อันนี้ถูกใช้เรียบร้อยแล้วว่ะมึง” ผมตอบไอ้ภีมพร้อมใช้นิ้วคีบถุงยางขึ้นมาโชว์มัน

“เหี้ยแล้วววววววว  มึงทำอะไรกับกูบ้างว่ะเนี่ย”

“ดูจากสภาพแบบนี้ กูว่าน่าจะทำเยอะอยู่นะ”

“ไอ้สัส มึงนึกดูดีๆ อย่ากวนตีน ตั้งสติหน่อย กูว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาด”

“กูว่าไม่น่าพลาด เพราะตอนกูตื่น มึงกับกูกอดกันอยู่ แล้วไอ้ถุงนี่มันก็วางอยู่ตรงนี้ มึงจะให้กูคิดอะไรได้อีกว่ะ”

“เหี้ย เอ่ยยยย……..”สบถสุดท้ายก่อนไอ้ภีมหายเข้าห้องน้ำไป



         ผมไม่ได้แกล้งหรือกวนตีนไอ้ภีมจริงๆนะครับ ผมจำอะไรไม่ได้เหมือนเมมโมรี่มันโดนลบทิ้ง เหล้าเพียวๆ4ขวด ที่ผมกับไอ้ภีมดวลกันทั้งคืนนั้นสามารถลบความทรงจำผมได้ชั่วขณะ  ผมจำได้ผมยกแก้วสุดท้ายตอนตี4 แค่ช่วงเวลา ระหว่างตี4ถึงตอนนี้แค่ไม่กี่ชั่วโมง  ความจำมันหายไปไหนหมด ทำไมมันว่างเปล่า นึกยังไงก็นึกไม่ออก ไอ้ภีมเดินมากจากห้องน้ำนั่งลงบนเตียง หน้ากลุ้มใจ มือสองข้างกุมหัว


“มึงไม่ต้องห่วงกูรับผิดชอบเอง”

“รับผิดชอบส้นตีนอะไร กูสำรวจร่างกายกูแล้ว ปกติดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ต้องมาแสดงความแมนต่อหน้ากู”

“มึงแหละอย่าป๊อด โดนก็บอกว่าโดน ไม่ต้องโกหก หรือมึงโกรธเลยไม่กล้าบอก”

“ไอ้เหี้ยนี่ ก็กูบอกอยู่นี่ไง ว่ากูไม่ได้โดนมึงเอา กูจะโกหกมึงเพื่อ”

“งั้นมึงรอกูอาบน้ำแป๊ป กูพาไปหาหมอให้มันรู้กันไปเลย”

“ดูปากกูนะ  กู ไม่ ได้ โดน มึง เอา  กูไม่ไป ทำไมกูต้องทำตามที่มึงสั่งด้วย”

“ก็มึงเป็นเมียกูแล้วไง กูจะรับผิดชอบ"

“แม่งเอ่ย..ตัวมึงเองยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ เสือกมารับผิดชอบกู ทีมึงฟันผู้หญิงมานักต่อนัก ทำไมไม่อยากรับผิดชอบบ้างว่ะ กูยืนยันกูไม่มีอะไรกับมึง กูจะไม่ไปหาหมอ สุดท้ายนะไม่ต้องมีคำว่ารับผิดชอบ กูไม่เอา”



           ผมเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมไอ้ภีม ที่หน้าบูดบึ้งเป็นหมาขี้ไม่ออก แม่ พี่ชาย แล้วก็ไอ้ตุลย์นั่งกินข้าวเช้าพร้อมหน้ากัน ผมทรุดตัวลงนั่งหมดแรงข้างแม่  จนแม่ต้องหันมาดูด้วยความสงสัย  ไอ้ภีมเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามติดกับไอ้ตุลย์ ทำหน้าละเหี่ยใจใส่ผมตลอดเวลา  ส่วนสีหน้าสีตาพี่ชายผมกับไอ้ตุลย์ดูมีความสุข  สดใสผิดกับเมื่อวาน  คงเสพสมอารมณ์ทั้งคู่แล้วสินะแต่เอาไว้กัดวันหลัง  หมดอารมณ์ที่จะเห่า เช้านี้มีเรื่องต้องเคลียร์กับไอ้ภีมก่อน


         ผมได้ไอ้ภีมแบบงงๆ ไม่เคยตั้งรับกับการมีเมียเป็นผู้ชายเลยในชีวิตนี้  แล้วผมจะบอกอิงยังไง ที่รู้มาสองคนนี้น่าจะคบกันอยู่ ผมจะมองหน้าเพื่อนอย่างอิงด้วยหน้าแบบไหน  อิงถึงจะไม่โกรธและเกลียดผม  แต่ถ้าจะบอกว่าให้เราเงียบ ผมไม่พูด ไม่ภีมไม่พูด คือจบ ผมก็ทำไม่ได้ ไอ้ภีมเป็นผมมาทั้งแต่เด็กเหมือนกัน ถึงจะกัดกันบ่อยครั้ง  แต่เราก็เพื่อนกันอยู่ดี  ไอ้ภีมคงอายมากกว่าที่ได้ผมเป็นผัว  มันชอบด่าผมว่าไม่เอาไหน เหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ หาแต่เรื่อง ยกเว้นเรื่องดี  ถ้าผมไม่รับผิดชอบอะไรเลย  เท่ากับผมยอมรับคำด่านั้น  พี่ชายผม ต้องเอาผมตายแน่เพราะไอ้ภีมเป็นเพื่อนรักของทู  ไอ้ภีมจะเกลียดก็ให้มันเกลียดไป  วันนี้ผมจะพูด  เพราะผมรู้สันดานผมดี เมาทีไรต้องมีการระบายน้ำออกจากตัว และเมื่อคือไอ้ภีมก็ตกเป็นเหยื่อของผม  ผมมั่นใจ



“แม่ครับ สองได้ไอ้ภีมเมื่อคืน แม่มีลูกสะใภ้แล้วนะครับ” พี่ชายผมถึงกับสำลักข้าว ไอ้ตุลย์ยื่นแก้วน้ำให้แล้วลูบที่หลังทู แม่นั่งนิ่งด้วยความแปลกใจ วางช้อนลงทันที

“ฮ่าๆๆๆ กัดกันดีนักนะมึง เสร็จจนได้” ไอ้ตุลย์หัวเราะเสียงดังแบบซ่ะใจ

“แม่ไม่ต้องฟังไอ้สอง มันเพ้อ ผมกับมันไม่ได้มีอะไรกัน มันเข้าใจผิด ผมแน่ใจมากครับไม่มีอะไร”

“งั้นมึงบอกกูสิ ถุงยางที่วางอยู่ เหี้ยที่ไหนมันใช้ว่ะ ถ้าไม่ใช่มึงกับกู กูรับผิดชอบมึงได้จริงๆ” ผมเริ่มเสียงดังใส่หน้าไอ้ภีม แล้วมันเงียบเพราะมันเองก็คงจำอะไรไม่ได้เหมือนกัน

“ใจเย็นๆลูก ค่อยๆคิดมันเกิดอะไรขึ้น แต่แม่ยินดีนะที่จะมีภีมมาเป็นสมาชิกของบ้านแม่อีกคน” แม่ส่งยิ้มที่อบอุ่นกล่าวต้อนรับไอ้ภีม

“ขอบคุณครับแม่ แต่มันไม่มีอะไรจริงๆครับ ไอ้สองมันบ้า”
...
...
...
...
...
...




          เมื่อคืนเป็นคืนที่มีความสุขมากครับ ไม่คิดว่าปลาทูจะยอมผมได้ ทั้งๆที่ตอนเริ่มจีบใหม่ๆเราตกลงกันแล้วว่าจะสลับขั้วกัน แต่ทูเองกลับเป็นฝ่ายยอม  ความสุขมันจุกอกผมแทบทะลัก ร่างกายของทูถูกผมบงการทุกอริยะบท  การเคลื่อนไหว ท่ายากท่าง่าย  ก็ถูกผมควบคุม  ทูทำตามแบบไม่อิดออด  ผมรู้ว่ามันเป็นท่าที่ผู้ชายไม่เคยทำแน่นอน  แต่ทูก็ทำได้ไม่เลวเลยกับครั้งแรก นอกจากเรื่องของผมแล้ว ช็อกสุดหนีไม่พ้นเรื่องของไอ้สองกับไอ้ภีมไม่รู้ฝ่ายไหนพูดความจริง  แต่ชั่งเถอะ เพราะตอนนี้ไอ้สองโดนพี่ชายมันสวดยกใหญ่  ผมว่าไม่จบง่ายๆแน่ ระหว่างนั่งรอทูจัดการกับไอ้สองอยู่นั้น



ไลน์!!!!ไลน์!!!!ไลน์

ตุ๊ดน้อยจากดอยตุงไม่ใส่ถุงไม่ให้เย

มินนี่เมียตุลย์: ทูยอมมึงแล้วหรออีตุลย์

1October: มึงรู้ได้ไงว่ะ

แม็กกี้: แปลว่าจิง 5555

สายรุ้ง: พธู ของ เฮา ไปซ่ะแล้ว ฮือๆๆๆๆ

มินนี่เมียตุลย์: ทูทำเป็นป่าวว่ะ  กูอยากรู้

1October: ตกลงใครบอกพวกมึง ได้กลิ่นเร็วจังว่ะ

แม็กกี้: ไอ้ภีมมันไลน์บอกพวกกูตั้งแต่เมื่อคืน มันบอกได้ยินเสียงร้องดังม๊ากกก ตกลงได้หรือไม่ได้

มินนี่เมียตุลย์: มันส์มั้ย อีตุลย์

1October: มึงก็ถามปลาทูเองสิ 5555

มินนี่เมียตุลย์: ดอก มันคงบอกพวกกูหรอก

1October: กูเห็นพวกมึงอยากรู้ไง ถามกันเองสิ




.........@.....$......#....%....¥.....&....₩........**.....×...%....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2016 15:01:48 โดย 19919 »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :mc4: :mc4: ได้เมียจริงๆเสียที  อ่านไปเขินไป  :-[
ปล. คำผิดเยอะพอสมควรนะคะ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
:mc4: :mc4: ได้เมียจริงๆเสียที  อ่านไปเขินไป  :-[
ปล. คำผิดเยอะพอสมควรนะคะ
ขอบคุณค่ะ ผิดเยอะจิงด้วย *ศอก ค่ะ555 กำลังเข้ามาแก้ไข

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: ~หนึ่งตุลา~ ตอนที่8 ซอกพิฆาต
«ตอบ #36 เมื่อ11-10-2016 17:39:42 »

เลือกตุลย์เป็นแฟนน่ะถูกต้องที่สุดแล้ว แต่จะดีกว่านี้ก็ยอมเป็นของตุลย์สักทีเถอะ
ยอมแล้วจ้าาา

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
อิอิอิ ดีใจกับตุลย์ด้วย สี่ปีที่รอคอย :katai2-1: เราว่าตุลย์น่ารักนะ ได้กับปลาทูครั้งแรกก็ยังถนอมเมีย น้ำเดียวพอถึงจะนานก็เถอะ ไม่ใช่สักแต่ว่าตะโบมกินเข้าไปซะหลายรอบ ส่วนสองกับภีมเราคิดไว้แต่แรกแล้วว่าคู่นี้อาจจะได้กัน เพราะเห็นกัดกันดีเหลือเกิน  :laugh:

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
อิอิอิ ดีใจกับตุลย์ด้วย สี่ปีที่รอคอย :katai2-1: เราว่าตุลย์น่ารักนะ ได้กับปลาทูครั้งแรกก็ยังถนอมเมีย น้ำเดียวพอถึงจะนานก็เถอะ ไม่ใช่สักแต่ว่าตะโบมกินเข้าไปซะหลายรอบ ส่วนสองกับภีมเราคิดไว้แต่แรกแล้วว่าคู่นี้อาจจะได้กัน เพราะเห็นกัดกันดีเหลือเกิน  :laugh:
สองกับภีม ไม่ได้กันค่ะ^^

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ความรักของตุลย์ ทู ก็เรียบร้อย สมหวัง แฮปปี้ :mew1: :mew1: :mew1:
ตุลย์ เก่งมากกกก ท่ายากก็เยอะ ทั้งที่แขนก็เจ็บ นับถือๆ
สอง นี่ รับผิดชอบดีมากเช่นกัน
แต่สงสัยทั้งสอง ทั้งภีม ไม่เคยใช้ถุงยาง
ก็มันไม่มีน้ำ......อยู่ เลย สอง ภีม จะได้เสียกันอย่างไร
เอ......หรือตอนที่เป่าโป่งแข่งกัน
น้ำลายมันจะลงไปในโป่ง
แต่น้ำลายจะเยอะขนาดนั้นเลยเรอะ
ขอแก้คำผิด
รามกนะทูอ่ะ ----- ลามก
ทั้งสองผัวพันธ์กันจนเป็นหนึ่งเดียว  ---- พัวพัน
โต้ตอบกันไปมาด้วยความเล้าร้อน ----- เร่าร้อน
ท่านั่งค่อม ----- คร่อม
น้องชายตุลย์ที่ตั้งตระง่ารอ ----- ตระหง่าน
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-10-2016 10:20:08 โดย ทฟเืนสรฟ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ~tOeY~

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ในที่สุดทูก็ยอม  :-[

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ในที่สุดทูก็ยอม  :-[
สงสารตุลย์เหมือนกันค่ะ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่10  ขอ3เดือนต่อครั้งนะ




         บรรยากาศในรถตอนนี้มืดมนเงียบสนิท มีเมฆก้อนใหญ่ปกคลุมเหมือนฟ้ากำลังจะผ่าลงกลางหัวไอ้สอง  ผมได้ยินแต่เสียแอร์ที่พุ่งออกจากช่องด้านหน้า  ใจหนึ่งก็สงสารไอ้สองแต่ใจหนึ่งก็สมน้ำหน้ามัน  เปล่าซ้ำเติมมันนะครับเพราะมันควรโดนบ้าง  ผมนั่งมองไอ้สองที่เอาแต่หลบสายตาพี่มันที่เบาะหลังรถ หน้าตาดูสลด  ตีหน้าเศร้า  สำนึกกับเรื่องที่เกิดขึ้น  จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงนั้น  ก็มีแค่มันกับไอ้ภีมที่รู้ ผมได้แต่นั่งกุมมือคนขับรถเป็นการปลอบใจ 

           นี้ก็เป็นอีกครั้งที่ไอ้สองทำอะไรไม่คิด ไม่ระวัง และเกิดกับเพื่อนสนิทอีกต่างหาก  เรื่องนี้คนที่เสียใจมากอีกคนก็คงหนีไม่พ้นพี่ชายอย่างทู  คนหนึ่งน้องชาย อีกคนก็เพื่อนรัก  วันนี้ที่ทูหยุดบ่นไอ้สองได้ก็เพราะเราต้องไปร่วมงานรับน้องวันสุดท้าย  ถ้าขืนยังบ่นต่อความฝันของผมพังพอดี  อิงก็โทรตามอยู่หลายครั้งเพราะน้องๆปี1 ตั้งขบวนเสร็จแล้ว  และใกล้ถึงเวลาปล่อยตัว  ให้รีบมาไม่งั้นคงไม่ทัน  ผมต้องไปทำตามความตั้งใจของผม  ผมจะจับมือผู้ชายคนนี้ไปให้ถึงเส้นชัยทั้ง4ปี 

           พอมาถึงมหาลัยไอ้สองก็หายหัวไปทันที  ส่วนผมกับทูก็เดินตามหาไอ้ภีมกันให้ทั่วอยากคุยกับมันมากๆท่ามกลางน้องๆเพื่อนๆนับหลายพันคนที่เข้าแถวเตรียมตัววิ่ง  แต่ก่อนจะเจอไอ้ภีม  เราเห็นแก๊งหนังสั้นแบกกล้องวีดีโออัดขบวนน้องๆปี1ที่เริ่มทยอยออกจากมหาลัย  นึกว่าพวกพี่แกเป็นเจ้าหน้าที่ของมหาลัย  ทั้งทุ่มเท  ร่าเริง  สนุกสนาน ทำตัวเหมือนเด็กๆสงสัยพวกพี่แกกำลังย้อนวัยกันอยู่  โบกไม้โบกมือทักทายผมกับทู  แถมยังชู2นิ้ว เป็นสัญลักษณ์ว่าสู้ๆ อ่อไม่ใช่สู้ๆ  พี่แกแค่จะเตือนว่า  วันนี้ผมนัดกับพี่แกไว้ตอนบ่าย2 เพื่อ สัมภาษณ์ เรื่องหนังต่อ

           สองข้างทางตอนที่ผมนั่งรถผ่านมา  มีการตั้งโต๊ะเป็นทางยาว  คอยประถมพยาบาล  แจกน้ำ  แจกของว่าง  ให้น้องๆตลอดสองข้างทาง  ไม่ใช่แค่พวกเราที่มาดูแลน้องๆ  ผมเห็นแม้กระทั้งชาวบ้านที่อยู่ระหว่างทางที่เราต้องวิ่งผ่านก็ร่วมมือร่วมใจกันมาคอยต้อนรับและให้กำลังใจเราอีกด้วย  งานเดินวิ่งสันทรายถือเป็นประเพณีที่เราปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านานเพื่อสร้างความสามัคคีระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง  เราจะต้องเดิน-วิ่งจากมหาลัยไปยังที่ว่าการอำเภอสันทรายรวมระยะทาง10กิโลเมตรได้  เพื่อไป  สวัสดีและรับพร จากท่านนายอำเภอ  รวมถึงฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกหลานของชาวสันทรายกันแบบนี้ทุกปี  ถ้าวันนี้มาถึงเท่ากับงานรับน้องที่แสนยาวนานได้สิ้นสุดลง  ขบวนวิ่งออกไปสักพัก ผมก็เจอตัวไอ้ภีมเดินจับมืออิงมาจากทางใต้ตึก  โดยมีไอ้สองเดินตามตูดต้อยๆ




 “เมียจ๋า…..จะรีบเดินไปไหน  รอผัวด้วย” เสียงแม่งโคตร
ปัญญาอ่อน

“มึงจะเอายังไงกับกูไอ้สอง” ไอ้ภีมหันไปชี้หน้า

“เอาได้ทุกท่าแหละเมียจ๋า”

“ไอ้สัส!!!”  “ทู เดี๋ยวคุยด้วยนะ กูหนีไอ้เหี้ยสองก่อน” แล้วไอ้ภีมก็ลากตัวอิงหนีไอ้สองไป อิงยังยิ้มหวานให้ไอ้สอง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แล้วก็รีบจ้ำอ้าวตามไอ้ภีมไป  ทูพยักหน้ารับไอ้ภีมพร้อมกับยื่นมือไปคว้าแขนไอ้สองไว้ไม่ให้วิ่งตามคู่นั้น  แต่อย่าคิดว่าจะทัน  หน้าด้านต้องยกให้มัน  เพื่อนพูดขนาดนี้มันยังไม่เข้าใจอีก  ตัดเรื่องปวดหัวของไอ้สองออกไปก่อน  เพราะวันนี้ เป็นวันหวาน  เป็นวันซึ้ง เป็นวันโรแมนติก  เป็นวันของผมกับทู



           แสงแดดอันอบอุ่น  ในยามเช้าสาดส่องเข้ามาด้านในประตูทุกช่อง  สายลมพัดผ่านแก้มเย็นสบาย  ด้านหน้าของผมเป็นพรมสีแดงทอดยาวไปถึงประตูทางเข้า  ช่องทางเดินเล็กๆตรงกลางถูกโปรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดง  แขกทุกท่านนั่งเก้าอี้ยาวเรียงแถวทั้งสองฝั่งด้วยชุดสีขาว  รอบๆบริเวณประดับตกแต่งด้วยดอกกุหลาบหลากสีสันส่งกลิ่นหอม ตลบอบอวล  ส่วนผมยืนอยู่ใกล้กับบาทหลวง  เสียงเปียโนดังขึ้น  แม่ทูเดินคล้องแขนทูตรงมาที่ผม  ปลาทูใส่สูทสีขาวผูกเนคไทสีดำ ถือช่อดอกไม้สีชมพูในมือ  เดินเข้ามาใกล้  เข้ามาใกล้  เสียงเพลงบรรเลงจนจบ  แม่ส่งมือปลาทูให้กับผม  ตอนนี้เรายืนจับมือกันแน่น   แล้วเสียงบาทหลวงก็ดังขึ้นว่า

 “มีใครใน ณ ที่นี้ จะคัดค้านบุคคลทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้านี้หรือไม่”





 “ตุลย์ๆ  เพื่อนไปหมดแล้วยืนอมยิ้มอะไร จะวิ่งรึป่าว” ใครกล้าคัดค้านว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ หยุดความฝันไว้ก่อน  ไปวิ่งกันครับ

“โทษที ไปๆ ว่าแต่ทูวิ่งไหวหรอ น่าจะเจ็บนะ” ผมเอียงตัวเข้าไปใกล้

“ตุลย์จะลองบ้างไหมล่ะ จะได้รู้” มองค้อนด้วยหางตา

“สบายมาก กล้าทำป่าววววว”

“หยุดเลยตุลย์ เราจะเดินแล้วนะ จะมาก็ตามมา” ผมรีบดึงมือของทูไว้ด้วยมือขวา  แล้วเดินจับมือกันมาแบบนั้น  ค่อยๆเดินทีล่ะก้าว  ช่วยกันเช็ดเหงื่อที่ไหล  หยุดพักบ้าง แวะกินน้ำข้างทางจากเพื่อนบ้าง  กินขนมบ้าง  จนถึงที่ว่าการอำเภออย่างที่ตั้งใจอาจใช้เวลานานหน่อยแต่ก็มาถึง  ถึงคู่สุดท้ายซ่ะด้วย 10กิโลเมตร ไม่น้อยเลย ทั้งร้อน  ทั้งเมื่อย งานนี้ก็เหมือนวิ่งมาราธอนย่อมๆนั้นแหละครับ  ส่วนคนที่ผมเดินจับมือมาวันนี้ก็ยังระบมจากบาดแผลอยู่  เห็นใจที่ต้องเดินไกลขนาดนี้  แต่ก็ขอบคุณที่ยอมเดินมาด้วยกันจนถึง


..
..
..
F
..
..
..



2story

          ผมวิ่งตามไอ้ภีมกับอิงไม่ห่าง มันวิ่งผมก็วิ่ง มันเดินผมก็เดิน  พี่ชายสวดผมยาวแต่เช้า  สั่งให้ผมจัดการกับชีวิตให้เรียบร้อย  ถ้าเอาตามใจผม  ผมก็อยากรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ แต่ไอ้ภีมล่ะจะยอมให้เป็นแบบนั้นมั้ย  ยังไงเรื่องนี้ต้องไม่มีการเสียเพื่อน  ทุกอย่างจะจบได้ด้วยดีไม่ว่าผลจะเป็นแบบไหนก็ตาม  ไอ้ภีมไม่สนใจผมสักนิดเอาแต่จับมืออิงวิ่งอย่างเดียว  ส่วนอิงเองก็ไม่โวยวาย  เอาแต่หัวเราะ  ส่งยิ้มหวานตามเคย  ใจผมสลายมากบอกตรงๆ ที่อิงยังดีกับผม ท่าทางไม่ได้โกรธผมด้วยซ้ำ ไอ้ภีมก็เพื่อนรัก อิงก็เพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่ผมมี  ผมควรทำยังไงดี  ถึงจะรักษามันไว้ทั้งสองคนได้ ผมคิดหนักตลอดทางที่มามหาลัยว่าจะเข้าหน้าไอ้ภีมแบบไหนและจะเริ่มจากอะไรดี  อีกคนก็คือพี่ชายผมเองไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตา  ผมรู้เลยว่าพี่ชายต้องโกรธผมไปอีกนาน  เผลอๆอาจโดนสั่งงดความบันเทิงทั้งหมดแน่   โอ้ยยยย!!!! ปวดหัวคิดไม่ตก  พชร ควรทำอะไรเป็นอันดับแรก  ขณะที่น้องๆปี1 นั่งฟังนายอำเภอให้โอวาสอย่างตั้งใจ  ผมก็เห็นอิงกวักมือเรียกผมให้เข้าไปนั่งใกล้ๆ





“มีไรป่าวอิง”

“อิงไม่มี แต่ภีมมี”





          ผมนั่งแทรกกลางระหว่างเพื่อนสองคน  แล้วไอ้ภีมก็เอามือล้วงกระเป๋าเป้พร้อมยื่นกระดาษA4 มาให้ผมหนึ่งแผ่น  หัวกระดาษเป็นตราโรงพยาบาลและมีข้อความระบุในนั้นว่า ผลตรวจร่างกาย นาย พีระพัฒน์  ภักดีสม  ไม่ได้มีการถูกล่วงละเมิดทางเพศกระทำชำเรา หรือไม่ได้มีการร่วมเพศทางรูทวานหนัก บลา บลาๆๆๆๆ ลงชื่อ นายแพทย์…….. ผมจับใจความสัมคัญได้แค่นั้นและอ่านวนอยู่3รอบ  ถึงแน่ใจว่าตาผมไม่ลายเพราะเมาแดดแต่อย่างใด  ผมกอดคอไอ้ภีม ด้วยความดีใจ อยากหอมแก้มมันด้วยซ้ำ จากที่รู้สึกแย่ที่สุดของชีวิต  ตอนนี้ดีใจที่สุดของชีวิต  ก็เหมือนผมได้ยกภูเขาออกจากอก






“ทำไมมึงไม่บอกกูตั้งแต่เมื่อกี้ว่ะ ให้กูวิ่งตามอยู่ได้ ”

“กูอยากให้มึงสำนึกเอง”

“ไอ้ห่า กูขอโทษ ที่กูบ้า ที่กูไม่มีสติคิด กูไม่อยากเสียเพื่อน กูไม่อยากได้เพื่อนเป็นเมีย กูไม่เหมาะกับสายนี้หรอก  กูรู้ตัวกูดี ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะแรกของผมในวันนี้

“กูรู้ว่ามึงไม่มีสมอง คิดเองไม่ได้ไง กูเลยต้องหาหลักฐานให้มึง อีกอย่างนะ กูกับอิงคบกันตั้งแต่ ม6.แล้ว  ที่กูไปตรวจ  เพราะอิงมากกว่า  ไม่ใช้เพราะมึง มึงไม่สำคัญขนาดนั้น ไอ้เหี้ย” ไอ้ภีมจับมืออิงไว้แน่น ครั้งแรกที่เห็นมันกล้าจับมือกันต่อหน้าเพื่อน

“แล้วทำไมมึงสองคนไม่คิดจะบอกเพื่อนว่ะ จะปิดทำไม”

“อิงเป็นเพื่อนกูเหมือนกับทุกคน  กูสองคนลองคบกันก่อน  กูกลัวว่าบอกไปแล้วมันจะไม่ใช่  กลัวว่าจะไปกันไม่รอด กลัวจะเสียเพื่อน กูเลยไม่บอก แต่ตอนนี้กูมั่นใจแล้ว  ก็กะว่าจะหาเวลาบอกพวกมึงเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาส” ตอนนี้ผมไม่เพียงแต่กอดคอไอ้ภีมผมเอื้อมมือไปกอดอิงอีกคน

“ขอบคุณที่พวกมึงเห็นกูเป็นเพื่อน และไม่เคยเกลียดกู”

“มึงไม่ต้องบีบน้ำตา นอกจากพวกกู ก็ไม่มีใครคบมึงเป็นเพื่อนแล้ว ไอ้สัส”

