คอนโด
ผลัก!!
ร่างเล็กถูกเหวี่ยงเข้าคอนโดแรงจนคนถูกเหวี่ยงล้มลงไปนั่งกับพื้น ฮิมเดินตาม มือหนาปิดประตูห้องเสียงดังปังก่อนจะกระชากเส้นผมของคนตรงหน้าให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมา จนเจ้าของกลุ่มผมสีดำสนิทต้องเดินตามพร้อมกับร้องเจ็บ
เลถูกเหวี่ยงเข้าห้องนอนเป็นครั้งที่สอง มือหนาปล่อยเส้นผมนุ่มที่ขยุ้มอยู่ออกแล้วผลักเจ้าของเส้นผมนั่นล้มลงบนเตียงนอนแทน
“เลเจ็บ ฮือ เจ็บ”
คนถูกกระทำได้แต่ร้องไห้ นัยน์ตาคมสั่นระริกมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังคร่อมทับ เวลานั้นเองที่ได้สังเกตใบหน้าของอีกฝ่าย มันแดงนิดหน่อยบวกกับคาบเลือดที่มุมปากซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากตบทั้งสามครั้งของเขาเอง
“กูตามใจมึงเกินไปเหรอ” เสียงทุ้มเหมือนพึมพำกับตัวเอง แต่คนใต้ร่างกลับได้ยิน สรรพนามที่อีกฝ่ายไม่เคยใช้พูดกับเขาทำให้คนฟังเบิกตากว้าง ในขณะที่ฮิมกัดฟันกรอด มือหนาเอื้อมมาบีบที่ต้นแขนทั้งสองข้างแน่นก่อนจะเขย่าเลพร้อมทั้งตะคอกใส่แรงๆ “ทำไมมึงถึงได้ดื้อขนาดนี้!!”
“ฮึก ฮือ” ร่างบางได้แต่ร้องไห้มากกว่าเดิม ขณะที่มือหนาปล่อยต้นแขนที่เริ่มแดงของเขาออก ฝ่ามือร้อนข้างหนึ่งเอื้อมมาลูบไล้ใบหน้าสวยเอาไว้ เลเกือบคิดว่ามันคือความอ่อนโยนถ้าจังหวะต่อมาพี่ฮิมไม่ได้ใช้นิ้วโป้งกดลงไปที่แผลตรงมุมปากจนความเจ็บแล่นปลาบขึ้นสมอง “เลเจ็บ พี่จ๋า เลเจ็บ”
“เจ็บเหรอ” อีกคนทวนคำ หนำซ้ำยังออกแรงกดมากกว่าเดิม “งั้นตอนตบกูไปตั้งสามทีคิดบ้างหรือเปล่าว่ามันจะเจ็บไหม”
“ฮือ”
“ตอบ!!”
“เลขอโทษ” น้องว่าเสียงแผ่ว จังหวะเดียวกันที่น้ำตาสีใสไหลกระทบมือหนา “เลเจ็บ”
ฮิมยอมปล่อยนิ้วที่กดอยู่ออกอย่างช้าๆ นัยน์ตาคมมองคนใต้ร่างนิ่งๆ จังหวะที่น้ำตาของเลโดนมือเมื่อสักครู่เหมือนทำให้คนที่กำลังหลงอยู่ในโทสะได้สติขึ้นมาสักหน่อย ทว่าความโกรธเกรี้ยวก็ยังไม่ได้หายไป มือหนากำหมัดแน่นอีกครั้ง เล็บแหลมจิกลงเนื้อตัวเองเพื่อระงับอารมณ์ นัยน์ตาคมปิดแน่นขณะพูดกับคนใต้ร่างไปว่า
“ขอโทษ” ฮิมย้ำอีกครั้ง “ขอโทษกับทุกสิ่งที่เลทำในวันนี้ แล้วเลจะไม่เป็นอะไร”
นัยน์ตากลมโตหันกลับมามองใบหน้าของอีกฝ่ายแม้มันจะพร่ามัวไปด้วยน้ำตา น้องเงียบไปสักพักเหมือนกำลังให้เวลากับตัวเอง
“เลขอโทษ” ในที่สุดก็ยอมพูดออกมา ร่างสูงกัดริมฝีปากจนแทบห่อเลือดก่อนจะลุกออกจากกายเล็กไป ถ้าอีกฝ่ายไม่พูดขึ้นมาต่อว่า “เลขอโทษที่เลตบพี่ฮิม แต่เลไม่ขอโทษที่เลไปแข่งรถให้เพื่อน”
ฮิมให้ข้อเสนอที่แสนวิเศษที่แค่พูดคำเดียวออกมาทุกๆ อย่างก็จะได้รับการให้อภัยแต่เหมือนจะไม่เป็นที่สนใจสำหรับคนฟัง
เพราะคำสั่งของพี่ฮิมที่สั่งให้คนกระทืบเพื่อนของเขามันยังติดอยู่ในหัว ความเจ็บแสบบริเวณแก้มมันก็ยังอยู่ คาบเลือดที่เป็นผลพ่วงจากการกระทำของอีกฝ่ายก็ยังคงติดอยู่ที่มุมปาก และทันทีที่เสียงทุ้มบอกว่าให้ขอโทษกับสิ่งที่เขาทำ ถ้าไม่นับที่เขาพลาดพลั้งตบอีกฝ่ายไป คำถามหนึ่งที่เข้ามาในหัวทันทีก็คือ ‘เขาผิดตรงไหน ?’
เลแค่อยากช่วยเพื่อน หรือเรื่องนี้ทำให้เขาเป็นคนผิด ถ้างั้นพี่ฮิมที่ทั้งโกหก ปกปิดและทำร้ายเพื่อนเขาจะไม่เป็นคนผิดมากกว่าหรือไง คนตัวเล็กเม้มปากแน่น เลเสียใจที่ร่างสูงโกหกทั้งๆ เรื่องคลับก็ทีหนึ่งแล้ว และฮิมตกลงว่ามีอะไรก็จะบอก ดังนั้นถ้าจะให้เขาพูดขอโทษ เลอยากให้อีกฝ่ายเป็นคนขอโทษเขาก่อน “เลแค่อยากให้ฮิมขะ--”
ประโยคที่ต้องการจะพูดมันก็ถูกสะกัดเอาไว้ในลำคอเมื่อเห็นนัยน์ตาคมสีดำสนิทแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างน่ากลัว มันไม่ใช่แค่น่ากลัวมันเหมือนดูดวิญญาณคนมอง ยิ่งพี่ฮิมหลุบตามองต่ำ ยิ่งทำให้คนที่สบประสานนั้นรู้สึกว่าตัวเองโดนเยาะเย้ยผ่านทางสายตา ริมฝีปากบางแสยะยิ้มเสียงทุ้มประนามให้กับเขา
“โง่” ในตอนนั้นเอง เลถึงได้รู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่ใช่พี่ฮิมที่เขารู้จักจริงๆ แล้ว
triger warning :
เนื้อหาต่อไปนี้มี rape (การข่มขืน) และมีการใช้ความรุนแรง
ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นอย่างสูง หรือแนะนำให้ข้ามค่ะ[/color]
บรรยากาศผิดปกติที่แผ่ออกมาจากอีกฝ่ายทำให้ร่างเล็กรีบขยับกายหนีตามสัญชาติญาณโดยอัตโนมัติ ปฏิกิริยาที่ทำให้คนที่มองต้องหัวเราะในลำคอ พี่ฮิมแค่เอื้อมมือมาดึงข้อมือบางทั้งสองข้างโดยที่เจ้าตัวไม่ทันระวังเพียงเท่านั้นร่างบางก็ล้มตัวลงนอนราบดังเดิม กายหนาคร่อมทับ ฝ่ามือร้อนทั้งสองข้างลูบไล้ไปตามเอวบางก่อนจะจัดการรวบมือเรียวทั้งสองข้างขึ้น ร่างสูงมองรอบกายเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรที่ยาวประมาณหนึ่งและบางพอจะใช้มัดได้ นัยน์ตาคมจึงเหล่มองไปที่โคมไฟแล้วใช้มือหนาข้างที่เหลือไปตวัดโคมไฟที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงจนมันตกแตกลงพื้น ฮิมกระชากข้อมือบางที่รวบอยู่เป็นผลให้คนต้องลุกขึ้นตาม ร่างสูงเดินไปทางเศษซากของโคมไปที่แตกละเอียด จุดมุ่งหมายของร่างสูงของสายปลั๊กของมัน ฮิมใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบซากเศษของโคมที่ยังติดกับสายปลั๊กเอาไว้ก่อนจะออกแรงดึงจนมันแยกออกจากกัน มือหนาหยิบสายปลั๊กส่วนนั้นขึ้นมามัดข้อมือบางทั้งสองข้างรวบเข้าด้วยกันก่อนจะผลักให้อีกฝ่ายล้มตัวนอนลงบนเตียงดังเดิม
นัยน์ตาคมสบตากับคนที่กำลังมองเขาอย่างหวาดๆ ก่อนจะเค้นหัวเราะ
“กลัวพี่เหรอ” เขาดึงเอวบางเข้ามาใกล้ เลื่อนมือไปลูบไล้ใบหน้าสวยอย่างช้าๆ “ไม่ต้องกลัวนะ”
“ฮือ” คำปลอบไม่ได้ผลเมื่อเสียงสะอื้นเริ่มดังขึ้นอีกครั้งน ปกติแล้วน้ำตาของเลคือสิ่งที่ฮิมไม่ชอบเพียงแต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกชอบมันแปลกๆ คนตัวสูงยกยิ้มขณะเกลี่ยน้ำตาอุ่นออกจากใบหน้าสวยอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่คนร้องเหมือนปลาใกล้ตายเนื่องจากขาดน้ำ เลรู้สึกเหมือนใจจะขาด ยิ่งตอนที่คนตรงหน้าหุบรอยยิ้มลงแล้วบอก
“ตบไปตั้งสามครั้งยังต้องกลัวอะไรอีก”
พรึบ!
“อ๊ะ!” ร่างเล็กถึงกับสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ก็โดนพลิกคว่ำ สัมผัสบางอย่างบริเวณด้านหลังทำให้เลขนลุกวาบ ดวงตากลมโตพยายามหันไปมองแต่แล้วมือหนาก็เอื้อมเข้ามากดคอเขาลงกับหมอนไปก่อนที่จะหัน เสียงรูดซิบชุดนักแข่งที่อยู่ด้านหลังออกทำให้คนได้ยินเบิกตากว้าง เลพยายามหันไปมองแต่ด้วยแรงกดที่คอจนแล้วจนรอดเขาก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเข้ากับหมอน เสียงนุ่มเลือกที่จะตะโกนลั่น “พี่ฮิมจะทำอะไร!!”
“…” ร่างสูงไม่ตอบกระทั่งซิบถูกรูดจนสุด ฮิมเลิกกดแรงเข้าที่คอแต่เลือกที่จะดึงมันขึ้น เป็นผลให้แผ่นหลังบางแนบเข้ากับอกกว้าง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาใช้มือข้างหนึ่งล็อคคอน้องเอาไว้ ขณะอีกข้างเอื้อมไปกระชากชุดออก ทันใดนั้นคนที่ยังหวาดหวั่นกับการกระทำของอีกฝ่ายจึงได้เข้าใจสถานการณ์
“พี่ฮิมอย่า!!”
เลช้าเกินไป เสียงหวานปฏิเสธก็ตอนที่ส่วนบนถูกถอดออกจนหมด ยอดดอกสีสวยปรากฏต่อสายตาคนมอง ฮิมดันร่างเล็กให้นอนแนบศีรษะเข้าที่หมอนอีกครั้ง ในขณะที่บั้นท้ายถูกยกขึ้นเพื่อให้คนที่ซ้อนอยู่ทางด้านหลังดึงชุดในส่วนที่เหลือจนมันหลุดออกทั้งหมด “อย่า! อย่า!”
กายขาวถูกพลิกคว่ำอีกครั้ง เลกลับไปนอนราบอยู่ใต้ร่างแกร่ง ในขณะที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายอมผละออกแล้วใช้เวลาไม่ถึงนาทีในการถอดชุดของตัวเองออกจนร่างกายเปล่าเปลือย จังหวะนั้นเองที่คนร้องไห้รีบขยับกายออกห่าง จนแผ่นหลังบางแนบติดที่หัวเตียงอีกครั้ง เลประสานสายตาเข้ากับร่างสูงที่ยืนอยู่ปลายเตียง นัยน์ตาคมสีดำสนิทที่จ้องกลับมาทำให้ตัวของเขาสั่นไปหมด ความกลัวครอบครองทุกพื้นที่ของหัวใจ เมื่อภาพพี่ชายแสนดีที่เคยมีในตอนนี้แหลกละเอียด ทุกการกระทำของอีกฝ่ายในวันนี้ฝังติดอยู่ในหัว แม้กระทั่งนัยน์ตาคมที่มองเขาอยู่ตอนนี้ในตอนนี้ก็เปรียบเสมือนเข็มขนาดเล็ก ทุกที่ที่พี่ฮิมจ้องมองราวกับว่ามีเข็มพุ่งเข้ามาแทงเขาที่ส่วนนั้น
มันเหมือนกับคนตรงหน้าไม่ใช่พี่ฮิมที่เขารู้จัก คำพูดของพี่เกียร์พุ่งเข้ามาในหัว
‘ถ้ามึงไม่กลัวพ่อมึง มึงก็ไม่ควรกลัวกูนะ’
สิ่งที่พี่เกียร์พูดมันเป็นความจริง แย่กว่าตรงที่เลรู้สึกว่าในตอนนี้ พี่เกียร์ที่เขากลัวหนักหนายังน่ากลัวน้อยกว่าผู้ชายที่เลี้ยงดูเขามาสิบเท่า ทั้งความดิบเถื่อน ความดุดัน แม้กระทั่งบรรยากาศมันต่างกันลิบลับ ขณะที่พี่เกียร์ให้ความรู้สึกน่ากลัวแบบเปิดเผยออกมา คนตรงหน้าเขากลับไม่ได้มีบรรยากาศแบบนั้น ทว่าบางอย่างที่อยู่ภายในมันบอกว่าผู้ชายคนนี้อันตรายไม่ควรเข้าใกล้
บางอย่างที่ทำให้รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ว่ามันกำลังทิ่มแทงตัวเขาตลอดเวลา ราวกับ… นักฆ่า
ทุกย่างก้าวที่เจ้าของขายาวเดินเข้ามาหายิ่งทำให้คนตัวเล็กแสดงท่าทางต่อต้านด้วยการเตะขาไปมาเนื่องจากมือทั้งสองข้างถูกมัด เสียงหวานกรีดร้องมากกว่าเดิมยามที่ร่างสูงค่อยๆ เดินมาข้างเตียง “อย่า! อย่า! ยะ--”
หมับ!!
มือหนาเอื้อมไปดึงกลุ่มผมนุ่มอย่างแรงจนเจ้าของร้องเจ็บ
“โอ๊ย!! เลเจ็บ ฮือเลเจ็บ”
“เจ็บแล้วดื้อทำไม” ฮิมแสร้งถามแต่มือหนากลับออกแรงขยุ้มกลุ่มผมดำมากกว่าเดิม คนฟังได้แต่สะอื้นตอบ
“เลแค่อยากช่วยเพื่อน”
“ใจดีจังนะ ช่วยพี่บ้างสิ” คำตอบที่ทำให้คนฟังแสยะยิ้ม ร่างสูงก้าวขึ้นเตียง มือหนาข้างที่เหลือเอื้อมไปเชยคางเรียวขึ้นแล้วบังคับให้นัยน์ตากลมมองมาที่ตนเอง ทีแรกเลนึกว่าอีกฝ่ายใจอ่อนเมื่อใบหน้าหล่อเหลานั่นมีประกายความอบอุ่นเผยออกมา ทว่าไม่ถึงนาทีมันก็ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเฉียบนิ่งซึ่งมาพร้อมความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณคางและศีรษะ เมื่อมือหนาที่เชยคางเลอยู่ จู่ๆ ก็ออกแรงบีบให้อ้าปาก มือที่อยู่ด้านหลังกดศีรษะให้เข้ามาใกล้บริเวณสะโพกหนาก่อนบางอย่างจะถูกยัดเข้าไปในโพรงปากเล็ก ขนาดของมันยาวจนลึกลงไปในลำคอ เลเงยหน้ามองเจ้าของดวงตาคมอีกครั้ง ทันใดนั้นน้ำตาสีใสไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตกเป็นเวลาเดียวกันที่เสียงทุ้มออกคำสั่ง “อม”
เลพูดไม่ได้เมื่อแท่งเนื้อที่คับแน่นอยู่ในปากลึกลงไปถึงลำคอ ร่างเล็กเลยได้แต่น้ำตาไหลเงียบๆ และเมื่อเขาไม่ยอมขยับ พี่ฮิมที่ยังคงขย้ำเส้นผมอยู่จึงออกแรงดึงศีรษะบางเข้าออกแทน ทุกจังหวะตรึงไปด้วยความอึดอัด ร่างเล็กได้ยินเสียงครางทุ้มๆ จากคนที่บังคับศีรษะ ในขณะที่คนรองรับแทบจะหายใจไม่ออกเมื่อแท่งเนื้อร้อนภายในมีท่าทีว่าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หัวของเลสั่นคลอนไปมาเมื่อร่างหนาเริ่มเร่งจังหวะ เสียงครางทุ้มเริ่มดังติดต่อกันพอๆ กับน้ำตาที่ไหลถี่ออกมาเรื่อยๆ ในที่สุดคนตัวสูงก็ยอมถอนมันออกไป เลไอแค่กๆ ร่างเล็กทำได้แค่สูดลมหายใจเข้าเพียงครู่เดียวเท่านั้นร่างกายก็ถูกผลักให้นอนราบลงกับเตียง ต่อด้วยขาเรียวที่ถูกจับแยกออกจากกันอย่างรวดเรียว ฮิมไม่ให้โอกาสให้อีกฝ่ายได้พัก ร่างหนาจับลำคอจ่อเข้ากับช่องทางสีสวยที่ยังไม่ได้เบิกก่อนจะดันลำตัวเข้าไป ทันทีที่ส่วนปลายแทรกเข้ามาด้านในอาการเจ็บแสบที่ช่องทางก็ประดังเข้าใส่คนรองรับจนเกิดปฏิกิริยาต่อต้านรุนแรง
“ยะ--! อื้อ! ฮืออ” เลร้องไห้จนสั่น และก่อนที่เสียงหวานนั้นจะโวยวาย ร่างหนาก็ใช้นิ้วเรียวล้วงเข้าไปในโพรงปากเล็ก ฮิมปล่อยให้ฟันคมกัดลงที่นิ้วของตนเองในตอนที่กำลังแสรกกายเข้าไปในช่องทางที่ฝืดเคืองและขยายกว้างขึ้นเพื่อรองรับแท่งเนื้อขนาดใหญ่จนมันฉีกขาด หยาดเลือดสีแดงสดหยดลงบนเตียงทันทีที่กายหนาฟันกระแทกเข้าไปในทีเดียว ช่องทางคับแคบและบีบรัดเกินกว่าที่จินตนาการทำให้ฮิมเลียริมฝีปาก ส่วนล่างที่ถูกบีบแน่นทำให้ร่างสูงเกิดอารมณ์ใคร่ในกามมากขึ้นกว่าเดิม นัยน์ตาคมหลุบมองคนใต้ร่าง เขาไม่สนน้ำตาของอีกฝ่าย มือหนาอีกฝ่ายเอื้อมไปปาดน้ำตาให้เลแบบลวกๆ ก่อนจะเริ่มจังหวะด้วยความเฝือดเคือง สะโพกหนาค่อยๆ กระแทกเข้าไปในช่องทางเล็กทีละนิด ทีละนิด และยิ่งเร่งจังหวะมากเท่าไหร่ความใคร่ก็ยิ่งมากขึ้นเท่าขึ้น ช่องทางเล็กตอบรับด้วยการตอดรัดรุนแรงและบีบแน่นจนคนที่กำลังกระแทกกายเข้าไปต้องยิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจ ความใคร่ทำให้ร่างสูงไม่สนใจว่าคนรองรับจะเป็นยังไง และเมื่อไร้ซึ่งน้ำหล่อลื่น สิ่งที่ออกมาจากรูเล็กก็คือเลือดสีแดงฉาดที่เกิดจากการฉีกขาดของช่องทาง ในขณะที่ฮิมเสียวกระสันเลกลับรู้สึกในทางตรงกันข้าม ทุกแรงกระแทกกระทั้นเต็มไปด้วยความเจ็บแสบ ครั้นจะต่อต้านมือทั้งสองข้างก็ถูกมัดรวบ ขาก็ถูกดันให้แยกออก แม้กระทั่งริมฝีปากก็มีมือหนาล้วงเข้ามากดลิ้นเขาเอาไว้ สิ่งที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้นมันเอาไว้ดูเหมือนจะมีแค่น้ำตาที่ไหลถี่ออกมาด้วยความเจ็บปวด
ในขณะคนหนึ่งสุขแทบลืมหายใจ อีกคนก็เจ็บจนใจจะขาด
ทว่าอารมณ์เสียวซ่านพุ่งทะยานเกินกว่าจะหยุด เมื่อจังหวะถูกเร่งขึ้นขาเรียวก็ถูกจับแยกออกจากกันมากกว่าเดิม คนตัวสูงเริ่มโน้มตัวลงมาดูดดันที่หน้าอก ฟันคมกัดลงบนยอดดอกจนความรู้สึกเสียววาบแล่นผ่านร่าง ในขณะเดียวกันที่มือหนาข้างที่เหลือเอื้อมไปกอบกุมส่วนกลางของคนใต้ร่างเอาไว้ ฮิมรูดรั้งมันเป็นจังหวะเดียวกันที่สะโพกหนากระแทกเข้าใส่ในรูเล็ก ร่างสูงเร่งจังหวะ สะโพกหนากระแทกกระทั้นถี่รัวมากกว่าเดิมเป็นผลให้เสียงครางแผ่วเบาดังขึ้นพร้อมกับน้ำสีขุ่นที่เริ่มออกมาจากปลายแท่งเนื้อน้อย คนตัวสูงหอบหายใจพร่า ฮิมหลับตาแน่น สะโพกแกร่งกระทุ้งเข้าจุดกระสั่นของอีกฝ่ายหลายๆ ที แล้วจึงปล่อยน้ำกามใส่เข้าไปในกายเล็ก เป็นจังหวะเดียวกันที่เลกระตุกก่อนน้ำสีขุ่นจะพุ่งออกมาเช่นกัน
นิ้วเรียวถอนออกมาจากปากเล็ก ไล่ลงสู่คาง ลำคอ มาจนถึงคอดเอวกิ่ว ฮิมก้มลงมองคนที่ยังคงร้องไห้อยู่ ร่างสูงก้มลงไปเลียน้ำตาพร้อมกับเริ่มจังหวะกระแทกเข้าออกอีกครั้งหนึ่ง
“พอ! ไม่! อย่า--”
พรึบ!
มือหนาเอื้อมไปปิดปากเล็กอีกครั้งยามได้ยินเสียงร้องห้าม ริมฝีปากร้อนเลื่อนลงมาครอบครองที่ยอดดอก ฟันคมกัดมันแรงๆ จนเจ้าของหน้าอกขาวเกิดความกระสั่นไปทั้งร่าง เลเจ็บไปพร้อมๆ กับเสียวสะท้าน ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเจ็บ นัยน์ตากลมโตจึงยังคงมีน้ำตาออกมาให้เห็น แต่ดูเหมือนพี่ฮิมจะไม่เห็นใจความเจ็บของเขา ร่างสูงเริ่มจังหวะใหม่ด้วยการตะบี้ตะบันกระแทกกระทั้นรุนแรงแบบไม่ปราณี ช่องทางที่ฉีกขาดเมื่อได้รับแรงกระทำทำให้มันยิ่งแย่ไปกว่าเดิม
กายขาวถูกจับพลิกคว่ำ ในขณะที่คนด้านหลังยังคงกระทุ้งกายเข้ามาเหมือนหมาติดสัตว์ ตัวเลถูกยกขึ้น มือหนารั้งใบหน้าสวยที่ยังคงถูกปิดปากเข้าแนบที่ไหล่ ร่างสูงใช้มืออีกข้างก่อกวนส่วนกลางของอีกฝ่ายในขณะที่ยังคงขยับสะโพกรัวใส่ช่องทางเล็ก ความกระสั่นแล่นไปทั่วร่าง กายขาวเกร็งไปทั้งร่างเมื่อแท่งเนื้อร้อนขนาดใหญ่ครูดไปตามผนังด้านใน ยิ่งทำให้ช่องทางสีสวยบีบรัดมันมากขึ้น
“ชอบเหรอ” เสียงทุ้มแสร้งถาม ฮิมสัมผัสได้ถึงอีกฝ่ายที่กำลังบีบรัดมากกว่าเดิม คนตัวสูงเร่งจังหวะ เสียงหอบหายใจพร่าดังไปทั่วห้อง มือหนาปล่อยออกจากริมฝีปากบางมาจับเข้าที่แนวบางทั้งสองด้านแทน สะโพกแน่นกระแทกเข้าไปจนกายเล็กสั่น ริมฝีปากแน่นรีบเม้มเข้าหากัน นัยน์ตากลมโตก้มลงมองแก่นกลางของตัวเองที่ตั้งขึ้นอย่างหยาบโลน ปลายแท่งที่คล้ายจะมีบางสิ่งพุ่งออกมาอีกครั้งทำให้หน้าร้อนฉ่า เลหน้าร้อนมากกว่าเดิมเมื่อคนด้านหลังใส่เข้ามาไม่ยั้งจนเกิดเสียงน่าอาย ความเจ็บแสบปะปนไปกับความเสียวซ่าน ก่อนกายบางจะสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ข้อพับทั้งสองข้างของเขาก็ถูกยกขึ้นจนตัวลอยบนกลางอากาศ หากส่วนที่เชื่อมระหว่างเขากับพี่ฮิมยังคงเชื่อมติดกันไม่หลุด เช่นเดียวกันที่ร่างสูงยังคงกระทุ้งแก่นกายเข้ามาด้านในจนสุดความยาวเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนคือความใคร่ในกามที่พุ่งทะยานสูงเสียจนกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ไหว
“อื้อ อ๊ะ! อ๊า” เหมือนทั้งร่างถูกมัวเมาไปด้วยกามอารมณ์ จนความเจ็บแสบที่ช่องทางคล้ายถูกลบเลือนไปจากสติเลชั่วครู่ ร่างเล็กเหมือนเปล่งได้แต่เสียงคราง เสียงร้องห้ามที่ตนเคยอยากทำคล้ายตอนนี้มันไปซ่อนอยู่ที่ไหนสักซึ่งไม่หลุดออกมา ใบหน้าหล่อเหลาหลุบลงมาสองส่วนที่เชื่อมกัน ร่างสูงกระแทกกระทั้นให้เร็วมากกว่าเดิม เสียงครางและกลิ่นกายของอีกฝ่ายเหมือนฟืนที่ถูกโยนเข้าใส่เปลวเพลิงให้ยิ่งลุกไหม้ และท้ายที่สุดมันก็มอดดับลงไปอีกครั้งหลังจากหลั่งน้ำพุ่งเข้าไปในกายเล็ก ฮิมกระตุกหนึ่งครั้งก่อนจะถอนแก่นกายออก ทันใดนั้นน้ำสีขุ่นจำนวนหนึ่งก็ไหลออกจากช่องทางตกลงสู่เตียงนอนที่อยู่เบื้องล่าง มือหนาวางข้อพับข้างหนึ่งลงก่อนส่งนิ้วเรียวเข้าไปคว้านเอาน้ำกามที่อยู่ด้านในออกมา เป็นจังหวะเดียวกันที่ใบหน้าสวยขยับมาพิงไหล่ ฮิมมองคนที่ทำท่าเหนื่อยอ่อนก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากเบาๆ แล้วจับให้อีกฝ่ายลงนอนราบส่วนเขาขึ้นคร่อมพร้อมกับแทรกแก่นกายเข้าไปอีกครั้ง
“อย่า! พี่ฮิม เลขอร้อง! พอ-- อื้อ!” เสียงแหบสั่นถูกกลบทาบด้วยเสียงสะโพกกระทบกัน ทันทีที่ร่างสูงโน้มตัวลงทาบริมฝีปากบางเอาไว้ไม่ให้พูดออกมา มือหนาจับขาเรียวโอบรอบสะโพก น้ำตาสีใสไหลออกมาอีกครั้งจากคนตัวเล็กเมื่อร่างสูงยังคงแนบแก่นกายใส่เขา อีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง
ตีสามครึ่ง
“อ๊ะ! อ๊า! อ๊า!” เสียงครางแหบแห้งดังติดต่อกันนับตั้งแต่ที่พวกเขามาถึงคอนโด นับห้าชั่วโมงที่ร่างเล็กยังคงอยู่ใต้ร่างเจ้าของรอยสักรูปมังกร เลในตอนนี้ถูกพลิกคว่ำ ใบหน้าที่แนบอยู่บนหมอนดูอิดโรยเนื่องจากถูกคนด้านหลังแทรกแก่นกายเข้ามาภายในร่างจนนับไม่ถ้วน และแม้ว่าจะพยายามตะเกียกตะกายหนีมากเท่าไหร่ มือหนาคู่นั้นก็จะเอื้อมมาจับสะโพกเขาแล้วยัดแก่นกายร้อนเข้าได้ทุกครั้ง จนช่องทางเล็กไม่เจ็บยามถูกสอดใส่ ยอดดอกทั้งสองข้างบวมเปล่งจากการถูกบีบขยี้และดูดดึงอย่างรุนแรง รวมทั้งแก่นกายของเขาก็แทบจะมีแต่น้ำใสๆ เท่านั้นที่หลั่งออกยามถึงจุดสุดยอด เลคิดว่าตัวเองพูดคำว่าพอนับร้อยครั้งได้ ทว่าไม่มีครั้งไหนที่มันได้ผลเลยสักครั้ง ในเมื่อพี่ฮิมยังคงตะบี้ตะบั้นกระแทกช่องทางของเขาอยู่แบบนี้ กายขาวเกร็งขึ้นอีกครั้งเมื่อใกล้ถึงฝั่ง ทว่าบางอย่างที่มันต่างออกไปทำให้เลขนลุกซู่ ใบหน้าสวยหันไปสบตากับคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังทันที
“มีอะไร” ฮิมถามเสียงเรียบ ร่างสูงจับได้ถึงความผิดปกติทันทีจากสีหน้าของอีกฝ่าย
“เล…อยาก…เข้า…ห้องน้ำ” เสียงทุ้มไม่ได้ตอบกลับ ครั้นเขาออกแรงดิ้นมือหนาก็เอื้อมมือยึดสะโพกเช่นทุกครั้ง เหมือนมันเป็นกาวติดแน่น ดิ้นเท่าไหร่ก็ดิ้นไม่หลุด “เลขอร้อง”
คนตัวสูงเลียริมฝีปาก มือหนายกร่างขาวที่เต็มไปด้วยรอยจูบขึ้นนั่งตักแล้วหันหน้าออกนอกเตียง คนตัวเล็กไม่เข้าใจความคิดของอีกฝ่าย จะให้เขาไปห้องน้ำยังไงในเมื่อทั้งสองส่วนยังเชื่อมกันอยู่แบบนี้ ทว่าทันทีที่ฮิมเอื้อมลงไปแตะที่แก่นกลางพร้อมทั้งรูดรั้งมันอย่างรวดเร็วเหมือนเร่งให้สิ่งนั้นมันออกมา ทำให้คนที่ยังงงอยู่สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว นัยน์ตาคมโตที่บวมเปล่งจากการร้องไห้เคล้าน้ำตาขึ้นมาอีกครั้ง เสียงแหบพร่าร้องห้ามในขณะที่คนด้านหลังเร่งจังหวะและกระทุ้งแก่นกายเข้าตรงจุดกระสั่นของเขามากกว่าเดิม
“อย่า! เลขอร้อง!”
“ปล่อยออกมาสิ”
“พี่ฮิม! ไม่เอา! เลขอล่ะ ฮือ อย่า!”
“ปวดไม่ใช่เหรอ ปล่อยออกมาสิ”
“ฮิม ฮึก! ฮืออออ อย่า!! อย่าทำแบบนั้น!! ไม่! ม่ายยยยยยยยยยย!!” น้ำกามสีใสพุ่งออกมาพร้อมกับปัสสาวะทันทีที่ถึงจุดสุดยอด นัยน์ตาคมเบิกกว้าง ร่างเล็กสั่นสะท้านในขณะที่ใบหน้าสวยแดงฉ่าไปด้วยความอับอายยามมองน้ำปัสสาวะจำนวนมากที่พุ่งออกจากส่วนปลายไหลลงสู่พื้นห้อง ร่างเล็กปล่อยโฮเป็นจังหวะเดียวกันถูกรวบตัวกลับไปนอนราบบนเตียงอีกครั้ง ขาเรียวถูกแยกออกพร้อมกับแท่งเนื้อร้อนที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยก็แทรกกลับเข้ามาใส่รูเดิม ดวงตากลมที่ฉาบไปด้วยน้ำตาเงยหน้ามองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา ไล่ลงไปที่ลำคอ บ่าไหล่ ลามไปจนถึงรอยสักรูปมังกรบริเวณต้นแขนด้านซ้าย มือบางที่ถูกปลดปล่อยเป็นอิสระเมื่อสองชั่วโมงก่อนยกขึ้นลูบไล้แผ่นอกกว้าง แล้วเลื่อนขึ้นไปตรงลำคอ เลใช้เล็บแหลมครูดที่ส่วนนั้นจนมันเป็นรอยแดงอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นจึงวางลงที่บ่า เขารองรับแรงกระแทกที่เร็วรี่ขึ้นอีกครั้งกระทั่งอีกฝ่ายหลั่งน้ำกามเข้ามาด้านใน มือบางที่วางอยู่บนบ่าก็เอื้อมขึ้นมาแล้วใช้แรงที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดฟาดเข้าที่แก้มด้านขวาของอีกฝ่าย
มันไม่แรงพอที่จะให้ฮิมโกรธ แรงตบที่ไม่ควรจะเรียกว่าตบเหมือนเลแค่เอามือมาแตะที่ใบหน้าของเขา ประโยคต่อมาต่างหากที่ทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนใครเอาดาบมาฟันเข้าที่ร่างกาย คมเสียจนตัดขั้วหัวใจออกไปด้วย
“เลเกลียดพี่ฮิม”
...ในตอนนี้
คนถูกเกลียดไม่ได้ตอบกลับ ร่างสูงถอดถอนแก่นกายออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป…
‘เล! ไอ้สัสเอ้ย!’
‘เล!! เล!’
‘เรียกรถพยาบาลดิว่ะ’
‘เล!! เล!! มึงอย่าเป็นไรนะ’
‘เล!’
‘เล!!’.
.
“เลจะเป็นอะไรไหมครับ”
“ร่างกายอ่อนเพลีย มีแผลแต่ไม่ถึงขั้นอันตราย ส่วนที่มีแผลหมอก็ทำแผลให้เสร็จแล้ว เหลือก็แต่จิตใจที่น่าเป็นห่วง ยังไงถ้าคนไข้ตื่นคงต้องมาดูกันอีกที”
บทสนทนาดังขึ้นมาให้ได้ยิน บรรยากาศเงียบสงบและพอลืมตาขึ้นมาก็เห็นเพดานสีขาวที่อยู่ด้านบนทำให้คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงรู้ทันทีเลยว่าตนเองกำลังอยู่ที่ไหน เลหันหน้ามองไปรอบตัว เขาเห็นพี่วินกำลังยืนคุยกับคุณหมออยู่จึงแสร้งหลับต่อ คนบนเตียงนอนรอให้แน่ใจว่าหมอเดินออกไปแล้วจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง เสียวแหบพร่าเอ่ยเรียกคนที่กำลังนั่งกุมขมับอยู่บนโซฟา
“พี่… วิน” ร่างสูงสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียง ขายาวรีบเดินมาข้างเตียงก่อนจะพยุงคนที่พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งจนสำเร็จ “อยาก...กินน้ำ”
วินพยักหน้าก่อนจะวิ่งไปเปิดขวดน้ำมาเทใส่แก้วให้อีกฝ่าย น้องรับไปดื่มจากนั้นก็ไม่ว่าอะไร นัยน์ตากลมโตที่เคยสดใสนั่นเหม่อลอยจนคนมองรู้สึกใจหาย ร่างหนาเอื้อมไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้ เขาดันให้ใบหน้าเรียวที่ตอนนี้ตาบวมเปล่งแนบเข้าอกพร้อมทั้งลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ
ลับหลังนั่น… มือหนากำหมัดแน่นจนตัวสั่น นัยน์ตาคมบ่งบอกถึงความชิงชังต่อคนที่หายหน้าไป
1 อาทิตย์ต่อมา
เหมือนวนลูปเดิมเพียงแต่เวลานานกว่า ผมออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่สี่วันก่อนส่วนพี่ฮิมนั้นไร้วี่แววมาจนถึงตอนนี้ ผมยังไม่ได้ไปมหา’ลัย เลยไม่รู้ว่าพี่ฮิมไปเรียนไหม แต่ผมกลับไปที่คอนโด ร่างสูงก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นเช่นกัน แถมพี่ๆ ทุกคนในบ้านไม่มีใครพูดถึงเขาให้ผมได้ยินสักคน แม้กระทั่งชื่อก็ไม่ เหมือนไม่มีคนที่ชื่อว่า ‘ฮิม’ อยู่ในสารบบของบ้านหลังนี้ แม้แต่ห้องนอนเองผมก็ถูกพี่วินลากให้ไปนอนด้วยทุกคืน แต่การที่ทุกคนไม่พูด ใช่ว่ามันจะดี เพราะท้ายที่สุดผมก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่ฮิมอยู่ดี คิดว่าคงต้องถามสักวันและเหมือนสักวันที่ว่ามันถูกบีบให้มาเป็นช่วงบ่ายของวันที่สี่หลังจากออกมาจากโรงพยาบาล ผมกำลังอาบน้ำให้เปอร์เซียร์ เจ้าแมวที่มีชื่อเล่นเหมือนชื่อสายพันธุ์ ช่วงนี้มันว่าง่ายแปลกๆ คงเป็นสิ่งเดียวเกี่ยวกับพี่ฮิมที่พี่ๆ ทุกคนไม่ได้ปิดกั้นมันจากผม คืออย่างน้อยก็ไม่ได้โยนเจ้าแมวตัวนี้ออกจากบ้าน ขณะนั้นเองที่จู่ๆ ประตูบ้านก็มีเสียงกดออดดังขึ้น ออดที่ไม่เคยมีใครกดมานานทำให้ผมต้องเลิกคิ้วแล้วรีบล้างตัวให้กับเจ้าแมวตัวอ้วนตรงหน้า หลังจากนั้นจึงวิ่งไปที่หน้าประตูบ้านเพราะในตอนนี้ทั้งบ้านมีแค่ผมคนเดียวที่อยู่
นอกบ้านมีผู้ชายวัยกลางคนใส่สูทยืนรออยู่ เขายิ้มทันทีที่เห็นผมก่อนจะเอ่ยถาม
“ใช่คุณนิพิฑหรือเปล่าครับ ?”
“ใช่ครับ” ผมตอบรับ “มีอะไรหรือเปล่า”
อีกฝ่ายยิ้มให้ผมเหมือนเดิมก่อนจะตอบกลับ “ผมเป็นทนายของคุณเฮดินครับ ชื่อกฤศครับ”
Haydin ชื่อจริงของพี่ฮิม
ผมเม้มปาก ชื่อจริงที่ไม่ได้ยินมานานของคนที่หายตัวไปแล้ว 7 วันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ และก่อนที่จะได้ถามอะไรออกไป คุณทนายตรงหน้าก็บอกข่าวที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโลกถล่ม
“ผมมาเพราะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณเฮดินกับคุณนิพิฑน่ะครับ”
ไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านั้น ผมเข้าใจได้เองทันทีเมื่อคำพูดที่พี่ฮิมเคยพูดเอาไว้แล่นเข้าใส่หัวผมเป็นฉากๆ
‘พี่จ้างทนายเอาไว้’
‘ถ้าพี่ได้ตัดขาดกับเราจริงๆ’
‘เลจะได้เงินพันล้าน’
(100%)