Till the End 2 [ข้าวเจ้า ♥ สกาย] & [โต๊ะ ♥ เหนือ]-SKY-ผมมองของในมือข้าวเจ้า มันเป็นอะไรบางอย่างที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลมีเชือกป่านผูกเป็นโบว์ เสียบด้วยการ์ดใบเล็กๆ
“อะไรครับ” ผมถามด้วยความสงสัย ผมกลัวว่าตัวเองจะลืมวันสำคัญอะไรไป ถึงจะมั่นใจว่าไม่น่ามีก็ตาม ผมไม่เคยลืม
อะไรที่เกี่ยวกับข้าวเจ้า
“เปิดดูสิครับ”
“ครับ”
ผมหยิบการ์ดขึ้นมาอ่าน มันมีเพียงคำสั้นๆ เขียนว่า Thank you ซึ่งยังไม่สื่อถึงวันใดๆ ทั้งสิ้น ผมแกะกระดาษห่อออก
ก่อนจะเห็นว่าข้างในคือกรอบรูป ผมพลิกด้านหน้าขึ้นมาดู
“ข้าวเจ้า” มันเป็นภาพที่สวยงามที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา
ภาพผมยืนอยู่ในความมืด ท่ามกลางประกายของไฟเย็น ใบหน้าก้มต่ำมีรอยยิ้มติดอยู่ที่ริมฝีปาก ทำให้ภาพนี้ดูอบอุ่นและอ่อนโยน
อ่อนโยนเหมือนคนที่ถ่ายภาพ
“You are my star. With you I'm always HOME” ผมอ่านข้อความสีขาวบนท้องฟ้าสีดำทางมุมขวาของรูป
“ข้าวเจ้า” ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมควรพูดอะไรออกมา นอกจากเอาแต่เรียกชื่อข้าวเจ้าอยู่อย่างนั้น
“ขอบคุณนะครับพี่สกายที่อดทนกับผมมาตลอด ขอโทษที่ผมเอาแต่คิดมาก ทำตัวน่าเบื่อ”
“ไม่เลย พี่ไม่เคยเห็นว่าข้าวเจ้าน่าเบื่อ สำหรับพี่ทุกอย่างที่เป็นข้าวเจ้ามันดีทั้งหมด” ผมรู้ว่ามันอาจฟังดูเลี่ยน ดูเหมือนพูด
เอาใจเกินจริง แต่ไม่ใช่ สำหรับผมมันคือความจริง
“เพราะแบบนี้ไงครับ ผมถึงอยากขอบคุณพี่สกาย คนที่ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า
ผมเคยนึกอยากเป็นโต๊ะบ่อยๆ อยากคิดได้อยากหัวเราะได้แบบโต๊ะ แต่เวลาผมอยู่กับพี่ผมไม่เคยคิดแบบนั้นสักครั้ง
อยู่กับพี่สกายผมไม่เคยอยากเป็นคนอื่น อยู่กับพี่ ผมเป็นคนที่มีความสุขมากที่สุด ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณที่รักผม
อยู่ข้างผม และได้โปรด..ได้โปรดอยู่กับผมแบบนี้ตลอดไป”
นี่คงเป็นคำหวานที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินข้าวเจ้าพูดมา มันไม่เหมือนคำว่ารัก ไม่คล้ายคำว่าชอบ แต่มันยิ่งใหญ่กว่านั้น
มันเหมือนคนๆ นี้กำลังบอกผมว่า เขาเชื่อใจ ไว้ใจ และเขาอยากฝากชีวิตไว้กับผม
“แน่นอนครับ พี่จะอยู่กับข้าวเจ้าเสมอไม่ไปไหน With you I'm always HOME ไม่ใช่แค่ข้าวเจ้าที่คิดแบบนั้น
สำหรับพี่ทุกที่ที่มีข้าวเจ้าก็เหมือนพี่ถึงบ้านแล้วเช่น อยู่ด้วยกันนะครับ ตกลงไหม”
“ครับ ตกลงครับ”
ข้าวเจ้าในวันนี้ตอบรับผมเสียงดังฟังชัด โดยไม่มีทีท่าลังเลเหมือนเคย รอยยิ้มสดใสที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนถูกส่งมาให้ผม
