L&P 4 : เรื่องของการเปย์“คุณลมคะของขวัญที่จะนำไปให้คุณแพรวาลูกสาวคุณอัคราวันเสาร์ต้องการสั่งอะไรเป็นพิเศษไหมคะ” ฝ้ายเลขาของผม
เดินเข้ามาถามในห้องทำงาน
“ไม่มี ฝ้ายจัดการได้เลย” ผมถอนใจด้วยความเบื่อหน่าย งานสังคมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อทำงานอยู่ในตำแหน่ง
ผู้บริหาร
“ค่ะ”
“ว่าแต่มันงานอะไรผมลืมไปแล้ว ต้องไปจริงๆ ใช่ไหม”
“งานวันเกิดคุณแพรวาค่ะ สำหรับคำถามสำคัญคำตอบคือต้องไปค่ะเพราะคุณอัคราเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเรา
แล้วถ้าคุณลมไม่ไปฝ้ายอาจจะหูชาได้ คุณแพรวาโทรมาเชิญด้วยตัวเองแถมโทรมากำชับแล้วกำชับอีกจนฝ้าย
หลอนเอากลับไปนอนฝันว่าเธอโทรหา”
“น่าเบื่อนะ”
“เบื่อก็หาแฟนเป็นตัวเป็นตนสักคนสิคะ ฝ้ายจะได้สบายขึ้นด้วย” ฝ้ายเป็นเลขาผมมา 2 ปีตั้งแต่ผมเริ่มเข้ามาทำงาน
ที่บริษัทของพ่อ ความสนิทสนมของเราเพิ่มมากขึ้นเพราะหนึ่งผมไม่ใช่เจ้านายถือตัว สองฝ้ายเป็นผู้หญิคุยเก่งงสดใสร่าเริง
สามเพื่อนสนิทผมจีบฝ้ายปัจจุบันเป็นแฟนกันไปเรียบร้อย ดังนั้นผมกับฝ้ายจะเรียกว่ากึ่งเจ้านายลูกน้องกึ่งเพื่อนก็ไม่ผิด
“ถ้ามันหาง่ายก็ดีสิ จะจีบฝ้ายหรือก็โดนเจ้าปืนชิงตัดหน้าไปก่อน”
“แหมอย่าพูดเลยค่ะ คุณลมเจอฝ้ายก่อนคุณปืนตั้งนานถ้าอยากจีบคงจีบไปนานแล้ว”
“แล้วถ้าจีบจะติดไหม”
“ไม่ติดค่ะ” ฝ้ายหัวเราะชอบใจ ฝ้ายเป็นเลขาที่ดีเพราะนอกจากเก่งในหน้าที่แล้วฝ้ายยังเป็นทั้งกันชนและคนสับรางรถไฟ
ให้ผม เสียอย่างเดียวคือฝ้ายเป็นกองสอดแนมของแม่ผมอย่างเปิดเผย เรียกว่าไม่มีความลับใดที่ฝ้ายรู้แล้วแม่ผมจะไม่รู้
“คุณลมเจ้าชู้เกินไป ไม่มีผู้หญิงรักสงบคนไหนอยากยุ่งด้วยหรอกค่ะ”
“ว่าผมระวังเจ้าปืนดีๆ เถอะ ขานั้นก็ใช่ย่อยสมัยเรียนเจ้าชู้เอาเรื่อง”
“คุณปืนไม่กล้าหรอกค่ะ เพราะคุณปืนชื่อปืนแต่ไม่มีปืน ส่วนฝ้ายน่ะพกปืนติดกระเป๋าตลอดเวลา”
“ฝ้ายไหนบอกว่ารักสงบ” ผมท้วงเมื่อเจ้าตัวมักชอบคุยนักคุยหนาว่าตนเองเป็นผู้หญิงรักสงบ
“ฝ้ายคนไทยแท้ค่ะร้องเพลงชาติทุกวัน ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด”
“โชคดีแล้วที่ผมไม่จีบคุณ”
“เห็นด้วยค่ะ ฝ้ายออกไปทำงานดีกว่าจะได้จัดซื้อของขวัญให้คุณแพรวาด้วย”
“อืม” ผมก้มหน้าลงเตรียมดูเอกสารที่อ่านค้างไว้แต่ในหัวนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงเรียกเลขาไว้ก่อนจะเดินถึงประตู
“เดี๋ยวฝ้าย”
“คะคุณลม”
“ของขวัญแพรวาผมจะซื้อเอง”
“เอ๋? อย่าบอกว่าคุณลมสนใจคนนี้นะคะ” ฝ้ายทำสีหน้าแปลกใจ ท่าทางแพรวาจะไม่ผ่านเกณฑ์ของฝ้ายนั่นแปลว่าจะ
ไม่ผ่านเกณฑ์ของแม่ผมด้วย
“เปล่า แต่เอาตามนั้นเถอะผมจัดการเอง”
“ค่ะ”
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ที่บันทึกไว้ว่าลิงเปี๊ยก แต่นึกขึ้นได้ว่าน่าจะเรียนหนังสืออยู่จึงเลือกที่จะส่งข้อความไปหาแทน
มาหาฉันที่บริษัทหลังเลิกเรียนมีงานให้ทำ ผมส่งข้อความและส่งสถานที่ไปให้ลิงเปี๊ยก อย่างน้อยงานวันเกิดแพรวาก็มีข้อดี
อยู่บ้าง ตรงที่ทำให้ผมมีข้ออ้างเพื่อสนับสนุนเด็กคิดดีให้มีรายได้
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“กินเยอะๆเลยค่ะพี่ฝ้ายมีอีกเพียบ” เสียงคุยกันดังมาจากโต๊ะที่ตั้งอยู่หน้าห้องทำงานผม ลิงเปี๊ยกกับฝ้ายหันหน้าคุยกัน
จึงไม่เห็นผมเดินเข้ามา ผมแวะไปคุยกับพ่อที่ห้องทำงานของท่านเกือบชั่วโมง คิดอยู่ว่าลิงเปี๊ยกน่าจะมาถึงแล้ว
“พี่ฝ้ายใจดีที่สุดเลยครับ”
“บราวนี่เจ้านี่อร่อยมากค่ะพี่ฝ้ายซื้อติดโต๊ะทำงานไว้ตลอด หิวๆ ก็แอบเจ้านายกิน”
“อร่อยมากไหม”
“มากค่ะ อุ๊ย!คุณลม มาไม่ให้สุ่มให้เสียง” ฝ้ายยิ้มแบบใจดีสู้เสือกวาดซองบราวนี่ลงลิ้นชักโต๊ะ ส่วนลิงเปี๊ยกตกใจรีบกลืน
ขนมจนติดคอไอเสียงดังออกมา
“สวัสดีครับพี่ลม ผมมาได้สักพัก มันรู้สึกหิวๆ เลยว่าจะขอออกไปหาอะไรทาน พี่ฝ้ายใจดีเลยเอาขนมให้ครับ ผมผิดเอง”
ลิงเปี๊ยกลุกขึ้นยืนหลังจากหายไอ ยกมือไหว้ผมก่อนยืดอกรับผิดชอบเต็มที่
“ฉันไม่ได้ว่าอะไรแค่ถามว่าอร่อยไหม”
“อร่อยครับ” ลิงเปี๊ยกยิ้มจนตาหยี ท่าทางมีความสุขกับการกินมาก
“เชื่อแล้ว” ผมเอื้อมมือไปแตะเศษขนมที่ติดอยู่ตรงมุมปากลิงเปี๊ยกออกให้ เจ้าตัวดีแลบลิ้นออกมาเช็ดอีกรอบหลังจากผม
เอามือออก ผมก็เผลอมองลืมถอนสายตา
“หิวมากไหม ฉันต้องเคลียร์งานอีกนิดหน่อยถึงจะไปได้”
“ไม่หิวแล้วครับ ผมทานขนมของพี่ฝ้ายไปสองชิ้นแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเข้าไปนั่งรอในห้องทำงานฉันก่อน เสร็จแล้วค่อยไปกัน”
“ผมนั่งรออยู่กับพี่ฝ้ายได้ไหมครับ”
“ให้น้องเปารอที่โต๊ะฝ้ายก็ได้ค่ะ จะได้ไม่กวนคุณลมตอนทำงาน” ผมมองหน้าสองคนสลับกันไปมา ดูเหมือนเรื่องกวนผม
ทำงานคงไม่ใช่เรื่องหลัก
“ตามใจ”
ผมเปิดประตูเข้าห้องทำงานยังไม่ทันปิดประตูสนิทเสียงคุยกันข้างนอกก็ดังขึ้น ท่าทางคู่นี้จะถูกคอกัน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“คุณแพรวาอายุเท่าไหร่ครับ” ลิงเปี๊ยกถามข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อผมบอกรายละเอียดของงานว่าต้องการให้ช่วยเลือกของขวัญ
วันเกิดให้แพรวา ผมอ้างเหตุผลว่าลิงเปี๊ยกอายุใกล้เคียงกันน่าจะเลือกได้ถูกใจกว่าผม โดยเว้นเรื่องที่ผมไม่เคยต้องซื้อของ
เองไว้ไม่ให้ลิงเปี๊ยกรู้
“สัก 20ปีมั้งถ้าฉันจำไม่ผิดยังเรียนมหาลัยไม่จบ”
“ทำไมลุงไม่ให้พี่ฝ้ายเลือกให้ล่ะผู้หญิงเหมือนกัน”
“จะทำไหมงานเอาแต่ถามอยู่นั่นแหละ” จะให้งานลิงเปี๊ยกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เด็กบ้าอะไรฉลาดชะมัด
“ทำลุงทำ” ลิงเปี๊ยกรีบพยักหน้ารับ ถ้าเรื่องทำงานลิงเปี๊ยกงกเสมอ
“คำเรียกนี่มันยังไงหะเปี๊ยก อยู่ออฟฟิศยังเรียกพี่ลมดีๆ จะเปลี่ยนทำไม”
“อ้าว ทีลุงต่อหน้าคนอื่นเรียกผมว่าเปา พออยู่กันสองคนลุงยังเรียกผมลิงเปี๊ยกเลย” ภาวะเถียงเด็กไม่ออกพักนี้ผมเป็น
บ่อยจนเริ่มชิน ลิงเปี๊ยกหาเหตุผลมาค้านผมได้ตลอดเวลา
“เรียกเปี๊ยกนี่แหละน่ารักดี”
“เหมือนกันไง ลุงนี่แหละน่ารักดี” ลิงเปี๊ยกไม่ยอมแพ้
“แล้วทำไมนิวถึงเรียกว่าจุก ทีแรกยังคิดว่าชื่อจุกจริงๆ”
“เด็กๆ ผมไว้แกละที่บ้านเลยเรียกจุก หลวงลุงก็เรียกจุกพี่นิวเลยเรียกตาม ลุงก็อย่าเพิ่มให้ผมอีกชื่อสิเรียกเปาหรือจุกก็ได้”
“ไม่ล่ะ ฉันชอบเรียกไม่เหมือนใคร อีกอย่างนายมันลิงเปี๊ยกดีๆ นี่เองไม่เหมาะกับชื่ออื่นหรอก”
“ผมลิงเปี๊ยกลุงก็กอลิล่า คนอะไรตัวใหญ่อย่างกับยักษ์”
“เปี๊ยกจะคุยกันดีๆ บ้างได้ไหม”
“ใครเริ่มก่อนเล่า” ลิงเปี๊ยกบ่นอุบอิบแถมขว้างค้อนใส่ผมเสียวงใหญ่ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเรียนในมือต่อไป
จะพูดไปแล้วเถียงกับลิงเปี๊ยกก็สนุกดีครับ รถติดแต่ผมกลับไม่เบื่อเลย
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“เอาไหมฉันซื้อให้” ผมถามเมื่อเห็นลิงเปี๊ยกไปยืนทำหน้าตื่นตาตื่นใจอยู่หน้าร้านขายอุปกรณ์เกม
“ไม่เอาครับมันแพง นานๆ ไปเล่นบ้านเพื่อนทีก็ได้เหมือนกัน” ลิงเปี๊ยกปฏิเสธแต่ยังจ้องตู้โชว์ไม่วางตา
“ชอบเล่นก็ซื้อไป ฉันซื้อให้ไม่หักค่าทำงาน”
“ขอบคุณครับแต่ผมไม่เอา” ลิงเปี๊ยกปฏิเสธผมซ้ำ คราวนี้หันมามองหน้าผมเอียงคอย่นคิ้วเข้าหากัน
“ลุงรู้ใช่ไหมว่ามันแพง ปกติลุงเปย์สาวแบบนี้ตลอดเลยเหรอมิน่าสาวติดเยอะ ไม่ดีเลยรู้ไหม” ผมถึงกับสะอึก
อยากปฏิเสธแต่มันไม่เต็มปาก ถึงผมจะมั่นใจว่าสาวเข้าหาเพราะรูปร่างหน้าตาแต่กระเป๋าเงินก็คงเป็นส่วนหนึ่ง
สำหรับบางคน
“ไม่ถึงขันนั้น” ผมเลือกคำพูดกึ่งรับกึ่งปฏิเสธ ยอมรับว่าปกติผมเป็นพวกจ่ายไม่อั้นถ้าถูกใจ
“แหงเลย ลุงทำหน้าแบบนี้ไม่ต้องปฏิเสธให้ยาก” ลิงเปี๊ยกยกนิ้วชี้หน้าผมทำหน้ารู้ทัน
“เราเป็นน้อง” ไม่บ่อยครั้งหรอกที่ผมจะโดนต้อนแบบนี้ โดยเฉพาะต้อนโดยเด็กมอห้าอายุน้อยกว่าผมแปดปี
“ผมไม่รู้หรอกนะลุงว่าคนมีเงินมากๆ เป็นยังไง เพราะผมมีแค่พอใช้ไม่อยากให้พ่อแม่เดือดร้อน เพราะฉะนั้นลุงห้าม
ฝึกนิสัยไม่ดีให้ผม เกิดผมติดใจอยากได้อะไรก็ขอเอามันจะยุ่งนา” เหมือนโดนเด็กฟาดหน้าเข้าจังเบ้อเร่อ ผมไม่เคยคิด
ถึงเรื่องพวกนี้เลย รู้แค่ว่าอยากให้ก็ให้ไม่เคยคิดถึงผลได้ผลเสียที่จะตามมา
“แต่ก็ขอบคุณมากครับ ขอบคุณที่ลุงใจดีกับผมแล้วก็ขอบคุณที่เห็นผมเป็นน้อง” ลิงเปี๊ยกยกมือไหว้ผมด้วยท่าทางนอบ
น้อมน่าเอ็นดู
“แต่ผมไม่เห็นลุงเป็นพี่หรอกนะ” ว่าแล้วลิงเปี๊ยกก็ยักคิ้วแถมแลบลิ้นใส่ผม กำลังจะชมแท้ๆ กลืนคำพูดลงคอแทบไม่ทัน
“ตามใจเถอะ ลุงก็ลุงฉันขี้เกียจเถียงนายแล้ว” ผมยกมือขึ้นโอบรอบไหล่ลิงเปี๊ยก ก่อนออกแรงผลักให้เดินไปพร้อมกัน
“ลุงให้งบเท่าไหร่”
“เท่าไหร่ก็ได้ ลูกสาวลูกค้าคนสำคัญ” ผมรีบให้เหตุผลกลัวลิงเปี๊ยกจะหาว่าผมเปย์หนักให้ผู้หญิงอีก
“เลือกของแพงแต่อย่าเลือกของที่มีความหมายพิเศษ เอาแบบที่ให้กันทั่วไป”
“ผมก็อยากได้เงินค่าจ้างลุงนะ แต่ถ้าไม่บอกลุงผมจะดูเห็นแก่ตัวไปนิด ผมว่าลุงใช้งานผิดคน เลือกของให้วัยใกล้เคียงกัน
ผมพอทำได้ แต่ของแพงผมไม่ค่อยรู้จักหรอกลุงผมเลือกไม่ถูก” ลิงเปี๊ยกยอมรับออกมาตรงๆ โดยไม่เสแสร้งหรือโกหก
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะเลือกเองนายช่วยดูให้ฉันว่ามันเหมาะกับวัยแพรวาไหมหรือคิดว่าเขาจะชอบหรือเปล่า” ผมพยายามหา
อะไรที่มันฟังดูเป็นการทำงานได้มาบอกลิงเปี๊ยก
“แบบนั้นก็ได้ครับแต่ผมคิดเงินลุงครึ่งเดียวพอนะเพราะทำงานครึ่งเดียว”
“ตกลง” ถ้าผมปฏิเสธคงยืนเถียงกันอีกนาน ยอมรับข้อเสนอลิงเปี๊ยกไปเลยจะง่ายกว่า
“กระเป๋าสตางค์เป็นไง” ผมถามความคิดเห็นลิงเปี๊ยก
“ไม่ดีหรอกลุงเขาใช้ทุกวันถือเป็นของพิเศษ”
“ผ้าพันคอแบรนด์นี้เห็นผู้หญิงชอบซื้อกัน”
“ไม่ดีลุง ให้ความอบอุ่นดูอ่อนโยนและเป็นห่วงเป็นใย”
“น้ำหอม?”
“ยิ่งไปกันใหญ่ เหมือนลุงอยากจะใกล้ชิดดมกลิ่นเขา อึ๋ยขนลุก”
ผ่านไปเกือบชั่วโมงผมก็ยังหาของขวัญให้แพรวาไม่ได้ ปกตินอกจากไม่ต้องซื้อเองแล้วบางครั้งผมยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าใน
กล่องมีอะไร ให้แล้วก็แล้วกัน
“เลือกมาสักอย่างเถอะเปี๊ยกอะไรก็ได้” ผมเริ่มไม่สนใจว่าจะเป็นอะไร อยากซื้อให้เสร็จๆ จะได้พักขาเสียที
“อันนั้นได้ไหมลุง” ลิงเปี๊ยกชี้มือไปยังตุ๊กตาสาวน้อยในชุดสีฟ้าอ่อนในมือถือตะกร้าดอกไม้ ที่ตั้งโชว์อยู่หน้าร้าน
นำเข้าสินค้าจากอังกฤษ
“ตุ๊กตาพอร์ซเลนเหรอ” ผมมองอย่างสนใจ
“ผมเคยเห็นว่าตุ๊กตาพวกนี้ในหนังสือบ้าน โดยเฉพาบ้านผู้ดีชอบเก็บสะสม ผมว่ามันโอเคนะลุง ราคาน่าจะใช้ได้
เป็นของวางประดับบ้านไม่ใช่ของพิเศษที่ใช้กับตัวเอง อีกอย่างตุ๊กตาบ่งบอกว่าลุงเห็นคุณแพรวาเป็นแค่น้องหรือเด็ก”
ไม่น่าเชื่อว่าลิงเปี๊ยกจะสามารถวิเคราะห์ได้เป็นฉากๆ ขนาดนี้แถมเหตุผลยังเข้าท่า ผมพยักหน้าเห็นด้วย
“เข้าไปซื้อกันเถอะ”
“ครับ” ลิงเปี๊ยกยิ้มดีใจที่ทำงานสำเร็จ ผมชะงักเท้าที่กำลังก้าวเข้าร้านดึงลิงเปี๊ยกไว้และถามสิ่งที่เพิ่งตัดสินใจได้
“เปี๊ยกวันเสาร์ว่างไหม ไม่สิตั้งแต่คืนวันศุกร์ว่างไหม”
“ลุงจะให้ทำอะไร”
“พรุ่งนี้วันศุกร์เลิกเรียนแล้วนายมาหาฉันที่ออฟฟิศ เตรียมเสื้อผ้ามาด้วยไปค้างที่บ้านฉัน วันเสาร์ไปงานวันเกิดแพรวากับ
ฉันที”
“นับเป็นสองวันหรือเปล่าลุง”
“อืม”
“ตกลงครับ” ลิงเปี๊ยกตาวาวกับการทำงานสองวัน ผมแทบจะเล่นเครื่องคิดเลขอยู่ในตา
“ดี ทีนี้ก็ไปซื้อของขวัญได้แล้ว”
“เดี๋ยว ลุงๆ”
“หือ?”
“ผมแค่จะบอกว่าผมไปฝึกยิ้มหวานมาแล้วนะ”
“ฮ่าๆ ได้ ฉันจะคอยดูยิ้มหวานของนาย”
“เชื่อเปาสิ รับรองลุงจะละลาย” ผมเผลอหัวเราะเสียงดังออกมา ยกมือขึ้นยีหัวลิงเปี๊ยกด้วยความมั่นเขี้ยว
ผมจะคอยดูอยากรู้เหมือนกันว่ามันจะละลายจริงไหม
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ตอนนี้เรื่อยๆ อีกตอนก่อนนะคะ ตอนหน้าใครรอลิงเปี๊ยกยิ้มหวานอยู่ห้ามพลาด ลุงจะละลายไหมให้ทาย^^
Darin ♥ FANPAGE