ราคาฝัน #ตอนที่ 38 และ บทส่งท้าย หน้า 85 [22.12.2016/19:54:59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ราคาฝัน #ตอนที่ 38 และ บทส่งท้าย หน้า 85 [22.12.2016/19:54:59]  (อ่าน 762550 ครั้ง)

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ระยะยาว ชาติน่าจะมีปัญหาในการเปิดตัวมากกว่าจิน ด้วยสถานะทางสังคมที่สูงกว่า  น้องจินก็คงจะเฮิร์ตไม่เบาจากการนั้น // แอบติดตามระยะวัดรอยเท้า

ออฟไลน์ khunpisda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ให้รวามรู้สึกว่าเป็นนิยาย"เอื้อมถึง"ของแท้ ไม่ได้เวอร์โครตตต ไม่ได้อลังการล้านดวง รู้จักกันด้วยความเรียบง่าย รักกันด้วยความเรียบง่าย อยู่บนพื้นฐานของความจริงของสังคมที่ต้องรับ เหมือนอ่านแล้วได้ข้อคิดกับมาให้ตัวเอง สุดยอดเลยค่ะ มีกี่นิ้วยกให้ทุกนิ้วเลย o13 o13 o13 o13 o13
#ร้ากกกเลย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ 。Atlas

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
พี่ชาติมีความใจน้อยยย โอ๋น้าพี่ 555555
น้องจินนี่ก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเล้ยยย

แต่ฮาอิห้องข้าง ๆ พี่ชาติจะได้นอนกกน้องจินแล้วอยู่แล้วเชียว  :z3:

แต่ชอบการเอาหัวเข้าไปไถ ๆๆ ของจิน แลดูหมาน้อย  :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2016 07:57:32 โดย Summer Wine 。 。 ´ »

ออฟไลน์ akashita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่ชาติ...... คิดไรกะน้องอ่ะ!!!! หุหุ

ออฟไลน์ barbiehateken

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :katai2-1:สนุกจังเลยยยยย ชอบความค่อยๆกระดึ๊บๆเข้าหากันของสองคนนี้  :katai5:
เราฟิน คราวนี้พี่ชาติรู้ตัวเองละ แถมไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่ของพี่โก๋อีก หึ
รวยกว่าชนะค่ะ เอาใจช่วยพี่ชาติด้วยจ้าาาา

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
 :mew1:

ออฟไลน์ boworange

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
 :-[ พี่ชาติหายจ้อย.  :laugh:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ว้ายยยยย พี่ชาติ!!

ออฟไลน์ Kaikaaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วพี่ชาติ แต่เจออะไรมาเร้านิดหน่อยขอกลับห้องตัวเองแล้ว น่ารักอ่ะ  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ราคาฝัน #ตอนที่ 16 หน้า 16 [27.09.2016/17:50:18]
« ตอบ #549 เมื่อ: 30-09-2016 09:22:57 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ I-Icezz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้ยย น่ารักกกก :z1: o13

ออฟไลน์ B.L.Sniper

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +165/-4
ราคาฝัน # 17

   

...วันนี้จินดารับโทรศัพท์บ่อยเป็นพิเศษ...
   

“ขอบคุณมากค่ะน้องเบลล์...ไม่เลย ไม่ได้ไปฉลองที่ไหนเลย” นี่เป็นอีกครั้งที่จินดาต้องวางมือลงจากเมาส์คู่ใจเพื่อพูดคุยกับคนที่ติดต่อเข้ามา ซึ่งดูท่าว่าคู่สายส่วนมากจะเป็นผู้หญิงเสียด้วย “โอ๊ย ไม่ต้องซื้ออะไรมาให้หรอก แค่โทรฯมาพี่ก็ดีใจจะแย่แล้ว”
   

ใช้เวลาอยู่เพียงไม่นานสถาปนิกหนุ่มก็พูดคุยจนครบความ สมาร์ทโฟนเครื่องบางถูกกดวางสายและกลับลงมานอนแอ้งแม้งอยู่ข้างกายอีกครั้ง
   

“วันนี้มีคนโทรฯหาจินบ่อยจัง มีเรื่องอะไรพิเศษเหรือเปล่า?” ธีรชาติถามขึ้นมาทั้งที่สมาธิก็ยังคงวนเวียนอยู่กับโปรแกรมโฟโต้ช็อปบนหน้าจอแล็ปท็อปตรงหน้า
   

“วันนี้วันเกิดผม เพื่อนๆก็เลยโทรฯมาอวยพรกัน” คนถูกถามตอบออกมาด้วยท่าทางเหมือนไม่ยี่หระนัก “พี่ชาติรำคาญเสียงโทรศัพท์ใช่ไหม? ผมปิดเครื่องดีกว่า”
   

“ไม่ต้องๆ ไม่ได้รำคาญ แค่สงสัยก็เลยถาม...แล้วทำไมไม่บอกกันบ้าง? วันเกิดทั้งทีพี่จะได้พาไปฉลอง”
   

“ฉลองทำไม๊ วันเกิดก็วันธรรมดา โตแล้ว..เลิกตื่นเต้นแล้ว”
   

“จากสามร้อยหกสิบห้าวัน ยอมให้ตัวเองมีวันพิเศษสักหนึ่งวันจะเป็นอะไรไปเล่า?..พี่อายุสามสิบกว่าแล้วทุกวันนี้ยังตื่นเต้นกับวันเกิดอยู่เลย ทำงานหนักมาทั้งปี สปอยล์ตัวเองบ้างก็ไม่เลวนะ”
   

เมื่อได้ฟังดังนั้นจินดาก็หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเนิบช้า “ไว้ปีหน้าแล้วกัน ปีนี้งานเยอะ ขอทำงานก่อน”
.
.
.
“โอ๊ยยย...” จินดาฟุบหน้าลงกับโต๊ะก่อนจะขยับหน้าผากถูไถกับผิวไม้ขัดมันไปมาโดยไม่กลัวว่าการกระทำเช่นนั้นจะทิ้งร่องรอยไม่ชวนพิสมัยไว้บนใบหน้าอันหล่อเหลาของตนเลยสักนิด
   

เพียงเท่านั้นธีรชาติก็หันมาให้ความสนใจในทันที “เป็นอะไร? ปวดหัวเหรอ?”
   

“เปล่าพี่ คิดงานไม่ออก...หัวตัน”
   

“งั้นก็พักก่อน ไปดูทีวีไป...หรือไปเอากีต้าร์มาเล่นก็ได้”
   

“ไม่เอาอะ อยากคิดให้ออกเร็วๆ”
   

“ใช่ว่าต้องพรีเซ็นต์พรุ่งนี้มะรืนนี้สักหน่อย จะทู่ซี้เค้นสมองไปทำไม?”
   

“ไม่รู้แหละ อยากคิดให้ออกอะ” จินดากล่าวอย่างดื้อดึงพลางไถหัวกับพื้นโต๊ะอยู่ในท่าเดิมต่อไปเรื่อยๆ
   

ผู้บริหารคนดังหยุดมือลงจากทุกสิ่งที่กำลังทำอยู่ ชายหนุ่มหันมองคนข้างกายพลางปล่อยให้หัวได้ครุ่นคิดถึงบางสิ่งก่อนเพียงนาทีต่อมาเขาจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่าผิดตา “ไปข้างนอกกันจิน”
   

“หา?” คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง ข้อมือของเขาถูกอีกฝ่ายกระตุกให้ลุกตาม “ไปไหน?”
   

“มาเถอะ ไม่พาไปฆ่าหรอก”
   

ธีรชาติออกแรงฉุดให้จินดาที่ยังคงทำหน้ามึนไม่หายเคลื่อนตามเขาไปโดยไม่คิดฟังคำทัดทาน นักธุรกิจหนุ่มคว้าเอาข้าวของที่จำเป็นติดมือมาด้วยแล้วจึงลากพ่อสถาปนิกไฟแรงออกจากห้องไป
.
.
.
เมอร์เซเดส-เบนซ์เอสคลาสสีดำสนิทคันเดิมเลี้ยวเข้ามาจอดลงในคฤหาสน์หลังมหึมาย่านบางนา
   

ตอนนี้จินดาได้แต่ทำหน้าตาตื่นพลางหันซ้ายมองขวาสำรวจไปรอบบริเวณด้วยความไม่เข้าใจ เมื่อครู่ธีรชาติบอกว่าที่นี่คือบ้านของเขาเอง


‘บ้าน’ ที่เป็นบ้านจริงๆ ไม่ใช่คอนโดฯสำหรับใช้อยู่อาศัยเพื่อความสะดวกของการไปทำงาน
   

...ก็อลังการสมมาตรฐานอชิรญาอยู่ล่ะนะ...
   

...แต่เรื่องของเรื่องคือ...
   

...‘พากูมาทำไมวะเนี่ย?’...
   

“นี่ บอกสักทีเหอะว่าเรามาทำอะไรกันที่บ้านของพี่” จินดาเอ่ยถามออกมาเป็นรอบที่ร้อยพลางสาวเท้าตามผู้บริหารหนุ่มเข้าตัวบ้านไปด้วยความจำใจ หากแต่คนถูกถามก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงของเขาเลยสักนิด
   

...มันน่ากลัวเหมือนกันนะพอลองคิดดูว่าคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังคือเจ้าสัวจรัส พ่อของธีรชาติ...
   

...ยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าได้เจอกับคนยิ่งใหญ่ระดับนั้นจะต้องทำตัวยังไงดี...
   

...เกร็งตายชัก...
   

“คุณพ่อกับคุณแม่ล่ะ?” ลูกชายเจ้าสัวหันไปถามหาบุพการีกับแม่บ้านที่ตรงเข้ามาต้อนรับ
   

“คุณท่านกับคุณผู้หญิงกำลังดูหนังอยู่ที่ห้องโฮมเธียเตอร์ค่ะ”
   

“อ้าวเหรอ...ว่าจะพาเพื่อนเข้าไปสวัสดีสักหน่อย แต่ช่างเถอะ ไม่กวนดีกว่า” กล่าวจบธีรชาติก็หันกลับมาหาคนที่เขาลากมาด้วยกัน “งั้นจินไปนั่งรอพี่ที่ห้องรับแขก เดี๋ยวพี่มา”
   

“เฮ้ย แล้วพี่จะไปไหน?”
   

“ขอไปหยิบของบนห้องแป๊บเดียว”
   

“แป๊บเดียวจริงๆนะ?”
   

“จริง”
   

“ห้ามทิ้งผมไว้นานนะพี่”
   

“เออน่า รอไปเถอะ คนบ้านพี่ใจดีทุกคน” ว่าแล้วผู้บริหารหนุ่มก็ยักคิ้วให้จินดาไปเสียหนึ่งทีแล้วจึงผละจากไป
   

จินดาถูกแม่บ้านคนเมื่อครู่นำทางไปยังโซฟาชุดหลุยส์แบบที่เห็นได้บ่อยๆในละครหลังข่าว
   

ระหว่างการรอคอยชายหนุ่มก็ใช้เวลานี้กวาดสายตาสำรวจรายละเอียดของตัวบ้านไปเรื่อยตามนิสัยของสถาปนิก เขาไม่ถูกจริตกับการออกแบบตกแต่งในรูปแบบนี้เท่าใดนัก แต่ก็พอเข้าใจในรสนิยมของคนเป็นเจ้าของบ้านได้ไม่ยาก
   

“อ้าว มีแขกเหรอ?” ในตอนนั้นเอง สุ้มเสียงกังวาลชวนให้รู้สึกเกรงขามของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นเรียกความสนใจจากจินดาไป ชายหนุ่มหันมองหาที่มาตามสัญชาตญาณก่อนจะต้องเผลอเบิกตากว้างขึ้นน้อยๆเมื่อได้พบว่าใครกันที่เป็นเจ้าของเสียง
   

...เพราะเห็นจากข่าวอยู่บ่อยๆจึงจำหน้าตาได้เป็นอย่างดี...
   

...สองมือยกขึ้นประกบกันตรงหว่างอกโดยอัตโนมัติ...
   

“เพื่อนของคุณชาติค่ะ” แม่บ้านคนเดิมเป็นผู้กล่าวตอบขณะที่บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นก้าวเท้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
   

“อ้าว เจ้าชาติกลับบ้านเหรอวันนี้?”
   

“เห็นคุณชาติว่ากลับมาเอาของค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ห้อง”
   

จรัส อชิรญา เจ้าสัวผู้เป็นใหญ่แห่งอาณาจักรลิงเกอร์ฯตรง   เข้ามาหาชายหนุ่มหน้าอ่อนที่ตอนนี้กำลังยืนประนมมือพลางฉีกยิ้มอันแสนจะไม่เป็นธรรมชาติมาให้
   

“แปลกนะ ไม่เห็นเจ้าชาติพาเพื่อนมาบ้านนี้นานแล้ว” ประธานบริษัทผู้น่าเกรงขามรับไหว้จากจินดาก่อนจะหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หลุยส์ตัวที่อยู่ข้างๆกัน “เอ้า..นั่งลงสิ โซฟาก็อยู่ข้างหลัง จะยืนให้เมื่อยทำไม?”
   

“..อะ..ขอโทษครับ” สถาปนิกหนุ่มมีท่าทีเก้กังอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ในใจของเขาได้แต่ภาวนาให้ธีรชาติลงมาหากันสักที
   

...เกร็งจนตัวจะแข็งเป็นท่อนไม้ไปหมดแล้ว...
   

