ตอนพิเศษ วันตรุษจีน [เกนxป่าน]
สวัสดีวันตรุษจีนครับ แม้ผมจะเป็นชายไทยแท้ๆ แต่ก็ได้มีส่วนร่วมนิดๆ เนื่องจากคนรักของผมเป็นลูกเสี้ยวของเสี้ยวสืบมาจากพ่อตัวเอง หลังจากผ่านการซื้อของที่ผู้คนพากันออกไปช็อปพร้อมกันจนแทบแบนเป็นปลากระป๋อง ผ่านการไหว้เจ้าที่และบรรพบุรุษด้วยความแช่มชื่น มาวันนี้พี่เกนบอกเป็นวันเที่ยว แต่พวกเราไม่ได้เที่ยวหรอกครับ เพราะไม่อยากไปเบียดผู้คนอีก แค่วันจ่ายที่ไปซื้อของกับพี่ปูน เท้าผมก็ถูกเหยียบจนช้ำไปหมด
“พี่เกน” ลากเสียงพร้อมเหล่ตามองคนที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างๆ “พี่เกน”
“เรียกอีกทีเดี๋ยวมีเสียตัว” น้ำเสียงเรียบๆ แต่สายตาที่มองมาไม่ใช่ ขู่ได้ขู่ดีว่ะ
“พี่ได้เท่าไหร่อะ” ที่เรียกเพราะอยากรู้จำนวนในซองอั่งเปาสีแดงๆ ที่วางอยู่ข้างพี่เกน เจ้าของซองขำในลำคอเล็กๆ แล้วหันมาจ้องหน้าผม “อะไร”
“ก็ได้เท่าของป่านนั่นแหละ” มองมือของตัวเองที่ถือซองอั่งเปาสามซองอยู่
“รู้ได้ไง” บางทีลูกกับคนนอกอาจจะไม่เท่ากันก็ได้ โธ่
“อ่ะ” อยู่ๆ พี่เกนก็ยื่นซองสีแดงสองซองมาให้ผม “อยากรู้ก็นับเอง”
“ไม่ดีมั้ง” ปากจะพูดแบบนั้น แต่มือผมก็หยิบมาแล้ว ไม่ได้จะเสียมารยาทนะ แค่อยากรู้เฉยๆ
ผมค่อยๆ เปิดซองอั่งเปาสีแดงสดมีภาษาจีนสีทองอยู่ด้านหน้า จากความหนาแล้วน่าจะเยอะอยู่เหมือนกัน ผมเปิดซองที่ป๋าให้ก่อน มือสั่นตอนหยิบเงินออกมา
“หนึ่ง สอง สาม....” มือเริ่มนับ ปากก็พูดไปด้วย แม้ผมจะไม่ได้ทำงานธนาคาร แต่เรื่องนับเงินนี่ขอให้บอก “หะ ห้าหมื่น” ตาโตจนเกือบถลน อั่งเปานี่ให้กันเป็นหมื่นๆ แบบนี้เลยเหรอเนี่ย
“ตาจะหลุดออกจากเบ้าแล้ว” พี่เกนโยกหัวผมจนเกือบหงายหลัง
“ป๋าให้อั่งเปาพี่ตั้งห้าหมื่นแน่ะ” ผมว่า พี่เกนก็เอาแต่หัวเราะ “แล้วของป่านล่ะ” ตอนนี้เริ่มสนใจซองของตัวเองที่ความหนาไม่ต่างจากของพี่เกนเลย
“ลองนับสิ” เงยหน้ามองคนพูด แล้วก้มหน้านับของตัวเองบ้าง
พระเจ้าช่วย ห้าหมื่นเหมือนพี่เกนเลย ไอ้ป่านไม่ได้ฝันใช่ไหม ลองตบแก้มตัวเองก็โคตรเจ็บ จากอั่งเปาของป๋า ขยับมานับของพี่ปูนที่ให้ นับไปนับมาก็หลักหมื่นเหมือนกัน แต่น้อยกว่า
“พี่ปูนให้ป่านตั้งสามหมื่น” ทำตาโตอีกรอบ
“นับของพี่ด้วย” พี่เกนว่า พลางมองซองสุดท้ายที่วางบนตักของผม
“ไม่ใช่กระดาษใช่ไหม” เหล่ตามองคนที่ให้ซองอั่งเปาคนแรกที่ลืมตาตื่น พี่เกนเขกหัวผมซะแสบ แต่ก็ไม่อาจขัดการนับจำนวนเงินได้ “นี่อะไรเนี่ย” กระพริบตาปริบๆ มองคนที่ให้
“ไม่ชอบเหรอ ไม่จำกัดวงเงินด้วยนะ”
ผมมองการ์ดบัตรเครดิตสีดำในมือตัวเอง “ไม่ชอบ” ตอบปุ๊บ พี่เกนขมวดคิ้วจ้องดุทันที
“ทำไม”
“มันมากเกินไป ให้ยี่สิบบาทยังดีใจกว่านี้เลย” ยู่ปากแล้วยัดบัตรคืน
“พี่ตั้งใจให้ป่าน” พี่เกนยัดบัตรกลับคืนมือผม
“อวดรวยเหรอ” ถามน้ำเสียงไม่พอใจ
“ไม่ได้อวดรวย” พี่เกนว่า
“ไม่ได้อวดรวยแล้วนี่อะไร เห็นป่านจนเหรอ”
“ป่าน พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น” จะลุกหนีแต่ถูกดึงแขนให้นั่งตามเดิม “ก็ได้ๆ อะ” ผมเหล่ตามองพี่เกนที่เก็บบัตรสีดำใส่กระเป๋าแล้วเปิดกระเป๋าเงินตัวเอง “ป่านบอกยี่สิบก็ดีใจ”
“เลยให้ยี่สิบ?”
“เออ” ผมคว้าเอาแบงค์สีเขียวมาถือ ก็ได้วะ ก็เงินเหมือนกัน ซื้อของได้หลายอย่าง
หลังจากนับอั่งเปาเสร็จ พี่ปูนก็มาตามให้ไปช่วยเตรียมของกิน ที่พวกเรามานั่งในห้องก็เพราะรอป๋ากับพี่ปูนออกไปซื้อของมาทำกินเองในห้อง เพราะปีนี้พี่ปูนไม่ยอมไปเที่ยวตามที่ป๋าชวน เหตุผลคือผมไม่ได้ไปด้วย พี่เกนเลยไม่ยอมไป สรุปก็ไม่ได้ไปนั่นแหละครับ
“วันนี้พี่ซื้อของทะเลมา สดมากเลย” พี่ปูนชวนผมคุย ส่วนพี่เกนเดินรั้งท้าย ทำปากขมุบขมิบเพราะถูกตัดออกจากวงสนทนา “เดี๋ยวป่านช่วยพี่หน่อยนะ”
“ได้ครับ พี่ปูนใช้มาได้เลย” ยิ้มแป้นให้กับพี่ปูน ผมรู้สึกรักพี่ปูนเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง ผูกพันมากๆ
“น่ารักที่สุด” พี่ปูนวาดแขนมาโอบไหล่ของผม แต่กลับถูกพี่เกนที่เดินอยู่ด้านหลังยกแขนออก “อะไรของเกน”
“หวง” สั้นๆ แต่ได้ใจความ ผมหัวเราะให้กับพี่เกนที่เขม่นพี่ปูน
“ทำตัวเป็นเด็ก” ถูกพี่ปูนว่า พี่เกนก็ไม่สน เดินมาดึงแขนผมเข้าห้องป๋าแทน “ใครเลี้ยงให้นิสัยเสียเนี่ย” ผมหันหลังไปมองเมื่อได้ยิน คนตะโกนยืนชี้นิ้วอยู่หน้าห้องทำเอาป๋าถึงกับเดินออกมาดูด้วยความสงสัย
พี่ปูนเดินมาในห้องทำหน้าง้ำงอไปยืนหน้าเคาน์เตอร์ครัว มือก็แกะนั่นนี่ด้วยความโมโห ป๋าขยับมาหาผมกับลูกชาย แต่พี่เกนเลือกจะเดินหนี
“งอนกันเหรอ” ป๋าเลยเลือกจะถามผมแทน ซึ่งผมก็พยักหน้าช้าๆ “ทำตัวเป็นเด็กไปได้ วันนี้เขาห้ามทะเลาะกันนะเนี่ย” ป๋าส่ายหน้าช้าๆ แล้วเดินเข้าไปหาคนรัก ส่วนผมก็เดินไปหาพี่เกน
คนตัวโตขี้งอนเดินไปนั่งอยู่มุมห้อง โคตรทำตัวเป็นเด็กว่ะ ผมสะกิดพี่เกน คนงอนก็หันมามอง หน้าแบบนี้หากพูดไม่เข้าหูมีถูกด่าแน่
“พี่เกนทำไม่ถูก” แม้รู้ว่าไม่ควรพูด แต่ผมว่า เรื่องนี้ต้องรีบทำให้จบ พี่เกนทำหน้าไม่พอใจแต่ผมไม่สน “พี่ปูนเขาไม่ได้ทำอะไรพี่สักหน่อย พี่คิดดู ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นควาย เอ้ย โตได้ขนาดนี้ พี่เขาใช้ความรักมากแค่ไหน เรื่องแค่นี้พี่ทำให้พี่ปูนเสียใจเลยนะ ร้องไห้ด้วย อย่าทำตัวเป็นเด็กที่รู้ว่าทำผิดแต่ไม่ยอมรับเลยนะ”
“ป่านว่าพี่เหรอ”
“เออ ว่าให้เนี่ย ไม่ได้ชมด้วย”
แม้คนถูกด่าตรงๆ จะทำหน้าไม่พอใจ แต่ผมเห็นพี่เกนเหล่ตามองพี่ปูนที่เช็ดน้ำตาป้อยๆ โคตรน่าสงสาร ใบหน้าขาวแดงกล่ำคงจะร้องไห้หนัก ขนาดป๋าปลอบยังไม่หยุดเลยคิดดู
“น่ารำคาญว่ะ” พี่เกนพูดจบก็ลุกขึ้นยืน ขายาวก้าวไปหาคนที่ร้องไห้เป็นเผาเตาที่มีอ้อมแขนของคนรักโอบกอดอยู่ตลอด พอป๋าเห็นพี่เกนเดินไปหาก็ส่งตาดุมอง “ผมขอโทษ” น้ำเสียงอ่อนลงจนผมเผลอยิ้ม ก่อนพูดมีสูดลมหายใจเรียกความกล้าด้วยนะ
พี่ปูนช้อนตาแดงๆ มอง โคตรน่ารักเหอะให้ตาย พอดวงกลมมีน้ำคลอเห็นใบหน้าคนขอโทษก็กระพริบตาปริบๆ แล้วพยักหน้าออกมา
“แกจะโดนดีไอ้เกน” ป๋าคาดโทษลูกชายตัวเอง ก่อนจะช่วยเช็ดคราบน้ำตาออกจากหน้าขาวของพี่ปูน
ผมเดินเข้าไปช่วยพี่ปูนที่เริ่มอารมณ์ดีขึ้น ปากแดงติดรอยยิ้มแล้วทำให้รู้สึกเบาใจ วันนี้เป็นวันดี ไม่ควรมีเรื่องด้วยซ้ำ พอผมอยู่ช่วย ป๋าก็ล็อกคอลูกชายตัวเองไปทำโทษ ได้ยินเสียงพี่เกนโวยวายเป็นระยะ และได้ยินเสียงพี่ปูนว่าสมน้ำหน้าด้วย
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นนะในความคิดของผม
หมู หมึก กุ้ง ปู ปลา หอย ถูกพี่ปูนจัดการซะอย่างดี ผมยืนทึ่งที่เห็นคนตัวพอๆ กับผมทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว ส่วนผมก็ทำแค่ล้างผัก หั่นผัก ใช้เวลาไม่นานของทะเลทุกอย่างก็ถูกจัดวางบนโต๊ะ ผมกำลังจะนั่งข้างพี่เกนถูกพี่ปูนดึงแขนให้ยืนตามเดิม
“อะไรเหรอครับ” ถามด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ
“อาบน้ำก่อนสิ ตัวเหม็นแบบนี้” พี่ปูนว่า ผมก้มดมเสื้อตัวเองก็เหม็นจริงๆ นั่นแหละ
“กินก่อนค่อยอาบก็ได้นี่” ป๋าขัดแต่พอถูกพี่ปูนมองก็รีบทำเป็นจับปู จับปลาไป กลัวคนรักนี่หว่า
สุดท้ายผมก็ถูกพี่ปูนพาเข้ามาในห้องนอนของป๋า ตอนแรกจะไปอาบที่ห้องพี่เกน แต่ไม่ถูกอนุญาต ยิ่งไปกว่านั้น พี่ปูนจับผมอาบน้ำด้วย โอ้มายก็อด ไอ้ป่านตกใจแทบหงายหลัง พี่ปูนไม่มีความขวยเขินแม้แต่น้อย
“อาบสิ ไม่ต้องเขินพี่หรอก” คนที่แก้ผ้าจนล่อนจ้อนว่า ผมก็ไม่ได้เขินหรอก แต่แปลกๆ ที่ต้องมาอาบน้ำกับคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อน กับไอ้ต้อม ไอ้ดอยก็เคยอาบมาแล้ว กับพี่เกนนี่ยิ่งกว่าอาบ แต่กับพี่ปูน....
ผิวขาวราวกับน้ำนม ทุกสัดส่วนดูสวยน่ามอง ขนาดผมเป็นผู้ชายยังอดจะมองไม่ได้ แม้ไม่มีเอวกิ่ว หน้าอกไม่ดูมๆ แต่ทุกสัดส่วนดูน่ามองมากๆ สมแล้วที่ป๋าทั้งรัก ทั้งหวง
หลับหูหลับตาอาบน้ำพร้อมพี่ปูน พอออกจากห้องน้ำมา ผมถึงได้รู้ ได้เห็นจนกระจ่างแจ่ม เมื่อเห็นชุดที่พี่ปูนเอาออกมาจากตู้เสื้อผ้า ผมรีบส่ายหน้ารัวๆ แล้วถอยหลัง แต่คนถือกลับยิ้มแย้ม
“นั่นมันชุดผู้หญิงนะครับ” ผมชี้นิ้วไปที่ชุดกี่เพ้าสีแดงยาว ด้านข้างแหวกขึ้นมาอย่างสูง
“ผู้ชายก็ใส่ได้ พี่ซื้อขนาดเท่ากัน เพราะป่านก็ตัวใหญ่กว่าพี่นิดเดียว” คนซื้อมาดูจะมีความสุข ผมมองพี่ปูนใส่ชุดกี่เพ้าด้วยรอยยิ้ม “ใส่สิ เดี๋ยวช้าพวกด้านนอกจะโวยวายเอานะ” พี่ปูนที่สวมชุดเสร็จแล้วไปยืนหันซ้ายหันขวาหน้ากระจก พอชุดสีแดงอยู่บนตัวพี่ปูนแล้วโคตรน่ามอง ผิวขาวตัดกับสีของชุด
“ถ้าผมน่ารักเหมือนพี่ ผมคงไม่คิดมากแบบนี้หรอก” ถอนหายใจออกมาจนพี่ปูนหัวเราะ
“ป่านน่ารักจะตายไป ไม่งั้นเกนจะหลงเหรอ มั่นใจหน่อยสิ” ผมมองพี่ปูนที่มาช่วยผมยัดชุด ไม่เคยใส่มาก่อนเลยไม่รู้ต้องใส่ยังไง “ดูสิ น่ารักจะตาย” พี่ปูนยิ้มพรายมองผมที่ใส่ชุดแบบเดียวกัน
หมดกันไอ้ป่าน
ผมถูกพี่ปูนจูงมือออกมาจากห้อง ด้านนอกยังเงียบ คนที่รอไปนั่งดูทีวีแทน พอเห็นประตูห้องนอนเปิดก็พากันมานั่งที่โต๊ะตามเดิม แต่ต่างกันตรงที่ ทั้งป๋าและพี่เกนย่อตัวคล้ายจะนั่ง แต่ก็ค้างตัวกลางอากาศ
“น่ารักใช่ไหมล่า” พี่ปูนยิ้มจนตาปิด แต่ผมส่ายหน้าอย่างเดียว มือก็พยายามจับรอยแหวกที่ขึ้นมาสูงเกือบจะเห็นกางเกงใน “ป่านก็น่ารักนะ”
“มาก” ป๋ายกนิ้วโป้งให้สองข้าง ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ ไปนั่งข้างพี่เกนที่ยังมองค้างอยู่ “ไอ้เกน แมลงวันจะเข้าปากแล้ว”
“ป๋า” พี่เกนรีบหุบปากแล้วมองหน้าผมต่อ “ป่านน่ารักว่ะ”
“ไม่ต้องชมมาก เขิน” ผมบอก ทุกคนรอบโต๊ะเลยพากันหัวเราะ
กับข้าวบนโต๊ะค่อยๆ หมดลงไปเรื่อยๆ ผมมองพี่ปูนแกะทั้งปู ทั้งหอยให้ป๋า ดูเป็นคู่ที่น่ารักมากที่สุด น่ารักจนอิจฉา ผมเลยเลือกจะแกะกุ้งให้พี่เกนบ้าง คนได้กุ้งก็ยิ้มแก้มปริแต่ไม่ยอมกิน
“เอาไว้กินหลังสุด” พี่เกนว่า เลยถูกป๋าเขวี้ยงเปลือกปูใส่หัวด้วยความหมั่นไส้
กว่าของบนโต๊ะจะหมด ท้องก็เกือบแตก ผมลุกช่วยพี่ปูนเก็บจาน ส่วนป๋ากับพี่เกนเช็ดโต๊ะ กวาดเศษขยะลงถัง ช่วยกันคนละไม้ละมือก็เสร็จไว แต่ผมจะไวกว่านี้ถ้าถอดชุดนี่ออก มันอึดอัด คับแน่น แถมยังต้องห่วงไอ้ที่มันแหวกขึ้นมาถึงต้นขาอีก
“พี่ปูนไม่อึดอัดเหรอครับ” ถามคนที่เดินไปเดินมาไม่แคร์ว่าไอ้ที่แหวกจะแหกจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน
“ไม่นี่ พี่ใส่จนชินแล้ว” ตกใจแทบหงายหลัง พี่ปูนใส่บ่อยเลยเหรอวะ
“พี่ไม่...เอ่อ อายเหรอครับ” ไม่อยากถามเลย แต่ก็อดไม่ได้ พี่ปูนทำตาโตแล้วยิ้มออกมา
“อายทำไม พี่ใส่เฉพาะอยู่ในห้องนี่แหละ ถ้าออกไปข้างนอกก็แต่งตัวปกติ” ก็ยังไม่เข้าใจ ผมทำตาปริบๆ มอง “พี่ว่า การแต่งตัวก็เป็นอย่างหนึ่งที่จะทำให้คนรักรู้สึกสนุก พี่น่ะ ชอบหาชุดมาใส่ให้ป๋าตื่นเต้น”
ยิ่งกว่าตกใจอีกไอ้ป่าน
“พี่หาเองเหรอครับ” รู้สึกเสียงตัวเองเบาซะจนเหมือนไม่ได้ยิน
“อืม ถามเกนสิ รายนั้นก็เห็นพี่แต่งตัวแบบนี้ตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้รู้สึกเฉยๆ ไปถึงเบื่อเลยล่ะ ต่างจากป่าน ที่เกนมองตาค้างเลย”
“พี่ดูดีกว่าผมอีก”
“ลองถามเกนสิ ว่าใครดูดีกว่ากัน” ถามก็บ้าแล้ว ผมส่ายหน้ารัวๆ จนพี่เกนที่ยืนอยู่ไกลๆ มองอย่างสงสัย “เดี๋ยวพี่ถามให้”
“โนวๆๆ ครับ” รีบดึงแขนพี่ปูนได้ทัน “ไม่ได้อยากรู้ครับ โธ่”
“ถ้าป่านชอบ ชุดพี่มีเต็มตู้เลย ทั้งชุดว่ายน้ำ ชุด....”
“ไม่ครับ ไม่เลย ไม่เอา” ผมรีบปฏิเสธหลังยกมือปิดปากพี่ปูนไว้ ได้ยินชื่อชุดแล้วขนลุกขึ้นมาเฉย
“เสียดาย” พี่ปูนทำหน้าเศร้า แต่ผมไม่รับรู้ ก่อนพี่เกนจะชวนกลับห้องเมื่อได้ขวดไวน์ชั้นเลิศติดมือมา “ถ้าสนใจมาหยิบได้เลยนะ ป่าน”
“อะไรเหรอ” พี่เกนที่ไม่รู้เรื่องราวทำหน้าสงสัย แต่ผมรีบส่ายหน้าแล้วดันร่างใหญ่ให้รีบออกห้อง ก่อนพี่ปูนจะปูดเรื่องที่คุยออกมา รับรองถ้ารายนี้รู้ ต้องรีบไปหยิบมาหมดตู้แน่ แค่ชุดที่ใส่นี่ก็เต็มทนแล้ว
กลับมาถึงห้อง ผมก็กะจะเปลี่ยนชุด แต่พี่เกนดันให้นั่งบนที่โซฟาซะก่อน ไม่ได้คิดอะไรเพี้ยนๆ ใช่ไหม
“ดื่มด้วยกันก่อน ไวน์แพงนะ”
“อวดรวยอีกแล้ว”
“ของป๋า ไม่ใช่ของพี่”
เบ้ปากแต่ก็หยิบแก้วที่มีไวน์มาจิบ รสชาตินุ่มลิ้นมาก สมกับราคาที่แพงเว่อร์ “อร่อย”
“พี่ว่าแล้ว ว่าป่านต้องชอบ”
พี่เกนยื่นมือมาคล้องกับแขนผม แล้วเราก็ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบพร้อมกัน สายตาสวยจ้องมาอย่างพราวระยับ ปากได้รูปยกยิ้มนิดๆ ให้กับผม
“ขอบคุณนะ ที่ทำทุกอย่างเพื่อป่าน”
“ก็พี่เลือกเองนี่นา ก็ต้องดูแลคนที่พี่เลือกให้ดีที่สุด”
“ต้องซึ้งไหม”
“ได้ก็ดี”
สิ้นประโยค เราทั้งคู่ต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ทุกๆ ปีไม่ว่าจะเทศกาลอะไร ผมก็จะขลุกอยู่กับหน้าทีวีบ้าง หน้าตู้เกมส์บ้าง ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้มาทำอะไรแบบนี้ ในเทศกาลเป็นมงคลของพี่น้องเชื้อสายชาวจีน รู้สึกดีใจหล๊ายหลาย
“พี่มีอะไรจะให้” พี่เกนวางแก้วแล้วลุกไปหยิบของออกมา ผมเหล่ตามองอย่างระแวง
“ไม่ใช่ชุดนางแมวป่าใช่ไหม” พูดดักไว้ พี่เกนทำตาโตก่อนหัวเราะออกมา
“บ้าแล้ว ไม่ใช่หรอก” กล่องขนาดเล็กถูกยื่นมาให้ ผมมองอย่างลังเลแต่ก็หยิบมาเปิดดู “ไม่ได้แพงมาก พี่รู้ว่าป่านต้องโมโหหากเป็นของแพง”
“นี่มัน...” ของในกล่องขนาดเป็นแหวนเรียบๆ แต่ดูสวย
“พี่ตั้งใจเลือกให้ป่านเลยนะ” พี่เกนยื่นมือมาหยิบแหวนในกล่องไป ก่อนจะแบมือขอมือของผม ไอ้ผมก็บ้าจี้ ไม่ใช่สิ ตั้งใจวางให้ “อีกข้าง” เผลอหัวเราะเมื่อวางข้างขวา
“ได้หมดถ้าสดชื่น” ผมว่าเมื่อแหวนถูกเลื่อนเข้ามาที่นิ้วนางด้านซ้าย
“ได้สดชื่นแน่” พี่เกนจิ้มหน้าผากผมหลายจึ๊ก ก่อนจะเปลี่ยนมาดึงผมเข้าไปกอด “พี่โคตรมีความสุข เป็นปีใหม่ที่เริ่มต้นด้วยความสุข”
“ป่านดีใจที่พี่เกนมีความสุข” รัดเอวพี่เกนแน่น
“พี่ก็ดีใจที่ทำให้ป่านมีความสุข” พี่เกนว่า “แล้วก็ พี่ชอบนะ ที่เห็นป่านแต่งตัวแบบนี้”
“ไม่ได้อยากใส่เลย” ผละออกจากอ้อมกอดมานั่งที่โซฟาตามเดิม “พี่ปูนนั่นแหละบังคับ แถมให้อาบน้ำด้วยกันอีก โคตรอาย”
“เหรอ” น้ำเสียงเรียบเฉยจนน่าแปลกใจ
“พี่ไม่โมโหเหรอ ที่ผมอาบน้ำกับพี่ปูน”
“พี่ปูนไม่ได้แตะตัวใช่ไหม” พยักหน้ารัวๆ “งั้นก็ไม่โมโหหรอก เพราะพี่ปูนคงไม่ปล้ำป่าน”
“โหย แบบนั้นก็ได้เหรอ” ผมว่า “เอ่อ พี่เห็นพี่ปูนแต่งตัววับๆ แวมๆ อยู่กับป๋า ไม่รู้สึกอายเหรอ”
“อายทำไม พี่เห็นตั้งแต่เด็กแล้ว ขนาดใส่แค่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียวก็เห็นมาแล้ว เฉยๆ” พี่เกนยักไหล่อย่างไม่แคร์ มือยกไวน์ขึ้นจิบ ต่างจากผมที่เบิกตาโตๆ มอง
“ใส่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียว? พี่หมายถึงพี่ปูนไม่ใส่เสื้อผ้าอะไรเลยเหรอ”
“อืม เห็นจนเบื่อ” แทบกระอัก แล้วมากระอ่วนต่อ “แต่ถ้าป่านใส่ พี่จะไม่มีวันเบื่อ”
“ใส่ก็บ้าแล้ว” เสียงสูงปรี๊ด “เลิกล้มความคิดได้เลย ผมไม่มีวันใส่หรอก”
“ไม่นานหรอกน่า”
“มั่นใจซะจริง” ถูกพี่เกนโน้มหน้าผากจูบซะจนน้ำลายเยิ้ม “อี๋ น้ำลายว่ะ”
ซีรี่ส์ที่กำลังเริ่มดึงความสนใจของพวกเรา ผมเอนตัวพิงอกอุ่นของพี่เกน พร้อมๆ กับมีมืออุ่นโอบไหล่เอาไว้ ชีวิตคนเรา ถ้าทำตัวให้มีความสุข โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น เราก็จะสุขทั้งกายและใจ
อ๊ะๆ วันนี้วันดี ดังนั้นเรื่องบนเตียงไม่ดุเดือดแน่นอน ขืนดุเดือดละก็ ของที่กินต้องถูกขย่อนออกมาแน่ เพราะความรัก...ไม่จำเป็นต้องจบบนเตียง เพราะโซฟาก็นุ่มไม่แพ้กัน เฮ้ย ไม่ใช่
สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้พี่น้องทุกคนมีความสุข ร่ำรวยเงินทอง และความสุขตลอดปีนะครับ
......................................................................
สวัสดีวันตรุษจีนค่า

ขอให้เฮงๆ กันถ้วนหน้าทุกๆ คนค่า
( ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ . ที่นี้ด้วยค่าาาา )