นายคนนั้นอันตราย..........ตอนที่ 20 (คลิกเข้ามาๆ อ่านเพลินๆ).......11.12.59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

พระเอกที่อยากให้เป็น (ไม่มีผลกับเนื้อเรื่องที่จะแต่งนาจา)

คุณชายบอลคมเข้มสุดหล่อ
10 (45.5%)
บักห่าอิทธิพลหล่อเลว
10 (45.5%)
พี่แชมป์ทันตะสุดอินดี้ เฟรนลี่ ร่าเริง
2 (9.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 22

ผู้เขียน หัวข้อ: นายคนนั้นอันตราย..........ตอนที่ 20 (คลิกเข้ามาๆ อ่านเพลินๆ).......11.12.59  (อ่าน 21277 ครั้ง)

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ให้อิท >>>>>>  :z6:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
นายอิทนี่สงสัยจะโรคจิตจริงๆ

ปากบอกรักบอกชอบ

แต่การกระทำนี่ต่างกันมาก

เต้ยนี่ก็ไม่สู้คนอีกละ

ไม่รู้จะรักกันชอบกันยังไง

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ชอบๆ เพราะเราโรคจิต

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
หายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะอ่านตอนนี้นาจา :ling3: :ling3:



ตอนที่ 12


“ฮึก ฮึก ฮึก”



    เสียงสะอึกสะอื้น แต่น้ำตาหยุดไหลไปก่อนหน้านี้   เตชานุนอนตะแคงอยู่บนเตียงนอน  กิจกรรมเร้าอารมณ์ปนความโหดร้ายขืนใจจบลง   มันหอบนำพาเอาผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หมอนกระจายไปทุกทิศทาง บ้างตกลงไปอยู่ที่พื้น บ้างถูกรื้อทึ้งดูไม่ระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิม



         อิทธิพล เอาลิ้นสากอุ่นเลียข้างแก้ม ราวกับความโรคจิตติดตัว  แต่นั่นไม่ใช่นิสัยเขา  เขาต้องการที่จะทำแบบนั้นเองกับเตชานุเท่านั้น  อยากทำให้เต้ยเข้าใจว่าจิตเขาไม่ปกติ   ทั้งที่จริงเขากลับไม่เคยทำสิ่งวิปริตแบบนี้กับใครที่ไหนมาก่อนเลย   แต่กับเตชานุเขา  ผลลัพธ์กลับเป็นที่น่าพอใจสำหรับเขา  อิทธิพล ติดใจและเสพติดที่จะทำแบบนี้กับร่างเล็กคนนี้ไปแล้วนั่นเอง




“หยุดร้องไห้เถอะเต้ย เดี๋ยวกูมีอารมณ์ขึ้นมาอีก มึงจะซวยเอานะ ฮึฮึ” เสียงทุเรศสำหรับร่างบางนั้นกระซิบเข้าที่หู


“ฮึก ฮึก อิท ขะ..ขอร้องล่ะ”


“อ๊ะๆๆ ค่อยๆพูด กูรอให้มึงหายสะอึกก่อนก็ได้ คืนนี้กูไม่รีบ กูจะอยู่ห้องนี้กับมึงแทนผัวน้อยอย่างไอ้คุณชายบอลเอง”



“อิท ฮึก ฮึก บะ..บอลเขาไม่เคยทำแบบนี้ ฮึก ฮึก กับเราซักครั้งเดียว นายจำเอาไว้”


“ว้าว! วิเศษเลย นี่มึงถนอมเก็บตัวไว้เพื่อกูคนเดียวเลยหรอเนี่ย  ซื่อสัตย์แบบนี้กูจะทิ้งมึงลงคอได้ยังไงกัน”



               ร่างสูงทำเสียงพร้อมกับสีหน้าคร่าตากวนใจอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนตัวเล็กไม่มีฤทธิ์จะต่อปากต่อคำกับเขาอีกแล้ว  เพราะเหนื่อยกับการร่วมเซ็กส์เมื่อครู่ แต่มันเป็นการร่วมเซ็กส์ที่ทรมานที่สุด ทั้งขัดขืน ดิ้นหนี แต่ถูกอีกฝ่ายจับเล่นงาน เสียทั้งพลังงานและน้ำตามามหาศาล



“กูทำมึงเจ็บ แต่กูพร้อมจะทำให้มึงมีความสุขนะเต้ย ขออย่างเดียวอย่าดื้อกับกูเลยนะ กูไม่รู้หรอกว่าที่ทำกับมึงเขาเรียกว่ารักรึเปล่า แต่ที่แน่ๆกูขาดมึงไม่ได้จริงๆ”


“ฮึก สัตว์เดรัจฉาน พอมีคนถูกใจคนใหม่ มันก็ไปแล้ว อิท ฮึก อึก” เต้ยมองตาขวางพร้อมกับสะอื้นไปด้วย


“ให้ผัวเป็นสัตว์! อีกแล้วนะเต้ย ชอบรึไงร่วมเพศกับสัตว์มากกว่าคน ” อิทพูดด้วยเสียงแหบพร่า



“ที่พูด ฮึก ฮึก อยู่นี่ ก็เพราะไม่ชอบไง อิท ฮึก ฮึก เข้าใจอะไรยากอย่างนี้ ”


“ก็รู้แล้วว่าไม่ชอบ  กูก็เลยเป็น คน แทนสัตว์ให้มึงอยู่นี่ไง จะลดทิฐิลงมาหน่อยไม่ได้รึไง”



“หยุดพูดจาไร้สาระไม่มีแก่นสารได้แล้ว ออกไปจากห้องของกูเดี๋ยวนี้!!!” ดวงตาแดงก่ำ รวบรวมพลังอีกครั้ง เพื่อขับไล่ใครคนนี้ให้ออกไป



            แต่อิทธิพลทั้งพูดยาก ดื้อรั้น หน้ามึนที่สุดในสามโลกเหมือนทุกครั้งที่เต้ยเห็นมา  เขาจะทำยังไงถึงตจะขับไล่ชายคนนี้ไปให้พ้นๆจากชีวิตได้เสียที



หมับ!!!  มือหนาขย้ำจับที่ผมบริเวณท้ายทอยอีกฝ่ายพร้อมกับดึงทึ้งลงไปติดเตียงนอน แน่นอนว่าเตชานุเจ็บ แต่เขาไม่ต้องการเสียน้ำตาให้คนตรงหน้าอีกแล้ว


“ฮึก ฮึก เจ็บนะ  ฮึก จะฆ่ากู ก็ฆ่าเลยสิอิท ฆ่ากูให้ตาย ฆ่ากูเล้ยย!!!”



            ร่างบางยังมีแรงวาจาจะสุ้ต่อ  คำขู่ยุยงให้อิทธิพลฆ่าเขาให้ตายไป  มันยิ่งทำให้ร่างใหญ่ไม่พอใจมากขึ้นไปอีก



“คิดว่าความตายจะทำให้มึงหนีกูพ้นหรอเต้ย ฮะ!!! พูดมา มึงจะหนีกูไปไหน!!! กูต้องการมึงได้ยินไหม!!!”



พรึบ!! อิทธิพลปล่อยมือที่ขย้ำเส้นผมนับจำนวนไม่ถ้วนนั้นทันที  ร่างบางฟุบหน้าลงที่เตียง หายใจแรงไม่พูดอะไรต่อ


        อิทธิพลยิ้มมุมปาก  ค่อยๆเอื้อมมือหนาเข้าไปกอดร่างนั้นทั้งตัว เป็นครั้งแรกที่อิทธิพลได้ทำแบบนี้ เขาอยากจะทำมานานแต่ไม่มีโอกาสได้ทำเลย    อีกอย่างไม่กล้าทำด้วยเพราะกลัวคนตัวเล็กกว่าจะขัดขืน แต่ไม่เลยเตชานุนอนฟุบหน้านิ่งยอมให้เขากอดอยู่อย่างนั้น



“เอามือออกไป!!!” เสียงของเต้ยเล็ดลอดออกมา หลังจากถูกโอบกอดได้ไม่นาน


“กูนึกว่ามึงจะชอบซะอีกเต้ย”


“อะไรที่เป็นมึง หรือว่าทุกอย่างที่มึงทำ กูไม่ชอบทั้งนั้นแหละ ” เต้ยขึ้นกูมึงอีกครั้ง อิทธิพลรู้ดีว่าร่างบางกำลังโกรธเขาจริงๆ แต่คิดหรอว่าเขาจะยอม    ไม่มีวันที่เขาจะกลัวเมียของตัวเองหรอก!


“ให้กูได้ทำอะไรแบบที่ ‘คน’ เขาทำบ้างสิเต้ย มึงชอบให้กูเป็นโรคจิตอยู่เรื่อยเลย  มึงว่ากูอยากทำรึไง มึงเจ็บกูเจ็บยิ่งกว่ามึงอีก แต่ทำไงได้  มึงมันอบแรด ไปหาคนอื่นตลอดเวลา  ตอนนี้ก็มีไอ้เชี่ยทันตะเพื่อนพี่ชายมึงเพิ่มมาอีก กูไม่ยอมปล่อยมึงหรอก”



“ในชีวิตมึง เคยผิดหวังเพราะความต้องการตัวเองซักครั้งไหมฮะ!!!” เต้ยตะโกนสวนกลับย่างเหลืออด ทั้งที่หน้ายังฟุบอยู่


“ก็...ไม่มี  ถามทำไม?” ร่างสูงตอบหน้าตาเฉย สวนกับอารมณ์คนตัวเล็กโดยสิ้นเชิง


“ถ้าอย่างนั้น!!! มึงรู้ไว้ซะ ว่าเรื่องของความรัก กูนี่แหละจะทำให้มึงไม่สมหวังตามที่ใจมึงต้องการ”


“คิดว่ามึงจะทำสำเร็จรึไง ฮึฮึ!!!”



“ตาสว่างซักทีเถอะอิท ทุกวันนี้มึงได้ใจกูบ้างรึยัง นอกจากร่างกายและคำด่าสารพัดที่กูไม่เคยด่าใครในชีวิต สิ่งเหล่านี้หรอที่มึงต้องการจากคนที่มึงบอกว่า ‘ต้องการมาก’  ขาดหายไปเป็นไม่ได้  คล้ายสิ้นใจ การกระทำของมึงสวนทางกับความรู้สึกมึงเสมอ แบบนี้มึงจะให้กูซึมซับและรู้สึกดีกับมึงทางไหนได้อีกบ้าง บอกกูทีซิ หรือว่าต้องทรมานจนเห็นกูตายไปก่อน ถึงจะเลิกหยุดวุ่นวายชีวิตกูสักที ฮะ!!!”




            อิทธิพลนิ่งไป ทุกคำพูดของเตชานุเข้าหูซ้าย  แต่...ไม่ทะลุหูขวา ร่างใหญ่กำลังประมวลคำพูดนั้นอยู่บ้าง แต่ได้ผลหรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง 



“พักผ่อนซะเต้ย กูจะนอนกอดมึงไว้อย่างนี้แหละ อย่าไล่กูไปไหนอีก เพราะมึงก็รู้ว่ากูไม่ไป!”


“หน้าด้าน พูดขนาดนี้ ยังไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ  มีสมองบ้างไหม? ความรักมันเป็นสิ่งที่คนสองคนต้องรู้สึกต่อกัน ไม่ใช่รู้สึกฝ่าย
เดียวแล้วมโนไปเรื่อยเหมือนมึง  คิดอยากได้ คิดอยากมี ก็ชิงมาเป็นของตัวเอง มึงรู้ไหมว่ากูต้องเสียน้ำตาให้กับความชั่วเลวทรามต่ำสถุนแบบนี้ของมึงไปเท่าไหร่  กับคนที่ขึ้นชื่อว่ากูเกลียดที่สุด ”



“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง มึงถึงจะยกโทษให้กู”


“ยกโทษให้หรอ? หนทางนั้นมันมืดมนเหลือเกินอิท อย่าถามถึงการไถ่โทษที่ราวกับไม่มีทางเดินทะลุจุดหมายเลย กูหาทางออกให้มึงไม่ได้แล้ว มึงย่ำยีกูมากเกินไปแล้วอิท  ไอ้สัตว์นรก”



“โอเค กูเป็นสัตว์นรก พอใจไหม?  แต่ต่อไปนี้ ....อย่าพูดเหมือนกำลังจะบอกให้กูไปจากชีวิตมึง กูบอกมึงแล้วไงว่ากูไม่ไปไหนทั้งนั้น  ถ้าอยากให้กูไปจากชีวิตมึงมาก มึงก็เอามีดมาฆ่ากูให้ตายสิเต้ย ฮึฮึ”



“อย่าท้านะอิท!”



“กูไม่ได้ท้า!!! ถ้ามึงเกลียดกูนักหนา อย่างที่มึงพูดไว้ มึงคงอยากจะให้กูตายไปจากชีวิตมึงเต็มทนแล้วจริงไหม   นี่ไง...กูยื่นข้อเสนอให้แล้วไงเต้ย ฆ่ากูสิ ฆ่ากูเล้ยยยย!!!!  ฆ่ากูเลยเต้ยยยย!!!”



