ก็บอกว่าไม่ชอบเด็กไง
ตอนที่ 5
' ผู้ใหญ่หวงก้าง '
ปิดคอมพิวเตอร์ลงตอนที่หันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาเลิกงาน ผมหันไปเก็บกระเป๋าของตัวเองเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน ก่อนจะหันไปมองคนข้างๆที่ก็เก็บของเตรียมกลับบ้านเหมือนกัน
“ วันนี้ออกไปดริ้งกันหน่อยมั้ย " ลิปที่เอ่ยถาม " ร้านที่อยู่แถวคอนโดนายที่เราเคยไปด้วยกัน มันมีร้านสปาเก็ตตี้อร่อยๆอยู่ เราไปกินกันมั้ย ฉันอยากกินมากเลย "
“ เอาสิ ฉันอยากจะกินเบียร์กับอะไรนิดหน่อยเหมือนกัน จริงๆร้านนั้น พวกของทอดอร่อยมากเลยนะ " คว้ากระเป๋าขึ้นสะพายไหล่อีกคนก็เดินมายืนข้างผม เราเดินออกไปจากบริษัทด้วยกันก่อนที่ลิปจะหันมาถาม
“ นี่ คีย์ช่วงนี้นายยังซื้อหนังมาดูบ้างมั้ย "
“ ก็ยังซื้อมาดูนะทำไมอะ " ผมเป็นพวกชอบดูหนังครับ เรียกว่ามีทุกแนวเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นพวกติดบ้านที่วันหยุดมักจะนอนนิ่งๆอยู่บ้านก็เลยมีหนังอยู่ที่บ้านเยอะแยะไปหมด เอาไว้ดูเวลาที่เบื่อ
“ ขอยืมหน่อยสิ พรุ่งนี้มันเป็นวันหยุดฉันก็คิดว่าจะชวนจินเค้าดูหนังด้วยกันนะ "
“ น่าเบื่อพวกมีความรัก " แซวอีกคนแบบนั้นก่อนจะพยักหน้ารับ " ไปเลือกที่บ้านสิ หนังเรทอาร์ก็มีนะ "
“ บ้า!!” สายตาหวานทำตาโต
“ บ้าอะไร ทำยังกับไม่เคย ฉันก็แค่คิดว่ามันเป็นวันหยุด นายจะนอนตื่นสายแค่ไหนก็ได้ ก็สักหน่อยสิ "
“ พอๆ นายเลิกพูดเรื่องอะไรแบบนั้นได้มั้ยเล่า ฉันเขินนะ " แก้มแดงๆที่บอกผมว่าอีกคนไม่ได้โกหก จะว่าไปลิปก็ไม่เคยเล่าเรื่องอย่างว่ากับผมเลยนะ ชีวิตความรักก็ไม่ค่อยเล่า เค้าเคยบอกว่าถ้าอินกับความรักเมื่อไหร่จะเอามาเล่าแต่ตอนนี้ที่คบก็เหมือนจะแค่ คบไปงั้นๆ ขั้นเวลาทั่วไป ไม่ได้จริงจัง แต่ปากที่บอกว่าไม่จริงจังของมัน ผมก็เห็นหลายครั้งแล้วละตอนที่มันนั่งร้องไห้แล้วฟูมฟายว่าทำไมเค้าต้องหลอก ทำไมเค้าต้องทิ้งมันไป
“ เขินอะไร ทำไมแซ่บมากเลยเหรอ "
“ ก็นะ แซ่บมากกว่าเซ็กส์แบบผู้ใหญ่แล้วกันละ "
“ ยังไง " ถามอีกคนที่ก็เอียงหน้าคิด
“ เด็กน่ะ จะมีความขี้อ้อนแล้วเค้าก็จะบริการให้เรามากกว่าผู้ใหญ่ที่เราต้องบริการให้เค้า ตามความรู้สึกของฉันน่ะนะ นายก็เคยนิ เด็กผู้ชายคนนั้นของนายไง "
“ ก็บอกว่าจำไม่ได้ไง ฉันเมาใครจะไปจำได้ " ผมบอกปัดอีกคนก็หัวเราะ
“ ถ้าไม่ติดใจจริงๆ ฉันว่านายคงไม่บอกเค้าว่า ขออีกรอบหรอกน่า "
“ นี่ลิป ฉันว่าเอาแบบนี้มั้ยนายก็ไปที่บ้านฉันก่อนเราเลือกหนังเสร็จก็ค่อยไปที่ร้านอาหาร " ผมเปลี่ยนเรื่องกะทันหันจนคนฟังได้แต่หลุดหัวเราะออกมา
“ นายนี่นะ ชอบเปลี่ยนเรื่องซะจริง " เค้าบ่นขำๆ " แต่เรื่องหนังเอางั้นก็ได้นะ ร้านอาหารมันใกล้สถานีรถไฟมากกว่า ฉันจะได้ไม่ต้องเดินวกไปวนมาด้วย " ตกลงความต้องการของกันและกันเรียบร้อย เราเดินทางมาถึงคอนโดของผมตอนที่กำลังเปิดประตูรั้วของคอนโด ผมก็เจอคนคุ้นหน้าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้ม หัวใจที่เต้นแรงผมมองลิปที่ไม่ได้สังเกตอะไร พลางหันไปมองคนที่วิ่งเข้ามาพร้อมด้วยเสียงทักทายดังๆที่ตะโกนมาก่อนที่จะเดินถึงตัวผมเสียอีก
“ คุณคีย์ครับ "
“ ฟาน " ผมพูดชื่ออีกคนเสียงเบาๆ ลิปที่ยืนข้างๆก็หันไปมองคนที่ผมเรียกทันที รูปร่างสูงที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา รอยยิ้มหล่อที่ชวนให้คนรอบข้างหันไปมอง ผมอยากจะมุดดินหนีเสียให้พ้นๆ แล้วดันไปหลอกลิปไว้อีก ว่าอีกคนไม่ว่างมาเจอตามนัด ความจะแตกก็คราวนี้แหละ ไอ้เด็กบ้าเอ้ย
“ เด็กนั่นใครน่ะ " ลิปที่เอ่ยถาม ผมถอนหายใจออกมาตอนที่ฟานหยุดอยู่หน้าผมแล้วก็ยิ้ม รอยยิ้มที่ชวนให้เพื่อนผมยิ้มตามได้ไม่ยาก เค้าที่ถอยหลังเล็กน้อยก่อนจะหันมากระซิบผม " แกต้องบอกฉันเดี๋ยวนี้ว่านี่ใคร ทำไมหล่อขนาดนั้น อย่าบอกนะว่า เด็กคนนั้นที่แกนอนด้วย "
“ อื้ม " ตอบรับสั้นๆมือบางก็ขยำเสื้อด้านหลังของผมระบายอารมณ์ที่เจอคนหล่ออย่างอดใจไว้ไม่อยู่.. คืออะไรมันจะต้องการขนาดนั้นครับเพื่อน " เอ่อนี่ ฟาน นี่ลิปเพื่อนที่ทำงานฉัน ส่วนลิปนี่ฟาน "
“ สวัสดีครับ " สองเสียงที่ดังขึ้นมาพร้อมกับ คนข้างหลังผมดึงตัวเองออกมาข้างหน้าก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายก็ก้มหน้าลง " ยินดีที่ได้รู้จักนะฟาน "
“ เช่นกันครับ คุณลิป "
“ ทำไมน่าเคี้ยว " เค้าหันมาบอกผมเสียงเบาๆก่อนจะหันไปยิ้มให้อีกคนที่ก็ยังยิ้มอยู่แบบนั้น
' ยิ้มอะไรอยู่ได้เห็นแล้วน่ารำคาญ ' บ่นอยู่ในใจ ผมมองหน้าเค้าที่หันมามองผม ฟานถาม
“ คุณคีย์เพิ่งเลิกงานเหรอครับ "
“ ก็ใช่ " พยักหน้ารับตอนที่เปิดประตูเข้าไปในคอนโด ทุกคนที่เดินตามมาลิปหันไปชวนฟานคุย
" พอดีฉันมายืมหนังที่ห้องคีย์ไปดูช่วงวันหยุดสองวันนี้นะ " บอกด้วยสิ ว่าจะเอาไปดูกับแฟนนายน่ะ บอกเค้าไปด้วย!!
“ เหรอครับ "
“ ฟานเป็นคนชอบดูหนังมั้ย "
“ ก็ชอบนะครับ แต่ผมชอบดูการ์ตูนด้วย "
“ ให้ฉันเดามั้ย ต้องเรื่องโคนันแน่เลย "
“ ถูกครับ คุณเดาเก่งจัง ผมชอบโคนันครับ " อื้ม ถูกใจกันแล้วสินะ เจอคนช่างพูดเข้าแล้วมั้ยละ อีกคนชอบเต๊าะเด็กแล้วยังรู้ใจแถมยังช่างพูด กับเด็กอีกคนที่ไม่รู้จะถูกเต๊าะง่ายๆมั้ย แต่ผมคิดว่าฝีมือระดับลิป ฟานคงไม่รอดหรอก แม่ง.. หงุดหงิด แค่คิดก็รู้สึกแล้วว่าหงุดหงิดชะมัด ผมถอนหายใจออกมาตอนที่เดินไปกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนแล้วเปิดประตูห้องเชิญอีกสองคนเข้ามาด้านใน
“ ฉันก็ชอบดูโคนันนะ มันสนุกมากเลย "
“ แต่คุณคีย์ไม่ชอบนะครับ คุณคีย์บอกว่า เค้าไม่ใช่เด็ก " อีกคนที่พาดพิงถึงผม ฟานหันมายิ้มให้ผม " แต่มันสนุกนะครับ คุณลิปว่ามั้ยละ "
" อื้ม สนุก ฉันชอบตอนมันไขคดีนะ แม้มันจะไขได้ทุกเรื่องก็จริงแต่ว่ามันก็ฉลาดมากๆเลยนะ ที่คิดออกมาได้ยังไงว่าคนคนนึงจะตายยังไง ตายด้วยวิธีไหนแล้วใครเป็นฆาตกรน่ะ "
" ใช่มั้ยล่ะครับ ตรงนั่นแหละที่ผมก็คิดว่าคือความสนุกของมัน "
“ หนังของนายอยู่ในตู้น่ะลิป นายอยากจะเอาเรื่องไหนไปดูก็หยิบไปได้เลย เดี๋ยวฉันจะไปหยิบถุงมาให้ " เดินเข้ามาในคอนโดตอนที่ชี้ไปที่ตู้ข้างทีวี อีกคนก็เดินตรงไปที่ตู้นั้นก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปในครัวหยิบถุงกระดาษที่เก็บไว้ ออกมาเสียใบโตแล้วยื่นให้เค้า " อันนี้ถุงนะ "
“ เอามาซะใบใหญ่เลย ขอบคุณนะ "
“ หยิบได้ตามสบายเลย " ผมบอกตอนที่เปิดตู้ฟานก็เดินมายืนช้อนหลังใกล้ๆผม
“ คุณคีย์มีหนังเยอะจังครับ "
“ ก็ฉันชอบดู " ผมหันไปบอกก่อนจะดันให้อีกคนถอยห่างไป " แล้วนายจะเดินเข้ามาเบียดฉันทำไมเนี้ย ถอยออกไปหน่อยไม่ได้รึไง "
“ เบียดแค่นี้เอง มากกว่านี้ยังเคยเลยนะ " เค้าก้มลงมากระซิบผมที่หันไปแยกเขี้ยวใส่อีกคนที่ก็ยิ้ม ก่อนจะถอยร่อนไปนั่งที่โซฟา
“ คีย์แล้วเสาร์อาทิตย์นี้นายจะทำอะไร "
“ ยังไม่รู้เลย คงอยู่บ้านเฉยๆมั้ง ก็ว่างนิ " หนังหลายเรื่องถูกดึงออกมาจากชั้นวาง ลิปช่างใจกับมันอยู่นานเป็นคนที่ใส่เรื่องของคนรักไม่เปลี่ยนเลย คงกำลังคิดว่าแฟนตัวเองชอบหนังแนวไหน ไม่ชอบหนังแนวไหนอยู่ละมั้ง
“ ฟานว่าหนังเรื่องนี้ กับหนังเรื่องนี้ เรื่องไหนน่าจะสนุกกว่ากัน "
“ เอ่อ เรื่องนี้ครับ ผมชอบ "
“ ชอบเหรอ งั้นไปดูที่บ้านพี่มั้ย " รวดเร็วเกินไปแล้วเว้ย!! ผมหันขวับไปมองเพื่อนที่เอ่ยชวนอีกคนที่ก็ยิ้มแห้งๆออกมา ฟานส่ายหน้าไปมา
“ ผมมีคนที่อยากจะอยู่ด้วยในช่วงวันหยุดนี้แล้วครับ "
“ นายมีแฟนแล้วเหรอ " หัวใจเต้นแรงตอนที่ได้ยินคำพูดนั้น ตอนที่ทำเป็นไม่หันไปมองไม่สนใจ ผมเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นก่อนจะหยิบหนังเรื่องนึงใส่มือลิปเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“ นายดูหนังเรื่องนี้สิลิป สนุกนะ "
“ อ่าใช่ๆ ฉันจำได้หนังเรื่องนี้ก็สนุก " อีกคนบอกพลางหยิบหนังอีกสี่ห้าเรื่องใส่ลงไปในถุง " แค่นี้ก็คงพอแล้วละ ไม่รู้จะดูหมดรึเปล่า ขอบคุณมากนะ "
“ ไม่เป็นไร " พยักหน้ารับอีกคนตอนที่ปิดตู้ข้างทีวีลง ลิปก็เดินไปใกล้ฟานที่นั่งอยู่
“ ฟานไปกินข้าวกันมั้ย ฉันกับคีย์กำลังจะไปกินข้าวกันนะ "
“ ไปได้เหรอครับ " เค้าถามก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งเหมือนกับก็รอให้ชวนอยู่แล้ว
“ ช่วยทำท่าทางเกรงใจที่จะไปร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ยนายน่ะ " ผมบอกอีกคนก็ยิ้ม
“ ก็ผมอยากไปนิครับ ต้องทำอะไรที่ดูไม่ค่อยอยากไปด้วยเหรอ ก็ผมอยากจะไปนิ "
“ ใครชวนไม่ทราบ "
“ คุณลิปครับ " เค้าหันไปหาเพื่อนผมที่ก็หลุดยิ้มออกมา .. นี่ก็จะเคลิ้บเคลิ้มในหน้าตาของไอ้หมอนี่มากเกินไปจนออกนอกหน้าแล้วนะ
“ ชิส์ " สบถออกมาตอนที่หันไปอีกทาง เพื่อนของผมก็ดึงแขนผมไว้
“ เอาน่าๆ ไปกันหลายๆคนก็สนุกดี ฟานไปกันนะ "
“ ครับผม " น่าหมั่นไส้เว้ย !!! ผมได้แต่ตะโกนอยู่ในใจ ดูรอยยิ้มที่เค้ายิ้มให้กันสิ พออีกคนถามยิ้มๆอีกคนก็ตอบออกมาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน แค่ดูก็รู้สึกหมั่นไส้แล้ว อยากจะเข้าไปผลัก เข้าไปบังไม่ให้เค้ามองกันด้วยซ้ำ ไม่อยากจะไปกินข้าวอะไรนั่นหรอก อยู่ๆก็รู้สึกอิ่มขึ้นมาเฉยๆ น่าเบื่อชะมัดเลย แม่ง หงุดหงิด!!
ความรู้สึกที่งอแงเป็นเด็กๆผมควบคุมสีหน้าให้ยิ้มเข้าไว้เพื่อไม่ให้เพื่อนรู้สึกว่าผมไม่พอใจ เราเดินออกจากห้องมาด้วยกันสามคนเรื่อยๆจนถึงร้านใกล้คอนโดของผม โต๊ะด้านในที่ถูกจัดไว้สำหรับสามคน ผมเลือกนั่งข้างฟานที่ก็ดันตัวเองเข้าไปนั่งด้านในก่อน ส่วนลิปก็นั่งตรงข้ามกับที่นั่งของเรา
“ ร้านนี้อร่อยนะ ฟานเคยมากินมั้ย "
“ ไม่เคยครับ " เค้าบอกก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย ผมหยิบเมนูออกมาดู ตอนที่ชั่งใจจะกินอะไรสักอย่างเพื่อนสนิทก็ถาม
“ คีย์ สั่งเบียร์มั้ยนายบอกอยากจะกินนิ "
“ อื้ม เอาสิ นายจะสั่งด้วยมั้ย "
“ ก็ได้นะ ฟานละ "
“ ก็ได้ครับ " เค้าตอบรับง่ายๆ ผมสั่งเบียร์ไปสามแก้วใหญ่พร้อมด้วยกับแกล้มแบบรวมของทอดต่างๆเป็นเมนูทานคู่เบียร์ที่เป็นจานเด่นของร้าน
“ ไหนบอกจะกินสปาเก็ตตี้อะไรนั่นไง ไม่กินแล้วเหรอ "
“ ไม่แล้วละ " ตอบสั้นๆก่อนจะส่ายหน้า คงไม่อยากจะให้ปากเลอะมั้ง ก็แน่ละ เวลากินถ้าต้องสูดเส้นเข้าไปก็ดูไม่งามอะนะ ยิ่งนั่งตรงข้ามกับฟานแล้วด้วย " เออ จะว่าไป ไหนคีย์บอกว่าฟานมาไม่ได้เพราะไม่ว่างไง แล้วทำไมอยู่ๆถึงมาได้ละ "
“ เอ่อ...” หันมองอีกคนด้วยท่าทางลังเล ร่างสูงที่หันมองผมยิ้มๆ
" ยิ้มอะไร ก็นายบอกฉันเองว่าไม่ว่างนิ ใช่มั้ย " บอกอีกคนไปแบบหน้าตาเฉย ฟานก็พยักหน้ารับ " ใช่มั้ยละ "
" ใช่ละมั้งครับ " ยื่นมือไปหยิกท้องของอีกคนเบาๆร่างสูงที่งอตัวเบาๆ
" ใช่มั้ยละ "
" ใช่ก็ได้ครับ ใช่ ผมไม่ว่าง จริงๆก่อนหน้านี้มีงานมหาลัยที่ต้องเคลียร์ ตอนแรกคิดว่าไม่เสร็จเลยบอกว่าไม่ว่างครับ "
" นั่นนะสินะ ฉันบอกให้เค้าติดต่อนายแต่ คีย์ก็บอกว่าติดต่อไปแล้วแต่นายไม่ว่าง "
“ เหรอครับ " เค้าพยักหน้ารับสั้นๆ ก่อนจะหันมากระซิบผมเบาๆ " ขี้หวงจังนะครับ "
“ เงียบไปเลย " หันไปบอกก่อนจะเอื้อมเท้าไปเหยียบเท้าของอีกคนที่ก็งอตัวนิดหน่อยแต่ก็ยังหัวเราะออกมา ลืมไปว่าผมตัวเล็กนิดเดียวไม่เหมือนกับคนข้างๆเหยียบเท้าไปแค่นั้นยังไงก็ไม่สะท้านจนร้องโอ๊ยออกมาหรอก
“ อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ " พนักงานเสิร์ฟยกอาหารมาที่โต๊ะของเรา เบียร์สามแก้วใหญ่พร้อมด้วยเซ็ตของทอดเทมปุระที่มีทั้งกุ้งแล้วก็ผักแบบต่างๆ
“ น่ากินจังนะ " ลิปว่าพลางคีบของทอดเข้าปาก ฟานก็เทน้ำจิ้มใส่จานให้กับทุกคน มารยาทดีจนน่าหมั่นไส้จริงๆไอ้หมอนี่
“ น้ำจิ้มครับคุณลิป "
“ ขอบคุณนะ " เสียงหวานๆที่บอก ผมยกเบียร์ขึ้นดื่มก่อนจะมองไปทางอื่น " ฟานนิสัยน่ารักจังเลยนะ มีแฟนรึยังน่ะ "
“ อึก " ผมสำลักเบียร์ที่กำลังดื่มอยู่ทันที เบียร์ที่พ่นออกมาจากจมูก ร่างสูงข้างกายก็รีบคว้าเอาทิชชูใกล้มือมาเช็ดให้ทันที " แค่กๆ โอ๊ยแสบจมูก "
“ เป็นอะไรมั้ยครับ " มือหนาที่ลูบหลังผมพลางก้มลงมาถาม ส่ายหน้าไปมาตอนที่หยิบทิชชูที่อีกคนเช็ดให้อยู่นั้นมาเช็ดให้ตัวเอง
“ แสบจมูกชะมัดเลย "
“ แล้วทำไมนายรีบกินแบบนั้น "
“ ไม่ได้รีบกินสักหน่อย " ผมบอกปัดเสียงเบาๆ แค่ตกใจกับคำถามของนายที่ถามไอ้หมอนี่มากกว่า " คุยกันต่อเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรละ " ถึงจะพูดออกไปแบบนั้นแต่สายตาของคนข้างๆก็ยังจ้องผมไม่เลิก " ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรแล้วไง นายกินเบียร์ของนายไปเถอะ "
“ แสบจมูกอยู่มั้ยครับ "
“ ไม่แสบแล้ว "
“ อบอุ่นจังน้า " ลิปว่าเพ้อๆฟานก็หันไปมองอีกคน " นี่ฟาน สเป็คนายเป็นคนแบบไหนเหรอ "
“ สเป็คของผมเหรอครับ "
“ เอาแบบนี้ดีกว่าก่อนอื่นฉันถามก่อนดีกว่า ว่านายน่ะ ชอบผู้ชายด้วยกันมั้ย " คำถามตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมของเพื่อนผม ร่างสูงยิ้มน้อยๆก่อนจะหันมามองผม
“ ก็ถ้าเป็นแบบคุณคีย์ก็ได้นะ "
“ เอ๋ ? หมายความไงอะ นายชอบคีย์เหรอ "
“ บ้า!!! ไอ้หมอนี่คงหมายความว่า ถ้าหน้าหวานๆก็คงได้ละมั้ง " บอกปัดเพื่อนไป ลิปก็พยักหน้ารับพลางเหล่มองผมที่ก็ยิ้มแก้เก้อออกไป
“ อ๋อ~ เหรออย่างงั้นสินะ งั้นสเป็คโดยรวมละ "
“ ก็เป็นคนผิวขาว ตัวเล็กกว่าผม อื้ม ปากไม่ตรงกับใจสักหน่อย อาจจะมีขี้หวงบ้าง แต่ก็ใจดีแล้วก็ขี้ใจอ่อน " เค้าพูดพลางมองหน้าผม ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าจะมองมาทำไม ใครถามนาย นายก็มองคนนั้นสิวะเสียมารยาทจริงๆเลยไอ้เด็กคนนี้นิ " แล้วก็อายุมากกว่าผม ผมชอบคนอายุมากกว่า "
" ฉันก็ชอบคนอายุน้อยกว่านะ "
" อื้ม..ใช่ ลิปชอบคนอายุน้อยกว่านะ " ผมพูดเสริมอีกคนก็พยักหน้ารับ
“ แต่ว่าฉันนะ ไม่ใช่พวกปากไม่ตรงกับใจแบบคีย์หรอกนะ เพราะงั้นสเป็คนายน่าจะเป็นคีย์มากกว่าฉันนะ "
“ พูดอะไรน่ะ ฉันไม่ได้ชอบคนอายุน้อยกว่าสักหน่อย นายก็รู้นี่ "
“ เพราะงั้น ถ้าคีย์ไม่ชอบคนอายุน้อยกว่า นายจะหันหัวเรือมาทางฉันก็ได้นะ " นี่เหรอวะ วิธีเต๊าะเด็กของไอ้หมอนี่ ช่างรวดเร็วและตรงประเด็นดีแท้ ต่างกับผมที่นอกจากพูดตรงกับใจไม่ได้แล้ว ยังพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ไปอีก ทั้งที่เค้าเองก็บอกออกมาตรงๆแท้ๆว่าชอบผม ทั้งการกระทำแล้วก็คำพูด แล้วดูสิผมพูดอะไร ฉันชอบคนอายุมากกว่าบ้างละ ฉันไม่ได้ชอบบ้างละ ผมถอนหายใจออกมาตอนที่มองเบียร์ในมือแล้วรู้สึกเซ็งชะมัด เพราะผมพูดไม่ได้หรอกคำพูดอะไรพวกนั้นน่ะ คำพูดตรงกับใจพวกนั้นไม่กล้าพูดออกมาหรอก
“ หันหัวเรือไปทางคุณลิปเหรอครับ หมายความว่าถ้าคุณคีย์ไม่ชอบผม จะให้ผมหันไปชอบคุณแทนเหรอ"
" อื้ม เพราะฉันชอบผู้ชายแบบนาย "
“ งั้นคุณคีย์จะอนุญาติมั้ยครับ "
“ ห๊ะ ? “ ผมหันไปหาฟานที่ถามคำถามนั้นกับผม " ถามอะไรของนาย "
“ ถ้าผมจะหันไปชอบคุณลิปคุณจะอนุญาติมั้ยครับ " คำถามที่ชวนในนิ่งตรงนั้น ผมเหลือบมองเพื่อนตัวเองก่อนจะมองคนตั้งคำถาม นี่มันเหี้ยอะไรกันเนี้ย ทำไมต้องให้ผมเป็นคนตอบด้วย
“ แล้วเรื่องของพวกนายเกี่ยวอะไรกับฉันละ "
“ ก็เพราะว่าผมชอบคุณคีย์ ผมก็บอกไปหลายๆครั้งแล้วว่าผมชอบคุณคีย์ ถ้าคุณคีย์ไม่ชอบผมจริงๆแล้วบอกผมว่าให้ผมตอบรับคุณลิป ผมก็จะไปครับ " ทุกอย่างเงียบแม้แต่ลิปก็ยังมองไปที่ร่างสูงด้วยความรู้สึกอึ้งๆ ฟานมองผมด้วยสายตาที่เหมือนกำลังตัดพ้อ คำพูดหลายๆคำของผมที่คงไปสะกิดอะไรในตัวเค้าเข้าก็แน่แหละ คำก็ไม่ชอบเด็ก สองคำก็ไม่ชอบเด็กนิ ใครมันจะชอบละ
" ที่คุณบอกว่า คุณไม่ชอบเด็กต่อหน้าผมทั้งๆที่ผมบอกว่าชอบคุณ มันเจ็บนะครับ ถ้าบอกว่าไม่ชอบตรงๆ ผมก็จะไปครับ พูดมาเลย "
“ คือ.. นายเป็นอะไรเนี้ย เมาแล้วเหรอ " ผมพยายามเบี่ยงคำพูด เอื้อมมือไปลูบหัวอีกคนแต่เค้าก็สะบัดออกก่อนจะคว้ามันไว้
“ ถ้าคุณบอกว่าไม่ชอบผมจริงๆ ผมก็จะไปครับ แต่อย่ามาแนะนำคนอื่นให้ผมรู้จักเลย ก็ผมบอกว่าผมชอบคุณ ความชอบของผมมันเปลี่ยนไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ อย่าดูถูกกันนักสิ "
“ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้น " ฉันก็ไม่ได้อยากจะพาเค้ามา นายก็รู้ ได้ยินแล้วนี่เมื่อกี้น่ะ แล้วทำไมถึงต้องมาคาดคั้นอะไรเอาตอนนี้ด้วย นายจะให้ตอบออกไปยังไง ฉันพูดออกไปได้เหรอ ปากสั่นๆของผมอึกอัดราวกับมีแรงกดดันมหาศาลพุ่งเข้ามาใส่ จะบอกออกไปว่าไงดี ' ก็ไม่ได้ชอบมาก แต่ก็ไม่อยากให้ไปกับใครทั้งนั้น อยู่กับฉันสิเป็นของฉัน ' คำพูดนั้นพูดได้มั้ย คำที่บอกว่า ไม่ได้ชอบมาก ทั้งๆที่หึงหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนี้ยังพูดแบบนั้นได้อีกเหรอ ชอบเค้ามากแล้วมั้งคีย์ นายน่ะ..แพ้แล้ว โกหกใจตัวเองไม่ได้แล้วล่ะ " นายจะไปชอบใครก็ไปสิ เกี่ยวอะไรกับฉันละ ทำไมนายต้องมาถามฉันด้วย ฉัน..ที่ฉันทำไปทั้งหมดมันก็แค่หมาหวงก้างเท่านั้นแหละ ก็ทำไมละ ทั้งๆที่นายเป็นแค่ก้างที่ยังไงฉันก็ไม่กินอยู่แล้ว แต่ฉันก็มีสิทธิที่จะหวงมันไว้ไม่ใช่เหรอก็มันเป็นของฉันนิ " ดวงตาร้อนผ่าวของผมไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเลยสักนิดทำไมแปรปรวนอะไรได้ถึงขนาดนั้น ทั้งๆที่บอกว่าไม่ชอบแต่ก็หวง หวงเหลือเกิน แล้วก็หงุดหงิดซะจริงเวลาที่อีกคนโดนพูดจีบแบบนั้นทั้งๆที่ผมไม่เคยเลยที่จะทำได้ " ฉันมันแค่เห็นคนแก่ตัว ถึงไม่ชอบแต่ก็อยากจะมีเก็บไว้ อยากจะมีความสุขกับสิ่งนั้นที่ฉันไม่ชอบ แล้วมันผิดหรอ คาดคั้นกันอยู่ได้ "
“ คุณคีย์ " เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียก ร่างสูงถอนหายใจออกมาก่อนที่เค้าจะดึงผมเข้าไปจูบ เบิกตาของตัวเองกว้างขึ้นตอนที่อีกคนผละตัวเองออกผมก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะหันไปมองหน้าลิปที่ได้แต่อึ้งอยู่แบบนั้น
“ ฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะลิป " คว้าเอากระเป๋าเงินของตัวเองขึ้นมาก่อนจะวางเงินไว้ตรงนั้นแล้วรีบออกไปจากร้านโดยไม่ทันฟังคำพูดใดๆของคนร่วมโต๊ะเลย ขาของผมเร่งฝีเท้าออกมาจากร้านพร้อมด้วยฟานที่ก็เดินตามมา
“ คุณคีย์ "
“ หยุดเรียกฉันสักทีเถอะน่า กลับไปได้แล้ว "
“ ไม่กลับครับ จนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง "
“ ฉันไม่ได้มีอะไรจะคุยกับนายนี่ ฉันก็บอกนายไปแล้วมันก็เป็นแบบนั้นแหละ " ผมบอก ตอนที่เดินถึงคอนโดผมเปิดประตูรั้วอีกคนก็เดินตามเข้ามา ผมกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับเค้าที่เดินเข้ามาใกล้ " ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย "
“ ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณทำเลย "
“ ไม่เข้าใจเรื่องอะไร " ผมหันไปถามอีกคนก็ถอนหายใจ
“ คุณพูดเหมือนคุณชอบผมแต่แค่ติดเรื่องอายุ คุณไม่อยากให้ผมเจอเพื่อนคุณเพราะคุณรู้ว่าเค้าชอบคนอายุน้อยกว่า แต่คุณก็ยังพูดเข้าข้างเพื่อนคุณให้ชอบผม มันใช่เหรอครับ ถ้าผมชอบเพื่อนคุณจริงๆ คุณจะไม่รู้สึกอะไรเหรอครับ "
“ แล้วจะให้ฉันทำยังไง " เงยหน้าถามเค้าตอนที่เราเดินออกจากลิฟต์ผมไขประตูห้องอีกคนก็เดินตามเข้ามา เสียงประตูที่ปิดลงผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นในความืดมิด " นายจะให้ฉันทำยังไง ฉันก็ไม่ได้คิดนี่ว่าเพื่อนฉันที่ฉันบอกเค้าไปแล้วว่านายไม่ว่างมาเจอ จะมาเจอกับนายที่อยู่ๆก็มาหาฉัน นายจะให้ฉันพูดออกไปว่า อย่ายุ่งกับนายน่ะเพราะถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบ แต่ฉันก็หวง นายจะให้ฉันพูดออกไปแบบนั้นเหรอ ขอโทษทีนะ ฉันไม่พูดคำพูดอะไรพวกนั้นหรอก คำพูดพวกนั้นมันไม่หลุดออกมาจากปากฉันหรอก คนอย่างฉันไม่กล้าพูดอะไรแบบนั้นหรอก "
“ แม้ว่าผมจะไปกับคนอื่น คุณก็จะไม่พูดใช่มั้ย "
“ ทำไมนายถึงเป็นคนเซ้าซี้ที่จะได้ยินคำพูดพวกนั้นนักนะ คำว่าชอบ มันสำคัญกับนายมากขนาดนั้นเลยรึไง "
“ คุณไม่ได้รู้สึกดีเวลาได้ยินผมบอกว่า ชอบเหรอ " คำถามที่ดึงมือของผมขึ้นมาจับไว้แน่น " คุณไม่ได้รู้สึกมั่นใจในความรู้สึกของผมเหรอ คำว่าชอบของผมมันไม่มีค่าอะไรเหรอ คุณคิดว่าผมเป็นเด็กที่จะบอกรักใครๆก็ได้เพียงเพื่อต้องการขนมเหรอ แล้วคุณชอบแบบไหนครับ แบบที่ไม่รู้ว่ารู้สึกยังไง การกระทำเหมือนชอบแต่ปากไม่เคยพูดเรื่องนั้น คุณชอบแบบนั้นเหรอ ชอบผู้ชายที่เค้าไม่ได้ให้ความมั่นคงกับคุณ คุณชอบผู้ชายแบบนั้นเหรอ “
" นั่นมันเรื่องของฉันน่า!!” ผมตะโกนใส่อีกคนที่ก็ถอนหายใจออกมา ฟานปล่อยมือผมที่เค้ากำลังกุมเอาไว้ เราเงียบอยู่สักพักก่อนที่เค้าจะพูดออกมา
“ คุณก็แค่หวงก้างจริงๆเหรอครับ คุณไม่มีทางจะชอบผม แต่ก็ไม่อยากจะให้ผมไปกับใคร มันแค่นั้นจริงๆเหรอครับ ความรู้สึกของคุณที่มีต่อผมน่ะ " ขาของเค้าที่กำลังจะเดินออกไป ผมเหลือบมองเค้าที่ห่างออกไปเรื่อยๆ " ถ้างั้นก็ขอบคุณที่หวงกันนะครับ แต่ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้นหรอก เพราะสำหรับผมความรู้สึกชอบที่มากขึ้นผมก็อยากจะครอบครองมันมากขึ้นทุกที ผมอยากจะให้คุณชอบแค่ผมและก็เป็นแค่ของผม ของผมคนเดียวนั่นคือสิ่งที่ผมกำลังรู้สึกและจะรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ผมจะไม่พยายามฝืนคุณอีก " แผ่นหลังหนาที่กำลังเดินไปเปิดประตู ในใจของผมคิด ความคิดที่สับสนและหมุนเวียนอยู่อย่างงั้น ถ้าไม่รั้งไว้ต้องไปแน่ๆเค้าต้องไปแล้วไม่กลับมาแน่ๆ
“ ฉันไม่ได้ชอบนาย " ผมคว้าชายเสื้อข้างหลังของเค้าไว้ตอนที่พูดคำนั้นออกมา " สมองของฉันมันบอกว่า ฉันไม่ได้ชอบนาย แต่หัวใจของฉัน ร่างกายของฉันมันสั่งให้ฉันห้ามปฎิเสธนาย ฉันก็ไม่อยากให้นายมาเจอลิปหรอกแต่มันบังเอิญนี่นายมาหาฉันทำไมละ แล้วจะให้ฉันพูดอะไรกับเพื่อนของฉันที่ชอบนายละ อย่ามายุ่งของของฉัน อย่างงั้นนะเหรอ นายเห็นว่าฉันเป็นคนพูดคำพูดพวกนั้นรึไง ไหนนายบอกว่าชอบคนปากไม่ตรงกับใจ ก็ฉันคนนี้ไง ไม่ชอบแล้วเหรอ " เป็นครั้งแรกที่อ้อนใครแบบนี้ อ้อมกอดที่หันมาดึงผมเข้าไปกอดไว้ เค้าที่ก้มลงมาจูบอบอุ่นยิ่งกว่าใครๆที่เคยสัมผัส ร่างกายโอนอ่อนไปตามอ้อมกอดนั้นพลางรับฟังเสียงกระซิบที่อีกคนนั้นบอก
“ ผมจะทำยังไงกับผู้ใหญ่แสนดื้ออย่างคุณดี "
" ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่ปล่อยมันไป " เพราะคนอย่างฉันสักวันต้องยอมแพ้เพราะความรู้สึกของตัวเองแน่ๆ " ฉันเก่งแต่ปากเท่านั้นแหละ " แต่หัวใจกลับอ่อนแอชะมัดเลย
..............................................................
น้องฟานนนนนนนนนนนนนน
มาจีบป้ามาลูกกกกกก #ตะโกนแทรกเสียงพี่คีย์ออกไป
เด็กอะไรทำไมน่ากิน พี่คีย์ก็ปากแข็งจริงๆ แม่คนซึน ทั้งๆที่ชอบเค้าไปแล้วแท้ๆ
ตอนหน้าจะเป็นไง... จะอัพอีกทีวันอาทิตย์ เพราะงั้นนนน
ต้องงง ต้องมาอ่านนะคะ
ใครมีทวิต เฟส ฝาก แท็ก #ฟานคีย์ ให้ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและ คอมเม้นท์ค่า
หนมมี่