“ชื่ออะไร? ไม่คุ้นหน้าเลย”
   

“ผมชื่อจินดาครับ”
   

“แล้วเป็นลูกเต้าเหล่าใครล่ะ?”
   

“..อ..เอ่อ..พ่อแม่ผมอยู่ที่ลำปางครับ”
   

“อ๋อ ลูกพ่อเลี้ยงเหรอ? ที่บ้านทำอะไร? มีไร่? หรือทำเหมืองแร่?”
   

ลักษณะการพูดจาห้วนสั้นของอีกฝ่ายทำให้ตามไรหน้าผากและแผ่นหลังจากจินดาชื้นชุ่มไปด้วยเหงื่ออย่างช่วยไม่ได้ ทั้งที่ประโยคจากชายผู้นี้ไม่ได้ถูกเปล่งออกมาด้วยระดับเสียงที่ดังมากมายนัก แต่เขากลับรู้สึกว่าทุกถ้อยคำมันช่างฟังดูมีพลังเหลือเกิน
   

“คุณพ่อผมไม่ได้เป็นพ่อเลี้ยงหรือว่าเป็นคนใหญ่คนโตของจังหวัดหรอกครับ บ้านผมเปิดร้านขายเครื่องมือช่างเล็กๆอยู่ในตัวเมืองครับ”
   

เมื่อสิ้นสุดคำตอบของจินดา เจ้าสัวจรัสก็พยักหน้าลงเบาๆ ในแววตาลุ่มลึกฉายแววครุ่นคิด “แล้วไปสนิทสนมกับเจ้าชาติได้ยังไงล่ะ?”
   

“..ก็..ต้องติดต่อกันเรื่องงานอยู่บ่อยๆน่ะครับ คือผมเป็นสถาปนิกที่..”
   

ยังไม่ทันที่จินดาจะได้กล่าวจนจบประโยค ชายวัยกลางคนก็แทรกเสียงขึ้นมาโดยพลัน
   

“อ๋อ ที่ว่าจะออกแบบสำนักงานใหญ่แข่งกับคุณบุญฤทธิ์น่ะเหรอ?” ดูเหมือนว่าคราวนี้สีหน้าและน้ำเสียงของเจ้าสัวคนดังจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
   

ชายหนุ่มรู้สึกตกใจอยู่พอสมควรที่บุรุษตรงหน้ารับรู้เรื่องนี้ด้วย “อูย..อย่าใช้คำว่าแข่งเลยครับท่านเจ้าสัว ผมแค่มีไอเดียที่อยากนำเสนอเท่านั้นเอง..”
   

จรัสยกนิ้วชี้ขึ้นโบกไปมาตรงหน้าเบาๆ “เรียกว่าลุงเถอะพ่อหนุ่ม เจ้าสงเจ้าสัวอะไรนั่นเอาไว้ให้พวกนักข่าวเขาเรียกกันก็พอ เพื่อนเจ้าชาติก็เหมือนลูกเหมือนหลานนั่นแหละ นับญาติได้...รู้อะไรไหม? ลุงอยากเจอ ชื่ออะไรแล้วนะ? จินดาใช่ไหม? ลุงอยากเจอจินดามาสักพักแล้ว เจ้าชาติมันมาโฆษณาไว้ซะดิบดี”
   

“..โฆษณาเหรอครับ?..”
   

“ใช่ ก่อนหน้านี้ชาติมาคุยกับลุงจริงจังเชียวล่ะว่าอยากจะใช้ดีไซน์ของจินดามากกว่าของคุณบุญฤทธิ์ เอางานมาพรีเซ็นต์ให้ดูอย่างกับว่าตัวเองเป็นคนออกแบบ มันคงรู้ว่าถ้าลุงเห็นดีด้วยลุงก็คงไปช่วยพูดเชียร์กับพวกกรรมการบริษัทอีกแรง”
   

จบประโยคของชายวัยภูมิฐานจินดาก็เบิกตากว้างขึ้นทันที “..พ..พี่ชาติทำอย่างนั้นจริงหรือครับ?..”
   

“ก็จริงน่ะสิ”
   

“แล้ว...คุณลุงมีความคิดเห็นว่ายังไงบ้างครับ? หมายถึง..เกี่ยวกับงานของผม”
   

“อืม..ถ้าถามตรงๆลุงก็ขอตอบตรงๆนะ ตอนที่เจ้าชาติเอามาอธิบายให้ฟังลุงว่ามันก็น่าสนใจใช้ได้ ความคิดริเริ่มไม่เหมือนใคร เพียงแต่มันยังดูเพ้อฝันไปหน่อย อาจจะดูดีในจินตนาการ แต่นึกไม่ออกว่าพอสร้างจริงแล้วจะเป็นยังไง ไม่เหมือนงานของคุณบุญฤทธิ์ที่ถูกคิดมาละเอียดกว่าแล้วก็เป็นระบบกว่ากันเยอะ”
   

สิ่งที่ได้ฟังทำเอาสีหน้าของคนฟังเจื่อนลงไปถนัดตา
   

ฝ่ามืออุ่นหนาของเจ้าสัวผู้มั่งคั่งยื่นออกมาตบลงไปเบาๆที่บ่าของคนหนุ่ม “อย่าเพิ่งใจฝ่อๆ งานที่ลุงเห็นนั่นมันเมื่อเกือบๆสองเดือนที่แล้ว เจ้าชาติยังไม่ได้เอาความคืบหน้าล่าสุดมาโชว์ให้ดูเลย ลุงไม่รู้หรอกว่ามันพัฒนาไปถึงไหนแล้ว แต่เห็นว่าตอนนี้ก็มีผู้บริหารหลายคนเริ่มเห็นดีเห็นงามด้วยแล้วนี่ วันไหนว่างๆจินดาก็ลองเอางานมาอัพเดทให้ลุงฟังบ้างสิ”
   

“..ค..ครับผม..”
   

“แต่ว่าถ้าสุดท้ายไม่ได้งานนี้ก็ไม่ต้องเสียใจไปล่ะ คุณบุญฤทธิ์แกคร่ำหวอดในวงการมานานกว่าอายุของจินดาเสียอีกมั้ง รายนั้นเขาเก๋าเกม เรายังหนุ่มยังแน่น มีเวลาให้สร้างผลงานอีกเยอะ มาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว”
   

รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนเป็นผู้น้อย
   

...ที่จริงก็ใช่ว่าเขาไม่ได้เผื่อใจไว้เสียเมื่อไหร่...
   

...ตระหนักดีอยู่ตลอดเวลานั่นแหละว่าการลงแรงครั้งนี้อาจจะเป็นความพยายามที่สูญเปล่าก็ได้...
   

“ปกติเจ้าชาติน่ะไม่ใช่คนชอบเสียเวลากับเรื่องที่ไม่จำเป็นหรอก ภาระหน้าที่มันเยอะไปหมด ถ้าไม่ใช่เรื่องที่มันมองเห็นความสำคัญจริงๆก็คงไม่ยอมยุ่งตั้งแต่แรก...ดูท่าทางแล้วชาติคงจะถูกชะตากับจินดามากนะลุงว่า”
   

“ผมว่าเพราะพี่ชาติเป็นคนใจดีอยู่แล้วด้วยมั้งครับ ก็เลยให้ความช่วยเหลือ”
   

เจ้าสัวจรัสส่ายศีรษะทันทีที่ประโยคของคนรุ่นหลานจบลง “ไม่เลย เจ้าชาติน่ะรักสันโดษจะตาย ถึงแม้ดูภายนอกลูกชายลุงจะดูโอภาปราศรัยกับทุกคน แต่ก็ทำเพราะเป็นหน้าที่ อย่างว่าน่ะนะ จะดูแลธุรกิจสเกลนี้มันก็จำเป็นต้องใช้อัธยาศัยเข้าช่วย แต่กับช่วงนอกเวลางาน ลุงก็ไม่ค่อยเห็นมันสุงสิงกับใครเท่าไหร่หรอก ได้ยินจากเลขาฯเจ้าชาติว่าบางทีมันก็ไปช่วยงานจินดาด้วยไม่ใช่เหรอ? จนตอนนี้ลุงยังแปลกใจอยู่เลยเพราะเลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็ก ไม่เคยเห็นมันเจียดเวลาส่วนตัวไปยุ่งกับงานใครที่ไหน ถึงบอกไงว่าลุงอยากเจอตัวจินดามานานแล้ว อยากรู้ว่าทำไมถึงพิเศษกับเจ้าชาตินัก”
   

...พิเศษ...
   

คำสำคัญสองพยางค์นี้ดังชัดเจนที่สุดในบรรดาทุกถ้อยคำของชายตรงหน้า
   

จินดาหลุบตาลงมองหน้าตักด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นแวววูบไหวที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน
   

...อดรู้สึกแปลกๆขึ้นมาไม่ได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น...
   

“อ้าว สวัสดีครับคุณพ่อ เจอกับจินดาแล้วเหรอเนี่ย?” ในตอนนั้นเองคนที่กำลังถูกพูดถึงก็เดินกลับลงมาจากชั้นบนอีกครั้ง
   

สถาปนิกหนุ่มเงียบเสียงลงและปล่อยให้พ่อลูกได้คุยกันอีกครู่หนึ่ง ก่อนในที่สุดจะได้เวลาที่พวกเขาต้องออกจากที่นี่ไปเสียที
   

ชายหนุ่มทั้งสองร่ำลาเจ้าสัวจรัสด้วยท่าทีนอบน้อมแล้วจึงพากันเดินออกมาบริเวณโถงหน้าบ้านอีกครั้ง
   

เมอร์เซเดส-เบนซ์เอสคลาสสีดำสนิทไม่ได้จอดอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว
   

...ตอนนี้มันกำลังถูกแทนที่ด้วย...
   

“โอ้โห...บ็อกซเตอร์...” จินดาอุทานออกมาเป็นเสียงลมขณะไล่สายตาสำรวจไปทั่วรถยนต์คันงามตรงหน้าราวกับว่ามันเป็นหญิงสาวหุ่นสะโอดสะองสักนางก็ไม่ปาน
   

...พอร์ชบ็อกซเตอร์สีดำเงาวับเปล่งประกายกระแทกสายตาเขาอยู่ตรงนั้น...
   

สถาปนิกหนุ่มหันมองคนข้างกายด้วยสีหน้าซึ่งแสดงออกชัดเจนว่าบัดนี้ในหัวนั้นเต็มไปด้วยคำถาม
   

ธีรชาติกระตุกยิ้มมุมปากอวดความหล่อเหลาและไม่เอื้อนเอ่ยคำอธิบายใดๆ ผู้บริหารหนุ่มเจ้าของรถเพียงแต่เหวี่ยงหมุนพวงกุญแจในมือไปมาพลางบุ้ยใบ้ปลายคางส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายรีบเปิดประตูเข้าไปนั่งในห้องโดยสารเท่านั้น
   

“ทำไมถึงเปลี่ยนรถล่ะ?” จินดาเอ่ยถามขึ้นเมื่อประตูรถปิดลงไปเรียบร้อย เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มมาจากทางด้านหลังของตัวถังก้องเข้าไปถึงช่องว่างหลังซี่โครง
   

“เปลี่ยนบรรยากาศ” ผู้บริหารหนุ่มตอบเช่นนั้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูมีชีวิตชีวายิ่งกว่าครั้งใดก่อนจะกดปุ่มปรับให้หลังคาผ้าใบค่อยๆเลื่อนเปิดออกจนสายลมจากภายนอกพัดเข้ามาต้องผิวกาย
   

...แล้วเพียงเท่านั้นรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของคนถูกสปอยล์โดยพลัน...
   

“เฮ้ย! เปิดประทุนไปอี๊กกก!” จินดาร้องขึ้นเสียงดังขณะที่ใบหน้าก็แหงนตามการเคลื่อนไหวของหลังคาผ้าใบไปด้วย “เจ๋งโคตร...”
   

คันเร่งถูกปลายเท้าของผู้เป็นสารถีแตะเพียงเบาๆเพื่อพาให้รถคันสวยเคลื่อนตัวออกจากเขตคฤหาสน์ไป
   

“คืนนี้พี่อยากขับรถเล่น จินก็ใช้เวลานี้นั่งคิดงานไปแล้วกันนะ...จินคิดออกเมื่อไหร่พี่ค่อยกลับ”
   

“อื้อหือ...พูดจาอย่างกับเป็นเศรษฐีซาอุฯ ทำ’งั้นไม่เปลืองน้ำมันแย่เหรอพี่?”
   

“เอาน่า นานๆที ไม่เป็นไรหรอก..ถ้าทำให้จินคิดงานออกก็ถือว่าคุ้มแล้ว...”
.
.
.





 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2016 23:42:28 โดย B.L.Sniper »

ออฟไลน์ B.L.Sniper

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +165/-4
นักธุรกิจหนุ่มอมยิ้มไว้เต็มสองข้างแก้มขณะเหลือบสายตามองไปยังคนข้างกายที่ดูจะมีความสุขกว่าเมื่อสักสองชั่วโมงก่อนหน้านี้มากด้วยความรู้สึกอุ่นซ่านในอก
   

...ถือว่าคิดไม่ผิดจริงๆที่พาจินดาออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ...
   

ตอนนี้รถกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วระดับพอประมาณอยู่บนทางด่วนอันแสนโล่งตา เพราะเป็นเวลาเกือบๆห้าหุ่มแล้วคนทั้งคู่จึงไม่ต้องกลัวนักว่าจะต้องเผชิญกับควันจากท่อไอเสียของรถคันอื่นๆบนท้องถนน
   

ธีรชาติก็แค่พยายามคิดว่าสถานที่แบบไหนน่าจะเหมาะแก่การให้สถาปนิกไฟแรงสักคนได้นั่งทอดอารมณ์ยามสมองทึบตัน ซึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดที่พอจะนึกได้คือการพาออกมาชมสีสันของซิตี้สเคปยามค่ำคืนนี่เอง
   

...ตึกแท่งๆที่มีอยู่ทั่วกรุงเทพฯพวกนี้คงเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้จินดาได้บ้างไม่มากก็น้อย...
   

“เป็นยังไง? คิดออกบ้างไหม?”
   

“ไอเดียเริ่มมาแล้วพี่ พอออกมากินลมชมวิวแบบนี้แล้วหัวปลอดโปร่งขึ้นเยอะเลย” จินดากล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส บนหน้าตักของเขามีสมุดสเก็ทช์คู่ใจวางแผ่ไว้อยู่เพื่อรอการบันทึกความคิด
   

...สกายไลน์ของกรุงเทพฯดูน่าสนใจมากขึ้นทุกปี...
   

...ยังจำได้ว่าเมื่อครั้งยังเป็นเด็กนั้นหน้าตาของเมืองกรุงฯไม่เคยดึงดูดใจเขาได้มากเท่านี้ ผิดกับเมืองที่เจริญเร็วกว่าเราอย่างนิวยอร์กหรือโตเกียวที่ไม่ว่าจะกวาดสายตาไปทางไหนก็สามารถมองเห็นตึกรามบ้านช่องที่ดึงดูดใจได้จากทุกทิศทุกทาง...
   

...แต่ยิ่งนานวันเข้า กรุงเทพฯก็ยิ่งมีตึกเจ๋งๆถูกสร้างขึ้นมาประดับบารมีให้สมยศ ‘มหานคร’ มากขึ้นเรื่อยๆ...
   

...ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี...
   

จินดาฮัมเมโลดี้เพลงโปรดคลอเสียงลมหวีดหวิวออกจากลำคอเบาๆด้วยท่าทางสบายอารมณ์ ตอนนี้เขากำลังรู้สึกผ่อนคลายแบบที่ไม่ได้รู้สึกมาหลายวันแล้ว โปรเจ็คต์คอนโดฯลาดพร้าวที่บริษัทรับไว้ใกล้จะถึงวันไฟนอลเต็มทีในขณะที่งานของลิงเกอร์ฯเองก็กำลังเข้าสู่ระยะเข้มข้น ช่วงนี้ความกดดันที่อยู่ในใจจึงมีมากเป็นพิเศษ
   

แม้เมื่อสักครู่ธีรชาติจะบอกว่าอยากขับรถเล่น แต่กระนั้นจินดาก็พอรู้ว่าเจตนาที่แท้จริงของอีกฝ่ายคืออะไร
   

...ก็คงไม่พ้นอยากช่วยให้เขาสมองแล่น...
   

สถาปนิกหนุ่มลอบหันมองคนข้างกายที่กำลังมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการขับรถ
   

...โชคดี...
   

จินดารู้สึกเช่นนี้มาตลอดหลังจากได้เริ่มคลุกคลีกับผู้บริหารคนดัง เขาคิดว่าเขาโชคดีมากๆที่ได้มารู้จักกับมิตรสหายรายนี้
   

...ไม่ได้รู้สึกเพราะธีรชาติเป็นคนรวยหรือเป็นคนดัง...
   

...แต่รู้สึกเพราะธีรชาติเป็นคนที่เข้าใจและคอยให้การสนับสนุน...
   

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโพลจากหลายๆสำนักถึงได้ยกให้ผู้ชายคนนี้เป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ เพราะบางทีถ้าเขาเป็นผู้หญิง เขาก็คงเป็นอีกหนึ่งคนที่หวั่นไหวไปกับความอบอุ่นที่ธีรชาติมอบให้เช่นกัน
   

...สักวันหนึ่งธีรชาติจะกลายเป็นสามีที่เพียบพร้อมของผู้หญิงดีๆสักคน    ...กลายเป็นคุณพ่อที่น่ารักและพึ่งพาได้ทุกเมื่อของลูกๆ...
   

...กลายเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีที่สุดเท่าที่ใครจะหาได้...
   

...ภรรยาในอนาคตของธีรชาติคงถือได้ว่าโชคดียิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเสียอีก...
   

ลมหายใจห้วงเล็กๆถูกผ่อนออกจากปอดไปอย่างแผ่วเบาโดยที่ตัวจินดาเองก็ไม่ได้ตระหนักถึงสาเหตุของการทำเช่นนั้น ก่อนที่เพียงไม่กี่วินาทีถัดมาชายหนุ่มจะต้องสะดุ้งขึ้นจนสุดตัวเมื่อจู่ๆใบหน้าคมคายของอีกฝ่ายที่กำลังถูกเขาเหม่อมองอยู่นั้นก็หันมาหาโดยไม่เผื่อจังหวะให้ทันได้ตั้งตัว
   

ลูกตาดำขลับใต้กรอบเรียวรีอันเป็นเอกลักษณ์ส่ายลอกแลกเนื่องด้วยความตกใจอยู่ครู่แล้วจึงเบนหนีกลับไปมองทิวทัศน์นอกคันรถด้วยท่าทางที่ดูอย่างไรก็ไม่เป็นธรรมชาติ
   

...ตอนนี้หัวใจของจินดากำลังเต้นตุบตับ...
   

...ทั้งที่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำไมรู้สึกเหมือนถูกจับได้ก็ไม่รู้...
   

สถาปนิกหนุ่มผ่อนลมหายใจทิ้งไปอีกหนึ่งช่วงลมก่อนรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติอีกครั้ง
.
.
.
บ็อกซเตอร์เปิดประทุนคันงามเคลื่อนเข้ามาหยุดลงบริเวณลานกว้างอันแสนสงบเงียบริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างนิ่มนวล
   

...บรรลุเป้าหมายแล้ว...
   

เมื่อหน้าที่ของพลขับสิ้นสุดลงชั่วคราวธีรชาติก็หันหน้ามาหาคนที่ตอนนี้กำลังนั่งทำคอพับคออ่อนหลับตาพริ้มอยู่ข้างกายพร้อมด้วยรอยยิ้มเล็กๆทั้งบนริมฝีปากและในแววตา
   

เมื่อครู่ หลังจากจินดาบอกว่าคิดงานออกสมใจแล้วเขาก็ขับรถท่องเมืองต่ออีกสักพักใหญ่ๆ แล้วก็สงสัยว่าคงจะขับนิ่มเกินไปสักหน่อยหรือไม่อย่างนั้นก็เป็นเพราะลมในกรุงเทพฯวันนี้จัดว่าเย็นกำลังดี ผู้โดยสารเพียงหนึ่งเดียวของเขาถึงได้ผล็อยหลับไปอย่างที่เห็น
   

ผู้บริหารหนุ่มนั่งเท้าศอกอยู่กับพวงมาลัยพลางตั้งใจสำรวจใบหน้ายามหลับของอีกฝ่ายอยู่ในความเงียบ ทีแรกก็ตั้งใจจะหันมาปลุกอยู่หรอก แต่พอได้เห็นท่าทางแสนสบายแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าอยากประวิงเวลาเอาไว้อีกสักนิด
   

...บรรยากาศตอนนี้มันดีมากจริงๆ...
   

ชายหนุ่มยื่นฝ่ามืออุ่นหนาออกไปทาบลงบนผิวแก้มอ่อนใสของอีกฝ่ายไว้เพียงแผ่วเบา สัมผัสลื่นมือทำให้ก้อนเนื้อในอกของเขาบีบตัวถี่ระรัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้
   

...น่ารัก...
   

ยิ่งได้อยู่ใกล้...ธีรชาติก็ยิ่งรู้สึกว่าจินดาน่ารัก
   

ทั้งที่คำๆนี้ไม่ใช่คำคุณศัพท์ที่สมควรนำมาใช้บรรยายลักษณะของผู้ชายหน้าไหนเลย แต่เขาก็ยังอุตริจะใช้มันกับจินดาอยู่เรื่อยๆ และแม้ว่าจะเคยพยายามบอกให้ตัวเองหยุดคิดเช่นนี้ไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถสกัดกั้นใจได้สักที
   

นักธุรกิจหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากลำบากพลางขยับปลายนิ้วหัวแม่มือลูบไล้ไปกับผิวหน้าเนียนละเอียดของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง เสียงลมที่ดังกรอกหูมาตั้งแต่เมื่อครู่บัดนี้ถูกกลบด้วยเสียงหัวใจไปจนหมดสิ้น
   

...แล้วในที่สุดธีรชาติก็ต้านทานความปรารถนาลึกๆไว้ไม่อยู่อีกต่อไป...
   

ใบหน้าหล่อเหลาหันซ้ายหันขวาเพื่อสำรวจบริเวณโดยรอบอยู่ครู่ และเมื่อเห็นว่าในรัศมีที่ตามองเห็นนั้นไม่มีใครอื่นเขาจึงค่อยๆขยับกายเข้าหาคนที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวตามที่เคยนึกอยากทำมานาน
   

...กลีบปากสีเรื่อคือสิ่งเดียวที่อยู่ในสายตา...
   

ชายหนุ่มค่อยๆทาบทับริมฝีปากของตนลงไปอย่างอ่อนโยนด้วยกลัวเหลือเกินว่าการสัมผัสแสนล่วงล้ำครั้งนี้จะปลุกอีกฝ่ายให้ตื่นขึ้นจากห้วงนิทรา
   

...ความนุ่มหยุ่นจากจินดาส่งผลให้ความตระหนักรู้ทั้งปวงของธีรชาติดับวูบลงโดยพลัน...
   

...ประสาททั้งห้าที่ใช้รับรูป รส กลิ่น เสียงและเนื้อสัมผัสนั้นถูกคุณสถาปนิกคนดียึดครองไปจนหมด...
   

ลมหายใจของธีรชาติ จากที่เคยเป็นจังหวะสม่ำเสมอดีบัดนี้กลับสะดุดลงเป็นพักๆราวกับคนหายใจไม่เป็น แม้จะไม่ได้บดจูบ ไม่ได้แลกน้ำลาย แต่เพียงแค่แตะลงไปเบาๆแบบนี้ก็มากพอที่จะทำให้เลือดเร่งสูบฉีดหมุนเวียนไปทั่วร่างจนรู้สึกร้อนผะผ่าวได้อย่างง่ายดายแล้ว
   

...จินดาทำอะไรไว้กับเขานะถึงได้เป็นไปมากขนาดนี้...
   

แม้จะอยากอนุญาตให้ตัวเองค้างอิริยาบถไว้ในท่าทางแบบนี้นานขนาดไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วธีรชาติก็ต้องรีบถอนใบหน้าออกก่อนที่จินดาจะตื่นขึ้นมาพบว่ากำลังถูกเขาทำอะไร
   

ผู้บริหารทายาทตระกูลดังผละตัวออกมาพิงหัวลงกับพนักที่นั่งพลางหอบหายใจกอบโกยอากาศเข้าปอดด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนทั้งที่เมื่อสักครู่ก็แทบไม่ได้ออกแรงทำสิ่งใดเลย
   

...ในเมื่อมันชัดเจนขนาดนี้แล้ว เห็นทีเขาก็คงต้องยอมรับได้สักทีว่ารู้สึกอย่างไรกับจินดา...
   

เปลือกตาค่อยๆหย่อนตัวลงเป็นที่กำบังให้นัยน์ตาคู่คมได้แอบซ่อนอยู่ทางด้านหลัง
   

...เขาหวั่นไหว...
   

...ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ต้องยอมรับว่าตัวเองมีความรู้สึกพิเศษกับผู้ชายด้วยกันทั้งที่ตลอดช่วงชีวิตสามสิบกว่าปีที่ผ่านมาก็มองแต่ผู้หญิงมาโดยตลอด...
   

โดยปกติการตัดสินใจเริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครของธีรชาติมักมีขั้นมีตอนที่รอบคอบ ชายหนุ่มไม่ใช่คนจำพวกที่จะยอมปล่อยใจให้รู้สึกไปเรื่อยโดยที่ไม่รู้เหนือรู้ใต้ อย่างน้อยที่สุดก่อนที่จะลงลึกไปถึงนิสัยใจคอได้เขาก็ต้องศึกษาโปรไฟล์ของอีกฝ่ายมาเป็นอย่างดีเสียก่อน
   

...และกับกรณีนี้ โปรไฟล์ของจินดาก็ไม่ควรจะผ่านด่านเข้ามาได้ตั้งแต่เรื่องของเพศกำเนิดแล้ว...
   

...ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาสูญเสียการควบคุมตัวเองมากเท่ากับครั้งนี้เลยจริงๆ...
   

ธีรชาติลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อถึงเวลาอันสมควร หน้าปัดนาฬิกาบนคอนโซลรถบอกให้รู้ว่าอีกเพียงสองนาทีก็จะเที่ยงคืน
   

“จิน...” ชายหนุ่มเรียกชื่อคนข้างกายพลางยื่นมือออกไปเขย่าท่อนแขนปวกเปียกเบาๆ แล้วเพียงไม่นานจินดาก็ตื่นขึ้นจากห้วงนิทราตามที่หวังให้เป็น
   

สถาปนิกจอมขี้เซาแสดงอาการงัวเงียอยู่ครู่ แต่ทันทีที่สติสตังเริ่มไหลคืนสู่ร่างดวงตาเรียวรีอันแสนเป็นเอกลักษณ์ก็ต้องเบิกกว้างขึ้นหลังจากตระหนักได้ว่าตอนนี้รถคันหรูกำลังจอดอยู่ที่ใด “ฮึ่ยพี่..ขับบ็อกซเตอร์มาจอดที่เปลี่ยวๆแบบนี้เดี๋ยวก็โดนไอ้พวกดมกาวดักตีหัวหรอก..รีบปิดหลังคาเหอะ อันตราย”
   

“ไม่ต้องห่วง ตอนนี้พวกเราอยู่ในเขตรั้วบ้านญาติพี่เอง ข้างหน้ามีรปภ.เฝ้า” ผู้บริหารหนุ่มกล่าวพร้อมรอยยิ้มก่อนจะยกนิ้วขึ้นชี้ไปยังสะพานภูมิพลที่ทอดตัวข้ามน้ำอย่างสง่างามอยู่ตรงหน้า “พี่ตั้งใจพาจินแวะมาดูวิวก่อนกลับคอนโดฯ หันไปดูสิ สวยนะ”
   

เมื่อได้ยินดังนั้นจินดาก็หันไปตามคำของธีรชาติ นัยน์ตาดำขลับสะท้อนแสงสีของสะพานยามค่ำคืนจนเปล่งประกายชวนมอง
   

“สวยจริงๆด้วย...” นักออกหนุ่มรำพึงออกมาเสียงเบาแล้วจึงหยิบเอาโทรศัพท์คู่ใจออกมาถ่ายรูปทิวทัศน์ตรงหน้าเก็บไว้ด้วยท่าทางไม่รีบร้อนนัก แล้วในตอนที่ความสนใจของเขากำลังอยู่กับสรรพสิ่งนอกคันรถนั้นเอง กล่องขนาดเหมาะมือที่มีลวดลายกราฟฟิกดึงดูดสายตากล่องหนึ่งก็ถูกนักธุรกิจคนดังยื่นมาไว้ตรงหน้า
   

จินดาก้มมองกล่องปริศนาพลางกะพริบตาปริบๆก่อนที่เพียงครู่ต่อมาเขาจะหันกลับไปหาคนข้างกาย “อะไรอะพี่?”
   

“สุขสันต์วันเกิด”
   

“ฮะ!?..ข..ของขวัญเหรอครับ?”
   

คนถูกถามพยักหน้าลงน้อยๆ “ขอโทษที่รู้ช้าไปหน่อยเลยไม่มีเวลาไปซื้ออะไรให้ ของชิ้นนี้เป็นของที่พี่ซื้อเก็บไว้ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่อเมริกาแล้วแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ดูท่าทางมันน่าจะเหมาะกับจินมากกว่า ลองเปิดดูสิ”
   

จินดามีท่าทีตกใจไม่น้อยเมื่อได้ฟังถ้อยคำของคนใจดี เขารับกล่องที่ว่ามาเปิดดูของข้างในด้วยความรู้สึกประหลาดในอก
   

...แล้วนาฬิกาเรือนหนึ่งก็ปรากฏสู่สายตาในที่สุด...
   

...ยี่ห้อ FOSSIL...
   

...หน้าปัดดิจิตอลรูปทรงสี่เหลี่ยมของมันดูเรียบง่ายแต่ไม่น่าเบื่อ และแทนที่จะเป็นตัวเลขเหมือนนาฬิกาเรือนอื่นๆ สิ่งที่นาฬิกาเรือนนี้ใช้บอกเวลานั้นกลับเป็นตัวอักษรยึกยือที่ถูกเขียนด้วยลายมือของใครสักคนว่า ‘midnight’...
   

“ฟอสซิลรุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษ...” ธีรชาติเอ่ยคำขยายความขึ้นมาขณะที่สายตาจับจ้องไปยังสีหน้างงงันของคนข้างกายไปด้วย “...รู้หรือเปล่าว่าใครเป็นคนออกแบบ?”
   

จินดาเบนสายตาขึ้นมองผู้บริหารหนุ่มอีกครั้งก่อนจะส่ายศีรษะไปมาเบาๆ
   

“แฟรงก์ เกห์รี”
   

เพียงสิ้นคำตอบของธีรชาติ เครื่องหน้าแต่ละส่วนของคนฟังก็ขยับเปลี่ยนรูปเปลี่ยนรอยไปจากเดิมในทันที “จริงดิ!?”
   

“จริง ลายมือที่เห็นอยู่บนหน้าปัดนั่นก็ลายมือเขานะ”
   

“โห...” จินดาลากเสียงอุทานยาวนานหลายวินาที เขายกนาฬิกาเรือนที่ว่าพลิกดูให้ละเอียดกว่าเดิมด้วยความสนอกสนใจราวกับเด็กได้ของเล่นชิ้นโต
   

แฟรงก์ เกห์รีเป็นสถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหนึ่งของยุค ผลงานมาซเตอร์พีซหลายชิ้นของเกรตเต็กผู้นี้คือจุดหมายปลายทางที่จินดาใฝ่ฝันจะได้ไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต
   

...พอได้ถือผลงานการดีไซน์ของเกห์รีอยู่ในมือแบบนี้แล้วมันก็อดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้...
   

“จะว่าไปมันก็เหมือนของมือสอง เพราะพี่เคยใช้มาก่อนแล้ว...จินถือหรือเปล่า?”
   

“จะถือได้ยังไง...ที่จริงพี่ไม่จำเป็นต้องให้อะไรผมเลยด้วยซ้ำ แค่ที่พี่ช่วยผมทำงานแถมยังยอมให้ผมไปสิงคอนโดฯอยู่แทบทุกคืนแบบนี้ก็ถือเป็นบุญคุณมากแล้ว” จินดากล่าวเสียงแผ่วขณะก้มลงมองนาฬิกาเรือนสวยในมือ “นี่ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าพอจบโปรเจ็คต์จะตอบแทนพี่ยังไงดี...”
   

“...ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย แค่ทำตัวน่ารักๆแบบนี้ก็พอ...”
   

คำตอบของธีรชาติเรียกให้สถาปนิกหนุ่มต้องเงยหน้ากลับขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จังหวะของลมหายใจซึ่งเคยสม่ำเสมอจะต้องสะดุดลงทันใดเมื่อเขาได้พบว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาด้วยแววตาแบบไหน
   

...บางสิ่งที่เจืออยู่ในดวงตาคู่นั้นมันดูแปลกไป...
   

ความรู้สึกอุ่นร้อนบังเกิดขึ้นบริเวณสองข้างแก้มโดยที่จินดาก็ไม่สามารถตอบตัวเองได้ว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
   

คนทั้งสองสบตากันอยู่ในความเงียบนานหลายชั่วอึดใจ ระยะเวลาที่ยาวเกินจำเป็นนี้ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบกายดูประหลาดขึ้นทุกขณะ จนกระทั่งในที่สุดจินดาจะทานทนไม่ไหวและเป็นฝ่ายถอนสายตาหนีไปก่อน
   

สถาปนิกหนุ่มเม้มริมฝีปากเข้าหากันเบาๆด้วยหมายว่าการกระทำเช่นนี้จะช่วยระบายความประหม่าที่เกิดขึ้นมาอย่างผิดที่ผิดทางไปได้บ้าง
   

...หากแต่สิ่งที่ทำกลับสร้างคำถามข้อใหม่ขึ้นมาในหัวแทน...
   

เรียวคิ้วของจินดากระตุกเข้าหากันน้อยๆเมื่อรสชาติขมปร่าของกาแฟดำคือสิ่งที่ปลายลิ้นสัมผัสได้จากริมฝีปากของตัวเอง
   

...นึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าหลังจากอาหารมื้อเย็นเป็นต้นมาเขาไปแตะต้องกาแฟอีกเมื่อไหร่...
   

แล้วในตอนนั้นเอง หางตาของชายหนุ่มก็เหลือบไปสะดุดเข้ากับบางสิ่งได้อย่างถูกเวลาพอดิบพอดี
   

...กาแฟดำบรรจุกระป๋องที่ธีรชาติพกติดรถออกมาดื่มระหว่างทางถูกวางนิ่งอยู่ในช่องใส่แก้วหน้าคอนโซล...
   

จินดานั่งมองมันอยู่อย่างนั้นราวสองถึงสามวินาทีก่อนที่เขาจะค่อยๆดึงสายตากลับไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของคนข้างกายอีกครั้ง
   

...ระหว่างที่หลับไปเมื่อกี้มีอะไรเกิดขึ้นหรืออย่างไรหนอ?...
   

...จินตนาการไม่ออกจริงๆว่ารสกาแฟที่ธีรชาติเป็นคนดื่มนั้นมาติดอยู่บนริมฝีปากของเขาได้อย่างไร...
   

...หรือว่าเขาจะแค่อุปาทานไปเอง?...





TBC.




รายละเอียดรวมเล่มราคาฝัน ท่านใดสนใจลองเข้าไปดูกันนะคะ :

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57030.msg3540853#msg3540853



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2017 11:15:27 โดย B.L.Sniper »

ออฟไลน์ pim14

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
กรี๊สสสสส ในที่สุดอิพี่ชาติก็ตบะแตก น่ารักอะไรเบอร์นั้นเนี่ย นี่เป็นพระเอกหน้าใหม่ที่มาแรงที่สุดแห่งยุคเลยนะคะ ยิ่งอ่านยิ่งอินยิ่งฟินยิ่งลุ้น โอ๊ย น้องจินดาก็เริ่มจะหายซึนแล้ว เอาไงล่ะทีนี้ 555 ถ้าไปค้างคอนโดพี่ชาติรอบหน้า อะไรจะบังเกิดมั้ยเนี่ย หุหุ สายหื่นต้องมา ชอบอ่ะ ชอบทั้งนายเอกและพระเอก คือ ดีงามมาก สมควรได้กันด่วนค่ะ ฟันธง

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อ่าว ไม่เนียนเพราะกาแฟ 55555555555555

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
น้องจินก็แค่โดนแอบจูบน่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก ถ้าไม่เชื่อ รอบหน้าลองแกล้งหลับซิ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
น่ารักเกินไปแล้วนะพี่ชาติ รู้สึกกับจินมากมายขนาดนั้นเหมือนกับเด็กวัยรุ่นเริ่มรักเลย มีแอบจูบเขาด้วย

หนูจิน ลูก ภรรยาผู้โชคดีของพี่ชาติก็จะใครล่ะหนู โดนหมายตาไว้ขนาดนั้นแล้วนะลูก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2016 19:36:38 โดย หมอตัวเปียก »

ออฟไลน์ Rywzaki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หูยยยย พี่ชาติรุกหนักมาก
#พี่ชาติสายเปย์  #ทีมพี่ชาติ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หนูจินคิดไปเองค่ะ กาฟงกาแฟอะไร มะมี๊

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
จูบซ้ำเลยจิน ทดสอบรสชาติ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ราคาฝัน #ตอนที่ 17 หน้า 19 [30.09.2016/18:45:52]
« ตอบ #559 เมื่อ: 30-09-2016 19:23:55 »





ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เริ่มสงสัยแล้วค่ะ คุณชาติไม่เนียนเลย  เขินไปหมดแล้ว ดีต่อใจอะไรขนาดนี้  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
มโนเต็ใที่เลยลูก มันดีต่อใจทั้งนั้น ฮาาๆๆๆ ไหนๆก็มีหลักฐานยืนยัน ก็มโนให้สุดเหวี่ยงไปเลย  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ฟินไปไกลถึงหัวหินเลยคะ (อุ๊ป)

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านแล้วเขินอ่ะ ฮือ 5555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีพี่ชาติทำไรลงไป.  :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ Kio

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
กาแฟอะไรอะ ไม่มี้ไม่มีเนอะพี่ชาติ จินแค่อุปาทานไปเอ๊ง อยกกรู้ต้องลองแกล้งหลับดูนะ55555555555555

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
รักเรื่องนี้
เดินเรื่องไปซักพักคงมีอุปสรรคเกิดขึ้นอีกเยอะ แต่รู้สึกได้ถึงความมั่นคงในตัวพี่ชาติเลยไม่กังวลเท่าไหร่ มีแต่เจ้าจินนี่แหละที่จะขวัญหนีดีฝ่อไปซะก่อน

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โอ๊ยยยย ตายๆๆๆ พ่อเอ้ย แม่เอ้ยยยย มันละมุนดีต่อหัวใจเหลือเกิน อุ่นซ่านไปในอกจริงๆ  ภาษาสลวยสลวย ใช้คำกลมกล่อม อ่านแล้วต้องอมยิ้มลุ้นตามตอนที่...สัมผัสได้ ว่ารู้สึกขมที่ริมฝีปาก

พี่ชาติ พี่ชัดแล้วนะยูววววว กิ้วๆ ฮิ้วววววว

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ฟินมาก ๆ ค่ะ อ่านแล้วชุ่มชื่นหัวใจดีจัง

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ทำดีมาก กัปตันธีรชาติ แล่นเรือไปอย่าให้ความเร็วตก ทางนี้เดี๋ยวเราควบคุมให้เอง!!!! :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด