ภารกิจที่ 22 ♥ 2 : ทีละนิด"รู้กันใช่ไหม”
“อะไรครับ” เขียวหันไปมองคนพูด อดรู้สึกไม่ได้ว่าใบหน้าด้านข้างของอินทรีย์เวลาขับรถดูเท่ดี
“เรื่องโชแปง”
“พี่อินพูดถึงเรื่องไหนครับผมจะได้ตอบถูก” เขียวไม่คิดจะพูดออกไปก่อน ถามคลุมเครือแบบนี้ใครจะกล้าตอบ
“หึหึ พี่ชอบที่เราฉลาด”
“พี่อินพูดแบบนี้แปลว่าเคยคิดว่าผมโง่เหรอครับ” นอกจากจะทำเสียงเขียวสมชื่อแล้ว เขียวยังทำตาเขียวปั๊ดใส่คนตาพราวระยับ
ให้รู้ว่าเขากำลังไม่พอใจ
“พี่ก็ไม่โง่นะ ถึงจะดูไม่ออกว่าใครบางคนกำลังแกล้งทำงอนพี่กลบเกลื่อนบางเรื่องอยู่ ฉลาดนักนะเรา” มือที่ยื่นมาโยกศีรษะ
ทำให้เขียวยิ้มอาย ดันรู้ทันเขาอีกแย่จริง
“ถ้าอย่างนั้นพี่เป็นคนพูดก่อน เขียวรู้แล้วใช่ไหมว่าโชแปงชอบอิฐ แต่ดูจากท่าทางเราพี่ว่ารู้แล้วชัวร์”
“พี่อินรู้เหรอครับ!”
“รู้”
“แล้ว..แล้ว..พี่อิฐรู้หรือเปล่า” เขียวละล่ำละลักถาม ตื่นเต้นราวกับเขาเป็นโชแปงเสียเอง
“พี่คิดว่าไม่นะ”
“จริงเหรอครับ”
“ไม่รู้เหมือนกันแต่ให้พี่เดาพี่คิดว่าไม่รู้”
“แล้วพี่อินรู้ได้ยังไงครับ”
“ก่อนนี้พี่ไม่แน่ใจ มาแน่ใจเพราะมีใครบางคนยอมอยู่กับพี่ทั้งที่ไม่ชอบขี้หน้าเพราะอยากช่วยเพื่อนนั่นแหละ”
“ผม! เพราะผมหรือครับ?” เขียวถึงกับเหวอ เมื่อเขาเป็นสาเหตุให้เรื่องของโชแปงถูกเปิดเผย
“เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่าใช่ ก่อนหน้านี้เราหนีพี่ตลอดเคยยอมเข้าใกล้ที่ไหน มันต้องมีพิรุธเป็นธรรมดา”
“แย่ชะมัด” เขียวอยากเขกหัวตัวเอง เขานี่ไม่เอาไหนเลยทำอะไรไม่รอบคอบ
“แย่ตรงไหน ถ้าไม่มีเรื่องของโชแปงพี่จะมีโอกาสใกล้ชิดเราเหรอ ป่านนี้คงยังกระโดดหนีพี่เป็นกระต่ายอยู่มั้ง”
“ผมไม่เหมือนกระต่ายสักหน่อย” เขียวหน้าบูด ยิ่งโมโหตัวเองอยู่ อินทรีย์ก็เอาแต่พูดเย้าเขาอยู่ได้
“เหมือนสิ เขียวเป็นกระต่ายตัวน้อยของพี่ เห็นแล้วอดหลงรักไม่ได้”
“ชอบกระต่ายมากก็ไปซื้อมาเลี้ยงสิครับ ง่ายกว่าเยอะ” จะให้เขาทำอย่างไรก็คนมันเขิน ใครสั่งใครสอนให้พูดคำว่ารักได้หน้าตาเฉย
“ไม่ล่ะ กระต่ายตัวอื่นไม่น่ารักเหมือนกระต่ายตัวนี้”
“ผมไม่หลงเสน่ห์พี่อินง่ายๆ หรอกครับ” เขียวกลัวบางคนได้ใจจึงต้องรีบดักคอก่อน
“แปลว่าเขียวยอมรับแล้วว่าพี่มีเสน่ห์”
“คนอะไรเข้าข้างตัวเอง”
“คนน่ารัก” เขียวหมั่นไส้เกินจะกล่าว อยากจะฟาดเข้าให้สักที ทำตาวิบวับคิดว่ามีเสน่ห์นักเหรอ
“ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน” เขียวเบ้ปากให้เห็น จะได้รู้กันไปเลยว่าเขาไม่หลงเสน่ห์ง่ายๆ
“จริง เขียวน่ารักกว่าพี่เยอะ”
“พี่อินครับ!” เขียวถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ หันไปจ้องหน้ารอให้อินทรีย์หันมาสบตา
“ครับ”
“พี่จะจีบผมทุกคำพูดแบบนี้ไม่ได้นะครับ ถึงผมจะอนุญาตแล้วก็เถอะ”
“ฮ่าๆ” อินทรีย์หัวเราะแบบหยุดไม่อยู่ ยิ่งเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่ายเขายิ่งขำเข้าไปใหญ่ จะมีใครอีกไหมที่บอกให้เขาหยุดจีบ
แบบที่เขียวหวานทำ
“ผมจริงจังนะครับ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่หัวเราะ คนจริงจังเลยชักจะโมโหขึ้นมาจริงๆ
“ขนาดพี่จีบทุกคำยังไม่ติด ขืนไม่จีบเมื่อไหร่จะได้เรามาเป็นแฟน”
“เดี๋ยวก็ได้เอง”
“จริงหรือเปล่า!” อินทรีย์ตาลุกวาว ไม่คิดว่าจังหวะทีเผลอจะได้ผล
“ถ้าเป็นจุนคงตอบแบบนั้นครับ เผอิญว่าเป็นผมเสียใจด้วยไม่ติดง่ายๆ บอกเลย”
“เด็กอะไรทำไมร้ายแบบนี้ ทำเป็นหงิม ขี้กลัว หน้าตาตื่นๆ หลอกกันชัดๆ” อินทรีย์บ่นอุบเมื่อโดนกระต่ายน้อยของเขาหลอกเข้า
เต็มเปา ดูท่ายิ้มมีความสุขที่ได้แกล้งเขาได้สิ ถ้าไม่ติดว่ากำลังขับรถจะจับมาฟัดให้หายมันเขี้ยว
“เด็กน่ารัก” เขียวดีใจที่ได้ย้อนมุกนี้คืนบ้าง เขายื่นหน้าเข้าไปยิ้มทั้งปากและตา ชอบใจที่นานๆ ทีจะทำอินทรีย์เหวอได้
จุ๊บ “เฮ้ย!!” เขียวร้องเสียงหลง เมื่อโดนขโมยจูบเข้าที่กลางหน้าผาก ถึงจะรวดเร็วมากแต่ก็ทำเอาเขาตกใจจนตาโต รีบยกมือ
ปิดหน้าผากหน้าแดงแจ๋
“โทษพี่ไม่ได้นะต้องโทษความน่ารักของเราเอง” เขียวยิ่งตาโตเข้าไปใหญ่ ไอ้พี่บ้ามาขโมยจูบเขาแล้วยังไม่ยอมรับผิด
“มาผมจูบคืนบ้าง” ด้วยความหมั่นไส้เขียวคว้ามือที่วางอยู่บนพวงมาลัยมาจับไว้ก่อนกัดเข้าไปเต็มแรง
“โอ๊ย! เขียว ปล่อยพี่ก่อนเดี๋ยวรถชน” อินทรีย์ร้องลั่นเพราะโดนเด็กน่ารักกัดเข้าไปจมเขี้ยว
“โทษผมไม่ได้นะครับ ต้องโทษพี่อินแขนน่ากัดเชียว”
“พี่ยอมรับผิดครับ แต่เอาไว้ทีหลังนะจะให้กัดทั้งตัวเลย ตอนนี้ขอพี่ขับรถก่อน ไม่งั้นสมาธิหายหมดมัวแต่อยากโดนใครบางคนกัด”
“......”
“หึหึ” อินทรีย์ผิวปากหวือ ไม่คิดจะทำอะไรกับรอยฟันที่ประทับอยู่บนมือ สงสัยเขาจะเป็นมาโซคิสม์นิดๆ เจ็บแต่มีความสุข
ผลั้ว!! โอ๊ย!! อ่า..ดูเหมือนถ้าเขากลายเป็นมาโซคิสม์ได้ กระต่ายน้อยของเขาคงกลายเป็นซาดิสม์ได้เหมือนกัน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“มาได้ไงวะ” สิงห์เปิดประเด็นคนแรก เมื่อเห็นทิเบตและจุนเดินเข้ามาในห้อง
“ถามคนนี้” ทิเบตชี้มือไปทางตัวจุ้นที่ลากเขาไปที่ห้องตัวเองและลากกลับมาที่นี่ในเวลาต่อมา
“เขียวส่งข้อความไปบอกว่ารวมตัวกันที่ห้องพี่เบต ผมเห็นน่าสนุกเลยตามมาแจม”
“จริงเหรอวะ” สิงห์หรี่ตามองรุ่นน้อง ไม่อยากจะเชื่อถือคำพูดสักเท่าไหร่
“ไม่จริงหรอก อยู่ด้วยกันสองคนแล้วมันเขินมานี่ดีกว่า”
“ไอ้จุน!” สิงห์ทั้งหัวเราะทั้งสบถปนกัน เมื่อเจอคำตอบแบบขวานผ่าซากเข้าให้
“ปกติเอ็งก็อยู่กันสองคนออกบ่อย ไปทำอะไรมาวะถึงเขิน” สิงห์ตั้งท่าจะทำให้รุ่นน้องเขินมากขึ้น เจอประเด็นนี้ต้องขยี้
“ปกติพี่อยู่กับแฟนทำอะไรล่ะ หรือว่าตอแหลไปงั้นแหละที่จริงไม่เคยมีแฟนกับใครเขา ถึงต้องมาถามผม”
“อ้าวไอ้นี่ พี่เชื้อไม่เว้น”
“แล้วทำไมพี่เชื้อไม่เว้นเรื่องผมบ้างล่ะ อยากรู้อยากเห็นจริง”
“ดูๆ มึงดูแฟนมึงไอ้เบต ลามปามกูใหญ่แล้ว”
“ขี้ฟ้อง คนออกจะพูดเพราะ นี่คิดอยู่ตั้งนานนะปกติใช้แต่คำว่าเสือก”
“หึหึ”
“ไอ้เบต มึงให้ท้ายแฟน” สิงห์ค้อนเพื่อนรัก ที่นอกจากจะไม่ดุแฟนให้เขาแล้วยังหัวเราะชอบใจแบบไม่แคร์กันสักนิด
“ไม่ใช่แค่กู ถ้ามึงวัดการเข้าข้างจากเสียงหัวเราะ ไอ้อิฐไอ้อินก็เข้าข้างแฟนกู มึงไม่ได้ยินเสียงพวกมันหัวเราะเหรอ”
“แปงก็หัวเราะนะคะพี่สิงห์” โชแปงรีบพูดเพราะทิเบตไม่ยอมเอ่ยชื่อเธอรวมไปด้วย
“เดี๋ยวพี่จะจัดการเราทีหลัง ขอเรื่องสำคัญก่อนเมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรออกมาไอ้เบต”
“พูดว่าหัวเราะกันทุกคน”
“ไม่ใช่ มึงเรียกลูกลิงว่าแฟนเหรอวะ”
“กูคบกับจุน ไม่เรียกแฟนแล้วจะให้เรียกอะไรวะ”
“เออ กูถามไปงั้นแหละ” สิงห์ตัดบท เขามองเพื่อนด้วยสายตาค้นคว้า ใช่ที่ก่อนหน้านี้ทิเบตประกาศว่าคบกับจุน แต่เป็นการลอง
คบ และคนอย่างเพื่อนเขาไม่เรียกใครว่าแฟนง่ายๆ ดังนั้นการพูดชัดถ้อยชัดคำที่สิงห์ได้ยินจึงแปลความหมายได้มากกว่าแค่
สรรพนาม เห็นทีว่างานนี้เขาต้องเสียรถให้เพื่อนเป็นแน่แท้
“จุนมาทำไม ไหนว่าขอเวลาส่วนตัว” โชแปงค่อยๆ ย้ายตัวเองไปยืนข้างเพื่อน กระซิบถามเบาๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ก็ตามที่บอกไปเมื่อกี้ไงแปง”
“พี่เบตจะปล้ำเหรอ”
“เปล่า อยู่ด้วยแล้วมันเขินๆ ปกติก็ไม่เป็นนะ” โชแปงยกมือปิดปากทำตาโต เล่นเอาจุนพลอยตกใจตามไปด้วยว่าเพื่อนเป็นอะไร
“มีอะไร”
“จุนชอบพี่เบตเข้าให้แล้ว”
“หือ?”
“นาย..ชอบ..พี่เบต” โชแปงยังกระซิบเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน แต่เธอเน้นพูดทีละคำเพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนได้ยิน
“ทำไมไม่พูดอะไร จริงใช่ไหม” โชแปงชี้นิ้วใส่หน้าเพื่อนเมื่อเห็นจุนอมยิ้มแต่ไม่ยอมตอบ
“พี่เบตเป็นคนชอบผมต่างหาก”
“ขี้อวด หลงตัวเอง รู้ได้ยังไงว่าพี่เบตชอบ”
“พี่เบตชอบผมใช่ไหมครับ” โชแปงสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ จุนก็ตะโกนถามทิเบตที่นั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่โซฟาหน้าทีวี ในขณะที่
พวกเธอช่วยเขียวทำอาหารอยู่ในครัว
“อืม” ทิเบตขานรับในลำคอ คล้ายไม่ใส่ใจแต่ตอบทันทีโดยไม่ลังเล
“ผมก็ชอบพี่” จุนตะโกนกลับไปพร้อมกับยักคิ้วให้โชแปงเป็นการบอกว่าเห็นไหมเขาบอกแล้ว โชแปงยกมือตีแขนเพื่อนด้วย
ความหมั่นไส้ เธอได้ยินเสียแซวของอินทรีย์ดังแว่วมาพร้อมกับเสียงโอดครวญของสิงห์
“โธ่ รถกู”
โชแปงยกนิ้วให้เพื่อน เธอยิ้มกว้างพร้อมกับคิดในใจ เห็นไหมเธอคิดถูกแล้วที่เชื่อจุน
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นนิดนะคะกลัวมันจะเรื่อยเปื่อยไป ส่วนใครที่รอแฝดอยู่ พรุ่งนี้น้า ^^
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin