- Follow You 20 -
วันนี้พวกเราทั้งหมดตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อจะออกมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหาด ฟองดูสดชื่นกว่าครั้งไหนๆอาจจะเพราะความชอบทะเลของเจ้าตัวอยู่แล้ว ส่วนผมยังยืนมึนและขยี้ตาไปมาอยู่ข้างๆเขา คนอื่นๆก็มีสภาพไม่ต่างกันนัก ไอ้โฟร์ทนี่สบายเลยครับเอนหัวพิงไหล่น้องแอร์มีความหวานหยดย้อยจนผมแอบล้อมันไม่ได้
"แหม.. กรุ๊ปเรามีคู่ข้าวใหม่ปลามันด้วยว่ะมึง"
ผมพูดกับไอ้บีทที่ยืนอยู่อีกข้าง มันหันมายิ้มทะเล้นพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยแล้วเชิญชวนเพื่อนคนอื่นๆให้เหล่มองไอ้โฟร์ทกับน้องแอร์ที่ยืนกันอยู่ท้ายแถว
"โอ้ยๆ มดกัดกูอ่ะมิน"
ไอ้บีทพูดเสียงทะเล้นดังพอสมควรจนไอ้โฟร์ทที่อยู่ท้ายแถวหันขวับมามองก่อนจะแยกเขี้ยวใส่แล้วรีบผละตัวออกจาแอร์ทันที แก้มขาวๆของมันต้องแดงมากแน่ๆผมเอาหัวเป็นประกัน
"อะไรของพวกมึง รอดูไปเงียบๆเหอะ"
มันมุ่ยหน้าก่อนจะสลับที่ยืนกับไอ้ฝุ่นหน้าตาเฉย รายนั้นก็ขยับกลับมายืนข้างไอ้ปินเหมือนเดิมอย่างไม่ยอมแพ้ สุดท้ายเลยเกิดเป็นสงครามขนาดย่อม จนทุกคนย้ายมายืนข้างฟองที่เป็นหัวแถวกันหมด ไอ้น้องแอร์ก็ยืนขำกับท่าทีที่ไอ้โฟร์ทแสดงออกไม่ได้มีสีหน้าเครียดอะไรเลยที่โดนหนีแบบนั้น
"พวกมึงจะหนีกูทำไมเนี่ย"
ไอ้โฟร์ทหยุดอยู่ตรงหน้าผมแล้วกอดอกจ้องเขม็ง ปากบางเบะลงจนเป็นเส้นโค้ง ผมหมั่นไส้เลยยกมือดีดปากมันไปหนึ่งทีจนมันโวยวายลั่นหาดแบบไม่อายใคร
"ไอ้มิน ไอ้เลว! แอร์ดูมันทำกับพี่นะ"
จากที่หนีแอร์เบาเป็นเอาตายสุดท้ายมันก็หันกลับไปฟ้องคนที่ยืนอยู่ด้านหลังซะอย่างนั้น แต่พอคิดได้ว่าตัวเองหลุดปากอะไรออกมามือเรียวก็ยกขึ้นตะครุบปากตัวเองทันที ดวงตากลมๆเบิกโพลงด้วยความตกใจ
"โห.. มีฟ้องกันด้วยอ่ะ ตกลงว่าเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม?"
ฟองเป็นคนถามขึ้นมา ไอ้โฟร์ทเบิกตากว้างกว่าเดิมแล้วหันหน้าหนีพวกผมส่วนแอร์ยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้าตอบรับ ทำให้ไอ้โฟร์ทต้องยกมือฟาดแขนน้องไปตามระเบียบด้วยความอาย
"จะไปบอกเขาทำไมวะแอร์!"
ไอ้โฟร์ทโวยวายทั้งๆที่หน้าแดงก่ำ ทุกคนเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้เมื่อมันโดนแอร์ดึงเข้าไปกอดไว้
"เขินเหรอครับ งั้นซบอกผมไว้นะ"
เสียงนุ่มๆของหนุ่มวิศวะดังขึ้น ไอ้โฟร์ทที่ขัดขืนในตอนแรกกลับหยุดนิ่งแล้วซุกหน้าลงกับอกกว้างนั่นจริงๆ หมั่นไส้ว่ะ.. ความสาวแผ่ออร่าสุดๆเลยเพื่อนผม
"มีความอ้อนผัว"
คำเดียวสั้นๆจากไอ้แทมแต่สะเทือนถึงขั้วหัวใจ ไอ้โฟร์ทหันมามองค้อนก่อนจะแยกเขี้ยวใส่แต่ไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกลับมาเพราะเป็นจังหวะที่แอร์สะกิดให้ดูแสงรำไรของพระอาทิตย์ที่ริมขอบฟ้าพอดิบพอดี พวกผมเลยกลับเข้าสู่โหมดเงียบแล้วมองตามพวกมันไป
"สวยเนอะ"
ฟองหันมายิ้มให้กันยามแสงอาทิตย์โผล่พ้นริมขอบฟ้า ใบหน้าหวานดูสวยกว่าทุกครั้ง เราสบตากันรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ผมพยักหน้าช้าๆก่อนจะถือวิสาสะกุมมือนุ่มเอาไว้ ฟองไม่ได้สะบัดหนีแต่อย่างใด ถือว่าเป็นเช้าที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้
หลังจากที่เรากลับมาแต่งตัวอาบน้ำและกินข้าวเช้าเรียบร้อย แผนการเที่ยวที่ได้วางไว้ถูกยกขึ้นมาใช้ในวันนี้ ที่แรกที่เราจะไปคือสถานีรถไฟหัวหินเพื่อที่จะถ่ายรูปล้วนๆ หลังจากนั้นต่อด้วยเพลินวานและจบทริปวันนี้ด้วยเวเนเซีย
"มึงขับนำนะ"
เสียงไอ้ปินดังมาจากข้างหลัง ผมพยักหน้ารับก่อนจะเก็บของที่จำเป็นลงกระเป๋าเป้ ส่วนคนอื่นๆก็เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว
"โอเค งั้นไปกัน"
พวกเรามาถึงสถานีรถไฟหัวหินในเวลาประมาณสิบโมง ลงจากรถเสร็จต่างคนก็ต่างหามุมถ่ายรูปของตัวเอง บางคนก็ดึงตัวเพื่อนไปเป็นนายแบบจำเป็น อย่างเช่นโฟร์ทที่ดึงแอร์ไปเป็นนายแบบซะทุกเฟรมจนพวกผมต้องเอ่ยแซวเป็นระยะๆ ส่วนไอ้แทมก็ถ่ายรูปของมันไปเงียบๆมีบ้างที่จะดึงคนอื่นๆเข้าไปอยู่ในโฟกัสของตัวเอง ผมกับฟองก็ถ่ายรูปของใครของมันไปเรื่อยๆจนเดินมาหากันในที่สุด
"มิน เดินไปอยู่หน้ากล้องเราหน่อย"
ฟองบอกก่อนจะยกกล้องขึ้นมรระดับสายตา ผมทำตามอย่างว่าง่ายแล้วยืนตรงอยู่อย่างนั้น ก็ไม่รู้นี่หว่าจะให้ทำอะไร
"โพสต์ท่าด้วยดิ"
ฟองพูดขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้มองตรงมา แต่มองผ่านเลนส์กล้อง
"หา จะถ่ายรูปมินเหรอ?"
ผมถามกลับไปแล้วชี้มือเข้าหาตัวเอง ฟองพยักหน้ารับก่อนจะกดชัตเตอร์ทั้งๆที่ผมยังอ้าปากหวอ เสียงหัวเราะใสๆดังขึ้นเมื่อแกล้งผมได้สำเร็จ
"เฮ้ยย ถ่ายไปแล้วเหรอ ลบเลยนะฟอง หน้ามินต้องเอ๋อมากแน่ๆ"
ผมโวยวายไม่จริงจังนักแต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปหา ฟองส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะยกกล้องขึ้นมาระดับสายตาอีกครั้ง
"เร็วๆ โพสต์ท่าหล่อๆหน่อยครับนายแบบ"
"โอเคๆ ถ่ายมินหล่อๆนะเว้ย"
ผมพูดเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะจัดท่าทางตัวเองให้ฟองได้ถ่ายรูปแบบสมใจ พอเสร็จจากตรงนั้นพวกเราก็ตรงไปยังเพลินวานเพื่อหาอะไรกินยามเที่ยง
"อยากกินผัดไทย"
ไอ้แทมพูดขึ้นเมื่อเรายืนปรึกษาว่าจะกินอะไรดีอยู่ใกล้ๆสะพานข้ามฝั่ง
"กูอยากกินส้มตำอ่ะ"
ไอ้โฟร์ทพูดขึ้นบ้าง
"กูอยากกินขนมจีน"
ไอ้ปินเสนอบ้าง.. ตกลงว่าไม่มีใครอยากกินอย่างเดียวกันเลยหรือยังไงวะ ส่วนผมอยากกินก๋วยเตี๋ยว แม่ง ไปคนละทิศคนละทางกันเลย
"มีใครอยากกินเหมือนกันบ้างป่ะเนี่ย"
ไอ้ฝุ่นยืนเกาหัวแกรกๆเพราะแต่ละคนต่างอยากกินอะไรที่ไม่เหมือนกันเลย
"กูกินอะไรก็ได้"
ฟองตอบเพื่อนก่อนจะมองมาทางผมเหมือนขอความคิดเห็นหรือให้จัดการเรื่องตรงหน้าให้หน่อย
"หรือจะแยกกันไปกินแล้วค่อยนัดเจอกันอีกที?"
ผมเสนอทางที่วิน-วินกับทุกฝ่าย แต่ละคนมองหน้ากันไปมาก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
"งั้นตกลงตามนี้ มาเจอกันอีกทีตอนบ่ายโมงครึ่งตรงนี้นะเว้ย"
"รับทราบ!"
ทุกคนตอบพร้อมเพรียงกันก่อนจะแยกย้าย ตอนนี้เหลือแค่ผม ฟอง บีท และ ฝุ่น
"แล้วเราจะเอายังไงกัน?"
"มินอยากกินอะไรล่ะ?"
ฟองถามผมกลับมาก่อนจะส่งรอยยิ้มสดใสมาให้ ถึงแม้ตอนนี้อากาศจะร้อนแต่ดูเหมือนฟองจะมีความสุขมาก
"อยากกินเตี๋ยวต้มยำ"
"งั้นเราไปกินด้วย ฝุ่นกับบีทล่ะไปด้วยกันป่ะ?"
"ไม่ไป ไม่อยากเป็นก้างว่ะ ป่ะฝุ่น เราไปหาไรกินกันสองคนดีกว่า ปล่อยไอ้สองคนนี้ไปเดทกัน"
ไอ้บีทพูดพร้อมกับยักคิ้วกวนๆส่งมาให้ก่อนจะกอดคอฝุ่นแน่น ฟองแยกเขี้ยวใส่ทั้งสองคน แต่แก้มขาวๆกลับแดงระเรื่ออย่างน่ารัก
"ไม่ได้จะไปเดทกันนะ"
ฟองพูดเสียงอ้อมแอ้มแต่ใช้สายตาดุๆมองไปยังไอ้บีท รายนั้นก็เอาแต่ยิ้มก่อนจะลากไอ้ฝุ่นออกไปอีกทาง ปล่อยให้ผมกับฟองไปไม่เป็นกันอยู่แค่สองคน
"งั้นเราก็ไปเดท เอ้ย ไปกินเตี๋ยวกันเนอะ"
ผมแกล้งพูดก่อนจะโดนฟองต่อยเข้าที่ต้นแขน แต่แทนที่จะร้องโอดโอยผมกลับหัวเราะออกมา จนฟองต้องย่นจมูกใส่กันแล้วเดินนำหน้าไป
"เดทบ้าอะไรเล่า อย่ามั่วนะ"
เสียงฟองบ่นพึมพำดังมาขณะที่ผมรีบสาวเท้าไปเดินข้างๆกันก่อนจะยกมือขึ้นพาดบนไหล่บางนั่น ฟองไม่ได้สะบัดตัวหนีแต่หันมาเบ้ปากใส่กันแล้วเปลี่ยนมาเป็นหัวเราะอย่างร่าเริง
หลังจากกินข้าวกันเสร็จพวกเราก็เดินเลือกซื้อของฝากกลับกรุงเทพฯกัน ผมได้ขนมโบราณหลายอย่างเพราะพ่อชอบกิน ส่วนแม่ผมซื้อเป็นพวกของใช้เครื่องประดับไปฝากแทน ฟองได้พวกเครื่องหอม ของใช้ ขนมไปฝากที่บ้าน เสียเงินกันมาพอสมควรเราก็ออกจากเพลินวานในเวลาเกือบๆสี่โมง ไปถึงเวเนเซียด้วยสภาพไม่ค่อยเต็มร้อยนักเพราะเดินกันมาทั้งวันแล้ว
"มึงๆจะนั่งรกม้าหรือเรือกอนโดล่าดีวะ?"
ไอ้โฟร์ทสะกิดแขนผมยิกๆเพื่อขอความคิดเห็น ส่วนแอร์ก็ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ห่างสักเท่าไหร่
"ถามแอร์ดิ มาถามอะไรกู"
ผมว่าก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางแอร์ ไอ้โฟร์ทย่นจมูกใส่กันก่อนจะกอดแขนผมแน่น
"กูอยากถามมึงอ่ะ จะทำไม พอกูมีแฟนแล้วมึงจะเลิกเป็นที่รักของกูรึไง?"
มันมองผมด้วยสายตาตัดพ้อ แต่ผมส่ายหน้าเอือมๆก่อนจะผลักหัวมันเบาๆจนได้ค้อนวงใหญ่กลับมา
"มึงจะให้กูเป็นชู้รึไง?"
เล่นมาก็เล่นกลับครับ ไม่มีโกงนะบอกเลย
"ชู้อะไร มึงมาก่อนแอร์อีก แอร์สิต้องเป็นชู้"
มันทำหน้างอนๆก่อนจะหันไปเบะปากใส่แอร์ที่ยืนขำอยู่ใกล้ๆ น้องมันเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมยังไม่รู้ตัวเลย มัวแต่มองไอ้โฟร์ททำเรื่องบ้าๆ
"แอร์ยอมเหรอ?"
ผมหันไปถามแอร์ที่ยังยืนยิ้ม น้องมันส่ายหัวรัวๆก่อนจะตอบกลับมาเสียงดังฟังชัด
"ไม่ยอมครับ ใครจะยอมกันล่ะ พี่มินเลิกกับพี่โฟร์ทเลยนะครับ"
น้องว่าก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะไอ้โฟร์ททำหน้าบึ้งแล้วส่งค้อนวงใหญ่ให้กับแอร์
"พี่เลิกให้ตอนนี้เดี๋ยวนี้เลย แถมข้าวสารให้อีกสองกระสอบด้วย"
ผมว่าก่อนจะหัวเราะเอิ้กอ้ากแล้วดันตัวไอ้โฟร์ทให้กับแอร์ที่อ้าแขนรอรับอยู่แล้ว มันฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ยอมกอดเอวแอร์ซะอย่างนั้น สรุปว่าเพื่อนผมมันหน้าด้านใช่ไหม?
"ชิ กูอยู่กับเสี่ยแอร์ก็ได้ อยู่กับมึงแดกแกลบ"
มันหันมาเหน็บแนมใส่ผมจนคนอื่นๆหัวเราะ ไม่เว้นแม้แต่ฟอง
"มึงแดกแกลบเพราะไอ้มินไม่ได้สนใจมึงไง ถ้าเป็นฟองคงได้กินอาหารภัตตาคารทุกวัน"
รางวัลทับถมเพื่อนดีเด่นแห่งปีผมคงยกให้ไอ้บีทอย่างไม่ต้องสงสัย ไอ้โฟร์ทถึงกับถลึงตาใส่พวกผมทันที
"จริงเหรอ ถ้าเราเป็นแฟนมินจะได้กินอะไรแบบนั้นจริงๆรึเปล่า?
ฟองถามด้วยเสียงทะเล้นแถมยังยักคิ้วกวนกันอีกด้วย ผมมันเขี้ยวเลยยกมือขึ้นดีดหน้าผากเขาเบาๆ ฟองย่นจมูกใส่ก่อนจะหัวเราะออกมา
"ถึงจะไม่ทุกวัน แต่ก็เลี้ยงฟองได้ตลอดชีวิตนะ"
ผมก้มลงกระซิบข้างหูเพราะอยากให้ได้ยินกินแค่สองคน ฟองเบนหน้าหนีเมื่อฟังจบก่อนที่แก้มขาวๆจะแดงระเรื่อขึ้น ผมอมยิ้มก่อนจะยืดตัวยืนตรงเหมือนเดิม ไอ้ปินที่ยืนข้างๆหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กัน
"กูจะนั่งรถม้ากับไอ้ฝุ่นนะ"
ปินพูดขึ้น ผมพยักหน้ารับ
"กูว่าจะไปนั่งเรือว่ะ"
"กับฟองเหรอ?"
ไอ้ปินถามกลับ ผมพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มออกมา
"กูว่ามีมารผจญแน่ๆเพราะเรือนั่งได้สี่คน"
มันหันมากระซิบพร้อมกับมองไปที่ไอ้แทมกับไอ้บีท
"กูก็ว่างั้น แต่ถ้าฟองยอมกูก็ขัดไรไม่ได้"
ผมยักไหล่ไม่ใส่ใจนัก จะนั่งกันกี่คนแค่มีฟองอยู่ด้วยผมก็พอใจแล้ว ฟองหันมามองด้วยสีหน้าสงสัยว่าผมกับไอ้ปินกระซิบอะไรกัน ผมทำแค่ยิ้มกลับไปเพราะยังไม่อยากพูด
"กูไปล่ะนะ เดี๋ยวกลับมาเจอกันหน้า 3D Art Gallery แล้วกัน"
ปินพูดก่อนจะลากไอ้ฝุ่นไปหาจุดบิการรถม้า ส่วนไอ้โฟร์ทกับแอร์ตกลงกันว่าจะนั่งเรือกอนโดล่าแค่สองคนหลังจากตบตีกับไอ้บีทที่พยายามเข้าไปเป็นกขคของเขา และเป้าหมายมันก็เบนมาทางผม..ซวยไปอีกกู มันเดินตรงเข้ามาพร้อมกับลากไอ้แทมติดมาด้วย
"มิน.. นั่งเรือป่ะ"
มันถามพร้อมกับส่งยิ้มกว้างมาให้ ผมกำลังจะอ้าปากตอบแต่ฟองดันแย่งกันซะก่อน
"เราจะไปนั่งเรือกับมินสองคนอ่ะ บีทจะนั่งเหมือนกันเหรอ?"
คำตอบแบบระบุจำนวนคนทำให้ไอ้บีทยิ้มค้าง ส่วนไอ้แทมยกยิ้มมุมปากเหมือนกำลังสะใจอะไรบางอย่างอยู่
"เอ่อ.. เราว่าจะไปนั่งรถม้าว่ะ ใช่ไหมไอ้แทม"
มันตอบอึกอักก่อนจะหันไปหาคนยืนยัน ไอ้แทมเลิกคิ้วก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ แต่สายตาเยาะเย้ยกันน่าดู
"เออ งั้นพวกกูไปละ เดี๋ยวเจอกัน"
ไอ้แทมพูดก่อนจะยกมือโบกลาพวกผมแล้วดึงคอเสื้อไอ้บีทให้เดินตามไป ผมหันไปมองฟองแล้วยิ้มน้อยๆให้ก่อนจะเอ่ยแซว
"อยากนั่งกับมินสองคนอ่ะดิ?"
ผมถามด้วยเสียงทะเล้น แต่ฟองไม่ยอมตอบกันก่อนจะเดินนำไปที่จุดบริการเรือทันทีปล่อยให้ผมรีบสาวเท้าตาไปติดๆ
ตอนนี้เราทั้งสองคนนั่งอยู่บนเรือกอนโดล่าสีดำสนิทมีลวดลายสวยงามจนต้องยกกล้องขึ้นมาเก็บรูปไว้ ผมเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของฟองที่เต็มไปด้วยความสุขก่อนจะกดชัตเตอร์เก็บภาพนั้นไว้
"แอบถ่ายอีกแล้ว"
เสียงดุไม่จริงจังดังขึ้นก่อนจะได้รับรอยยิ้มบางๆจากเขา ผมยิ้มรับก่อนจะกดชัตเตอร์อีกครั้งเมื่อใบหน้าสวยหันมามองกัน
"นี่ไง ไม่แอบถ่ายแล้ว"
ผมว่าก่อนจะลดกล้องลงทำให้เราสบตากัน ฟองเบนสายตาหนีก่อนจะแอบอมยิ้มน้อยๆ นั่นทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้น ทำไมถึงทำตัวน่ารักได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้สิ
"นี่.. เรามีอะไรจะเล่าให้ฟัง"
หลังจากที่เรานั่งเงียบมาสักพัก เสียงทุ้มติดหวานก็เอ่ยขึ้น สายตาเขามองตรงไปข้างหน้า
"อ่าฮะ เล่าดิ"
ผมมองตรงไปข้างหน้าเช่นกันแล้วรอฟังเรื่องเล่าของฟอง
"อื้อ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.."
ฟองเงียบไปจนผมต้องหันไปมองคนที่เอาแต่ขำออกมาเบาๆ
"จะเล่านิทานเหรอ?"
ผมเลิกคิ้วถาม
"ล้อเล่นๆ จะเล่าจริงๆแล้วนะ"
"ครับผม"
"อือ เมื่อตอนปีหนึ่งเราเคยคิดว่าเราไม่ถูกชะตากับคนๆหนึ่งมากเพราะเรากับเขาทะเลาะกัน แต่หลังจากนั้นเราก็คุยกันได้ปกตินะ มีวันหนึ่งเราทำมือถือหายแต่เขาเป็นคนเก็บเอามาคืนเรา แถมยังซื้อเคสใหม่ให้กันด้วย"
"อ่า..."
ผมว่าเรื่องมันคุ้นๆเหมือนจะเคยได้ยินมาจากที่ไหนว่ะ
"จากนั้นมาเราทั้งคู่ก็ทักทายกันบ่อยขึ้น อาจจะทักทุกครั้งที่เจอกันก็ว่าได้ เราไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเผลอมองคนๆนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถละสายตาจากเขาได้แล้ว เขามีบางอย่างที่ทำให้เราสนใจ จนวันหนึ่งเราเข้าไปช่วยบอกคำตอบการบ้านให้แล้วเจอเข้ากับรูปถ่ายตัวเองในกล้องของเขา.. ความรู้สึกของเราที่มีให้เขาและเราคิดว่ามันคลุมเครือมาตลอดกับชัดเจนในตอนนั้นว่าเราชอบเขา"
ฟองเล่ามาถึงตรงนี้แล้วเงียบไป ใบหน้าหวานหันมามองผมที่กำลังทำหน้าตกใจสุดขีด เพราะเรื่องที่ฟองเล่ามาทั้งหมดมันคือเรื่องเกี่ยวกับตัวผม แบบนี้ก็แสดงว่าฟองแอบชอบผมอยู่เหมือนกันล่ะสิ
"ฟอง.. ทำไมเพิ่งมาบอกกัน รู้ไหมว่ามินดีใจมาก"
ผมยิ้มก่อนจะพูดเสียงสั่นด้วยความดีใจ มือเรียวเอื้อมมากุมมือกันไว้ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อไปหมด
"ก็... อยากรู้ว่ามินจริงจังกับเราแค่ไหน"
ดวงตาเรามองสบกัน มันกำลังถ่ายทอดความรู้สึกที่เรามีต่อกันส่งให้อีกคนได้รับรู้
"มินไม่เคยจริงจังกับใครมากเท่านี้มาก่อนเลยนะ มินรักฟองนะครับ"
"อื้อ"
ฟองเบนสายตาหลบกัน แต่มุมปากกลับยกยิ้มอย่างเขินอาย
"เป็นแฟนกันได้ไหม?"
ผมเอ่ยขอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายกุมมือเรียวไว้แทน ฟองช้อนตามองกันก่อนจะยิ้มแล้วพยักหน้าเบาๆ
"ครับ เป็นแฟนกันแล้วเนอะ"
"งั้นก็จูบได้แล้วดิ?"
ผมถามเสียงทะเล้นก่อนจะหัวเราะออกมา ฟองถลึงตาใส่ก่อนจะดึงมืออกแล้วยกขึ้นฟาดลงบนไหล่ผมแก้เขิน
"ไอ้บ้ามิน อายคนอื่นบ้างเหอะ!"
"กลับบ้านพักเมื่อไหร่ไม่รอดแน่"
"บ้า!"
ผมกับฟองเดินจับมือกันไปที่ 3D Art Gallery แบบไม่อายสายตาใคร เจอคนอื่นๆยืนรออยู่ด้านหน้ามองตรงมาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น ไอ้ปินถึงกับผิวปากแซว
"แหมๆ จับมือกันมาขนาดนี้พวกกูพลาดอะไรไปรึเปล่าวะ?"
ไอ้ปินเขามากระแซะไหล่ฟอง ทำให้เจ้าตัวเบ้ปากใส่แล้วใช้มือข้างที่ว่างผลักไหล่เพื่อนออกไป
"เสือก"
คำด่าที่นานๆทีจะหลุดจากปากฟองดังขึ้น ไอ้ปินถึงกับหัวเราะเอิ้กอ้ากออกมาราวกับถูกใจ คนอื่นมามาด้วยสายตาล้อเลียนเต็มที่
"สงสัยจะมีคู่ข้าวใหม่ปลามันกว่าเราอีกเนอะแอร์"
โฟร์ทว่าก่อนจะเหล่สายตามองมาทางคู่เรา ผมยักไหล่ก่อนจะยิ้มกวนๆส่งไปให้ไม่ยอมตอบคำถามของใครทั้งนั้น
"มีลับลมคมในว่ะ"
ไอ้บีทมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ก่อนจะกระชากตัวฟองเข้าไปกอดไว้แนบอกก่อนจะส่งยิ้มกวนๆมาให้ ฟองดูตกใจแต่ไม่ได้ขัดขืน ต่างจากผมที่รีบดึงฟองกลับมากอดทันทีแล้วพูดเสียงลอดไรฟัน
"แฟนกู ห้ามยุ่ง!"
"หว่ายยย ความจริงเปิดเผยแล้วอ่ะพวกแก ~"
ไอ้บีททำท่าทางสะดีดสะดิ้งจนไอ้แทมง้างมือขึ้นโบกหัวมันไปหนึ่งที
"เชี่ย ตบมาได้"
ไอ้บีทบ่นกระปอดกระแปดแล้วยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง
"ดีใจด้วย"
ทุกคนเอ่ยแสดงความดีใจก่อนจะชวนกันเข้าไปด้านใน ต่างคนต่างถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ใช้เวลาอยู่เกือบๆสองชั่วโมงถึงจะกลับออกมา หลังจากนั้นก็เดินไปถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้ก่อนจะได้ของฝากติดไม้ติดมือกันไปอีกหนึ่งรอบ
กลับมาถึงบ้านพักต่างคนต่างแยกย้ายไปอาบน้ำและเตรียมตัวพักผ่อน ผมที่ได้โอกาสอาบน้ำก่อนเลยนอนแผ่เล่นมือถือไปเรื่อย ส่วนฟองกำลังอาบน้ำ
- พี่ฟาง.. สำเร็จแล้วว่ะ
- ห้ะ สำเร็จอะไรของมึง- พี่ได้น้องเขยแล้วไง
- เห้ยย จริงเด้? ฟองมันยอมแล้วเหรอวะ- เออดิ วันนี้เลย ดีใจว่ะ
- เตรียมเลี้ยงข้าวกูเลย ขอตึกใบหยกนะ- โหยพี่! แพงนะเว้ย
- หรือมึงจะไม่เลี้ยงกู?- เออๆ เลี้ยงแน่นอน แล้วพี่ฟางกับพี่เฟียเป็นไงบ้าง
- เรื่อยๆว่ะ แต่ก็ดีมั้ง- สู้ๆนะเว้ย แล้วเจอกันครับ กลับพรุ่งนี้แล้ว
- โอเค เอาน้องฟองมาส่งที่บ้านนะ- ครับๆ รับทราบพี่ชาย
ผมวางมือลงแล้วยิ้มหน้าบานให้ความสุขที่ได้รับวันนี้โดยไม่ได้สังเกตว่าฟองกำลังยืนมองกันอยู่
"ยิ้มอะไรครับคุณมิน คุยกับใครเหรอ?"
ฟองขยี้ผมที่เปียกไปมาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกัน ผมขยับลุกขึ้นก่อนจะรวบตัวฟองจากด้านหลังมากอดไว้แล้วขโมยหอมแก้มขาวๆนั่น
"อื้อ ฉวยโอกาสนะมิน"
ฟองว่าก่อนจะใช้มือตีลงบนแขนผม ใบหน้าหวานยกยิ้มเล็กๆชวนให้ผมใจสั่น
"คุยกับพี่ฟางน่ะ วันนี้มินโคตรมีความสุขเลยรู้ไหม?"
ผมว่าก่อนจะกดจูบลงบนลาดไหล่บาง ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับ
"มีความสุขเหมือนกันครับ"
แล้วฟองก็หันมากดจมูกลงบนแก้มผม.. โอย โคตรจะเขินครับ ฟองทำตัวน่ารักใส่กันแบบนี้
"ฟอง..อย่าทำตัวน่ารักนักดิวะ แบบนี้มันเหมือนยั่วกันนะ"
ผมกระซิบเสียงเบาข้างหู ฟองย่นคอหนีก่อนจะรัวมือลงบนแขนผม
"หื่นกามอีกแล้วว่ะมิน ปล่อยเลย!"
"โอ้ยๆ ล้อเล่นครับ มาๆ มินเช็ดผมให้เนอะ"
"อื้อ"
--------------------------------------------------
เรื่องราวกระจ่างแล้วนะ? ... หวานจนน่าอิจฉา มดขึ้นแล้วเนี่ย คึคึ
อ่านให้สนุกน้า