จากช่วงเย็นกลายมาเป็นเริ่มดึก ช่วงเวลาใกล้สองทุ่มผมกวาดสายตาไปทั่วนั่งมองคนที่เดินเข้าออกก่อนที่คนที่รอจะเดินออกมา เค้าผ่อนลมหายใจเบื่อหน่ายตอนที่เจอหน้าผม ฟานที่เดินตรงออกมา ผมก็ลุกขึ้นยืน
“ ฟาน "
“ มาทำไม "
“ ฉันแค่อยากจะคุยกับนาย " พอบอกแบบนั้นอีกคนก็ยิ่งขมวดคิ้ว ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ แต่กูไม่อยากจะคุย แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยกับมึงด้วย " เค้าพูดสั้นๆก่อนจะหันไปมองเพื่อนอย่างทามที่เดินตามลงมา " ไปเถอะวะ เห็นหน้าไอ้เหี้ยนี่นานๆแล้วกูจะอ้วก "
“ ขอฉันไปด้วยคนสิ " ฟานที่กำลังจะเดินออกไป เค้าหันมองเพื่อนสนิทอย่างที่ทามที่ทำหน้านิ่งๆก่อนจะมองผม แล้วเดินออกไป
“ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น กูไม่รับผิดชอบด้วยนะ "
“ ผมก็ไม่รับผิดชอบด้วยนะ " ทามบอกผม ที่ก็พยักหน้ารับคำพูดของเค้า
“ ฉันไปเองก็ต้องรับผิดชอบตัวเองสิ ไม่เป็นไรหรอก " ผมเดินตามอีกสองคนไปที่เรื่อยๆ มองดูแผ่นหลังของร่างสูงที่เดินนำอยู่ก็ได้แต่คิดสงสัย มันน่าแปลกทั้งๆที่ปกติคงต้องไล่ แล้วผลักให้ไปไกลๆ แต่วันนี้กลับพูดแค่คำพูดสั้นๆ แถมยังไม่ห้ามตอนที่จะตามไปอีก แต่อย่าคิดมากเลย คงเพราะเค้าเหนื่อยจะพูดแล้วรึเปล่า ถึงไม่ห้ามอะไรแล้ว
เราเดินมาถึงร้านเหล้าที่อยู่ตรงช่วงกลางซอย ร้านเล็กๆที่แต่งร้านด้วยการทุบห้องแถวชั้นล่างสองร้าน รวมเป็นร้านใหญ่ จัดแต่งแบบเรียบง่ายด้วยโทนสีเข้มที่ตัดด้วยไฟสีส้มชวนให้ร้านน่านั่งด้วยบรรยากาศแบบดิบๆ หย่อนตัวลงนั่งที่โต๊ะติดผนังร้าน ผมมองไปรอบๆในตอนนั้นเหล้าเซ็ตนึงก็ถูกสั่งมาพร้อมด้วยกับแกล้มเล็กๆน้อยๆ ผ่อนลมหายใจมองร่างสูงที่เอาแต่เล่นมือถือ ยังไม่ได้คุยกันสักที ทั้งๆที่อยากจะคุยกันด้วยเหตุผลแท้ๆ แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่แม้ที่จะฟัง
“ เฮ้ย! พวกมึง " เสียงที่เอ่ยทัก ผมหันไปมองต้นเสียงของคนที่มาใหม่ คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ว่าฟานเองก็เคยแนะนำให้รู้จัก “ อ้าว วันนี้มีคนสวยนั่งอยู่ด้วย สวัสดีครับ "
“ สวัสดีครับ " พยักหน้ารับเค้าอีกคนก็ยิ้ม
“ อ้าาา คุณคีย์คงจำผมไม่ได้ คอมครับ เป็นรุ่นพี่ของไอ้ฟาน "
“ อ้อ สวัสดีครับ " ก็ว่าทำไมคุ้นหน้าคงเพราะตอนนั้นที่เคยมาที่นี่ฟานคงแนะนำให้ผมรู้จักเค้าแล้ว ความเงียบคืบคลานเข้ามาอีกครั้งมีแต่บทสนทนาของคนภายในโต๊ะแต่ไม่ใช่การสนทนาที่เกี่ยวกับผม ไม่มีการชวนคุยอะไรเหมือนแค่มานั่งนิ่งๆ เหมือนคนไม่มีตัวตน
“ ขอโทษนะครับ " พนักงานในร้านยื่นแก้วทรงสูงที่เหมือนจะใส่บลูฮาวายโซดามา เค้าวางที่โต๊ะเรา ท่าทางงุนงงของคนนั่งร่วมโต๊ะก่อนที่ทามจะถาม
“ ไม่ได้สั่งนะน้อง "
“ พอดีมีคนสั่งมาให้พี่ผู้ชายคนนั้นน่ะครับ " มือที่ชี้มาทางผม เบิกตาน้อยๆตอนที่หันซ้ายมองขวาไปรอบๆ น้องคนเสิร์ฟก็ชี้ไปทางโต๊ะที่เป็นเจ้าของน้ำแก้วนั้น " พี่ผู้ชายสองคนนั้นครับพี่ "
ผู้ชายร่างหนากำยำสองคน ส่องยิ้มมาให้ก่อนที่คนคนนึงจะยกแก้วในมือขึ้นทัก ผมก็พยักหน้ารับก่อนจะบอกน้องคนเสิร์ฟไปสั้นๆ " เอาไปคืนให้หน่อย ไม่รับครับ "
“ อ้าว..แต่ว่า "
“ รับๆไปเถอะน่า เค้าสนใจอะ " ฟานที่เอ่ยบอก มองผมก่อนจะยกยิ้ม " ผัวก็ไม่มีเป็นตัวเป็นตน เป็นแค่เมียน้อยชาวบ้าน รับไปดิ ชอบไม่ใช่เหรอ พวกวันไนท์สแตนอะ " แก้วบลูฮาวายแก้วนั้นถูกดึงเข้ามาใกล้ผม " ไม่ต้องเกรงใจหรอก ยังไงกูก็ไม่กลับไปเอามึงทำเมียอยู่แล้วละ "
“ ไอ้ฟาน ไอ้เชี้ย " รุ่นพี่อย่างคอมว่าสั้นๆก่อนจะยกยิ้มแล้วหยิบแก้วเหล้าขึ้นมากิน
“ ฉันแค่ไม่อยากจะกินน่ะ "
“ งั้นก็ตั้งไว้ก็ได้มั้ง " คอมบอกก่อนจะหันไปมองคนที่ส่งน้ำแก้วนั้นมาให้ " ดูท่าทางว่าถ้าเอาไปคืน คงดูไม่ดีแน่เลย "
“ เด็กคณะไหนวะ ไม่คุ้นหน้าเลยกู "
“ ช่างมันเถอะสนใจไรวะ ไม่ใช่เรื่องของพวกเราสักหน่อย " ฟานบอกสั้นๆ ในตอนนั้นทุกคนก็หันกลับมาคุยเรื่องของตัวเอง เสียงหัวเราะดังๆภายในโต๊ะของเรา ผมที่ได้แต่นั่งนิ่งถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเหลือบมองไปที่โต๊ะของผู้ชายสองคนนั้นที่ก็ยังมองมาทางผมอยู่อย่างไม่ละสายตาไปไหน เค้าที่ยกยิ้มแล้วส่งสายตาโลมเลียมาให้ ท่าทางที่ทำให้กลัวและไม่น่าไว้ใจจนได้แต่นั่งก้มหน้า
สายตาของเค้าทั้งคู่นั้นที่ส่งมาให้นั้น ความรู้สึกที่บอกกันได้ว่าเหมือนเค้ากำลังเชิญชวนและมีต้องการ ต้องการในตัวผม แววตาที่มองจากขาที่อยู่ใต้โต๊ะมาจนถึงหน้า รอยยิ้มที่เยียดที่มุมปากเบาๆ
ผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ น่ากลัวจนเผลอยกมือขึ้นกำเสื้อที่สวมใส่ไว้แน่น มือสั่นๆของผมพยายามสงบจิตใจของตัวเอง ' ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย ไม่เป็นไรคีย์ ใจเย็นๆนะ '
“ อ้าว ฟาน..” เสียงของคนมาใหม่ที่เอ่ยทักร่างสูงที่กำลังนั่งกินเหล้าอยู่ ผมเงยหน้ามองหน้าเธอที่ก็คุ้นอยู่ไม่น้อย ก็ผู้หญิงคนนี้ไงที่เคยอยากจะมอบเรือนร่างของเธอให้ฟาน คนที่ครั้งนึงเคยทำให้ผมกับฟานทะเลาะกัน
“ พลอย " ร่างสูงเอ่ยทัก " มาคนเดียวเหรอ "
“ เปล่าอะ มากับเพื่อนแต่เห็นฟานกับทามนั่งอยู่เลยเข้ามาทัก แต่จะให้นั่งด้วยก็ได้นะ ถ้ามีเก้าอี้เหลือ "
“ มีสิ นั่งดิ " ฟานบอกก่อนจะหันมามองผม " ลุกสิ "
“ ห๊ะ ? แต่ฉันนั่งอยู่นะ อยากจะนั่งก็ให้เธอไปหาเก้าอี้มาใหม่สิ "
“ ก็กูชวนเค้า ไม่ได้ชวนมึงเลยมาเลย มึงเสือกมาเองนะ เพราะงั้นมึงที่ไม่ได้ถูกชวนมาจะนั่งอยู่ทำไม ลุกไปดิ " มือหนาเอื้อมมือมาผลักตัวผมให้ลุกออกจากเก้าอี้ไป แล้วจะยกเก้าอี้ตัวนั้นให้เธอคนที่มาใหม่นั่ง ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น มองผู้หญิงที่เข้ามานั่งใหม่ด้วยความไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ต้องเหยียดกันต่อหน้าคนที่ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องรอสมน้ำหน้าอยู่ อย่างงั้นเลยเหรอ ผมสบตาเธอที่ก็เงยหน้ามองก่อนจะยกยิ้มด้วยแววตาสมเพช
“ อะไรกัน นี่เลิกกันแล้วเหรอ "
“ อื้ม สักพักแล้วอะ "
“ แล้วทำไมยังมานั่งอยู่ตรงนี้ละ ตื้อไม่เลิกสินะ "
“ คงก็แบบนั้น "
“ กลับไปได้แล้วมั้งคะ มายืนค้ำหัวอยู่แบบนี้ ทุเรศมากเลยนะจะบอกให้ " คำพูดของหญิงสาวที่เงยหน้ามองผม " ผู้ชายเค้าไม่เอาแล้วยังจะมาตามตื้ออยู่อีก.. หน้าด้าน "
“ อย่าพูดอะไรที่เธอไม่รู้น่าจะดีกว่ามั้ง " ผมบอกเธอที่หันมามองผมแต่ยังไม่ทันที่จะโต้ตอบอะไร ฟานก็เป็นคนพูดออกมาก่อน
“ นั่นนะสิ กลับไปแล้วมั้ง หรือว่าต้องให้สาดน้ำไล่อีก "
“ แต่ฉันยังไม่อยากจะกลับ "
“ คนเค้าไม่เอาแล้วน่า ไปให้คนอื่นเอาสิ มันก็เหมือนๆกันไม่ใช่เหรอ หรือว่าฟานจะมีอะไรดีน้าา เค้าเลยได้ติดใจนายไง " ผู้หญิงคนนั้นบอกก่อนจะหันไปจ้องร่างสูงที่ก็ได้แต่ยกยิ้ม
“ ก็เบสิคทั่วไปนั่นแหละน่า ไม่ค่อยเร้าใจหรอกมั้ง "
“ ถ่อมตัวไปหน่อยเปล่าวะ ไม่งั้นจะติดใจขนาดนี้เหรอ " คอมรุ่นพี่ของร่างสูงว่า ทั้งโต๊ะก็หัวเราะออกมา
“ ฉันไม่ได้มาง้อเค้าเพราะเรื่องเซ็กส์สักหน่อย เลิกดูถูกกันได้แล้ว! " ผมว่าเสียงดังทั้งโต๊ะนั้นก็เงียบ " เห็นว่าเงียบ! ก็เลยจะพูดอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอวะ ฉันมาที่นี่ก็แค่อยากจะคุยกับเค้าดีๆ แล้วนี่นั่งทนอยู่ตรงนี้ก็แค่อยากจะได้คุยกับเค้าดีๆ แบบที่คนที่เค้าเป็นผู้ใหญ่เค้าทำกัน ไม่ใช่เด็กเล็กๆที่เค้าแต่แอบด่าคนอื่นเพราะเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไร แล้วคิดว่าเค้าหงอให้ก็รุมกันใหญ่ ไม่ต่างอะไรกับพวกสัตว์เดรัจฉานที่พอเสือมันล้มสัตว์ตัวอื่นได้ ก็คอยมาแย่งจิกแย่งกิน ส่วนเธอ! " ผมหันไปมองผู้หญิงคนนั้น " ว่าแต่ฉันหน้าด้านมาตื้อผู้ชาย ขอดทษทีเถอะ ผู้ชายที่ฉันง้อยังไงก็แฟนเก่าฉัน ไม่ใช่เธอ ที่แค่ชอบเค้า เค้าไม่เล่นด้วยก็ถวายตัวให้เค้าฟรีๆ แบบหน้าด้านๆ ถามจริงเถอะ แบบนี้ใครมันหน้าด้านกว่ากันวะ ก่อนจะว่าคนอื่นหัดดูตัวเองซะบ้างเถอะ! มันทุเรศ "
“ นี่! " ผู้หญิงคนนั้นหันมาตวาดพลางชักสีหน้าใส่ผม " โดนเขี่ยทิ้งก็ยังไม่เจียมตัว ไสหัวไปไกลๆเลยไป เค้าไม่เอาแล้วยังมาหน้าด้านจะให้เค้าเอาอยู่ มันก็ทุเรศเหมือนกันนั่นแหละจะบอกให้ แล้วฉันจะบอกให้นะ ว่าอยากมากนักละก็ ลองไปเดินอ่อยแถวนี้ดูสิ อาจจะได้ติดมือกลับไปก็ได้นะ ง่าย ไม่ใช่เหรอ "
“ งั้นถ้ากูคุย ทุกอย่างมันก็จะจบใช่มั้ย " ร่างสูงยืนขึ้นจ้องหน้าผม ในตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นก็หุบปากลงทันที " งั้นก็ออกไปคุย " ฟานเดินออกไปนอกร้าน ผมที่เดินตามเค้าไป ข้างนอกที่มีคนอยู่เยอะ เค้าที่หยุดยืนก่อนจะหันมามองหน้าผม " พอสักทีได้รึยัง "
“ ฟาน "
“ กลับไปได้แล้ว มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเถอะนะ ขอร้องละ "
“ ไหนบอกว่าจะฟังไง " ผมคว้ามือไปจับมือเค้าอีกคนก็ถอนหายใจออกมา
“ มึงจะให้กูฟังอะไรวะ กูฟังมึงมากี่รอบแล้ว กูฟังมึงมาหลายรอบแล้วทุกอย่างมันก็เหมือนเดิม มันไม่ใช่กูไม่ฟังมึง กูฟังมึงแล้วแต่มึงมากกว่าที่ยังหลอกตัวเองว่ากูไม่ได้ฟัง เพราะกูไม่ได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างที่มึงคิดว่า ถ้าอธิบายแล้วกูจะกลับไปเข้าใจมึงเหมือนเดิมไปรักเหมือนเดิม แต่โทษทีเถอะว่า กูกลับไปโง่เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว มึงลืมไปรึเปล่าว่าสิ่งที่มึงทำ คือการนอกใจกู แล้วกูก็ไม่ได้เข้าใจผิด มึงจะอธิบายยังไง สุดท้าย คือมึงนอกใจกู มึงชอบไอ้เหี้ยนั่น จะมากจะน้อย นอกใจคือนอกใจ เข้าใจมั้ย มันจบแล้วมึง กลับไปเถอะ อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก " เค้าที่สะบัดแขนออกจากการจับกุมของผม
“ ฟาน "
“ พอเถอะน่า! มึงจะเอาอะไรอีก หรือว่าเงี่ยนอย่างที่เค้าพูดกัน " ผมเงียบตอนที่เค้าพูดออกมาแบบนั้น ฟานมองซ้ายขวาในตอนนั้นผู้ชายสองคนนั้นที่ซื้อน้ำแก้วนั้นให้ผมก็เดินออกมาจากร้าน มองเราที่กำลังยืนคุยกันอยู่ สองแขนของฟานเอื้อมมือจับไหล่ผมก่อนจะกระซิบ " นั่นไงคนที่อยากจะเอามึงเดินออกมาละ ไปให้เค้าเอาดิ จะได้หายเงี่ยนแล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก " แรงผลักเบาๆตอนที่เค้าปล่อยมือจากผมแล้วเดินเข้าไปในร้านอย่างไม่สนใจที่จะหันกลับมามอง ผมมองผู้ชายสองคนนั้นที่ยกยิ้มมองผม ก่อนที่ผมจะหันไปทางอื่นด้วยความกลัว
มองดูนักศึกษาที่ยังคงยืนอยู่แถวๆนั้น ผมมองไปรอบๆถ้าเดินไปตอนนี้ก็ยังมีคนเดินเป็นเพื่อนเยอะแยะ คงไม่เป็นไรหรอกพอเรียกแท็กซี่ได้นั่นก็คงปลอดภัยแล้ว ผมเหลือบมองคนสองคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ เท้าที่ก้าวห่างออกไปพยายามเร่งฝีเท้าให้เดินตามเด็กนักศึกษาเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด หัวใจที่เต้นแรงของผมกอดตัวเองแน่นตอนที่เดินไปยังทางข้างหน้า ในตอนนั้นขาที่เดินออกมาถึงหน้าถนนใหญ่ผมมองซ้ายขวาหาแท็กซี่ที่จอดอยู่แต่ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปเปิดประตูรถเอ่ยถาม ร่างสูงกำยำของคนสองคนที่เดินตามมาก็คว้าที่ไหล่ก่อนจะลดระดับหน้ามาเบียดอยู่ข้างๆแก้มแล้วถาม
“ จะรีบกลับไปไหนละครับ คนสวย เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะ " กลิ่นเหล้าผสมกลิ่นกายตัวของผู้ชายที่ออกจะเหม็นๆผมได้กลิ่นนั่นชัดจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น หัวใจกระตุกแรงราวกับโดยกระชากให้หายไป ตกใจนแทบจะหายใจไม่ออก มือสั่นๆพยายามรวบรวมสติทั้งหมดที่มี
“ แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยด้วย ขอตัวก่อนนะ "
“ อะไรกันพวกเราอุตส่าห์เลี้ยงน้ำอร่อยๆ จะขอบคุณสักคำก็ไม่มี "
“ เอ่อ ขอบคุณมากแต่นั่นมันดูเป็นการรบกวนพวกนายมากเลย ฉันขอจ่ายค่าน้ำให้ได้มั้ย "
“ ได้สิ แต่ห้ามจ่ายด้วยเงินนะ " ร่างสูงคนนั้นว่าก่อนจะมองหน้าผมแล้วก้มต่ำลงไป " จ่ายด้วยอย่างอื่น ฉันไม่รับเงินสด "
“ ไม่ "
“ ไม่อะไร ไม่มีคำว่าไม่นะ ต้องจ่ายเท่านั้นแหละ ก็เพราะบอกเองนี่..ว่าจะจ่าย " ร่างสองร่างที่พยายามดึงผมให้ออกไปตามทางที่ไร้ผู้คน ปากที่กำลังตะโกนและกรีดร้องออกไป ในตอนนั้นก็โดนมือใหญ่ปิดปากไว้เสียแน่น ทางมืดๆที่เหมือนเป็นแค่สนามหญ้าเล็กๆในทางแคบ ผมพยายามจากการจับกุมของคนทั้งสอง มือที่ดิ้นไปถูกกุมรัดไว้เสียแน่นด้วยมืิอหนาของอีกคนจนไร้ทางหนีใด น้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความกลัวผมได้แต่ร้องไห้และกรีดร้อง แต่เสียงที่กรีดร้องออกไปเท่าไหร่ก็ดูเหมือนไร้ค่ามากขึ้นเท่านั้น มันไม่มีใครได้ยิน ราวกับตะโกนคนเดียวอยู่ในห้องสี่เลี่ยมที่ปิดมืด
“ มาสนุกกันหน่อยสิ คนสวย ฉันได้ยินอยู่ว่านายก็เหมือนจะเงี่ยนๆ ต้องการๆอยู่นะ " เสียงที่พูดชิดริมใบหู ผู้ชายคนนึงคว้าเอาแขนผมยึดไว้ด้านหลังด้วยมือทางสองข้างอย่างแน่นหนาไม่ให้มีทางหนี อีกคนก็ใช้มือปิดปาก " กูขอก่อนมึงทีหลังนะ "
“ อื้ม เอาสิ " เสียงตอบรับที่ทำให้ผมอยากจะหายไปจากตรงนั้น เท้าที่พยายามดิ้นรนหนีเอาตัวรอด เตะไปตามร่างกายที่สูงใหญ่แต่ก็ไม่สะถกสะท้านอะไร
มือของผมพยายามดึงกระชากให้หลุดออก เสียงที่กรีดร้องออกไปทั้งน้ำตาอย่างบ้าคลั่งสุดเสียงทั้งหมดที่มีแต่นั้นก็แค่ครางอยู่ในฝ่ามือหนานั้นไม่ได้หลุดออกมาเลยแม้แต่น้อย แววตาเบิกกว้างผมพยายามร้องขอชีวิตจากคนทั้งสองแต่นั่นก็ไม่ได้ผลอะไร ไม่มีเสียงออกไปเลยแม้แต่น้อย ไม่มีทางที่เค้าจะได้ยินคำขอร้องพวกนั้น ' ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ ขอร้องละ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว แต่ขอร้องปล่อยฉันไปเถอะ อย่าทำแบบนี้ ฆ่าฉันเลย แต่อย่าทำแบบนี้ อย่าทำฉัน ได้โปรด ใครก็ได้ช่วยที ช่วยฉันหน่อย ฟาน.. ฟานช่วยฉันหน่อย “ เสียงพูดออกไปสุดเสียงแค่ไหนก็อื้ออึงอยู่ในฝ่ามือนั่น ไม่มีใครได้ยินมัน เค้าได้ยินแต่เสียงรถที่สัญจรผ่านไปมาตรงถนนใหญ่ เสียงเดินของผู้คนข้างนอก เสียงพูดคุยที่มีความสุข แต่ทว่าทุกคนกลับไม่ได้ยินเสียงของผม เสียงขอร้องของผม
ลมหายใจที่ผ่อนออกมาแรงๆจนแทบจะหยุดในตอนที่ใบหน้าน่าเกลียดพวกนั้นกำลังเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ลมหายใจรดผิวหน้าของผม พร้อมทั้งฝ่ามือสากที่กำลังปลดเสื้อของผมที่กำลังสวม กระดุมที่ถูกปลดลงเม็ดแล้วเม็ดเล่าจนหมด เค้าเปรยออกมาเสียงเบาๆด้วยความต้องการ ชิดริมใบหูของผม
“ นายนี่มัน..ร่างดีชะมัด ผิวขาวยังกับผู้หญิงเลย เมียจ๋า "
“ เร็วๆสิวะ ไอ้เชี้ยนี่มันแรงเยอะนะมึง ดิ้นยังไม่หยุดเลย เอาๆมันเร็วๆเถอะน่า ใส่ๆ ควบๆ เข้า กูอีก "
“ เออๆ แต่กูไม่ถนัดวะ จับให้มันนอนลงบนพื้นหญ้าเถอะ " คนที่อยู่ตรงหน้าบอกก่อนร่างของผมจะถูกดึงให้นอนลงกับพื้นหญ้าเขียว ผมดิ้นตัวไปตามพื้นหญ้าคมๆ ร่างกายที่ยังคงรู้สึกอยู่ น่าจะตายไปแล้วในตอนนี้ แค่จินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ด้วยความกลัว ก็ไม่อยากจะอยู่แล้ว อยากจะฆ่าตัวตายไปให้พ้นๆ ก่อนที่อะไรๆมันจะเกิดขึ้น อะไรก็ตามที่จะทำให้ผมต้องเหมือนคนตกนรกทั้งเป็น ปากของผมกรีดร้องแม้ว่าจะไม่มีใครได้ยิน ดิ้นแม้รู้ว่าสู้ไปก็ไม่มีทางหนี ร่างกายด้านบนที่โดนกดไว้ด้วยคนคนนึง ด้านล่างก็คนอีกคนนึง ร่างกายของผมไม่มีแรงสู้ขนาดนั้น แต่ก็ยังดิ้นด้วยแรงทั้งหมดที่ตัวเองมีอยู่ ปลดมือที่ถูกจับ ส่ายหน้าหนีมือที่ปิดเสียงขอร้องของผม ดึงขาที่ถูกกอดรัด ในตอนที่มือนั้นเอื้อมลูบจากหน้าอกไปจนถึงขอบกางเกงผมหยุดหายใจไปจนถึงตอนที่เค้าปลดเข็มขัดและตะขอกางเกงของผม พลางเอื้อมมือขึ้นสูงเพื่อลูบไล้ร่างกายของผมอีกครั้ง
มือสากสะกิดยอดอก ในตอนนั้นคนอีกคนที่จับตัวผมไว้เบื้องล่างก็เอื้อมมือมาลูบไล้ร่างกายของผมเช่นกัน ยิ่งดิ้นหนีเท่าไหร่ ในตอนนั้นก็เหมือนยิ่งทำให้เรือนร่างถูกลูบไล้ไปทั่วมากยิ่งขึ้น
เสียงของผมหวีดร้องออกมาดังมากขึ้น และมากขึ้น สุดเสียงเสียงนั้นมันอื้ออยู่ในหู แต่ก็ไม่ยอมลดละที่จะกรีดร้องเสียงเหล่านั้นออกมา ราวกับคนบ้าเสียสติที่พยายามทำกรีดร้องออกมาให้ดังเพื่อทำให้ตัวเองหลุดพ้นออกไปจากชุมนรก ขุมนี้ที่กำลังฉุดกระชากให้เค้าจมลึกลงไปทุกที น้ำตาไหลที่ไหลออกมา ผมดีดดิ้นขอความช่วยเหลือ ความกลัวที่ทำให้สติของผมได้แต่กรีดร้องออกมาสุดเสียงไม่หยุดหย่น ช่วงเวลานึงที่เหมือนร่างกายจะจมลึกของไปในห้วงมหาสมุทรแห่งความทรมานตลอดชีวิต ผมคิดถึงหน้าของใครคนนึง ใครคนนั้นที่ในตอนนั้นกำลังยิ้มให้ผมอย่างใจดี อ้อมกอดของเค้าที่กอดผมไว้ เค้าเอ่ยกับผมด้วยน้ำเสียงสุภาพและอบอุ่น ' ผมรักคุณคีย์ครับ ผมรักคุณคีย์ที่สุดเลย ' นั่นอาจจะเป็นความทรงจำสุดท้ายที่ผมมีต่อเค้า คนที่ผมคิดถึงในช่วงเวลาความสุขสุดท้ายของชีวิต
ในระหว่างที่สองร่างนั้นกำลังใช้ฝ่ามือลูบไปทั่วเรือนร่าง ลมหายใจที่รดไปตามเนื้อตัวด้วยการดมรดร่างของผมอย่างหื่นกระหาย เสียงหัวเราะที่ต่างจากมีดที่กรีดลงไปลึกจนแทบทะลุร่าง " ถ้าเอาแม่งจริงๆก็ไม่มีใครรู้หรอก น่าเอาออก จะปล่อยไปทำไมวะ เอาจริงๆเลยเถอะมึง "
" ก็กูว่า แม่งโคตรน่าเอา มึงสักทีกูสักทีเป็นไง " ถ้อยเสียงที่ผมได้ยินฟังดูแปลกไปสักหน่อย แต่ไม่ใส่ใจที่จะจดจำมัน ต่อจากนี้จะเป็นร่างไร้ชีวิต และจิตใจ นั่นคือสิ่งที่ผมรู้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้สายตาคู่นี้ยังได้นั่งมองเค้าอยู่เลย คนที่ผมรัก คนที่ผมทำผิดต่อเค้า คนที่อยากจะขอโทษและได้คืนมา แต่เค้าก็เป็นคนคนเดียวกับคนที่ผลักผมออกมา ผลักให้ออกมาพร้อมกับคนสองคนนี้..คนที่ดูก็รู้อยู่แล้วว่าจะทำร้าย คนที่ส่งผมมาสู่ช่วงเวลาแบบนี้ทั้งที่รู้อยู่แล้ว คือคนคนเดียวกันที่เคยบอกว่ารักผมที่สุด
' คีย์ฟังฉันให้ดีนะ ถ้าฟานยังรักนายอยู่จริงๆ เค้าจะไม่ทำร้ายนายหรอก แต่ถ้าเค้าทำร้ายนายได้นั่นก็หมายความว่า เค้าไม่ได้รักนายแล้ว และนั่นคือสิ่งที่นายควรจะยอมรับมันนะ '
' ฉันมันคนดื้อดึง ลิป แล้วนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ฉันต้องเสียใจ ที่ฉันไม่ฟังนาย ทุกอย่างมันเป็นอย่างที่นายพูดเลย ลิป ฉันควรยอมรับ ว่าฉันไม่มีคนที่รักอีกแล้ว และตอนนี้ฉันก็กำลังจะไม่มีชีวิตเหลืออยู่อีกแล้วเช่นกัน
ฉันกำลังจะตาย.. จะตายจากความเป็นคนไปช้าๆ ตายไปอย่างทรมาน อย่างที่ฉันต้องเคยทำให้ฟานต้องทรมาน
ทุกอย่างเป็นความผิดของฉัน .. ฉันผิดเอง
.........................................................
ไม่รู้จะพูดอะไร ขอพูดอีกทีวันอาทิตย์ ตอนนี้หนมเองก็ตื้อมาก
อยากจะทำร้ายตัวเอง

ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิต ฝากแชร์ในเฟสด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
หนมมี่ผู้ใสซื่อ