ผมก้มลงไปจูบกรอบรูปในมือ ก่อนโน้มหน้าของคนรักเข้ามาหา ประทับริมฝีปากลงไปเบาๆ
ผมเคยได้ยินมาว่าการจูบที่ปากหมายถึงฉันรักเธอ แต่การจูบที่หน้าผากเป็นการแสดงออกถึงความเอ็นดูอยากทะนุถนอม
เป็นการสื่อให้รู้ว่าจะอยู่ดูแลเสมอไม่ว่าเจอเรื่องดีหรือร้ายแค่ไหน และพร้อมอยู่เคียงข้างกันตลอดไป
ผมถอนริมฝีปากออกจากหน้าผากของข้าวเจ้า ผมไม่รู้ว่าข้าวเจ้ารู้ความหมายของมันหรือไม่ เพราะมันไม่สำคัญเลยสักนิด
นี่ไม่ใช่คำสัญญาที่ผมให้กับข้าวเจ้า แต่มันคือคำสัญญาที่ผมให้ไว้กับตัวเอง
ผมรักข้าวเจ้า และจะรักตลอดไป
..............................................................................
-North-“ผมมีงานต้องส่งกองเป็นภูเขา ผมไปกับพ่อไม่ได้พ่อก็ทราบนี่ครับ”
“แล้วยังไง มันเกี่ยวอะไรด้วย”
“ทำไมมันจะไม่เกี่ยวครับ นี่มันยิ่งกว่าเกี่ยว เกี่ยวเต็มๆ” ผมมองพ่อของตัวเอง ข้างในหงุดหงิดไปหมดแต่แสดงออกมาไม่ได้
พ่อผมจะบินไปฮ่องกงเพื่อคุยงานกับลูกค้ารายใหญ่และจะอยู่เที่ยวต่ออีก 3-4วันเพราะติดวันหยุดยาว งานนี้บ้านผมไปกัน
หมด นั่นแปลว่าผมต้องอยู่ห่างจากโต๊ะถึงเกือบหนึ่งอาทิตย์
“มันจะอะไรกันนักหนา อยู่ห่างกันแค่นี้ไม่ได้เหรอ เกินไปหรือเปล่าเหนือ”
“พ่อ!!”
“เอ่อ..พี่เหนือครับ อย่าเถียงคุณพ่อเลย ผมไม่เป็นไรหรอกครับ” โต๊ะแอบสอดมือเข้ามาจับมือผมใต้โต๊ะ เรานั่งอยู่ที่
ร้านอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่ง แม่กับน้องลันไม่มีใครพูดอะไรออกมา ต่างนั่งเงียบราวกับไม่ได้มาทานข้าวด้วย
เป็นที่รู้กันว่าผมกับพ่อเหมือนกันมาก โดยเฉพาะเรื่องของอารมณ์ พอมีเรื่องขัดใจกันต่างคนต่างไม่ยอม บางครั้งจึงเกิด
ศึกย่อมๆ ขึ้น เช่นวันนี้เป็นต้น
“เห็นไหม โต๊ะยังรู้เรื่องมากกว่าว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เราอย่าเอาข้ออ้างห่วยๆ มาพูด”
“แม่ ดูพ่อสิครับ ไม่ฟังเหตุผลกันบ้างเลย” ผมถอนใจยาว หันไปหาแม่เผื่อจะพอช่วยกันได้บ้าง
“งานนี้แม่ไม่ยุ่ง” แม่รีบยกมือขึ้นทั้งสองมือ เป็นการกันตัวเองออกจากปัญหา
“ลันก็ไม่ยุ่งค่ะ” น้องสาวคนเดียวของผมรีบชิ่งหนีอีกเหมือนกัน
“โต๊ะ ตัดสินใจมาว่าจะเอายังไง” พ่อของผมชิงตัดหน้าถามโต๊ะก่อนผม
“โต๊ะครับ” ผมกระตุกมือที่กุมมือผมอยู่ เพื่อให้หันมามองหน้าผมก่อนตอบ พยายามส่งสายตาอ้อนๆ ไปให้
จนได้ยินเสียงกระแอมกระไอจากพ่อจอมเอาแต่ใจ ซึ่งผมไม่คิดจะสนใจหันไปมอง ต้องเพ่งสายตาสะกดจิตโต๊ะให้ได้
“ผมคิดว่าควรไปครับ”
“โต๊ะ!!”
“ผม.. ผมจะไปครับ”
“มันต้องอย่างนั้น” พ่อจอมเอาแต่ใจตบโต๊ะดังปัง
“มันต้องอย่างนั้นโต๊ะ ไปเที่ยวกับพ่อดีกว่า จะมาอุดอู้อยู่ห้องรอเหนือมันทำงานส่งอาจารย์ทำไม ไปกับพ่อสนุกกว่าเยอะ”
ผมมองพ่อตัวเองด้วยสายตาคาดโทษ พักนี้เห็นผมยุ่งๆ หน่อย ชอบขโมยโต๊ะไปอยู่เรื่อย ชวนไปค้างที่บ้านบ้างล่ะ
ชวนไปออกกำลังกายบ้างล่ะ น้องลันก็ตัวดี จัดทริปถ่ายรูปเป็นว่าเล่น ไม่มีใครเกรงใจผมเลย โดยเฉพาะ....
ผมหันไปมองเด็กแว่นที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่ตอนนี้ทำมาเป็นยิ้มเผล่ให้ผม ยิ้มเอาใจไปก็เปล่าประโยชน์ อย่าคิดว่าผมจะปล่อย
เรื่องนี้ไปง่ายๆ ถ้ายอมให้ไปก็ไม่ใช่นายเหนือนิมมานแล้ว
“โต๊ะ”
“ครับพี่เหนือ” คนรู้ตัวว่ามีความผิดรีบเดินเข้ามาหา ยิ่งท่ากระโจนขึ้นมานั่งกอดคอผมอยู่บนตัก บอกได้เลยว่าเจ้าตัวกำลัง
กระดี๊กระด๊าที่จะได้ไปเที่ยวมากแค่ไหน ยิ่งโต๊ะรู้สึกผิดมากจะยิ่งเอาใจผมมาก ตรรกะของโต๊ะทำไมคนเป็นสามีอย่างผม
จะดูไม่ออก
“มีความสุขมากเหรอ”
“เปล่านะครับ” โต๊ะเอียงหัวมาซุกตรงซอกคอผม ระดับความอ้อนผิดปกติอย่างรุนแรง
“งั้นหรือ”
“จริงๆ นะครับ ผมเฉยๆ”
“อืม”
“โทรไปบอกพ่อกับแม่หรือยัง”
“บอกแล้วครับ” โต๊ะอาจจะพูดปดบ้างเพื่อรักษาน้ำใจผม แต่พอถามเรื่องทั่วไปแบบนี้ก็เผลอพูดความจริงออกมา
“ได้รายการของฝากซื้อจากเพื่อนหรือยัง”
“ได้แล้วครับ”
“เก็บกระเป๋าหรือยัง”
“เก็บแล้วครับ”
“ไหนบอกว่าเฉยๆ”
“โอ๊ะ!!” โต๊ะผงกหัวขึ้นมาทำตาโตใส่ผม ภายใต้แว่นกลมๆ ที่ใส่อยู่
“ผมก็ทำๆ ให้มันเสร็จๆ ไป จะได้มีเวลาอยู่กับพี่เหนือเยอะๆ ไงครับ” เห็นไหมครับแฟนผม ซื่อแต่ไม่โง่ ไหลไปจนได้
“เฮ้อ เรามันเป็นของเก่าเขาไม่สนใจแล้ว เมื่อก่อนแอบตามไปทุกที่ รูปมีเป็นพัน เดี๋ยวนี้มีวันหยุดแทนที่จะได้อยู่ด้วยกัน
ดันหนีไปเที่ยวต่างประเทศ” ผมแกล้งขุดเรื่องเก่าขึ้นมารำพัน อยากรู้ว่าอดีตstalker ของผมจะทำยังไง
“ไหนเอามือถือมาดูสิ ไม่ได้ถ่ายรูปพี่มานานแค่ไหนแล้ว” ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงโต๊ะเพื่อควานหาโทรศัพท์
“เดี๋ยว!! เดี๋ยวครับ ช้าก่อน” โต๊ะรีบตะครุบมือผมไว้แทบไม่ทัน จากที่คิดจะแกล้งโต๊ะเล่น ผมชักเริ่มงอนจริงจัง แบบนี้แสดง
