Follow You 14
- Fong -
ตอนนี้ผมย้ายมาอยู่กับมินที่คอนโดแล้วครับ ด้วยความร่วมมือของพี่ฟาง ช่วยผมกับมินขนของอย่างขมักเขม้นผิดวิสัย ผมแอบเคืองพี่ฟางนะที่ไม่แสดงท่าทางหวงน้องบ้างเลย อะไรๆก็ยัดเยียดให้มินซะหมด สรุปพี่ฟางเป็นพี่ชายของใครกันแน่ล่ะเนี่ย ยิ่งคิดก็ยิ่งงงเข้าไปอีก
ผมนั่งอยู่บนพื้นหน้าทีวีหลังพิงชิดกับโซฟา ดวงตากำลังจับจ้องเกมที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผมชอบเกมไฟนอลแฟนตาซีมากนะกราฟฟิกสวยมาก นางเอกพระเอกเกมแต่ละภาคก็ยังหล่อโดนใจอีกด้วย เวลาผมเล่นเกมผมจะตั้งใจและมีสมาธิกับมันมาก แต่ไม่ได้ถึงกับหงุดหงิดเวลาใครอยากคุยด้วยหรอกนะ แต่มินเขาก็นั่งบนโซฟาอย่างเงียบๆเช่นเคยไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไร
"มินมีไรป่ะ?"
ผมถามมินออกไปทั้งๆที่ตากับมือยังคงจดจ่อกับวีดีโอเกมตรงหน้า ผมได้ยินเสียงขยับตัวไปมาพร้อมกับโซฟาสั่นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมเสียสมาธิแต่อย่างใด
"ว่าจะชวนออกไปห้าง"
มินตอบเสียงเรียบผมเลยหยุดเกมแล้วเงยหน้าไปมองเขา หัวของผมเอนลงบนโซฟา อ่า...สบายจัง
"ไปทำไมเหรอ?"
ผมกระพริบตาปริบๆมองมินที่กำลังเคี้ยวอะไรอยูในปาก ผมเหลือบมองที่มือเขาแล้วเจอกับซองเยลลี่รูปขวดโคล่า กินอะไรเป็นเด็กๆไปได้
"ไปซื้อของใช้ครับ บางอย่างมันหมดแล้ว ออกไปกินข้าวเย็นด้วย"
มินตอบพร้อมกับล้วงมือไปหยิบเยลลี่ส่งใส่ปากอีกอัน ผมอยากรู้ว่ามันจะอร่อยสักแค่ไหนไอ้เยลลี่สีน้ำตาลเข้มติดจะดำเนี่ย ขอชิมบ้างดีกว่า
"มิน ป้อนหน่อยดิ"
ผมมองที่ซองเยลลี่ก่อนจะมองหน้ามินอีกครั้ง เจ้าตัวเลิกคิ้วเป็นเชิงถามแล้วชูซองเยลลี่ขึ้น ผมผงกหัวเบาๆแล้วอ้าปากรอ
"อย่าติดใจล่ะ"
มินขำเบาๆแล้วหยิบเยลลี่เจ้าปัญหาหย่อนใส่ปากผม เคี้ยวมันอยู่สักพักแล้วพยักหน้าหงึกหงักเพราะมันอร่อยดีเหมือนกัน
"อร่อยอ่ะดิ?"
มินก้มหน้าลงมามองผม ตาของเรามองสบกัน รู้สึกได้ถึงลมหายใจเบารดแก้มบางเบา
"มิน... ใกล้ไปแล้ว"
ผมว่าแล้วยกมือขึ้นดันหน้าผากอีกคนให้ห่างออกไป มินหลุดยิ้มออกมาแล้วคว้ามือผมเอาไว้ เราสบตากันอีกครั้งไม่มีใครเบนสายตาหนีใคร
"มินอยากอยู่ใกล้ๆฟองครับ"
มินเอ่ยเสียงหวานมาพร้อมกับดวงตาอ้อน ผมเผลอใจสั่นเล็กน้อย อ่า... อย่าเพิ่งหวั่นไหวสิครับหัวใจของผม มันเร็วไปนะ
"อยู่ด้วยกันขนาดนี้แล้วจะเอาใกล้แค่ไหนอีกครับคุณปรมินทร์"
ผมบิดแขนออกจากมือเขาแล้วกลับไปนั่งพิงโซฟาท่าเดิม ขืนเอาหัวเอนลงบนโซฟาสบตากันอีกคงแย่แน่ๆ
"ตัวใกล้แล้ว อยากให้ใจใกล้บ้าง"
เสียงมินไกลออกไปกว่าเดิม ผมเดาเอาว่าเขาคงกลับไปนั่งท่าเดิมก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนวูบวาบแปลกๆ อยู่ตรงนี้นานๆอาจจะเหงื่ออกได้ ไปห้องน้ำดีกว่า
"มินไปเตรียมตัวดิ จะไปห้างไม่ใช่เหรอ? เราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วกัน"
ผมพูดออกไปโดยไม่มองหน้าอีกคนแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเท้าไปที่จุดหมายปลายทางของผมโดยไม่รอคำตอบของอีกคน
ผมยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ มือขวายกขึ้นลูบแก้มตัวเองที่มีริ้วสีแดงจางๆพาดอยู่ นี่ผมกำลังเขินมินเหรอครับ? ตอนนี้ความรู้สึกของผมที่มีให้มินมันเป็นไปในทางที่ดีครับ อยู่กับมินก็สบายใจดี ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้อึดอัดมากมาย มินเขาไม่ได้รุกหนักหรือบีบบังคับอะไรผม มันค่อยๆเป็นค่อยไป ค่อยๆเรียนรู้ ก็ดีเหมือนกันครับ ไม่รีบร้อย จะได้ดูจักนิสัยกันมากขึ้น
"ฟองครับ เสร็จรึยัง?"
เสียงมินตะโกนมาจากข้างนอกทำให้ผมรีบเปิดน้ำแล้วล้างหน้าทันที นี่ยืนเหม่อจนไม่ได้ทำอะไรจนมินต้องมาตามเลยเหรอเนี่ย
"เสร็จแล้วๆ"
ผมหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่กับราวมาเช็ดหน้าลวกๆแล้วเดินออกจากห้องน้ำ มินยืนขวางประตูอยู่พอดิบพอดี เกือบชนไปแล้วไหมล่ะ
"ฟอง เสื้อเปียก"
มินไล่สายตามองมาที่หน้าอกผมที่มีน้ำเปียกเป็นวงใหญ่ เสื้อสีขาวเปียกลู่แนบเนื้อจนเห็นสีผิวด้านในเด่นออกมา ยอดอกสีชมพูก็ดันทะลุเสื้อออกมาด้วย แต่คงไม่เป็นไรยังไงก็ผู้ชายเหมือนกัน
"อ่า เดี๋ยวไปเปลี่ยน มินรอเราแปปนึงนะ"
ผมว่าก่อนจะรีบเบี่ยงตัวออกจากตรงนั้น เดินไปจนถึงหน้าตู้เสื้อผ้าก็จัดการถอดตัวเก่าทิ้งแล้วหาเสื้อยืดตัวใหม่มาใส่เรียบร้อย ผมปิดตู้แล้วหันไปหามิน.. เจ้าตัวยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนจนผมนึกสงสัยว่าเขาเป็นอะไรรึเปล่า
"มิน"
ผมเดินเข้าไปหาแล้วเรียกชื่อเขาก่อนจะยกมือแตะลงบนบ่ากว้างนั่น มินสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันหน้ามาหาผม ใบหน้าหล่อๆของเขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ปากหยักได้รูปก็เม้มตรงเป็นเส้นขาวเหมือนกำลังพยายามระงับอารมณ์อะไรสักอย่าง
"เป็นไรรึเปล่า?"
ผมเอียงคอมองเขา นั่นทำให้มินเสมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว ท่าทางของมินเริ่มทำให้ผมใจเสีย มินโกรธอะไรผมรึเปล่าเนี่ย
"เปล่าๆ รีบไปกันเหอะ เดี๋ยวกลับดึก"
แล้วมินก็รีบเดินนำผมออกจาห้องไปทันที ปล่อยให้ผมเดินตามไปแบบงงๆ ไม่เข้าใจท่าทีเมื่อกี้ของเขาเลยสักนิด
พวกเราเดินซื้อของในส่วนซุปเปอร์มาเก็ต แปรงสีฟันใหม่ของผม รองเท้าสลิปเปอร์ แชมพู สบู่ ยาสีฟัน บลาๆนั่นมินบอกว่าไม่ต้องซื้อ ใช้รวมๆกันนี่ล่ะ ผมเลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นผมจะออกเงินครึ่งหนึ่งไม่อยากใช้ฟรี มินเขาอิดออดไม่ยอมรับเงินจากผมสุดท้ายเลยต้องยัดใส่กระเป๋าเสื้อของเขาแล้วมองตาขวาง ขืนหยิบคืนล่ะก็มีเรื่องแน่ๆ
"ฟองรออยู่ตรงนี้ก่อนก็ได้ มินจะไปหยิบอาหารไอ้เบนซิน"
ตอนนี้เราสองคนอยู่ส่วนของอาหารแต่มินเขาลืมซื้ออาหารเบนซินเลยตะเดินย้อนกลับไป แต่เรื่องอะไรที่จะให้ผมกินแรงเขาล่ะ ชวนมาเป็นเพื่อนกันก็ต้องไปด้วยกันดิ
"ไปด้วย"
ผมบอกเขาก่อนจะจับรถเข็นไว้ มินมองผมแล้วยิ้มก่อนจะพยักหน้า แล้วเราก็เดินไปด้วยกัน
"ปกติเบนซินกินอาหารยี่ห้อไหน?"
ผมถามก่อนจะไล่มองถุงอาหารเม็ดหลากหลายยี่ห้อที่เรียงตัวกันเต็มชั้นวางของตรงหน้า มันมีหลายรสชาติจนผมเริ่มเพลินกับการอ่านถุงอาหาร
"เพดดีกรีครับ"
มินตอบสั้นๆแล้วเดินตรงไปยังถุงอาหารสีเหลืองมีรูปหมาพันธุ์โกเด้นรีทรีฟเวอร์ติดอยู่ ผมขยับตัวไปยืนข้างๆดขาแล้วอ่านรสชาติของอาหารเม็ดออกมา
"รสไก่และผัก เนื้อวัวและผัก ตับและผัก... อ้อ มีแกะและผักด้วย เบนซินชอบรสไหนเหรอ?
ผมอ่านทุกรสที่มีบนชั้นจนครบแล้วหันไปหามิน เขามองผมและยิ้มละมุนมาให้ ผมรู้สึกว่าบรนยากาศมันหวานแปลกๆเลยเบือนหน้าหนีไปทางอื่นซะอย่างนั้น
"รสอะไรก็ได้ครับ ตามใจฟองเลย เบนซินมันกินทุกรสนั่นล่ะ"
ผมเหลือบมองมิน เขายังยิ้มอยู่ ไม่รู้ถูกใจอะไรนักหนา ผมทำเป็นไม่สนใจเขาแล้วยืนพิจารณาถุงอาหารเม็ดต่อ อืม.. รสอะไรดีนะ
"งั้นเอารสตับและผักก็แล้วกัน!"
ผมพูดแล้วหยิบถุงอาหารเม็ดรสตับและผักขึ้นมา มินรีบช่วยผมแล้วเอาไปใส่รถเข็นไว้ ผมเดินนำเขาออกไปหยุดอยู่ในส่วนของขนมน้องหมา เบนซินมันจะชอบขนมไหม ผมอยากซื้อไปผูกมิตรกับมันจัง ก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกตั้งเกือบสองปีแน่ะ
"ซื้อขนมไปด้วยดีป่ะ?"
ผมหยิบนั่นหยิบนี่ตรงหน้าขึ้นมาดูแล้วพลิกอ่านรายละเอียดขนม
"หือ ไม่ต้องหรอก"
"อยากซื้อไปผูกมิตรกับเบนซินอ่ะ"
ผมบอกมินก่อนจะหันไปมองหน้าเขา เอาอีกแล้วครับ มินยิ้มกว้างให้ผมอีกแล้ว จะยิ้มอะไรนักหนาเนี่ย
"เตรียมตัวเป็นแม่ที่ดีเหรอ?"
มินว่าเสียงทะเล้นก่อนจะยักคิ้วข้างเดียวให้ผม ผมถลึงตาใส่แล้วต่อยเข้าที่ต้นแขนแกร็งนั่น เป็นแม่ที่ดีบ้าอะไรเล่า! พูดแบบนี้ก็ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาอ่ะดิถ้าเป็นแฟนกันไปผมนี่เสียเปรียบแน่ๆเลยสินะ
"พูดบ้าอะไรของมินวะ เราก็ผู้ชาย ไม่ยอมเป็นแม่หรอก"
ผมบ่นงุบงิบก่อนจะหันไปสนใจขนมน้องหมาต่อ นี่แค่วันแรกที่อยู่ด้วยกันนะยังรุกหนักขนาดนี้ ผมต้องสร้างเกราะป้องกันหัวใจอย่างดีแล้วมั้งเนี่ย
"หื้ม แล้วจะเป็นพ่อเหรอครับ? ให้มินเป็นแม่งี้เหรอ?"
มินยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม รู้สึกได้ว่าลมหายใจอุ่นๆกำลังรดอยู่ข้างแก้มจนต้องเบี่ยงตัวหนีไอ้คนเจ้าเล่ห์ ผมขอกลับไปอยู่บ้านหรือยอมอยู่คอนโดคนเดียวตอนนี้ทันไหมครับ
"ใครจะยอมเป็นพ่อเป็นแม่ไอ้เบนซินกัน มินขี้มโนว่ะ"
ผมขยับตัวออกมาจากตรงนั้นแล้วเดินหนีไปดื้อๆ ได้ยินเสียงมินรีบเข็นรถเข็นตามมาอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะเบาๆของมินทำให้ผมหน้าร้อนอย่างห้ามไม่ได้ สนุกเขาล่ะที่ได้แกล้งผมกลับเนี่ย
ตอนนี้พวกเราซื้อของกันเสร็จแล้วครับ ตอนแรกก็กะว่าจะกินข้าวบนห้างให้เรียบร้อยไปเลย แต่อยู่ๆก็เปลี่ยนใจมากินอาหารญี่ปุ่นแถวๆคอนโดแทน เอาจริงๆราคามันถูกกว่าร้านอาหารขึ้นห้างเยอะครับ ถึงเงินจะพอมีพอใช้แต่เราก็ต้องประหยัดกันนะ
"ฟองอยากกินอะไรสั่งเลยนะ"
มินพูดขณะที่สายตาจับจ้องเมนูอาหารในมือ ผมเหลือบมองเขา ตอนมินตั้งใจทำอะไรสักอย่างก็น่ามองเหมือนกันนะ
"มินจะเลี้ยงรึไงพูดแบบนี้"
ผมพูดจบก็ขำออกมาเบาๆก่อนจะกลับไปสนใจเมนูในมือของตัวเองต่อ
"ใช่ไง เลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่"
ผมเงยหน้าขึ้นมองเขา มินส่งยิ้มบางมาให้ผม อ่า.. ยิ้มเรี่ยราดไปกี่รอบแล้วครับคุณเหนือเดือน อะไรจะขยันยิ้มขนาดนั้น เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ชอบทำหน้าขรึมจนสาวๆไม่กล้าเข้ามาทักเลยเหอะ
"บ้า เราเข้าไปอยู่ด้วยก็รบกวนมินจะแย่ ยังจะมาเลี้ยงข้าวเราอีก"
ผมขมวดคิ้วยุ่งมองหน้าคนที่ยิ้มเผล่อย่างไม่เครียด เป็นผมเองที่เครียด เกรงใจมินมากทั้งๆที่เขาจีบผมอยู่ แต่ก็แค่จีบไหมล่ะครับ ไม่ใช่ว่าจะรบกวนเขาได้ทุกเรื่องสักหน่อย
"ไม่ต้องเครียดครับ มินเต็มใจนะกับทุกอย่างที่ทำให้ฟอง"
นิ้วอุ่นๆยื่นมานวดคลึงหว่างคิ้วของผมให้คลานออก ผมไม่ได้ขยับหนีสัมผัสนั่นปล่อยให้มินทำตามใจชอบ ผมยิ้มบางออกไปเมื่อรู้สึกสบายใจขึ้น มินยิ้มตอบแล้วผละมืออออกไปเหมือนกัน
"อื่อ ขอบคุณนะ แต่ว่ามินหยอดเรารึเปล่าเนี่ย?"
ผมเหล่ตามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ เจ้าตัวทำเพียงแค่ยักไหล่เชิงให้ผมคิดเอาเอง ทำกันแบบนี้ผมก็แย่สิครับ
"สั่งอาหารกันเถอะ"
มินบอกผมก่อนจะกวักมือเรียกคนมารับออเดอร์ ผมกับมินสั่งกันไปคนละสองอย่างไม่มากไม่น้อย ระหว่างที่เรานั่งรออาหารก็ไม่ปล่อยเวลาว่างให้สูญเปล่า ต่างคนต่างหยิบมือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาไปเรื่อย มีพูดคุยเรื่องทั่วไปบ้าง
"ฟอง!"
เสียงเรียกจากหน้าร้านทำให้ผมหันไปมอง แล้วก็เจอเข้ากับพี่อิฐที่เคยเต้นโคฟเวอร์ด้วยกัน ฝ่ายนั้นโบกมือแล้วส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหากัน ผมยิ้มกลับไปแล้วมองมินที่กำลังมองไปที่พี่อิฐเช่นกันสีหน้ามินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย เหมือนอยู่ๆเขาก็หงุดหงิดขึ้นมา สงสัยเพราะพี่อิฐล่ะมั้ง
"มากินข้าวเหรอ?"
เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเขามาถึงโต๊ะของผม พี่อิฐไม่แม้แต่ตะสนใจคนร่วมโต๊ะของผมอย่างมินเลยสักนิด เขาพูดคุยยิ้มแย้มกับผมเหมือนมินไม่มีตัวตน
"ครับ พี่อิฐมาคนเดียวเหรอ?"
ผมถามออกไปแล้วแอบมองมินที่ตอนนี้ก้มหน้าก้มตากินไม่พูดอะไรออกมา
"มาคนเดียวครับ คิดถึงฟองจัง"
เอาแล้วครับ ผมรับรู้ได้ว่ามินชะงักกับคำนั้นของพี่อิฐ เขาเงยหน้าขึ้นมามองเราสองคน ริมฝีปากหยักนั่นเม้มเป็นเส้นตรง ชั่วอึดใจเขาก็พ่นลมหายใจออกมาเบาๆปล่อยปากที่เม้มออกแล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารต่อ... เมื่อกี้เขาระงับอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองอย่างนั้นเหรอ
"ผมขอตัวกินข้าวก่อนนะพี่อิฐ มันเริ่มอืดแล้วอ่ะ"
ผมมองถ้วยข้าวของตัวเองแล้วแกล้งๆเขี่ยมันเล่น ตัดบทแบบนี้น่าจะดีกว่านะครับ ไม่อย่างนั้นพี่อิฐเขาคงชวนผมคุยยาว เห็นคิ้วที่ขมวดกันแน่นของมึนแล้วรู้สึกไม่สบายใจยังไงชอบกล
"ใจร้ายจังนะครับ มีคนมาด้วยแล้วไม่ยอมชวนพี่นั่งเลยนะ"
พี่อิฐทำหน้าเศร้าแล้วมองมาที่ผม ผมมองเขากลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทั้งๆที่ผมเคยปฏิเสธพี่เขา แต่พี่เขาเหมือนจะไม่เคยฟังอะไรที่ผมบอกไป เมื่อเขามีโอกาสเมื่อไหร่เขาก็ยังตามตื้อผมอย่างไม่ลดละ
"ขอโทษนะครับ แต่แฟนผมคงไม่ชอบใจนักที่ผมจะชวนคนอื่นนั่งด้วยตอนเรากำลังเดทกัน"
มิยชะงักช้อนที่กำลังจะเข้าปากมองผมด้วยสีหน้าอึ้งๆ ผมมองเขาแล้วยิ้มออกมาบางๆ ตอนนี้ขอเอาตัวรอดก่อนเถอะครับ ไม่อยากโดนพี่อิฐตามตื้อ มันน่ารำคาญและน่าอายเอามากๆเลยด้วย
"หืม แฟนฟองเหรอ? เพราะแบบนี้ใช่ไหมถึงไม่ยอมให้พี่จีบ"
เสียงพี่อิฐแข็งขึ้นทันที สายตาเขาจับจ้องมินอย่างไม่เป็นมิตร ส่วนมินก็วางช้อนลงแล้วจ้องพี่อิฐกลับแบบไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
"อย่างที่เห็นครับ ขอโทษด้วยนะ"
"พี่แย่กว่ามันตรงไหนครับ? ทำไมฟองไม่เลือกพี่ เราสนิทกันไม่ใช่เหรอ?"
พี่อิฐหันมาคาดคั้นผม ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดีอยู่ๆมาถามกันแบบนี้ เหตุผลที่ผมไม่ยอมให้พี่อิฐจีบจริงๆแล้วคือผมอึดอัดกับนิสัยชอบแสดงความเป็นเจ้าของผม บังคับผมทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ผมพูดไปตรงๆเราจะมองหน้ากันติดเหรอ
"ขอโทษนะครับ พี่ไม่ควรมาคาดคั้นฟองเขาแบบนี้นะ เขาจะตัดสินใจยังไงมันก็เรื่องของฟอง"
มินเอ่ยปากแทนผมเรียบร้อย พี่อิฐละสายตาไปมองมินเขม็งด้วยความโมโห
"มึงเงียบไป กูคุยกับฟอง"
"พี่กำลังทำให้ฟองลำบากใจ"
มินพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรนอกจากส่งแววตาเป็นห่วงมาให้ผม ซึ่งผมอยากจะบอกมินว่าตอนนี้มินควรระวังตัวเองไว้ก่อนดีกว่า พี่อิฐอารมณ์ร้อนมากกว่าที่มินเห็นนะ
"กูบอกว่ามึงอย่าเสือกไง"
พี่อิฐก้าวเข้าไปหามินที่ทำสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนเหมือนเดิมจนผมต้องคว้าข้อมือพี่อิฐเอาไว้แล้วลากพี่เขาออกมาด้านนอกร้าน สุดท้ายข้าวผมก็อืดตามที่ได้โกหกไว้จริงๆ
"ตอบพี่มา"
พี่อิฐจ้องตาผม มือทั้งสองข้างจับไหล่ผมแล้วออกแรงบีบหนักๆจนผมต้องเบ้ปากแล้วสะบัดตัวออกมายืนห่างๆ
"เพราะพี่เป็นแบบนี้ไงวะ ทั้งบังคับ ขี้โมโห ทำตัวเป็นเจ้าของผม ผมอึดอัด"
ผมก็ไม่ใช่คนที่มีควาทอดทนสูงเท่าไหร่หรอกนะ อยากให้เรื่องบ้าๆระหว่างผมกับพี่อิฐจบลงซะที พี่อิฐมองหน้าผมอึ้งๆแล้วหัวเราะหึออกมา
"หึ เข้าใจแล้ว พี่มันน่ารำคาญสินะ เอาเถอะครับ ขอให้รักกันดีๆแล้วกัน"
พี่อิฐมองผมด้วยแววตาที่ทั้งโมโหและผิดหวังก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้ผมยืนงงอยู่ตรงนั้น บทจะพูดง่ายก็ง่ายแบบนี้เลยเหรอวะ ถ้ารู้แบบนี้ผมพูดไปตั้งนานแล้ว
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วกลับเข้าร้านไป มินมองผมมาด้วยความเป็นห่วง ผมทิ้งตัวนั่งลงแล้วยิ้มบางส่งให้เขา
"เป็นยังไงบ้าง?"
"โอเค เคลียร์แล้ว"
ผมหยิบตะเกียบขึ้นมาเขี่ยข้าวอีกครั้ง แต่เสียงมินก็ทำให้ผมหยุดมือไปก่อนจะได้ทำอะไรต่อ
"สั่งใหม่เหอะ มันเย็นหมดแล้ว"
พอดีว่าผมสั่งข้าวหน้าทงคัสสึไข่ตุ๋น.. พอมันเย็นแล้วจะแหยะๆ แต่ผมกินได้นะ ไม่ได้เรื่องมากอะไรจริงๆ
"กินได้ๆ"
ผมคีบหมูทอดขึ้นกำลังจะงับแต่มินก็จับมือผมเอาไว้ก่อน ผมเงยหน้ามองเขาแล้วยอมลดตะเกียบลง
"เมื่อกี้มินหงุดหงิดมากเลยนะที่พี่อิฐทำแบบนั้น"
อยู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาแล้วผละมืออกไปลูบท้ายทอยตัวเอง ดวงตาคมเสมองไปทางอื่น
"อารมณ์เสียแทนเรารึไง"
ผมว่าก่อนจะวางตะเกียบลงแล้วเอามือเท้าคางนั่งจ้องมินเขา
"ก็ใช่ แต่เอาจริงๆเราหึงมากกว่า เฮ้อ"
มินเกาแก้มตัวเองหลังจากพูดจบ นั่นมันทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
"ขี้หึงเหรอเราน่ะ แต่มินก็ไม่โวยวายนี่"
ผมพูด มินมองผมก่อนที่หน้าเขาจะขึ้นสีเล็กน้อย มีมุมน่ารักด้วยว่ะคนเรา
"มันจะโวยวายได้ไงครับ ไม่ได้เป็นอะไรกัน"
มินทำหน้าเศร้าลงแค่แว้บเดียวเท่านั้นก่อนจะกลับมาทำสีหน้าปกติ บางทีผมก็เห็นใจเขานะ แต่เรื่องของความรักแล้วเราทั้งคู่ยังเป็นผู้ชายอีกด้วย ไม่รู้ว่ามันจะยั่งยืนแค่ไหนก็ต้องรอดูกันไปยาวๆจริงไหมล่ะครับ
"แต่มินหึงแล้วบอกว่าหึงตรงๆมันน่ารักดีนะ"
ผมว่าก่อนจะคีบไข่หวานย่างใส่ปากตัวเอง
"เก็บคำว่าน่ารักไว้ชมตัวเองเถอะฟอง เมื่อกี้มินโคตรอึ้งเลย"
มินว่าก่อนจะมองตรงมาที่ผม รอยยิ้มกรุ่มกริ่มปรากฎบนใบหน้าอย่างชัดเจน ต่างจากมินที่ขี้หึงที่เขินคนเมื่อกี้ลิบลับ มินคนเจ้าเล่ห์กลับมาแล้วสินะ
"อะไร ไม่เห็นมีอะไรน่าอึ้ง"
ผมเฉไฉก่อนจะคีบซาซิมิเข้าปาก ทำเป็นสนใจของกินมากกว่าคงรอดตัวไปได้ล่ะมั้ง แต่เมื่อกี้นับถือตัวเองมากเลยนะที่กล้าพูดว่ามินเป็นแฟนออกไป คิดแล้วก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น
"บอกว่ามินเป็นแฟนนี่มันเรื่องปกติเหรอวะ นี่กลั้นยิ้มจะตายอยู่แล้ว"
"แค่เอาตัวรอดเหอะ! ไม่ได้คิดไรสักหน่อย"
ผมโวยเสียงไม่ดังนักแล้วคีบเนื้อกระทะร้อนของมินมากินหน้าตาเฉยแบบไม่เกรงใจ จังหวะนี้ทำอะไรที่ช่วยให้ตัวเองรอดจากสายตากรุ่มกริ่มได้ก็จะทำ
"โหๆ นี่กินกลบเกลื่อนความเขินรึเปล่าเนี่ย ใจเย็นๆนะครับ"
เสียงมินขำเบาๆทำให้ผมต้องถลึงตามองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง มินหุบปากฉับแต่ก็กลั้นขำจนหน้าแดง สนุกมารึไงคนเราได้แกล้งคนอื่นเนี่ย มันน่าตีจริงๆเลย
"สั่งข้าวให้เราใหม่เลย อย่ามัวขำ!!"
ผมเอื้อมมือไปดีดเหม่งคนตรงหน้าแล้วก้มลงคีบไข่หวานอีกชิ้นมาเข้าปากต่อ ตอนนี้ไม่อยากรับรู้แล้วครับว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับคนตรงหน้า ก็มันอายจนไม่รู้จะทำตัวแบบไหนแล้วนี่!
"ครับๆ ได้ตามบัญชาเลยที่รัก"
นั่น! ยังจะเรียกผมว่าที่รงที่รักอีก คนบ้าอะไรขยันหยอดกันจริงๆเลย ผมไม่ใช่กระทะทำขนมครกนะที่จะหยอดเอาๆเนี่ย เว้นช่วงให้ผมหายใจบ้างเถอะครับคุณปรมินทร์ !
--------------------------------------
มินเขารุกหนักขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ ฟองก็สร้างเกราะป้องกันเพราะไม่อยากหวั่นไหวเร็วไปซะอย่างนั้น
แต่ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก แค่อยากให้มั่นใจและมีความั่นคงในความรู้สึกก็แค่นั้นเอง
ใครรออ่านอยู่ก็ขอให้อ่านอย่างสนุกน้า ♥