ตอนที่ 14 หลังจากจบม่านการแสดงของดาวเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่างสูงพาหญิงสาวคู่การแสดงเดินกลับเข้าไปหลังเวที โดยไม่ทันได้รู้ตัวว่าเตชานุเดินตามเข้าไปด้วย สีหน้าคร่าตัวดูโกรธเกรี้ยวสุดเกินทน เพียงร่างบางเดินจนถึงจวนตัวอิทธิพล กลับทำสิ่งที่ไม่คาดคิดเกินขึ้น...
ผัวะ!!! เสียงหมัดของเตชานุซัดเข้าแก้มขาวข้างซ้ายของอิทธิพลทันที ทุกคนรอบข้างต่างพากันตกตะลึง ไม่ต่างอะไรจากคนถูกกระทำเวลานี้ เขากำลังทำตาโตตกใจ กับสิ่งที่เต้ยกระทำไม่น้อยเลย
“เต้ย! ต่อยกูทำไม กูทำอะไรผิด?” อิทธิพลร้องถามเสียงหงอย ใบหน้าไม่เข้าใจชัดเจน
“ยังมีหน้ามาถามอีกนะ? ประกาศออกสื่อไปแบบนั้น สนุกนักหรือไง!!!” เตชานุตวาดเสียงดังลั่น
ส่วนด้านหน้าเวทีตอนนี้ บริรักษ์ไม่มีทางรับรู้เรื่องนี้ เพราะเขากำลังแสดงความสามารถพิเศษคณะแพทยศาสตร์อยู่
“ที่กูพูดไป...กูจริงจังมากนะ”
ผัวะ!!! เต้ยทนฟังคำพูดยืนยันนั้นอีกครั้งจากเจ้าตัวไม่ได้ สิ่งที่เขากลัวที่สุด อิทธิพลกลับเอาไปประกาศต่อคนภายนอก คนนับจำนวนไม่ได้มากมายนั้น เขาไม่มีวันให้อภัยร่างสูงแน่
“อย่าเอาคำพูดทุเรศๆแบบนั้นมาเป็นข้ออ้าง ยิ่งมึงทำแบบนี้ กูยิ่งเกลียดมึง เกลียด กูเกลียดมึง ได้ยินมั้ย!!!”
ร่างบางแผดเสียงตะโกนใส่หน้าร่างสูงอย่างดัง ตอนนี้ตัวของเขากำลังโกรธจนตัวสั่นเทา ก่อนจะหันหลังวิ่งออกไปจากที่ตรงนี้ไปทันที ทิ้งไว้แต่เสียงเรียกรั้งของอิทธิพลเปรยตามมา
“เต้ย! กูขอโทษ เดี่ยวก่อน เต้ย!...” อิทธิพลร้อนรนใจ เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้เต้ยโกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟมากกว่าการทารุณร่างกายเสียอีก
“น้องอิท!!! จะไปไหนคะ ไปไม่ได้นะ ต้องอยู่จนจบงานก่อน” กระเทยพี่เลี้ยงเข้ามารั้งตัวไว้ทันหน้าตาตื่น
“พี่ครับ ผมจะกลับมาทันโชว์รวมตัวแน่ๆ ให้ผมตามไปอธิบายแฟนผมก่อนเถอะนะ”
“แฟนหรอฮ้า? ทำไมทะเลาะกันเหมือนไม่ใช่แฟนเลย” รุ่นพี่ทำสีหน้าไม่อยากเชื่อนัก
“ตอนนี้เป็นว่าที่...อยู่ครับ ผมสัญญานะพี่ ผมจะกลับมาทันแน่นอน พี่ไม่ต้องห่วง ให้ผมไปเถอะ”
“เออๆ ไปเถอะ รีบๆกลับมานะ เดี๋ยวเจ้จะได้ดูแผลที่ปากให้” เธอพูดราวกับเป็นห่วง
“ครับพี่”
บาดแผลที่ถูกชกตอนนี้ไม่จำเป็นและสำคัญเท่ากับเขาต้องตามร่างของเตชานุไปให้ทัน หมอนั่นในสายตาอิทตอนนี้ เขาเห็นเต้ยเป็นแฟนจริงๆ ไมได้คิดจะทำให้เสียใจจนโกรธตัวสั่นขนาดนั้นแม้แต่น้อย
...
...
...
ร่างสูงวิ่งตามออกมา เดาใจเอาว่าเต้ยต้องวิ่งผ่านมาทางนี้ ไม่นานเขาก็เหมือนจะเหลือบเห็นหลังของร่างบางอยู่ไม่ไกลแล้ว ถึงแม้ด้านนอกหอประชุมจะมืดมิดก็ตาม
เต้ยวิ่งมาหยุดอยู่ที่ริมสระบัวของคณะเกษตรศาสตร์ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหอประชุมเท่าไหร่นัก แต่ในสถานที่แบบนี้ เวลานี้ มันช่างเงียบเสียงเสียเหลือเกิน ผู้คนคงไปรวมกระจุกกันในหอประชุมกันหมดแล้ว
“ฮึก ฮึก ฮืออออ นายทำให้เราเสียใจอีกแล้ว นายผิดสัญญา...” เตชานุร่ำไห้กับสระบัวตรงหน้า ราวกับสถานที่นั้นเป็นเพื่อนเขาในเวลานี้ นึกไปถึงสิ่งที่เขียนบอกไว้ในหระดาษทีไร ยิ่งเจ็บใจทุกที คำพูดของอิทธิพลไม่น่าเชื่อถือเลยซักนิด
“มาอยู่นี่เอง” เสียงทุ้มเปรยเบาๆข้างหลังเต้ย
เตชานุสะดุ้งโหย่งกับการตามมาของคนที่เขาเกลียดและไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด ทำไมยิ่งหนีไปไกลมากเท่าไหร่กลับยิ่งไม่เป็นผลกับคนคนนี้เลย
“ไปให้พ้น กูเกลียดมึง เกลียดขี้หน้ามึงมาก ได้ยินมั้ย อิท ได้ยินมั้ย!!!”
หมับ พรึบ!!! ร่างสูงตวัดเข้าที่เอวบางนั้นก่อนจะดึงเข้ามากอดไว้แน่น ก่อนที่อีกฝ่ายจะไหวตัวหันมาเล่นงานเขาอีก บอกตามตรงเห็นหมัดของเต้ยเล็กๆแบบนั้น แต่พอได้ลิ้มลองแล้วเจ็บใช่น้อยซะทีไหนกัน
“ปล่อยยยยยยย ปล่อยเดี่ยวนี้อิท!”
“ชู้วววววว อย่าตะโกนเต้ย กูไม่ยอมให้มึง เป็นบ้าเหมือนคราวที่แล้วหรอกนะ ที่กูตามมาเพราะเป็นห่วง และอยากอธิบาย”
“ไม่ต้องมาเป็นห่วง ฮึก ฮึก กูไม่อยากได้ยินอะไรออกจากปากมึงอีกแล้ว คนผิดสัญญา”
“ใครจะไปรู้ว่าความรู้สึกที่แท้จริงจากปากกู จะทำให้มึงเป็นบ้าได้ขนาดนี้ ”
“ไม่จริงหรอก มึงแค่สร้างภาพ อัพเกรดคะแนนเสียงให้ตัวเองได้ตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยต่างหากอิท!”
“กูไม่...โถ่เอ้ยเต้ย ทำมึงคิดแบบนั้นวะ”
“เพราะกูรู้สันดานมึงไง! ”
“ไปกันใหญ่แล้ว ตำแหน่งอะไรนั่นกูไม่อยากได้ แต่ถ้าตำแหน่งเจ้าหัวใจมึง กูต้องการมาก ชัดเจนไหมเต้ย”
“กูไม่จำเป็นต้องตอบมึง ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”
“ปล่อยก็ได้ แต่มึงสัญญากูนะว่าจะไม่วิ่งหนีกูไป”
“มึงไม่มีสิทธิ์มาต่อรองอะไรกูทั้งนั้น ปล่อย!” เต้ยเปรยเสียงเย็น และแผ่วเบากว่าเดิม
อิทธิพลได้ยินคำสั่งที่ดูเหมือนต้องทำตามนั้น เขาจำเป็นต้องปล่อย แม้จะขัดใจเขามากนักก็ตาม ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายร่างบางคนที่เขาโอบกอดอยู่นี้ จะมีอิทธิพลต่อตัวเขามากมายเหลือเกินในปัจจุบัน
“ทำยังไงมึงถึงจะหายโกรธกู สิ่งที่กูพูดไป กูตั้งใจจะบอกอย่างนั้นจริงๆนะ”
ร่างสูงชวนคุย หลังจากปล่อยตัวเต้ยให้เป็นอิสระ และดูเหมือนเต้ยไม่คิดเดินหนีไปไหน แต่กำลังค่อยๆหย่อนตัวลงไปนั่งติดพื้นหญ้า มองดูสระบัวในเวลายามราตรี
เขาหย่อนตัวลงนั่งตามร่างบาง แต่เป็นท่านั่งชันเข่า ใบหน้าหันไปมองอีกฝ่ายตลอดเวลา
“ใจคอมึง ต้องการให้กูตายไปจากโลกใบนี้ก่อนใช่ไหม ถึงจะเลิกยุ่งกับกูซักที”
“อย่าพูดแบบนั้นนะเต้ย ชีวิตมึงมีค่าสำหรับกูมาก ” ร่างบางได้ยินประโยคนั้นกลับส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่หรอก มึงหลอกตัวเอง ว่ามึงชอบกูเพื่อชดใช้และรู้สึกผิดกับกู คนอย่างมึงไม่มีทางชอบกูได้หรอก”
“ทำไมมึงคิดแบบนั้นเต้ย กูยอมเปลี่ยนตัวเองทุกอย่างเพื่อมึงนะ แต่ดูมึงสิ มึงกลับไม่เปลี่ยนเลย”
“ใครว่าล่ะ กูเปลี่ยนไปก่อนมึงอีก กูเปลี่ยนไปตั้งแต่มึงทำอุบาท ใจต่ำทรามใส่กูตั้งแต่วันแรกในห้องน้ำของโรงเรียนโยธินฯแล้ว
ต่างหาก”
เตชานุพูดเสียงเบา เหมือนตอนนี้ความโกรธเขาลดลงไปแล้ว แต่กำลังนึกถึงภาพอดีตวันวานอยู่
“กูบอกมึงแล้วใช่ไหม เมื่อไหร่ที่มึงเจ็บกูก็เจ็บด้วย เจ็บตรงนี้เต้ย ที่ใจของกูนี่ ” อิทธิพลชี้ที่อกซ้าย
“กูทนฟังมึงพร่ำเพ้อบอกรักมามากพอแล้ว ต่อไปนี้มึงไม่ต้องเจียดตัวมาใกล้กูจะดีที่สุด กูจะมีความสุขมากอิท หากมึงไม่คิดทำตามคำพูดกู ก็เห็นแก่สิ่งที่มึงบรรจงตัวหนังสือไว้ในกระดาษแผ่นนั้นด้วย”
“เต้ย กูก็ทำแล้วไง กูทำได้แค่สองสัปดาห์ กูก็จะลงแดงตายอยู่แล้ว กูอยากเห็นหน้ามึง อยากอยู่ใกล้มึงมากขนาดไหนมึงรู้ไหม?”
“ไม่รู้...และไม่อยากรับรู้ด้วย ยิ่งกูอยู่ใกล้มึงมากเท่าไหร่ ความรู้สึกแย่ๆที่กูกลัวที่สุดในชีวิตก็ยิ่งปรากฏชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น พอทีเถอะนะอิท!”
“มึงกลัวคนอื่นรับรู้หรอ ว่ามึงไม่ใช่ผู้ชาย” อิทธิพลเปรยถามตรงๆ
“กูเป็นผู้ชาย!!! อย่าไปเที่ยวพร่ำบอกใครอีกว่ากูชอบผู้ชายด้วยกัน ตราบใดที่กูยังไม่มีเรือนร่างเป็นหญิง จำเอาไว้” เตชานุลุกขึ้นยืนทันทีด้วยความหงุดหงิดใจอีกครั้ง
“มึงจะไปไหน?”
“กลับหอพัก”
“กลับเข้าไปหอประชุมเถอะ มึงกลับหอคนเดียวกูเป็นห่วง” เสียงของอิทแสดงความรู้สึกชัดเจน
“ทำไมกูต้องกลับไปหอประชุม” ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาต้องพูดรั้งอีกคนเอาไว้ให้ได้ หากเต้ยกลับหอตอนนี้ทั้ง
ความมืดและความเปล่าเปลี่ยว เขากลัวอีกคนไม่ปลอดภัย
“อย่างน้อยๆก็ไปให้กำลังใจ ไอ้บอล เพื่อนของมึงไงเต้ย” ร่างสูงหวังเพียงว่าวาจานี้จะสำเร็จ
“บอล! นี่เราลืมไปเลย เราพลาดการแสดงของบอลไปได้ยังไง?”
“ดูมึงแคร์มันมากเลยนะ” อิทธิพลไม่วายประชดน้อยใจ
“ก็แหงล่ะ เขาเป็นคนดี ไม่เคยทำให้กูต้องเสียใจ เสียดายเนอะถ้ากูเป็นผู้หญิงกูจะเป็นแฟนกับบอลให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ”
“อย่าพูดแบบนั้นนะเต้ยกูรู้สึกไม่ดี”
“ก็ช่างมึงสิ กูจำเป็นต้องทำตามคำพูดมึงไหม”
“สรุปคือมึงเบื่อหน่ายและรังเกียจกูมากใช่ไหมเต้ย” ร่างสูงสุดทนแล้วเช่นกันที่เห็นความไม่ใยดีเลย
“รู้ตัวด้วยหรออิท นึกว่าชาตินี้เราจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วซะอีก”
“กูจะบอกมึงเอาไว้ตรงนี้เลยนะ ว่าถ้าหากมึงอยากให้กูเลิกยุ่งกับมึง เมื่อนั้นกูต้องไม่มีลมหายใจแล้วเท่านั้น จำเอาไว้เต้ย”
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็ตายๆไปซะสิอิท กูจะได้มีอิสระ กูอยากได้มาก!”
“มึงอยากให้กูตายมากใช่ไหมเต้ย!”
“ใช่ ไปตายๆได้ก็ดี ถ้ากูจะได้อิสระคืนมา กูเบื่อ กูรำคาญ กูหงุดหงิดมึงที่สุด!!! ” เตชานุยืนกราน
“แม่งเอ้ย!!!”
อิทธิพลสบถคำพูดออกมาอย่างไม่พอใจ เขาวิ่งไปซัดหมัดหนักๆนั้นกับต้นไม้ที่ใกล้ที่สุด เสียงดังชัดเจน
ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!......“อิท จะทำอะไร พอได้แล้ว”
“...”
ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!......“อิท! เราบอกให้หยุด ไม่ได้ยินหรือไง”
“มึงอยากให้กูตายไม่ใช่หรอ มึงบอกกูอีกทีซิเต้ย กูจะไปตายอย่างที่มึงบอกให้ดู”
ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!......“บ้าไปแล้วหรือไง ชอบนักหรอทำตามคำสั่งของเราเนี่ย หยุดได้แล้ว เลือดไหลใหญ่แล้วอิท” น้ำเลือดสีแดงฉาน ถึงแม้เวลานี้จะมองเห็นสีนั้นไม่ชัดก็ตาม แต่สัญชาตญาณของเต้ยมันบอกอย่างนั้น
ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!............
“เป็นห่วงกูด้วยหรอ ไม่ใช่หรอก กูรู้ มึงเป็นห่วงแต่ไอ้คุณชายนั่นคนเดียวนั่นแหละ”
ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!......
หมับ“อิท!!! พอแล้วเลือดไหลใหญ่แล้ว หยุดเถอะนะขอร้องล่ะ” ร่างบางไม่ไหวจะทนดูอีกต่อไป รีบวิ่งเข้าไปคว้าหมัดนั้นเอาไว้ แม้จะไม่มีแรงมากพอเท่ากับอีกฝ่ายก็ตาม ซึ่งก็ได้ไม่ได้ช่วยให้อิทหยุดชกต้นไม้ได้
“ฮึก ฮึก...”
เสียงร้องไห้นี้เป็นเสียงใครกัน ไม่ใช่เขาแน่ๆ เตชานุมองดูดีๆที่ใบหน้าหล่อเหลาในความมืดสลัวนั้น อิทธิพลกำลังร้องไห้ นั่นร่างสูงร้องไห้ต่อหน้าเขาครั้งแรก อิทธิพลกำลังเจ็บมือหรือยังไง? หรือว่า...เขากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ทำไมคนที่ดูเข้มแข็งกลับมาอ่อนแอเอาดื้อๆในตอนนี้กันนะ
“อิท พอแล้ว ถ้าไม่หยุดเราจะเกลียดนายไปจนตายเลยคอยดู!!”
พรึบ!!!
อิทธิพลหยุดชะงักมือ ทันทีที่คำพูดของร่างบางตะโกนขึ้นมา น้ำใสๆไหลรินอาบแก้ม มีเพียงเสียงร่ำไห้เบาๆพอให้ได้ยิน
ตอนนี้เต้ยไม่ได้คิดสงสาร แต่เขากำลังสมเพศอยู่ต่างหาก ทำไมอิทธิพลต้องมาเสียเวลากับคนอย่างเขาด้วย ทั้งๆที่ผู้หญิงอีกมากมายยังรอคอยเขาอยู่จำนวนไม่น้อย
“ฮึก ฮึก มึงจะเกลียดกูจริงๆหรอเต้ย กูเสียใจมากนะ ฮึก ฮึก” อะไรกัน อิทธิพลเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เชียวหรือ จากเสือไว้ลาย ตอนนี้เป็นเพียงลูกแมวเหมียวที่คอยตามใจเจ้านายไปเสียได้
“นายหยุดชกแล้ว เราคงไม่เกลียดหรอก ไหนให้เราดูแผลหน่อยซิ”
ร่างสูงยืนร้องไห้ต่อหน้าอีกคน และยอมให้เต้ยดูแผลที่มือด้วย เขาไม่รู้หรอกว่าแผลที่ชกต้นไม้นั้นจะเป็นยังไง จะมีเลือดไหลแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาดีใจที่สุดแล้วที่เต้ยไม่เกลียดเขาไปตลอดชีวิต
“อยากให้มึงเป็นห่วงกูแบบนี้ตลอดไปจัง ฮึก ฮึก” อิทธิพลพูดด้วยความอ่อนหวานปนสะอื้น
“เราบอกแล้วไง ว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ เราต้องแต่งงาน ต้องมีลูกมีเมีย”
“แล้วทำไมคุณอาประทวนพ่อของมึง ยัดเยียดมึงให้ไอ้คุณชายนั่นได้ ไอ้บอลมันก็ผู้ชายนะเต้ย”
“นายรู้เรื่องด้วยหรอ?”
“รู้สิ รู้มาตลอดหนึ่งปีที่ไม่เจอมึงเลย พ่อกูเล่าให้กูฟังตลอด เวลาไปประชุมงาน ประชุมธุรกิจกัน พ่อมึงก็ชอบพูดเรื่องมึงกับบอลตลอดเวลา ทำไมล่ะเต้ย ให้โอกาสกูบ้างไมได้หรอ?”
“เห็นเราสนิทและอยู่ใกล้ชิดบอลมากขนาดนั้น เราก็ไมได้คิดมากเกินเลยเหมือนที่พ่อต้องการให้เป็นหรอกนะ” คำตอบนั้นทำให้
คนเจ็บมือยิ้มแฉ่ง ลืมความเสียใจไปหมด
“แสดงว่าหัวใจมึงไม่มีใคร ใช่ไหม?”
“ยังไม่มี แล้วก็ไม่ใช่นายด้วย อย่าฝันหวาน” อิทธิพลหน้าหงอยไป
“เต้ย!”
“หืม? ว่าไง”
“ถึงมึงจะไม่ได้รู้สึกเหมือนที่กูรู้สึก แต่กูขอร้อง มึงอย่าสั่งให้กูไปตายอีกนะ เวลาที่มึงสั่งกู เหมือนกูถูกมนต์สะกด กูต้องทำตามมึงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้ามึงคิดว่ากูโง่มาก ก็ขอให้รู้เอาไว้อย่างเดียวว่ากูยอมโง่เพื่อมึง”
“คราวนี้เห็นฤทธิ์ของความรักรึยัง คมดาบอีกฝั่งของความรักมันไม่ได้สวยงามเสมอไปหรอกนะ รู้แบบนี้นายก็หยุดรักเราเถอะ”
“กูหยุดมันไม่ได้แล้วล่ะ เพราะหัวใจกูตอนนี้มีแต่มึง ทำไมเราสองคนไม่ทำให้คมดาบความรักอีกด้านหนึ่งให้ปรากฏชัดเจนขึ้นมาล่ะ แล้วตอนนั้นความรักมันจะสวยงามใช่น้อยเลยนะเต้ย”
อิทธิพลกำลังจะเอื้อมมือขึ้นมาลูบหัวเต้ย แต่กลับถูกรั้งเอาไว้ก่อน
“อย่าเอามือมาลูบหัวเด็ดขาดนะ”
“โอเค กูจะไม่ทำแบบนั้น อะไรที่มึงไม่ชอบกูจะไม่ทำแล้วจริงๆ”
“ชวนคุยมาตั้งนานไม่คิดจะเป็นห่วงแผลตัวเองบ้างรึไงอิท?”
“มีคนที่กูรักดูแผลให้แบบนี้ ยาไหนๆก็ไม่วิเศษเท่านี้อีกแล้ว” อิทธิพลยิ้มให้
“อย่ามาชวนแหวะแถวนี้ เราไม่ชอบ และไม่คิดจะชอบด้วย”
“เดี๋ยวมึงก็หลงกู กูเชื่อ”
“เอาอะไรมาการันตี”
“เสียงกรี๊ด เสียงเชียร์ของคนในหอประชุมไง?”
“เขาโห่ร้อง ไม่ชอบขี้หน้าเราซะมากกว่า ใครๆก็อยากได้นาย เรารู้หรอกน่า”
“แต่โปรโมชันนี้กูเปิดรับแต่มึงคนเดียวเลยนะ มึงไม้อยากเป็นแฟนกูบ้างหรอ ตกลงเป็นแฟนกูนเถอะนะเต้ย”
“อย่ามาโยงเข้าเรื่องให้เสียเวลาหน่อยเลยอิท! บอกว่าไม่คือไม่สิ ถ้าไม่หยุดพูดเรื่องนี้ เราจะเซอไพร์นายแน่ จะมาดิ้นอกแตกตายทีหลัง เราไม่รู้ด้วยนะ”
“เซอไพร์? จะทำอะไรเต้ย ห้ามไปรักผู้ชายคนไหนนะ กูไม่ยอมจริงๆด้วย”
“นายนึกไม่ถึงแน่ๆ ถ้าไม่หยุดพูดเรื่องนี้”
“ขู่ซะกูกลัวเลยนะ ไม่เป็นไร กูไม่พูดเรื่องนี้ก็พอใช่ไหม แต่กูมีสิทธิ์อยู่ใกล้ๆมึงได้ใช่ไหม?”
“หยุดพูดเรื่องนี้ซักทีอิท กลับไปทำแผลก่อนเถอะ”
“ไม่เอา กูไม่อยากไปทำตอนนี้ ตอบกูมาก่อนสิ นะๆๆๆๆ”
“ไม่!!! ถ้าไม่ไปทำแผลตอนนี้ เราไม่ตอบอะไรทั้งนั้น”
“มึงพูดเองแล้วนะ”
“!!!”
หมับ!!! พรวดดดด ร่างสูงยิ้มร่าสีหน้าสดใส คว้าจับมืออีกคนได้ ก็พาวิ่งกลับไปที่หอประชุมทันที
พอเข้ามาถึงด้านใน การแสดงของคณะแพทยศาสตร์จบลงไปได้สักพักแล้ว บอลนั่งอยู่เก้าอี้ด้านหลังเวที ดวงตาเบิกโพงทันทีเมื่อเห็นว่าอิทธิพลเดินกลับมาพร้อมเตชานุ
“เต้ย!!!”
“พี่ๆครับ ผมกลับมาแล้วครับ” อิทธิพลร้องบอกทีมงาน
“กรี๊ดดดดดดด มือน้องอิทเป็นอะไรคะ เลือดไหลใหญ่เลย”
“ฮ่าๆๆ ไม่ไหลแล้วครับ มันเป็นแค่คราบเลือด” คนตัวดีมองมือตัวเอง ไม่คิดจะเป็นห่วงตัวเองซักนิดเดียว
“ไม่ได้ๆ มาทำแผลก่อนเร็วๆเข้า” กระเทยคนเดิมเข้ามาจัดแจงดูแลอย่างดี เพราะเวลาหลังจากนี้จะมีการขึ้นไปโชว์ตัวรวมกัน
และประกาศผลรางวัลให้ทุกคนได้รับรู้
“เต้ยไปไหนมา ทำไมได้มากับมัน” บอลเดินเข้ามาถามทันทีพร้อมกับมองดูฝ่ามือสองคนที่จับกันเอาไว้
“เอ่อ...คือ” เต้ยไม่รู้จะตอบอะไรได้แค่แกะมืออีกฝ่ายออก แต่ยิ่งแกะก็เหมือนอิทยิ่งกำแน่นกว่าเดิม
“อิท ปล่อยมือเราก่อน เราเจ็บ!”
คนตัวสูงหายใจฟึดฟัดราวกับไม่พอใจนิดๆ แต่ก็เป็นห่วงเตชานุมากกว่า ตอนนี้คงต้องจำใจปล่อยให้เต้ยอยู่กับบอลไปก่อนสินะ มารหัวใจจริงๆเลย
“ฮึฮึ” อิทธิพลมองหน้าคุณชายอย่างหาเรื่อง
“หัวเราะอะไรของแกฮะอิท!” บอลถามกลับอย่างไม่พอใจ
“อิท! ไปทำแผลได้แล้วไป อย่ามานักเลงแถวนี้”
คำพูดของร่างบางได้ผล อิทธิพลค่อยๆเดินผ่านหน้าบอลไปช้าๆ จนกระทั่งไปนั่งทำแผลกับพี่กระเทยคนนั้น
“เรารู้ว่าบอลจะถามอะไร แต่เอาไว้ไปถึงห้องก่อนเถอะนะ เราจะเล่าให้ฟังละเอียดเลย ตอนนี้ เต้ยต้องออกไปนั่งให้กำลังใจบอล
แล้วล่ะ รอบโชว์ตัวทำหน้าหล่อๆเข้าไว้ เต้ยไปแล้ว...”
“บอลเชื่อใจเต้ยนะ” ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่สีหน้าและภายในจิตใจคุณชายไม่เป็นอย่างนั้นเลย เขาต้องรอเพียงเวลาเท่านั้น เวลาที่จะกลับถึงห้อง เพื่อรอเต้ยอธิบายให้ฟัง ไม่อย่างนั้นเขาคงนอนไม่หลับคืนนี้แน่
มาต่อแล้ววววววว เดี๋ยวพายุเข้าต้องรีบอัพ รีบปิดคอม ขอบคุณทุกเม้น วันอังคารเจอกันนะ
ปล.ตอนนี้ อิทธิพล ผีเข้าหรอ? ช่วงนี้ให้เต้ยเอาคืนบ้างเถอะนะ