ว่าไม่ได้ถ่ายรูปผมนานแล้ว
“โต๊ะ เอามาให้พี่ดู” ผมพูดสีเข้ม กดดันให้เจ้าตัวปล่อยมือ
“โธ่พี่เหนือครับ มันก็มีแต่รูปพี่เหนือจะดูทำไม”
“โต๊ะ”
“อืมมมม” ผมครางออกมาเบาๆ เมื่อโต๊ะเลิกจับมือผมเปลี่ยนมาจับแก้มผมทั้งสองข้าง ก่อนยื่นริมฝีปากเข้ามาชิด
จูบบดเบียดเรียกร้องจนผมลืมไปแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่ เดี๋ยวนี้เก่งใหญ่รู้ทางผมว่าทำอย่างไรถึงจะเบี่ยงเบนประเด็นได้
และผมก็แพ้ทางนี้เสียด้วยสิ
โทรศัพท์ล็อค!! ผมหันไปมองคนที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ ชักเอาใหญ่แล้ว เด็กบ๊องของผมหัดมีความลับ
ความผิดกี่กระทงเข้าไปแล้ว หนีเที่ยว(ถึงจะบอกก็เถอะ) ล็อคโทรศัพท์ ไม่ค่อยสนใจแฟน กระทงใหญ่ๆ ทั้งนั้น
ขืนไม่กำราบต่อไปผมคงโดนทิ้ง
“โต๊ะ” ผมลูบแก้มนิ่มเบาๆ พยายามไม่ใช้เสียงดังมาก ไม่อยากให้ตื่นเต็มตา
“หื้อ” โต๊ะครางอืออา เอาหน้าหนีมือผม สูดน้ำลายเข้าปาก
“โต๊ะครับ โทรศัพท์รหัสอะไร” ผมจรดจมูกลงไปหอมแก้มเบาๆ พยายามกระตุ้นให้เด็กสะลึมสะลือตอบ
แต่เด็กบ๊องยังคงไม่รู้สึกตัว
วิธีหลอกถามตอนหลับคงไม่ได้ผล ผมวางโทรศัพท์ลงที่เดิม ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ดึงโต๊ะเข้ามากอด
เฮ้อ แล้วอาทิตย์หน้าไม่อยู่ทั้งอาทิตย์ผมจะกอดใครนอน เด็กใจร้ายไม่เห็นใจกันบ้างเลย
“โต๊ะ ฮ่องกงเอาไว้ไปพร้อมพี่ตอนปิดภาคไหม” ผมเริ่มตะล่อมเมื่อล่วงเลยเข้าไปวันพุธแล้ว
ยังไม่มีวี่แววว่าคนของผมจะเปลี่ยนใจ
“ผมเกรงใจคุณพ่อครับ ซื้อตั๋ว จองที่พักให้หมดแล้ว”
“ถ้าโต๊ะไม่ไป อยากไปไหนพี่จะมาไปเอง อเมริกาไหมหรือสวิสฯ”
“ไม่เป็นไรครับ มันแพงผมเกรงใจพี่เหนือ”
“ไปเถอะนะ พี่อยากไป”
“บ้านพี่เหนือชอบไปสวิสกันเหรอครับ พ่อก็บอกผมเหมือนกันว่าหยุดคราวหน้าจะพาไปสวิสฯ
“หะ!!” ตาลุงนี่ไม่บอกไม่ชวนผมสักคำ เดี๋ยวเถอะจะยุให้แม่มีเด็กใหม่โทษฐานมายุ่งกับเด็กผม
“ต่อไปห้ามรับปากอะไรพ่อพี่อีก เชื่อสิไปกับพ่อพี่ไม่สนุกหรอก”
“สนุกครับ พ่อพี่เหนือเท่จะตาย อารมณ์ก็ดี มุกก็เยอะ พออยู่ด้วยแล้วถึงรู้ว่าน่ารักมากเลยครับ”
“โต๊ะ ห้ามชมผู้ชายอื่น”
“พ่อก็ไม่ได้เหรอครับ”
“พ่อนั่นแหละตัวดี” ศัตรูหัวใจหมายเลขหนึ่งของผมเลยตอนนี้ มีแม่เป็นทัพหลังอีกคน สองตายายยังไม่ถึงวัยมีหลานให้เล่น
เลยขโมยแฟนผมไปเล่นเฉย บอกว่าน่ารัก ตลก สารพัดจะชม แรกๆ ผมก็ดีใจที่โต๊ะเข้ากับที่บ้านผมได้ดีมาก แต่ตอนนี้บอกเลย
ว่าไม่ถูกใจสักนิด
“พี่เหนือออ เกินไปแล้วครับ อย่างอแง ไหนพี่เหนือสุดเท่ของผมหายไปไหนแล้ว”
“หายไปตั้งแต่ได้เด็กบ๊องอย่างเราเป็นแฟนนั่นแหละ ไม่เหลือแล้ว”
“อ้าว โทษผมอีก”
“ถามจริงๆ ตั้งอาทิตย์นึงจะทิ้งพี่ไปจริงๆ เหรอ ตั้งแต่เป็นแฟนกันยังไม่เคยห่างกันนานขนาดนั้นเลยนะ”
“ติดแฟน” โต๊ะยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย
ดูนะครับยังมีหน้ามาล้อเลียนผมอีก นี่โทรศัพท์ผมก็ยังเปิดไม่ได้ ถามก็ไม่บอก ไอ้เราก็เลยจุดจะกล้าบังคับแล้ว
ไม่รู้จะกลัวอะไรนักหนากับเด็กตัวกะเปี๊ยกเดียว
“เอาเถอะ อยากไปก็ไป กลับมาพี่ไปติดใจคนใหม่ไม่รู้ด้วยนะ แฟนไม่อยู่ไม่มีคนให้กอด”
“โห พี่เหนือเล่นงี้เลยเหรอครับ” โต๊ะเริ่มโวยวาย ผมแกล้งลุกหนี แต่โดนอีกคนกระโดดกอดเป็นลูกลิง แขนขาหนีบเอาไว้แน่น
“จะไปกอดใคร”
“อยากรู้ไปทำไม ไหนเคยบอกพี่ว่ามีคนใหม่ให้บอก โต๊ะพร้อมจะไปเสมอ” โต๊ะทำหน้ายู่ คิ้วขมวดเข้าหากัน
เหมือนเจ้าตัวกำลังคิดหนัก
“พี่เหนือล้อผมเล่น ผมรู้หรอก”
“แน่ใจนะ” ผมได้ทีรุกหนักเข้าไปอีก เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มลังเล
“พี่ไม่เคยขาดคนอยู่ข้างๆ ซะด้วยสิ โต๊ะตามพี่มาตลอดน่าจะรู้” ลูกลิงเริ่มเม้มปากแน่น คงกำลังนึกย้อนถึงความหลัง
“แต่ผมไม่อยู่แค่อาทิตย์เดียว”
“พี่ก็ไม่ได้บอกว่าจะมี แค่บอกว่าไม่แน่”
“พี่เหนือ” โต๊ะเสียงอ่อนระโหย ทำเอาผมเล่นต่อไม่ลง
“โธ่เอ๊ยเด็กบ๊อง พี่จะไปมีคนอื่นได้ยังไงทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ แค่พูดดูเล่นๆ เผื่อฟลุ้คคนบางคนเปลี่ยนใจ
อยู่เฝ้าแฟนก็เท่านั้น” ผมรีบบอก ทนเห็นหน้าเศร้าๆของเด็กน้อยไม่ได้จริงๆ
“จริงนะ”
“จริง” ผมกลับไปนั่งที่โซฟา โดยยังมีลูกลิงเกาะติดอยู่กับตัว
“โล่งอก ผมก็ลองทำหน้าเศร้าไปงั้นแหละครับ เผื่อฟลุ้คคนบางคนสารภาพ”
โต๊ะเปลี่ยนสีหน้าทันที กลับมายิ้มสดใสเจิดจ้าเหมือนเดิม
“โต๊ะ!!”
“อย่าโกรธเลยน่า” โต๊ะเอาแก้มมาถูๆ กับจมูกผมเป็นการอ้อน
“ไม่ดีใจเหรอครับ ที่ผมเชื่อมั่นในพี่เหนือ รู้ว่าไม่ทำแบบนั้นกับผมแน่ๆ”
“เหอะ ระวังเถอะ ปล่อยปะละเลยพี่มากๆ สักวันจะทำจริง”
“โอ๋ๆ ไม่ปล่อยหรอกครับ รักจะตาย”
“รักจะตายแต่ทำไมมีความลับกับพี่” ผมวกกลับเข้าเรื่องที่ยังคาใจ
“ติดใจจังเลยนะครับเรื่องโทรศัพท์เนี่ย พี่เหนือยังเคยล็อคเลย”
“มันไม่เหมือนกันคราวนั้นพี่จำเป็น”
“ผมก็จำเป็น ให้ใครเห็นไม่ได้ อุ๊บ..” นั่นไงในที่สุดก็หลุดออกมา
“อะไรที่ให้เห็นไม่ได้” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ จ้องตาเอาเรื่องโต๊ะเต็มที่
“ก็เอ่อ..มัน..มัน..”
“มันอะไร จะบอกไม่บอกครับ” ผมจี้มือทั้งสองข้างเข้าที่เอวโต๊ะ จุดอ่อนที่ไม่ว่าจะสู้กันกี่ครั้งโต๊ะก็แพ้เสมอ ไม่จำเป็นผมไม่
อยากทำหรอกครับไม่อยากเห็นโต๊ะหอบ แต่เรื่องนี้ต้องขอ
“ฮ่าๆๆ ไม่เอาพี่เหนือ ผมบ้าจี้”
“อยากให้หยุดก็บอกมา”
“พี่..พี่เหนือ..ฮ่าๆๆๆ บอกแล้วครับ..ผมบอกแล้ว..หยุด..หยุด” ผมปล่อยมือออกจากเอวของโต๊ะ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์
ที่เจ้าตัววางไว้มาส่งให้
“เปิดให้พี่ดู ไม่เปิดโดนอีก”
โต๊ะกระมิดกระเมี้ยนหยิบโทรศัพท์ไปเปิด กดโน้นกดนี้อยู่นานไม่ยอมส่งให้ผมเสียที จนต้องกระตุ้นด้วยการจี้เอวไปอีกเบาๆ
“ฮ่าๆๆ นี่ครับ ให้แล้วๆ”
โต๊ะส่งโทรศัพท์ให้ผม แต่หน้าจอดับไปแล้ว ผมสไลด์เปิดอีกครั้ง ก่อนจ้องภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าสลับกับหันไปมองหน้าของโต๊ะ
“เรานี่มัน”
“แหะๆ” คนผิดหัวเราะเสียงแห้ง
“ก็มันอดใจไม่ไหวนี่ครับ”
ภาพผมนอนคว่ำ หน้าเอียงซบหมอน ทั้งร่างเปลือยเปล่า ยอมรับว่าโต๊ะถ่ายรูปนี้สวยมาก และเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าไม่ควร
มีใครได้เห็นมัน
“อย่าให้ผมลบเลยนะครับ นะครับพี่เหนือ มันสวยมากๆ ถึงหลุดไปก็ดูเหมือนงานศิลป์ไม่น่าเกลียดสักนิด” โต๊ะรีบแย่ง
โทรศัพท์ไปจากมือผม ทำหน้าออดอ้อน กลัวผมจะเข้าไปลบของรักของหวง
“ตามใจ แต่ถ้าหลุดไป พี่จะถ่ายเราบ้าง”
“ครับผม ครับ พี่เหนือน่ารักที่สุด” ว่าแล้วเจ้าตัวก็สาธิตความรักด้วยการจูบผมไปทั่วหน้า
“เฮ้อ รีบกลับมาเร็วๆ ล่ะ อาทิตย์นึงพี่เหงาตาย”
“งั้นทำแบบผมสิครับ ผมแอบเอาของพี่เหนือไปด้วยนะจะได้อุ่นใจ เวลานอนจะได้เอาออกมากอด พี่เหนือก็กอดหมอนผม
นอนไปก่อนก็ได้”
“หือ? เอาอะไรไป”
“เอาเสื้อนอนตัวที่พี่เหนือใส่บ่อยๆ ไปครับ ไม่ซักด้วยจะได้มีกลิ่นพี่เหนือติดอยู่” มิน่าล่ะ ผมใส่เสื้อไปแค่วันเดียว
โต๊ะก็เปลี่ยนตัวใหม่มาวางไว้ให้แทน จะเอาไปด้วยนี่เอง
“อืมม เอาอย่างอื่นดีกว่า หมอนมันธรรมดาไป” ผมแกล้งมองสำรวจไปทั่วร่างกายของโต๊ะ อยากจะเอาไว้มันทุกอย่าง
“เดี๋ยวคืนนี้ผมเอาเสื้อตัวใหม่มาใส่แล้วเก็บไว้ให้พี่เหนือ ไม่ซักเอ้า” โต๊ะเสนอวิธีเดียวกันให้กับผม
“ไม่เอา”
“งั้นจะเอาอะไรล่ะครับ ความจริงของผมก็อยู่ที่นี่ทุกอย่าง พี่เหนือจะหยิบมาดูเมื่อไหร่ก็ได้”
“ไม่อยากได้ของ” ผมเริ่มเผยไต๋
“แล้วอยากได้อะไรครับ” โต๊ะทำหน้างงๆ ตามไม่ทันความคิดผม
“ขอเท่าจำนวนวันที่ไป ตอนไม่อยู่จะได้หายคิดถึง”
“พี่เหนืออออออ” โต๊ะลากเสียงยาวเหยียด แต่ไม่ทันผมแล้วครับ อีกสองวันจะไปแล้วเดี๋ยวเก็บได้ไม่ครบ
ไหนจะต้องบวกล่วงหน้าแก้คิดถึงอีก ว่าแล้วก็ขอตัวพาลูกลิงไปคิดดอกเบี้ยก่อน
“คุณพ่อหัวเราะอะไรครับ”
“ไม่มีอะไร แค่ข้อความขำๆ จากเพื่อนน่ะ วันนี้พ่อประชุมเสร็จแล้วพรุ่งนี้จะพาไปเดินช็อปปิ้งกันทั้งวันเลยดีไหม
“เย้ๆ พ่อของลันใจดีที่สุด”
“ดีไหมโต๊ะ”
“ครับ”
“หึหึ”
พ่อ ผมเปลี่ยนใจตามไปถึงไฟลท์เที่ยงพรุ่งนี้ ให้โต๊ะรอที่โรงแรมด้วยครับ ไม่ต้องบอกนะผมจะเซอร์ไพรส์ Read
.......................................END.......................................
STALKER แอบหลงรักจบอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ ขอบคุณอีกครั้งที่ติดตามอ่านกันมาตลอด หวังจริงๆ ว่าเรื่องนี้
จะทำให้คนอ่านทุกท่านมีความสุข^^
**สำหรับการรวมเล่มที่สอบถามเข้ามา ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการนะคะ จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบเรื่อยๆ ทางแฟนเพจ
หรือที่เพจของ สนพ.มีดีค่ะ
♥ สนพ.มีดี ♥ ขอบคุณอีกครั้งที่รักโต๊ะแอนด์เดอะแก๊งค์ ความสุขของโต๊ะคือความสุขของคนอ่านและความสุขของคนอ่านคือความสุขของเรา ^^
Darin ♥ FANPAGE