“ฮือออออ  ออกไป ฮือออ ออกไป  ไปให้พ้น ฮือออออ  อย่ามาขู่นะ!!!”



                 ในความกดดันแบบนี้มันมากเกินไปที่ร่างบางจะรับไว้ได้   อิทธิพลท้าทายในสิ่งที่คนอย่างเต้ยไม่กล้าทำ  แต่เคยได้ยินไหมว่า ยิ่งยุก็ยิ่งกล้ามากขึ้น เตชานุกลัวสิ่งนั้นจะเป็นจริงมากที่สุด   มันอาจจะทำให้เขากล้าลงมือฆ่าอิทธิพลก็เป็นได้   หากร่างสูงยังไม่หยุดพูดยุยงเขาแบบนี้



“สุดท้ายมึงก็ไม่กล้าทำสินะ กูไปหยิบมีดให้มึงก็ได้!!!”



                ประโยคนั้นยิ่งกดดันเต้ยไปใหญ่ อิทิพลยุยงเขาแบบนี้เพื่ออะไร เขาต้องทำอะไรซักอย่างที่หยุดยั้งอิทธิพลไว้ เขากลัวเหลือเกินกลัวว่าความโกรัจะทำให้ร่างใหญ่นี้ต้องตายเหมือนในข่าวแน่!  หัวสมองเตชานุตอนนี้กำลังเหมือนมีอะไรบางอย่างดันออกมา มันร้อนวูบวาบและปวดเวีนยหัวไปหมด เขาเป็นอะไร...



“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ฮืออออออ (อ้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง) กูเกลียดดดมึง ได้ยินมั้ยยยยยยย” เต้ยกดดันมากจนถึงขั้นสติหลุดไปแล้ว สองมือเรียวเล็กยกขึ้นไปปิดหูทั้งสองข้าง   เขาต้องหวีดร้องออกมาใส่คนตรงหน้าเพื่อระบาย  รั้งไม่ใช้อีกฝ่ายเดินไปเอามีด   ไม่อย่างนั้นถายในอนาคตเขาแย่แน่ หากอิทธิพลนอนตายอยู่ในห้องนอนของเขา   



           ตอนนี้มือไม้เต้ยสั่นไปหมด จนไม่สามารถควบคุมมันได้ปกติเหมือนเดิม  เขากำลังโกรธ โมโหมาก จนสติแทบแตกอยู่
แล้ว   อิทธิพลตกใจหัวใจหล่นวาบ เย็นแผ่ไปทั้งตัวทันที   ไม่คิดว่าเต้ยจะเป็นแบบนี้ไปได้
นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเต้ยกดดันกรีดร้องออกมาดังขนาดนี้




“เต้ย!  เต้ยมึงเป็นอะไร”  ร่างสูงถามโง่ๆออกมา พร้อมกับรีบเดินไปดึงร่างอีกคนเข้ามากอดทันที เต้ยกำลังจะเป็นบ้าไปแล้วหรือไง...



“(อ้างงงงงงงงงงง)  ปล๊อยยยยย  ปล๊อยยกู  กูจะฆ่ามึงงงง ไอ้สัสอิท !!!”


“เต้ย  ไม่เอาแล้วเต้ย  กูพูดเล่น  กูไม่พูดแบบนั้นอีกแล้ว   ไม่มีทางบังคับให้มึงต้องฆ่ากูตายแล้ว  เต้ย  หายใจลึกๆเต้ย”



              อิทธิพลเกลี่ยกล่อมอยู่นาน  จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานพอสมควร เต้ยจึงเลิกดิ้นและอาละวาด แต่ร่างบางนั้นยังเหนื่อยหอบปรากฏให้เห็นอยู่ในเรือนร่างใหญ่นั้น  อิทธิพลตกใจมากในเหตุการณ์ที่ผ่านมา  เขาเล่นกับความรู้สึกเต้ยเกินไปแล้ว   เต้ยไม่ชอบความกดดันมากๆสินะ




               ตอนนี้อิทธิพลเริ่มรับรู้แล้วว่าการที่เขาทำแบบนี้มันจะเป็นผลร้ายต่อคนตัวเล็กนี้  เต้ยอาจสติแตกเป็นบ้าได้  เขาคงจะไม่ให้อภัยตัวเองตลอดชีวิตแน่ถ้าเต้ยเป็นแบบนั้นจริงๆ   เขาเชื่อแล้วว่าคนเรามันมีขีดจำกัด  เต้ยกำลังกดดันถึงขีดสุดในชีวิต



             ในตอนนี้เรือนร่างบอบบางอ่อนแอทั้งกายและใจ กำลังจะเคลิ้มหลับใหล  จะมีใครเข้าใจสภาพจิตใจของเต้ยได้ดีพอ   เขาอยากได้อิสระกับความโหดร้ายที่ถูกผลักยัดเยียดเข้ามาในชีวิต   แถมจู่ๆคนที่เขาเกลียดกับยื่นข้อเสนอให้ฆ่า...แบบนี้    ใครที่ไหนจะกล้าฆ่าคนด้วยกัน   เต้ยไม่ไหวกับสภาพกดดันโหดร้ายแบบนี้อีกต่อไปแล้ว   เขาต้องร้องตะโกน หวีดร้องสุดสียงราวกับคนเสียสติออกมา  ไม่อย่างนั้นความเก็บกดจะทำให้เขาเป็นบ้าได้ในไม่ช้า



                  ท้ายที่สุดเต้ยก็หลับสนิทไปในวงแขนแกร่งนั้น อิทธิพลทำหน้าที่เหมือนคนรักที่อยากดูแลก็ไม่เชิง อยู่อย่างนั้นไม่คิดจะเปลี่ยนท่านอน  เขาต้องการเป็นหมอนและที่นอนจำเป็นให้อีกฝ่ายได้หลับใหลไปอย่างนั้นตลอดราตรีนี้  นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เขาโล่งใจที่หัวใจอีกดวงของเขาไม่ได้เป็นอะไรไป

...

...

...


จนกระทั่งตอนเช้า

            ดวงตาของเตชานุค่อยๆลืมขึ้นมา หลังจากหลั่งรินเสียน้ำตาไปมากมายเมื่อคืนนี้ เพียงแค่ตื่นมาเจอโลกแห่งความจริงอีกครั้ง กลับไม่เห็นเรือนร่างใหญ่ที่เขาเกลียดอีกแล้ว  ภายในห้องมีแต่ตัวเขาคนเดียว แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือนั่น



“โอ้ย!!!” พิษแผลที่ประตูหลังเล่นงานทันทีเมื่อเตชานุลุกออกจากเตียง  มันเจ็บมากจนไม่สามารถอธิบายได้



       เมื่อคืนถ้าจำไม่ผิด เขาโกรธและโมโหอิทธิพลมาก จนใช้แรงมากไป ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรออกไปบ้าง แต่ที่แน่ๆ เขาเหมือนจำอะไรไม่ได้และควบคุมตัวเองไม่อยู่เลยแม้แต่น้อย



“หรือว่า เรากำลังจะเป็นประสาท”  เต้ยนึกในใจ



      แต่แล้วก็สลัดความคิดตัวเองออกไป ก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาคลี่อ่าน  มันเป็นลายมือห่วยๆของใครคนหนึ่งที่เขาจำได้แม่น ตั้งแต่ครั้งยังทำการบ้านส่งคุณครูที่โรงเรียน



“มึงคงตื่นแล้วสินะ  กูมาคิดดูอีกที มึงควรจะมีอิสระได้แล้ว กูขอโทษนะที่กูทำแบบนั้นกับมึงไป   สิ่งที่กูไม่มั่นใจ ตอนนี้กูมั่นใจ
แล้วว่ะเต้ย ว่าสิ่งที่กูทำถึงขนาดนั้นคือ ความรัก มึงคงคิดอยู่ใช่ไหมว่าสิ่งที่กูทำ มันสวนทางชัดเจน ส่วนนั้นกูก็รู้ แต่กูควบคุม
อารมณ์แบบนั้นไม่ได้ เวลาเห็นใครมายุ่งกับมึง    ขอบคุณที่ทำให้กูรู้จักว่ารักที่แท้จริงเป็นยังไง การที่กูเดินออกมาจากชีวิตมึง
ไม่ใช่เพราะกูยอมแพ้หรอกนะ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะมึงไง  มึงสอนกูเรื่องรักแท้  กูกำลังพยายามทำอยู่ กูยอมปล่อยมึงให้มีความสุขดีกว่า กูคงจะดีใจไม่น้อยที่เห็นคนที่กูแอบรักมีความสุขที่แท้จริง กูไม่อยากเห็นคนรักกูทรมานจนเป็นบ้า กูทนเห็นภาพนั้นไม่ได้  ขอบคุณที่ชีวิตนี้กูได้รู้จักกับมึงนะ ”





“คิดได้ก็ดี!”


      ร่างบางอ่านจบกลับพับทบจดหมายนั้นเหมือนเดิม วันนี้วันอาทิตย์พี่ชายเขาจะพาไปเดินห้างตามสัญญาแต่ดูเหมือนตอนนี้ สภาพร่างกายของเขาคงไม่ไหวแล้ว             


“พี่ต้อม  เต้ยไม่ไปเดินห้างแล้วนะครับ อยากอยู่ห้องเฉยๆ” คนตัวเล็กโทรไปบอกพร้อมกับเบี่ยงความจริง


“พอดีเลยเต้ย  พี่ก็มีเรียนเพิ่มกะทันหัน  ว่าจะโทรไปบอกพอดีเลย  ไม่โกรธพี่นะครับ”


“ไม่โกรธหรอกครับ ไปคราวหน้าก็ได้ แค่นี้ก่อนนะครับเต้ยขออาบน้ำก่อน”


“โอเคๆ บ้ายบายน้องชายของพี่”


                ปลายสายกดวางไปแล้ว แต่ตอนนี้อาการปวดหัวของเต้ยเริ่มทวีคูณขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่มั่นใจนักว่าจะเป็นผลข้างเคียงจากการที่คิดมาก และเสียสติจนตะโกนลั่นเมื่อคืนนี้หรือเปล่า?


“นี่เราคงจะไม่เสียสติจนเป็นบ้าใช่ไหม?” คนตัวเล็กพึมพำกับตัวเองเป็นครั้งที่สอง



      แต่ตอนนี้เขาต้องพักผ่อนให้มากๆ  เขาปวดหัวตุ๊บๆ สงสัยคงเครียดเกินไปแล้วจริงๆ  ตอนนี้เขาต้องทิ้งความคิดในสมองทุกอย่างให้หมด เพื่อระงับความเจ็บปวดนั้นให้ลดจางหายไป



:L2:

ไอ้อิททททททททท  เลววววววว สารเลววววววว ฮืออออ  แกจะทำให้น้องเป็นประสาท  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ผู้อ่านสูดหายใจ ลึกๆๆ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: นั่นแหละ อย่างนั้น


โอเค  คงพอใจเย็นขึ้นได้เนอะ  ตอนนี้จริงๆแล้ว คนแต่ง แต่งตามอารมณ์ของตัวละครล้วนๆ ไม่มีเจตนาแต่งแนวโรคจิตเลย

นะ(หรออออออออออออออออ)  จริงๆเชื่อเถอะ  เป้นไปตามอารมณืในตอนนั้น  นี่เหมือนเป็นตอนเปิดใจคุยของอิทกับเต้ยเลยนะ 

แต่ถ้ายังไม่หายแค้นใจ ด่ามาเลยนาจาแต่ห้ามด่าคนแต่งน้า  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

พรุ่งนี้ไม่ได้มาต่อนาจา (อีกแล้วหรอ?)  ไม่ว่างจริงๆ  อย่างอนกันนะ  วันพฤหัสเจอกัน


 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาไวมากๆ

ขอตัวไปอ่านก่อน

ปล+1

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
อิทจะถอยจริงดิ?

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ chaweewong19841

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
อิทนี่ก็บทจะไปก็ไปง่ายๆเลยเนาะ

ออฟไลน์ nekozaa

  • I want to you read me
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เข้าใจความรู้สึกของเต้ยนะแบบกดดันจนกรี๊ดออกมา  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 13


เวลาผ่านไป จวบจบจนถึงยามเย็นวันอาทิตย์...



             ร่างบางนอนพักผ่อนไปนานหลายชั่วโมง ด้วยอาการปวดหัวเมื่อเช้า  แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกดีขึ้น เหมือนกำลังหลับเต็มอิ่มเพียงพอแล้ว ดวงตาคู่เดิมลืมขึ้นมาอย่างช้าๆ แสงจากดวงอาทิตย์ที่อ่อนกำลังเต็มทีนอกระเบียงนั้นบ่งบอกว่าเวลาล่วงเลยมานานแล้ว  พร้อมกับแสงไฟกลางห้องพักที่เปิดสว่างไสว  สงสัยคุณชายคงกลับมาแล้ว



            แปลกใจได้ไม่นานเท่าไหร่ ชายหนุ่มผิวสีน้ำตาลอ่อนก็เดินก้าวปรากฏตัวออกมาจากห้องน้ำ ด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว


“ตื่นแล้วหรอเต้ย” เจ้าของชื่อหันไปทางร่างสูง ตกใจเล็กน้อยในสภาพร่างสูงตอนนี้   เพราะเต้ยเพิ่งจะได้เห็นเรือนร่างของบอลอย่างชัดเจนก็คราวนี้เอง


“บอล! กลับมาตอนไหนเนี่ย”


“ก็กลับมาได้พักใหญ่แล้ว  โทษทีนะคิดว่าเต้ยยังไม่ตื่นเลยเดินออกมาสภาพนี้ “ บริรักษ์เปรยอย่างเกรงใจ


“ไม่เป็นไรหรอก ผู้ชายเหมือนกันไม่ต้องอาย”


“อื้ม..ว่าแต่เต้ยเถอะ วันนี้เป็นอะไรถึงได้นอนกลางวัน แถมนอนดิ้นซะด้วย ฝันร้ายหรอ?”



      บริรักษ์เดินเข้ามานั่งใกล้ๆคนตัวเล็กบนเตียงในสภาพนั้น  พร้อมกับยื่นแก้วน้ำเย็นให้   เต้ยรับไปดื่มแต่โดยดี ก่อนจะทำสีหน้าค่อยยังชั่วกับอาการปวดหัวนั้น ตอนนี้ทุเลาลงมากแล้วจริงๆ


“คงจะฝันร้ายอย่างที่บอลว่า  เราเพิ่งรู้นะเนี่ยว่านอนดิ้น ปกติไม่เคยเป็นเลย”


“บอลก็เพิ่งเห็นครั้งแรกนี่แหละ  แต่แปลกนะ พอบอลเอามือลูบหัวเต้ย เต้ยกลับนิ่งไปเสียดื้อๆ”


“จริงหรอ? ” ร่างบางขมวดคิ้ว


“จริงสิ...อ้อ ลืมบอกไป  กระดาษจดหมายบนโต๊ะบอลแอบอ่านหมดแล้วนะ ขอโทษที  บอลแค่ต้องการทำความสะอาดห้อง แต่กลับอดอยากรู้ไม่ได้”  บริรักษ์ทำสีหน้าราวกับรู้สึกผิด


“ไม่เป็นไรหรอก บอลได้อ่านแล้วก็ดีเหมือนกัน ต่อไปนี้อิทธิพลจะไม่มาทำร้ายเต้ยอีกแล้ว  เห็นไหมว่าเต้ยจัดการเขาได้” เตชานุแสดงสีหน้าราวกับภูมิใจในตัวเอง


“จะจริงอย่างที่มันพูดรึเปล่า   บอลสังหรใจยังไงไม่รู้  เต้ยอย่าไปเชื่อมากนักนะ”


“ทำไมหรอบอล?” ร่างบางรู้สึกแปลกใจที่บริรักษ์ ไม่เชื่อใจในสิ่งที่อิทธิพลเขียนทิ้งไว้เหมือนที่เขาเชื่อ


“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เอาเป็นว่าเชื่อไว้ครึ่ง ไม่เชื่อไว้ครึ่งจะดีกว่า  ในกระดาษนั่น อิทมันไม่ได้บอกว่าจะไม่มาหาเต้ยซะหน่อย  มันแค่ขอดูเต้ยอยู่ห่างๆแน่นอน  เต้ยอย่าตีความผิดว่ามันจะไม่หาอีกเด็ดขาด”


“เขาคงไม่คิดจะมาหาเราอีกหรอกมั้ง” เต้ยเริ่มหวั่นใจยังไงชอบกล


“ทันทีที่มันฝืนกับความพยายามไม่ไหว เมื่อนั้นมันมาหาเต้ยอีกแน่!”



              คุณชายเอื้อมมือไปลูบใบหน้าเนียนของอีกฝ่ายเบาๆราวกับปลอบใจ เขาแค่อยากพูดเพื่อให้คนตัวเล็กใกล้ๆเขาปลอดภัยก็เท่านั้น   ดวงตาบอลตอนนี้ประสานกับเต้ยราวกับกำลังสื่อสารอะไรบางอย่าง  แต่สิ่งนั้นบอลอยากจะบอกให้รู้มาเนิ่นนาน  แต่ติดที่อีกฝ่ายกลับหวั่นเกรงว่า ความรัก จะหลุดออกมาจากปากของบริรักษ์   ซึ่งเต้ยคงลำบากใจ เพราะเขารู้สึกกับบอลได้แค่เพื่อนสนิทเท่านั้นจริงๆ 




               อีกประการ เขาเป็นผู้ชาย ยังเขาก็ต้องมีแฟนเป็นผู้หญิงและแต่งงานมีครอบครัวอยู่ดี  มันเป็นสัจธรรม ไม่มีใครเกิดมาเพียบพร้อมไปทุกอย่าง และไม่มีใครเกิดมาย่ำแย่เสียหมด  ทุกอย่างมีความสมดุลในตัวของมันเอง  ใช่หรือไม่...


...




... 



...


สองสัปดาห์ผ่านไป



               และแล้วการประกวดดาวเดือนก็เริ่มขึ้น   ด้านหลังเวทีในหอประชุมตอนนี้ ฝ่ายรุ่นพี่ทั้งหลายกำลังดูแลความเรียบร้อยของน้องชายน้องสาวผู้เข้าร่วมประกวดปีนี้ อย่างขะมักเขม้น ตรวจดูความละเอียดให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด  แต่ในความวุ่นวายนั้นเตชานุกลับยืนอยู่ใกล้บริรักษ์ไม่ห่างไปไหน ตามความต้องการของร่างใหญ่



                วันนี้บอลหล่อมาก หล่อกว่าเดิมอีก จนไม่อยากเชื่อว่านี่คือคุณชายคนเดิมที่เต้ยรู้จัก  ถัดจากพวกเขาไปไม่ไกล เห็นพี่แชมป์ยืนสั่งงานคนโน้นคนนี้อย่างชำนาญ ด้วยความที่ทำงานตรงนี้มาเป็นปีที่สองแล้ว  แต่ไม่นานนัก ดวงตาของทันตะหนุ่มกลับเหลือบหันมามองเขาพอดี แล้วก็เป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ รุ่นพึคนนั้นกำลังเดินเข้ามาหาเต้ยด้วยสีหน้าดีใจ



“น้องเต้ย ทำไมไม่ไปรอด้านหน้าเวทีครับ” แชมป์ฉีกยิ้มกว้างให้


“พอดีมาอยู่เป็นเพื่อนบอลน่ะครับ”  แชมป์หันไปมองหน้าบอลนิดนิดก่อนจะทำสีหน้านึกออก


“อ๋อ น้องคนที่ต่อยน้องเดือนวิศวะนั่นเอง เป็นไงพร้อมไหม?” แชมป์ชวนคุย


“พร้อมครับพี่” บอลตอบไปแบบส่งๆ


“ปีนี้ แนวโน้มว่าตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยจะเป็นคุณชายบอลแน่นอน” แชมป์เชียร์ทางอ้อม


“ขอบคุณครับ แต่จะดีกว่านี้ถ้าคนอื่นได้ตำแหน่งนี้”


“อ้าว เป็นงั้นไป ตำแหน่งนี้การันตีสาวๆสวยๆเข้าหาตลอดนะบอกเลย ไม่ชอบหรอ?”


“ผมมีคนที่ผมมองไว้แล้วครับ”


“งั้นหรอ? ใครอ่ะบอล” แชมป์ปรายตามอง อีกใจหนึ่งก็ลุ้นพอสมควร กลัวว่าจะเป็นเต้ย คนน่ารัก


“เป็นคนรู้จักครับ สนิทกันมาก อยู่ด้วยกันตลอดเวลา  ผมชอบที่เขาเป็นเขา” บอลบอกเป็นนัยน์และไม่หันไปมองเต้ยด้วย เพราะตอนนี้เขากำลังถูกช่างแต่งหน้าลงแป้งให้


“อ่อ ดีใจด้วยนะ  แล้วน้องเต้ยล่ะครับ สรุปมีคนในหัวใจรึยัง ถ้าไม่มีพี่ขอสมัครตามจีบได้รึเปล่า”


“อะ..แครกๆๆ” บริรักษ์แทบสำลักเดี๋ยวนั้น ไม่นึกว่ารุ่นพี่คนนี้จะมาแรงแซงทางโค้งแบบนี้


“บอลเป็นไร  ดื่มน้ำก่อนไหม?” ร่างบางถามอย่างเป็นห่วง


                  บอลไม่ตอบ แต่ขวดน้ำกับหลอดดูดถูกยื่นป้อนถึงปาก สายตาของบริรักษ์มองไปที่หน้าของรุ่นพี่ทันตะหนุ่มทันที ราวกับแสดงให้เห็นว่าท้ายที่สุดใครคือคนชนะกันแน่



“น้องเต้ยเหมือนจะไม่ถนัดเท่าไหร่  พี่ขอถือขวดน้ำให้บอลแล้วกัน” แชมป์อาสาแล้วแย่งขวดน้ำในมือเรียวเล็กทันที       รุ่นน้องอย่างบอลอยากจะขัดขวางจิตอาสานั้น แต่พูดอะไรไม่ได้ เพราะกำลังแต่งหน้า ทำได้เพียงแต่เหล่สายตามองอีกคนที่ป้อนขวดน้ำแทนเท่านั้น



“เอ่อ...พี่แชมป์ ผมอิ่มแล้วครับ” บริรักษ์ปฏิเสธ


“ไม่จริงหรอก! เห็นไอเสียงแห้งๆ น้องบอลต้องดื่มเยอะๆนะครับ เชื่อพี่” แชมป์คิดเจ้าเล่ห์ กระแทกหลอดเข้าปากอีกฝ่าย


“ผมอิ่มแล้วจริงๆพี่” บอลเบือนหน้าหนี จนตอนนี้ช่างแต่งหน้าเริ่มโมโหแล้ว


“ดื่มเข้าไปเถอะน่า จะได้ไม่ไออีก เอ้าดูดเข้าไป เกรงใจช่างแต่งหน้าบ้าง  เออ..อย่างนั้นแหละ พูดง่ายๆ”


“...สแตนบายรอเลย ใกล้ได้เวลาแล้วครับน้องๆ”  หนึ่งในทีมงานเดินเข้ามาตะโกนบอก ทุกคน  ดูเหมือนว่าเวลาอันตื่นเต้นกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว  แต่เวลานี้เต้ยเองก็คงต้องขอตัวออกไปนั่งรอข้างนอกแล้วสินะ


“พี่แชมป์ บอล  เราต้องไปแล้วนะ  ทำให้เต็มที่นะ เต้ยรอดูอยู่ขอบเวทีเลย”


“ครับเต้ย” บอลเปรยบอก


“น้องเต้ยครับ เดี๋ยวพี่เดินไปส่งดีกว่าครับ ทางมันค่อนข้างมืด”


“เอ่อ...พี่แชมป์ครับไม่ต้องไปส่งเต้ยหรอกครับ  เขาไปเองได้ อีกอย่างผมยังไม่หายหิวน้ำเลย ป้อนต่อเถอะ”


“อ้าวไหนบอกเมื่อกี้ไม่เอาแล้วไง” แชมป์พุดพลางมองร่างบางไปด้วย


“ก็ตอนนี้ผมหิวน้ำอีกแล้วไงครับพี่แชมป์” บอลบอกความต้องการ



             วีรกรรมแกล้งกันไปแกล้งกันมา เพียงเพื่อจะกีดกั้นอีกฝ่ายไม่ให้ได้แต้มคะแนนจากเต้ยนั้น มันทำให้ร่างบางส่ายหน้าเล็กน้อย ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าสองคนนี้กำลังทำอะไร เล่นเหมือนเด็กไปได้นะคนเรา


           สุดท้ายพี่แชมป์ก็ไม่ได้เดินตามมาส่งออกจากด้านหลังเวที  เพราะความดื้อรั้งรั้งตัวรุ่นพี่เอาไว้ของบอลนั่นเอง แต่หลังเวทีค่อนข้างทึบแสง ยิ่งจะใกล้ประตูทางออกยิ่งมืด เพราะมันเป็นทางเชื่อมเพื่อขึ้นเวที จุดนี้เลยต้องเปิดไฟให้น้อยที่สุด


             ในตอนนี้เตชานุเดินมาจนจะถึงประตูทางออกที่เชื่อมกับที่นั่งในโถงหอประชุม แต่กลับมีร่างสูงของใครบางคนกำลังตันประตูบานนั้น และจ้องมองเขาอยู่ในความมืด แต่เต้ยไม่แน่ใจนักว่าเขาเป็นใคร




“ขอโทษนะครับ ผมขอทางหน่อย” ร่างบางพูดอย่างสุภาพ


“กูจะขึ้นแสดงแล้ว ให้กำลังใจกูหน่อยสิเต้ย” เสียงนั้น? มันคุ้นหูเหลือเกิน อิทธิพลหรอกหรอ แต่วันนี้กลิ่นน้ำหอม กลิ่นสเปร์ฟุ้ง
กระจายรอบตัวแถบนี้ไปหมด 


“อิท!”


“ขอโทษที กูทำตามที่เขียนไว้ไม่ได้ สองสัปดาห์มานี้กูแทบขาดใจเลยนะเต้ย” เสียงเปรยเรียบๆนั้นพูดขึ้นมาแต่ไม่มีทีท่าว่าจะเดินเข้ามาหาเขา และยังคงเว้นระยะห่างสองเมตรเอาไว้เช่นเดิม


“อะ..อิท วันนี้วันแข่งขัน  อย่าทำร้ายเราเลยนะ” เต้ยบอกไปอย่างหวั่นกลัว


“กูไม่ได้มาหามึงเพื่อให้มึงกลัวกูนะ กูมาหามึงเพื่อรอกำลังใจจากคนที่กูรักต่างหาก”


“!!!”


“เอ้า ยืนบื้อตกใจเหมือนเห็นผีอยู่ได้ อวยพรกูหน่อยสิ กูต้องไปต่อแถวรอขึ้นแสดงแล้ว” ร่างสูงเซ้าซี้


“เอ่อ...โชคดีนะ” เต้ยไม่รู้จะพูดอะไร


“น่ารักมาก เมียกูเนี่ย ขอโทษทีนะเต้ย แค่นี้ยังได้รับกำลังใจไม่พอหรอก  กูคงต้อง...”



พรวดดด หมับ!!!


            ร่างสูงดึงอีกคนเข้ามากอดแนบแน่นเอาไว้กับตัว การกระทำแบบนี้เป็นครั้งแรกที่เต้ยได้รับ มันรู้สึก...อบอุ่นแปลกพิลึก  อิทธิพลกอดนานชั่วครู่ก็ผละอ้อมกอดตัวเล็กออกไป


“อึ้งล่ะสิ กูบอกมึงแล้วว่ากูจะไม่ทำร้ายมึงอีก วางใจกูเถอะ เชียร์กูด้วยนะ กูไปล่ะ”


“...”



          เตชานุไม่มีอะไรจะพูด   ไม่สิ เขาพูดไม่ออกมากกว่า ได้แต่เพียงหันไปมองตามร่างใหญ่คนนั้นที่หายไปแล้ว   ชายคนนั้นเขาไม่เหมือนเดิม  ไม่มั่นใจว่าอิทยอมเปลี่ยนตัวเอง หรือว่าเป็นนิสัยและตัวตนของอิทธิพลกันแน่ แต่จะเป็นอะไรก็ช่าง   อย่างน้อยๆ เขากลับรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่ไม่ถูกทารุณทางร่างกายและจิตใจเหมือนที่ผ่านมา



“อย่างนาย เราไม่ต้องเชียร์หรอก ตำแหน่งเดือนมหา’ลัย คงรอนายอยู่แล้วอิท!”



        เต้ยพึมพำกับตัวเอง เขาพูดไปตามที่เห็น วันนี้อิทธิพลหล่อมาก หล่อที่สุดในบรรดาชายหนุ่มทั้งมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ คุณชายบอลดูเป็นตัวสำรองไปเลยในพริบตา



         เตชานุเดินออกไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้า โดยมีพี่ชายจองที่เอาไว้ให้  ตอนนี้พิธีกรกำลังกล่าวเปิดงาน ทางคณะกรรมการการตัดสินนั่งอยู่โต๊ะวีไอพีตรงหน้าถัดออกไปอีก  บอกตามตรงเขาตื่นเต้นแทนบอลมากที่สุด



         ก่อนหน้านี้หลายคนลุ้นกับตัวโก่งว่าคณะแพทย์หรือคณะวิศวะฯจะได้ตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัย   แต่ดูท่าทางตำแหน่งขวัญใจนักศึกษาเองนั้น มีแนวโน้มว่าจะเป็นอิทธิพล นฤบดินทร์แน่นอน แม้แต่เต้ยเองก็คิดอย่างนั้น  ส่วน บริรักษ์ พิมลประชาทิศ ก็ไม่ได้แย่อะไร ดูเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีมาก แต่ไม่มั่นใจนักว่ากรรมการจะเลือกใคร  และความสามารถพิเศษคนไหนจะโดนใจที่สุด   

...

...

...

          ผ่านไปนานหลายนาที จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงการแสดงความสามารถพิเศษของดาวเดือนและตอนนี้ถึงคิวของคณะวิศวกรรมศาสตร์    เสียงคนเข้าชมและเชียร์ดังกึกก้องไปทั่วห้องโถงใหญ่แห่งนี้ จนเต้ยแทบจะเอามือปิดหูเอาไว้ ไม่นานใครคนนั้นก็เดินออกมาจากผ้าม่านพร้อมกับดาวคณะ  การแสดงของเขาไม่ต้องเดาเต้ยก็ดูออก จากเปียโนตัวใหญ่ที่วางไว้กลางเวที คงจะเป็นการเล่นดนตรี ประกอบกับร้องไปด้วยแน่นอน



         แต่สิ่งที่ทำให้ร่างบางอึ้งก็คือ อิทธิพลเล่นเปียโนได้!  ประเมินจากภายนอก อิทธิพลเหมาะกับเบส หรือกีตาร์มากกว่า  เพราะคนอย่างเขาไม่เหมาะสมและอ่อนโยนถึงขั้นเล่นเปียโนได้หรอก  แต่มองจากจุดนี้ เตชานุไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า  ร่างสูงนั้นทำได้และเหมาะสมมากที่สุด  แม้ชายหนุ่มที่ดูดีและหล่อเหลาอย่างอิทธิพลคนนี้จะเป็นคนที่โหดร้ายและทารุณเขามาก่อนก็ตาม  หากไม่รู้จักกันมาก่อน เต้ยยอมรับจากใจเลยว่าผู้ชายคนนี้เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะเล่นเปียโน  และมีเสน่ห์น่าดึงดูดมากทีเดียว




“...ฉันยังรอคอยปาฏิหาริย์ เชื่อว่าวันหนึ่งจะมาถึง  ครึ่งหนึ่งของฉันที่มัน...ขาดหายไป ใครที่รักกันจริงคนนั้น... คนที่เคยฝัน เขาจะมาอยู่ข้างกันสักที...”



         ทั้งเสียงร้องที่ไพเราะของดาวคณะ และเสียงเปียโนที่อิทธิพลเล่นนั้นมันกลมกล่อม  บ่งบอกได้ทันทีว่าเป็นการสื่อสารเข้าถึงอารมณ์ที่สุด  ไม่นานการแสดงก็จบลง มันเป็นอะไรที่ประทับใจที่สุด แม้แต่เต้ยก็ต้องยอมรับ  ในช่วงรับดอกไม้เพื่อนำไปคิดเป็นแต้มคะแนน  เสียงกรีดร้อง จากกองเชียร์เก้ง กระเทย ชะนีหลายนาง ดังกึกก้องหอประชุม พร้อมกับมวลมหาชนเดินเอาดอกไม้มาให้มากมายล้มหลามจนต้องตกใจ    แต่แววตาคนรับรางวัลกลับดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย   (ทำไมเขาต้องไปสังเกตอิทธิพลมากมายขนาดนั้นก็ไม่รู้สิ...)



         นึกย้อนกลับไปแล้ว  ทำไมอิทธิพลถึงไม่เข้ามาในชีวิตของเขาเหมือนอย่างคนอื่นๆปกติทั่วไป   ไม่อย่างนั้นมิตรภาพของเราคงจะดีกว่านี้ แต่ตอนนี้จากเกลียดอิทธิพลมาก กลับเป็นเพียงแค่เกลียดน้อยเท่านั้น  แต่ไม่มีวันที่ร่างบางจะลืมชื่อ และวีรกรรมของคนคนนี้ไปได้หรอก ไม่ทางเลยจริงๆ 




“น้องคะ พี่วานหน่อย เอาดอกไม้ไปให้น้องอิทที  พี่ปวดฉี่มาก ช่วยหน่อยนะ”

              กระเทยนางหนึ่งแทนตัวเองว่าพี่  ยื่นมือมาสะกิดหลังเต้ยพร้อมบอกความต้องการ   ร่างบางได้แต่รับดอกไม้มาอย่างงงๆ แต่ก็ต้องจำใจเดินเอาไปให้คนหล่อบนเวทีอยู่ดี



       ตอนนี้เตชานุเป็นคนเดียวที่กำลังเดินเข้าไปหา อิทธิพล ไม่แปลกที่จะตกเป็นเป้าสายตาได้ง่ายๆ  หนุ่มหล่อว่าที่...ตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัย กำลังเดินยิ้มเข้ามาหาหนุ่มน้อยหน้าเนียนใส แถมน่ารักมาก  เสียงโห่ร้องกลับตะโกนดังขึ้นกว่าเดิมอีก จนเต้ยรู้สึกตื่นเต้นและประหม่ามากทีเดียว 



“มีคนเอามาให้” เต้ยกระซิบบอก พร้อมกับยื่นดอกไม้ไปให้


“ของมึงเองก็บอกมาเถอะ ยินดีกับกู...ไม่ตายวันนี้หรอกน่า” อิทยิ้มให้


“รีบๆหยิบไปสิ  คนร้องโห่ดังขึ้นเรื่อยๆแล้ว อายเขา” เต้ยเปรยบอก


“แต่กูไม่อาย”  อิทธิพลรับดอกไม้ไป  แล้วเดินกลับไปที่ไมค์กลางเวที  เสียงร้องยังคงดังตะโกนแซวไม่หมด จนเต้ยแปลกใจ ก่อนจะตัดสินใจหันกลับไปมองร่างสูงบนเวทีอีกครั้ง   กลับพบว่าอิทธิพลจ้องมองมาที่เขาอย่างไม่ละสายตาทีเดียว เตชานุกำลังลุ้นว่าอิทธิพลคิดจะทำอะไรกันแน่...



“ขอเสียงปรบมือให้กับช่อดอกไม้ของแฟนผมเมื่อครู่ด้วยครับ”


“!!!” เตชานุดวงตาเบิกโพง อิทธิพลพูดคำนั้นออกจากไมค์ว่าอะไรนะ?




กรี๊ดดดดดด อร้ายยยยยยยย  


             เสียงร้องนั้นดังตะโกนมาหนักกว่าเดิม จนในหอประชุมไม่เป็นอันจะอยู่แล้ว อิทธิพลยิ้มอ่อนให้กับบริรักษ์ที่ออกมาดูอยู่บนเวทีอย่างท้าทาย   บอลจำใจต้องยืนนิ่งไว้ ทั้งที่ในใจอยากจะต่อยหน้าตำแหย่งเดือนมหาวิทยาลัยนัก แต่หากมีเรื่องราวทะเลาะชกตีกันในเวลานี้ไม่เป็นผลดีแน่!!!



:L2:

มาต่อแล้วววจ้า  ไม่ว่างจริงช่วง   :o12: :o12: :o12:  อย่าเพิ่งลืมนิยายเรื่องนี้น้าทุกค้นนน  :call: :call:

ตอนนี้อธิบายคำพูดเยอะไปนิด ทนๆอ่านหน่อยน้า   :mew2: :mew2: :mew2:

พ่อหนุ่มคนเลว เวลาจะรุกความรัก ก็ทำได้ดีนะเออ เอาสิ ประกาศออกไมค์เลยจ้า คนดูเป็นหมื่น  น้องเต้ยก็ต้องอายเป็นะรรมดา..

ส่วนคุณชายบอล  คนแต่งจัดให้แล้วนะ คนดีย่อมได้ดี  แต่ไม่ได้เต้ยนะ (เคมีเข้ากันไหมน้อกับรุ่นพี่แชมป์) แกล้งกันไปแกล้งกัน

มา เดี๋ยวก็ได้กันแน่ๆ ฮึฮึ  :hao3: :hao3:

เดี๋ยวมาลงให้อีกที วันเสาร์น้า  รักสุดๆ  อย่างอนน้า รอนิดนึงนาจา 




ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
แล้วจะหยุดทำร้ายกันเมื่อไหร่ ..

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ชอบอิท ตอนนี้นะ  :laugh:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ onewanneverdie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เต้ยเหมาะกับบอลมากกว่านะ ส่วนอิทควรมาเป็นผัวเรา  :z1::z1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
จะเชียร์บอล

คงเชียร์ไม่ขึ้นซินะ

ขนาดนักเขียนลำเอียงไปทางอิทขนาดนี้

ทำไงไดอิทเป็นพระเอกของเรื่องอะน้อ

แต่อิททำตัวดีๆให้สมกับเป็นพระเอกหน่อยได้ไหม

ออฟไลน์ astxy_original

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1: ปักหมุดรอเลย อิอิ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
อยากไปอยู่ในเหตุการณ์

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
บอลกับพี่แชมป์ ใครจะรุกจะรับล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
พึ่งเข้ามาอ่านรวดเดียวจบน้ำตานองเลยกับเรื่องนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เสียงปรบมือช่อดอกไม้แฟน555

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 14



            หลังจากจบม่านการแสดงของดาวเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์  ร่างสูงพาหญิงสาวคู่การแสดงเดินกลับเข้าไปหลังเวที โดยไม่ทันได้รู้ตัวว่าเตชานุเดินตามเข้าไปด้วย สีหน้าคร่าตัวดูโกรธเกรี้ยวสุดเกินทน เพียงร่างบางเดินจนถึงจวนตัวอิทธิพล กลับทำสิ่งที่ไม่คาดคิดเกินขึ้น...


ผัวะ!!!


               เสียงหมัดของเตชานุซัดเข้าแก้มขาวข้างซ้ายของอิทธิพลทันที  ทุกคนรอบข้างต่างพากันตกตะลึง ไม่ต่างอะไรจากคนถูกกระทำเวลานี้ เขากำลังทำตาโตตกใจ กับสิ่งที่เต้ยกระทำไม่น้อยเลย


 “เต้ย! ต่อยกูทำไม กูทำอะไรผิด?” อิทธิพลร้องถามเสียงหงอย ใบหน้าไม่เข้าใจชัดเจน


“ยังมีหน้ามาถามอีกนะ? ประกาศออกสื่อไปแบบนั้น สนุกนักหรือไง!!!” เตชานุตวาดเสียงดังลั่น



            ส่วนด้านหน้าเวทีตอนนี้ บริรักษ์ไม่มีทางรับรู้เรื่องนี้ เพราะเขากำลังแสดงความสามารถพิเศษคณะแพทยศาสตร์อยู่


“ที่กูพูดไป...กูจริงจังมากนะ”


ผัวะ!!!

            เต้ยทนฟังคำพูดยืนยันนั้นอีกครั้งจากเจ้าตัวไม่ได้ สิ่งที่เขากลัวที่สุด อิทธิพลกลับเอาไปประกาศต่อคนภายนอก คนนับจำนวนไม่ได้มากมายนั้น เขาไม่มีวันให้อภัยร่างสูงแน่


“อย่าเอาคำพูดทุเรศๆแบบนั้นมาเป็นข้ออ้าง ยิ่งมึงทำแบบนี้ กูยิ่งเกลียดมึง เกลียด กูเกลียดมึง ได้ยินมั้ย!!!”


           ร่างบางแผดเสียงตะโกนใส่หน้าร่างสูงอย่างดัง ตอนนี้ตัวของเขากำลังโกรธจนตัวสั่นเทา ก่อนจะหันหลังวิ่งออกไปจากที่ตรงนี้ไปทันที ทิ้งไว้แต่เสียงเรียกรั้งของอิทธิพลเปรยตามมา


“เต้ย! กูขอโทษ เดี่ยวก่อน เต้ย!...” อิทธิพลร้อนรนใจ เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้เต้ยโกรธเขาเป็นฟืนเป็นไฟมากกว่าการทารุณร่างกายเสียอีก


“น้องอิท!!! จะไปไหนคะ ไปไม่ได้นะ ต้องอยู่จนจบงานก่อน” กระเทยพี่เลี้ยงเข้ามารั้งตัวไว้ทันหน้าตาตื่น


“พี่ครับ ผมจะกลับมาทันโชว์รวมตัวแน่ๆ ให้ผมตามไปอธิบายแฟนผมก่อนเถอะนะ”


“แฟนหรอฮ้า? ทำไมทะเลาะกันเหมือนไม่ใช่แฟนเลย” รุ่นพี่ทำสีหน้าไม่อยากเชื่อนัก


“ตอนนี้เป็นว่าที่...อยู่ครับ ผมสัญญานะพี่  ผมจะกลับมาทันแน่นอน พี่ไม่ต้องห่วง ให้ผมไปเถอะ”


“เออๆ ไปเถอะ รีบๆกลับมานะ เดี๋ยวเจ้จะได้ดูแผลที่ปากให้” เธอพูดราวกับเป็นห่วง


“ครับพี่”


                 บาดแผลที่ถูกชกตอนนี้ไม่จำเป็นและสำคัญเท่ากับเขาต้องตามร่างของเตชานุไปให้ทัน หมอนั่นในสายตาอิทตอนนี้  เขาเห็นเต้ยเป็นแฟนจริงๆ  ไมได้คิดจะทำให้เสียใจจนโกรธตัวสั่นขนาดนั้นแม้แต่น้อย

...

...

...

               ร่างสูงวิ่งตามออกมา เดาใจเอาว่าเต้ยต้องวิ่งผ่านมาทางนี้ ไม่นานเขาก็เหมือนจะเหลือบเห็นหลังของร่างบางอยู่ไม่ไกลแล้ว ถึงแม้ด้านนอกหอประชุมจะมืดมิดก็ตาม



               เต้ยวิ่งมาหยุดอยู่ที่ริมสระบัวของคณะเกษตรศาสตร์ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหอประชุมเท่าไหร่นัก แต่ในสถานที่แบบนี้ เวลานี้ มันช่างเงียบเสียงเสียเหลือเกิน ผู้คนคงไปรวมกระจุกกันในหอประชุมกันหมดแล้ว


“ฮึก ฮึก ฮืออออ นายทำให้เราเสียใจอีกแล้ว นายผิดสัญญา...” เตชานุร่ำไห้กับสระบัวตรงหน้า ราวกับสถานที่นั้นเป็นเพื่อนเขาในเวลานี้ นึกไปถึงสิ่งที่เขียนบอกไว้ในหระดาษทีไร ยิ่งเจ็บใจทุกที คำพูดของอิทธิพลไม่น่าเชื่อถือเลยซักนิด


“มาอยู่นี่เอง” เสียงทุ้มเปรยเบาๆข้างหลังเต้ย



          เตชานุสะดุ้งโหย่งกับการตามมาของคนที่เขาเกลียดและไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด ทำไมยิ่งหนีไปไกลมากเท่าไหร่กลับยิ่งไม่เป็นผลกับคนคนนี้เลย


“ไปให้พ้น กูเกลียดมึง เกลียดขี้หน้ามึงมาก ได้ยินมั้ย อิท ได้ยินมั้ย!!!”



หมับ พรึบ!!!


          ร่างสูงตวัดเข้าที่เอวบางนั้นก่อนจะดึงเข้ามากอดไว้แน่น ก่อนที่อีกฝ่ายจะไหวตัวหันมาเล่นงานเขาอีก บอกตามตรงเห็นหมัดของเต้ยเล็กๆแบบนั้น แต่พอได้ลิ้มลองแล้วเจ็บใช่น้อยซะทีไหนกัน


“ปล่อยยยยยยย ปล่อยเดี่ยวนี้อิท!”


“ชู้วววววว อย่าตะโกนเต้ย กูไม่ยอมให้มึง  เป็นบ้าเหมือนคราวที่แล้วหรอกนะ ที่กูตามมาเพราะเป็นห่วง และอยากอธิบาย”


“ไม่ต้องมาเป็นห่วง ฮึก ฮึก กูไม่อยากได้ยินอะไรออกจากปากมึงอีกแล้ว คนผิดสัญญา”


“ใครจะไปรู้ว่าความรู้สึกที่แท้จริงจากปากกู จะทำให้มึงเป็นบ้าได้ขนาดนี้ ”


“ไม่จริงหรอก มึงแค่สร้างภาพ อัพเกรดคะแนนเสียงให้ตัวเองได้ตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยต่างหากอิท!”


“กูไม่...โถ่เอ้ยเต้ย  ทำมึงคิดแบบนั้นวะ”


“เพราะกูรู้สันดานมึงไง! ”


“ไปกันใหญ่แล้ว ตำแหน่งอะไรนั่นกูไม่อยากได้ แต่ถ้าตำแหน่งเจ้าหัวใจมึง กูต้องการมาก ชัดเจนไหมเต้ย”


“กูไม่จำเป็นต้องตอบมึง ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”


“ปล่อยก็ได้ แต่มึงสัญญากูนะว่าจะไม่วิ่งหนีกูไป”


“มึงไม่มีสิทธิ์มาต่อรองอะไรกูทั้งนั้น ปล่อย!” เต้ยเปรยเสียงเย็น และแผ่วเบากว่าเดิม



           อิทธิพลได้ยินคำสั่งที่ดูเหมือนต้องทำตามนั้น เขาจำเป็นต้องปล่อย แม้จะขัดใจเขามากนักก็ตาม ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายร่างบางคนที่เขาโอบกอดอยู่นี้ จะมีอิทธิพลต่อตัวเขามากมายเหลือเกินในปัจจุบัน


“ทำยังไงมึงถึงจะหายโกรธกู สิ่งที่กูพูดไป กูตั้งใจจะบอกอย่างนั้นจริงๆนะ”


             ร่างสูงชวนคุย หลังจากปล่อยตัวเต้ยให้เป็นอิสระ และดูเหมือนเต้ยไม่คิดเดินหนีไปไหน แต่กำลังค่อยๆหย่อนตัวลงไปนั่งติดพื้นหญ้า มองดูสระบัวในเวลายามราตรี


               เขาหย่อนตัวลงนั่งตามร่างบาง แต่เป็นท่านั่งชันเข่า ใบหน้าหันไปมองอีกฝ่ายตลอดเวลา



“ใจคอมึง ต้องการให้กูตายไปจากโลกใบนี้ก่อนใช่ไหม ถึงจะเลิกยุ่งกับกูซักที”


“อย่าพูดแบบนั้นนะเต้ย ชีวิตมึงมีค่าสำหรับกูมาก ” ร่างบางได้ยินประโยคนั้นกลับส่ายหน้าเบาๆ


“ไม่หรอก มึงหลอกตัวเอง ว่ามึงชอบกูเพื่อชดใช้และรู้สึกผิดกับกู คนอย่างมึงไม่มีทางชอบกูได้หรอก”


“ทำไมมึงคิดแบบนั้นเต้ย กูยอมเปลี่ยนตัวเองทุกอย่างเพื่อมึงนะ แต่ดูมึงสิ มึงกลับไม่เปลี่ยนเลย”


“ใครว่าล่ะ กูเปลี่ยนไปก่อนมึงอีก กูเปลี่ยนไปตั้งแต่มึงทำอุบาท ใจต่ำทรามใส่กูตั้งแต่วันแรกในห้องน้ำของโรงเรียนโยธินฯแล้ว
ต่างหาก”


             เตชานุพูดเสียงเบา เหมือนตอนนี้ความโกรธเขาลดลงไปแล้ว แต่กำลังนึกถึงภาพอดีตวันวานอยู่


“กูบอกมึงแล้วใช่ไหม เมื่อไหร่ที่มึงเจ็บกูก็เจ็บด้วย เจ็บตรงนี้เต้ย ที่ใจของกูนี่ ” อิทธิพลชี้ที่อกซ้าย


“กูทนฟังมึงพร่ำเพ้อบอกรักมามากพอแล้ว ต่อไปนี้มึงไม่ต้องเจียดตัวมาใกล้กูจะดีที่สุด กูจะมีความสุขมากอิท  หากมึงไม่คิดทำตามคำพูดกู ก็เห็นแก่สิ่งที่มึงบรรจงตัวหนังสือไว้ในกระดาษแผ่นนั้นด้วย”


“เต้ย กูก็ทำแล้วไง กูทำได้แค่สองสัปดาห์ กูก็จะลงแดงตายอยู่แล้ว กูอยากเห็นหน้ามึง อยากอยู่ใกล้มึงมากขนาดไหนมึงรู้ไหม?”


“ไม่รู้...และไม่อยากรับรู้ด้วย ยิ่งกูอยู่ใกล้มึงมากเท่าไหร่ ความรู้สึกแย่ๆที่กูกลัวที่สุดในชีวิตก็ยิ่งปรากฏชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น พอทีเถอะนะอิท!”


“มึงกลัวคนอื่นรับรู้หรอ ว่ามึงไม่ใช่ผู้ชาย” อิทธิพลเปรยถามตรงๆ


“กูเป็นผู้ชาย!!! อย่าไปเที่ยวพร่ำบอกใครอีกว่ากูชอบผู้ชายด้วยกัน ตราบใดที่กูยังไม่มีเรือนร่างเป็นหญิง จำเอาไว้” เตชานุลุกขึ้นยืนทันทีด้วยความหงุดหงิดใจอีกครั้ง


“มึงจะไปไหน?”


“กลับหอพัก”


“กลับเข้าไปหอประชุมเถอะ มึงกลับหอคนเดียวกูเป็นห่วง” เสียงของอิทแสดงความรู้สึกชัดเจน


“ทำไมกูต้องกลับไปหอประชุม” ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาต้องพูดรั้งอีกคนเอาไว้ให้ได้ หากเต้ยกลับหอตอนนี้ทั้ง
ความมืดและความเปล่าเปลี่ยว เขากลัวอีกคนไม่ปลอดภัย


“อย่างน้อยๆก็ไปให้กำลังใจ ไอ้บอล เพื่อนของมึงไงเต้ย” ร่างสูงหวังเพียงว่าวาจานี้จะสำเร็จ


“บอล! นี่เราลืมไปเลย เราพลาดการแสดงของบอลไปได้ยังไง?”


“ดูมึงแคร์มันมากเลยนะ” อิทธิพลไม่วายประชดน้อยใจ


“ก็แหงล่ะ เขาเป็นคนดี ไม่เคยทำให้กูต้องเสียใจ เสียดายเนอะถ้ากูเป็นผู้หญิงกูจะเป็นแฟนกับบอลให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ”


“อย่าพูดแบบนั้นนะเต้ยกูรู้สึกไม่ดี”


“ก็ช่างมึงสิ  กูจำเป็นต้องทำตามคำพูดมึงไหม”


“สรุปคือมึงเบื่อหน่ายและรังเกียจกูมากใช่ไหมเต้ย” ร่างสูงสุดทนแล้วเช่นกันที่เห็นความไม่ใยดีเลย


“รู้ตัวด้วยหรออิท นึกว่าชาตินี้เราจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วซะอีก”


“กูจะบอกมึงเอาไว้ตรงนี้เลยนะ ว่าถ้าหากมึงอยากให้กูเลิกยุ่งกับมึง เมื่อนั้นกูต้องไม่มีลมหายใจแล้วเท่านั้น จำเอาไว้เต้ย”


“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็ตายๆไปซะสิอิท กูจะได้มีอิสระ กูอยากได้มาก!”


“มึงอยากให้กูตายมากใช่ไหมเต้ย!”


“ใช่ ไปตายๆได้ก็ดี ถ้ากูจะได้อิสระคืนมา กูเบื่อ กูรำคาญ กูหงุดหงิดมึงที่สุด!!! ” เตชานุยืนกราน


“แม่งเอ้ย!!!”


     อิทธิพลสบถคำพูดออกมาอย่างไม่พอใจ เขาวิ่งไปซัดหมัดหนักๆนั้นกับต้นไม้ที่ใกล้ที่สุด เสียงดังชัดเจน


ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!......


“อิท จะทำอะไร พอได้แล้ว”


“...”

ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!......


“อิท! เราบอกให้หยุด ไม่ได้ยินหรือไง”


“มึงอยากให้กูตายไม่ใช่หรอ มึงบอกกูอีกทีซิเต้ย กูจะไปตายอย่างที่มึงบอกให้ดู”


ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!......


“บ้าไปแล้วหรือไง ชอบนักหรอทำตามคำสั่งของเราเนี่ย หยุดได้แล้ว เลือดไหลใหญ่แล้วอิท” น้ำเลือดสีแดงฉาน ถึงแม้เวลานี้จะมองเห็นสีนั้นไม่ชัดก็ตาม แต่สัญชาตญาณของเต้ยมันบอกอย่างนั้น


ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!............


“เป็นห่วงกูด้วยหรอ ไม่ใช่หรอก กูรู้ มึงเป็นห่วงแต่ไอ้คุณชายนั่นคนเดียวนั่นแหละ”


ปัก!!! ตุ๊บ!! ปัก!!! ตุ๊บ!!!......



หมับ



“อิท!!! พอแล้วเลือดไหลใหญ่แล้ว หยุดเถอะนะขอร้องล่ะ” ร่างบางไม่ไหวจะทนดูอีกต่อไป รีบวิ่งเข้าไปคว้าหมัดนั้นเอาไว้ แม้จะไม่มีแรงมากพอเท่ากับอีกฝ่ายก็ตาม ซึ่งก็ได้ไม่ได้ช่วยให้อิทหยุดชกต้นไม้ได้


“ฮึก ฮึก...”



       เสียงร้องไห้นี้เป็นเสียงใครกัน ไม่ใช่เขาแน่ๆ เตชานุมองดูดีๆที่ใบหน้าหล่อเหลาในความมืดสลัวนั้น อิทธิพลกำลังร้องไห้ นั่นร่างสูงร้องไห้ต่อหน้าเขาครั้งแรก อิทธิพลกำลังเจ็บมือหรือยังไง? หรือว่า...เขากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ทำไมคนที่ดูเข้มแข็งกลับมาอ่อนแอเอาดื้อๆในตอนนี้กันนะ



“อิท พอแล้ว ถ้าไม่หยุดเราจะเกลียดนายไปจนตายเลยคอยดู!!”


พรึบ!!!

           อิทธิพลหยุดชะงักมือ ทันทีที่คำพูดของร่างบางตะโกนขึ้นมา  น้ำใสๆไหลรินอาบแก้ม มีเพียงเสียงร่ำไห้เบาๆพอให้ได้ยิน


             ตอนนี้เต้ยไม่ได้คิดสงสาร แต่เขากำลังสมเพศอยู่ต่างหาก ทำไมอิทธิพลต้องมาเสียเวลากับคนอย่างเขาด้วย ทั้งๆที่ผู้หญิงอีกมากมายยังรอคอยเขาอยู่จำนวนไม่น้อย



“ฮึก ฮึก มึงจะเกลียดกูจริงๆหรอเต้ย กูเสียใจมากนะ ฮึก ฮึก” อะไรกัน อิทธิพลเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เชียวหรือ จากเสือไว้ลาย ตอนนี้เป็นเพียงลูกแมวเหมียวที่คอยตามใจเจ้านายไปเสียได้



“นายหยุดชกแล้ว เราคงไม่เกลียดหรอก ไหนให้เราดูแผลหน่อยซิ”


     ร่างสูงยืนร้องไห้ต่อหน้าอีกคน และยอมให้เต้ยดูแผลที่มือด้วย  เขาไม่รู้หรอกว่าแผลที่ชกต้นไม้นั้นจะเป็นยังไง จะมีเลือดไหลแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาดีใจที่สุดแล้วที่เต้ยไม่เกลียดเขาไปตลอดชีวิต


“อยากให้มึงเป็นห่วงกูแบบนี้ตลอดไปจัง ฮึก ฮึก” อิทธิพลพูดด้วยความอ่อนหวานปนสะอื้น


“เราบอกแล้วไง ว่าทำอย่างนั้นไม่ได้ เราต้องแต่งงาน ต้องมีลูกมีเมีย”


“แล้วทำไมคุณอาประทวนพ่อของมึง ยัดเยียดมึงให้ไอ้คุณชายนั่นได้ ไอ้บอลมันก็ผู้ชายนะเต้ย”


“นายรู้เรื่องด้วยหรอ?”


“รู้สิ รู้มาตลอดหนึ่งปีที่ไม่เจอมึงเลย พ่อกูเล่าให้กูฟังตลอด เวลาไปประชุมงาน ประชุมธุรกิจกัน พ่อมึงก็ชอบพูดเรื่องมึงกับบอลตลอดเวลา ทำไมล่ะเต้ย ให้โอกาสกูบ้างไมได้หรอ?”


“เห็นเราสนิทและอยู่ใกล้ชิดบอลมากขนาดนั้น เราก็ไมได้คิดมากเกินเลยเหมือนที่พ่อต้องการให้เป็นหรอกนะ” คำตอบนั้นทำให้
คนเจ็บมือยิ้มแฉ่ง ลืมความเสียใจไปหมด


“แสดงว่าหัวใจมึงไม่มีใคร ใช่ไหม?”


“ยังไม่มี แล้วก็ไม่ใช่นายด้วย อย่าฝันหวาน” อิทธิพลหน้าหงอยไป


“เต้ย!”


“หืม? ว่าไง”


“ถึงมึงจะไม่ได้รู้สึกเหมือนที่กูรู้สึก แต่กูขอร้อง มึงอย่าสั่งให้กูไปตายอีกนะ เวลาที่มึงสั่งกู เหมือนกูถูกมนต์สะกด กูต้องทำตามมึงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้ามึงคิดว่ากูโง่มาก ก็ขอให้รู้เอาไว้อย่างเดียวว่ากูยอมโง่เพื่อมึง”


“คราวนี้เห็นฤทธิ์ของความรักรึยัง คมดาบอีกฝั่งของความรักมันไม่ได้สวยงามเสมอไปหรอกนะ รู้แบบนี้นายก็หยุดรักเราเถอะ”


“กูหยุดมันไม่ได้แล้วล่ะ เพราะหัวใจกูตอนนี้มีแต่มึง ทำไมเราสองคนไม่ทำให้คมดาบความรักอีกด้านหนึ่งให้ปรากฏชัดเจนขึ้นมาล่ะ แล้วตอนนั้นความรักมันจะสวยงามใช่น้อยเลยนะเต้ย”


        อิทธิพลกำลังจะเอื้อมมือขึ้นมาลูบหัวเต้ย แต่กลับถูกรั้งเอาไว้ก่อน


“อย่าเอามือมาลูบหัวเด็ดขาดนะ”


“โอเค กูจะไม่ทำแบบนั้น อะไรที่มึงไม่ชอบกูจะไม่ทำแล้วจริงๆ”


“ชวนคุยมาตั้งนานไม่คิดจะเป็นห่วงแผลตัวเองบ้างรึไงอิท?”


“มีคนที่กูรักดูแผลให้แบบนี้ ยาไหนๆก็ไม่วิเศษเท่านี้อีกแล้ว” อิทธิพลยิ้มให้


“อย่ามาชวนแหวะแถวนี้ เราไม่ชอบ และไม่คิดจะชอบด้วย”


“เดี๋ยวมึงก็หลงกู กูเชื่อ”


“เอาอะไรมาการันตี”


“เสียงกรี๊ด เสียงเชียร์ของคนในหอประชุมไง?”

“เขาโห่ร้อง ไม่ชอบขี้หน้าเราซะมากกว่า ใครๆก็อยากได้นาย เรารู้หรอกน่า”


“แต่โปรโมชันนี้กูเปิดรับแต่มึงคนเดียวเลยนะ มึงไม้อยากเป็นแฟนกูบ้างหรอ ตกลงเป็นแฟนกูนเถอะนะเต้ย”


“อย่ามาโยงเข้าเรื่องให้เสียเวลาหน่อยเลยอิท! บอกว่าไม่คือไม่สิ ถ้าไม่หยุดพูดเรื่องนี้ เราจะเซอไพร์นายแน่ จะมาดิ้นอกแตกตายทีหลัง เราไม่รู้ด้วยนะ”


“เซอไพร์? จะทำอะไรเต้ย ห้ามไปรักผู้ชายคนไหนนะ กูไม่ยอมจริงๆด้วย”


“นายนึกไม่ถึงแน่ๆ ถ้าไม่หยุดพูดเรื่องนี้”


“ขู่ซะกูกลัวเลยนะ ไม่เป็นไร กูไม่พูดเรื่องนี้ก็พอใช่ไหม แต่กูมีสิทธิ์อยู่ใกล้ๆมึงได้ใช่ไหม?”


“หยุดพูดเรื่องนี้ซักทีอิท กลับไปทำแผลก่อนเถอะ”


“ไม่เอา กูไม่อยากไปทำตอนนี้ ตอบกูมาก่อนสิ นะๆๆๆๆ”


“ไม่!!! ถ้าไม่ไปทำแผลตอนนี้ เราไม่ตอบอะไรทั้งนั้น”


“มึงพูดเองแล้วนะ”


“!!!”



หมับ!!! พรวดดดด  ร่างสูงยิ้มร่าสีหน้าสดใส คว้าจับมืออีกคนได้ ก็พาวิ่งกลับไปที่หอประชุมทันที


               พอเข้ามาถึงด้านใน การแสดงของคณะแพทยศาสตร์จบลงไปได้สักพักแล้ว บอลนั่งอยู่เก้าอี้ด้านหลังเวที ดวงตาเบิกโพงทันทีเมื่อเห็นว่าอิทธิพลเดินกลับมาพร้อมเตชานุ


“เต้ย!!!”


“พี่ๆครับ ผมกลับมาแล้วครับ” อิทธิพลร้องบอกทีมงาน


“กรี๊ดดดดดดด มือน้องอิทเป็นอะไรคะ เลือดไหลใหญ่เลย”


“ฮ่าๆๆ ไม่ไหลแล้วครับ มันเป็นแค่คราบเลือด” คนตัวดีมองมือตัวเอง ไม่คิดจะเป็นห่วงตัวเองซักนิดเดียว


“ไม่ได้ๆ มาทำแผลก่อนเร็วๆเข้า” กระเทยคนเดิมเข้ามาจัดแจงดูแลอย่างดี เพราะเวลาหลังจากนี้จะมีการขึ้นไปโชว์ตัวรวมกัน
และประกาศผลรางวัลให้ทุกคนได้รับรู้


“เต้ยไปไหนมา ทำไมได้มากับมัน” บอลเดินเข้ามาถามทันทีพร้อมกับมองดูฝ่ามือสองคนที่จับกันเอาไว้


“เอ่อ...คือ” เต้ยไม่รู้จะตอบอะไรได้แค่แกะมืออีกฝ่ายออก แต่ยิ่งแกะก็เหมือนอิทยิ่งกำแน่นกว่าเดิม


“อิท ปล่อยมือเราก่อน เราเจ็บ!”



           คนตัวสูงหายใจฟึดฟัดราวกับไม่พอใจนิดๆ แต่ก็เป็นห่วงเตชานุมากกว่า ตอนนี้คงต้องจำใจปล่อยให้เต้ยอยู่กับบอลไปก่อนสินะ มารหัวใจจริงๆเลย


“ฮึฮึ” อิทธิพลมองหน้าคุณชายอย่างหาเรื่อง


“หัวเราะอะไรของแกฮะอิท!” บอลถามกลับอย่างไม่พอใจ


“อิท! ไปทำแผลได้แล้วไป อย่ามานักเลงแถวนี้”


 คำพูดของร่างบางได้ผล อิทธิพลค่อยๆเดินผ่านหน้าบอลไปช้าๆ จนกระทั่งไปนั่งทำแผลกับพี่กระเทยคนนั้น


“เรารู้ว่าบอลจะถามอะไร แต่เอาไว้ไปถึงห้องก่อนเถอะนะ เราจะเล่าให้ฟังละเอียดเลย ตอนนี้ เต้ยต้องออกไปนั่งให้กำลังใจบอล
แล้วล่ะ รอบโชว์ตัวทำหน้าหล่อๆเข้าไว้ เต้ยไปแล้ว...”



“บอลเชื่อใจเต้ยนะ” ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่สีหน้าและภายในจิตใจคุณชายไม่เป็นอย่างนั้นเลย เขาต้องรอเพียงเวลาเท่านั้น เวลาที่จะกลับถึงห้อง เพื่อรอเต้ยอธิบายให้ฟัง ไม่อย่างนั้นเขาคงนอนไม่หลับคืนนี้แน่


:L2:



มาต่อแล้ววววววว  เดี๋ยวพายุเข้าต้องรีบอัพ รีบปิดคอม  ขอบคุณทุกเม้น วันอังคารเจอกันนะ

ปล.ตอนนี้ อิทธิพล ผีเข้าหรอ?  ช่วงนี้ให้เต้ยเอาคืนบ้างเถอะนะ



 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
อิทเปลี่ยนไป๋  :hao7:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เปลี่ยไปมากจริงๆจากสัตว์มาเป็นคนเลย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ loveice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ตอนที่ 15



“คนแบบนั้นเชื่อคำพูดไม่ได้หรอกนะเต้ย เชื่อบอลสักครั้งเถอะนะครับ”


        เสียงขัดแย้งปนเป็นห่วงเปรยขึ้นทันทีหลังจากได้ฟังร่างบางอธิบายเรื่องราวจนหมดสิ้น เมื่อกลับมาถึงหอในเวลาเที่ยงคืน


“แต่เต้ยสงสารเขา เขาอาจจะตายเพียงเพราะคำพูดของเต้ย” เตชานุทำเสียงเห็นใจ


“ไอ้โรคจิตแบบนั้น ปล่อยๆมันตายไปเลยเต้ย อย่าไปแคร์มันเลย” บริรักษ์หงุดหงิด แต่ยังคงเก็บอารมณ์ได้ดี


“เราก็อยากทำแบบนั้น แต่อิทเขาพูดจริงทำจริงนะ เต้ยไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งให้เขาต้องไปตาย”


“โตขนาดนั้นแล้ว คิดเรื่องง่ายๆแค่นี้ไม่ได้อีก  บอลว่ามันเกินไปนะเต้ย อีกอย่างถ้าเต้ยอ่อนแอ แถมเห็นใจให้มันแบบนี้ คราวหลัง
มันอยากได้อะไร ไม่ใช่ต้องตีหน้าซื่อให้เต้ยสงสารอยูเรื่อยๆหรอ?”




           คุณชายบอลพูดมามันก็น่าคิด แต่ร่างสูงใหญ่นี้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เหมือนเขา ไมได้เห็นว่าอิทธิพลเป็นยังไงเวลาเสียใจหรือซื่อสัตย์ในคำสั่งของเขาจริงๆ ตอนนี้เขาเหมือนผูกติดชีวิตอิทธิพลไปครึ่งตัวก็ว่าได้ จะทำอะไรคิดอะไร ไม่ใช่เพียงแต่ทำตามอำเภอใจตัวเอง แต่ต้องรอบคอบคิดให้ถี่ถ้วนนึกถึงอิทธิพลด้วย



             เกิดหมอนั่นคลั่งเสียใจขึ้นมาจริงๆ แล้วตายไป คนที่มีส่วนผิดในจิตใจก็คือเขา บางทียอมลดกำแพง ลดทิฐิลงบ้าง อาจไม่ต้องเหลือศูนย์ แต่ขอให้อิทธิพลมีชีวิตอยู่ต่อไปมันจะดีไม่น้อยไม่ใช่หรือ เพราะอนาคตเราไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่เขาคิดว่าอิทธิพลไม่ทำ แต่กลับทำขึ้นมา เมื่อถึงตอนนั้นคงแก้ไขอะไรไมได้อีกแล้ว



“บอล คิดว่าสงสารอิทเถอะนะ ถ้าสมมติอิทป่วยทางจิตจริงๆ มันก็ดีไม่ใช่หรอ อย่างน้อย เต้ยก็เป็นคนเยียวยาทำให้เขาอยู่ต่อไปได้”



“แต่ถ้ามันไมได้เป็นโรคจิต แต่แกล้งทำเพื่อหลอกให้เต้ยเปิดทางยอมให้มันเข้าใกล้ล่ะครับ เต้ยจะทำยังไง”


“ก็คงจะต้องขับไล่เขาไปจากชีวิตเต้ย”


“แต่ที่ผ่านมาเต้ยไม่เคยทำสำเร็จเลยนะครับ”


“คือเต้ย...” เตชานุกำลังเอ่ยปากจะอธิบายต่อแต่ดูเหมือนว่าบริรักษ์ไม่ยอมท่าเดียว


“เอาอย่างนี้บอลจะไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง อายุ 19 ปีแล้ว มันน่าจะคิดอะไรเองเป็นได้แล้ว ไม่ใช่คิดแต่เรื่องตัวเอง แถมพลอยให้
คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย  บอลไม่ยอมหรอก”



“บอล แต่นี่ดึกมากแล้วนะ ไปวันใหม่เถอะ”


“แล้วบอลจะกลับมานะครับเต้ย ล็อกประตูด้วยนะ ใครมาไม่ต้องเปิด ยกเว้นที่ต้อมเท่านั้น”


“แต่ว่า....”



แอดดดด ปัง!!! เรือนร่างกำยำผิวสีเข้ม เปิดและปิดประตูห้องอย่างรวดเร็วไม่ฟังคำพูดของเต้ย เขาออกไปทำตามสิ่งที่คิดว่าควรทำ เขาไม่เชื่อหรอกว่าอิทธิพลจะเป็นพวกโรคจิต แถมเสแสร้งให้เต้ยใจอ่อนอยู่เรื่อย แต่เต้ยนี่ก็กระไรอยู่ ไม่เคยใจแข็งเลยซักที หรือว่า...ร่างบางแอบคิดอะไรอยู่  ตอนนี้บอลกลัวที่สุดคือ เต้ยจะเริ่มรักอิทเข้าแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น เขาคงไม่มีสิทธิ์คาดหวังอะไรอีกต่อไป...



           เขาต้องรีบไปให้ถึงที่พักของไอ้หนุ่มเดือนมหาวิทยาลัยเสียแต่ตอนนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะไปกันใหญ่ เพราะมันคนเดียวจริงๆ ทุกจึงอย่างเลยเถิดมาถึงทุกวันนี้




ก๊อกๆๆๆ ก๊อกๆๆๆ          


          เสียงประตูห้องพักของเต้ยดังขึ้น ชายหนุ่มกำลังนั่งเล่นโน๊ตบุ๊คอยู่ ตกใจวาบ บริรักษ์เพิ่งจะสั่งไปหยกๆว่าห้ามเปิดประตูให้ใคร ยกเว้นก็แต่ต้อม  พี่ชายของเขาเท่านั้น


“ใครครับ!!!” เขาตะโกนถามกลับไป


“กูเองเต้ย” เสียงเรียบปนดีใจของใครบางคน ที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใครนั้น กำลังยืนอยู่หน้าประตูห้องเขา


“นะ..นายมาทำไปอีก นี่ดึกแล้วนะ”


“กู...กูไม่เห็นมึงมาดีใจกับตำแหน่งเดือนมหา’ลัยเลย ทำไมมึงรีบกลับนักล่ะ”


“ระ..เราก็ต้องกลับพร้อมบอลสิ บอลพากลับตอนไหนก็คือตอนนั้น” เต้ยอธิบายไป


“เต้ย เปิดประตูให้กูหน่อยได้ไหม?”


“ไม่ได้หรอก ถ้าบอลมาเห็นเข้า นายซวยแน่ รีบกลับไปซะ”


“กูรู้ว่าบอลมันไม่อยู่ในห้อง มันเพิ่งออกจากหอไปเมื่อกี้นี้”


“เอ่อ!!!...”  ร่างบางอึกอัก ไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาปฏิเสธอีกฝ่าย


“บอลไปซื้อของ เดี๋ยวก็คงกลับ นายรีบๆไปซะนะ เราขอร้อง”


“แต่กูอยากเห็นหน้ามึง อยากกอดมึงอ่ะ” ร่างสูงสุดหล่อ ยังคงดื้อดึงไม่ยอมลดละ


“กลับไปเถอะอิท ดึกมากแล้ว เราอยากพักผ่อน”


“ถ้ามึงไม่เปิด  กูจะพังประตูเชี่ยนี่เข้าไปแน่”



ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ


     แย่แล้ว ทำไมพูดเร็วทำเร็วแบบนี้ เตชานุมีความรู้สึกอยากจะหายตัวไปจากโลกนี้จริงๆ ถ้าไม่เปิด ประตูคงจะพังจริงๆ แถมเพื่อนห้องข้างๆก็คงจะออกมาด่าเขาด้วยความรำคาญแน่ๆ


“อะ...โอเคๆ อิท หยุดถีบประตูได้แล้วจะเปิดให้เดี๋ยวนี้แหละ”



                ร่างบางเดินไปเปิดประตูให้ หนุ่มร่างสูงปรากฏอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก็ทำตัวแบบนี้ จะไม่ให้ใครคิดว่าเป็นโรคจิตหรือป่วยทางสมองได้ยังไง


พรวดดดด  ปัง แกร๊ก!!!


         อิทธิพลถลาตัวเข้ามาข้างในห้องอย่างรวดเร็ว พร้อมกับล็อคกลอนประตูเรียบร้อย แต่ถึงยังไงร่างสูงนี้ก็ดูน่าหวาดกลัวในสายตาของเต้ยเสมอ


“เราไม่เข้าใจนายเลยจริงๆทำไม...”


จ๊วบบบบบบ 



            อิทธิพลก้มลงไปจูบปากอีกคนทันทีที่เข้ามาถึง ทำไมเขาถึงเร่งรีบอะไรขนาดนั้น เต้ยตั้งตัวไม่ทันเลยจริงๆ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าลิ้นอุ่นของร่างสูงกำลังพยายามเข้าไปสำรวจภายในช่องปาก แต่...เต้ยไม่ยอมให้สิ่งนั้นเข้าไปสำรวจได้สำเร็จหรอก!



พรึบ!

อิทธิพลละปากออก หลังจากทำไม่สำเร็จ พร้อมกับขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ในสิ่งที่เตชานุขัดขืน


“เต้ย ทำไมมึงยังขัดขืนกูอยู่ล่ะ”


เพี๊ยะ!!! เต้ยประทับฝ่ามือลงแก้มคนตรงหน้าไปหนึ่งที เพราะเริ่มทนไม่ไหวแล้ว


“อย่ามาพูดจาเหลวไหลนะอิท เราให้นายอยู่ใกล้เราได้  แต่ไม่ใช่ทำเรื่องแบบนี้ได้”

“ทำไมล่ะ ก็เราเป็นแฟนกันไม่ใช่หรอ? ผัวเมียอยู่ด้วยกัน ก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา”


“พูดจาหยาบคายอีกแล้วนะ ไหนนายบอกจะเปลี่ยนตัวเองไง แล้วนี่ทำไม...”


“อย่าเล่นตัวให้มากนักนะเต้ย กูอดทนและรอมึงมานานเกินที่กูจะทนแล้ว กูคืออิทธิพล นฤบดินทร์ ไม่เคยยอมทำตามใคร มึงเอง
ก็เหมือนกัน ”



“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” เตชานุไม่เข้าใจในสิ่งที่ร่างสูงพูดเลยแม้แต่น้อย


“ก็หมายความว่า ที่กูยอมเปลี่ยนตัวเองก็เพื่อ....สิ่งนี้ เท่านั้น”



    เต้ยตาลุกวาว เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาลิ้นเลียริมฝีปากล่างของตัวเอง ดวงตาคู่คมดูหื่นกามารมณ์อย่างที่สุด สองมือหนาค่อยๆเปลื้องผ้าตัวเองออกทีละชิ้นทีละชิ้น


“อิท...อย่าทำแบบนี้”


“ถ้าไม่ให้กูทำแบบนี้ แล้วคนรักกันเขาทำแบบไหน บอกกูทีเต้ย”


“เราไม่ได้รักนาย เราเกลียดนายเช้าใจไหม?”


“เกลียดกูมากสินะ ทำไมวะเต้ย กูลงทุนทำทุกอย่างหวังสำเร็จ แต่นี่อะไรกัน น้ำเย็นก็แล้ว น้ำร้อนก็ยิ่งไปกันใหญ่ ไหนๆคืนนี้แม่
งกูพิสูจน์กันไปเลยว่ากูกับมึง ใครมันจะบ้าไปก่อนกัน”



“อย่านะอิท....”


“พูดอย่างกับเคยห้ามกูได้อย่างนั้นแหละ ฮึฮึ”



         อิทธิพลก้าวสามขุมเข้ามาหาเต้ยช้าๆ พร้อมกับเรือนร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่า รูปร่างที่ดูดีอยู่แล้ว แต่พักหลังมานี้ยิ่งดูดีไปอีก เพราะต้องดูแลตัวเองเพื่อขึ้นแข่งประกวดดาวเดือน  แต่ทุกอย่างที่พรรณนาไปทั้งหมด ตอนนี้ไมได้ช่วยให้เต้ยพิศวาทเพื่อกลบความกลัวไปได้เลยแม้แต่น้อย




ปัก!!!  แผ่นหลังบางเดินถอยก้าวไปจนชนติดผนังห้องอีกฝั่งเป็นที่เรียบร้อย อิทธิพลก้าวสามขุมเอามือหนา อ้อมดักข้างซ้ายขวาเอาไว้ ใบหน้าของเขาสองคนห่างกันไม่ถึงสามเซนติเมตร ลมหายใจอุ่นๆของอิทธิพลรดลงมาที่สันจมูกของเต้ย เวลาแบบนี้เขาอยากภาวนาให้บอลกลับมาเร็วๆจังเลย



“อิท!!! ขอร้องล่ะอย่าทำอะไรแบบนี้”


“ผัวจะทำให้มีความสุข ไม่มีเมียคนไหนปฏิเสธหรอกนะ”


“ก็เราไมได้เป็นเมียนายไงอิท ทำไมชอบคิดเองเออเองแบบนี้”


“ก็เพราะโลกนี้มันง่าย ง่ายทุกอย่างสำหรับอิทธิพล นฤบดินทร์ เหมือนตอนนี้ที่กูอยากได้มึง กูก็ต้องได้”


“!!!”


พรวดดดด  หมับ


            ชายหนุ่มหื่นกามรูดซิปกางเกงที่ใส่ขึ้นแสดงดาวเดือนลง พร้อมกับเจ้าโลกที่ผงาดออกมา มือหนาจับมือนุ่มเล็กนั่นให้จับสาวขึ้นลงทันที


“ไม่!!!   เราไม่ทำ ”


“ต้องทำ ทำสิ!!!” อิทธิพลบังคับข้อมือเล็กๆนั่นให้จับแล้วสาวขึ้นลงตามความต้องการ จากช้าเป็นเร็ว


                   ในตอนนี้เหมือนมีน้ำใสเหนียวบางอย่าง เบิกทางนำร่องไหลออกมาที่ปลายยอดแล้วด้วย



“อ่า....ซี๊ดดดดด อย่างนั้นแหละเต้ย”


            เต้ยไม่ตอบ ได้แต่หลับตาหนีไปทางอื่นทำตามที่อิทธิพลต้องการต่อไป ไม่มีครั้งไหนเลยหรือที่เขาจะชนะและเป็นฝ่ายได้เปรียบอิทธิพลบ้าง



“พอ!!!! กูยังไม่แตกตอนนี้” จู่ๆอิทก็เปรยห้าม


หมับ ผลัก!!!   คนตัวโตจับตัวคนตัวเล็กเหวี่ยงลงไปที่เตียงนอน อย่าถามว่าเจ็บไหม แต่น้ำตามันก็ไมได้ช่วยอะไรอยู่แล้ว  ในใจเต้ยอยากเข้มแข็งแต่เวลานี้มันกดดัน และเสียความรู้สึกมาก


            เขาอุตส่าห์หลงเชื่อและให้โอกาสคนคนนี้ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า ไม่มีอะไรที่คนคนนี้ทำออกมาจากใจได้แม้แต่นิดเดียว คนคนนี้ หวังเอาแต่ได้ แลพะเหมือนกบเขาโง่เหมือนควายเชื่องๆตัวหนึ่งเท่านั้น


“ฮึก! ฮึก !”


“อย่าร้องสิเต้ย น้ำตามึงมันทำให้กู...ชอบมากกกก!!! ฮึฮึ  อมเข้าไป จะได้หยุดร้อง”


คร๊อกกกก พรวดดดด

     อิทธิพลขึ้นคร่อม พร้อมกับจ่อเจ้าโลกยัดเข้าปากเตชานุทันที ร่างบางตาเหลือกลาน ทุรนทุราย ราวกับอยากอาเจียนออกมา  อิทธิพลกดเข้าไปลึกมาก มากเสียจนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำลงไปได้


พรึบบบ  พรวดดดดดด

             คนใจต่ำดึงเจ้าโลกออกมา หวังเพียงให้จังหวะอีกฝ่ายหายใจ ก่อนจะยัดเข้าไปให้ตามอำเภอใจ


“อ่า อ่า อ่า อ่า”



    ในความปรนเปรอสำเร็จความใคร่แต่เพียงฝ่ายเดียว แต่เตชานุกำลังน้ำตาตกใน นึกอยากจะร้องไห้ตะโกนออกมาแต่ทำไม่ได้


พรวดดดดด   อิทธิพลดึงมันออกมาอีก พร้อมกับจับตัวเต้ยที่เริ่มจะไม่ไหวนั้นพลิกกลับหลังทันที


“พลิกตัวสิ เร็วๆ อยากให้ไอ้คุณชายกลับมาเห็นสภาพนี้หรือไง กูบอกเลยว่ากูไม่อายหรอกนะ ฮึฮึ”


“อิท ฮือออ  อย่าทำแบบนี้เลยนะ ”


“กูเป็นใคร มึงเป็นเป็นใคร?  อย่าคิดมาอ้อนวอนกูเสียให้ยาก กูให้โอกาสมึงรักกูแล้ว มึงคงไม่ชอบอะไรที่มันนุ่มนวลใช่ไหมเต้ย มึงชอบแบบนี้ใช่ไหม!!! ถอดกางเกง เร็วๆ ”


“ฮือออออออ อย่า อย่าทำ ฮืออออ”



พรวดดดดดดดด อิทธิพลดึงกางเกงอีกฝ่ายลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยิ้มแสยะเมื่อเห็นถ้ำมังกรที่ปิดสนิทนั้น


“หายใจเข้าลึกนะที่รัก!!! ”


พรวดดดดดดดด


“โอ้ยยยยยยยยย ฮืออออออ อิท มันเจ็บ”


“เจ็บ เดี๋ยวก็ชิน หุบปากไปซะ”  มือหนาหยิบเอาผ้าใกล้มือยัดเข้าปากเตาชานุไป



          บั้นท้ายขยับเข้าออกมาตามจังหวะเร็ว และใช้แรงตามความเคยชิน แต่เตชานุ ไม่อาจทำใจชินได้สักครั้ง นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้เจอของสิ่งนี้กระแทกเข้าไป มันทรมานเหลือเกิน ยากที่จะแปรเปลี่ยนไปเป็นความสำราญ



“อ่า อ่า อ่า อ่า.......ซี๊ดดดดดดด  ดี ขมิบแรงๆหน่อย”


“ฮืออออออ ” เสียงอู้อี้ร้องไห้แทบไม่ล็อดลอดดังออกมาเลย  ร่างบางเอามือกำราวบนหัวเตียงนอนไว้แน่น เพื่อระบายความเจ็บนี้



     เขาทั้งเจ็บใจและเจ็บกายปางตาย อิทธิพลเคยเข้าใจเขาบ้างไหม ไม่มีใครช่วยเขาได้แล้วจริงๆ   เวลาดำเนินผ่านไปเนิ่นนาน จนกระทั่ง ของเหลวสกปรกจากคนใจต่ำช้าหลั่งไหลไปทั่วภายใน เต้ยรู้สึกร้อนวาบไปทั่วทั้งสะโพก อิทธิพลทำสำเร็จอีกครั้งแล้วสินะ



“อ่า.........เก่งมากเมียจ๋า”


อิทธิพลหมดแรง ถอนสิ่งนั้นออกจากแก่นกายของเตชานุ พร้อมกับลุกขึ้นไปแต่งตัวทันที


“กูไปก่อนนะ ถ้าอยากให้ผัวคนนี้รับผิดชอบ ก็บอกมาเลย สินสอดหมั้นพร้อม  เรือนหอพร้อม และหัวใจกูก็พร้อม อยู่ที่มึงแล้วเต้ย ว่าอยากเป็นแค่อีตัว  หรือเป็นเมียกู เลือกเอา ฮึฮึ”


พรึบ!!!


     เต้ยดึงผ้าปิดปากออกไป  ทั้งเหงื่อทั้งน้ำตาปะปนกันไปหมด คำพูดของอิทธิพลหวังเอาแต่ได้อย่างวเดียว ก็คนมันไม่ชอบแล้วจะให้ชอบได้ยังไง อีกอย่างจะให้เขาไปเป็นเมียอย่างเปิดเผยอย่างนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้เขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงเท่านั้น



“ฮึก ฮึก มันจะไม่มีวันนั้น หลังจากนี้ มึงเตรียมตัวให้ดี ความระยำที่ผ่านมา กูจะเอาคืนมึงให้สาสม”


“วู้วววววว กูกลัวววววจังเลยเต้ย รีบๆลงมือทำเข้าล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ  ผัวไปแล้วนะ”


ฟอดดดดดด อิทธิพลเดินเข้ามาหอมแก้มร่างบางอีกครั้ง


“ไอ้ทุเรศ มึงออกจากห้องกูไปเลย จะไปตายที่ไหนก็ไป กูหมดความสังเวทใจให้กับมึงเต็มทีแล้ว ไอ้เชี่ย!”


“ขอโทษที เกมเสแสร้งแกล้งเป็นคนดีของกูมันจบไปก่อนหน้านี้แล้ว ถึงมึงจะให้กูไปตาย กูก็คงไม่ไป อ้อๆๆ อยู่คนเดียวอย่าคิดสติแตกเป็นบ้าไปซะก่อนล่ะ  รอผัวน้อยมึงมาก่อนก็ได้ วันนี้กูใจดี ยอมให้มันทำ...แบบที่กูทำ อีกสักรอบก็ได้นะ”



“มึงเห็นกูเป็นอะไร ไอ้นรก (อ้างงงงงงงงงงงงงงง)”


“โอ้ย หนวกหูเว้ย อยากบ้าแม่งก็บ้าไปเลย สติแตกไปเลยก็ดี มีเมียเป็นบ้าคงจะดีเวลาโดน....ฮ่าๆๆๆๆ ไปแล้วนะที่รัก”



แอดดดดดดดด  ปัง!!!


“ฮืออออออออ  ไอ้เลว ไอ้สารเลว    ฮือออออออ  กูไม่เอามึงไว้อีกต่อไปแล้ว”


                เต้ย ลุกเดินกะเผกอย่างยากลำบาก ไปยังโต๊ะโน๊ตบุ๊ค เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรออกหาใครบางคนทันที ใครคนนั้นที่เขาคิดว่าจะช่วยเหลือในยามยากแบบนี้ได้


“ฮัลโหล น้องชาย ยังไม่นอนหรอ หืม”  เสียงอ่อนโยนปนขี้เล่นทุกครั้งของพี่ต้อมมันทำให้เต้ยรู้สึกอยากไปหาพี่ชายที่หอพักนอกมหาวิทยาลัยเลยในตอนนี้ ไปร้องไห้ปรับทุกข์ให้รู้แล้วรู้รอดไป 



“ฮือออออออ พี่ต้อม ไอ้อิทมันปล้ำเต้ยอีกแล้ว”


“ว่าไงนะ!!!เต้ยว่ามันปล้ำเต้ยหรอ  ไอ้สัตว์นรกเอ้ย  ตอนนี้มันอยู่ไหนเต้ย”


“มันออกไปจากห้องเต้ยเมื่อกี้ พี่ต้อมช่วยเต้ยด้วย อือออออ เต้ยไม่ไหวแล้ว”


“เต้ยใจเย็นๆ เดี๋ยวพี่ไปหาตอนนี้แหละ อย่าล็อคห้องนะคนดีของพี่”


“ครับ ฮืออออ”




:L2:


นี่มันด้านมืดของเซ็กส์ชัดๆ  :sad4: :sad4:  บักห่าอิท!!!!  :katai1: :katai1: :katai1:  มะรึงแกล้งเป็นคนดีไปได้ยังไง

มะรึงเอาความรู้สึกเต้ยมาล้อเล่นแบบนี้ไมไ่ด้นะอิท โถ่ 

เดี๋ยวแต่งให้เต้ยเป็นบ้าไปจริงๆ มะรึงจะรู้สึก  :beat: :beat: :beat: :beat:  :z6: :z6: :z6: :z6:

คนแต่งน้ำตาไหลริน   :o12: :o12: กำลังจะดีแล้วเชียว บอกแล้วอิทธิพลมันจอมตอแหละ  :serius2: :serius2: :serius2:


วันเสาร์เจอกัน ไปทำงานแป๊บ(ไม่แป๊บนะหลายวันเลย ฮ่าๆๆๆ)



ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
อิอิท ชั้นอุตสาห์เชียร์แก ฮึ้ยยยยยยย  :z6:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อุตสาห์สงสารมึงอยู่ลึกๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
คราวนี้ลาขาดแน่ๆล่ะอิท

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด