L&P 22 ♥ 1: วัยรุ่น-ลิงเปี๊ยก-
“ไม่ได้ผลเลยเหรอ” ผมมองหน้าภูมิก่อนถอนใจออกมายาวๆ
“ไม่ได้” จะมีอะไรน่าละเหี่ยใจไปกว่าการนี้อีกไหม พยายามทั้งคืนผลตอบรับดันเป็นศูนย์
“อะไรว้า ไม่น่าจะยากนี่หว่า” ภูมิทำหน้าขัดใจเมื่อผลลัพธ์ไม่ตรงตามแผนที่วางไว้
“จะเอายังไงต่อดี” กังฟูมองคนโน้นทีคนนี้ทีทำหน้าหนักเพราะอะไรที่ว่าดีก็เสนอไปหมดแล้ว
“ดูวีดีโอเถอะว่ะ”
“เฮ้ย!! ไม่เอา” ผมปฏิเสธคำชวนของภูมิลั่นโรงอาหาร ก่อนต้องรีบก้มหน้างุดเมื่อเจอสายตาโต๊ะรอบข้างมองมา
“จะมาอายอะไรกับเรื่องแค่นี้วะ ทำยังกับไม่เคยดู”
“มันเหมือนกันที่ไหนเล่า”
“ใช่ไม่เหมือน เพราะไอ้อย่างที่เคยดูรับรองเปาไม่ได้ทำ ไอ้ที่จะทำดันไม่ยอมดู”
“ฮ่าๆ” กังฟูหัวเราะชอบใจกับสิ่งที่ภูมิพูด
“จริง เมื่อคืนภูมิมันอุตส่าห์หาส่งไปให้ก็ไม่ยอมเปิดดู ไม่งั้นเรียบร้อยไปแล้ว”
“ปากดี” ผมเขกหัวกังฟูดังโป๊ก หมั่นไส้คนทำเป็นเก่ง
“โอ๊ย! อะไรวะเปาคนอุตส่าห์ช่วย รู้งี้ปล่อยให้กลุ้มอยู่คนเดียวดีกว่า”
กังฟูย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ผมเข้าเรียนด้วยใบหน้าเซ็งเป็ดเซ็งไก่ ห่อเหี่ยวหัวโต จนภูมิกับกังฟูต้องลากไปนั่งซัก
ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ลุงเมินฉันว่ะ”
“เมิน!! พี่ลมนะเมินเปา” กังฟูทำเสียงไม่เชื่อถือสิ่งที่ผมเล่า
“อืม ตั้งแต่วันที่ไปหาพี่นิวที่ห้อง พอพี่นิวบอกให้รอฉันโตก่อน ลุงก็ไม่ค่อย..คือ..ไม่ค่อย..เหมือนเก่า” ผมอ้อมแอ้มเล่า
มันพูดได้ไม่เต็มปาก
“กรุณาเติมคำในช่องว่างให้ครบ ไม่อย่างนั้นเพื่อนไม่สามารถช่วยวิเคราะห์ได้” ภูมิพูดหน้านิ่ง ไม่ได้เห็นใจคนกระดากปาก
อย่างผมเลย
“ก็เรื่องนั้นแหละ”
“อะไรของเปาวะฟังไม่เห็ฯรู้เรื่อง” กังฟูขัดใจที่ผมไม่ยอมบอกดีๆ ผมว่าภูมิรู้ว่าเรื่องอะไรแต่กังฟูคงไม่รู้จริงๆ
“เออพูดก็ได้ ตั้งแต่วันนั้นลุงไม่ค่อยเข้ามานัวเนียเหมือนเก่า ไม่จูบฉันอีก มันห่างๆ บอกไม่ถูก” ผมตัดสินใจพูดให้มัน
จบๆ ไป อย่าถามว่าอายไหมจะเหลือหรือ
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ไหนบอกไม่ชอบให้ลุงวอแว” ผมส่งค้อนให้ภูมิที่แกล้งทำเหมือนไม่รู้เรื่อง
“มันก็พูดไปอย่างนั้นเอง ก็คนมันเขินนี่หว่า” ในเมื่อรับแล้วก็รับออกไปให้หมดว่าความรู้สึกที่แท้จริงเป็นอย่างไร
“อยากจูบกับลุงงี้”
“เออ” ผมหันไปตะโกนใส่หูกังฟู เอาให้ดังลั่นอยากได้ยินดีนัก
“โว้ย! หูจะแตก” กังฟูเอามือตบหูเบาๆ
“ว่าแต่มัน..มันรู้สึกดีเหรอวะ” คราวนี้เป็นกังฟูบ้างที่หน้าแดง ถามเองดันอายเอง
“ถามอะไรเยอะแยะวะ” ผมโวยวายเพื่อนแก้เขิน
“บอกมาเหอะน่าอยากรู้” กังฟูเซ้าซี้ไม่เลิก ไม่อยากเชื่อว่าต้องมาเข้าคอร์สเรื่องจูบกับเพื่อน แต่ทั้งกลุ่มผมเป็นคนแรกที่มี
ประสบการณ์
“ดี” ผมพูดงึมงำอยู่ในคอ ฟังแล้วเหมือนเป็นแค่เสียงหวี่ๆ
“อะไรนะ?”
“ดี..ดีมาก”
“ลุงท่าจะเก่งมากใช่เปล่าวะ” ผมนิ่งไปนิดนึง คำตอบเดียวที่คิดได้คือ..
“โครตๆ” ในเมื่อพูดมาถึงขนาดนี้ ความอายเริ่มไม่มีเหลือ ถึงอย่างไรก็เพื่อนสนิทกันคุยกันได้ทุกเรื่อง
“ติดใจใหญ่ แล้วยังไงพอพี่ลมเขาไม่จูบเลยหงอยรับประทาน” ภูมิตีเข้าประเด็นตรงๆ หลังจากนั่งฟังผมกับกังฟูคุยกันมา
พักใหญ่
“มันก็มีส่วนแต่มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ” ไม่มีอะไรดีไปกว่าการรับออกไปตรงๆ ผมยอมรับว่าผมติดใจรสจูบของลุง
อยากจูบอีกอยากลองอีก เหมือนพอได้หัดก็ติดใจอยากเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็ว่าส่วนสำคัญมา จะได้ช่วยกันคิด”
“ฉันคิดว่าลุงเมินเพราะต้องรักษาสัญญากับพี่นิว พี่นิวขอว่ารอให้ฉันโตก่อน แต่อีกตั้งสองปีกว่ากว่าฉันจะบรรลุนิติภาวะ”
“แล้วยังไงวะ ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่พี่ลมรักษาสัญญากับพี่นิว แปลว่าพี่เขาจริงใจกับเปาไม่ได้คิดเล่นๆ” ภูมิไม่เข้าใจความ
กลุ้มใจของผม
“มันก็ดี แต่พี่นิวเป็นคนบอกเองตอนถามฉันว่าตัดสินใจดีหรือยัง บอกว่าพี่ลมเป็นเสือนะไม่ใช่แมวรู้อยู่อย่างพี่หมอวิน”
“แล้ว?”
“อะไรวะแค่นี้ต้องให้บอก ก็แล้วเสือที่ไหนจะอยู่เฉยๆ ได้สองปีเล่า”
“เออ เปามันพูดมีเหตุผลนะภูมิ ขนาดไอ้พวกนั้น..” กังฟูหมายถึงพวกผู้ชายเฮี้ยวๆ ในห้อง
“มันยังเอามาคุยว่าพวกมันมีอะไรกับผู้หญิงเกือบทุกอาทิตย์”
“ใช่ไหม แล้วจะไม่ให้กลุ้มได้ยังไงวะ ลุงหน้าตาหล่อ หุ่นก็ดี ฐานะก็รวย ผู้หญิงจ้องเป็นสิบ โอ๊ย!!กลุ้มโว้ย” ผมยกมือขึ้นขยี้
ผมตัวเอง คิดมาทั้งคืนก็คิดไม่ตก เมื่อคืนลุงกู๊ดไนท์ผมจุ๊บหน้าผากสักทียังไม่มีเลย
“ไม่ลองคุยกับพี่ลมตรงๆ ล่ะเปา บอกไปเลยว่ารู้สึกยังไง”
“ไม่ ใครจะไปกล้าพูดเรื่องพวกนี้กับลุงเสียฟอร์มหมด” ให้ผมไปบอกลุงว่าผมอยากกอดอยากจูบกับลุงเหมือนเดิม ให้บอก
ว่าผมกลัวลุงจะทิ้งอย่างนั้นเหรอ ไม่เอาหรอกเสียฟอร์มแย่
“มัวแต่รักษาฟอร์มระวังคนอื่นจะคาบไปกิน ผู้ชายก็เหมือนระเบิดเวลา ฝืนมากๆ ตบะแตกขึ้นมา กลับไปฟันหญิง กู่ไม่กลับ
แล้วจะหาว่าเพื่อนไม่เตือน”
“ตบะแตกเหรอ?..” ผมทวนคำของภูมิซ้ำ ก่อนเบิกตากว้างขึ้นมา เผลอดกระโดดกอดเพื่อนด้วยความดีใจ
“ภูมิ ภูมิ!!” ผมกอดไปหัวเราะไปเล่นเอาภูมิตกใจยกเท้าถีบผมออกห่าง
“คิดมากจนเพี้ยนเหรอวะ จู่ๆ ก็หัวเราะออกมาตกใจหมด”
“คิดออกแล้ว คิดออกแล้ว ขอบใจมากเพื่อน” ผมยังยิ้มไม่หุบ อารมณ์ดีขึ้นมาทันทีไม่หลงเหลือความหงอยให้เพื่อนเห็น
“คิดอะไรออก” กังฟูค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ แม้ยังดูกล้าๆ กลัวๆ กับความเพี้ยนของผม
“เราก็ทำให้ลุงตบะแตกเสียเองสิ” ผมทำตาเจ้าเล่ห์อมยิ้มอย่างมีความสุข เพื่อนใครเนี่ยฉลาดจริงๆ
“หมายความว่ายังไงวะ” กังฟูย่นคิ้วยังไม่เข้าใจความหมายที่ผมพูด
“ก็หมายความว่า.....” ผมแกล้งพูดแล้วหยุด หลอกให้กังฟูอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
“ว่า..”
“ฉันจะไม่รอให้ลุงไปตบะแตกกับใคร แฟนใครใครก็หวงเว้ย อยากตบะแตกดีนักฉันจะยั่วเอง”
“หา!!”
“เด็ดไหมล่ะ หึหึ” ผมภูมิใจในแผนการตัวเองมาก ทีนี้ล่ะลุงจะหนีไปไหนรอด ไม่ต้องคอยมานั่งกังวลแล้วว่าในสองปีนี้จะ
เกิดอะไรขึ้น
“แต่พี่นิวห้ามไว้ไม่ใช่เหรอวะ” ภูมิเตือนความจำของผม
“ห้ามลุงไม่ได้ห้ามฉัน พี่นิวใจดีไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าสำเร็จจะไปสารภาพเอง”
“จะเอาอย่างนั้นจริงเหรอวะเปา”
“ก็เข้าท่านะภูมิ” กังฟูฟังไปฟังมาเริ่มเห็นด้วยกับผมอีกเสียง
“แล้วเปาไม่กลัวเหรอวะ มันไม่ใช่แค่จะกอดๆ จูบๆ แล้วนะเว้ย”
“เอออันนี้ก็จริง ว่าไงวะเปา” กังฟูชักลังเลเมื่อภูมิพูดเรื่องสำคัญขึ้นมา
“ไม่รู้โว้ย กลัวมันก็กลัวหรอกแต่มันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เหรอวะ ยังไงสักวันก็ต้องเจอ”
“ถ้าคิดดีแล้วก็เอา ว่าไงว่าตามกัน” ภูมิยอมอนุมัติแผนการของผมในที่สุด
“เห็นด้วย” ครบสามเสียง เมื่อไม่มีฝ่ายค้านพวกผมจึงนั่งปรึกษากันว่าควรทำอย่างไรดี โดยมีกังฟูเป็นทัพหน้าไปแอบหลอก
ถามเพื่อนผู้หญิงในห้องให้ ได้ความรู้มาพอสมควร ที่เหลือก็แค่มานั่งคิดกันว่าอันไหนควรทำไม่ควรทำ
จากแผนการที่วางไว้อย่างดิบดี มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเพื่อนผู้หญิงที่เคยใช้แผนนี้สำเร็จกันทุกราย ผ่านไปหนึ่ง
คืนผมกับต้องกลับเข้าสู่โหมดคอตกเป็นลิงหงอยอีกครั้ง
“คิดมาบ้างหรือยังเปาว่าจะทำยังไงต่อ” ภูมิถามผมเป็นแนวทางก่อนจะช่วยกันวางแผนต่อไป เมื่อคืนผมช็อคที่ลุงไม่มีปฏิกิริยา
ใดๆ จนนอนไม่หลับ ทนไม่ไหวต้องโทรหาภูมิเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจออกมา
“คิด” ผมพยักหน้า ก็มีคิดไว้บ้างตั้งแต่เมื่อคืน
“ว่า..”
“จะรุกให้หนักๆ เลย” ผมทุบมือลงบนฝ่ามืออีกข้าง เรียกขวัญและกำลังใจให้กับตัวเอง
“เฮ้อ ไอ้ลิงเปา” เป็นครั้งแรกที่ภูมิเรียกผมว่าลิงตามแบบลุง ดีที่ยังเป็นลิงเปาไม่ใช่ลิงเปี๊ยก
“แค่นั้นเขาไม่เรียกว่าคิด คิดมันต้องมีแผนการสิวะว่าจะทำอะไรต่อไป หนึ่ง สอง สาม ไม่ใช่มาบอกว่าจะรุกหนักกว่าเดิม”
“งั้นไม่ได้คิด” โธ่ใครจะมีสติไปคิดครับ ไหล่หอคอตกหมดความมั่นใจขนาดนั้น มีแรงลุกขึ้นสู้ต่อได้ก็ถือว่าเก่งแล้ว
“หรือ...” กังฟูยิ้มกว้างออกมา ทำหน้าเหมือนคิดอะไรดีๆ ออก
“หรืออะไร” ผมเริ่มมีความหวังนิดๆ จากสีหน้าของกังฟู
“หรือเปาจะทำตามอย่างนุ้ย” นุ้ยคือเพื่อนผู้หญิงสุดแสบประจำชั้นมอห้า นุ้ยอยู่ห้องเดียวกับผม วีรกรรมโลดโผนจน
อาจารย์เรียกเข้าห้องปกครองบ่อยๆ
“จะดีเหรอวะ” ภูมิถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ
“มีอย่างอื่นเสนอไหมล่ะ” กังฟูย้อนถามภูมิ ภูมินิ่งคิดก่อนจะส่ายหน้าให้รู้ว่ายังคิดอะไรไม่ออก
“ได้ เอาตามนั้น“ ผมตัดสินใจเด็ดขาด มาถึงขั้นนี้แล้วจะถอยก็ไม่ใช่เปาน้อยแฟนลุงลมสิ เมื่อเลือกจะเดินหน้า
ก็ต้องไปให้มันสุดทาง
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ครึ่งหนึ่งก่อนน้าปั่นไม่ทัน เปาน้อยจะทำอะไร ลุงจะรับมือไหวไหมครึ่งหลังรู้กัน!
Darin ♥ FANPAGE