ตอนที่๒๒
เธรานั่งอยู่ข้างๆวิรัลในงานเฉลิมฉลองในช่วงเวลากลางคืน ไฟกองใหญ่ถูกก่อขึ้นพร้อมกับเสียงดนตรีครึ้กครื้น สุราและอาหารถูกนำมาเลี้ยงฉลองมากมาย
“ชุนห้ามโชบุหน่อยสิ” เธราหันไปบอกชุนที่นั่งอยู่ด้านหลัง ก่อนบุ้ยปากไปทางโชบุที่ดูเพลิดเพลินกับงานเฉลิมฉลองมากกว่าใคร ชุนที่ได้ฟังคำได้แต่ยิ้มๆ จนเธราได้แต่ถอนหายใจ ชุนนั้นตามใจโชบุมาแต่ไหนแต่ไร ทั้งที่คนที่โชบุจะหยุดฟังก็มีแค่ชุนเท่านั้น
“แล้วเจ้าไม่ไปสนุกกับพวกพี่น้องเจ้าหน่อยเหรอ” วิรัลหันไปถามเธราที่เอาแต่นั่งกินขนมอยู่ข้างๆเขา
“หม่อมฉันไม่ค่อยถูกกับสุราเท่าไร ไม่ชอบด้วยกระหม่อมไม่อร่อย” เธราบอกกองค์วิรัลก่อนหยิบขนมเข้าปาก พลางมองบรรยากาศรอบตัวไปเรื่อยๆ
ธันนั่งเฉยๆท่ามกลางบรยากาศสนุกสนาน สายตาคมจับจ้องไปยังเธรากับวิรัลนิ่งๆ เขารู้ว่าสิ่งที่เขากำลังรู้สึกมันผิด เขาพยายามเก็บซ้อนมันแล้ว แต่ก็ยังไม่รอดพ้นสายตาของเจ้าพวกลูกครึ่งแม้จะโมโหในท่าทางของโชบุ แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธว่าสิ่งที่โชบุสาดใส่หน้าเขาคือเรื่องจริง
เขาเติบโตมาอย่างยากแค้นกว่าจะได้มาอยู่ในตำแหน่งหน้าที่นี้เขาต้องใช้แรงกายแรงใจทั้งหมดในการสร้างมันขึ้นมา องค์วิรัลเป็นเพียงคนเดียวที่มองเห็นความสามรถของเขาและให้โอกาสแสดงฝีมือ สำหรับเขาองค์วิรัลคือทุกอย่างคือเจ้าเหนือหัว คือพี่ที่สั่งสอนและคือคนที่เขาไม่มีทางที่จะทรยศหรือทำอะไรให้เคืองใจ ธันคิดก่อนละสายตาจากวิรัลมาที่คนนั่งกินขนมอยู่ข้างๆวิรัล เธราหยิบขนมเข้าปากเป็นระยะ ธันไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่เขาไม่อาจละสายตาจากคนตรงหน้าได้นาน เธราที่แสนธรรมดาไม่ใช่คนที่น่าหลงใหลหากเมื่อทุกครั้งที่ริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มมักตรึงดวงใจที่แสนกระด้างของเขาได้ทุกครั้ง เธราห่วงใยเขาแม้เขาจะแสดงท่าทีแข็งข้อไม่เคารพ เธราเอ่ยขอบคุณและขอโทษเขาเสมอ เมื่ออยู่ใกล้ๆเธราเขามักรู้สึกว่าคนอย่างเขาก็สำคัญไม่น้อยกว่าใคร เธราเป็นคนแรกที่ให้ความสำคัญกับเขาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ หากตอนนี้เขาได้ตอบแทนเธราด้วยหัวใจไปเสียแล้ว สิ่งตอบแทนที่เธราเองก็คงไม่อยากได้สักเท่าไร
โชบุที่ดื่มจนได้ทีเดินเอาแก้วใส่สุรามาส่งให้ธันก่อนนั่งลงข้างๆอย่าถือวิสาสะ
“เอ้า ดื่มๆจะไปนั่งมองเขาให้ปวดใจทำไมกัน ดื่มซะจะได้ลืมเรื่องแย่ๆ” ธันหันไปมองโชบุที่ส่งสุรามาตรงหน้า ก่อนรับและยกดื่มไปเสียอึกใหญ่
“หม่อมฉันขอกลับไปนอนก่อนได้ไหมกระหม่อม” เธราหันไปบอกวิรัล เพราะว่าวิรัลเป็นราชาแห่งนันทนครที่มาลันเคียยอมสวามิภักดิ์ งานเลี้ยงฉลองคืนนี้วิรัลย่อมได้ชื่อว่าเป็นประธานและตามธรรมเนียมประธานจะกลับก่อนไม่ได้เพราะเมื่อประธานออกจากงานก็จะถือว่างานสิ้นสุด และตอนนี้ทุกคนก็ยังดูสนุกสนานกันอยู่เพราะเวลาเพิ่งจะเลยสองยามมาไม่เท่าไร
“ทำไมง่วงเร็วนัก เจ้าไม่ได้ดื่มนี่” วิรัลถามเมื่อเธราอยากกลับเขาเองก็อยากกลับด้วยแต่เขาจำเป็นต้องอยู่ยันงานเลิกนี่สิ “เดินกลับดีๆล่ะให้ชุนไปส่งไหม” วิรัลถามเพราะตอนนี้ดูจะมีเพียงชุนที่มีสติครบถ้วน โชบุกับธันนั้นท่าทางจะดื่มไปเสียเยอะ
“ไม่ต้องหรอกกระหม่อม ที่นี่บ้านหม่อมฉันหลับตาเดินยังได้เลย พระองค์ก็อย่าเสวยน้ำเมามากนักล่ะสุราของมาลันเคียแรงกว่าที่นันทานคร หากเสวยมากๆพรุ่งนี้จะปวดหัวนะกระหม่อม” เธราสั่งเสียยืดยาวก่อนฉวยถือเอาจานขนมติดมือกลับที่พักไป
----------------------------------------------------------------------------------------
เธราเดินไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน แม้จะมีความง่วงอยู่บ้าง แต่อากาศเย็นๆยามค่ำคืน พร้อมกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคย ทำเอาร่างสูงโปร่งของเธราพาลจะเดินทอดน่องอย่างสบายใจ มือเรียวหยิบขนมในจานเข้าปากไปเรื่อยๆพลางมองโน่นมองนี่อย่างสบายใจ เธราอยากจะซึมซับทุกอย่างให้สมกับที่ต้องจากไปถึงสองปี แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้าทันทีเมื่อรับรู้ว่ามีใครบางคนเดินตามมาห่างๆ เธราชะลอฝีเท้าเริ่มระวังตัวมากขึ้นไม่ใช่คนนอกแน่ๆ มาลันเคียไม่มีใครจะเข้ามาได้หากไม่ได้รับอนุญาต
เธราเร่งฝีเท้ามากขึ้นก่อนหลบเงาต้นไม่อย่างรวดเร็ว ร่างที่ตามมาปรากฏต่อสายตาของเธราชัดขึ้นร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหันรีหันขวางเมื่อเธราหายไปจากสายตา
“ธัน มีอะไรรึเปล่า” เธราก้าวออกมาจากเงามืดเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่าคนที่ตามมาคือธัน
“เธ...รา” เสียงเรียกชื่อของเธราดูยานคาง เธราได้กลิ่นเหล้าจางๆ สงสัยธันจะดื่มไปเยอะมีเดียว
“มีอะไรรึเปล่า” เธราถามพลางเดินเข้าไปใกล้ๆ ร่างสูงใหญ่ของธันยืนนิ่งๆไม่ตอบหรือขยับไปใหน ดวงตายังคงจับจ้องเธราที่เดินเข้ามาใกล้ๆ
“ธัน ว่าไงมีอะไรรึเปล่า” เธรายังคงถามออกไปอย่างสงสัย พลางเอื้อมมือออกไปจะจับแขนธันเพื่อเรียกให้ได้สติ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าดูเหม่อลอยมองมาโดยที่ไม่ยอมพูดอะไร แต่แล้วกลายเป็นเธราเองที่สะดุ้งเพราะอยู่ดีๆคนที่ยืนนิ่งๆก็ฉวยเอามือของเธราไปจับไว้เสียแน่น
“ท่านรักองค์วิรัลหรือไม่” ธันถามออกไป ใบหน้าคมมีแววสับสน
“ธัน อะไรกันมีอะไรรึเปล่าทำไมถามแบบนี้ หรือว่าเกิดอะไรขึ้น” เธราถามอย่างไม่เข้าใจ และเริ่มกังวลเมื่อเห็นท่าทาง
แปลกๆของธัน
“บอกข้าสิ ท่านรักองค์วิรัลหรือไม่” น้ำเสียงที่ถามย้ำมีแววเว้าวอน
“ธัน ข้าไม่เข้าใจ” เธราตอบพลางพยายามดึงมืออกเมื่อธันพยายามดึงให้เขาเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม
“ข้าแค่อยากรู้ ว่าท่านรักองค์วิรัลบ้างหรือไม่” ธันยังคงเพียรถามคำถามเดิมท่าทีที่แปลกไปคงเป็นเพราะฤทธิ์สุรา
“ธัน เมาใช่ใหมปล่อยก่อนแล้วไปนอนพัก” เธราเริ่มโมโหพยายามออกแรงยื้อตัวให้พ้นจาการเกาะกุม แต่เหมือนจะสู้แรงคนเมาไม่ได้ ธันเริ่มควบคุมตัวเองได้น้อยลงเมื่อร่างใหญ่ออกแรงดึงเราให้เข้ามาใกล้มากกว่าเก่า
“ตอบข้าสิท่านเธรา ท่านรักองค์วิรัลรึเปล่าตอบข้าสิตอบข้ามา”
เธราขมวดคิ้ว จริงๆเขาก็อยากจะตอบคำถามของธันอยู่เหมือนกันเพียงแต่เขาเองก็ยังไม่รู้ ว่าความรู้สึกที่มีให้องค์วิรัลตอนนี้เรียกว่ารักหรือเปล่า
“ข้าคิดว่ามันเป็นเรื่องของข้านะธัน” เธราตอบออกไปอย่างพยายามไม่ให้ดูรุนแรง
“ข้ารู้ท่านเธราข้ารู้” ธันพูดอกมาด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนออกแรงดึงเธราที่กำลังเผลอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
เธราเกร็งตัวทันทีแต่ก็ไม่ได้ขืนตัวออกจากอ้อมกอดของธัน เพราะคนตรงหน้าดูเศร้าเกินไปเธรากลัวว่าถ้าเขาแสดงท่าทางรังเกียจออกไปธันจะรู้สึกแย่มากกว่าเดิม
“ธัน เป็นอะไรบอกข้าสิ ทำไมทำแบบนี้ถึงข้าจะเป็นชายแต่ข้าก็ได้ชื่อว่าเป็นพระสนมขององค์วิรัล เจ้าก็น่าจะรู้ว่าถ้าใครมาเห็นเข้า จะเกิดคำครหาและการติฉินนินทาจะทำให้องค์วิรัลเสื่อมเสียได้นะ” เธราพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
ธันได้ยินสิ่งที่เธราพูดเขาได้ยินและเข้าใจดี หากบางอย่างในจิตใจเขากลับค้านร่างในอ้อมกอดเขานั้นเป็นเพียงร่างของชายหนุ่มธรรมดาไม่ได้นุ่มนิ่มมีกลิ่นหอมเยี่ยงสตรี แต่ทำไมเขาถึงไม่อยากที่จะคลายอ้อมกอดเลยสักนิด ธันออกแรงกอดเธราอีกเป็นครู่ก่อนจะดันร่างของเธราออกห่างเพื่อที่จะมองดวงตาคู่สวยได้ถนัดตา
“ท่านเธรา ข้าทราบดี” ธันเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าช้าๆ มือหนายกขึ้นแตะใบหน้าเธราเบาๆ หากเธรากลับสะดุ้งสุดตัว ธันชักมือกลับก่อนปล่อยเธราให้เป็นอิสระ “ข้าอยากจะโทษว่าทุกอย่างเป็นเพราะท่าน เพราะรอยยิ้ม เพราะคำพูดและเพราะแววตาคู่นั้นของท่านที่ทำให้ข้าเป็นแบบนี้” ธันพูดกับคนตรงหน้าช้าๆ โดยไม่ได้ละสายตาไปจากเธราแม้แต่วินาทีเดียว ใบหน้าสับสนปนตกใจของเธราทำเอาหัวใจธันแทบจะแตกสลาย “แต่ข้ารู้ รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ได้เป็นเพราะท่านเลยสักนิด” เสียงของธันนั่นเจือสะอื้นเบาๆจนเธราทำตัวไม่ถูก
“ธัน..........คือว่า”
“เพียงท่านเอ่ยปาก ข้าสัญญาด้วยชีวิตข้าจะพาท่านไปจากที่นี่ ไปจากนันทานครไปจากตำแหน่งพระสนม ไม่ว่าปีศาจ อมนุษย์ หรือชาวเวทย์คนใหนก็จะทำอะไรท่านไม่ได้ ข้าสัญญาด้วยชีวิตของข้า” ธันเอ่ยออกมาจนได้ แม้ในใจจะนึกสมเพศตัวเองแต่เขาก็อยากที่จะลองเสี่ยงฤทธิ์ของสุราทำให้จิตสำนึกเขาหายไปไม่น้อย
เธรายืนนิ่งฟังคำพูดของธันด้วยความรู้สึกสับสน เขารู้ว่าธันหมายความว่าอะไร เขาเข้าใจในสิ่งที่ธันบอกแต่เขาไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของธันได้ เธรากลั้นหายใจอยู่เป็นครู่พยายามหาคำพูดอะไรก็ได้ที่จะทำให้ธันไม่รู้สึกแย่ไปกว่านี้ เขารู้ว่าธันตอนนี้กำลังรู้สึกกำลังสับสนและกำลังเกลียดตัวเองที่ทำเรื่องที่เหมือนหักหลังองค์วิรัลแบบนี้
“ธัน.....ข้า”
“อ้าวเธรา มาทำอะไรตรงนี้เห็นองค์วิรัลว่าเจ้าง่วงหนีมานอนก่อนทำไมมายืนอยู่ที่มืดๆแบบนี้ล่ะ” เสียงทุ้มทักขึ้น ทำเอาเธราถอนหายใจราวโล่งอก ก่อนหันไปเห็นร่างของคาล
“อ๋อ ข้าเดินเล่นน่ะคิดถึงมาลันเคีย ไม่ได้กลับมาเป็นปี” เธราตอบพลางยิ้มแหยๆส่งไปให้พี่ชาย
คาลเดินมาใกล้ๆเธราก่อนยกมือขึ้นโอบใหล่น้องชายให้เดินตามตนไปไปยังที่พัก
“ส่วนเจ้าเมาแล้วก็กลับไปนอนได้แล้วท่านหัวหน้าทหารม้าแห่งนันทานคร” คาลเอ่ยปากไล่ธันกลายๆ
“ท่านพี่...”
“ทำไมไม่ระวังตัว นี่ถ้าองค์วิรัลมาเห็นไม่เป็นเรื่องใหญ่รึ”
“ข้ากับธันไม่ได้...”
“ข้ารู้ ว่าเจ้าไม่คิดอะไร แต่นายทหารม้าคนนั้นน่ะคิดแน่ นี่ถ้าข้าไม่เผอิญเดินไปโดนตัวเจ้าทหารคนนั้นในงาน จนรู้ว่ามันคิดยังไงกับเจ้า แล้วข้าตามมาไม่ทันจ้าจะทำยังไงยอมหนีไปกับเขางั้นรึ” คาลเอ็ด
“ข้าไม่หนีไปกับธันหรอก” เธราปฎิเสธเสียงอ่อย
คาลถอนหายใจ เขารู้จักเธราดีแม้จะไม่ได้สนิทสนมดูแลเยี่ยงพี่ชายที่ดีเท่าไร แต่เธราก็อยู่ในสายตาเขาเสมอน้องชายของเขาคนนี้เป็นคนฉลาดแต่ใจดีเกินไป และยิ่งเธราถูกส่งไปเป็นเครื่องบรรณการต้องไปแต่งงานกับชายด้วยกัน แต่เธรากลับไม่เอ่ยปากปฏิเสธแม้แต่น้อยยิ่งทำให้เขานึกชื่นชมในใจตลอดมาในความเสียสละของเธรา
“เข้าไปนอนและไม่ต้องออกมาอีก เรื่องนี้นอกจากข้าก็ไม่รู้ว่ามีใครรู้บ้างเจ้าก้รู้ว่าที่มาลันเคียเราไม่มีความลับเพราะทุกคนสามารถหยั่งรู้ได้เพียงแตะตัว แต่ไม่ต้องห่วงข้าจะไม่ให้ใครปากโป้งเรื่องนี้” คาลบอกก่อนเดินจากมาปล่อยให้เธรากลับเข้าบ้านไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้งลืมความง่วงไปเสียปลิดทิ้ง
เธราขยับตัวเมื่อรู้สึกหนักๆเหมือนมีอะไรมาทับ ก่อนพยายามปรือตามองและก็พบว่าคนที่นอนทับลงมาแทบจะทั้งตัวนั้นคือองค์วิรัลที่ดูจะหลับสนิทเพราะฤทธิ์สุรา เขาเหลือบมองไปนอกหน้าต่างฟ้าเริ่มสางแล้ว จึงค่อยๆขยับตัวให้หลุดจากวิรัลก่อนเดินออกไปเตรียมผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้วิรัลที่ยังคงใส่ชุดเดิมตั้งแต่เมื่อคืน คงเมาได้ที่มาถึงแล้วคงหลับเลยไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน
เธราพยายามขยับตัวองค์วิรัลให้นอนให้เรียบร้อยก่อนถอดเอาเสื้อออกเพื่อที่จะได้เช็ดตัวได้ถนัด ทันทีที่เสื้อหลุดออกจากร่างของวิรัล เธราก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อพบกับร่อยรอบของแผลเป็นเต็มไปหมด นี่สินะร่องรอยของการออกรบนับแรมปีกว่านันทานครจะกลับมาแข็งแกร่ง มือเรียบบิดผ้าที่ชุบน้ำที่ผสมสมุนไพรมาจนมีกลิ่นหอมชื่นใจ แล้วเช็ดลงไปที่ใบหน้าองค์วิรัลเบาๆ ใบหน้าโดดเด่นนั้นมองกี่ที่เธราก็นึกชมในใจ วิรัลมีรูปหน้าที่เหมาะเจาะกันไปเสียหมดราวถูกปั้นมา ยิ่งมองแล้วมาย้อมมองเงาตัวเองที่สะท้อนในกระจกเธรายิ่งเห็นความแตกต่าง เธราสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระก่อนหันมาตั้งใจเช็ดตัวให้คนที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองที่นอนหลับสนิทไม่ได้สติอย่างทุลักทุเล
เธราเช็ดใบหน้าและด้านหน้าของคนเมาเรียบร้อย ก่อนจะมาเจองานหนักอีกรอบเมื่อต้องเช็ดด้านหลังองค์วิรัล เพื่อนที่จะได้นอนอย่างสบายตัว แม้จะเป็นชายเหมือนกันแต่เธราตัวเล็กกว่าองค์วิรัลพอสมควรแล้วยิ่งองค์วิรัลไม่ได้สติแบบนี้จะขยับตัวเลยลำบากเข้าไปใหญ่ เธราพยายามขยับตัวองค์วิรัลให้นอนตะแคงเพื่อที่จะได้เช็ดตัวด้านหลังให้ มือหนึ่งถือผ้ามือหนึ่งขยับตัวคนหลับพยายามอยู่นาน จนเมื่อร่างหนาเริ่มขยับ เธราจึงเอาเอื้อมมือด้านที่ถือผ้าหวังจะไปเช็ดหลังให้ แต่และวก็ต้องตกใจเมื่อตัวเองเป็นฝ่ายโดนดึงลงไปนอนข้างๆคนที่เมื่อสักครู่ยังมีท่าทางหลับสนิท กลับใช้วงแขนตวัดรอบเอวแล้วดึงเขาลงไปนอนข้างๆเสียอย่างนั้น
“โอ๊ย องค์วิรัล!” เป็นครั้งแรกที่เธราทำเสียงเอ็ดใส่วิรัลที่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่รู้เวลา “พระองค์เล่นอะไรกระหม่อมน้ำหกหมดเลยเปียกที่นอนแบบนี่จะนอนได้ยังไง” เธรายังคงบ่น เพราะแรงรั้งของวิรัลทำเอาเธราเสียงหลักล้มลงมานอนจนขาไปกระแทกอ่างที่ใส่น้ำมาเช็ดตัวให้ จนเปียดเลอะเทอะไปหมด
“ข้าเพิ่งเคยเห็นเจ้าโกรธ” วิรัลพูดเสียงเบา เขาไม่ได้หลับ ไม่ได้หลับมาตั้งแต่แรก ยอมรับว่าฤธิ์ของสุรานั้นทำเอาเขามึนไปเหมือนกัน แต่พอกลับมาถึงเห็นเธรานอนหลับสนิทเลยคิดจะนอนพักกอดคนขี้เซาสักครู่แล้วลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เหมือนเธราจะรู้สึกตัวตื่นง่ายกว่าที่คิดและคิดว่าเขาเมาจนไม่ได้สติจึงจัดแจงเช็ดตัวให้ วิรัลเลยแกล้งนอนหลับให้เธราเช็ดตัวจนเกือบเสร็จ
“หากทำเจ้าโกรธ ข้าขอโทษแล้วกัน” วิรัลเอ่ยออกมาง่ายๆ มือข้างที่กอดเอวเธราไว้ออกแรงดึงให้คนหน้ามุ่ยเข้ามาใกล้อีกนิด ดูเหมือนเธราเพิ่งรู้ตัวว่อยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ จากโมโหเลยกลายเป็นเลิ่กลั่กเมื่อตอนนี้ไม่มีทางให้หนีไปไหนได้
วิรัลมองคนตรงหน้าที่เริ่มกวาดตาหาทางหนีที่ไล่อย่างนึกสนุก จริงๆเขาไม่ได้อยากเร่งรัดอะไรเธรา เขาอยากให้เธราค่อยๆรับรู้ว่าตัวเองสำคัญกับเขามากขนาดไหน แต่ท่าทีลนลานหาทางหนีตลอดเวลาของเธรายิ่งทำให้เขาอยากแกล้ง และในเวลาที่สติเหลือไม่เต็มร้อยเพราะฤทธิ์สุราแบบนี้วิรัลยิ่งไม่คิดจะห้ามตัวเองสักเท่าไร
“หม่อมฉันต้องทำความสะอาดน้ำที่หกกระหม่อม” เธราพยายามหาเหตุผลให้คนตรงหน้าปล่อยตัวเอง
“ไม่เป็ไรนี่ เย็นดี” วิรัลรวนกลับไปอย่างนึกสนุก ใบหน้าเธราตอนนี้ดูเหรอหรา ริ้วสีอ่อนเริ่มฉาบแก้มจนลามไปยังหูเล็กๆคู่นั้น
“ปล่อยหม่อมฉันเธอกระหม่อม” เธราบอกเสียงอ่อน เมื่อรับรู้ถึงแรงดึงงรั้งที่เอวให้ตัวเองเข้าไปใกล้กับคนตรงหน้ามากขึ้น
“ข้าจำได้ว่าเจ้าไม่ได่ดื่มเลยนี่เธรา ทำไมหน้าเจ้าถึง ขึ้นสีเยี่ยงนี้เล่า หืม” วิรัลลากเสียงราวล้อเลียน ก่อนใช้มืออีกข้างแตะแก้มที่ขึ้นสีของเธราผ่าเบา แล้ววิรัลก็ต้องหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเธราเริ่มดิ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้วิรัลต้องออกแรงเพิ่มขึ้นเพื่อให้เธรานั้นยอมนอนนิ่งๆอยุ่ในอ้อมกอดของเขา
เธราที่กำลังหน้าแดงชะงักเล็กน้อยร่างที่กำลังดิ้นรนหยุดนิ่ง ก่อนนิ่วหน้า มือเรียวยกขึ้นแตะที่หัวใจตัวเองพลางขมวดคิ้ว ดวงตาสีน้ำตาลหลับลงเบาๆก่อนสูดอากาศเข้าปอดเต็มแรง เธรานิ่งไปเพียงครู่ก่อนลืมตาขึ้นมามองวิรัลที่กำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างสงสัยองค์วิรัล “หม่อมฉันคิดว่าเราต้องกลับนันทานครเดี๋ยวนี้กระหม่อม”
“เกิดอะไรขึ้น” วิรัลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีของคนตรงหน้า
สหัสบอกว่าจับตัวคนฆ่าองค์หญิงโยนาได้แล้วกระหม่อม แต่......” เธราตอบออกไปเบาๆท้ายประโยคขาดหายราวไม่แน่ใจในสิ่งที่รับรู้มา
-----------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------
ร่างบอบบางของรารีนั่งนิ่งสงบอย่ท่ามกลางบรรดา ขุนนางและแม่ทัพนายกองและราชฑูตแห่งวูธภายในท้องพระโรงแห่งนันทานคร ใบหน้าสวยงามนิ่งสนิทผมยาวสลวยถูกรวบไว้อย่างงดงาม ใบหน้าได้รับกรแต่งเติมมาอย่างประณีต รารีสวมชุดเรียบร้อยงดงาม ท่าทางนิ่งสงบแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวันที่สหัสไปหา
รารีทำความเคารพสหัสในร่างองค์วิรัล ใบหน้าสวยงามเชิดขึ้นท่าทางสง่างามสมกับเป็นนางกำนัลแห่งนันทานคร
“ถวายบังคมเพคะ”
“พูดเรื่องของเจ้ามา” คาเซเอ่ยออกมาใบ
“ข้าทราบว่าใครคือฆาตกรที่ฆ่าองค์หญิงโยนา” รารีบอกเสียงเรียบใบหน้าสวยมองสบตาตาคาเซไม่หลบ
“อะไรนะ!!” ราชทูตแห่งวูธที่ติดตามมาจากอันราเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ
“ข้ารู้ว่าใครเป็นคนฆ่าองค์หญิงโยนา” รารีเอ่ยประโยคเดิมก่อนหันไปมองสหัสในร่างองค์วิรัลอีกครั้ง สหัสที่ยังคงนั่งนิ่งๆมองเห็นแววข้อร้องบางอย่างในตาสวยคู่นั้นชัดเจน รารีต้องการให้เขาทำอะไรบางอย่างสินะ
“ใคร ใครเป็นคนฆ่าองค์หญิงโยนา” ราชทูตแห่งวูธซักไซ้เสียงดัง
“คนที่ฆ่างอค์หญิงโยนา คือ ข้าเอง” รารีพูดเสียงนิ่งใบหน้าเรียบสนิทไม่มีแววหวาดกลัวใดๆ “ข้าเป็นคนฆ่าองค์หญิงโยนาแห่งวูธเอง”
“เจ้าพูดอะไรรารี เจ้ากล้าดียังไงมาโกหกเรื่องแบบนี้” คาเซตวาดลั่น
“ข้าไม่ได้โกหก” รารีย้อนเสียงนิ่ง
“แล้วเจ้าฆ่าองค์หญิงโยนาทำไม” เป็นคุชที่เอ่ยถามขึ้น ก่อนมองไปที่สหัสที่มีท่าทางกังวล คุชกลัวสหัสจะหลุดคำถามออกมาเลยชิงถามเสียเอง
“เพราะองค์หญิงโยนาหยาบคายกับท่านเธราของข้า” รารีตอบ
“แค่นั้นเจ้าถึงกับฆ่าองค์หญิงโยนาเลยรึ มันไม่ไร้สาระไปหน่อยรึไง” ราชทูตแห่งวูธเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ ว่านางกำนัลตัวเล็กๆจะกล้าทำเรื่องรายแรงขนาดนนี้
“ไม่มากไปสำหรับคนที่ข้าเทิดทูนและพร้อมถวายชีวิต” รารีเอ่ยปลายเสียงมีแววสั่นเครือ สหัสขมวดคิ้วในคำตอบของรารี ก่อนตัดสิ้นใจตบมือลงไปบนที่วางมือดังลั่น ก่อนชี้ไปที่รารีราวโมโห แล้วหันไปชี้ที่คุชราวออกคำสั่งให้คุชเป็นคนจัดการ
“ทหารจับตัวรารีไปขังที่คุกใต้ดิน ห้ามให้ใครเยี่ยมเด็ดขาด ท่านวิรัลจะเป็นคนสอบสวนด้วยตนเอง” คุชบอกเสียงเฉียบขาด สหัสลุกเดินเข้าไปด้านในทันทีเป็นการบ่งบอกว่าทุกอย่างในวันนี้จบสิ้นแค่นี้
-------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------------------
คาลออกมาส่งเธราที่หน้าหมู่บ้าน เมื่อเธราไปแจ้งแต่เช้ามืดว่าจะต้องกลับนันทานครเป็นการด่วน โชบุที่ยังมีท่าทีเมาค้างนั้นแม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่ข่าวที่ไดรับรู้กลับทำให้ตาสว่างได้ไม่ยาก ชุนและธันเองก็กังวลไม่น้อยกับข่าวที่เพิ่งได้รับรู้
“เดินทางดีๆ พวกจะจะปลอดภัยจนถึงนันทานคร แต่หลังจากนั้นระวังตัวให้มาก” คาลเอ่ยอย่างเป็นการเตือนกลายๆ เธรารับคำเบาก่อนทำความเคารพพี่ชายของตน
“สหัสส่งข่าวมาว่าอย่างไรบ้าง” โชบุเอ่ยถามทันทีที่เริ่มออกเดินทาง
“สหัสบอกว่าคนร้ายออกมามอบตัวแล้ว” เราตอบเสียงเบา
“อะไรกันทำไมอยู่ดีๆถึงมามองตัวล่ะ” โชบูพูดอย่างไม่เข้าใจ “แล้วใครกันที่เป็นคนฆ่าองค์หญิงโยนา
“สหัสบอกว่า.....คนที่รับสารภาพว่าฆ่าองค์หญิงโยนาคือ ...รารี” เธราตอบเสียงเบา
“ห๊ะ!!!!เป็นไปไม่ได้” โชบุอุทานเสียงดัง
“รารีจะฆ่าองค์หญิงโยนาทำไมกัน” เป็นชุนที่เอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจ
“ข้าเองก็ไม่รู้” เธรายังคงมืดแปดด้านเข้าอยู่กับรารีมาตลอดเวลาเกือนสองปี แม้จะตีแมวที่มาขโมยกับข้าวรารียังไม่กล้า แล้วการฆ่าคนทั้งคนรารีไม่มีทางทำไม่ได้แน่นอน
“รารีไม่ได้ฆ่าองค์หญิงโยนาหรอก” วิรัลพูดออกมาเรียบๆใบหน้าได้รูปมีแววเคร่งเครียด “มีดที่ปักทะลุร่างอค์หญิงโยนาได้ขนาดนั้นคนฆ่าต้องเป็นชาย รารีตัวเล็กแค่นั้นแทบจะเล็กกว่าองค์หญิงโยนาด้วยซ้ำไม่มีทางที่จะมีแรงปักมีดจนทะลุร่างอค์หญิงโยนาได้แน่นอน”
คำพูดของวิรัลทำเอาทุกคนที่ได้ยินถึงกับพูดไม่ออก ถ้ารารีไม่ใช้ฆาตกรแล้วทำไมรารีถึงออกรับแทนฆาตกรแล้วฆาตกรคือใครกัน
มาแล้วค่าาาาา
มีคนเข้ามาใหม่เรื่อยๆ ดีจังดีใจจจ
ฝาก #วิรัลลืมเมีย ด้วยค่า
ดีใจที่ชอบ #ดวงใจบรรณาการ คะ