- ชลนที - [ตอนพิเศษ3] P.22 (09/06/2017) #จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - ชลนที - [ตอนพิเศษ3] P.22 (09/06/2017) #จบแล้ว  (อ่าน 175717 ครั้ง)

ออฟไลน์ KatzeP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #600 เมื่อ19-05-2017 11:36:17 »

บทที่ 58 (ต่อ)

“ฮ่าๆๆ”

“ไม่ตลกครับคุณพ่อ ทีโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วแท้ๆ”

ลุงนิกบ่นงึมงำ แต่คุณปู่ก็ยังไม่ยอมหยุดขำ

“แต่เราก็ยอมให้นอนด้วยนี่”

“ไล่ไม่ไปต่างหากครับคุณแม่!”

“ไม่เห็นต้องหัวเสียเลยนิก ได้นอนสามคนแบบเมื่อก่อนก็อบอุ่นดีออก”

“เนอะ” ผมเป็นลูกคู่ให้ทากะซังทันที

หวนนึกถึงเมื่อคืน...ผมกับลุงนิกยืนเถียงหันอยู่หน้าห้องนอนเดิมของลุง พวกเราสามคนคือผม ลุงนิก ทากะซัง ขออยู่ค้างคืนที่บ้านคุณย่า และตอนนี้ผมอุ้มหมอนยืนปักหลักขวางประตู ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว

“โตป่านนี้แล้วมาขอนอนด้วยอะไรอีก!”
“บางครั้งทีก็อยากกลับเป็นเด็กนะ แค่ขอนอนด้วยคืนเดียวเอง!”
ยังไงคืนนี้ก็จะนอนแทรกกลางคนทั้งคู่เหมือนตอนเด็กๆ ให้ได้!
“กลับห้องไป!”
“ไม่!”

ผมหลุดยิ้มขำ เพราะสุดท้ายลุงนิกก็ต้องยอม เพราะผมมีแม่จิ้งจอกเป็นกำลังเสริมนี่น่า ฮ่าๆๆ

ตักข้าวเข้าปาก พลางมองผู้ใหญ่ทั้งสี่หัวเราะด้วยกัน พูดคุย บางครั้งก็พูดแจมบ้าง...เป็นการทานข้าวเช้าที่ผมมีความสุขที่สุด   

ย้อนกลับไปนึกถึงสมัยยังเด็กก็แอบเสียดายขึ้นมาทันที ถ้าเมื่อก่อนเป็นแบบนี้ได้คงดีไม่น้อย...แต่ช่างเถอะ อย่างที่ลุงนิกบอก สนใจปัจจุบันและอนาคตดีกว่าเรื่องในอดีต

“ที ตอนเย็นๆ พวกลุงต้องกลับแล้วนะ”

ผมชะงักช้อนในมือ ใจหายวูบ แต่ก็พยักหน้ารับ เข้าใจดีว่าลุงนิกกับทากะซังทิ้งงานมา

“พวกปู่ด้วย น่าจะจองไฟล์บินเดียวกับนิกไว้มั้ง”

ผมพยักหน้าอีกครั้ง คุณย่าต้องกลับไปรักษาตัวต่อ คุณปู่ต้องตามไปช่วยดูแลทั้งคุณย่าทั้งธุรกิจ

...ถึงรู้และเข้าใจเหตุผลดี แต่กลับรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง

“ดูทำหน้า หงอยเป็นหมาถูกทิ้งเชียว ย้ายมาอยู่กับลุงไหมล่ะ?”

ผมรีบส่ายหน้า พูดอย่างหนักแน่น “ทีอยากอยู่ที่นี่”

“พูดเหมือนเมื่อสี่ปีก่อนเป๊ะ” ลุงนิกพูดขำๆ

จริงอย่างที่ลุงว่า คราวนั้นติดเพื่อน คราวนี้คง…ติดแฟนล่ะมั้ง

“ไม่เป็นไรหรอก สมัยนี้ติดต่อกันสะดวกจะตาย อยากคุยก็วีดีโอคอลล์หาเอา”

ผมกระพริบตา “คุณย่าวีดีโอคอลล์เป็นด้วยเหรอครับ?”

“อย่าดูถูกย่านะเจ้าที!”

เหล่าคนฟังหัวเราะประสานเสียง “ฮ่าๆๆ”

เขาว่าความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอคงจะจริง แปบเดียวก็ต้องมายืนมองส่งทากะซังขึ้นเครื่องกลับญี่ปุ่นก่อน สักพักก็ถึงคิวคุณปู่ คุณย่า และลุงนิก

ผมกอดพวกเขาทีละคนอย่างไม่อายสายตาคนอื่น

“ย่าฝากบ้านกับเรื่องโรงพยาบาลของลุงหมอด้วยนะ”

“ครับ” ผมรับคำ

“ถ้าเจ้านั่นรังแกที ฟ้องลุงได้เต็มที่”

ผมมองคนกระซิบถ้อยคำเมื่อครู่อย่างระอา ได้ยินบ่อยจนหายซึ้งไปนานแล้ว ลุงนิกขี้หวงพอกันกับคนยืนข้างผมเลย ท่าทางชีวิตนี้ผมคงหนีคนขี้หวงไม่พ้น

หลังยืนมองส่งพวกเขาจนลับตา ผมถึงหันมาดึงพาร์ให้ออกเดินกลับไปยังรถที่จอดไว้

“...กูนึกว่ามึงจะร้องไห้”

ผมหัวเราะเบาๆ “ไม่ใช่การจากลาสักหน่อย”

ออกจากอาคารผมก็มองท้องฟ้าสีครามที่มีเครื่องบินโลดเล่นเหนือหัว ถ้าอยากเจอหน้ากันก็แค่ขึ้นเจ้านกเหล็ก ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้พบกันแล้ว ข้อเสียคือตั๋วเครื่องบินแพงไปหน่อย ก็ขอใช้เทคโนโลยีคุยกันแบบเห็นหน้าไปก่อนแล้วกัน

-------------

หลังตื่นนอนลงมาชั้นล่าง บ้านเงียบมากทั้งที่ยังเป็นวันหยุด เลยเดินมาถามคนในครัวอย่างสงสัย

“...บ้านมึงหายไปไหนกันหมด?”

“ไปเที่ยวกับบ้านมึงตั้งแต่เมื่อวาน กว่าจะกลับก็วันที่17 ไง”

เออใช่...ผมลืมได้ไงเนี่ย

“หิวยัง?”

“...มึงทำอาหารคาวอะไรเป็นบ้าง?”

“ถ้าแค่เอาอาหารแช่แข็งเข้าไมโครเวฟ กูทำเป็น”

แค่ฟังผมก็ถอนหายใจทันที “...งั้นเอาขนมปังปิ้งทาเนยกับโกโก้ร้อน”

“ได้” พาร์รุนหลังผมให้ออกจากครัว “ขึ้นไปแปรงฟันล้างหน้าก่อน เสร็จแล้วก็ลงมา”

หลังลงมาชั้นล่างอีกครั้ง ผมตรงไปที่ครัวเหมือนเดิม เห็นพาร์กำลังนวดแป้งพอดี

“...ทำอะไรเนี่ย?”

“ขนมปังให้มึงไง”

“ฮะ! นี่มึงจะอบเองเรอะ!”

“ขนมปังหมด กูเลยต้องอบใหม่”

ผมยืนอึ้งไม่คิดว่าเมนูง่ายๆ จะกลายเป็นยุ่งยากขึ้นมาทันที

“รอนานหน่อย แต่มึงได้กินแน่ ไปนั่งดูทีวีก่อนก็ได้”

เมื่อโดนไล่ก็ได้แต่ทำตาม หนังน่าเบื่อจนดันเผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เจอพาร์นั่งจ้องมองอยู่ก็ถามงัวเงีย

“เสร็จแล้ว?”

“ยัง พักแป้งอยู่ เอานี่” แก้วนมอุ่นถูกวางใส่มือ “กินนี่รองท้องไปก่อน”

พูดแค่นั้นมันก็ลุกขึ้นเดินเข้าครัวอีกรอบ คราวนี้ผมถือแก้วนมเดินตามไปด้วย ยืนดื่มนมพลางมองพาร์กลับไปที่โต๊ะเตรียมอาหาร เห็นมันยืนเคาะนิ้วรอไม่นานก็ได้ยินเสียงร้องของนาฬิกาตั้งเวลา พาร์จับชามคว่ำลง ก้อนแป้งรูปเหมือนโดมก็หลุดออกมา มันตัดแบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กๆ วางลงพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยม

ผมเดินไปดูใกล้ๆ เห็นก้อนแป้งกลมๆ วางเรียงต่อกันสี่ก้อนอยู่ด้านในเหมือนขนมดังโงะ

“ทำไมกลมๆ ล่ะ กูจำได้ว่าขนมปังมันทรงสี่เหลี่ยมนี่”

“รออบเสร็จ เดี๋ยวมึงรู้”

พาร์บอกแค่นั้นก็หยิบพิมพ์อีกอันมาทำเหมือนกัน ผมคิดว่าพาร์คงทำบ่อย เพราะแบ่งแป้งเร็วมาก แถมทุกก้อนดูเท่าๆ กันหมด จากนั้นมันก็ยกพิมพ์เข้าเตาอบ

“อยากกินแบบเค็มหรือหวาน?”

“ทั้งสองอย่าง”

พาร์พยักหน้ารับรู้ หยิบเนยเค็มกับเนยจืดมาหันแบ่งใส่ถ้วยเล็กละใบ แล้วเก็บที่เหลือเข้าตู้เย็น

“อยากกินชีสไหม?”

ผมพยักหน้า พาร์เลยหยิบชีสก้อนออกมาขูดเป็นฝอยๆ ผมจิบนมอีกคำ ตาก็มองแสงจากเตาอบอย่างสงสัยว่าก้อนแป้งเล็กๆ พวกนั้นจะออกมาเป็นขนมปังทรงสี่เหลี่ยมได้ยังไง

“ที”

ทันทีที่หันหน้าไปหา ริมฝีปากก็ถูกช่วงชิงกะทันหันจนผมตกใจ และตกใจยิ่งกว่าเมื่ออะไรบางอย่างกวาดเข้ามาสำรวจในปากจนทั่วแล้วผละออก ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน พอรู้สึกตัวก็รีบยกหลังมือขึ้นปิดปาก มองพาร์อย่างสับสนหน่อยๆ

เห็นมันเลียริมฝีปาก แววตาจ้องตรงมาดูคุกคามแปลกๆ จนเผลอเสียวสันหลังวูบ

“ไม่ต่อต้านแบบนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี”

ผมย่นคิ้ว มองคนทิ้งคำพูดชวนสงสัย เดินฮัมเพลงเอาเนยจืดไปผสมน้ำตาล

ลังเลครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจถามด้วยความข้องใจ “เมื่อกี้...มึงทำอะไร”

“จูบไง”

คิ้วขมวดหนักกว่าเดิม “จูบบ้าอะไรถึงเอาลิ้นเข้ามากัน”

แววตาพาร์เปล่งประกายเจ้าเล่ห์ “หึๆ อยากรู้ก็ยอมให้กูทำบ่อยๆ สิ แล้วมึงจะไม่ถามกูแบบนี้อีกเลย”

ผมผงะ ปากตอบไวกว่าสมอง “เรื่องสิ!”

“ตอนนี้อาจยังแปลกใหม่ แต่ต่อไปมึงจะชอบ เชื่อกู”

น้ำเสียงพาร์จริงจัง แต่ผมกลับเห็นคำว่า ‘กูอยากกินมึง’ ลอยอยู่บนหน้ามัน

ย...อย่าบอกนะ ไอ้จูบแบบเมื่อกี้คือขั้นตอนนำไปสู่การกิน...

หน้าผมร้อนวูบขึ้นมาทันที สองเท้ารีบพาตัวเองมาหลบอยู่หลังโต๊ะ มองพาร์อย่างระมัดระวัง

…ดูเหมือนหมาป่าบางตัวจะไม่ยอมถือศีลอดอย่างเดียวแล้ว

“ดูทำหน้า กูไม่ละเมิดสัญญาหรอกน่า”

เห็นรอยยิ้มร้ายกาจของมันตอนนี้ ใครเชื่อลงก็บ้าแล้ว!

“ในช่วงสัญญา...ขอแค่ได้ทำเหมือนคืนนั้นให้ได้ก่อน กูก็พอใจแล้ว หึๆ”

ผมทำหน้าปั้นยากขึ้นมาทันที ถึงจำไม่ได้ว่าคืนที่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังจำรอยจูบบนตัวได้แม่น แค่นั้นก็เรียกเลือดไหลมากองบนหน้าผมได้แล้ว

“อยากรู้ไหมว่าคืนนั้น...”

แค่พาร์พูดเกริ่น ผมก็สวนกลับไปทันที

“ไม่อยาก!”

เสียงเตาอบดังได้จังหวะมาก พาร์หันไปสนใจของในเตา ส่วนผมรีบยกแก้วในมือขึ้นดื่มต่อดับความหงุดหงิดที่โดยแหย่เล่น ทันทีที่รสชาติของนมสดกระจายไปทั่วปาก สัมผัสล่วงล้ำเมื่อครู่ก็หวนกลับมาให้นึกถึงทันที

ผมรีบวางแก้วนมลง หยิบแก้วใบใหม่มาเทน้ำเปล่าออกมาดื่มอึกๆ ก่อนจะกระแทกแก้วลงโต๊ะ มองเจ้าแก้วนมสดอย่างกับมันคือศัตรูคู่อาฆาต

จากนี้ทุกครั้งที่ผมดื่มนมคงเผลอนึกถึงสัมผัสนั่น!

ตวัดตามองพาร์ที่กำลังเขย่าขนมปังออกจากพิมพ์ ก็กัดฟันใส่แฟนตัวเองอย่างเคืองๆ

มันจงใจจูบตอนนั้นแน่ๆ

บ้าเอ้ย! ผมหลงกลมันอีกจนได้!!

############

บทหน้าเป็นบทส่งท้ายแล้วนะคะ 

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #601 เมื่อ19-05-2017 12:27:39 »

พาร์ ที  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ครอบครัวใหญ่ ปู่ย่า ลุง ทากะ พ่อแม่ น้องๆ
ครอบครัวลุงหมอ เพื่อนๆที
การขอขมาปู่ย่า
งานเลี้ยง ปาร์ตี้ริมสระ คึกครื้น อบอุ่น มีความสุข
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #602 เมื่อ19-05-2017 13:37:23 »

ดีใจ

อย่างน้อยก็เป็นสัญญาเริ่มต้นที่ดีน้า

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #603 เมื่อ19-05-2017 16:30:51 »

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ชอบตอนทีไปยืนกอดหมอนขอนอนกับลุงนิก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #604 เมื่อ19-05-2017 21:05:48 »

ดีใจด้วยที่ทุกคนเข้าใจกับซักที เหตุเกิดเพราะรักมากแท้ๆ นะคะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #605 เมื่อ19-05-2017 21:08:51 »

ดีใจจังเลย ครอบครัวทีเข้าใจกันหมดแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #606 เมื่อ19-05-2017 22:21:11 »

 :pig4:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #607 เมื่อ19-05-2017 22:26:58 »

ฮอลลลลลลลลลล์ เค้าจูบกัน อีกล้าวๆๆๆๆ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #608 เมื่อ19-05-2017 23:01:19 »

จะตอนสุดท้ายล่ะเหรอออออ ใจหายอ่าาา

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
«ตอบ #609 เมื่อ20-05-2017 14:47:37 »

จะจบละจิงอ่อ ใจหายงะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - ชลนที - [บทที่ 58] P.20 (19/05/2017)
« ตอบ #609 เมื่อ: 20-05-2017 14:47:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ KatzeP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #610 เมื่อ29-05-2017 19:15:36 »

บทส่งท้าย

“วันนี้เป็นวันอะไรรู้ไหม?”

“วันพฤหัส”

พาร์โบกหัวผมหนึ่งที ไม่แรงหรอก

“กวนตีน”

ผมหัวเราะใส่คนชวนเดินเที่ยวห้างใกล้มหาลัย

“แล้วจะให้กูตอบอะไร ในเมื่อวันนี้เป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง...” มองคนเริ่มทำหน้าบึ้งก็เลิกแกล้ง “แค่คบกันมาครบสองเดือนแล้วเท่านั้นเอง”

“ดีที่มึงจำได้ งั้นไปหาซื้อของที่ระลึกกัน”

เพราะมันเป็นคนแบบนี้ไง ผมถึงต้องจำ ยอมก้าวเดินตามแรงดึงมือของพาร์เข้าโซนที่...ผู้ชายไม่เข้ากัน

มันพาผมมาดงตุ๊กตาทำไมเนี่ย?

“มึงอยากได้ตุ๊กตาหมีสีอะไร?”

“ฮะ?” ผมงงเล็กน้อย “หมีเหรอ?”

ขบคิดครู่ใหญ่ถึงเริ่มเข้าใจว่าพาร์ต้องการอะไร แต่เพื่อความแน่ใจต้องถาม

“จะซื้อเข้าคู่กับชานม?”

“ใช่ แต่จะให้เจ้าหมีตัวใหม่ไปอยู่บ้านมึง”

“...งั้นตัวนั้นเป็นไง” ผมชี้นิ้วไปทางเจ้าหมีสีช็อกโกแลตผูกโบว์ที่คอสีแดง “สีเหมือนบราวนี่”

“ชานมกับบราวนี่ ไม่เลว เอาตัวนี้แหละ”

ผมรีบเดินตามพาร์ที่ตรงไปคิดตังค์ แย่งหมีมาอุ้มเอง

“ตัวนี้กูจ่ายเอง เพราะชานมมึงเป็นคนจ่าย”

พาร์หยุดฝีเท้า หันมามองผมด้วยแววตาจริงจัง “งั้นเดี๋ยวกูทำเลือดกำเดาหยดใส่หมีให้”

“จะบ้าเรอะ! มึงอยากจ่ายนักก็เอาไป!!”

ผมไม่ได้รังเกียจเลือดกำเดามันหรอก แต่หมีพึ่งซื้อมาใหม่ๆ ต้องเอามาขัดมาซัก เพราะเปื้อนเลือดแบบจงใจนี่มัน...แค่คิดก็เจ็บปวดใจแทนคนสร้างเจ้าหมีขึ้นมาเลย

เมื่อได้เจ้าหมีมาอยู่ในถุงโลโก้ร้าน พวกผมก็ไปหาอะไรกิน แล้วต่อด้วยแวะร้านหนังสือตามที่พาร์รีเควส

“จะไปซื้ออะไรวะ?”

“ไม่ได้ซื้อ”

ปากบอกไม่ แต่มันดึงผมมาแถวชั้นหนังสือกฎหมายครับ

“ถ้ามึงเบื่อก็ฟังนี่ แต่ห้ามห่างตัวกูไปไหนเด็ดขาด”

ผมรับหูฟังที่เสียบกับสมาร์ทโฟนของพาร์มาเสียบหูตัวเอง คงให้ฟังเพลงรอระหว่างมันเลือกดูหนังสือกฎหมาย แต่แทนที่จะมีเสียงเพลงขึ้น กลับมีเสียงยัยน้ำแทน

[ฮัลโหลเทสๆ อะแฮ่ม เนื่องจากวันก่อนพี่พาร์บอกให้น้ำเล่าเรื่องวันนั้นอัดเสียงไว้ น้ำทำตามที่บอกแล้วนะ อย่าลืมของที่บอกจะซื้อให้น้ำล่ะ]

ผมตวัดตามองพาร์ที่กำลังพลิกเปิดหนังสือกฎหมายเล่มหนึ่งดู

[เมื่อห้าเดือนก่อน น้ำกับเบอร์คิดวางแผนให้พี่ชายของเรามาเจอกัน แต่ถ้าเลือกห้างใกล้บ้านอาจโดนสงสัยได้ พวกน้ำเลยเลือกห้างใกล้มหาลัยของพวกพี่แทน แต่การทำให้พวกพี่เจอกันยากมากกกก]   

ยัยน้ำลากเสียงยาวจนเกือบหมดลมหายใจ ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าออก ก่อนจะเริ่มพูดต่อ

[พวกพี่อ่ะนะ คนหนึ่งหยุด อีกคนก็เดิน สลับกันไปมาแบบเนี่ย ขนาดน้ำกับเบอร์พยายามรั้งให้พวกพี่หยุดแล้ว อยู่ห้างเดียวกันแท้ๆ ชั้นเดียวกันด้วย พวกพี่ยังคลาดกันไปคลาดกันมาตลอด จนน้ำกับเบอร์ต้องเปลี่ยนแผน ลากพี่เข้าร้านขนม แต่น้ำจะไปรู้ได้ไงว่าร้านขนมที่พวกน้ำเลือกจะมีสองร้าน นั่งรอไปทะเลาะกับเบอร์ทางไลน์ไป กว่าจะรู้ความจริงว่าอยู่คนละที่นี่แทบจะกินหัวกัน วันนั้นน้ำกับเบอร์ลำบากมากนะพวกพี่รู้ไหม]

ทำไมผมฟังแล้วขำ

[ระหว่างกำลังท้อใจ พี่ชายสุดที่รักกลับบอกว่าจะไปหาซื้อแบบฝึกหัดให้น้องทำ ตอนแรกน้ำก็นึกว่าแค่ของอัน แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีของตัวเองด้วย! น้ำห่อเหี่ยวสุดๆ เลยเดินหนีพี่ออกมาหาอะไรอ่านเล่น แต่ดันไปเจอเบอร์ที่ชั้นหนังสือการ์ตูนเข้า ต่างคนต่างมองกันอึ้งๆ เลยอ่ะ]

ผมหลุดหัวเราะออกมา

[เท่านั้นแหละ พวกน้ำเลิกสนใจการ์ตูนแล้ววิ่งไปหาพี่ชายตัวเองแทบไม่ทัน หลังส่องดูว่าไม่มีใครหายไปไหน น้ำกับเบอร์ก็กลับมาเริ่มต้นแผนของเราอีกครั้ง เบอร์น่ะขี้อายเกิน น้ำเลยลุยเอง ลากพี่ชายไปหาพี่พาร์ที่ชั้นหนังสือ แล้วบอกว่า...]

เสียงยัยน้ำหายไปแค่นั้น เงียบไปนานจนผมหันไปมองพาร์ ก็ต้องผงะเมื่อเจอสองสาวยืนขนาบข้างพาร์ ก่อนน้องทั้งสองจะตรงมาล้อมหน้า หลังก็ติดชั้นหนังสือ ขยับไปไหนไม่ได้

“พะ พี่ที” เสียงเบอร์สั่นมาก แก้มนี่แดงจัด “คบเป็นแฟนกับพี่ชายเบอร์อยู่ใช่ไหมคะ?”

“...ใช่”

สองสาวทำท่าเหมือนจะกรี๊ด แต่รีบใช้มือปิดปากกันก่อน น้ำรีบสะกิดเพื่อนตัวเองยิกๆ เบอร์ถึงได้สูดลมหายใจพูดต่อด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

“รักพี่พาร์เท่าไหนคะ?”

เป็นคำถามที่ผมต้องหันไปมองพาร์ มันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่มีรอยอมยิ้มแต้มบนหน้า

“...เท่าที่หัวใจดวงหนึ่งใส่ได้ครับ”

สองสาวเริ่มออกอาการอยากกรีดร้อง

“พ...พี่ทีจะเป็น พี่เขย หรือ พี่สะใภ้ ให้เบอร์คะ?”

“...อยากให้พี่เป็นอะไรล่ะ”

ถามทั้งที่มองพาร์ เราสบตากัน ต่างคนต่างรู้คำตอบกันดี แต่ไม่จำเป็นต้องบอกน้อง

“พี่สะใภ้ค่ะ!”

ผมแทบหัวทิ่ม ตอบได้ตรงสมเป็นน้องสาวมัน

“พี่บอกมาเลย น้ำกับเบอร์จะได้เลิกเถียงกัน”

“ยังไม่รู้!”

“ไม่มีทาง ก็พวกพี่นอนด้วยกัน...อุ๊บ!”

ผมปิดปากน้องสาวตัวเองแทบไม่ทัน นี่เด็กม.ต้นอะไร ทำไมแก่แดด!

“ฟังให้ดีนะน้องสาว พี่แค่ไปนอนค้างคืนบ้านพาร์เฉยๆ ไม่มีเรื่องทำนองนั้น!”

“โออกอ้อง!” (โกหกน้อง!)

“พูดจริง! ไม่เชื่อถามมันดูเลย”

ยัยน้ำดึงมือผมออก หันไปมองพาร์พร้อมกับเบอร์ดี้

คนโดนจ้องเลิกคิ้ว ตอบสั้นๆ “นั่นนะเมียพี่...”

“กรี๊ด!”

“พาร์!!”

“ในอนาคตครับ”

พาร์หัวเราะร่วน น้องสองคนอ้าปากค้าง กระพริบตาปริบๆ ก่อนทำหน้าอัศจรรย์ใจ

“จริงเหรอเนี่ย...” เบอร์ครางออกมา

“เหลือเชื่อ!” น้ำอุทาน

ผมจัดการแจกกำปั้นเขกหัวน้องทีละคน “อย่าเชื่อการ์ตูนมาก เรื่องจริงมันไม่ใช่แบบนั้นหรอก เข้าใจไหม!”

“ค่ะ...” สองสาวกุมหัวครางเสียงอ่อยๆ

“แล้วนี่มาได้ไง?”

“พี่พาร์ไปรับมา”

ผมตวัดตามองพาร์ มิน่า ถึงให้ผมนั่งวินมอเตอร์ไซค์มาเจอที่นี่ ก็กะแล้วว่ามันต้องโกหก อ้างมาได้ว่าแวะซื้อของกับเพื่อน แต่เพื่อนมันน่ะกำลังโส้ยก๋วยเตี๋ยวอย่างอร่อยแถววินมอเตอร์ไซค์ข้างมหาลัย

“เด็กๆ อยากกินอะไรกัน?”

“พี่พาร์จะเลี้ยง?”

คนโดนถามส่ายหน้า บุ้ยปากมาทางผม “มื้อนี้พี่ทีเป็นเจ้ามือครับ”

ผมยกมือกอดอก “ยอมให้กูจ่ายแล้ว?”

“ใช่ มึงอยากจ่ายเองนักก็เอาไปเลย”

แล้วก็ยัดกระเป๋าตังค์ของมันใส่มือผม คิ้วผมกระตุกยิกๆ

“ที่พี่พาร์ยอมรับทำขนมให้ที่ต่างๆ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงพี่ทีเหรอคะ?” เบอร์ถามอย่างประหลาดใจ

“ก็พี่มีเมียคนเดียว...โอ๊ย”

หลังเตะขาพาร์ไปหนึ่งที ผมก็ยัดกระเป๋าเงินใส่มือเจ้าของ จัดการรวบเอว เชยคางพาร์ขึ้นมา

“เดี๋ยวกูเลี้ยงดูมึงเอง”

ผัวะ!

โอ๊ย! พาร์โบกหัวผม แรงจนต้องนิ่วหน้า 

“มึงรุกกูไม่ไหวก็อย่าเล่น!”

“โหย! นี่มันท้ากันชัดๆ”

“ปากดี! เดี๋ยวก็โดนกูกัดปากตรงนี้หรอก”

มันจะให้ผมเป็นพี่ชายที่ดูเท่ต่อหน้าน้องหน่อยไม่ได้หรือไง!!

-------------

พ้นเมษายนสู่พฤษภาคม...เวลามีความสุขทุกอย่างมักผ่านไปเร็วเสมอ

พาร์ชอบธรรมชาติ สถานที่เดตของเราเลยไม่พ้นแหล่งที่มีสีเขียวเป็นหลัก ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมชื่นชอบความสงบ การได้มาผ่อนคลายในที่แบบนี้จึงเป็นเรื่องไม่เลว 

จู่ๆ ผมก็นึกถามพาร์ขึ้นมาระหว่างเดินเล่นรับลมในสวนสาธารณะ

“มึงคิดว่าความรักคืออะไร?”

“คือมึง”

ผมเม้มปาก ข่มความเขินไว้ในใจครู่หนึ่ง ก่อนพูดแย้งกลับไป “ไม่ได้จะให้ตอบแบบนั้น กูหมายถึงความหมายน่ะความหมาย”

“รักก็คือรัก จะให้มีความหมายอะไร” พาร์ว่า “สำหรับกู มันเป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า พูดออกมาเป็นถ้อยคำไม่ได้หรอก แค่รู้ว่ามีมันอยู่ก็พอ ความรักก็เหมือนสายน้ำที่เปลี่ยนรูปร่างไปตามภาชนะ จึงมีได้หลากหลาย และไม่จำกัดว่าจะรักอะไร จะสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีก็ได้ทั้งนั้น”

“งั้นมึงก็รักทุกอย่างเท่ากันหมด?”

พาร์ส่ายหน้า “มันอยู่ที่ภาชนะในใจต่อสิ่งนั้นว่าเล็กใหญ่แค่ไหน แล้วมึงล่ะคิดว่ารักคืออะไร?”

“...มึงรู้ใช่ไหมว่ากูเป็นเด็กมีปัญหา”

“ตอนนี้ไม่น่าใช่แล้วมั้ง”

ผมหัวเราะ “ยังเป็นอยู่ ตราบใดที่ในหัวใจกูยังหลงเหลือรอยแผล”

“เวลาจะเยียวยา กูคิดว่างั้น”

ผมยิ้มบางๆ ยามมองท้องฟ้าด้านหน้า “อาจเพราะหัวใจมีบาดแผลดวงนี้ก็ได้ที่ทำให้กูไม่เข้าใจความรัก กูเหมือนคนพึ่งเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่ ดังนั้นความรักในตอนนี้ของกูเลยเหมือนเฉกสี แต่งแต้มทุกสิ่งในสายตาให้มีสีสันขึ้น...ถ้าไม่มีความรัก โลกนี้ในสายตาของกูคงขาดสีสันแย่”

“ก็ดีแล้วนี่ กูชอบที่ช่วงนี้มึงดูสดใสขึ้น”

“อืม กูก็ชอบตัวเองในตอนนี้มากกว่า” จู่ๆ ผมก็หัวเราะขึ้นมา “กูพึ่งรู้ว่าตัวเองนิสัยเสียสุดๆ ถ้าไม่มีคนเตือนก็คงไม่รู้ไปอีกนาน กูเคยชินกับการได้รับมากเกินไป จนลืมว่าควรให้ออกไปบ้าง”

“มึงพูดถูก...กูเป็นพวกชอบให้ แต่บางทีก็อยากได้รับเหมือนกัน”

“...พี่พีทกับเทมเคยบอกกูว่า มึงน่าสงสารมากที่ดันมาชอบคนอย่างกู”

“ไม่หรอก อาจมีเหนื่อยบ้างในบางครั้ง ท้อบางในบางหน แต่สุดท้ายกูกลับคิดว่าตัวเองโชคดี และมึงก็ไม่ได้ทำให้กูผิดหวังตรงไหน เป็นแบบนี้ก็น่ารักพออยู่แล้ว...แล้วรู้ไหมวันนี้วันอะไร”

“วันออกเดต” ผมโยกหัวหลบ มือพาร์เลยหวดอากาศแทน “หรือจะให้กูตอบวันเสาร์”

“กวนตีนนะมึง ตอบดีๆ”

ผมถอนหายใจ “มึงถามทุกเดือนไม่เบื่อหรือไง”

“กูพึ่งถามเป็นครั้งที่สาม”

“ก็ทุกเดือนไหมล่ะ? คราวนี้มึงจะทำอะไรในวันครบรอบเดือนที่สามล่ะ?”

“จะเฉลยเจ้านี่ให้ฟัง” พาร์ยกแขนโชว์กำไลให้ดู “อยากรู้ไหมล่ะ”

“อยาก! กูก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่มึงจะบอก...” คำพูดผมสะดุดยามเห็นรอยยิ้มร้ายกาจของแฟนตัวเอง “แต่ตอนนี้กูไม่อยากรู้แล้ว”

มือผมถูกคว้า กำไลสองวงกระทบกันเกิดเสียงเล็กน้อย

“กูพูดแปลไทยเลยแล้วกัน เพราะพูดสวีดิชให้ฟัง มึงก็คงจำไม่ได้” 

“...ไว้เดือนหน้าค่อยพูดแล้วกัน”

แก้มผมโดนดึง แววตาพาร์มองมาดุๆ “ฟังเงียบๆ”

มือพาร์ปล่อยจากแก้มผม เลื่อนไปชี้ที่กำไลของมัน

“วงนี้...รักของฉันคือเธอ”

ย้ายมาชี้กำไลผม รอยยิ้มสมใจผุดขึ้นมา กระซิบถ้อยคำที่ทำให้ผมนิ่วหน้า

“กูควรพูดกับมึงยังไงดี ขี้หวงเกินเหตุ หรือพวกชอบตีตราจอง!”

“แล้วแต่มึงคิด...สองข้อความนี้จะอ่านแบบแยกกันก็ได้ แบบรวมก็ได้ ยังไงก็เป็นกำไลคู่ และนั่นย่อมหมายถึงเราสองคนเช่นกัน”

ผมมองกำไลสองวงสลับไปมา กำไลคู่ที่จนป่านนี้ยังหาวิธีถอดไม่ออก ไม่สิ ผมไม่เคยคิดหาวิธีถอดมันเลยต่างหาก คงจะใส่ติดข้อมือไปตลอดชีวิตเหมือนที่พาร์อยากให้เป็น

รักของฉัน คือเธอ
เธอ เป็นของฉัน


ก็คงจะเป็นอย่างนั้นไปตลอดกาลนั่นแหละ...


จบบริบูรณ์

############

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #611 เมื่อ29-05-2017 19:42:38 »

หวานกันไป  :o8:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #612 เมื่อ29-05-2017 20:23:54 »

โอย.......มีความสุข
พาร์ ที  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รักของฉัน คือเธอ
เธอ เป็นของฉัน
พาร์ โรแมนติก น่ารัก ยึดมั่นแต่กับที หวงทีสุดๆ ชอบบบบบ
ที ตามใจพาร์ ยอมพาร์ รักพาร์
ขอบคุณไรท์ ให้ความสุขคนอ่าน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #613 เมื่อ29-05-2017 20:33:20 »

โว้วววววววววววววววววว  เขิลลลลลลจนหยดสุดท้าย

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #614 เมื่อ29-05-2017 20:42:43 »

 :L2: :pig4: :L2:
 

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #615 เมื่อ29-05-2017 21:02:17 »

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #616 เมื่อ29-05-2017 21:46:49 »

พาร์น่ารัก

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #617 เมื่อ29-05-2017 21:56:37 »

พาร์ขี้หวงจริงๆนั่นล่ะ
ในที่สุดก็จบลงแล้วทั้งคู่ก็เป็นแฟนกัน
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆนะคะ
ปล.อยากเห็นตอนพาร์กับทีวัยทำงานจังค่ะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #618 เมื่อ29-05-2017 23:43:47 »

ไม่อยากให้จบเลยยยย

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #619 เมื่อ30-05-2017 01:16:49 »

จบแล้วจริงๆ หรอ? ฮือออออ ไม่อยากให้จบเลยยยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
« ตอบ #619 เมื่อ: 30-05-2017 01:16:49 »





ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #620 เมื่อ30-05-2017 08:11:47 »

จบซะแล้ว ใจหายเลย ขอบคุณไรท์เติร์มากๆเลยนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #621 เมื่อ30-05-2017 08:48:06 »

สมบูรณ์แล้ว
 :L2: :man1:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: - ชลนที - [บทส่งท้าย] P.21 (29/05/2017)
«ตอบ #622 เมื่อ30-05-2017 09:00:38 »

โอ้ยยยยยยยยยยยยย

หวานเกิน หมั่นไส้ หมั่นไส้

ออฟไลน์ KatzeP

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-1
Re: - ชลนที - [ตอนพิเศษ2] P.21 (01/06/2017)
«ตอบ #623 เมื่อ01-06-2017 16:17:52 »

ตอนพิเศษ 2: เรื่องเล่าจากคุณปู่
(บอกเล่าวีรกรรมของทีในวัยเด็ก)

วันนี้เจ้าทีตื่นแต่เช้า เพื่อมาบอกผมว่า

“คุณปู่ วันนี้ทีของดเรียนนะ”

“ทำไมล่ะ เดี๋ยวอีกสามวันปู่ก็จะให้งดเรียนยาวอยู่แล้ว”

“ก็ถ้าไม่ทำวันนี้จะให้ไม่ทันนี่หน่า”

ผมลดหนังสือพิมพ์ลง เจ้าทีเดินวนไปวนมา ท่าทางกังวลใจ

“ทำอะไรไม่ทันหือ?”

“ของขวัญปีใหม่ครับ”

ผมขมวดคิ้ว ก็วันนี้พึ่งจะวันที่ยี่สิบสอง มีเวลาอีกเป็นอาทิตย์ “ฟังไม่ขึ้นนะที ถ้าไม่มีเหตุผลมากกว่านี้ ปู่คงโทรไปยกเลิกอาจารย์ให้ไม่ได้”

“คุณปู่อ่ะ”

ถลามานั่งเบียดทีเดียว

“นะๆ ถ้าทีไม่ลงมือทำวันนี้ พรุ่งนี้ทีจะไม่มีของไปให้”

“ต้องให้พรุ่งนี้?”

“อื้ม เพื่อนทีจะไปต่างประเทศพรุ่งนี้ แล้วจะอยู่ทางนู้นยาวเลยปีใหม่ กว่าจะกลับก็วันที่สี่มั้ง”

“รอเพื่อนกลับมาก่อนก็ได้นี่”

“แต่ทีอยากให้ก่อนนี่น่า ถ้าเลยวันปีใหม่มาแล้ว ทีก็ไม่รู้จะให้ตอนไหน มันพิลึกอ่ะ”

ผมเหล่มองหลานชาย “จะเอาไปให้เขาเอง?”

“เปล่านะ พรุ่งนี้เช้าเขาจะมาที่บ้าน”

ก็ว่าอยู่…

ผมพ่นลมหายใจ รู้สึกหนักใจแทน ตั้งแต่เกิดเรื่อง เจ้าทีหมกตัวอยู่แต่ในบ้านตลอด ผ่านมาปีกว่าก็ยังไม่ยอมออกจากบ้าน (ถ้าไม่โดนบังคับ หรือหลอกล่อ) 

“คิดหรือยังจะทำอะไรให้”

เจ้าทีพยักหน้าหงึกๆ

“อุปกรณ์ล่ะ มีแล้ว?”

ส่ายหน้าขวับๆ “แต่ทีกำลังจะไปอ้อนลุงนิกต่อ”

อ้อ หวังให้ลูกชายผมออกไปซื้อให้นี่เอง

ผมมองตาเจ้าที หลานส่งแววตาอ้อนวอนมาให้น่าดู ใจอ่อนยวบ แต่ผมเป็นพวกไม่ชอบเสียเปรียบฝ่ายเดียว

“เอางี้ ถ้าทียอมออกไปซื้ออุปกรณ์เอง ปู่จะให้หยุดเรียนหนึ่งวัน”

เจ้าทีทำหน้าเหยเกทันที “ผมขอตัวเลือกอื่น”

“ไม่มี ถ้าไม่เอาก็รอครูมาสอนตามเวลาปกติ”

หลานทำหน้าคิดหนัก ก่อนช้อนตามองผมด้วยสีหน้าเหมือนโดนสั่งให้ไปกระโดดหน้าผาทดสอบความกล้า

“ผมขอพาเพื่อนไปด้วยได้ไหม?”

ผมชูสามนิ้ว “ไม่เกินนี้”

สีหน้าเจ้าทีดูดีขึ้น “งั้นผมเลือกคุณปู่ ลุงนิก เดซี่…”

“พาเดซี่ไปไม่ได้” ผมร้องขัด “บางสถานที่เขาห้ามพาสัตว์เลี้ยงเข้าไป”

เจ้าของชื่อกระดิกหู หันหน้ามาแวบเดียว แต่เจ้าทีถลาไปกอดคอซุกหัวกับอกเจ้าหมาสีขาวพันธุ์ซามอยด์เพศเมีย จนมันสะบัดหัวใส่ท่าทางรำคาญ

“ไม่พาเดซี่ไป ทีก็ไม่ออก!”

…หลานผมเห็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านเป็นพี่เลี้ยงไม่พอ นี่ยกระดับเป็นบอดี้การ์ดเพิ่มอีกตำแหน่งแล้วหรือ

“เดี๋ยวปู่โทรเรียกโฮทากะไปแทน เอาไหม?”

ยอมเงยหน้ามองผมแล้ว โฮทากะหรือเรียกสั้นๆ ว่าทากะ คือชื่ออาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ของเจ้าที ความแข็งแกร่งมีมากแค่ไหน เจ้าทีรู้ดีที่สุด จนถึงขั้นประกาศกลางโต๊ะอาหารเมื่อเดือนก่อนว่า

ถ้าทีจับทากะเซนเซหลังกระแทกพื้นได้เมื่อไหร่ ทีจะยอมออกไปข้างนอกด้วยตัวเอง!

ฟังแล้วผมถึงกับเหลือบมองครูของหลาน โฮทากะเป็นชาวญี่ปุ่นรูปร่างเล็กสูงประมาณเกือบร้อยเจ็ดสิบ แต่เมื่อเอามาเทียบกับที ความสูงก็ห่างกันมากอยู่ดี แล้วเมื่อไหร่หลานผมจะจับครูของเขาทุ่มหลังติดพื้นได้เล่า

กลับสู่ห้วงเวลาปัจจุบัน เจ้าทีพยักหน้ายอมจนได้

“งั้นไปเอาโทรศัพท์มาให้ปู่ แล้วขึ้นไปปลุกลุงนิกไป๊”

เจ้าทีกระโดดลงโซฟา วิ่งพร้อมตะโกนลั่นบ้าน

“คุณย่าฮะ ทีขอโทรศัพท์”

ภรรยาที่นั่งถักไหมพรม เอื้อมมือไปหยิบลงมาให้ เจ้าทีก็วิ่งกลับมาส่งของถึงมือผม

“ไปบอกแม่ครัวประจำบ้านด้วย กลางวันนี้ไม่ทานข้าวที่บ้าน”

“ป้าสายคร้าบบบ คุณปู่ฝากบอกว่ากลางวันนี้ไม่…”

เสียงหลานเบาลงเรื่อยๆ ตามระยะทาง ผมเหลือบมองเวลาที่ยังเช้าอยู่มาก ก่อนเลือกโทรหาครูของหลานก่อน แจ้งยกเลิกการเรียนการสอนวันนี้เรียบร้อย ค่อยโทรหาโฮทากะ

“ใครครับ?”

ผมชะงักยามได้ยินเสียงงัวเงียคุ้นหูกว่าภาษาไทยสำเนียงญี่ปุ่น ดึงมือถือออกมาดูเบอร์ ผมโทรหาถูกคน แต่คนรับกลับไม่ใช่

“…พ่อของแกไง”

“ฮะ!”

ดูเหมือนพ่อลูกชายคนโตจะเริ่มได้สติกลับมาเต็มที่

“พ่อโทรมาทำไมแต่เช้าเนี่ย?”

“พ่อไม่ได้โทรหาแก”

ผมได้ยินเสียงกุกกัก ก่อนตามด้วยเสียงร้องฟังดูท่าจะเจ็บ พร้อมเสียงโวยวายเป็นภาษาญี่ปุ่น พ่อลูกชายก็โต้ญี่ปุ่นกลับไป ผมเคาะนิ้วรอ สักพักก็มาคุยกับผมต่อ

“พ่อโทรหาทากะสินะ คุยกับผมแทนแล้วกัน”

“ก่อนอื่นช่วยตอบก่อน ตอนนี้แกอยู่บ้านหรือไม่ใช่?”

“คุณปู่! ลุงนิกหาย?!”

ดูเหมือนผมจะได้คำตอบแล้ว

“ไม่ต้องวิ่ง! ปู่รู้แล้ว! กำลังคุยกับลุงเราอยู่...ว่าไงเจ้านิก ตอนนี้อยู่ไหน?”

“เอ่อ ผมมาค้างที่คอนโดทากะ”

“พ่อให้เวลาหนึ่งชั่วโมง ลากทากะมาบ้านเราด้วย”

“แต่…”

“เรื่องเจ้าที”

“อ้อ โอเคครับ เอ่อ ขอสักสองชั่วโมงได้ไหม?”

“ชั่วโมงครึ่ง”

“ครับๆ ชั่วโมงครึ่งก็ชั่วโมงครึ่ง…อย่าบอกแม่นะพ่อ”

“ใครจะกล้าบอก!”

ผมกดตัดสายทันที เหลือบมองภรรยากำลังถักหมวกใบจิ๋วให้หลานสาววัยสองขวบ ต้องขอบคุณเจ้าอรรถที่รีบมีหลานให้ภรรยาผมอุ้มชูเลี้ยงดู ไม่งั้นเจ้านิกซวยแน่

-------------

ขึ้นรถออกจากบ้านเจ้าทีก็ยังแฮปปี้ดีอยู่ ลงจากรถก็ยังดี แต่เริ่มกวาดมองระแวดระวังไปทั่วลานจอดรถในห้าง พอเข้าส่วนด้านในก็พยายามเบียดตัวเองให้อยู่กลางวง

อาการแสดงออกจนผมกับลูกชายเหลือบมองกันเอง ก่อนเริ่มเข้าแผนดึงความสนใจเจ้าที ให้ลืมๆ ไปว่าหวาดกลัวเรื่องอะไร มันได้ผลพอสมควร แต่หลานก็ยังจับมือครูของเขาแน่น โดยไม่ได้ดูสีหน้าโฮทากะเลย แถมพ่อลูกชายยังพยายามช่วยแยกครูกับลูกศิษย์ออกจากกันหลายครั้งแบบเนียนๆ

“พ่อช่วยผมหน่อย วันนี้ทากะดูแลทีไม่ไหวหรอกนะ”

“ไปทำอะไรเขามาล่ะ”

ผมกระซิบสวนกลับทันที ก็เมื่อวานยังเห็นดีๆ อยู่เลย

“โธ่พ่อ อย่าถามเรื่องที่รู้อยู่แล้วได้ไหม”

ผมพ่นลมหายใจออกจากปาก “แกควรบอกแม่นะ”

“จะให้บอกอะไรล่ะครับ แค่ไปเกริ่นเรื่องมีแฟน แม่ก็พูดเรื่องแต่งงานแล้ว แถมยังเลยไปเรื่องหลานอีก ผมจะไปหามาให้จากไหนเล่า”

“เลยยึดเจ้าทีเป็นลูกแทนใช่ไหม”

“หลานพ่อคนนี้ ผมเลี้ยงมากับมือ แถมอรรถก็ยกให้ผมแล้ว”

“พ่อขอถามตรงๆ สรุปแกเป็นเกย์ใช่ไหม?”

“ก็…มั้ง”

“มั้ง? ทั้งที่สมัยก่อนแกควงสาวเป็นว่าเล่นเนี่ยนะ?”

“ผมก็บอกไม่ถูก แต่หลังเจอทากะ ผมไม่สนใจใครอีกแล้วนี่น่า”

“…งั้นเรื่องเจ้าทีเคยประกาศจะเป็นเจ้าสาวให้แกล่ะ?”

“พ่ออย่าเอาคำพูดเด็กสามขวบมาคิดจริงจังสิ อีกอย่างเจ้าพีทเป็นคนมาบอก นิสัยเจ้าหนูนั่นเป็นยังไง พ่อก็รู้ โดนอำแน่ๆ”

“ไอ้ที่พ่ออยากรู้คือ เจ้าทีมีแนวโน้มจะเป็นเหมือนแกหรือเปล่าต่างหาก”

“อ้อ…เอ่อ เรื่องนี้ผมไม่รู้แฮะ”

“แล้วยังได้แกเป็นคนเลี้ยงหลัก พอทากะมาก็ยังไปช่วยแกเลี้ยงหลานอีกคน ถึงเจ้าทีซื่อบื้อ แต่น่าจะรับรู้หรือซึมซับไปไม่น้อยเลยล่ะ ถ้าอนาคตเจ้าทีมีแฟนเป็นผู้ชาย พ่อจะโทษเป็นความผิดพวกแก”

“อ้าว”

“ไปดูเมียแกไป๊ เดินพิลึกไม่พอ หน้ายังซีดแล้วซีดอีก ทำอะไรก็หัดเพลาๆ บ้าง”

“ครับๆ ต่อไปจะระวังครับ”

ผมมองเจ้านิกผละไปดูลูกสะใภ้ (แบบไม่เป็นทางการ) แล้วถอนหายใจอีกเฮือก

สงสัยคงต้องค่อยๆ เกริ่นบอกภรรยาทีละนิดแล้วล่ะมั้ง ไม่งั้นตอนรู้ความจริง อาจหัวใจวายเอาได้

เจ้าทีหยิบขวดโหลไปเยอะมาก จนผมต้องถาม

“ซื้อทำไมตั้งเยอะแยะ”

“ก็มีของพ่อแม่หนึ่ง ของปู่ย่าอีกหนึ่ง ของลุงนิกกับเซนเซ…”

“ของลุงกับทากะให้รวมกันได้”

“งั้นก็สามแล้ว ของเพื่อนอีก…” เจ้านับนิ้วแล้วชูเลยเจ็ด

“เจ็ดหรือ? ที่ปู่เห็นมาหาเราบ่อยๆ มีกันแค่หกเองนี่”

“ก็คนที่ฝากขนมมาให้ผมบ่อยๆ ด้วยไงครับ”

อ้อ…ลูกชายเพื่อนหนูอร ผมเห็นคนเป็นแม่แวะมาเยี่ยมเจ้าทีพร้อมหนูอรบ่อยๆ แต่ไม่เห็นคนเป็นลูกเลย มีแต่ส่งขนมทำเองฝากมาประจำ

“รวมกันเป็นสิบพอดี อ๊ะ ของทีด้วยเป็นสิบเอ็ด”

“แล้วซื้อไปใส่อะไร?”

“ใส่ม้วนกระดาษ แต่ทีกะทำให้ขวดเรืองแสงได้”

“ทาสีทั่วทั้งขวด?”

เจ้าทีส่ายหน้า “แต้มจุดให้ทั่วขวดเฉยๆ เอาน่า เดี๋ยวเสร็จแล้วคุณปู่ก็รู้เอง”

ระหว่างที่ผมกำลังคิดภาพตาม เจ้านิกก็สะกิดบ่า แอบคลี่กระดาษแผ่นหนึ่งออกมาให้ผมดู ในนั้นบอกรายละเอียดครบถ้วนดี สรุปหลานผมจะใช้สีเรืองแสงมาแต้มจุดทั่วด้านในขวดโหล เอาไปตากแดดให้แห้งสนิท (ถือเป็นการให้สารเรืองแสงดูดแสงไปเก็บไว้ด้วย) แล้วใส่ม้วนกระดาษผูกริบบิ้นไว้ด้านในหนึ่งม้วน น่าจะใช้สีเรืองแสงเขียนข้อความลงไป

พอได้รู้รายละเอียด ผมก็ช่วยเลือกและแนะนำให้เจ้าทีง่ายขึ้น สีเรืองแสงมีหลายแบบ แต่ผมเลือกสีเพ้นท์เรืองแสงแบบที่เป็นขวดๆ จะใช้ก็เปิดฝาจุ่มพู่กันลงไปก็พอ เลือกพู่กันหัวเล็กหน่อย เอาไปหลายๆ ด้าม แล้วแวะไปดูกระดาษวาดรูปเลือกแบบที่ลงพวกสีน้ำได้ ไปดูริบบิ้นเป็นอย่างสุดท้าย

พอได้ของครบก็แวะไปหาข้าวเที่ยงกินกันก่อน ค่อยพาตัวเจ้าทีกลับบ้าน ไม่กล้าให้อยู่ข้างนอกนาน กลัวอาการกำเริบจนต้องโทรเรียกจิตแพทย์มาดูอาการ

กลับมาถึงบ้าน ภรรยา แม่ศรี แม่สาย เตรียมพร้อมรอรับเต็มที่ เห็นเจ้าทีเดินถือถุงเข้าบ้านท่าทางร่าเริงดี ก็ถอนหายใจโล่งอกเป็นแถว

“สำเร็จใช่ไหมคะ?”

ภรรยากระซิบถาม มีแม่ศรีกับแม่สายอยู่ฟังด้วย

“ถือว่าดี อาจเพราะมัวสนใจของที่ต้องซื้อก็ได้ เจ้าทีเลยไม่ได้สนใจเรื่องผู้ชายตัวใหญ่”

“แบบนี้อนาคตน่าจะกล้าออกจากบ้านบ่อยขึ้น”

“ก็ต้องรอดูใจเจ้าทีว่าพร้อมจะออกไปหรือเปล่า”

ว่าแล้วก็หันมองคนยึดโต๊ะกระจกหน้าโซฟา โดยมีเจ้านิกช่วยปูผ้าคลุมโต๊ะ เพิ่มกระดาษหนังสือพิมพ์ปูอีกชั้นทั้งที่โต๊ะและที่พื้น ขนาดเสื้อผ้ายังให้เปลี่ยนใหม่ คงกะให้เลอะเทอะเต็มที่

หลังจากนั้นเจ้าทีก็อยู่แต่ตรงนั้น จะขยับลุกต่อเมื่อไปกินน้ำ เข้าห้องน้ำ เอาขวดที่ทำเสร็จแล้วไปตากแดดข้างนอก (เจ้าทีทำแค่ขวดเดียว) ก่อนมากะความสูงของกระดาษให้ใส่ขวดปิดฝาได้ แล้วลงมือร่างข้อความด้วยดินสอ แล้วใช้สีเรืองแสงทาทับอีกที

เรื่องหัวศิลปะ เจ้าทีดีกว่าเจ้านิกเยอะ ลูกชายคนโตไม่เอาอ่าวในเรื่องนี้สุดๆ ส่วนลูกคนเล็กพอเอาตัวรอดไปได้ แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่

“คุณปู่”

“หือ?” ผมขานรับ ผละสายตาจากหนังสือในมือมองหน้าเจ้าที

“คุณปู่ว่าการเขียนข้อความถึงคนไม่เคยเห็นหน้านี่ยากไหม?”

“พูดถึงเจ้าหนูที่ส่งขนมบ่อยๆ หรือ? ปู่เห็นหลานเขียนข้อความฝากกลับไปได้ทุกที”

“คุยกันผ่านข้อความนั่นแหละ แต่ทำไมถึงไม่มาหาก็ไม่รู้”

“อยากให้เขามาหา?”

“อื้อ ก็ตอนนี้ทีเหลือเพื่อนแค่เจ็ดคน อีกหกคนยังได้เจอหน้าบ้าง บางครั้งมาค้างมาเล่นด้วย แต่อีกคนมาแต่ขนมกับข้อความสั้นๆ”

“บางทีเขาอาจไม่ว่างมาหาก็ได้”

เจ้าทีพยักหน้า เงียบไปพักใหญ่กว่าจะพูดอีก

“…ปู่คิดว่าแค่ผมทำอาหารแลกเปลี่ยนไปกับขนม มันพอไหม? หรือผมควรทำอย่างอื่นให้เขาอีก”

“ไม่ใช่ว่าที่ฝึกทำอาหาร เพราะอิจฉา หลังแม่เอาแต่ชมเขาทำขนมเก่งอย่างนู้นอร่อยอย่างนี้เรอะ”

“ก็…ก็ใช่ แต่ความคิดมันเปลี่ยนกันได้นี่”

“ดูทีสนใจเพื่อนคนนี้เป็นพิเศษนะ”

“อื้อ ทีรู้สึกว่าเขาเหมือนเดซี่”

ผมเหล่มองสุนัขประจำบ้านที่กำลังนอนอย่างสงบตรงมุมห้อง ผมรู้ว่าเจ้าทีชอบเดซี่มากๆ แต่ไม่นึกว่าชอบมากจนเอาไปเปรียบเทียบกับคน

“คนกับสัตว์จะเหมือนกันได้ยังไง”

“คุณปู่ไม่รู้อะไร คนกับสัตว์มีความรู้สึกเหมือนกัน ผมคุยกับเดซี่ไม่รู้เรื่อง แต่เราสื่อสารความรู้สึกกันได้”

“เจ้าหนูนั่นเหมือนเดซี่ตรงไหน?”

“ใจดี”

“แค่นั้น?”

เจ้าทีเอียงคอใส่ “ก็มากกว่านั้น แต่ทีอธิบายไม่ถูก แต่ความรู้สึกบอกว่าเขาเหมือนเดซี่ จริงๆ นะ”

“เจ้าหนูนี่หรือเปล่าที่จะไปต่างประเทศพรุ่งนี้?”

หลานชายพยักหน้าหงึกๆ

“ที่นั่งทำอยู่นี่คือให้เจ้าหนูนั่นก่อนคนอื่น?”

พยักหน้าอีก

ผมขมวดคิ้ว “ลงสีข้อความเสร็จหรือยัง ขอปู่ดูหน่อย”

“ยังฮะ แต่ปู่เอาไปดูก่อนก็ได้”

เจ้าทีขึ้นต้นประโยคด้วยคำขอบคุณ

‘ขอบคุณขนมที่ส่งมาให้เสมอ
ขอบคุณข้อความที่แนบมาพร้อมกัน
หวังว่าในอนาคตเราจะได้เจอกัน
                                 ที’

อ่านจบผมอดพูดทักท้วง

“ไม่เห็นพูดถึงทั้งวันคริสต์มาสหรือปีใหม่เลยนี่”

“ทีจะเขียนถึงทำไม” เจ้าทีชูริบบิ้นกับเชือกขึ้น “เชือกมีสีเขียวสลับแดงแทนคริสต์มาส ส่วนริบบิ้นสีน้ำเงินก็มีข้อความ Happy New Year อยู่แล้ว”

“อย่างน้อยควรมีคำอวยพรบ้าง”

“งั้นทีเขียนเพิ่มอีกแผ่นก็ได้”

แผ่นต่อมา อวยพรจริงๆ ขึ้นต้น ‘ขอให้…’ ยาวไล่เรียงลงมาเป็นข้อๆ มีตั้งแต่เรื่องทั่วไปอย่างเรื่องเรียน เรื่องสุขภาพ และอื่นๆ จนถึงเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นคำอวยพร

“ขอให้น้องสาวน่ารัก?”

“อื้อ มีน้องสาวเหมือนกัน เขาต่างกับผมตรงที่เลี้ยงน้องเอง ผมเลยขอให้น้องสาวเพื่อนน่ารัก จะได้น่ารักไปนานๆ”

ผมก้มอ่านประโยคต่อมากลับอึ้งหนักกว่าเก่า

ขอให้ปีหน้าทำขนมอร่อยขึ้น
ขอให้ปีหน้าทำขนมมาให้กินอีก
ขอให้มีพวกพาย ไม่ก็ทาร์ตผลไม้ต่างๆ บ้างก็ดีนะ

นี่เจ้าทีกำลังอวยพรเขา หรือว่ากำลังขอพรจากเขากันแน่!

ผมเงยหน้ามองหลานที่กำลังทำหน้าฉงนใส่

“ทำไมปู่มองทีอย่างนั้น หรือสิบข้อน้อยไป? อันที่จริงทีก็อยากเขียนเยอะกว่านี้นะ”

ถ้าแววตาไม่วิบวับ ผมคงเชื่อว่าหลานตัวเองใสซื่อ แต่ขอบอกเลยว่า

ในบางเรื่อง เจ้าทีก็แสบเอาเรื่อง

-------------

“เดตคืออะไรฮะ?”

คำถามกะทันหันจากเจ้าทีทำคนร่วมโต๊ะมื้อเย็นสำลักเป็นแถว มีแค่ผมที่ถามกลับเสียงเครียด

“ไปเอาคำนี้มาจากไหน?”

แอบเหล่มองลูกชายคนโต ผู้โดนกล่าวหาทางสายตารีบส่ายหน้าปฏิเสธยกใหญ่

“ในนิตยสาร เขาบอกว่าช่วงคริสต์มาสเป็นโอกาสสำหรับคู่รักออกเดต ทีอ่านแล้วงง”

อ้อ

ผมถึงบางอ้อ ส่วนเจ้านิกถอนหายใจตามประสาผู้รอดพ้นข้อกล่าวหา ผมกวาดมองรอบโต๊ะ ฝ่ายหญิงส่ายหน้าไม่ขอพูด ผมเลยส่งสายตาให้เจ้านิกตอบหลาน

“เอ่อ เดตก็คือ…ไปเที่ยวกับคนที่อยากรู้จักสนิทสนมเป็นพิเศษน่ะ”

“อย่างนั้นเองเหรอ”

เห็นเจ้าทีรับคำง่ายดาย ผมก็ชักไม่แน่ใจว่าเข้าใจจริงไหม เลยย้ำเพิ่ม

“ต้องอยากรู้จักเป็นพิเศษมากๆ ด้วยนะ แล้วก็เรื่องนี้สำหรับคนที่โตแล้วเท่านั้น ไว้โตเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน”

“แล้วลุงนิกเคยเดตไหม?”

เจ้านิกสำลักข้าวเลยครับ มีชำเลืองมองภรรยาผม ก่อนลุกพรวด

“อ่า ทากะน่าจะตื่นแล้ว ผมขอเอาข้าวเอายาไปให้ทากะก่อนนะครับ”

ชิ่งอย่างเร็ว ปล่อยเจ้าทีหันมองตามหลังตาปริบๆ

-------------

วันรุ่งขึ้นเจ้าทีก็ตื่นเช้า

ผมลงมาเจอหลานกำลังพยายามผูกม้วนกระดาษอยู่ เห็นผมก็ร้องเรียก

“คุณปู่ มาช่วยทีจับกระดาษหน่อย”

ตรงเข้าไปช่วยจับ ปล่อยเจ้าทีผูกริบบิ้นเป็นโบว์เอาเอง เรียบร้อยก็จับหย่อนใส่ขวดแก้วลายจุดไปทั้งใบ ปิดฝาไม้จับวางลงกล่อง ผูกเชือกสีแดงเขียวอีกที ผมพึงสังเกตว่าเจ้าทีสอดซองจดหมายไว้ด้านบน

“ที่เขียนใส่ขวดยังไม่พออีกหรือ?”

“อันนี้ทีแค่เขียนบอกวิธีใช้ขวดเฉยๆ ทีไม่รู้นี่ว่ากล่องจะถูกเปิดเมื่อไหร่ ถ้าช้าแสงได้หายหมดพอดี”

เลยต้องเขียนบอกต่างหากสินะ

ผมปล่อยเจ้าทีจัดการกล่องของขวัญจนเรียบร้อย ค่อยเอาตัวหลานไปทานข้าวเช้าเร็วกว่าทุกที เสร็จแล้วก็มานั่งรอ เจ้าทีคงตื่นเต้นถึงได้นั่งกระสับกระส่าย แต่หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็หลับผล็อยคาโซฟาแทน

...กลายเป็นผมต้องถือของขวัญไปส่งแทนคนที่ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น

“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”

“สวัสดี” ผมยกมือไหว้รับ

ครอบครัวนี้มีกันสี่คน ทั้งลูกชายและลูกสาววัยเดียวกับหลานผมเลย

“แล้วทีล่ะคะ?”

“หลับอยู่ข้างใน จะเข้ามาก่อนไหม?”

“เสียดายจังเลยค่ะ เราต้องไปสนามบินกันต่อ” เพื่อนหนูอรพูดอย่างเสียดายมาก ก่อนดุนหลังลูกชายที่ดูมีสีหน้าโล่งใจเล็กๆ มาตรงหน้าผม

“ฝากของไว้ที่คุณปู่แล้วกันนะลูก”

“นี่ครับ”

โหลคุกกี้ผูกริบบิ้นสีเขียวอ่อน คล้องการ์ดไว้คู่กัน ขนาดใหญ่จนครึ่งเดือนก็ยังกินไม่หมด แต่สำหรับเจ้าทีคงหมดภายในหนึ่งอาทิตย์

“ส่วนนี่หลานปู่เตรียมไว้ให้เรา” ผมส่งของที่ถือมาให้ พร้อมเอ่ยเตือน “ถือดีๆ ระวังแตก”

“ขอบคุณครับ”

“หืม? มีซองจดหมายแนบมาซะด้วย ขอพ่อดูหน่อย”

“พ่อ!”

ลูกชายร้องประท้วง แต่คนเป็นพ่อก็คว้ามาเปิดดูอยู่ดี ข้างในเป็นกระดาษเอสี่แบบมีเส้นบรรทัดสองแผ่นแม็กซ์เย็บติดกัน แรกๆ คนอ่านยังยิ้มดี แต่พอพลิกหน้าสองถึงกับชะงัก เหลือบสายตามาสบกับผมที่เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“เอ่อ คุณปู่ครับ ช่วยดูนี่หน่อย”

คนเป็นพ่อพลิกกระดาษให้ดู เห็นตัวอักษรเขียนกินบรรทัดถึงสี่เส้นปุ๊บ ผมชะงักปั๊บ

‘ไว้โตแล้วเรามาเดตกันนะ’

เจ้าที!?!

############
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-06-2017 19:28:34 โดย KatzeP »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอย........ที น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
ทำของขวัญปีใหม่ให้พาร์ ให้ทุกคน และให้ตัวเอง  :hao4:
พาร์ น่ารัก ทำขนมคุ้กกี้ มาให้ทีตลอดเลย

ขำ ทีเปรียบเทียบเดซี่ เหมือนกับพาร์ เพราะใจดี

ที แอบฉลาดแกมโกง ขอพรให้พาร์
แต่พรที่ขอกลับเป็นขอให้พาร์ทำขนมให้กินอีก
ให้ทำขนมพวกพาย ไม่ก็ทาร์ตผลไม้ต่างๆ บ้างก็ดีนะ
ที เจ้าเลห์จริงๆ แต่พาร์ได้อ่านจดหมายคงมีความสุข
แถมสั่งเสียว่า ไว้ตอนโตเรามาเดตกัน ขำก๊ากกกก เลย

ขอบคุณไรท์ ให้คนอ่านมีความสุข
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
นี่ก็อ่อยเค้าแต่เด็กเลย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :laugh: ทีน่ารัก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
น่องที 55555

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ทีเอ้ยยยยย อ่อยพาร์ตั้งแต่เล็กแต่น้อยเลยนะ  :m20:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด