ภารกิจที่ 17 : ทดลอง“จุน เอ็งคบกับเบตจริงเหรอวะ”
“จริง” จุนพยักหน้าตอบสิงห์ ที่ลงทุนมาดักรอถามเขาตั้งแต่เช้า
“ทำไมเร็วนักวะ ชอบเบตเหรอ”
“เปล่า” จุนส่ายหัวแรงๆ “ไม่ได้ชอบ”
“อ้าว!ไม่ได้ชอบแล้วตกลงคบกับเบตทำไมวะ”
“อ้าว!” จุนอุทานเลียนแบบสิงห์บ้าง “ก็พี่เบตขอผมนี่”
“เดี๋ยวนะ ตกลงมึงซื่อบื้อหรือมึงกำลังกวนตีนกูอยู่กันแน่” สิงห์ชักไม่แน่ใจความคิดไอ้ตัวจุ้นของทิเบต
“ฮ่าๆ ถึงกับขึ้นมึงขึ้นกูเลยเหรอพี่สิงห์ ผมไม่ได้กวนตีน ก็พี่เบตขอผมจริงๆ ไอ้ผมก็อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำเลยตอบตกลง”
“เออดี ไอ้ว่างๆ ที่ว่ามึงหมายถึงสมองมึงใช่ไหม”
“ด่าขนาดนี้พี่เตะผมเลยดีกว่า”
“ไม่ต้องบอกกูจะทำอยู่พอดี” สิงห์ง้างขาแต่ชะงักค้างไว้ ถ้าจุนไม่ได้ชอบทิเบตเขาก็ไม่เสียรถนี่ แค่คบกันไม่ใช่ผลแพ้ชนะ
“ทำดีมากน้องชาย พี่ไปเรียนก่อน” สิงห์เปลี่ยนใจยกมือขึ้นลูบหัวจุนแทน อารมณ์ดีขึ้นมาผิดตา ถึงขั้นผิวปากเดินขึ้นตึก
“พี่สิงห์เป็นอะไรของมันวะ” จุนหันไปถามเขียวหวานที่ยืนพลิกตำราไปมา ไม่สนใจฟังการสนทนาของเขากับสิงห์
“ตกลงมึงจะเอารถพี่สิงห์หรือไม่เอา” เขียวถอนใจเฮือกใหญ่ ปิดหนังสือหันไปจ้องหน้าเพื่อนแทน
“เอาสิวะทำไมไม่เอา“
“แล้วมึงเสือกไปบอกพี่สิงห์ทำไมว่ามึงไม่ชอบพี่เบต”
“ฉิบหาย กูลืมตัว”
“มึงจะไปไหน” เขียวรีบดึงแขนเสื้อเพื่อนไว้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเตรียมวิ่ง
“ไปบอกพี่สิงห์ว่ากูชอบพี่เบต”
“ไม่ทันแล้ว มึงมันกวนตีนจนเคยตัว พอไม่ได้จีบพี่มิ้นมึงก็โกยหมากลับมาเต็มปากเหมือนเดิม”
“พูดถึงพี่มิ้น กูไม่เห็นหลายวันแล้วไปไหนวะ”
“มึงไม่รู้กูจะรู้เหรอ” ร้อยวันพันปีเขียวเคยตามข่าวมิ้นที่ไหน
“สงสัยโกรธที่กูไม่ยอมช่วย หายไปเลย”
“กูว่าเดี๋ยวก็กลับมาเอง พี่มิ้นชอบพี่เบตมากไม่ยอมไปไหนหรอก อาจจะแกล้งหายให้มึงว้าวุ่นใจจะได้ยอมช่วยมากกว่า มึงไม่ต้อง
เป็นห่วง”
“กูก็ว่างั้น ไปเรียนกันเถอะ”
“เดี๋ยว มึงไม่ต้องรายงานแฟนเหรอว่าถึงมหาลัยแล้ว พี่เบตบอกให้มึงส่งข่าวไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ เดี๋ยวไอ้พี่สิงห์ก็รายงานให้กูเอง”
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“กูไปสัมภาษณ์ตัวจุ้นของมึงมาแล้ว” สิงห์กอดอกยืนพิงโต๊ะ ยิ้มอมภูมิ
“มึงจะพูดอะไรก็พูดมาพวกกูรอฟังอยู่” อิฐรู้ทันเพื่อน ขืนไม่ดักคอไว้สิงห์คงลีลาอีกนาน
“น้องบอกว่าไม่ได้ชอบมึง ว่างเลยตอบตกลง”
“หึหึ” ทิเบตหัวเราะถูกใจ กลายเป็นสิงห์ที่ต้องขมวดคิ้วมองเพื่อนด้วยความสงสัย
“กูเป็นคนเดียวที่ได้กลิ่นอะไรทะแม่งๆ หรือเปล่าวะ”
“กลิ่นอะไรของมึง” อินทรีย์ผู้ได้กลิ่นก่อนเพื่อนย้อนถามกลับ
“ไอ้เบตมันดูชอบใจที่จุนไม่ชอบมัน ตกลงมึงเอาจริงเอาจังเรื่องพนันกับกูหรือเปล่า กูจะได้ทำตัวถูก บิดาจะเปลี่ยนรถให้กูยังไม่
กล้ารับกลัวเสร็จมึง พ่อกูงงมาสามวันแล้วนึกว่ากูบรรลุธรรมมะไม่อยากได้รถใหม่”
“กูเอาจริง มึงเล่าก็ดีกูจะโทรบอกพ่อมึง ว่ามึงบ่นอยากเปลี่ยนรถแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก”
“เหี้ยเบต! คันนี้ก็พอมั้งเล่นกันขำๆ”
“กูนึกว่ามึงเลิกหาเรื่องน้องมันแล้ว กูคิดผิดเหรอวะ ตกลงที่มึงทำดีกับจุนเพราะจะเอาชนะพนันสิงห์แค่นั้นเหรอ” อินทรีย์ถาม
สีหน้าจริงจัง เขาคิดว่าเขารู้จักทิเบตดีแต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะผิดพลาด
“มีกฎข้อไหนห้ามเหรอ ทำไมกูต้องเลือก”
“หมายความว่าไงวะ” อิฐขยับเข้าใกล้เพื่อนอีกนิด เขาเป็นคนเดียวที่สนใจเรื่องพนันน้อยที่สุดยังอดอยากรู้ไม่ได้
“หมายความว่ากูทำดีกับตัวจุ้นจริงและกูเอารถไอ้สิงห์จริง”
“ไอ้เลว” สิงห์ส่งค้อนให้ทิเบต ไอ้เพื่อนงกแม่งเหมาหมด
“แปลว่ามึงขอคบจริง มึงชอบจุนเหรอวะ ” อิฐพยายามลำดับความคิดจากสิ่งที่ทิเบตพูด
“กูขอคบเพราะโอกาสมันได้”
“เดี๋ยวนะ กูขอแบบเคลียร์ๆ เถอะว่ะ เอาแค่ชอบไม่ชอบก็พอ”
“เอาเป็นว่าตอนนี้กูชอบที่ได้อยู่กับตัวจุ้นมัน เหมือนได้เล่นกับลูกหมา ตลกดี”
“สาบานว่ามึงชมน้องมันอยู่” สิงห์อดแดกดันเพื่อนไม่ได้
“มึงกำลังจะบอกว่ามึงขอคบเพราะเริ่มชอบจุนขึ้นมาบ้างแล้วและอยากเอาชนะพนันสิงห์ด้วยใช่ไหม”อิฐพยายามทำความเข้าใจ
คำพูดของเพื่อน
“ก็ใช่”
“คิดดีๆ นะเบต ตัวจุ้นของมึงรู้เรื่องพนันเข้าทีหลังมึงจะเสียน้องมันไป ถึงตอนนั้นเกิดมึงรู้ตัวว่าชอบน้องขึ้นมาก็สายเกินไปแล้ว”
อินทรีย์เตือนสติเพื่อนรัก เขาไม่อยากให้ทิเบตตัดสินใจพลาด
“ทำไมต้องคิด ตัวจุ้นมันรู้เรื่องพนันอยู่แล้ว”
“หะ!” ถ้าเรื่องทิเบตกับจุนคบกันทำสิงห์แตกตื่นแล้ว เรื่องนี้ยิ่งทำให้เขาใกล้หัวใจวายเข้าไปทุกที
“มึงพูดจริงเหรอวะ ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่วันที่มึงถามกูเรื่องกติกาวันที่ไปดูหนังที่ห้าง ตัวจุ้นมันยืนแอบฟังอยู่”
“ไอ้เหี้ยเบตมึงรู้แล้วทำไมไม่บอกกู ปล่อยกูพูดออกไปได้ไงวะเสียหมาหมดกูเอ๊ย” สิงห์กุมขมับ ตายแน่กู
“แล้วตอนนี้มึงตายไหม กูเห็นมึงปกติดี”
“แปลก แล้วทำไมจุนไม่ทำอะไรเลย” อิฐเดาความคิดจุนไม่ออก เขาไม่เห็นพฤติกรรมจุนเปลี่ยนไปสักนิด
“ใครบอกไม่ทำ ไอ้ที่ยอมเข้าใกล้กู ยอมออกไปไหนมาไหนกับกู ทั้งที่ก่อนหน้านี้เกลียดกูจะเป็นจะตายก็เพราะรู้เรื่องพนัน”
“มึงกำลังจะบอกว่า..”
“หึหึ ถ้ากูเดาไม่ผิด เด็กเพี้ยนคิดจะใช้การพนันให้เกิดประโยชน์ ฉลาดมาก”
“ฉิบแล้วกู” สิงห์พยายามคิดว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้าง
“เพราะแบบนี้มึงถึงถูกใจใช่ไหม” อินทรีย์คิดว่าเขาเดาไม่ผิด
“ใช่ กูนึกว่าตัวจุ้นมันจะลุกขึ้นมาโวยวาย ผิดคาด อยู่กับมันสนุกดี หาเรื่องให้กูปวดหัวได้ทุกวัน”
“มึงว่ากูควรไปรับสารภาพแล้วขอขมาตัวจุ้นของมึงดีไหมวะ” สิงห์ขอความคิดเห็นจากทิเบต
“ไม่ต้อง มึงแค่อยากล้มพนันอย่านึกว่ากูไม่รู้”
“ฉลาดอีกนะมึง เออได้ กูคำไหนคำนั้น แต่คันนี้นะมึง มึงโทรหาพ่อกูเมื่อไหร่ถือว่าโมฆะ”
“ตกลง”
“อย่าเพิ่งปิดประเด็น” อิฐรีบชิงพูดขึ้นมาก่อน เมื่อเห็นว่าสิงห์กับทิเบตตกลงกันได้แล้ว
“กูมีคำถามสุดท้าย ถามทั้งมึงทั้งไอ้อิน”
“เกี่ยวอะไรกับกูวะ” อินทรีย์คิดว่าเขาไม่มีเอี่ยวในเรื่องนี้ จึงแปลกใจที่อิฐเอาชื่อเขาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
“มึงชอบผู้ชายได้จริงเหรอวะ ที่กูถามกูไม่ได้รังเกียจแต่กูกลัวแทนน้องมัน มึงแน่ใจหรือเปล่าว่าไม่ใช่แค่อยากลองของใหม่ พอ
เบื่อก็เลิกสนใจ”
“มึงรอคำตอบไอ้เบตเถอะ ใจกูไปไกลกว่าชอบเยอะ มึงไม่ต้องห่วงน้องมัน”
“สัด มึงอาการหนักมากไอ้อิน” สิงห์ถึงกับอุทาน ถ้าไกลกว่าชอบก็ต้องรักสิวะ
“มึงว่าไง” อิฐหันไปคาดคั้นเอาคำตอบจากทิเบต เพราะไม่จำเป็นต้องห่วงความคิดของอินทรีย์แล้ว
“มึงคิดว่าอย่างตัวจุ้นจะทำให้กูเบื่อเหรอ ทำเรื่องแปลกประหลาดได้ทุกวัน เด็กเพี้ยนนั่นคงเป็นของใหม่ตลอดเวลา”
สิงห์ครุ่นคิดถึงคำพูดของทิเบต กูว่าไม่เหมือนเล่นกับลูกหมาหรอก เหมือนมึงหาคนที่ถูกใจเจอแล้วมากกว่า สิงห์พูดอยู่ในใจ
เพราะขืนพูดออกไปเขาอาจเสียรถได้ เรื่องอะไรจะชี้โพรงให้กระรอก เส้นผมบังภูเขาต่อไปเถอะเพื่อน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“จริงเหรอจุน!” โชแปงไม่อยากเชื่อหู ทิเบตกับจุนคบกันเป็นไปได้อย่างไร
“จริง” จุนพยักหน้า ในใจคิดว่าเขาต้องเจออีกกี่คนที่แสดงท่าทางแปลกใจกับเรื่องนี้
“แต่จุนชอบพี่มิ้นไม่ใช่เหรอ ไหนว่าจะจีบพี่มิ้นยังให้แปงช่วยอยู่เลย”
“ไม่จีบแล้ว”
“โอ๊ยแปงงงไปหมดแล้ว แล้วไปชอบกันตอนไหน พี่เบตเนี่ยนะชอบผู้ชายใครจะเชื่อ โอ๊ะ!..” โชแปงรีบยกมือปิดปากทำตาโต
“ขอโทษ แปงเผลอพูดไม่คิด มันคาดไม่ถึงเลยตกใจ”
“ไม่เป็นไร ตราบใดที่โชแปงพูดว่าพี่เบตเนี่ยนะชอบผู้ชายผมอภัยให้ได้ ขอแค่ไม่ใช่พี่เบตเนี่ยนะชอบจุนก็พอ” จุนเล่นมุกเพื่อให้
โชแปงรู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรมาก
“บ้า จุนออกจะน่ารัก แปงไม่พูดแบบนั้นหรอก”
“ว่าแต่ยังไม่เห็นบอกเลยไปชอบกันตอนไหน”
“ไม่ได้ชอบ คือเรื่องมันเป็นแบบนี้” ไหนๆ โชแปงก็นับรวมตัวเองเข้ามาเป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกันแล้ว จุนจึงยอมเล่าเรื่องพนัน
ให้ฟัง
“แปงโป้งพี่เบตพี่สิงห์แล้ว เอาจุนมาเล่นแบบนี้ได้ยังไง เป็นแปงนะโกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติ” โชแปงได้ฟังแล้วนึกโมโหแทนเพื่อน
“แบบนั้นไม่หนุกหรอกต้องแบบนี้ จะปั่นซ้ายปั่นขวาให้เข็ดทั้งสองคนเลย จะได้ไม่ทำอีก”
“เอาเลยแปงสนับสนุน”
“พอๆ “ เขียวรีบร้องห้าม ถ้าสองคนนี้รวมตัวกันเขากลัวว่าพกพาราวันละแผงคงไม่พอ
“แปงปล่อยจุนมันเพี้ยนไปคนเดียวเถอะ แค่นี้ผมก็ปวดหัวจะแย่แล้ว”
“แหม แปงอยากเล่นด้วยนี่” โชแปงหันไปงอนเขียว กลัวเป็นคนเดียวที่อดมีส่วนร่วม
“ว่าแต่ถ้าพี่มิ้นรู้เข้าจะเป็นเรื่องไหม หรือจะเล่าเรื่องพนันให้ฟัง”
“ไม่ได้!” จุนรีบห้ามโชแปงเสียงหลง “ขืนพี่มิ้นรู้พวกพี่เบตต้องรู้แน่”
“ก็จริง” โชแปงพยักหน้าหงึกหงัก พยายามช่วยคิดหาทางออก
“นินทาอะไรฉัน”
“เหี้ย!” จุนสะดุ้งโหยง ทำไมไอ้พี่เบตมันเดินเบานักวะ กี่ครั้งแล้วที่เดินเข้ามาหยุดข้างหลังเขาโดยไม่บอกไม่กล่าว
“เปล่า” จุนรีบปฏิเสธ
“แน่ใจ? หน้านายมันฟ้องว่านินทาฉันอยู่”
“เฮ้อ” จุนแกล้งถอนใจออกมาดังๆ
“คนคุยกันเครียดๆ อย่ากวน ไปเล่นตรงนู้นไป” จุนชี้มือไปทางโต๊ะตัวอื่นที่ตั้งไกลออกไป
เงียบ ไม่ใช่แค่ทิเบตที่เงียบ ต้องเรียกว่าเงียบกันทั้งกลุ่ม ร่วมถึงพี่ๆ ที่เดินตามมาติดๆ ด้วย
“โป๊ก!! โอ๊ยย!” จุนร้องลั่นกุมหัวตัวเองที่ถูกทิเบตเขกลงมาเต็มๆ
“เขกหัวผมทำไม”
“สมควรโดน”
“อะไรเล่า ไหนบอกว่าเป็นแฟนกัน” จุนหน้าง้ำ เล่นไม่ได้ก็บอกเขาดีๆ สิ เขาก็แค่อยากลองดูเท่านั้น
“นี่นายคิดว่าเป็นแฟนกับฉันจะเกิดอะไรขึ้น ไหนว่ามาสิ” ทิเบตลงนั่งข้างจุน รอฟังคำตอบ
“ของกล้วยๆ เป็นแฟนกันก็ต้องคอยเอาใจ ห้ามดุ ห้ามขัดใจ ห้ามทำร้ายร่างกาย ต้องเลี้ยงข้าวเลี้ยงขนมเลี้ยงหนัง สอนหนังสือ
ชับรถรับส่ง พูดจาเพราะๆ หวานๆ...”
“จ้างคนใช้เลยไหม”
“ถ้าพี่เบตจ่ายให้ก็เอา” จุนหันไปยิ้มหวาน ฝันไปเถอะว่าเขาจะสลดกับคำแดกดันแค่นี้
“งั้นพี่เบตทำอะไรได้บ้าง ไหนว่ามาสิ” จุนเลียนแบบทิเบตทั้งน้ำเสียงและสีหน้า โธ่ไอ้หน้าดุๆ เขาก็ทำเป็นหรอกน่า
“ถ้าเอาตามที่นายเรียกร้องฉันสอนหนังสือได้ ขับรถรับส่งได้ เลี้ยงข้าวเลี้ยงขนมเลี้ยงหนังได้ แค่นี้”
“โหออฟชั่นน้อยว่ะ” จุนทำเสียงดูถูก
“เดี๋ยวๆ ตกลงพวกมึงเป็นแฟนกันหรือกำลังเลือกซื้อรถ บอกกูทีกูงง”
“พี่สิงห์ เอาอย่างเพื่อนคนอื่นบ้างก็ได้ พี่นั่งเงียบๆ ไม่ออกความคิดเห็นผมก็ไม่โกรธหรอกไม่ต้องเกรงใจ”
“ดู ดูปากแฟนมึง” สิงห์หันไปฟ้องทิเบต
“โห ผมพูสุภาพสุดๆ แล้วนะพี่ ถ้าเป็นคนอื่นผมถามตรงๆ แล้วว่าไม่เสือกได้ไหม”
“เอางี้เลยนะมึง” สิงห์มองค้อนแฟนหมาดๆ ของเพื่อน
“พี่สิงห์อย่าถือสาจุนเลยครับ ปากมันหมาแบบนี้แหละถึงหาแฟนไม่ได้ พักก่อนมันคิดจะจีบพี่มิ้นเลยสงบปากสงบคำ” จุนหันขวับ
ไปมองหน้าเพื่อนรัก พักนี้ชักขายเขาบ่อย ชะชะ เดี๋ยวดูน้องจุนขายบ้างแล้วจะรู้ว่าเทียบกันไม่ติด สงสัยใส่พานถวายพี่อินจะน้อยไป
“กูยินดีกับมึงด้วยนะเบต ของดีระดับพรีเมี่ยมจริงๆ สงสัยรุ่นนี้ซื้อแล้วไม่รับคืน”
“กูก็ว่างั้น” ทิเบตพยักหน้าเห็นด้วย
“พูดเกินไปหรือเปล่าพี่” จุนโมโห คิดจะรวมหัวกันเล่นงานเขาเหรอ อย่าหวัง
“ไหนล่ะเงิน ซื้อแล้วจ่ายด้วย ห้ามเบี้ยว” จุนแบบมือไปตรงหน้าทิเบตทวงเหย็งๆ ไม่จ่ายสักบาทบอกซื้อเขาแล้ว
“เท่าไหร่” ทิเบตหยิบกระเป๋าเงินออกมา
“อืม..” จุนทำท่าคิด เห็นโชแปงพยายามพูดโดยไม่ออกเสียงว่า หมดกระเป๋าเลย
“รถคันนึง” แค่กๆ สิงห์กระอักกระไอเพราะสำลักน้ำลายตัวเอง มองไอ้ตัวจุ้นของทิเบตที่ยักคิ้วให้ แสบจริงๆ ให้ตายเถอะ
“ได้” ทิเบตดันตอบรับหน้าตาเฉย ทำเอาจุนมองด้วยความหวาดระแวง ไอ้พี่เบตจะมาไม้ไหนวะ
“แต่วันนี้ลองขับให้ดูก่อน ไอ้พวกนี้อยากไปทานพิซซ่าร้านพี่กันต์” ทิเบตโยนกุญแจรถมาให้ จุนต้องรีบคว้าเอาไว้
“ไปกันสักทีเถอะกูหิวแล้ว” อิฐที่นั่งฟังอยู่นานได้พูดกับคนอื่นเขาเสียที
“โชแปงไปรถพี่ มึงด้วยสิงห์ ให้อินกับเขียวไปกับเบต” อิฐแบ่งรถให้เสร็จสรรพ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเถียงกัน
“โอเค” สิงห์ตอบรับ จุนก้มลงมองกุญแจรถในมือ
“ยืนทำอะไรของมึงวะ พี่เขาไปกันแล้ว” เขียวหันไปเรียกเพื่อนที่ยืนเอ๋อๆ อยู่คนเดียว
“มึง กูว่ากูเสียโง่ให้ไอ้พี่เบตว่ะ”
“ตรงไหนวะ” เขียวไม่เห็นจุดพลาด ก็เห็นจุนเถียงเอาเถียงเอายอมใครที่ไหน
“ตรงนี้นี่แหละ” จุนชูกุญแจรถในมือให้เขียวดู
“กูว่า...กูกำลังเป็นคนใช้ไอ้พี่เบตว่ะ”
“ฮ่าๆ กูเก็ทแล้ว” เขียวหัวเราะออกมาเมื่อเข้าใจสิ่งที่จุนกำลังสื่อ
“ห้ามขัดใจ ต้องเอาใจ ไปรับไปส่ง มึงตั้งเงื่อนไขแฟนที่ดีเองนะช่วยไม่ได้” เขียวหัวเราะงอหาย ยิ่งเห็นหน้าเอ๋อรับประทานของ
จุนยิ่งขำเข้าไปใหญ่
“มาเร็ว ไปได้แล้ว” เสียงเรียกของทิเบตทำเอาจุนถอนใจเฮือกใหญ่ เอาวะอย่างน้อยเขาก็ตัดเลี้ยงข้าวออกไปได้หนึ่งข้อล่ะน่า
เพราะเขาไม่มี
“ไม่เบื่อใช่ไหมล่ะ”
“หือ? อะไรของมึง” จุนหันไปมองเพื่อนรักที่เดินรั้งท้ายกลุ่มอยู่ข้างกัน
“พี่เบตไง ฉลาด รู้ทันมึง รับปากหมาๆ ของมึงได้ ไม่ต้องคอยเอาอกเอาใจ ไม่ใช่คุณสมบัติของแฟนที่มึงอยากได้มาตลอดเหรอวะ”
“อืม..”
“ว่าไง” เขียวถามซ้ำเมื่อเห็นเพื่อนเงียบไป
จุนไม่ตอบเพราะเขากำลังใช้ความคิด หรือว่าไม่ใช่แค่เขียวหวานวะที่ควรมีแฟนเป็นผู้ชาย จุนมองแผ่นหลังกว้างของทิเบต
จูบก็จูบมาแล้ว แหยงๆ นิดหน่อยแต่ก็โอเคนี่หว่า ไอ้พี่เบตทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งเรียนเก่ง เพอร์เฟคขนาดนี้จะหาที่ไหนได้วะ
ที่สำคัญคือทนความเพี้ยนของเขาได้ด้วย
อืม...เอาวะไหนๆ ก็ให้ทดลอบขับแล้ว ทดลองรวบหัวรวบหางทั้งรถทั้งคนแม่งเลยแล้วกัน จุนเอ๋ยมึงนี่ฉลาดจริงๆ ให้ตายเถอะ
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
ใครรอการพัฒนาแบบเต็มรูปแบบของทั้งสามคู่ เริ่มตั้งแต่ตอนหน้านะคะ เห็นอย่างนี้จุนกับเขียวก็มุ้งมิ้งเป็นนะเออ
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin