mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที1ุ9) 14/8/2016
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที1ุ9) 14/8/2016  (อ่าน 5529 ครั้ง)

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


                                                            MMC ที่นี้…รักแรง

            รักร้อน รักแรง รักลับๆ ระหว่างเพื่อนกับเพื่อน พบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายที่นี้ mmc club

 เรื่องย่อ>>>>>ออยเด็กช่างไฟปีสองกับโอ๊คนักเรียนมอปลายชั้นปีที่ห้า ทั้งคู่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน แต่โชคชะตานำพาให้มาพบกันในงานวันเกิดเพื่อนของโอ๊คคนหนึ่ง แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในคืนวันนั้น เป็นเหตุให้ออยเข้าใจผิดโอ๊ค และต่อมาออยได้ทำเรื่องบ้าๆกับโอ๊ค จนโอ๊คเกลียดออย แต่พอออยกลับไปตามสืบดูเรื่องราวทั้งหมด กลับกลายเป็นว่าโอ๊คไม่ได้ทำผิดจริงๆ เขาจึงตามมาขอโทษ และเฝ้าดูแลโอ๊ค
 
      เรื่องราวของทั้งคู่จะลงเอยเช่นไร เมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เป็นการวางแผนของรุ่นพี่คนสนิทในแก๊งค์ของออย แถมยังมีเพื่อนสนิทที่แอบชอบออยอยู่ แล้วแฟนสาวของโอ๊คที่ชื่อแนนอีก ติดตามเรื่องราวของพวกเขาที่นี้ได้เลยครับ

(ฉบับนี้ปรับปรุงใหม่)  ดูคนเล่าเรื่องด้วยนะคับ จะสลับกันออกมาเล่าในมุมของแต่ละคนเป็นตอนๆไป  ฝากด้วยคับ

แนะนำตัวละคร
                  mmc ออย พระเอก นักศึกษาเทคโนปีสองช่างไฟ อายุ18 ปี เป็นคนสองบุคลิก ภายนอกเป็นคนนิ่งๆเงียบ เก็กๆ เอาแต่ใจตัวเอง แต่ภายในเป็นคนคิดมาก ปากหวาน ขีเล่น

                  jj โอ๊ค  นายเอก นักเรียนมอปลายชั้นปีที่ห้า อายุ17 ปี หน้าตาน่ารักขี่อ้อน ขี่งอน ขี่หึง มีแฟนที่คบอยู่แล้ว ชื่อแนน

                  mmc เจมส์ นักศึกษาเทคโนปีหนึ่ง ช่างไฟ อายุ16 เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของออย แอบชอบออยอยุ่ นิสัยร้ายลึก เก็บความรู้สึก นิ่งๆ

                  แนน  แฟนของโอ๊ค นักเรียนดีเด่น สวยสวยน่ารัก ความมั่นใจในตัวเองสุง เก่ง เป็นสาววายด้วยละ รักโอ๊คมาก

                  mmc  มานะ รุ่นพี่ในแก๊งค์เอ็มเอ็มซีของออย ผู้คอยให้ความเหลือออยอยู่ห่างๆ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-08-2016 17:52:09 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง
«ตอบ #1 เมื่อ31-07-2016 08:45:16 »


โดย  mmc..มานะ เป็นผู้ดำเนินเรื่อง
 
mmc  ที่นี้..รักแรง  ตอนที่หนึ่ง>>>แผนเปลี่ยนรบให้กลายเป็นรัก

 
   “เห้ย พี่ๆ ไอ้เจมส์โดนลากไปสามหนึ่ง”   เสียงของเด็กหนุ่มวัยประมาณสิบเจ็ดถึงสิบแปดคนหนึ่งกระโกนลั่นห้อง

   “หะ ว่าไงนะ ใครลากไป ที่ไหน เมื่อไร”   ผมลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเดินตรงไปหาเขา พร้อมกับยิงคำถามแรกด้วยความสงสัย

   “เมื่อกี้ พวกมันโทรมาบอก ตอนนี้อยู่บางแสนผมต้องรีบไปแล้วพี่” เด็กชายคนหนึ่งซึ้งตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม เป็นคนตอบคำถามผม แล้วก็วิ่งออกไปกับเพื่อนๆ

   “อ้าวเห้ย ไอ้เมส มาคุยกับกูก่อน อย่าพึ่งไป”

           ว่าแล้วไอ้เด็กตัวเล็กกับพวกห้าหกคนก็บิด Honda zoomer x ออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งคำพูดให้ผมยืนงงว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น ใครเป็นอะไร อย่างไงอยู่ตรงไหนของบางแสน แต่ที่รู้ๆใจผมเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขเอาเสียเลยตอนนี้ ถ้าไอ้เจมส์ที่มันพูดถึง หมายถึง น้องเจมส์ mmc เด็กเทคโนแผนกช่างไฟปีหนึ่ง น้องชายเพื่อนผม
         สวัสดีครับ ผม นายมานะ สมาชิกรุ่นพี่คนหนึ่งของแก๊งค์ mmc   อันกินพื้นที่ครอบครองดูแลในย่านเอ็มเอ็มซีทั้งหมด นอกจากจะเป็นคนของแก๊งค์นี้แล้ว ตัวผมยังมีหน้าที่อีกอย่างคือ เป็นคนดูแล mmc snooker ซึ้งเป็นร้านเล็กๆที่เปิดให้บริการแก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาในร่มประเภทนี้ และที่นี้ยังเป็นศูนย์รวมของพวกเราชาวmmcทั้งหลาย ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไร จุดเริ่มต้นคือที่นี้ พวกเราทั้งแก๊งค์ก่อนจะไปไหน มีเรื่องอะไร ที่นี้ คือจุดนัดรวมพลใหญ่ หรือจะบอกว่าเป็นจุดเซ็นเตอร์ไว้สำหรับประชุม นัดคุยนัดเคลียร์ทุกเรื่องกันเลยก็ว่าได้ ซึ้งจะมีพี่ใหญ่คอยแวะเวียนมาดูแลน้องๆอยู่เสมอ
        วันนี้ก็เหมือนเช่นดังทุกวัน ระหว่างที่ผมกำลังเดินดูความเรียบร้อยของร้านเสร็จ กำลังหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้  จู่ๆเจ้าเมสกับพวกที่กำลังเล่นสนุกเกอร์กันอยู่ดีๆ ก็สั่งเช็คบิลปิดไฟ ทำท่าร้อนรน เร่งรีบผิดปกติ เห็นดังนั้นผมจึงรีบหมายจะเข้าไปถาม แต่ก่อนที่ผมจะถามได้ความอะไร มันกับพวกเพื่อนๆรุ่นไล่เลี่ยกัน ก็พากันวิ่งกรูออกไปเสียก่อน  และเพียงแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้นที่พวกมันบอกผม ก่อนจะพากันขี่มอเตอร์ไซค์หายออกไปเป็นกลุ่ม ปล่อยให้ผมมองหน้ากับพนักงานในร้าน รวมถึงลูกค้าที่อยู่แถวนั้นด้วยความสงสัย ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
       ผมเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงาน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าไปที่เฟสบุ๊ค แหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ใหญ่และไวที่สุดของโลกในขณะนี้ ผมเปิดไล่หาข่าวหรือความเคลื่อนไหวของพวกเด็กๆ เข้าไปดูตามเฟสต่างๆของเมสกับเพื่อนๆ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครโพสอะไรขึ้นมา หรือมีข่าวความเคลื่อนไหวอะไร จนเวลาผ่านไปสักพัก

                                              ไอ่แม่เย้ดไม่ฟรีกุบอกให้กุล่ามึงแน่ไม่ต้องห่วง 
 
       สเตตัสของ Mes’t mmc โพส ขึ้นมา และกว่าผมจะอ่านเข้าใจ ก็ต้องแปลไทยเป็นไทยอยู่สักพัก เอ้อ! ภาษาวัยรุ่นสมัยนี้ ยอมจริงๆ
        ว่าแล้วละ และมันต้องชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ถ้ามีโพส ทำนองแบบนี้ขึ้นมา มันจะต้องมีเรื่องวิวาทกันเกิดขึ้นมาแล้วอย่างแน่นอน เรื่องมันชักจะยุ่งเข้าไปกันใหญ่แล้วสิ จะมีใครเป็นอะไรหรือเปล่านะ ผมชักจะเป็นห่วงมากขึ้นทุกขณะ ยังไม่มีใครกลับมาส่งข่าวสักคน  แต่ขณะที่ผมกำลังก้มหน้าก้มตา กดโทรศัพท์เช็คข่าวอยู่นั้น

“พี่นะ พี่รู้เรื่องยัง กลุ่มพวกเรามีเรื่อง”   เสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ดังขึ้นมาก่อนที่เจ้าตัวคนพูด จะลุกลี้ลุกลนเข้ามาหาผม

“เป็นไงวะแบงค์ เล่ามาสิ เรื่องไปไงมาไง”

          ผมเงยหน้ามองเด็กหนุ่มร่างท้วมที่เปิดประตูเข้ามา เขาดูมีสีหน้าตื่นนิดๆ เมื่อเขาเข้ามาหาผม พร้อมกับแฟนและก็ยังมีเพื่อนที่ชื่อ วัฒ อีกคนตามมาด้วย เข้าทางผมพอดี กำลังอยากได้ข่าวอยู่ ว่าแล้วผมก็พาพวกเขาออกไปนั่งกินน้ำกันข้างนอก สอบถามพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกันแบบเงียบๆ ผมว่ามันต้องมีอะไรมากกว่า การมีเรื่องธรรมดา มันต้องไม่ปกติทั่วไปเหมือนทุกครั้งแน่ๆ เพราะเจ้าแบงค์แสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมาอย่าง เห็นได้ชัด

   “เด็กเอ็มเอ็มซีโดนเด็กเจเจรุมกระทืบพี่ ยี่สิบต่อเก้า หรืออาจมากกว่านั้น”   หนุ่มชื่อแบงค์ที่นั่งตรงข้ามผมเริ่มต้นเรื่อง

   “เห้ย! จิงดิ ข่าวนั้นมันเรื่องจริงสิถ้างัน แล้วมีใครเป็นอะไรป่าววะ แล้วน้องเจมส์อะ พี่ได้ข่าวว่าโดนลากไป เป็นอะไรมากปะ”    พอได้ฟังแค่นั้นผมตกใจพอควร ยี่สิบต่อเก้ามันหมาหมู่ชัดๆ

   “แบงค์ก็ไม่รู้เหมือนกัน เท่าที่รู้ไม่มีใครเป็นไรมากนะพี่  อีกอย่าง พอดีผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ตอนมีเรื่อง ผมออกมาส่งแฟน กลับไปอีกที ก็เจอแต่ข้าวของแตกกระจัดกระจายเต็มไปหมด  แต่ว่า… ตอนนี้พวกเราmmcกำลังระดมพวกออกล่าจะเอาคืนพวกนั้นอยู่”    เขาเล่ารายละเอียดเท่าที่เขารู้ให้ผมฟัง แต่เขามาเน้นตรงคำที่ว่า แต่ว่า พวกเรากำลังล่าเอาคืน ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย เพราะมันเป็นเรื่องปกติของพวกเราอยู่แล้ว เมื่อฝ่ายนู้นมันยกพวกมาทำกับพวกเราขนานนี้ เราต้องเอาคืน ไม่ยอมความให้ง่ายๆหรอก

   “ก็ดีแล้วไม่มีใครเป็นอะไร แล้วแบงค์เป็นอะไรรึเปล่า ดูเครียดๆเล่าต่อมาสิ พี่ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น”
   
   “คืออย่างงี้พี่ ผมไปนั่งกับเพื่อนที่บางแสน กับเพื่อนกลุ่มเด็กแก๊งค์JJแถวบ้าน เพราะมันเลี้ยงวันเกิดเพื่อนกัน แล้วพอดีหรือจะบังเอิญก็ได้พวกเด็กกลุ่มmmcก็ไปนั่งกินแถวนั้นเหมือนกันพอดี ติดกันเลยพี่ มี ออย เจมส์ ตาล ชัย บอร์น แล้วก็คนอื่นอีกรวมแปดเก้าคนอะพี่ แล้วสักพักอยู่ๆไอ้เจมส์มันก็เขามาถามผมว่า เห้ย!แบงค์ เพื่อนมึงมันเป็นอะไร มันทำหน้าตึงๆใส่พี่กู  ผมก็งงนะพี่ แต่ก็ตอบว่า ตึงอย่างไงวะ มันทำหน้าอย่างไง”     แบงค์เล่าเป็นฉากๆ ผมนึกภาพตาม

   “เดี่ยวๆแบงค์  ช้าๆ ที่ไอ้น้องเจมส์มันถามคือ มันหมายถึงใคร มองใคร กับใคร”     ผมเบรกมันก่อนเพราะไม่เข้าใจ รู้ก็แต่ว่าแบงค์มันไปๆมาๆระหว่างเจเจกับเอ็มเอ็มซี เพราะเพื่อนมันเยอะ แค่นั้น

   “เจมส์ มันหมายถึง โอ๊ค อะพี่ เจมส์ถามว่า โอ๊คมันมองหน้าไอ้ออยทำไม  เจมส์มันพูดเหมือน มันไม่พอใจโอ๊คเท่าไร”

   “ห่า มีโอ๊คด้วยหรอ”     ผมตกใจเข้าไปอีก เมื่อแบงค์มันเอ่ยชื่อของน้องโอ๊คออกมา เพราผมรู้จักน้องเขาดี แม้จะอยู่คนละแก๊งค์ก็ตาม

   “คับพี่ มีโอ๊คด้วย ก็ที่นั่งอยู่นั้นก็มีแต่เพื่อนๆแก๊งค์ JJ ของโอ๊คทั้งนั้นละพี่”

   “เวรกรรมของกู แล้วโอ๊คมันเป็นอะไรปะวะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ผมนั่งเอามือกุมขมับละตอนนี้

   “ไม่ๆพี่ ฟังที่ผมเล่าให้จบก่อน ผมพอเห็นว่าพวกมันกำลังตึงๆใส่กันเลยรีบพาโอ๊คกับแฟนมันแล้วก็ไอ้วัฒกับแฟนผมกลับมาก่อน เพราะผมคิดว่ามันต้องมีเรื่องแน่ๆ ก่อนอื่นพาพวกผู้หญิงไปส่งบ้านจะดีกว่า แล้วมันก็จริงๆ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ข่าวว่ามีเด็กJJกับเด็กเนินเข้ามารุมเด็กmmc” มันพูดแล้วทำหน้าเศร้าๆ แต่ผมกลับคลายความกังวลขึ้นเยอะ

   “อ้าวก็ไม่เกี่ยวกับแบงค์กับโอ๊คนิ แล้วจะเคลียดทำไม” ผมทำหน้าสงสัย มองเจ้าแบงค์เพื่อหาความจริง

   “เครียดสิพี่ mmcกล่าวหาว่าโอ๊คตามพวกมารุม มันเลยหมายหัวโอ๊คคนแรกเลย พวกมันไม่ยอมง่ายๆหรอก ที่นี้ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไงเพื่อนทั้งสองฝ่าย ทำตัวไม่ถูกเลยพี่”

    “เห้ย ถ้าโอ๊คมันไม่ผิดจริง มันไม่รู้เรื่อง เดี่ยวค่อยเข้ามาคุยกับพี่ใหญ่เค้า ให้เขาเคลียร์ให้ แต่ถ้ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆก็ช่วยไม่ได้นะแบงค์ ผิดก็ว่าไปตามผิด เราก็mmcเหมือนกัน เราคงช่วยน้องมันไม่ได้หรอก”

   “โหยพี่ โอ๊คมันตัวเล็กหน่อยเดียว มันจะไปสู้ใครได้ สงสารมันอะพี่ แล้วจะให้ทำอย่างไงต่อไปดี” แบงค์ยังคงมีสีหน้ากังวล แม้ผมจะพยายามพูดไม่ให้มันคิดมากแล้วก็ตาม

   “ตอนรุมกันโอ๊คมันไม่ได้อยู่ด้วยใช่ปะ แน่นะ ถ้างันวันนี้ก็อย่าให้มันออกไปไหน ให้อยู่แต่ในบ้านไปก่อน รอดูสถานการณ์ไปก่อนพรุ่งนี้แล้วค่อยว่ากัน ถ้าไม่ผิดไม่รู้เรื่องด้วยคงจะไม่เป็นไร”

        ว่าแล้วผมก็ให้พวกเขากลับไปพักผ่อน มีข่าวอะไรเพิ่มเติมค่อยคุยกันอีกที เพราะตอนนี้ผมก็ยังไม่เห็นเด็กmmcกลับมาสักคน จะว่าไปแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เจ้าเจมส์ยิ่งตัวบางร่างน้อย หน้าหวานๆอยู่ด้วย ตอนได้ยินว่าเจมส์โดนลากไปสามหนึ่ง ใจผมหายวาบ คิดไปถึงเรื่องลามก น้องเขายิ่งน่าโดนลากอยู่ แต่พอจับใจความได้ อ๋อ รุมตีกันสามหนึ่ง ก็พอจะให้เบาใจขึ้นมาได้นิดหนึ่ง
         เจ้าออยอีกคน นักศึกษาเทคโนปีสองแผนกช่างไฟ ไอ้หนุ่มหล่อหน้านิ่งของผม ถึงเจ้านี้จะเป็นคนนิ่งๆชอบทำตาเศร้าๆอะไรของเขานักก็ไม่รู้ เหมือนจะหยิ่งๆ แต่แท้จริงแล้วน้องเขาน่ารักนิสัยดี ออกจะยิ้มเก่งเฟรนลี่ด้วยซ้ำไป ถ้าได้รู้ได้สนิทกันแล้วจริงๆ และก็รวมไปถึงเจ้าคนอื่นๆในแก๊งค์อีก นิสัยดีกันทุกคน ใครเป็นใครก็รู้จักกันหมดทั้งนั้น บางคนไม่รู้จักชื่อ แต่ก็จำหน้าคาตากันได้หมดทุกคน
         เจ้าโอ๊คอีกคน ไม่คิดเลยว่าอยู่ๆโชคชะตาจะพัดพาทำให้คนพวกนี้มาเจอกันได้ แถมมาเจอกันแบบไม่ดีเอาเสียอีก  โอ๊คเด็กน้อยหน้าหวาน ยิ้มสะท้านทรวง ไม่ต้องให้บรรยายถึงความหล่อน่ารักของเจ้านี้ มันมีมากจริงๆ สาวแท้สาวเทียมกรี๊ดกันทั่งโรงเรียน แม้น้องเขาจะไม่ใช่เด็กmmc เรียนโรงเรียนสหศึกษาแถวบางแสน น่าจะมอห้าแล้วปีนี้ แต่ผมกับน้องเขาก็รู้จักกันมาหลายปี จะบอกว่าตอนนี้ก็ยังพูดคุย ทักทายกันอยู่เป็นประจำทางแซทไลน์
          พอได้ฟังเรื่องราวจากเจ้าแบงค์ ผมยังออกอาการงงๆอยู่เลยว่า พวกมันไปมองกันอีท่าไหน จนเลยเถิด กลายเป็นมีเรื่องมีราวกันเกิดมาได้ขนาดนี้ คงต้องสืบดูสักหน่อย ถ้าพอช่วยน้องโอ๊คมันได้ก็ช่วยไป แต่ถ้าหากสาเหตุของเรื่องมันเกิดเพราะสองคนนี้ โอ๊คกับออย มันมองหน้ากันแล้ว เกิดเขม่นกันขึ้นมาจริงๆละก็ พ่อจะจับมาจิ้นให้ได้เสียเป็นผัวเมียกันชะเลย โทษฐานทำให้สองแก๊งค์บาดหมางใจกัน
                          >>>>>>>>>>>>>>>>
ติดตามตอนต่อไปคับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 00:58:34 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง
«ตอบ #2 เมื่อ31-07-2016 08:47:34 »


โดย mmc..มานะ เป็นผู้ดำเนินเรื่อง
 
mmc  ที่นี้..รัก...แรง...ตอนที่สอง >>>>  แผนเปลี่ยนรบให้กลายเป็นรัก

   “ว่าไงเจมส์ เมื่อคืนหนูเป็นอะไรมากหรือเปล่า”

   “หวัดดีคับพี่นะ ไม่เป็นไรคับ แค่นิดหน่อย”    เด็กหนุ่มวัยราวสิบเจ็ดเงยหน้าจากจานข้าว ยกมือขึ้นไหว้ผม

   “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า อืม ดูก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ไหนได้ข่าวว่าโดนลากไปรุม พี่ตกใจหมดเลย”

   “มีรอยถลอกนิดหน่อย ตรงแขนกับที่ขาตอนพวกมันดึงไป”    เขายิ้มให้ผมนิดหน่อย ก่อนจะโชว์รอยแผลที่ได้มาเมื่อคืนให้ผมดู

       วันต่อมาระหว่างที่กำลังจะเข้าร้าน สายตาเหลือบมองไปดำห็นน้องเจมส์นั่งทานข้าวอยู่หน้าทางเข้าร้านพอดี ผมเดินตรงเข้าไปหานั่งลงข้างๆอย่างถือวิสาสะ จับสำรวจดูตามร่างกายพลางถามด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่พวกเขาหายไปกันทั่งคืน น้องเขายกแขนยกขาโชว์รอยถลอกเล็กๆให้ดู มันโชคดีมากแค่ไหนที่กลับมาครบสามสิบสองแถมไม่มีรอยช้ำรอยแผลให้เห็น

   “แล้วมีใครเป็นอะไรหรือเปล่า หมายถึงเจ็บมากอะ”

   “ไม่มีพี่ มีแต่แต่ทางฝั่งนู้นที่เจ็บ โดนฟาดหน้าม้าง ฝั่งเราไม่มีใครเป็นอะไร”   เจมส์ทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะตอบคำถาม

   “ก็ดีแล้ว พวกหนูชอบทำให้เป็นห่วงรู้ไหม” ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะผมห่วงพวกเขาจริงๆ

           แล้วเราสองคนก็นิ่งเงียบไป และผมไม่อยากชักไซร์อะไรต่อ ดูน้องเขาก็คงไม่อยากเล่าถึงเรื่องเมื่อคืนสักเท่าไรนัก ผมจึงปล่อยให้น้องเขาทานข้าวต่อไปคนเดียวเงียบๆ นั่งดูน้องเขาสักพักจึงเดินเลี่ยงๆกลับเข้าร้านทำงานของตัวเอง แต่เรื่องมันยังคงไม่จบเพียงเท่านี้หรอก มันยังคงต้องมีอะไรตามมาอีกเยอะ ผมรู้
       และมันก็เป็นไปตามที่ผมคิด คืนนั้นมีการรวมกลุ่มเล็กๆราวสามสิบถึงสี่สิบคนออกตามหาคู่อริเพื่อเอาคืน จะบอกว่าเอาคืนก็ดูแปลกๆ เพราะทางเราก็ไม่เห็นเป็นอะไรมาก แต่น่าจะเป็นเพราะแค้นเรื่องของศักดิ์ศรีที่โดนหาเรื่องเสียมากกว่า หรือจะมีเรื่องส่วนตัวอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า เพราะเท่าที่ฟังจากเหตุการณ์รวมๆพวกเขามุ่งเป้าไปที่โอ๊คคนแรก ทั้งๆที่น้องเขาก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่เข้ามารุมกัน แปลก แปลกจริงๆ
           แล้วคืนนั้นราวสองสามทุ่ม พวกเขาก็กระจายหายออกกันไปเป็นกลุ่มๆ หายไปนานก็ยังไม่มีข่าวคราวอะไรส่งกลับมา แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจเข้าไปอีก เมื่อพวกเขาก็เริ่มทยอยกันกลับมาที่ละคนสองคน ผมเขาไปสอบถามข่าวทันที เท่าที่ถามได้ความ พวกเขากลับมามือเปล่า เพราะตามหาเท่าไรก็ไม่เจอใคร ไปตระเวนดูตามร้านเกมส์ หรือแถวที่พวกนั้นนั้นเคยอยู่ประจำ แต่ก็ไม่พบใคร

   “อาโหล แบงค์อยู่ไหนอะ เป็นไรหรือเปล่าเงียบไปนะ”   ผมยกโทรศัพท์กดหาเจ้าแบงค์ทันที ที่เดินเข้ามาในห้องทำงาน

   “ไม่เป็นไรพี่ ผมสบายดี ราวสี่ทุ่มผมเข้าไปหาที่ร้าน เดียวจะเล่าอะไรให้ฟัง”

   “เครคับ บาย”

           พอถึงเวลาสี่ทุ่ม เมื่อแบงค์มาถึงตามนัด เราหามุมเงียบๆคุยกันเหมือนเคย เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟังว่า พวกเอ็มเอ็มซีของเราขับรถไปตามโอ๊คกับพวกถึงหน้าบ้านเขาเลยที่เดียว แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก โอ๊คมันหนีเข้าบ้านแล้วเงียบไป

   “เรื่องนี้พี่รู้แล้ว พวกในเอ็มเอ็มซีเล่าให้พี่ฟังหมดนั้นละ ที่พี่อยากรู้คือ เรื่องที่บอกโอ๊คมันไปอะ น้องมันรับข้อเสนอนั้นหรือเปล่า”   ผมมองเจ้าแบงค์ด้วยความหวังว่า โอ๊คจะรับข้อเสนอที่ผมจะยืนมือเข้าไปช่วย

   “น้องมันไม่รับพี่ มันบอกทิ้งเพื่อนไม่ได้ ถ้าจะให้โอ๊คมันเอาตัวรอดเพียงคนเดียวมันทำไม่ได้”   เจ้าแบงค์ทำหน้าเศร้า นั่งถอนหายใจ เมื่อโอ๊คเพื่อนของเขาไม่ยอมรับข้อเสนอ ที่ว่า เราจะช่วยกันเขาออกมาจากกลุ่ม ส่วนพวกที่เหลือ อย่างไงต้องโดน

   “แต่จะให้ทำอย่างไงได้ พี่คงช่วยโอ๊คมันได้แค่คนเดียว ถ้าให้ช่วยทั้งกลุ่มคงไม่ไหว พวกเราทางนี้คงไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆหรอก อย่างไงทางเจเจมันก็ต้องมีคนรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
   
    “ผมจะลองนัดให้พวกมันทั้งสองฝ่ายมาเจอกันกันดูพี่ นัดเคลียร์กันไปเลย เรื่องมันจะได้จบๆ ไม่งันมันคง คารา คาซัง กันอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เจอกันที่ไหนคงได้ซัดกันแหลก”   เด็กหนุ่มร่างท้วมพูดด้วยแววตาที่มีความหวัง

    “ก็ดีนะ แล้วเมื่อไร”   ผมเห็นด้วยทันที

   “วันศุกร์นี้ พี่ว่าไง”

   “ก็ดีนะ วันนี้วันจันทร์ มีเวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงวันศุกร์ มีเวลาให้พวกเขาได้เตรียมตัว แต่พี่ว่าขอแบบไร้อาวุธจะได้ไหม หมัดแลกหมัด แมนๆ แบงค์ลองเข้าไปคุยกันกับพวกเขาดู จะตกลงตามนี้ไหม ถามพวกพี่ใหญ่ด้วย ว่าเขาจะเอาอย่างไง ตามพวกเขาไปคุมเชิงด้วยก็ดี จะได้กันเรื่องไม่ให้บานปลาย แล้วที่นี้แบงค์เดินงานได้เรื่องอย่างไง เอามาคุยกัน ”   ผมแนะแนวทางเพิ่มเติมแล้วฝากให้น้องเขาไปดำเนินเรื่องให้ เพราะถ้าผมออกหน้าเองคงไม่เหมาะนัก

        ขณะที่กำลังคุยกันกับแบงค์จะเอาอย่างไงต่อ พอดีกับเจ้าออย บร์อน เจมส์ สามคนนั้นขี่มอเตอร์ไชค์เข้ามา นำทีมโดยออยพ่อสุดหล่อของผมเช่นเคย เดินตรงเข้ามายกมือไหว้ทักทายตามเคย แล้วตามด้วยสองคนที่เหลือเดินตามมาติดๆ
 
   “หวัดดีคับพี่”“พี่นะหวัดดีค้าบ”   พอพวกเขามาถึงที่ผมนั่งอยู่ ต่างยกมือไหว้ทักทายตามเคยแต่สายตาพวกเขามองเจ้าแบงค์แบบแปลกๆ คงคิดว่าเจ้าแบงค์ จะเอาเรื่องอะไรมาฟ้องผมเป็นแน่

   “ว่าไงคับ พ่อพระเอก ไปไหนกันมา”   ผมยิ้มให้แล้วแซวตามปกติ

   “โต๊ะว่างเปล่า แทงนุกหน่อย”

   “ว่างตัวหนึ่งพอดี เข้าไปสิ”

     ว่าแล้วพวกเขาก็เข้าไปข้างใน ผมกับแบงค์จึงแยกย้ายกันไปทำตามที่คุยไว้ ซึ้งเจ้าแบงค์ก่อนจะออกไป หันมาคุยกับผมอย่างอารมณ์ดีว่า“ไปแล้วพี่ จะพาแฟนไปหาอะไรกินก่อน หิวมาก ฮาๆ” ว่าแล้วเขาก็ขี่รถออกไป ดูเขาสบายใจขึ้นหลังจากที่เราได้คุยกัน ผมเดินเข้าไปในร้าน อยากจะคุยกับสามคนนั้นสักหน่อย แต่เห็นพวกเขาก้มแทงสนุ๊กไป กดโทรศัพท์ไป เลยไม่ถามดีกว่า อีกอย่างคนมันกำลังร้อน ถ้าคุยไปแล้วเดียวไฟแค้นจะลุกขึ้นมามากกว่าเดิม จึงเดินเลี่ยงๆออกมา

                 >>>>>>>>>>>>

   “พี่นะ ช่วยหน่อยพี่ ขอเข้าไปหลบข้างในหน่อย”เสียงใสๆของใครบางคนเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงกำลังตกใจ หรือกลัวอะไรบางอย่าง

   “อ้าวเห้ย โอ๊ค ออย มันอย่างไงวะ ออยไปโดนอะไรมา เหี้ยละ เข้ามาก่อน ค่อยคุยกัน”
   
       สองสามวันผ่านไป จนผมเกือบจะลืมเรื่องพวกเขาไปหมดอยู่แล้ว แต่จู่ๆพวกเขาสองคนซึ้งไม่น่าจะมาด้วยกันได้เลย กลับปรากฏตัวขึ้นกลางดึกขณะที่ผมกำลังจะปิดร้าน สภาพเจ้าออยดูเหมือนจะไปมีเรื่องมาหยกๆ ที่หน้ามีเลือดไหลออกจากแถวคิ้ว เป็นรอยลงมาอาบแก้ม เจ้าโอ๊คพยุงออยวิ่งเข้ามาในร้าน ผมรีบปิดประตูพาเจ้าสองคนนั้นหลบเข้าห้องทำงาน ก่อนจะออกไปมองหน้าร้านมีใครตามพวกเขามาอีกหรือไม่ แล้วกลับเข้าไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลส่งให้พวกเขา โอ๊ครับไปจัดการทำแผลให้ออยทันที

   “ทำกันเองเลยนะ พี่เห็นเลือดไม่ได้ จะเป็นลมวะ แล้วที่นี้เรื่องมันเป็นอย่างไง ออย โอ๊คใครก็ได้ เล่ามาสิ”   ผมนั่งลงตรงข้ามกับพวกเขา มองเขาทั้งสองคนด้วยสายตาสงสัย

   “ผมกลับจากไปส่งแฟนกลับบ้านอะพี่ ขี่รถผ่านแถวช่วงอ่างพอดี เจอเจ้านี้กำลังโดนรุมอยู่ ผมเลยช่วยพามันหนีมา”   น้องโอ๊คละสายตาจากแผลข้างคิวของออย มองมาที่ผมแล้วตอบคำถามเป็นคนแรก

   “พวกไหนอะออย ทำไมถึงโดนได้ ปกติไม่เคยออกไปไหนคนเดียวนี้น่า บร์อน เจมส์ แล้วก็คนอื่นๆ ไปไหน”   ผมจ้องไปยังเจ้าออย มองเขาเพื่อต้องการความจริง

“โอ้ย เชี้ย มึงเบาเบามือหน่อยสิวะ กูเจ็บ พวกเด็กเจเจมั้งพี่ ออยก็ไม่แน่ใจ ก็ขี่รถเล่นเหมือนเคยจะไปบางแสน ช่วงที่จะผ่านไปแถวนั้น อยู่ๆไอ้สองตัวนั้นเชี้ยเจมส์กับไอ้บร์อนที่ขี่ตามหลังมา ก็หายไปตอนไหนไม่ก็รู้ อยู่ๆพวกที่รุมผม มันก็โพล่มาจากทางไหนกันไม่รู้ ขี่รถตามผมมาเป็นสิบๆคัน เข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง ผมเลยตัดสินใจวิ่งเข้าแลกกับพวกมัน เอาไงเอากันวะ ผมซัดมันจนแตกกระเจิง”   น้องออยพ่อพระเอกของผม หันหน้าไปต่อว่าคนที่นั่งทำแผลให้อยู่ข้างๆซึ้งก็คือน้องโอ๊ค ก่อนที่เขาจะหันมาตอบคำถามผม
 
     “ ฮาๆ เดี่ยวๆ มันอย่างโม้ คืออย่างนี้พี่ ผมขี่รถกำลังจะกลับบ้าน พอดีเจอมันกำลังโดนล้อมไว้จะหนีออกไปทางไหนก็ไม่ได้ มันก็สู้เต็มทีแระ แต่สิบหนึ่งมันจะไหวหรอ ผมเห็นท่าไม่ดี เลยตระโกนไปว่า เห้ย! ตำรวจมา ๆ พวกมันเลยรีบขี่มอไซค์หนีไป ผมเลยรีบเข้าไปช่วยมัน ให้ช้อนท้ายรถออกมา แต่พวกมันยังไม่ยอมง่ายๆนะพี่ พอรู้ว่าโดนหลอก ไม่มีตำรวจมาจริงๆ พวกมันก็รีบขี่รถตามผมสองคนมาติดๆ จนผ่านมาแถวนี้ผมนึกถึงพี่ เลยตัดสินใจขี่เข้ามาหาพี่นี้แระ”    เจ้าโอ๊คหัวเราะให้กับความขี้โม้นิดๆของเจ้าออย ก่อนจะเล่าเรื่องจริงๆที่เขาเห็นมาให้ผมฟัง ด้วยแบบนั้น เจ้าออยยิ่งมองเจ้าโอ๊คด้วยอาการที่บอกว่า ไม่พอใจมากขึ้นไปอีก

   “ดีแล้ว แบบนี้ดีแล้ว”    ผมพยักหน้ารับรู้ แล้วเอ่ยชมในการตัดสินใจที่ดีของโอ๊ค

   “ใคร ขอให้มึงมาช่วยกูหะ แม่ง เสือก กูยังไม่เคลียร์เรื่องเก่ากับมึงเลยนะไอ้โอ๊ค”   แต่อยู่ๆเจ้าออยกลับหันไปมองเจ้าโอ๊คแล้วต่อว่า ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจนักทันที

   “ออยพอเลย เขามาช่วยก็ดีแระ อยากตายคาตีนพวกนั้นนักไง” เจ้าโอ๊คนั่งนิ่ง หน้าเสียเมื่อโดนออยต่อว่า จนผมอดที่จะเอ็ดเจ้าออยไม่ได้ ด้วยสงสารโอ๊ค

   “โถ่พี่ เขาข้างมันช่ายปะ”   ออยมองผมด้วยสายตาน้อยใจนิดหนึ่ง ก่อนจะหันข้างให้ผมด้วยอาการไม่พอใจผมอีกคน

   “พี่ไม่เข้าข้างใครทั้งนั้น ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก ออยฟังโอ๊คมันบ้างสิ เรื่องคืนก่อน โอ๊คมันเล่าให้พี่ฟังแล้ว น้องมันไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ”   ผมพยายามพูดให้ออยเย็นลง อยากให้เขาฟังคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาบ้าง แต่ดูท่าออยจะไม่ฟังอะไร เอาเสียเลย

   “มันจะไม่รู้เรื่องได้ไง เพื่อนมันบอกเองแท้ๆว่า ไอ้โอ๊คโทรไปตามพวกมันมารุมกระทืบพวกผม”
 
>>>>>>>>>>>>
ติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 01:01:00 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง
«ตอบ #3 เมื่อ31-07-2016 08:49:52 »


โดย mmc..มานะ เป็นผู้ดำเนินเรื่อง
 
 mmc  ที่นี้..รัก...แรง...ตอนที่สาม >>>>  แผนเปลี่ยนรบให้กลายเป็นรัก

 
   “มึงก็เชื่อกูบ้างดิวะ มึงก็เห็น กูแบงค์วัฒกลับออกมาแล้ว”   โอ๊คที่นั่งอยู่ข้างๆออยพูดอะไรขึ้นมาบ้าง หลังจากที่เขาเงียบอยู่นาน

   “กูไม่รู้ กูไม่ฟัง”   ออยที่นั่งอยู่ติดกันหันข้างให้ ทำท่างอน ก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่แยแส

   “เออ เอ้อ แล้วแต่มึง กูก็ไม่รู้จะพูดอย่างไง”   โอ๊คพูดอย่างหมดอาลัย แล้วหันข้างใส่ ทำท่างอนอีกคน

   “เอาน่า ใจเย็นๆ ทั่งคู่แระ กินน้ำอะไรมะ เดียวพี่เอาให้”   ผมต้องรีบห้ามทัพเป็นการด่วน ว่าแล้วต้องจัดการอะไรบางอย่างกับสองคนนี้ สุดท้ายก็ปิ้งแผนขึ้นมาจนได้

         ระหว่างที่ออกมาเอาน้ำ ผมแอบดูสองคนนั้น ดูเจ้าโอ๊คพูดทำเสียงอ่อยลงแล้วเงียบไป ทำหน้าแบบงอนๆอะไรของมันเจ้านี้ ส่วนเจ้าออยก็ยังทำหน้าตึง ทำเคร่งเครียดไม่ยอมฟังอะไรท่าเดียว แล้วต่างก็งอนใส่กันไปอีกคน ต่างคนต่างหันข้างให้กัน ดูไปดูมาเหมือนผัวเมียกำลังงอนกันไม่มีผิด เอ้อ! ไม่ต้องจับมาจิ้นแล้วละ สงสัยสองคนนี้จะสปาร์คกันตั้งแต่มีเรื่องวันนั้นแล้ว แค่ยังไม่รู้ใจของตัวเองก็เท่านั้น ที่นี้ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของหัวใจที่มันเรียกร้องเองละกัน บวกกับแผนการอะไรบางอย่าง เสร็จฉันแน่แกสองคน ฮาๆ

   “อ้าวๆ กินน้ำกันก่อน แม่ง ทำงอนใส่กัน ทำอย่างกะผัวเมีย เหย! อย่างกะรู้จักกันมาเป็นชาติละ”    ผมส่งน้ำให้ พร้อมกับชวนคุย เพื่อช่วยลดความตึงเครียดลง

   “ใครรู้จักมันพี่”   เจ้าออยรับขวดน้ำไปดื่ม แต่ไม่วายหันมากัดคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

   “โอ๊คก็ไม่รู้จัก พึงเคยเจอครั้งเดียวก็วันนั้น แถมเพื่อนมันยังมาว่าโอ๊ค ทำหน้าตึงใส่มัน”   แล้วโอ๊คก็ไม่ยอมโดนว่าฝ่ายเดียว หันมาใส่ออยคืนบ้าง

   “มึงมองหน้ากู ทำหน้าเหมือนจะกวนตีน จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม อะไรไม่รู้ แถมทำหน้าเชิดใส่กู แม่ง”   จนเจ้าออยต้องหันวับกลับไป แล้วต่อว่าโอ๊คอีกซ๊อต

   “กวนอย่างไง กูก็หน้าอย่างงี้ มึงนั้นแระเห็นนั่งหน้านิ่งเฉย แถมมองกูด้วยหางตา แล้วจะให้กูยิ้มให้ เพื่อ”   มวยถูกคู่แล้วครับ โอ๊คไม่ยอมบ้าง ว่าตอบกลับมาอีกซ๊อต

   “พอๆ หยุดๆ พอกันทั่งคู่แระ อ้าวที่นี้ก็รู้จักเสียสิ นี้โอ๊ค แล้วนี้ก็ออย ที่นี้ก็เท่ากับว่ารู้จักกันละนะ  อีกอย่างเพื่อนแบงค์ทั้งคู่ไม่ใช่หรอ เมื่อรู้จักกันแล้ว ที่นี้ก็ดีกันนะ”   ก่อนที่เรื่องจะยาวไม่ยอมจบ ผมต้องรีบตัดบททันที เอ้อ! เหนื่อยใจ

            ทั้งคู่นิ่งไม่ยอมตอบ แต่แอบลอบสบตากันเป็นพักๆ ผมส่ายหัวเอื้อมระอาความมีทิฐิสุงของคนทั้งคู่ แม้จะนั่งห่างกันแค่คืบบนโซฟาตัวเดียวกัน แต่ต่างก็ทำตัวห่างเหินราวกับนั่งอยู่คนละมุมห้อง แต่แค่พอได้ฟังที่เขาโต้เถียงกันสองสามประโยคเมื่อครู่ ก็ทำให้ผมรู้แล้วละ ว่าที่จริงวันนั้น ต่างคนก็ต่างอยากรู้จักกัน ผิดก็แต่เจ้าออยของผมค่อนข้างจะเป็นเสือยิ้มยากสักหน่อยชอบทำหน้านิ่งๆ ส่วนเจ้าโอ๊คซึ้งปกติเป็นคนยิ้มเก่ง เฟรนลี่กับทุกคน เห็นออยเป็นดังนั้นเลยไม่กล้าส่งยิ้มออกไปให้ พวกเจ้าออยเห็นดังนั้นเลยเข้าใจผิดคิดว่า โอ๊คไม่พอใจออย นี้ละน่าวัยรุ่นวัยแรง

   “แล้วจะเอาไงต่อ ออยโทรศัพท์ไปไหน รถละ เอาไง พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่หรอ”   ผมก็อยากกลับบ้านละ คงไม่มานั่งเฝ้าสองคนนี้ทะเลาะกันแน่ๆ  ผมถามแล้วมองเจ้าคนขี้งอนตรงหน้า

   “ไม่รู้พี่”   มันตอบแบบเหมือนยังงอนผมอยู่ น่ากระโดดถีบสิ

   “เดี่ยวพี่ตามพวกมา ไปเอารถ ออยทิ้งกุญแจรถไว้ที่พี่ แล้วก็กลับกับโอ๊คละกันนะ  โอ๊คคับพี่ฝากไปส่งออยที่บ้านเขาหน่อยนะ”   ได้ตามนั้น ออยจ้า ไม่ชอบอะไร พี่ก็จะจัดอันนั้นให้ ฮาๆแผนขั้นสองตามมา

  “อ้าวพี่”   โอ๊ครีบร้องขึ้นมาทันที

   “นะ ช่วยแล้วก็ช่วยให้ตลอด ถือว่าทำคุณไถ่โทษเรื่องวันก่อนละกัน ดีไหมละ”

   “ออยไม่นับ มันไม่เกี่ยวกัน ”   ออยยังพูดเสียงแข็งตามเดิม ไอ้นี้วอนชะละ       
   “นั้นมันก็เรื่องของออย พรุ่งนี้มีเรียนทั่งคู่เลย รีบกลับบ้านไปนอนซะ แล้วแผลที่คิ้วไปให้หมอดูซะด้วย ถ้ามันลึกมากจะได้เย็บ”

        ว่าแล้วผมก็ลากทั่งคู่ออกมาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ แม้เจ้าออยจะงอแงอยากให้ผมไปส่งแทน แต่ก็จำใจไปกับโอ๊คจนได้ เข้าแผนผมละ พวกมันสองคนจะได้สนิทกันเร็วขึ้น ถ้าเปลี่ยนจากรบมาเป็นรักได้มันก็ดีสิวะ อีกอย่างผมแอบใส่อะไรบางอย่าง ลงไปในน้ำที่พวกเขาดื่มด้วย ฮาๆ นั้นคือแผนขั้นที่หนึ่ง

                                      >>>>>>>>>>>>>>>>>>

   “น้องเจมส์คับอยู่ไหน มาหาพี่สิ ไม่ต้องตามหาแล้วออยอะ เขากลับบ้านนอนแล้ว เอ้อน่า แล้วค่อยคุย มานี้ก่อน รีบมาเดี่ยวนี้เลย ด่วน”    ผมกดโทรศัพท์หาคนไปเอารถ ไม่ใช่ใคร พวกเจมส์กับเมสนั้นละ และนี้คือแผนขั้นสาม ถ้าการคำนวณของผมไม่ผิดพลาด พวกเจ้าเจมส์กับเจ้าโอ๊คออย น่าจะขี่รถสวนกันกลางทางระหว่างกลับพอดี ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ แผนผมจะสมบูรณ์ทุกอย่าง

            และซึ้งเป็นจังเหวะเดียวกัน กับที่พวกเขากำลังออกตามหาตัวออยกันอยู่พอดี  สักพักไม่ถึงสิบนาทีเขากับพวกราวสิบกว่าคนก็บิดรถเขามาอย่างไว ผมส่งกุญแจให้ บอกไปเอารถมาทิ้งไว้นี้ จัดการให้ที เอาพวกไปด้วยเยอะๆ 

   “แล้วหายไปไหนมา รู้ไหมออยมันเกือบไม่รอด”   ผมถือโอกาสตำหนินิดหนึ่ง เพื่อกันไม่ให้พวกเขาถามอะไรผมมาก

   “รถน้ำมันหมดพี่ ออยมันขี่เร็วหายไปเลย ผมสองคนตามไม่ทัน มันไม่เป็นไรมากใช่ไหม พวกไหนทำพี่”  เจมส์ตอบผมคนแรก  ด้วยเสียงอ่อยๆ แล้วถามถึงพวกที่ทำเจ้าออย

   “ดีนะ น้ำมันหมด โธ่ ไม่อยากจะด่าเหอะ รีบไปเอารถมา แล้วกลับบ้านนอน ส่วนมีเรื่องกับใครค่อยถามเจ้าตัวที่โรงเรียนเอา ไปเรียนกันด้วยละพรุ่งนี้ ไม่ต้องออกตามล่าอะไรใครทั่งนั้น”            ผมทำเสียงดุ เพราะไม่อยากให้พวกเขาออกตามล่า หรือตามหาใครทั่งนั้น ตอนนี้พวกพี่ใหญ่คนอื่นก็ไม่อยู่เสียด้วย เป็นอะไรขึ้นมาผมคนเดียวจะแย่เอา

   “ใคร ทำเพื่อนผม ผมไม่ยอมหรอกพี่ ผมมีล่าพวกมันแน่”

   “เมสใจเย็นคับลูก ไปเอารถ นะ แล้วกลับบ้านนอน วันนี้พี่ขอ”

        ไอ้ตัวเล็กของผม ห้าวเป้งมาก ยอมเขาจริงๆ เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้นะคับ แต่ในกลุ่มเขาเนี้ย ใจใหญ่สุดๆ กลัวใครเป็นที่ไหน แลกเป็นแลก ตายเป็นตาย อะมัน เคยมีปัญหานัดเคลียร์ตัวต่อตัวมาแล้ว หัวปูดเป็นลูกมะนาวกลับมาเลยครั้งนั้น แต่ก็วิถีลูกผู้ชายแมนๆ แบบนี้ผมว่ามันก็ดีนะ  ดีกว่าการรุมหมาหมู่เยอะ แบบนั้นมันไม่แฟร์

                       >>>>>>>>>>>>>

   “พี่นะหวัดดีคับ เห็นออยปะพี่”   เด็กหนุ่มร่างผอมปรากฏตรงหน้าผม ด้วยหน้าตาเศร้าๆถามผมด้วยเสียงอ่อยๆ

   “อ้าว ดีคับเจมส์ ไม่เห็นอะ สามสี่วันมานี้ไม่ค่อยได้เจอนะ มีอะไรเปล่า”   ผมตกใจเล็กน้อย แต่ก็อดเป็นห่วงออยไม่ได้เหมือนกัน พอได้ยินแบบนั้น
 
   “ไม่มีพี่ แต่พักนี้เขาชอบหายไปไหนไม่รู้ โทรไปก็ไม่รับ มาโต๊ะบ้างเปล่า”   เขามองผมด้วยความหวัง

   “ไม่เห็นอะเจมส์ เจอแต่วันก่อนที่มาเอารถ แค่นั้น”   ผมส่ายหัว เพราะไม่เจอเขาจริงๆ

   “คับพี่ ไปแระ หวัดดีคับ”

     ว่าแล้วเจมส์ก็ทำหน้าเศร้าๆเหมือนกำลังผิดหวังอะไรบ้างอย่าง ขี่รถออกไป อะไรของเขาเจ้าเด็กพวกนี้ ไม่เข้าใจวัยรุ่นโว้ย จะว่าไป หลายวันมานี้ก็ไม่ค่อยได้เจอเจ้าพวกนี้มาเล่นสนุ๊กด้วยกันเลยแฮะ ปกติเจ้าออย เจมส์ บร์อน สามคนนี้ตัวติดกันตลอด หลังเลิกเรียนแล้วชอบมาเตร่อยู่แถวนี้ หลังจากคืนนั้นเจ้าออยก็แทบจะหายไปอะไรนะ

                                         >>>>>>>>>>>>>>>>>>
 
   “พี่นะ หวัดดีคับพี่”“สวัสดีคะพี่”   หนุ่มร่างท้วม กับสาวแว่นน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม

   “อ้าวแบงค์ แพท มาไงเนี้ย เข้ามาก่อนสิ”   ผมทักเขาทั้งสองด้วยความยินดี
   
    “มากินข้าวแถวนี้เลยแวะเข้ามาหา อยากถามไรหน่อยด้วยพี่”
 
   “ถามอะไร ว่ามาสิ แปลกคนไอ้นี้”   ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าสองคนตรงหน้า มองด้วยความสงสัย

   “เจอโอ๊ค หรือได้ข่าวมันปะพี่ช่วงนี้”   แบงค์ถามเสร็จแล้ว มองจ้องผมเขม็ง

   “หา? ไม่อะแบงค์ มีอะไรหรอ โอ๊คเป็นอะไร หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอเลย”   ผมออกอาการงองูสองตัวขึ้นมาทันที ตกใจในคำถาม จนหลุดพูดอะไรบางอย่างไป


   “วันนั้นวันไหนพี่       คือ ช่วงนี้มันไม่ค่อยเข้าไปชุ้มเท่าไร นึกว่าอยู่กับแฟน แต่แฟนมันกลับโทรมาถามพวกผมตลอด ว่าหลายวันมานี้ ติดต่อโอ๊คมันไม่ได้เลยอะ ไปหาที่บ้านก็ไม่เจอ”   แบงค์มองผมด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ชักไซร์อะไรต่อ ผมพยายามไม่หลบตาเขา เพื่อเขาจะได้ไม่สงสัยเอา

   “หือ เปล่าๆ  ว่าแต่ คงไม่ได้เป็นอะไรหรอกนะ ”   ผมอ้ำอึ้ง แต่ก็ตัดบทไปอย่างอื่น ในใจเริ่มคิดถึงเรื่องคืนนั้นขึ้นมา

   “ไม่เป็นอะไรพี่ ก็เห็นมันไปโรงเรียนปกติ แต่พอเลิกเรียนแล้วมันหายหัวทุกทีเลย ถามแม่มัน เขาก็บอกว่ามันอยู่ดี”

   “เดี่ยวนะ ไอ้เจมส์ เห้ย ไม่นะ”   ผมเผลอหลุดอีกจนได้ เมื่อคิดถึงเรื่องที่เจมส์มาถามหาออย มันชั่งเหมาะเจาะกันพอดี

   “ไอ้เจมส์ ทำไมพี่ พี่รู้อะไรหรอ”   ไอ้แบงค์มองหน้าผม ด้วยความสงสัยเข้าไปอีก

   “เปล่าๆๆ ไม่รู้ๆ ว่าแต่เรื่องที่ทะเลาะกันอยู่ จบยังวะ ทำไมวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่ได้ข่าวอะไรเลย”   ผมรีบตัดบทชวนคุยเรื่องอื่นทันที

   “พวกมันไม่ยอมรับข้อเสนอพี่ แต่ว่าเรื่องมันก็เบาๆลงเยอะแล้ว ดูกันไปก่อน มีเรื่องอะไรเพิ่มเดียวผมเข้ามาบอก”

   “ดีแล้ว ว่าแต่ได้ข่าวโอ๊ค บอกพี่ด้วยนะ ว่ามันไปติดสาวใหม่ที่ไหนอีก เหนื่อยใจกับคนรูปหล่อวะ”   ผมพอได้โอกาสก็รีบพูดเฉไฉไปทางอื่น แม้จะเริ่มรู้แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นอยู่เต็มอก

   “ผมก็ว่างันละพี่ ที่มันอะศัตรูเยอะ ก็มาจากเรื่องผู้หญิงทั้งนั้น งันไปแระพี่ หวัดดีคับ” “หวัดดีคะ”   ว่าแล้วทั้งคู่ก็ยกมือไหว้ผม แล้วก็พากันขี่รถออกไป

      เรื่องมันชักแปลกๆ น้องออยกับน้องโอ๊คหายไปไหนพร้อมกันทั้งคู่ และเป็นช่วงเวลาเดียวกันเสียด้วย มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกนะ หรือจะใช่อย่างที่เราคิด ไม่น่านะ แต่ว่ามันจะเร็วเกินไปหรือเปล่า หากจะบอกว่าทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์ เกินกว่าคำว่า คนรู้จัก เพียงชั่วระยะเวลาแค่ข้ามคืนเท่านั้นเองหรอ เอาแล้ว เอาแล้ว แผนการของเรามันเสร็จลุล่วงไปด้วยดีขนาดนั้นหรอวะ

          >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>     
                         
ติดตามต่อตอนไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 01:05:05 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง
«ตอบ #4 เมื่อ31-07-2016 08:52:40 »


โดย เจเจ…โอ๊ค เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

mmc ที่นี้..รักแรง… ตอนที่สี่>>>พลาดแล้วไง พาผู้ชายไม่ใช่เพื่อน เข้าบ้าน

        ตลอดหลายวันที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ นับตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อวันนั้น วันที่ผมควรจะขี่รถกลับบ้าน ไม่ใช่เข้าไปยุ่งในเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเอง จนท้ายที่สุด ชีวิตผมต้องลงเอยแบบ แทบจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ผมนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงศาลาในป่าชายเลน ที่นี้มันเงียบสงบ เหมาะให้ผมอยู่เงียบๆ ผมแอบมาที่นี้โดยมีไอ้ออยตามมาทุกวัน อะไรของมันไม่รู้ ผมไม่สนใจมันหรอก ผมเอาแต่นั่งมองดูหน้าจอโทรศัพท์ มองดูรูปแฟนตัวเองในนั้น แต่อยู่ๆพลันภาพในวันนั้นก็ปรากฏขึ้นในหัวผมอีกครั้ง 

   “บ้านมึงไปทางไหน”

   “ไปทางนู้น แล้วเลี้ยวขวาตรงนั้น”

        เมื่อออกจากโต๊ะmmcผมขี่รถพามันไปส่งบ้าน แบบจำใจนะ คือต้องเอาไอ้ออยซ้อนท้ายรถ พามันกลับไปส่งบ้านด้วย เพราะด้วยคำขอร้องแกมบังคับของพี่มานะ จะขัดคำผู้ใหญ่ก็ติดเกรงใจ ไอ้ออยอีกคน แม้มันจะไม่เต็มใจ อยากจะมากับผมเท่าไรนัก แต่มันก็ยอมมากับผมแบบง่ายๆ ผมก็ไม่เข้าใจมันเหมือนกันว่าเพราะอะไร อาจจะเพราะมันก็ติด ที่จะขัดใจพี่มานะไม่ได้เหมือนกันละม้าง

   “เชี้ยละมึง ดูนั้น”   อยู่ๆไอ้ออยก็ชี้ให้ผมดูข้างหน้า ด้วยน้ำเสียงตกใจ

   “เชี้ย! เอาแล้วไงมึง พวกไหนวะ”    ผมก็มีอาการไม่ต่างจากมัน เมื่อได้เห็นภาพเบื้องหน้า
   
   “หนีสิ รออะไร เดี่ยวได้ตายห่ากันพอดี แม่งมาเป็นร้อย”

   “เป็นร้อย เหี้ยอะไร อย่างมากก็สิบยี่สิบคัน”   ผมอดที่จะเบรกมันไม่ได้

         กลุ่มมอเตอร์ไซค์ราวสิบกว่าคันอยู่ข้างหน้าเห็นไฟลิบๆบิดคันเร่งเครื่อง เสียงอย่างดัง อย่างไม่รอช้า ผมรีบหักรถเลี้ยวกลับ บิดหนีอย่างไว คงไม่ต้องรอให้พวกนั้นมาถึงตัว ก่อนจะโดนลากลงจากรถ แล้วถูกรุมกระทืบ แม้จะยังไม่รู้ว่าเป็นพวกจากแก็งค์ไหน แต่เอาปลอดภัยเข้าว่า เพราะจะเจอฝ่ายไหนก็งานเข้าเต็มๆ ถ้าเป็นเอ็มเอ็มซีงานนี้ผมโดนน่วม ถ้าเป็นเจเจไอ้ออยโดนไม่ยั้งแน่

   “เห้ย มึงจะพากูไปไหน”   มันยื่นหน้าเข้ามาตรงบ่า แถมขยับตัวเข้ามาชิดติดตัวผมอีก แล้วถามด้วยความสงสัย

   “สัด ทางนี้ก็บ้านกูไง”   ผมด่ามันไปด้วยความหงุดหงิด เพราะอยู่ๆมันก็เลื่อนตัวเข้ามาไกล้ผม ทำไมวะ

   “Kกูจะรู้เหอะ เคยมาบ้านมึงไง”   มันด่าผม แล้วขยับตัวถอยห่างออกไปเหมือนเดิม
 
   “เงียบเถอะน่า หมู่บ้านกูมียาม พวกมันตามมาไม่ได้หรอก ไว้รอสักพัก เดี่ยวกูค่อยหาทางออกไปส่งมึงอีกที ”
 
    “เออ”
                           >>>>>>>>>>>>

    “กลับมาแล้วหรอลูก กินอะไรมายัง ไปส่งแฟนแค่นี้ ไปนานเลยนะ อ้าวใครอะ”   พอเปิดประตูบ้านเข้าไปก็เจอกับแม่ ที่นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขกทันที

   “อืม แม่ พอดีมีเรื่องอะไรนิดหน่อย เลยช้า”

   “แล้วนี้ใคร หน้าไปโดนอะไรมา”   แม่ผมมองไอ้ออยด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเจอมันมาก่อน แถมที่หน้ายังมีผ้าก๊อตปิดไว้อีก

   “เห้ยนี้แม่กู ไหว้ชะ มันเดินชนเสาอะแม่ มัวแต่มองสาวมาก ตาไม่รู้จักมองทาง”   ผมแนะนำมันให้รู้จักแม่ผม พร้อมกับแอบกัดมันเล็กน้อย ที่กูละมึง

   “เชี้ย มึง”

    “พวกผมแวะมาเอาของแปบเดียว เดี่ยวก็ต้องกลับไปส่งมันต่อ ขึ้นห้องนะแม่ ไปแล้ว”   
   
          มันยกมือไหว้แม่ผม ยิ้มแบบอายนิดๆเขินๆ กระซิบด่าผม ไอ้เชี้ยเบาๆ ก่อนจะเดินตามผมขึ้นห้อง ซึ้งอยู่บนชั้นสองของบ้าน พอเราทั้งคู่เปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง มันนั่งลงทีเตียงของผมโดยวิสาสะ ดึงหมอนใบโปรดของผมมารองหัวนอน ทำยังกะบ้านมัน

   “ห้องมึงน่าอยู่ดีนะ อยู่คนเดียวหรอ”

   “เออ”

   “สะอาดดีวะ เทียบกับห้องกูคนละเรื่อง แม่งโคตร รก”

   “อืม”

   “ปกติมึงพาเพื่อนมาบ้านบ่อยปะวะ กูเห็นแม่มึงไม่แปลกใจเท่าไรที่พากูมา”

   “อืม ไม่”

   “เชี้ยเป็นอะไรอีกละ เมื่อกี้ยังพูดมากอยู่เลย ที่นี้ทำเป็นปากหนัก ที่มึงว่ากูเดินชนเสา กูยังไม่ว่าอะไรเลยนะ สัดโอ๊ค เห็นกูยอมให้หน่อยแล้วอย่าทำเป็นได้ใจเชียวนะมึง”   อยู่ๆมันก็อารมณ์ร้ายขึ้นมาชะงัน อะไรของมัน เดียวดีเดียวร้าย ทำเสียงแข็งเอ็ดผม
 
   “เปล่า นี้”   ผมพยายามใจเย็น ไม่เถียงมัน

   “ถ้าไม่อยากพากูมาบ้าน แล้วจะพามาทำไม กูก็ไม่ได้อยากมานักหรอก มึงพากูมาเอง กูกลับละ”   มันพูดแบบไม่พอใจผมอย่างมาก พร้อมกับลุกขึ้นทำท่าจะกลับ

   “เห้ยมึงคิดมาก ปกติกูไม่เคยพาใครเข้าห้อง นอกจากแฟน กูก็แค่รู้สึกแปลกๆ  กูไปอาบน้ำละ มึงพูดมาก ”   ผมยืนขวางทางมันไว้ ก่อนจะพูดกับมัน แล้วดันมันให้กลับไปนั่งลงที่เตียงเหมือนเดิม

         แล้วผมจึงหนีมันเข้าห้องน้ำ เพราะขี้เกียจตอบคำถาม อยู่ๆดีๆมันก็กลายเป็นคนพูดมากขึ้นมาชะงัน งงกับมันซิหาย ถือโอกาสนี้อาบน้ำสักหน่อยด้วย เหนียวตัวชะมัด ตั้งแต่เช้าจนปานนี้ยังไม่ได้อาบน้ำเลย เพราะมันคนเดียวแท้ๆทำผมเสียเวลา กว่าจะกลับถึงบ้าน อดเล่นเกมส์นัดเพื่อนไว้ด้วย จะออนไปลงดันเจี้ยนกัน

   “มึงจะอาบน้ำสักหน่อยปะวะ”

   “…”

   “สัด หลับหรือวะ”

        เมื่อผมออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่ามันหลับไปแหละ เหมือนเด็กเลยอะมึง เชี้ยออย นี้เป็นครั้งที่สองที่เราได้เจอกัน และทุกครั้งก็ไม่เคยมีเรื่องดีๆให้กูน่าเก็บเอาไปจดจำเอาเสียเลย และก็เพียงได้เจอกันแค่สองครั้ง กูก็พามึงเข้าบ้านเสียละ นี้ถือว่าเป็นสถิติที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่คบเพื่อนมา แล้วก็พาพวกมันมาที่บ้าน แต่มึงถึงขนาดเข้ามายังห้องนอนกูเชียวนะ แถมยังได้มาเจอแม่กูอีก ทำไมกูถึงทำอะไรบ้าๆขนาดนี้เพื่อคนแปลกหน้าอย่างมึงด้วยวะ ผมนั่งลงที่เตียง ตรงข้างๆมัน แล้วถือโอกาสมองหน้ามันชัดๆ ที่จริงมันก็หล่อ หล่อมากด้วย เสียอย่างเดียวชอบเก๊กหน้าขรึม ตีมึน ทำหน้ายังกะแบกโลกไว้ทั้งใบ 
       แล้วอยู่ๆไอ้ออยมันก็มีอาการหนาวสั่นผิดปกติ ผมยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของมันตรวจดู ก็พบว่ามันตัวร้อนนิดๆคงจะเกิดเพราะฤทธิ์จากแผลที่คิ้ว ทำให้มีไข้หน่อยๆ สลัดเก่งนัก เป็นไงแค่นี้ก็โดนไข้แดก แล้วจะหายาอะไรให้มันดีวะ หรือจะเรียกพามันไปส่งบ้านเลย ผมสองจิตสองใจ ให้มันนอนสักพักแล้วดูอาการ ถ้าไม่ดีขึ้น ค่อยไปขอยากับแม่ให้มัน แต่ถ้ามันดีขึ้นก็พากลับบ้านแค่นั้น

        “เห้ย เอาไง เอากัน พวกมึงอยากตายคาตีนกูก็เข้ามา สัต”

      ผมสะดุดตื่นเพราะเสียงไอ้ออยละเมอเสียงดังลั่น ผมหันไปมองนาฬิกาบอกเวลาจะตีสามแล้ว ผมเผลอหลับไปหรือนี้ ตั้งแต่เมื่อไรวะ จำได้ว่านั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ แต่ไงมานอนอยู่ข้างๆไอ้ออยได้วะ แถมตอนนี้มันก็ดันกอดผมไว้เสียแน่นด้วย โอ้ยตายละ
       ทำไงได้ผมค่อยๆแกะมือมันออกอย่างช้าๆและเบามือเป็นที่สุด ถ้ามันเกิดตื่นขึ้นมาตอนนี้เป็นเรื่องแน่ ผมดันตัวจะลุกขึ้น แต่มันกลับเสือกดิ้นกอดเข้ามาแน่นกว่าเดิมอีก แม่งเชี้ยออย ตอนนี้เหมือนผมเป็นหมอนข้างใบหนึ่งของมันเลยที่เดียว มันกอดแน่น จนผมต้องเอามือดันตัวมันไว้ เพราะตัวมันกำลังชิดติดผมเข้ามาไกล้สุดๆ
       แต่แล้วอยู่ๆสวรรค์ มันกลับลืมตาขึ้นมา จ้องหน้าผมที่ระยะห่างกันตอนนี้แค่นิ้ว มันมองจ้องผมเขม็ง แถมตอนนั้นปากเราสองคนแทบจะชนกันอยู่ละ ทั้งมือของผมก็ยังจับอยู่ระหว่างหน้าอกของมันด้วย แย่ละกู เรานิ่งกันแวบหนึ่ง ก่อนมันจะผลักผมออกแล้วลุกขึ้นชี้หน้าผม

   “เหี้ย มึงจะทำอะไรกู สัต”   มันมองผมด้วยสายตาสงสัย

   “เปล่า มึง”

   “เปล่าหรอ สภาพแบบนี้มึงยังกล้าปฏิเสธ คนอย่างมึงทำอะไร เคยกล้ารับไหม ลูกผู้ชายเขากล้าทำ เขาก็ต้องกล้ารับนะโว้ย”   พอผมตอบมันไปเพียงเท่านั้น มันกลับมองผมด้วยสายตาที่โกธรเคืองเข้าไปอีก 

   “เห้ย มึง ใจเย็นๆ กูเปล่าจริงๆ”   ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่พูดเปล่าๆ เพราะผมก็ไม่ได้ตั้งใจทำอะไรเลยจริงๆ

    “ปากแข็งจริงๆนะมึง มึงให้กูใจเย็นหรอ สัต อ่อ มึงชอบแบบนี้หรอ ชอบใช่ไหม หึ ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก กูจะได้จัดให้ตั้งแต่แรก”    แต่มันไม่ฟังอะไรเลย สายตาของมันเย็นชากับผมมาก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตาที่อาฆาตแค้นหื่นกระหายเข้ามาแทน แล้วมันก็ขยับตัวเข้ามาไกล้ผม ก่อนจะจับผมกดลงกับที่นอน

    “ไม่ใช่”

    “นี้สำหรับที่มึง พาพวกมารุมกระทืบพวกกู”

         ไม่ทันที่ผมจะได้อธิบายอะไร มันก็อุดปากผมด้วยปากของมัน ก่อนจะส่งลิ้นเปียกๆของมันสอดตามเข้ามา มันกอดผมแน่น จับมือจับแขนผมกดไว้ ผมดันสุดแรงก็ไม่มีประโยชน์ ผมดิ้นจนผมเริ่มหมดแรงที่จะขัดขืน แล้วก็ตกในอ้อมกอดนั้นของมัน ร่างกายผมมันเริ่มมีอาการแปลกๆเกิดขึ้นที่ละหน่อย
         แม้แต่ตัวไอ้ออยเอง มันก็เริ่มมีอาการสั่นนิดๆหายใจแรงหอบถี่ แถมมีบางอย่างแข็งๆที่มาจากตัวมัน มาดุ้นตรงแถวท้องผมเป็นก้อนขนาดใหญ่ มันร้อนผ่าวด้วย ก่อนที่ไอ้ออยมันจะดึงเสื้อผมถอดออกอย่างแรง แล้วก้มลงไซร์ที่ซอกคอ จนผมรู้สึกเสียววาบ ขนลุกซู่ไปทั่งตัว ไม่เว้นแม้แต่น้องชายของผม มันก็เกิดอาการลุกชันตามขึ้นมาอีก ใจผมเต้นแรงโครมคราม นี้เป็นครั้งแรกที่ผมเคยโดนผู้ชายด้วยกันทำแบบนี้ มันแปลก แปลกจนรู้สึกสับสน แม้จะรู้ว่าตัวเองกำลังจะโดนข่มขืน แต่ทำไมมันไม่มีแรงขัดขืนเอาเสียเลย กลับมีความรู้สึกดีๆเข้ามาแทน แล้วปล่อยให้เขาทำ นายโอ๊ค ทำไมกันนะ
                                   >>>>>>>>>>>>>>>>
ติดตามตอนต่อไปนะคับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 01:07:33 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง
«ตอบ #5 เมื่อ31-07-2016 08:58:07 »


โดย mmc..ออย  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง
 
 mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่ห้า>>>แค่ผู้ชายห่วยๆ ช่วยมองหน่อย

 
   “มึงมาทำไม”   ไอ้โอ๊คมันพูดเสียงแข็งกับผม เมื่อผมขี่รถเข้าไปไกล้ๆมัน

   “ขี่รถผ่านมาแถวนี้ ไปส่งป่าว”   ผมตอบมันด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและห่วงใย

    “ค_ย กูก็ขี่รถมาเองเหอะ”   แต่มันก็ไม่ยอมคุยกับผมดีๆสักครั้ง

    “ขี่ไปเป็นเพื่อนไง ห่วงโอ๊คนะ”

    “ห่วงเชี้ยอะไร ออยมึงเลิกยุ่งกะกูเหอะนะ”

        เสียงไอ้เชี้ยโอ๊คมันแวดๆใส่ผมตลอด แม้ผมจะพยายามทำดีกับมันสักเท่าไร แต่มันก็ไม่เคยพูดกับผมดีสักครั้ง เรื่องของเรื่องมันเกิดตั้งแต่วันก่อน วันที่ผมไปนอนค้างบ้านมันคืนนั้น แล้วกลางดึกของคืนเดียวกันนั้น ผมก็ได้ทำอะไรบ้าๆ แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน แถมยังทำกับผู้ชายอีกด้วย มันเป็นผู้ชายคนแรกของผมเลยก็ว่าได้ และผมก็เป็นผู้ชายคนแรกของมันเหมือนกัน แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่ยังค้างคาใจ ผมต้องเคลียร์เรื่องนี้กับมันก่อน เพราะว่าแม้ผมจะผ่านการมีอะไรกับผู้หญิง มาหลายคนหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะทำให้ผมรู้สึกผิดได้ขนาดนี้ ตอนทำก็ไม่ได้คิดอะไร พอทำลงไปแล้ว กลับรู้สึกแย่ สงสารมันมากด้วย แถมมันยังมีเลือดไหลออกมาอีก สีแดงตรงผ้าปูที่นอนเลย ผมตื่นเช้ามาเห็นตกใจมาก แต่มีอีกอย่างที่ผมยอมรับและโกหกตัวเองไม่ได้ ก็ตอนกอดกับมันคืนนั้นผมมีความสุขมาก มากที่สุด มากจนอยากจะกอดมันอีกสักครั้ง บ้าไปแล้วไอ้ออย

   “ไปไหนอะ ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี้น่า”

   “เรื่องของกูปะเหอะ มึงอยากตามมาเองนะ”

    “ก็ยังห่วงไง เจอพวกอริจะทำไง โอ๊คมาคนเดียว”

    “บางทีกูก็อยากโดนเขากระทืบให้ตายๆไปเลย เชี้ย กูจะได้ลืม ลืมว่ามึงเคยทำอะไรไว้กับกู” มันพูดเหมือนคนจะร้องให้ หมดอาลัยตายอยาก จนผมรู้สึกทรมานใจ

   “โอ๊คกูขอโทษ กูมันไม่ดีเอง กูโดนคนเขาปั่นมา กูไปสืบมาแล้วนะ กูเข้าใจมึงผิดไป วันนั้นมึงโดนคนอื่นใส่ร้าย พวกนั้นมันโคตรตอแหล ลับหลังเพื่อนมันยังแทงกันได้ เพื่อนโอ๊คอะ อย่าไว้ใจมาก” ผมพูดเรื่องนี้กับมันมาหลายรอบแล้ว แต่มันก็ไม่เคยฟังสักที

   “อย่ามาว่าเพื่อนกู เพื่อนกูจะเป็นอย่างไง เขาก็เป็นเพื่อนกู กูไม่เคยคิดทิ้งเพื่อน”

        ผมตามมันมาจนถึงป่าชายเลนที่เดิม หลายวันมานี้หลังเลิกเรียนมันจะแอบมานั่งเล่นอยู่ป่าชายเลนคนเดียวเงียบๆ ผมก็ตามมันมาที่นี้ทุกวันเช่นกัน เห็นมันนั่งเหม่อ เล่นกดโทรศัพท์แต่ไม่ได้คุยกับใคร หรือใครโทรมามันก็ไม่รับ ด้วยใจผมที่มีแต่ห่วงมัน ผมก็ไม่รับของผมเช่นกัน ผมได้แต่นั่งมองมันอยู่ห่างๆ ด้วยมันไม่ยอมให้เข้าไกล้เลย ผมไม่รู้ว่าโอ๊คมันคิดอะไรอยู่  แต่ผมรู้ว่าผมคิดถึงแต่มัน กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวมันตั่งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ มันตามหลอกหลอนผมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทุกเช้าผมจะรีบตื่นแต่เช้ามืด ไปแอบรอโอ๊คเขาที่หน้าบ้าน แล้วขี่รถมอเตอร์ไซค์ตามห่างๆจนถึงโรงเรียน เย็นเลิกเรียนผมก็ทำแบบเดียวกัน
       ผมไม่รู้หรอกว่ากำลังทำอะไร แค่รู้สึกอยากทำ พอได้ทำแล้วมันดี มันสบายใจขึ้น เพราะผมกลัวว่าโอ๊คมันจะทำเรื่องโง่ๆ คิดสั้น ทำนองนั้น ผมจึงตามมันออกไปไหนมาไหนแบบนี้ตลอดไม่เคยให้คาดสายตา และหวังว่ามันจะใจอ่อนยกโทษให้ผม หวังว่าเราจะเพื่อนกันได้ ผมหวังแค่นั้นจริงๆ ด้วยไม่ฟังพี่มานะพูดแต่แรก เลยทำอะไรบ้าๆลงไป เอ้อ!

   “มืดแล้ว กลับบ้านกัน”

   “มึงอยากกลับก็กลับไปสิ กูยังไม่อยากกลับ”   มันหันข้างให้ผมแล้วออกปากไล่เหมือนเคย

   “ทำไม หว่า กลับบ้านเถอะ กูยังไม่เห็นมึงกินอะไรเลยจนปานนี้ ไม่หิวหรอ มึงโกธรมึงเกลียดกูขนาดนั้นเลยหรอ มึงจะเตะจะตีกูก็ได้ มากระทืบกูเลยอาว กูจะนอนรอให้มึงมาเหยียบอยู่ตรงนี้ ขอแค่ให้มึงอย่าทรมานตัวเองอีกเลย”   ผมนั่งลงตรงนั้น รอให้มันเข้ามาทุบตีผม หรือทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจมัน
   
   “กลับบ้านหรอ มึงยังจะให้กูมีหน้าไปพบไปเจอใครได้อีกหรอ แฟนกูที่เขาไปรออยู่บ้านทุกวัน กูจะทำหน้าอย่างไงถ้าเจอกับเขา ไหนจะเพื่อนกูอีก กูจะทำไง  ถ้าตอนนี้กูกระทืบมึงแล้ว ได้ทุกอย่างกลับคืนมา กูจะทำ แต่ถ้าไม่ กูทำไป กูคงเจ็บตีนเปล่าๆ แล้วก็ไม่ได้อะไรเลย พอเถอะ มึงเลิกยุ่งกับกูเสียที”   น้ำตาของมันเริ่มปริๆขึ้นมา ทุกคำพูดคำจาของมันตัดไมตรีผมทุกทาง

        ผมไม่อาจจะทนดูมันดื้อดึงอีกต่อได้ ความมืดไกล้เข้ามาทุกที หน้ามันก็เริ่มซีดเชียวเหมือนคนกำลังจะเป็นลม ผมตัดสินใจเดินเข้าไปกอดมันไว้ในอ้อมแขน แม้มันจะดิ้นขัดขืนเล็กๆแต่แล้วก็นิ่งไป แล้วมันก็ร้องให้อยู่ในอ้อมอกผม ผมกอดมันไว้ด้วยหัวใจที่ทรมาน มันอะไรกัน ความรู้สึกนี้ อยากปกป้อง อยากดูแลมัน อยากทำให้มันมีความสุข อยากกอดมันไว้แบบนี้นานๆตลอดไป มันอะไรวะออย ทำไมหัวใจผมเต้นตึกตัก

    “พอแล้วกลับบ้านกันนะ อย่าดื้อได้ไหม กูขอร้อง ขอแค่วันนี้วันเดียว”

      มันไม่ตอบ ยืนนิ่ง ผมจึงดึงให้มันเดินกลับไปกับผม จับให้มันนั่งซ้อนรถข้างหลัง สวมหมวกกันน๊อคให้ ก่อนจะจับมือมันเข้ามาสวมกอดเอวผมไว้ มันกอดผมแน่นตัวสั่น เอาแผ่นหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาซบลงที่หลังผม แต่ก่อนจะไป ผมต้องโทรหาใครบ้างคน ที่สามารถช่วยเราได้ และเข้าใจเราสองคนมากที่สุด มาช่วยจัดการเรื่องรถของโอ๊ค ไม่มีใครนอกจาก mmc พี่มานะแล้วในขณะนี้ เมื่อโทรเสร็จ ผมก็ขี่รถพามันกลับบ้าน

   “หวัดดีคับแม่”   เมื่อมาถึงบ้านคนที่เจอทุกครั้ง คือแม่ของมัน เขาไม่แปลกใจอะไรแล้ว ก็หลายวันมานี้ ผมตามรับส่งไอ้โอ๊คตลอด

   “สวัสดีจ๊ะ ออย ใช่ไหม เดี่ยวนี้เห็นมารับมาส่งโอ๊คทุกวัน”   เธอรับไหว้ แล้วยิ้มให้อย่าไมตรี ผิดกับโอ๊คที่เอาแต่หน้าบึ้งใส่ผม

   “คับแม่ ตอนนี้มีเรื่องนิดหน่อย ต้องคอยมาดูว่า จะมีใคร มาดักทำร้ายเขาหรือเปล่าครับแม่”

  “เออ ขอบใจนะออย แม่ก็เป็นห่วงอยู่ เอะ อย่างงี้แม่ก็ไม่ต้องห่วงแล้วสิ แล้วกินอะไรกันมาหรือยัง ถ้ายัง ออยอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะ อย่าพึ่งกลับ ส่วนโอ๊คแฟนลูกมารอทุกวันเลยนะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”   แม่ของมันหันไปพูดกับไอ้โอ๊คบ้าง ถามด้วยความห่วงใย

   “เปล่าแม่ ไม่มีอะไรหรอก  เออ หนูไม่หิว ขอขึ้นห้องก่อน”   แล้วมันก็เดินขึ้นห้อง เอาแต่ใจจริงไอ้คนนี้

   “แม่คับ เดี่ยวผมจัดการเอง ขอเอาข้าวไปทานข้างบนได้ไหม”

   “เอาไปเลย ไม่มีปัญหา ฝากด้วยนะออย ไอ้ลูกคนนี้เคยฟังแม่มันชะทีไหน”

       ผมยกถาดกับข้าวเหยือกน้ำตามขึ้นมา มันนอนอยู่บนเตียงมองผมด้วยสายตาเบื่อหน่าย ผมว่างถาดอาหารตรงกลางห้อง แล้วเข้าไปลากมันลงมาจากเตียง มันขัดขืนจนผมเกือบจะอดใจไว้ไม่อยู่ เกือบตันหน้ามันเข้าให้ แต่ผมก็ต้องอดทนกับมันให้ได้ ผมยิ้มให้ก็แล้ว ทำหน้าทะเล้นให้ก็แล้ว มันก็ยังนิ่ง ไม่ยอมพูดจาด้วย

   “กินข้าวหน่อยนะ นิดเดียวก็ยังดี”   ผมพยายามอ้อนมัน

   “ไม่”
 
   “น่า ยังไม่ได้กินไรเลย ไม่หิวหรอ”

   “หิวเดี่ยวกูก็กินเองได้ มึงนั้นแหละกลับไปชะ แล้วไม่ต้องมาบ้านกูอีก”

   “ไม่ ถ้ามึงไม่กินข้าวให้กูเห็นก่อน”   ผมก็ยังพยายามอยู่ แต่เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว

   “พอเถอะ อย่าพยายามทำอะไรอีกเลย”

   “เชี้ยโอ๊ค มึงนั้นแหละพอเลย มานั่งนี้ดีๆ แล้วกินข้าวชะ หรือมึงอยากให้กูทำแบบนั้นกับมึงอีกรอบ มึงถึงจะยอมมากินดีๆ”แล้วผมก็สุดจะทนกับมัน จริงๆ

   “ก็เอาดิ มึง ไอ้สัด ค_ย เลว มึงก็ผู้ชายเห็นแก่ได้ แม่ง เอาได้ไม่เลือก”   มันมองหน้าผมอย่างโกธรแค้น

   “เออกูมันไม่ดี กูก็ไม่อยากให้ใครมาเห็นว่ากูดีหรอก แล้วไอ้ที่บอกว่าอันไหนเลว อันไหนดีกูก็ไม่รู้ด้วย คนดีๆเขาทำกันอย่างไงหรอวะ มึงบอกกูดิ ว่ามึงจะให้กูทำอย่างไง แต่กูจะบอกมึงไว้อย่าง ไม่ใช่ว่ากูจะเอากับใครก็ได้ไม่เลือก ถ้ากูไม่ได้ชอบเขาเลย ต่อให้กูเมาไม่ได้สติกูก็ไม่เอา”    แล้วผมก็ระเบิดลงกับมันอีกรอบ แต่รอบนี้มันมองผมด้วยสายตาที่อ่อนลง จนผมประหลาดใจ

            มันเงียบไปไม่พูดมากอะไรอีก เมื่อสบโอกาสผมรีบดึงมันมานั่งลงแล้วกอดไว้ ไม่ไห้ขยับไปไหน จับช้อนตักข้าวป้อนใส่ปากมัน มันอ้าปากรับเข้าไปแล้วเคี้ยวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้ม ผมเช็ดให้ด้วยมือโดยไม่สนใจจะมองหาผ้าหรือกระดาษทิชชู ก่อนผมจะตักข้าวป้อนแล้วป้อนอีก คำแล้วคำเล่า ผลัดกับตักใส่ปากตัวเองบ้างเพราะผมก็หิวเหมือนกัน

   “น้ำ”

        ผมรีบหยิบแก้วน้ำประคองใส่ปากมัน ดังโอ๊คมันกำลังเป็นหง่อยประมาณนั้น ทำอะไรเองไม่ได้ มันดื่มรวดเดียวจนมันสำลักน้ำ ไอออกมาเบาๆ ผมรีบลูบหลังให้มัน อย่างเป็นห่วง ชั่วชีวิตของไอ้ออยตั้งแต่เกิดมาจนปานนี้ ไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน มึงคนแรกเลยวะโอ๊ค มึงจะรู้เปล่าวะ 

   “อิ่มยัง กินอีกหน่อยสิ”

   “พอแล้ว กูอยากได้น้ำอีก”

          ผมรีบเทน้ำจากเหยือกรินใส่แก้วส่งให้มันอีก มันรับไปรีบกินดังคนกระหายน้ำอย่างมาก จนน้ำไหลย้อยออกมาจากมุมปาก จนผมเผลอลืมตัวไม่อาจห้ามใจอีกแล้ว ความรู้สึกแบบนี้ ปากเล็กๆสีชมพูนั้นน่าสัมผัสยิ่งนัก อยากจะจูบดูอีกสักครั้ง น้ำที่ไหลลอดออกมาจากมุมเล็กๆนั้นจะมีรสชาติเป็นอย่างไรนะ ไม่นะไอ้ออย  แล้วสุดที่จะห้ามใจตัวเองไหว ผมคว้าตัวไอ้โอ๊คดึงเข้ามาจูบ อย่างรวดเร็ว มันตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด น้ำที่ติดอยู่ที่ปากของมัน มีรสชาติหวานจริงๆ ด้วย ผมดูดปากมันเบาๆมันก็จูบตอบผมกลับมา ผมสอดลิ้นเข้าไป มันก็ดูดรับ ตอบสนองผมเป็นอย่างดี
      จนในหัวผมมันหมุนไปหมด  ความต้องการในตัวไอ้โอ๊คมันไหลทะลักเข้ามาสู่ตัวผมมากมาย จนเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ ผมอุ้มมันขึ้นโดยไม่รู้ว่าไปเอาพละกำลังมาจากไหน แล้วพาร่างบางนั้น ไปวางลงที่เตียงอย่างนุ่มนวล ก่อนจะบรรจงรอยจูบลงตรงปากเล็กๆนั้นอีกครั้ง

   >>>>>>>>>>>

ติดตามตอนต่อไปคับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 01:10:10 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง ตอนที่หก
«ตอบ #6 เมื่อ31-07-2016 19:50:40 »


โดย  mmc...เจมส์  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง
 
 
mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่หก>>>คำตอบของหัวใจ ไม่รักก็ไม่ร้าย

 
   “หยุดเลยเมส ถ้ามึงไม่หยุด กูฟ้องพี่กอล์ฟแน่”

   “โธ่ พี่มานะ”

   “เจมส์เอารถไปเก็บ ใครไม่ฟัง เจอพี่กอล์ฟแน่”

           พี่มานะโต้เถียงกับไอ้เมสเกี่ยวกับเรื่องรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง ซึ้งมันเป็นของไอ้โอ๊คอย่างแน่นอนพวกผมจำมันได้ดี แปลกตรงที่พี่มานะให้พวกผมไปเอามาจากแถวป่าชายเลน แล้วเอามาเก็บไว้ในที่จอดรถหน้าร้าน ไอ้เมสกับเพื่อนๆมันเห็นเป็นรถของคู่อริ จึงตรงดิ่งเข้าไปหมายจะทุบตีรถให้สาแก่ความแค้น แต่โดนพี่มานะโดดเข้าขวางไว้เสียก่อน และแน่นอนคำว่า พี่กอล์ฟศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ทำให้พวกมันหงอ จนไม่กล้าจะทำอะไรอีกต่อไป

    “รถอยู่นี้ แล้วคนไปไหนแล้วคับพี่”   ผมถามด้วยความสงสัยไม่ได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

   “คงอยู่บ้านมั้ง เจมส์อย่าถามอะไรพี่เลย พี่คงบอกอะไรได้ไม่มาก อีกอย่างเจมส์สนิทกับออยไม่ใช่หรอ ถามเพื่อนนายดูสิ”    พี่มานะตอบผมแบบไม่แน่ใจอะไรมากนัก ดูพี่เขาทำหน้าวิตกกังวล

   “ครับ อย่างงัน ผมไปนะ”

   “อืม ขอบใจนะเจมส์”

         พี่มานะทิ้งคำพูดให้ผมเก็บเอามาคิด ถามเพื่อนนายดูสิ พี่ออยเกี่ยวอะไรด้วยงันหรอ หรือหลายวันที่พี่ออยเขาหายไป เขาไปอยู่กับไอ้โอ๊คมา คงไม่ม้าง เขาสองคนไม่รู้จักนิ พึ่งเคยเจอกันที่บางแสนครั้งเดียวเอง แถมวันนั้นไอ้คนที่ชื่อโอ๊คก็อยู่แปบเดียวแล้วก็กลับไปกับแฟนมัน หลังจากนั้นไม่นานพวกเราก็มีเรื่อง อันที่จริงเรื่องคงไม่เกิดหากพี่แบงค์กับพี่วัฒไม่กลับออกไปก่อน เพราะจริงๆคนที่พวกเรารู้จักในกลุ่มเจเจนั้นคือ พี่แบงค์กับพี่วัฒ นอกจากนั้นไม่รู้จักใครเลย พวกเขาขอตัวกลับไปส่งแฟนพร้อมกันกับไอ้โอ๊คนั้น แล้วที่เหลือจึงเกิดเขม่นกันขึ้นมา และหนีไม่พ้นการวิวาทตามมาจนได้
        แต่ว่า วันนั้นสองคนนั้น พี่ออยกับไอ้โอ๊คก็มองกันแปลกๆ แปลก จนทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด มันอะไรกันนะความรู้สึกแบบนั้น ผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับพี่ออยเขาสักหน่อย เป็นเพื่อนกัน ด้วยต่างก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนี้น่า แม้ว่าพี่เขาจะอายุมากกว่าสักปีสองปี แต่แค่ช่วงระยะหลายปีมานี้เราสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดก็แค่นั้น  แต่พอวันนั้น วันที่ไอ้โอ๊คมันปรากฏตัวขึ้น พี่ออยก็เปลี่ยนไป อะไรของเขาวะ

         >>>>>>>>>

   “เห้ยเจมส์ บรอน พวกมึง มึงๆ กูไปก่อนนะ”เสียงพี่ออยร้องตระโกนบอกพวกผมที่นั่งจับกลุ่มที่โต๊ะหินอ่อนที่อยู่ข้างๆตึกเรียน ขณะที่เขากำลังเดินผ่าน

   “อ้าวสัด ไหนบอกจะไปโต๊ะกันไง”   ก่อนที่ไอ้บร์อนจะทวงสัญญาที่นัดกันไว้เมื่อเช้า

   “มีนัดวะไปก่อน วันหลังละกันโว้ย”   พี่ออยเขากลับยิ้มให้พูดอย่างอารมณ์ดี

   “กะแฟนป่าววะออย หลังๆนี้หายตลอดเลยนะมึง”   จนเพื่อนๆในกลุ่มอดที่จะแซวไม่ได้

   “โหยๆ วิ้วๆ ต้องจัด ฮาๆ เผื่อกูด้วยนะโว้ยสองดอก”    ตามด้วยเสียงเชียร์ โห่ตามมา

   “ประมาณนั้นวะพวกมึง ฮาๆ ไปก่อนโว้ย ไม่แน่มืดๆกูเข้าไปหาที่ร้าน”

           ว่าแล้วพี่ออยก็ขี่รถออกไป มันจะใช่หรอวะ พี่ออยเขาเลิกกันแฟนมาสักพักละ ทำไมผมจะไม่รู้ ตอนนั้นยังทำหน้าเศร้าเหงาหงอยอยู่เลย ผิดกับตอนนี้ที่เอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์แล้วยิ้มอยู่คนเดียวอย่างกะคนบ้า ถ้าหากว่า เขาจะมีผู้หญิงคนใหม่ผมก็ต้องรู้ดิ เพราะเขาชอบจะพาแฟนมาอวดพวกผมเสมอ ตามประสาคนหล่อ มีผู้หญิงมาทอดสะพานให้ไม่เคยขาด
   
   “เชี้ยเจมส์ปะ นั่งเหม่ออยู่ได้ ไปเร็ว”     คนที่นั่งติดกับผม ลุกขึ้นดึงแขนผมให้ลุกตาม

   “ไปไหนวะ บร์อน”

   “อ้าวไปโต๊ะสิวะ กูคันไม้คันมือจะแย่”

   “กูไม่อยากเล่นวะวันนี้”

   “งันไปร้านเกมส์”

   “กูอยากกลับบ้าน ไปละ โทษที กูไม่มีอารมณ์ไปไหน”

   “ค_ยอะไรของมึง อยากไปไหน ไปเลยสัด ไปเห้ย เต๋า ชัย เมส ตาล พวกเราไปโต๊ะดีกว่า เบื่อพวกขี้แอ๊ค ปล่อยแม่งมันไป”   อะไรของมันวะไอ้นี้ มันมักจะเยอะแบบนี้กับผมตลอด

         ผมไม่สนในคำพูดของไอ้บร์อน พวกเราปกติก็คุยกันแบบนี้ตลอด จนแยกไม่ออกอันไหนด่าอันไหนคุยกัน ผมขี่รถมาเรื่อยๆ ในใจเกิดคำถามมากมาย หลายวันมานี้ ตัวผมเองมีความรู้สึกว่า ได้มีอะไรบางอย่างขาดหายไป ความสนุกสนาน ความสบายใจ หรือแม้แต่ความสุขของผม มันหายไปพร้อมๆกับที่พี่ออยหายไป บ้าแล้วไอ้เจมส์ มึงไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

   “ฮาโหลค้าบ คิดถึงกูอะดิ ว่าจะโทรไปพอดี เลิกยัง เดี่ยวไปรับนะ ที่เก่าใช่ไหม  โอ๊ครอออยแปบนะเติมน้ำมันอยู่”

        เสียงคนคุยโทรศัพท์อยู่อีกฟากของตู้เครื่องเติมน้ำมัน ผมรีบหลบทันที เห็นพี่ออยกำลังยืนคุยโทรศัพท์ ขณะรอพนักงานเติมน้ำมันใส่รถ  โอ๊คงันหรอ ชื่อนี้อีกแล้ว ทำไมนะ พอได้ยินชื่อนี้แล้วมันแปร๊ดจี๊ดที่หัวใจขึ้นมาทันที เมื่อพี่ออยขี่รถออกจากปั้มน้ำมันไป ผมตัดสินใจขี่รถเครื่องตามพี่ออยไปห่างๆโดยไม่ให้เขารู้ตัว อยากรู้เหมือนกันว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่

    “รอนานปะ”

   “ไม่นาน ”

   “มึงรีบขึ้นรถสิ เดียวมีคนมาเห็น”

   “เอ่อ”

          ผมตามพี่ออยมาจนถึงแถวโรงเรียนเอสเอส และคนที่รอเขาอยู่มันใช่ไอ้โอ๊คจริงๆด้วย พี่ออยสวมหมวกกันน๊อคให้ไอ้โอ๊ค ก่อนที่มันจะกระโดดขึ้นควบซ้อนท้ายรถเครื่องของพี่เขา ไม่พอพี่ออยยังเอื้อมมือเขาไปจับมือมันมากอดที่เอวเขาไว้ด้วย ภาพแบบนั้น การทำแบบนั้น มันใช่เพื่อนกันธรรมดาชะที่ไหน ผมกำหมัดแน่น รู้สึกคับแค้นและเกลียดไอ้โอ๊คขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ความรู้สึกร้อนผ่าวที่วิ่งขึ้นลงไปทั่วตามเนื้อตัวนี้มันอะไรกัน แถมจิตใจที่สับสนว้าวุ่นแบบนี้อีก ไม่ไหวแล้ว ผมแทบทนดูภาพเบื้องหน้าไม่ไหว หันหลังกลับช้าๆ พร้อมกับที่สองคนนั้นขี่รถออกไป
              >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

   “พี่ออย”

   “อ้าว ว่าไงวะเจมส์”   คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ เงยหน้าขึ้นมามองผม ยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

   “เลิกเรียนแล้วไปแทงนุ๊กกันปะพี่”

   “ไม่วะ ช่วงนี้เบื่อๆไม่อยากเล่นนุ๊ก”   ว่าแล้วเขาก็ก้มลงไปสนใจหนังสือที่อยู่ตรงหน้าต่อ

   “งันไปกินข้าวกันพี่ ข้าวกระเพราปลาทู หรือข้าวพริกเผาหมูทอดดีละ ผมจะโทรไปสั่งพี่มานะไว้ เดี่ยวไปถึงจะได้กินเลย”

   “ไม่เจมส์ กูอยากกลับบ้าน มีการบ้านเยอะเหี้ยๆ เจมส์ไปกับพวกไอ้บร์อนแล้วกันนะ”   เขาพูดโดยไม่สนใจจะเงยหน้าขึ้นมามองผมเลยสักนิด

   “พี่ออย มีแฟนใหม่แล้วใช่ปะ หลังๆหายไปคนเดียวตลอด ไม่พามาแนะนำกันบ้างอะ”

   “เห้ย! ไม่มี พงแฟนอะไร ไม่มี มึงเอาที่ไหนมาพูด กูไปละ”   เขาเงยหน้าขึ้นมามองผม ทำท่าตกใจเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นเดินหนีผมไป

         ไม่มี หรือ มีแล้วบอกคนอื่นไม่ได้ ผมอยากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ไม่กล้า ว่าแล้วพี่ออยขี่รถออกไป ผมแอบตามไปอีก และแน่นอนเขาแวะไปรับไอ้โอ๊คเช่นเคย เดี่ยวนี้เขาไปรับไปส่งไอ้โอ๊คที่บ้านทุกวัน เช้าก็ออกแต่เช้าไปรอรับมัน เย็นก็ขี่รถไปรอรับมันอีก แล้วทั้งสองก็หายเข้าบ้านไอ้โอ๊คเงียบไป จนดึกพี่ออยถึงจะกลับบ้านตัวเอง หรือไม่ก็ค้างที่นั้นเลย เป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว และการกระทำหลายๆอย่างของคนทั้งคู่บ่งบอกว่าพวกเขากำลังคบกันเป็นแฟนไม่ใช่เพื่อนธรรมดา แม่ไอ้โอ๊คเขาจะรู้หรือเปล่านะ ลูกชายมีแฟนเพศเดียวกัน แต่มันก็ดีนะคับ เวลาหิ้วขึ้นห้องคนก็นึกว่าแค่เพื่อน แต่จริงๆเป็นผัว

                      >>>>>>

   “เมส”   ผมร้องทักขณะมันกำลังเดินผ่านผมไปพอดี

   “อ้าวเจมส์ ว่าไงเพื่อน”   มันหยุด หันกลับมาที่ผม

   “เรื่องเด็กเจเจ มึงว่าไง”

   “กูต้องจัดอยู่แล้ววะ โดยเฉพาะไอ้โอ๊คมันเจอกูแน่”   มันมองซ้ายมองขวา ก่อนจะกระซิบบอกผม

   “กู ว่ามึงเน้นจังนะไอ้โอ๊คเนี้ย อย่างไงมึงก็ต้องดึงมันมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้ว่างันเถอะ”ผมมองมันด้วยสายตาอย่างรู้ทัน

   “ แล้วมึงจะทำไม อย่าบอกนะ ว่ามึงจะเหมือนไอ้ออยอีกคน พูดอยู่ได้ว่าไอ้โอ๊คมันไม่เกี่ยว”   มันออกอาการไม่พอใจขึ้นมาทันที

   “เห้ย ไอ้เมส กูเพื่อนมึง อย่างไงก็ต้องเข้าข้างมึงอยู่แล้ว ถึงกูจะรู้เถอะ ว่ามึงกับไอ้โอ๊คมีเรื่องเคืองๆค้างเก่ากันมาก่อน ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องผู้หญิงละวะ ไอ้โอ๊คแม่งหล่อน่ารักขนาดนั้น อย่างไงผู้หญิงเขาก็เลือกไอ้โอ๊คไม่เลือกมึง กูว่า”

   “ไอ้เหี้ยเจมส์ มึงว่ากูหรอ สัด”  มันมองผมอย่างเอาเรื่องแล้วตอนนี้

   “ใจเย็นไอ้เมส  กู ป่าวว่ามึง กูก็แค่พูดเรื่องจริง มึงจะรับได้หรือไม่ได้ กูไม่รู้ แต่กูอยากให้มึงรู้อีกอย่าง ที่จริงกูก็ไม่ได้ชอบหน้าไอ้โอ๊คมันเท่าไร รู้ไหม กูเกลียดคนที่ชอบแย่งของของคนอื่นไปหน้าตาเฉย”

   “อย่าบอกนะ ว่ามึงก็เคยโดนไอ้ห่ารากนั้นแย่งผู้หญิง เยสแม่ ไอ้โอ๊ค มึงเจอกูแน่ กูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ๆ วันศุกร์หน้าเลยมึงเดี่ยวนัดมาเจอกันเลย กูชักทนไม่ไหวแระ”   แล้วมันก็เปลี่ยนท่าที แววตาของมันดูโกธรแค้นมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่มันแค้นผมแน่ๆ

   “ประมาณนั้นวะเพื่อน วันนั้นถ้ากูไม่ได้เจอกับมันด้วยตัวกูเอง แต่เป็นมึง กูฝากมึงช่วยอัดมันแทนกูหน่อย เอาให้หนักเลยนะมึง”

   “ไอ้เจมส์ ถึงมึงไม่บอก กูก็จะทำเพื่อน กูสัญญา”   แววตาของมันมุ่งมั่นอย่างเห็นได้ชัด

     ช่วยไม่ได้นะไอ้โอ๊ค กูก็ไม่รู้หรอกว่ามึงเป็นใครมาจากไหน ถึงกูกับมึงจะไม่เคยมีความแค้นอะไรต่อกันมาก่อน แต่ว่าในวันนี้มึงดันเข้าแย่งของของสำคัญไปจากกู ถึงตัวกูอาจจะรู้ใจตัวเองช้าไปหน่อย ว่ากูรักพี่ออยเขาแค่ไหน อาจจะช้าไปแค่ก้าว ช้าไปในวันที่มึงก้าวเข้ามาในชีวิตพี่เขาแล้ว แต่ว่ามันก็ไม่สายเกินไป ที่กูจะเอาของของกูกลับคืนมา อย่ามาโทษว่าพวกกูโหดร้ายละกัน แต่เป็นตัวมึงที่แส่เดินเข้ามาหาเรื่องใส่ตัวเอง

       >>>>>>>>>>>>>>
ติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 01:12:16 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที่6)
«ตอบ #7 เมื่อ01-08-2016 00:10:57 »


โดย เจเจ..โอ๊ค  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง
 
 mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่เจ็ด>>>*ไอ้คนเอาแต่ใจ กับสะใภ้ เอ็มเอ็มซี*


   “นายเป็นใคร หลีกทางฉันได้ไหม จะขึ้นไปหาโอ๊ค”

   “ผมออยคับ เธอแนน แฟนโอ๊คใช่ปะ ดีใจที่ได้พบ เราอยากจะคุยกับเธอพอดี”
 
   “ค่ะ ใช่ แฟนโอ๊ค เป็นเพื่อนเขาหรอ ทำไมไม่เคยเห็น แต่ว่านายก็หน้าคุ้นๆนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่นึกไม่ออก แต่ว่าโอ๊คเขาอยู่ข้างบนในห้องใช่ไหม เรามาบ้านที่ไรไม่เคยได้เจอเขาเลย ไปโรงเรียนก็หลบเราตลอด ทำไมเราไม่เข้าใจ”

   “คืออย่างนี้ โอ๊คมันมีปัญหานิดหน่อย  เรื่องวันนั้นไง ที่รุมต่อยกัน เธอก็อยู่ที่นั้นใช่ไหมละ แค่กลับมาก่อน หลังจากวันนั้น มันก็กลัวว่าเธอโดนลูกหลงไปกับมัน มันเลยห่างๆเธอไง แต่แค่สักพักเท่านั้นละ ประมาณศุกร์หน้า ทุกอย่างก็โอเคร เรื่องมันกำลังจะจบลงแล้ว”

   “อย่างนี้เองหรอ โธ่เรื่องแค่นี้ก็ต้องหลบหน้ากันด้วย บอกกันดีๆก็ได้ ไอ้เราก็นึกว่าโอ๊คมีคนอื่น หรือ ก็คิดไปว่าเราทำอะไรผิดไปงันหรอ ทำไมโอ๊คต้องหลบเราด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ งัน นาย เออ ออยใช่ไหม ฝากบอกโอ๊คด้วยนะ เรารักโอ๊ค ไม่ว่าจะอย่างไง เราเข้าใจโอ๊คเสมอ เราพร้อมจะเคียงข้างเขา เราไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”

   “มันก็รู้ว่าเธอเป็นอย่างไง มันถึงหลบเธอตลอด เพราะห้ามเธอไปก็คงไม่มีประโยชน์ แต่ก็แค่ช่วงนี้เองนะ แค่ไม่กี่วัน ขอแค่เธอห่างๆเขาไว้ เธอทำได้หรือเปล่า รอมันหน่อยนะ มันให้บอกอย่างงี้ อย่างไงวันนี้เธอกลับไปก่อนนะ”

   “เอางันก็ได้ แต่หลังจากวันศุกร์หน้า เราจะไม่ยอมให้เป็นแบบนี้อีกต่อไป เรากับโอ๊คต้องได้เจอกัน ต้องได้คุยกันให้รู้เรื่อง เราไปละ บาย ”

   “บาย โชคดี”

   “โอ๊ค ได้ยินไหม เรารักโอ๊คนะ ไม่ว่าโอ๊คจะเป็นอย่างไง เราพร้อมจะอยู่เคียงข้างโอ๊คเสมอ”
         
        เธอตระโกนลั่นบ้านบอกผม แล้วเธอก็ไปกลับ ผมได้แต่แอบฟังอยู่หลังประตูห้องด้วยความทรมาน รู้สึกผิดต่อเธอจนไม่กล้าสู้หน้า ปล่อยให้ไอ้ออย ไปรับหน้าดักแฟนผมไว้ ไม่ให้เข้ามา ผมยังไม่พร้อมจะเจอกับเธอเท่าไรในเวลานี้ แต่ให้เวลาผมต่ออีกหน่อยนะแนน ไม่นานหรอก หลังจากเรื่องทุกอย่างจบลง ไอ้ออยจะไปจากชีวิตผมเอง แล้วผมจะกลับไปมีชีวิตที่ปกติอีกครั้ง กลับไปหาเธอ แนน รอโอ๊คหน่อยนะครับ

             >>>>>>>>>>

   “มึงจะกลับบ้านได้ยังวะ ”   ผมถามไอ้คนที่นอนสบายดูทีวีตรงโซฟายาว

   “ไม่กลับ ไม่รีบ”   แต่มันหาสนใจในคำถามของผมไม่ นอนดูทีวีต่ออย่างสบายใจ

   “นี้มันกี้โมงกี่ยามแล้ว มึงดูนาฬิกาสิ”

   “สามทุ่มเอง”
 
   “เชี้ยออย มึงเล่นมาขลุกอยู่แต่บ้านกูทุกวันเนี้ย คนอื่นเขาจะคิดอย่างไงวะ”

   “คิดว่า มึงกับกูเป็นเพื่อนกันไง ถามได้ หรือมึงอยากให้คิดเป็นอย่างอื่น” มันเงยหน้าขึ้นมามองผม ก่อนจะทำหน้ากวนๆตีคิ้วให้ผมที่หนึ่ง แล้วยิ้มที่มุมปาก

   “มึง”

         ผมหมดปัญญาจะไล่มันไปจริงๆคับ ไอ้ออยมันทั้งมึนทั้งดื้อ ก็เริ่มหลังจากคืนนั้นวันที่มันเอาตัวผมกลับจากป่าชายเลน แล้วยังบังคับผม ป้อนข้าวป้อนน้ำให้ผมอีก ผมก็ไม่รู้ว่า ผมยอมให้มันบังคับได้อย่างไง แม้แต่แม่ผมแท้ๆยังไม่เคยบังคับผมให้ทำนู้นทำนี้ได้ มันต้องเป็นเพราะไอ้หัวใจตัวเองนี้แระ ที่มันทรยศหักหลังร่างกายตัวเอง ไอ้หัวใจบ้าๆของผม มันเริ่มยอมทำตามที่ไอ้ออยสั่ง ตั้งแต่ที่ได้ยินคำที่มันบอกว่า “ถ้ากูไม่ได้ชอบเขาเลย ต่อ…กูก็ไม่เอา” คำแค่ไม่กี่คำ แค่ประโยคสั้นๆ แต่มันก็ทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์จนควบคุมตัวเองไม่ได้ จนไอ้ออยมันลากผมไปทำอะไรก็ได้ ตามแต่ใจของมัน ถึงขั้นโดนมันดึงเข้าไปจูบ ก็ยังไม่ขัดขืนเลยสักนิด แถม แถมยังจูบตอบกลับไปด้วย โอ้ยบ้าไปแระไอ้โอ๊ค มึงเป็นอะไรของมึง

   “โอ๊ค วันนี้ วันอะไรอะ” มันยิ้มหวาน ทำตาเจ้าเล่ห์ใส่ผมที่นั่งอยู่ข้างๆมัน

   “วันเสาร์ไง มีอะไร เห้ย มึงไม่ต้องเลยนะ”   ผมตอบมันไปโดยไม่ทันได้คิดอะไร แต่พอนึกอะไรได้ ผมรีบห้ามปฏิเสธทันที

   “รู้ทันอีก พรุ่งนี้วันหยุด กูนอนนี้นะ”

   “ไอ้ออย ไม่”

          มันพูดแค่นั้น ว่าแล้วมันก็วิ่งขึ้นไปบนห้องผมเฉย โดยไม่สนว่าผมจะพูดอะไรสักนิด แล้วถ้ามันนอนนี้ เท่ากับว่าคืนนี้  โอ้ย ไม่นะ  ผมรู้สึกเสียววาบขนลุกซู่ไปทั้งตัว ผมยังจำเหตุการณ์คืนนั้นได้ดี หลังจากที่มันดึงผมเข้าไปจูบ มันดูดที่ปากผมเบาๆแล้วจูบอย่างนุ่มนวล ผิดกับคืนแรกที่มันทำกับผมลิบลับ ด้วยรสจูบละมุนๆนั้นเล่นทำให้ผมเคลิ้ม จนเผลอจูบมันตอบกลับไป จนทำให้มันเกิดได้ใจ อุ้มผมขึ้นแล้วพาไปที่เตียงนุ่มๆ ก่อนมันจะบรรจงจดริมผีปากลงมาแลกจูบกับผมอย่างดูดดื่ม
         มันกอดผมเข้ามาจนร่างกายเราแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน เสื้อผ้าของผม ทั้งของมันถูกถอดออกไปตอนไหนผมก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป มันจูบผมแล้วจูบอีก ไม่รู้จักเบื่อ ไม่รู้จักพอ เนื้อตัวของมันร้อนผ่าวขึ้นมาทุกขณะ เมื่อมันเบียดกายเข้ามา ผมต้องผวากอดมันแน่นทุกครั้ง เมื่อโดนมันจับที่แปลกๆ แถมมันยังพยายามสอดแทรกตัวมันเข้าสู่ตัวผม จนในที่สุดมันก็ทำสำเร็จ มันเข้ามาภายในตัวผมจนได้ ที่นี้ก็เท่ากับมันได้ตีตราเครื่องหมาย ว่าผมเป็นของมันโดยสมบูรณ์แล้วเป็นครั้งที่สอง
           ทำไมนะจากคืนแรกจนถึงคืนที่สอง ทุกๆสัมผัสจากมันทำให้ผมรู้สึกดีตลอด กอดอุ่นๆจูบละมุนๆของมันทำให้ผมมีความสุขอย่างล้นหลาม อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนผมอยากกอดมันไว้นานๆไม่อยากให้มัน จากไปไหน
         แต่วันแรกที่ผมโดนมันกอด ผมสับสนกับความรู้สึกของตัวเองจนมองหาทางไปไม่ถูก เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาของอีกวัน ผมกับมันนอนกอดกันกลมราวกับผัวเมีย ผมลุกขึ้นนั่งมองหน้าผู้ชายที่นอนหลับอยู่ข้างๆ ด้วยคำถามมากมาย รู้สึกเจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ กลัวว่าอะไรๆมันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นนะ ถ้ามันตื่นขึ้นมาแล้ว หัวเราะเยาะผม มันคงสะใจ ดีใจ ที่ได้แก้แค้น แถมยำยีศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายของผมจนหนำใจ ทั่งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด ทุกอย่างมันแค่เรื่องเข้าใจผิด ที่ผมยังไม่มีโอกาสได้แก้ต่างให้ตัวเองก็เท่านั้น แต่ทำไมไอ้ออยมันต้องเอามาลงที่ตัวผมจนหมด ในตอนนี้ผมควรเกลียดมัน โกธรมัน แต่เปล่าเลย ความรู้สึกดีๆแบบนี้มันคืออะไร
          ความรู้สึกกับความเป็นจริงมันมักสวนทางกันตลอด ผมจะมีความรู้สึกดีๆกับผู้ชายด้วยกันเองได้อย่างไง มึงไม่ปกติแล้วโอ๊ค ผมรู้สึกโมโหตัวเองจนแทบบ้า ยิ่งมองหน้าไอ้ออย ยิ่งอยากให้มันกอดอีกครั้งเหมือนเมื่อคืน   อยากให้มันลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วโผเข้ามากอดผมไว้ในอ้อมแขน แล้วบอกว่าขอโทษ ที่ทำลงไปทั้งหมดเมื่อคืน ไม่ใช่เพราะเกลียด แต่เพราะมัน ชอบผม
       จากนั้นผมไม่ปล่อยให้ตัวเองนั่งคิดอะไรบ้าๆอีกต่อไป รีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัวรีบออกจากบ้านไปโรงเรียน แม้จะยังเจ็บที่หลังก็ไม่สน ผมต้องรีบไปก่อนที่มันจะตื่นขึ้นมาเจอ
        เช้าจนบ่ายผมเรียนไม่รู้เรื่อง อยากกลับบ้านอย่างเดียว แต่พอออกจากโรงเรียน กลับมาเจอมันดักรออยู่ แม้จะไล่มันไป มันกลับไม่สน มันขี่รถตามมาตลอด พูดนั้นพูดนี้ไม่หยุด แต่ผมไม่เคยจะสนใจฟัง มันพยายามแล้วพยายามอีก ทุกๆวันหลังจากวันนั้น มันจะตามมารับมาส่งผม เช้าเย็น ทำแบบนี้เหมือนเดิมซ้ำๆโดยไม่ย่อท้อ จนในที่สุดผมก็ใจอ่อน ยอมให้มันอีกจนได้
 
  “นั่งเหม่ออะไร”    มันเดินออกมาจากห้องน้ำ กับผ้าเช็ดตัวพันที่เอว เดินเข้ามาสะกิดผม

   “เปล่า”

   “เปล่า ก็ไปอาบน้ำสิ รออะไร”

   “อ้าว เรื่องของกู มึงชักจะเยอะละ ออย”   ผมมองหน้ามัน ก่อนจะทำหน้างอนให้มันนิดๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดเมื่อมีคนมาจู้จี้นี้น่า

   “เห้ย อาบน้ำล้างให้เลี่ยมๆแล้วทาแป้งหอมๆนะจะได้…ได้”   แต่มันกลับก้มหน้าลงกระซิบที่ข้างหู แล้วพูดชวนให้อามรณ์โมโหผมเดือดขึ้น

   “ได้อะไร หึ เชี้ยออย  มึงสัญญากับกู ไว้ว่าไง”   ผมลุกขึ้น ถอยห่างออกจากมัน แล้วชี้หน้าว่ามัน

    “สัญญาอะไรกูจำไม่ได้ แหมแค่จะบอกว่า จะได้เย็นชื่นใจไง คิดอะไร โห”แต่มันกลับทำเป็นไม่รู้ชี้ พูดจากวนประสาทผมเสร็จ แล้วเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง

          มันสัญญากับผมไว้ครับว่า จะไม่จู่โจมผมแบบไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัวอีก หรือถ้าผมไม่ยินยอมพร้อมใจโดยเด็ดขาด แลกกับการให้มันเข้าออกบ้านผมได้ตลอดเท่าที่มันต้องการ และมันก็ไม่ยอมให้ผมขี่รถไปโรงเรียนเอง มันจะคอยมารับมาส่งผมตลอดทุกวัน มันขอดูแลผมไปจนกว่าเรื่องบาดหมางระหว่างสองแก็งค์จะจบลง ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของเรา ผมให้มันได้แค่ในสภานะเพื่อน ส่วนที่ผ่านมาทั้งสองครั้งที่มันกอดผม ให้มันแล้วก็แล้วไป ผมจะไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่ขออย่าให้มันเกิดขึ้นอีก เท่านั้นพอ แต่พูดไปก็เท่านั้น ผมไม่เห็นว่ามันจะสนใจสัญยงสัญญาที่ว่านั้นเลยสักนิด

    “อยากดู ขุนพันธ์ ไปดูมั้ย”

   “อะไรของมึงอีกออย”

   “พรุ่งนี้ไปดูหนังกัน”

   “มึงเลี้ยงดิ”

   “เออ ขอแค่โอ๊คไป เลี้ยงได้อยู่แล้ว”

         ทันทีที่ผมออกจากห้องน้ำ มันมาอารมณ์ไหนชวนไปดูหนัง ผมก็ดันรับปากไปง่ายๆ เห้ย หรือว่ามันชวนออกเดท เอาแล้ว กูไม่ทันคิดอะไรเลย  ว่าแล้วไอ้สัต ดูมันนอนส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ใช้มือตบที่นอนข้างๆแบบจะบอกให้ผมไปนอนลงข้างๆมัน ผมทำเป็นมองไม่เห็น แล้วเดินไปโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบไดร์มาเป่าผม ทำไม่รู้ไม่ชี้

   “กูช่วย”

         มันลุกขึ้นเดินมาคว้าแย่งไดร์ไปมือจากผม แล้วจัดการเป่าทำผมให้ผมเอง โดยที่ผมยังไม่บอกอนุญาต สักคำ และที่สำคัญมันยังจงใจเอาบางอย่างแข็งๆ มาทิ่มที่หลังผมเข้าอย่างจัง แล้วก็ไม่เอาออก ถูไปถูมาอยู่อย่างนั้น  สัต ไม่นุ่งกางเกงในอีกแล้ว เสื้อก็ไม่ใส่ เบ๊อกเซอร์ตัวเดียวตามเคย

   “ไอ้ออยครับ”

   “ค้าบ”

   “ถอย”

   “หุ้ย กูไม่ได้ตั่งใจ โทดที”

    “ตลอด”

          มันเป็นแบบนี้ตลอดหลายวันที่อยู่ด้วยกัน แม้มันจะไม่ล่วงเกินล่วงล้ำผมตามสัญญา แต่มันกลับชอบทำอะไรแปลกๆตลอด อย่างเช่น อาบน้ำแก้ผ้าหมดไม่ปิดประตูห้องน้ำ ใส่กางเกงในตัวเดียวเดินไปเดินมาในห้อง หรือใส่กางเกงเบ๊อกเซอร์ตัวเดียวตัวใหญ่ๆไม่ใส่กางเกงใน แล้วก็ชอบนั่งชันเข่า เปิดขากางเกงกว้าง ให้มองลอดเข้าไปเห็นอะไรต่อมิอะไร ตรงระหว่างขาได้หมด พอผมบ่น มันก็ว่าผู้ชายด้วยกันจะทำไม ปกติเขากับเพื่อนก็แบบนี้ตลอด โอ๊คคิดมากไปเอง
   
    “ดึกแล้วมานอนเร็ว พรุ่งนี้รับปากแล้วนะไปดูหนัง”

   “เออ”

           ผมเดินไปนั่งลงแล้วนอนลงข้างๆมัน มันรีบขยับตัวเข้ามาเบียดผมทันที เตียงเดี่ยวนอนคนเดียวของผม แม้มันจะกว้างพอสำหรับเราสองคน ให้นอนสบายไม่ต้องเบียดกัน แต่มันก็ชอบที่จะนอนกอดผมทั้งคืน ผมก็ยอมให้มันกอดนะแต่ห้ามล้วง แต่ว่าวันนี้ไอ้ออยมันมีอาการแปลกๆ มันนอนดิ้นไปดิ้นมา แล้วนอนตะแคงข้างหันมาทางผม แล้วเรียกชื่อที่ข้างหูเบาๆ

    “โอ๊ค”

    “อะไร ไหนบอกว่าให้นอนเร็วๆ”   ผมพูดกับมัน ขณะหลับตาอยู่ พยายามไม่สนใจมัน
   
    “แฟนมึงเขาก็น่ารักดีนะ นิสัยดีปะมึง”

    “ดีมาก ดีจน จนกูทิ้งเขาไม่ได้”

    “หรอ งันถ้ากูจะบอกว่า ในเมื่อกูมาที่หลัง กูยอมเสียสละให้เขาเป็นเอก กูเป็นรองได้มะ”

    “ไม่เอา อะไรของมึง บ้าไปแล้วไง”

    “น่า นะ ให้กูเป็นผัว ส่วนเขาเป็นเมียมึงไง แบบนี้ ลงตัว”

    “เหอะ คิดได้นะมึง”

    “ก็กูไม่อยาก จาก มึงไปไหนเลยวะ กูอยากอยู่กับมึงแบบนี้ไปนานๆ อยากกอดมึงไว้แบบนี้ทุกคืน อยากตื่นมาเห็นหน้ามึงเป็นคนแรก อยากคอยไปรับไปส่งตอนมึงไปโรงเรียน  นี้ มึงรู้ไหม กูอยู่กับมึงแล้ว กูมีความสุขที่สุด อีกอย่าง กูคิดว่า กูชอบมึงวะ”

      เอาอีกแล้ว ไอ้เชี้ยออยมาลูกไม้แบบนี้กับผมอีกแล้ว ให้ตายเถอะ ปกติเวลาอยู่กับคนอื่น แม่งพูดน้อยสิหาย แทบจะง้างปากด้วยเหล็กชะแลง หน้านิ่ง เคร่งขรึม แต่พอแม่งเข้าห้องมาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ทั้งพูดมาก เยอะสารพัดคำหวาน ยิ้มให้ผมจนแก้มมันแทบปริ
 
    “เพ้ออะไรอีก”   ผมลืมตาขึ้น แล้วหันตัวไปมองมันที่ยื่นหน้าเข้ามาไกล้ จนปลายจมูกของมันจะชนเข้ากับแก้มของผมอยู่แล้ว
 
    “หลังจากวันศุกร์หน้า ถ้าจบเรื่องทุกอย่างแล้ว ไปเอ็มเอ็มซีนะ”

    “ไปทำไม”   ผมถามด้วยความสงสัย

    “ไปให้พี่นะกับพี่คนอื่นๆ ดูตัวว่าที่สะใภ้ เอ็มเอ็มซี ของออยไง”

           ว่าแล้วมันก็โน้มตัวลงมาจูบผม คนอะไรพูดเองเออเองหมด แล้วยังเอาปากตัวเองมาอุดปากคนอื่นไว้แบบนี้ จะให้เขาพูดปฏิเสธตัวเองได้อย่างไง ไอ้ตัวผมมันก็พวกบ้าคำหวาน มันพูดไม่กี่คำก็ยอมให้มันแล้ว ใจง่ายตลอด มันดึงผ้าห่มผมออก แล้วกอดผมดึงเข้าไปหาตัวมัน ผมจึงกอดคอมันไว้แน่น ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปจูบมันเอง ดูสิปากของมึงจะหวานเท่าคำพูดของมึงไหม  ไอ้ออย
                        ……………………………………………
ติดตามต่อไปคับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 01:13:56 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที่ึ7)
«ตอบ #8 เมื่อ01-08-2016 02:24:15 »


โดย เอ็มเอ็มซี..ออย  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

 mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่แปด>>>เพราะผู้หญิงของนาย เธอแสนดี
 
   “โอ๊ค เป็นไงวะหนัง นุ๊กปะ” ผมถามคนที่นั่งอยู่ข้าง ด้วยความห่วงใย 

   “อืม โคตรรวะ”   มันพูดเสร็จ ก็ยิ้มหวานให้ผม จนแก้มแทบปริ

   “ดีแล้ว กูนึกว่า มึง จะเบื่อ ไม่ชอบไร งี้ไง”   ผมถอนหายใจ รู้สึกโล่งใจ ที่มันชอบ

   “อ้าว เชี้ย คิดอะไรอย่างนั้นวา”   มันมองหน้ามองด้วยความสงสัย

   “มึงรู้ปะ กูเคยพาแฟนมาดูหนังประจำแระ ปกติก็ตามใจเขาตลอด แต่พอกูเลือกหนังที่กูอยากดูม้าง แต่มันไม่ชอบวะ”

   “แล้ว”

   “มันงอนหนีกูกลับบ้านเฉย อะไรของเขา กูก็ไม่เข้าใจ กูทำอะไรแม่งก็ไม่พอใจ ทำดีแค่ไหนมันก็บอกไม่ชอบ ต้องตามใจเขาตลอด พอกูขัดใจนิดๆหน่อยๆ แม่งก็พาลแต่จะทะเลาะ จนสุดท้ายก็เลิกกันเพราะต่างก็ทนกันไม่ไหว”   

 “ฮาๆๆๆ เหย มึงเป็นคนคิดมากวะ กูก็เหมือนมึงแระ เจอเหมือนกัน มึงรู้อะไรไหม ถ้ากูมากับแฟนกูจริงๆอะ มึงคิดว่า กูจะได้ดูมะขุนพันธ์ นู้นแม่งลากกูไปดูหนังปลาฉลาม หรือไม่ก็หนังยักษ์การ์ตูนอะไรพวกนั้น ละวะ”   พอผมพูดเสร็จแล้ว มันก็หัวเราะเยาะผมออกมาเบาๆ ก่อนจะเล่าเรื่องของแฟนมันให้ฟังบ้าง ซึ้งก็ไม่ต่างกับผมนัก   

   “สัด จิงดิ วะ”

   “เอ่อจริง ทีนี้ก็ แดกไป ข้าวอะ สั่งมาดูไง”   มันมองผมตาแป่ว แถมส่ายหัวใส่ผมอีก

           หลังจากที่เราดูหนังเสร็จก็ออกมาหาอะไรกินกัน น่าจะชั้นสามม้างของเซ็นทรัล ผมเลือกร้านโอโตยะ สั่งอาหารชุดง่ายๆมากินกัน มันก็ตามใจผมทุกอย่าง อะไรก็ได้หมด จนผมอดแปลกใจไม่ได้ ดูมันเป็นคนง่ายๆไม่เรื่องมาก ผิดกับแฟนผู้หญิงทุกคนที่ผ่านๆมาของผมลิบลับ

   “คิดอะไรวะ ออย”

   “เปล่า”

   “ขอกุ้งมึงนะ กูชอบ ถ้ามึงไม่กิน”   มันชี้ตะเกียบมาที่จานของผม ก่อนจะยิ้มหวานชวนให้อ้อนนัก

   “เอาดิวา สำหรับมึงกูให้ได้หมดแระ ถ้ามึงต้องการ แล้วอยากกินของหวานต่อเลยไหม ปะกินเสร็จนี้จะได้กลับบ้านเลย”

   “ของหวานเชี้ยอะไรที่บ้าน ไม่มี”   มันทำหน้างงๆ 

   “มีดิ มึงนึกดีๆ แฮะๆ”

   “ค_ย ไม่มีหรอก แม่กูไม่ได้ชื้อขนมอะไรมา”   มันเริ่มหงุดหงิด เมื่อคิดเท่าไร มันก็คิดไม่ออก

   “โธ่ ก็กูไง ของหวาน”

   “เชี้ยออย พอเลย สัต เมื่อคืน มึงเล่นกูตั้งหลายรอบ ยังไม่พอใจอีกรึไง มึงนะมึง เดียวกูต้องเอามึงคืนแน่สักวัน”   ว่าแล้วมันต้องด่าผม คนอะไรขนาดด่ายังน่ารัก จนผมอดที่จะยั่วมันต่ออีกไม่ได้

   “เอาดิวะ วันนี้เลยเป็นไง ไม่ต้องรอ สุดหล่อคนนี้ พร้อมสำหรับโอ๊คเสมอ เพียงโอ๊คต้องการ” 

   “ถุย จะอ้วก ก็เสียดายข้าวที่กินไปวะมึง หลงตัวเองมากไปปะ หล่อไม่มีใครแลหรอกอย่างมึง”

   “หรอ รา แล้วใครกันน่า ในโรงหนังเมื่อกี้ นั่งเบียดกูจัง แม่เกือบจะขึ้นมานั่งบนตักกูอยู่ละ แถมยังจับมือกูแน่นไว้ตลอด”

   “สัต กูหนาวเถอะ แอร์โคตรแรง”

     มันพูดแล้วทำเขิน อาย ก้มหน้ากินกุ้งที่มันคีบไปจากถ้วยผมเฉย ไม่ยอมเงยหน้ามามองผมที่นั่งอยู่ข้างๆมันสักนิด แต่แล้วมันกลับเอื้อมมือมันมาจับที่มือผมที่อยู่ใต้โต๊ะ บีบเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นยิ้มน่ารักๆให้ทีหนึ่ง แล้วจึงหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ อะไรของมันวะ ดูมันสิ ทั้งน่ารัก ทั้งใสชื่อ บริสุทธิ์  วันนี้มันยิ้มให้ผมได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าที่ตื่นขึ้นมาเจอหน้ามัน จนถึงเวลานี้ ผมรู้สึกว่า มันทำอะไรก็ดีไปหมด น่ารักน่ามอง จนบางครั้ง รู้สึกแทบอยากกระโดดเข้าไปฟัดมันอยู่ตรงนั้น ตอนนั้นเลย ถ้าทำได้   ห่า ไอ้ออย เหี้ยละมึง เอาผู้ชายมาทำเมียยังไม่พอ มึงยังมองผู้ชายด้วยกัน แล้วบอกว่ามันน่ารัก น่า….อีก บ้าหนักแหละมึง

                     >>>>>>>>>>>>>>>>

   “โอ๊ค”

   “โห้ย แนน มาได้ไง”   เราทั้งคู่ตกใจมาก เมื่อคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ กลับมายืนปรากฏตรงหน้า

   “แนน น่าจะถามโอ๊คมากกว่า”  เธอมองเราสองคน ด้วยความสงสัย

   “เราชวนโอ๊ค มัน มาดูหนังเป็นเพื่อนเองแหละ” ผมรีบชิงตอบแทนไอ้โอ๊คทันที เมื่อเห็นมันนั่งหน้าซีดอยู่ ไม่พูดจา

   “หวัดดีคะ ออยใช่ไหม คนเมื่อวาน”   เธอยิ้มให้ผม อย่างเป็นมิตร ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเดียวกัน ฝั่งตรงข้ามกับพวกผม

   “ใช่ๆ”

          ขณะกำลังเพลินกับการกินอาหารเที่ยง คุยกวนทีนไอ้โอ๊คมันไปด้วย จะบอกว่าเที่ยงก็ไม่ใช่ นี้มันบ่ายกว่าแล้ว จู่ๆแฟนไอ้โอ๊คก็ปรากฏตัวขึ้น ทั้งโอ๊คทั้งผมตกใจมาก แต่หนักสุดเป็นไอ้โอ๊ค มันตกใจ นั่งนิ่ง จนผมต้องเอื้อมมือไปแตะมือที่เย็นเฉียบของมัน ก่อนจะกุมไว้ ผมบีบมือมันเบาๆ จนมันบีบกลับ แสดงว่าไหว ผมส่งยิ้มให้มัน ปากบอกสู้ๆ มันพยักหน้าให้

   “แนน คือ โอ๊ค”

   “โห แล้วก็ไม่ชวน รู้ไหมแนนก็อยากดูหนังเหมือนกัน ติดแต่โอ๊คบอกว่าให้เราห่างกัน แนนจึงไม่ได้ชวนโอ๊คมา”   สาวสวยตรงหน้าผมสองคน เธอไม่สนว่าไอ้โอ๊คมันจะพูดอะไร แต่เธอกลับเป็นฝ่ายพูดก่อนพร้อมกับก้มหน้าคว้านหาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือ
   
   “แนนมาคนเดียวหรอ”

   “เปล่า แนนมากับแพท นางไปเข้าห้องน้ำอยู่”

   “แนน ไม่โกธรโอ๊คหรอ”   ไอ้โอ๊คพูดเสียงอ่อย เหมือนคนกลัวอะไรบางอย่าง

   “โกธรอะไร บ้า แฟนฉันกลายเป็นคนคิดมากตั่งแต่เมื่อไรยะ แนนบอกโอ๊คแล้วนะ ไม่ว่าอย่างไง แนนเข้าใจโอ๊คเสมอ สู้ๆ”   เธอยิ้มให้ไอ้โอ๊ค พร้อมกับชูสองนิ้วให้มัน

   “ฮาๆๆ”   เล่นเอาพวกเราสามคน หัวเราะออกมาพร้อมกัน

   “ว่าแต่ดูหนังไปยัง หรือพึ่งมาเหมือนกัน”

   “ดูแล้ว”

   “เรื่องไร”

   “ขุนพันธ์”

   “หรอ พอดีเลย งันก็หมายความว่าว่าโอ๊คกับออยยังไม่ได้ดู shallows นรกน้ำตื้น กันใช่ไหม เอางี้แนนว่า พวกเราหมดนี้ ไปดูหนังอีกรอบ แล้วค่อยกลับพร้อมกันนะ นะ”   ท่าทางเธอดีใจมาก มองพวกเราด้วยสายตาเจ้าเล่ห์หน่อยๆ แล้วยิ้มอย่างสบายใจ

   “ไม่ดีม้าง แนน ออยเขาจะกลับแล้ว”   มีแต่ไอ้โอ๊คที่ยัง ทำหน้าเครียดๆ

   “นา น่า โอ๊ค ถือว่าชดเชยหลายวันที่ทิ้งให้แนนอยู่คนเดียว เครปะ ไม่งั้นแนนจะโกธรจริงๆด้วย”   สาวสวยออกลูกอ้อน น่ารักจริงๆผู้หญิงคนนี้

   “ไปดิ โอ๊ค ไหนๆก็มากันแล้ว ดูอีกเรื่องจะเป็นไร  ใช่ไหม แนน”

   “เย้ ออยน่ารักที่สุดเลย หล่อแล้วยังใจดีด้วยนะเนี้ย แปบนะ เดี่ยวโทรหาแพทก่อน ให้มันแวะชื้อตั๋วเพิ่ม”   ว่าแล้วเธอก็กดโทรศัพท์หาเพื่อนทันที

   “เชี้ยไร ของมึงออย” ,  มันเอียงตัวมากระชิบ

   “เออ น่า มึงจะหลบเขาไปถึงเมื่อไร” ผมกระซิบตอบมันให้สู้

   “เรียบร้อยแล้ว ที่นี้เราก็แค่รอเวลาหนังฉาย เอ่อ เพื่อนโอ๊คหล่อเนอะ มีแฟนยัง”   เธอจ้องเขม็งมาที่ผม ยิ้มกว้างให้ ระหว่างรอคำตอบ

   “มีแล้ว มีแล้วมั้งคับ”   ผมได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ พูดได้ไม่เต็มปากนัก

   “อะไร พูดแปลกๆ มีหรือยังไม่มี เอาดีๆ”

   “คือมีคุยๆอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าเขา จะรับผมเป็นแฟนหรือยัง มึงว่าไงวะโอ๊ค เขาจะนับกูเป็นแฟนเขามะ”   ผมหันไปถามคนนั่งอยู่ข้างๆ หวังเล็กๆในใจอยากได้คำตอบที่ฟังแล้วมันชื่นหัวใจขึ้นมา

   “กูไม่รุวะ”   มันพูดแล้วหันหน้าไปทางอื่น ไม่ยอมมองมาที่ผม อะไรกันนะ คำตอบที่ได้รับ แบบนี้มันอะไรกัน ผมรู้สึกผิดหวัง จนอยากจะลุกขึ้น หนีไปจากตรงนั้น บ้าแล้วออย ใจเย็น

   “เออ หรอ ถ้ามีผู้ชายอย่างออยเนี้ยมาจีบ แล้วเขาคนนั้นไม่รับออยมาเป็นแฟน เขาคนนั้นก็โง่สุดๆแล้วละคะ หุยว่าแต่ เสียดายจัง อา”

   “เสียดาย เสียดายอะไร”   ผมกับไอ้โอ๊คพูดขึ้นมาพร้อมกัน

   “เสียดายสิ แนน ว่าจะจับออยจิ้นกับโอ๊คซะหน่อย ฮาๆ”   เธอพูดแล้วก็หัวเราะชอบใจ

   “อ้าว แนนพูดไรเงี้ย บ้าแระ ฮาๆ” ผมฟังแล้วอด ที่จะหัวเราะตามเธอไม่ได้

   “จริงๆ เชื่อมะ ตอนที่แนนเดินผ่านมา เห็นพวกนายสองคน นั่งกินข้าวกะหนุงกะหนิงกัน อย่างกะคนเป็นแฟนกันจริงๆ น่ารักดีออก”

   “เห้ย ไม่ใช่อย่างนั้นนะ แนน แนนก็ว่าไป”   ไอ้โอ๊คทำหน้าเครียดเข้าไปอีก มันไม่ได้ตลกตามมุกที่แนนเขาเล่น เลยสักนิด

   “เห้ย โอ๊คถ้านายจะเป็นก็ได้นะ แนนจะได้มีเพื่อนสาวเพิ่มอีกคนไง แนนไม่ว่าหรอก”   แต่เธอก็ยังไม่สนใจที่จะหยุด ยังคงยิงมุกตลกเพิ่มเข้าอีก

   “ไม่เอา แนนชอบพูดแบบนี้อีกแระ โอ๊คไม่ตลกนะ”   ไอ้โอ๊คหน้างอไปแล้ว ทำงอนตุบป่อง

   “โธ่ แนนก็ล้อเล่นหรอกค่ะ ผู้ชายคนนี้ แนนรักของแนนนะคะ ไม่ยกให้ใครง่ายๆหรอก แค่แนนเป็นสาววายนิดๆ ชอบดูผู้ชายเขาเป็นคู่จิ้นกัน ผู้ชายกับผู้ชายมันน่ารักดี อย่างเงี้ย แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า ถ้าโอ๊คเป็นจริงๆแนนก็รับไม่ไหวหรอกค่ะ แนนไม่ยอม ฮาๆ”

         ผมตกใจในคำพูดที่เล่นที่จริง ของผู้หญิงตรงหน้ามาก เธอน่ารักสดใส ร่าเริง อยากพูดอะไรก็พูด เหมือนคนเอาแต่ใจตัวเองหน่อยๆ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น แต่เธอก็ดูจริงใจ ไม่มีแอบแฝง  แต่มุกตลกของแนน ก็เล่นเอาผมสองคนอึ้งไปเหมือนกัน เกือบไปไม่ถูก ดีที่เธอหักมุกไว ไม่งันมีหวังความแตก แต่ทว่าคำว่า แนนรักของแนน เธอดูจริงจังมาก มากแบบที่เธอ คงจะไม่ยอมปล่อยให้ไอ้โอ๊คไปไหนง่ายๆจากชีวิตเธออย่างเด็ดขาด และผมคงเลวมากถ้าแย่งโอ๊คไปจากเธอ

            >>>>>>>>>>

       แล้วก็ไกล้จะถึงเวลาหนังฉาย เราพากันขึ้นไปชั้น4 คนที่รออยู่หน้าโรงหนัง เป็นแพทแฟนแบงค์เพื่อนผมเอง ว่าแล้วมันตะขิดตะขวงใจกับชื่อนี้จัง เราทักทายกันนิดหน่อย เธอทำหน้าแปลกใจนิดๆ ที่ผมมากับไอ้โอ๊คได้ แต่แพทเธอก็ไม่ได้ชักถามอะไร พอตอนไกล้จะเข้าโรง แนนกับแพทสองสาว พวกเธออาสาไปชื้อน้ำกับขนม ตุนไว้เผื่อหิว แนนเธอถามผมกับโอ๊คอย่างเอาใจใส่ อยากทานขนมอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า

   “ออย มึงไม่ต้องฝืนใจ ทำเพื่อกูหรอกนะ ถ้ามึงไม่อยากไป มึงกลับก่อนก็ได้”อยู่ๆไอ้โอ๊คมันก็พูดเรื่องอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เมื่อเราอยู่ลำพังเพียงสองคน

   “ใครบอก กูเต็มใจ”

   “แน่ใจหรอ แล้วทำไม ออยคนเมื่อเช้าหายไปไหนแล้วละ”

   “อย่างไง กูก็เหมือนเดิม”   มันพูดชวนให้ผมงงไปกว่าเดิม

    “ไม่หรอก  มึงคนเดิมที่กูรู้จักตลอดหลายวันที่ผ่านมาเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปเมื่อกี้นี้ ตอนที่แนนแฟนกูเดินเข้ามา อยู่ๆเขาก็หายไป  มึงรู้ไหม เขาคนนั้นเหมือนมึงทุกอย่าง ยกเว้น ในแววตาเขาคนนั้นจะมีกูอยู่ข้างในนั้นเสมอ ทุกครั้งที่กูมองไปที่เขา จะพบว่าเขาคอยมองกูอยู่ตลอดเวลา ในสายตาของเขาคู่นั้นมีแต่กู มึงรู้ไหมออย จากแววตาของเขาคนนั้น มันทำให้กูรู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัย แล้วก็มีความสุข   แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เขาคนที่อยู่ข้างๆกูคนนี้ เขาเอาแต่มองไปที่อื่น เหม่อ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ หลบตาตลอด เหมือนกลัวว่ากูจะเห็นว่า ไม่มีกูอยู่ในสายตาคู่นั้นแล้ว ”   มันพูดเสร็จแล้วก็หันหลังให้ผม เหมือนมันกำลังสะอื้นเล็กน้อยๆ อะไรของมันวะ มันคิดมากขนาดนี้เลยหรอวะ

   “มึงคิดมาก”

   “ไม่หรอก กูคิดถูกแล้ว มึงเองต่างหากที่มองไม่เห็น ว่าตัวเองเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่กูว่านะ เป็นอย่างนี้ก็ดีละ ถึงเวลานั้น กูจะได้ลืมมึงง่ายๆ โดยไม่ต้องคิดอะไร”

   “โอ๊ค”

   “แฟนกูมาแล้ว ไปเถอะ”   แล้วมันก็เดินนำหน้าผมไปสมทบกับพวกแนน ทิ้งแต่คำพูดของมัน ให้ผมเก็บเอามาคิด

       มันก็พูดถูก ความคิดกับความรู้สึกผมเปลี่ยนไปจริงๆ เพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าผม คือ แฟนไอ้โอ๊ค เธอดีและคู่ควรกับมันทุกอย่าง เธอทำให้มันยิ้มได้ หัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่แพ้ผมสักนิด ไม่สิ มากกว่าผมเสียอีก ถึงจะถูก
       และในสายตาของไอ้โอ๊คมันก็มีแต่เธอไม่ใช่ผม ใช่ ไม่ใช่แค่ผมหรอกที่เปลี่ยน มันเองก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน ตั้งแต่ที่เธอเดินเข้ามา ความสุขและรอยยิ้มของมันก็ถูกส่งไปให้แต่แนนคนเดียว
        ผมไม่ควรหวังอะไรเลยตั้งแต่แรก ระหว่างผมกับมัน ก็แค่คนที่บังเอิญเดินผ่านเข้ามาในชีวิตของกันและกัน ในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น แล้วก็ควรเดินผ่านเลยไป ไม่น่าจะปล่อยให้ยืดเยื้อมาจนถึงขนาดนี้
         หากจะนับจากวินาทีนั้น ตั้งแต่ที่แนน ปรากฏตัวขึ้น ผมเริ่มลังเล และผมยอมรับตรงๆ ว่าผมกลัว กลัวว่าผมจะสู้เธอไม่ได้ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆที่เราได้อยู่ด้วยกัน เธอเป็นคนน่ารัก มีเสน่ห์ จนทำให้ผม อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวไปกับตัวเธอ จนเผลอแอบมองแนนบ่อยๆ เพราะแบบนี้หรือเปล่า ไอ้โอ๊คมันเลยว่าผม เปลี่ยนไป
       ออย นายไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วละ ยอมแพ้เสียแต่ตอนนี้ ก็ไม่สาย ถอนตัวดีกว่า สู้ไปก็ไม่มีทางชนะ แล้วเจ็บคนเดียวเปล่าๆ

    >>>>>>>>>>>>>

ติดตามตอนต่อไปคับ ชอบก็บอกกันด้วยนะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 01:16:15 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที8) 1/8/2016
«ตอบ #9 เมื่อ02-08-2016 00:53:44 »


โดย เจเจ..โอ๊ค  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

 
mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่เก้า>>>คิดถึง…ความจริงที่ต้องการ..จะบอก 

 

        -จะไม่รีบ เพราะเลือก ที่จะรอ..

 

         สเตตัสเฟสบุ๊คของไอ้ออยถูกโพสขึ้น ก่อนวันที่พวกผมสองคนจะมาดูหนังด้วยกัน แล้วหลังจากวันนั้นมันก็เงียบหายไปเลย ทั่งเฟสทั่งคน ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไรนัก ว่ามันโกธรผมเรื่องอะไร แต่ในโรงหนังวันนั้น หนังฉายไปได้ไม่ถึงครึ่งเรื่อง มันก็หนุนหันพลันแล่นลุกออกไป โดยไม่ได้บอกกล่าวอะไรสักคำ ทิ้งไว้แต่ความงุนงงและข้อสงสัยไว้ให้ผมกับแนน ผมก็ได้แต่เฝ้ารอ ว่ามันจะส่งข่าวอะไรกลับมาบ้าง แต่นี้ก็หลายวันผ่านไปแล้ว มันก็ยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม ข้อความที่ส่งไป ก็ไม่ตอบกลับ โทรหาก็ไม่รับสาย

           แม้หลายวันที่ผ่านมาสำหรับผม จะมีแนนกลับเข้ามาในชีวิตตามปกติ แต่ชีวิตผมกลับไม่เป็นปกติ ดังที่ผ่านมา ถึงผมจะพาแฟนไปเทียว ไปกินข้าว กลับไปเล่นกับเพื่อนๆที่ซุ้มเจเจ ใช้ชีวิตเสเพตามเดิม แต่ที่ยังไม่เหมือนเดิมคือ ผมลืมไอ้ออยมันไม่ได้สักที ทำไม่วะโอ๊ค  มึงควรจะลืมไอ้ออยไปได้แล้ว คนที่มึงรู้จักกันเพียงแค่ไม่กี่วัน มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรต่อชีวิตมึงสักหน่อย แต่ทำไมมึงต้องคอยเฝ้ามองหน้าจอโทรศัพท์ รอให้มันโทรมา แล้วชะเง้อคอมองที่หน้าบ้านบ่อยๆเอียงหูฟังเสียงรถ ว่าเมื่อไรมันจะขี่มาจอดหน้าบ้าน ตื่นแต่เช้าแต่งตัวมายืนคอยให้มันมารับที่หน้าบ้าน แล้วเฝ้ารอมันให้มารับหลังเลิกเรียน อะไรของมึงโอ๊ค มันไม่มีอีกแล้วแบบนั้น มึงเลิกคิด เลิกหวังได้แล้ว มึงควรลืมทุกอย่างที่ผ่านมากับไอ้ออย แล้วมีชีวิตอยู่เพื่อแนนซะ

   >>>>>>>>>>>>>>>>

 
 "กูเคลียร์เรื่องทุกอย่างให้แล้วนะ มึงสบายใจได้ เอ็มเอ็มซีกับเจเจ ถือว่าไม่มีเรื่องอะไรติดค้างกันนับแต่นี้ จบแล้วนะ"   อยู่ๆก็มีข้อความจากมันปรากฏขึ้น

 
"จริงดิ ขอบใจนะ"   ผมรับตอบกลับมันทันที

 
"อืม ไม่เป็นไร ถือว่ากูชดเชยให้ ในสิ่งที่กูทำไม่ดีกับมึงไว้"

 
         ก่อนจะวันศุกร์วันเดียว ผมได้รับข้อความทางแซทเฟสจากมัน ผมดีใจมากที่เห็นข้อความมันเด้งขึ้นมา แต่ทว่าก็รู้สึกปวดร้าวในถ้อยคำของประโยคเหล่านั้น เมื่ออ่านแล้ว โดยเฉพาะคำว่า จบแล้วนะ มันเหมือนกับว่าผมไม่อยากให้เรื่องมันจบลงเลยสักนิด


 "มึงเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมในโรงหนังวันนั้น มึงลุกออกไป แล้วก็เงียบหายไปเลย"    ผมตัดสินใจถามในสิ่งที่มันค้างคาใจผมมาตลอดหลายวัน

 
   "เอาจริงๆหรือโกหก"

 

   "เอาทั้งสองอย่าง"

 

   "เอาอันไหนก่อน"

 

   "โกหก ดิวะ"

 

   "กูมีธุระด่วนวันนั้น ที่แก๊งค์โทรมาไง แล้วงานอีเว้นเอ็มเอ็มซีแม่งเยอะซิบ ต้องออกรอบทุกวัน เลยไม่มีเวลาไปหามึงสักวัน แต่กูคิดถึงมึงนะ"   ผมอ่านข้อความนั้นจบลง แล้วยิ้มอย่างเป็นสุข อะไรกันความรู้สึกแบบนี้

 

   "หรอ แล้วเรื่องจริงละ"

 

   "จะให้กู นั่งดูมึงกับแฟน ดูหนังกันไป กอดกันไป ปานแฝดตัวติดกัน ป้อนขนมป้อนน้ำสวีทหวานแทบมดจะขึ้นมาไต่อยู่ละ มึงคิดว่ากูจะไม่รู้สึกอะไรหรือไง มึงคิดว่ากูจะทนได้หรอ"   แต่สำหรับข้อความนี้ เหมือนผมกำลังโดนตบหน้าอย่างแรง จนชา

 

   "กูขอโทษ กูไม่รู้ ว่ามึงจะคิดมากขนาดนั้น"

 

   "หรอ กูคิดว่ามึงตั่งใจวะ เพราะมึงก็กำลังต้องการ ให้กูไปจากชีวิตมึงอยู่แล้วนิ มึงเป็นคนบอกกูเอง ก่อนจะเข้าโรงหนัง จำได้หรือเปล่า"

 

   "ก็ตอนนั้นกูหงุดหงิด มึงอะ เป็นอะไรก็ไม่รู้ คอยแต่จะหลบตากู"

 

   "ชังเถอะ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว พูดไปก็เท่านั้น เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว มึงพูดถูก เราสองคนจะได้ลืมกันง่ายๆ โดยไม่ต้องคิดอะไร"

 

   "ออย  กู"

 

   "มึงรู้อะไรไหมโอ๊ค กูกลัวติดใครมากๆแล้ววันหนึ่งเค้าหายไป กูจะทนไม่ได้ ตอนนี้มึงก็โอเครกับแนนแล้ว ทุกอย่างสำหรับมึงดีขึ้น กูเลยหักใจตัดใจ รีบไปจากชีวิตมึงจะดีกว่า ก่อนที่กูจะถลำลึกลงไปกว่านี้ โชคดีนะ บาย"

 

        จบจากประโยคนั้นของมัน ผมพิมพ์หลายคำ ลบ ลบอีก เอาเรื่องจริงเป็นโกหก เอาเรื่องโกหกให้เป็นเรื่องจริงได้ไหม สลับกัน  แต่ไม่กล้ากดส่ง มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอโอ๊ค เรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว มึงควรจะดีใจ ออกไปหาแนนสิ ออกไปเล่นกับเพื่อนที่ซุ้ม ออกไปร้านเกมส์ ออกไปที่ไหนก็ได้ อย่างที่มึงต้องการ  แล้วมึงจะมานั่งเศร้า คิดถึงเขาอยู่ทำไม โอ๊ค

                 >>>>>>>>

<ปลอกหมอนที่น้ำลายเธอยืดใส่ > เสียงเพลงโทรศัพท์ที่ผมพึ่งเปลี่ยนไปสามสี่วันที่ผ่านมาดังขึ้น ใครกันนะโทรมาดึกปานนี้ ผมหยิบไอโฟนขึ้นมาดู หน้าจอโชว์หรา mmc มานะ ผมรีบกดรับทันที

 

   “ฮะโหล หวัดดีคับพี่มานะ”

 

   “โอ๊ค ใช่ไหม”

 

   “คับผมเอง โทรมาเบอร์ผม ก็ต้องเป็นผมสิพี่ จะให้เป็นใคร ถามแปลกๆ”

 

   “พี่ขอโทษนะ ที่โทรมากลางดึก มีเรื่องอยากรบกวนหน่อย”   เสียงปลายสายดูมีความกังวลบางอย่าง

 

   “ไม่เป็นไรคับ สำหรับพี่ เมื่อไร ตอนไหนก็ได้ ไม่มีปัญหา ว่าแต่คิดถึงโอ๊คละสิ ถึงโทรมาปานนี้”

 

   “ประมาณนั้นโอ๊ค พี่คิดถึงนายเป็นคนแรกเลย”

 

   “ไอ่ยะ อย่างไงเนี้ย โอ๊คชักอยากรู้ละ ว่าเรื่องอะไร”

 

   “เข้าเรื่องละ ออยอยู่กับโอ๊คไหม”

 

   “ว่าไงนะพี่ ผมฟังไม่ถนัด”   ผมตกใจ เมื่อได้ยินชื่อนั้น แต่ไม่แน่ใจนัก

 

   “ฟังดีๆนะโอ๊ค เจอออยบ้างไหม”

 

   “ออย หรอคับ ไม่เจอเลยคับ เขาไม่มาหาผม นานแล้ว”

 

   “นานแค่ไหน”

 

   “เจอกันล่าสุดวันอาทิตย์ก่อนหน้า แล้วก็คุยกันทางเซทเฟสล่าสุด ก็วันพฤหัสก่อน ตอนนี้วันศุกร์ รวมแล้วก็อาทิตย์หนึ่งแล้วพี่ ที่ไม่ได้ติดต่อกัน เขาเป็นอะไรหรือเปล่าคับ”

 

   “ถ้าพี่อยากถามเรื่องระหว่างออยกับโอ๊ค บอกพี่มาทั้งหมดได้ไหม ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”   เสียงพี่เขาดูจริงจัง

 

   “พี่นะบอกโอ๊คก่อน ว่าออยเขาเป็นอะไร”

 

   “มันเริ่มจากวันอาทิตย์ ออยเขาเข้ามาที่โต๊ะราวบ่าย ไม่สิ ช่วงบ่ายจะสามสี่โมงละ ไม่รู้ไปโมโหใครมา มาถึงก็เอาแต่ทำหน้าบึง ไม่คุยกับใคร อะไรนิดหน่อย ก็อารมณ์เสียตลอด จากคนที่ร่าเริงดีๆเมื่อหลายวันก่อนหน้า จู่ๆเขาก็กลับไปเป็นออยคนเดิมอีกแล้ว ที่เอาแต่นั่งเหม่อลอย ทำหน้าเศร้าๆ ดูราวกับคนอกหัก แทงสนุ๊กที โต๊ะแทบรูจะพัง แทงแรงมาก พี่หรือใครในเอ็มเอ็มซีถามอะไรมันก็ไม่บอก”

 

   “แล้วที่มันหายไปละคับ เพราะอะไร พี่รู้หรือเปล่า”

 

   “พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่ก่อนหน้านั้นมันมาขอกับพี่ใหญ่ในเอ็มเอ็มซี ให้เรื่องวิวาทระหว่างเจเจสิ้นสุดลง มันจะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างเอง แน่นอนเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนตามกฎแก็งค์”

 

   “อย่างไงพี่”

 

   “พี่บอกไม่ได้ มันเป็นความลับของแก็งค์เรา แต่สรุปว่า ไอ้ออยมันจบเรื่องลงได้ก็แล้วกัน จากนั้นหลังๆมันเอาแต่เทียวเตร่ กินเหล้า เมาแล้วก็ชอบเพ้ออะไรไม่รู้ “จิบเหล้าก็เพ้อ จีบเธอก็แพ้” มันชอบพูดแบบนี้ แถมหลังๆเวลามีเรื่องมันชอบวิ่งเข้าใส่ก่อนคนอื่นตลอด อยู่แถวหน้าเสมอ ไม่ห่วงชีวิตตัวเองสักนิด เจ็บได้แผลกลับมาตลอด วันนี้ก็เหมือนกัน หลังจากไปปะทะกับแก๊งค์แถวหน้าศาลมา เขาก็หายไปเลย จนปานนี้ยังไม่ได้ข่าวอะไรเลย”

 

   “หรอคับพี่ มันคงเป็นความผิดของผมเอง เราสองคนมีเรื่องกันนิดหน่อย ส่วนเรื่องอะไรนั้นผมอยากเจอเขาก่อน แล้วจะเล่าให้พี่ฟังคับ”

 

   “คับ พี่เข้าใจ แล้วแต่โอ๊คละกัน ไม่บังคับ แต่ไม่เจอออยก็ไม่เป็นไรนะโอ๊ค อย่าออกไปตามหา นี้มันดึกแล้ว อีกอย่างฝนกำลังตก พี่ขอ โทษทีที่รบกวน ฝันดีครับ”

 

   “คับพี่ ผมก็ไม่รู้จะออกไปตามมันได้ที่ไหนเหมือนกัน แต่ถ้าได้ข่าวหรือเจอมัน ผมจะรีบส่งข่าว หวัดดีคับพี่ ฝันดีเช่นกันคับ”

 

       อะไรของมึงวะไอ้ออย มึงกำลังทำเรื่องบ้าๆอะไรอีก คิดว่าตัวเองเป็นคนเหล็กหรือไง แล้วตอนนี้มึงไปอยู่ไหนนะ จะรู้หรือเปล่า ว่ามีคนเขาเป็นห่วงมึงตั้งเยอะ ฝนก็เริ่มลงเม็ดหนักขึ้นเรื่อยๆ ฟ้าแลบแปรบปราบ ผมอยากออกไปตามหามันแทบใจจะขาด ผมกระวนกระวายใจนอนไม่หลับ กดโทรศัพท์โทรหามัน ปิดเครื่อง ใช่สิ ถ้าติดต่อมันได้ พี่นะจะโทรมาหามึงทำไมวะโอ๊ค โง่ตามเคย โง่มาตั่งแต่ต้น จนปานนี้

                                    >>>>>>>>>>>>

         ฝนกระเซ็นเข้าห้องมาเป็นละอองเล็กๆ  ผมจึงเดินไปปิดหน้าต่าง กะจะเปิดรับลมไม่อยากเปิดแอร์  แต่ขณะกำลังดึงบานหน้าต่างบานสุดท้ายเข้ามา ฟ้าแลบมาทีหนึ่ง ก่อนที่ผมจะเห็นใครบางคนยืนตากฝน อยู่ฝั่งตรงข้าม เขาแอบอยู่ข้างๆเสาไฟต้นหนึ่ง ไอ้ออย ชื่อนี้แล่นเข้าหัวขึ้นมาทันที ผมไม่รออะไร ไม่หันกลับไปมองซ้ำอีกครั้งให้เสียเวลา ผมวิ่งลงไปข้างล่าง เปิดประตูวิ่งออกไปตรงนั้นทันที เขากำลังก้าวจะขึ้นควบรถมอเตอร์ไซค์ หวังขี่หนีออกไป เมื่อเขาเห็นผมเปิดประตูบ้านออกมา ผมไม่รอช้าที่จะปล่อยโอกาสให้เขาคนนั้นหนีไป ผมกระโดนกอดเขาไว้แน่นจากทางด้านหลัง

 

   “กูไม่ให้มึงไป”

 

   “ปล่อย กูจะกลับแล้ว”   มันสะบัดตัวดิ้นให้หลุด แต่ผมก็กอดมันไว้สุดแรง เท่าทีผมจะมี

 

   “ไม่เอา ยังไม่ให้กลับ มาแล้ว ทำไมไม่เข้าบ้าน มึงไม่อยากเจอกูหรอ”

 

   “กูพอใจแล้วละ ถึงไม่ได้เห็นหน้า ได้เห็นหลังคาบ้านมึงกูก็ดีใจแล้ว”   มันหยุดดิ้นแล้ว คุยกับผมแบบเสียงคนกำลังน้อยใจอะไรอยู่

 

   “ฝนตกแล้ว เข้าบ้านเถอะ อย่าขี่รถตากฝนกลับเลยนะ”

 

   “ไม่เอา กูกำลังพยายามตัดใจ ให้ลืมมึงอยู่ ถ้ากูเข้าบ้านไปกับมึง กูก็ลืมมึงไม่ได้สักที”

 

   “ก็เข้าไปรอให้ฝนหยุดค่อยกลับก็ได้ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ เสื้อผ้ามึงอะ อยู่ที่ห้องกูบานเลย ไม่เอากลับไง”   ผมหาเรื่องมาต่อรองกับมัน

 

   “อืม”

 

   "ไม่รู้ละ ถ้ามึงไม่เข้าบ้าน กูจะกอดมึงไว้อย่างเงี้ย ไม่ปล่อยหรอก"

 

         และแล้วไอ้คนเอาแต่ใจ ก็ถูกผมลากเข้าบ้าน อย่างว่าง่าย พอๆกับที่มันเคยลากผมไปนู้นมานี้ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ผมก็ไม่อยากยืนกอดกับมันหน้าบ้านนานเท่าไรนัก กลัวคนแถวนี้จะตื่นมาเห็น

    มันเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็จัดการกับตัวเองที่เปียกนิดหน่อย พอมันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ใส่กางเกงเบ๊อกเซอร์ตัวเดียวอย่างเคย มานั่งลงที่เตียงไม่พูดจา ทำหน้าเศร้าๆ มองผมตาแป้ว ผมถือผ้าขนหนูผืนเล็กตามมาเช็ดผมที่ยังเปียกของมันให้

 

   “เห็นมึงกดโทรศัพท์ตอนกูอยู่ในห้องน้ำ มึงคุยกับใคร”   มันพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าสร้อย ผิดกับออยคนเก่าลิบลับ

 

   “บอกพี่มานะ เจอมึงแล้ว”

 

   “เขาโทรหามึงหรอ”

 

   “เออสิ พวกที่เอ็มเอ็มซีห่วงมึงมากเลยนะ ตามหามึงกันให้วุ่นวาย”

 

   “อืม”

 

   “อย่าทำอะไรห่ามๆรู้ไหม ห่วงตัวเองบ้างสิ”

 

   “ก็กูเบื่อ กูอยากลืมมึงให้ได้เร็วๆ ให้กูทำอะไรก็ได้ ที่ไม่ต้องคิดถึงมึง กูทำหมดละ แต่กูก็ทำไม่ได้ อยากมาหามึง คิดถึงมึงใจแทบขาด มึงรู้ไหม อุ๊บ ”

 

          ผมคงไม่ต้องรอให้มันพูดอะไรอีกมากมาย ผมโยนผ้าเช็ดผมนั้นทิ้งไป แล้วกอดคอมันไว้ ทิ้งตัวลง นั่งทับไปที่ตักของมัน เอาปากตัวเองอุดปากที่ชอบพูดมากของมันไว้ ให้มันหยุดพล่ามซะที ลิ้นเปียกๆลื่นๆของผม สอดเข้าไปในปากของมันอย่างง่ายดาย ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะดูดรับเข้าปากตัวเองไป แล้วไม่ปล่อยให้กลับออกมา ร่างเย็นๆของมัน โดนร่างอุ่นๆของผมบดเบียดชิดเข้าไป มันกอดรัดผมแน่นดังกลัวว่าผมจะหลุดหายไป อา ไอ้ออย วันนี้อย่างไง กูก็ไม่ยอมปล่อยมึงไปไหนแน่ มึงคิดหรอ ว่ามึงคิดถึงกูเป็นอยู่คนเดียว กูเองก็คิดถึงมึง แทบบ้า

              >>>>>>>>>>>

ติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 01:18:35 โดย แอมม่ายติง »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที8) 1/8/2016
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-08-2016 00:53:44 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที9) 2/8/2016
«ตอบ #10 เมื่อ02-08-2016 01:02:10 »

รับทราบครับ admin
ขอบคุณมากคับ

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที9) 2/8/2016
«ตอบ #11 เมื่อ03-08-2016 00:14:24 »


โดย เอ็มเอ็มซี..เจมส์  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

 

 mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบ>>>อยากยืนเคียงข้าง ไม่ใช่เดินตามอยู่เบื้องหลัง

 

   “ปัง ปัง“    เสียงลูกสนุกเกอร์กระแทกกับปากรูอย่างแรง

 

   “เชี้ยออย มึงก็แทงเบาๆหน่อยเถอะ เดี๋ยวโต๊ะเขาก็ได้ รูพังกันพอดี”   เพื่อนในกลุ่มพูดขึ้นมา อย่างสุดจะทนกับการกระทำของพี่ออยได้อีกต่อไป

 

   “เรื่องของกู พวกมึงจะเล่นก็เล่น ไม่เล่นก็เลิก”   แต่พี่เขากลับพูดสวนขึ้นมา อย่างกับไม่แคร์ใครสักนิด

 

   “ดีคับน้องออย ใจเย็นๆนะคับพ่อพระเอก โกธรใคร ก็เอาไปลงกับคนนั้นนะคับ อย่าเอามาลงกับโต๊ะพี่”   แล้วใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังพวกเรา

 

   “ดีคับพี่นะ ขอโทษคับ อารมณ์ไม่ดีนิดหน่อย”   เล่นเอาพี่ออยหน้าเสีย รีบยกมือไหว้พี่เขาอย่างไว

 

   “พี่ว่าไม่หน่อยละ ตั้งแต่มาถึงนี้หน้าเป็นตูดลิงอยู่ตลอด พี่ดูออยอยู่นะ  มีเรื่องอะไร จะบอกพี่ได้หรือเปล่าครับ”

 

   “ไม่มีคับพี่ จริงๆสาบาน พี่อย่ามองผมแบบนั้นสิ ผมต้องไปละ เห้ย ใครจะไปกินเหล้ากะกูบ้าง ไปก็รีบตามมาให้ไว นะโว้ย”     พี่ออยเหมือนกำลังมีความลับที่บอกไม่ได้กับพวกเรา แม้แต่กับรุ่นพี่อย่างพี่มานะ พี่ออยก็ไม่ยอมบอกอะไร รีบหาเรื่องหลบออกจากตรงนั้นอย่างเร็ว ว่าแล้วพวกเราก็เผ่นแนบตามพี่ออยไปอีกคน ไม่อยู่ให้พี่มานะสอบสวน

 

          เรื่องมันเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ผมจำได้ พี่ออยกลับเข้ามาที่ซุ้มเอ็มเอ็มซี หลังจากที่พี่เขาหายไปหลายวัน ไม่ต้องเดาผมก็รู้ ถ้าไม่ทะเลาะกับไอ้โอ๊คมา คงไม่กลับมาในสภาพแบบนี้แน่  หึ หลายวันก่อนยังเห็นเดินยิ้มได้ทั่งวัน อะไรเขาก็ดูสวยงามไปหมด แล้วไงวันนี้ถึงกลายเป็นคนโมโหร้ายไปได้  มึงแน่นอนจริงๆไอ้โอ๊ค มึงทำพี่กู ทั้งดีทั้งบ้า ได้ในเวลาเดียวกัน 

                  >>>>>>>>>

 

   “ไอ้ออยมึงคิดดีแล้วหรอ ที่มึงมาขอกับกูแบบนี้”    เสียงรุ่นพี่ที่พวกเราเคารพและยำเกรงคนหนึ่งดังขึ้น อยู่ในห้องประชุม มีพวกผมแอบฟังอยู่ข้างนอก

 

   “ครับพี่กอล์ฟผมคิดดีแล้ว เรื่องที่เกิดวันนั้น ผมเองก็มีส่วน ผมขอรับผิดชอบทั้งหมด”เสียงหนักแน่นของพี่ออยดังออกมา

 

   “ออย กลับไปคิดมาใหม่ จะดีกว่าไหม พี่มานะว่า มันไม่จำเป็นเลย ที่ออยต้องออกมารับไว้หมดคนเดียวหรอกนะ จริงไหมพี่กอล์ฟ”   ตามด้วยเสียงพี่มานะ

 

   “มันก็ใช่นะพี่นะ”   นั้นละ พี่มานะพูดได้ดีมากคับ พี่กอล์ฟยังเห็นด้วยเลย ว่าแล้วผมก็อดไม่ได้ จึงปีนขึ้นแอบมองที่ช่องบานเกร็ดดูบ้าง ว่าข้างในมีอะไรเกิดขึ้น พวกคนอื่นๆก็ทำตามกัน

 

           พี่ออยยืนเอามือไขว้หลังอกตรงหน้าเชิด อย่างมาดแมนอยู่ต่อหน้าเหล่ารุ่นพี่เอ็มเอ็มซี เพื่อขอร้องให้พวกเขาเหล่านั้น รับข้อเสนอของเขา เรื่องบ้าๆ ที่คนปกติเขาจะไม่ทำกัน คือยุติศึกการแก้แค้นระหว่างเอ็มเอ็มซีกับเจเจ ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เหล่าบรรดารุ่นพี่หลายสิบคน มองมายังพี่ออยด้วยความสงสัย พี่มานะนั่งกระวนกระวายจนแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ พยายามพูดให้มันเปลี่ยนใจ แต่ทว่าพี่ออยนั้น แสดงสีหน้าและท่าทางมุ่งมั่นและเด็ดเดียว ไม่เปลี่ยน

 

   “ผมคิดดีแล้วคับพี่ ยอมรับข้อเสนอผมเถอะนะ ผมขอร้อง”

 

   “มึงแน่ใจนะไอ้ออย ว่าให้เรื่องทุกอย่างจบที่มึง มึงรู้กฎของเอ็มเอ็มซี ดีหรือเปล่า ว่ามันไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกนะ”

 

   “ผมรู้ดี ผมตัดสินใจแล้ว ถึงเข้ามาหาพวกพี่”    น้ำเสียงนั้นเด็ดเดียว ไม่ลังเลแม้แต่น้อย

 

   “ออย”   พี่มานะยังพยายามพูดให้พี่เขาเปลี่ยนใจ

 

   “พี่มานะ อย่าพยายามห้ามผมเลยครับพี่”

 

   “แต่ออยฟังพี่มานะให้ดีๆนะ การออกรับมาความผิดแทนอริ ก็เท่ากับเป็นการทรยศแก็งค์อย่างหนึ่ง สำหรับบทลงโทษการฝ่าฝืนกฎข้อนี้ ต้องถูกสมาชิกในแก็งค์ทุกคน ตบหนึ่งทีพร้อมถุยน้ำลายใส่ เพื่อเป็นการดูหมิ่น ออยทนรับมันได้ไหม”   พอได้ฟังพี่มานะพูดแค่นั้น พวกผมที่อยู่ข้างนอกต่างมองหน้ากัน แล้วขนลุกซู่ตาม

 

   “ผมทนได้ครับพี่”   แต่พี่ออยยังมีท่าทางมั่นคงไม่เปลี่ยนสักนิด

 

   “ออย พี่อยู่เอ็มเอ็มซีมานาน สมาชิกทั่งรุ่นใหม่รุ่นเก่า นับแล้วมีเท่าไรออยรู้ไหม”   พี่มานะมองหน้าคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าไม่วางตา

 

   “ผมไม่รู้คับ ถึงผมรู้ ผมก็จะทำ”

 

   “พี่มานะปล่อยมัน ถ้ามันดื้อไม่ฟัง อยากลองดีก็ปล่อยมัน เราจะรับข้อเสนอนั้น”   แล้วพี่กอล์ฟก็ยกมือขึ้นห้ามพี่นะ ไม่ให้พูดอะไรกับพี่ออยต่ออีก

 

   “พี่กอล์ฟ แต่ว่า ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือพี่”   พี่มานะหันไปคุยกับพี่กอล์ฟเพื่อหาทางช่วยพี่ออย อย่างไม่ยอมแพ้

 

   “พี่นะ พี่ก็อยู่มานาน พี่เป็นคนฉลาด ย่อมรู้ดีกว่าใครๆในนี้ เราคงปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆไม่ได้แน่ พวกรุ่นพี่พวกพี่ใหญ่ คงกลับเล่นงานเราไม่เหลือ ถึงตอนนั้นพวกเราที่อยู่ที่นี้ ยังจะมีหน้ามายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้กันอีก ต่อไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ใช่ไหมละ”   แน่นอน การปกครองที่ล้มเหลว การนำพาแก๊งค์ไปสู่ความตกต่ำ พวกพี่ใหญ่ไม่ปล่อยใครไว้แน่ๆ พี่กอล์ฟพูดถูกทุกอย่าง

 

   “ออยฟังนะ แค่คนคนเดียว ออยจะเสียสละ เพื่อเขาขนาดนี้เชียวหรอ คิดว่ามันคุ้มหรือเปล่า ทำแล้วออยจะได้อะไร ให้พี่หยุดเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว แล้วไว้เราค่อยสืบหาคนผิดมารับโทษเอาทีหลังก็ได้ ออยจะรีบจบเรื่องไปเพื่ออะไร”

 

   “ผมอยากทำเพื่อมันจริงๆครับพี่ ผมจะชดเชยในสิ่งที่ผมทำไว้กับมัน ผมแค่อยากมั่นใจว่ามันจะปลอดภัย และผมก็ไม่ต้องการอะไรจากมันจริงๆ หวังแค่ให้มันมีความสุข อย่างที่มันควรจะได้รับ เท่านั้นผมก็พอใจแล้ว พี่มานะอย่าพูดอะไรอีกเลย ผมขอร้อง ทำตามความตั้งใจของผมให้เป็นจริงด้วยเถิดครับ”

 

   “ดี คนเขาเตือน เขาห้าม แล้วไม่รู้จักฟัง พี่นะ พอแล้ว ไม่ต้องคุย เอาเป็นว่าเรารับข้อเสนอจากมึง ไอ้ออย พรุ่งนี้มึงเตรียมตัวรับโทษได้”

 

   “ขอบคุณครับพี่กอล์ฟ”

 

     และแล้วพี่ออยก็สมปรารถนา พวกพี่ๆยอมรับข้อเสนอนั้น แม้พี่มานะจะพยายามเต็มที่ เพื่อเปลี่ยนใจพี่เขา ผมกับเพื่อนสมาชิกแก็งค์รุ่นเด็ก ยืนแอบฟังแอบดูอยู่ด้านนอก รู้สึกผิดหวังกับพี่ออยมาก เมื่อได้ฟังคำตัดสินของพี่กอล์ฟ ต่างคุยกัน ว่าพี่ออยทำแบบนี้เพื่ออะไร พี่ออยเขาเป็นอะไรกับไอ้โอ๊ค ถึงกับออกตัวรับโทษแทนมันกับพวกแก็งค์เจเจ

 

   “เดี่ยวก่อน อย่าพึงไป เอางี้ ถ้าออยตั้งใจแบบนั้นจริงๆ พี่กอล์ฟ กับพี่ๆทุกคนครับ ทุกคนอาจจะไม่รู้ ที่ออยมันต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เพราะวันนั้นมันเป็นความตั้งใจของเราเอง ดังนั้นพี่มานะคิดว่า พี่ต้องมีส่วนรับผิดชอบ พี่กอล์ฟ เราขอใช้ตำแหน่งและความน่าเชื่อถือ ความเคารพและอภิสิทธิ์ต่างๆของพี่ในเอ็มเอ็มซีทั้งหมด แลกกับการลดโทษให้ออยมัน จากที่ต้องโดนกว่าหลายร้อยคนของเอ็มเอ็มซีตบ ลดลงให้เหลือแค่เด็กรุ่นใหม่ที่พึงเข้ามา น่าจะราวๆสักไม่ถึงร้อยคน จะได้ไหม”   ขณะที่ทุกคนกำลังลุกขึ้นจะแยกย้ายกันไป พี่มานะกลับพูดในสิ่งที่น่าตกใจออกมา อะไรของพี่เขานะ

 

   “ไม่ พี่มานะ พี่ไม่ต้องทำแบบนี้ มันไม่ใช่ความผิดพี่ชะหน่อย ผมทนรับไหว”   พี่ออยร้อนรนถลาเข้าไปหาพี่มานะทันที

 

   “เงียบออย ไหวกับผีนะซิ ออยไม่รู้อะไร ไม่เคยเจออะไร อย่างที่พวกพี่ๆเคยเจอมาหรอก เงียบเถอะ”   พี่มานะพูด ราวกลับกำลังตวาด จนพี่ออยเขานิ่งไปกลายเป็นตุ๊กตา ทุกคนในห้องต่างตะลึงเงียบกริบ รวมถึงพวกผมด้วย เพราะนานๆจะเจอพี่เขาอารมณ์เสีย แล้วว่าใครสักคน

 

   “เอางั้นก็ได้ ผมตามใจพี่นะ ผมก็กลัวว่ามัน จะไม่ไหวอยู่เหมือนกัน แล้วก็นะ ผมรู้ว่าพี่มานะดื้อแค่ไหน ห้ามไป ก็คงไม่ฟังอีกคน อีกอย่างสำหรับพี่อย่างไงก็ได้สินะ ผมรู้ว่าตำแหน่งหรืออะไรๆในเอ็มเอ็มซี ไม่เคยมีผลอะไรต่อชีวิตพี่เลยสักนิด”

 

   “ขอบใจพี่กอล์ฟ แล้วก็ทุกคนด้วย”

   

   “พี่นะ”

 

   “ออย ไม่เป็นไร พี่กอล์ฟเขารู้ดี ว่าพี่กำลังทำอะไรอยู่ อย่างที่เขาพูด อะไรก็ไม่สำคัญสำหรับพี่ เท่ากับที่ทุกคนที่นี้ นับพี่เป็นส่วนหนึ่งของเอ็มเอ็มซี พี่ต้องการแค่นั้น อย่างอื่นพี่ก็ไม่เคยต้องการอะไรเลย ออยไม่ต้องคิดมากนะ ความดื้อรั้นของออย เทียบกับพี่เมื่อก่อนไม่ติดหรอก พี่กอล์ฟเขารู้ดี ถึงไม่ห้ามอะไรพี่อีก”

 

            นั้นคือเรื่องราวอีกหลายวันต่อมา ที่พี่ออยได้ทำให้ไอ้โอ๊คมัน มันจะรู้หรือเปล่านะ ว่าเขาเสียสละเพื่อมันขนาดไหน แถมยังดึงพี่มานะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอีก แม้ผมจะไม่เข้าใจพี่มานะเท่าไรนัก ว่าเขาจะออกมาเสียสละทำไมมากมายอีกคน จากระดับรุ่นพี่อาวุโส ลงมาเป็นสมาชิกแก็งค์ระดับธรรมดา หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นเบ้เขานั้นแหละ ถึงผมจะทราบดีว่าปกติ พี่มานะเขามักเป็นห่วงน้องๆในเอ็มเอ็มซีทุกคนเสมอ เวลาออกไปข้างนอก โดยเฉพาะผมกับไอ้เมส เขาจะห่วงมากที่สุด แต่กับพี่ออยกับไอ้โอ๊ค ผมไม่เข้าใจจริงๆ

           วันลงโทษ ผมแทบขาดใจ เมื่อเห็นพี่ออยนั่งคุกเข่าตรงลานโล่ง แล้วมีคนในแก๊งค์เดินเข้าไปตบที่หัวอย่างแรงที่ละคนๆ แต่ดีหน่อยที่โดนลดโทษ ไม่ต้องโดนน้ำลายเหนียวๆถุยใส่หน้า  พวกเราส่วนมากก็ทำไม่แรงนัก แกล้งตบเบาๆด้วยต่างก็รักพี่ออยด้วยกันทั่งนั้น แต่พวกเราเก็บสะสมความแค้นไว้ แล้วเอาไปลงกับไอ้โอ๊คมันอีกที แค้นวันนี้ กูจะไม่มีวันลืมไอ้โอ๊ค สักวันมึงจะต้องโดน

          >>>>>>>>>

 

   “เชี้ยออย มึงอะตลอด ชวนพวกกูมาแดกเหล้าที่ไร มึงเอาแต่จ้องโทรศัพท์ Kเหอ”

 

   “อ้าวกูชวนพวกมึงมากินเหล้า แต่กูไม่ได้บอกสักหน่อย ว่าจะมากินเหล้า”   พี่ออยละสายตาจากโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าคนที่ว่าเขานิดหนึ่ง ก่อนว่าจะสวนกลับไป

 

   “สัต แล้วก็มานั่งแดกแต่น้ำเปล่า เล่นแต่โทรศัพท์ กลับบ้านไปนอนดูดนมแม่ปะ งัน”

 

   “พอเหอะ พวกมึง กูขี้เกียจทะเลาะ กูจะทำอะไรก็เรื่องของกู พวกมึงอย่าสนเลยวะ”

 

   “เชี้ย พวกกูก็เพื่อนมึงนะ มีอะไรก็บอกพวกกูสิวะ”   พวกเราต่างมองที่พี่ออย ด้วยความเห็นใจ อยากแบ่งเบาความในใจกับพี่เขาบ้าง

 

   “เอาน่า แดกๆ หาอะไรใส่ปาก จะได้ไม่พูดมาก”    ว่าแล้วพี่เขาก็ก้มหน้ากลับไปสนใจโทรศัพท์ต่อ

 

            พอทุกเรื่องทุกอย่างผ่านพ้นมาด้วยดี พวกเรากลับมาใช้ชีวิตปกติ แล้วพี่ออยก็ไม่ได้ไปหาไอ้โอ๊คอีกเลย เขากลับมาอยู่กับพวกผม แล้วไม่หายไปไหนคนเดียวอีก กลับมาเรียน ไปออกงานอีเว้นท์(ตีกัน)กิน เล่น เทียว เหมือนเดิมๆที่ผ่านมา ผมควรจะดีใจได้แล้วสินะ ที่ได้พี่ออยกลับคืนมาแล้ว แต่ทว่าเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปนะซิ กลับมาได้แค่ตัว แต่หัวใจเขาไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว 

 

    “เชี้ยเจมส์ มึงรู้มะ ลูกพี่มึงเป็นอะไร อกหักจากสาวที่ไหนมาวะ หล่อๆอย่างมันยังถูกสาวๆทิ้ง หน้าเหี้ยๆอย่างกูจะหาได้มะแฟน”   แล้วพวกมันคนหนึ่งก็หันมาคุยกับผม

 

    “ไม่รู้วะ มึงอย่าถามกูเลย ถึงรู้ กูก็ไม่บอกหรอก”

 

    “แหม ชื่อสัตว์กับมันจริงๆเลยนะไอ้ออยนี้ มันเอาเพดดีกรีรสไหน ให้มึงกินวะเจมส์” เอ้อ ปากพวกมันแต่ละคน

 

    “เชี้ย พอเลยพวกมึง”

 

    “กูว่ามึงสองมาตรฐานวะเจมส์ ที่พวกกูรุ่นเดียวกะไอ้ออย มึงใช้กูมึง เรียกพวกกู แต่กับไอ้ออยมึงเรียกมันว่าพี่ แถมตามตูดมันไม่เคยห่าง มึงอย่างไง วะเจมส์”   แล้วพวกมันอีกคนก็กัดผมขึ้นมาอีก อะไรของพวกมันวะ วันนี้

 

               พวกเพื่อนๆในกลุ่ม หันมารุมสับผมแทนพี่ออย ถามหาความจริงจากผม ว่าพี่ออยเป็นอะไร แต่ผมก็บอกไม่ได้จริงๆ ผมกลัวพี่ออยจะโกธร จะเกลียดเอา เท่าทุกวันนี้ ผมก็ไม่เคยอยู่ในสายตาเขาเลยสักนิด อยู่แล้ว

               ทำได้แต่เดินตาม หรือแอบเฝ้ามองพี่เขาจากทางด้านหลัง ไม่มีวันได้ยืนอยู่เคียงข้าง  พี่เขาจะทุกข์จะสุข ผมก็ทำได้เพียงแค่เฝ้าดูไปวันๆ ไม่มีทางได้ร่วมแบ่งปันความรู้สึกเหล่านั้นกับเขา และไม่มีเลยสักครั้ง ที่พี่เขาจะมองมาที่ผมเป็นอย่างอื่น นอกจากเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น เพราะแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกอิจฉาไอ้โอ๊ค แล้วเกลียดมันมากขึ้นทุกวัน

 

    “เห้ย รุ่นพี่โทรมา พวกเราโดนล้อมแถวหน้าศาล”

 

    “ไปเว้ย งานอีเว้นท์มาแล้ว”

 

 

      พอรู้เรื่องเท่านั้น พี่ออยตระโกนลั่น แล้ววิ่งไปที่รถก่อนใคร พวกผมได้แต่วิ่งตามมาแล้วกระโดนขึ้นรถ ตอนนี้มีเรื่องที่ไรพี่ออยมักอยู่แถวหน้าเสมอ อะไรของเขา บ้าจริงๆ

         เมื่อไปถึงหมาย อย่างไม่รีรอพวกเราวิ่งเข้าตะลุ่มบอลกับฝ่ายตรงข้ามทันที เพื่อช่วยพวกเราที่ติดอยู่ แล้วช่วยกันฝ่าออกมาจากแนววงล้อม สองฝั่งต่อสู้กันทั่งไม้ทั่งมีดวุ่นวายไปหมด พี่ออยวิ่งเข้าฟัดอริตรงหน้า ไม่คิดหน้าคิดหลัง จนโดนรุมล้อมจากฝ่ายตรงข้าม ดีที่พวกพี่กอล์ฟตามมาทันพอดี

 

    “ไอ้เจมส์ บร์อน ชัย เมส คิว พาไอ้ออยฝ่าออกไป มันกำลังบ้า ขืนเป็นแบบนี้มันได้ตายแน่ ลากมันออกไปเดี่ยวนี้“

 

        สิ้นเสียงพี่กอล์ฟ พวกผมช่วยกันพาพี่ออย ออกจากบริเวณนั้น แม้พี่เขาจะไม่ยอม แต่นั้นคือคำสั่ง ไม่อาจขัดได้ พวกเราจึงพากันดึงพี่ออยออกมา ทำได้แต่ออกมายืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ ไม่สามารถกลับเข้าไปช่วยพวกพี่เขา พวกพี่กอล์ฟมาไม่นานเรื่องทุกอย่างก็ไกล้จะจบลง พวกเราไล่ตีฝ่ายตรงข้ามจนถอยร่นกลับไป

 

    “พี่ออยเป็นอะไรหรือเปล่า พักนี้พี่ทำอะไรห่ามๆไม่ห่วงตัวเองเลยนะ”   เมื่อมีโอกาสอยู่สองต่อสอง พวกสี่คนนั้นมัวแต่สนใจการปะทะตรงหน้า ผมจึงตัดสินใจคุยกับพี่เขา

 

    “กูไม่เป็นไรวะเจมส์ แค่กูรู้สึกเบื่อๆ บางครั้งก็คิดอยากจะตายไปเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด”   พี่เขาหันหลังให้ผม แล้วพูดอะไร ที่ผมไม่เข้าใจนัก

 

    “ผมรู้ เรื่องไอ้โอ๊ค มันกวนใจพี่ละสิ”   ผมรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป

 

    “มึงรู้”   พี่เขาหันกลับมามองผมทันที ด้วยสายตาที่หวาดระแวง

 

    “ผมแอบตามพี่ไป แต่ผมไม่พูดนะพี่ ผมสาบาน ผมไม่เคยบอกใคร”

 

    “เออ ขอบใจ กูรู้ กูไว้ใจมึงได้เสมอ”   เขายื่นมือมาตบที่แขนผมข้างหนึ่ง ส่งยิ้มเล็กๆให้

 

            เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่พี่ออยหันมามองผม แบบเต็มตา เขาขอบใจผมที่ช่วยเก็บความลับให้มาโดยตลอด ไม่เคยปริปากเล่าให้ใครฟัง เขามองผมด้วยสายตาสุดซึ้ง ผมคงมีโอกาสแล้ว

 

    “ไอ้โอ๊คมันก็มีแฟนอยู่แล้ว ชั่งมันนะพี่ พี่ยังมีพวกผมอยู่นะ”

 

    “อืม กูรู้น่า ไอ้เจมส์ กูไม่เคยลืมพวกมึงชะหน่อย กูก็รักพวกมันทุกคนแหละ”    พูดแล้ว พี่เขาก็หันไปดูทางพวกที่กำลังปะทะกันอยู่ไกลๆ

 

    “จริงหรือพี่ พี่ไม่เคยลืมพวกผม รักด้วย”

 

    “เห้ย มึงบ้าป่าวเจมส์ พูดแปลกๆ”

 

    “อาๆ ผมก็รักพี่ออยนะ”

 

    “เออ”

 

     ผมเหมือนคนไร้สติ พอได้ยินคำว่า กูไม่เคยลืมพวกมึง รักพวกมึงทุกคน แม้จะเป็นคำว่าทุกคน แต่ในนั้นมันหมายถึง มีผมรวมอยู่ในนั้นด้วย ผมดีใจมากจนลืมตัว  พูดอะไรบางอย่างออกไป

 

    “พี่ ลืมไอ้โอ๊คไปเถอะนะ ผมจะทำทุกอย่างแทนไอ้โอ๊คมันเอง ผมทำได้นะ เพียงแค่พี่ต้องการ ไม่ว่าอะไรก็ได้”

 

    “เจมส์ มึงหมายความว่าไง“    พี่เขาหันมามองผมช้าๆ ทำหน้างงๆ

 

    “ก็ หมายถึง ผมเป็นแบบไอ้โอ๊คกับพี่ออยได้ไหม”    ผมหลับตาแล้วกลั้นหายใจ ก่อนพูดอะไรโง่ๆออกไป แล้วรอฟังคำตอบอย่างมีความหวัง

 

    “ไอ้เจมส์ กูเห็นว่ามึงเป็นเพื่อนกูมานาน กูจะทำเป็นว่าไม่ได้ยิน ที่มึงพูดเมื่อกี้นี้ มึงคิดอะไรอยู่กูไม่รู้ แต่มึงรู้ไว้ ใครก็มาแทนที่ไอ้โอ๊คมันไม่ได้ ใครก็ไม่มีทางจะได้เป็นแบบไอ้โอ๊ค สำหรับกู"

 

      พี่ออยเขาโมโหผมมาก ถลาตัวหันมาจับคอเสื้อผมยกขึ้น ดวงตาเขาแดงกล่ำ เปลี่ยนไปราวกับคนละคน อารมณ์ต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง แล้วชี้หน้าว่าผมอย่างแรง ขับเคียวเคี้ยวฟัน จนพวกไอ้เมส ชัย บร์อน คิว ตกใจวิ่งเข้ามาดู ผมนิ่งทำตัวไม่ถูก อะไรกันวะ นี้กูสู้ไอ้โอ๊คมันไม่ได้ตรงไหน

 

    “ ไอ้ออยมึงใจเย็นๆ นี้ไอ้เจมส์นะโว้ย ไม่ใช่อริ วางมันลง”

 

    “ไอ้เจมส์มึงเลิกคิดอะไรบ้าๆซะ พรุ่งนี้กูกับมึงยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ถ้ามึงไม่ มึงกับกูขาดกัน พวกมึงพาไอ้เจมส์กลับด้วย วันนี้กูอยากอยู่คนเดียว ใครก็ไม่ต้องตามกูมานะ”   ว่าแล้วพี่เขาก็ขี่รถออกไปคนเดียว อย่างไว

 

    “เกิดอะไรขึ้นวะเจมส์”

 

       ผมได้แต่นิ่งเงียบ ไม่กล้าตอบคำถามพวกเพื่อนๆมัน จนเมื่อกลับมาถึงเอ็มเอ็มซี พวกนั้นเล่าเรื่องที่พวกมันพอจะรู้ให้พี่มานะฟัง แล้วเขาจึงเข้ามาถามผม แต่ผมก็ตอบไม่ได้เช่นเดิม ได้แต่เงียบ พี่เขาจึงส่งคนออกไปตามหาไอ้ออย เมื่อโทรหาติดต่อมันไม่ได้ จนสุดท้ายพี่มานะตัดสินใจโทรหาไอ้โอ๊ค แต่คำตอบที่ได้รับคือ ไม่ 

       เมื่อกี้นี้ผมใจร้อนไปเองสินะ จนเกือบจะเสียพี่ออยไปแล้วสิเจมส์   ไม่คิดเลยว่าไอ้โอ๊คจะหยังรากรักเข้าสู่หัวใจพี่ออยได้ลึกขนาดนี้  ผมไม่มีโอกาสสักนิดที่จะแทรกเข้าเลยหรอวะ แต่ยังมีสิวะ ทางใช่ว่ามันจะตันชะหน่อย พี่ออยเลิกยุ่งกับไอ้โอ๊คแล้ว รอเวลาให้เขาลืมมันได้ก็เท่านั้น  แค่เรายังต้องรักษาความเป็นเพื่อนกับพี่เขาไว้ได้ อยู่ข้างๆเขาทุกวัน สักวันมันต้องเป็นวันของเรา แต่มึงก็ต้องสู้สิวะเจมส์ สู้ ถ้ามึงอยากได้เขากลับมา

               ………………………………..

ติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2016 01:21:28 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที10) 3/8/2016
«ตอบ #12 เมื่อ04-08-2016 00:26:43 »

    โดย เอ็มเอ็มซี..ออย  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

     mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบเอ็ด>>>กับมึงไม่เคยขัด จัดตลอด

 

    “เสร็จแล้ว เขาได้กอดเธอไหม เสร็จแล้ว เขาเคยบอกรักเธอไหม เสร็จแล้ว เขาก็หันหลังให้ เจ็บแล้ว ทำไมเธอไม่เคยจำ”

 

    “เชี้ยโอ๊ค บ่นอะไรของมึงหว่า”ผมมองคนที่นอนหันหลัง ด้วยความสงสัย

 

    “ก็พูดเล่นไปงัน จำมาจากเฟสบุ๊ค มึงจะกลับแล้วไม่ใช่หรอ ไปดิ ฝนก็หยุดแล้ว ไม่ต้องมาสนใจหรอก”

 

          ขณะกำลังลุกขึ้น คว้าเสื้อผ้ามาใส่ จะแต่งตัวกลับบ้าน ไอ้โอ๊คที่นอนหันหลังให้อยู่นั้น ก็พูดประโยคคล้องจองเหมือนบทกลอนบทหนึ่งขึ้นมา ความหมายของถ้อยคำ คล้ายกับมันกำลังตัดเพ้อให้ผม เพียงได้ฟังประโยคนั้น กางเกงที่สวมเข้ามาเพียงครึ่งขา จึงถูกผมปล่อยให้ลงไปกองอยู่กับพื้นตามเดิม ผมหันตัวกลับมานอนลงบนเตียง กอดเข้ากับเจ้าของบทกลอนเมื่อสักครู่นี้ มันยังคงหันหลังให้เช่นเดิม ไม่ยอมหันกลับมา แถมทำสะบัดเล็กๆ ไม่ยอมให้ผมกอด

 

    “เป็นไรหว่า”   ผมกระซิบข้างหูมัน

 

    “เปล่า จะกลับแล้วไม่ใช่หรอ ไปดิ”   น้ำเสียงรวมทั้งการพูดจา กระแทกแดกดันอย่างเห็นได้ชัด

 

    “โอ๊ค มึงพูดแบบนี้ จะให้กูกล้ากลับ ไปได้ไง”

 

    “พูดอะไร ไม่ต้องใส่ใจก็ได้”

 

        ผมสอดมือเข้าไปในผ้าห่ม สวมกอดร่างเปล่าเปลือยของมันไว้หลวมๆ ก่อนจะหอมแก้มมันเบาๆหนึ่งที แต่ท่าทีของไอ้โอ๊คมันก็ยังทำงอนผมอยู่ ก่อนผมจะดึงให้มันหันตัวกลับมา หันหน้ามันเข้าหาตัวผม แล้วจับหัวของมันชุกเข้ากับแผงอกของตัวเอง เด็กน้อยแสนงอนซุกหน้าตรงอกอย่างว่าง่าย แล้วกอดผมไว้ทันที

 

    “ไม่ให้ไปนะ มาแล้วโอ๊คไม่ให้กลับหรอก”   น้ำเสียงของมันเปลี่ยนเป็นออดอ้อนผมขึ้นมาซะอย่างงัน

 

    “เออ ไม่กลับก็ไม่กลับ”

 

            สุดท้ายผมก็ยอมให้มันอยู่ดี อะไรของมันนะไอ้โอ๊ควันนี้ พูดจาเพราะแปลกหูออดอ้อนอย่างไงก็ไม่รู้ อีกอย่างมันรุกเสียจนผมต้องปรนเปรอความต้องการให้ทั้งมัน และก็ทั้งตัวผมเองไปสองรอบติดๆ จนชนิดที่ว่าพายุข้างนอกยังยอมสยบให้ ฝนหยุดตกไปตั้งแต่ตอนไหนก็ยังไม่รู้ แต่พายุภายในของเราทั้งคู่ ยังพัดโหมอยู่เรื่อยๆเหมือนไม่อยากไห้มันหยุดลงเลย

           แต่พอเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น  ผมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะกลับ อยู่ไปก็รังแต่จะต้องการมันมากขึ้นทุกขณะ ไม่หยุดไม่หย่อน แต่พอกำลังจะแอบย่องกลับ มันที่ควรหลับไปแล้ว กลับเอ่ยคำพูด ตัดเพ้อให้ผมออกมา เพียงแค่เจอบทกลอนสั้นๆก็เล่นทำเอาให้ใจไหวหวั่น จนไม่กล้าออกไปไหน ไม่กล้าปล่อยมันไว้คนเดียว คงด้วยเพราะในใจลึกๆ ผมก็ไม่อยากจากมันไปไหนด้วยละ ผมว่า

          เจ้าของร่างบางนอนกอดแน่นผมไม่ยอมปล่อย แล้วหลับไป ผมนอนกอดมันไว้ พลางลูบหัวเกรียนๆของมันไปด้วย ภายในใจก็เริ่มคิดทบทวนเรื่องระหว่างมันกับผม ถ้ามันยังไม่หลับผมก็อยากถามมันอยู่หลายเรื่อง ระหว่างกูกับมึงมันคืออะไรวะโอ๊ค เขาเรียกว่าความรักด้วยหรอวะ  หรือกูกับมึงแค่สนุกกันไปชั่วครู่ แต่ที่กูรู้แน่ๆ ว่าตอนนี้กูมีความสุขกับมึงมาก มากจนอยากจะกอดมึงแค่คนเดียว และแทบจะลืมความรู้สึกที่เคยกอดผู้หญิงไปเสียหมดแล้ว

       เสร็จแล้ว เขาได้กอดเธอไหม ใช่ กูอยากกอดมึงไว้แบบนี้ตลอดไป แล้วมึงละโอ๊ค มึงมีคนกอดอยู่แล้ว แนนไง

       เสร็จแล้ว เขาเคยบอกรักเธอไหม ใช่ กูรักมึง แม้จะเพียงเวลาสั้นๆที่ได้อยู่ด้วยกัน แต่กูมั่นใจว่ากูรักมึง แค่ยังไม่มีโอกาสบอกมึงก็เท่านั้น หรืออีกอย่าง อาจไม่มีโอกาสได้บอกมึงเลยตลอดชีวิตนี้ก็เป็นได้

       เสร็จแล้ว เขาก็หันหลังให้ อันนี้กูไม่เถียง ที่กูทำแบบนี้ เพราะกูทำเพื่อความสุขของมึงนะโอ๊ค กูไม่ได้อยากทิ้งมึงไปเลยสักนิด แต่เพื่อชีวิตคู่ที่ปกติของมึงกับแนน กูต้องทำ แล้วอีกอย่าง กูกลัวมึงทิ้งกู ในวันที่กูรักมึงสุดหัวใจ ถึงตอนนั้นกุจะอยู่อย่างไง

       เจ็บแล้ว ทำไมเธอไม่เคยจำ ประโยคนี้กูน่าจะเป็นคนพูดมากกว่า กูเจ็บกับมึง แต่ไม่เคยจำ กอดคนมีเจ้าของแล้ว มันเจ็บวะ เจ็บเพราะกูไม่รู้ว่า กูกับมึงคบกันในฐานะอะไร ถ้าวันไหนที่มึงไม่ให้กูกอด แล้วกูจะกอดกับใคร เพราะกูไม่มีใคร เหมือนกับมึง ที่มีแนน

     >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

 

    “ลุกไปอาบน้ำดิ จะได้ออกไปกินข้าว”

 

    “ขอนอนต่อแปบ”

 

   “ไม่ได้นี้จะสิบโมงเช้าแล้ว กูหิว”

 

          เผลอหลับไปแปบเดียว ตื่นมาเพราะโดนไอ้โอ๊คปลุก ดึงให้ลุกขึ้น นี้สิบโมงเช้าแล้วหรอวะเนี้ย ไอ้หัวเกรียนขี้งอนทั้งดันทั้งดึงผม ให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำ พอแต่งตัวหล่อเสร็จแล้ว มันก็ชวนขี่รถออกไปหาอะไรกินกันข้างนอก โดยมีผมเป็นคนขี่ให้มันซ้อน

 

    “โอ๊ค กูรู้สึกว่า มึงจะชอบซ้อนท้ายรถกูนะ”    ผมถามมันระหว่างทางขณะที่ผมขี่รถโดยมีมันซ้อนอยู่ข้างหลัง

 

    “เออ มันสบายกว่าขี่เองตั้งเยอะนี้หว่า มึงรู้อะไรไหม เนี้ย มีที่อุ่นๆให้กอด มีไหล่ให้วางคอสบายๆ มีแผ่นหลังให้ซบ หลบลมได้ด้วยนะ เวลาลมพัดแรง แถมเวลาง่วงก็หลับได้”

 

    “มิน่า มันดีอย่างนี้นี่เอง มึงถึงยืนรอกู เช้าเย็น”

 

    “เชี้ย มึงรู้ สัด”

 

    “ฮาๆ”

 

          แม้จะไม่ได้เห็นหน้ามันเวลานี้ แต่ก็รู้ว่ามันคงกำลังเขินหน้าแดง อยู่เป็นแน่ มันทุบหลังผมเบาๆก่อนจะกอดแน่น เอาหน้าแนบเข้ากับแผ่นหลังผม โอ๊คมึงไม่รู้หรอก ถึงกูจะไม่ได้มาหามึง แต่กูก็แอบดูมึงอยู่จากที่ไกลๆตลอด และก็เพื่อความความปลอดภัยของมึง กูก็ได้ทำในเรื่องที่คนอื่นมองว่าโง่ ถึงอย่างงันกูก็ไม่สนวะ สำหรับมึงแล้ว กูไม่แคร์ ว่าใครจะพูดอะไร แค่ได้ทำให้มึง กูก็พอใจแล้ว

 

    “จอดๆ ร้านนี้แหละ เจ้าประจำกู อร่อยใช้ได้”

 

    “สู้ร้านที่เอ็มเอ็มซีไอ้ปะเหอะ ไปกินนู้นกันไปปะ ขี่รถไปอีกแปบเดียวเอง”

 

    “เอาน่า แดกได้ก็พอแหละ อย่าเยอะ กูรู้หรอก อยากพากูไปเอ็มเอ็มซีละสิ”   มันหันมาดึงแขนผม ให้เดินตามมันเข้ามาในร้าน

 

    “แสนรู้ตลอด โง่บ้างก็ได้”

 

    “ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ กูยังโง่ไม่พอรึไง” มันหันคับมาแวดใส่ผมทันที

 

       มันให้ผมจอดรถร้านอาหารตามสั่งข้างทาง ดูยังไม่มีคนเท่าไร เพราะยังไม่ใช่เวลาเทียง เราเข้ามานั่งริมในสุด ที่นี้บรรยากาศใช้ได้ แม้จะไม่ติดฝั่งทะเล ซึ้งอยู่อีกด้านของถนน แต่ร้านสะอาดน่านั่ง ลมเย็นๆจากทะเลพัดมาเป็นระยะๆ เสียงกรุ่งกริ่งจากโมบายเปลือกหอยสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติก เหมาะสำหรับหนุ่มสาวมานั่งจีบกัน ก็ว่าไป ฮาๆ

 

    “ออย มึงกินไร เดียวสั่งให้”   มันนั่งมองอ่านเมนูแล้วถามผม

 

    “เอาเหมือนมึง”

 

    “อ้าว มึงรู้หรอ ว่ากูกินอะไร แล้วมึงจะกินได้หรอ”   มันเงยหน้าขึ้น ละสายตาจากเมนู มามองผมแทน 

 

    “รู้ ไอ้โอ๊คมึงกินเป็นอยู่อย่างเดียว ข้าว หมู กระ เทียม”

 

         มันทำหน้าสงสัย ตาแป้วๆหัวเกรียนมองแปลกๆ รอฟังคำตอบจากผม ก่อนที่ผมพูดเสียงลากยาว ว่าอาหารที่มันชอบกินประจำคืออะไรแล้วตามที่คาดมันทำหน้างอนนิดๆ เขินหน่อยๆ ก่อนจะชี้หน้าต่อว่าผมเบาๆ

 

    “เชี้ย ออย มึงตามแอบดูกู จนรู้แม้กระทั่งอาหารการกิน โรคจิตละมึง”

 

    “แล้ว กูยังรู้อีกว่า มึงชอบกินกุ้ง แต่ไม่ชอบแกะกุ้ง แล้วแฟนมึง แนนอะ เขาจะแกะให้มึงกินตลอด”

 

    “เชี้ย มึงรู้ขนาดนั้นเลยหรอวะ”

 

    “เออ”

 

    “โรคจิตโคตรๆสัด”

 

        มันมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง ทำหน้างอนหน่อยๆ ก่อนมันจะแอบเตะขาผมที่อยู่ใต้โต๊ะ ผมทำตาเจ้าเล่ห์กวนๆใส่ ชี้หน้ามัน ก่อนเตะคืนอย่างไม่ยอม จนเกิดสงครามเล็กๆใต้โต๊ะ ระหว่างรออาหารมาเสริฟ์

 

    “มึงยังรู้อะไรอีก เกี่ยวกับตัวกู บอกมาเลย สัด”

 

    “รู้หมดแระ กูไปสืบมาหมดแล้วทุกเรื่อง หลังจากที่กูเปิดชิงหลังบ้านมึงคืนนั้น ฮาๆ”

 

    “เชี้ยออย มึงนี้สุดๆ โอ้ยกูพลาดแหละ”

 

       แล้วหน้ามันก็แดงแปร๊ด ไม่รู้ว่าโกธรหรืออาย ชี้หน้าผม พออาหารมาเสริฟ์ มันรีบก้มหน้าก้มตา ตักข้าวหมูกระเทียมเข้าปาก กินข้าวไปเงียบๆ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาเหมือนทุกครั้ง ที่มันมักจะคอยส่งยิ้มหวานมาให้ตลอด จนผมต้องเตะขาสะกิดมันเบาๆ

 

     “โอ๊ค มึงเป็นไร แค่นี้ก็โกธรด้วยหรอ”

 

     “เปล่า”

 

     “เปล่า แล้วเป็นไร อย่าทำหน้าอย่างนี้สิ”   ผมอ้อนมัน ส่งสายตาให้มันเห็นใจ

 

     “ไม่ได้โกธรมึงจริงๆ แค่โกธรตัวเอง กูไม่รู้เรื่องมึงสักอย่าง”   มันถอนหายใจแล้วพูดกับผมแบบซีเรียด

 

     “รู้ว่ากูชอบมึง แค่นี้ก็พอละ เรื่องอื่นไม่จำเป็นหรอก”   พูดแล้วยิ้มหวานให้มัน

 

    “เชี้ย ตลอดมึง น้ำเน่า”

 

          มันด่าผมออกมาสั้นๆ แล้วหน้าแดงเขินขึ้นมาอีก จนแทบสำลักข้าวออกมา ผมรีบส่งน้ำให้มัน คนเหี้ยอะไรน่ารักไปหมด แม้กระทั่งกินข้าวกินน้ำ ยิ่งผมอยู่กับมันมากเท่าไร ยิ่งรู้ใจตัวเองมากขึ้นเท่านั้น ว่าผมรักมันจริงๆ อยากปกป้องดูแลมัน อยู่กับมันแบบนี้ตลอดไป แล้วมันจะคิดอย่างไงกับผมนะ

 

    “แล้วแนนไปไหววะ วันนี้มึงไม่ต้องไปหาเขาหรอ”

 

    “อยู่กับกู แล้วถามหาแฟนกูเพื่อ”   มันมองหน้าผม อย่างสงสัยและหาคำตอบ

 

    “เปล่า แค่เห็นมึงกับแนนอยู่ด้วยกันตลอด เลยแปลกใจ ถามไม่ได้หรอ”

 

    “หรอ กูนึกว่ามึงคิดอะไรกับแฟนกู คิดไม่ชื่อกับกู ระวังโดนนะมึง” มันพูดเป็นจริงเป็นจัง

 

     “หรา มึงหึงหรอ อย่างนี้แล้ว มึงหึงกู หรือ หึงแนน อะ”   จนผมอดแปลกใจไม่ได้ ว่ามันหวงใครมากว่า ระหว่างผมกับแนน

 

    “เชี้ย ออย มึงกวนตีนตลอด สัต อยากให้กูอกแตกตายรึไง”

 

    “อ้าวกูก็แค่อยากรู้ ว่ามึงหึงกู เพราะกูจะไปชอบแนนแฟนมึง หรือหึงเพราะกูจะนอกใจมึง”

 

    “ค_ว พอเถอะ กูไม่เล่นด้วยแล้ว”

 

         มันพูดออกมาแค่นั้น แล้วไม่ตอบอะไรอีก ทำหน้าลังเล เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ผมเองก็เล่นไม่คิด แค่อยากแหย่ให้มันอารมณ์ดี แต่กลับไปจี้จุดให้มันคิดมากไปกว่าเดิม มันวางช้อนลง เหมือนคนกินอิ่มแล้ว แต่ข้าวยังเหลือเต็มจาน เอาแล้วเชี้ยออย เล่นจนได้เรื่อง

 

     “ออย มึงว่ากูเห็นแก่ตัวปะวะ”

 

      “เรื่องอะไร ของมึง เมื้อกี้กูพูดเล่น อย่าคิดมากน่า”

 

      “เปล่า ไม่ใช่เรื่องเมื่อกี้ กูแยกแยะออกน่า หันไหนเล่น อันไหนจริง”

 

      “แล้ว คือ”

 

      “กูมีแนนอยู่แล้ว กูรักเขามาก ทั้งห่วงทั้งหวงเขามาก เวลามีใครมาเกาะแกะ มามองแนนกูจะบ้ามาก หึงโดยไม่มีเหตุผล จนกูคิดว่ากูรักแนนเขาคนเดียว รักมาก แต่อยู่ๆพอมีมึงเข้ามา กูก็อยากได้มึงไว้อีกคน อยากหวงมึงไว้เป็นของกูคนเดียว กูว่ากูมันเป็นคนเห็นแก่ตัว พอเจอแนนกูก็คิดว่ากูรักเขา อยากปกป้องดูแลเขาตลอดไป แต่พอได้มาอยู่กับมึง กูก็อยากให้มึงมาปกป้องกู มาชอบกู อยากได้มึงมาดูแลกูตลอดไปเหมือนกัน ฟังดูมันอาจแปลกๆ แต่มันเป็นความรู้สึกของกูตอนนี้วะ ถ้ามีใครสักคนบอกให้กูต้องเลือก ระหว่างมึงกับแนน กูก็ยังไม่รู้เลย ว่ากูจะเลือกใคร”

 

         ไอ้โอ๊คมันพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง มันเน้นทุกคำพูด เพื่อให้ผมเข้าใจ ในสิ่งที่มันพยายามกำลังจะสื่อกับผมมากที่สุด  ดวงตาของมันมีน้ำตาเริ่มคลอเป้าออกมานิดๆ จนเหมือนมันกำลังจะร้องให้ ผมไม่รอช้า เอื้อมมือไปลูบที่ใบหน้าของมัน เพื่อปลอบโยน เอานิ้วโป้งปาดเช็ดน้ำตาที่มันเล็ดออกมาจากดวงตาข้างหนึ่ง แล้วจับมือมันไว้ อยากให้มันรับรู้ไว้ว่าผมจะเข้าใจมันเสมอ  โดยไม่สนใจคุณป้าเจ้าของร้าน ที่มองมาด้วยความสงสัย

 

     “ไม่เป็นไร กูไม่เคยบอกให้มึงเลิกกับแนนสักหน่อย กูเข้าใจมึงนะ ว่ารักสักคนมันเป็นอย่างไง”

 

    “มึงไม่เข้าใจหรอก เวลาอยู่กับมึง กูไม่เป็นตัวของตัวเอง อยู่ๆกูกลายเป็นอ่อนแออย่างที่ไม่น่าจะเป็น กูชอบอ้อนอยากให้มึงกอด อยากทำตัวน่ารักให้มึงชอบ แล้วก็ ไม่อยากให้มึงไปไหนไกลๆ”

 

    “กูก็อยากอยู่กับมึงนะ ไม่มีสักวันที่กูจะไม่คิดถึงมึง มึงจำได้ไหม เมื่อก่อนกูเคยบอกมึงว่า ไม่รู้หรอก คนดี คนไม่ดีเขาทำกันอย่างไง แต่พอได้มาอยู่ไกล้ๆมึง กูกลับอยากเป็นคนดี อยากทำให้มึงมีความสุข อยากให้มึงภูมิใจในตัวกู แบบนี้ แบบที่กูไม่เคยเป็นมาก่อน”

 

     “จริงหรอ”   น้ำเสียงมันแจ่มใสขึ้น อย่างเห็นได้ชัด

 

     “จริงดิวะ มึงไม่เชื่อหรอ ” 

 

     “เออ เชื่อก็ได้”

 

     “เชื่อแล้ว ก็กินข้าวให้หมดนะ ของโปรดมึงเลยนะเนี้ย ไม่เสียดายหรอ“

 

          แล้วมันก็ยิ้มออกมาจนได้ ตักข้าวเข้าปากต่อ แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างเป็นสุข ยิ้มหวานๆปนคราบน้ำตาส่งมาให้เหมือนเดิม ผมเองก็บ้า ทำอะไรบ้าๆมาตั่งแต่ต้น เมื่อก่อนไม่เคยสนใจอะไร  อย่าทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ ใช้ชีวิตตามประสาเด็กช่างกลไปวันๆ โดยไม่สนใจว่าใครจะว่าอย่างไง จะว่าดี จะว่าเลว ช่างหัวพวกคุณสิ แต่พอมีมันเข้ามาใช้ชีวิต ความคิดของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป

 

      “เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ สองหนุ่ม”

 

      “เปล่าครับ ไอ้นี้มันซุ่มซ่าม ทำน้ำปลาพริกเข้าตาตัวเอง ดูสิครับป้าร้องให้ใหญ่เลย”

 

      “ไอ้ออย”   มันทำหน้าตึงใส่ผม

 

      “ป้าก็นึกว่าเป็นอะไร นี้จ๊ะกระดาษทิชชู”

 

      “ขอบคุณครับป้า”

 

           ป้าเจ้าของร้านถือกล่องกระดาษทิชชูเข้ามาให้ พลางถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ผมได้โอกาสเอาคืนมันบ้าง จากที่มันเคยบอกแม่มันตอนเข้าบ้านมันครั้งแรก ว่ามัวแต่เดินมองสาวไม่มองทางจนเดินชนเสา มันมองหน้าผมด้วยความอาฆาต แต่ผมกลับยิ้มหวานให้มันแทน

 

      “โอ๊ค ไปขี่รถเล่นกันมะ”

 

     “อืมไปดิ วันนี้ไม่มีอะไรทำอยู่ละ”

 

     “ขี่วนรอบบางแสน แล้วขึ้นเขาสามมุกไหว้ขอพรเจ้าแม่ แล้วขี่รถเล่นแถวนั้นสักรอบ แล้วไปหาที่นอนเล่นแถวหาดวอนนภานะ”

 

      “เอาดิ ตามใจมึงละกัน แต่คืนนี้ไม่ให้กลับบ้านนะ พรุ่งนี้ด้วย”

 

     “อ้าวชะงัน ทำไมวะ มึงยังคิดถึงกู ไม่พออีกหรอ”

 

     “เชี้ย คิดแต่เรื่องลามก ไม่รู้ละ กูมีเรื่องจะพูดกับมึงด้วย”

 

     “อ้าว พูดวันนี้ก็ได้นี้ มีอะไรอยากบอกกู เป็นพิเศษหรอ”

 

     “เอาน่า กูยังไม่พร้อมจะพูดตอนนี้ ขอเวลากูทำใจอีกสักวัน”

 

          อะไรของมันวะ มันพูดแปลกๆเล่นเอาผมงง ไปหมด วันนี้รวมถึงเมื่อวานไอ้โอ๊คมันมาแปลกๆ มันแทบจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาผมตลอดทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อคืน คุยกันอยู่ดีๆมันก็ขึ้นมานั่งค้อมบนตักผม กอดผมไว้แน่นเบียดร่างอุ่นๆนุ่มๆของมันเข้าใส่ แถมเป็นฝ่ายจูบผมก่อนอีก เล่นเอาอารมณ์ผมแตกซ่าน จนควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ กอดร่างของมันไว้ด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ ก่อนจะวางร่างบางอันสั่นเทิ้มของมันลงกับที่นอน แล้วบรรจงมอบความรัก ความคิดถึงให้มัน ไปถึงสองรอบติดๆกันชนิดเอาให้หายคิดถึงกันไปเลย แต่ว่ามันก็ยังไม่พอใจ ยังไม่ยอมให้ผมไปไหนอีก ต้องนอนกอดมันไว้ทั้งคืน อะไรของมันนะ ไอ้โอ๊ค

                                                >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ติดตามตอนต่อไป ซึ้งจะเป็นตอนของ เจเจ โอ๊ค จะมาพูดเรื่องอะไรกับออยนั้น ต้องรอตอนหน้า นะคับ   

        Amม่ายติง…เพราะชีวิตติดเรท

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที11) 4/8/2016
«ตอบ #13 เมื่อ05-08-2016 01:41:08 »

          *รักซ้อน ซ่อนรัก*

  โดย เจเจ..โอ๊ค  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

  mmc ที่นี้..รัก…แรง…ตอนที่สิบสอง>>>*รักซ้อน ซ่อนรัก*

 


    “เออ ที่มึงถาม แนนไปไหน เขาไปรับของที่กรุงเทพวะ”

 

    “ของอะไรวะ”

 

    “หลายอย่าง แนนเขานำเข้าสินค้าจากนอกมาขาย ก็ของพวกเสริมความงามอะไรประมาณนั้น แล้วก็มีขนมด้วยนะ แต่ เห้ย นี้เลยกูแนะนำ คอลลาเจนเพียว นำเข้าจากญี่ปุ่น ขายดีสุดๆ”

 

   “หือ”

 

   “กินแล้วหล่อนะมึง สนใจมะ ลองดู กันเอง 250 มี60เม็ด ของแท้นะโว้ยไม่ผสม ไม่ทำให้อ้วน แถมมี อย.รับรอง กินแล้วหล่อเหมือนกู มึงดูสิ เห็นมะแฟนกูน่ารักขนาดไหน รู้จักทำมาค้าขายด้วยนะโว้ย ดีขนาดนี้ จะไม่ให้กูรักเขามากได้หรอ”

 

   “ค้าบ แนนเขาน่ารัก กูละงงจริงๆว่าเขามาชอบคนอย่างมึงได้อย่างไง ดอกฟ้ากับแมวน้ำชัดๆ”

 

   “ไอ้ออย”

 

   “ว่าแต่กูหล่อจนมึงหลงขนาดนี้ ยังจะให้หล่อไปกว่านี้อีกหรอวะ”

 

   “ค_ย เรื่องหลงตัวเองมึง อะที่หนึ่ง หน้ายังกะสันตีน หล่อตาย”

 

   “อาว ไอ้นี้ ปาก เดียวพะจับดูดปากโชว์คนทั่งหาดเลยดีมะ”

 

            ระหว่างที่เราสองคนขี่รถชมวิวไปรอบๆบางแสน เราสองคนพูดคุยกันเยอะขึ้น รู้จักกันเยอะขึ้น มันทำให้ผมรู้สึกคลายกังวลขึ้นเยอะ หลังจากที่ได้เปิดใจพูดคุยกับมันหลายๆเรื่อง จากคนที่ดูดิบๆเถื่อนๆอย่างมัน กลับเป็นคนที่เข้าใจคนอื่น อย่างไม่น่าเชื่อ อยู่กับมันแล้วผมรู้สึกดี และปลอดภัยเสมอ มันทำให้ผมกล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากจะพูด โดยเฉพาะเรื่องแนน

           วันนี้ทั้งวัน เราสองคนตระเวนเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ของชลบุรี เหมือนเป็นการออกเดทของพวกเราทั่งคู่ประมาณนั้น อันนี้ผมคิดเข้าข้างตัวเองคนเดียวนะครับ ไอ้ออยไม่รู้ว่ามันจะคิดแบบเดียวกับผมหรือเปล่า

           พอเราคุยกันมากขึ้น มันทำให้เราสองคนรู้จักกันมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะมัน รู้เรื่องของผมเกือบทั้งหมด ว่าชอบไปไหน กินอะไร จนมันคอยดูแลเอาอกเอาใจผมได้แบบชนิดที่ว่า มันทำอะไรให้ก็ดีไปหมด ถูกใจทุกอย่าง แต่ปกติผมก็เป็นคนง่ายๆไม่เรื่องมากอยู่แล้ว เป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย ไม่ต้องเอาใจผมมากก็ได้  แต่มันก็เอาใจผมสารพัด ยิ่งผมอยู่กับมันมากๆ ผมยิ่งหลงมันมากขึ้นไปอีก

       

   “ไอ้ออย มึงเรียนที่เทคโนปีสองแล้วช่ายปะ จบแล้วจะไปเรียนที่ไหนต่อวะมึง”

 

            ผมถามมันเพื่ออยากรู้เกี่ยวกับมันมากขึ้น เมื่อมันรู้เกี่ยวกับผมเยอะแล้ว ผมควรจะรู้จักกับมันบ้างเหมือนกัน ตอนนี้ผมกับมันซึ้งนอนอยู่บนเก้าอี้ชาดหาด ที่เรามาเช่านอนเล่นแถวบางแสนตรงหาดวอนนภา สั่งของกินนิดหน่อยกับน้ำอัดลมคนละขวด ก็นอนได้ทั้งวันละ ผมถามมันไปนาน กว่ามันจะหันหน้ามามองผม ทำท่าครุ่นคิดก่อนจะตอบ

 

   “กูคงเรียนต่อ ปวส ที่เดิมละวะ เพื่อนกูเรียนที่นี้เยอะ แล้วมึงอะจบมอหกแล้วจะไปต่อที่ไหน”

 

   “ยังไม่รู้เลยวะ ตอนแรก กะว่าจะไปต่อที่เดียวกับแนน แต่ไม่รู้ว่ากูจะทำได้หรือเปล่า กูมันโง่ ไม่เก่งเหมือนแนนเขาวะ”

 

   “แนนเรียนชลหญิงใช่ปะ ที่นั้นมีแต่เด็กเก่งๆทั้งนั้นเลยนี้หว่า มึงโชคดีนะนี้ ที่ได้เขามาเป็นแฟน อึม พูดถึงแฟน ที่จริงเมื่อก่อนกูก็เคยฝันร่วมกันกับเขานะ เราตกลงกันว่า เรียนจบแล้วมอปลายแล้ว จะไปต่อมหาลัยที่เดียวกัน ใช้ชีวิตร่วมกันที่นั้น แต่ว่ากูมันไม่รักดี เกเรจนเรียนช้าไปปีหนึ่ง ปานนี้เขาคงไม่มานั่งรอกูหรอก”

 

   “อ้าว เดียวนะ ตอนนี้กูมอห้าอายุสิบเจ็ด มึงบอกว่าเรียนช้าไปปีหนึ่ง งันมึงก็อายุมากกว่ากูสิวะ หมายความว่า มึงเป็นพี่กู”   ผมลุกขึ้น มองหน้าไอ้ออยที่นอนอยู่ข้างๆให้ชัด ๆหน้ามันแก่กว่าผมจริงๆด้วย พึ่งสังเกต

 

 

   “เออ ใช่ กูสิบแปดปีเต็มเมื่อเดือนที่แล้ว มิ.ย. ส่วนของมึงจะสิบเจ็ดเต็มวันที่..เดือนตุลา”   คนที่นอนอยู่ข้างๆพูดโดยไม่ได้หันมามองผมสักนิด

 

   “โห นี้มึงรู้แม้กระทั่งวันเกิดกูเลยหรอวะ แล้วอย่างงี้ กูต้องเรียกมึงว่าพี่ปะ”

 

   “อ้าว แล้วแต่มึงสิ แต่กูว่า มึงเรียกกูว่า ที่รัก จะดีกว่านะ”   ที่นี้มันไม่พูดเปล่า ลุกขึ้นมานั่ง ยิ้มหวานให้ผมเสียด้วย

 

   “สัด คนเยอะแยะ”

 

   “อะแน่ ไม่ปฏิเสธเลยนะมึง”   มันชี้หน้าผม แล้วยิ้มกวนๆให้อีกเหมือนเคย

 

          มันเล่นพูดแบบนี้ผมก็เขินสิ ปากจะเถียงว่าไม่ใช่กลับไป แต่มันเหมือนมีอะไรมาถ่วงอยู่ พูดไม่ออก ยอมให้มันได้ใจไปก่อนละกัน เอ้อ! จากตอนแรกที่มันดูจริงจังกับคำพูด และตั้งใจตอบคำถาม เมื่อผมถามเรื่องอนาคต แปลกใจเหมือนกันที่มันก็คิดเป็น 

         แล้วผมแอบตกใจนิดหน่อย ที่พึ่งรู้ว่ามันอายุมากกว่า แต่กลับเริ่มชินกับการที่มันรู้เรื่องผมทั้งหมด เราคุยกันวกไปวนมา มันก็ลงเอยด้วยการ พูดเข้าข้างตัวเองอีกเหมือนเคย  แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมไม่อยากรู้หรอกนะ เลยไม่ถาม ว่าชีวิตของมันผ่านอะไรมาบ้าง โดยเฉพาะเรื่องแฟน เห็นมันแอบถอนหายใจ ตอนที่เอ่ยถึงผู้หญิงคนนั้น ก็พอเดาได้ว่ามันคงผ่านความเจ็บปวดกับเธอมาเยอะผมเลยเลี่ยงที่จะพูดถึง ดึงประเด็นออกมา แล้วชวนมันคุยเรื่องอื่น

 

   “แต่กูก็ไม่ได้โทษเขาหรอกนะโว้ย ที่ทิ้งกูไปมีคนใหม่ เพราะกูมันไม่ดีเอง”

 

   “อ้าว ไอ้นี้ กูอุตสาห์พาหนีไปคุยเรื่องอื่น ยังวกกลับมาจนได้ อย่าคิดมาก ดิวะ “

 

   “กูก็อยากพยายามเป็นคนที่ใช่ แต่กูคงลืมไป ว่าคนที่ใช่ ไม่ต้องพยายาม มึงว่าปะ”   มันทำเสียงเศร้ามาก จนผมอดสงสารมันไม่ได้

 

   “อ้าว มึงก็พยายามทำดีให้เขาเห็นสิวะ”

 

   “จะแสนดีไปทำไม สุดท้ายเขาก็เลือกคนที่ใช่ ไม่ใช่คนที่แสนดี”

 

   “อันนี้ กูว่า มึงเริ่มกวนตีนกูละ”    ผมจึงหันตัวขยับเข้าไปทุบมัน ทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้

 

   “พึงรู้หรอ ฮาๆๆๆ”   มันหัวเราะ แล้วจับมือผมไว้ อย่างรู้ทัน

 

   “เชี้ย ออย กู เกลียดมึง”

 

   “ยิ่งเกลียด ก็ยิ่งรักนะโว้ย”

 

       ดูครับดูความเจ้าเล่ห์ของไอ้ออย ไอ้ผมก็คิดว่ามันจริงจัง ก็อยากปลอบให้มันไม่ต้องคิดมาก ที่ไหนได้มันก็หลอกกวนประสาทผมเล่น คนอะไร กวนได้กวนดี จนผมไม่รู้จะว่าอะไรมันแล้ว เลยทำหน้างอใส่มันชะเลย

 

   “โอ ไม่โกธรนะที่รัก”

 

    “ที่รัก พ่องมึงดิ ”

 

   “แค่นี้ก็ด่าพ่องด้วย เมียนิสัยไม่ดีเลยนะ พูดกับผัวไม่เพราะเอาวะเลย”   มันขยับตัวเข้ามาไกล้ผมเรื่อยๆ

 

   “ไอ้ออย เชี้ย ผัวอะไร เมียอะไร เห้ย” ผมหันไปว่ามัน แต่ต้องตกใจ เพราะมันยื่นหน้าเข้ามาไกล้มาก จนจมูกมันแทบจะชนเข้ากับแก้มผม

 

   “หน้าแดงใหญ่เลย โกธรหรืออาย วา ฮาๆ”

 

   “พอแล้ว หยุด หยุด เลย มึง”   ว่าแล้วผมต้องรีบขยับหนีมัน กลัวมันจะหอมแก้มผมโชว์คนทั้งหาด ถ้าเกิดมันทำแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ ผมคงไม่กล้ามาแถวนี้อีกนาน

 

       พอมันเริ่มจับจุดผมได้ ว่าผมจะไม่โกธรมันด้วยคำพูด เล็กๆน้อยๆเหล่านี้ มันก็เอาใหญ่ ผมก็ยอมรับตรงๆว่าเขินนะ อยู่ๆมีผู้ชายมาเรียกว่าที่รัก ขนลุกเลย แถมมันยังตบมุกเรียกผัวเรียกเมียอีก โห้ย โอ๊คตายแน่มึง อย่าให้ใครมาได้ยินได้เชียวนะ

               >>>>>>>>>>>>>

 

    “อ่าไอ้พี่ออย นี้ไม่ใช่ทางกลับบ้าน กะกู โอ๊คนิ ”

 

    “เดี่ยว ว่าอะไรนะ ฟังไม่ชัด”

 

          ระหว่างที่เรากำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน หลังจากเทียวเตร่มาทั้งวัน จนจะมืดค่ำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แต่เส้นทางที่มันพาผมมุ่งไป ไม่ใช่ทางกลับบ้านผม  ผมเลยจำใจต้องถามมันด้วยความสงสัย แต่มันกลับหยุดรถข้างทาง หันหน้ามามองผม เพราะมันคงแปลกใจในสรรพนาม ที่ผมใช้เรียกมันกับตัวเอง ผมเลยตอบมันไปด้วยอาการเขินๆ

     

    “โอ๊ค ถาม ว่า พี่ ออย จะพาโอ๊คไปไหน นี้ไม่ใช่ทางกลับบ้าน โอ๊ค”

 

    “เดี่ยวๆ พูดอะไร หึ ฮาๆ”   มันยิ้มกวนทีนให้อีกละ

 

    “ก็นายเป็นพี่ เราก็ควรจะเรียกให้มันดีหน่อย งง อะไรเล่า”

 

    “ก็เปล่า อยากให้เรียก ที่รัก มากกว่า”   ก่อนจะโดนมันอ้อนเข้าให้ ปากหวานสิไอ้นี้

 

   “ไม่อาว”

 

   “งัน ผัว”

 

    “พอเลย เรียกพี่ก็ดีตายห่าแล้ว”

 

    “ฮาๆๆ ครับผม พี่ก็พี่ ตามใจน้องโอ๊คนะคับที่รัก”

 

    “แหวะ ที่นี้ก็ตอบมา จะพาไปไหน”

 

    “ก็โอ๊คบอกไม่ให้กลับบ้าน กู เห้ย ออยก็เลยพาโอ๊คไปบ้านด้วยซะเลย”

 

          มันพูดแค่นั้นก็พาผมขี่รถ ออกมาเฉย โดยไม่สนใจว่าผมจะพูดอะไรอีกตามเคย นิสัยเอาแต่ใจของเจ้านี้ท่าจะหายยาก อยากทำอะไรก็ทำ  แต่ผมก็มีวิธีกำหลาบเขาให้อยู่หมัดได้แล้วละ จุดอ่อนของเขา ผมรู้หมดแล้วว่ามีตรงไหนบ้าง ฮาๆ

 

   “เห้ย เดียว แล้วที่บ้านโอ๊คอะ แม่จะว่า ยังไม่ได้บอกแม่เลย”    ผมยื่นหน้าวางคอตรงบ่ามัน แล้วถามที่ข้างหูเลย จะได้ไม่ต้องตระโกน

 

    “เราจัดการโทรไปขอแม่นายให้แล้ว ก่อนจะออกมานี้ ว่าคืนนี้นายจะไปค้างบ้านเรา นายไม่ต้องห่วง แม่นายอนุญาต”   มันหันมาพูดกับผมแวบหนึ่ง แล้วหันหน้ากลับไปมองทางข้างหน้าต่อ

 

          โห่ดูมันสิคับ จัดการ ให้ไปหมดเสร็จสรรพ ผมคงถูกมัดมือชกไปไหนไม่ได้เสียแล้วคืนนี้ พลาดอีกแล้วไอ้โอ๊ค  แล้วมันก็ขี่รถพาผมมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากละแวกแถวเอ็มเอ็มซีเท่าไรนัก บ้านมันหรูหรามีราคากว่าบ้านผมตั้งเยอะ แถวนี้บ้านคนมีกะตังค์อยู่กันทั้งนั้นนี้หว่า บ้านมันเงียบกริบเหมือนไม่มีคนอยู่ มันพาผมขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน ตรงเข้าไปที่ห้องนอนของมันเลย เตียงใหญ่กว่าของผมอีก น่านอนดี เสียแต่ห้องมันรกไปหน่อย อย่างที่มันพูดจริงๆห้องมันรกกว่าห้องผมเยอะ ช่วยมันเก็บหน่อยก็ดี ผมคิดอย่างนั้นเลยลงมือจะเก็บ

 

   “ไม่ต้องเลย โอ๊คมานั่งนี้นะ”   มันดึงแขนผมให้มานั่งลงที่เตียง

 

   “เดี่ยวช่วยไง”

 

   “ไม่ต้อง”

 

           แต่มันก็ห้ามผมไม่ได้อยู่ดี ผมกับมันช่วยกันเก็บของจนเสร็จ แล้วมันก็ชวนผมอาบน้ำด้วยกัน เรื่องอะไรผมก็ปฏิเสธสิคับ แต่ก็นั้นแหละ สุดท้ายก็ขัดใจมันไม่ได้อยู่ดี มันดึงผมเข้าห้องน้ำ แล้วจับผมถอดเสื้อผ้าจนหมด ของมันด้วย จนเราสองคนเปลือยกายลอนจ้อน มันออกจะแปลกๆ นี้เป็นครั้งแรกที่เราอาบน้ำด้วยกัน

 

   “อายอะไร ของมึง เห้ย ของโอ๊ค อะไรๆของนาย เราก็เห็นหมดละ” มันพูดได้หน้าตาเฉย เหมือนไม่คิดอะไรจริงๆ

 

   “เปล่าแค่มันแปลกๆ อีกอย่าง ออย เราว่าเราเรียกกันเหมือนเมื่อก่อน ดีกว่ามะ ถ้านายไม่ถือ”

 

   “ก็ดีวะ มันแปลกๆ ฮาๆ พูดกูมึงอะ ฟังดูมันสนิทดี”

 

         มันกับผมอาบน้ำล้างตัวสระผมให้กันและกัน แม้ผมจะรู้สึกเขินอายไปบ้าง แต่ก็เริ่มชินกับเรือนร่างของมันมาสักพักหนึ่งแล้ว ระหว่างนั้นไอ้ออยมันเปิดน้ำจนเต็มอ่างอาบน้ำ มันบอกแช่น้ำอุ่นหน่อยก็ดี เมื่อคืนมันโดนฝนมาด้วย แถมวันนี้ตะลอนขี่รถไปทั่ว ปล่อยไว้จะเสียสุขภาพ ไม่สบายเอา ในอ่างน้ำใสๆมีควันลอยขึ้นมาน่าลงไปแช่อย่างมาก พออาบน้ำเสร็จ ผมค่อยจุ่มขาลงไป น้ำอุ่นๆกำลังพอดีเลย แต่ขณะกำลังนั่งลง ก็โดนเจ้าออยตัวดี ดึงผมลงไปกอดไว้อยู่ในอ้อมแขนของมัน แถมมันยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหอมแก้มผมทีหนึ่งอย่างแรง

 

   “อยากกอดโอ๊ค จนใจจะขาด” มันกระซิบที่ข้างหูผม แล้วหอมแก้มผมซ้ำรอยเดิมอีกที

 

   “ให้มันขาด ตายไปเลยสัด”

 

         ไอ้คนเอาแต่ใจกอดผมไว้ เข้ามาจากทางด้านหลัง หน้าของมันคลอเคลียอยู่ตรงบ่า คอยแต่จะเอาเปรียบผมด้วยการหอมไซร้จูบตรงซอกคอ แถมยังกอดรัดผมไว้ แนบชิดติดกายของมันไม่ยอมปล่อย

 

   “ไอ้ออย ไม่เอา” ผมดิ้นสะบัดเล็กน้อย

 

   “ไม่เอา ไม่เอา อะไร ดูสิ ตรงนี้ของมึงมันบอกว่า อยากให้กูกอดจะตายอยู่แล้ว”

 

        แล้วมันก็จับตรงที่สุดหวงสุดรักของผม มันแข็งขันอันเป็นเครื่องหมาย ที่ไม่สามารถโกหกความรู้สึกของตัวเองได้  ปากที่บอกว่าไม่ แต่ร่างกายกลับพร้อมตอบสนองไอ้ออยมันทุกครั้ง เมื่อโดนมันสัมผัส น้ำอุ่นๆกับกอดอุ่น ผสมรสจูบละมุนๆที่คอ มันทำให้ผมเคลิบเคลิ้มไปกับมันจนได้

 

   “ออย ไม่เอาตรงนี้ นี้มันในอ่างอาบน้ำนะ”

 

   “อยากไปที่เตียงหรอ”

 

   “อืม”

 

            จะให้พูดอะไรออกมาได้ เมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ใช่ว่าแต่ไอ้ออยมันเท่านั้นที่จะอยากกอดผม ผมเองก็อยากให้มันกอดจนใจจะขาด อารมณ์ความต้องการของเราทั่งคู่ เดินทางมาถึงขีดเกินความอดทนแล้ว

 

   “งันโอ๊ค มึงบอกมาก่อน ที่บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับกู มันเรื่องอะไร”

 

   “รอพรุ่งนี้ไง ยังไม่ถึงเวลา”

 

   “ไม่เอา ไม่รอ ถ้าไม่บอก ออยจะแกล้งทรมานโอ๊คอยู่ตรงนี้ละ”

 

   “อดใจรอหน่อยสิ พรุ่งนี้เอง”

 

            ไม่มีคำตอบจากมัน แต่ที่มันบอกว่าจะแกล้งทรมานผมนั้นมันทำจริงๆ หลายวันหลายครั้งที่มันได้กอดผม ทำให้มันรู้แล้วว่าจุดอ่อนของผมอยู่ที่ใด แล้วมันก็ทำจริงๆ จนผมผวาหวามวาบร้องครางออกมา

 

    “จะบอกได้ยังคับ ที่รัก” มันมองหน้าผม ยิ้มหวานให้ ทำเสียงอ้อน ก่อนจะก้มหน้าเข้ากับยอดอกผม

 

    “ไม่ อา อา ออย พอแล้ว”

 

          ผมพยายามอดกลั้นเป็นที่สุด แต่ก็เริ่มจะทนไม่ไหว มันเล่นละเลงลิ้นเข้ากับยอดอกของผม ไม่ยอมหยุด ก่อนจะสลับดูดเม้มเบาๆที่ยอดอกจนมันพอใจ ผมได้แต่ดิ้นพล่านอยู่ในอ้อมแขนของมัน ก่อนที่เจ้าคนเอาแต่ใจ จะละจากยอดอกของผม เงยหน้าขึ้นมาหอมแก้มผม หนึ่งฟอดใหญ่แล้วกระซิบที่ข้างหูอีก

 

   “เมียอย่าดื้อกับผัวสิ บอกมาเถอะ แล้วจะไม่แกล้ง หรืออยากให้ผัวทำแบบเมื่อกี้อีก”

 

    “อืม พอแล้ว บอกก็ได้”

         

        มันมองตาผมด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มชวนฝัน ยิ้มอ่อนๆละมุนของมันตรงหน้า ทำให้ผมรู้สึกเขินอายและเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก เราสองคนมองหน้ากันอยู่นาน จนความเงียบปกคลุมไปทั่วห้อง มีเพียงเสียงลมหายใจ กับเสียงของหัวใจที่เต้นแรงเป็นจังเหวะของเราทั้งคู่เท่านั้นในเวลานี้ มันคงถึงเวลาแล้วสินะโอ๊ค พูดไปเถอะ ไม่ว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร เราคงต้องทำใจยอมรับฟังสินะ ผมยิ้มหวานน่ารักๆให้มัน ก่อนจะสอดมือทั้งสองข้างเข้าไปสวมกอดมันไว้ ซบใบหน้าแนบเข้ากับซอกคอแถวอกของมัน ไอ้ออยมันจูบตรงหน้าผากผมด้วยความรัก ก่อนจะกอดผมไว้แน่นเช่นกัน

 

   “ออย พี่มานะบอกว่า กูควรจะต้องทำอะไรบางอย่างให้ชัดเจน เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมึงกับกู ปล่อยไว้แบบนี้ไปนานๆ มึงจะแย่ลงไปทุกวัน”

 

   “แล้ว”

 

   “พี่นะเขาบอกว่า คิดให้ดีๆถามใจตัวเองให้แน่ๆ แล้วเลือกเอา ระหว่างเลิก กับไปต่อ มันจะดีต่อทั่งสองฝ่าย ถ้าเลิกตอนนี้มันก็เจ็บแค่ครั้งเดียว แล้วจบ แต่ถ้าจะไปต่อ ก็ต้องระวังให้มาก อาจจะเจ็บหนักกว่าเดิมหลายเท่านัก แต่ของอย่างนี้ไม่ลองก็ไม่รู้”

 

   “แล้วมึงคิดอย่างไง”

 

           อยู่ๆมันก็กอดผมแน่น เนื้อตัวเริ่มสั่นเทา หัวใจเต้นตึกตักแรงขึ้นทุกขณะ ผมที่นอนกอดมันไว้รับรู้ได้ทันที แถมหน้ายังแนบอยู่ที่อกอีก จึงได้ยินเสียงเต้นของหัวใจมันชัดเจน  ผมจึงพูดต่อไปช้าๆ

 

    “ถึงมึงจะบีบให้กูรีบพูดก่อนเวลาที่กำหนด แต่เวลาสั้นๆเพียงเท่านี้ กูก็ตัดสินใจได้แล้วว่า ตัวกับหัวใจของกูในเวลานี้ มันต้องการเป็นของมึง อย่างไม่มีข้อแม้อะไร เหลือก็แต่มึงเท่านั้น”

 

       ผมพูดไปแล้ว นิ่งเงียบตัวสั่นเทา หัวใจเต้นแรงขึ้นมาทุกขณะ อาการไม่ต่างจากมันที่เป็นเมื่อครู่ ผมนิ่งแล้วตั้งใจรอฟังคำตอบจากมัน

 

   “หมายถึง มึงจะขอคบกับกูหรอวะ”

 

   “อืม”

 

          อาการตัวสั่น ตื่นเต้นของมันหายไป มันกลับมาเป็นปกติ แต่ผมเองที่กลับมีอาการดังกล่าวมากขึ้นทุกขณะ หัวผมเริ่มหมุน กลัวในคำตอบ กลัวความผิดหวัง แม้จะทำใจมาแล้ว ว่าอาจโดนปฏิเสธ แต่ก็กลัวอยู่ดี

     

   “กูก็นึกว่าเรื่องอะไร มึงทำให้กูคิดมากรู้เปล่า”

 

   “อะไร เล่า มึงก็พูดมาสิ จะเอาอย่างไง”

 

   “กลัว กูไม่ตกลงละสิ ตัวสั่นเลย”

 

         ผมได้แต่ก้มอยู่กับในอ้อมกอดของมัน รู้สึกว่าที่ใบหน้าตัวเองเริ่มร้อนผ่าว จากคำพูดของมันดูยียวนกวนประสาท จะเอาอย่างไงก็ไม่พูด แต่มันกลับดึงตัวผมขึ้นมา จับใบหน้าที่แดงกล่ำของผม เข้าไปไกล้หน้าของมัน จนปากเราแทบจะชนกัน

       

   “มึงชิงตัดหน้าขอกูคบก่อนแบบนี้ กูก็แย่สิ มึงรู้อะไรไหม วันนี้ทั้งวันกูก็คิดถึงแต่เรื่องมึง เมื่อใจของกูตัดรักจากมึงไม่ได้ ร่างกายของกูด้วย มันเรียกร้องอยากจะกอดแต่มึงคนเดียว ไม่อยากได้ใครอีกแล้ว เมื่อมันเป็นแบบนี้ กูว่า กูก็ไม่ควรจะฝืนความรู้สึกของตัวเองใช่ป่าว เมื่อตัดไม่ได้ ก็ต่อมันซะเลย ผิดถูก ก็ชั่งหัวมัน จะสนคนอื่นทำไม  แต่มีเรื่องหนึ่งที่กูลังเล เพราะติดแต่มึงก็มีแนนอยู่แล้ว จะทำอย่างไง ถ้ากูขอคบกับมึงแล้ว มึงปฏิเสธ กูก็คิดมากเรื่องนี้เหมือนกันวะ”

 

   “จริงหรอ มึงคิดอย่างนั้นหรอ ถ้ามึงไม่ว่าอะไร แนนเขาก็อยู่ส่วนของเขา มึงกับกูก็อยู่ส่วนของเรา เพราะสำหรับแนนกูคงทิ้งเขาไม่ได้ แต่กับมึงกูก็ทิ้งมึงไม่ได้เหมือนกัน มันเหมือนกูเห็นแก่ตัว แต่กูอยากให้มึงเข้าใจกูจะได้ไหม อย่าบีบให้กูต้องเลือก”

 

   “ทำไมจะไม่ได้เล่า กูเคยบอกมึงไปแต่แรกแล้ว กูยอมให้แนนเป็นเอก กูจะเป็นรอง เพราะกูมาที่หลัง มาแบบไม่ดีด้วย วันนั้นกูก็ไม่ได้พูดเล่นซะหน่อย ขอแค่ให้ได้อยู่กับมึงกูยอมได้นะ แต่กูยอมให้แนนคนเดียว ถ้ามีคนอื่นเข้ามาอีก กูไม่ยอมแน่ๆ”

 

   “จริงนะ แบบนั้นก็ได้ แล้วมึงคือ ตกลงเอาไง แบบว่า”

 

   “แบบอะไร โอ๊คมึงพูดไม่รู้เรื่องวะ”   มันทำหน้ากวนๆ แบบไม่รู้เรื่อง

 

   “ออย มึงโอเค กับกูใช่ไหม “

 

   “ไม่รู้สิ มึงโอเค กูก็โอเค”

 

   “ไม่เอา แบบนี้มันไม่ใช่ มึงรักกูหรือเปล่า จะคบกับกูได้ไหม”

 

          ผมสุดจะทน ความเจ้าเล่ห์มารยาเยอะของมันไหว ผมระเบิดอารมณ์แล้วพูดออกไปจนหมด   พูดในสิ่งที่ผมอยากได้ยินจากปากมัน อยากให้มันพูดความในใจออกมา เพื่อให้ผมมั่นใจได้ว่า มันรักผมจริงหรือเปล่า

 

   “ก็เท่านี้ พูดแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบละ อ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้”

 

   “เออ แล้วไง ตอบสักทีสิ กูเขินจะแย่แล้ว”

 

   “น่ารักจังวา นี้แฟนใครวะ อืม มึงฟังดีๆละ กูรักมึงนะโอ๊ค รักคนเดียว เป็นแฟนกับกูนะ”

 

          มันพูดจบแล้วก็เหมือนเคย มันไม่รอฟังคำพูดอะไรจากปากผมสักนิด ดึงตัวผมเข้าไปหาตัวมัน แล้วจูบผมอย่างกับจะกินผมเข้าไปทั่งตัว ผมกอดมันกลับด้วยหัวใจที่เป็นสุข ไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้วโอ๊ค ไม่ต้องกังวล ไอ้ออยมันยอมรับที่จะเป็นของผมเกือบสมบูรณ์แล้ว เหลือก็เพียงเรื่องแนน แต่เก็บไว้เอาไปคิดวันหลังละกัน วันนี้ในหัวปล่อยให้มีมันเพียงคนเดียวก็พอ 

 

   “อย่างนี้ผัวก็ต้องขออ้อนเมียคืนบ้างนะ เมื่อคืนเมียอ้อนผัวตั้งสองรอบแนะ”

 

   “ไอ้ออย ยังไม่แก่ก็บ้าตัณหาละ เดี่ยวอีกหน่อยเขาก็จะเรียกว่า ตาแก่บ้ากาม แล้วกูก็ไม่ยอมเป็นเมียมึงฝ่ายเดียวแน่ๆ สักวันกูจะเป็นผัวมึงบ้าง”

 

   “หรอ ไม่รู้ละ ก็ใครบอกให้เมียชอบอ้อนผัวจังละ แบบนี้เขาจะเรียกอะไรนะ มีความอ้อนผัว  ฮาๆ”

 

   “ไอ้ออย ตลอด มึงอะ”

 

            ผมทำหน้างอนใส่มัน ก็ผมเถียงไม่เคยเอาชนะมันได้สักทีนี้น่า คนอะไรก็ไม่รู้ บ้าชะมัด ทั้งกวน ทั้งเอาแต่ใจ และตามเคยมันไม่สนใจจะง้อคืนดีกับผมสักนิด แต่กลับอุ้มผมขึ้นจากอ่างอาบน้ำโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า จนผมต้องผวากอดคอมันไว้แน่น ก่อนมันจะพาร่างเปล่าเปลือยของเราทั้งคู่มุ่งสู่ห้องนอน แล้วว่างผมลงกับเตียงอย่างนุ่มนวล มันยิ้มหวานให้ตามเดิม ก่อนที่ผมจะยิ้มตอบกลับไปด้วยความเขินอาย นี้นะวิธีง้อกูของมึง เออกูยอม แล้วคงไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว มันโน้มตัวลงมาช้า ๆผมยกมือขึ้นไปกอดมันไว้ แสดงออกถึงความต้องการมันอย่างเต็มที่ ไม่อยากปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองอีกต่อไปแล้ว  อีกอย่างเมื่อมันบอกว่าผม มีความอ้อนผัว งันคืนนี้จะอ้อนจนเช้าเลย ดูสิจะอึดแค่ไหน จุดอ่อนของมึงอะกูก็รู้ดี อ้อนที่ไรก็ได้ตลอด ไม่เคย ไม่จัด  ออยมึงรักกูไปนานๆนะ ทิ้งกูเมื่อไร จะพาพวกเจเจไปกระทืบมึง ไอ้ออย

            >>>>>>>>>>>>>

                                     

   เหมือนจะจบ แต่ไม่จบนะคับ มันแค่เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง  ดังที่ว่า รักกันมันไม่ยาก แต่จะรักษาความรักให้อยู่กับเราไปนานๆมันยากยิ่งกว่า แล้วยังมีทั้งเจมส์ทั้งแนนอีก เรื่องยุ่งๆยังจะตามมาอีกเยอะ รอติดตามตอนต่อไปนะคับ

ออฟไลน์ Bsky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที12) 5/8/2016
«ตอบ #14 เมื่อ05-08-2016 02:54:31 »

ต่อๆ :o8:

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที13) 6/8/2016
«ตอบ #15 เมื่อ06-08-2016 00:53:48 »

โดย เอ็มเอ็มซี…เจมส์  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

 

mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบสาม>>>*ความหวัง ที่มากับความผิดหวัง*

 

 

“เห้ย ว่าไงวะเจมส์ ทำข้อสอบได้หรือป่าว”    เสียงของใครบางคนที่ผมคุ้นเคยดี  ร้องทักจากด้านหลัง

 

“พี่ออย”     ผมหันหลังกลับไปทันทีอย่างรวดเร็ว โดยไม่คิด ไม่ฝัน ว่าจะได้ยินเสียงเรียกที่สนิทสนมแบบนี้อีกครั้ง หลังจากหลายวันก่อน ที่ผมตัดสินใจพูดความในใจออกไป แล้วก็โดนพี่ออยต่อว่าอย่างรุนแรง จนผมแทบจะไม่มีหน้ากลับไปเจอเขาได้อีก

 

“เออ กูเอง ทำไมวะ” เขานั่งลงข้างๆผม ยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี อะไรของเขาวะ

 

“เรื่องเมื่อคืนนั้น ผมขอโทษนะพี่ ผม ผม”       ผมก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าสู้หน้าพี่เขาเท่าไร แต่เขากลับมองหน้าผม แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

 

“เออ กูไม่ว่ามึง ขอแค่มึงไม่คิดอะไรบ้าๆแบบนั้นกับกูอีก ก็พอ  ไอ้เจมส์ กูเห็นมึงเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับกูเสมอมานะโว้ย  กูเข้าใจมึง ว่ามึงหวังดี อยากให้กูหายเศร้า เลิกทำอะไรบ้าๆเทือกนั้นอีก มึงเลยคิดเสนอตัวทำอะไรบ้าๆเพื่อกู แต่ตอนนี้กูไม่เป็นแล้ว กูสบายดีเห็นมะ มึงกับพวกไม่ต้องห่วงกูแล้วนะ”

 

“คับพี่  ก็ดีคับ”   ผมยิ้มออกมาได้หน่อย ค่อยๆรู้สึกโล่งใจ ที่ยังไม่โดนพี่ออยเกลียด แต่ว่าเขาไปทำอะไรมานะ ถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้ดีมาก มากจนน่าตกใจ

 

“แล้วที่กูถามอะ ว่าไง”

 

“ถาม >> ถามอะไรคับ”   ผมทำหน้างงนิดๆ เพราะจำไม่ได้ว่าพี่ออยถามอะไรผม ด้วยกำลังรู้สึกดีใจ และ มีความหวังในตัวพี่ออยอีกครั้ง สองอย่างนี้กำลังวิ่งอยู่ในหัวสมองผม เพราะเอาแต่คิดถึงเรื่องนี้ จนทำให้ผมลืมเรื่องทุกอย่างไปชั่วขณะ

 

“อ้าว ไอ้นี้ กูถามว่า ทำข้อสอบได้ป่าว”   พี่เขาทวนคำถาม แล้วส่ายหัวให้ผม

 

“ฮาๆ เอ้อ  จะบอกว่าได้ทำ อะใช่ แต่จะทำได้ไหม ไม่รู้ ฮาๆ”   ผมเขินออกมาหน่อย ก่อนจะกลับไปคิดถึงเรื่องการสอบย่อยกลางเทอม ที่หลายวันมานี้เล่นเอาผมไม่ได้ไปไหน ตั้งใจอ่านหนังสือสอบ แต่จะว่าไป ทำข้อสอบได้ไหม บอกเลยคับ ว่าไม่ จะทำได้ไงละ จิตใจไม่มีให้อ่านหนังสือสักนิด

 

“มึงไม่เหมือนกูเลยวะ พอทำข้อสอบสอบเสร็จนะ กูนี้เตรียมตัวรอเลย ไม่ต้องลุ้นผลว่าผ่านไม่ผ่านให้เสียเวลา”   พี่เขาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ

 

“โห พี่แน่นอนขนาดนั้นเลย มั่นใจสุดๆ แสดงว่าพี่ทำข้อสอบได้หมดเลย”   ผมได้แต่มอง แล้วชื่นชมในตัวพี่เขา

 

  “เปล่า กู เตรียมตัวรอสอบซ่อม ฮาๆๆ”   ว่าแล้วเขาก็หัวเราะ ออกมาอย่างดัง

 

          พี่ออยคนเมื่อหลายวันก่อนหายไปแล้ว กลับกลายเป็นคนที่บ้าๆต๊องๆ ที่อยู่ตรงหน้าผมเข้ามาแทน เขาจะใช่คนเดียวกัน ที่จะต่อยผมวันนั้นหรือเปล่านะ ชักจะไม่แน่ใจแล้วสิ แต่พี่ออยในลุกซ์นี้ก็ดีไปอีกแบบน่ารักดี

     

“สอบเสร็จแล้ว มึงไปเลี้ยงฉลองกะกูปะเจมส์”

 

“ไปสิพี่”   ผมตอบกลับไปอย่างไว โดยไม่ลังเลสักนิด

 

“ดี สอบวิชาสุดท้ายเสร็จ มึงไปรอกูที่จอดลานรถข้างตึกนะ เออ ไม่ต้องบอกใครนะโว้ย เดี่ยวพวกนั้นได้แห่ตามไปด้วย”   พี่ออยเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม

 

           ว่าแล้วพี่เขาก็เดินขึ้นตึกไป ปล่อยให้ผมนั่งอ่านหนังสือ ที่อ่านยังไงก็อ่านไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว จะเพราะอะไรเล่า ก็เพราะพี่ออยเขานั้นแหละ อยู่ๆก็มาชวนไปเลี้ยงฉลองกันสองคน ปกติเคยที่ไหน มีแต่ผมเป็นฝ่ายชวน เอ๋ หรือ เพราะคำพูดของเราคืนนั้น แล้วพี่เขาเก็บเอาไปคิด แล้วเกิดเปลี่ยนใจ ขึ้นมา โอ้ย แค่คิดผมก็เขินแล้ว

        แต่ว่า เมื่อกี้ที่คุยกัน พี่เขาบอก ห้ามไม่ให้ผมคิดอะไรบ้าๆกับพี่เขา เอ มันอะไรกันแน่ หรือพี่เขาพูดไปอย่างนั้นเอง แต่ในใจคิดอีกอย่าง โอ้ย  อิอิ พอๆ อย่าคิดมากเลยวะเจมส์ แค่พี่เขากลับมาอยู่ข้างๆมึงก็ดีถมไปแล้ว เรื่องอื่นค่อยๆคิดไปละกัน อย่างน้อยโอกาสครั้งที่สองก็ยังมี แต่ครั้งนี้มึงต้องใจเย็นให้มากรู้ไหม สู้ สู้

                               >>>>>>>>>>>>>>>>

   

           พอสอบวิชาสุดท้ายเสร็จก็เป็นเวลาจะสี่โมง ผมมารอพี่เขาแค่แปบเดียว พี่เขาก็เดินลงมาจากตึก ผมขึ้นซ้อนท้ายรถพี่เขาอย่างไวโดยไม่ต้องบอก ด้วยเพราะผมตอนนี้ยังไม่มีรถเป็นตัวเอง ก็ด้วยความเกเรของผมเองแหละ ทำให้ผลการเรียนผมแย่เอามากๆ จึงโดนพ่อยึดรถไว้ เท่านั้นยังไม่พอ ไอโฟนของผมก็โดนยึดไปด้วย เหลือเพียงโทรศัพท์ราคาไม่กี่ตังค์เท่านั้นที่พกติดตัวอยู่ แต่ถ้าทำเกรดดีขึ้นในเทอมนี้ ทุกอย่างของผมจะได้กลับมา ไม่ใช่แค่ผมหรอกที่โดนแบบนี้ เพื่อนคนอื่นๆ รวมทั่งพี่ออยก็เช่นกัน ไปมีเรื่องมาบ่อยๆ หน้าแหกฟันหัก พ่อเขาต้องเสียเงินหลายหมื่นหรือหมดไปเกือบแสน เพื่อทำฟันให้พี่เขาใหม่ แถมโทรศัพท์ที่ได้ใช้ก็ยังไม่ต่างจากของผม แม้บ้านจะดูมีฐานะร่ำรวยก็ไม่ได้ช่วยอะไร นี้ละคับชีวิตเด็กช่าง ช่างต่างจากเด็กโรงเรียนอินเตอร์จริงๆ

        พี่เขาแวะไปส่งผมที่บ้าน บอกให้เปลี่ยนเสื้อผ้ารอ แล้วจะออกมาไกล้ๆจะหกโมง บ้านผมกับบ้านพี่เขาไม่ไกลกันนัก ก็อยู่แถวโต๊ะเอ็มเอ็มซี  แค่อยู่หมู่บ้านคนละโครงการเท่านั้นเอง พอถึงเวลานัด พี่เขาในชุดกางเกงยีนต์ขาสั้นแค่เข่า เสื้อยืดตัวโปรดก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าบ้าน  คนมันจะหล่อใส่อะไรก็หล่อ ว่าไหมคับ

 

“พร้อมยังวะ ไม่ต้องหล่อมากหรอกเชี้ย ไม่มีสาวนะโว้ยคืนนี้”    พี่ออยแซว ขณะที่ผมห่วงแต่แต่งหล่อให้ดูดีดูหล่อที่สุด กางเกงยีนต์ขายาว เสื้อยืดเพลย์บอยสุดเท่ ก็อยากให้พี่เขาประทับใจความหล่อของผมนี้ครับ เหนอะท่านผู้อ่าน

 

       ผมไม่โต้เถียงหรือพูดอะไร แค่ยิ้มให้พี่เขา แล้วกระโดดขึ้นที่ท้ายรถ เกาะเอวเขาไว้หลวมๆ แม้ใจอยากจะกอดเอวนั้นไว้แน่นๆ แล้วซบหน้าลงตรงแผ่นหลังนี้บ้าง แบบที่ไอ้โอ๊คมันทำ แต่ก็ไม่กล้า ถ้าทำแบบนั้นคงโดนพี่ออยลากลงมาจากรถ แล้วกระทืบตรงนี้แน่ๆ ทำไมนะเวลานี้ ผมถึงรู้สึกอิจฉาไอ้โอ๊คมันขึ้นมาได้  ใช่สิ แผ่นหลังตรงหน้าแค่เอื้อม แต่ไม่มีสิทธิ์ได้ครอบครองเป็นเจ้าของสักนิด

               >>>>>>>>>>>>>>>>

 

พี่ออยขี่รถพาผมมุ่งตรงไปทางบางแสน ด้วยถนนเส้นพระยาสัจจา แล้วตัดออกสู่ถนนอ่างศิลาเลียบชายทะเล ก่อนจะหักเลี้ยวไปทางเขาสามมุกขี่อ้อมเขาขึ้นไป แล้วพี่เขาก็จอดรถตรงจุดชมวิว ที่สวยที่สุดของถนนรอบเขาสามมุก ตรงนั้นมีผู้ชายร่างผอมบางคนหนึ่ง เขายืนดูพระอาทิตย์ตกดินอยู่

 

“เจมส์มึงรอแปบนะ”

 

      ว่าแล้วพี่ออย  ก็เดินเข้าไปหาเขาคนนั้น ทั้งคู่ทักทายกันอย่างสนิทสนม พูดคุยอะไรกันบางอย่างก่อนจะเดินมาที่รถ

 

“ไอ้โอ๊ค” ผมเอ่ยชื่อนั้นออกมาอย่างดัง ด้วยความตกใจ เมื่อมันเดินเข้ามาไกล้ ทำให้ผมเห็นหน้ามันชัดๆ

 

“อืม เจมส์ วันนี้เราจะไปฉลองกันสามคนนะ อย่างไงมึงก็รู้เรื่องกูกับไอ้โอ๊คมาบ้างแล้ว กูคงไม่ปิดบังอะไรมึงอีก  กูเชื่อใจมึงนะ ว่ามึงจะไม่พูดเรื่องของพวกกูสองคน แล้วก็กูอยากเลี้ยงขอบใจมึงด้วย ที่ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับมาโดยตลอดจนถึงวันนี้ อีกข้อเลยนะสำคัญ ถ้าไม่ใช่เพราะมึงในวันนั้น กูกับไอ้โอ๊คคงไม่ได้กลับมาคืนดีกันอย่างทุกวันนี้  ไป วันนี้มึงกินให้เต็มทีกูเลี้ยงเอง”   พี่ออยพูดเสร็จก็หันไปมองหน้าไอ้โอ๊ค ทั้งสองคนยิ้มให้กัน ก่อนจะจับมือกันต่อหน้าผมด้วย มันอะไรกัน เขากลับไปดีกับมันตอนไหน

 

“เราขอบใจนายมากนะ นายชื่อเจมส์ใช่ไหม”  ไอ้โอ๊คมันยิ้มให้ผมอย่างไมตรี ยิ้มกว้างๆจนเห็นเหล็กดัดฟัน แสดงออกถึงความจริงใจอย่างมาก แต่ผมสิครับ รู้สึกมีอะไรขึ้นมาจุกที่คอ รู้สึกหายใจไม่ออก เหมือนจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น น้ำตาปริๆจะไหลออกมา มันอะไรกันความรู้สึกแบบนี้

 

     ผมพูดอะไรไม่ออกหรอกตอนนั้น ได้แต่พยักหน้าให้มัน พยายามเก็บอาการให้มากที่สุด แล้วท่องไว้ในใจ ว่า ใจเย็น ใจเย็น เจมส์ ใจเย็น ในใจแม้อยากจะโทรหาไอ้เมสกับพวกใจแทบขาด ถ้าไม่ติดว่ามีพี่ออยอยู่ข้างๆมึงนะไอ้โอ๊ค กูจะกระทืบมึงให้แหลกคาตีนกูเสียตอนนี้ เสียดาย ผมทำได้เพียงแต่จ้องหน้ามัน

       แล้วพี่ออยก็ดึงแขนผมให้ขึ้นมาซ้อนท้ายรถเขา เอ๋ แต่ว่าไอ้โอ๊คมันจะไปอย่างไง ไม่เห็นมันจะมีรถมาสักคัน หึ มึงเดินไปเองละกันสัต แต่ผมต้องประหลาดใจ เมื่อพี่ออยขยับตัวดันผมกระเถิบมาด้านหลังอีกหน่อย ก่อนเขาจะอ้าแขนรับไอ้โอ๊ค ให้มันเข้ามานั่งข้างหน้า ไอ้ห่ารากนั้นยิ้มหวานให้พี่เขาก่อนจะนั่งลง ไม่พอเท่านั้น พี่ออยยังแอบหอมแก้มมันด้วย เมื่อมันอยู่ในอ้อมแขนพี่เขาแล้ว ผมได้แต่กำหมัดแน่น กัดฟัน แล้วข่มใจตัวเอง ท่องไว้ ใจเย็นๆเจมส์ มึงใจเย็น ถ้ามึงอยากได้พี่เขากลับมามึงต้องใจเย็นเท่านั้น อย่าพลาดเหมือนครั้งก่อน

       แล้วพี่เขาก็บิดคันเร่งรถมอเตอร์ไซค์ พาพวกเราสามคน ที่มีพี่ออยอยู่ตรงกลางเป็นคนขี่ ไอ้โอ๊คนั่งหน้า  ผมนั่งซ้อนหลังสุด  ออกจากตรงนั้น มุ่งตรงไปยังบางแสน เป้าหมายที่พี่ออยบอกตอนรถจะออกมาคือ แหลมแท่น

                        >>>>>>>>>>>>>>>>>>>

 

“กินเยอะๆ ดิวะ เจมส์ อย่าเอาแต่นั่งมอง”    พี่ออยที่นั่งตรงข้ามกับผม ที่นานๆจะหันมาสนใจผมบ้างสักที พูดกับผมขึ้นมา เมื่อพวกเราเลือกที่จะมานั่งร้านอาหารตรงแหลมแท่น ที่เขามีเสื่อกับโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆไว้คอยบริการ ให้นั่งทานอาหารริมทะเล บรรยากาศที่นี้ดีสุดๆ ขอแต่ฝนอย่าตกอย่างเดียวเท่านั้น

 

“นายอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า เดียวเราสั่งให้”    ไอ้โอ๊คมันพูดกับผมแล้วยิ้มหวานมาให้ มันนั่งอยู่ข้างๆพี่ออย อะไรของมันไอ้นี้ กูจ้องจะกระทืบมึงอยู่ละ ยังจะมายิ้มให้กูอยู่ได้

 

“เออ ว่าแต่มึงชอบกินอะไรวะ บอกกูมาดิเจมส์ เดียวกูจัดการให้”

 

“แค่ที่มีบนโต๊ะ ก็จะกินไม่หมดแล้วพี่ ไม่ต้องละ”  ผมฝืนยิ้มให้ทั้งคู่ ก่อนจะหาอะไรสักอย่าง ตักมาใส่จานตัวเอง

 

        เอ้อ  ขนาดคบหาเป็นเพื่อนกันมานานหลายปี ของที่ผมชอบกิน พี่ออยยังไม่รู้สักนิด ผิดกับไอ้โอ๊คแค่รู้จักกันไม่ถึงเดือน กลับรู้ไปหมดว่ามันชอบกินอะไร ของที่สั่งมาเต็มโต๊ะทั้ง กุ้ง ปู ยำ ต้มยำกุ้ง อะไรๆก็ของโปรดไอ้โอ๊คมันทั้งนั้น ผมกินไม่ลงเท่าไรหรอก ซดเบียร์ดีกว่าเยอะ

 

“โอ๊ค มึงค่อยๆทำดิวา มานี้กูทำให้”   ว่าแล้วพี่ออยก็ค่อยๆแกะเปลือกกุ้ง เสร็จแล้วก็แกะเนื้อปูขาวๆวางใส่จานแบ่งให้ไอ้โอ๊ค ผมเห็นแล้วหงุดหงิดสิหาย ไม่ตักป้อนมันด้วยชะเลยละ

 

“มึงก็กินบ้างสิ กูทำเองได้ กินไป”

 

“ไม่เอา กูอยากทำให้ มีหน้าทีกินก็กินไปเถอะน่า”

 

          อะไรกันสองคนนี้  ทำยังผัวเมียข้าวใหม่ปลามัน ออเลาะฉอเลาะกันอยู่ตลอด แปลกใจเหมือนกันที่เห็นพี่ออยทำแบบนี้ให้กับคนอื่น แม้แต่แฟนคนที่ผ่านๆมาเขายังไม่เคยทำให้มากขนาดนี้มาก่อน มึงทำเสน่ห์ใส่พี่ออยของกูหรือเปล่าวะไอ้โอ๊ค เขาถึงมานั่งแกะกุ้ง ตักอาหารใส่จานให้มึงตลอด คอยส่งแก้วน้ำให้ ลูบหลังเบาๆเมื่อมึงสำลัก แม้ผมจะแอบแช่งให้อาหารติดคอมันตาย แต่ก็ยักไม่เป็นไรสักที  มึงทำเสน่ห์สำนักไหนวะ ขนาดทำให้พี่ออยเขาราวกับเป็นเบ้ของมึงปานนั้น ไอ้โอ๊ค

 

  “สอบเสร็จแล้ว โอ๊คบอกจะให้รางวัลออย มันคืออะไรอะ บอกหน่อยสิ”

 

“มากินข้าวกับมึงไงออย แค่นี้ก็เยอะละนา รางวัลที่กูจะให้มึง”

 

“หะ มันใช่หรอวะ”

 

“ใช่ดิ วะ”

 

        สองคนนั้นยังคงออดอ้อนกันตลอดไม่มีหยุด ไม่แคร์สายตาผมสักนิด แล้วก็ไม่สนใจด้วยว่าผมกำลังทำอะไร เหมือนมาอยู่เป็นตัวประกอบฉาก อย่างไงอย่างงัน  ไอ้โอ๊คนะไอ้โอ๊ค พอมึงเข้ามาพี่ออยก็ไม่เคยสนใจกูเลย มึงมันมารหัวใจกูชัดๆ

         กูตงิดๆใจตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอมึงแล้วที่บางแสนวันนั้น กูเห็นนะมึงกับพี่ออย แอบลอบมองกันตลอด จนกูคิดว่ามีอะไรแปลกๆ ไม่คิดเลยว่าลางสังหรณ์ใจของกูก็เป็นจริง  เพราะอย่างนั้นวันนั้น กูเลยตั้งใจเข้าไปหาเรื่องมึง เพราะกูหงุดหงิดมึงกับพี่ออยนั้นแหละ อะไรกันก็ไม่รู้ แต่มึงก็ดันเสือกกลับไปก่อน น่าเสียดายจริงๆ ที่กูไม่ได้กระทืบมึงให้เละตั้งแต่วันนั้น ไม่งันวันนี้มึงคงไม่ได้มานั่งจู๋จี๋กับพี่ออยของกูอย่างนี้หรอก

 

“กลับกันเถอะ เหมือนฝนจะมาไล่แล้ว” เสียงไอ้โอ๊คดังขึ้นขณะผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ

 

“น้องครับ เก็บตังค์ด้วย”

 

          ว่าแล้วพี่ออยก็เรียกเด็กมาเก็บเงิน พี่ออยจ่ายคนเดียวทั้งหมด โดยไม่ยอมให้ผมกับไอ้โอ๊คช่วยจ่าย ทั้งค่าอาหารค่าเบียร์น่าจะเกือบสองพัน จากเวลาตั้งแต่หกโมงจนตอนนี้สามทุ่มกว่า ผมซดเบียร์เข้าไปเยอะพอดู บิลน่าจะแพงที่ค่าเบียร์ ฮาๆ

        เสียงฟ้าร้องแจ้งเตือนว่าฝนกำลังจะตกมาอีกในเวลาไม่ช้า บอกให้พวกผมเร่งรีบ ออกจากตรงนั้น และเหมือนเดิม ไอ้โอ๊คนั่งหน้า พี่ออยอยู่กลาง ผมนั่งหลัง อะไรวะ สองคนนั้นกระนุงกระนิงกันตลอด จนน่ารำคาญ พี่ออยหยิกที่แก้มไอ้โอ๊คเบาๆที่หนึ่งอย่างเอ็นดู เมื่อมันก้าวขาเข้ามานั่งอยู่ข้างหน้าเขา ก่อนที่รถพวกเราจะวิ่งมาตามถนนเรื่อยๆ สองคนข้างหน้าคุยกันไม่หยุด

 

“โอ๊คฝนจะตกแล้ว มึงนอนบ้านกูนะ คืนนี้”

 

“มึงวางแผนไว้แล้ว ใช่ไหมไอ้ออย”

 

“แผนอะไร ก็ไหนมึงบอกกูว่าสอบเสร็จจะให้รางวัลกูไง”

 

“รางวัลอะไร กูก็ไปกินข้าวกับมึงแล้วไง”

 

“ไม่เกี่ยวอันนั้นไปเลี้ยงไอ้เจมส์มัน กับเลี้ยงที่สอบเสร็จไง”

 

“กูไม่มีอะไรจะให้มึงหรอก รางวัลอะไรก็ไม่ได้เตรียมมาสักหน่อย”

 

 “มึงเตรียมมาแล้ว อยู่ตรงหน้ากูนี้ไง”

 

“ไอ้ออยนี้ มึงพอเลย พูดอะไร อายเจมส์เขามังสิ”

 

“ไม่รู้ละ กูสู้ทนไม่ได้กอดมึงมาตั้งหลายวันแล้ว ก็มึงบอกว่ารอให้กูสอบเสร็จก่อนไม่ใช่หรอ”

 

   สองคนที่อยู่ข้างหน้าพูดอะไรกันก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆพวกเรามาถึงหน้าบ้านผมแล้ว ฝนก็เริ่มปรอยๆลงเม็ดเล็กๆ หากขี่ไวสักหน่อย พี่ออยกับไอ้โอ๊คคงไปถึงบ้านก่อนฝนชุดใหญ่จะมา

 

“เป็นไงมังวะเจมส์ มึงสนุกเปล่า “    พี่ออยมองหน้าผม แล้วยิ้มให้

 

“อืม ก็ดีพี่”  ผมยิ้มรับ ด้วยกลัวเสียน้ำใจ

 

“แล้วไปกันอีกนะ”

 

“คับพี่”

 

“ไปก่อนนะเดียวไม่ทัน ฝนจะมาละ บายโว้ย แล้วเจอกันที่ซุ้ม”

 

 “บายนะเจมส์”    เจ้าคนที่น่าอิจฉาที่สุด มันอยู่ในอ้อมแขนพี่ออย โบกมือบายๆผม

 

           ผมยกมือบายๆให้กับพวกเขา ยืนส่งยิ้มให้ แม้ภายในใจจะเจ็บปวด แต่ก็ฝืนยืนส่งพวกเขา วันนี้อาจจะเป็นวันของมึงโอ๊ค แต่วันหน้ามันต้องเป็นวันของกูบ้าง สักวัน  แล้วสองคนนั้นขี่รถหายลับไป ก่อนฝนจะตกมาซู่ใหญ่ แต่ผมยังไม่อยากก้าวขาไปไหน ปล่อยให้ตัวเองยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนคนบ้า แล้วปล่อยน้ำตาที่อดกลั้นไว้มานานตั้งแต่เย็น ปล่อยให้มันไหลไปกับสายฝน

 

                            >>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ติดตามตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ Bsky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที13) 6/8/2016
«ตอบ #16 เมื่อ06-08-2016 13:23:30 »

ดีใจที่มาต่อนะคะ
ติดตามๆ

ออฟไลน์ done_dirt_cheap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที13) 6/8/2016
«ตอบ #17 เมื่อ06-08-2016 20:34:21 »

:pig4:
 รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
  :3123:

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที13) 6/8/2016
«ตอบ #18 เมื่อ07-08-2016 02:32:44 »


โดย เอ็มเอ็มซี..มานะ  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบสี่>>>*จะได้หรือไม่ ใช่อยู่ที่กูลิขิต แต่อยู่ที่ฟ้า*

 

 

“เป็นไงบ้างออย ทุกอย่างโอเค ใช่ไหม”    ผมนั่งลงตรงข้ามกับหนุ่มรุ่นน้องในแก๊งค์ ขณะเขากำลังเพลินกับกระเพราะปลาทู อาหารจานโปรดประจำเอ็มเอ็มซีของเขา

 

“อ้าว พี่มานะ หวัดดีคับพี่”  เขาเงยหน้าขึ้นมามอง พร้อมกับยกมือไหว้ แล้วยิ้มให้ผม อย่างยินดี

 

“สวัสดีครับ”   ผมยกมือมือรับไหว้ แล้วมองหน้าเขา เพื่อรอคำตอบจากคำถามแรก

 

“มันดีที่สุดเลยครับ เมื่อวาน ผมเข้าไปคุยกับไอ้เจมส์ แล้วพามันไปกินข้าวด้วยกัน มีผมกับโอ๊คแล้วก็มันอีกคน เราสามคนเข้ากันได้ดี”  พูดเสร็จก็ก้มลงไปสนใจอาหารจานโปรดต่อ

 

“แล้วเจมส์ มันเป็นอย่างไงบ้าง มีพฤติกรรมแสดงออกมาอย่างไง เล่ามา”   ผมยังชักต่อ เพราะสิ่งนี้ต่างหากที่ผมต้องการอยากจะรู้

 

“มันก็ปกติดีนะพี่ แค่มีตอนแรกที่มันตึงๆใส่ไอ้โอ๊คบ้าง แต่พอหลังๆมันก็คุยกันปกติดี  แต่นี้เลยพี่สำคัญ ตอนผมกลับจากส่งมันที่บ้าน มันยังยืนโบกมือบายๆให้พวกผม แล้วยิ้มให้ด้วยนะ”   ไอ้น้องออยทำท่าครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อวาน ก่อนจะเล่าให้ผมฟัง อย่างอารมณ์ดี     

 

“หรอ ออย แน่ใจนะ”  ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

 

“แน่สิพี่ พี่ก็แปลก ก็พี่นั้นแหละบอกให้ผมเป็นคนทำแบบนี้ แล้วพี่ยังกังวลอะไรอีก”

 

“อืม”

     

          ผมพยักหน้าให้ออยแล้วลุกเดินกลับออกมา มันจะเป็นอย่างที่ออยมันว่าจริงๆ หรอ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก แต่จากที่ออยเล่า มันก็ไม่ต่างจากที่ผมคาดไว้เท่าไร เท่ากับว่าการสันนิฐานเบื้องต้นของผมถูกต้อง เพราะ เจมส์มันกำลังทำอะไรอยู่ผมรู้ดี จากการกระทำและแววตาของเจมส์ที่มองมาที่ออยนั้น มันไม่ธรรมดา ผมดูออกตั้งแต่แรก ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

                                       >>>>>>>>>>>>

            เวลาบ่ายๆแบบนี้จะมีอะไรดีเท่าได้กาแฟสักถ้วย กับขนมสักจาน ช่วยให้สมองแล่นดีนักละ ว่าแล้วผมก็นั่งลงจิบกาแฟไป ตักขนมใส่ปากไป แล้วก็คิดถึงเรื่อง สามคนนั้น ออย โอ๊ค เจมส์

           หลายวันก่อนไอ้น้องออยเข้ามาหาผม ก่อนเขาจะตัดสินใจ เล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟัง เขาบอกว่า เขาตัดสินใจคบกับโอ๊คแบบแฟนแล้วนะ พี่ว่าไง มันอาจจะดูแปลกๆ ที่ผู้ชายสองคนจะมาคบกันเป็นแฟน แต่มันบอกผมว่า ผมคงจะเข้าใจความรู้สึกของมันกับโอ๊คมากที่สุด เลยมาคุยกับผมคนแรก และอีกเรื่องคือ เรื่องของไอ้เจมส์ ที่เจมส์มันคิดอะไรมากกว่าเพื่อนกับออย ซึ้งผมเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาในทันที เมื่อออยเล่ารายละเอียดให้ฟังจบ

 

“ออย พี่ขอโทษนะ เพราะพี่ไม่ดีเอง คิดเล่นอะไรแผลงๆ จนทำให้เรื่องมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ วันนั้นพี่แค่อยากแกล้งออยเล่นเฉยๆ ไม่มีเจตนาอย่างอื่นเลยนะ”    ผมมองหน้าไอ้น้องออย แสดงสีหน้าเว้าวอนขอความเห็นใจ

 

 “พี่นะ ผมไม่เคยโกธรพี่เลยสักนิด ผมจะต้องเป็นฝ่ายขอบคุณพี่มากกว่า ที่ชักนำสิ่งดีๆมาให้พวกผมสองคน แล้ววันนั้น พี่ก็ได้เสียสละเพื่อผมกับไอ้โอ๊คมากแค่ไหน ผมก็รู้ดี ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดไม่ดีกับพี่เลยนะ พวกผมเสียอีกที่ยังติดหนี้บุญคุณของพี่อยู่มาก  อีกอย่าง ผมว่ามันเป็นพรหมลิขิตมากกว่า ที่นำพาผมสองคนมาเจอกัน โดยมีพี่นะเป็นตัวเชื่อมสายสัมพันธ์ ของผมกับของมันติดเข้าด้วยกัน พี่ว่าหรือเปล่า”   เด็กหนุ่มตรงหน้า พูดแล้วยิ้มออกมาอย่างเป็นสุข แววตาเปล่งประกายความหวัง ที่อยากจะมีชีวิตอยู่เพื่อใครสักคน ไม่ได้บ้าบอ วิ่งเข้าหาความตาย อย่างที่เคยเป็นมาแล้ว

 

“เหรอ แม้ เดียวนี้รู้จักคิดนะ พรหมลิขิต ไม่รู้นะนี้ ว่าเราก็เป็นคนเชื่อในเรื่องพวกนี้ด้วย”

 

“ผมว่า เรื่องแบบนี้มันก็มีส่วนนะพี่ ถึงแม้พี่จะวางแผนมาดีแค่ไหน แต่ถ้าโชคชะตาไม่ได้ขีดมาเพื่อผมสองคน จะทำอย่างไงก็คงต่อพวกผมสองคนเข้าหากันไม่ติดหรอก”

 

“ค้าบ คุณพ่อพระเอก” ผมอดที่จะแขวะเขาเสียไม่ได้ คนมันกำลังมีความรัก อะไรก็ดีไปไหมด

 

“แล้วผมควรทำอย่างไง กับเจมส์ดีครับพี่ สำหรับมัน เป็นเพื่อนเป็นน้องชายที่ดี ของผมคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ”เขามองผม อย่างขอความเห็น

 

“สำหรับเจมส์ พี่ก็มองเขามาสักพักแล้วละ พี่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่  พี่ก็ลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะยุ่งด้วยดีไหม แต่ถ้าเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว พี่คงต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ขอเวลาสักสองสามวันนะ ” ผมนั่งกอดอก ใช้ความคิด จะทำอย่างไงดีนะ พรหมลิขิตหรือจะสู้คนทำ แต่ถ้าคนทำแต่ไม่มีพรหมลิขิตช่วย มันก็ยากจะสำเร็จ

 

“แล้วผม ต้องทำอย่างไงตอนนี้”

 

“ไปหาเจมส์ คุยกับเขาดีๆ พอได้โอกาส ชวนเขาไปเจอโอ๊ค ผลเป็นอย่างไง มาบอกพี่”  ผมมองไอ้น้องออยอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะก่อนอื่นผมต้องทดสอบอะไรบางอย่างเพื่อความแน่ใจ เสียก่อน

 

“จะดีหรอพี่ ถ้ามันเกิดต่อยกัน ขึ้นมา แล้ว แล้ว” เขาแสดงสีหน้าถึงความวิตกอย่างมาก

 

“ไม่หรอก พี่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ต่อหน้าออย เจมส์มันไม่กล้าทำอะไรแน่ อีกอย่างมันเชื่องกับออยจะตาย มันคงไม่กล้ากัดคนที่เจ้านายมันรัก ต่อหน้าเขาหรอกนะ” ผมพูดแรงไปหรือเปล่านะ

 

 “โหย พี่ แรง“

 

“เอาน่า หรือลึกๆในใจ แกอยากให้สองคนนั้นต่อยกันแย่งแก ไอ้ออย พูด”   ผมชี้หน้ามัน

 

“โห คิดได้เนอะ พี่นี้น่ากลัวจริงๆ ผมไปดีกว่า สรุปให้ผมคืนดีกับไอ้เจมส์มันก่อนใช่ปะ บายพี่ ขอบคุณคับ”

 

         ว่าแล้วมันก็กลับไป ปล่อยให้ผมนั่งคิดอะไรคนเดียวเงียบๆ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าไปที่เฟสบุ๊คของเจมส์ ดูสิว่า เราจะจัดการกับน้องคนนี้ได้อย่างไง หาใครสักคนให้เขา คงจะดี ปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป เจมส์มันคงทำอะไรโง่ๆ แล้วคนที่จะเสียใจมากที่สุดก็คือมัน  แต่ว่า แล้วจะหาใครดีละ

                     >>>>>>>>>>>>>>>>>

 

       แล้วเวลาก็หมุนผ่านไปเรื่อยๆหลายวันต่อมา เจมส์ ออย บร์อน แล้วก็คนอื่นๆ ก็เข้ามาที่ซุ้มกันตามปกติ ทุกคนใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็นมา ไม่มีใครเป็นอะไรแล้วตอนนี้ ผมค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย เจมส์กลับมาเดินตามออยต้อยๆ เป็นเบ้น้อยๆที่น่ารักน่าเอ็นดูเช่นเคย แต่ที่รู้ๆสายตาของมันยังคงไม่เปลี่ยน มันยังคงแอบชอบพี่ออยเสมอต้นเสมอปลาย ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างขึ้นมาจริงๆ ชักช้าจะไม่ทันการณ์ ลองเป็นพ่อสื่อเฉพาะกิจอีกครั้งละกัน แต่ติดก็แต่ปัญหาที่ว่าใครดีวะ

 

“ทำไรพี่ เครียดเชียว”

 

“อ้าว เชี้ยออย มึงมาเงียบๆ” ผมหันไปว่าไอ้คนที่มันแอบมาข้างหลัง ขณะที่ผมกำลังดูรูปในโทรศัพท์เพลินๆ

 

“กำลังหาใครสักคนให้เจมส์มัน จะได้เลิกคิดอะไรบ้าๆกับแกไงออย”

 

 “ได้ยังพี่”

 

“ยังไม่มี ใครเข้าตาสักคน สาวๆพวกนี้ ดูสิ ออยว่าไง”  ผมส่งรูปสาวๆ น่ารักให้ออยดู

 

“แจ่มๆทั้งเลยเลยพี่ ให้ผมแทนได้มะ เพราะว่าไอ้เจมส์มันไม่เอาหรอก พวกนี้เคยมาขอเป็นแฟนมันแล้ว มันไม่เอาสักคน”

 

“จิงดิวะ”   ผมมองหน้าไอ้ออย มันมองผมกลับมา แล้วเราต่างหัวเราะกันออกมาพร้อมกัน

 

“พี่ก็ลืมไป ว่ามันชอบ แบบแก ออย ฮาๆ”   ว่าแล้วผมก็ต้องกลับมาคิดหาคนใหม่

 

“ว่าแต่สาวๆพวกนี้ใช้ได้เลยนะพี่ น่าเอามาทำกิ๊ก”   ออยมองรูปในโทรศัพท์ทำตากรุ่มกริมเจ้าชู้ ตาเป็นประกาย

 

“นี้ เดี่ยวตรูจะฟ้องไอ้น้องโอ๊คชะเลย แม้ยังไม่เท่าไรก็ออกลายชะแล้ว เดียวๆจะโดน”  ผมต้องได้ชี้หน้า ว่าออยมันอีกรอบ

 

“อุ้ยพี่นะ อย่านะ ผมพูดเล่นไปงันแหละ ก็เห็นสาวๆแล้วมันยังคึกคักอยู่เลยนะพี่ ก็เผลอบ้างอะไรบ้าง”

 

“อย่าให้เผลอบ่อยนักละกัน”

 

“โห พี่ ผมขอร้องเลยนะ ไอ้เชี้ยโอ๊คแม่งขี่หึงสุดๆ ผมยอมให้มันเลยเรื่องนี้ ”   ว่าแล้วออยก็ทำท่าขนลุก

         

“ออย มันชักจะยากแล้วละ ไอ้เจมส์มันคงไม่ตัดใจจากแกง่ายๆหรอก”  ผมได้แต่นั่งถอดใจ

 

“โหพี่ ไม่มีผู้หญิง ก็ผู้ชายก็ได้ม้าง หาแบบผมให้มันสักคนสิ ไอ้บร์อนไง สองคนนี้สนิทกันจะตาย”

 

“ไม่มีทางวะ เป็นไปไม่ได้สำหรับสองคนนี้”    ผมมองหน้าไอ้ออย ไม่อยากจะบอกมันเลย ไอ้บร์อนก็ไม่ได้ต่างจากเจมส์เท่าไร ใจของมันก็มีแต่ออยเหมือนกัน ผิดแต่การแสดงออกเท่านั้นที่ต่างกัน แล้วบร์อนมันก็ดูเป็นผู้ใหญ่มีหัวคิด ใจกว้างกว่าเจมส์เยอะ ผมถึงไม่ห่วงเรื่องบร์อนเท่ากับเจมส์เท่าไร ไอ้น้องออยเอ่ย คนที่อยู่รอบตัวแกหลายๆคน เขาคิดกับแกมากกว่าเพื่อนเสียอีก แต่แกไม่เคยรู้ตัวเลยสินะ

 

“ยากสิพี่ที่นี้ อย่างนี้ผมคงตีตัวออกห่างไอ้เจมส์แล้วสิ”   ไอ้ออยพูดอย่างหมดหวัง ทำเสียงอ่อย กอดหมอนอิงทำหน้าเบื่อๆ

 

“เห้ย ออยๆ คนนี้ใครวะ “ ผมมาสะดุดกับรูปภาพใบหนึ่ง จากงานวันเกิดน้องเมสที่พึ่งผ่านมาไม่กี่วัน ภาพนั้นมีน้องคนหนึ่งกำลังมองมาที่ไอ้เจมส์ ด้วยแววตาเป็นประกาย

 

“ไอ้ริวพี่ มันก็มาที่โต๊ะออกจะบ่อย มากับพวกผม พี่จำไม่ได้หรอ แต่มันไม่ใช่เด็กแถวนี่หรอกพี่ พึ่งเข้ากลุ่มมา ”

 

“หรอ พี่ไม่ทันได้สังเกต ว่าแต่มีเฟสปะ”    แล้วออยก็กดเข้าเฟสน้องริวให้ผมดู เด็กคนนี้ใช้ได้เลยละ แถมมีการแท๊กเฟส คุยตอบโต้กับน้องเจมส์เป็นประจำ หุหุ ในที่สุดก็หาช่องทางเจอ น้องเจมส์จ้าเจอแล้วได้

 

“ว่าแต่ไอ้ริวมันผู้ชายแท้ๆเลยนะพี่  ” ไอ้ออยมันมองหน้าผมงงๆ

 

“ออย เขยิบมาไกล้ๆดิ” ผมกวักมือเรียกมันเข้ามาไกล้ๆ มันก็ทำตามอย่างว่าง่าย

 

เพีย  “โอ้ย พี่ตบหัวผมทำไม” มันร้องลั่นพร้อมกับถอยหลบออกไปอย่างไว

 

“เตือนสติแกไง โอ๊คมันก็ผู้ชายแท้ๆ แกยังจับมาทำเมีย แกก็ด้วยผู้ชายแมนทั้งแท่ง ไอ้เจมส์อีกก็ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น แล้วทำไมน้องริวคนนี้พี่จะจับมาทำปั๋วน้องเจมส์เขาไม่ได้ หะ ”

 

“ก็บอกกันดีๆก็ได้ ทำไมต้องตีด้วย ไปแล้ว งอน ไปหาโอ๊คดีกว่า บายพี่ จัดการต่อเลยนะ ไม่อยู่ช่วยแล้ว ฝากด้วย”

 

“อ้าวเห้ย ไอ้ออย มันหน้าที่กูคนเดียวปะนี้ เรื่องของมึงล้วนๆเลยนะ”

 

          มันไม่สนผมหรอกครับ ขึ้นควบรถเครื่องได้มันก็ขี่ออกไปเฉย  ปล่อยให้ผมคิดแผนการร้ายอยู่เพียงลำพัง ริวเจมส์ หรอเข้าท่าดีนะ แต่โอกาสจะมีสูงแค่ไหนต้องลองหยังเชิงดูก่อน โชคชะตาบวกพรหมลิขิตกับแผนการนิดๆมันถึงจะสำเร็จ แผนเปลี่ยนชายแท้ให้เป็นแฟนกันของผมก็ได้เริ่มขึ้น ตั้งแต่วันนั้น

       >>>>>>>>>>>>>>>

 

“หวัดดีครับพี่นะ”  ”ดีครับพี่” “ดีครับ”   กลุ่มของพวกไอ้น้องออยประมาณสิบคนกว่าคน เดินเข้ามาในโต๊ะ  สองคนในกลุ่มนั้นมีเป้าหมายของผมอยู่ ออยกับผมพยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจ

 

“สวัสดีครับหนุ่มๆ “ ผมยกมือรับไหว้ แต่สายตาผมจับจ้องที่น้องริว เป้าหมายหลัก และก็น้องเจมส์เป้าหมายรอง

 

“พี่นะๆ ว่าไงคิดแผนออกยัง” ไอ้ออยกระแซะเข้ามากระซิบ

 

“ยังเลยวะ ดูๆไปก่อน”  ผมเอียงตัวเล็กน้อยไปพูดกับมัน

 

“อ้าว ที่ผมกับไอ้โอ๊ควันเดียวก็เรียบร้อยละ ทำไมไอ้เจมส์มันนานนักละพี่”  มันเริ่มออกอาการงอแง

 

“ออยมึงคิดเองเลยไหม กู เห้ย พี่คิดหัวแทบจะแตกอยู่แล้วเนี้ย”   ผมมองหน้ามันก่อนจะ ยกขาขึ้นมาถีบมันเบาๆ ส่งมันไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ

 

           มันเป็นงานยากสำหรับผมเลยครับ ผมแทบจะไม่เห็นโอกาสเหมาะที่จะทำให้สองคนนั้น อยู่ด้วยกันสองต่อสองได้ แถมอำนาจสิทธิพิเศษในการออกคำสั่งกับเด็กๆในเอ็มเอ็มซีก็ไม่มีแล้วเสียด้วย หากโชคไม่ช่วยสองคนนี้คงไม่มีทางได้สมหวังกันหรอก จากที่เผ้ามองน้องริวอยู่ห่างๆ เห็นเขาแอบมองน้องเจมส์อยู่บ่อยๆ เขาจะมีใจให้เจมส์หรือเปล่านะ ไม่กล้าฟันธง ถ้าลองเรียกมาถามจะโดนเด็กเตะหรือเปล่า ฮาๆ

         แต่เอาวะ ไอ้เจมส์มันก็น้องเพื่อน จะปล่อยให้มันตกนรก ตกเหวไม่ได้แน่ เราต้องส่งน้องมันขึ้นสวรรค์ถึงจะถูก ไอ้น้องริวก็ท่าทางน่าดูเอ็น เห้ย น่าเอ็นดูอยู่ไม่น้อย หล่อเสียด้วย ไอ้เจมส์มันน่าจะหวั่นไหวบ้างละน่า หากฟ้าส่งริวมาให้เจมส์จริงๆ หวังว่าผมคงมีทางออกบ้าง และภาวนาให้ช่วงนี้ที่ผมยังคิดแผนอะไรไม่ออก น้องเจมส์คงไม่ไปสร้างความร้าวฉาน ให้ไอ้น้องออยกับน้องโอ๊คหรอกนะ

 

>>>>>>>>>>>>

ติดตามแผนก่อการรักของผม ในตอนต่อไปครับ     

ออฟไลน์ Bsky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที14) 7/8/2016
«ตอบ #19 เมื่อ07-08-2016 15:05:12 »

ตอนใหม่มาแล้ว  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที14) 7/8/2016
« ตอบ #19 เมื่อ: 07-08-2016 15:05:12 »





ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที14) 7/8/2016
«ตอบ #20 เมื่อ08-08-2016 01:13:45 »

โดย เอ็มเอ็มซี..มานะ  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบห้า>>>*จะได้หรือไม่ ใช่อยู่ที่กูลิขิต แต่อยู่ที่ฟ้า2*

 

แค่เขาคุยด้วย

ไม่ได้หมายความว่า

เขาจะชอบมึง
         ตามเคยช่วงบ่ายๆแบบนี้ ผมชอบมานั่งกินกาแฟในห้องทำงาน แล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าแอพเฟสบุ๊ค ผมนั่งไล่ดูเฟสกดไลค์ไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่เฟสของน้องริว ผมกดเข้าสู้หน้าไทม์ไลน์ เพื่ออยากทำความเข้าใจและรู้จักเขาให้มากขึ้น สถานะยังไม่มีแฟนเสียด้วย ทุกอย่างโอเคเหมาะเลยนี้ แต่เห้ย เจ้าบร์อนก็กำลังคุยๆอยู่กับริวเขานี้หว่า มีบอกฝันดีกันด้วย อย่างไงๆ ซะแล้ว ดูท่าเจมส์จะมีคู่แข่งคนสำคัญเสียแล้วละน้องรัก ไม่คิดเลยว่าบร์อนจะไวนำโด่งได้ขนาดนี้  เอ แล้วจะทำไงดีละ เอ็มเอ็มซี มานะ   

 

 “ทำไรพี่”   อยู่ๆก็มีเสียงใครบางคนดังจากทางด้านหลัง

 

“เหี้ย ไอ้ออย แกอีกแล้ว”   ผมตกใจสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะหันไปต่อว่า ไอ้คนที่แอบมาเงียบๆด้านหลัง

 

 “ฮาๆ”   มันกลับหัวเราะเยาะผมเสียอย่างพออก พอใจอย่างมาก

 

“มาให้มันเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาหน่อย ไม่ได้หรือไง”   ผมละเชื่อมันเลย บอกแล้วว่าไอ้นี้ ถ้าไม่รู้จัก จะคิดว่ามันหยิ่งๆเก๊กๆ แต่พอได้สนิทกันกับมันชะหน่อย มันจะกวนทีนมาก เป็นคนขี่เล่นแบบนี้ละครับ

 

“แค่นี้ก็ตกใจด้วย ขวัญอ่อนนะพี่”   แนะมันยังตีหน้ามึนไม่ฟังที่พูดสักนิด

 

“เออๆ เอาที่มึงสบายใจ ว่าแต่ที่เข้ามาหาพี่ในออฟฟิตเนี้ยมีอะไร”   ผมมองไอ้น้องออยที่กำลังนั่งลงตรงข้ามกับผม อีกด้านของโต๊ะรับแขก

 

“จะมาถามว่าเรื่องเจมส์ไปถึงไหนแล้วพี่”

 

“อืม ได้อะไรนิดหน่อยละ กำลังเตรียมแผน ว่าแต่ออยเถอะ กับโอ๊คเป็นไงบ้าง”

 

“ก็ดีครับพี่ เราเข้าใจกันมากขึ้นทุกวัน ไม่ผมไปค้างบ้านมัน มันก็มาค้างบ้านผม เรารักกันดีครับ”   มันพูดไปยิ้มไป

 

“อืมก็ดี แล้วแนนกับโอ๊คละ เป็นไง”

 


 “เออ เอ้อ เขาก็ยังคบกันอยู่นะพี่ เมื่อวานไอ้โอ๊คมันยังขึ้นสเตตัสเฟสว่า รักแนนมาก :L1: แนนก็ขึ้นสเตตัสเฟส กลับ ว่า รักโอ๊คมาก เช่นกัน”      หน้าตาที่ดูเศร้าๆลงอย่างเห็นได้ชัดของไอ้ออยตอนนี้มันอะไรกัน เปลี่ยนอารมณ์ง่ายจังวะ

 

“แกไหวเปล่าวะออย”   จนผมอดห่วงไม่ได้

 

“ไหวสิพี่ ผมเป็นคนเลือกเอง ไม่ว่าวันข้างหน้าอะไรมันจะเกิดขึ้น ผมก็ต้องยอมรับมันให้ได้”    เสียงมันเริ่มสั่นเครือ เหมือนคนกำลังจะร้องให้ อะไรกันของเจ้านี้ มันไหวหวั่นกับโอ๊คมากมายขนาดนี้เชียวหรือวะ

 

“อะไรกัน ไหนบอกว่าไหว แค่นี้ก็จะร้อง”  ผมมองเจ้าออยก่อนจะส่ายหัว แล้วแอบขำมันนิดๆ

 

“เปล่าจะร้องซะหน่อย แบบ ผมก็แค่รู้สึกแย่ โอ๊คกับแนนสองคนนั้น เขารักกันอยู่ดีๆ แต่ดันมีผมเข้าไปแทรกในชีวิตมัน จนทำให้มันกับแนนหลังๆมานี้เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น สำคัญตอนนี้ แนนเขาเริ่มระแคะระคายบ้างแล้วนะพี่ ว่าไอ้โอ๊คมันกำลังนอกใจแนน เอ้อ แบบนี้ผมเหมือนคนเห็นแก่ตัวมากไหมพี่ ที่ไปรักคนมีเจ้าของแล้ว แถมยังแอบเป็นชู้กับแฟนชาวบ้านได้อย่างหน้าตาเฉย”       มันพูดจบแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง ไม่ใช่แค่แกหรอกที่รู้สึกแย่ ออย พี่เองก็ด้วยมีส่วนกับเรื่องนี้เหมือนกัน

 

“อ้าว แล้วแกรู้ได้ไง ว่าแนนเขาเริ่มคิดว่าโอ๊คมันกำลังนอกใจ โอ๊คบอกแกหรอ”

 

“เปล่าพี่ โอ๊คไม่ได้บอก มันไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ ว่าแนนกำลังสงสัยมัน เพราะเรื่องนี้แนนเธอเป็นคนพูดกับผมเอง บังเอิญตอนที่ผมไปหาไอ้โอ๊คที่บ้าน เป็นจังเหวะที่แนนเขาก็มาพอดี แบบรถไฟชนกันจะๆ แล้วเมื่อแนนมีโอกาสอยู่กับผมสองต่อสอง  เธอเลยถามผมว่า โอ๊คกำลังมีใครนอกจากแนนหรือเปล่า เพราะโอ๊คเปลี่ยนไปมาก”      มันพูดกับผมทำหน้าหง่อยๆมองผมตาแป๊ว

 

“แล้ว ออย คิดจะทำอย่างไงต่อ”

 

“ผมคงต้องไปต่อละพี่ มาถึงขั้นนี้ละ ผมทิ้งมันไม่ได้จริงๆสำหรับตอนนี้มันก็ขาดผมไม่ได้ ผมก็ขาดมันไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้ามันเป็นฝ่ายทิ้งผมไปก่อน นั้นก็อีกเรื่อง”

 

“ความรักมันเป็นเรื่องเข้าใจยากเหนอะ บางทีการอยู่คนเดียวมันก็เป็นคำตอบที่ดี แต่มันเป็นวิถีของคนกลัวกับความผิดหวัง แต่ถ้าไม่สู้ จะรู้หรอว่าเราก็มีโอกาส เรื่องแบบนี้มันพูดยาก”

 

 

“พูดอะไรของพี่ ผมไม่เข้าใจ ว่าแต่พี่เถอะ อยู่มาได้ไง ไม่เห็นมีแฟนสักคน”     มันมองผมจ้องเขม็ง

 

“เออ ก็อยู่ได้ละกัน “

 

“จริงหรอ แอบมีซ่อนไว้ตรงไหนหรือป่าว ฮาๆ”      มันมองผมอย่างกับจะมองหาความจริงที่ซ่อนอยู่

 

“ไม่มี”

 

“แล้วทำไมต้องทำเสียงสูงด้วย”

 

“พอเลยเชี้ยออย หมดธุระแล้วก็กลับไป ไป”   แหมไอ้นี้เริ่มชักจะรู้ทัน ผมรีบออกปากไล่มันทันที

 

“หมดธุระอะไร ผมยังไม่เริ่มคุยธุระเลย ผมถามเรื่องเจมส์ไปถึงไหนแล้ว เรายังไม่ได้คุยเรื่องเจมส์เลยนะพี่”

 

“อ้าวหรอ ใช่ๆ ว่าต่อมาสิ”

 

 “อย่างนี้พี่ ผมว่าเจมส์มันหนักขึ้นทุกวันแล้วนะ ผมว่ามันอ่อยผมพี่”

 

“หา พูดบ้าๆ ไม่ม้าง”ผมอุทานออกมา อย่างไม่น่าเชื่อ เจมส์เนี้ยนะอ่อยออย มันทำไงนะ

 

“จริงพี่”

 

“เห้ย มันทำไง เล่าสิ”  เรื่องนี้มันต้องขยาย

 

“มัน มัน ทำแบบ แบบ เอาน่าพี่ ผมรู้ละกันว่ามันอ่อย”     ไอ้ออยทำหน้าเขินๆไม่กล้าเล่า

 

“อะไร หว่า ไม่พูดแล้วพี่จะรู้หรอ ว่าเจมส์มันอ่อยจริงๆหรือเปล่า”   ผมทำตาเจ้าเล่ห์ หลอกล่อให้ไอ้ออยมันพูดออกมาให้ได้

 

“อย่าบอกใครนะพี่ ผมขนลุก เวลาอยู่กับมันสองคน …..”     แล้วมันก็เงียบไป

 

“อะไร ของแก ออย จะรู้เรื่องมะวันนี้”   ผมเริ่มหงุดหงิด

 

“เอางี้พี่ ผมพูดไม่ออก เอาเป็นว่า มันทำแบบ ที่ผมเคยอ่อยไอ้โอ๊ค แบบไหนแบบนั้นเลย”     มันพูดเสร็จแล้วเอามือกุมหน้าด้วยความเขิน

 

“อารายของมึง เออๆ เอาที่สบายใจละกัน  สรุปว่ามันอ่อยแกว่างัน ว่าแต่แกเคยอ่อยโอ๊คมันด้วยหรอ”     เห็นท่าทางมันแล้วสงสาร ไม่อยากรู้ก็ได้วะ ว่างๆจะเดียวจะถามโอ๊คดู หุหุ

 

“ฮาๆพี่ มันก็มีบ้างแหละ”   มันหัวเราะกลบเกลื่อน

 

“ร้าย นะเนี้ย”

 

“มาเรื่องเจมส์ พี่”   มันรีบชวนเปลี่ยนเรื่อง

 

“เอ้อๆ ก็นี้ไง กำลังดูริวอยู่ ว่าจะพอมีหวังอยู่หรือเปล่า”

 

“หลังๆ  ผมก็เห็นมันสนิทกันดีนะพี่ “

 

“อะ ดิ “

 

 “วันนี้ไอ้ริวมันก็มาส่งไอ้เจมส์ที่ซุ้มพี่ ผมเห็น”     เสียงใครบางคนดังขึ้นมาในห้อง แต่ไม่ใช่เสียงของผมหรือออยแน่นอน ผมมองหน้าออย ออยมองหน้าผม

 

“ออยแกพูดหรือเปล่า เมื่อกี้ ทำไมเสียงแกเปลี่ยนไป”

 

“ไม่ใช่ไอ้ออยพี่ ผมเอง “   ว่าแล้วเจ้าของเสียงก็ปรากฏตัวขึ้น

 

“เชี้ยเต๋า “”ไอ้เต๋า”     ผมกับไอ้ออยอุทานออกมาพรร้อมกัน เมื่ออยู่ๆไอ้เต๋ามันโพล่ออกมาจากใต้โต๊ะทำงานผม

 

“ผมเอง ทำไมต้องตกใจด้วย”   ก่อนมันจะเดินมานั่งลงข้างไอ้ออยไม่พอมันยังหยิบขนมจากจานของผมเข้าปาก เชี้ยเต๋า ขนมกู

 

“มึงมาตั้งแต่เมื่อไร”   ไอ้ออยถามมันทันที

 

“เออ ใช่”    ผมย้ำในคำถาม

 

“อ้าว ก็มาก่อนที่พี่นะจะเข้ามาในห้องไง ก็พี่บอกให้ผมมานอนในห้องนี้เอง ผมขอพี่แล้ว”   มันมองหน้าผมแปลกๆก่อนจะพูดอะไรเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่ผมกับไอ้ออยกำลังแทบบ้า

 

“เออใช่วะ แต่ว่าแล้วทำไมต้องไปนอนใต้โต๊ะ ไม่มานอนที่โชฟานี้ กูจะรู้ไหมว่ามึงอยู่ในห้อง อย่างนี้มึงก็ได้ยินที่พี่กับไอ้ออยคุยกันหมดแล้วสิ”    ผมกับไอ้ออยมองหน้ามันอย่างเอาเรื่องแต่มันกลับสนใจขนมที่อยู่ในจานของผมมากกว่า หยิบกินไม่หยุด แถมรินน้ำจากเหยือกใส่แก้วกินอีกด้วย

 

“ก็มันสว่างผมนอนไม่หลับ เลยไปแอบนอนใต้โต๊ะ จะรู้ไหมว่าพี่จะเข้ามาคุยกันอะไร  ออ ว่าแต่ไอ้ออยมึงคบกับไอ้โอ๊คจริงหรอวะ”   แนะมันยังมีหน้ามาถามเขาอีก ไอ้ออยมันจ้องจะกินเลือดกันเนื้อมึงอยู่แล้ว

 

“เอาไงพี่ ฆ่ามันปิดปากเลยไหม” ไอ้ออยมันชะโงกตัวข้ามโต๊ะเข้ามากระซิบผม

 

“ค_ย เกินไปมะ” ผมบอกมันก่อนจะเอามือดันหัวมันกลับไป นั่งลงที่เดิม

 

“ผมไม่พูด ไม่บอกใคร สาบาน”  ไอ้เต๋าเงยหน้าขึ้นมามองผมสองคน

 

“แน่นะ มึง “ ผมกับไอ้ออยจ้องมัน

 

“จริงๆ ให้ผมทำอะไรก็ได้”  มันพยักหน้ามั่นเหมาะ

 

“เอาไงดีพี่”   ไอ้ออยชะโชกตัวมากระซิบอีก

 

“มึงไม่ต้องกระซิบแล้ว”   เอาผมนิ้วชี้จิ่มหน้าให้มันกลับไป นั่งลงที่เดิม

 

 “ขนมอร่อยพี่มีอีกปะ”      ดูมันครับไม่ได้สนใจอะไรเลย จะโดนไอ้ออยฆ่าปิดปากอยู่ละ ยังห่วงกิน ไอ้เต๋าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับไอ้ออย เรียนที่เดียวกันนั้นแหละ แต่คนละแผนก หนุ่มน้อยหน้าตากวนๆ แต่ชวนให้มีอารมณ์ขันทุกครั้ง ที่ได้อยู่กับมัน

 

“ดีเหมือนกัน พี่กำลังอยากได้คนช่วยพอดี ไอ้เต๋าเมื่อมึงรู้เรื่องแล้ว พี่มีเรื่องอยากให้ทำหน่อย”

 

“ได้พี่ ไม่มีปัญหา”

 

“มึงรับปากแล้วนะ ถ้ามึงเบี้ยว หรือเอาความลับนี้ไปบอกใคร ไอ้ออยเอามึงตายแน่” ผมขู่มัน

 

“โหพี่ ใครจะกล้าขัดคำสั่งพี่มิทราบ ไม่ต้องเอาไอ้ออยมาขู่ผมหรอก แค่พี่บอกให้เด็กในเอ็มเอ็มซีทำอะไร พวกมันก็พร้อมทำให้หมดแหละ ไม่มีใครหือกับแฟนพี่ใหญ่หรอก”     มันมองหน้าผม ยักคิ้วให้ด้วยเหมือนรู้ทันผม ด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง

 

“อะไรของมึงเต๋า ใครแฟนใคร ไอ้เต๋า มึงไม่รู้หรือไงพี่เขาโดนปลดจากตำแหน่งในเอ็มเอ็มซีแล้วนะ ไม่มีสิทธิอย่างเดิมแล้ว”    ไอ้ออยแย้งขึ้นมาทำหน้างงๆ

 

“ไอ้ออย ไอ้ควาย มึงไม่รู้อะไร แฟนพี่นะ อุบ ผัวพี่เขา อุบ กิ๊ก“   ผมกระโดนเข้าไป เอามือปิดปากไอ้เต๋ามันไว้ทันที

 

 “มึงเงียบเลยไอ้เต๋า ไม่งันกูจะฆ่ามึง”

 

“อะไร ไอ้เต่ามึงพูดมา กูอยากรู้”   ไอ้ออยรีบฉุดผมออกจากไอ้เต๋า ท่าทางมันอยากรู้เรื่องเต็มที

 

“ หยุด”   ผมชี้หน้ามัน

 

“ไม่พูด ก็ไม่พูด”   ไอ้เต๋าได้แต่ยิ้ม แหะๆอยู่ตรงนั้น

 

“เต๋า พี่อยากให้แกตามดูไอ้เจมส์ตลอดทุกฝีก้าว ไม่ว่ามันไปทำอะไรให้มารายงานทุกเรื่อง และอีกเรื่องมันหาวิธีคุยกับริว ว่าริวเขาคิดอะไรกับไอ้เจมส์ เข้าใจไหม”

 

“ครับพี่ สบายมาก”

 

“ห้ามให้ผิดพลาดนะโว้ย ไม่งันพี่จะให้ คนที่แกก็รู้ว่าใคร เก็บแกชะ”  ผมขู่มันอีกรอบ

 

“เต๋าๆใครวะ บอกกูดิ ทำไมมึงถึงต้องกลัวด้วย” ไอ้ออยสะกิดไอ้เต๋า

 

“ไปได้แล้วเต๋า ไป ไป”   ผมรีบออกไปไล่

 

“ไปก็ได้ ว่าแต่ เชี้ยออยกูจะบอกอะไรให้ ผัวพี่นะเขาอะ เป็นพี่ใหญ่ในแก๊งค์ที่โหดที่สุดเก่งที่สุดอย่างไงละ เขารู้กันทั้งซุ้ม ฮาๆ”    พูดเสร็จแล้วมันก็วิ่งปร๋อออกจากห้องไป ไม่อยู่รอให้ผมมีโอกาสเตะตูดมันได้

 

 “อย่างงี้นี้เอง มิหน้า ตำแหน่งอะไรในแก๊งค์ถึงไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะอย่างนี้นี้เอง ว่าแต่ใครพี่ บอกหน่อยสิ”  ไอ้ออยมันชี้หน้าผม แล้วยิ้มให้อย่างกวนๆ

 

“พอเลย ห้ามแซว ห้ามรู้ ไป กลับไปได้แล้ว”

 

         ก็อย่างที่ว่าละครับ ไม่ใช่เพราะมีคนหนุนหลังหรือคนคอยปกป้องผมอะไรทั่งนั้น ที่ทำให้ผมกล้าหยัดยืนอยู่ที่นี้อย่างทุกวันนี้ แต่การมีตัวตนในกลุ่มในแก๊งค์ต่างหากที่สำคัญสำหรับผม ขอแค่ได้รับการยอมรับจากทุกคน ว่าผมคือหนึ่งในเอ็มเอ็มซี ก็พอ อย่างอื่นผมไม่ต้องการ ไม่ว่าให้อยู่ที่ใด ก็ใช่จะเป็นปัญหาสำหรับผม  คนเราขาดแฟนได้ แต่ขาดเพื่อนขาดฝูงไม่ได้หรอกครับ

       แต่หนทางชะตาแห่งรักของริวกับเจมส์กำลังไปได้สวย ดังฟ้าส่งเต๋ามาช่วยสานสายสัมพันธ์ให้คนทั่งคู่ ส่วนจะต่อกันติดหรือไม่นั้น ก็คอยดูกันต่อไป นี้คือภารกิจของผมที่ยังมองหาจุดสิ้นสุดลงไม่เจอ ยังต้องมีอะไรให้ทำอีกเยอะ นี้แค่เพียงเริ่มต้นเท่านั้น

 

>>>>>>>>>>>>

ติดตามตอนต่อไปครับ(อ่านตอนของmmcมานะ รอตอน ของออยกับโอ๊คไปก่อนนะครับ กำลังบิ้วอารมณ์อยู่ ต่อไปดราม่าเยอะมาก)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2016 13:28:33 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที15) 8/8/2016
«ตอบ #21 เมื่อ08-08-2016 08:56:47 »

โอ้ค ออย  :mew1: :mew1: :mew1:
เจมส์  ริว บอร์น 3p ไปเลย
แฟนพี่มานะ พี่กอล์ฟใช่ไหม
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Bsky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที15) 8/8/2016
«ตอบ #22 เมื่อ08-08-2016 15:12:35 »

รอจ้ารอ :mew1:

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที15) 8/8/2016
«ตอบ #23 เมื่อ09-08-2016 01:23:18 »

done_dirt_cheap
ทฟเืนสรฟ
 Bsky

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

>>>>>>>>

โดย เจเจ..โอ๊ค  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

 

mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบหก>>>*รักยกกำลังสอง ต้องไหว*

 

เป็นแฟนเด็กช่างต้องอดทน

เพราะพี่มันจน

คงมีให้น้องได้แค่ใจ

           ผมนั่งสองเฟสของไอ้พี่ออย โพสอะไรของเขาวะ ขณะรอมันมารับหลังเลิกเรียน แม้วันนี้ผมจะบอกมันว่าไม่ต้องมารับ เพราะผมเลิกเรียนแล้วจะไปเดินเซนทรัลดูหนังกับแนน แต่มันก็ยังยืนยันจะมารับผม ไปส่งบ้านให้ได้ก่อนอยู่ดี ไอ้คนเอาแต่ใจของผมมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด ตั้งแต่คบกันมา ผมเคยถามว่าออยเหนื่อยไหม ต้องมาแต่เช้า เย็นก็มารับอีก มันบอกว่ามีบ้าง แต่ถ้าไม่ได้ทำ มันจะไม่สบายใจ โอ๊คอย่าห้ามเลยนะ ขอออยทำเถอะ พอได้เห็นหน้าโอ๊ค ไปส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย ออยก็หายเหนื่อยแล้ว

 
 “นั่งเหม่อ คิดถึงใครวะ”       เสียงของคนเอาแต่ใจดังขึ้น

 
 “เปล่า”

 
“เปล่า อะไร  กูมาตั้งนานละ มึงยังไม่รู้สึกตัวสักนิด กูเห็นนะ มึงจ้องโทรศัพท์แล้วยิ้มอยู่คนเดียว”        มันมองผมอย่างไม่พอใจ

 
“ก็ดูอะไรไปเรื่อย คิดมาก ไปเถอะกลับกัน”     ผมรู้สึกเขินนิดๆ ไม่กล้าบอกมันว่าผมกำลังนั่งส่องเฟสมันอยู่

 
           ผมเดินเข้าไปไกล้ๆมันที่ถือหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบรออยู่ แล้วหมวกกันน็อคใบนั้นก็ถูกวางลงที่หัวผมอย่างนิ่มนวล ก่อนมันจะดึงสายล๊อกคาดไว้ที่คางให้อย่างแน่นหนา เสร็จแล้วมันก็ก้าวขาขึ้นควบรถสตาร์ทเครื่องทันที ผมที่รอท่าอยู่ก็ก้าวขาควบขึ้นรถซ้อนท้าย ก่อนจะเกาะเอวมันไว้หลวมๆ แต่มันกลับเอื้อมมือมาด้านหลัง จับเข้าที่มือผมทั้งสองข้างให้กอดเอวมันไว้ ผมต้องเอามือทั้งสองประสานไว้ที่หน้าท้องของมัน เมื่อเป็นอย่างที่มันต้องการทุกอย่างแล้ว ไอ้คนเอาแต่ใจก็ยอมพาผมขี่รถออกไปจากตรงนั้น กลับบ้าน

 
“กลับมาจากเทียวแล้วโทรหาด้วยนะ”         มันบอกขณะจอดรถหน้าบ้านผม

 
“อืม มึงไม่ไปด้วยกันอ่า แนนบอกให้ชวนมึงไปด้วย”         ผมอ้อนอยากให้มันไปด้วย

 
“ไม่เอา มึงไปกับแนนดีแล้ว เดี๋ยวกูทนไม่ไหวลุกออกจากโรงหนังเป็นรอบที่สอง จะทำไง”   

 
“เออ ตามใจ แล้วมึงจะไปไหนอ่า”          ผมมองมันก่อนจะทำหน้างอนิดๆ

 
“ไปโต๊ะ ไม่ไปหาสาวที่ไหนหรอกน่า สบายใจได้”         มันยิ้มให้ผม  ทำตาหวานกรุ่มกริมให้

 
“ก็ลองดูสิ”         จนผมอดเขินไม่ได้ อยู่ๆก็รู้สึกดีใจขึ้นมา

 
“ไปละ รักมึงนะ”

 
“อืม รักมึงเหมือนกัน ขี่รถดีๆละ อย่างไงคืนนี้จะโทรหา บาย”

             ผมยืนยิ้มหวานส่งมันหน้าบ้าน รอจนมันขี่รถหายลับตาไปแล้ว ถึงหันหลังเข้าบ้าน รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วขี่รถออกไปรอรับแนนที่โรงเรียนสอนพิเศษ ก่อนที่เราจะไปดูหนังรอบเย็น ที่เซนทรัลด้วยกัน ตามที่นัดไว้

>>>>>>>>>>>>>>

 
“โอ๊ค รอเค้านานปะ”   เสียงใสๆของสาวน้อยน่ารัก ทักผมทันที ที่เธอเดินมาถึงที่ผมรออยู่

 
“นานแค่ไหน โอ๊คก็รอได้”

 
“แฟนเขาน่ารักที่สุด ไปกันเถอะ”

 
          เธอยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะขึ้นขี่ซ้อนท้ายรถเครื่องของผม เธอเลื่อนมือมากอดที่เอวผมแน่น ก่อนจะซบหน้าลงที่แผ่นหลัง ความรักความอบอุ่นของเธอ ส่งผ่านจากการกอดนั้น มันทำให้ผมมีความสุขขึ้นมา ความรู้สึกที่ได้ดูแลคนที่เรารักมันดีจริงๆ ไม่แปลกใจเลยสักนิด ที่ไอ้ออยมันเฝ้าทำ คอยรับส่งผมไม่เคยขาด

 
“ออยละ เขาไม่มาด้วยหรอ”        เธอถามผมจากด้านหลัง

 
“ไม่มา เขามีธุระนะ”

 
“ เดี่ยวนี้โอ๊คกับออยสนิทกันนะ เห็นอยู่ด้วยกันตลอด ”

 
“ก็นิดหน่อย ทำไมหรอ”

 
“ก็แนนเริ่มจะน้อยใจแล้วนะ โอ๊คเห็นเพื่อนสำคัญกว่าแนน เอะอะอะไรก็ออยตลอด”

 
“แนนคิดมาก โอ๊ครักแนนเหมือนเดิมแหละ”

 
“ไม่รู้สิ บางครั้งแนนก็รู้สึกว่าโดนออยแย่งความรักของโอ๊ค ไปจากแนน”

 
“บ้าแล้ว แนน”

 
“ไม่เอาไม่พูดดีกว่า แนนคงคิดมากไปเองจริงๆ”

 
            ผมรู้สึกตกใจมากเหมือนกัน ที่แนนเขารู้สึกอย่างนั้น จริงหรือนี้ ผมเปลี่ยนไปมากจนแนนรู้สึกได้ขนาดนั้น แต่ผมว่า ผมก็รักเธอมากไม่เคยเปลี่ยน หรือรักน้อยลงสักนิดก็ไม่มี เพียงแต่ช่วงนี้ จะมีบ้างที่ต้องสลับเวลาไปอยู่กับไอ้ออย เพราะผมก็รักมันมากเช่นกัน ผมจึงลองตั้งคำถามกับตัวเอง สองคนนี้ระหว่างออยกับแนน หากมีใครสักคนถามผมว่า รักใครมากกว่ากัน สำหรับคำตอบนั้น ผมคงตอบ ไม่ได้เลยจริงๆ

 
“แนนจะดูเรื่องไรอ่าหนัง เดี่ยวโอ๊คไปชื้อตั๋วให้”

 
“ทีมพลีชีพ มหาวายร้าย suicide squad เขาว่ามันส์สุดๆ แนนรอมานานแล้ว”

 
“จัดไปครับที่รัก”

 
     >>>>>>>>>>>>>>>>>>

 
ติ๊ง หน่องๆๆ

        วันเสาร์แบบนี้ใครมากดออดหน้าบ้านแต่เช้านะ ไม่มีใครอยู่บ้านด้วยสิ แม่กับพ่อออกไปข้างนอก เขาบอกผมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ผมจำใจงัวเงียลุกขึ้นจากที่นอน ลงไปเปิดประตูหน้าบ้าน แต่ทว่า กลับไม่พบใคร รออยู่ที่หน้าบ้านสักคน เด็กที่ไหนมาแกล้งวะ เจอแม่งจะเตะตูดเสียให้ร้องให้กลับบ้าน ไปฟ้องแม่แทบไม่ทันเลยไอ้เด็กเปรต คนกำลังนอนเพลินๆกลับไปนอนต่อดีกว่าเซ็งวะ

 
“คิดถึงกูเปล่า”          เมื่อผมปิดประตูบ้านเสร็จ ขณะจะเดินกลับขึ้นบนห้อง ก็มีคนเข้ามากอดจากข้างหลัง กระซิบที่ข้างหู

 
“เชี้ย ออย”        ผมว่าคนที่กำลังกอดผมแน่นอยู่

 
“ยังไม่ตอบคำถามกูเลยนะ”  มันยืนหน้ามาหอมแก้มผมทีหนึ่ง แล้วเอี่ยวตัวมามองหน้าผม ทำอ้อนเชียว

 
“อาไร วันเดียวเอง”       ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

   
“วันเดียวก็คิดถึงได้ ให้ชื่นใจหน่อยนะ”       

 
“ไม่เอา น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ฟันยังไม่แปรงเลย ดูสิ ปากโอ๊คเหม็นจะแย่แล้ว”

 
               มันไม่ฟังเลยสักนิด กลับจับตัวผม หันหน้าเข้าหาตัวมัน แล้วดันจนตัวผม ติดเข้ากับประตูบ้านก่อนมันจะจับคางผมให้เงยหน้าขึ้น แล้วมันก็ก้มหน้าลงมาจูบปากผมเบาๆ เอาลูกอมรสหวานจากปลายลิ้นมันส่งเข้าปากผม ก่อนจะดูดปากผมเบาๆอีกครั้ง แลกลิ้นผลัดกันชิมรสหวานของลูกอมก้อนนั้นสักพัก ก่อนมันจะถอดปากกลับไป

 
“ที่นี้ก็ไม่เหม็นแล้วนะ ให้ออยชื่นใจได้หรือยัง”           มันมองหน้าผมในระยะประชิด จมูกชนจมูก แบ่งปันลมหายใจกลิ่นสตอเบอร์รี่ให้กันและกัน มันคลอเคลียอยู่แถวใบหน้าผมไม่ห่าง แล้วยิ้มหวานให้อย่างเคย

 
“อืม”

 
                เอาสิครับ ก็เพราะรสจูบหวานๆนั้น เล่นเอาผมเคลิ้มจนอารมณ์เตลิดไปถึงไหนต่อถึงไหนแล้ว มีใครจะบ้า ทำอะไรโง่ๆ โดยการปฏิเสธที่รักของตัวได้ลงคอละครับ ว่าไหม

 
  “ข้างบนนะ วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านพอดีเลย ขอกอดให้หายคิดถึงสักรอบนะ”          ว่าแล้วมันก็อุ้มผมขึ้นอย่างไว ผมรีบคว้าตัวมัน กอดคอไว้แน่น

 
“รู้ได้ไง ว่าไม่มีใครอยู่บ้าน”           ผมถามขณะมันกำลังอุ้มผมเดินขึ้นชั้นบน

 
“ก็ตอนที่กูมาหามึง จังเหวะเดียวกับที่แม่กับพ่อกับน้องมึงกำลังจะออกจากบ้านพอดี เขาก็เลยเปิดประตูให้กูเข้ามาในบ้าน”

 
“แล้วมึงก็แกล้งกู”

 
“ก็แฟนเขาน่าแกล้งนี้น่า”

 
                มันวางผมลงกับที่นอน แล้วจับจมูกผมบี้เบาๆทีหนึ่ง ก่อนจะขึ้นมาค้อมอยู่บนตัว แล้วคนเอาแต่ใจก็ยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงมาช้าๆ มันจับมือผมไว้ทั้งสองข้าง มือสองเราประสานจับกันไว้แน่น  ผมเหมือนรอมันมาแสนนาน แม้จะพึ่งเจอกันเมื่อวานนี้ ก่อนจะมองหน้ามันแล้วยิ้มให้อ้อนๆ ผมขออ้อนแฟนให้หายคิดถึงหน่อยนะครับ คนอะไรทำให้ผมคิดถึงได้ขนาดนี้ ถึงปากผมจะหนักพูดไม่เก่ง ว่ารักและคิดถึงมันแค่ไหน แต่ในทุกๆลมหายใจที่เข้ามาก็คิดถึงมัน และทุกครั้งที่หายใจออกก็คิดถึงแนน สองคนนี้สลับหมุนเวียนอยู่ในหัวผมตลอด

 
 “ติ่ง หน่อง” ติ่งหน่องๆ”

 
             อยู่ๆก็มีเสียงกดออดหน้าบ้าน ใครกันนะมาเวลานี้ คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ผมรีบดันตัวไอ้ออยลุกขึ้น แม้มันจะดื้อสักหน่อยแต่ก็ยอมด้วยดี

 
“ไปดูก่อนว่าใครมา เดี่ยวค่อยมาต่อก็ได้“

 
“รีบมานะ“       มันนอนลงกับที่นอนแล้วกอดหมอนข้างไว้ ทำหน้าเซ็งๆ

 
“เออ รอแปบ”       ผมรีบลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าผมเผ้าให้เข้าที่

 
“แต่ว่า กูไปเองดีกว่า ถ้าเกิดเพื่อนมึงมาแล้วชวนไปข้างนอก กูก็อดดิ”

 
               ว่าแล้วมันก็ลุกขึ้น เปิดประตูห้องนอน กึ่งวิ่งกึ่งเดินลงไปข้างล่าง ปล่อยให้ผมทำหน้าเอ่อๆงงแดกอยู่ตรงนั้น อะไรของมัน ผมตามมันไม่ทันจริงๆครับ

                        >>>>>>>>>>>>>>>

               มันหายไปนานจนผมอดแปลกใจไม่ได้   ผมรีบลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า หวีผมเผ้าให้เข้าที ก่อนจะลุกเดินลงไปข้างล่าง ไม่มีใครอยู่หน้าบ้าน ไอ้ออยหายไปไหน แต่มีเสียงคนอยู่ในครัว  มีคนสองคนคุยกันอยู่ เสียงผู้หญิงกับผู้ชาย ผมเดินไปเงียบๆ แอบดูก่อนว่าใคร “แนน” เธอมาได้ไง ว่าแล้วทำไมไอ้ออยไม่ขึ้นไปข้างบนสักที อยู่ๆผมก็ไม่กล้าเดินเข้าไปหาสองคนนั้น แอบหลบอยู่หลังประตู ฟังสองคนนั้นคุยกัน

 
“แนนทำกับข้าวเป็นด้วย”

 
“โธ่ออย แค่ทำข้าวต้มเองนะ ง่ายๆ”

 
“ไปเรียกโอ๊คให้นะ ปานนี้คงตื่นแล้ว”

 
“อีกแปบก็ได้ แนนยังทำข้าวต้มไม่เสร็จเลย”

 
“ออยช่วยไหม”

 
“ออยไปนั่งรอที่โต๊ะเลย รอชิมนะ เดี่ยวแนนจะโชว์ฝีมือเอง รับรองออยจะติดใจ”

 
          อะไรกันสองคนนั้น ดูสนิทสนมกันจัง สนิทกันจนผมรู้สึกแปลกๆ มันหงุดหงิดอะไนวะนี้ หรือผมกำลังคิดไปเอง คงไม่นะ คิดมากไปรึเปล่าโอ๊ค  ไม่ดีหรอแบบนี้ แฟนเราสองคนเขาเข้ากันได้ดี ไม่มีปัญหากัน แต่ว่า ถ้าวันหนึ่งแนนรู้เรื่องผมกับไอ้ออยละจะเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากจะคิดเลย

 
“ออย มานี้สิ”          แนนเรียกให้ไอ้ออยเข้าไปไกล้ๆ

 
“อืม” 

 
 “ชิมดูให้หน่อย อร่อยยัง”

 
         แนนตักข้าวต้มจากหม้อร้อนๆ ขึ้นมาช้อนหนึ่ง ก่อนเธอจะเป่ามันด้วยปากให้ความร้อนลดลง แล้วป้อนเข้าปากไอ้ออย ทั้งคู่สบตากัน มองหน้ากันนิ่ง ก่อนจะคุยกันอย่างสนิทสนม แล้วหัวเราะคิกคักกันเบาๆ ในตอนนั้นหูผมฟังอะไรไม่ได้ยินแล้ว หูมันอื้อไปหมด ในหัวสมองมันมืดคิดอะไรไม่ออกด้วยแล้ว
 
“ทำอะไรกัน”           ขาของผมพาตัวเองก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว พูดด้วยอารมณ์เหมือนกำลังโกธรอะไรบางอย่าง กำหมดแน่น จ้องคนทั้งคู่ไม่วางตา อย่างเอาเรื่อง ไอ้ออยถอยห่างจากแนน เสียงหัวเราะหายไปเหลือเพียงเสียงเงียบงัน

 
“แนนทำข้าวต้มให้โอ๊คไง แล้วไอ้ออยชิมว่าแบบนี้ โอ๊คจะชอบหรือเปล่า”      เธอยิ้มให้ผมอย่างใจเย็น 

 
“แล้วทำไมต้องไกล้ชิดกันขนาดนั้น”

 
“โอ๊คมึงฟังกูก่อนนะ”      ไอ้ออยขยับตัวเข้ามาจับแขนผมไว้

 
“กูไม่อยากฟัง”       ผมสะบัดมือมันให้หลุดจากแขน ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก ว่าผมโมโหใครกันแน่

 
“ไม่มีอะไรจริงๆ”     ไอ้ออยมันพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผมเย็นลง

 
“ไม่มีหรอ แฟนตัวเองกับ…”     ผมพูดไม่ออก บอกไม่ถูก

 
“โอ๊ค พอเลยนะ ทำแบบนี้ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด แนนไม่คิดเลยว่าโอ๊คจะเป็นได้ขนาดนี้ หึงได้กระทั่งเพื่อนตัวเอง ออยนี้ก็เพื่อนรักของโอ๊คนะ คิดอะไรทุเรศๆแบบนี้ได้ไง เหมือนโอ๊คไม่ไว้ใจแนนเลยสักนิด”         แนนมองผม แล้วต่อว่าอย่างรุนแรง

 
“ก็เพราะ เพื่อน ไง รักด้วย รักมาก โอ๊คถึงทนไม่ได้อย่างไงละแนน คิดว่าโอ๊คไม่เห็นหรือไง แนนมาตั่งนานแล้ว ทำไมไม่ให้ไอ้ออยไปเรียกโอ๊คลงมา ถ้าบอกว่าโอ๊คคิดมาก แล้วที่กำลังป้อนข้าวต้มกันเมื่อกี้ คืออะไร”       ผมจ้องหน้าไอ้ออย อยากจะร้องให้ออกมาดังๆ แต่ก็ทนฝืนเก็บอาการ ที่รู้สึกเจ็บ รู้สึกทรมานกับเรื่องแค่นี้ แค่เขาสองคนกำลังชิมข้าวต้มกัน มันอะไรวะโอ๊ค

 
“ไร้สาระมากโอ๊ค แค่เรื่องนิดเดียว ไม่ใว้ใจกันใช่ไหม ได้  เมื่อพูดอะไรไม่รู้เรื่องด้วย แนนกลับละ ไปละออย แล้วเจอกัน นายดูเพื่อนบ้าๆของนายด้วยนะ บาย”          ว่าแล้วเธอก็เดินไปคว้ากระเป๋ากลับออกไป

 
“แนน แนน เดี่ยวก่อน โอ๊คขอโทษ”       ผมคิดอะไรได้ เราไม่ใว้ใจแฟนเราทั้งสองคนขนาดนั้นเลยหรอวะ

 
“เอาไว้โอ๊คมีสติ คิดได้แล้ว เราค่อยคุยกัน”

 
         ผมร้องเรียกเธอ ตามไปฉุดรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ไม่ยอมฟังเหมือนกัน แล้วเธอก็กลับไป เพราะความหึงมันบังตา จนผมทำอะไรบ้าๆแบบที่ไม่เคยจะเป็นมาก่อน เพราะอะไรนะ ผมเคยหึงแนนมาก่อนแต่ไม่เคยรู้สึกโกธรมากแบบนี้  แล้วถามว่าโกธรใคร ไอ้ออย หรือแนน คำตอบที่มีในใจกลับ ไม่รู้

       ผมนั่งลงหน้าบ้าน คิดทบทวนกับเรื่องที่เกิด ผมเองที่ออกจะเกินไปหน่อยจริงๆนั้นละ อย่างที่แนนพูด เหมือนผมไม่ใว้ใจแนนกับไอ้ออยเลยสักนิด เธอพูดถูก   เพราะตอนนี้ผมกำลังกลัวอะไรหรือเปล่า กลัวว่าสองคนนั้นจะสนิทสนมกันมากเกินไปงันหรอ กลัวออยจะชอบแนน หรือกลัวแนนจะชอบออย ผมสับสนขึ้นทุกขณะ แต่จะเป็นอย่างไงถ้าเกิดสองคนนั้นชอบกันขึ้นมาจริงๆ แล้วผมจะอยู่ได้อย่างไง เพียงแค่คิดเล่นๆผมก็สั่นไปทั้งตัว

 
“เข้าบ้านได้แล้ว”  ไอ้ออยเดินมาฉุดผมให้ลุกขึ้น

 
“ออย ขอกูอยู่คนเดียวเงียบๆได้เปล่า เมื่อกี้กูขอโทษ กูทำไปโดยไม่รู้ตัว”

 
“กูไม่โกธรมึงหรอก ปะเข้าบ้าน”

 
          ว่าแล้วผมก็เดินเข้าบ้านแม้จะมีมันเดินตามมา มันพยายามเอาใจผมทุกอย่างเหมือนเคย หาข้าวให้ผมกิน แต่ผมไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั่งนั้น  มันพูดด้วยก็ไม่อยากพูดกับมัน อะไรของผมก็ไม่รู้ แต่มันก็นั่งอยู่ข้างๆจับมือผมไว้ ในหัวของผมเอาแต่นั่งคิดเรื่องของออยกับแนนอยู่ตลอดเวลา หาคำตอบที่ชัดเจนให้กับตัวเอง มันอะไรวะ เรื่องแบบนี้ทำไมต้องมาเกิดกับผมด้วย ผมนอนลงหนุนตักไอ้ออย มองหน้ามัน คนที่ควรจะโกธรผมกับเรื่องเมื่อเช้า แต่มันกลับนิ่งเฉย ไม่มีท่าทีว่าโกธรผมสักนิด เพราะอะไรนะ ออยมึงคิดอะไรอยู่ บอกกูได้ไหม กูไม่กล้าถาม

 

 >>>>>>>>>>>>>>>>>

 ชอบไม่ชอบ บอกด้วยนะครับ

ติดตามตอนต่อไปครับ[/size]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2016 05:12:56 โดย แอมม่ายติง »

ออฟไลน์ hamony

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที1ุ6) 9/8/2016
«ตอบ #24 เมื่อ09-08-2016 09:37:33 »

อยากให้เคลียร์ ว่าจะเอาไรดี

ออฟไลน์ Bsky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที1ุ6) 9/8/2016
«ตอบ #25 เมื่อ09-08-2016 19:20:27 »

 :impress3:

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที1ุ6) 9/8/2016
«ตอบ #26 เมื่อ10-08-2016 00:10:53 »

hamony
Bsky

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ มันต้องมีเครียร์อยู่แล้ว อ่านต่อเลยครับ

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

 โดย เอ็มเอ็มซี..ออย  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง


mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบเจ็ด>>>*นายเพียงคนเดียว ด้วยหัวใจ*

                                     

                                                ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม จะไม่ทิ้งเธอไปไหน

                                                                     ขอโทษแนนนะ

                                                                            Aok

           สเตตัสเช้านี้ของไอ้โอ๊ค ผมอ่านแล้ว ก็ให้เห็นใจมันอยู่ จะบอกว่าโอ๊คมันผิดคนเดียวก็ไม่ใช่หรอก ผมก็มีส่วนเต็มๆ  ผมไม่น่าจะไปสนิทสนมกับแนนเขามากขนาดนั้น ก็รู้ทั้งรู้ ว่าไอ้โอ๊คมันขี่หึงขนาดไหน แต่ก็ไม่ทันได้คิด ด้วยเพราะผม อยากทำดีกับแนนเธอไว้มากๆ หากวันหน้าที่เธอรู้เรื่องของผมกับไอ้โอ๊คมันเข้า อย่างน้อยๆเธอก็อาจจะนึกเห็นความดีของผมขึ้นมาบ้าง แล้วเอาไปหักลบผิดบาปลงสักหน่อย ได้ก็ยังดี 

 “กินข้าวนะ ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย”           ผมยกถ้วยข้าวต้มที่ผมไปอุ่นมาใหม่ให้ร้อนๆของแนนที่เธอทำไว้ มาวางตรงหน้ามัน


 “แนนเขาไม่รับสายกูเลย ทักข้อความไลน์เฟส เขาก็ไม่ตอบ ไม่อ่านสักอย่าง”        มันนั่งทำตาละห้อยหมดอาลัยตายยาก

 
“เที่ยงแล้วมากินอะไรหน่อยสิ ห่วงตัวเองบ้างนะ”        ผมเลื่อนชามไปวางตรงหน้ามัน

 
“กูยังไม่หิวเลยวะ”        มันมองข้าวต้มตรงหน้า แล้วเลื่อนชามกลับมาหาผมเหมือนเดิม

 
        มันดูเศร้าสร้อยและสับสน จนผมรู้สึกอิจฉาแนนขึ้นมานิดๆ สรุปว่าแบบนี้ ไอ้โอ๊คมันแคร์แนนเขามากกว่าผมสินะ  แถมมันยังบอกว่าไม่ได้โกธรผม งันคงโกธรแนน  แต่ทำไมมันต้องบึ้งตึงกับผมนักละ เพราะอะไร

        แล้วที่มันหึง โอ๊คมันหึงใคร คำตอบที่ใช่และถูกต้อง มันต้องหึงแนนแน่นอนอยู่แล้ว  เพราะมันโกธรที่แนนมาไกล้ชิดกับผม กลัวเธอจะมาชอบผม เพราะถ้าไอ้โอ๊คมันรักผมมากกว่าแนน มันต้องโกธรผมสิ หวงผม กลัวว่าผมจะไปชอบแนน

        แต่เอาเถอะถึงโอ๊คมันจะรักแนนมากกว่าผม  ก็ไม่เป็นไร เพราะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ผมก็จะไม่ทิ้งมันไปไหน เหมือนกัน เพราะมันคือสิ่งที่ผมสัญญาไว้กับตัวเอง ตั้งแต่วันที่รับปากจะคบกับมันเป็นแฟนแล้ว

 
“จะง้อแนน ก็ต้องมีแรงนะโอ๊ค กินข้าวกัน กูสัญญาจะช่วยมึงง้อแนนกลับมาให้ได้”       ผมตักข้าวต้มที่ปรุงรสแบบที่มันชอบกินมาเรียบร้อยแล้ว เป่าให้ความร้อนของข้าวต้มลดลง แล้วจ่อที่ปากมัน

 
“อืม ห้ามเบี้ยวด้วยนะ”        มันพยักหน้า ก่อนอ้าปากรับช้อนข้าวต้มเข้าปาก

 
“กินเยอะๆนะ”                 ผมลูบหัวเกรียนๆมันแล้วยิ้มให้ ก่อนมันจะยิ้มให้กลับมา

 
“แล้วมึงกินอะไรยัง”         มันหันมามองผม

 
“ยัง รอมึงกินก่อน”           ผมตอบมันขณะตักข้าวต้มป้อนมันอีกหลายคำ

 
“เอาช้อนมานี้”          มันแย่งช้อนจากมือผม แล้วตักข้าวต้มขึ้นมา ป้อนผมบ้างผมอ้าปากรับข้าวต้มนั้นเขาปากเต็มคำ

 
“ร้อน”           มันไม่เป่าให้ผมสักนิดเหมือนมันตั้งใจจะแกล้งผม

 
“กูไม่ใช่แนนนิ จะได้มานั่งเป่าให้มึง”                มันมีค้อนผมด้วย

 
“อ้าว ไหนบอก ไม่ได้โกธรกู แต่การกระทำมึงสวนทางกับคำพูดตลอด”

 
“ก็กูไม่รู้ ไม่ได้โกธร แต่มันหงุดหงิด มึงเข้าใจปะ”       อะไรของมัน

 
“เอ้อ มีแบบนี้ด้วยคนเรา”

 
“อ้าวเอาใหม่ กินด้วยกัน รอบนี้ไม่แกล้งแล้ว”          แล้วมันก็ป้อนผมดีๆ เป่าให้ด้วย สลับตักกินเองกับป้อนผม มันดูดีขึ้น พูดคุยเริ่มเป็นปกติแล้วแม้มันจะไม่อยากคุยเท่าไร

 
            เมื่อจัดการอาหารเที่ยงซึ้งมันคืออาหารเช้าของเราทั้งคู่ หมดไปสองชามติดๆด้วยความหิว ก่อนจะมานั่งดูซี่รี่ย์ยอดฮิตที่ห้องรับแขก สรุปวันนี้ผมก็อดชื่นใจกับสุดที่รักจนได้ แนนจ้าแนนมาได้เวลาเหมาะจริงๆเอ้อ แต่คืนนี้ยังมี ขอให้มันอารมณ์ดีเร็วๆละกัน

 
 “มองอะไร”

 
          อยู่ๆโอ๊คมันก็นอนลงหนุนตักผม มองหน้าเหมือนอยากจะถามอะไร แต่ก็ไม่พูดสักที นี้เป็นครั้งที่สองแล้วของวันนี้ ที่มันเป็นแบบนี้ ยอมให้ผมอยู่ด้วย จับมือมันไว้ อยู่ไกล้ๆ นั่งอิงผม นอนหนุนตัก แต่ไม่ค่อยอยากจะพูดจากับผมนัก อะไรหว่า

 
“ มองแฟนตัวเอง ไม่ได้ไง ผิดด้วยหรอ”           มันพูดแบบกวนๆ

 
“ไม่ผิดครับผม มองตลอดไปเลยนะ”

 
“แหวะ เน่า”

 
“หรอ พูดไม่ดีระวังโดนนะครับ”           ผมมองหน้าคนที่อยู่บนตัก

 
“โดนอะไร คิดว่ากลัวหรอ”            มันสู้ครับ

 
“ปากดีต้องโดน”

 
             ผมพูดเสร็จแล้วก็จับหัวมันไว้แน่นทั้งสองมือ ไม่ให้ขยับไปไหนได้  ก่อนจะก้มลงไปจูบปากของเจ้าคนขี่งอน ที่นอนอยู่บนตัก มันดิ้นสะบัดนิดหนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมากอดที่หัวผมแล้วยกตัวขึ้นมาจูบกลับ ไงละเก่งนัก อ่อนระรวยอยู่ตรงนั้นเป็นไงละ แถมยกตัวเข้าหาอีก จนผมพอใจ จึงถอนปากกลับออกมา

 
“ชอบทำแบบนี้กับกูเรื่อยมึงอะ”         มันทำเสียงอ้อนๆจนน่าหยิก

 
“ก็กูรักแฟนของกู ไม่ได้หรอ”      ผมทำตาหวานฉ่ำ มองตาใสๆของมัน

 
“น้ำเน่าตลอด”         มันทุบที่อกผมเบาๆ ก่อนจะยกตัวขึ้นมากอดตัวผมไว้แน่น แล้วเอาหน้าชุกเข้าที่อกผมไว้ อย่างที่มันชอบทำประจำเวลาจะไม่ไห้ผมไปไหน ผมกอดมันไว้แน่นเช่นกัน เหมือนลูกลิงกำลังกอดอยู่ที่อกแม่ลิงอย่างไงอย่างงัน

 
“ออย ทำไมมึงไม่โกธรกูละเมื่อเช้า แล้วมึงว่า กูงี่เง่ามากไหม”          มันที่อยู่ในอ้อมกอดถามขึ้นมา

 
“กูจะโกธรมึงทำไมหว่า กูเองแหละที่ผิด”         ผมลูบหัวเกรียนมันไปด้วย คุยไปด้วย

 
“แล้วมึงทำแบบนั้นทำไม มึงชอบแนนหรอ”

 
“กูว่าแล้วมึงจะคิดแบบนี้”

 
“แล้วอย่างไง มึงยังไม่ตอบกูเลย”

 
“กูก็ชอบเขานะ โอ้ย” ผมยังพูดไม่จบเลยครับมันก็ทุบข้างหลังผมอย่างแรง

 
“กูยังพูดไม่จบเลย ฟังก่อนดิหว่า กูชอบเขาแบบน้องสาว ที่กูชอบคุยกับเขา เอาใจใส่เขา ทำดีกับเขา เพราะกูรู้สึกผิดต่อเขา มึงรู้ไหมถ้าวันหนึ่งแนนเขารู้เรื่องระหว่างมึงกับกู แนนเขาจะเป็นอย่างไง มึงเคยคิดหรือเปล่า”

 
“หรอ แบบนั้นเองหรอ ออยแล้วมึงเคยคิดหรือเปล่า ถ้าเกิดมึงกับแนนชอบกันกันจริงๆ แล้วกูจะเป็นอย่างไง ”              อยู่ๆมันก็พูดอะไรของมันขึ้นมาก็ไม่รู้

 
 “กูไม่ทางทำแบบนั้นแน่ มึงไม่เชื่อใจกูหรอ มึงไม่ใช่เชื่อใจแนนขนาดนั้นหรอวะ”

 
“เพราะกูคิดแบบนั้นไง กูเลยเกลียดตัวเอง โกธรตัวเอง ที่กูมีความคิดเลวๆ ไม่ไว้ใจแฟนตัวเองสักนิด ไม่เชื่อในตัวพวกเขา แค่ข้าวต้มช้อนเดียวก็ทำให้ตัวเองสติแตกได้ ที่นี้มึงเข้าใจหรือยัง ว่ากูเป็นอะไร”

 
“ กูดีใจอย่างน้อยมึงก็คิดได้ มึงรู้ไหมกูกังวลอยู่ตลอด ว่ามึงเป็นอะไร”

 
“กูทำให้มึงคิดมากเพราะกูอีกแล้วสินะ กูก็รู้ ว่ามึงก็เป็นคนคิดมาก แต่ชอบเก็บอาการ ออยกูขอได้ไหม ถ้ามึงโกธรอะไรกูอีกให้พูดออกมา อย่าเก็บไว้ แล้วแอบหนีไปแบบเงียบๆอย่างคราวที่แล้ว จะได้ไหม”

 
“ได้ กูจะพยายาม”

 
“ไม่เอา มึงต้องรับปากกูก่อน”

 
“เอา กูรับปาก”

 
“จริงนะ รับปากแล้ว ต้องทำให้ได้ด้วย”

 
“ครับผม เด็กช่างรักจริง ไม่ทิ้งใครแน่นอน”

 
“เกลียดมึงตรงชอบน้ำเน่านี้แหละ ในเฟสก็ชอบเพ้ออะไรก็ไม่รู้”

 
“มีคนเขาบอกว่า คนเรายิ่งเกลียดก็ยิ่งรัก เกลียดอะไร ก็มักได้อันนั้น เพราะอย่างนั้นมึงเกลียดกูเยอะๆเลยนะ ตามสบาย”

 
“แนะ ตลอด หวานตลอด น้ำเน่า โบราณด้วย เปลี่ยนชื่อให้มึงใหม่ เป็นไอ้เน่า ดีมะ”

 
“เน่าแล้วใครจูบเอา จูบเอาหว่า ไม่เคยขัด ให้จัดตลอด ฮาๆ”

 
“พอเลย”

 
“โอ๊ค ถ้ากูจะถามว่าระหว่างกูกับแนนมึงรักใครมากกว่ากันละ มึงจะตอบกูได้หรือเปล่า แล้วเมื่อเช้า มึงโกธรใครมากกว่ากัน ระหว่างกูกับแนน”

 
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน มึงอยากรู้ด้วยหรอวะ แต่กูรู้แค่ว่า กูรักมึงมาก แต่ไม่รู้ว่ามากแค่ไหน มากกว่าแนนหรือเปล่า หรือรักเท่ากัน กูก็ไม่แน่ใจ กูคิดเรื่องนี้ทุกวัน แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบสักที”

 
“หรอ เอาแบบนี้ก็ได้ มึงจะได้ไม่คิดหนัก รักกูให้น้อยกว่าแนนเขาก็ได้นะ ไม่เป็นไร แต่กูอยากให้มึงจำไว้ กูรักมึงแค่คนเดียว สุดหัวใจ”

 
          ผมพูดไปเพียงเท่านั้น มันก็ลุกขึ้น ขยับตัวมานั่งค้อมบนตักผม เอามือกอดที่คอผมไว้แน่น จนผมต้องกอดตัวมันไว้ เพราะไม่รู้ว่ามันคิดจะทำอะไร มันมองผมอยู่นาน ก่อนจะก้มหน้าเอาปลายจมูกของมันมาชนกับปลายจมูกผม ปากชิดปาก

 
“ออย มึงพูดแบบเมื่อกี้อีกครั้งสิ กูอย่างได้ยินชัดๆจากปากของมึง”

 
"อะไร"

 
"น่านะ อยากฟังอีก"    มันออดอ้อนผม

 
“เอา ตั้งใจฟังนะครับที่รัก โอ๊คกูรักมึงแค่คนเดียว สุดหัวใจ อุบ”

 
             พอผมพูดจบ มันก็เอาปากเล็กๆของมันประกบเขากับปากผม มันเป็นฝ่ายรุกจูบผมอย่างเร้าร้อน กอดผมไว้แน่น  มันแสดงออกถึงความต้องการผมสุดหัวใจ ของมันเท่าที่มี วันนี้มันไม่มีทีท่าว่าจะลังเลสักนิดเหมือนทุกครั้ง อย่างที่ผ่านมา มันจูบแลกลิ้นกับผมจนพอใจ ก่อนจะถอนปากออกจากผมไป แล้วนั่งมองผม ยิ้มให้อย่างเป็นสุข อะไรของมัน คงไม่ต้องรอให้เย็นแล้วละครับ คงต้องจัดให้เสียแต่ตอนนี้ ดูมันสิ ยิ้มหวานยั่วผมขนาดนี้จะทนไหวได้ไง ไม่สองก็สามไปเลยวันนี้ รู้สึกมีความอ้อนผัวจังนะแฟนผมเนี้ย   

 
  “ออย มึงต้องเป็นคนที่สวรรค์ส่งลงมาให้กูอย่างแน่นอน  ทำไมคนเห็นแก่ตัวอย่างกูถึงมีโอกาสได้ครอบครองมึงก็ไม่รู้เหนอะ แม้จะมีคนอื่นอีกมากมายที่ได้แต่มอง แต่ไม่มีสิทธิครอบครองมึงสักนิด  แต่กูก็ไม่อยากรู้หรอกเพราะอะไร แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ ว่ากูรู้สึกดีใจและมีความสุขมากๆที่มีมึงอยู่เคียงข้างๆตลอดเวลา แม้ยามกูจะผิดหวัง จะเศร้าเสียใจ ถึงเวลาไปไหนมาไหน ขอแค่มีมึงอยู่ข้างๆ กูก็ไม่เคยกลัวอะไร แต่กลับกัน กูกลับกลัวว่าจะเสียมึงไป กลังมึงจะทิ้งกู กลัวว่ามึงจะรักกูน้อยลง กลัวว่ามึงจะเบื่อความงี่เง่าเอาแต่ใจของกู ทนกูหน่อยนะออย กูจะพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น อีกอย่าง กูจะรักมึงให้น้อยลง แต่กูจะรักมึงให้นานแสนนาน อย่างที่มึงบอก กูจะรักมึงน้อยกว่าแนน แต่จะรักให้นานตราบที่ลมหายใจของกูยังมีอยู่”

 
        มันพูดออกมายาวยืดก่อนน้ำตาของมันจะไหล อาบแก้ม ผมเอาสองมือเช็ดน้ำตาเจ้าขี่แย้ ก่อนจะจับจมูกมันบี้เบาๆเพราะหมั่นเขี้ยว ตาแดงจมูกแดงๆ แก้มป่องๆ มันยิ้มให้ผมทั้งน้ำตา แต่มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข ไม่ใช่เพราะมันเศร้าหรือทุกข์ใจ จนผมแทบจะอดกลั้นน้ำตาตัวเองไว้ไม่อยู่ เกือบร้องไปกับมัน ผมจึงได้แต่กอดมันไว้ในอ้อมแขน ส่งผ่านความรู้สึกที่แสดงถึงความรักของผมที่มีต่อมันมากเพียงใด ไปให้มันด้วยกอดนั้น จากที่พึ่งบอกมันไปว่า ให้มันรักผมน้อยกว่าแนน ตอนนี้ผมชักจะเปลี่ยนใจแล้ว อยากให้มันรักผมมากกว่าเธอ เพราะเริ่มรู้สึกว่าผม ได้หลงรักมันมากขึ้นไปกว่าอีก เท่าตัวเสียแล้ว

 
>>>>>>>>>>>>>>

 
ติดตามตอนต่อไปครับ


 

   

ออฟไลน์ Bsky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที1ุ7) 10/8/2016
«ตอบ #27 เมื่อ11-08-2016 04:47:41 »

รอเหมือนเดิม :mew3:

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที1ุ7) 10/8/2016
«ตอบ #28 เมื่อ12-08-2016 00:20:51 »


โดย เอ็มเอ็มซี..เจมส์  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง


mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบแปด>>>*แผนรัก แผนร้าย*

 

“อย่าโกธรโอ๊คมันเลยนะแนน”

“นั้นสิ มันรักแนนมากนะ  คืนดีกันเร็วๆละ แล้วเจอกันครับ บาย”

“พี่ออย คุยกับใครอา”   ผมถามเมื่อพี่ออยคุยโทรศัพท์เสร็จ เดินกลับมานั่งลงข้างๆ

“คุยกับแฟนไอ้โอ๊คมันนะ”    เขาตอบผมก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแต่ตาเขาไม่ได้มองผม แต่มองพวกไอ้ชัย เต๋า บอร์น ริว ทั้งสี่คนนั้นกำลังแทงสนุ๊กกันอยู่อย่างเคร่งเครียด แบบเอาเป็นเอาตาย

“คุยอะไรกัน เห็นพี่เครียดๆ แล้วพี่รู้จักกับแฟนมันด้วยหรอ”

“ฮึ่ม ก็ช่วยง้อแฟนให้ไอ้โอ๊คนะ เขาสองคนทะเลาะกันนิดหน่อย”    พูดเสร็จแล้วพี่เขาก็ถอนหายใจ นั่งเหม่อ

“หะ ง้อแฟนของแฟนให้แฟนตัวเอง งง วุ้ย”

         อะไรกันง้อแฟนให้แฟน แบบนี้ก็มีด้วย ท่าจะหนักฮะพี่ออยของผม ไอ้โอ๊คมึงช่างโชคดีจริงๆ เขาทำอะไรให้มึงขนาดนี้ กูคงได้แต่อิจฉามึงไปวันๆ ยิ่งเมื่อเห็นท่าทางของพี่ออยเป็นแบบนั้น ผมเลยไม่กล้าถามต่อ กลัวจะโดนเตะ  นั่งอยู่เฉยๆดีกว่า

“เจมส์มึงมาเล่นคู่กับไอ้ริวแทนกูดิ กูอ่อนสิหาย แพ้คู่ไอ้บอร์นไอ้ชัยตลอด”   ไอ้เต๋าอยู่ๆมันก็เดินมาดึงผมให้ลุกขึ้น จับไม่คิวยัดใส่มือผม

“เชี้ยเต๋าไม่เอา มึงให้พี่ออยเล่นสิ เขาเก่งกว่ากู”

“เอาน่า มึงดูดิ ไอ้ริวมันอยากให้มึงไปคู่กับมันจะตาย”    มันพูดมีเลศนัย เหมือนมันตั้งใจเจาะจงให้ผมคู่กับไอ้ริวอย่างนั้น ยิ่งไอ้ริวอีกคน มองผมตาละห้อย อยากให้ผมไปคู่กับมันเสียจริง

“มึงก็ไปดิวะ เจมส์ ช่วยไอ้ริวมันหน่อย”   อยู่ๆพี่ออยก็ช่วยไอ้เต๋าเกลี้ยงกล่อมผมอีกคน

“เออๆ”

         เมื่อเป็นแบบนั้น ผมเลย จำใจลุกขึ้นเดินไปเล่นกับพวกมัน และแน่นอนแค่เกมส์แรก ผมกับไอ้ริวก็เป็นฝ่ายเอาชนะ ด้วยแต้มที่นำโด่งชนะพวกไอ้บอร์นไปได้อย่างขาดลอย และเกมส์ต่อๆมาอีก จนพวกนั้นต่างยอมแพ้แต่โดยดี ผมหันกลับมามองหาพี่ออย อยากให้เขาดีใจไปกับผมด้วย แต่เขากลับไม่อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว มีเพียงไอ้เชี้ยเต๋านั่งยิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์ อยู่ตรงนั้นแทน

“ปะไอ้เจมส์ไปหาอะไรกินกัน”  ไอ้ริวเดินเข้ามากอดคอผม อย่างสนิทสนม

“เชี้ยริว มึงอย่ามาโดนตัวกูได้ปะ”   ผมสลัดมันออกจนล้มเซ

“เชี้ยเจมส์ มึงเยอะไปละ เป็นอะไรหนักหนา”   ไอ้บอร์นปรี่เข้ามาทันที ประคองตัวไอ้ริวไว้ แล้วว่าผมยับ

“เจมส์มึงเป็นอะไรวะ อารมณ์ไม่ดีเรื่องอะไร บอกเพื่อนได้นะโว้ย”    ไอ้ริวกลับถามผมด้วยความเป็นห่วง อะไรของไอ้นี้

“ช่างกูเถอะ”    ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นไปอีก

“ช่างแม่งมันริว ปะพวกเราไปกันเถอะ หาอะไรแดกกัน ไอ้ห่านี้มันเยอะ อย่าไปยุ่งกับมันมาก”    แล้วไอ้บอร์นมันก็จูงแขนดึงไอ้ริวเดินออกไป ไอ้ริวมันหันกลับมามองผม ด้วยแววตาเป็นกังวล

“ไอ้เต๋า พี่ออยไปไหน”    ผมหันมามอง ไอ้คนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม่ยอมไปไหน ในเมื่อคนอื่นไปแล้ว ทำไมมันยังอยู่วะ

“ไม่แน่ใจวะ ได้ยินว่าจะรับใครสักคน แฟนม้าง”    มันตอบแบบกวนๆ

“แล้วมึง ไม่ไปกับพวกนั้นวะ”    ผมเริ่มมองมันอย่างหวาดระแวง

“ก็กูไม่อยากไปกับพวกมัน อยากไปกับมึงมากกว่า”

           อะไรของมัน ไอ้เต๋าช่วงนี้มันทำตัวแปลกๆ คอยตามตูดผมไปไหนมาไหนตลอด แถมยังคอยจับคู่ผมกับไอ้ริวอยู่เรื่อย แล้วยังมีพี่ออยคอยให้ท้ายมันอีกคน มันชักจะอย่างไงๆ แต่ผมก็ไม่แน่ใจมากนัก ผมอาจจะคิดมากไปเอง  ปกติไอ้เต๋ามันก็กวนตีนแบบนี้ตลอดละ นิสัยมัน

>>>>>>>>>>>>>>>>>

“อ้าวเจมส์ มาได้ไง”

“มารอพี่แหละ”

“เข้าบ้านสิ”

           ผมมานั่งรอพี่ออยอยู่หน้าบ้านจนมืด เมื่อเขากลับมาก็ชวนผมเข้าบ้านตามปกติ คงไม่ต้องบอกว่าไปไหนมา กลิ่นน้ำหอมของไอ้โอ๊คที่ติดเสื้อมา กลิ่นฟุ้งขนาดนี้ คงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันน่าดู อยากรู้จริงๆถ้าเกิดแฟนสาวของไอ้โอ๊คมันรู้เข้า จะเกิดอะไรขึ้น

       แต่ว่าอย่าเสี่ยงด้วยกว่า มีความเป็นไปได้สูง ถ้าเกิดผู้หญิงรู้เรื่องว่าแฟนตัวเองมีอะไรกับผู้ชาย จะเลิกกันกับฝ่ายชายในทันที ถ้าเกิดเป็นแบบนั้นขึ้นมา ไอ้โอ๊คมันก็เป็นของพี่ออยคนเดียวนะสิ แย่ละ แบบนี้ไม่ดีแล้ว ไม่ได้ เราต้องช่วยเก็บความลับนี้ให้สนิท แล้วหาทางแย่งพี่ออยมาด้วยวิธีอื่น

“พี่ออย คืนนี้ เจมส์นอนนี้นะ”

“จะดีหรอเจมส์ ไม่ดีม้าง”    พี่ออยละจากหน้าจอเกมส์หันมามองผม อย่างหวาดๆ

“ทำไมละ ผมก็เคยค้างบ่อยๆ เมื่อก่อนพี่ก็ไม่เคยว่านิครับ”    พี่เขาคงระแวงผมอยู่แน่เลย พูดให้ดีเจมส์ อย่าให้เขาสงสัย

“ไอ้โอ๊คมันขี่หึงนะ กูขี่เกียจทะเลาะกับมัน”

“พี่ก็อย่าบอกมันสิ หรือพี่รังเกียจผมขนาดนั้นเลยหรอ”   ผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก

“เปล่าๆ มึงอย่าคิดมากนะเจมส์ ค้างก็ค้าง”

       และแล้วก็เข้าทางแผนผม คืนนี้จะต้องเผด็จศึกพี่ออยให้ได้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องเอาด้วยคาถา คนเราจะมานั่งรอโชครอวาสนา ให้เดินเข้ามาหาอย่างเดียวไม่ได้หรอก อยากได้อะไร เราก็ต้องพยายามไขว้คว้ามาด้วยตัวเองเสียก่อน

“พี่ออยอยากกินน้ำอะไรเปล่า ผมจะไป7-11อยากได้น้ำอัดลมเย็นๆสักขวด”

“เอาดิ ชื้อฝากพี่ด้วยขวด”

          แล้วผมก็ขี่รถออกมาจากหมู่บ้าน ตรงมายัง7-11ปากซอยซึ้งไม่ไกลนัก ชื้อของที่ต้องการแล้วกลับไป แต่ก่อนอื่นต้องแวะทำอะไรสักอย่าง กับน้ำอัดลม ผมผสมยาปลุกอารมณ์อย่างแรงลงไปเขย่าให้มันละลายเข้ากัน หึ โอ๊คก็โอ๊คเถอะ หลังจากวันนี้ พี่ออยต้องหันกลับมาหาเราเหมือนเคย พอยาละลายเข้ากับน้ำอัดลมเรียบร้อย ผมก็ขี่รถเข้าบ้านพี่ออยทันที

“เชี้ยเจมส์ ไปไหนมาวะ นานชิบ”    ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไป ไอ้เชี้ยเต๋าก็ร้องทักผมคนแรก

“เชี้ย พวกมึงมาได้ไง”    ผมอุทานด้วยความตกใจทันที เมื่อเจอไอ้เต๋ากับไอ้ริวนั่งเล่นเกม อยู่ในห้อง

“พวกกูผ่านมาแถวนี้ จะไปหามึงที่บ้านแหละ แต่พอดีสวนกับพี่ออยหน้าหมู่บ้าน เขาบอกว่ามึงอยู่นี้ เลยให้กูสองคนมานี้ละ”    ไอ้เต๋ามันพูดกับผมโดยสายตายังจ้องที่จอเกม

“แล้วพี่ออยละวะ” เมื่อผมไม่เห็นพี่ออยอยู่ในห้อง

“เห็นเขาบอกว่าแฟนโทรมาตามนะ ไปเจอแฟนแปบ เดียวตามมา”    ไอ้ริวเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง

“เหย ไอ้เจมส์มึงชื้อน้ำอัดลมมาพอดีเลย เอามานี้ดิ”    ไอ้เต๋าดึงถุง7-11ไปจากมือผม

“เชี้ยของกูกับของพี่ออย ไม่มีของพวกมึงไอ้เต๋า”    ผมดึงกลับ

“เดียวกูไปชื้อคืนให้”   มันดึงไปจากมือผมอย่างไว แล้วส่งให้ไอ้ริว

“อะริว มึงกับกูคนละขวด”    ไอ้เต๋ามันส่งให้ไอ้ริวขวดหนึ่ง มันเป็นขวดพิเศษเฉพาะพี่ออย แย่ละ

“ไอ้ริวมึงกินไม่ได้ ขวดนี้ของพี่ออย”    ผมรีบกระโดดเข้าไป หวังแย่งคืน

“ของพี่ออยคนเดียวหรอ หวงนัก กูจะแดกให้หมด สัด”   แต่มันเร็วกว่าผม ลุกขึ้นหลบออกไปอีกทาง พร้อมกับเปิดขวด แล้วกระดกจนหมดในรวดเดียว

“เชี้ยละ”    ผมได้แต่อุทานเบาๆ

“อะไรวะเจมส์ แค่นี้ก็หวงด้วย เดี่ยวกูไปชื้อมาให้ใหม่ มึงอยู่เป็นเพื่อนไอ้ริวนะ”    มันมองผมอย่างเจ้าเล่ห์ อีกแล้วไอ้เชี้ยเต๋ามึงคิดจทำอะไรกันแน่

“มึงไม่ต้องไปไหน อยู่กับกูก่อนไอ้เต๋า”    ผมรีบคว้าตัวมันดึงไว้ ขณะไอ้ริวเริ่มมีอาการแปลก นั้นยาปลุกอารมณ์ระดับแรงเลยนะนั้น

“อะไร เดี่ยวกูมา มึงกลัวอะไร ไอ้ริวมันไม่กินมึงหรอก ปล่อย”   มันสะบัดผมออกแล้ววิ่งไปที่ประตู ผมวิ่งตาม แต่ช้าไปเสียแล้ว ไอ้เต๋ามันปิดประตู พร้อมล๊อคลูกบิดลงกลอน ขังผมไว้กับไอ้ริวในห้องทันที

“ไอ้เต๋าเปิดประตู กูไม่เล่นนะโว้ย ปล่อยกูออกไป”   ผมร้องเรียกลั่นบ้านแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ แปลว่ามันไปแล้ว วันนี้ที่บ้านพี่ออยไม่มีใครอยู่เสียด้วย อะไรจะซวยขนาดนี้

“เจมส์มึงจะไปไหน มาอยู่เป็นเพื่อนเล่นเกมกับกูดิ”    ไอ้ริวมันเรียกผม สายตาหวานหยาดเยิ้ม

“มึงเล่นไปคนเดียวก่อนเถอะวะ กูขอตัว”

“ไม่เอา มึงมานี้”    มันเดินมาดึงแขนผมลงไปนั่งข้างมัน จับจอยเกมยัดใส่มือผม

“ เล่นแทนไอ้เต๋าที”

>>>>>>>>>>>>>

“เจมส์ กูเป็นอะไรไม่รู้วะ แปลกๆ”    พอเวลาผ่านไปสักพัก ไอ้ริวเริ่มมีอาการอย่างว่าชัดเจนขึ้น เชี้ยเต๋ามึงกลับมาเร็วๆสิวะ ไปชื้อน้ำแค่นี้ไปนานชะมัด

“มึงใจเย็นนะไอ้ริว สงบสติอารมณ์ไว้”    อยู่ๆมันก็มองผม จ้องเขม็งผมไม่อยากทำอะไรมันเลย บอกตรงๆอย่างไอ้ริวนี้ ผมจับกระทืบทีเดียวก็มันหมอบราบละ

“กูร้อนจังวะ”   แล้วมันก็ถอดเสื้อออก มองผมแปลกๆก่อนจะขยับตัวเข้ามาหาผม

“เชี้ยริว”

“เจมส์ กูคิดว่ากูชอบมึงวะ เป็นของกูนะ”    พอสิ้นคำมันก็กระโจนตัวเข้าใส่ผม

“มึงบ้าแล้วริว ปล่อยกู” ผมดิ้นพยายามผลักมันออก

“กูอยากได้มึงมากตอนนี้ กูทนไม่ไหวแล้วเจมส์ มึงให้กูเถอะนะ”    มันพูดเหมือนคนไม่มีสติ คงต้องจับมันอัดให้สลบ แล้วรอให้ยาหมดฤทธิ์

        แต่มันจับผมกดไว้ไม่ยอมปล่อย เห็นร่างเล็กๆของผมแบบนี้ แต่ก็แข็งแรงมาก สู้แรงมันได้อย่างแน่นอน แต่ทำไมวันนี้เรียวแรงผมจู่ๆก็หายไป เริ่มมีอาการแปลกๆเกิดขึ้นในร่างกาย ความรู้สึกที่ผิดปกติ หรือเพราะน้ำอัดลมที่กินไปเมื่อกี้วะ ผมหันไปมองที่ขวด ว่าแล้วรสชาติมันแปลกๆ มันไม่ใช่ขวดที่ผมชื้อมา ไอ้เต๋าเชี้ย มึงๆ มึงเปลี่ยนขวดน้ำกู

          เดี่ยวก่อนนะ อะไรมันช่างบังเอิญไปเสียหมด หรือว่าผมจะโดนซ้อนแผน  พี่ออยออกไปข้างนอก ไอ้เต๋าพาไอ้ริวมา มันให้ไอ้ริวกินน้ำอัดลมขวดที่ผมใส่ยาไว้ ขังผมไว้กับไอ้ริวสองคน มันแอบเปลี่ยนขวดน้ำอัดลมผมด้วย แต่ตอนไหนนะ ทำไม่ผมไม่เห็น และผมก็คิดว่าในน้ำขวดนั้น จะต้องมียาใส่ไว้แน่ๆ เพราะตอนนี้อยู่ๆผมก็อยากให้ไอ้ริวมันกอดผมขึ้นมาเสียอย่างงัน

        ทุกครั้งที่ไอ้ริวมันโดนตัวผม มันรู้สึกดีจนผมผวาขึ้นไปกอดมัน เบียดร่างตัวเองเข้าใส่ไอ้ริวอย่างหื่นกระหาย พอๆกับที่มันหื่นกระหายในตัวผม เราสองคนกอดรัดฟัดกัน แล้วเสื้อผ้าของผมถูกถอดออกไปทีละชิ้นๆ พร้อมๆกับเสื้อผ้าของไอ้ริว

>>>>>>>>>>>>>>>>>

“เจมส์”

“มึงไปไกลๆกูริว”

       หลังจากมรสุมพิศวาสจบลงด้วยความอ่อนล้า เราทั้งคู่นอนกอดกันแล้วหลับไปจนเช้า คนที่นอนอยู่ข้างๆลุกขึ้นมากอดผมอย่างนุ่มนวล แต่ผมกลับรู้สึกหงุดหงิด ไม่อยากให้มันมาโดนตัว ขยับหนี

“มึงโกธรกูหรอ กูควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ กูเป็นอะไรไม่รู้ กูขอโทษ”

“ช่างมันเถอะ มึงลืมๆไปชะ คิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นละกัน”

“ทำไมมึงพูดแบบนั้น กูก็ลูกผู้ชายพอ กูจะรับผิดชอบมึงทุกอย่าง”   มันที่อยู่ข้างๆยังเว้าวอนจนน่ารำคาญ ติดแต่ไม่เจ็บที่หลังจะรีบลุกไปกระทืบมันสักรอบ แล้วออกไปจากตรงนั้นเสียให้ไว

“ไม่ใช่ความผิดมึง มึงไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น กูบอกให้ลืม ก็ลืม” 

“เจมส์”

“พอแล้ว หยุดมึงไม่ต้องพูดอะไรอีก ไปซะ ริว กูไม่อยากเห็นหน้ามึง”   ผมตวาดมันอย่างแรง

            มันลุกขึ้นไปเก็บของ ใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไป ก่อนจะออกจากห้องมันมองผมตาละห้อย สำนึกผิด กูไม่ได้โทษมึงริว มึงก็แค่เป็นเครื่องมือของใครบางคน ที่จงใจส่งมึงมาเพื่อทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ  และกูเองที่เป็นคนทำร้ายตัวเอง อีกอย่าง ไอ้เต๋ากับพี่ออยต้องมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย และที่สำคัญต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อีกแน่ๆ เพราะลำพังพี่ออยกับไอ้เต๋าจะคิดแผนและรู้ทันผม ได้ขนาดนี้ไม่มีทาง   ผมได้แต่นั่งกอดตัวเอง นั่งซึมอยู่ตรงนั้น เจ็บทั้งใจ เจ็บทั้งกาย อะไรกันเรื่องบ้าๆแบบนี้ แล้วผมจะทำอย่างไงต่อไป 

>>>>>>>>>>>>>>>

ติดตามตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ แอมม่ายติง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: mmc ที่นี้...รักแรง (ตอนที1ุ8) 12/8/2016
«ตอบ #29 เมื่อ14-08-2016 17:51:37 »

*คำถาม ที่เริ่มจะรู้คำตอบ *

 

โดย เจเจ…โอ๊ค  เป็นผู้ดำเนินเรื่อง

 

mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบเก้า>>>*คำถาม ที่เริ่มจะรู้คำตอบ*

 

“ไหนบอกคืนนี้จะนอนเฝ้าบ้านไง ไม่มีคนอยู่บ้านไม่ใช่หรอ”

“ตอนนี้มีแล้ว เยอะด้วย”

“พูดอะไร แปลกๆ”

          ผมลงไปเปิดประตูหน้าบ้าน ก่อนจะเดินนำไอ้คนเอาแต่ใจขึ้นมาบนห้อง เมื่อมันโทรมาบอก ให้ลงไปเปิดประตูบ้านให้ ผมอดแปลกใจเสียไม่ได้ เพราะมันพึ่งแยกกับผมเมื่อตอนค่ำแล้วกลับบ้าน ถึงผมจะอ้อนขอให้มันค้างด้วย แต่มันก็ทำไม่ได้ เพราะที่บ้านไม่มีใครอยู่สักคน ต่างก็ติดไปทำธุระต่างจังหวัดหลายวัน แล้วอยู่ๆมันกลับมาโพล่ที่หน้าบ้านผมได้อย่างไง

“ไอ้เจมส์นะ อยู่ที่บ้าน แล้วมีไอ้ริวกับไอ้เต๋าด้วย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ตามแผนที่พี่มานะวางไว้ ทุกอย่างคงเรียบร้อยในคืนนี้”    มันพูดขณะล้มตัวนอนลงที่เตียง

“น่าสงสารเจมส์เขานะ ที่จริงเขาก็เป็นคนดีน่ารักออก อีกอย่างเขารักออยมากด้วย”     ผมนั่งลงที่ขอบเตียง ไอ้ออยขยับตัวลุกขึ้น เข้ามากอดผมจากด้านหลังทันที

“แต่ก็นะ มันจำเป็นนี่หว่า”

“แล้วถ้าคืนนี้ผ่านไปจะเป็นอย่างไงต่อ ทุกอย่างจะจบลงแล้วใช่ไหม มันไม่ง่ายไปหน่อยหรอ”

“ไม่หรอก นี้เป็นแผนขั้นที่สอง พี่มานะบอกว่า มันยังไม่จบง่ายๆหรอก แล้วสิ่งยุ่งยากที่สุดกำลังจะตามมา และต่อไปห้ามพลาดเด็ดขาด ไม่งันพวกเราจะทำลายไอ้เจมส์ไปทั่งชีวิต”

“อื้อ ขนาดนั้นเลยหรอ”

“เฮ้อ สนใจแต่เรื่องคนอื่น  แล้วที่บอกเมื่อเย็น เรื่องแนนไปถึงไหนแล้ว เขาหายโกธรยัง”

“หายแล้ว พอมึงกลับไป กูก็โทรหาเขาตามที่มึงบอก เขารับสายกูด้วยละ เราคุยกันแล้วนะ”   ผมหันตัวไปกอดคนเอาแต่ใจ

“ดีแล้วละ”

“ขอบใจมึงมากนะ ทั้งพากูไปตามเขาที่บ้าน ไปเทียวตามหาตามที่ต่างๆที่เขาจะไป แล้วยังโทรไปคุยกับเขาให้กูอีก ออย กูไม่รู้จะพูดอย่างไงแล้ว”

“ให้รางวัลกูนิดๆหน่อยๆก็ได้ กูไม่ได้บอกนะ ว่าจะทำให้ฟรีๆ”    มันจับหน้าผมให้เงยขึ้น มองที่มัน

“กูว่าละ มึงต้องมาไม้นี้ ไอ้ออย ไม่มีโว้ยยย ฮาๆ”    ผมมองมัน ก่อนทำหน้ากวนตีนใส่มัน

“หรา ไม่เอาก็ได้ นอนละ ฝันดี”    แล้วมันก็ปล่อยผมจากอ้อมแขน แล้วลงไปนอน หันหลังให้ด้วย ดูเหมือนมันจะงอนแล้ว

“เหย แล้วมึงจะไม่อ้อนกูหน่อยหรอ”  ผมสะกิดมัน

“…..”

“หน่อยน่า กูก็เล่นตัวนิดหนึ่ง แล้วก็ยอมมึงเหมือนทุกทีแหละ”   ผมเขย่าตัวมันเบาๆ พยายามดึงให้มันหันกลับมาหาผม

“…..”

“ตามใจ นอนก็นอน”   เมื่อมันเงียบไม่ตอบ ก็ไม่มีประโยชน์จะง้อต่อ ผมหันหลังให้มัน แล้วนอนลง

“แค่นี้ก็ยอมแพ้แล้วหรอ ง้อกูอีกหน่อยสิ กูชอบ”   แต่มันกลับหันตัวขยับเข้ามากอดผมไว้

“ไม่ต้องเลย จะนอนแล้ว”   ผมทำเป็นไม่สนใจ

“งอนหรอ”

“อ๊ากกกก ไอ้เชี้ยออย ฮาๆ”  มันล้วงมือเข้ามาในผ้าห่มแล้วจี้เอวผม เล่นเอาผมจักจี้สะดุ้งขยับหนีแทบไม่ทัน แต่มันก็กอดผมไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย ให้ดิ้นหลุดไปไหนได้

“หายงอนยังค้าบบบ”

“ฮาๆ ยอมแล้ว ฮาๆ พอแล้ว”     จนผมนอนหอบอยู่ในอ้อมแขนมัน

…ฟอด…     “ชื่นใจจัง แฟนใครหว่า ตัวหอมมม หอม”   มันหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ยิ้มให้ด้วย ก่อนจะเอาจมูกมาถูที่จมูกผม

“แล้วรางวัลอยากได้อะไรอา”    ผมเอื้อมมือไปกอดที่คอมันไว้หลวมๆทันที ใจง่ายสุดๆแล้วโอ๊คมึง

“ก็นี้ไง ได้หอมแก้มทีหนึ่งก็พอละ เท่านี้ก็รางวัลใหญ่สุดๆแล้วสำหรับกู”

“โห่ เอาเยอะกว่านี้ก็ได้ ให้”    ผมอ้อนมันอย่างไม่อายแล้ว

“เยอะกว่านี้อย่างไงอ่า”     ดูมันสิครับ รู้ทั้งรู้ก็ยังแกล้งยั่วผม

“ได้ อยากเอาแบบนี้ก็ได้”

          ว่าแล้วผมก็จับมัน ดันให้นอนลงกับที่นอน ก่อนผมจะเลื่อนตัวขึ้นไปนอนทับมันไว้ด้านบน ไอ้คนเอาแต่ใจ มันยิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์ จนผมอดจะทุบที่อกมันไปทีหนึ่งไม่ได้ คนอะไรชอบแกล้งตลอด

           มันจับมือผมไว้ทั้งสองข้าง ยิ้มให้อยู่ตลอด จนผมอดที่จะก้มลงไปจูบรอยยิ้มหวานๆนั้นไม่ได้ ผู้ชายอะไรปากแดงตัวขาว หน้าหล่อ แต่ได้ข่าวว่าโหดสัดเมื่อตอนมีเรื่อง ฟัดกับอริไม่เคยกลัวตาย ไม่มีหนีไม่มีถอย มันเอื้อมมือมาจับที่หัวผมกดแช่ไว้ ไม่ยอมปล่อยให้ผมถอนปากออกจากปากมันได้ มันจูบผมกลับอย่างดูดดื่ม มันจูบเก่งชะมัด ผมที่อยู่บนตัวมัน แทบละลายอยู่ตรงนั้น

             >>>>>>>>>>>>>>>

ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆ

            นาฬิกาปลุกยามเช้าดังขึ้น ผมลุกขึ้นมาปิด ก่อนจะหันไปสะกิดปลุกเจ้าคนที่นอนอยู่ข้างๆ แต่เขาไม่ยอมตื่น ก็เมื่อคืนเขาได้รางวัลชิ้นใหญ่ของผม เล่นจนเขาอ่อนระทวยหมดแรงแล้วหลับไป เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไงกับมันดี ปล่อยมันนอนต่ออีกนิดละกัน เช้าๆแบบนี้ ไลน์หาแนนดีกว่า ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความบอก มอนิ้ง แนน

ไลค์

    เสียงไลน์จากเครื่องของไอ้ออยดังขึ้น อ้าว ผมกดส่งผิดคน ไปส่งให้ไอ้ออยแทนแนนชะงัน ต้องรีบลบละก่อนมันจะตื่นมาเห็น ผมรีบหยิบโทรศัพท์ของมันขึ้นมา กดรหัสผ่านที่มันบอกผมไว้ LAok ที่ย่อมาจาก เลิฟโอ๊ค เข้าไป แล้วรีบกดลบข้อความทันที

 

{เรียบร้อยตามแผนทุกอย่าง ขั้นสามเริ่มดำเนินได้} เต๋า

 

          ข้อความจากเต๋าเพื่อนในแก๊งค์ของออย มันเป็นข้อความลำดับถัดมาจากข้อความผม แสดงว่าเจมส์เรียบร้อยริวตามแผน แล้วแผนต่อไปคืออะไร ดูลึกลับจัง มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย ที่เล่นกับความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้ น่าสงสารและเห็นใจเจมส์อย่างมาก ผมเองก็มีส่วน เพราะคนที่นอนอยู่ข้างๆคนนี้ เคยเป็นคนสำคัญของเจมส์เขา เท่ากับผมแย่งออยมาจากเจมส์เหมือนกัน

           แต่ออยเล่าว่า พี่มานะบอกว่ามันเป็นวิธีช่วยดึงเจมส์ให้หลุดออกจากห้วงรักที่ผิดๆ การยืดมั่นถือมั่น ให้เขารู้จักปล่อยวาง อะไรทำนองนั้น แต่คนเรานั้น เพียงจะมีอะไรกันอย่างเดียว หรือต่อจะให้มีอะไรกันทุกวัน แต่คนมันไม่รักกัน มันก็เปลี่ยนไม่ได้อยู่ดี แล้วยิ่งเจมส์กับริวด้วยแล้ว เพียงคืนเดียว แล้วจะรักกันขึ้นมานั้น มันเป็นไปไม่ได้หรอก

           อย่างผมกับออยนั้น พี่มานะบอกว่า เขาใช้แค่ยานอนหลับชนิดอ่อนๆใส่น้ำให้ดื่มเท่านั้นเอง กะจะให้ออย หรือผมคนใดคนหนึ่ง ไปนอนค้างบ้านใครสักคน โดนคำนวณเวลาที่พวกเจมส์ขี่รถสวนมา เจอกับพวกเรากลางทาง หากผมเข้าบ้านออย ผมต้องหลับที่บ้านเขาแน่ และถ้าเข้าบ้านผม ออยต้องไปหลับที่นั้น แบบนั้นจะทำให้มีเวลาอยู่ด้วยกัน แล้วจะสนิทกันมากขึ้น แต่ไม่คิดว่าออยจะทำอะไรเลยเถิด ซึ้งมันอยู่เหนือความคาดหมายของพี่มานะ ว่าเขาจะทำกับผมมากมายขนาดนั้น แต่นั้นมันไม่สำคัญ เพราะเวลานี้ผมสองคนมีใจให้กันจริงๆแล้ว และเมื่อมีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ความรักและผูกพันของเราก็มีแต่จะมากขึ้น  แต่กับเจมส์มันจะใช้ได้หรอ

           ผมยังเปิดดูโทรศัพท์เขาเรื่อยๆ กดเข้าไปดูข้อความ การโทรเข้า โทรออก อะไรเนี้ยโอ๊ค มึงดูจะเป็นเมียเขาจริงๆแล้วนะ ดูดิมานั่งเช็คโทรศัพท์ผัว คิดๆไปก็อดขำตัวเองไม่ได้ แต่ว่าทำไมมันโทรคุยกับแนนบ่อยจัง ไม่ได้โอ๊คห้ามคิดมาก ไว้ใจพวกเขาหน่อยอื้อว่าแต่มีสาวๆทักเซทเฟสมาเยอะจัง ผู้ชายก็มี ฮอตขนาดนี้เลยหรอวะแฟนผม

“ฮั่นแน่ แอบเช็คโทรศัพท์กูหรอ”    มันตื่นขึ้นมา แล้วสวมกอดผมเป็นอย่างแรก ก่อนจะหยิกแก้มผมเบาๆ

“ก็ดูไลน์อะ เต๋าส่งมา เมื่อคืนทุกอย่างเป็นตามแผน เอาคืนไปเลยถ้าหวงนัก โทรศัพท์เนี้ย”   ผมพูดแก้เขิน ก่อนจะยืนโทรศัพท์ให้มัน

“หรอ พี่มานะซะอย่างไม่พลาดหรอก ว่าแต่โทรศัพท์กูอะ โอ๊คมึงดูได้ ไม่ได้หวงชะหน่อย เอารหัสเฟสกับไลน์ด้วยไหม โอ๊คจะได้สบายใจ ว่าออยไม่ได้คุยกับคนอื่นจริงๆ”    มันไม่พูดเปล่าหอมแก้มผมด้วยที่หนึ่ง มันถูจมูกกับแก้มผมอย่างหมั่นเขี้ยว

“ไม่เอา ไม่เป็นไร รักกันก็ต้องเชื่อใจกันสิ แล้วมึงอยากได้รหัสของกูเปล่า” 

“โอ๊ค กูมีมึงคนเดียว เลยต้องหวงเป็นพิเศษ ถามว่ากูอยากได้รหัสไหม อยากได้ กูก็อยากได้รหัสเฟสไลน์ของมึงนะ ใครจะว่ามันงี่เง่า ที่คนเป็นแฟนกันต้องมีรหัสเฟสของกันและกัน แต่สำหรับกูมันคือเครื่องหมาย ของการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แสดงว่าเราเป็นของกันและกัน ทั้งกายทั้งใจร่วมถึงการกระทำ”    มันกอดผมไว้แล้วพูดอยู่ข้างหู

“ก็เอาไปสิ มึงล็อกอินเฟสกูไว้ที่เครื่องมึง เวลาใครคุยกับกู กูคุยกับใคร มึงจะได้เห็น”           

“ไม่เอา ยังไม่ใช่ตอนนี้ กูยังคิดว่า กูยังทำใจไม่ได้เวลาเห็นมึงคุยกับแนน เอาไว้กูพร้อมเมื่อไรกูขอนะ”   มันหอมแก้มผมอีก แถมยังทำมือเป็นปลาหมึกล้วงเข้ามาข้างในเสื้อผม ผมรู้ทันมันทันทีว่ามันต้องการอะไร

“ออย เฮ้ย ไม่เอานะ”

“ทำไมอ่า วันนี้กูไม่มีเรียน ไปส่งมึงสายหน่อยก็ได้”   มันเริ่มอ้อนผมแล้วครับ

“วันนี้ที่โรงเรียนมีกิจกรรมวันแม่ แม่กูก็จะไปโรงเรียนด้วย เฮ้อ มึงไม่ต้องไปส่งกูนะวันนี้ ที่โรงเรียนมึงไม่มีงานไง”

“ไม่มีอะ งันแปลว่าพรุ่งนี้ก็วันหยุดสินะ ไปไหนเปล่า”    มันหยุดมือทันที ก่อนจะนอนลงไปทำหน้าเซ็งๆ

“ไม่รู้เลย รอถามแนนก่อน ว่าเธออยากไปไหนหรือเปล่า แล้วมึงอ่า”   ผมมองคนที่นอนเอามือก่ายหน้าผาก อย่างใช้ความคิด

“ไม่มีแผนอะไรเลยวะ คงเข้าไปซุ้มม้าง คุยกับพี่มานะ”

“หรอ งันกูไปอาบน้ำก่อนนะเดี่ยวสาย ว่าแต่มึง อยากอาบน้ำกับกูเปล่า กูอยากมีคนช่วยถูหลัง”

      มันไม่ตอบแต่ลุกขึ้นอย่างเร็ว ยิ้มให้อย่างคนกำลังดีใจสุดๆ ก่อนจะอุ้มผมขึ้น แล้วพาเข้าห้องน้ำอย่างไว สงสัยมันจะไม่ถูหลังให้ผมอย่างเดียวแล้วละครับ ฮาๆ หลังจากนี้ ไม่เล่านะ ผมเขิน

>>>>>>>>>>>>>>>>>
   :วู้วว1: :music:คนดีขอโทษที่ทำให้วุ่นวาย ให้หวั่นไหวและต้องมาถามกัน
ว่าคนไหนที่เป็นคนสำคัญของฉัน ที่นั่งในใจคือเขาหรือเธอ

ไม่รู้จะบอกกับเธอได้ยังไง จะผิดไหมถ้าบอกว่าเท่ากัน
อาจจะเห็นแก่ตัวเมื่อเธอช่างดีกับฉัน และเขาก็สำคัญเป็นคนที่รู้ใจ

หากฉันฝันถึงเธออย่างเขา หรือถ้าเขาแสนดีอย่างเธอ สิ่งที่ถามฉันคงไม่ลำบากใจ

อย่าเลยอย่าบอกให้ฉันเลือกเลย เพราะฉันไม่เคยรู้เลย ไม่รู้ว่าจะเลือกใคร
ขาดเธอก็เหงาขาดเขาก็คงเสียใจ ไม่อยากจะเลือกใคร อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคน

ฉันรู้ว่ามันก็คงไม่ดี ทำอย่างนี้ที่สุดอาจไม่เหลือใคร
หากว่าเธอเกลียดฉัน ก็อยากขอโทษได้ไหม เหตุการณ์ที่เป็นไปใจฉันเองก็เจ็บ

หากฉันฝันถึงเธออย่างเขา หรือถ้าเขาแสนดีอย่างเธอ สิ่งที่ถามฉันคงไม่ลำบากใจ

อย่าเลยอย่าบอกให้ฉันเลือกเลย เพราะฉันไม่เคยรู้เลย ไม่รู้ว่าจะเลือกใคร
ขาดเธอก็เหงาขาดเขาก็คงเสียใจ ไม่อยากจะเลือกใคร อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคน :วู้วว1:

“ฟังอะไรอยู่คะ” เสียงใสๆดังขึ้นจากข้างหลัง ขณะที่ผมกำลังฟังเพลงเพลินๆ เพลงนี้ของพี่ทาทาร้องไว้นานแล้วครับ แต่ที่ผมฟังอยู่นี้เป็น เวอร์ชั่นของ ออกัส เลิฟซิก นำมาร้องใหม่เพราะมากเลยครับ

 “ดีครับที่รัก”   ผมหันไปทักสาวน้อยน่ารักแฟนผมทันที

“ดีครับอะไร ต้องบอกว่าโอ๊คคิดถึงแนนที่สุดสิ ไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกันตั้งหลายวัน แบบนี้แสดงว่าไม่คิดถึงกันเลยใช่ไหม”เธอทำงอนเล็กๆใส่ผม

“บร้า แล้ว คิดถึงสิค้าบ ไม่เอาไม่งอนน่า”   ผมต้องรีบง้อเธอให้ไว

“อิอิ เค้าล้อเล่น ฮาๆ” แล้วเธอก็หันหน้ามาหัวเราะใส่ผม

“แนน อยากไปไหนอ่า วันนี้”

“ไปร้านสถานีบ้านนมกันปะ”

“ไปดิ ตามใจแนน”

“ไลน์บอกเพื่อนก่อนนะ ว่าให้ไปเจอกันที่นั้น ไปหลายคนๆจะได้สนุก”

       แล้วเราก็มาถึงที่ร้านในเวลาไม่กี่นาที พร้อมกับเจอเพื่อนของเธอสามสี่คนที่รออยู่หน้าร้าน เราหาโต๊ะนั่งสั่งของกินพร้อม ที่นี้ถูกใจสาวๆอย่างมาก ทั้งขนมนมเนยเค้ก น้ำชากาแฟอาหารเพียบ

“เออ ว่าแต่พรุ่งนี้แนนไปไหนปะครับ”

“ไปเทียวกับที่บ้านคะ อย่าบอกนะว่าโอ๊คจะชวนแนนเทียว”  เธอละสายตาจากแก้วน้ำปั่นขึ้นมามองผม

“อย่างงันแหละ”

“เอื้อ เสียดาย ถ้ารู้ล่วงหน้าแต่เนินๆก็ดี พอดีแนนรับปากที่บ้านแล้วอา”

“นี้ๆพวกเธอมาดูนี้สิ เนี้ย เขาบอกว่า วิธีสังเกตใจตัวเอง ว่าชอบใครม๊ากมาก จนเป็นที่หนึ่งในใจเรา อยากรู้มะ อยากรูปะ ใครอยากรู้ยกมือ”   เสียงแพทเพื่อนสนิทของแนนเรียกให้พวกเราสนใจในตัวเธอ เมื่อเธออ่านพบอะไรบางอย่างในโทรศัพท์ที่น่าสนใจ ก็ตามนิสัยผู้หญิงละครับ แบบนี้ละ

“แกอ่านมาดิแพท อยากรู้ ไวๆ” พวกนั้นเร่งเธอ

“เอานะ ข้อแรก ทำอะไรก็คิดถึงเขาก่อนเสมอ เช่น ถ้าคุณหายใจเข้า แล้วคิดถึงเขาก่อนใครอันดับแรก แสดงว่าคุณมีใจให้เขาเป็นที่หนึ่ง

ข้อสอง ชอบอ้อนอยากให้เขากอด อยากเห็นหน้าเขาเป็นคนแรกของทุกวัน นั้นแหละใช่เลย

ข้อสาม ถ้าคุณมักเผลอทำอะไรก็แล้วแต่ มันมักจะเกี่ยวกับเขาตลอดโดยไม่รู้ตัว เช่น ส่งข้อความผิดคน จะส่งให้อีกคนแต่ไปส่งให้เขาแทน”

“อุ๊บ…แค๊กๆๆ”   พอได้ยินข้อสามยังไม่จบดี ผมก็สำลักน้ำที่กำลังดูดเข้าปากพอดี

“โอ๊ค! เป็นอะไรมากไหม อะไรกินน้ำแค่ก็สำลักด้วย”    แนนตกใจ เมื่อเห็นผมสำลักน้ำ จนเธอลุกขึ้นมาลูบหลังให้ส่งกระดาษทิชชูให้ผมเช็ดหน้า เช็ดปาก

“ข้อสี่  เลยนะ อยากแลกเปลี่ยนรหัสเฟสไลน์แซทข้อความกัน เพื่อดูว่าเขาคุยกับใคร”      แพทเธอยังไม่หยุด

“แนน โอ๊คขอไปเดินเล่นแถวนี้นะ รู้สึกมึนๆหัว อยากได้อากาศบริสุทธิ์เข้าปอด แล้วคงจะดีขึ้น”     ผมลุกขึ้น โดยมีทุกคนมองตามอะไรกัน ทำไมผมอยากจะออกไปจากตรงนี้

“แนนไปเป็นเพื่อนเปล่า”    เธอลุกขึ้นจะไปกับผม

“ไม่เป็นไรครับแนน อยู่กับเพื่อนๆเถอะ โอ๊คไปแปบเดียว เดี่ยวมา”

          ผมเดินตัดออกมาจากร้าน เดินลงไปที่ชายทะเลของหาดบางแสน ลมทะเลช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้น อะไรกันโอ๊คมันก็แค่บังเอิญ มันไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย บทความที่มาจากในเนตมันก็แค่เรื่องที่แต่งขึ้น จะเก็บมันเอากวนใจตัวเองทำไม แต่ว่าทำไม ตั้งแต่ข้อแรก จนมาถึงข้อที่สาม ดูมันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกผมขึ้นเรื่อยๆ   เพราะอะไรกันนะ ทุกวันนี้ อะไรๆผมก็เริ่มมีแต่ไอ้ออย คิดถึงแต่มัน อยากอ้อนมัน จนยากจะปฏิเสธว่า ผมเริ่มรักมันมากกว่าแนนขึ้นทุกที ไม่นะโอ๊ค อย่าเป็นแบบนั้น   

  >>>>>>>>>>>>>>

ติดตามตอนต่อไปครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด