ภารกิจที่ 22 ♥ 1: ทีละนิด“ไปไหนดี” เขียวลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นโชแปงเดินมาหาตรงตามเวลาที่นัดกันไว้
“ยิ้มอะไร บอกก่อนผมเงินเหลือน้อยนะห้ามแพง”
“ยิ้มดีใจว่าไม่ต้องออกเงินเอง มีคนอาสาเลี้ยง โน่นไง” เขียวมองตามมือของโชแปงถึงเห็นว่าอินทรีย์ สิงห์และอิฐกำลังเดินตรงมา
“ไปนัดกันตั้งแต่เมื่อไหร่” เขียวหันไปคาดคั้นเพื่อนตัวดี ที่แลบลิ้นให้เขาแบบไม่เกรงกลัว
“ตั้งแต่แยกกับเขียวปุ๊บก็โทรปั๊บเลย ไหนว่ายอมให้จีบแล้วอย่าเล่นตัวน่า”
“พูดแบบนี้สมควรโดนไหม” เขียวแกล้งทำเสียงเข้มดุโชแปง
“น่านะ ถือว่าช่วยแปงหน่อย ตั้งแต่พี่อินจีบเขียวแปงก็ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับพี่อิฐเลย ถือว่าเพื่อนขอสักครั้ง นะนะ” โชแปง
ยกมือไหว้ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ เขียวยกมือขึ้นดีดหน้าผากเพื่อน เดินมากันขนาดนี้แล้วจะมาขออะไรอีก
“ใจร้าย” คำพูดลอยๆ ดังมาจากชายหนุ่มร่างสูงที่เดินมาหยุดยืนอยู่ด้านข้างกาย ใบหน้าเปื้อนยิ้มคุ้นตา
“อะไรครับ”
“วันนี้ว่างแทนที่จะนัดพี่กลับไปนัดโชแปง”
“ก็โชแปงว่าง”
“พี่ก็ว่าง อย่าคิดว่าพี่จำไม่ได้นะว่าเราเคยชอบโชแปงมาก่อน”
“มึงหึงเหรอ” สิงห์เยี่ยมหน้าเข้ามา เรื่องแบบนี้เขาพลาดไม่ได้
“จะเหลือเหรอ”
“แหมพี่อิน นี่แปงนะคะแปงที่เคยปลื้มพี่อินมาก่อนลืมหรือเปล่า”
“ไม่ลืมครับ พอๆ กับที่พี่ได้ยินคำว่าเคย” อินทรีย์ตอบโต้สาวน้อยหน้าหวานที่ชี้หน้าตนเองเพื่อรำลึกความหลัง
“ไม่ใช่ๆ แปงพูดผิดค่ะ แปงเคยชอบพี่อิน แต่เรื่องปลื้มถึงตอนนี้ก็ยังปลื้มอยู่”
“อืมน่าคิดแฮะ ถ้าเคยชอบพี่แล้วตอนนี้ชอบใคร” อินทรีย์แซวโชแปง แววตาเป็นประกายคล้ายคนพูดรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“ไม่บอกค่ะแต่ไม่ใช่เขียวแน่ๆ” โชแปงยิ้มกว้าง ยังมีทีท่าเขินอายแต่มั่นใจที่จะตอบมากขึ้น
“แถวๆ นี้แหละ” ประโยคสุดท้ายเธอพูดออกไปเบาแสนเบา แต่ก็ยังมีคนได้ยิน
“ขอให้สมหวังนะ”
“สมพรปากค่ะพี่อิน” โชแปงยิ้มตอบอินทรีย์ บางทีการที่อินทรีย์ไม่เคยแสดงท่าทีใดๆ กับเธอและไม่เคยออกปากเรื่องที่เธอคอย
ตามติดอาจเป็นเพราะสาเหตุเดียวนั่นคืออินทรีย์รู้อยู่แล้ว
“ลับลมคมกันจริง ไหนเป็นใครที่ไหนบอกพี่มา ในฐานะพี่ชายเดี๋ยวพี่จะช่วยสแกนให้”
“มึงไม่ต้องช่วยน้องมันสแกน คนนี้กูรับประกันได้ว่าดีแน่ๆ” อินทรีย์ออกปาก สายตาล้อเลียนส่งไปยังสาวน้อยเพียงคนเดียวของกลุ่ม
“มึงยิ่งพูดกูยิ่งอยากรู้ ใครวะ” สิงห์กัดไม่บ่อย เขาในฐานะพี่ชายจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ
“พอเลยมึง ไปได้แล้วจะไปเดินเล่นหรือจะดูหนังก็ว่ามา เซ้าซี้น้องมันอยู่ได้” อิฐช่วยพูดเมื่อเห็นโชแปงมีสีหน้ากังวลคล้ายไม่
อยากให้สิงห์รู้ จะว่าไปเขาเองก็อยากรู้ เขาคิดมาตลอดว่าโชแปงชอบอินทรีย์ ไม่อย่างนั้นจะตามติดขนาดนี้หรือ พอได้ยินว่าอีก
ฝ่ายชอบคนอื่นจึงอดแปลกใจไม่ได้
“วันนี้ขี้เกียจวะ ไปห้องมึงไหมไอ้อิน แวะซื้ออะไรเข้าไปกินกัน” สิงห์เสนอความคิดเห็น
“เอาสิ แฟนกูทำอาหารอร่อย เดี๋ยวแวะซุปเปอร์ก่อนเข้าไป ที่ห้องน่าจะของไม่ครบ”
“ทำอร่อยจริงเหรอวะ ราคาคุยหรือเปล่า” สิงห์หันไปถามเขียวที่ยืนอยู่ข้างโชแปง
“ไม่รู้สิครับ ผมยังไม่เคยกินอาหารฝีมือแฟนพี่อินเหมือนกัน ตอบไม่ได้”
“ฮ่าๆ เป็นไงล่ะมึง โดนเทเรียบร้อย เดี๋ยวนี้หมดทางถึงกับต้องเที่ยวโมเมคนอื่นเป็นแฟนเลยเหรอวะ”
“คนอื่นที่ไหน หน้าแบบนี้แฟนกูชัดๆ” มีหรืออินทรีย์จะยอมแพ้ง่ายๆ อย่างไรก็ต้องคนนี้
“เฮ้อ เบื่อคนขี้โม้ พี่ๆ อยากทานอะไรกันครับผมจะได้ซื้อของได้ถูก”
“เดี๋ยวนะ เดี๋ยว!” สิงห์ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้เขียวพูดต่อ
“เอ็งบอกไม่ใช่แฟนไอ้อิน แต่ถามพี่ว่าอยากทานอะไรแปลว่าอะไรวะ”
“ก็แปลว่าผมจะเป็นคนทำอาหารให้ไง หรือพวกพี่สิงห์จะทำเอง ทำเป็นเหรอ”
“พี่ทำไม่เป็น” อิฐพูดยิ้มๆ สนุกที่ได้ดูสิงห์ปะทะฝีปากกับรุ่นน้อง จะว่าไปเรื่องฝีปากเขียวก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าจุนเลย
“กูก็ทำไม่เป็น เอ็งแหละทำ”
“ถ้าอย่างนั้นไปกันได้หรือยังครับ ขืนใครพูดมากมื้อนี้อด”
“มองอะไรวะ” อินทรีย์ถามสิงห์เมื่อเห็นเพื่อนมองซ้ายมองขวา ทำท่าหวาดระแวง
“มึงแน่ใจเหรอว่าเจ้าตัวจุ้นของไอ้เบตไม่ได้มาด้วย ไม่ใช่ว่าแอบมาสิงเพื่อนเหรอวะ โธ่น้องเขียวผู้น่ารักของพี่ทำไมกลายเป็น
แบบนี้ไปแล้ว“ สิงห์ทำท่าจะโผเข้าไปกอดเขียวหวานแต่โดนอินทรีย์สะกัดไว้เสียก่อน
“อะไรวะแค่นี้ทำหวง”
“หวง หวงมากด้วยถ้ามึงยังไม่รู้” อินทรีย์พูดกับสิงห์พร้อมส่งสายตาวาบวับไปให้เขียวหวาน แต่คนที่เขาพยายามประสานสายตา
ด้วยกับไม่สนใจ
“ไปกันเถอะครับพี่อิฐ ผมไปรถพี่นะ”
“อ้าว! เดี๋ยวสิครับรอพี่ด้วย” อินทรีย์ร้องเสียงหลงลืมเรื่องหว่านเสน่ห์ไปเสียสิ้น
“ผมบอกแล้วว่าใครพูดมากคนนั้นอด พี่อินไม่ฟังผมเอง”
“พี่ขอโทษ สัญญาว่าจะปิดปากเงียบไม่เกเรครับ” อินทรีย์ทำท่ารูดซิปปาก ส่งสายตาออดอ้อนงอนง้อ
“โธ่นึกว่าจะแน่ หมดกันเพื่อนกู”
“ไอ้..”
“พี่อิน” เสียงเรียกไม่ดังนักด้วยน้ำเสียงปกติ แต่เล่นเอาอินทรีย์สะดุ้งโหยง รีบส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงว่าพี่ไม่ได้พูดอะไรเลยนะครับ
เขียวแอบยิ้ม เขารู้ว่าอินทรีย์แสดงไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้กลัวเขาจริงหรอก คนอย่างอินทรีย์หรือจะหงอให้คนอย่างเขา แต่มัน
เป็นการให้เกียรติกันมากกว่า เป็นการแสดงออกให้เขาเห็นว่าเขาสำคัญ ซึ่งมันได้ผลเพราะเขียวรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ รู้สึกเป็นคนสำคัญ
“ตกลงกันได้แล้วใช่ไหมจะได้ไปกันเสียที เขียวพี่ให้เราไปด้วยไม่ได้นะไม่อยากมีปัญหากับเพื่อน” อิฐแซวรุ่นน้อง เขารู้ว่าอีก
ฝ่ายพูดไปอย่างนั้นเองจึงกล้าปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรครับพี่อิฐ มีคนสัญญาว่าจะไม่เกเร ผมจะลองเชื่อดู”
“เชื่อพี่ได้รับประกัน” อินทรีย์รีบชูสามนิ้วเป็นการการันตีว่าพูดจริงทุกคำ
“งั้นแปงขอไปกับพี่อิฐนะคะ”
“ได้สิ”
“อ้าว! แล้วพี่ล่ะ” สิงห์ชี้ตัวเองเพราะเหลือเขาเพียงคนเดียวที่ไม่มีคนนั่งไปเป็นเพื่อน
“พี่สิงห์ก็ขับไปคนเดียว หรือถ้าเหงามากแปงจะให้ยืมคุณบู้บี้เอาไหมคะ” โชแปงเปิดกระเป๋าเตรียมหยิบตุ๊กตาหมีตัวเล็กที่เธอพก
ไปไหนมาไหนด้วยส่งให้
“ไม่ต้องๆ ปล่อยให้มันบู้บี้อยู่ในนั้นเถอะพี่ขับไปเองได้” สิงห์รีบห้ามเสียงหลงกลัวต้องนั่งคุยกับตุ๊กตา
“ไปกันได้แล้วเดี๋ยวยิ่งเย็นรถยิ่งติด” อิฐเตือนเพื่อนเมื่อนาฬิกาบอกเวลาเกือบห้าโมงเย็น
“ไปค่ะพี่อิฐ” ดูเหมือนโชแปงจะเตรียมพร้อมกว่าทุกคน เธอลุกขึ้นยืนอย่างกระฉับกระเฉง จนเขียวต้องแอบดึงมือเพื่อนเอาไว้
“คุยกันก่อน” เขียวกระซิบบอกโชแปงเบาๆ รอจนแน่ใจว่าคนอื่นๆ เดินนำห่างออกไปพอสมควรจึงเริ่มพูดสิ่งที่คาใจเขาอยู่
“ไหนว่าไม่อยากให้ใครรู้ไง”
“เปลี่ยนใจแล้ว”
“อ้าว!”
“เห็นจุนกับเขียวแซงหน้าไป ขืนมัวแต่ชักช้าแปงคงขึ้นคานอยู่คนเดียว”
“เอาจริงๆ สิ อย่าเพิ่งล้อเล่น”
“จริงๆ แต่ไม่ใช่จริงเรื่องขึ้นคานนะ จริงอย่างที่จุนว่าถ้าคิดว่าผิดหวังแน่ๆ อยู่แล้วจะกลัวการผิดหวังทำไม ไม่มีอะไรมากไปกว่า
เสมอตัว”
“แต่ที่โชแปงกลัวคือกลัวไม่ได้อยู่ใกล้พี่อิฐอีกไม่ใช่เหรอ”
“ก็ใช่อีก แต่ตอนนี้แปงไม่ต้องห่วงเรื่องพี่อินแล้ว แปงไม่ผิดที่ไม่ได้ชอบพี่อินเหมือนเดิมเพราะพี่อินก็ไม่ได้ชอบแปง อีกอย่างจุน
บอกว่าแปงคิดจริงๆ เหรอว่าคนนิสัยน่ารักอย่างพี่อิฐจะเลิกคบกับแปงเพราะแปงชอบ ตลกดีนะเขียว ก่อนหน้านี้แปงไม่เคยคิดได้เลย
แต่พอจุนพูดขึ้นมาถึงฉลาดกับเขาบ้าง รักมากไปก็เป็นแบบนี้สติสตังหายหมด”
“จุนพูดถูก โชแปงคิดได้แบบนี้ก็ดีแล้วแต่ขออย่างเดียว”
“อะไรเหรอ”
“เวลาเชื่อจุน ช่วยเลือกด้วยนะอย่าเชื่อทั้งหมด”
“ฮ่าๆ แต่แปงว่าถึงจุนจะดูเพี้ยนๆ แต่จุนก็เป็นคนมีความคิดดีมากนะ”
“ใช่มาก มากจนเพี้ยนไง” ถึงปากจะคอยว่าแต่เขียวหวานก็เชื่ออย่างนั้น เชื่อในตัวเพื่อนเสมอ ถ้าไม่มีจุนเขาคงลำบากกว่านี้
“ถ้าอย่างนั้นผมเอาใจช่วย พี่อิฐเป็นคนดีผมอยากให้โชแปงโชคดี”
“ขอบใจ แต่แปงจะไม่รอโชคอีกแล้วเขียว แปงจะพยายามด้วยตัวเอง” โชแปงหันไปยิ้มให้เพื่อน ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“พี่อิฐ”
“ครับ”
“นี่คุณบู้บี้” โชแปงบรรจงหยิบตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลออกมาจากกระเป๋า ยื่นตุ๊กตาออกไปเกือบชิดแก้มของอิฐ
“ครับคุณบู้บี้ อิฐพูดกลั้วหัวเราะ นึกไม่ออกว่าโชแปงจะพูดอะไรกับเขา
“แปงจะให้คุณบู้บี้นั่งอยู่ในรถนะคะพี่อิฐจะได้มีเพื่อน”
“ไม่เป็นไร พี่ไม่ขี้เหงาเหมือนสิงห์”
“แต่คุณบู้บี้ขี้เหงา คุณบู้บี้บอกว่าอยากอยู่กับพี่อิฐ”
“หือ?” อิฐได้แต่กระพริบตาไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบนี้
“โชแปงคุยกับตุ๊กตารู้เรื่องด้วยเหรอ”
“ผู้หญิงทุกคนคุยกับตุ๊กตารู้เรื่องค่ะ ใช่ไหมคุณบู้บี้” โชแปงแตะบนศีรษะของตุ๊กตานุ่มนิ่มที่วางอยู่ข้างตัว คุณบู้บี้เฝ้าไว้ดีๆ นะ
อย่าให้ใครมานั่ง
“แต่อยู่กับพี่จะยิ่งเหงาน่ะสิ ไม่มีใครชวนคุณบู้บี้ของโชแปงคุย”
“รู้อย่างนั้นพี่อิฐก็ต้องชวนคุยสิคะ ต้องดูแลคุณบู้บี้ของแปงด้วย”
“หึหึ อารมณ์ไหนของเรา”
“ไม่รู้ล่ะ ห้ามเอาคุณบู้บี้ลง ต้องให้นั่งอยู่ตรงนี้”
“เดี๋ยวๆ ถ้ามีคนขึ้นมานั่งพี่กลัวคุณบู้บี้ของโชแปงจะถูกทับน่ะสิ”
“ก็ถ้ามีคนนั่งพี่อิฐก็ให้คุณบู้บี้ไปนั่งกับพี่อิฐสิคะ นั่งบนตักก็ได้”
“เอ่อ.มันจะดีเหรอโชแปง พี่ว่าพี่จะถูกเข้าใจผิดเอานะ” แบบนั้นแหละยิ่งดี โชแปงแอบคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา
“โธ่อย่างพี่อิฐใครจะเข้าใจผิดคะ ก็บอกว่าของแปงก็ได้”
“แปลกๆ แฮะเรา ”
“เดี๋ยวจะแปลกกว่านี้อีก” เสียงขึ้นจมูกคล้ายเด็กงอแงทำให้อิฐอดหัวเราะออกมาไม่ได้ สงสัยจะปล่อยไว้กับเจ้าตัวจุ้นของทิเบต
มากไป ชักติดนิสัยแปลกๆ มา
“โอเคๆ พี่ยอมแล้ว แค่ให้คุณบู้บี้อยู่ด้วยก็พอใช่ไหม อย่างอนเป็นเด็กๆ สิ” อิฐจับหัวเล็กๆ โยกไปมาเป็นการงอนง้อ
“จริงนะ งั้นแปงไม่งอนก็ได้ คุณบู้บี้เป็นเด็กดีพี่อิฐไม่ต้องห่วง ดีพอๆ กับแปงเลยล่ะ”
“ตอนแรกพี่ว่าจะไม่ห่วง พอบอกว่าดีพอๆ กับแปงสงสัยต้องคิดใหม่”
“พี่อิฐ!”
“ฮ่าๆ ครับๆ ดีครับ น่ารักครับ”
“ใช่ น่ารักสุดๆ เลยจะบอกให้” โชแปงหยิบคุณบู้บี้ขึ้นมาแนบแก้ม แอบยิ้มดีใจจนหน้าบานไม่ให้อิฐเห็น เธอต้องพยายามต่อไป
ทีละนิดนะโชแปง จุนบอกว่าเราต้องยึดพื้นที่เข้าไปทีละนิด อีกหน่อยก็เต็มหัวใจเอง
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
มาครึ่งนึงก่อนนะคะ ครึ่งหลังจัดเต็มคู่เขียวหวานกับมีคู่จุนด้วยนิดหน่อยค่า
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin