“ คุณคีย์ครับ " เงยหน้ามองเสียงเรียกคุ้นๆของร่างสูงที่ยิ้มให้ก่อนจะวิ่งมาหาจากถนนฝั่งตรงข้ามห้าง ใบหน้าหล่อเหลาที่แม้แต่กระทั้งตอนที่วิ่งเข้ามาหาผม " เลิกงานพร้อมกันเลย "
“ อื้ม " พยักหน้ารับเค้า อีกคนก็ก้มลงมามองดู
“ หน้าตาคุณดูไม่ดีเลยไหวรึเปล่า อยากจะกินอะไรก่อนที่เราจะกลับบ้านมั้ย "
“ ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากจะกินอะไร กลับบ้านกันเถอะ " ผมบอกเค้าเราที่เดินไปขึ้นรถไฟกันเงียบๆ พอเดินทางมาถึงคอนโดฟานก็รีบเข้าไปในครัวทันที
“ ผมจะทำข้าวปลาแซลม่อนให้คุณกินนะ กินอะไรสักหน่อยนะ "
“ ฉันไม่ค่อยหิวนะ " หันหน้าไปบอกเค้า ฟานที่จัดการเตรียมทุกอย่างอยู่ในครัวก็เดินออกมาหาผมที่นั่งอยู่บนโซฟา ร่างสูงย่อตัวลงตรงหน้าก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือของผมเอาไว้
“ กินอะไรเข้าไปสักหน่อยเถอะครับนะ ถึงคนอื่นเค้าจะพูดทำร้ายคุณยังไง แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายตัวเองไปด้วยนี่ "
“ ฟาน " ผมเอ่ยเรียกชื่อเค้า พลางจ้องแววตาห่วงใยที่ส่งมาให้ผม " ฉันมีอะไรจะบอกฟานนะ คือ พรุ่งนี้ฉันจะไปสัมมนางานที่ต่างจังหวัดสองวันกับหัวหน้านะ " ทุกอย่างเงียบแววตาห่วงใยที่เปลี่ยนไปของเค้า เหมือนคนฟังไม่เข้าใจเท่าไหร่เค้าที่ขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะถามซ้ำ
“ อะไรนะ.. ไปสัมมนางานต่างจังหวัดกับหัวหน้า "
“ อื้ม ไปสัมมนางานต่างจังหวัด ไปหัวหินน่ะ ไปสองวันหนึ่งคืน "
“ แล้วที่บอกว่าไปกับหัวหน้า คือ ไอ้เหี้ยนั่นเหรอ "
“ อื้ม ใช่ " ผมพยักหน้ารับ
“ แล้วแค่สองคนเหรอ "
“ อื้ม " ก้มหน้ารับอีกครั้งผมที่กำมือเค้าไว้แน่น แววตาที่หันมาจ้องผมทั้งเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเสียงเข้มๆที่เอ่ยออกมา
“ ไม่ให้ไป ผมไม่ให้คุณไป "
“ ฉันไม่ได้มาขอให้นายอนุญาติหรือไม่อนุญาติ ฉันแค่มาบอกว่า ฉันต้องไปสัมมนางานกับหัวหน้า " ใบหน้าคมขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง ความรู้สึกโกรธที่กำลังจะระเบิดออกมาเต็มที่
“ เดี๋ยวนะ นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกันน่ะ คุณจะไปสัมมนางานสองวันหนึ่งคืนกับไอ้เหี้ยนั่นสองต่อสองที่ต่างจังหวัด แล้วมาบอกผมเพื่อให้ผมไม่ได้รู้สึกอะไรแต่แค่รับรู้ไว้ ว่าคุณจะไปอย่างงั้นเหรอ บ้ารึเปล่า การยินยอมให้เมียตัวเองไปเป็นเมียคนอื่น มึงคิดว่ากูจะยอมให้มึงไปเหรอ "
“ ฟาน ฉันไม่ได้ไปกับเค้าสองคนแบบนั้น คือฟังก่อนนะ ในแผนกฉันไปกับเค้าสองคนก็จริง แต่มันยังมีคนอื่นๆ ในแผนกอื่นๆอีกทีเค้าก็ไปด้วยไม่ใช่การไปสัมมนากันสองคนแบบนั้น เราแค่ต้องไปด้วยกันมันก็แค่นั้น เราเป็นตัวแทนของแผนก "
“ ตัวแทนของแผนก แล้วทำไมต้องเป็นมึงด้วยวะ ในแผนกมีมึงกันสองคนรึไงวะ " เค้าถามก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา " ช่างเลือกดีนะ เลือกคนที่ได้ชื่อว่ากำลังเป็นชู้กัน ให้ไปงานแบบค้างคืนด้วยกัน ถามจริงๆเถอะ ทั้งแผนกเค้าเสนอชื่อมึง หรือจริงๆตัวมึงอยากจะไปกกกับมันโดยเสนอชื่อตัวเองกันแน่ "
“ ฉันไม่ได้อยากไปนะ ! " ผมเถียงกลับ " แล้วการที่นายบอกว่าฉันเสนอชื่อตัวเองคืออะไร นายคิดว่าฉันอยากจะไปงานนี้รึไง ฉันไม่ได้อยากจะไปเลย ไม่อยาก "
“ ไม่ได้อยากไปก็ปฎิเสธเค้าไปสิวะ แล้วจะไปทำไม "
“ ฉันปฎิเสธจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ฉันทำทุกวิถีทางแล้ว แต่เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้ เพราะใครๆคิดว่าฉันเป็นเมียน้อยเค้า ทุกคนเลยโยนมาให้ฉันไป ให้ฉันไปคู่กับเค้า ทั้งๆที่ความจริงฉันไม่ได้อยากจะไปเลย ฉันปฎิเสธแล้ว ปฎิเสธมาเยอะมากแล้ว ปฎิเสธมาตลอด แต่มันก็ไม่มีใครฟังฉันเลย ไม่มีเลย ทุกคนต่างยัดเยียดบอกให้ฉันไป ให้ฉันไปกับเค้า เพราะคิดว่าฉันเป็นเมียน้อยหัวหน้า "
“ แบบนั้นก็เลยตกลงไป " ผมพยักหน้ารับอีกคนก็ก้มลงมามอง " แต่ถ้ามึงไปนะ มึงได้เป็นเมียน้อยมันแน่ๆ มันไม่มีทางปล่อยมึงออกมาหรอก เพราะมันจ้องจะเอามึงอยู่แล้ว เรื่องที่กูไม่รู้ก็มีแค่ว่า มันจะเอามึงแบบไหนก็เท่านั้นแหละ ระวังไว้เถอะ ยิ่งมึงดื่มเหล้า มันคงเอามึงทั้งคืนอะ "
“ ฟาน!! อย่ามาประชดได้มั้ย มันไม่ใช่เวลาที่นายจะมาทำนิสัยเด็กๆของนายนะ "
“ กูไม่ได้ประชด! กูพูดจริงๆ! “ เค้าคว้าแขนของผมมันจับไว้แน่น ใบหน้าคมที่ก้มลงมาจ้อง " ฟังนะ ถ้ามึงไป มึงไปเลย แล้วพอมึงกลับแล้วมึงก็ไม่ต้องกลับมาเจอกูอีก ไม่ว่ามึงจะกลับมาแบบไม่ได้เอากับมันซึ่งแม่งมีเปอร์เซ็นที่น้อยมากๆ หรือกลับมาแบบที่โดนมันเอาจนยับมึงก็ไม่ต้องมาเจอกูอีก เพราะกูบอกมึงแล้ว ว่าอย่ายุ่งกับไอ้เหี้ยนี่ กูบอกมึงแล้วว่าอย่าไป แต่ถ้ามึงดึงดันที่จะไปเป็นเมียมัน มึงก็ไป "
“ ฟาน แต่นี่มันเป็นงานนะ งานที่ฉันต้องทำ ต้องไป ถ้าไม่ไปก็โดนไล่ออก แล้วจะให้จะทำยังไง ต้องให้ลาออกเลยเหรอไง "
“ ไม่มีปัญหาลาออกสิ กูพร้อมเลี้ยงมึงอยู่แล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่กูหวังที่สุดคือ กูอยากให้มึงลาออกจากบริษัทเหี้ยๆนี่สักที ใครมันอยากจะให้เมียตัวเองไปทำงานอยู่กับผู้ชายที่ไม่รู้ว่าวันไหนมันจะงาบมึงไปวะ มึงจะรู้ตัวเหรอไง ถ้าเผลอไปแดกน้ำที่มันให้เข้าไป มึงก็หมดสติจะโดนเค้าเอาท่าไหนมึงก็ไม่รู้ตัวแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเวลาเมาเหล้า มึงอยากมากนี่ ไม่ชอบใส่ถุงยางด้วย ให้มันเล่นสดดีๆละ ระวังติดเอดส์ก็แล้วกัน ! “
“ เพี๊ยะ! “ เสียงตบแรงๆที่ผมฟาดลงไปบนหน้าของเค้าเหลืออดแล้วกับคำพูดของอีกฝ่ายที่พูดจาไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ซ้ำยังเอาแต่อารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง พูดแค่เรื่องอย่างว่าตอกย้ำกันซ้ำๆว่าจะไปจากกันให้ได้ ผมเอ่ยออกไปทั้งน้ำตา " พูดแต่เรื่องแบบนั้นอยู่นั่นแหละ กูไม่เคยคิดจะไปเอากับใครทั้งนั้น ทุกวันนี้ก็คิดจะมีอะไรกับมึงแค่คนเดียว แต่มึงยังมาคิดว่ากูจะไปเอากับเค้าอยู่ได้มันใช่เหรอวะฟาน มันใช่เหรอสิ่งที่มึงกำลังพูดอยู่ สิ่งที่มึงกำลังตอกย้ำกูน่ะ กูแค่ไปงานสัมมนาของบริษัทไม่ได้ไปงานสัมมนาฟรีเซ็กส์ ทำไมมึงต้องคิดอะไรแต่เรื่องแบบนั้น มันอาจจะไม่มีก็ได้ กูแค่ไปทำงาน "
“ คนแบบมึงนี่แหละ คือคนที่จะมีผัวไม่รู้ตัว เพราะมึงไม่คิดเหี้ยอะไรเลยไง มึงจะโลกสวยไปไหนวะ มึงคิดว่าคนที่เค้าชอบมึง ได้นอนห้องเดียวกับมึงเค้าจะไม่คิดปล้ำมึงงั้นเหรอ ถ้ามีโอกาส มึงคิดว่าคนที่มึงสะบัดรักไปจากมึงแต่เค้ายังรักมึงอยู่ จะไม่คว้าโอกาสทำอะไรแบบที่อยากทำงั้นเหรอ มึงมองหัวหน้ามึงเป็นสุภาพบุรุษมากเลยสินะ รอให้มันเอาก่อนมั้ย มึงถึงจะรู้ตัว "
“ ฟาน.. "
“ ถ้ามึงรักกู กูขอ..” เค้าเว้นเสียงก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ " อย่าไป อย่าไปกับมันเพราะมันจะเล่นไม่ซื่อกับมึงแน่ๆ ลาออกจากงานนี่ซะเถอะ ถ้ามึงไม่มีเงินใช้กูจะเลี้ยงมึงเองอยากได้เท่าไหร่กูก็จะให้ กูเลี้ยงมึงได้ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ออกจากงานนี้เถอะ มึงเชื่อกู อย่าเสี่ยงเลยไม่คุ้มหรอก "
“ แล้วถ้ามึงทิ้งกูไปละ กูจะใช้ชีวิตยังไง ถ้าวันไหนวันนึงมึงทิ้งกูไป กูจะทำยังไงกับรายจ่ายของตัวเองละ มึงยังจะเสียให้กูรึไง "
“ กูไม่ทิ้งมึงหรอก "
“ มึงพูดตอนนี้มึงก็พูดได้ง่ายๆดิวะ ก็มึงไม่อยากให้กูไป มึงพูดเหมือนว่ามึงรู้อนาคต มึงพูดเหมือนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมึงก็จะไม่ทิ้งกู แต่ความเป็นจริงมึงไม่มีทางรู้หรอกว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น "
“ กูไม่เคยคิดจะทิ้งมึง ไม่เคย " เค้าบอก " ตั้งแต่ที่มีมึงเข้ามาในชีวิตก็คิดอยู่ตลอดว่าจะรักตลอดไป กูถึงได้พยายามทุกอย่างเพื่อให้มึงชอบไง กูเลยทุ่มเทให้มึงคนเดียวไง ทำไมกูถึงมั่นใจนัก เพราะไม่ว่าจะเจอใครกูก็จะไม่รักเค้า นอกจากมึงไง กูทำอย่างที่กูพูด และกูรู้สึกอย่างที่กูบอก บอกว่ารักมึงคนเดียวก็คือรักมึงคนเดียว ไม่เคยหวั่นไหวกับใคร ถ้ามึงไม่มั่นใจ กูขอท้าจะทำสัญญากันก็ได้ ถ้ากูนอกใจมึงเอาไปเลยสิบล้าน เพราะกูไม่มีวันจะได้จ่ายมึงแน่ๆ เพราะกูจะไม่มีวันเปลี่ยนไป ตราบใดที่มึงไม่เปลี่ยนไปก่อน "
“ แต่กูเคยเปลี่ยนไปนะ " เงยหน้ามองหน้าเค้าอีกคนก็นิ่ง " ที่เคยบอกว่าหัวหน้าเข้ามาจีบ แล้วบอกว่ากูไม่รู้สึกอะไร ตอนนั้นกูโกหกเพื่ออยากจะรักษามึงไว้ แต่จริงๆ กูรู้สึกนะ กูหวั่นไหว กูหวั่นไหวไปกับเค้า ไปกับความรู้สึกดีๆที่เค้าให้มา กูเผลอเล่นด้วย วันที่ไปกินข้าวกับเค้าตอนที่มึงเห็น วันนั้นกูสมัครใจไปเอง กูตั้งใจจะไปกับเค้าเองเพราะกูอยากจะลองทำตามใจตัวเองบ้าง กูชอบเค้ามานานกูก็อยากจะลองดูว่าเป็นยังไง ถ้าได้อยู่.."
“ นี่มึง..” สองแขนปล่อยออกจากตัวผม ฟานที่ได้แต่อึ้งกับคำสารภาพของผม
“ ถ้ากูได้อยู่ใกล้เค้ากูจะเป็นยังไงกูอยากรู้ แต่ว่ามึงก็ดันมาเห็นซะก่อน กูเลยมีสติแล้วคิดได้ว่ากูมีแฟนแล้ว กูกลัวมึงโกรธ กลัวมึงไปหวั่นไหวกับคนอื่นที่ไม่ใช่กู พอเป็นแบบนั้นก็เลยไม่เข้าไปยุ่งกับเค้าอีก เพราะกูรู้ตัวแล้วว่า กับหัวหน้ากูแค่เล่นๆไม่จริงจังแต่กับมึงมันไม่ใช่ กับมึงกูจริงจัง แล้วกูก็ไม่อยากจะเสียมึงไป แต่มันไม่ได้มีอะไรเกินเลยนะ กูแค่หวั่นไหว "
“ มันไม่ใช่แค่หวั่นไหว แต่มันคือการนอกใจ จะมากจะน้อยเท่าไหร่ นอกใจก็คือนอกใจ "
“ แต่ตอนนี้กูไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าเลยสักนิดเดียว " ผมเถียงออกไปเสียงสั่น ฟานก็เบือนหน้าหนี น้ำตาของเค้าที่ไหลออกมาพร้อมกับคำพูดที่พูดออกมาทั้งน้ำตา
" ทั้งๆที่กู รักมึงมากขนาดนี้แท้ๆ ทั้งๆที่กูเชื่อใจมึง ว่ามึงพูดจริงๆ แล้วนี่คือสิ่งที่มึงให้กูเหรอวะ นี่คือสิ่งที่มึงตอบแทนกูที่รักมึงงั้นเหรอ การนอกใจนี่อะนะ แล้วก็ยังมาโกหกกู มึงนี่มัน.. “
” แต่พอกูเลิกยุ่งกับเค้า เค้ากลับไม่เลิกกับกู ยังบังคับให้กูไปสัมมนากับเค้า ทั้งๆที่กูไปขอรองหัวหน้าให้ไปแทนแล้ว แต่เค้าก็ไม่ยอม ยังไงก็จะให้กูไป ฟานขอโทษ ขอโทษจริงๆที่รู้สึกแบบนั้นกับคนอื่นกูขอโทษฟาน ขอโทษจริงๆ " ผมก้มหน้าร้องไห้ตอนที่สารภาพทุกอย่างกับเค้าไป คว้ามืออีกคนมาจับไว้แน่น สบสายตาที่สั่นไหวเพราะความจริงที่ตัวเองรับรู้ ความจริงที่ผมปิดบังเค้าไว้ตลอด อีสองมือของผมกอดเค้าไว้แน่นแล้วพร่ำขอโทษออกมา " ฉันขอโทษฟาน ขอโทษ ขอโทษจริงๆ "
“ แล้วแบบนี้มึงยังไม่รู้อีกเหรอ ว่าแม่งต้องการอะไรจากมึง ที่มันบังคับให้มึงไปแค่มึงเท่านั้นที่ต้องไป มึงยังไม่รู้อีกเหรอว่าเพราะอะไร ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่ามันจะทำอะไรมึง แล้วยังมีหน้ามาบอกกู ให้กูแค่รับรู้ว่ามึงจะไปโดยไม่ให้กูออกความเห็นเหี้ยอะไร จะให้กูบอกว่าไปเถอะ ไปกับเค้าเถอะ มึงจะให้กูบอกแบบนั้นเหรอ บอกอนุญาติให้เมียตัวเองไปนอนเอากับคนอื่นอย่างงั้นเหรอวะ มึงบ้ารึเปล่าวะ! มันจะเอามึงดูแค่นี้ก็รู้แล้ว มึงเองก็รู้แล้วยังจะไปเหรอวะ “ เค้าจ้องหน้าที่ไม่ได้ตอบอะไรออกมา ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ " ถามจริงๆเถอะ ที่จะไปน่ะ เพราะรู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าจะโดนเค้าเอาก็เลยตัดสินใจจะไป เพราะอยากจะเป็นของเค้าอยู่แล้วก็เลยจะไปถูกต้องมั้ย "
" ไม่จริงนะ! ฉันไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้นกับเค้าเลย ฉันเป็นของฟานเป็นของฟานแค่คนเดียว แล้วอยากจะเป็นแค่ของนาย ไม่อยากจะเป็นของของคนอื่น ฟาน ได้โปรดเชื่อฉันเถอะนะ ฉันผิดไปแล้วเรื่องนั้นฉันรู้แต่ที่ต้องโกหกก็เพราะว่าไม่อยากจะเสียนายไป ฟาน.."
“ เรื่องที่มึงหวั่นไหวกับเค้า กูจะถือว่ามันผ่านไปแล้วก็ได้ แต่เรื่องนี้ขอก็แล้วกัน อย่าไปงานสัมมนานั่น ถ้ามันบังคับยังไงก็ต้องไป ลาออกซะไม่ต้องทำ ถ้ามึงไม่มีเงินกูจะให้ กูจะให้ทุกอย่าง แค่ออกมาห่างมาจากไอ้เหี้ยนั่นก็พอ ตกลงนะ อย่าไปเลย มึงไม่รอดหรอก "
“ ฟาน ฉันไม่อยากจะใช้ชีวิตอยู่แบบไม่มีค่า ไม่อยากจะใช้ชีวิตเครียดๆแบบที่ว่า ไม่รู้ว่าจะมีเงินเข้ามาเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ที่เค้าจะจ้างงาน ฉันไม่อยากจะรู้สึกแบบนั้น ไม่อยากใช้ชีวิตแบบที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นายจะทิ้งฉัน ไม่อยากจะใช้ชีวิตแบบนั้น "
“ เลยอยากจะไปเป็นเมียน้อยเค้ามากกว่าถูกมั้ย " เค้าจ้องหน้าผมก่อนจะพูดออกมา " กูขอถามมึงอีกแค่คำถามเดียวแล้วกัน ถ้ากูคุกเข่าขอร้องมึงจะไปมั้ย ถ้าบอกว่าอย่าไปกับไอ้เหี้ยนั่นวันพรุ่งนี้ ถ้ากูร้องไห้ แล้วกูขอร้องมึง ถ้ากูกราบมึง บอกมึงว่า อย่าไปเลยนะ อย่าไปกับเค้า อยู่กับกูเถอะนะ อย่าไป มึงจะฟังกูมั้ย " น้ำตาของอีกคนไหลออกมา ก่อนที่เค้าจะคุกเข่าลงแล้วกอดเอวผมไว้ " คุณคีย์ อย่าไปเลยครับ ถ้าคุณไปคุณจะไม่ใช่ของของผมแล้วนะ อย่าทำร้ายผมถึงขนาดนั้น อย่าทำร้ายผมด้วยการเอาร่างกายของคุณ เอาหัวใจของคุณไปให้เค้าเลย อย่าทำแบบนั้นเลยนะ ผมสัญญาว่าผมจะดูแลคุณเอง ได้โปรดเถอะ อย่าไปเลยนะ คุณคีย์ครับ ผมรักคุณ " ก้มหน้าลงมองหน้าเค้าที่เงยหน้ามองผม ทุกอย่างเงียบไปในตอนนั้นผมที่หลบตาปฎิเสธความต้องการของอีกคนเป็นคำตอบที่ไม่ต้องพูดอะไรออกมาทั้งนั้น ท่าทางที่อีกคนก็เข้าใจมันได้ทันทีก่อนจะเอ่ยขึ้นมา " ขนาดขอร้องขนาดนี้แล้วก็ยังตัดสินใจจะไปใช่มั้ย ถามจริงๆเถอะ ที่บอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าแล้ว ที่บอกว่าเลิกหวั่นไหวไปแล้ว จริงๆแล้วโกหกอีกแล้วใช่มั้ย ที่ผมพยายามทำมาทุกอย่างสิ่งที่ผมได้เป็นเจ้าของของคุณ คงเป็นแค่ร่างกายสินะ แต่หัวใจผมไม่เคยได้เลย ยังไงก็ยังชอบเค้าอยู่ดีสินะ หัวหน้าของคุณคนเป็นเป็นผู้ใหญ่คนนั้นน่ะ แบบนั้นก็เลยอยากจะเอาไปให้เค้าสินะ ร่างกายนี่นะ เพราะหัวใจคุณคงให้เค้าไปนานแล้ว "
“ ฟานมันไม่ใข่ ฉันก็บอกแล้วไง ว่าไม่ได้รู้สึกอะไรแค่ไม่อยากจะออกจากงาน "
“ อื้ม งานที่สำคัญกว่าความรู้สึกของผม " เค้าพยักหน้ารับ “ งั้นก็ไปเถอะ ไปซะ ไปหาคนที่คุณที่รักเถอะ ไม่ต้องฝืนหรอก อย่าฝืนอยู่กับผมเลย " เค้าลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่มือของผมก็รีบคว้าเค้าเอาไว้ " แล้วจำเอาไว้นะว่าน้ำตาของกูที่ไหลออกมา คือเพราะว่าไม่ว่าจะพยายามจะทำเท่าไหร่ สุดท้ายมึงก็เลือกที่จะไปกับเค้า แล้วจำเอาไว้อีกอย่างคือ ไปแล้วอย่ากลับมา "
“ ฟาน " กอดเค้าเอาไว้แน่นผมที่ซบลงไปบนแผ่นหลังของเค้า " อย่าพูดแบบนั้นสิฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้านะ ที่ฉันมาบอกฟานเพราะไม่อยากจะโกหกอะไรฟานอีกแล้ว ไม่อยากจะให้ฟานเสียใจเพราะฉันโกหกฟาน ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าแล้ว ตอนนี้ฉันมีฟานแค่คนเดียว ฉันแค่ฟานคนเดียว แค่คนเดียวจริงๆนะ "
“ มึงมีกูคนเดียวแต่มึงก็แคร์มันมากกว่ากู แคร์งานของตัวเองมากกว่ากู ทั้งๆที่กูบอกมึงอยู่ตรงนี้ว่าจะให้มึงทุกอย่าง แต่มึงก็ยังดึงดันที่จะเลือกเค้า แล้วมึงก็มาบอกกูว่า มึงมีแค่กูคนเดียว มึงแคร์กูคนเดียว " ปลดมือของผมที่กอดเค้าลง ฟานที่หันหน้ามาหาผมเค้าที่ถอนหายใจออกมา ฝ่ามือหนาเอื้อมขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผม " อย่าฝืนเลยครับ คุณตอแหลไม่เก่งหรอก ไปเถอะ ไปกับเค้าเถอะ อย่าเอางานมาอ้างเลยสุดท้ายแล้วคุณก็แค่อยากจะไปกับเค้ามันก็เท่านั้น "
“ ไม่ใช่นะ! " ตะโกนออกไปไล่หลังคนที่กำลังเดินเข้าไปในห้องนอนของผม ผมที่เดินตามเค้าเข้าไปอธิบาย แต่ฟานกลับหยิบกระเป๋าเดินทางใบเล็กของผมออกมา เค้าที่จัดการเปิดตู้เสื้อผ้าเอาชุดของผมมาวางไว้บนเตียง แล้วพับใส่กระเป๋าไว้ให้ น้ำตาที่ไหลออกมาผมเดินไปหาเค้าที่ยังเลือกเสื้อผ้าแล้วพับใส่ให้ " ฟาน "
“ ผมจะจัดเสื้อผ้าให้ อยากจะใส่ชุดไหนเป็นพิเศษมั้ย " ผมเงียบไม่ตอบเค้าก็จัดไปเรื่อยๆ มองดูเสื้อผ้าที่เค้าจัดก็ได้แต่นิ่งเงียบ คนตรงหน้าที่นิ่งเงียบเหมือนกำลังผลักให้ผมออกไปทำให้สิ่งที่ผมต้องการ เหมือนทุกอย่างมันจบแล้วนี่คือสิ่งที่ผมต้องการเค้าเองก็จะทำให้ ถ้าอยากไปก็จะจัดการของให้ ให้ไปกับเค้าคนนั้น ทั้งๆที่ตอนนี้มันไม่ใช่ ผมไม่ได้อยากไป แต่ที่ต้องเพราะมันเป็นงาน งานที่ต้องรับผิดชอบ
“ ฉันไม่อยากออกจากงาน เพราะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่อยากจะเป็นคนไร้ค่าที่ได้อยู่บ้านรอให้นายเลิกเรียนมาหา ทั้งๆที่เรียนจบมีงานทำแล้วแต่กลับมาเกาะเด็กยังเรียนไม่จบกิน ฉันไม่อยากจะเป็นแบบนั้น ฉันมีคอนโดที่ต้องผ่อน ฉันยังอยากจะสร้างฐานลูกค้าของตัวเองก่อน แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีอะไร ฉันเลยต้องไปเพราะถ้าไม่ไปคงโดนไล่ออก ฉันรู้ว่าหัวหน้าคิดอะไรอยู่แต่ฉันจะระวังตัว ถ้าเค้าให้ฉันนอนห้องเดียวกับหัวหน้า ฉันจะจ่ายเงินส่วนของฉันเองแยกห้องออกไป ฉันจะระวังตัวเอง จะไม่ให้เกิดปัญหา ฉันจะโทรหาฟานทุกวัน ฟาน..”
" เสร็จแล้วครับ " ซิปกระเป๋าถูกรูดปิด ผมร้องไห้ออกมาตอนที่กอดเค้าไว้จากด้านหลัง
" มันหมายความว่ายังไงอะ แบบนี้มันหมายความว่ายังไง อย่าเฉยชากันแบบนี้สิ ทำแบบนี้หมายความว่าไงน่ะ จะทิ้งฉันไปแล้วเหรอ จะผลักฉันออกไปเหรอ "
" อาบน้ำนอนได้แล้วพรุ่งนี้ต้องไปงานสัมมนา " เค้าบอกแค่นั้น ตอนที่ดึงแขนของผมออกจากรอบแอวของตัวเอง ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกห้อง
ประตูห้องนอนถูกปิดลงผมที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นทำได้แค่ร้องไห้ออกมาพร้อมกับอีกคนที่ก็คงร้องไห้ออกมาไม่ต่างกันที่ตรงนอกห้องนั่น ขาของผมเอื้อมไปเปิดประตูห้องของตัวเอง ตอนที่พยายามดันมันออก แต่ทว่ามันเหมือนถูกดันไว้ไม่ให้เปิดจากข้างนอก เสียงร้องไห้ของเค้าแม้จะเบาแต่ก็ได้ยินชัด
“ ฟาน ..” ทุกอย่างนิ่งเงียบ ผมไม่รู้จะพูดอะไรทั้งนั้น ทำได้แค่ทรุดลงที่หน้าประตูตรงนั้น ร้องไห้อย่างหนักกับความรู้สึกทุกอย่างที่กำลังเปลี่ยนไป ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ความรักและคนรักอย่างก่อนหน้านี้ที่เคยมีมาทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตัวผม แค่ผมคนเดียวเท่านั้น
แสงแดดลอดส่องเข้ามาในเช้าวันรุ่งขึ้นผมที่ยังอยู่ในชุดของเมื่อวานลืมตามองแสงแดดอ่อนๆดูเวลาที่กำลังจะถึงเวลานัด ประตูที่เปิดไม่ออกเมื่อคืน ถูกเปิดออกมาพร้อมกับใครอีกคนที่ก้มลงมาแล้วดึงให้ผมลุกขึ้นยืน ฟานที่คว้ากระเป๋าที่ตั้งอยู่บนเตียงมาถือก่อนจะหันมาพูดกับผมสั้นๆ " เค้ามาแล้วครับ "
“ ฉัน.. ฉันไม่ไปแล้ว " หลุดปากพูดออกไป ฟานที่ชะงักไปสักพัก ผมที่กอดเค้าไว้ซบหน้าลงกับแผ่นหลังของเค้า " ฉันไม่ไปแล้วฟาน ฉันไม่ไปแล้ว ฉันจะไปบอกหัวหน้า ว่าฉันจะขอลาออก ไม่ไปแล้ว "
“ ไปเถอะ อย่าฝืนเลยครับ ถ้าอยากจะไปก็ไป " เค้าก้าวไปหยิบมือถือของผมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ทำงานหัวหน้าคงส่งข้อความมาเค้าเลยรู้ว่าอีกคนถึงแล้ว
“ ก็บอกว่าจะไปไม่แล้วไง " คำพูดที่ไม่มีเสียงตอบรับยกเว้นแรงดันที่ดึงให้ผมออกไปจากห้อง เค้าดึงแขนผมมาที่หน้าห้องคว้ารองเท้าผ้าใบของผมขึ้นมา ก่อนจะก้มลงยัดเท้าของผมใส่ลงไปในรองเท้าคู่นั้นให้ เชือกที่ผูกให้จนแน่น " ฟาน "
“ ไปซะเถอะ อยากไปก็ไปซะ อย่าฝืนที่จะอยู่ที่นี่ อย่าฝืนที่จะเลือกผมเลย เพราะตอนนี้สำหรับเรามันก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว " ร่างของผมถูกดึงออกมาจากห้อง เราที่กดลิฟต์ลงไปชั้นล่างด้วยมือของร่างสูงที่จับผมไว้แน่น
น้ำตาของผมที่ไหลออกมา กระเป๋าเดินทางที่เค้ากระชับไว้แน่นนั้นยื้อแย่งจะไม่ไปยังไงเค้าก็ไม่ยอมปล่อย เรามาถึงชั้นล่างของตึกที่มีรถของหัวหน้าจอดรออยู่แล้วที่ด้านหน้า
ขาที่พาผมเดินตรงไปตรงนั้น ท่ามกลางสายตาตกใจไม่น้อยของหัวหน้า ฟานยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะเปิดประตูรถข้างคนขับ แล้วดันผมเข้าไปนั่งข้างใน เค้าโยนกระเป๋าลงมาใส่ผมอย่างแรง ก่อนจะจ้องหน้าผมด้วยสายตาที่ทั้งโกรธและเกลียด ผมที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก ขาที่พยายามจะออกไปจากรถรั้งเค้าไว้ แต่ฟานก็ดันไม่ให้ออกมาเค้าที่ก้มหน้าลงพูด " กูเอาของที่มึงอยากได้มาให้แล้ว อีร่านนี่ใช่มั้ย อยากได้ก็เอาไปเลย กูไม่เอามันแล้ว " เค้าบอกแบบนั้นก่อนจะโยนถุงยางอนามัยที่ยังไม่ใช้จำนวนนึงใส่หน้าเราสองคนที่ก็ได้แต่สะดุ้ง " เอาไปใช้ด้วยละ แต่ก็มันส์ดีนะ ถ้าใส่สด "
...............................................................
มันส์ที่สุดในเรื่องแล้วค่ะ ..
หลังจากนี้จะเป็นพาสที่ เรียกว่าทุกคนรอคอยรึเปล่าไม่รู้
เพราะเป็นช่วงชีวิตที่จะต้องชดใช้กรรม ( ควรเรียกแบบนี้ ) ของพี่คีย์เค้า
สรุปตอนสุดท้าย จะได้กันมั้ย เราไม่อยากจะให้คนอ่านคิดไปถึงตอนนั้น
อยากจะให้อ่านไปเรื่อยๆมากกว่า คือ นิยายเรื่องนี้มันมีข้อเสียของบุคคลทุกตัวละครที่ซ่อนอยู่
มากน้อยก็ ต่างกันไป ตอนนี้เราเสนอด้านพี่คีย์ออกมาชัดสุด โดยใช้ความเห็นแก่ตัวหัวหน้าร่วมด้วย ฟานที่ไม่แสดงอาการอะไรมาตลอดก็แสนดี เพราะงั้น เราเลยอยากจะให้อ่านไปก่อน
แล้วค่อยๆ ตัดสินใจไปทีละนิด
ทุกคนผิดพลาดกันได้ มันอยู่ที่ว่าความผิดนั้นมันคืออะไร แล้วแก้ไขให้กลับมาได้มั้ย
บางทีก็ได้ และ แน่นอนว่า บางทีก็ไม่ได้
โดยส่วนตัว อันนี้หนมก็เข้าใจพี่คีย์นิดนึงตรงเรื่องงานว่า ถ้าบอกว่าจะออก ไม่ใช่ว่าจะออกได้เลยตอนนี้
การทำงานมันต้องใช้เวลา ยื่นใบลาออก แล้วเคลียร์งานถึงออกได้
แต่ก็เข้าใจน้องฟาน ใครมันอยากจะให้เมียตัวเองไปกับคนที่รู้อยู่แล้วว่าจะทำอะไร
ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อไปนะคะ เนื้อเรื่องจะเข้มข้นและมันส์ยิ่งกว่านี้ค่ะ
ฝากแท็ก #ฟานคีย์ ในทวิตด้วยนะจ๊ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า