“ขอบคุณนะอิง ขอบคุณมากๆ  เรายอมให้อิงเป็นเมียไอ้ภีมคนเดียวพอนะ แล้วเราจะเป็นผัวมันเอง ฮ่าๆๆ”

“เดี๋ยวกู เลิกคบแม่ง จริงๆเลยนิ  กวนส้นตีน” บทเรียนครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าเพื่อนรักผมมากแค่ไหน  ผมจะตั้งสติให้ดีก่อนไม่วู้วามแบบนี้อีก  ถ้าเป็นคนอื่นคงเลิกคบผมไปนานแล้ว  ไม่มานั่งใจเย็นหาใบรับรองแพทย์มาให้ผมเป็นแน่  ผมกับไอ้ภีมเหมาะที่เป็นเพื่อนกันมากกว่า  ผัวเมียคงยากที่จะทำใจ
..
..
..
..
..
..
..
..
..
          หลังกิจกรรมของทางมหาลัยเสร็จสิ้นลงในช่วงบ่าย  ผมกับเพื่อนๆที่คณะช่วยกันขนของขึ้นรถไปเก็บที่ห้องสภานักศึกษาและแยกย้ายกันกลับ  ไอ้สองกระโดดโหย่งๆมาแต่ไกล  กอดพี่ชายมันด้วยความดีใจยิ่งกว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง  ปากก็ฮัมเพลงไม่หยุด  อย่างกับคนล่ะคน  ตอนเช้าหน้าเหมือนหมาคันเห็บ  ตกบ่ายหน้าเหมือนหมาได้กระดูก  เปลี่ยนอารมณ์เร็วจริงๆ จนอิงมาอธิบายให้ผมกับทูฟังทีหลัง  ตอนที่นั่งรถมาด้วยกัน เรื่องราวเป็นมายังไง  ในที่สุด ไอ้ภีมกับอิงก็เป็นแฟนกัน  อย่างที่เพื่อนๆอยากให้เป็น  คงเหลือแต่แก๊งดอกปีบที่ยังไม่รู้ข่าว  ไม่งั้นไลน์ผมคงดังไม่หยุด  ไอ้ภีมเป็นคนขับรถ อิงนั่งคู่เบาะหน้า  แก้มเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ต่อไปก็ไม่ต้องปิดเพื่อนอีกสามารถเปิดตัวกันตามสบาย  ตอนนี้ถูกคู่  ถูกเวลา เรากำลังมุ่งหน้ากลับโฮมสเตย์ของผม  เพราะพวกพี่กัสกำลังรอเราอยู่



         แก๊งหนังสั้นนั่งรอที่โต๊ะอาหาร  พอมาถึงเราก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง งดการพูดคุย งดใช้เสียง เพราะท้องมันร้องตั้งแต่ขนของกลับมหาลัย  แม่บ้านตักข้าวให้ใส่จานแทบไม่ทัน  กองทัพต้องเดินด้วยท้อง  ก่อนที่จะเริ่มงานของพวกพี่กัสต่อ  กล้องวีดีโอตั้งข้างโต๊ะกินข้าวไฟสีแดงติดอยู่ เอากับพี่แกสิครับ  คนกินข้าวก็จะถ่าย



“พี่เชนกินข้าวพี่จะถ่ายไปทำอะไรคร๊าบบบ”

“งานกู มึงไม่เข้าใจหรอก”



           ผมก็ไม่เข้าใจอย่างที่พี่เชนบอกแหละครับ  ไม่เห็นถึงความจำเป็นอะไร  ที่จะต้องอัดทุกอย่างขนาดนี้  อีกอย่างผมคิดว่า  พวกพี่แกได้ข้อมูลไปจนหมดแล้วน่าจะเขียนเรื่องราวได้  ไม่รู้เหลืออะไรที่ยังไม่ได้บอก  พอทุกคนอิ่มหมดแล้ว  แม่บ้านก็ยกจานผลไม้มาวางต่อ เราก็เริ่มพูดคุยถึงเรื่องหนัง




“พวกพี่อยากรู้อะไรอีก ผมว่าผมบอกหมดแล้วนะ”

“ก็ไอ้สองมันบอกกูว่า  มึงสองคนได้กันแล้ว จริงป่าวว่ะ” พี่กัสถาม

“ครับ” ผมตอบหน้าตาเฉย แต่ปลาทูดูอายๆ

“อร๊ายยย จริงหรอตุลย์ อิงดีใจด้วยนะ” อิงแสดงความยินดีกับผม แต่ปลาทู ยิ่งอายหนักเข้าไปใหญ่

“เสร็จแล้วหรอน้องทู”

“ถามได้พี่ชิน ก็เสร็จสิ จิงมั้ยปลาทู๊วววว” ผมยักคิ้วใส่พี่ชิน 

“โห๊ยยยย  น้องทูของพี่ไปซ่ะแล้ว เสียดาย แบบนี้พี่ก็หมดหวังแล้วสิ” เสียงโอดโอยของพี่ชิน

“จบเอกมโนมาหรอมึง ไอ้ชิน  กูจะสัมภาษณ์น้อง เลิกฝันเลิกเวิ่นเว้อ งานจะได้เดินต่อ”

“แล้วพี่จะถามอะไรครับ” ทูถามบ้าง

“ตกลงเมื่อคืนพวกมึงได้กันแล้วใช่ป่ะ ไม่ใช่แค่เล่นว่าวนะมึง  เด่วกูตบหัวคว่ำ”

“ใช่ครับพี่ แต่บอกรายระเอียดในเนื้องานไม่ได้ พี่จินตนาการเองล่ะกัน” ผมรีบตอบพี่กัส  เพราะทูไม่กล้าพูดแน่

“ใครผัว ใครเมีย” พี่เชนยื่นหน้ามาจากอีกฝั่งของโต๊ะ
 
“ผมผัว ทูเมีย พี่ต้องเอาลึกขนาดนี้เลยหรอ พี่จะทำหนังแนวไหนกันแน่เนี่ย” ผมถามกลับ

“ไม่ใช่หนังโป๊แน่ มึงวางใจได้ แล้วทูยอมเป็นเมียมึงได้ไงว่ะ  ก็ไหนบอกจะสลับขั้วกัน” พี่กัสถามต่อ

“ผมจะรู้ได้ไง ล่ะพี่”

“ไอ้สองมึงรู้มั้ย เรื่องเสือกต้องถามมึง”

“ถามทูเองดิพี่  มันก็นั่งอยู่ตรงนี้ ถามผมไม” “ไอ้ตุลย์กูยืมรถดิกูจะรับน้องข้าวปุ้น” แล้วไอ้สองก็ขับรถออกไป

“ว่าไงทู”

“ทูก็คิดมาตลอด4ปีแหละครับพี่ ทูก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน รู้แค่ว่า ผมรักตุลย์ คำตอบแค่นี้ใช้ได้ไหมครับ” ผมนั่งน้ำตาคลออยู่ข้างเมื่อฟังคำตอบ

“ใช้ได้ดิว่ะ มีเหตุผลที่ดีกว่านี้อีกหรอ ว่ามั้ย”

“แล้วตุลย์ เคยรู้ความหมายของชื่อทูรึป่าว ว่ามันแปลว่าอะไร” ทูหันหน้ามาถามผม

“รู้สิ พธู แปลว่า ที่รัก ไง” ทุกคนตั้งใจฟังผมกับทูคุยโต้ตอบกันไปมา อย่างตั้งใจ

“ตุลย์ ดูพจนานุกรมเล่มไหน ถึงแปลแบบนั้น”

“อ่าวไม่ใช่หรอ”


“เปิด google ได้นะตุลย์” ผมไม่เคยรู้ความหมายของชื่อพธู ผมชินปากเรียกปลาทู เลยไม่สนใจที่จะหาความหมาย แล้วเข้าใจไปเองว่า พธู แปลว่า ที่รัก มาตลอด จนมาตอนนี้ผมตาโต ปากยิ้มกว้างจะฉีกถึงหู  เมื่อเห็นความหมายที่ google สืบค้นให้ มันทำให้ผมยิ่งดีใจ และน่าจะเป็นเหตุผลที่ ยอม ผมก็ได้ ผมเอื้อมแขนทั้งข้างโอบกอดพธูไว้แน่นจูบเหม่งด้วย  แล้วยื่นโทรศัพท์โชว์ความหมายให้พวกพี่ๆเพื่อนๆ ดูพร้อมกัน พธู มีความหมายว่า เจ้าสาว ผมก็ได้เป็นเจ้าบ่าวไงครับ



“โคตรโรแมนติกเลย น้องทู”

“พวกมึงสองคนน่ารักมาก แต่นี้มันชื่อผู้หญิงไม่ใช่หรอ” พี่กัสดูสงสัย

“อ่อ เรื่องนี้ผมรู้ครับพี่ ตอนที่แม่ทูท้อง ฝันว่าได้ลูกผู้หญิง เลยเรียกชื่อนี้มาตั้งแต่อยู่ในท้อง คลอดมาก็ตามนี้เลย” ไอ้ภีมตอบแทนในฐานะเพื่อนสนิท  เรื่องนี้ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน

“แล้วแหวนในนิ้วนางข้างขวา มึงนี้ล่ะ”


“แหวนนี่ผมซื้อให้ทูวันเกิดตอน ม.6 ไอ้ธันพาไปซื้อตอนที่ผมกลับกรุงเทพ ไว้ใส่แทนใจ บังคับยังไงทูก็ไม่ยอมใส่คู่กับผม ก็เหมือนต่างหูนี่แหละพี่ ต้องเล่นงัดข้อบังคับถึงจะยอม”


“มึงนี่สายเปย์นี่หว่า  ยี่ห่อนี้แพงชิบ” พี่เชนพูด


“ผมน้องไอ้ธันนิพี่”

“เออ มึงรวย กูลืม รวยเหี้ยๆ”

“แล้วแม่มึงสองคนไม่ว่าอะไรเลยหรอ”

“ม๊าผมกับแม่ทูยอมรับเรื่องเราสองคนได้ ก็ตอนที่ทูเมาหนัก  หลังจากที่โดนผมจูบต่อหน้าเพื่อนๆในชั้นเรียน แล้วผมก็แบกทูเข้าห้องนอนไปสารภาพรักและขอเป็นแฟนวันนั้นแหละครับ ม๊าผมได้ยินทุกอย่างที่ผมพูดกับทู ม๊าเลยอัดคลิปเสียงที่ผมคุยกันไปให้แม่ทูฟัง พวกเขาก็รู้หมด ม๊าไม่ปิดกั้นหรือด่าอะไร พยายามให้พวกผมอยู่ในสายตา และเป็นเพื่อนที่คอยดูแลกันไปส่วนเรื่องอื่นก็ปล่อยเป็นเรื่องของอนาคต”

“กูได้พล๊อตเรื่องหนังที่กูจะทำล่ะ กูจะทำให้ใกล้เคียงที่สุด แต่มุมมองจากพวกกูสามคนนะ เหมือนมันขาดอะไรสักอย่าง” พี่กัสพูดอ้ำอึ่ง

“ขาดอะไรอ่ะพี่”

“กูยังคิดไม่ออกว่ะ ฮ่าๆๆ” คำถามของพี่กัสจบไป เหลือแต่คำขอจากเจ้าสาวของผมเอง

“อ๋อ ตุลย์ ทูมีอะไรจะขอ ได้มั้ย”

“ได้ทุกอย่างเลยครับ”

“ขอ3เดือน ต่อครั้งนะ เจ็บ”

“ห๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” กูรับปากไปแล้วด้วย















....I...L....O....V....E....P..A...2....M..A...K...M...A...K....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2016 15:22:20 โดย 19919 »

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ยังน่ารักน่าใคร่เหมือนเดิมเลยอ่ะคู่นี้ อร๊ายยยยยยยย :mew3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อกแตกตายเลย สามเดือนที

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
สมน้ำหน้าตุลย์ดีมั้ย รับปากทูไปแล้วด้วย :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ทู พูดเล่นใช่ไหม ขอ ๓ เดือนครั้ง  :ling1: :ling1: :ling1:
อย่างนี้ก็ปีละ ๔ ครั้งสิ
ตุลย์ แย่เลยนะ

ขอแก้คำผิด
กองทับ ----  กองทัพ   
สลับขั่ว ----  ขั้ว
สาระภาพ ---- สารภาพ
พอตเรื่องหนัง ---- พล็อต
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ทู พูดเล่นใช่ไหม ขอ ๓ เดือนครั้ง  :ling1: :ling1: :ling1:
อย่างนี้ก็ปีละ ๔ ครั้งสิ
ตุลย์ แย่เลยนะ

ขอแก้คำผิด
กองทับ ----  กองทัพ   
สลับขั่ว ----  ขั้ว
สาระภาพ ---- สารภาพ
พอตเรื่องหนัง ---- พล็อต
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ**

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่11 :m20:


         
             
            หลายเดือนที่ผมไม่ได้มานอนที่บ้านของตุลย์  น้อยครั้งที่เราจะมานอนที่นี้  เพราะงานที่สวนกล้วยไม้  เป็นหน้าที่รับผิดชอบของผมทั้งหมด มันเป็นงานที่ละเอียดอ่อน  ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ  ทั้งเรื่องน้ำ  เรื่องปุ๋ย  เชื้อโรคและแมลงอีกมากมาย  ถ้าวันไหนเป็นวันหยุด  ไม่มีงานที่คณะ  ผมจะขลุกอยู่ในสวนได้ทั้งวัน  ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกก็ไม่มีเบื่อ  ตุลย์ชอบน้อยใจและงอนอยู่บ่อยๆ  หาว่าผมรักกล้วยไม้มากกว่าตัวเอง  เหตุผลที่ผมต้องอยู่ในสวนนานๆแบบนี้  เพราะทางคณะกำลังจะจัดประกวดพันธ์ไม้ประจำปี  ผมเลยจะลองส่งเข้าประกวดดูบ้าง  ต้นอ่อนกล้วยไม้ของผมกำลังแตกกอสวย  เหลือแค่รอดอกที่กำลังจะชูช่อออกมาเท่านั้น  นอกจากเรื่องผสมพันธ์กล้วยไม้แล้ว  ลูกค้าที่สวนก็เยอะขึ้นจากเดิมมาก  แม่พยายามส่งให้ลูกค้าครบทุกคนเท่าที่เราพอมีกำลัง  ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่  สองก็ช่วยบ้างไม่ช่วยบ้าง  เต็มที่ก็แค่ส่งดอกไม้ให้ลูกค้าเท่านั้น  เรื่องดูแลสวน ส่วนใหญ่จะเป็นผมกับแม่  ผมจึงไม่สามารถมานอนที่บ้านตุลย์ได้บ่อยๆ 



             หลังสัมภาษณ์เสร็จวันนี้เลยถือโอกาสนอนที่บ้านของตุลย์  เผื่อว่าเจ้าของห้องจะหายงอนผมได้บ้าง  เจ้าตัวนอนเอนหลังอยู่บนเตียง  มือก็จิ้มโทรศัพท์ไม่หยุด  สงสัยจะคุยกับแก๊งเพื่อนสาวตามเคย  ส่วนผมกำลังเตรียมเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ  เพราะเสื้อเต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อจากการเดินเมื่อช่วงเช้า  ผมเปิดตู้เสื้อผ้าหลังเก่า ที่ผมเคยเปิดมันเมื่อ4ปีก่อน  ที่ตอนนั้นมีแต่เสื้อผ้าของตุลย์เพียงคนเดียว  ผิดกับปัจจุบันตู้หลังนี้มีแต่เสื้อผ้าผม   ผมกับตุลย์ก็ใช้ของทุกอย่างร่วมกัน  ยกเว้นแปรงสีฟันกับกางเกงชั้นใน   นอกจากนั้นแล้วตุลย์ใช้ของร่วมกับผมหมดทุกอย่าง  ต่อให้ตุลย์ซื้อเสื้อมาใหม่  ตุลย์ก็จะให้ผมใส่ก่อนเสมอ  ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้เสื้อนั้นมีกลิ่นตัวผมติดตลอดเวลา  โดยเฉพาะเวลาที่ตุลย์ต้องกลับกรุงเทพจะต้องเอาเสื้อที่ผมใส่แล้วติดตัวไปเสมอ  ทั้งๆที่มันมีกลิ่นเหม็น  แต่ตุลย์บอกหอม  คนบ้าอะไรชอบดมเสื้อติดเหงื่อ  คงเหมือนเด็กที่ติดตุ๊กตาหรือผ้าขนหนูอะไรทำนองนั้นแหละมั้งครับ



             นิสัยเด็กๆเลิกไม่ได้สักที  หูข้างซ้ายก็บังคับให้ผมเจาะเพื่อใส่ต่างหูคู่เดียวกัน  แหวนที่นิ้วนางข้างขวาก็บังคับ ตอนแรกขอให้ใส่ข้างซ้ายด้วยซ้ำแต่ผมไม่ยอม  ความเห็นส่วนตัวผมคือ  ของทุกอย่างมันสามารถแทนใจได้หมด  แหวนนี้ก็เช่นกันใส่ข้างไหน  ก็แทนความรู้สึกที่เรามีให้กันได้  การแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของซึ่งกันและกันจึงไม่มีความจำเป็นสำหรับผมเลย  เพราะผมไม่เคยคิดว่าจะมีคนอื่นที่สามารถเข้ามายืนตรงที่  ที่ตุลย์ยืนได้ 



         นั้นคือเรื่องที่ผมยอม  บางเรื่องก็ยอมไม่ได้  เช่น การใส่เสื้อคู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน  มันหวานแห๋ววมากสำหรับผม  ทำไมต้องใส่เหมือนกันผมไม่เข้าใจ  คนอื่นจะคิดยังไงผมไม่รู้แต่ผมทำไม่ได้จริงๆ  เมื่อลูกคนเล็กที่ถูกเอาใจมาตลอดชีวิตอย่างตุลย์  ต้องมาเจอลูกคนโตที่ทำอะไรด้วยตัวเองอย่างผม  เป็นธรรมดาที่เราจะทะเลาะกัน  ไม่มีคู่ไหนหรอกครับที่จะไม่มีปากมีเสียงกันเลย  ขึ้นอยู่กับว่าจะมีคนยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่ายหรือไม่  จากวันนั้นจนถึงวันนี้  สิ่งที่ตุลย์เปลี่ยนไปมากคือพูดกับผมเพราะทุกคำ  ผมหยิบเสื้อกล้ามสองตัวกางเกงขาสั้นสองตัว  ผ้าขนหนูพาดบ่าหนึ่งผืนแล้วนั่งลงที่เตียง


“ตุลย์อาบน้ำ” มือผมเขย่าขาตุลย์เบาๆ  สายตาผมก็กวาดไปเห็นเฝือกอันแรกของตุลย์วางอยู่ที่หัวเตียงนอน  มันทั้งเก่าทั้งสกปรกแต่ตุลย์ก็ยังเก็บมันไว้  ที่เฝือกมีตัวหนังสือกำกับว่า  “เมียถีบ” เห็นกี่ทีก็อดอมยิ้มไม่ได้

“3เดือนครั้งจริงหร๋อออ ปลาทู๊ววว” วางโทรศัพท์แล้วยื่นหน้ามาใกล้

“จริง”

“กว่ากูจะได้อีกที  เดือนไหนว่ะ” เสียงบ่นพรึมพรำในคอ 

“กูกับใครตุลย์”

“ป่าวๆๆๆ กูกับตุลย์เอง ไม่ใช่กับทูหรอก ขอโทษ” ผมแอบยิ้ม เมื่อเห็นตุลย์ทำท่าทางกลัวผมขนาดนี้

“จะให้ช่วยมั้ยวันนี้”

“ช่วยอย่างว่าใช่ป่ะ”

“ไม่ใช่  หมายถึงช่วยถอดเสื้อแล้วก็ ช่วยอาบน้ำไง”

“จริงน๊า”



        แล้วเราก็แก้ผ้าเดินเข้าห้องน้ำด้วยกัน  ตุลย์ยืนตรงใช้แขนซ้ายที่หักพาดกับราวแขวนผ้าเพื่อไม่ให้โดนน้ำ   ผมเปิดน้ำจากฝักบัวราดจนทั่วตัว และเริ่มด้วยการสระผมให้ตุลย์ก่อน  ต่อด้วยใช้ฟองน้ำขัดตัวถูจนทั่ว  แปรงฟันให้อีกต่างหาก  ตุลย์เอาแต่ยืนยิ้มอย่างเดียว  แขนหักครั้งก่อนผมก็ช่วยอาบน้ำให้ทุกวัน  มาครั้งนี้ก็คงอีกเป็นเดือนเหมือนกัน  เสร็จแล้วก็นุ่งผ้าเช็ดตัวให้  และให้ตุลย์ออกมาจากห้องน้ำก่อน  ผมจะได้อาบให้ตัวเองบ้าง  พอผมอาบเสร็จก็เห็นตุลย์นั่งเอาผ้าเช็ดผมให้แห้งอยู่บนเตียง




“ตุลย์   นี่ถังอะไร”

“อ๋อ ถังน้ำอุ่น  ปลาทูมานั่งก่อนสิ” ตุลย์ดึงแขนผมให้นั่งลงกับเตียง  แล้วยกถังน้ำมาใกล้ผม

“เดี๋ยวๆ ตุลย์จะทำอะไร” ตุลย์จับขาผมจุ่มลงในถังน้ำ

“ก็ตุลย์เห็นข้อเท้าทูบวม  เลยให้แม่บ้านเอาน้ำอุ่นมาให้แช่เท้าจะได้ดีขึ้น  แล้วเดี๋ยวตุลย์นวดยาให้ด้วย แช่สัก10นาทีนะ” แล้วตุลย์ก็ใช้ผ้าเช็ดหัวให้ผม  รู้สึกดีอะไรขนาดนี้  ถ้าผมมีแฟนเป็นคนอื่น จะเป็นยังไงหน่า


        พอหัวผมแห้งเรียบร้อยแล้ว  ตุลย์ก็ลงไปนั่งที่พื้น  เอาผ้าอีกผืนเช็ดเท้าให้  แล้วค่อยๆนวดยาที่ข้อเท้าของผมอย่างเบามือ  พร้อมกับเล่าเรื่องแก๊งดอกปีบให้ผมฟัง ผมก็เล่าเรื่องงานที่คณะให้ตุลย์ฟังเช่นกัน พรุ่งนี้คงปลีกตัวมากินข้าวเที่ยงด้วยไม่ได้  เพราะผมเป็นตัวแทนที่คอยดูแล  คณะนักศึกษาที่มาดูงานจาก มช  หน้าที่ผมคือแนะนำและพาเยี่ยมชมการเรียนการศึกษางานเกษตรที่คณะ  เรามีโครงการแลกเปลี่ยนการเรียนการสอนประจำปีกับ มช และครั้งนี้เราเป็นเจ้าบ้าน  ผมต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดภายใน3วันนี้ ขณะที่ผมกับตุลย์กำลังจะปิดไฟนอน  ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก เสียงดังจากประตู



“เข้ามาได้เลยครับ  ตุลย์ไม่ได้ล็อก”

“จะนอนแล้วหรอลูก ม๊าเอานมให้ กินก่อนนะ” แม่ตุลย์เปิดประตูเข้ามาพร้อมแก้วนมที่วางในถาด

“ขอบคุณครับม๊า เดี๋ยวผมจะกินให้หมดเลย” ผมยกแก้วนมตามตุลย์

“ฝันดีนะลูก” แม่บอกเราสองคนแล้วก็เดินออกจากห้องไป  เราปิดไฟนอน  ตุลย์จูบผมแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนและหลับตั้งแต่หัวยังไม่ถึงหมอน  ความเพลียเอาชนะตุลย์ได้  ผมเลยไม่ต้องออกแรงทำอย่างอื่นให้ เราได้แค่นอนกอดกันยันสว่าง


 
           เช้าวันต่อมาผมขับรถมาจอดที่ประตูวิเวกเช่นเคย  รถที่ผมใช้ก็รถของตุลย์นั้นแหละครับ  ผมไม่ค่อยชอบเพราะมันเล็กและนั่งได้แค่สองคน ก็ถูกบังคับอีกเช่นกัน ผมเดินมาส่งตุลย์ที่ตึก ทักทาย ต้อง กับ สน  แล้วผมก็ปั่นจักรยานของตุลย์ไปที่คณะเกษตร 



           เพื่อนๆที่คณะเข้าแถวเตรียมตัวต้อนรับคณะอาจารย์และนิสิตที่จะมาจาก  มช กันอย่างพร้อมเพียง  จากนั้นรถบัสคันใหญ่ก็จอดที่หน้าลานจอดรถของมหาลัย  อาจารย์และนิสิตหลายสิบคนเดินลงจากรถ  แล้วอาจารย์ภาค  คณะเกษตรของเราก็กล่าวต้อนรับและพาเดินดูรอบๆคณะ  หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของผมกับเพื่อนที่จะต้องคอยพานิสิตเดินดูสาขาต่างๆอย่างระเอียด เราแบ่งเพื่อนๆออกเป็นกลุ่ม โดยมีอ๊อฟกับแพรเพื่อนที่คณะอยู่กลุ่มเดียวกับผม  และกลุ่มเรากำลังมาหยุดที่แปลงนาสาธิตด้านหลัง  ที่ห่างออกมาจากคณะไกลมาก  แพรเป็นคนแนะนำเรื่องหลักการกับเพื่อนๆ ขณะที่ทุกคนกำลังสนใจในสิ่งที่แพรพูดอยู่นั้น 



“นายชื่ออะไร เราชื่อปิง อยู่ปี3 ยินดีที่ได้รู้จัก” เพื่อนใหม่แนะนำตัวเองข้างๆผม

“สวัสดี เราชื่อทู อยู่ปี2”

“อ่าวเป็นน้องหรอ  แต่ไม่เป็นไร  เราเรียก ทู เฉยๆได้มั้ย”

“ได้ไม่เป็นไร”

“งั้นเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”

“ครับ” ผมยิ้มรับ   



          อ๊อฟ กวักมือเรียกผมให้ไปอธิบายในส่วนที่ของผม เกี่ยวการผันน้ำเข้าสู่แปลงนาและวิธีกักเก็บน้ำ เพื่อนใหม่ตามผมไม่ห่างตามแบบประชิดติดตัวตั้งใจฟังและยกมือถามคำถามตลอด  จนอ๊อฟต้องหันมามองหน้ากับแพรแบบยิ้มๆ  ผมไม่ได้คิดอะไร  เพราะคนที่เข้ามาหาผมไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาคิดแบบนั้นทุกคน  ผมก็ทำหน้าที่กับเพื่อนๆจนเสร็จในช่วงเช้าแล้วเราก็  พักกินข้าวในโรงอาหารข้างๆตึก  ผม  อ๊อฟ แพร นั่งที่โต๊ะเดียวกัน นิสิต มช ก็นั่งที่โต๊ะเดียวกัน



“เราขอนั่งด้วยคนนะ”  เพื่อนใหม่ยกแก้วน้ำมาของนั่งข้างๆผม  จนเพื่อนของผมต้องเงยหน้ามองเป็นสายตาเดียวกัน

“ได้  ตามสบายเลย”

ปิงก็นั่งลงข้างๆผม ขณะที่ผมกำลังจะลุกออกจากโต๊ะเพื่อสั่งข้าวที่ร้านประจำ  ผมก็เห็นตุลย์ปั่นจักรยานมาแต่ไกล  มือขวาจับแฮนรถเพียงข้างเดียวแขนเจ็บขนาดนี้  ยังอุตส่าห์ปั่นมาจนได้  ตุลย์จอดจักรยานหน้าตึกแล้วหิ้วของพะรุงพะรังเดินตรงมาที่โรงอาหาร  ตุลย์วางของบนโต๊ะ  เอามือจับที่ไหล่ผมแล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้ 



“อ้ายคนจน จำต้องทนปั่นรถถีบ จะมาจีบอีน้องคนงาม พอมาถึงอ้ายก็ฝั้งเอิ้นถาม พอมาถึงอ้ายก็ฝั้งเอิ้นถาม อีน้องคนงามกินข้าวตอนแล้วก๋า”


 ตุลย์ทำอะไรที่คาดไม่ถึงตลอด  กล้าแม้แต่ร้องเพลงที่เชยสุดๆต่อหน้าเพื่อนผมในโรงอาหารแบบนี้  อ๊อฟกับแพรอายม้วนแทนผม  ทั้งสองหยิบหนังสือขึ้นปิดหน้าและหัวเราะเบาๆ  ปิงเองยังอดขำไม่ได้  ไหนจะนิสิตที่อยู่โต๊ะถัดไปก็พากันหัวเราะคิกคัก  อยากแทรกพื้นปูนหนีจริงๆ  ข้าวตอนในเนื้อเพลงที่ตุลย์ร้องนั้นหมายถึงข้าวเที่ยงมันเป็นคำเมืองครับ ตุลย์กำลังถามผมว่ากินข้าวเที่ยงหรือยังนั้นแหละครับ

 
“ยังไม่กิน  แต่ตุลย์นั่งก่อนได้มั้ย อายเพื่อน” ผมดึงแขนตุลย์ให้นั่งลง หลังจากร้องเพลงจบ

“งั้นทูไม่ต้องซื้อ ตุลย์เอาข้าวหมูกรอบเจ้าอร่อยกับชาเขียวของโปรดมาให้ ของอ๊อฟกับแพรด้วยนะ ครบเลย” ตุลย์ยื่นกล่องข้าวกับแก้วชาเขียวให้เพื่อนผม

“มึงยังไม่หายบ้าหรอตุลย์  กล้ามากนะมึง เพลงแม่งโคตรเก่า” อ๊อฟแซวตุลย์

“เออ แล้วไงว่ะ กูกล้ามากกว่านี้อีก” แล้วตุลย์ก็หันหน้าไปมองปิงด้วยความสงสัย ว่าเขาคือใคร

“อ๋อ ตุลย์พี่ปิงเพื่อนที่มาดูงาน  ที่ทูเล่าให้ฟังไง” ผมรีบแนะนำ

“หวัดดีครับ  เพื่อนทูหรอ อารมณ์ดีเนาะ” ปิงถามผม

“ไม่ใช่เพื่อน กูเป็นแฟนมัน” ตุลย์แย่งผมตอบ น้ำเสียงมีเคืองเล็กน้อย ปิงแค่ยิ้มรับ


“แล้วตุลย์กินข้าวหรือยัง กินด้วยกันก่อนสิ”

“ตุลย์นัดไอ้ต้องกับไอ้สนไว้ที่ร้านวินนิ่ง  เดี๋ยวค่อยไปกินกับมันสองคนก็ได้”

“หรอ งั้นตุลย์ไปเถอะเพื่อนจะรอ”

“แพร อ๊อฟ มึงสองคนช่วยดูแฟนกูด้วย อย่าให้ใครเข้าใกล้ เข้าใจป่ะ” บอกอ๊อฟกับแพรแต่หน้าหันไปทางปิง นิสัยเด็กๆกำเริบแก้ไม่หายสักที แสดงความเป็นเจ้าของเสร็จก็ปั่นจักรยานออกไป

“ปิงอย่าถือตุลย์เลยนะ”

“เราไม่คิดมากหรอก” เราก็นั่งกินข้าวเที่ยงกันจนอิ่ม  แล้วก็เริ่มงานกันในช่วงบ่าย เพื่อนที่มาดูงานที่คณะจะอยู่อีก2วันเหลืออีกหลายส่วนที่เราต้องแนะนำและพาไปดูสถานที่จริง เหลือพืชสวน พืชไร่  ปฐพี เกษตรเคมี ซึ่งต้องใช้เวลา 



“ทูที่บ้านทำสวนหรอ ถึงเรียนเกษตร” ปิงถามผมตอนที่เรามาหยุดที่แปลงเกษตรอินทรีย์

“ใช่ บ้านเราทำสวนกล้วยไม้”

“จิงป่ะเนี่ย พอดีเลยบ้านเราอยากได้ กล้วยไม้ไปประดับที่ร้านอาหาร ขอไลน์หน่อยได้มั้ย เอาไว้คุยกัน” ปิงทำท่ายื่นโทรศัพท์มาให้ผม

“ คือ..”

“เราไม่จีบหรอกหน่า คุยเรื่องงานจริงๆ”

“ป่าว ทูไม่ได้หมายความแบบนั้น เอาไอดีปิงมา เดี๋ยวเราแอ๊ดเอง” แล้วผมก็แอ๊ดไลน์เป็นเพื่อนกับปิง




          ถ้าตุลย์มีสาวเข้าหาบ่อยเข้ามาแบบไม่ขาดสาย  ผมก็ไม่ต่างจากตุลย์มากนักหรอกครับ  เข้ามาไม่หยุดเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่  คนที่เข้ามาเป็นผู้ชายส่วนใหญ่  ไม่รู้ว่าผมมีอะไรพิเศษที่สามารถดึงดูดเพศเดียวกันได้ขนาดนี้  ถ้าเข้ามาแบบเพื่อนผมคุยได้  แต่ถ้าเข้ามาในฐานะอื่นผมจะไม่คุย  เพราะผมค่อนข้างจะให้เกียรติตุลย์ทั้งต่อหน้าและลับหลัง  หวังว่าเพื่อนใหม่ที่ชื่อปิงก็จะเข้าในฐานะเพื่อนอย่างที่บอกไว้  เราอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้และที่บ้านผมก็ได้ลูกค้าเพิ่มด้วย  งานของคณะจบลงช่วงเย็น  ทุกคนนั่งพักและสรุปงานเป็นกลุ่ม  ผมกับเพื่อนนั่งพิมพ์รายงานที่ใต้ตึก


ครืดดดดดดด….ครืดดดด… ครืดดด..ครืด


"ฮัลโหล"

“ทูเลิกเรียนรึยัง ชะ ชะ ช่วยสองด้วย” น้องชายผมเสียงสั่น

“สอง เป็น อะไร”

“น้องข้าวปุ้นทิ้งสองแล้ว กลับมากินเหล้าเป็นเพื่อนหน่อย เร็วๆนะรออยู่บ้าน”

“หึ หึ หึ”

“ไม่ขำด้วยนะทู สองโดนทิ้งครั้งแรกในชีวิต เร็วๆเลย”


ผมโทรหาตุลย์ให้ออกมารอที่รถจะได้กลับบ้านพร้อมกัน และให้ตุลย์โทรตามเพื่อนๆมาเป็นกองหนุนช่วยกินเหล้ากับสองแทนผมส่วนเพื่อนที่มา  ก็มาเพื่อซ้ำเติม สมน้ำหน้า มากัด มาด่า สองเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมานั้นแหละครับ วันนี้เราปูเสื่อตั้งวงที่สวนหน้าบ้าน เพื่อนก็รอให้สองเมา จะได้ช่วยกันปลอบสองผู้ที่กำลังเสียใจเพราะโดนสาวทิ้ง


“พวกมึงคิดดูนะ น้องข้าวปุ้นบอกว่า เข้ากันไม่ได้!! เข้าได้ กูเข้าหลายครั้งแล้ว แม่งโคตรเสียใจ” สองยกแก้วไปฟูมฟายไป

“ความเหี้ยของมึงอีกล่ะซิ” นัดแรกจากภีม

“แค่กูคุยกับคนอื่น แค่ เนี๊ยะ บอกเลิกกู ชนกับกูหน่อย ชน ชน”  สองชนแก้วรอบวง

“มึง เอาไม่เลือกไง ไอ้สัส” นัดสองจากตุลย์

“แค่คุย ยังไม่ได้เอา”

“ปล่อยน้องเค้าไปเจอสิ่งที่ดีกว่าเถอะเหี้ย อยู่กับมึงก็ไม่มีอนาคต” นัดสามจากสน

"กูแย่ขนาดนั้นเลยหรอว่ะ"

"ใช่มึงเหี้ยมากกกกกกกกก" นัดสี่จากต้อง

“นี่พวกมึงมาด่ากูใช่ม๊ายยยย"

“ป่าว พวกกูมาปลอบใจล้วนๆ ด่าตรงไหน”



เพื่อนๆปลอบใจสองเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน  วันนี้ปลอบไม่ดึกเท่าไหร่เพราะสองเมาแต่หัวค่ำ  ผมกับตุลย์ได้แต่นั่งฟังเรื่องเพ้อเจ้อของสองต่ออีกนิดหน่อย  แล้วก็ช่วยกันหามร่างสองขึ้นบ้านไปนอน  น้องชายผมก็มีแค่สองเรื่องนี้แหละครับ ไม่ชกต่อยก็เรื่องผู้หญิง  แต่พรุ่งนี้เดี๋ยวสองก็ลืม  เพื่อนทุกคนเลยไม่ได้ใส่ใจกับการอกหักของสองเท่าไหร่  รอแค่วันที่จะพากันมาทับถมก็เท่านั้น

 ผมกับตุลย์ส่งสองเสร็จก็กลับห้องตัวเองมาพักผ่อน  คนแขนหักเดินวนรอบห้องไปมา  ผมนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะทำงาน  ไม่รู้จะมามุขไหน



“ปลาทูเหนื่อยมั้ย วันนี้”

“เหงื่อย”

“ตุลย์นวดให้นะ” ตุลย์เริ่มบีบที่ไหล่ผม

“อืม”

“นวดแล้ว นาบได้ป่ะ” กำลังขออีกแล้วสินะ

“อืม” ท่าทางดีใจมาก

“อย่าหักแขนตุลย์อีกข้างนะ”

“อืม”

“บนโต๊ะเลยได้มั้ย”

“อืม”


ตุลย์ใช้ปากปิดปากผมทันใด ผมนอนราบไปกับโต๊ะ ไฟที่โต๊ะทำงานมืดลง ร่างกายผมโค้งงอตามอารมณ์ของตุลย์อีกครั้ง  กี่น้ำไม่ได้นับ  เพราะครั้งนี้ตุลย์ไม่ต้องมาคอยบอกผมว่าต้องทำท่าไหนบ้าง  ผมตั้งรับการจู่โจมของตุลย์ได้ทุกท่า บางครั้งการดูคลิปที่ตุลย์ส่งให้ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะเนี่ย  ส่วนตุลย์คงลืมตัวว่าแขนหักอยู่  ใส่มาแบบไม่ยั้งเลย ผมเริ่มชินกับความเจ็บปวดที่แสนสุดวิเษศนี่  และที่ผมบอกว่า 3เดือนครั้งนั้นผมแค่พูดเล่น  ถ้าเป็นแบบนั้นจริง  ตายแน่ๆ ผมหมายถึงผมนะที่ตาย  เพราะตอนนี้ผมคงขาดตุลย์ไม่ได้




















............................^......^...................................


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2016 07:17:59 โดย 19919 »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
"3เดือนครั้งนั้นผมแค่พูดเล่น 
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง  ตายแน่ๆ
ผมหมายถึงผมนะที่ตาย 
เพราะตอนนี้ผมคงขาดตุลย์ไม่ได้"
อยากให้ปิง พูดกับทู ออกมาจริงๆ เรื่องไม่จีบนะ
นึกมโน เป็น ปิง สอง หรือ สอง ปิง  :L2: :L2: :L2:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ขอให้ปิงคิดกับทูแค่เพื่อนแล้วกันนะ

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ชอบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
"3เดือนครั้งนั้นผมแค่พูดเล่น 
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง  ตายแน่ๆ
ผมหมายถึงผมนะที่ตาย 
เพราะตอนนี้ผมคงขาดตุลย์ไม่ได้"
อยากให้ปิง พูดกับทู ออกมาจริงๆ เรื่องไม่จีบนะ
นึกมโน เป็น ปิง สอง หรือ สอง ปิง  :L2: :L2: :L2:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ปลาทูนางรักตุลย์จะตาย แต่ติดที่เป็นคนพูดน้อย

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: ~หนึ่งตุลา~ ตอนที่12
«ตอบ #53 เมื่อ27-10-2016 01:03:53 »

ตอนที่12




“เช้าแล้วครับ”


         ผมปลุกด้วยมอร์นิ่งคิส เราสองคนนอนขดหันหน้าเข้าหากันเหมือนปลาทูในเข่งสองตัว และยังเปลือยเปล่าทั้งคู่ ผ้าห่มสีขาวคลุมตัวเพียงผืนเดียว  หัวก็หนุนหมอนใบเดียวกัน  ดูเหมือนว่าคนที่หลับอยู่ยังไม่อยากตื่นมากนัก  นอนเขยิบเข้ามาใกล้เอาหัวซุกไซ้กับซอกรักแร้  ว่าแต่ผมเป็นเด็กแล้วตัวเองไม่เหมือนเลยสินะครับคุณปลาทู  เวลานอนก็ต้องให้กอด  ขาดแต่ตบตูดให้ก็เท่านั้นเอง 


         ผมคงจัดหนักไปหน่อยถึงทำให้หมดเรี่ยวแรงขนาดนี้  ขาโต๊ะแทบหักบอกเลย ครั้งหน้าที่ไหนดีล่ะ พื้นห้อง ในตู้เสื้อผ้า ข้างหน้าต่าง  หรือเปิดประตูโชว์ ไอ้สองเลยดีมั้ย มันจะได้ไม่ต้องมาแอบฟัง  แค่คิดเฉยๆใครจะกล้า ฮ่าๆๆ  ก็อาหารเหนืออร่อยจะกินแค่ครั้งเดียวไม่ได้  ผมถึงมีวิธีกินที่ต่างกันออกไป เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติอาหารให้ดีขึ้น



ปั้ง  ปั้ง  ปั้ง   แกร๊กกก


“ถ้ามึงจะเปิดเข้ามาแบบนี้ ไม่ต้องเคาะก็ได้สัส” ไอ้สองเปิดประตูพรวดเข้ามา

“ทำไมมึงไม่ล็อกว่ะ ทูล่ะ”

“ชู๊วววววว อย่าแหกปาก พี่มึงยังไม่ตื่น มีไร” ผมโผล่หัวออกจากผ้าห่มมาตอบไอ้สอง

“กูจะบอกว่าวันนี้กูไม่มีเรียน กูจะพาพวกพี่กัสไปเที่ยวช้างคลาน ไม่ต้องตาม”

“เออๆ เดี๋ยวกูบอกให้ ออกไปก่อน กูอาบจะน้ำ”



         ปึ๊กกกกก ประตูปิดกระแทกเสียงดัง แต่ทูยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น เข็มนาฬิกาใกล้จะถึงเลข8  ผมลุกขึ้นอาบน้ำก่อน  แล้วก็มาปลุกอีกครั้ง  ปลาทูเอามือขยี้หัวคิ้วและค่อยๆลืมตาขึ้นทีล่ะข้าง งัวเงีย ใช้มือเกาหัวจนผมยุ่งเหยิง บิดขี้เกียจซ้ายขวา  ก้าวขาลงจากเตียง ก่อนที่ทูจะเดินผ่านตัวผมไป ทูจับแขนซ้ายของผมยกขึ้นจูบที่เฝือกแล้วพูดว่า



“หายเร็วๆนะ อยากโดนอุ้มบ้าง”



          แล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปแบบอายๆ ผู้ชายอะไรเขินได้น่ารักจัง อาบน้ำเสร็จเราก็ลงมานั่งกินข้าวต้มกุ้งที่แม่เตรียมไว้ ผมนั่งกินข้าวต้มยังไม่ถึงครึ่งชาม เสียง ไลน์ ก็ดังขึ้น ผมมองดูที่โทรศัพท์ของตัวเองแต่ก็ไม่ใช่ ผมเหลือบตามองไปที่ทู  ก็เห็นกำลังตอบไลน์ แล้วนั่งยิ้มกับโทรศัพท์  ใครไลน์มาแต่เช้าว่ะ  ขอดูซ่ะดีไหม  ไม่ได้เดี๋ยวทูหาว่าก้าวก่าย  ข่มไว้ในใจก่อนคงเป็นเพื่อนที่คณะนั้นแหละ ไม่ต้องคิดมาก เอ๊ะ!! แต่ปกติ ไอ้อ๊อฟกับแพรจะโทรหานะ ไม่เคยไลน์ แต่เอาเถอะ ข่มเอาไว้

ทูขับรถออกจากบ้านได้ไม่นานเสียงมันก็ดังขึ้นอีกครั้ง   ไลน์…

“ตุลย์ดูให้หน่อยไลน์ใคร” มันเป็นใครถึงจะต้องอ่านเร็วขนาดนี้ ธุระด่วน มากสินะ

“ครับ” ผมเปิด ดูก็เห็นข้อความก่อนหน้าที่ส่งมา


Ping: morning
Two: morning
Ping: ถึงรึยัง?


พี ไอ เอ็น จี  พิง ผิง ปริ้ง ปิง  อ๋อ!!!!! ไอ้ปิงหนุ่ม มช หน้าหวานคนเมื่อวาน  ภาพมันลอยแว๊บเข้าในในหัวชัดเจนมาก ไหนบอกเพื่อนไงแลกไลน์กันด้วย เอาไงดีว่ะ ต่อมหึงทำงาน ถามเลยดีกว่า



“ปิง ถามว่า ถึงรึยัง จะให้ตุลย์ตอบให้ป่าว” ถามเล่นๆลองใจ  จะแคร์ความรู้สึกผมหรือจะตอบไลน์ไอ้ปิง

“ตอบให้หน่อย ใกล้แล้ว” เชี่ยล่ะมันตอบไอ้ปิง  ผมตอบไลน์ตามที่ทูบอก มือก็สั่นใจก็สั่น ขนาดแสดงตัวว่าเป็นแฟนมันยังกล้าไลน์หา เจออีกจะจูบปากโชว์แม่งให้รู้แล้วรู้รอดไป

“งั้น  ทูไม่ต้องไปส่งตุลย์ที่ตึกก็ได้นะ ท่าทางเพื่อนจะรอ” ผมหยั่งเชิงดูอีกรอบ

“งั้นทูไปนะ ทูรีบด้วยเพื่อนรอเอกสารอยู่ ตอนเที่ยงไม่ต้องส่งข้าวนะ นัดเพื่อนไปกินที่กาดหน้า มอ แล้ว”



          มันไม่มาส่งผมจริงด้วยครับทางผ่านแท้ๆ  งานอะไรจะเร่งรีบ ขนาดนั้น ตอนอยู่บนเตียงยังหวานกับผมอยู่ ตอนนี้จืดกว่าน้ำเปล่าซ่ะอีก ผมเดินคอตกไปที่ร้านนมชมพู ไอ้ภีม ไอ้สน ไอ้ต้อง อิง อยู่ครบ ผมนั่งลงข้างไอ้ภีม คว้าแก้วกาแฟมามาดูด ในหัวมีแต่ พี ไอ เอ็น จี มันให้ไลน์กันเพื่ออะไร ทีกับผมนะ  น้อยมากที่จะคุยกันทางไลน์  แล้วไอ้เหี้ยปิงมันวิเศษมาจากไหน




“หน้ามุ่ยมาเชียวตุลย์ เป็นอะไรป่าว” อิงถาม

“หน้าแบบนี้ เมียไม่ให้เอาชัว” ไอ้ภีมพูดแล้วดึงแก้วกาแฟมันกลับ

“สัส ไม่ใช่เรื่องนั้น”

“ชีวิตมึง  กูก็เห็นเครียดเรื่องนี้เรื่องเดี๋ยวนี่หว่า”

“ทะ..ทะ.. ทู  มันนอกใจกู” ทุกคนหน้านิ่ง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“ฮ่าๆๆๆๆ ทูเนี่ยนะนอกใจมึง ไม่มีทาง”



         ผมเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟัง  พวกมันก็หาว่าผม คิดมาก คิดไปเอง เพ้อเจ้อ ไม่มีทางที่ทูจะนอกใจผมเด็ดขาด ผมเลยรวบรวมกำลังใจให้ตัวเองก่อนขั้นแรก แค่คุยไลน์ก็คุยแบบเพื่อนก็ได้เนาะ ผมคงคิดเลยเถิดไปไกลต้องเรียกสติกลับเข้าตัว เอาจริงๆวันนี้ผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย  วิชาอะไรก็ไม่รู้ ตัวเลขเยอะแยะไม่เข้าหัว 


        ตกช่วงบ่ายแก่ๆผมเลยชวนไอ้ภีมไปดูที่กาดเหลืองหน้า มอ ว่าทูไปกับใคร  ไอ้ภีมก็หาว่าผมไร้สาระ แต่ก็ขัดผมไม่ได้มันเลยจำใจมาเป็นเพื่อนผม  วันนี้กาดเหลือง คนเยอะมาก สายตาสอดส่องหาเป้าหมาย  แล้วก็เห็นนิสิตกลุ่มใหญ่ที่ไม่ใช่มหาลัยผมแน่ๆ เดินเลือกซื้อของกันอยู่  นี่มาดูงานหรือมาเที่ยวว่ะ ไอ้อ๊อฟอยู่นี่ แพรอยู่นั้น แล้วพ่อพธูของผมอยู่ไหน  ใจผมเริ่มเต้นแรง ไม่อยากเห็นภาพที่ตัวเองมโนไว้  ผมรีบเดินแหวกฝูงชนที่เบียดเสียดกันแน่นกาด จนมาเห็นมันสองคนยืนคุยกันที่ร้านขายผักของแม่อุ้ยคนนึ่ง  หัวเราะเสียงดังสนิทกันเร็วจริงๆ พอหนุ่มเกษตรเนื้อหอม


       ผมแอบดูอยู่ห่างๆอย่าง หึงๆ ไอ้ภีมถือขนมเต็มมือมายืนข้างๆ กูไม่ได้ชวนมึงมาแดกขนมที่กาดเฉยๆนะไอ้ภีม  ที่ชวนมาก็เพราะให้มาสังเกตพฤติกรรมความเสี่ยงการนอกใจของเมียกู  พึ่งพาไม่ได้เลย 


“มึงดูดิภีม มันอ้อล้อจังว่ะ”

“อ้อล้อ ตรงไหน กูก็เห็นปกติ มึงไม่เชื่อใจมันหรอ”

“กูเชื่อใจมันนะ  แต่กูไม่เชื่อใจไอ้เหี้ยนั้น”

“ไอ้สัส มึงคิดว่าทูมันชอบคนอื่นง่ายๆหรอว่ะ คิด ซิ คิด ด่าแต่ไอ้สองโง่ มึงแหละโคตรโง่ คิดเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ได้ ไปๆกลับคณะ”



        ไอ้ภีมลากแขนผมกลับ ให้นั่งสงบสติอารมณ์ก่อน  เดี๋ยวผมก็ต้องเจอทูอยู่ดี  ถ้าผมยังข่มอารมณ์หวงของผมไม่ได้ อาจจะทะเลาะกับทูแน่   ไอ้ภีมห้ามไม่ให้ผมถามถึงเรื่องไอ้ปิง ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น  นั่งเงียบๆ ถ้าจะคุยก็คุยเรื่องอื่นไป  ไม่ต้องเอ่ยถึงบุคคลที่3แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น  นั้นคือสิ่งที่ไอ้ภีมเตือนก่อนที่ผมจะกลับบ้านด้วยกัน  ภีมพูดก็มีเหตุผล ผมสัญญาจะไม่เซ้าซี้  ผมก็งงตัวเองแค่คุยไลน์กัน ทำไมผมต้องหึงอะไรเบอร์นั้น


         ประมาณ5โมงกว่า ทูก็มาหาผมที่ใต้ตึก บอกแค่ว่าวันนี้ตากแดดทั้งวัน  งานยุ่งๆต้องช่วยเพื่อนทำรายงานส่งอีก “แล้วมึงเอาเวลาไหนไปเดินกาดว่ะทู”  ประโยคคำถามในใจ  ผมนั่งฟังมาตลอดทาง ยิ้มแหย่ๆ ทำเป็นสนใจเรื่องที่ทูเล่า  เอาเป็นว่าผมแกล้งยิ้ม เพราะกลัวจะเป็นอย่างคำเตือนของไอ้ภีม


ไลน์!!!! ดังอีกแล้ว

Ping: เจอกันพรุ่งนี้


ทูไม่ได้ให้ผมเปิดอ่านเหมือนตอนเช้าแต่ก็เห็นที่ข้อความมันเด้งมาอยู่ดี
....
....
....
....
....
....
....


2story



          วันนี้ผมรับอาสาเป็นไกด์พาพวกพี่กัสเที่ยวในเมือง  เราขึ้นดอยสุเทพตอนเช้า  ต่อด้วยดูหมีแพนด้า กินข้าวท่าแพร แล้วก็ตามด้วยถนนช้างคลาน  เพราะพี่ชินแกอยากปลดปล่อยเลยขอให้ผมพาที่นี่  ผม พี่กัส พี่เชน เลยเดินเล่นรอพี่ชินนวดประมาณ 2ชั่วโมงก็น่าจะสบายตัว  พี่เชนเดินถ่ายรูปทุกซอย ถามว่าเอาไปทำอะไรก็ไม่บอก  ผมเลยต้องเป็นนายแบบรับเชิญให้พี่เชน


         ขณะที่ผมเก๊กท่าถ่ายแบบให้พี่เชนอยู่นั้น  ผมก็เห็นโจทย์เก่า ของผมเข้าพอดี เธอไม่ใช่ใครอื่น  เธอคือน้องข้าวปุ้น ผู้ที่ทำผมช้ำเลือดช้ำหนอง  ผู้ที่ถักเปียทรงเดียวกับพจมานในชุดนักเรียนกระโปรงสีน้ำเงิน  ผู้ที่เพิ่งเดินออกมาจากโรงเรียนสอนพิเศษ  ผมเห็นน้องยกมือไหว้ผู้ชายคนหนึ่งรุ่นราวคราวเดียวกันกับผม  คงเป็นแฟนใหม่แน่เลย  แผลยังสดๆ เห็นต่อหน้าต่อตาแบบนี้มันก็มีเสียใจกันบ้างแหละครับ  ผมรีบหันหน้าหนีเพราะไม่อยากเห็นภาพสวิทหวานกับของที่เคยเป็นของผมมาก่อน  ผมเก๊กท่าถ่ายรูปให้พี่เชนต่อ  แล้วก็มือหนามาแตะที่ไหล่ผม



“ทู มาด้วยหรอ ปิงนึกว่ากลับบ้านซ่ะอีก” ผมหันหลังกลับอีกครั้ง มองหน้าไอ้หมอนี่ มึงแย่งแฟนกู แล้วมึงยังรู้จักพี่กูด้วย

“มันไม่ใช้ไอ้ ทะ ทุ” ผมขยิบตา ห้ามไม่ให้พี่เชนพูด

“อ๋อกูมาเดินเล่น แล้วนี่มาทำอะไร มารับแฟนหรอ” ผมแกล้งถาม

“ปิงมารับน้องสาว น้องปิงเรียนพิเศษที่นี่” มันชี้ไปที่โรงเรียนพิเศษ กับน้องของมันที่ยืนห่างออกไปตรงโน้น

“อ่าวหรอ เค งั้นกูไปล่ะ พี่เค้ารอ”

“เดี๋ยว ปิงไลน์หา เรื่องงานวันนี้นะ”

“เออได้ ไปล่ะ”



        น้องสาวมึงทำกูเลือดออกซิบๆ ทิ้งกูแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย  มึงยังมาหน้าชื่นตาบานได้อีก  กูนี่คนหน้าชื่นอกตรมต้องเสแสร้งทำเป็นไม่เสียใจ  ไม่เสียดาย  แต่จริงกูเสียใจมาก เว้ย!! บอกไว้ก่อน  เดี๋ยวมึงเจอกูไอ้ปิง ก่อนจะพากลับวันนี้เราก็มานั่งชิลๆที่ร้านเหล้าข้างประตูท่าแพร  นั่งดูฝรั่งเดินไปเดินมาเพลินตาดี แต่ทำไมในหัวผมถึงมีแต่หน้าน้องข้าวปุ้นลอยเต็มไปหมดเลย แต่ชั่งเถอะอีกไม่นานผมคงหาคนมารักษาแผลจากเด็กผมเปียได้


        พวกพี่กัสมาส่งผมที่บ้านตอนเที่ยงคืน ผมวิ่งเข้าห้องพี่ชายเป็นอันดับแรก ก่อนที่มันจะล็อกห้องทำอย่างอื่นกัน  ผมเปิดประตูเข้ามาเห็นไอ้ตุลย์หน้างอเป็นส้นตีนหมา  คงงอนพี่ผมตามเคยนั้นแหละแต่ชั่งหัวมัน  เดี๋ยวมันก็ง้อกันเอง พี่ชายผมนั่งอ่านหนังสือที่เดิมเหมือนทุกวัน



“ทู  สองขอยืมโทรศัพท์หน่อยดิ”

“เอาสิ”



        พี่ชายผมยื่นโทรศัพท์ให้ผม  แล้วก็ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ผมค่อยๆปิดประตูแล้วเดินย่องกลับห้องตัวเองอย่างเบาฝีเท้า  เพราะกลัวแม่ได้ยิน  เดี๋ยวจะโดนสวดก่อนนอน 

          พอได้โทรศัพท์ทูมาแล้วกดเข้าไปที่ไลน์เพื่อหาแชตของไอ้ปิง  แต่หาไม่ยากเพราะพี่ชายผมคุยไลน์ด้วยแค่ไม่กี่คน  มีแม่  มีผม ไอ้ตุลย์ แล้วก็เพื่อนสนิทในกลุ่ม  แต่แปลกตรงที่มีไอ้ปิงเพิ่มมา  คงเป็นเรื่องสำคัญมาก  พี่ชายผมถึงแอ๊ดไลน์ด้วย  ทั้งๆที่ทูไม่ค่อยให้ไลน์ใครง่ายๆ  เพราะทูบอกโทรหาง่ายกว่าที่จะมานั่งพิมพ์เสียเวลา  ผมเปิดมาที่ข้อความสุดท้ายที่พี่ผมกับไอ้ปิงคุยกันค้างไว้


Ping: เจอกันพรุ่งนี้


      นั้นไงไอ้นี่มันต้องคิดเกินเลยมากกว่าคำว่าเพื่อนกับพี่ผมแน่ๆ  เอางานเข้ามาอ้างลูกไม้ตื้นๆ เดี๋ยว พชร เป็น พธู ให้ น้องมึงหักอกกู  พธูจะหักอกปิงบ้างล่ะนะ  แล้วผมก็พิมพ์ไลน์กลับไปหาไอ้ปิง



Two: จะถามเรื่อง งานอะไรครับ
Ping: ทูถึงบ้านแล้วหรอ?
Two: ทูถึงแล้ว ปิงทำอะไรอยู่ ทำไมยังไม่นอน
Ping: อ๋อนั่งสรุปงานนิดหน่อย กำลังจะนอนแล้วล่ะ
Ping: (รูปกล้วยไม้รองเท้านารี) ที่สวนทูมีป่าว
Two: มีสิเดี๋ยวส่งให้  พรุ่งนี้จะถ่ายจากสวนให้เลย ฝันดีนะปิง


ผมพูดทิ้งท้ายไว้แบบนั้น แล้วก็รีบลบบทสนทนากับไอ้ปิงออกให้หมด แล้วเอาโทรศัพท์ไปคืนพี่ชายที่ห้องนอน
...
...
...
...
...



เช้านี้ตุลย์ยังนั่งหน้าตึงใส่ผมเหมือนเดิม ไม่รู้ไปกินรังแตนมาจากไหนอีก ผมถามคำก็ตอบคำแสดงอาการไม่พอใจให้เห็นได้ชัดเจน  ผมเองก็ไม่รู้ตัวว่าไปทำอะไรให้  ถึงงอนข้ามวันข้ามคืนแบบนี้  ส่วนสองวันนี้ก็มาแปลกตื่นเช้า เข้าสวนช่วยแม่ตัดดอกไม้อีกต่างหาก รายนั้นก็ผีเข้าผีออกตามไม่ทัน  วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่นิสิต มช จะอยู่ที่คณะและผมต้องช่วยปิงสรุปงานที่จะไป พรีเซ้น  ปิงนิสัยดีคนหนึ่งเข้ากับผมได้คุยกันถูกคอ ที่บ้านปิงทำร้านอาหารมีพ่อกับแม่เป็นคนดูร้าน แต่ปิงอยากทำสวนผักปลอดสารเลยสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ  เพราะปิงเล่าว่ากระแสรักสุขภาพกำลังบูม  ถ้าปิงทำได้ด้วยตัวเองก็จะดี  ที่ร้านจะได้ใช้ผักจากสวนนี้ด้วย คุยกับปิงแล้วผมได้อะไรเยอะมาก  ผมชวนปิงมาดูสวนที่บ้านเผื่อว่า จะพอเป็นไอเดียให้สวนปิงไม่มากก็น้อยเอาไปเป็นแนวทาง  ผมแวะส่งตุลย์ที่คณะเสร็จก็รีบตรงมาที่ตึกเลย  เพราะดูท่าว่าตุลย์ยังไม่ดีขึ้น กลับบ้านค่อยเคลียร์ 



“หวัดดีทุกคน งานถึงไหนล่ะนะ” ผมทักทายเพื่อนๆ

“ทู ไหนบอกจะส่งรูปรองเท้านารี ให้เราไง” เสียงปิงแทรกขึ้นมา เอ๊ะ!!นี่ผมบอกปิงตั้งแต่เมื่อไหร่

“โทษที ปิง เราลืม เดี๋ยวส่งให้ตอนนี้เลยเรามีรูปในโทรศัพท์อยู่” แล้วผมก็กดส่งรูปรงเท้านารีให้ปิง 



         งานของคณะเสร็จประมาณเที่ยง  เรากล่าวคำลากับเพื่อนๆที่มาดูงานด้วยความอบอุ่นเป็นพี่เป็นน้อง  หวังว่าครั้งต่อๆไปเราจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกันอีก  การมาดูงานครั้งนี้ทำให้ผมได้เพื่อนอย่างปิงเพิ่ม  เพราะนอกจากอ๊อฟกับแพรแล้วผมก็คุยเรื่อง ดอกไม้ ใบหญ้า พืช ผัก กับคนอื่นไม่รู้เรื่อง


       เรื่องงานจบแต่เรื่องคนยังไม่จบ  นิสิต มช กลับหมดแล้วผมก็ปั่นจักรยานมาที่คณะวิท  เพื่อชดเชยสองวันที่ไม่ได้กินข้าวด้วย นี่เป็นสาเหตุที่งอนหรือป่าว ผมไม่ค่อยแน่ใจ พอ ตุลย์เห็นผมเดินมา  มียิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก  เรานั่งกินข้าวด้วยกันทั้งสี่คน ผมรวม ภีมกับอิงด้วย


 
ไลน์!!!
Ping: ขอบใจนะทู สวยทุกสีเลย
Two: ไม่เป็นไร ยินดี



        ตุลย์หุบยิ้มอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงไลน์ดัง  นี้ก็คงเป็นสาเหตุใหญ่ ที่ทำให้อาการหนักขนาดนี้  ผมเลยยื่นโทรศัพท์ให้ตุลย์ดู ว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ  ตุลย์ดูแล้วก็ส่งกลับให้ผม แบบไม่ไยดี  ก็เห็นหมดแล้วว่าไม่มีอะไร ยังจะค้อนใส่ผมอีก













...........................................................................................
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณสำหรับคอมเม้น ติดงาน2วันเต็มๆเลยไม่ได้ลง แอบลงที่ทำงานยากค่ะ5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2016 07:40:00 โดย 19919 »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ~หนึ่งตุลา~ ตอนที่12
«ตอบ #54 เมื่อ27-10-2016 05:06:36 »

ชอบบบบ
“หายเร็วๆนะ อยากโดนอุ้มบ้าง”  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
สองไม่เชื่อที่ปิงคุยกับทู
แล้วตุลย์ ฤทธิ์หึงบังหน้าอยู่แล้ว
จะเหลือเรอะ เลยออกอาการงอน
ทู ไม่รู้สอง งอนทู เรื่องไร 
คงต้องง้อตุลย์ แบบถึงใจไปเลย :ling1: :ling1: :ling1:
สอง จะวางกับดักปิง ขนาดไหนนะ
เดี๋ยวคนวาง ติดกับซะเอง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
สองกับปิงนี่จะลุ้นขึ้นมั้ย :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
งอนวันละนิดกระชับความสัมพันธ์

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
สองกับปิงนี่จะลุ้นขึ้นมั้ย :katai2-1:
ถูกคู่ คะ^^

ออฟไลน์ 19919

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่13 พระเอกกับชู้ฆ่ากันตาย นางเอกเป็นบ้าเสียสติ





“อันนี้ อร่อยมากลูก ลองชิมดู”

“ขอบคุณครับแม่  พวกผมจะฟาดให้หมดนี่เลยครับ”


         ผมเดินตามหาต้นตอของเสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากในครัว  ก็เห็นผู้ชายร่างใหญ่3คนนั่งกินข้าวประดุจว่าเป็นบ้านตัวเองก็ไม่ปาน  แม่ก็นั่งหัวเราะพรางจัดดอกไม้ใส่แจกันพราง  สงสัยพวกพี่แกจะนามสกุล เชิญยิ้ม ถึงทำให้แม่หัวเราะลั่นได้ขนาดนี้  กล้องวิดีโอตัวเดิมยังคงอัดอยู่  อัดวิดีโอแม่ด้วยหรอ  อัดเพื่ออะไร ส่วนแม่ก็ดูเต็มใจเล่าเรื่องให้พวกพี่แกฟังแบบไม่มีเม้ม  เอาแม้แต่อัลบั้มรูปตอนเด็กๆของปลาทูให้ดูเป็นกองๆ  วันหยุดผมยังต้องอยู่กับแก๊งหนังสั้นหรอเนี่ย


 
“หวัดดีพี่ ไม่มีงานทำกันหรอครับ”

“ก็มึงไง งานของพวกกู” พี่กัสสวนผม

“ผมเล่าหมดแล้วพี่ จะเหลือก็แต่เข้าไปอัดวิดีโอในห้องนอน  ตอนผมเอากันเท่านั้นล่ะมั้ง”

“อู้หยั๋งบ่ฮู้ น้องตุลย์  แม่เลาะสวนล่ะ” แม่ก็วางแจกันไว้ที่โต๊ะแล้วก็เดินหายเข้าไปในสวน

“มึงกับทูช่วยทำตอนจบของเรื่องให้พวกกูหน่อยสิ” พี่กัสนั่งเอามือประสานที่อกหน้าเครียด

“พี่ หมายถึงอะไร ตอนจบอะไร”

“ก็ตอนจบหนังไง ข้อนี้แหละที่พวกกูยังคิดไม่ออก กูไม่รู้จะจบแบบไหน”

“พี่ก็ให้ระเบิดลงที่บางกอกน้อยพระเอกตาย นางเอกกอดศพพระเอกร้องไห้ ก็จบแล้วนิพี่”

“สัส นั้นมันโกโบริ”

“แล้วทูไม่อยู่บ้านหรอ วันนี้กูยังไม่เจอหน้ามันเลย” พี่เชนถาม

“เห็นบอกว่า จะไปตัดผมกับไอ้สอง เดี๋ยวก็กลับ”



         รถกระบะสีดำคันโตก็วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ไอ้สองเปิดประตูลงมาจากฝั่งคนนั่ง พร้อมด้วยทรงผมทรงใหม่ เป็นรองทรงสูงหวีเป๋เรียบแปล้  คิดว่าเท่ห์หรอมึง  ตามด้วยปลาทูลงมาจากฝั่งคนขับ  รองทรงสูงหวีเป๋เรียบแปล้แบบเดียวกันเป๊ะเลย  จำเป็นต้องเหมือนกันขนาดนี้ไหมพี่น้องสองคนนี้  คนอื่นคงสับสนแย่ถ้าเห็นมันคนล่ะที่ 

         หากถามว่าผมหายเคืองเรื่องที่ปลาทูคุยไลน์กับไอ้ปิงแล้วหรือยัง ตอบเลย ยัง แต่ผมไม่เห็นไลน์ของไอ้ปิงเด้งมา2-3วันได้ เลยลดองศาความหึงลงนิดหน่อย  มันสองคนเดินเข้าบ้านมาพร้อมกัน ยกมือไหว้แก๊งหนังสั้นทุกคน  ที่ย้ายเข้ามานั่งที่ห้องรับแขกรอ  เพื่อให้ทูช่วยคิดหนังต่อ เผื่อว่ามันจะมีไอเดีย ดีๆ


“ทู ยืมโทสับหน่อย” ไอ้สองก็วิ่งขึ้นห้องมันไปพร้อมกับโทรศัพท์ของพี่มัน  พักนี้ไอ้สองมันใช่โทรศัพท์พี่มันบ่อย  พอถามมันก็บอกว่า เน็ตมันช้า ช้าแล้วทำไมไม่เปลี่ยนโปรซ่ะเลย จะได้เร็วขึ้น ชอบมายืมค่ำมืดดึกดื่น  มาไม่รู้เวลา ล็อกห้องแล้วแม่งก็เคาะจนกว่าจะเปิด  ปวดหัวกับมันจริงไอ้น้องเมียเหี้ย

 
        ทูเดินมานั่งที่โซฟาตัวเดียวกับผม  ยิ่งทำให้เห็นทรงผมที่ถูกเซ็ตมาอย่างชัดเจน  คนมันหน้าตาดีทำทรงไหนก็หล่อเนาะ ไม่ได้ยกยอปอปั้นคนกันเองนะครับ ยิ่งโตมันมันยิ่งน่ารัก ถ้าผู้ชายอย่างผมหลงรักมันได้คนอื่นก็หลงรักมันได้เหมือนกันว่าไหม การมีแฟนหล่อถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าจะให้ดีลดลงหน่อยก็ได้เพราะกูหวง  ทูนั่งลงแล้วเอาถุงอะไรบางอย่างซ่อนไว้ที่หลังดูลุกลี้ลุกลน  แล้วก็เอ่ยปากถามพี่กัสเพื่อกลบเกลื่อน  ดึงความสนใจของผมออกไม่ให้มองถุงนั้น



“วันนี้พี่กัสมีงานให้ทูช่วยไหมครับ”

“ช่วยคิดตอนจบ ให้กูหน่อย นี่พวกกูก็ให้ไอ้ตุลย์ช่วย แต่ไม่ได้เรื่องเลย”

“วันนี้น้องทูน่ารักจังครับ จะไปไหนหรอ” พี่ชินหยอดแฟนผม แต่ผมก็คิดแบบเดียวกับพี่ชินเลยครับ วันหยุดทำไมต้องทำตัวหล่อขนาดนี้ด้วย

“ไม่ได้ไปไหนครับ แค่เซ็ตผมเองนะพี่ชิน แล้วตอนจบอะไรครับ ทูไม่เข้าใจ” แค่เซ็ตผมเองหรอปลาทู  ถ้ามึงใส่สูตผูกเนคไทล่ะจะขนาดไหน หมั่นไส้ เอาความมั่นใจมาจากไอ้สองได้ด้วยหรอ

“ก็ตอนจบของหนังกูนี่ไง มึงว่าจบแบบไหนดี” พี่กัสถามอีกรอบ

“อ๋อ !! พี่ก็ให้เรือล่มกลางมหาสมุทรแอตแลนติก พระเอกตายนางเอกลอยคอ กลางทะเล ก็จบ”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมขำกร๊าก ทูเล่นใหญ่กว่าผมอีก
 
“เหี้ย มึงคิดว่ากูสร้างไททานิคได้เลยหร๋อ จบแบบไหนดีหว่า….” พี่กัสพึมพำกับตัวเอง

“ขอโทษครับพี่ ผมก็ไม่รู้ว่าพี่อยากให้มันจบแบบไหน ถ้าพี่ยังคิดไม่ออก ที่คณะเกษตรผมจัดประกวดไม้ประดับวันมะรืนนี้พวกพี่ไปถ่ายรูปเล่นฆ่าเวลาที่คณะผมก่อนก็ได้ครับ เผื่อจะคิดอะไรออกบ้าง”



        ทว่าตอนนี้ทูก็ยังคงนั่งรุกริกๆ พยายามเอาแผ่นหลังปิดถุงเล็กที่แอบซ่อนไว้ตั้งแต่เข้ามานั่ง  ทีแรกผมอยากรู้แค่ 0.001% แต่ตอนนี้มันเพิ่มมาเป็น 100% ไม่ถึงวินาที ผมอาศัยช่วงที่ทูเอนหลังออกจากที่พิงรีบฉกถุงนั้นออกทันที



“ตุลย์ อย่าเปิด ไม่เอาไม่เปิด ขอร้องนะ”



           ผมลุกขึ้นจากโซฟาเดินหนีมือที่กำลังเอื้อมมาคว้าแขนผมไว้ ทูทำตัวมีพิรุธจริงๆด้วย ปากก็ร้อง อย่าเปิด อย่าเปิด แล้วมันก็วิ่งไล่ผมจนอ้อมโต๊ะรับแขกที่มีพวกพี่กัสนั่งดูอยู่ ถุงกระดาษสีน้ำตาลมันมีอะไรอยู่ข้างในถึงหวงนักหนา  ผมเอามือล้วงลงไปในนั้น ลักษณะเป็นกระบอกทรงกลมยาว 4-5กระบอกเห็นจะได้  ทว่าผมกำลังจะหยิบของขึ้นมาดูนั้น  ทูก็ยื่นมือมาจับถุงกระดาษได้พอดี เราเลยเกิดการฉุดกระชากลากดึงถุงไปมา


คะ คะ คะ….แคว๊กกกกกกกแคว๊กกกกกกกกกก ถุงขาดเป็นทางยาว ของในถุงนั้นตกลงกับพื้น กลิ้งไปมา กระป๋องที่ผมบอกคือ เจลหล่อลื่น5กระป๋อง ตั้งแต่คบกันมาผมเป็นซื้อของพวกนี้ตลอด ซื้อมาแต่ก็ไม่เคยได้ใช้ต้องเอาทิ้งเพราะกลัวมันหมดอายุ ผมก็เพิ่งมาได้ใช่เมื่อไม่นานนี่เอง แต่ครั้งนี้ทูเป็นคนซื้อมา  อดดีใจไม่ได้จริงครับ มันตื้นตันใจมาก เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายก็ต้องการ แต่ทำไมต้องอาย ทูรีบเก็บกระป๋องนั้นยัดใส่ชิ้นชักที่หน้าทีวีแบบหน้าแดงๆ


“ไม่ต้องอายครับน้องทู พี่ซื้อมาเป็นโหล” พี่ชินช่วยแก้เขินให้

“นั้นสิ ไม่ต้องอายนะ พวกพี่เค้าเข้าใจ”


        แล้วผมก็ใช้มือดันแผ่นหลังของทูให้กลับมานั่งลงที่เดิม แต่คราวนี้ทูนั่งเงียบไปเลย อย่างมาก ก็ส่งเสียงออกมาแค่ “อืม” เท่านั้น เราคุยเรื่องสัพเพเหระไม่มีแก่นสารหรือสาระอะไร พยายามคิดตอนจบให้พวกพี่แก แต่ก็ยังคิดไม่ออก



“น้องทูเจ้า เปื้อนแอ่วหา” เสียงแม่ตระโกนมาจากหน้าบ้าน



         ใครมาว่ะ ถ้าเพื่อนในกลุ่มพวกมันก็ต้องเดินเข้ามาเหมือนบ้านตัวเองทุกคน ครั้งนี้แม่ร้องเรียกให้ทูออกไป อย่าบอกนะว่าเป็นที่คนคิดอยู่ตอนนี้ ผมเดินตามหลังทูออกมาหยุดที่ประตูหน้าบ้าน  ใครมากันแน่ ผมชะโงกออกไปดูก็เห็นไอ้ปิงยืนคุยกับแม่ เป็นคนเดียวกับที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด นี่มันกล้ามาหาถึงที่บ้านเลยหรอว่ะ ทูเดินเข้าไปหาไอ้ปิงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม อ๋อ!!!!ที่แต่งตัวหล่อนี่รอมันอยู่สินะ แล้วเจลที่ซื้อมาเยอะแยะจะใช้กับมันด้วยหรือป่าว มาถึงที่บ้านได้ ก็ต้องนัดกันไปเจอที่อื่นได้ ผมอาจคิดไปไกลหน่อย หน้ามืดไปหมดแล้วพอเห็นหน้าไอ้ปิง โกรธจนไฟลุกท่วมตัวแต่ทำอะไรไม่ได้ ผมกำหมัดแน่เดินกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้ง


“ใครมาว่ะมึง” พี่เชนถามผม

“เพื่อนไอ้ทู ผมคิดตอนจบให้พี่ได้ล่ะ พระเอกกับชู้ฆ่ากันตาย นางเอกเป็นบ้าเสียสติ”

“หนังกู  ไม่ใช่หนังอาฉลอง รันทดไปสัส”






        ปิงสวัสดีพูดคุยกับแม่ผม  ฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกค้าที่สวนอีกราย  เสร็จแล้วเราก็เดินเข้ามาที่เรือนเพาะชำ ปิงค่อยๆเดินดู  เดินเลือกกล้วยไม้ทีล่ะต้น  ได้สีที่ถูกใจก็ให้ผมหยิบให้ ตอนนี้ได้เกือบสิบต้น  และยังทยอยเลือกไม่หยุด ไม่รู้จะเอาใส่ไปหมดไหม เพราะรถปิงเป็นเก๋งคงใส่ได้ไม่เยอะ  ครั้งผมจะเรียกตุลย์ให้มาช่วยขนขึ้นรถให้ปิง  คงยากโอกาสเป็นศูนย์แบบไม่ต้องถาม  ส่วนน้องชายผมเองก็หายไปทำอะไรอยู่บนห้องเป็นครึ่งๆวันก็ไม่รู้


“แล้วปิงมาบ้านเราถูกได้ไง”

“ก็มาตามที่ทูแชร์โลเคชั่นไว้ไง”

“เราแชร์ไว้หรอ”

“ใช่”


       สงสัยลูกค้าเก่าแชร์โลเคชั่นไว้นั้นแหละครับ เดี๋ยวนี้จะหาอะไรก็ง่ายโซเชียลนี่มันดีจริงๆ สรุปแล้วปิงเลือกกล้วยไม้ได้ทั้งหมด25ต้น รถเก๋งใส่ไม่พอ ส่วนที่เหลือผมคงต้องตามไปส่งทีหลัง  ตุลย์ออกมายืนดูที่หน้าทางเดินมือกอดอก หน้าไม่เป็นมิตรเอาซ่ะเลย บูดบี้ไปหมด งานเข้าผมอีกแล้วใช่ไหม


“ตุลย์มาช่วยขนขึ้นรถหน่อย” ผมเรียกมาช่วยเพื่อจะให้งานมันเสร็จเร็วๆ

“ไม่ว่าง” ก็เห็นว่าว่างไม่ได้ทำอะไร ยังจะกวนอีก ตอบส่งๆแบบไม่สบอารมณ์

“ไม่เป็นไรทู เราขนเองได้ แต่เขาไม่ได้โกรธอะไรเราใช่มั้ย”

“อย่าใส่ใจเลย”


       ผมกับปิงช่วยกันขนกล้วยไม้วางที่เบาะหลังรถได้นิดหน่อย  ส่วนที่เหลือพวกนี้จะตามไปทีหลัง ผมเดินเข้าในบ้านเพื่อจะเอาน้ำออกไปให้ปิงดื่ม  ผมชวนปิงเข้าบ้านก็ไม่เข้า ขอนั่งรอที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านแทน  ผมเดินผ่านทุกคนที่ห้องรับแขกเข้าไปในครัว  มีแต่ความเงียบทุกคนมองตามผมเป็นสายตาเดียวกัน โดยเฉพาะตุลย์ งอนมากไปผมก็ไม่อยากคุยด้วย โตๆกันแล้วงานก็คืองาน  ไม่ได้ไปทำอะไรลับหูลับตาซ่ะหน่อย หลายๆครั้งผมเตือนเรื่องความหึงของตุลย์เพราะไม่อยากทะเลาะ  อยู่กันมาจนป่านนี้ยังจะหึงไม่เข้าท่า  นี่ก็จะครบ5ปีแล้วด้วย  ถ้ามีลูกก็คงเข้าอนุบาล1ได้แล้ว  ไม่เคยเก็บอารมณ์ได้สักทีใครเข้าใกล้ผมก็ ระรานคนอื่นไปทั่ว เหมือนตอนนี้นั่งชักสีหน้าใส่ผมไม่เลิก


“ไม่ชวนมันเข้ามานั่งในบ้านเลยล่ะ” แขวะหร๋อ

“ชวนแล้ว แต่ปิงไม่มา”

“สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆ” พี่ชินขำ



       ปิงนั่งพักดื่มน้ำจนหมดแก้ว แล้วก็เอานามบัตรร้านอาหารของแม่ปิงให้ผมเพื่อที่จะตามไปส่ง  พอเสียงรถปิงพ้นจากถนนหน้าบ้านไป สองก็วิ่งออกมาหาผมที่หน้าบ้านพร้อมคืนโทรศัพท์ สองช่วยผมขนดอกไม้ที่เหลือขึ้นหลังรถต่อ


“เดี๋ยวทูไปส่งกล้วยไม้ที่บ้านปิงนะ ฝากบอกตุลย์ด้วย”

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง สองไปส่งเอง ทูพักเถอะ เอาที่อยู่มา” ผีขยันตัวไหนเข้าร่างสองนะ

“งั้นช่วยแวะ ไปส่งทูที่บ้านภีมหน่อย ทูไม่อยากทะเลาะกับตุลย์ตอนนี้ รอตุลย์เย็นลงก่อนค่อยกลับ”

“ไอ้ตุลย์มันทำไมอีก”

“ก็โรคหวงนั้นแหละ”


สองขับรถออกจากบ้านหน้าอมยิ้มมาตลอดทาง จนถึงบ้านภีมปากก็ยังไม่หุบยิ้ม เหมือนคนอินเลิฟไม่ผิด ผมมาขออาศัยบ้านภีมเป็นที่หลบการปะทะกับตุลย์น่าจะเหมาะที่สุด  ภีมเดาหน้าผมได้ไม่ยาก ภีมตบบ่าผมเบาๆ ผมก็อดนึกถึงตอนที่ภีมกับอิงเชียร์ผมให้คบกับตุลย์ไม่ได้ ตอนนั้นภีมก็ปลอบผมแบบนี้เลย










...........................................................................................

...............................ตอนต่อไปเป็นของ2กับปิงค่ะ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2016 07:44:32 โดย 19919 »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด