ตอนที่ 2 : เจรจาธุรกิจ“ลุงทำไมห้องลุงมันใหญ่จังอย่างกับบ้านอีกหลังหนึ่ง” เปี๊ยกดูตื่นเต้นมาก ตาโตแวววาวส่งเสียงอุทานไม่หยุด เหมือนเด็กที่
เพิ่งได้มาเที่ยวครั้งแรก
ผมอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับพ่อแม่แต่แยกพื้นที่กันชัดเจน ห้องผมอยู่ชั้นสองซึ่งคลุมบริเวณปีกขวาของบ้านทั้งหมด
ผมให้สถาปนิกออแบบเหมือนห้องในโรงแรม เมื่อเปิดประตูเข้ามาเจอโถงกลางซึ่งเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องทำงาน
รวมถึงบาร์เล็กๆ เผื่อหิวยามดึก ห้องนอนอยู่หลังประตูบานใหญ่ที่ออกแบบมาให้กั้นเสียงจากภายนอกเพื่อไม่ให้รบกวน
การพักผ่อน
“อย่างนี้ลุงก็ไม่ค่อยได้เจอพ่อกับแม่สิ ไม่ดีเลย” ลิงเปี๊ยกเหมือนจะชอบแต่สุดท้ายกลับทำหน้าไม่ถูกใจ
“ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตบนนี้ตลอดเวลา อย่างน้อยก็ลงไปทานข้าวพร้อมกัน”
“อย่างกับยกคอนโดพี่หมอวินมาแหนะ เหมือนกันอยู่นะลุง”
“ต้องเหมือนสิคนออกแบบคนเดียวกัน ห้องเจ้าวินก็ลอกแบบไปจากห้องนี้”
“มิน่าล่ะ” เด็กเปี๊ยกเดินไปรอบๆ ผมนั่งลงที่โซฟารอให้อีกฝ่ายสำรวจจนพอใจ
“อาบน้ำที่ไหนครับ ผมมีเสื้อผ้ามาอยู่ในกระเป๋าเพราะเตรียมมาค้างห้องพี่นิว”
“ในห้องนอน ฉันไม่ได้ทำห้องน้ำข้างนอกเพราะไม่จำเป็นต้องรับแขกในนี้” ห้องเป็นอาณาเขตส่วนตัวของผม น้อยครั้ง
ที่จะพาคนมาค้างด้วย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะป้าสิผมคงไม่กระเตงลิงเปี๊ยกมา
“ในห้องนอน! ลิงเปี๊ยกมองหน้าผมด้วยสายตาหวาดระแวง
“ลุงไม่ได้คิดลามกกับผมใช่ไหม” ดูมันทำครับ ดึงคอเสื้อยืดที่ปิดอยู่แล้วให้ปิดเข้าไปใหญ่
“ไอ้เด็กบ้า ฉันจะไปคิดอะไรหุ่นอย่างกับลูกกรอกใครเขาจะพิศวาสลง”
“โธ่พอผมอายุเท่าลุงผมก็ตัวเท่าลุงเองแหละ ไม่อยากจะข่มหรอกนะอาจจะโตกว่าลุงก็ได้” ลิงเปี๊ยกคุยโม้โอ้อวด
ไม่ได้ดูรูปร่างปัจจุบันของตัวเองเลย ตัวผอมพอๆ กับนิวแถมเตี้ยกว่าด้วย
“เอาเถอะฉันขี้เกียจเถียงกับเด็กโตไปก็รู้เอง เปิดประตูเข้าไปในห้องโน้นอาบน้ำแล้วออกมา เดี๋ยวจะเปิดเกมไว้ให้”
ผมเดินไปหน้าทีวีจอยักษ์ เปิดลิ้นชักหยิบอุปกรณ์ออกมา ลิงเปี๊ยกตาโตแต่ยังไว้เชิง เดินเลียบๆ เคียงๆ เข้ามาใกล้ๆ ผม
ตาจ้องแทบไม่กระพริบ
“ไปอาบน้ำ” ผมเน้นเสียง เจ้าตัวดีรีบเดินไปเปิดกระเป๋าหยิบสารพัดข้าวของออกมาก่อนวิ่งจู้ดหายเข้าไปในห้องนอน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ลุงผมนอนตรงหน้าทีวีก็ได้ครับ พรมท่าจะนุ่ม”
“เกรงใจหรืออยากเล่นเกมยันเช้า”
“ผมเกรงใจหรอก ผมนอนดิ้นเดี๋ยวเตะลุงตกเตียง” ลิงเปี๊ยกตัวเท่าลูกหมาคิดจะเตะผมตกเตียง ช่างไม่ประมาณตนเอา
เสียเลย
“ตามใจ เดี๋ยวจะเอาหมอนกับผ้าห่มมาวางไว้ให้ ถ้าหิวก็ไปเปิดดูในตู้เย็นหรือในตู้หาของกินเอาเอง”
“ครับ ว่าแต่ลุงยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า เดี๋ยวอาบน้ำแล้วออกมาให้ผมทายาให้นะ” ยังดีที่ลิงเปี๊ยกยังนึกได้ว่าฟาดหัว
ผมจนปูน ถือว่าเป็นเด็กมีความรับผิดชอยอยู่บ้าง
“ดีขึ้นแล้ว เล่นเป็นใช่ไหม” ผมพยักเพยิดไปทางเครื่องเล่นเกมที่วางไว้ให้
“เป็นครับ ผมเคยเล่นของเพื่อนแต่ไม่ใช่รุ่นใหม่”
“มันต่างกันนิดหน่อย เล่นๆ ไปเดี๋ยวนายก็ชินเอง”
“งั้นผมเล่นเลยนะลุง” เห็นท่าทางกระตือรือร้นนั่นแล้วอดนึกเอ็นดูไม่ได้ เด็กก็ยังเป็นเด็กวันยังค่ำ
“ตามสบาย” ผมเดินเข้าไปในห้อง หยิบหมอน ผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มเนื้อนุ่มผืนใหม่ออกมาจากตู้ก่อนเดินกลับเอามาวางไว้
ให้ลิงเปี๊ยกบนพรม
“ปูผ้าทับด้วยจะได้ไม่เปื้อนฝุ่น”
“ขอบคุณครับ” ลิงเปี๊ยกยกมือไหว้ อย่างหนึ่งที่ผมชอบคือไม่ว่าเจ้าเด็กนี่จะแสบจะเกรียนแค่ไหนแต่เรื่องมารยาทไม่เคย
ขาดตกบกพร่อง บ่งบอกว่าได้รับการอบรมมาอย่างดี
“อย่าให้ถึงสว่างล่ะ พรุ่งนี้ตื่นแล้วฉันจะไปส่งที่วัด”
“ครับ” ผมดูจนแน่ใจว่าเปี๊ยกเล่นได้ จึงหมุนตัวกลับเพื่อเดินเข้าห้องนอน
“ฝันดีลุง” ผมชะงักเท้า หันกลับไปมองลิงเปี๊ยกที่ยิ้มหน้าเป็นมองมา
“อืม ฝันดี”
ผมกับเฟิงและวินเราเป็นพี่น้องที่สนิทกันมากมากจนเหมือนเพื่อนกันมากกว่า ซึ่งผมชอบที่มันเป็นแบบนั้น แต่วันนี้ลิงเปี๊ยก
ทำให้ผมรู้สึกว่าการมีน้องชายเล็กๆ ช่างพูดช่างเถียงช่างอ้อนก็น่าสนุกดีเหมือนกัน
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“สวัสดีครับป้าสิ” ผมทักป้าสิยิ้มๆ เดินทีป้าสิอยู่คนละบ้านกับแม่ผม แต่เมื่อเร็วๆ นี้ บ้านป้าสิซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกันนักทำการ
ปรับปรุงครั้งใหญ่ แม่ผมจึงชวนป้าสิมาพักด้วย และจนป่านนี้บ้านของป้าสิก็ยังซ่อมแซมไม่เสร็จด้วยเหตุผลที่ว่าป้าสิไม่
พอใจอะไรสักอย่างสั่งรื้อโน้นรื้อนี่ เปลี่ยนสีและอีกมากมายจนผมเลิกถามแม่ไปแล้วว่าป้าสิจะกลับบ้านเมื่อไหร่
“ตาลมเมื่อวานเราทำแบบนั้นได้ยังไง รู้ไหมว่าน้องเขาตั้งใจมาหา” ป้าสิไม่เคยออกนอกประเด็น ไม่ต้องทักทายกันให้
เสียเวลา ลงนั่งได้ก็ใส่ผมเป็นชุด จนพ่อผมต้องพับหนังสือพิมพ์เก็บและทำท่าจะอิ่มขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ทานข้าวต้มก่อนไหมครับป้าสิ” ผมเลื่อนถ้วยข้าวต้มของตัวเองที่แม่บ้านเพิ่งเอามาวางให้ไปตรงหน้าป้าสิ
“ไม่ต้องมาเอาใจป้า ถ้าอยากให้ป้าดีใจก็นัดทานข้าวกับน้องพลอยและไปขอโทษน้องเขาเสียที่เราเสียมารยาท”
“โธ่ป้าสิ ผมหรือครับเสียมารยาท น้องพลอยมาหาป้าสินะครับไม่ได้มาหาผม”
“อย่ามาพูดเหมือนไม่รู้เลย เราก็รู้ว่าป้านัดน้องมาทำไม”
“พี่สิคะทานข้าวกันก่อนเถอะค่ะ ตาลมมีแขกอยู่ด้วย” แม่ผมพยายามปรามพี่สาว
“แขก?” ป้าสิเพิ่งสังเกตเห็นลิงเปี๊ยกที่นั่งอยู่ข้างผม สงสัยยังโกรธจัดจนไม่คิดจะสนใจใคร
“สวัสดีครับ” ลิงเปี๊ยกยกมือขึ้นไหว้เมื่อถูกเอ่ยถึง
“สวัสดี” ป้าสิจ้องหน้าเปี๊ยกอย่างพิจารณา
“ฉันคุ้นๆ หน้านะเหมือนเคยเจอที่ไหน”
“ที่ห้องวินครับป้าสิ น้องของนิว” ผมไขความกระจ่างให้ทราบเสียเอง
“น้องของนิว แล้วมากับเราได้ยังไง” หน้าของป้าสิเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถึงอย่างไรป้าสิก็ไม่ยอมรับเรื่องของวินและนิว
แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะวินประกาศให้คนรู้ไปทั่ว พ่อแม่ผมก็ยอมรับ ป้าสิจึงกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ใช้วิธีหลบเลี่ยง
ไม่เจอหน้าหรือไม่เสวนาแทน
“ผมว่าป้าสิไม่อยากรู้หรอกครับ” ผมส่งยิ้มให้ป้าสิ ยังเป็นรอยยิ้มอารมณ์ดีตามแบบฉบับของผม
“เปาไอ้นี่อร่อย” ผมเลื่อนจานใส่เครื่องเคียงข้าวต้มให้เปี๊ยก อีกมือนึงยกขึ้นพาดไปบนพนักเก้าอี้ที่เปี๊ยกนั่งอยู่ พยายาม
ไม่ให้มือถูกตัว เด็กเปี๊ยกจะได้ไม่รู้เรื่อง
“ยายภาอย่าบอกนะว่า..” ป้าสิเห็นอย่างนั้นจึงหันไปเล่นงานแม่ผมแทน
“ภาไม่ทราบค่ะเพิ่งเจอกัน” ถ้าวินกับเฟิงเหมือนพ่อ ผมก็คงเหมือนแม่ แม่ผมเหมือนคนหัวอ่อนแต่เปล่าเลย แม่มีหนทาง
เอาตัวรอดในแบบฉบับของตัวเอง มีความเจ้าเล่ห์แบบคาดไม่ถึง พ่อบอกว่าเพราะแบบนี้ถึงหลงรักแม่ ซึ่งดูเหมือนผมจะได้
สิ่งหนึ่งมาจากแม่เต็มๆ นั่นคือความดื้อทั้งรอยยิ้ม
“ไม่มีอะไรใช่ไหมตาลม” ยังดีที่ป้าสิเลือกถามคำถามคลุมเครือแทนการลุกขึ้นมาอาละวาด ผมอาศัยจังหวะที่ลิงเปี๊ยก
ก้มหน้าลงกินข้าวต้มมองด้วยสายตารักใคร่และอ่อนโยน มั่นใจว่าป้าสิไม่พลาดช็อตนี้แน่ๆ
“อะไรมันกว้างนะครับป้าสิ ผมเลยตอบไม่ถูกว่ามีหรือไม่มี” ผมหันกลับมามองป้าสิ ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“แต่ตอนนี้ขอตัวนะครับต้องไปส่งเปาก่อน อิ่มแล้วใช่ไหมไปกันเถอะ” ผมไม่รู้ว่าลิงเปี๊ยกอิ่มหรือยัง ส่วนตัวผมยังไม่ได้แตะ
ข้าวสักคำ แต่คิดว่าควรไปก่อนแผนจะแตก วางระเบิดไว้ขนาดนี้กำลังดี
“อิ่มแล้วครับ” เปี๊ยกรวบช้อน ยกมือขึ้นไหว้แม่ผมกับป้าสิ ส่วนพ่อผมหายไปจากโต๊ะได้สักพักแล้ว
“ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ”
“ว่างๆ มาเที่ยวใหม่นะจ๊ะ”
“ยายภา!”
“ชอบคุณครับ” ลิงเปี๊ยกทำเป็นไม่ได้ยินเสียงป้าสิ หันไปยกมือไหว้แม่ผมซ้ำอีกรอบสำหรับคำชวน
“ผมไปก่อนนะครับแม่ ค่ำๆ เจอกัน” ผมเดินไปหอมแก้มแม่หนึ่งที ก่อนดันหลังลิงเปี๊ยกให้ออกเดิน ในมือคว้ากระเป๋ามาถือ
ไว้ให้เรียบร้อยจะได้ไม่เสียเวลา
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ขอโทษทีนะ ป้าสิก็เป็นแบบนี้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย” ผมเริ่มพูดก่อนเมื่อขึ้นรถกันเรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไรครับแต่พันนึง” ลิงเปี๊ยกแบบมือมาตรงหน้าผม
“ค่าอะไร” ผมสตาร์ทรถ ขับออกจากบ้านมุ่งตรงไปยังวัดที่ลิงเปี๊ยกอาศัยอยู่
“ค่าตัว”
“หือ?” ผมข้องใจจนต้องหันไปมองหน้าคนที่แบมือทวงไม่เลิกรา
“ลุงใช้ผมแกล้งป้าสิผมดูออกหรอกน่า ไม่โง่นะบอกก่อน”
“ฉลาดนี่” ผมยอมรับไปตรงๆ เมื่อถูกเด็กจับได้
“มันแหงอยู่แล้ว แต่ไม่เป็นไรผมจะถือว่าผมทำงานพิเศษให้ลุงเหมือนทำงานให้พี่นิว”
“พันนึง” ผมคิดเท่าที่พี่นิวให้ผม
“ไถขนาดนี้มารับงานเลยเถอะ” ผมบ่นก่อนใช้มือข้างนึงหยิบกระเป๋าตังค์ออกจากกางเกง หยิบธนบัตรใบละพัน
ส่งให้ลิงเปี๊ยก
“ก็น่าสนใจนะครับ ว่าแต่ลุงไม่ใช่ตาลุงโรคจิตชอบลวมลามเด็กใช่ไหม”
“เจ้าเด็กนี่คำก็โรคจิตสองคำก็โรคจิต ฉันเหมือนนักหรือไง”
“ถ้าไม่ใช่ก็โอเค” ลิงเปี๊ยกยื่นมือมารับเงินไปจากผมก่อนยัดใส่กระเป๋ากางเกง
“ยืมชื่อคิดห้าร้อย เสนอหน้าพันนึง มีบทพูดพันห้า ต้องทำตาหวานใส่ลุงด้วยครั้งละสองพัน”
“อะไรนะเจ้าลิงเปี๊ยกนี่มันปล้นกันชัดๆ ”
“ปล้นที่ไหน ผมหยวนๆ ให้ก็ได้ ถ้าลุงทำตาหวานใส่ผมเหมือนเมื่อกี้ผมจะยอมทน ไม่คิดตังค์เพิ่มสักบาท”
“เด็กงก” ลิงเปี๊ยกทั้งฉลาดทั้งแสบกว่าที่ผมคิด ตกลงที่นั่งซื่อๆ ที่โต๊ะอาหารเมื่อครู่คือเก็บข้อมูลใช่ไหม ดันเห็นอีกว่าผมทำ
ตาหวานใส่
“แต่จ้างผมคุ้มค่านะลุง ไม่ใช่แค่ป้าสิกับป้าแอนคนสวยก็ได้นะ หรือกับสาวคนไหนก็ได้ผมรับงานทั่วราชอาณาจักร”
“เปี๊ยก นายอยู่วัดจริงหรือเปล่า” ผมเริ่มข้องใจ อยู่วัดต้องอย่างนิวไม่ใช่หรือ เป็นเด็กเรียบร้อยอ่อนโยน ธรรมมะธรรมโม
มีเมตตาจิต แต่เจ้าลิงเปี๊ยกนี่เหมือนหลุดมาจากแก๊งค์มาเฟียไถเอาไถเอา
“อยู่จริงสิลุง ผมถึงไม่เอาเปรียบลุงไง ไม่อย่างนั้นชาร์ตแหลกค่าหลอกใช้งานโดยไม่บอกล่วงหน้า ทำงานเกินเวลาต้องค้าง
ตั้งหนึ่งคืน” ลิงเปี๊ยกร่ายยาวทำเอาผมหัวหด นึกว่าตัวเองแผนสูงดันโดนเด็กจับได้เสียนี่
“ถามจริงมารู้เอาตอนไหน”
“เมื่อคืนไม่รู้ มารู้เอาตอนลุงยิ้มหวานให้นั่นแหละ บรื้อขนลุก” ลิงเปี๊ยกทำท่าขนลุกขนพองทำเอาความมั่นใจในเสน่ห์ของ
ผมหายไปเกือบครึ่ง
“น้อยๆ หน่อยเรา มีแต่คนอยากให้ฉันยิ้มให้”
“ลุงก็ไปยิ้มให้เขาสิไม่ต้องมายิ้มให้ผมจะได้ไม่ต้องเสียเงินด้วย ยิ้มให้น้องอะไรนะ อ้อ! น้องพลอยก็ได้นะลุง ดูท่าน่าจะชอบ
ลุงยิ้ม มาหาถึงบ้านเลย” ลิงเปี๊ยกส่งยิ้มกว้างให้ผม ดูรอยยิ้มของลิงเปี๊ยกแล้วผมเริ่มคิดหนัก ผมไม่ได้ถูกเด็กขู่อยู่ใช่ไหม
“เหมาจ่ายได้ไหมหรือเป็นรายเดือนก็ได้”
“อืม อันนี้ต้องคิดนานแฮะ ลุงเอาเบอร์โทรมาผมกลับไปคิดก่อน ตอบตอนนี้เดี๋ยวเสียเปรียบลุง”
“ให้ฉันทายจบมอหกแล้วนายคิดจะเรียนบัญชีใช่ไหม เด็กอะไรงกชะมัด”
“ใครบอก ผมจะเรียนนิติศาสตร์ต่างหาก แต่ถึงผมยังไม่เรียนผมก็รู้นะว่าอายุ 17 ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ลุงสบายใจได้
ผมไม่บอกใครหรอก” ผมชักเริ่มปวดหัว ไม่แน่ใจว่าตนเองคิดถูกหรือคิดผิด เหมือนกำลังโดนเด็กหลอกอยู่ชอบกล
“ลุง”
“อะไร”
“อะ ผมทอนให้ห้าร้อยค่าเล่นเกมเมื่อคืน”
“นายนี่มัน”
“บอกแล้ว ผมอยู่วัดจิตใจดีไม่เอาเปรียบลุงหรอกน่า”
“ขอบใจ” ผมรับเงินจากเด็กเปี๊ยกมายัดใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ ไม่ได้อยากได้คืนหรอกแต่อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป
“ว่าแต่เผมยังไม่อิ่มเลยรีบลุกเพราะลุงเรียก เราแวะทานข้าวกันก่อนได้ไหมลุง เอาตังค์ห้ารอยเมื่อกี้จ่ายก็ได้”
“หึหึ...ฮ่าๆๆๆ เปี๊ยกเอ๊ย” ผมยกมือขึ้นยีหัวเจ้าเด็กแสบ ชอบใจในความฉลาดหัวไวและทันคนของลิงเปี๊ยก
“เบอร์โทรฉัน xxx-xxx-xxxx บันทึกแล้วกดโทรมาด้วย ฉันจะได้บันทึกเบอร์นายไว้”
“อีกทีสิครับ” ลิงเปี๊ยกหยิบโทรศัพท์ออกมากดเบอร์ตามที่ผมบอก
“แล้วฉันจะโทรไปหา”
“ยินดีรับใช้ครับผม”
ท่าตะเบะของลิงเปี๊ยกทำเอาผมขำ ก็น่าสนุกดีคิดเสียว่าได้น้องชายเพิ่มอีกคนแถมยังได้ผลประโยชน์ร่วมกันอีกด้วย
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ช่วงแรกขอปูพื้นก่อนนะคะ ว่ามาพัวพันกันได้อย่างไร
เรื่องนี้ออกแนวแสบๆ แต่ไม่ทิ้งความละมุนละไมแน่นอนค่ะ แต่จะเป็นแบบไหนต้องรอกันต่อไป ^^
Darin ♥ FANPAGE